เล่นผีเหรียญที่ร.ร

ในห้อง 'เรื่องผี' ตั้งกระทู้โดย vacharaphol, 26 พฤศจิกายน 2005.

  1. vacharaphol

    vacharaphol เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    8,849
    ค่าพลัง:
    +27,174
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=450><TBODY><TR><TD align=middle width=450 bgColor=#cccccc>เล่นผีเหรียญที่ร.ร.
    <TR><TD width=450 bgColor=#000000>วันนี้เป็นวันที่พวกเราอยากลองเล่นผีเหรียญกัน ทีแรกกะว่าจะเล่นผีถ้วยแก้วแต่มันน่ากลัวเกินไปจึงลองเล่นผีเหรียญกันก่อน พวกเรามีประมาณ5คนนั่งล้อมวงกันเล่นแต่ละไม่มีใครใส่พระหรือของบูชาเลยจะเก็บไว้ในกระเป๋ากันบนห้องเรียน โรงเรียนที่พวกเราเรียนอยู่นี้ มีประวัติมาก่อนคือสมัยก่อนนี้ที่โรงเรียนนี้มีการลอยกระทงกันจะมีสระน้ำกลางโรงเรียน และวันนั้นเป็นวันเสาร์ที่ร.ร.หยุดเพื่อนคนหนึ่งที่เรียนอยู่ชั้นเดียวกันไปเล่นน้ำที่นั่นและจมน้ำตาย หาศพก็ไม่เจอจนต้องขอเจ้าที่เจ้าทางศพถึงลอยขึ้น และที่ร.ร.เรียนนี้ทุกปีจะมีงานลอยกระทงจะมีประกวดนางนพมาศและมีผู้หญิงคนหนึ่งมาประกวดไม่ขอเอ่ยชื่อได้ที่หนึ่งทุกปีแต่ปีนี้มีคนที่สวยกว่าเธออยู่มากเหมือนกันแต่เธอก็ไม่ท้อไปก่อน แต่แล้วพ่อแม่ของเธอจึงพูดก่อนที่จะไปประกวดว่า"ถ้าไม่ได้ที่มงกุฏกลับมาไม่ต้องกลับมาที่บ้านให้แม่กับพ่อเห็นหน้าอีก"และแล้วเธอก็ได้ที่สองทำให้พ่อแม่ไล่เธออกจากบ้าน เธอจึงมาผูกคอตายที่ห้องน้ำที่โรงเรียนจึงสั่งให้นำแผ่นหลังคาที่ใสมาวางไว้บนที่ที่ เธอตาย นั่นแหละคือจุดเริ่มต้นของพวกเราคือห้องน้ำที่นั่นจะมีโถส้วมที่มีฝาปิดเราจึงนำแผ่นกระดาษที่เราทำไว้มาเล่นโดยนำเหรียญบาทมาวางไว้และพูดขอเชิญวิญญาณนางนพมาศที่ผูกคอตายในห้องแห่งนี้มาอยู่ในเหรียญนั้ด้วยเถิด ถ้ามาแล้วโปรดแสดงตัวด้วย และแล้วเหรียญของขยับเองโดยไม่มีใครขยับและหมุนประมาณ3รอบ และเลื่อนไปที่คำว่า"อันตราย"ทำให้เราระวังตัวเพราะนี้คือเพื่อนเราคนหนึ่งมาตามเราจึงหลบได้ และออกมาขอบคุณเขา และก็เริ่มกันต่อเราถามเขาว่าเขามีแฟนหรือยัง เขาตอบว่ามีแต่ไม่บอกชื่อ เราจึงถามว่ามีลูกไหมเขาบอกว่าลูกเขาจมน้ำตายไปแล้วเราจึงเชิญเขาออกเพราะกลัวว่าจะมีเรื่องเกิดขึ้นเขาไม่ยอมออกทำไงล่ะเพื่อนเราคนนี้กลัวมากเลยโยนเหรียญลงไปในคอห่านเท่านั้นและคืนนั้นเขาก็ฝันเห็นนางนพมาศใส่ชุดไทยสีเขียวนั่งร้องไห้ บอกว่าเอาเขาออกจากที่นี่ทีช่วยเขาด้วยๆๆๆๆๆๆ และเช้าวันนั้นเพื่อเราคนนั้นก็บีบคอตัวเองไม่ทราบว่าเป็นอะไรแต่ร้องไห้ด้วยไอเขาบอกว่าหายใจไม่ออก อีกคนก็ท้องอืดแต่เราไม่รู้ว่ามันเป็นอาการท้องอืดเราก็นึกว่าเป็นเพราะเราไปทำเขาจึงทำให้เพื่อนคนนี้ท้องโต ส่วนคนที่บีบคอตัวเอง ผ. อ. ก็มาดูแต่เขาไม่เชื่อว่าเป็นเรื่องจริงเขาจึงลองเอาพระมาแขวนคอเพื่อนคนนั้นและเอาพิมเสนทาใส่ไม้เรียวและตีเบาๆก็ไม่หาวยจนครูที่เรารักคนหนึ่งไปจุดธูปของคฌาเขาจนเพื่อนคนนั้นหายบีบคอตัวเองและบอกเรื่อที่ฝันให้ครูฟังเขาจึงบอกว่า บอกแล้วไม่เชื่ออย่าไปลบหลู่หรือเล่นอะไรที่ผิดที่ผิดทางโรงเรียนนี้มีประวัติอีกมากไว้โอกาสหน้าจะมาเล่าให้ฟังใหม่นะค่ะ โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่านด้วย แต่อย่าไปลบหลู่เขานะค่ะขอบอกๆ</TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=450><TBODY><TR><TD align=middle width=450 bgColor=#cccccc>วิญญาณที่ไม่ได้นอนหลับ
    <TR><TD width=450 bgColor=#000000>เรื่องนี้เป็นเรื่องจรืง ที่เกิดกับครอบครัวของผมเอง ไม่แน่ใจว่าน่าขนหัวลุกหรือไม่ เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อวันวานนี้เองครับ เรื่องมีอยู่ว่า ในวันทำกงเต็กของอากง (ปู่) ในภาษาจีน ได้ทำการเผากงเต็ก ซึ่งก็ประกอบด้วยเงินทอง ข้าวของ ต่างๆ จำนวนมากไปให้กับผู้ที่เสียชีวิต เช่น บ้าน เรือน แอร์ ทอง เงิน รถยนต์ และ อื่นๆ และสิ่งที่ขาดเสียไม่ได้ คือ ที่นอน เพื่อให้ผู้ที่ตายจะได้ไปใช้ในปรโลก คราวนี้ เด็กที่เป็นหลานของผู้ตาย ได้ไปลองนั่งดูที่เตียงจำลองทำให้เตียงชำรุด หัก แต่บรรดาญาติๆ ก็ไม่ได้คิดอะไร ก็เลยเผาไปให้ทั้งที่หักๆ ทั้งที่มีญาติพี่น้อง พยายามทักท้วง และบอกว่า น่าจะเผาอันใหม่ไปให้ ปรากฏว่าไม่มีญาติคนไหนสนใจ และ เผาไปให้ คราวนี้ เวลา ผ่านมาประมาณ 2 เดือนไม่รู้ว่า วิญญาณ ผู้ตาย