เรื่องเด่น เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันอังคารที่ ๘ เมษายน ๒๕๖๘

ในห้อง 'หลวงพ่อเล็ก วัดท่าขนุน' ตั้งกระทู้โดย iamfu, 8 เมษายน 2025.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    21,353
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,709
    ค่าพลัง:
    +26,569
    เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันอังคารที่ ๘ เมษายน ๒๕๖๘


     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  2. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    21,353
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,709
    ค่าพลัง:
    +26,569
    วันนี้ตรงกับวันอังคารที่ ๘ เมษายน พุทธศักราช ๒๕๖๘ กระผม/อาตมภาพเดินทางไปยังวัดราษฎร์ประชุมชนาราม (วัดท่ามะขาม) ตำบลท่ามะขาม อำเภอเมือง จังหวัดกาญจนบุรีด้วยภารกิจ ๒ ประการ

    ประการแรกก็คือไปเป็นประธานยกยอดตำหนักพระยายมราช บริเวณฌาปนสถานวัดราษฎร์ประชุมชนาราม ซึ่งท่านอาจารย์พระมหานันทวัฒน์ เขมธมฺโม ป.ธ.๖ วัดปากน้ำภาษีเจริญ เป็นประธานจัดหาทุนในการสร้างขึ้นมาจนสำเร็จ และอีกงานหนึ่งก็คือร่วมงานวันบูรพาจารย์วัดราษฎร์ประชุมชนาราม

    เมื่อไปถึงก็เจอบรรดาเจ้าอาวาส ซึ่งไปจากวัดท่าขนุนหลายรูปด้วยกัน ที่ท่านพระครูบ่าว - พระครูกาญจนปริยัติคุณ (ชุมพร ปิยธมฺโม ป.ธ. ๓) เจ้าอาวาสวัดราษฎร์ประชุมชนาราม นิมนต์มาร่วมงานด้วยกัน โดยพระอธิการพิทักษ์ ภทฺทจารี เจ้าอาวาสวัดหนองแกใน ได้นำเอาผ้าไตรไทยธรรมมาถวาย รายงานตัวว่าเป็นเจ้าอาวาสอย่างเป็นทางการแล้ว

    กระผม/อาตมภาพได้กำชับไปว่า "ภายใน ๕ ปีนี้ ห้ามทำอะไรอย่างเด็ดขาด" ไม่ทราบเหมือนกันว่าท่านเองจะทำตามที่กระผม/อาตมภาพแนะนำหรือเปล่า ? เนื่องเพราะว่าบรรดาลูกศิษย์หลายคนที่ผ่านมา เวลามีเรื่องก็มาขอคำปรึกษา แต่พอแนะนำไปก็มักจะทำตรงกันข้ามเสมอ ประมาณว่ามาปรึกษาเพื่อหาความชอบธรรมให้กับตนเองเท่านั้น..!

    ก็คือถ้ากระผม/อาตมภาพเห็นด้วย ก็จะได้บอกกล่าวผู้อื่นอย่างเต็มปากเต็มคำว่า "หลวงพ่อเล็กเห็นด้วยว่าทำสิ่งนี้ได้" แต่ถึงกระผม/อาตมภาพบอกว่าไม่เห็นด้วย แต่ถ้าหากว่าท่านตัดสินใจแล้วว่าจะทำ ท่านก็ทำลงไป โดยที่ไม่ได้สนใจในสิ่งที่ครูบาอาจารย์บอก เรื่องเหล่านี้กระผม/อาตมภาพเจอมาบ่อยจนเป็นปกติแล้ว บางทีก็เลยใช้คำว่า "ปรึกษาเพื่อหาความชอบธรรมให้กับตนเองเท่านั้น"

    โดยเฉพาะบรรดาเจ้าอาวาสทั้งหลายซึ่งไม่มีทุนสำรองของวัดอยู่ในมือ ถ้าไม่ใช่ว่ามีเจ้าภาพใหญ่มอบเงินก้อนมาให้เพื่อก่อสร้างสิ่งนั้น บูรณะสิ่งนี้ ก็อย่าได้ไปแตะต้องงานนั้นเลย เนื่องเพราะว่าในช่วง ๕ ปีนี้ มีโอกาสเงินขาดมือได้ตลอดเวลา ถ้าหากว่าท่านทำไปแล้วครึ่ง ๆ กลาง ๆ อยู่ จะก่อให้เกิดความเสียหายมากกว่าที่คิด เพราะว่ากว่าจะหาเงินมาต่อเติมสิ่งก่อสร้างที่ค้างคาอยู่ได้ บางทีไม่ว่าเหล็กหรือปูนก็อาจจะหมดอายุการใช้งานไปแล้ว ถึงทำขึ้นมาแล้ว ภายนอกไม่ปรากฏอะไรให้เห็น แต่ความเสียหายก็จะปรากฏขึ้นในระยะเวลาอันรวดเร็ว..!

