หลวงปู่ดู่กับหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร

ในห้อง 'พุทธภูมิ - พระโพธิสัตว์' ตั้งกระทู้โดย นโมพุทธายะ๕, 13 พฤษภาคม 2016.

  1. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    22,248
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,109
    ค่าพลัง:
    +70,447
    หลวงปู่บรมครูพระครูธรรมเทพโลกอุดร


    (คัดลอกจากหนังสือ ตามรอยหลวงปู่ใหญ่ พ.ศ.2549 โดยคุณพรหมินทร์ อึ้งสกุลรัตน์)


    หลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ เป็นพระสงฆ์อีกรูปหนึ่งที่เคยพบ หลวงปู่บรมครูพระครูธรรมเทพโลกอุดร

    ดังที่คุณวิรัตน์ โรจนจินดาได้บันทึกไว้ดังนี้

    “เหตุการณ์ครั้งหนึ่งเกิดขึ้นในช่วงที่ข้าพเจ้าเริ่มตระเวณหาครูบาอาจารย์ตามวัดต่าง ๆ ตามคำแนะนำของผู้ปฏิบัตธรรม วันหนึ่งข้าพเจ้าได้เดินทางไปกราบหลวงปู่ดู่ ที่วัดสะแก จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เมื่อไปถึงนั้นเป็นเวลา 4 โมงเย็น ข้าพเจ้าได้ไปถามเด็กวัดว่า กุฏิหลวงปู่ดู่อยู่ทางไหน เด็กคนนั้นก็พาข้าพเจ้าไปจนพบตัวท่าน ขณะท่านกำลังอยู่ที่ศาลาริมน้ำ ข้าพเจ้าเข้าไปกราบเท้าท่าน ท่านก็เมตตาและถามว่ามาจากที่ไหน ข้าพเจ้าก็กราบเรียนถามท่านว่า มาจากกรุงเทพฯ ครับ แล้วท่านก็นั่งหลับตาอยู่นานสองนาน จนข้าพเจ้าคิดไปต่าง ๆ นานาว่าท่านคงไม่สบาย เวลาผ่านไปนานพอสมควร พอท่านลืมตาขึ้นข้าพเจ้าก็รีบถามท่านทันทีว่า หลวงปู่ไม่สบายหรือเปล่า หลานจะไปซื้อยามาถวาย ท่านก็ตอบข้าพเจ้าว่า “ฉันกำลังคุยกับหลวงพ่อเกษมที่ลำปางอยู่ จึงไม่ได้พูดคุยกับเธอ”

    เหตุการณ์ครั้งนั้นข้าพเจ้าแทบไม่อยากเชื่อเลยว่า หลวงปู่ดู่ ท่านอยู่ถึงจังหวัดพระนครศรีอยุธยา จะสามารถส่งกระแสจิตติดต่อกับหลวงพ่อเกษมที่จังหวัดลำปางได้ มันเป็นสิ่งที่ไม่น่าจะเป็นไปได้ จิตใจก็เกิดปรามาสท่าน เพราะขณะนั้นข้าพเจ้ายังไม่แตกฉานในเรื่องธรรมะ ภายหลังต่อมาข้าพเจ้าได้เริ่มปฏิบัติพระกรรมฐาน เริ่มศึกษาหาความรู้เกี่ยวกับพระธรรมคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้าจึงได้เข้าใจอย่างลึกซึ้งว่า ท่านคือพระสุปฏิปันโนรูปหนึ่ง ข้าพเจ้าจึงได้กลับไปที่วัดสะแกอีกครั้งหนึ่ง พร้อมด้วยดอกไม้ ธูป เทียน และเครื่องสักการะ เพื่อขอขมาลาโทษที่ได้เคยล่วงเกินด้วยกาย วาจา หรือใจก็ตาม ท่านก็เมตตาให้โอวาทและอบรมสั่งสอนธรรมะแก่ข้าพเจ้านับแต่นั้นมา

    จากนั้นข้าพเจ้าก็ฝากตัวเป็นลูกศิษย์ของท่าน ท่านได้สอนวิปัสสนากรรมฐานจนข้าพเจ้าพอได้รู้ ได้เห็นบ้างตามสมควร ทำให้ข้าพเจ้าทราบว่า พระสุปฏิปันโนนั้นสภาวะจิต สภาวะธรรมของท่านละเอียดอ่อน สามารถติดต่อถึงกันได้ไม่ว่าจะอยู่ห่างไกลแค่ไหนก็ตาม

