ธูปมรณะ - สุดอันตราย ก่อเกิดโรคมะเร็งปอด

ในห้อง 'จิตวิทยา & สุขภาพ' ตั้งกระทู้โดย terryh, 27 กรกฎาคม 2008.

  1. terryh

    terryh เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    768
    ค่าพลัง:
    +1,280
    สุขภาพ : สุขภาพ

    ธูปมรณะ - สุดอันตรายก่อเกิดโรคมะเร็งปอด


    <!--top-conner-->

    27 กรกฎาคม พ.ศ. 2551 01:00:00


    ธูปมรณะ

    [​IMG]
    :
    ควันธูปปะปนไปด้วยสารต่างๆ มากมาย ทั้งฝุ่นละอองขนาดเล็ก ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ คาร์บอนมอนอกไซด์ ไนโตรเจนออกไซด์ มีเทน รวมถึงสารชื่อแปลกๆ อีก 3-4 ชนิด ซึ่งก็คงไม่ได้สลักสำคัญอะไร หากมันไม่ได้ถูกให้คำจำกัดความจากแพทย์ว่าเป็น "สารก่อมะเร็ง" ตัวฉกาจ

    กรุงเทพธุรกิจ ออนไลน์ : ควันธูปสีขาวลอยคละคลุ้งอยู่เหนือแท่นบูชา ชวนให้นึกถึงบรรยากาศแห่งความศักดิ์สิทธิ์ การอธิษฐาน การเชื่อมโยงโลกแห่งความจริงกับโลกทางจิตวิญญาณ แต่เคยนึกสงสัยหรือไม่ว่า ควันสีขาวที่ดูบริสุทธิ์ นุ่มนวล และมีมนต์ขลังนั้น มีอะไรปะปนอยู่บ้าง
    ข้อสังเกตง่ายๆ ที่หลายคนรู้สึกได้ด้วยตัวเอง เช่น แสบตา ไอ หรือจาม คือปัจจัยแรกๆ ที่ทำให้เกิดการตั้งคำถามถึงสารที่ถูกปล่อยออกมาพร้อมกับการเผาไหม้ ผลการวิจัยทั้งในและต่างประเทศในรอบหลายปีที่ผ่านมาต่างยืนยันว่า ควันธูปปะปนไปด้วยสารต่างๆ มากมาย ทั้งฝุ่นละอองขนาดเล็ก ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ คาร์บอนมอนอกไซด์ ไนโตรเจนออกไซด์ มีเทน รวมถึงสารชื่อแปลกๆ อีก 3-4 ชนิด เช่น ฟอร์มาดีไฮด์ เบนซีน บิวทาไดอีน ซึ่งก็คงไม่ได้สลักสำคัญอะไร หากมันไม่ได้ถูกให้คำจำกัดความจากแพทย์ว่าเป็น "สารก่อมะเร็ง" ตัวฉกาจ

    นายแพทย์มนูญ ลีเชวงวงศ์ หัวหน้า ไอ ซี ยู โรงพยาบาลวิชัยยุทธ เป็นผู้หนึ่งที่ตั้งข้อสงสัยเกี่ยวกับเรื่องนี้ เนื่องจากประสบการณ์ในการรักษาผู้ป่วยโรคมะเร็งพบว่า หลายคนโดยเฉพาะผู้หญิงไม่ได้มีประวัติสูบบุหรี่หรืออยู่ใกล้ชิดกับผู้สูบบุหรี่ และไม่มีประวัติสัมผัสกับสารก่อมะเร็งจากการประกอบอาชีพ คุณหมอจึงได้ร่วมกับสถาบันวิจัยจุฬาภรณ์ ทำการการประเมินผลกระทบต่อสุขภาพของคนงานที่ปฏิบัติงานในวัด 3 แห่ง ในจังหวัดอยุธยา ฉะเชิงเทรา และสมุทรปราการ จำนวน 40 คน เปรียบเทียบกับคนงานในหน่วยงานที่ไม่มีการจุดธูปจำนวน 25 คน ซึ่งคำตอบที่ได้อาจทำให้หลายคนต้องยกมือปิดจมูกทันทีเมื่อได้กลิ่นธูป เนื่องจากตัวเลขยืนยันว่า ควันธูปที่คละคลุ้งอยู่ในวัดต่างๆ มีปริมาณสารก่อมะเร็งสูงยิ่งกว่านิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุดเสียอีก

