พระบ้าน สายวัดท่าซุง วัดท่าขนุน และพระเกจิอาจารย์ทั่วไทยครับ

หนุนทรัพย์ พระเครื่อง ยินดีต้อนรับพี่น้องทุกท่านครับ

การรับประกัน พระทุกองค์รับประกันความพอใจภายใน ๓๐ วัน นับจากวันได้รับพระ และหากตรวจสอบแล้วรายการใดที่ท่านได้รับเป็นพระเก๊ ยินดีคืนเงินพร้อมค่าจัดส่งเต็มจำนวน ภายใน ๓ วัน นับจากวันได้รับแจ้งครับ

การจอง หากจองแล้วกรุณาโอนเงินภายใน ๗ วัน นับจากวันจอง หากไม่สะดวกสามารถติดต่อคุยกันทางPM หรือทางโทรศัพท์ ๐๘ ๗๐๓๐ ๓๔๕๕ (08 7030 3455) (โหน่ง) และทาง E-mail : nong_sanchat@hotmail.com หรือท่านใดสะดวกหรืออยู่ใกล้นครพนม ขอติดต่อดูองค์พระได้ที่ศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดนครพนมครับ

การโอนเงิน กรุณาโอนเงินเข้าบัญชี ธนาคารกรุงเทพ สาขา เทสโก้โลตัส นครพนม (๐๖๖๖) ประเภทสะสมทรัพย์ ชื่อบัญชี นายสัญชาติ เชียงการ เลขบัญชี ๖๖๖ - ๐ - ๑๒๓๗๒ - ๗ (666-0-12372-7)

การจัดส่ง เนื่องจากผมทำงานประจำหากท่านโอนเงินมาก่อนเวลา ๑๑.๐๐ น.จะจัดส่งช่วงบ่ายของวันดังกล่าว แต่หากโอนมาหลัง เวลา ๑๑.๐๐ น. ขออนุญาตจัดส่งในวันถัดไปครับ และกรุณาช่วยค่าจัดส่ง EMS ๕๐ บาท เพื่อรับประกันการสูญหายและทำให้ได้รับอย่างรวดเร็วครับ./

 

ยินดีกับร้านใหม่ครับ

 

[FONT=TH SarabunIT๙]รายการที่ ๑ [/FONT][FONT=TH SarabunIT๙]สมเด็จองค์ปฐมรุ่น ๕ เนื้อเงิน ฐานก้นถ้วย [/FONT][FONT=TH SarabunIT๙]จัดส่งแล้วครับ EK692331719TH ครับ[/FONT]
ฉลองสมณศักดิ์ พระภาวนากิจวิมล(อนันต์ พุทธญาโณ) เจ้าอาวาสองค์ปัจจุบัน วัดท่าซุง องค์เล็กแต่รายละเอียดงดงามมาก เห็นแล้วจะระลึกถึงองค์ท่านได้ง่าย สร้างด้วยชนวนสมเด็จฯองค์ปฐม พระเดชพระคุณหลวงพ่อพระราชพรหมยาน วัดท่าซุง พระเกศาหลวงพ่อ และมวลสารของวัดทั้งหมด
พิธีพุทธาภิเษก วันเสาร์ที่ 28 ม.ค 2555 เป็นวันเสาร์ ๕ ฤกษ์พรหมประสิทธิ์ตรงกับฤกษ์อมฤตโชค <O
ทางวัดได้จัดงานพร้อมกัน ๒ งาน คืองานอัญเชิญพระศพพระเดชพระคุณหลวงพ่อพระราชพรหมยานกลับสู่วิหารร้อยเมตร และงานพิธีพุทธาภิเษกพระพุทธรูปจำลองสมเด็จองค์ปฐมรุ่นฉลองสมณศักดิ์หลวงพ่อพระภาวนากิจวิมล (อนันต์ พุทธญาโณ) สมัยที่หลวงพ่อท่านยังทรงขันธ์ห้าอยู่ ก็มีการจัดพิธีพุทธาภิเษกที่วิหารแก้ว ๑๐๐ เมตรขึ้น ๒ ครั้งคือเมื่อครั้งจัดสร้างสมเด็จองค์ปฐมรุ่น ๑ และเมื่อครั้งสมเด็จองค์ปฐมรุ่น ๒ หลังจากท่านมรณภาพไป ก็ไม่เคยมีการจัดพิธีที่วิหารแก้วร้อยเมตรเลย

ในพิธีมีลูกแก้วยอดจักรพรรดิ์และลูกแก้วราหู เป็นประธานในพิธีพุทธาภิเษกด้วย<O ลูกแก้วจักรพรรดิ์ ที่หลวงพ่อพระราชพรหมยานได้รับมอบจาก หลวงปู่ครูบาเจ้าชุ่ม โพธิโก ที่มีคุณอธิษฐานให้สำเร็จตามปราถนาทุกประการ ตามที่ต้องการ เป็นลูกแก้วจักรพรรดิ์ อยู่ที่ไหน ที่นั้นจะมีความเจริญรุ่งเรืองมาก สมัยที่หลวงพ่อพระราชพรหมยานยังอยู่ ท่านจะเชิญลูกแก้วจักรพรรดิ์ออกมาในพิธีพุทธาภิเษกทุกครั้ง เพื่อให้วัตถุมงคลมีผลเหมือนลูกแก้วจักรพรรดิ์ อธิษฐานสิ่งใด ปราถนาสิ่งใดก็สมปราถนา<O การสร้างก็นิมนต์หลวงพี่พระปลัดสมนึก สุธมฺมถิรสทฺโธ เป็นประธานนำชนวนสมเด็จองค์ปฐมที่หลวงพ่อพระราชพรหมยานได้รวบรวมศรัทธาพุทธบริษัทสร้างไว้เมื่อปี ๒๕๓๕ มาเป็นชนวนในการเททองครั้งนี้ ในส่วนเนื้อทองคำ, เนื้อเงิน, เนื้อนวะโลหะ และเนื้อโลหะชุบทองแบบก้นกลวง จะนำมาบรรจุชนวนสมเด็จองค์ปฐม, เส้นเกศาหลวงพ่อพระราชพรหมยาน และมวลสารของวัดท่าซุงด้วย จำนวนพระที่ขออนุญาต สำหรับเนื้ออื่นๆก็สร้างตามที่จอง <O
แต่เนื้อโลหะชุบทองสร้าง ๑๐๐,๐๐๐ องค์ ได้แค่ ๓๐,๐๐๐ องค์ <O
การสร้างสมเด็จองค์ปฐม สมัยหลวงพ่อสร้างรุ่น ๑ จำนวน ๓๐,๐๐๐ องค์ ได้แค่ ๓,๐๐๐ องค์<O รุ่น ๒ สร้าง ๓๐,๐๐๐ องค์ ได้มา ๑๐,๐๐๐ องค์ รุ่นนี้เตรียมการล่วงหน้าเป็นปี ใช้เวลาแกะอยู่ ๗ เดือน แกะเสร็จช่างบอกคงทำองค์นี้เป็นองค์สุดท้ายแล้วเพราะสายตาไม่ไหว ต่อไปคงแกะแต่พระกริ่งองค์ใหญ่ๆ <O

 

ขอบคุณมากครับ ท่านแรกที่มาโพสต้อนรับกระทู้ขออนุญาตมอบของขวัญปีใหม่เล็กน้อยให้ด้วยครับ สวัสดีปีใหม่ครับ./

 

รายการที่ ๒ พระไพรีพินาศ เนื้อเงิน ขนาดหน้าตัก ๑ ซ.ม. วัดท่าขนุน จัดสร้างขึ้นเพื่อร่วมบุญซื้ออุปกรณ์การแพทย์โรงพยาบาลทองผาภูมิ (มีให้บูชา ๓ องค์ องค์ละ ๒,๕๐๐ บาทครับ) สภาพสวย กล่องและซองเดิมจากวัดครับ
<O</Oพระอาจารย์เล็กกล่าวในงานพุทธาภิเษกพระไพรีพินาศ ไว้ส่วนหนึ่งว่า
พระท่านบอกวัตถุมงคลที่นำมาพุทธาภิเษกไปคนละทิศละทาง <O</O
พระไพรีพินาศ "เป็นมหาอำนาจ ผู้ใดคิดร้ายจะพินาศแพ้ภัยตนเอง"<O</O
บูชาด้วยคาถา "คะสะชะนะ อิติศัตรูอย่ามาคะตา"
อย่าแช่งคนอื่น ยิ่งถ้าใครสมาธิทรงตัว ถ้าแช่งคนอื่นแล้วมีอันเป็นไป อาตมาจะปรับว่าไปแช่งเค้า<O</O

 

รายการที่ ๓ พระปิดตามหาเศรษฐีเงินล้าน รุ่น ๑ เนื้อเงิน วัดท่าขนุน๒๐ มีนาคม ๒๕๕๓ (๒,๕๐๐ บาท ค่าจัดส่ง ๕๐ บาท) มี ๑ องค์ครับ
พระอาจารย์เล็กท่านเมตตาเล่าให้ฟังเรื่องพระปิดตามหาเศรษฐีเงินล้านว่า

"ตอนนี้บอกให้เขาแกะแบบให้แล้ว บอกว่าให้เอาช่างฝีมือดีที่สุดเท่าที่โรงงานจะหาได้ ทางโรงงานเขาบอกว่าถ้าอย่างนั้นต้องขึ้นไปถึงปราจีนบุรี เพราะมีช่างฝีมือดีมากเลย"

หลวงพ่อเล่าให้ฟังว่า "ตอนนี้เรื่องของพระปิดตา ตั้งใจจะสร้างเป็นสองเนื้อ คำว่าสองเนื้อไม่ได้หมายความว่าสองอย่าง สองเนื้อก็คือเนื้อโลหะกับเนื้อผง

พระปิดตามีเนื้อที่สร้างทั้งหมด ดังนี้
เนื้อนวะโลหะเต็มสูตรแก่ทอง จำนวน ๒,๐๐๐ องค์ ทองคำทั้งสิ้น ๑๐๐ บาท
เนื้อเงิน ๒,๘๖๐
เนื้อเมฆพัตร ๑,๒๐๐
เนื้อเมฆสิทธิ์ ๒,๐๐๐
เนื้อชุบทอง ๕,๐๐๐
เนื้อผง ๓๐,๘๗๒
เนื้อชินเงิน ๓๐๐


