ห่างไกลไข้หวัดใหญ่ก่อนลมหนาวมาเยือน

ในห้อง 'จิตวิทยา & สุขภาพ' ตั้งกระทู้โดย vacharaphol, 1 กันยายน 2009.

  1. vacharaphol

    vacharaphol เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    8,849
    ค่าพลัง:
    +27,174
    ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 องค์การอนามัยโลก กล่าวว่าที่ผ่านมาเป็นเพียงบทเริ่มต้นเท่านั้น เพราะช่วงเดือนต.ค.นี้ มีการแพร่ระบาดหนักกว่าระลอกแรก และอาจจะมีการดื้อยากันอีกด้วย


    ดังนั้นอย่าประมาทการป้องกันและเฝ้าระวังต้องทำอย่างต่อเนื่องกันต่อไป เพราะไข้หวัดใหญ่ 2009 นี้มีการแพร่ระบาดอย่างรวดเร็วและมีความรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิตได้ บริษัท นูสกิน จัดให้ความรู้เรื่องนี้ก่อนลมหนาวจะมาถึง
    รู้จักเพื่อป้องกัน
    [​IMG]ไข้หวัดใหญ่เป็นโรคติดเชื้อระบบทางเดินหายใจ ที่สามารถระบาดได้กว้างขวาง และมีความรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิตได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเด็กเล็ก ผู้สูงอายุ โรคนี้มีชื่อภาษาอังกฤษว่า “Influenza” ซึ่งมีรากศัพท์มาจากภาษาละติน แปลว่า ความชั่วร้ายจากดวงดาว เนื่องเพราะคนสมัยก่อน เชื่อว่าการระบาดของโรคนี้มาจากอิทธิพลของดวงดาวและสิ่งศักดิ์สิทธิ์อื่นๆ นพ.ฮิปโปเครติส บิดาแห่งการแพทย์แผนปัจจุบันได้บันทึกโรคนี้เป็นครั้งแรกในปี 2476 นักวิทยาศาสตร์ได้ค้นพบว่า โรคนี้เกิดจากเชื้อไวรัสชนิดหนึ่ง ซึ่งเป็นคนละชนิดกับไวรัสที่เป็นสาเหตุของการเกิดไข้หวัด
    ไวรัสไข้หวัดใหญ่มีอยู่ 3 ชนิดใหญ่ๆ ได้แก่ เอ บี และซี ชนิดเอและบีมักก่อให้เกิดอาการรุนแรง และอาจพบระบาดได้กว้างขวาง และสามารถกลายพันธุ์ได้ง่าย จึงแตกแขนงเป็นสายพันธุ์ย่อยใหม่ๆ ก่อให้เกิดการระบาดของโรคได้ง่ายและรวดเร็ว ชนิดซี มักเป็นไม่รุนแรง และเกิดการระบาดในวงแคบ ไวรัสไข้หวัดใหญ่ชนิดเอ สามารถพบได้ทั้งในคนและสัตว์ (ส่วนอีกสองชนิดพบเฉพาะในคน)
    สังเกตอาการ
    นพ กฤษดา ศิรามพุช
    แพทย์อายุรวัฒน์ ให้สังเกตอาการที่น่าสนใจไว้ว่า ไข้หวัดใหญ่ 2009 แพร่กระจายอย่างรวดเร็ว ผ่านการไอจามรดกันหรือติดจากมือและสิ่งของที่มีเชื้อปนเปื้อนอยู่ โรคจะเข้าสู่ร่างกายทางจมูก ปาก ดวงตา หากมีการขยี้ตา
    อาการต้องสงสัยว่าติดเชื้อคือมีไข้สูงอย่างรวดเร็ว ปวดเมื่อยตามร่างกาย ไอ จาม มีน้ำมูก บางรายอาจคลื่นไส้อาเจียนและท้องเสียร่วมด้วย โรคจะทวีความรุนแรงถึงขั้นทำให้หัวใจล้มเหลว ปอดบวม หัวใจวาย และเสียชีวิตได้หากไม่รีบทำการรักษา โดยเฉพาะผู้ป่วยที่เป็นโรคเบาหวาน ภูมิแพ้ มะเร็ง โรคอ้วน หรือแม้แต่ผู้ที่สูบบุหรี่หรือดื่มสุรา ต่างมีความเสี่ยงในการติดเชื้อและเสียชีวิตจากโรคไข้หวัดใหญ่มากกว่าผู้ที่สุขภาพแข็งแรงปกติ
    ดังนั้น ระบบภูมิคุ้มกันเป็นปราการที่สำคัญเพื่อการปกป้องสิ่งแปลกปลอมและเชื้อโรค ร่างกายของคนเราได้สร้างระบบภูมิคุ้มกันอันซับซ้อน เพื่อดูแลปกป้องร่างกายไม่ให้ถูกทำอันตรายจากสิ่งแปลกปลอมหรือเชื้อโรคได้โดยง่าย เราอาจสงสัยว่าคนที่ภายนอกดูแข็งแรงไม่มีโรคประจำตัว เกิดติดเชื้อและเสียชีวิตอย่างไม่น่าเป็นไปได้ สิ่งสำคัญที่อยากให้ทุกคนหันกลับมาใส่ใจมากขึ้นคือความแข็งแรงของระบบภูมิคุ้มกัน
    ปัจจัยที่มีผลต่อระบบภูมิคุ้มกันที่อ่อนแอ
    1.การขาดสารอาหารหรือได้รับสารอาหารที่จำเป็นกับร่างกายไม่เพียงพอ
    2.ร่างกายเผชิญกับอนุมูลอิสระ มลภาวะ ควันพิษ ควันบุหรี่ รังสี แสงแดด
    3. ความเครียด พักผ่อนไม่เพียงพอ
    4.อายุที่มากขึ้น
    5.โรคประจำตัว
    6.โรคอ้วน น้ำหนักเกิน