    แต่กระผม/อาตมภาพก็ถือว่า
    ในเมื่อเป็นครูบาอาจารย์ มีอะไรที่สมควรก็บอกกล่าวไปตามหน้าที่ ส่วนท่านทั้งหลายจะนำไปปฏิบัติตามหรือว่าจะแหกคอกไปทำอย่างอื่นก็แล้วแต่ท่านเถิด
     
  3. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    21,353
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,709
    ค่าพลัง:
    +26,569
    จากนั้นกระผม/อาตมภาพก็ขอพิจารณาผ้าไตรบังสุกุลก่อนเวลา เนื่องเพราะว่ายังต้องไปร่วมประชุมคณะกรรมการโครงการ "สืบสานงานพ่อ ต่อยอดทุนเล่าเรียนหลวงสำหรับพระสงฆ์ไทย" ที่วัดประยุรวงศาวาส วรวิหาร แขวงวัดกัลยาณ์ เขตธนบุรี กรุงเทพมหานครอีก

    เมื่อพิจารณาผ้าไตร รับไทยธรรมแล้ว ก็บอกลากับทุกคน เดินทางเข้ากรุงเทพฯ โดยแวะฉันข้าวกล่องที่ทางวัดราษฎร์ประชุมชนารามจัดให้ในระหว่างทาง จากนั้นก็เข้าไปสู่วัดประยุรวงศาวาส โชคดีที่ไปถึงก่อนเวลาเกือบชั่วโมง จึงได้มีที่จอดรถให้แบบสบาย ๆ ถ้าไปช้ากว่านั้นอีกสักครึ่งชั่วโมง ก็ไม่แน่ใจแล้วว่าจะเกิดอะไรขึ้น..!

    เมื่อไปถึงก็ได้กราบสวัสดีทักทายบรรดาพระเถระต่าง ๆ ซึ่งมาร่วมประชุมกันเป็นจำนวนมาก เนื่องเพราะว่าวันนี้ประธานฝ่ายสงฆ์ก็คือพระเดชพระคุณพระพรหมบัณฑิต, ศ., ดร. (ประยูร ธมฺมจิตฺโต ป.ธ. ๙, Ph.D.) ราชบัณฑิต กรรมการมหาเถรสมาคม ประธานศูนย์เผยแผ่พระพุทธศาสนาแห่งชาติ และประธานคณะกรรมการโครงการ "สืบสานงานพ่อ ต่อยอดทุนเล่าเรียนหลวงสำหรับพระสงฆ์ไทย" ส่วนประธานฝ่ายฆราวาสก็คือท่านจิรายุ อิศรางกูร ณ อยุธยา องคมนตรี

    การประชุมเริ่มขึ้นตอนบ่ายโมงครึ่งตรงตามเวลาทุกประการ หลังจากที่ประธานบอกกล่าว และมีการรับรองรายงานการประชุมแล้วก็เข้าสู่เรื่องเพื่อพิจารณา ก็คือการจัดงานโครงการ "สืบสานงานพ่อ ต่อยอดทุนเล่าเรียนหลวงสำหรับพระสงฆ์ไทย" ซึ่งฝ่ายรับทุนไม่ว่าจะทางมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย และมหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัยก็ดี ฝ่ายนักเทศน์ทุนเล่าเรียนหลวงก็ดี ฝ่ายพระธรรมจาริกทุนเล่าเรียนหลวงก็ดี ฝ่ายนักเรียนบาลีทุนเล่าเรียนหลวงก็ดี ไปจนกระทั่งโครงการหมู่บ้านรักษาศีล ๕ โครงการวัด ประชา รัฐ สร้างสุขด้วยหลัก ๕ ส. โครงการหน่วยอบรมประชาชนประจำตำบลทั่วประเทศ เหล่านี้เป็นต้น ต่างก็ออกมาแสดงให้ทุกคนเห็นว่า ในวันงานนั้นจะมีการจัดการแสดงสิ่งหนึ่งประการใด ที่ทำให้เห็นว่าเมื่อรับเอาทุนเล่าเรียนหลวงไปแล้ว แต่ละฝ่ายมีการประสบความสำเร็จอะไรบ้างที่เป็นรูปธรรม

