> เกร็ดตำนาน สมภารศพไม่เน่า เผาไม่ไหม้ ศรีสะเกษ

"พระศพไม่เน่าแม้เผาก็ไม่ไหม้"


ฮือฮาอีก ศพสมภารไม่เน่าเมืองศรีสะเกษแม้เผาก็ยังไม่ไหม้ แถมช่วงทำพิธีก็มีฟ้ามืดครึ้มคล้ายฝนจะตกอีกต่างหาก ขณะที่อดีตเจ้าอาวาสอีกรูปที่ทำพิธีเผาพร้อมๆ กันไหม้ไม่มีเหลืออย่างง่ายดาย จนคณะสงฆ์ต้องทำพิธีขอขมาจึงไหม้เป็นปกติ อีกทั้งระหว่างเก็บอัฐินั้นก็มีบรรดาชาวบ้านฮือเข้าไปยื้อแย่งเอากระดูกอดีตพระเกจิด
ังจนชุลมุน จนเหลือเก็บใส่โกศไม่กี่ชิ้น

จากกรณีกรรมการวัดบ้านนาดีร่วมกับชาวบ้านได้ขุดเอาศพของพระอธิการบุญโสม ขันติโก อดีตเจ้าอาวาสวัดบ้านนาดี ซึ่งมรณภาพไปเมื่อปี 2540 ขึ้นมาจากใต้ฐานเจดีย์แล้ว ปรากฏว่าสภาศพไม่เน่าเปื่อย จนบรรดาญาติพี่น้องของพระอธิการบุญโสมไม่ต้องการให้เผาและต้องการเก็บใส่โลงแก้วตั้ง
ไว้บนศาลาการเปรียญ เพื่อให้ประชาชนได้มาเคารพกราบไหว้ โดยว่าเป็นสั่งเสียของพระอธิการบุญโสมก่อนตาย ขณะที่กรรมการวัดต้องการให้เผาศพเพื่อให้เป็นไปตามประเพณี โดยมีการจัดงานศพอย่างยิ่งใหญ่ นิมนต์พระสงฆ์จาก 151 วัดมาร่วมงาน และมีการนำเอาศพมาตั้งไว้บนเมรุชั่วคราวคู่กับศพของพระอาจารย์สมเดช สุมโน อดีตเจ้าอาวาสวัดบ้านนาดีอีกรูป และจะต้องทำพิธีเผาพร้อมกัน สำหรับพระอธิการบุญโสม เป็นเกจิอาจารย์ที่มีชื่อเสียงโด่งดังทางด้านการทำบั้งไฟ คงกระพันชาตรี และโดนฟ้าผ่าขณะที่ไปแข่งขันบั้งไฟที่บ้านหนองแวง ต.ละทาย อ.กันทรารมย์ จ.ศรีสะเกษ แต่แคล้วคลาดมาได้ ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ความคืบหน้าเกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 17 เม.ย. ที่วัดบ้านนาดี ต.ผักแพว อ.กันทรารมย์ จ.ศรีสะเกษ พระอธิการแสงทอง ฐิตสาโร เจ้าอาวาสวัดบ้านนาดี เปิดเผยว่า ความขัดแย้งระหว่างกรรมการวัดนาดีและชาวบ้านที่ต้องการเผาศพพระอธิการบุญโสมกับบรรดา
ญาติพี่น้องของพระอธิการบุญโสมที่ไม่ต้องการให้เผาศพนั้น พระราชวรรณเวที เจ้าคณะจังหวัดศรีสะเกษ และพระครูปภัสสรสังฆกิจ เจ้าคณะอำเภอกันทรารมย์ ได้ประชุมร่วมกับชาวบ้าน และญาติพี่น้องของพระอธิการบุญโสมทุกคนแล้ว โดยเจ้าคณะจังหวัดสรีสะเกษได้แจ้งให้ที่ประชุมทราบว่า การเก็บเอาศพของพระอธิการบุญโสมไว้โดยไม่เผานั้นไม่ถูกต้อง จึงได้สั่งให้เผาศพของพระอธิการบุญโสมตามประเพณี ซึ่งบรรดาญาติพี่น้องและชาวบ้านก็ไม่ได้คัดค้าน และได้เผาศพของพระอธิการบุญโสมและพระอาจารย์สมเดช ในเวลา 00.15 น. วันที่ 16 เม.ย. ที่ผ่านมา แต่ปรากฏว่ามีเหตุการณ์อัศจรรรย์เกิดขึ้น ขณะที่กำลังจะทำการเผาศพได้เกิดมีลมพายุพัดกรรรโชกอย่างรุนแรงและมีฝนทำท่าจะตกแต่ว่
าไม่ตก ทั้งนี้มีการจุดพลุและมีการจุดบั้งไฟตะไลนับร้อยลูก มีชาวศรีสะเกษมาร่วมในพิธีเผาศพจำนวนประมาณ 15,000 คน จนทำให้บริเวณวัดคับแคบไปอย่างถนัดตา