    หากพิจารณาจากปัจจัยสำคัญที่มีผลต่อระบบภูมิคุ้มกัน จะพบว่าหลายปัจจัยเป็นสิ่งที่เราสามารถหลีกเลี่ยงและดูแลสุขภาพเพื่อให้ระบบภูมิคุ้มกันแข็งแรง ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ จากการศึกษาของนักวิทยาศาสตร์หลายสถาบัน พบว่า ระดับสารต้านอนุมูลอิสระในร่างกายสูงนั้นมีความสัมพันธ์กับการเสริมสร้างความแข็งแรงและประสิทธิภาพการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย
    เพิ่มภูมิคุ้มกันให้ร่างกายด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ
    สารอาหารที่ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ มีประโยชน์เนื่องมาจากในขบวนการปฏิกิริยาชีวเคมีที่เกิดขึ้นภายในร่างกายจะมีการขับของเสียที่ร่างกายได้รับ ได้แก่ ควันบุหรี่ แอลกอฮอล์ รังสียูวี เอกซเรย์ ซึ่งสิ่งเหล่านั้นเป็นอนุมูลอิสระที่มีอันตรายต่อเซลล์ในร่างกายที่อาจส่งผลให้เกิดโรคมะเร็ง โรคหัวใจ ภาวะข้อต่ออักเสบ ต้อกระจก และการเสื่อมของอวัยวะต่างๆ อนุมูลอิสระจะทำลายเนื้อเยื่อเซลล์ เปลี่ยนแปลงโครงสร้างของดีเอ็นเอ ด้วยเหตุนี้จึงเป็นการเพิ่มความเสี่ยงของการมีเซลล์มะเร็ง และทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางเคมีที่นำไปสู่ขบวนการเกิดโรคมะเร็ง
    ความสำคัญของสารต้านอนุมูลอิสระ
    การได้รับสารอาหารที่หลากหลายเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับสุขภาพที่ดีและภูมิคุ้มกันที่ดี เช่น แคโรทีนอยด์ เป็นแหล่งกำเนิดของวิตามินเอ ซี อี และแร่ธาตุ เช่น สังกะสี และเซลิเนียม สามารถช่วยทำให้คุณมีสุขภาพที่ดี โดยเฉพาะน้ำนมแม่เต็มไปด้วยสารอาหารที่ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ การเลี้ยงลูกด้วยนมแม่จึงเป็นวิธีหนึ่งที่ช่วยให้ลูกได้รับสารอาหารที่ครบครัน
    จึงแนะนำให้ดูแลสุขภาพด้วยการเสริมสารต้านอนุมูลอิสระและวิตามิน เกลือแร่ รวมทั้งรับประทานผัก ผลไม้ ให้มีความหลากหลายให้ได้วันละ 5 กำมือ พักผ่อนให้เพียงพอ ดื่มน้ำสะอาดอย่างน้อยวันละ 1-1.5 ลิตร หลีกเลี่ยงจากแหล่งอนุมูลอิสระทั้งหลาย เช่น มลภาวะ ควันพิษ ควันบุหรี่ แสงแดด เป็นต้น อย่าลืมออกกำลังกายอย่างเหมาะสมไม่หักโหม เช่น ทุกวัน วันละ 15 นาที หรือครั้งละ 30 นาที สัปดาห์ละ 3 ครั้ง
    [​IMG]ผักผลไม้สดของดีจากก้นครัว
    พยายามมีผักผลไม้เหล่านี้ไว้ในมื้ออาหารของคุณ ช่วยให้สุขภาพดีและผิวพรรณผ่องใส
    - ฟ้าทลายโจร ใบแห้งชงน้ำดื่มแก้หวัด ใบสดเคี้ยวทุกวัน วันละ 4-5 ใบช่วยบำรุงตับ
    - โป๊ยกั๊ก มะรุม หอมแดง ข่า ตะไคร้ ใบมะกรูด หอมใหญ่ ช่วยทำลายไวรัสและเชื้อจุลินทรีย์และช่วยต้านหวัดได้เป็นอย่างดี
    - ส้ม อุดมไปด้วยสารต่อต้านอนุมูลอิสระ ช่วยบำรุงผิวพรรณให้สดใสดูอ่อนวัย
    - มะนาว อุดมด้วยวิตามินซี ที่มีประโยชน์ต่อผิว และยังช่วยทำความสะอาดตับ ซึ่งทำหน้าที่กำจัดของ เสียออกจากร่างกายได้อีกด้วย
    - แครอต ให้คุณค่าเบตาแคโรทีน ซึ่งจะเปลี่ยนเป็นวิตามินเอ อาหารที่จำเป็นสำหรับผิว
    - กีวี ประกอบด้วยวิตามินซี ที่เป็นประโยชน์ต่อการสร้างคอลลาเจน
    - อโวคาโด อุดมไปด้วยวิตามินอีที่ช่วยบำรุงผิว การรับประทานอโวคาโดวันละผล สามารถให้วิตามินอีเพียงพอกับความต้องการของร่างกายในแต่ละวันได้
    - โยเกิร์ต ช่วยในการขับถ่าย ทำให้ผิวพรรณสดใส ไม่หมองคล้ำ
    - เมล็ดถั่วต่างๆ อุดมด้วยโปรตีน ซึ่งเป็นสารอาหารที่จำเป็นสำหรับผิวสวย
    - งา อุดมด้วยวิตามินบี สังกะสี และโพแทสเซียม ช่วยในการเสริมสร้างเซลล์ผิวใหม่ ทำให้ผิวดูสดใสอ่อนวัยอยู่เสมอ
    - ผักโขม และผักสีเขียวเข้ม อุดมด้วยธาตุเหล็ก ช่วยบำรุงผิวพรรณให้เปล่งปลั่งอมชมพูดูมีสุขภาพดี
    - ปลาอุดมไขมัน เช่น ปลาแซลมอน ซึ่งน้ำมันปลาที่ช่วยให้ผิวพรรณเต่งตึง ไม่เหี่ยวย่น
    - ผัก ผลไม้สีม่วง มะเขือม่วง กะหล่ำม่วง มีวิตามินโอพีซี (OPC) ที่เป็นสารที่ต้านความแก่ได้ดีมาก
    - ส้มโอ ช่วยล้างตับ - มะละกอ ช่วยทำความสะอาดลำไส้
    - น้ำช่วยล้างไต
    อาหารทำลายสุขภาพ สร้างสนิมให้แก่ร่างกาย ควรหลีกเลี่ยง

