สุขภาพ-ความงามโตสวนกระแส ดันมหา"ลัยแห่ผุดหลักสูตร

ในห้อง 'จิตวิทยา & สุขภาพ' ตั้งกระทู้โดย NoOTa, 19 ธันวาคม 2008.

  1. NoOTa

    NoOTa Super Moderator ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มิถุนายน 2005
    โพสต์:
    20,125
    กระทู้เรื่องเด่น:
    349
    ค่าพลัง:
    +64,492
    สุขภาพ-ความงามโตสวนกระแส..ดันมหา"ลัยแห่ผุดหลักสูตร

    <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#f8b8cb><TD>[​IMG]
    </TD></TR></TBODY></TABLE>แม้หลักสูตรที่เกี่ยวกับธุรกิจสุขภาพและความงามจะไม่ใช่เรื่องใหม่เอี่ยมแกะกล่อง 4-5 ปีที่ผ่านมามีหลายสถาบันการศึกษาที่หันมาให้น้ำหนักกับเรื่องนี้ ไล่มาตั้งแต่ต้นตำรับอย่างมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง ที่เปิดหลักสูตรปริญญาตรี "วิทยาศาสตร์เครื่องสำอาง" มาตั้งแต่ปี 2548 ไปจนถึงการเปิดหลักสูตรปริญญาโทด้านสุขภาพและความงาม ซึ่งเป็นปริญญาโทหลักสูตรแรกของมหาวิทยาลัยขอนแก่นเมื่อ 4 ปีก่อน

    แต่การประกาศเปิดตัวหลักสูตรที่เกี่ยวเนื่องในอุตสาหกรรมนี้ ในช่วง 1-2 เดือนที่ผ่านมาย่อมถือเป็นเรื่องไม่ธรรมดา !! เริ่มต้นตั้งแต่การจับมือร่วมกันระหว่างวิทยาลัยการจัดการ มหาวิทยาลัยทักษิณ และสถาบัน BCD by Dr.Orawan The World Class Anti-Aging ในการเปิดหลักสูตรระยะสั้น 2 เดือนครึ่ง ในหลักสูตรสุขภาพ ความงาม การนวดและสปา ซึ่งในอนาคตอาจจะขยายไปสู่การเปิดหลักสูตรในระดับปริญญาตรี

    การลงนามความร่วมมือระหว่าง มหาวิทยาลัยแพทย์แผนจีนกวางสี สาธารณรัฐประชาชนจีน และมหาวิทยาลัยราชภัฏจันทรเกษม ในการจัดทำหลักสูตรสปาแผนจีน มาจนกระทั่งการประกาศตัวเปิดหลักสูตรวิทยาศาสตรบัณฑิตสาขาวิชาบูรณาการสุขภาพและความงาม ของ มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ โดยร่วมมือกับภาคเอกชนอย่าง บริษัท แพน ราชเทวี กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ผู้ให้บริการด้านความงาม และ บริษัท แคลิฟอร์เนีย ว้าว เอ็กพีเรียน จำกัด (มหาชน) ผู้ให้บริการด้านสุขภาพ โดยจะเปิดหลักสูตรอีกในปี 2552

    เพราะเป็นที่รู้กันว่าในภาวะวิกฤต เศรษฐกิจเช่นนี้ การตัดสินใจเลือกเปิดหลักสูตรการศึกษาของสถาบันการศึกษาก็ไม่ต่างอะไรกับการตัดสินใจลงทุนของบริษัทที่ต้องมีโอกาส ไม่เช่นนั้นก็เป็นเรื่องยากที่จะทำ

    โอกาสในอุตฯแสนล้าน

    แต่ดูเหมือนว่าการสร้างหลักสูตรขึ้นมา รองรับในอุตสาหกรรมที่มีมูลค่ากว่าแสนล้านบาทอย่างอุตสาหกรรมสุขภาพและความงามนั้นเป็นโอกาส เพราะไม่เพียงยังเป็นอุตสาหกรรมที่ขาดแคลนบุคลากร ในเวลาเดียวกันถ้าดูจากอดีตที่ผ่านมา นี่ดูจะเป็นเพียงไม่กี่อุตสาหกรรมที่จะไม่ชะลอตัว แม้ว่าจะเกิดภาวะวิกฤตเศรษฐกิจ

    "เราเป็นมหาวิทยาลัยเอกชน แน่นอนว่าเวลาเราจะผลิตบัณฑิตในสาขาใดสาขาหนึ่ง เรามองที่ความต้องการของสังคม มองว่าสังคมขาดอะไร เพราะมหาวิทยาลัยคงไม่สามารถผลิตตามจินตนาการ เพราะปัญหาก็จะตกที่เด็กที่จะหางานทำไม่ได้ แต่การตัดสินใจเปิดหลักสูตรวิทยาศาสตรบัณฑิตสาขาวิชาบูรณาการสุขภาพและความงาม ในปีการศึกษา 2552 นี้ เพราะมองว่าเป็นสาขาวิทยาศาสตร์สำหรับสายอาชีพที่เมื่อเรียนจบจะสามารถประกอบอาชีพได้เลย" รศ.ปรียา อนุรัตน์ คณบดีคณะศิลปศาสตร์และวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ กล่าวถึงเหตุผลการเปิดหลักสูตรวิทยาศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาบูรณาการสุขภาพและความงาม ในปีการศึกษา 2552 ที่จะถึง