เจ้าอาวาสวัดบ้านนาดี กล่าวต่อว่า เมื่อทำการเผาศพอดีต 2 เจ้าอาวาสไปนานประมาณ 3 ช.ม. ปรากฏว่าศพของพระอาจารย์สมเดชได้ไหม้จนหมดแล้ว แต่สิ่งที่ทำให้ชาวบ้านพากันตกตะลึงก็คือศพของพระอธิการบุญโสมไม่ไหม้แต่อย่างใด โดยศพมีสภาพดำเกรียม เพราะเปลวไฟ และจีวร อังสะ สบง ที่ห่อหุ้มร่างไว้ก็ไหม้ทั้งหมด แต่ว่ายังคงเป็นรูปร่างของพระอธิการบุญโสมเช่นเดิม ชาวบ้านจึงได้พากันนำเอาไม้ฟืนเพิ่มเข้าไปอีกและเวลาผ่านไปจนถึงเวลา 04.00 น. ศพก็ยังไม่ไหม้อยู่ดี ชาวบ้านจึงพาเชื่อว่าเป็นเพราะอิทธิฤทธิ์และวิชาอาคมของพระอธิการบุญโสม ที่แม้แต่ฟ้าผ่าก็ยังไม่ตายนั่นเอง ต่อมาพระครูเกษม กิจจารี เจ้าอาวาสวัดบ้านโนนแสนสุข อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ซึ่งเป็นพระที่ใกล้ชิดกับพระอธิการบุญโสม ได้นำคณะสงฆ์ชั้นผู้ใหญ่จำนวน 20 รูปมาทำพิธีขอขมาและแก้เคล็ด เนื่องจากว่าฝ่าฝืนคำสั่งของเจ้าตัวที่ไม่ให้เผาศพของท่านนั่นเอง และหลังจากที่ได้ทำพิธีแก้เคล็ดแล้วก็ได้ทำการเผาศพอีกครั้ง ปรากฏว่าศพของพระอธิการบุญโสมก็ได้ไหม้ไปตามธรรมชาติต่อไป

ด้านพระอาจารย์บุญชู สุรสักโก รองเจ้าอาวาสวัดบ้านนาดี พระลูกศิษย์ของพระอธิการบุญโสม กล่าวว่า เมื่อเวลาประมาณ 08.00 น. วันที่ 16 เม.ย. ได้ทำพิธีเก็บอัฐิของพระอธิการบุญโสม ปรากฏว่ามีบรรดาชาวบ้านและชาวศรีสะเกษจากทั้งจังหวัดที่มาร่วมพิธีประมาณ 5,000 คน ได้พากันเข้าไปยื้อแย่งกันเก็บอัฐิของพระอธิการบุญโสมอย่างชุลมุน เพื่อต้องการนำเอาไปเก็บไว้บูชาเป็นวัตถุมงคลป้องกันภยันตรายต่างๆ จนทำให้มีอัฐิเหลืออยู่จำนวนเล็กน้อยเท่านั้น ซึ่งทางวัดได้นำเอาโกศมาเก็บอัฐิบรรจุไว้ที่เจดีย์ใหญ่ข้างวัด เพื่อไว้ให้ประชาชนได้มาทำการสักการบูชา

ทางด้านนางคูณศรี นามโคตร อายุ 37 ปี อยู่บ้านเลขที่ 14/2 ม.9 บ้านนาดี ต.ผักแพว อ.กันทรารมย์ จ.ศรีสะเกษ กล่าวว่า บ้านของตนอยู่ติดกับวัดบ้านนาดีและได้รู้จักกับพระอธิการบุญโสมตั้งแต่ยังเป็นพระลูก
วัด ปกติแล้วท่านจะเป็นพระที่ไม่ค่อยพูด แต่จะเป็นพระนักพัฒนาสอนประชาชนให้รู้ถูกผิดละเว้นจากการทำชั่ว และชอบในการปลูกต้นไม้ดอกไม้เป็นอย่างยิ่ง ช่วงที่พระอธิการบุญโสมเป็นเจ้าอาวาสนั้นวัดจะมีความร่มรื่นมาก

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเหตุการณ์เผาศพอดีตเจ้าอาวาสวัดนาดีทั้ง 2 รูป มีชาวบ้านพากันนำเอาไปตีเป็นเลขเด็ดว่า 12 และ 21 และปรากฏว่าเลข 2 ตัวล่างของงวดวันที่ 16 เม.ย. ที่ผ่านมาหวยออกเป็น 12 ทำให้ชาวบ้านนาดีและชาวบ้านใกล้เคียงที่ไปร่วมพิธีเผาศพพากันถูกหวยรัฐบาลไปตามๆ กัน



http://www.matichon.co.th/khaosod/khaosod