หลงเสน่ห์ของเก่า ที่"พิพิธภัณฑ์อยู่สุขสุวรรณ์"

ในห้อง 'ท่องเที่ยว - อาหารการกิน' ตั้งกระทู้โดย guawn, 21 พฤษภาคม 2007.

  1. guawn

    guawn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    10,642
    ค่าพลัง:
    +42,113
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>หลงเสน่ห์ของเก่า ที่"พิพิธภัณฑ์อยู่สุขสุวรรณ์"</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>21 พฤษภาคม 2550 17:40 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=350 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=350>[​IMG] </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>ด้านหน้าพิพิธภัณฑ์อยู่สุขสุวรรณ์ </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE> คำว่า"ของเก่า" สำหรับบางคน อาจเป็นเพียงข้าวของไม่ใช้งานที่ถูกทิ้งไว้จนฝุ่นจับซุกอยู่ในห้องเก็บของ รอวันที่จะขายให้กับคนรับซื้อของ

    เก่า

    แต่สำหรับอีกหลายๆคน กลับมองของเก่าเหล่านี้ว่ามีเสน่ห์ น่าเสียดายหากถูกทิ้งขว้างไป บางคนถึงกับลงทุนซื้อหาของเก่ามาเก็บสะสมไว้

    ในราคาสูงๆ เพราะข้าวของเหล่านี้เป็นสิ่งที่ทำให้สามารถระลึกถึงอดีตและความทรงจำเก่าๆ อีกทั้งหากมองดีๆ ของเก่าเหล่านี้ก็ยังมีลักษณะ

    รูปทรงที่สวยงามคลาสสิคชวนมองไม่น้อย บางคนจึงนิยมซื้อหามาตกแต่งบ้านหรือร้านอาหารกัน หรือบางคนเมื่อสะสมไว้มากๆ เข้าก็เปิด

    เป็นพิพิธภัณฑ์ให้คนเข้าชมกัน

    เหมือนอย่างที่ "พิพิธภัณฑ์อยู่สุขสุวรรณ์" ในจังหวัดปราจีนบุรี ซึ่งเป็นพิพิธภัณฑ์ของเก่าที่เพิ่งเปิดใหม่เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา โดยมีเจ้า

    ของคือคุณณรงค์ อยู่สุขสุวรรณ์ ซึ่งมีอาชีพรับซื้อของเก่าจำพวกเศษเหล็กและโลหะ ดังนั้นของเก่าเหล่านี้จึงได้ผ่านตาผ่านมือมาโดยตลอด

    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=left border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=250 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=250>[​IMG] </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>ห้องจัดแสดงในอาคารราชาวดี ด้านบนเต็มไปด้วยตะเกียง</TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD width=5>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE> แต่เดิมนั้น ณรงค์ไม่ได้คิดจะสะสมของเหล่านี้แต่อย่างใด แต่หลังจากที่มีคนมาขอซื้อเศษเหล็กโดยเฉพาะพวกตะเกียงเจ้าพายุเหล่านี้ต่อ

    ณรงค์จึงขายให้ไปในราคาถูกๆ จนตอนหลังรู้ว่าคนที่ซื้อไปนั้นนำไปขายต่อให้ฝรั่งหรือนักสะสมในราคาที่สูงขึ้นไปอีก จึงมีความคิดอยากจะ

    เก็บสะสมเอาไว้เอง เพราะเห็นว่าตะเกียงเจ้าพายุซึ่งเป็นตะเกียงที่มีเอกลักษณ์สวยงามจะถูกขายให้ฝรั่งไปเสียหมด คนรุ่นหลังอาจไม่รู้จัก

    เพราะไม่เคยเห็นตะเกียงแบบนี้

    จากความคิดนั้น ทำให้ณรงค์เริ่มเก็บสะสมตะเกียงและข้าวของเก่าทั้งหลาย โดยตะเกียงที่มีจำนวนมากคือตะเกียงเจ้าพายุขนาด 300 แรง

    เทียนและ 500 แรงเทียน ซึ่งและเมื่อสะสมไว้มากๆ เข้าก็มีคนมาขอดูขอชม แต่ในตอนนั้นก็ยังไม่ได้จัดไว้เป็นหมวดหมู่เรียบร้อย ตอนหลัง

    จึงคิดจะเปิดเป็นพิพิธภัณฑ์ขึ้นเพื่อให้คนที่สนใจของเก่าได้มาชมกัน

    จากการเก็บสะสมของเก่ามากว่า 30 ปี พิพิธภัณฑ์สุขสุวรรณ์ในวันนี้จึงมีตะเกียงโบราณอยู่กว่า 10,000 ดวง และของเก่าต่างๆที่ใช้ในชีวิต

    ประจำวันของคนสมัยก่อนอีกนับพันชิ้น ยังไม่รวมกับข้าวของที่ยังไม่ได้นำออกมาจัดแสดงอีกมากมาย

