เรื่องเด่น เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันศุกร์ที่ ๒๗ ธันวาคม ๒๕๖๗

ในห้อง 'หลวงพ่อเล็ก วัดท่าขนุน' ตั้งกระทู้โดย iamfu, 27 ธันวาคม 2024 at 18:59.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,893
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,575
    ค่าพลัง:
    +26,418
    เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันศุกร์ที่ ๒๗ ธันวาคม ๒๕๖๗


     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  2. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,893
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,575
    ค่าพลัง:
    +26,418
    วันนี้เป็นวันศุกร์ที่ ๒๗ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๖๗ เมื่อเช้ากระผม/อาตมภาพได้ทดลองทางด่วนพิเศษสายเอ็ม ๘๑ หรือที่เรียกกันง่าย ๆ ว่ามอเตอร์เวย์สายบางใหญ่ - กาญจนบุรี อาจจะเป็นเพราะว่าช่วงเช้ารถยังน้อยอยู่ ใช้ความเร็วประมาณ ๑๐๐ กิโลเมตร/ ชั่วโมง ใช้เวลาประมาณ ๕๓ นาทีก็มาถึงกาญจนบุรีแล้ว ถือว่าเป็นความสะดวกในการเดินทางที่เพิ่มขึ้น

    แต่ว่ามีบางส่วนที่ได้รับผลกระทบ อย่างเช่นว่าวัดสี่แยกเจริญพรของพระครูเทพ (พระครูปฐมสาธุวัฒน์) ที่ตำบลหนองกระทุ่ม อำเภอกำแพงแสน จังหวัดนครปฐม เนื่องเพราะว่าปกติบุคคลที่รู้เส้นทางก็จะหนีรถติดผ่านไปทางนั้น โดยอาศัยวิ่งจากสี่แยกนพวงศ์ ผ่านพื้นที่เขตอำเภอไทรน้อย จังหวัดนนทบุรี มาเข้าเขตอำเภอบางเลน - อำเภอกำแพงแสน จังหวัดนครปฐม แล้วตรงเข้าอำเภอพนมทวน - อำเภอเมือง จังหวัดกาญจนบุรี

    พระครูเทพท่านปรารภว่าทันทีที่เปิดให้ทดสอบวิ่งบนทางด่วน ตั้งแต่ช่วงนครปฐมถึงกาญจนบุรี วัดของท่านที่ปกติแล้วเคยลงทุนปลูกทุ่งดอกไม้ ทุ่งทานตะวัน เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้แวะเข้าไปถ่ายรูป จากที่ลงทุนไปประมาณ ๔๐๐,๐๐๐ บาทต่อครั้ง แล้วพอมีกำไรบ้าง เมื่อเปิดทางด่วนพิเศษสายเอ็ม ๘๑ ช่วงนครปฐม - กาญจนบุรี ช่วงนั้นวัดสี่แยกเจริญพรลงทุนไปแล้ว ได้คืนมาไม่ถึง ๘๐,๐๐๐ บาท เนื่องเพราะว่าส่วนใหญ่แล้วถ้ามีความคล่องตัวทางด้านไหน ผู้คนก็จะแห่กันไปใช้ถนนทางด้านนั้น..!

    เนื่องเพราะว่าบ้านเราไม่มีการจำกัดจำนวนรถยนต์ สาเหตุที่ไม่มีการจำกัดจำนวนรถยนต์ ก็เพราะว่าบริษัทรถยนต์ส่วนใหญ่แล้วเป็นฐานเสียงให้นักการเมือง ถ้าจำกัดให้เขาขายได้น้อย เขาก็จะไม่สนับสนุนพรรคของคุณ ในเมื่อไม่จำกัด จำนวนรถยนต์มีมากกว่าถนน ถ้าประดังออกมาพร้อม ๆ กันอย่างช่วงวันหยุดยาวปีใหม่หรือเทศกาลสงกรานต์เหล่านี้ ก็จะเกิดสภาพรถติดยาวเหยียด อย่างชนิดที่บางคนกว่าจะเดินทางถึงบ้าน ใช้เวลากันข้ามวันข้ามคืน ไม่ว่าจะเป็นสายเหนือหรือว่าสายอีสานก็ตาม

    โดยเฉพาะสายอีสานนั้น ต่อให้มีทางด่วนพิเศษสายใหม่ที่วิ่งยาวข้ามโคราชไปเลย ก็ไม่สามารถที่จะบรรเทาอะไรได้ เนื่องเพราะว่าเป็นเส้นทางที่สร้างโดยไม่ได้คำนึงถึงผู้ใช้ พอขึ้นไปแล้วลงไม่ได้ ใครมีธุระจำเป็นจะเข้าห้องน้ำห้องส้วม จะกินข้าวหรือว่ารถน้ำมันเชื้อเพลิงหมด ก็ไม่รู้จะเหาะลงมาอย่างไร ในเมื่อเป็นเช่นนั้น จึงไม่สามารถจะแก้ปัญหารถติดในยามเทศกาลของทางด้านภาคตะวันออกเฉียงเหนือได้
     
