สุขภาพดีวิถีไทย 4 สร้างสุข สูตรโบราณ

แพทย์แผนไทยเป็นศาสตร์ทางการแพทย์ที่ดำรงคงอยู่ ท้ากาลเวลาไม่แพ้ศาสตร์แพทย์แผนใดในโลก อ.สุทธิวัสส์ คำภา ผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพรและธรรมชาติบำบัด อาจารย์เติบโตมากับสมุนไพรด้วยบิดาเป็นแพทย์ประจำ ต.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี ปัจจุบันเป็นวิทยากรให้ความรู้เกี่ยวกับศาสตร์สมุนไพรและแพทย์แผนไทยทั้งในไทยและต่างประเทศ

​

การสนทนากับแพทย์แผนไทยผู้นี้ไม่เพียงได้รับสาระความรู้ หากแต่ได้รับความสนุกสนานอย่างมาก ขออนุญาตถ่ายทอดสู่กันฟังด้วยประโยคแบบไทยๆ และอารมณ์แจ่มใสแบบไทยๆ ของตัวอาจารย์เอง ที่สะท้อนให้เห็นว่า นี่แหละคนไทยสุขภาพดีที่อยู่และกินตามแบบวิถีไทยนั้น จะมีสุขภาวะแบบนี้


4 เหตุป่วย-เทคนิคแก้อารมณ์

อาจารย์เล่าว่า ในทางของแพทย์แผนไทย ต้องดูองค์รวม 4 (กาย จิต สิ่งแวดล้อม วิญญาณ) นั่นคือ 1กรรม อันประกอบด้วย กรรมเก่าและกรรมปัจจุบัน 2สภาวะจิต 3.อุตุ และ 4.อาหาร

สำหรับกรรม กรรมปัจจุบันยันดูถึงอนาคต กรรมปัจจุบันไม่กินข้าวเช้า ระวังจะหน้าแก่ กรรมทันตาเห็นในชาตินี้ คิดอ่านทำสิ่งใดจำไว้ว่าสะท้อนถึงกันหมด แต่สำคัญที่สุดคือ สภาวะจิตด้วยต้นเหตุแห่ง (โรคทาง) กายคือใจ

ใจที่กลัวนั้นน่ากลัว อารมณ์กลัวเกิดขึ้นแก่ใครบ่อย ระวังไว้จะกลายเป็นโรคเกี่ยวกับระบบเพศและไต ส่วนอารมณ์โกรธ จะนำมาซึ่งโรคเกี่ยวกับตับ มะเร็ง อารมณ์ตื่นเต้น ใครตื่นเต้นง่าย ความดันโลหิตขึ้นสูง ระวังเป็นโรคระบบความดันและหัวใจ อารมณ์วิตกกังวล ส่วนใครหนอขี้วิตกทุกข์ร้อน ระบบย่อยจะไปก่อนเพื่อน อารมณ์เสียใจ น้อยใจ ระบบขับถ่ายไม่ดี

เทคนิคแก้อารมณ์ อารมณ์กลัวแก้ด้วยการเผชิญหน้า ส่วนอารมณ์อื่นๆ ให้หัดคิดในมุมตรงข้าม เช่น โกรธ ก็หัดไม่โกรธ (ฮา) ตื่นเต้น-ก็หัดไม่ตื่นเต้นหรือถูกปลุกเร้าง่ายนัก อารมณ์วิตกกังวล-ให้หัดคิดว่า อะไรจะเกิด มันก็ต้องเกิด (พูดในใจว่าช่างมัน) ส่วนความเสียใจน้อยใจ ให้หัดทำใจให้กว้าง แล้วใจจะไม่เสีย ใจจะไม่น้อย (ใจ) นอกจากนี้ยังมีโรคเกี่ยวกับต่อมน้ำเหลือง โรคนี้เกี่ยวพันกับความลับ ใครแบกความลับคับอกต่อมน้ำเหลืองจะไม่ดี แข้งขาจะลายพร้อยและนำพาสู่โรคในทรวงอก