สำหรับเนื้อโลหะเรามีชนวนเก่าอยู่มาก มีทั้ง
ชนวนพระปัจเจกพุทธเจ้าทองคำ ๑ ซม., ทองคำ ๓ ซม. , ทองคำ ๓ นิ้ว , เงิน ๑ ซม. , เงิน ๓ ซม. , เงิน ๓ นิ้ว
ชนวนทองคำพระยอดธง ชนวนเงินพระยอดธง
ชนวนพระอุปคุตปราบมารที่ไปนั่งปรกให้ทางวัดไร่แตงทอง
ชนวนที่สำคัญที่สุดก็คือ ยันต์ครูที่ท่านให้เขียนตอนเข้ากรรมฐาน ๓ วัน ใช้แผ่นทองแผ่นใหญ่เลย

ตอนแรกก็คิดว่าตูจะเขียนอะไรวะ ตอนที่เข้ากรรมฐานหลวงพ่อท่านถามว่า จำได้ไหมว่าแกเคยขโมยของข้าไป ก็บอกว่าผมไม่เคยขโมยหรอกครับ ผมแค่คิดค่าเฝ้ากุฏิ ท่านก็บอกให้ไปดูแบบตามนั้น ก็เลยไปเปิดดู ปรากฏว่าของท่านมียันต์อยู่ ๗ อย่างด้วยกัน คือ
๑) ยันต์พุทธนิมิต
๒) ยันต์ศัตรูพินาศของท่านท้าวเวสสุวรรณ
๓) ยันต์มหาเศรษฐี
๔)ยันต์กันโรคระบาด
๕)ยันต์กันแคล้วคลาดของท่านปู่พระอินทร์
๖) ยันต์ปัญจพุทธามหามงคล ที่เขียนตะกรุดมหาสะท้อน
๗) ยันต์คาถาเงินล้าน

ตั้งใจว่าจะใส่ไปทั้งหมด และเมื่อวันที่ ๒ วันลอยกระทง มันเป็นฤกษ์พิเศษ มันเป็นฤกษ์จันทร์เพ็ญ ปกติแล้วโบราณท่านนิยมฤกษ์วันขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๑๒ ท่านถือว่าทุกอย่างมันเต็มเปี่ยมบริบูรณ์สมบูรณ์หมด แม้กระทั่งน้ำมันก็ขึ้นเต็มตอนนั้น แต่ที่เขาหาอีกฤกษ์หนึ่งก็คือ ๑๕ ค่ำ เดือน ๑๒ ที่ตรงกับวันจันทร์ เพราะเขาถือว่าวันจันทร์เป็นวันมหาเสน่ห์ใช้ทำเมตตาดีมาก ๆ เราก็ทำอะไรได้ไม่มาก คว้ายันต์เขียนได้สองแผ่น เพราะเขาถือฤกษ์ตอนเที่ยงคืนตรง เขียนช้าก็ไม่ทัน มีเท่าไหร่จะใส่ไปหมดเลย

ที่เน้นจริง ๆ ก็คือ เน้นในเรื่องของลาภ เพราะช่วงที่เข้ากรรมฐานท่านบอกว่าคนที่ทำบุญด้วยจะได้มีความคล่องตัว ดังนั้นพระที่สร้างชุดนี้ก็เน้นในเรื่องของลาภผล

ในส่วนของพระเนื้อผงที่อยากสร้าง เพราะว่ามีผงสำคัญอยู่เยอะ เอาแค่ว่า ลูกอมของหลวงปู่พริ้ง วัดบางปะกอก ลูกอมของหลวงปู่จง วัดหน้าต่างนอก ผงจักรพรรดิของหลวงปู่ดู่ ฯลฯ ก็เลยว่าจะทำเนื้อผงด้วย ส่วนเนื้อโลหะอาจจะมีหลายอย่าง มีทองคำ เงิน ทองชุบ ประมาณนี้"
ด้านหลังก็จะลงเป็นยันต์มหาเศรษฐีของหลวงปู่ปาน ซึ่งท่านยืนยันว่าถ้าบูชาด้วยความเคารพเงินจะไม่ขาดมือ


วันที่ ๒๐ มีนาคม ๒๕๕๓ ให้จัดงานเป่ายันต์เกราะเพชรเพื่อสงเคราะห์ญาติโยมด้วยอาตมาทำไว้ตั้งแต่สมัยอยู่วัดท่าซุงและนำเข้าพิธีของหลวงพ่อวัดท่าซุงมาตลอดอยู่ ๓ ชิ้น ซึ่งประกอบด้วยยันต์เกราะเพชร ยันต์กันไฟไหม้ กันฟ้าผ่า และคาถาเงินล้าน

พอเริ่มเข้ากรรมฐานรอบสุดท้าย ท่านให้ภาวนาคาถาเงินล้านอย่างเดียว ตอนที่ภาวนาตามที่ท่านสั่ง ทำไป ๆ เหมือนกับตัวเองดิ่งลึกลงไปเรื่อย ๆ จนในที่สุดลมหายใจมันก็ลึกหมือนกับเหวที่ไม่มีก้น ญาติโยมทั้งหลายจำตรงนี้ไว้ให้แม่น ๆ หากว่าภาวนาจับลงที่ศูนย์กลางกาย ถ้าตรงจุดพอเหมาะพอดีมันจะลึกลงไปเรื่อย ๆ เหมือนเหวที่ไม่มีก้น แบบที่หลวงปู่สดท่านบอกว่าให้หยุดลงตรงกลาง....ตรงกลางลงไป...ตรงกลางลงไป ก็จะไปได้เรื่อย ๆ อาตมาเองมีประสบการณ์หลายครั้งแล้วว่า ไม่ว่าภาวนาคาถาบทไหนก็ตาม ถ้าหากว่ามาถึงตรงจุดนี้ คาถาบทนั้นจะมีผลมาก เพราะฉะนั้นพวกเราทุกคนทำให้ถูกตรงนี้ ถ้าทำถูกไม่ต้องไปท่องเป็นร้อยเป็นพันจบก็ได้ เพราะว่าอารมณ์เต็มที่มันก็จะไม่เกินนั้น
ก่อนที่จะเข้ากรรมฐานนั้น หลวงปู่ครูบาชุ่ม วัดวังมุย ท่านมาบอกว่าให้ใช้คาถาของท่านด้วยคาถาขับมาร

( เก็บตกบ้านอนุเสาวรีย์ เมษายน ๕๓)

พระอาจารย์กล่าวว่า "สถานที่ศักดิ์สิทธิ์หลายแห่ง พอเข้าไปใจจะสงบทันที เพราะกระแสบุญที่ไปทางเดียวกันช่วยเสริม

มีอยู่ช่วงหนึ่งที่ครูบาน้อยเขาตามไปเก็บเอาดินแต่ละสถานที่มา ให้เขาชำระหนี้สงฆ์และก็ขุดใส่ถุงมา ตอนนี้กลายเป็นพระปิดตามหาเศรษฐีเงินล้านไปเรียบร้อยแล้ว

จะเห็นได้ว่าพระปิดตาที่ราคาถูกที่สุด คือ พระปิดตาเนื้อผง แต่จริง ๆ แล้วส่วนผสมมากที่สุด อาตมายืนยันว่า พระปิดตาเนื้อนวโลหะกับเนื้อผง ส่วนผสมมากที่สุด

อย่างพระปิดตาเนื้อเงินหรือเนื้อทอง เอาส่วนผสมอื่นใส่ไปแล้ว ก็จะเสียของ ต้องใส่เฉพาะชนวนที่เป็นเงินหรือทองแท้

แต่พระปิดตาเนื้อทองนี่ได้เปรียบ เพราะมีตะกรุดมหาสะท้อนไปสองดอกแล้ว ยังมียันต์ครูอีก ๕ บาท และตะกรุดโสฬสทองคำอีก"
พระอาจารย์บอกว่า "พระปิดตารุ่นนี้มีอยู่หลายองค์ที่เนื้อเกิน เนื้อเกินอย่าไปแกะออกนะ ถือว่าดี อะไรที่งอก ที่เกินมา โบราณเขาถือว่าเป็นมงคลทั้งนั้น

เนื้อเกินนั้นเกิดจากว่า เวลาเขาฉีดแบบด้วยขี้ผึ้ง แล้วขี้ผึ้งล้น เกินไปเท่าไรเนื้อก็จะยื่นมาเท่านั้น บางองค์ก็เป็นเม็ดกลม ๆ เหมือนกับพระธาตุงอก บางองค์ก็อาจจะมีก้านขึ้นมาหน่อยหนึ่ง ถ้าใครเจอถือว่าโชคดีมาก ๆ เก็บไว้ให้ดี ๆ "
ความจริงอาตมาไม่รู้จักหลวงปู่ทับ วัดอนงคาราม ตอนพุทธาภิเษกพระปิดตามหาเศรษฐีเงินล้าน เจอหลวงตาแก่มาก้ม ๆ เงย ๆ อยู่ ก็ถามท่านว่ามาจากไหนชื่ออะไร ท่านบอก “ข้าชื่อทับ” อาตมาก็ว่า “อ๋อ..หลวงปู่ทับวัดทอง”

เท่านั้นแหละ..โดนด่าหูตูบเลย “ไอ้ห่..มีแต่ไอ้ท่านวัดทองดังคนเดียวหรือไงวะ..?” อาตมาจะไปรู้หรือว่ามีอีกทับหนึ่ง ปรากฏว่าหลวงปู่ทับมีตั้ง ๓-๔ องค์ ก็ท่านไม่บอกว่าวัดไหน อาตมารู้จักแต่วัดทองวัดเดียว จึงโดนไปเต็ม ๆ เลย

พระปิดตามหาเศรษฐีเงินล้าน พอเจอหลวงปู่ทับช่วยสงเคราะห์ด้วย ก็เลยกลายเป็นพร้อมที่จะตีกับชาวบ้านเขาด้วย ก็นิสัยท่านบู๊ออกขนาดนั้น พูดง่าย ๆ ว่าเป็นประเภทถ้าขอดี ๆ แล้วไม่ให้ท่านก็จะปล้น..!

ที่ขำ ๆ ก็คือ พอได้พระปิดตาปางซ่อนหาของท่านมาก็พกติดตัวเอาไว้ ลืมทีไรท่านก็บอกทุกที วันนั้นหล่นหายท่านไม่บอก ไม่บอกก็เรื่องของท่านเถอะ..!