    - มาร์การีน และน้ำตาล เป็นตัวการที่ทำให้ผิวเกิดริ้วรอยมากขึ้น
    - อาหารทอด เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้รูขุมขนเกิดการอุดตัน ซึ่งทำให้เกิดสิว ควรทำอาหารด้วยการลวก นึ่ง ปิ้ง
    - กาเฟอีน เป็นสารที่ดูดซึมวิตามินและแร่ธาตุที่จำเป็นจากร่างกาย และทำให้ร่างกายขาด
    ความชุ่มชื้น
    - เครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ ทำให้ร่างกายเกิดภาวะขาดน้ำ และในกรณีที่แพ้จะทำให้ผิวเป็นผื่นแดงด้วย
    - แป้ง ขนมปัง ขัดขาว สร้างไขมันให้ร่างกายมากเกินไป ความอ้วนทำให้ร่างกายเสื่อมเร็วและดูแก่เร็ว
    ควรกินอาหารเสริมบวกกับอาหารสด อย่ากินอาหารเสริมมากเกินไป โดยกินอาหารสดไม่เพียงพอ ถ้าไม่ระวังป้องกัน สักวันหนึ่งไวรัสที่ร้ายแรง เช่น ไข้หวัดใหญ่อาจกลับมาระบาดรุนแรงอีกครั้ง


     
  2. natspdo

    natspdo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    1,041
    ค่าพลัง:
    +1,505
    อนุโมทนากับข้อมูลที่ท่านได้นำเสนอ เกี่ยวกับการป้องกันไข้หวัด 2009
     

แชร์หน้านี้

Loading...