หมอทึ่งยาลดความอ้วนตัวใหม่ ไม่ถึงปีน้ำหนักลดฮวบ 12%

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>28 ธันวาคม 2549 12:09 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=bottom align=left height=12></TD></TR><TR><TD bgColor=#cccccc><TABLE cellSpacing=1 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle bgColor=#ffffff><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=160><TABLE cellSpacing=4 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=middle>คลิกที่ภาพเพื่อดูขนาดใหญ่ขึ้น</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR><TR><TD vAlign=baseline align=middle>สาวอ้วนอาจได้เฮ หลังนักวิจัยอเมริกันพบยาขนานใหม่ อวดสรรพคุณช่วยรีดน้ำหนักเห็นผลทันตากว่ายาอื่นๆ</TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle width=165 height=1></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD width=4 background=/images/linedot_vert3.gif></TD><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=7 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>นักวิจัยอเมริกันเปิดตัวยาลดความอ้วนชนิดใหม่ คุยประสิทธิภาพดีกว่าและเห็นผลเร็วกว่ายาที่วางขายอยู่ขณะนี้ โดยภายในเวลาไม่ถึงปีทำให้ผู้หญิงลดขนาดเสื้อผ้าลงได้ถึง 2 ไซส์ หรือลดน้ำหนักได้ 12%

ยาลดความอ้วนที่วางตลาดขณะนี้ช่วยให้น้ำหนักตัวลดลงเพียง 5-10% หากใช้ติดต่อกัน 1 ปี นอกจากนั้น หลังจากงดยา ผู้ใช้หลายคนยังกลับมาอ้วนเหมือนเดิม

แต่สำหรับ'เอกซ์คาเลีย' ยาลดความอ้วนน้องใหม่จากการพัฒนาของโอเร็กซิเจน บริษัทเวชภัณฑ์แคลิฟอร์เนียนั้น จะทำให้น้ำหนักตัวที่รีดออกไปไม่กลับมาอีกนานหลังจากเลิกกินยา

ทั้งนี้ กระบวนการทำงานของเอกซ์คาเลียคือ กระตุ้นสมองส่วน hypothalamas ที่ควบคุมความอยากอาหาร ให้สั่งการให้กระบวนการเผาผลาญอาหารในร่างกายทำงานอย่างรวดเร็ว

ในการนำเสนอต่อที่ประชุมของสมาคมศึกษาโรคอ้วนแห่งอเมริกาเหนือ ซึ่งเป็นหน่วยงานวิจัยเกี่ยวกับโรคอ้วนระดับหัวแถวของโลกนั้น นักวิจัยเผยว่า ยาเม็ดชนิดนี้ประกอบด้วยตัวยาสองชนิดที่ใช้กันกว้างขวาง คือยาสำหรับเลิกบุหรี่และยารักษาลมบ้าหมู จึงช่วยลดอันตรายของผลข้างเคียง

ดร.เคน ฟูจิโอกะ หนึ่งในแพทย์ที่ทำการทดลองยาตัวนี้ เผยต่อที่ประชุมว่า ได้ให้ผู้ป่วยโรคอ้วน 27 คนกินยาเอกซ์คาเลียวันละ 1 เม็ด นาน 24 สัปดาห์ และพบว่าผู้ป่วยเกือบ 3 ใน 4 มีน้ำหนักตัวลดลง 5% และครึ่งหนึ่งลดได้ถึง 10% แต่เมื่อขยายเวลาการทดลองเป็น 48 สัปดาห์ ปรากฏว่าน้ำหนักลดลงถึง 12%

ดร.แกรี่ โทลเลฟสัน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารโอเร็กซิเจน กล่าวว่าการทดลองได้ผลเกินคาด และขณะนี้บริษัทกำลังเตรียมขยายการทดลองต่อไป

ดร.คอลิน เวน ประธานเนชั่นแนล โอบิสิตี้ ฟอรัมในอังกฤษ ชื่นชมว่าการลดน้ำหนักได้ถึง 12% เป็นตัวเลขที่น่าประทับใจ และยาตัวนี้น่าจะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงขนานใหญ่ในแง่ของความเสี่ยงที่จะเกิดผลข้างเคียง เช่น โรคเบาหวาน มะเร็ง และโรคหัวใจ