อาตมาบอกกับพระในวัดว่า "ผมไปตัดต้นไม้แถว ๆ นั้นนะ พวกคุณไปหาดูก็แล้วกัน แถว ๆ ๗ - ๘ ต้นนั่นแหละ ไม่รู้ว่าไปหล่นอยู่ตรงไหน.." ปรากฏว่าพระท่านหากันไม่เจอ อาตมาก็ไม่หาหรอก ปล่อยไปเกือบ ๆ ๒ เดือน จึงโผล่กลับมา
ถาม : พระปิดตาเนื้อนวโลหะกับเนื้อชินเหมือนหรือต่างกันอย่างไรครับ ?
ตอบ : เนื้อนวโลหะใส่ส่วนผสมโลหะมากชนิดกว่า เนื้อชินมีส่วนผสมแค่ตะกั่ว สังกะสี และเงินเท่านั้นเอง ชอบแบบไหนก็เลือกเอาแบบนั้น อยากเสียสตางค์มากก็เลือกแบบที่แพงหน่อย<O</O
<O</O
มีหลายท่านสงสัยว่าพระปิดตามหาเศรษฐีเงินล้านรุ่น ๑ ที่อาตมาเผลอใส่ตะกรุดมหาสะท้อนไป มีเนื้อไหนบ้างที่ใส่ ก็มีเนื้อทองคำ เนื้อเงินและเนื้อนวโลหะ เพราะฉะนั้นถ้าใครใช้พระปิดตามหาเศรษฐีเงินล้าน ๓ เนื้อนี้ คนหรือสัตว์กำลังคลอดอยู่ โปรดอย่าเข้าไปใกล้นะเมตตาเขาหน่อยถ้าเขาคลอดไม่ได้แล้วจะยุ่ง"
ในเก็บตกจากบ้านวิริยบารมี ต้นเดือนมกราคม ๒๕๕๕<O</O

<O</Oคาถาอาราธนา
เม สัมมุกขา สัพพาหะระติ เต สัมมุกขา

บูชาด้วยคาถา

ตั้ง นะโม ๓ จบ
นาสังสิโม
พรหมา จะ มหาเทวา สัพเพยักขา ปะรายันติ (คาถาปัดอุปสรรค)
พรหมา จะ มหาเทวา อภิลาภา ภะวันตุ เม (คาถาเงินแสน )
มหาปุญโญ มหาลาโภ ภะวันต ุเม (คาถาลาภไม่ขาดสาย)
มิเตภาหุหะติ (คาถาเงินล้าน)
พุทธะมะอะอุ นะโมพุทธายะ วิระทะโย วิระโคนายัง วิระหิงสา
วิระทาสี วิระทาสา วิระอิทถิโย พุทธัสสะ มานีมามะ พุทธัสสะ สวาโหม (คาถาพระปัจเจกพุทธเจ้า)
สัมปะติจฉามิ (คาถาเร่งลาภให้ได้เร็วขึ้น)
เพ็ง ๆ พา ๆ หา ๆ ฤา ๆ<O</O

 

ได้บริจาคร่วมทำบุญซื้ออุปกรณ์การแพทย์โรงพยาบาลทองผาภูมิไปแล้ว จะได้พระในรายการที่๒ จากทางรพ.ทองผาภูมิไหมคะ (ครูอรนุช ไทรโยค)

 

รายการที่ ๔ เหรียญยันต์ตะกรุดเม วัดท่าซุงเนื้อเงิน เหรียญละ ๗๐๐ บาท มี ๒ เหรียญครับ รายการนี้ตอนนี้มีให้บูชาที่วัดท่าซุงอยู่ครับ เบอร์ติดต่อด้านล่างโพสครับ

การสร้างวัตถุมงคลของหลวงพ่อพระราชพรหมยานนั้น วัตถุประสงค์หลักท่านสร้างเพื่อเป็นกุศโลบายในการโยงจิต เช่นการสร้างธงมหาพิชัยสงครามแจกตำรวจทหารเพื่อเป็นเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจ เป็นที่ระลึกที่ได้เสียสละความสุขส่วนตัวเพื่อป้องกันประเทศชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์และประชาชนให้ปลอดภัยจากผู้รุกราน รวมทั้งเป็นปัจจัยสนับสนุนการเจริญพระกรรมฐานกองต่างๆเช่น พุทธานุสติกรรมฐาน สังฆานุสติกรรมฐาน เป็นต้น

ในระหว่างปี พ.ศ.๒๕๒๘ หลวงพ่อพระราชพรหมยานได้เมตตาสงเคราะห์ศิษย์ใกล้ชิดเป็นกรณีพิเศษ โดยอนุญาตให้นำแผ่นทองคำ แผ่นนากหรือแผ่นเงิน(ตามกำลังของแต่ละคน) มาทำเป็นแผ่นตะกรุด เรียกกันว่าตะกรุดเม ซึ่งเป็นคำย่อมาจาก “ เมสัมมุขขา สัพพาหะระติ เตสัมมุขขา ” ท่านได้เมตตาจารยันต์ให้ ส่วนใหญ่เป็นยันต์องค์พระและมีอุณาโลมอยู่ด้านบน บางแผ่นท่านจารอักขระเพิ่มเติมให้ และมีอยู่แผ่นหนึ่งที่ท่านเมตตาจารเป็นกรณีพิเศษโดยด้านหนึ่งเป็นยันต์ท่านปู่พระอินทร์ อีกด้านเป็นยันต์ท้าวมหาชมภู ที่กล่าวว่าเป็นกรณีพิเศษนั้นเนื่องจากในขณะนั้นหลวงพ่อท่านมีภาระกิจมากทั้งงานสอนพระกรรมฐาน งานศูนย์สงเคราะห์ฯ งานเจริญศรัทธางานก่อสร้าง ฯลฯ เวลาพักผ่อนของท่านน้อยมาก ท่านยังสละเวลาจารแผ่นยันต์ให้ ผู้ที่ได้รับแผ่นยันต์ชุดนี้มาตั้งแต่ต้นหรือได้รับตกทอดมาในภายหลังล้วนแล้วแต่มีความชุ่มชื่นใจ อิ่มใจในความเมตตาของท่าน ปัจจุบันยันต์แผ่นพิเศษนี้พระผู้ใหญ่องค์หนึ่งของวัดท่าซุงได้ถวายเพื่อเป็นสมบัติของสงฆ์ และคณะทำงานได้พิจารณาขออนุญาตตัดส่วนหนึ่งเพื่อนำมาเป็นชนวนในการสร้างวัตถุมงคลต่างๆของวัด และได้ขอจำลองรูปยันต์ที่หลวงพ่อท่านได้จารไว้นำมาสร้างเหรียญโดยย่อให้มีขนาด ๑.๖ x ๑.๖ ซม. เพื่อรักษารูปแบบยันต์ที่เป็นเอกลักษณ์ไว้ และเป็นเครื่องระลึกถึงความเมตตาของหลวงพ่อพระราชพรหมยาน ที่มีต่อคณะศิษย์โดยหาประมาณมิได้ โดยกำหนดให้บูชาสั่งจองดังนี้

๑. เหรียญยันต์ตะกรุดเม ชุดทองคำ(นน.ประมาณ ๔.๘ กรัม), เงิน, ทองเหลือง ราคา ๑๕,๐๐๐ บาท
๒. เหรียญยันต์ตะกรุดเม เนื้อเงิน ราคา ๕๐๐ บาท
๓. เหรียญยันต์ตะกรุดเม ชุบทอง สามารถบูชาได้หลังพิธีโดยไม่ต้องจอง

ปัจจัยที่ได้จากการให้บูชาเหรียญนี้จะนำไปใช้ในการสร้างวิหารหลวงพ่อศักดิ์สิทธิ์, วิหารต่างๆและทำบุญทุกอย่างในวัดท่าซุง

โดยเปิดรับจองตั้งแต่วันที่ ๑ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๕๖ ถึงวันที่ ๔ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๕๖ ที่บ้านสายลมและตึกรับแขกวัดท่าซุง

กำหนดพิธีพุทธาภิเษก วันที่ ๗ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๖ ณ อุโบสถวัดท่าซุง สอบถามรายละเอียดได้ที่ ๐๕๖-๕๐๒๕๐๖, ๐๘๖-๗๘๒๓๓๘๘, ๐๒-๖๑๖๗๑๗๗

สั่งจองที่ตึกรับแขก รับวัตถุมงคลได้ตั้งแต่วันที่ ๘ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๖ เวลา ๐๙.๐๐ น. เป็นต้นไป

สั่งจองที่บ้านสายลม รับวัตถุมงคลได้ตั้งแต่วันที่ ๓ มกราคม พ.ศ. ๒๕๕๗ เป็นต้นไป
ขอขอบพระคุณข้อมูลจาก www.facebook.com/LPsaksit/posts/309373525875696:0 ครับ<O</O

 

รายการนี้จัดสร้างให้ร่วมบุญในการซื้ออุปกรณ์การแพทย์โรงพยาบาลทองผาภูมิครับทางวัดได้ออกให้ร่วมบุญหมดแล้วครับ สำหรับรายการนี้ผมร่วมบุญมาและนำมาให้บูชาต่อครับ สำหรับที่คุณครูอรนุชได้ร่วมบุญไปแล้วผมขอร่วมอนุโมทนาบุญด้วยครับ และขออนุญาตทราบที่อยู่เพื่อส่งของขวัญปีใหม่เล็กน้อยไปให้แทนได้นะครับ ขอบพระคุณมากครับ./

 

ขอจองครับ

 

รับทราบครับ ตกลงตามที่คุยกันครับ เดี๋ยวช่วงหัวค่ำจะส่งข้อมูลให้ทางPM อีกครั้งครับ./

 

รายการที่ ๓ พระปิดตามหาเศรษฐีเงินล้าน รุ่น ๑ เนื้อเงิน วัดท่าขนุน๒๐ มีนาคม ๒๕๕๓ (๒,๕๐๐ บาท ค่าจัดส่ง ๕๐ บาท) ขอจองรายการนี้ครับ ขอบคุณครับ

 

รับทราบครับ ลงจองให้แล้วครับ ขอบพระคุณมากครับ./

 

รายการที่ ๕ ล็อกเกตหลวงพ่อทวด สมเด็จพระมหาวีรวงศ์ขนาดจัมโบ้ ขนาดสูง <?xml:namespace prefix = "st1" ns = "urn:schemas-microsoft-com</st1:metricconverter>๕ เซนติเมตร กว้าง <st1:metricconverter ProductID="4 เซนติเมตร" w:st="on">๔ เซนติเมตร</st1:metricconverter> ซีเปียสร้าง ๒,๙๙๙ องค์ (องค์ละ ๒,๕๕๗ บาท ค่าจัดส่ง ๕๐ บาท) มี ๑ องค์ครับ