    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=right border=0><TBODY><TR><TD width=5>[​IMG]</TD><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=350 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=350>[​IMG] </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>มุมร้านกาแฟ</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE> บนพื้นที่ 17 ไร่ของพิพิธภัณฑ์อยู่สุขสุวรรณ์มีอาคารอยู่ 5 หลังด้วยกัน แต่ละหลังแบ่งเป็นห้องๆ สำหรับจัดแสดงของเก่าแต่ละประเภท แต่ที่

    เห็นได้ชัดและเป็นจุดเด่นของพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ก็คือบรรดาตะเกียงต่างๆ หลากหลายยี่ห้อที่แขวนไว้ด้านบนเพดานของอาคารแทบทุกห้อง

    ซึ่งตะเกียงเหล่านี้มีป้ายบอกชื่อประเทศที่มา ไม่ว่าจะเป็นประเทศไทย สวีเดน จีน เยอรมัน อังกฤษ อินเดีย ฮ่องกง ฯลฯ รวมทั้งป้ายบอก

    ยี่ห้อทั้ง ไอด้า เปโตรแมกซ์ อีฟา ราด้า (ตราสิงโต) และอีกหลายยี่ห้อด้วยกัน

    สำหรับอาคารหลังแรก "อาคารราชาวดี" เป็นอาคารสองชั้น ชั้นล่างจัดแสดงพวกข้าวของเครื่องใช้โบราณทั้งหลาย เช่น ไม่ว่าจะเป็นวิทยุรุ่น

    โบราณ เตารีดสมัยก่อนที่ต้องใช้ถ่านไฟทำให้เกิดความร้อน เครื่องถ้วยชามกระเบื้อง ปิ่นโตลวดลายสวยงาม รวมไปถึงเครื่องทองเหลือง

    เครื่องเงินต่างๆ นอกจากนั้นก็ยังมีตู้ โต๊ะเฟอร์นิเจอร์เก่าอีกด้วย ส่วนชั้นบนของอาคารราชาวดีก็เป็นที่รวบรวมตะเกียงเจ้าพายุหลากหลาย

    ยี่ห้อ และหลายประเภท ไม่ว่าตะเกียงเรือ ตะเกียงฉายสไลด์ รวมทั้งโคมไฟแบบต่างๆ ไว้มากมาย

    นอกจากนี้ในบางมุมยังได้จัดให้เป็นเรื่องเป็นราว เช่นมุมร้านกาแฟ ที่มีทั้งตู้กระจกวางแก้ววางขวด หม้อต้มกาแฟ รวมทั้งโต๊ะกาแฟแบบคลา

    สสิคที่มองแล้วจะเห็นภาพอาแปะกำลังยืนอยู่หน้าหม้อต้มกาแฟ ส่วนที่โต๊ะกาแฟก็มีสมาชิกสภากาแฟกำลังสนทนากันอยู่ หรือจะเป็นมุม

    ร้านตัดผม ก็มีเก้าอี้ตัดผมแบบเก่าไว้ให้ชม

    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=left border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=350 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=350>[​IMG] </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>จักรยานเก่ารวมทั้งห้วจ่ายน้ำมันเก่าหาดูได้ที่นี่ </TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD width=5>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE> อาคารหลังที่สอง"อาคารลีลาวดี" เป็นอาคารแฝดมีห้องจัดแสดงทั้งหมด 6 ห้อง จัดแสดงข้าวของแตกต่างกันไป โดยที่ห้องทองพันชั่ง จัด

    แสดงเครื่องคำนวณน้ำหนักต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น ตราชั่ง เครื่องตวงวัดแบบโบราณ ที่นี่เราจะได้เห็นตราชั่งคัน ทั้งขนาดเล็กและใหญ่ ที่ลักษณะ

    เป็นเหมือนไม้ยาว ข้างหนึ่งถ่วงตุ้มเหล็กไว้ ส่วนอีกข้างหนึ่งเป็นถาดเอาไว้วางสิ่งของที่ต้องการจะชั่ง และตราชู หรือยอย ซึ่งเป็นตราชั่งชนิด

    หนึ่ง ที่แปลกก็คือกล่องไม้ที่ใช้เก็บตราชูนั้นจะแกะเป็นรูปร่างต่างๆ ทั้งรูปร่างคล้ายกีตาร์ ซึ่งเป็นของโบราณที่หาดูได้ยากแล้ว

    ห้องถัดมาคือห้องทองหลาง จัดแสดงพระเครื่องต่างๆ ทั้งพระผง พระเหรียญ รูปพระเก่า พระเครื่องขึ้นชื่อของจังหวัดปราจีน ใกล้ๆ กันเป็น

    ห้องทองกวาว ห้องนี้คงทำให้หลายคนนึกถึงความหลัง เพราะเป็นห้องจัดแสดงของเล่นต่างๆ ของเด็ก ไม่ว่าจะเป็นของเล่นสังกะสี รถสาม