    หลังจากนั้นแล้ว ข้าพเจ้าก็ได้คอยรับใช้ท่านอยู่หลายปี ท่านมีเมตตาเล่าเรื่องหลวงปู่ใหญ่ให้ข้าพเจ้าฟังว่า สมัยที่ท่านออกเดินธุดงค์ไปตามป่าเขาลำเนาไพรนั้น วันหนึ่งในฤดูหนาวท่านเดินทางไปถึงดงพญาเย็น แล้วเกิดเป็นไข้มาลาเรียอยู่ท่ามกลางป่าดงดิบ ท่านคิดว่าคงจะไม่รอดชีวิตแน่แล้ว แต่จู่ ๆ ก็มีพระรูปร่างสูงใหญ่องค์หนึ่งเอายาเม็ดกลม ๆ ปั้นเหมือนลูกกลอนมาให้ท่านฉัน 2 เม็ด เมื่อท่านฉันเสร็จแล้ว ปรากฎว่าอาการไข้กลับทุเลาลงอย่างน่าอัศจรรย์ พอท่านหายพระรูปร่างสูงใหญ่องค์นั้นก็จากไป โดยที่ท่านไม่ทราบว่าพระองค์นั้นชื่ออะไร ภายหลังที่ท่านกลับมาอยุธยาได้เล่าเรื่องทั้งหมดให้หลวงพ่อกลั่น วัดพระญาติ อาจารย์ของท่านฟัง หลวงพ่อกลั่นหัวเราะแล้วบอกว่า พระรูปร่างสูงใหญ่องค์นี้ท่านเป็นพระหลายยุคหลายสมัย ท่านเข้ามาเผยแผ่พระไตรปิฎกในสุวรรณภูมิ คอยค้ำชูบวรพระพุทธศาสนาให้เจริญรุ่งเรืองไม่ให้ตกต่ำจนกว่าจะถึงยุคพระศรีอาริย์ พระภิกษุ สามเณร สมณชีพราหมณ์ อุบาสก อุบาสิกา ท่านใดได้พบเห็น ไม่ว่าจะเป็นการทิพย์หรือกายเนื้อถือเป็นมงคลอันสูงสุด

    หลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ ท่านเป็นหน่อพุทธภูมิที่จุติลงมาเพื่อค้ำชูพระพุทธศาสนา ท่านเพียรสั่งสอนอบรมเหล่าบรรดาศิษยานุศิษย์ของท่านให้ปฎิบัติดี ปฏิบัติชอบ เพื่อมิให้ตกไปสู่อบายภูมิ หลังจากละสังขารไปจากโลกนี้แล้ว
    ข้าพเจ้าได้พบเห็นบารมีในทางธรรมของท่านสมัยที่ข้าพเจ้าไปรับใช้ท่านอยู่ เมื่อครั้งท่านสร้างพระสมเด็จลักษณะมีองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าประทับนั่งอยู่เหนือสุดของพระพรหม วิธีการสร้างของท่านนั้น ท่านแกะแม่พิมพ์ขึ้นมาด้วยตัวของท่านเอง รวมทั้งท่านทำผงวิเศษเอง มีตระไคร่โบสถ์ ผงนะปัดตลอดซึ่งท่านสำเร็จวิชานะปัดตลอดมาจากครูบาอาจารย์ของท่าน ซึ่งวิธีการนั้นทำได้โดยใช้ชอล์คเขียนอักขระเลขยันต์ลงบนกระดานชนวน เมื่อเขียนเสร็จแล้วก็ใช้มือลูบเบา ๆ ที่อักขระเลขยันต์นั้น ผงวิเศษก็จะทะลุกระดานชนวนลงไปในบาตร จากนั้นนำผงวิเศษนี้ไปผสมกับปูนขาว ปั๊มออกมาเป็นพระสมเด็จตามต้องการ



    พระที่หลวงปู่สร้างไว้รุ่นแรก ๆ นี้ วิธีการอธิษฐานจิตของท่านเป็นเรื่องแปลกมหัศจรรย์ และเล่าขานสืบต่อมาดังนี้
    ท่านจะนำพระที่สร้างไว้แล้ว เข้าไปไว้หน้าพระประธานในโบสถ์ โยงสายสิญจ์จากโบสถ์มาที่กุฎิของท่าน แล้วปิดหน้าต่างทุกบานรวมทั้งประตูโบสถ์ก็ล็อคกุญแจเรียบร้อย วันนั้นเป็นวันอาสาฬหบูชา เมื่อพระภิกษุ สามเณร สมณชีพราหมณ์ และอุบาสิกาที่ไปปฏิบัติธรรมกับท่านทำวัตรเย็นเสร็จเรียบร้อยแล้วท่านก็กล่าวว่า
    “วันนี้เป็นวันดี ฉันจะเชิญองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระอริยสาวกทุกพระองค์ และครูบาอาจารย์ของฉันมีหลวงปู่บรมครูพระครูธรรมเทพโลกอุดร หลวงปู่ทวด วัดช้างไห้ สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) หลวงพ่อกลั่น วัดพระญาติ มาร่วมอธิษฐานจิตในเวลาสองยามของค่ำคืนนี้ ขอให้ทุกคนจงร่วมจิตอธิษฐานด้วย”
    พอได้เวลาสองยาม ท่านก็นั่งลงจุดธูป เทียน สักการะบูชา องค์สมเด็จสัมมาสัมพุทธเจ้าและท่านเองก็นั่งสมาธิอธิษฐานจิตพระเครื่องของท่านด้วย

    และแล้วสิ่งมหัศจรรย์เหลือเชื่อก็บังเกิดขึ้น เหล่าบรรดาพระภิกษุ สามเณร และอุบาสก อุบาสิกา ตลอดจนสมณชีพราหมณ์ที่นั่งอยู่ในนั้นต่างได้ยินเสียงสวดมนต์ดังออกมาจากโบสถ์ซึ่งปิดสนิทหมดทุกด้านและไม่มีใครอยู่ในนั้นเลย !!!
    พระเครื่องของหลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ รุ่นนี้ ผู้ใดได้ไว้สักการะบูชา พร้อมทั้งปฏิบัติตนอยู่ในศีลในธรรม มีกาย วาจา ใจบริสุทธิ์ก็บังเกิดพระธาตุเสด็จมาที่องค์พระนั้นเป็นที่อัศจรรย์.




    [​IMG][​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 14 พฤษภาคม 2016

แชร์หน้านี้

Loading...