วัดสัมพันธวงศาราม เป็นพระอารามหลวงชั้นตรี ชนิดวรวิหาร เดิมมีคูล้อมวัดเชื่อมต่อจากแม่น้ำเจ้าพระยา ปรากฏในพงศาวดารว่า 'ในเทศกาลถวายผ้าพระกฐิน พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เสด็จฯ ถวายผ้าพระกฐิน ทางชลมารคปัจจุบันมี 'สมเด็จพระมหาวีรวงศ์' เป็นเจ้าอาวาสและดำรงสมณศักดิ์ สมเด็จพระมหาวีรวงศ์ รูปที่ ๗ แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ ด้วยจริยวัตรอันสมบูรณ์บริบูรณ์เคร่งครัดในพระธรรมวินัย เจริญพระกรรมฐานเข้มข้น สืบเชื้อสายแม่ทัพธรรมกรรมฐานสายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต, พระญาณวิศิษฏ์สมิทธิวีราจารย์ (สิงห์ ขันตยาคโม) ตั้งแต่เจ้าประคุณสมเด็จฯ เป็นสามเณร เพิ่มเติมด้วยการถ่ายทอดวิชาความรู้จากท่านเจ้าพระคุณพระมหารัชชมังคลาจารย์ (เทศ นิทเทสกเถร) ผู้เป็นอาจารย์ของคุณแม่บุญเรือน โตงบุญเติม

<O</O
สมเด็จพระมหาวีรวงศ์จึงเพียบพร้อมไปทั้งวิปัสสนาธุระและคันถธุระ เคร่งครัดในพระวินัย ถือวัตรปฏิบัติตามแบบพระกรรมฐาน อาทิ การฉันอาหารในบาตรโดยคลุกอาหารคาวหวานฉันพร้อมกันเป็นการเจริญอาหารเรปฏิกูลสัญญา การครอง ผ้า 3 ผืน สวดมนต์ทำวัตร เจริญพระกรรมฐาน ทุกวัน ทำความสะอาดกวาดเสนาสนะ แม้ดำรงสมณศักดิ์สมเด็จพระราชาคณะแล้วก็ยังลงกวาดวัด จนเกิดอุบัติเหตุเหล็กแหลมฝังที่เท้า คณะแพทย์จึงมีความเห็นให้งดภารกิจนี้
ในด้านวัตถุมงคล สมเด็จพระมหาวีรวงศ์ได้อธิษฐานจิตปลุกเสกไว้หลายรุ่น ปัจจุบันแต่ละรุ่นล้วนหายากและมีประสบการณ์กับผู้ที่พกพาอาราธนาติดตัว
วัตถุมงคลของท่านที่ลูกศิษย์ลูกหาและนักสะสมตามเก็บเป็นพิเศษ อาทิ ล็อกเกตรุ่นแรก, พระชัยวัฒน์พุทโธคลัง, เหรียญหลวงพ่อทวดหัวโต, พระปิดตาโสฬสมหาพรหม, พระกริ่งพุทโธจอมจักรพรรดิ, รูปเหมือนโต๊ะหมู่ ล้วนแต่เป็นวัตถุมงคลหายาก แล้วในขณะนี้ วัตถุมงคลต่างๆ พระราชสารเวที (เจ้าคุณโกมินทร์) และ พระวินัยเมธี ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสัมพันธวงศ์ ผู้เป็นสัทธิวิหาริก สนองงานสร้างบูชาท่านเจ้าประคุณสมเด็จฯ อาจารย์

<O</O
พระราชสารเวทีกล่าวว่า เมื่อวันที่ ๒๗ ก.ค.๒๕๕๕ ตรงกับวันขึ้น ๙ ค่ำ เดือน ๘/๘ ที่ผ่านมา สมเด็จพระมหาวีรวงศ์ได้ประกอบ 'พิธีเปิดโลก' อธิษฐานจิตปลุกเสก ล็อกเกตหลวงพ่อทวด เหยียบน้ำทะเลจืด หลวงปู่ทวดพิมพ์ที่สวยที่สุดเท่าที่มีการจัดสร้างมา ดวงหน้า ดวงตาหลวงปู่ทวดเหมือนดั่งมีชีวิต และพระบูชาหลวงปู่ทวดขนาด <st1:metricconverter ProductID="5 นิ้ว" w:st="on">๕ นิ้ว</st1:metricconverter> ตาฝังมุกเป็นพระบูชาหลวงปู่ทวดตามุก รุ่นแรกของวงการที่มีการจัดสร้าง วัตถุมงคลทั้งรุ่นนี้กำลังเป็นที่นิยม วัตถุมงคลทั้ง ๒ แบบได้นำผงเก่า หลวงพ่อทวดที่ผ่านมือ พระอาจารย์<st1ersonName ProductID="ทิม วัดช้างให้" w:st="on">ทิม วัดช้างให้</st1ersonName> จ.ปัตตานี เชิญญาณหลวงพ่อทวดมาปลุกเสกไว้อย่างครบถ้วน เมื่อปี ๒๕๐๕
เมื่อคราวที่ "พ.อ.โท เนินกร่าง" ได้นิมนต์ พระอาจารย์<st1ersonName ProductID="ทิม วัดช้างให้" w:st="on">ทิม วัดช้างให้</st1ersonName> มาอธิษฐานจิตปลุกเสกหลวงพ่อทวดที่วัดสัมพันธวงศ์ กรุงเทพฯ ท่านได้นำดินกากยายักษ์และผงที่เคยสร้างหลวงพ่อทวดรุ่นแรกปี ๒๔๙๗ มามอบให้ที่วัดสัมพันธวงศ์ด้วย คราวนั้นพระอาจารย์ทิมได้ประกอบพิธีอัญเชิญญาณบารมีหลวงพ่อทวดทำพิธีปลุกเสกที่วัดสัมพันธวงศ์และผงที่ท่านปลุกเสกพร้อมผงเก่าหลวงพ่อทวดรุ่นแรกปี ๒๔๙๗ ได้ตกทอดมาถึงปัจจุบัน มวลสารทั้งหมดได้นำมาบรรจุไว้ใน "ล็อกเกตเปิดโลก" หลวงพ่อทวด เหยียบน้ำทะเลจืด อธิษฐานจิตปลุกเสกโดย ท่านเจ้าประคุณสมเด็จพระมหาวีรวงศ์ เจ้าอาวาสวัดสัมพันธวงศ์ สมเด็จพระราชาคณะอายุพรรษามากที่สุด และได้ชื่อว่าองค์กรรมฐานกลางกรุง

<O</O
"หลวงพ่อทวด เหยียบน้ำทะเลจืด" มีประวัติเล่าขานสืบต่อกัน ซึ่งมีอภินิหารเกิดขึ้นมากมาย เหตุเกิดขึ้นในสมัยกรุงศรีอยุธยา หลวงพ่อทวดได้รับพระราชทานสมณศักดิ์เป็นสมเด็จพระสังฆราชที่ "สมเด็จพระราชมุนีสามีรามคุณูปมาจารย์" แต่ผู้คนส่วนใหญ่มารู้จักหลวงพ่อทวด เมื่อครั้งที่ พระครูวิสัยโสภณ (พระอาจารย์ทิม) วัดช้างให้ จ.ปัตตานี จัดสร้างวัตถุมงคล "หลวงพ่อทวดรุ่นแรก" ขึ้น ตั้งแต่ปี ๒๔๙๗ เรื่อยมาโดยเฉพาะเนื้อว่าน มีการนำผงดำเรียกว่า "ดินกากยายักษ์" ซึ่งว่ากันว่ามีคุณวิเศษด้านต่างๆ มาเป็นส่วนผสมหลัก จวบจนถึงปี ๒๕๑๒ พระอาจารย์ทิมละสังขาร หลังจากนั้นวัตถุมงคลหลวงพ่อทวดที่ท่านปลุกเสกไว้มีค่านิยมเล่นหาสูงขึ้นมาก <O</O
บางองค์ว่ากันที่หลักหมื่นหลักแสนหลักล้าน

<O</O
"ล็อกเกตเปิดโลก" เป็นดวงหน้าองค์หลวงพ่อทวดลงหินเคลือบแก้ว งดงามดั่งองค์หลวงพ่อทวดท่านเพ่งมองมาที่เรา ดุจองค์จริงที่มีลมหายใจ ทรงจิตวิญญาณเหมือนองค์หลวงพ่อทวดอยู่กับผู้บูชาตลอดเวลา เป็นครั้งแรกที่สร้างขึ้น
<O</O
สมเด็จพระมหาวีรวงศ์ อธิษฐานจิตให้เปิดโลกธาตุ เปิดรับยศถาบรรดาศักดิ์ เปิดรับบารมี ค้าขายดีก้าวหน้า กิจการรุ่งเรือง เปิดทางแห่งทรัพย์รวย มวลสารสุดยอดอุดล็อกเกตหลวงพ่อทวด เหยียบน้ำทะเลจืด อาทิ ผงหลวงพ่อทวด พระอาจารย์<st1ersonName ProductID="ทิม วัดช้างให้" w:st="on">ทิม วัดช้างให้</st1ersonName> สร้างหลวงพ่อทวดรุ่นแรกปี ๒๔๙๗ ผงหลวงพ่อทวดปี ๒๕๐๖ ผงโสฬสมหาพรหม ผงเก่าปี ๒๔๙๙ พิธีโสฬสมหาพรหม วัดสรนาทธรรมาราม แม่ชีบุญเรือน โตงบุญเติม เป็นเจ้าพิธี อธิษฐานจิตโดยพระคณาจารย์ดัง หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี, หลวงพ่อสด วัดปากน้ำ, หลวงพ่อเงิน วัดดอนยายหอม, พระอาจารย์<st1ersonName ProductID="สิงห์ ขันตยาคโม" w:st="on">สิงห์ ขันตยาคโม</st1ersonName>, หลวงปู่ฝั้น อาจาโร, หลวงพ่อโต วัดเขาบ่อทอง, หลวง ปู่ทิม อิสริโก วัดละหารไร่, ท่านพ่อลี วัด อโศการาม, พระพรหมมุนี (ผิน สุวโจ) วัดบวรนิเวศน์วิหาร, พระวรเวทย์คุณาจารย์ (เมี้ยน) วัดโพธิ์ท่าเตียน, พระครูวินัยธรเฟื่อง, พระครูนอ วัดกลางท่าเรือ จ.พระนครศรีอยุธยา เป็นต้น และเป็นผงเดียวกับที่ อาจารย์<st1ersonName ProductID="ประถม อาจสาคร" w:st="on">ประถม อาจสาคร</st1ersonName> สร้างพระผงโสฬสมหาพรหมถวายหลวงปู่ทิม วัดละหารไร่ จ.ระยอง ผงพุทธโธน้อย พลอยเสก ศิลาน้ำ พริกไทย ปูนแดง ข้าวตอกพระร่วงของแม่ชีบุญเรือน โตงบุญเติม สมบัติเก่าเก็บที่หาได้ยากยิ่ง พร้อมกับทับทิมเสกของคุณ<st1ersonName ProductID="แม่บุญเรือน โตงบุญเติม" w:st="on">แม่บุญเรือน โตงบุญเติม</st1ersonName> ซึ่งทับทิมนี้เรียกว่า 'พลอยของคุณแม่มีพลอยมีแต่ได้ มีพลอยมีแต่ผลกำไร' ฝังไว้ด้านหลังล็อกเกตรุ่นนี้ด้วย นอกจากนี้ยังได้นำผงมวลสารหลวงพ่อทวด วัดช้างให้ อุดผงพร้อมกัน