     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 27 กรกฎาคม 2008
  2. pongdoo

    pongdoo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    247
    ค่าพลัง:
    +106
    :cool: เป็นความรู้ดีครับ....อนุโมทนาครับ...ขอบคุณครับ....[​IMG]
     
  3. hon9999

    hon9999 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 มกราคม 2008
    โพสต์:
    665
    ค่าพลัง:
    +2,430
    แล้วจะทำไงดีครับ อยากจุดธูปบูชา แต่ก็กลัว
     
  4. terryh

    terryh เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    768
    ค่าพลัง:
    +1,280
    อ้างอิงจากคำสอนของพระอริสงฆ์บางรูป และจาก หลักฐานหลาย ๆ อย่างที่ได้จากหลักจารึกบนหินซึ่งจัดทำขึ้นในสมัยพระเจ้าอโศกมหาราช ที่พึ่งค้นพบในประเทศอินเดีย ในสมัยพุทธกาล การใช้ธูป เทียน ใช้ในหมู่กลุ่มบางพวกบางกลุ่มลัทธิ พวกพราห์ม เพื่อบูชาเทพเจ้า เป็น เทวนิยม แต่ องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ได้สั่งสอนพุทธบริษัท ให้เข้าถึงแก่นธรรมด้วยปัญญา โดยมีสัมมาสติ ระลึกรุ้ พิจารณาจากความเป็นจริง ซึ่งมิใช่เทวนิยม นับถือบูชาเทพเจ้า ด้วยธูป เทียน เน้นการพิจารณาศึกษาข้อเท็จจริง มิใช่การบวงสรวงอ้อนวอน เซ่นไหว้ ด้วยธูปเทียน ดั่งที่ชาวพุทธได้เข้าใจผิด ๆ มานาน จริงแล้วศาสนาพุทธ เป็นอเทวะนิยม ไม่นับถือ บวงสรวงซึ่งเทพเจ้า มีคำสอนในบาลี ว่าถ้าศรัทธา นับถือ พระพุทธเจ้า คือการปฎิบัติธรรม ด้วยปัญญาพิจารณา มีสัมมาสติ ระลึกรู้ ไม่ต้องใช้ ธุปเทียน ใด ๆ เลย
     
  5. Orora416

    Orora416 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    135
    ค่าพลัง:
    +112
    การสูดดมควันธูปเป็นระยะเวลานานๆ อาจจะทำให้เป็นโรคเกี่ยวกับทางเดินหายใจ
    เช่น โรคแพ้อากาศ เป็นต้น
    ที่บ้านมีคนเป็นโรคนี้ เพราะควันธูปเป็นเหตุ
     
  6. มหา

    มหา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    827
    ค่าพลัง:
    +973
    เอาน้ำหอมพรมแทนการจุดธูป เฮ่อ ๆ ธูปมีต้นกำเนิดาจากการจุดกำยานไม้หอมเพื่อให้เกิดกลิ่นบูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เราก็เอาอานิสงค์เครื่องหอม พรหมน้ำหอมเลย ดีดี
     
  7. ต้นโมก

    ต้นโมก สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    223
    ค่าพลัง:
    +19
    ถ้าใช้แบบธูปไฟฟ้าจะได้ม๊ะคะ (เคยเห็นมีขายคะ) อนิสงค์แตกต่างกันป่าวคะ
     
  8. สังขารไม่เที่ยง

    สังขารไม่เที่ยง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    5,943
    ค่าพลัง:
    +24,697
    <TABLE class=tborder style="BORDER-TOP-WIDTH: 0px" cellSpacing=1 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=thead colSpan=2>วันนี้ 05:10 PM</TD></TR><TR title="โพส 1387536" vAlign=top><TD class=alt2 align=middle width=125>ต้นโมก</TD><TD class=alt1>ถ้าใช้แบบธูปไฟฟ้าจะได้ม๊ะคะ (เคยเห็นมีขายคะ) อนิสงค์แตกต่างกันป่าวคะ </TD></TR></TBODY></TABLE>

    เมื่อยุคสมัยเปลี่ยนไป......วัตถุดิบในการผลิตจึงเปลี่ยนไปจากสมัยโบราณค่ะ

    ของทุกอย่างที่เรากิน ๆ ใช้ ๆ กันในชีวิตประจำวัน ก็มีแต่สารสังเคราะห์ค่ะ เป็นอันตรายกับชีวิตของเราทั้งนั้นเลยนะคะ