    กระผม/อาตมภาพเห็นการนำเสนอแล้วก็สะท้อนใจ เนื่องเพราะว่าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งมีพระราชปรารภเกี่ยวกับโครงการสืบสาน ต่อยอด ฯ นี้ก็ดี ทางด้านส่วนราชการและเอกชนที่มาร่วมงานก็ดี หรือแม้กระทั่งทางคณะสงฆ์ก็ตาม เรากำลังจัดสิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติของเราอย่างยิ่ง โดยเฉพาะโครงการสร้างความปรองดองสมานฉันท์ด้วยหลักธรรมทางพระพุทธศาสนา (หมู่บ้านรักษาศีล ๕)
     
  4. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    21,353
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,709
    ค่าพลัง:
    +26,569
    แต่ว่าทางรัฐบาลของเรากลับจะไปจัดสร้างสถานบันเทิงครบวงจร หรือที่ชาวบ้านเรียกสั้น ๆ ว่า คาสิโนเสรี ดังนั้น..จึงร่วมประชุมไปในลักษณะที่เซ็งมาก ประมาณว่าหลายปีที่ผ่านมา ตั้งแต่ดำริของพระเดชพระคุณท่านเจ้าประคุณสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ (ช่วง วรปุญฺโญ ป.ธ. ๙) อดีตผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช อดีตเจ้าอาวาสวัดปากน้ำภาษีเจริญ แล้วคณะสงฆ์ก็ทุ่มเททั้งเรี่ยวแรง ความรู้ความสามารถทุกอย่าง จนกระทั่งสามารถผสานกับทางหน่วยราชการ คือกระทรวงมหาดไทย ในการขับเคลื่อนโครงการหมู่บ้านรักษาศีล ๕ ควบคู่ไปกับโครงการหมู่บ้านยั่งยืน โครงการหมู่บ้านสีขาว โครงการหมู่บ้านแผ่นดินธรรมแผ่นดินทอง

    สิ่งทั้งหลายทั้งปวงที่เราลงทุนลงแรงไป โดยที่ราชการมีงบประมาณสนับสนุนน้อยมากนั้น กำลังเกิดดอกออกผลเป็นที่น่าชื่นใจ แต่แล้วอยู่ ๆ ก็เหมือนกับมีคนเอาน้ำร้อนมาลวกต้นไม้ที่พวกเราทุ่มเทกำลังกาย กำลังใจ กำลังทรัพย์ ดูแลกันมาเป็นอย่างดีนับ ๑๐ ปี ด้วยการเปิดบ่อนคาสิโนเสรี..!

    ใครได้ยินก็รู้สึกว่าสิ่งที่เราทำมาด้วยความเหนื่อยยาก เป็นการ "เขียนด้วยมือ" อยู่ ๆ ก็มีคนมา "ลบด้วยเท้า" โดยที่ไม่ได้สนใจเสียด้วยว่าความต้องการของคนหมู่มากเป็นอย่างไร ? ความมั่นคงของประเทศชาติเป็นอย่างไร ? เอาแต่ความมั่งคั่งเฉพาะตัวและพรรคพวกของตัวเองเท่านั้น การกระทำแบบนี้ ถ้าหากว่ามีพลังมวลชนออกมาคัดค้านก็ไม่น่าจะเป็นเรื่องแปลกอะไรเลย จึงได้แต่หวังว่าท่านทั้งหลายจะรีบเปลี่ยนใจ แล้วก็เปลี่ยนแปลงการกระทำเช่นนี้แต่โดยไว เพื่อที่จะได้มีอำนาจอยู่ต่อไปอีกสักระยะหนึ่ง ไม่เช่นนั้นก็จะสะดุดเท้าตนเองล้มแบบน่าสงสารเป็นอย่างยิ่ง..!