ภายในพิธีเปิดโลกนั้น สมเด็จพระมหาวีรวงศ์เป็นประธาน พระเกจิอาจารย์ร่วมนั่งปรก อาทิ หลวงพ่อชำนาญ วัดบางกุฎีทอง, หลวงพ่อแขก วัดสุนทรประดิษฐ์, หลวงพ่อตี๋ วัดหูช้าง, เจ้าคุณพระบวรรังษี วัดระฆังฯ ซึ่งก่อนหน้านี้ได้นำวัตถุมงคลเข้าพิธีใหญ่กลางเมือง มีพระเกจิอาจารย์แดนใต้ปลุกเสกหลายรูป อาทิ พ่อท่านเขียว วัดห้วยเงาะ, พ่อท่านคล้อย วัดภูเขาทอง, พ่อท่านท้วม วัดศรีสุวรรณ, หลวงพ่อพรหม วัดบ้านสวน, พ่อท่านแสง วัดศิลาลอย, พ่อท่านอิ้น วัดนิคมเทพา และหลวงพ่อหวาน วัดสะบ้าย้อย เป็นต้น หลังเสร็จพิธีเปิดโลกแล้วได้ ทางวัดได้เก็บวัตถุมงคลที่หอพระไตรปิฎกถาวรานุสรณ์ และต่อสายสิญจน์ไป ๓ จุดคือ ไปที่หลวงพ่อทวดองค์ใหญ่ รูปหล่อคุณ<st1ersonName ProductID="แม่บุญเรือน โตงบุญเติม" w:st="on">แม่บุญเรือน โตงบุญเติม</st1ersonName> และห้องกรรมฐาน สมเด็จพระมหาวีรวงศ์ เพื่ออธิษฐานจิต<?xml:namespace prefix = "v" ns = "urn:schemas-microsoft-com:vml" /><v:shape id=_x0000_i1063 style="HEIGHT: 14.25pt; WIDTH: 14.25pt" type="#_x0000_t75" alt=""> <v:imagedata src="file:///C:\Users\DTKCOM~1\AppData\Local\Temp\msohtml1\01\clip_image001.gif" o:href="http://palungjit.org/images/smilies/tongue-smile.gif"></v:imagedata></v:shape>

[FONT=TH SarabunIT๙]<O</O[/FONT]
ขอขอบคุณข้อมูลจากหนังสือพิมพ์ข่าวสดออนไลน์ครับ

 

รายการที่ ๖ พระพุทธนาคปรกลอยองค์ ฉลอง ๒,๖๐๐ ปีพุทธชยันตี(นาคไทย)
ขนาด ๑ ซ.ม. + ขนาด ๒ ซ.ม. (๑ ชุด ๒ องค์ บูชาชุดละ ๑๐,๐๐๐ บาท ค่าจัดส่ง ๕๐ บาท) มี ๑ ชุดครับ

จำนวนสร้าง
ขนาด ๑ ซ.ม. จำนวนสร้าง เนื้อชุบทองพ่นทราย ๓,๐๒๓ องค์
ขนาด ๒ ซ.ม. จำนวนสร้าง เนื้อชุบทองพ่นทราย ๑,๐๐๖ องค์

พุทธาภิเษก ๑๖ มีนาคม ๒๕๕๖ เสาร์ 5 พิธีบวงสรวงไหว้ครู พุทธาภิเษก และ เป่ายันต์เกราะเพชร เนื่องจากปัจจุบันพระกริ่งพิชัยสงครามมีราคาค่อนข้างสูง พระอาจารย์เล็กกล่าวในงานเป่ายันต์เกราะเพชรว่า พระนาคปรกที่นำเข้าพิธีพุทธาภิเษกในงานวันนี้ พระท่านสงเคราะห์ให้มีพุทธานุภาพเหมือนพระกริ่งพิชัยสงครามทุกประการ สามารถใช้แทนกันได้ พระท่านสงเคราะห์แล้วดีทุกอย่าง พุทธคุณครบทุกด้าน พระกริ่งพิชัยสงครามตอนนี้องค์ละหมื่นเดียวจ้ะ ทำแค่สองรุ่น รุ่นแรกสองพันองค์ รุ่นสองพันสองร้อยองค์ ตัวเลขเหมือนกันแต่กลับข้างเท่านั้นเอง รุ่นแรกสีทอง รุ่นสองสีเงิน จำไว้ว่ายิ่งรุ่นหลังยิ่งดี หลวงพ่อท่านบอกไว้ เมื่อพระหรือพรหมหรือเทวดาท่านมาสงเคราะห์ในการพุทธาภิเษก แต่ละครั้งท่านเคยให้เท่าไร ครั้งต่อไปจะไม่มีต่ำกว่านั้น มีแต่ว่าถ้าเพิ่มมากขึ้นท่านจะบอก ดังนั้นหลวงพ่อท่านเคยย้ำ บอกพระของข้าเอ็งหารุ่นสุดท้ายเอาไว้ เพราะฉะนั้น...ถ้าอาตมายังไม่ตาย โยมรอรุ่นหลัง ๆ ก็ได้ ไม่ต้องไปรอพระกริ่งพิชัยสงคราม อันนั้นแพงเสียแล้ว พระรุ่นนี้ตอนทำพุทธาภิเษกพระอาจารย์เล็กได้ขออนุญาตกับพระฯท่านว่า พระกริ่งพิชัยสงครามทั้ง ๒ รุ่น ตอนนี้ราคาองค์ละหลายหมื่น ญาติโยมหลายท่านอยากบูชาแต่กำลังไม่ถึง กราบขออนุญาตสร้างรุ่นใหม่ พระฯท่านตรัสว่า “เอาพระนาคปรกรุ่นนี้ไปใช้แทนก็แล้วกัน” ก็เลยกลายเป็นว่ารุ่นใหม่ไม่ได้สร้าง แต่เอารุ่นนี้ไปใช้แทนได้

อานุภาพของพระกริ่งพิชัยสงคราม
ถาม : อานุภาพของพระกริ่งพิชัยสงครามเป็นอย่างไรครับ ?
ตอบ : เจตนาจริง ๆ ก็คือท่านทำไว้ทุกด้าน แต่จะเป็นการป้องกันอันตรายโดยเฉพาะ เพราะว่าคำว่า "พิชัยสงคราม" ก็คือชนะในสงคราม แต่อย่าเอาไปตีกับใครเขานะ

ถาม : เพื่อนผมที่บูชาไป เขาเอาไปให้อาจารย์ที่วัดแห่งหนึ่งจับ ท่านบอกว่าแรงจริง ๆ
ตอบ : บอกเขาว่า ถ้ารับไม่ไหวระวังจะตายเอา ...(หัวเราะ)...

ถาม : เขาบอกว่าพุ่งปรี๊ดเลย พุทธคุณดีทางไหนครับ ?
ตอบ : ชื่อว่าสิ่งที่สมเด็จองค์ปฐมทรงเมตตาสงเคราะห์แล้ว ถือว่าเลิศแล้วในทุกด้าน ถามว่าดีทางไหนจึงตอบไม่ถูก

ถาม : เข้าสงครามได้ไหมครับ ?
ตอบ : ก็ท่านทำมาเพื่อเรื่องสงครามโดยเฉพาะ เอาไปลองดูสิ..ไม่ยาก..อนุญาตให้ลองได้..!

ถาม : กันรังสีปรมาณูได้ไหมครับ ?
ตอบ : ข้อนี้คุณต้องถามท่านเอง ...(หัวเราะ)... เรื่องของพุทธคุณ ถ้าหากว่าจิตใจของเรายึดมั่นจริง ๆ ไม่ต้องมีพระเครื่องก็ได้ โดยเฉพาะคนที่ได้มโนมยิทธิ อาราธนาภาพพระท่านคลุมตัวไปเลย

ถาม : บูชาอย่างไรครับ ?
ตอบ : พระกริ่งพิชัยสงครามมีคาถากำกับเฉพาะ ถ้าอาราธนาติดตัวปกติทั่ว ๆ ไปก็ใช้ "อิทธิฤทธิ พุทธนิมิตตัง ขอเดชะเดชัง ขอเดชเดชะ จงมาเป็นที่พึ่งแก่มะอะอุนี้เถิด"

แต่ถ้าหากจะใช้งานเฉพาะด้าน สมมติว่าเราไปตกอยู่กลางศึกกลางสงคราม ให้ใช้คำภาวนาว่า
"มหาวิชชะโย โหหิ อะสังวาโส สัมปฏิจฉามิ"
ทางไหนมีปืนมีระเบิดหนักที่สุด ก็ให้ฝ่าออกไปทางด้านนั้นแหละ นี่เป็นเรื่องแปลกมาก วิชาหลวงพ่อวัดท่าซุงท่านห้ามกลัว ยิ่งกล้าลุยยิ่งปลอดภัย..!