  3. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,893
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,575
    ค่าพลัง:
    +26,418
    ในเมื่อทางด่วนพิเศษสายบางใหญ่ - กาญจนบุรีเปิดเต็มรูปแบบ โดยเฉพาะช่วงเทศกาลปีใหม่ ซึ่งวัดวาต่าง ๆ ก็หวังให้ญาติโยมเข้าวัดทำบุญกัน วัดที่ได้รับผลกระทบเต็ม ๆ ก็คือวัดที่อยู่ในเส้นทาง ตั้งแต่สี่แยกนพวงศ์จนถึงกาญจนบุรี เนื่องเพราะว่าช่วงนี้ทางด่วนพิเศษเขาให้ใช้พรี

    ในส่วนของการเก็บเงินแม้ว่าจะค่อนข้างแพง ก็คือระยะทางประมาณ ๙๓ กิโลเมตร ได้ยินว่าค่าทางด่วนต้นยันปลาย ๑๕๐ บาท ช่วยให้ประหยัดเวลาไปได้ประมาณ ๓๐ นาทีเท่านั้น ก็แปลว่าถ้าเราซื้อเวลา ๓๐ นาทีด้วยเงิน ๑๕๐ บาท ถ้าไม่ใช่คนที่รีบร้อนจริง ๆ ก็คงไม่มีใครที่จะทำอย่างนั้น จึงต้องมาดูกันอีกทีหนึ่งว่า หลังจากที่เริ่มเก็บสตางค์แล้ว ยังจะมีใครใช้ทางด่วนสายนี้เหมือนอย่างตอนช่วงเปิดให้ใช้ฟรีหรือเปล่า ?

    เพราะว่าเมื่อเช้า ช่วงที่วิ่งมาก็ยังเห็นความไม่เรียบร้อยของเส้นทางมากต่อมากด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นคันขอบ หรือว่ารั้วรอบขอบชิด ตลอดจนกระทั่งด่านเก็บเงินต่าง ๆ ซึ่งยังสร้างไม่เสร็จเรียบร้อย ต้องรอให้เร่งมือทำกัน ถ้าหากว่าเสร็จทันสงกรานต์ก็น่าจะเป็นการทดสอบเต็มรูปแบบเสียที

    คราวนี้ในเรื่องของการเดินทางที่สะดวกสบาย ส่วนที่ต้องระวังมีหลายอย่าง หนักที่สุดก็คืออุบัติเหตุ ซึ่งบ้านเรามียอดคนตายด้วยอุบัติเหตุสูงสุดเกือบทุกปี จนกระทั่งสมัยที่พระเดชพระคุณหลวงปู่เจ้าคุณสำราญ - พระมงคลไชยสิทธิ์ (สำราญ กาญจนาโภ ป.ธ. ๔) อดีตเจ้าอาวาสวัดปากคลองมะขามเฒ่า ท่านปรารภว่า "ถึงเวลาเขาก็มา "เก็บคน" ไปด้วยวิธีการต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นโรคภัยไข้เจ็บ เป็นความอดอยาก เป็นอุบัติเหตุ เพียงแต่ว่าสมัยนี้การ "เก็บคน" ด้วยวิธีอุบัติเหตุ เป็นวิธีที่สะดวกที่สุด..!"

    เมื่อเช้าที่กระผม/อาตมภาพเดินทางมา ก็ยังเห็นวัยรุ่นขี่รถมอเตอร์ไซค์ ลงไปนอนวัดความกว้างยาวอยู่กับพื้น มีพรรคพวก ๗ - ๘ คันจอดลงไปดู คาดว่าจะมาด้วยกันแล้วขับรถด้วยความคึกคะนอง โดยที่ลืมไปว่ารถมอเตอร์ไซค์นั้น แค่เกี่ยวกันเล็กน้อยก็ล้มแล้ว บางท่านก็เห็นตัวอย่างที่เขาถ่ายคลิปมา ก็คือโกรธรถเก๋ง แล้วก็ขับรถมอเตอร์ไซค์ไปไล่ถีบรถเก๋ง โดยที่ลืมไปว่ารถตัวเองนั้นคันเล็ก เมื่อไปถีบรถใหญ่ แรงส่งก็ผลักตัวเองล้มคว่ำลงไปแทน จนกลายเป็นมีแต่คนสมน้ำหน้ากัน..!
     
  4. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,893
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,575
    ค่าพลัง:
    +26,418
    ประการที่ ๒ ก็คือเมื่อการเดินทางรวดเร็ว โรคภัยไข้เจ็บก็ไปถึงเร็วด้วย สมัยโบราณโรคระบาดกว่าที่จะข้ามประเทศได้ ก็กินเวลาเป็นเดือนเป็นปี เพราะว่าวิธีไปที่สะดวกที่สุดก็คือไปกับเรือ บุคคลที่ติดเชื้อ พอขึ้นเรือไปกว่าที่จะไปแพร่เชื้อให้ได้ที่ท่าเรือต่อไป บางทีก็หลายเดือน สมัยนี้นั่งเครื่องบินวันเดียวไปได้ครึ่งโลก เชื้อโรคก็เลยพลอยเดินทางสะดวกไปด้วย..!