    ล้อถีบ และโมเดลตุ๊กตาต่างๆ

    ส่วนในห้องราชพฤกษ์ จัดแสดงถ้วยชามโบราณ ถาดกระเบื้อง โถพู ขวดน้ำมะเน็ด คล้ายกับที่ห้องชัยพฤกษ์ ที่มีเครื่องทองเหลือง เชี่ยน

    หมากทองเหลือง ขันลงหิน เตาน้ำมันก๊าด ตะเกียงลาน ฯลฯ และในห้องกัลปพฤกษ์ ก็มีหัวจ่ายน้ำมันเก่า รถจักรยาน และรถจักรยานยนต์

    เก่าหลายยี่ห้อ ที่น่าสนใจคือรถจักรยานยนต์ที่มีหลักการทำงานเป็นสองส่วน คือจะเป็นจักรยานถีบหรือเป็นจักรยานยนต์ก็ได้

    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=right border=0><TBODY><TR><TD width=5>[​IMG]</TD><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=250 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=250>[​IMG] </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>ณรงค์ อยู่สุขสุวรรณ์ กับตะเกียงขนาดใหญ่ที่มีคนมาขอซื้อต่อในราคาเป็นล้าน</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE> อาคารหลังถัดมาคือ"อาคารชวนชม"ภายในจัดแสดงรูปเก่าเมืองปราจีนบุรี พระบรมฉายาลักษณ์ของในหลวงเมื่อเสด็จมาเยือนปราจีนบุรี ที่

    วัดแก้วพิจิตร รวมไปถึงหนังสือเก่า การ์ตูนเก่า แสตมป์เก่า และที่พลาดไม่ได้คือลอตเตอรี่รุ่นแรกของไทยก็มีจัดไว้ให้ชมด้วย

    ด้านหลังพิพิธภัณฑ์คือ"อาคารฟ้าประดิษฐ์" เป็นโรงเรือนเปิดโล่ง จัดแสดงเรือหลากหลายชนิด เช่น เรือขุดที่ใช้ต้นไม้ทั้งต้นมาทำเป็นลำเรือ

    และเรือขนาดเล็กใหญ่อีกนับสิบลำ รวมทั้งมีเรือนผูก ซึ่งเป็นบ้านที่สร้างจากไม้ไผ่โดยไม่ใช้ตะปูในการก่อสร้างเลย ภายในเรือนจัดแสดง

    ข้าวของเครื่องใช้ให้เห็นถึงความเป็นอยู่ของคนสมัยก่อนให้ชม

    และอาคารหลังสุดท้าย เป็นอาคารสีเทาติดกระจกรอบด้าน รูปร่างคล้ายตะเกียงคือ"อาคารเจ้าพายุ"สร้างจากรูปแบบของตะเกียงเจ้าพายุ มี

    ความสูงประมาณ 13 เมตร นักท่องเที่ยวสามารถขึ้นไปชมวิวด้านบนกันได้

    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=left border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=250 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=250>[​IMG] </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>เรือขุดขนาดต่างๆ ในอาคารฟ้าประดิษฐ์</TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD width=5>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE> และไม่เพียงจะได้มาชมของเก่าเท่านั้น ภายในพิพิธภัณฑ์ยังจัดเป็นสวนวรรณคดี มีรูปปั้นนางยักษ์ผีเสื้อสมุทร สุดสาคร ม้านิลมังกร ฯลฯ

    อยู่กลางบ่อน้ำ ไว้มุมนั่งพักก็ได้ ถ่ายรูปเล่นก็ได้ด้วย และบริเวณรอบๆ ก็ยังจัดเป็นสวนสัตว์เล็กๆ มีสัตว์จำพวกนกยูง และนกชนิดต่างๆ บ่อ

    เต่า และบ่อจระเข้ให้เดินชมกันได้อีกด้วย

    หากใครแวะเวียนมาที่จังหวัดปราจีนบุรี ก็อยากให้แวะมาที่"พิพิธภัณฑ์อยู่สุขสุวรรณ์"แห่งนี้ ไม่แน่ว่าคุณอาจจะหลงเสน่ห์ของเก่า กลับไป

    รื้อห้องเก็บของที่บ้านตัวเอง และเริ่มสะสมของเก่าตั้งแต่วันนี้เลยก็เป็นได้



    * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *

    พิพิธภัณฑ์อยู่สุขสุวรรณ์ ตั้งอยู่ที่ 135 ถนนปราจีนตคาม ต.ดงขี้เหล็ก อ.เมือง จ.ปราจีนบุรี เปิดให้เข้าชมทุกวัน ในเวลา 09.00-17.00 น.

    ค่าเข้าชม คนไทย ผู้ใหญ่ 80 บาท เด็ก 30 บาท ชาวต่างชาติ ผู้ใหญ่ 150 บาท เด็ก 100 บาท สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โทร.0-

    3746-5300, 0-3746-5333, 08-1864-8218

    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     

แชร์หน้านี้

Loading...