    ที่สำคัญในวงการนี้ยังขาดแคลนบุคลากรมหาศาล ทั้งๆ ที่เป็นอุตสาหกรรมที่ยังมีแนวโน้มที่จะเติบโตอีกมาก เพราะเป็นกระแสแห่งยุคสมัยที่คนทุกวันนี้หันมาให้ความสำคัญกับสุขภาพและความงามมากขึ้น และเป็นกระแสเช่นเดียวกันทั่วโลก

    สร้างคนยกระดับธุรกิจ

    สุขภาพและความงาม ซึ่งกินความตั้งแต่การดูแลเรื่องผิวพรรณ การดูแลด้านโภชนาการ การออกกำลังกาย สปา ฯลฯ ดังนั้นเป้าหมายในหลักสูตรนี้จึงต้องการผลิตคนออกมารองรับธุรกิจในด้านต่างๆ โดยนักศึกษาที่เรียนจบจึงสามารถทำงานในตำแหน่งงานที่หลากหลาย เช่น เจ้าหน้าที่ให้คำปรึกษาในศูนย์โภชนาการบำบัด ผู้ชำนาญการด้านผิวพรรณ โดยเป็นที่ปรึกษาก่อนพบแพทย์ เป็นต้น

    "เป้าหมายในการผลิตบัณฑิตของเราจึงอยู่ที่การเข้าไปช่วยทำให้วิชาชีพด้านการจัดการสุขภาพและความงามมีระดับสูงขึ้น เพราะเราออกแบบให้นักศึกษาที่จบไปจะต้องมีความรอบรู้ทั้งทางวิชาการและมุ่งเน้นในเรื่องการฝึกปฏิบัติ ซึ่งเราเชื่อว่าผู้ประกอบการก็คงต้องการเพราะบุคลากรเหล่านี้จะไปช่วยเสริมธุรกิจของเขาให้ดีขึ้น"

    หลักสูตรนี้จึงแบ่งเนื้อหาวิชาออกเป็น 4 กลุ่ม คือ 1.ด้านเทคนิค ซึ่งจะสอนในเรื่องกายวิภาคศาสตร์ สรีรวิทยา การออกกำลังกายเพื่อสุขภาพ โภชนาบำบัด สุคนธบำบัด การดูแลความงาม 2.ความรู้ด้านการจัดการธุรกิจ โดยจะมีวิชา เช่น การศึกษาดูงานธุรกิจสปา การบริหารจัดการสำหรับผู้ประกอบการใหม่ 3.บริการ เพราะมองว่าคนที่ทำงานในสายนี้จะต้องมีใจรักในงานบริการ จึงมีการเรียนการสอนเกี่ยวกับจิตวิทยาในการบริหาร บุคลิกภาพ และจริยธรรม 4.กลุ่มวิชาบูรณาการ จะมีการเรียนการสอนด้านสุขภาพความงาม ผลิตภัณฑ์ธรรมชาติเพื่อสุขภาพและความงาม โดยก่อนจบนักศึกษาจะได้มีโอกาสฝึกงานกับองค์กรภาคีซึ่งเป็นมืออาชีพในด้านความงามและสุขภาพ

    ความพยายามในการวางหลักสูตรเช่นนี้จึงเป็นเพียงการสร้างความแตกต่างและสร้างคุณค่าให้กับหลักสูตรเพราะในความเป็นจริงความสนใจของผุ้เรียนไม่ใช่ปัญหาใหญ่นักเนื่องจากที่ผ่านมาหลักสูตรด้านนี้นั้นอยู่ในความนิยมของผู้เรียนและได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง

    ขึ้นชาร์ตหลักสูตรสุดฮอต

    อย่างที่ รศ.ดร.บังอร ศรีพานิชกุลชัย คณบดีคณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น บอกว่า "ที่ผ่านมาหลักสูตรนี้ได้รับการตอบรับดีมากเพราะการขยายตัวของตลาด มีทั้งแพทย์ที่ต้องการมีความรู้ด้านบริหารจัดการเพื่อไปทำสปาในโรงพยาบาล หรือเป็นกลุ่มที่ต้องการมองหาอาชีพที่ 2 ในอนาคต"

    "การเรียนของเราไม่ใช่ว่าเรียนจบแล้วจะไปทำผลิตภัณฑ์ที่เป็นโฆษณาชวนเชื่อ แต่ต้องเป็นลักษณะของวิชาการที่จะเข้ามาเสริมสร้างคุณภาพชีวิตและความสวยงามอย่างมีหลักการ สามารถให้คำแนะนำ หรือส่งต่อผู้ที่มีปัญหาให้ผู้เชี่ยวชาญในแต่ละสาขาที่เกี่ยวข้อง สามารถวิเคราะห์ แก้ไขปัญหา และสร้างองค์ความรู้ในศาสตร์ของความงามและสุขภาพได้" รศ.ดร.บังอรกล่าว

    และตราบใดที่คนยังต้องการมีสุขภาพดีและต้องการความสวยงาม หลักสูตรย่อมได้รับความนิยมมากขึ้นและมากขึ้นในอนาคต

    --------
    [​IMG]
    http://www.matichon.co.th/prachacha...g=02edu01181251&day=2008-12-18&sectionid=0222
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

แชร์หน้านี้

Loading...