    เราไหว้พระ....เราไม่ได้จุดธูปมาหลายปีแล้วค่ะ....เพราะเราแพ้กลิ่นควัญทุกชนิดเลยค่ะ

    แต่เราเชื่อมั่นว่า.....คงไม่เป็นไรค่ะถ้าหากว่าจะไม่จุดธูปถวายพระ....เราใช้ของหอมอย่างอื่นแทนก็ได้ค่ะ....เช่น น้ำหอม น้ำอบ ดอกไม้ หรือธูปเทียนไฟฟ้า...เพราะทุกอย่างอยู่ที่เจตนาค่ะ

    อีกอย่างนะคะ....จุดธูปจุดเทียนในบ้าน ในห้องพระ เสี่ยงต่อการเกิดอัคคีภัยด้วยค่ะ
     
  9. terryh

    terryh เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    768
    ค่าพลัง:
    +1,280
    พระพุทธองค์ ท่านเน้นการปฎิบัติบูชา คือการละกรรมชั่ว สร้างแต่กรรมดี ตั้งมั่นในศีลให้บริสุทธ์ และทำจิตให้สะอาดผ่องแผ้ว ละซึ่งโลภ โกรธ หลง อันเป็นต้นเหตุของกรรมชั่ว โดยไม่มีความจำเป็นต้องใช้ธูป เทียน ซึ่งเป็นอมิสบูชา มีอานิสงค์น้อยมาก และพระพุทธองค์ไม่ส่งเสริม และหนำซ้ำยังก่อให้เกิดมลภาวะ ทำให้เจ็บป่วย ซึ่งรุนแรง ถึงก่อให้เป็นโรคมะเร็งปอดจำนวนมาก มายในประเทศไทย ทั้งที่ผู้ป่วยไม่เคยสูบบุหรี่เลย สุดอันตราย
     
  10. - เงาะป่า -

    - เงาะป่า - เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    521
    ค่าพลัง:
    +565
    ครับ ผมว่าบางทีใช้ ดอกไม้ หรือกำยาน (อันนี้เล็กดี) ก็น่าจะพอแทนกันได้

    อนุโมทนาสาธุครับ
    -------------------------------------------------------------------------------------------------------
    "จงจำไว้นะ เมื่อยังไม่ถึงเวลา เทพเจ้าองค์ใดจะคิดช่วยเจ้าไม่ได้ ครั้นถึงเวลา ทั่วฟ้าจบดินก็ต้านเจ้าไม่อยู่ จงอย่าไปเร่งเทวดาฟ้าดินเมื่อบุญเราไม่เคยสร้างไว้เลย จะมีใครไหนมาช่วยเจ้า"
    -------------------------------------------------------------------------------------------------------
    ร่วมสร้าง " อุโบสถเงิน" วิหารทานที่ในครั้งนึงในชีวิตไม่ควรพลาดครับ
    --> http://palungjit.org/showthread.php?t=140433
    พระคุณพ่อ
    --> http://palungjit.org/showthread.php?p=1326572#post1326572
    มาเที่ยว วัดเกตการาม จ.เชียงใหม่ วัดประจำปีจอกัน
    --> http://palungjit.org/showthread.php?t=136821
    พุทโธหาย....?
    --> http://palungjit.org/showthread.php?p=1329341#post1329341
    ปรัชญาพุทธกับคนรัก(ที่ไม่รักเรา) เอ๊า!!ใครอกหักยกมือขึ้น
    --> http://palungjit.org/showthread.php?p=1338677#post1338677
     
  11. terryh

    terryh เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    768
    ค่าพลัง:
    +1,280
    ข้อเตือนใจ

    ในปี 2550 มีผู้ป่วยโรคมะเร็งปอด กว่า 8.75 แสนคนทั่วประเทศ และ

    กว่ากึ่งหนึ่งเป็นสตรี ซึ่งไม่เคยมีประวัติสูบบุหรี่มาก่อน

    รายงานข่าวจาก วารสารการแพทย์ และวารสารสุขภาพ ไกล้หมอ

    **************************************************

    ชาวไทยพุทธส่วนใหญ่อาจไม่รุ้หรือทราบมาก่อนว่า

    ศาสนาพุทธแท้จริงแล้วเป็นอเทวะนิยม เป็นศาสนาแห่งความจริงไม่ใช่การบวงสรวงเซ่นไหว้ อ้อนวอน เทพเจ้า ด้วยธูป เทียน เหมือนศาสนาอื่น ๆ ซึ่งเป็นลัทธิเทวนิยมที่มีการบวงสรวง ด้วย เครื่องบวงสรวง ธูป เทียน