สำหรับคนขี้โกรธ มีเทคนิคฝึกใจไม่ให้โกรธ ด้วยการเพ่งน้ำ ให้ใช้น้ำเป็นอารมณ์ วิธีทำคือการเอาน้ำใส่แก้วใส แล้วเพ่งมองน้ำนิ่ง สำหรับคนขี้ตื่นเต้น อันดับแรกให้หยุดดูโทรทัศน์ เพื่องดรับสิ่งเร้า (อย่างน้อยก็ในระดับหนึ่ง) จากนั้นให้ฝึกสมาธิ เมื่อใจรู้ตัว ตัวจะรู้วิธีแก้ (โรคใน) ตัวได้เองตามธรรมชาติ คนชอบตีอกชกหัวโลดเต้นดีใจ มากเกินไปคือผลของโลภะ ความโลภยังให้ดีใจในสิ่งที่ได้มา ตลาดหุ้นขึ้นที ใจก็พุ่งปรี๊ดที ดีหรือไม่ตอบตัวเอง

ส่วนคนขี้วิตกกังวล ถือเป็นผู้มีกรรมตัดรอนชนิดหนึ่ง วิธีแก้ให้ฝึกที่การสร้างภาพความสำเร็จในใจ เพื่อหักล้างกับความเคยชินแต่เดิมที่จ่อมจมอยู่กับความล้มเหลว หัดสร้างความเชื่อมั่นในใจ คนที่เป็นแม่ทัพนายกองเขาก็กลัวเท่ากันกับเรา ผิดแต่เขาหอบความกลัวนั้นไว้แล้วเดินต่อไปข้างหน้า




อุตุภายใน-ภายนอก

ในทางแพทย์แผนไทย อุตุคือ พลังชีวิต คือพลังที่ผลักดันชีวิต ได้แก่ ลมปราณ ไออุ่นร่างกาย ไอชีวิตของความมีชีวิต รวมทั้งพลังกายทิพย์ที่ซ่อนอยู่ อุตุที่ดีคืออุตุที่มีพลัง ผลักดันเลือดลมให้ทะลุทะลวงทั่วร่าง จุดประจุไฟฟ้าที่วิ่งรอบเซลล์ประสาทต่างๆ ในร่างกาย อุตุภายในสัมพันธ์กับอุตุภายนอก ได้แก่ ความร้อน ความเย็น ความชื้น ฯลฯ ขณะเดียวกันก็ส่งผลต่อระบบต่างๆ เช่น อุตุในไต ส่งผลถึงระบบเพศ อุตุร้อน-ส่งอาการที่หัวใจ อุตุแห้ง-ปอดไม่ดี อุตุชื้น-กระเพาะ ม้าม น้ำเหลืองเสีย

อุตุภายใน คืออุตุที่อยู่ในจุดต่างๆ เช่น อุตุที่คั่นอยู่ระหว่างการเรียงตัวของโครงกระดูก เวลาโครงกระดูกเลื่อนจึงทำให้เจ้าของป่วย มีอันเป็นไปต่างๆ นอกจากนี้ยังหมายถึงอุตุในช่องลำไส้ ผู้ที่มีอุจจาระตกค้างในลำไส้ มักมีแก๊สจำนวนมากในช่องท้อง อุตุหรือลมที่ตีขึ้นนี้ก่อให้เกิดอาการมากมาย ตั้งแต่กลิ่นปาก เจ็บบ่า เจ็บไหล่ อุจจาระซึมดูดกลับสู่ร่างกาย ของเน่าเสียพัดพาไปทั่วร่าง อย่างนี้แล้วจะดีได้รึ?


อาหารที่เหมาะกับเรา

ตอบแนววิถีไทยก็ต้องว่า กินให้ทั่วไป หมายถึงกินให้หลากหลาย ชีวิตคนไม่ดีขึ้นด้วยอาหารชนิดใดชนิดหนึ่ง แต่จะดีด้วยอาหารหลายชนิดที่กินคละกันในปริมาณที่เหมาะสม คนเจ็บป่วยส่วนใหญ่กินอาหารซ้ำซาก เตือนก็ไม่ฟัง (ฮา) พวกนี้ระบบดูดซึมจะเสีย ผลคือไตที่ต้องทำงานหนักขึ้น

อาจารย์เล่าว่า ที่ผ่านมารณรงค์ให้คนลดละการกินน้ำมันพืช เพราะกินมากๆ จะเกาะเหนียวที่ผนังลำไส้ (อี๋ยยยย์...) เจ้าของไส้จะดูดซึมวิตามินที่ละลายน้ำไม่ได้ ลำบากเจ้าของ (ไส้) ต้องล้างไส้บ่อยๆ ด้วยวิธีดังต่อไปนี้