    ในการประชุมครั้งนี้ทำให้เห็นว่าทุกฝ่ายนั้นพร้อมใจที่จะกระทำทุกอย่างถวายเป็นพุทธบูชา ซ้ำยังมองภาพรวมไปยังข้างหน้าอีก ๒ ปีด้วย ก็คือ ปีหน้าพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงเจริญพระชนมายุ ๗๔ พรรษา เราจะมีโครงการอะไรที่สอดคล้องกับโครงการของปีที่แล้ว คือ การแสดงพระธรรมเทศนา ๔ ภาค และโครงการของปีนี้ คือโครงการ "สืบสานงานพ่อ ต่อยอดทุนเล่าเรียนหลวงสำหรับพระสงฆ์ไทย"

    และปีถัดไปยิ่งเป็นปีสำคัญที่สุด นอกจากพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว จะทรงเจริญพระชนมายุ ๗๕ พรรษาแล้ว พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ยังจะมีพระชาตกาลครบ ๑๐๐ พรรษา
     
  5. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    21,353
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,709
    ค่าพลัง:
    +26,569
    การที่บุคคลสำคัญผู้หนึ่ง ซึ่งมีโครงการต่าง ๆ เพื่อความอยู่เย็นเป็นสุขของประชาชนส่วนมาก เป็นบุคคลที่ทำคุณประโยชน์ใหญ่แก่โลก เมื่อถึงวาระครบ ๑๐๐ ปีเกิดตามภาษาชาวบ้าน องค์การยูเนสโก ก็มักจะประกาศยกย่องเป็นบุคคลสำคัญของโลก และคาดว่าพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตรของเรานั้น ต้องได้รับการประกาศยกย่องจากยูเนสโกอย่างแน่นอน

    คณะสงฆ์ของเรา ตลอดจนกระทั่งญาติโยมทั้งหลาย ซึ่งมีสำนักงานองคมนตรีเป็นศูนย์กลาง จะได้ร่วมกันน้อมจิตน้อมใจจัดงานสำคัญถวายต่อพระองค์ท่านให้สมพระเกียรติยศ จึงต้องมองล่วงหน้าเนิ่น ๆ ตั้งแต่บัดนี้

    ทำให้พวกเรามองเห็นอย่างชัดเจนว่า ไม่ว่าจะเป็นบรรดาพระเถระก็ดี บรรดาส่วนราชการและเอกชนก็ตาม มีวิสัยทัศน์ที่ยาวไกลมาก ก็คือมองไปถึงงานข้างหน้า แม้ว่าจะเป็นเพียงแผนระยะกลาง ก็คือมองล่วงหน้าไปเพียง ๒ ปีก็ตาม แต่แผนระยะยาวของพวกเราก็คือ จะทำให้โครงการทั้งหลายเหล่านี้ แสดงออกให้เห็นถึงความสำคัญของสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ ซึ่งอยู่ยั้งยืนยง คุ้มเกศคุ้มเกล้าประชาชนชาวไทยมาเป็นระยะเวลาที่ยาวนาน เป็นสิ่งที่ทำให้เราสามารถพูดได้อย่างเต็มปากเต็มคำว่า "ประเทศไทยไม่เคยเป็นเมืองขึ้นของใคร"

    ในเมื่อเป็นเช่นนั้นแล้ว ก็อยากจะให้รัฐบาลของเรามีวิสัยทัศน์เช่นนี้บ้าง ท่านทั้งหลายถ้าหากว่าทำเพื่อตนเองก็อยู่ได้แค่สิ้นลม แต่ถ้าทำเพื่อสังคม ชื่อเสียงจะอยู่คู่ฟ้าดิน สิ่งนี้พระเดชพระคุณหลวงพ่อเจ้าคุณสะอิ้ง - พระธรรมพุทธิมงคล (สะอิ้ง สิรินนฺโท ป.ธ. ๘) ที่ปรึกษาเจ้าคณะภาค ๑๔ เจ้าอาวาสวัดป่าเลไลยก์ วรวิหาร จังหวัดสุพรรณบุรี ครูบาอาจารย์รูปหนึ่งของกระผม/อาตมภาพเป็นผู้กล่าวเอาไว้ ท่านทั้งหลายอยากจะให้เขากล่าวขวัญถึงในด้านดีไปชั่วกาลนาน หรือว่าจะให้เขาสาปแช่งไปตลอดจนลูกจนหลาน ก็แล้วแต่ท่านจะเลือกเอาเอง

    สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายต่อพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้

    พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
    เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
    วันอังคารที่ ๘ เมษายน พุทธศักราช ๒๕๖๘
    (ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
     
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...