"กระบวนการเผาผลาญอาหารที่ช้าลงเป็นอุปสรรคต่อการลดน้ำหนัก แต่การที่เอกซ์คาเลียแก้ปัญหานี้ได้ จึงทำให้การลดน้ำหนักทำได้ง่ายขึ้น"

กระนั้น ยังมีคนไม่เห็นด้วยในการใช้ยาเป็นทางลัดแก้ปัญหาน้ำหนักเกิน อย่างเช่น เนวิลล์ ริกบี้ จากอินเตอร์เนชั่นแนล โอบิสิตี้ ทาสก์ ฟอร์ซ ที่ยืนยันว่า ไม่มียาวิเศษสำหรับ

โรคอ้วน จริงอยู่แม้มีผลิตภัณฑ์ช่วยลดน้ำหนักมากมาย แต่คนเราควรช่วยตัวเองด้วยการเลือกกินอาหารที่เป็นประโยชน์และออกกำลังกายด้วย ที่สำคัญยาตัวนี้ยังไม่ได้รับอนุญาตให้วางจำหน่ายในอังกฤษแต่อย่างใด

</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=right height=10></TD></TR></TBODY></TABLE>http://www.manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9490000158712</TD></TR></TBODY></TABLE>

 

นักวิจัยพวกนี้อยู่ว่างมากเกินไป ไม่รู้จักไปวิจัยเรื่องที่มีประโยชน์ด้านอื่น

คนอยากลดความอ้วน ก็ให้ลดความ "อยาก" เสียก่อน หากลดไม่ได้ก้ไม่มีทางลดความอ้วนได้เหมือนกัน เพราะส่วนเกินทั้งหมดเกิดจากอาหารที่หยิบเข้าปากไปทั้งนั้น ไม่ใช่อยู่ดีๆ หายใจเข้าไปแล้วอ้วนเองเมื่อไหร่เล่า

แค่ไม่กินอาหารเย็ย อยู่แบบพระ แค่นี้ก็ลดได้แล้วไม่ต้องเสียเงิน จะโง่กันไปถึงไหน

 

น่ายินดีนะครับ ที่มีการค้นคว้าวิจัยใหม่ๆๆ มากขึ้น เพราะว่าการคิดค้นยาใหม่นั้น จดประสงค์หนึ่งก็เพื่อการรักษาโรค ความอ้วน ในบางคนเป็นโรค ที่เกิดจากกความผิดปกติของระบบร่างกายได้ ก็นับว่าเป็นทางออกหนึ่งสำหรับคนที่เป็นโรคดังกล่าว แต่ว่า.....บางคนก็นำเอายามาใช้ในทางที่ผิด อย่างเช่นกรณีของยา Cytotec [PGE2] ,Tranexamic acid เป็นต้น

 

คนเรานะที่อ้วนก็เพราะแพ้ใจตัวเอง เห็นอะไรก็อยากกินไปหมด ถ้าเอาชนะใจตัวเองได้ก็ไม่ต้องพึ่งยาลดความอ้วนหรอก

 

ผมว่าถ้ามันง่ายอย่างนี้จริง ๆ ก็ดีครับ แต่ผมว่ามันคงจะไม่จริงเสมอไป การพูดมักจะง่ายกว่าการทำเสมอ ถ้าไม่ทานอาหารเย็นแบบพระแล้วผอมได้เราคงไม่เห็นพระอ้วนแน่เลยครับ เคยเห็นพระอ้วนไหมครับ ผมเคยเห็นหลายองค์เลยครับ

คนที่ยังไม่ถึงที่สุดของความดี มักจะแพ้ใจตัวเองไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง หรือไม่ก็แพ้มันทุกทาง ขึ้นอยู่จริตของแต่ละคน ดังนั้นสมควรแล้วหรือที่จะไปตัดสินคนอื่นโดยที่ลืมมองตัวเองครับ

ที่ออกมาพูดนี่ในนามคนอ้วน ฮิฮิ เพราะตัวผมเองตอนนี้ก็อ้วนสุด ๆ ในชีวิตนี้ไม่เคยอ้วนอย่างนี้มาก่อน ทั้ง ๆ ที่กินเท่าเดิม แต่ยิ่งแก่ตัวการเผาผลาญลดลงมาก และการออกกำลังกายลดลงเพราะร่างกายเริ่มมีปัญหาออกกำลังกายหนักอย่างเก่าไม่ได้ครับ