สูตรแรก ให้ใช้นมสดผสมโยเกิร์ต, น้ำผึ้ง, มะนาว สัดส่วนไม่ต้องคิดมาก ชิมดูให้อร่อยเป็นใช้ได้ จากนั้นก็ให้กินทุกวัน กินตอนเช้าขับถ่ายดี กินตอนกลางคืน (อาจ) อ้วน ระวังด้วย สูตรนี้นอกจากจะล้างไส้ (และไต) ให้แล้ว ยังเสริมวิตามินบี 12 ที่สูงมาก

สูตรที่ 2 ให้นำมะละกอดิบหั่นแว่น 2-3 แว่น ต้มน้ำ ชงชาดื่ม อาจดื่มผสมกับชาจีนหรือชาใบหม่อนก็ได้ สูตรนี้ล้างแต่ไส้ ไม่มีวิตามินบี 12

สูตรที่ 3 มีบอระเพ็ดมั้ย? ให้เอาบอระเพ็ด 1 เกียก (1 เกียกคือความยาวระหว่างนิ้วโป้งหัวแม่มือกับนิ้วชี้ แหกให้กว้างออกจากกัน ยาวแค่ไหนก็แค่นั้น 1 เกียกของแต่ละคนไม่เท่ากัน คนไหนกินก็เท่ากับเกียกคนนั้น) ต้มกับน้ำ 2 แก้ว สูตรนี้ล้างไขมันในลำไส้ดี

สูตรที่ 4 นำเห็ด 3 ชนิด ชนิดไหนก็ได้ แต่ขอให้เป็นเห็ดต่างชนิดกัน นำมาปรุงเป็นอาหารรับประทาน ไม่รู้จะทำอะไรก็เอาเห็ดทั้ง 3 มาต้มซดน้ำ หรือใช้มะตูมอ่อน ใบเตย ต้มพร้อมเห็ด 3 อย่าง ใส่น้ำตาลแต่พอช้วยๆ อย่าหวานมาก กินสัปดาห์ละ 1 ครั้งกำลังดี




แก้โรคเฉพาะทาง

โรคที่เป็นมากกับสตรีคือโรคระบบโลหิต วิธีแก้นำกระเจี๊ยบเขียวกับเม็ดมะรุม ขอให้ใช้ฝักที่แก่แล้วสังเกตดูเมล็ดในจะเป็นสีขาว หยิบเอามาเคี้ยวกินวันละ 5 เม็ดกร้วมๆ เดี๋ยวก็หาย

ส่วนคนที่ต้องการลดคอเลสเตอรอล ให้ไปที่ร้านขายเครื่องยาไทย หาซื้อกระเจี๊ยบแดง 1กำมือ กับพุทราจีน 2กำมือ ต้มให้สุก จากนั้นก็กรองเก็บไว้แช่ตู้เย็นดื่ม (อย่าใส่น้ำตาล) ดื่มแล้วผิวพรรณหน้าตาจะฟื้นสดใส กรณีที่มีอาการลำไส้ไม่ดูดซึมร่วมด้วย จะทุบข่าพอเก๋สักหัวหนึ่งต้มลงไปด้วยก็ได้

ส่วนพวกหลอดเลือดตีบ โรคนี้เป็นตั้งแต่ยาจกยันรัฐมนตรี วิธีแก้จะดื่มกระเจี๊ยบแดงกับพุทราจีน หรือจะทำน้ำกระชายดื่ม ใช้กระชายธรรมดา (ไม่ใช่กระชายดำ) นำมาล้างให้สะอาด จากนั้นหั่นหัวกับรากโยนลงเครื่องปั่น ปั่นแบบความเร็วธรรมดา สัดส่วนคือกระชาย ครึ่งกิโลกรัม ต้มกับน้ำ 2ลิตร เดือดแล้วกรองเอาแต่น้ำ ดื่มวันละแก้ว ที่เหลือแช่ตู้เย็นเก็บไว้

"แพทย์แผนไทยและวิถีพื้นบ้าน เป็นวิถีที่สอนให้พึ่งพาตัวเอง เป็นการใช้ธรรมชาติบำบัดเพื่ออยู่กับธรรมชาติในตัวของทุกคนอย่างมีความสุข" อาจารย์กล่าว

ใครอยากมีสุขภาพดีวิถีไทย ทำตามได้ฟรี... เดี๋ยวนี้เลย






ข้อมูลจาก http://www.posttoday.com/

 

Always Happy ^^