    ศาสนาพุทธเป็นศาสนาแห่งปัญญา ให้มีสติรู้เท่าทัน ถึงความเป็นจริงของอริยสัจ 4 ทุก ๆ สิ่ง ทุก ๆ อย่างล้วนก่อเกิดขึ้นแต่เหตุ และยังซึ่ง
    ผลของเวรกรรม อันเนื่องจากการกระทำ ไม่ว่า กรรมดี หรือ กรรมไม่ดี
    ของตัวเราเอง มิใช่สิ่งศักดิสิทธิ ที่ดลบันดารให้

    พระพุทธเจ้า ทรงตรัสสรรเสริญการปฎิบัติบูชา มีอานิสงค์สูงสุด

    มิใช่การเซ่นไหว้ อ้อนวอนสิ่งศักดิสิทย์ด้วยสิ่งสักการะ บนบานสานก่าว
    ด้วยธูป เทียน

    แต่ท่านเน้น ให้ ชาวพุทธมีความมั่นคงในศีลให้ถึง พร้อม ละกรรมชั่ว สร้างแต่กรรมดี ทำจิตใจให้ผ่องแผ้ว บริสุทธิ

    และ โลกธรรม 8 เป็นสาระสำคัญ คือ

    มีสุข ก็มี ทุกข์ มีสรรเสริญ ก็มีการติฉิน นินทา มีทรัพย์ ย่อมมีการเสื่อมทรัพย์

    มีเกียต ลาภยศ ย่อมมีความเสื่อม ซึ่งเกียต ลาภยศ ไม่มีอะไรที่แน่นอน หรืออยุ่คงทนถาวร แม้แต่ร่างกายคนเรา ยกเว้น การทำดี กรรมดี เท่านั้น



    ************************************************** *

    ข้อเตือนใจ

    ในปี 2550 มีผู้ป่วยโรคมะเร็งปอด กว่า 8.75 แสนคนทั่วประเทศ และ

    กว่ากึ่งหนึ่งเป็นสตรี ซึ่งไม่เคยมีประวัติสูบบุหรี่มาก่อน

    รายงานข่าวจาก วารสารการแพทย์ และวารสารสุขภาพ ไกล้หมอ

    ขอให้พิจารณา ถึงภัยสุขภาพ ก่อนจุดธูป เทียน ทุก ครั้ง

    <!-- / message -->
     
  12. MeeMejanG

    MeeMejanG สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 เมษายน 2008
    โพสต์:
    29
    ค่าพลัง:
    +14
    พึ่งจะรู้นะเนี่ย สงสัยต้องไปบอกคนในบ้านให้ระวังไว้ =.=

    ขอบคุณสำหรับบทความดีๆ นะคะ
     
  13. terryh

    terryh เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    768
    ค่าพลัง:
    +1,280
    ควันธูป" ชักนำสู่มะเร็ง 1 ดอกร้ายเท่าบุหรี่ 1 มวน

    ควันธูป" ชักนำสู่มะเร็ง 1 ดอกร้ายเท่าบุหรี่ 1 มวน<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>30 กรกฎาคม 2551 07:09 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=bottom align=left height=12>[​IMG]</TD></TR><TR><TD bgColor=#cccccc><TABLE cellSpacing=1 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle bgColor=#ffffff><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=160><TABLE cellSpacing=4 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=middle>คลิกที่ภาพเพื่อดูขนาดใหญ่ขึ้น</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=baseline align=middle>งานวิจัยระบุ "ควันธูป" มีสารก่อมะเร็งมากพอๆ กับบุหรี่</TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=baseline align=middle>นายแพทย์มนูญเสนอแนะผู้มีจิตศรัทธาจุดอธิษฐานจบแล้วดับธูปเพื่อลดสารก่อมะเร็งและรักษาสิ่งแวดล้อม</TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=baseline align=middle>นายแพทย์มนูญ ลีเชวงวงศ์</TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle width=165 height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD width=4 background=/images/linedot_vert3.gif>[​IMG]</TD><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=7 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>"ควันธูป" สัญลักษณ์แห่งศรัทธา ที่อบอวลอยู่ในศาสนสถานมาช้านาน มีสารเหนี่ยวนำให้เกิดมะเร็งถึง 3 ชนิด โดยในสถานที่จุดธูป มีสารก่อมะเร็งสูงกว่าที่ไม่จุดถึง 63 เท่า ระบุความรุนแรงของธูป 1 ดอกเทียบเท่าบุหรี่ 1 มวน และหากจุดในบ้าน 3 ดอก โดยไม่ระบายอากาศ ก่อมลพิษเทียบเท่าสี่แยก ที่มีการจราจรพลุกพล่าน พร้อมเสนอโครงการ "จุดแล้วรีบดับ"