 

รายการที่ ๗ เหรียญพระปัจเจกพุทธเจ้า วัดสันพระเจ้าแดง ลำพูน + เหรียญพระอุปคุต เนื้อทองแดงผิวไฟ (ชุดละ ๙๙๙ บาท ค่าจัดส่ง ๕๐ บาท) มี ๕ ชุดครับ
รายการนี้ไม่มีกล่องนะครับ<O</O
<O</O
เหรียญพระปัจเจกพุทธเจ้า วัดสันพระเจ้าแดง ลำพูน อธิษฐานจิตโดย
๑. หลวงปู่พิศดู ธัมมจารี วัดเทพธารทอง
๒. หลวงปู่ปลอด วัดโพธินิมิตร
๓. หลวงพ่อบุญยัง วัดห้วยน้ำอุ่น
๔. ครูบากฤษดา สุเมโธ วัดสันพระเจ้าแดง
และก็ได้เข้าพิธีต่างๆของทางวัดสันพระเจ้าแดงมาโดยตลอด
เหรียญสร้างเมื่อเดือนพฤษภาคมปี ๕๓ ออกให้ทำบุญเดือนกุมภาปี ๕๔ งานฉลองพระอุโบสถ เจ้าภาพใหญ่ที่ถวายปัจจัยในการสร้างเหรียญชุดนี้ คือ คุณอาเล็ก ซึ่งเป็นคณะศิษย์สำนักมังกรฟ้าที่ฮ่องกง

" ซึ่งพระปัจเจกพุทธเจ้าในเหรียญ ถอดแบบมาจากพระพุทธรูปเก่าแก่ประจำวัด มีอายุหลายร้อยปีหรืออาจถึงพันปี ช่วงเทศกาลจะมีชาวบ้านมากราบไหว้ขอพรเป็นประจำทุกปี "และ ด้านหลัง บรรจุยันต์เกราะเพชร คือ ได้ทั้งโชคลาภ และป้องกันอันตรายทุกอย่าง
ครูบากฤษดา ท่านบอกว่าเหรียญนี้ " หนักในทางโชคลาภ เมตตามหานิยม "
จำนวนการจัดสร้าง
๑. เหรียญตะกั่วลองพิมพ์ ๕๐ เหรียญ
2. เหรียญเงิน ๑๐๘ เหรียญ
3. เหรียญนวะ ๕๐๐ เหรียญ
4. เหรียญทองแดง ประมาณ ๓,๓๐๐ เหรียญ ( สั่งปั้ม ๓,๐๐๐ เหรียญ และโรงงานแถมให้อีก ๓๐๐ กว่าเหรียญ / ลป.พิศดู & ครูบากฤษดาเสกทุกเหรียญ )<O</O

เหรียญพระอุปคุต (จัดสร้างโดยคุณพี่วุฒิพงษ์) สร้างเพื่อแจกจ่ายเพื่อเป็นสังฆานุสติและอาราธนาเพื่อปกป้องคุ้มครองเพื่อความปลอดภัย<O</O
เหรียญได้ผ่านพิธีดังนี้
๑.ครูบาอริชาติวัดแสงแก้วโพธิญาณ เชียงราย แสดงเจโตฯให้ประจักเพื่อเพิ่มความมั่นใจเพราะไม่ได้ตั้งใจนำให้ท่านอธิฐานจิต
๒.ครูบาพรชัย วัดพระธาตุหมอกมุงเมืององค์นี้ไม่มีอะไรสงสัยในคุณธรรม องค์ไหนๆที่ว่าเก่งๆแล้วจะชวนท่านไปกราบ ท่านไม่ไปท่านบอกว่า หากหลวงพ่อเกษม ท่านลุกมานั่งให้กราบได้ ท่านถึงจะไปกราบ
๓.พิธีพุทธาภิเษกพร้อมพระกริ่งเจริญลาภยศบารมี โดยแม่ชีน้อย สายในดงวันทำพิธีปกติก่อนหน้าแดดร้อนจัด ช่วงทำพิธีอากาศเย็นสบายคุณแม่ท่านทำพิธีให้เป็นอย่างดี สีหน้าแววตาท่านเปลี่ยนโดยสิ้นเชิงผมยังกลัวในตบะเดชะ แฟนผมกำหนดดูเห็นหลวงปู่ใหญ่คุมอยู่มีผู้ปฎิบัติธรรมศิษย์คุณแม่ชี มาสะกิดผมหลังพิธีว่างานนี้ครูบาอาจารย์มากันเยอะจริงๆ
๔.เข้าร่วมพิธีเข้านิโรธกรรม คุณแม่ชีภาท่านจะเข้านิโรธฯ ๑๕ วัน เป็นเวลาหลายปีแล้ว มีคนคิดปรามาสว่าจริงหรือท่านไม่อยากให้เป็นบาป จึงให้ติดกล้องวงจรปิด ดูกันได้ตลอด ๒๔ ชั่วโมงท่านนั่งนิ่งสนิท ตลอด ๑๕ วัน ไม่ขบฉัน ไม่ถ่ายหนักเบา คุณแม่เตตาเป็นพิเศษนำไปไว้ในห้องกรรมฐาน ตลอด ๑๕ วัน หายห่วงครับ เพราะท่านถึงพระฯ
๕.ครูบาฤษดาวัดสันพระเจ้าแดง ครูบาท่านเมตตาให้ครั้งนี้เป็นพิเศษ คุยไปเศกไปเดี๋ยวนิ่งไปสักพัก และสลับคุยไปตามสบายๆ และท่านก็กล่าวว่า เราเสกให้นานแล้วนะนับสองชั่วโมง และนั่งอธิฐานจิตอย่างเป็นทางการอีกพักใหญ่จึงมั่นใจได้ครับเพราะท่านถึงพระถึงท่านปู่พระอุปตุคแน่นอน
๖.วันนี้เข้าพิธีพุทธาภิเษกบวงสรวงหล่อสมเด็จองค์ปฐมสี่ศอกวัดศรีชุมโดยมีหลวงพ่อพระมหาสิงห์ วัดพระพุทธบาทถ้ำป่าไผ่ อ.ลี้ ลำพูน และหลวงปู่ครูบาบุญมาวัดสามัคคี ร่วมกันอธิฐานจิต แบบจัดเต็ม ได้รับพลังบารมีสมเด็จฯ พระ เทพพรหมทุกชั้นฟ้า ต้องลงมาโมทนาบุญเพราะเป็นบุญใหญ่มากครับ<O</O
<O</O
ครูบากฤษดา อธิฐานจิตเดี่ยวปิดท้าย เปี่ยมล้นด้วนพุทธานุภาพ ในพระวิหารซึ่งมีรูปหล่อองค์ท่านปู่อุปคุตมหาเถระประดิษฐานอยู่ด้วย นานนับชั่วโมงครับ ท่านเหรียญมาพิจารณา แล้วกล่าวว่าอืม สวยดีนะ แล้วพลิกดูด้านหลังเหรียญ แล้วกล่าวว่านะภะระ หัวใจพระรอด

ขอขอบคุณข้อมูลจากกระทู้คุณพี่วุฒิพงษ์ครับ<O</O

 

รายการที่ ๘ พระโคโพธิ์สัตว์ จัดสร้างโดยคุณพี่วุฒิพงษ์ + สีผึ้งพญาไก่แก้ว ครูบากฤษดา วัดสันพระเจ้าแดง ลำพูน (ชุดละ ๙๙๙ บาท ค่าจัดส่ง ๕๐ บาท) รายการนี้ ไม่มีกล่องนะครับ มี ๕ ชุดครับ เหลือ ๔ ชุด
คุณrunkeyจอง ๑ ชุดครับ

พระโคโพธิ์สัตว์ จัดสร้างโดยคุณพี่วุฒิพงษ์ เพื่อที่ระลึกในการร่วมบุญสร้างหลังคาครอบรอยพระพุทธบาทคู่ ที่พบใหม่ บริเวณ ไม่ห่างจาก วัดพระพุทธบาทห้วยต้ม เป็นพระพุทธบาทคู่ ขอสมเด็จพระปทุมมุตระสัมมาสัมพุทธเจ้าและองค์สมเด็จพระสมณโคม ซึ่งขณะนี้ มีพระคุณเจ้า ศิษย์พระเดชพระคุณหลวงพ่อพระมหาสิงห์ วิสุทโธ ได้อยู่ดูแลเฝ้ารอยพระพุทธบาท พระคุณเจ้าจึงมีดำริจะทำหลังคาครอบรอยพระพุทธบาท เป็นการป้องกันแดดฝน เพื่อเป็นพุทธบูชา
[FONT=TH SarabunIT๙]<O</O[/FONT]
ครูบากฤษดา เสกให้ ๓ วาระ อธิษฐานจิตให้เป็นพระโคอสุภราช วัวขาวของพระอินทร์ มาเสกในวันพืชมงคลที่เป็นวันเกี่ยวข้องกับพระโค ก็เป็นวัวสีขาวอีก แถมพระโคคู่พระราชพิธียังกำเนิดที่ห้วยไซใต้บ้านธิอีกต่างหาก อะไรจะเข้ากันขนาดนี้ สาธุครับ แรง ฤทธิ์ ขลังสุดๆ<O</O
ท่านให้บอกคนที่บูชาด้วยว่า พระโคนี้ เป็นพระโคของพระอินทร์ วรรณขาว อธิฐานขอได้ตามประสงค์ ไม่มีพิธีอะไร เลี่ยมติดพวงกุญแจก็ได้ ตั้งบูชาก็ได้ ครับ<O</O
<O</O
[FONT=TH SarabunIT๙]ครูบาสาย แห่งพุทธสถานพระพุทธบาทเขากะลา ทำพิธีอัญเชิญบารมีพระฯ ลงสู่พระโค ณ ปริมณฑล หน้าสมเด็จองค์ปฐม โดยมีคุณอาหม่อม... และผู้ทรงกรรมฐาน ร่วมพิธี ครับ เกิดแสงให้เป็นกำลังใจเล็กน้อย จบพิธีทราบว่า ได้รับพระมหากรุณาพระเมตตาอันหาประมาณมิได้ของสมเด็จองค์ปฐมบรมศาสดาแผ่พุทธรังสีบารมีลงสู่วัตถุมงคลชุดนี้ด้วยครับ พี่ท่านนี้ที่ผมฝากไว้ในห้องกรรมฐาน ท่านมาบอกว่า หลังจากเจริญพระกรรมฐานแล้ว ปรากฎในนิมิตว่า พระโคนี้มีฤทธิ์มาก ขออะไรก็จะสำเร็จ ท่านพูดสั้นๆแค่นี้ครับ ถามต่อท่านก็แค่ยิ้ม ท่านว่าแรงนะ ฤทธิ์เยอะ <O</O[/FONT]
[FONT=TH SarabunIT๙]วัวธนู(พระโคโพธิสัตว์) มีอานุภาพป้องกันภูติผีปีศาจทั้งปวง ป้องกันไศยศาสตร์ มนต์ดำ อีกทั้งเป็นเมตตามหานิยมโชคลาภ <O</O[/FONT]
[FONT=TH SarabunIT๙]<O</O[/FONT]

ชนวนมวลสาร
ชนวนพระกริ่งพระพุทธสิกขีทศพล
ชนวนพระกริ่งจตุรพิธพรชัย
ชนวนสมเด็จองค์ปฐมวัดพุทธโมกข์
ชนวนมีดฟ้าฟื้น
ชนวนพระขรรค์จักพรรดิ์ปราบไพรีพินาศ
ชนวนพระกริ่งเจริญลาภยศบารมี
ฯลฯ
<O</O

[FONT=TH SarabunIT๙]สีผึ้งพญาไก่แก้ว[/FONT]