จะเฮี้ยน หรือ อย่างไรไม่ทราบ เตียงนอนเดิม ทื่เคยนอนอยู่ในห้อง ก็เกิดไฟไหม้ รวมทั้ง ผ้าม่าน และ เครื่องเฟอร์นิเจอร์ ที่ผู้ตายเคยใช้ในห้อง ก็เกิดการลุกไหม้ ขึ้นมา (ประมาณเที่ยงคืน) โดยไม่ทราบสาเหตุ แต่ที่แน่ๆ ไหม้ไปหมดเลย สิ่งที่ญาติๆ ลืมเผาไปให้ในวันกงเต็ก ก็เป็นอนุสรณ์ให้กับบรรดาญาติๆ ที่ทำกงเต็กนะครับว่า ควรเผาสิ่งที่จำเป็นๆ ให้ไป อันนี้ เป็นความบังเอิญหรือ ไม่ ผมไม่ทราบ แต่ที่แน่ๆ คือ ตอนนี้ ไม่ค่อยอยากเดินคนเดียวตอนกลางคืนเท่าไหร่ครับ </TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=450><TBODY><TR><TD align=middle width=450 bgColor=#cccccc>วิญญาณที่ต้นชมพู่
    <TR><TD width=450 bgColor=#000000>ไม่รู้ว่าที่ไปประสบพบเจอนี่ใครๆจะเชื่อไหม เรื่องจิตวิญญานนี่ก็เป็นประเภทไม่เชื่อแต่อย่าลบหลู่ แต่ที่มั่นใจอยู่อย่างว่าตัวเองเป็นคนกลัวความมืดเฉยๆแต่ไม่กลัวผี ถ้าเจอจริงๆก็คงแค่ช็อค(มั้ง) ฉะนั้นที่จะเล่านี่จะเชื่อหรือไม่ก็ตามแต่มั่นใจตัวเองว่าเจอผีแน่ๆ เรื่องมันเกิดเมื่อยังเอ๊าะๆ ประมาณ 7-9ขวบ เราก็ไม่ค่อยกลัวผีหรอก (ก็บอกแล้วว่าไม่กลัว)อายุแค่นั้นแม่ก็ให้นอนคนเดียว(ซะเมื่อไหร่)ปกติพ่อนอนด้วย แต่วันนั้นพ่อไปธุระเลยนอนคนเดียวก่อนนอนก็อยากดูหนังผีเรื่องผีกระสือเพระไม่รู้สึกกลัวอะไร แต่ก็เด็กง่ะก็ต้องนอนหัวค่ำเดะ ไม่ได้กลัวหรอก นอนคนเดียว บ่อยอยู่แล้ว(เพราะพ่อทำงานที่ต้องออกต่างจังหวัดบ่อย)หลับไปเรื่อยๆ แต่ประหลาดมากที่จู่ๆตื่นมากลางดึกมืดตื๋อเลย แต่ทีวีกลับเปิดอยู่เป็นเรื่องผีกระสือที่อยากดูน่ะสิ แต่ตอนนี้ไม่อยากดูแล้วเริ่มกลัว เพราะปกติแม่ไม่ค่อยเปิดทีวีทิ้งไว้ เลยไปปิดแล้วนอนต่อ แต่ไอ้ตอนจะล้มตัวนอนนี่เดะ มันเห็นแสงแว่บๆข้างหน้าต่างห้องนอนง่ะ ก็แปลกใจก็เลยดู เห็นว่ามันสวยดี แต่ดูไปๆมันชักทะแม่ง ก็มันรวมเป็นหน้าคนเละๆ ช็อตคุ้นๆเหมือนหนังสยองขวัญเลย ก็เลยไม่มั่นใจว่าตาฟาดหรือเปล่าขยี้ตา หลับตาแล้วลืมใหม่มันก็ไม่ยักหาย จากที่ใจกล้าก็แป้วเลย คราวนี้คลุมโปงนอนสวดนโม (ท่องเป็นอยู่บทเดียวก็เด็กนี่น่า ตอนนั้น)สวดในโปงจนเหงื่อแตกซิก ทำใจกล้าโผล่มาดูมันก็ยังไม่หายไป