    โดยเฉพาะเชื้อไวรัสที่ได้ข่าวว่าหลุดออกมาจากห้องแล็บของประเทศออสเตรเลีย เชื้อตัวนี้จัดอยู่ในกลุ่มไข้หวัด แต่ว่าร้ายแรงกว่าไข้หวัด ไม่ว่าจะเป็นในกลุ่ม A หรือว่ากลุ่ม B ผู้ที่มีประสบการณ์เพราะว่าติดเชื้อมาทุกชนิด เนื่องจากว่าอยู่โรงพยาบาลเด็ก ให้ความเห็นว่า เจ้าเชื้อตัวนี้ถ้าใครติดเข้า ไอจนอยากจะถอดปอดออกมาล้าง..! พูดง่าย ๆ ว่าหายยาก ดื้อยา รักษาตัวนาน แล้วมีอาการคล้าย Long COVID ด้วย จึงเป็นเรื่องที่เราท่านทั้งหลายต้องระมัดระวังกันต่อไป

    เนื่องเพราะว่าถ้าคนเรามีเศษกรรมปาณาติบาต เคยฆ่าคนฆ่าสัตว์ไว้ในอดีต ชาตินี้ "เศษกรรม" นั้นตามมาสนอง ให้เจ็บไข้ได้ป่วยบ้าง รับอุบัติเหตุบ้าง หนักเบาตามกรรมที่ตนเองได้ทำมา ขอยืนยันว่าส่วนที่เรารับนั้นเป็นแค่ "เศษกรรม" เท่านั้น ลักษณะเหมือนเขาเก็บดอกเบี้ย ส่วนเงินต้นนั้น ส่วนใหญ่เราชดใช้ในขุมนรกมาเรียบร้อยแล้ว ซ้ำยังเจอดอกเบี้ยทบต้นในเขตของเปรต ของอสุรกาย ของสัตว์เดรัจฉานมาอีกต่างหาก เหลือแค่เศษ ๆ ของกรรมเท่านั้น ยังทำให้แต่ละคนป่วยกัน "หัวไม่วางหางไม่เว้น"..!
     
  5. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,893
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,575
    ค่าพลัง:
    +26,418
    มีบุคคลหนึ่งซึ่งไม่น่าจะยกขึ้นเป็นตัวอย่าง แต่ว่าชัดเจนที่สุดก็คือ สมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงวชิรญาณสังวร วัดบวรนิเวศ ราชวรวิหาร อดีตสมเด็จพระสังฆราชองค์ที่ ๑๙ แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ ก่อนหน้านี้ก็คือสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ซึ่งเป็นสมเด็จพระสังฆราชที่ดำรงตำแหน่งนานที่สุดของประเทศไทย

    พระองค์ผนวชตั้งแต่ยังเป็นเด็ก ก็คือบวชที่วัดเหนือ - วัดเทวสังฆาราม (พระอารามหลวง) ของจังหวัดกาญจนบุรีนี่เอง แล้วก็ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบอยู่ในผ้าเหลืองตลอดระยะเวลาอันยาวนาน เพราะว่าเป็นสมเด็จพระสังฆราชรูปแรกที่มีพระชนมายุยืนถึง ๑๐๐ พรรษา แต่ช่วงท้ายของชีวิต เราท่านก็จะเห็นว่าพระองค์ท่านป่วย อยู่ในลักษณะติดเตียง ทนทุกข์ทรมานอยู่หลายปี กว่าที่จะสิ้นพระชนม์..!

    ถ้าหากว่าพระองค์ท่านไม่ได้ผนวชตั้งแต่เล็ก ไม่ได้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบถึงระดับเป็นอภิญญาลาภีบุคคล ถ้าดำรงชีวิตฆราวาส คาดว่าอาจจะเกิดอุบัติเหตุ เสียชีวิตตั้งแต่ยังหนุ่ม แต่ด้วยความที่ว่าพระองค์ท่านปฏิบัติธรรมมาทั้งชีวิต จนไม่มีใครสงสัยในความบริสุทธิ์ของพระองค์ท่านเลย วาระสุดท้ายของชีวิต พระองค์ท่านยังต้องชดใช้เศษกรรมหนักจนขนาดนั้น..!

    เราท่านทั้งหลายจึงพึงตระหนักเอาไว้ว่า ในเรื่องของกรรมนั้น อย่าไปประมาทว่าเล็กน้อยแล้วทำชั่ว ในขณะเดียวกัน ก็อย่าไปประมาทว่าเล็กน้อยแล้วไม่ทำความดีนั้น เพราะว่าเรื่องของกรรม ตราบใดที่ยังไม่เป็นอโหสิกรรรม ไม่ช้าก็เร็วจะสนองกับเราอย่างแน่นอน

    สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้

    พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
    เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
    วันศุกร์ที่ ๒๗ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๖๗
    (ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
     
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...