[FONT=TH SarabunIT๙]ครูบากฤษดา สุเมโธ ได้หุงสีผึ้งจากมวลสารต่างๆ มากมาย อาทิเช่น ว่านร้อยแปด , เทียนชัยในพิธีพุทธาภิเษกของวัดต่างๆ , ขี้ผึ้งที่ใช้ปิดปาก ปิดตางานสมโภชพระพุทธรูป ตามแบบโบราณล้านนา , เกสรดอกไม้นามมงคล , ตะไคร่ที่ขึ้นตามอุโบสถ และเสมา , ผงลบมงคล , น้ำมันจันทร์ , น้ำมันงา และน้ำมันมะพร้าว จากนั้นจึงนำมากวนผสม และปลุกเสกตามคติล้านนาโบราณ กล่าวคือ ต้องทำการปลุกเสกในวันที่เกิดจันทรคราส ให้ครบ ๓ ครั้ง จึงจะเสริมพุทธานุภาพให้สีผึ้งนั้นมีความศักดิ์สิทธิ์มากยิ่งขึ้นหลังจากการปลุกเสกในครั้งนั้น ท่านก็เก็บรักษาสีผึ้งชุดนี้ไว้ที่หอสวดมนต์ (กุฏิพระเจ้าแดง) มาโดยตลอด ทุกครั้งที่วัดมีพิธีพุทธาภิเษก หรืองานบุญต่างๆ ท่านก็จะทำการเสกกำกับไปเรื่อยๆ [/FONT]จากวันที่ได้ทำการปลุกเสกครั้งแรก จนถึงปัจจุบันนี้ สีผึ้งชุดนี้ก็ผ่านการปลุกเสกมากว่า ๙ ปีแล้ว

พุทธานุภาพของสีผึ้งพญาไก่แก้วนี้ เด่นทางด้านเมตตา มหานิยม มหาเสน่ห์ ใช้ในทางเจรจา ค้าขาย ขึ้นโรง ขึ้นศาล หย่าศึก เจรจาคดีความ ทาปาก หรือคิ้วก็ได้ , จะใช้เจิมสินค้าที่ขายก็ได้ หรือจะใช้พกติดตัว , ตั้งบูชาที่บ้าน , ที่ร้าน ก็ได้ผลเช่นเดียวกัน

ก่อนที่จะทาสีผึ้ง หรือเจิม ให้ตั้งนะโม ๓ จบ จากนั้นให้ทำใจให้สบายๆ แล้วว่าคาถา กิกุกุ ๓ จบ หากจะทาปากให้วนขวา (ตามเข็มนาฬิกา) จะใช้นิ้วใดก็ได้ มีข้อห้ามเพียงอย่างเดียวว่า มิให้ใช้สีผึ้งเจิม หรือทาปากในวันอาทิตย์ (ตามตำราโบราณได้กล่าวไว้ว่า จะทำให้ม้วย ซึ่งม้วยในภาษาเหนือแปลว่า ตาย) หากมีความจำเป็น ให้ใช้สีผึ้งพกติดตัวในวันดังกล่าวแทน<O</O
[FONT=TH SarabunIT๙]<O</O[/FONT]

หากใครเผลอเลยทำผิดจากที่ข้อห้ามได้บอกไว้ โดยผมได้สอบถามข้อมูลจากคุณณัฐ ให้กราบเรียนถามท่านครูบามาครับ ให้ทำการแก้ดังนี้ครับ "ท่านให้ทำใจให้สบาย เอาช่วงเวลาที่เราสบายใจ สวดมนต์ระลึกถึงพระรัตนตรัย และพ่อแม่ ครูบาอาจารย์ จากนั้นก็นำทองคำเปลว ไปแปะไว้ตรงจุดที่เราใช้สีผึ้ง แล้วก็คลึงๆ เดี๋ยวทองคำเปลวก็จะเป็นเนื้อเดียวกับสีผึ้งครับ"<O</O
[FONT=TH SarabunIT๙]<O</O[/FONT]

ขอขอบคุณข้อมูลจากกระทู้คุณพี่วุฒิพงษ์และกระทู้คุณkang_som ครับ<O</O

 

ผมขอยกเลิกการจองรายการนี้ก่อนครับ ต้องขอโทษด้วยครับ ขอบคุณครับ

 

ไม่เป็นไรครับ ไว้ชมรายการอื่นที่ถูกใจได้ภายหลังครับ ขอบพระคุณที่แจ้่งให้ทราบครับ./

 

รายการที่ ๙ พระสมเด็จปฐวีธาตุ รุ่นพิเศษ ให้บูชาแล้วครับ
หลวงปู่คำพันธ์ท่านได้นำองค์ปฐวีธาตุที่ได้มาจากแม่น้ำโขงทั้งหมดในช่วงยุคแรกๆ ที่เก็บไว้ในกุฏิ หลวงปู่ทำการปลุกเสกยาวนานมาก นำมาบดเป็นผงเพื่อทำเป็นพระพุทธปฐวีธาตุ เพื่อให้พุทธศาสนิกชนได้บูชาติดตัวเพื่อเป็นเครื่องปกป้องคุ้มครองตน

หลวงปู่บอกว่าให้เป็นพิมพ์พระสมเด็จ เอาพระพุทธเจ้าเป็นประธานนำหน้า ด้านหลังเขียนว่าปฐวีธาตุ เพราะเป็นมวลสารจากองค์ปฐวีธาตุจากลุ่มน้ำโขงล้วนๆ ซึ่งพญานาคเป็นผู้มอบให้หลวงปู่เอง

หลวงปู่บอกว่าสมเด็จรุ่นนี้เป็นรุ่นแรกของหลวงปู่ ที่หลวงปู่ได้นำปฐวีธาตุมาบดเป็นผง เนื่องจากพระท่านต้องการให้ทำแบบนี้ ปฐวีธาตุเป็นสิ่งวิเศษอยู่แล้ว แต่พระท่านต้องการให้มี พระนำหน้าจึงจะดีมากกว่านี้ หลวงปู่จึงสร้างตามดำริของพระบนฟ้าที่ท่านเมตตาหลวงปู่เรื่อยมา

หลวงปู่บอกว่าขอบารมีพระพุทธเจ้าเป็นประธาน และได้บารมีจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในตัวเองคือปฐวีธาตุช่วยเกื้อหนุน เพียงเท่านี้พุทธคุณก็หาประมาณมิได้แล้ว...ที่สำคัญกว่านั้นมีพญานาคปกป้องพระสมเด็จทุกองค์

หลวงปู่ต้องใช้กำลังขั้นสูง วิธีเดียวกับท่านเจ้าคุณ<?xml:namespace prefix = st1 ns = "urn:schemas-microsoft-com</st1ersonName>นร วัดเทพศิรินทราวาส ดังนั้นผลที่ได้จากการบูชาจะสำฤทธิ์ผลทุกประการ

พระของหลวงปู่คำพันธ์ สามารถกันรังสีได้ ท่านบอกไว้เอง(รู้เรื่องในภายภาคหน้า) พระของที่ท่านอธิฐานก็จะรวมพุทธบารมี ธรรมบารมี อริยะสังฆบารมี และบารมีพระโพธิสัตว์ทุกพระองค์ ท่านเชิญมาหมดมีพุทธคุณคุณวิเศษครบครัน<O</O
<O</O

“ปฐวีธาตุ” หรือ “พระเพชร”แห่งลุ่มแม่นำโขง
หลวงปู่คำพันธ์ โฆษปัญโญ วัดธาตุมหาชัย นครพนม
ย้อนไปเมื่อสมัยท่านเจ้าคุณนรฯ ยังทรงสังขารอยู่ ท่านเคยปรารภว่า พระรูปเหมือนนั่งใบโพธิ์ของท่านประสบความสำเร็จ (คือมีคนนิยมมาก) ต่อไปจะมีผู้ร้างพระใบโพธิ์อีกมากมายแต่ไม่ประสบความสำเร็จดังเช่นของท่าน หากจะมีพระทางภาคอีสานรูปหนึ่ง ประสบความสำเร็จในพระรูปเหมือนใบโพธิ์เช่นของท่าน แต่พระรูปนั้นจะต้องอธิษฐานจิตปฐวีธาตุได้ด้วย จึงได้เกิดการตามหาพระรูปนั้นหลังจากที่สิ้นท่านเจ้าคุณนรฯ ไปแล้ว
หลวงปู่คำพันธ์ โฆษปัญโญ วัดธาตุมหาชัย นครพนม คือพระรูปนั้น ท่านได้ทำปฐวีธาตุแจกศิษย์มาแต่ปี พ.ศ. 2495 ก่อนท่านเจ้าคุณนรฯ เสียอีก ท่านได้เล่าให้ฟังว่า ท่านได้รับตำราการอธิษฐานจิต“ ปฐวีธาตุ” มาตั้งแต่ยังเป็นพระหนุ่มโดยได้มีชายผู้หนึ่งได้นำมาถวายให้ท่านตามคำสั่งเสียของบิดาก่อนตาย โดยบิดาของชายผู้นั้นได้สั่งกำชับบุตรชายไว้ว่า เมื่อพ่อตายแล้วจงเอาคัมภีร์เล่มนี้ไปมอบให้กับหลวงพ่อคำพันธ์แต่เพียงรูปเดียวเท่านั้น ซึ่งตำราเล่มนั้นเขียนด้วย “ตัวธัมใหญ่” ทั้งหมดซึ่งถือว่าเป็นอักขระที่มีความศักดิ์สิทธ์สูงสุด ใช้จารเฉพาะตำราชั้นสูงเท่านั้น เป็นตำราที่ว่าด้วยการ “อธิษฐานปฐวีธาต” สามารถทำธาตุธรรมชาติธรรมดาให้มีอานุภาพ มีพลังงานขึ้นมาได้อย่างน่าอัศจรรย์ ท่านจึงศึกษาวิธีการจนแตกฉาน จดจำได้ทุกขั้นตอน ในเวลาต่อมาก็มีพระภิกษุรูปหนึ่งมาขอตำรานั้นไป ท่านก็กรุณามอบให้ ทุกวันนี้ยังไม่ทราบว่าไปอยู่ที่ใคร