นี่ยังดีนะไม่สยองขนาดเข้ามา แค่เห็นหน้าเละๆดำๆกับแสงแว่บๆที่ตอนแรกคิดว่าสวยดีนั่นก็หัวใจจะวายแล้วอาศัยว่าเป็นคนใจแข็งก็สวดนโมไป(ในโปง)โผล่ไปดูหน้าคุณผี เป็นระยะสงสัยคาถาไม่แรงคุณท่านก็ยังหน้าด้านอยู่ตรงหน้าต่างนั่นอยู่ได้ กลัวจะตายอยู่แล้ว สวดไปสลับดูไปจนใกล้เช้าคุณผีก็จากไปพร้อมแสงวิบสวยงามแต่สยองชะมัดนั่น เราถึงค่อยโล่งอก หลับไป(ก็ตอนท่านอยู่กล้านอนหลับที่ไหนล่ะ ฉวยเผลอแล้วท่านมาหักคอ ก็มิแย่หรือ)หลับไปได้นิดหนึ่งแม่ก็มาปลุกให้ไปโรงเรียน แต่วันนั้นไม่ได้ไปหรอก จะอะไรซะอีกไข้ขึ้นเลย แต่แม่ไม่สงสัยอะไรเพราะเป็นคนติดหวัดชาวบ้านง่ายเลยจะป่วยบ่อยอยู่แล้ว แล้วเรื่องบอกแม่น่ะแม่ก็หัวเราะหาว่าเพ้อเจ้อ ดูหนังผีมากไป โธ่ก็บอกแล้วไม่กลัวผีแล้วที่เห็นจะเพ้อเจ้อได้ไง ดูหนังผีก็บ่อยไม่กลัวซักกะทีอย่างมากก็แกล้งทำตกใจตามชาวบ้านบ้างเดี๋ยวเขาจะว่าเราแปลกที่เราไม่กลัว ก็ตอนดูหนังแม่นาคเอื้อมมือไปหยิบลูกมะนาวพี่เรากรี๊ดบ้านแทบแตกเรายังตามไปหลอกพี่ต่อเลย แล้วที่เห็นก็เช็คว่ามันไม่ตาฝาดแล้ว แต่ยังใจไม่กล้าพอจะยื่นหน้าไปดูใกล้ๆ เรื่องก็จบที่แม่ว่าเราเพ้อเจ้อจนเป็นไข้นั่นแหละ แต่เรามั่นใจมากกกกกกกกกกก ว่าที่เราเห็นน่ะเป็นผี แล้วคุณล่ะเชื่อหรือเปล่า? ปล.ปัจจุบันเราก็ยังไม่กลัวผี แต่ค่อนข้างกลัวความมืดอยู่แต่ไม่มากเท่าตอนเด็ก ปล. อีกที จั่วหัวเรื่องว่าวิญญาณต้นชมพู่น่ะเพราะพอเราหายดีก็ไปสำรวจบริเวณหน้าต่างแล้ว มันเป็นช่วงบันไดนอกตัวบ้านที่ค่อนข้างสูงใครจะปีนมายื่นหน้าหลอกเป็นชั่วโมงๆก็ต้องเป็นคนสูงมากแล้วราวบ้นไดทางที่ติดกับหน้าต่างก็ไม่น่าจะแข็งแรงรับน้ำหนักคนตัวสูงๆมากได้ถ้าเด็กล่ะพอลุ้นแต่เด็กก็ยื่นคอไม่ถึงหน้าต่างอยู่ดี ถัดจากบันไดมีต้นไม้ยืนต้นมากมายแต่ต้นชมพู่ต้นใหญ่ของบ้านเราอยู่ใกล้บริเวณหน้าต่างมากที่สุด ผีก็น่าจะมาจากต้นนั้นแหละ(ผีต้นอื่นๆคงไม่ถ่อสังขารมาหลอกไกลหรอก คิดเอาเอง) แล้วท่านมารยาทดีพอสมควร เพราะแม่ให้เราไปตักบาตรอุทิศส่วนกุศลท่านก็ไม่มาให้เห็นอีก(ขนาดแม่ว่าไม่เชื่อนะเนี่ยะ) </TD></TR></TBODY></TABLE>
     

แชร์หน้านี้

Loading...