หลวงปู่คำพันธ์ได้เมตตาอธิบายถึงคุณลักษณะของปฐวีธาตุที่ถูกต้องตามตำราทุกประการว่า ต้องเป็นกรวดที่แช่อยู่ในแหล่งน้ำธรรมชาติเท่านั้น จะอยู่บนบกไม่ได้ ตัวกรวดเมื่อเก็บขึ้นมาต้องมีลักษณะเดิมตามธรรมชาติของเขา จะบิ่น จะแตกหักหรือร้าวไม่ได้เลย ที่สำคัญสุดยอด คือต้อง “โปร่งแสง” เท่านั้น และด้วยคุณลักษณะเช่นนี้เองที่ทำให้ปฐวีธาตุของหลวงปู่คำพันเป็นของหายากที่สุด แม้ว่าทางวัดจะพำยายามแก้ไขด้วยการนำกรวดจากแม่น้ำโขงชนิดขุ่นมาถวายท่านอธิษฐานแทนก็ตาม แต่ก็หาถูกต้องตามตำราบังคับไม่ หากท่านก็อนุโลมให้เป็นปฐวีธาตุได้เช่นกัน ผิดกับครูบาอาจารย์ท่านอื่นๆเช่น ท่านเจ้าคุณนรฯ “ปฐวีธาตุ” ของท่านจะต้องได้มาจากอำเภอบางบ่อ จังหวัดสมุทรปราการเท่านั้น จะใสหรือขุ่น ใหญ่หรือเล็กไม่สำคัญ นอกจากนี้ในตำรายังได้ระบุไว้ว่า ผู้จะอธิษฐานปฐวีธาตุได้นั้นต้องเป็นผู้เดินวิปัสสนาล้วน จะเป็นผู้เล่นทางสายวิชาคือ คาถาอาคมไม่ได้เลย

มูลเหตุของการอธิษฐานจิตปฐวีธาตุ
สืบเนื่องจากในช่วงก่อนปี 2500 บ้านเมืองยังเต็มไปด้วยผู้ก่อการร้าย ทำให้เหล่าทหาร ตำรวจและข้าราชการต่างๆ มาขอของดีจากท่านเอาไว้คุ้มตัว ท่านจึงได้ให้เหล่าทหารและชาวบ้านไปเก็บหินในแม่น้ำโขงมาให้ท่านอธิษฐานจิต ท่านบอกว่า ท่านเสกด้วยพระคาถาชินบัญชรเช่นเดียวกับปฐวีธาตุของท่านเจ้าคุณนรฯ แล้วเสกหนุนธาตุต่างๆตั้งให้เป็นองค์พระและธาตุปฐวีคือ ธาตุหินนี้แกร่ง ท่านจึงเรียกปฐวีธาตุของท่านว่า “ พระเพชร “
ลป.คำพันธ์ ท่านเก่งในการคุมธาตุสี่ น้ำ ดิน ลม ไฟ จนเป็นที่ยอมรับโดยทั่ว ลป.โต๊ะฯ ก็อีกรูปหนึ่ง เมื่อท่านนำ”ปฐวีธาตุ”มาเสกก็จะเรียกธาตุ 4 ทีละธาตุแล้วรวมธาตุเป็นหนึ่ง เสกบรรจุลงในก้อนปฐวีธาตุนั้น เมื่อนำมาใช้ธาตุสี่ในตัวเราก็จะผสานกับปฐวีธาตุนั้น สรรพคุณสุดแท้จะอธิษฐานเอา ในเวลาอธิษฐานปฐวีธาตุหลวงปู่ท่านจะอธิษฐานว่า ให้ป้องกันภัยอันจะเกิดแต่ธรรมชาติก็ดี ภัยอันเกิดแต่มนุษย์ก็ดี กันได้ทั้งสิ้น กันภัยจากอาวุธยุทโธปกรณ์ทุกชนิดที่มีอยู่ในปัจจุบัน และที่จะมีขึ้นในอนาคต ท่านเรียกการอธิษฐานแบบนี้ว่า “เสกครอบลงไป” การเสกแบบนี้ไม่เหมือนกับการเสกพระเครื่องทั่วไปของท่าน ท่านจึงย้ำว่า “ ปฐวีธาตุนี้เป็นของที่ดีที่สุดเท่าที่มีอยู่ ”
หลวงปู่คำพันธ์ท่านเคยกล่าวกับลูกศิษย์ถึงอานุภาพความศักดิ์สิทธิ์ของปฐวีธาตุของท่านว่า คุ้มครอง คุ้มภัย กันฟ้า กันไฟ ปฐวีธาตุแห่งแม่น้ำโขงนี้เป็นธาตุเย็น อานุภาพแห่งองค์พระเพชร สามารถป้องกันภัยอันเกิดจากรังสีความร้อนที่จะเกิดขึ้นอย่างฉับพลันได้
การบูชาปฐวีธาตุ
หลวงปู่สั่งว่า เมื่อได้มาแล้วถ้าจะบูชาติดตัวก็พยายามเลี่ยมแบบเปิดหน้า เปิดหลังให้ปฐวีธาตุได้สัมผัสกับไอของร่างกาย ธาตุจะดึงดูดซึ่งกันและกันปรารถนาสิ่งใดก็ให้ตั้งจิตเอา ปฐวีธาตุช่วยได้ แต่ถ้าบูชาอยู่กับบ้าน ให้เอาปฐวีธาตุแช่น้ำสะอาดตั้งบูชาไว้บนที่สูง ใส่น้ำอบ น้ำหอมผสมลงในน้ำเป็นการบูชา ลอยด้วยดอกมะลิหรือดอกไม้หอมอื่นก็ได้ จุดธูปบูชา 7 ดอก สวดบทพุทธคุณ ธรรมคุณ สังฆคุณ แล้วต่อด้วยพระคาถานี้
“ หิตะหิรา มันทิโล กะสิรา กะละลาสติ โสจะถิโห คะเนตะเน ” ( 3จบ )
แล้วตั้งจิตระลึกถึงคุณพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ คุณมารดา บิดาคุณครูบาอาจารย์ พระคุณของหลวงปู่คำพันธ์ โฆษปัญโญ เหล่าพญานาคผู้รักษาองค์พระธาตุพนมและพระธาตุมหาชัย และทั้งที่สถิตอยู่ในลำน้ำโขงปรารถนาสิ่งใดก็อธิษฐานเอา หลวงปู่บอกว่า ปฐวีธาตุมีคุณวิเศษครอบจักรวาลมีทุกข์ร้อนสิ่งใดก็ให้บอกกล่าว สามารถช่วยเหลือได้จริง
การลอยดอกไม้ในน้ำให้ทำเฉพาะวันพระ เมื่อหมดวันพระแล้วให้ช้อนดอกไม้ออกอย่าให้เน่าเสียคาภาชนะเด็ดขาด น้ำหล่อปฐวีธาตุถ้าจะเปลี่ยนให้นำไปประพรมบ้านเรือนหรือสาดขึ้นหลังคาบ้านเป็นสิริมงคลนัก กันภัยนานาชนิด
หมายเหตุ การที่หลวงปู่ท่านให้แขวนแบบเปิด ไม่ได้หมายความว่ากลัวพุทธคุณจะออกมาไม่ได้ แต่เป็นวิธีการ "ใช้งาน" ในแบบเฉพาะของวัตถุมงคลประเภทนี้ ที่ทำแบบนั้นก็เพราะต้องการให้กระแสธาตุในร่างกายเราได้สัมผัสกระแสธาตุในองค์ปฐวีธาตุพลังงานในปฐวีธาตุน่ะออกมาหาเราได้ แต่พลังงานในกายเราเข้าไปหาเขาไม่ได้ จึงจำเป็นที่จะต้อง "เลี่ยมเปิด" เพื่อสงเคราะห์ตัวเราเอง ไม่ใช่เพื่อช่วยเหลือท่าน
ปฐวีธาตุต่างกับพระเครื่องอย่างไร
ปฐวีธาตุต่างจากพระเครื่องตรงที่กรวดจากแม่น้ำโขงซึ่งหลวงปู่นำมาอธิษฐานเหล่านั้น พวกนาคเขาถือว่าเป็นสมบัติอย่างหนึ่งของเขา กรวดเหล่านั้นจึงมีพลังงานของพวกเขาติดมาด้วย และเมื่อได้รับการอธิษฐานด้วยกระบวนการทางจิตที่ซับซ้อนอย่างยากที่เราจะเข้าใจ ก็จะทำให้กรวดเหล่านั้นเกิดพลังงานมหาศาลชนิดที่เราก็ไม่เข้าใจอีกอยู่ดีว่าเป็นเช่นนั้นได้อย่างไร
พลังงานมหาศาลที่ว่านี้ หลวงปู่คำพันธ์รับรองว่า กันนิวเคลียร์ได้
เมื่อปฐวีธาตุซึ่งมีพลังงานแฝงอยู่แล้ว ได้รับการอธิษฐานจากจิตที่มีพลังงานมหาศาลเพราะได้รับการฝึกฝนมาดีเยี่ยม พุ่งกระแสลงไปสู่หินเป็นจุดเดียว กระแสจิตที่แรงกล้าเกิดกระทบกับพลังงานที่อยู่ในหินแล้วกระจายตัวออกเป็นวงกว้าง เป็นคลื่นรังสีที่มีพลัง งานแรงสูง พอที่จะให้ความคุ้มครองผู้บูชาตามที่ผู้อธิษฐานได้ "ตั้งโปรแกรม” ไว้
นอกเหนือไปจากหมู่นาคทั้งหลายที่จะขึ้นมาพิทักษ์รักษาผู้ครอบครองปฐวีธาตุเมื่อยามเกิดภัยพิบัติตามคำทำนาย ชนิดปฐวีธาตุ 1 องค์ ต่อพญานาค 1 ตน ซึ่งคุณสมบัติดังกล่าวไม่อาจมีในพระเครื่องที่ถูก "สร้าง" ขึ้นด้วยน้ำมือมนุษย์ ผิดกับ "ปฐวีธาตุ" ที่ถูกรังสรรค์ขึ้นจากผลงานของธรรมชาติ จึงเก็บประจุพลังงานจากธาตุทั้งสี่และรังสีจากจักรวาลมาเนิ่นนานนับได้เป็นล้าน ๆ ปี
ครูบาอาจารย์ผู้มีจิตอัศจรรย์เข้าถึงหลักธรรมชาติอย่างถ่องแท้จึงมักทำปฐวีธาตุให้ศิษย์ อาทิ ท่านเจ้าคุณนรฯ วัดเทพศิรินทร์ หลวงปู่ขาว อนาลโย วัดถ้ำกลองเพล หลวงปู่ดูลย์ อตุโล วัดบูรพาราม ท่านพ่อเมือง พลวัฑโฒ วัดป่ามัชฌิมวาส
ซึ่งก็ตรงตามที่หลวงปู่คำพันเคยบอกว่า "ผู้ที่จะอธิษฐานปฐวีธาตุได้นั้น ต้องเป็นผู้เดินวิปัสสนาล้วน จะเป็นผู้ที่มาทางสายวิชาอาคมไม่ได้เลย"
และนี่คือสาเหตุที่ว่าทำไม "ปฐวีธาตุ" จึงมีความแตกต่างจากพระเครื่องมากมายนัก<O</O