    นายแพทย์มนูญ ลีเชวงวงศ์ หัวหน้าแผนกไอซียูโรงพยาบาลวิชัยยุทธ ได้เปิดเผยเรื่องดังกล่าวระหว่างการเสนอผลวิจัยเรื่อง "สารก่อมะเร็ง: ภัยเงียบที่มากับควันธูป" ซึ่งจัดขึ้นโดยศูนย์สื่อสารวิทยาศาสตร์ไทย เมื่อวันที่ 29 ก.ค.51 ณ อาคารสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (โยธี) กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ซึ่งผู้จัดการวิทยาศาสตร์ได้เข้าร่วมฟังการเสนองานวิจัยดังกล่าวด้วย

    นายแพทย์มนูญเผยถึงวิจัยชิ้นนี้ ที่ร่วมกับ ดร.พนิดา นวสัมฤทธิ์ นักวิจัยสถาบันวิจัยจุฬาภรณ์ โดยสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี ทรงร่วมวิจัยด้วยว่า ควันธูปมีสารก่อมะเร็งถึง 3 ชนิดคือ เบนซีน บิวทาไดอีน และเบนโซเอไพรีน ซึ่งเหนี่ยวนำให้เกิดมะเร็งปอดได้

    ทั้งนี้ งานวิจัยได้ศึกษาในบริเวณที่มีการจุดธูป ในวัด 3 แห่งที่จังหวัดอยุธยา ฉะเชิงเทรา และสมุทรปราการ โดยเมื่อตรวจเลือดและปัสสาวะ ของกลุ่มคนทำงานในวัด ที่ได้รับควันธูป และกลุ่มที่ไม่ได้รับควันธูป พบกรดมิวโคนิค กรดโมโนไฮดรอกซี-บิวท์นิล เมอร์แคปทูลิค (Monohydroxyldroxyl-butenyl mercaptulic: MHBMA) และไฮดรอกซีไพรีน ซึ่งเป็นสารที่บ่งชี้ว่าร่างกายได้รับสารก่อมะเร็งทั้ง 3 ในกลุ่มคนทำงานที่ได้รับควันธูป

    เมื่อเปรียบเทียบสารเบนโซเอไพรีน ซึ่งเป็นสารก่อมะเร็งที่มีศักยภาพก่อมะเร็งสูงสุด ในสถานที่จุดธูปและไม่จุดธูป พบว่าในวัดที่จุดธูป มีสารดังกล่าวสูงกว่าสถานที่ไม่จุดธูปถึง 63 เท่า

    "นอกจากนี้การติดตาม ดูการเปลี่ยนแปลงของสารพันธุกรรมยังพบว่า สารพันธุกรรมในร่างกายของคนทำงาน ที่ไม่ได้รับควันธูป มีการแตกหัก แต่สามารถซ่อมแซมได้ตามปกติ ขณะที่คนทำงานซึ่งได้รับควันธูปเป็นประจำนั้น พบการแตกหักของสารพันธุกรรมเพิ่มขึ้น และมีการซ่อมแซมลดลง ซึ่งระยะเริ่มต้นของการเป็นมะเร็งคือ การแตกหักของสารพันธุกรรมและไม่สามารถซ่อมแซมได้ จนสุดท้ายสารพันธุกรรมจะกลายเป็นเซลล์ใหม่ และมีการแบ่งตัวถาวรแล้วเป็นเซลล์มะเร็งในที่สุด" นพ.มนูญเผยข้อมูล

    อย่างไรก็ดี นพ.มนูญกล่าวกับผู้จัดการวิทยาศาสตร์ว่า ยังไม่มีหลักฐานชี้ชัดว่ามีผู้ป่วยโรคมะเร็งเนื่องจากควันธูป แต่มีหลักฐานจากงานวิจัยว่า ควันธูปมีสารชักนำให้เกิดโรคมะเร็ง และงานวิจัยยังชี้ให้เห็นว่าควันธูป 1 ดอกมีปริมาณสารก่อมะเร็ง ไม่ต่างจากบุหรี่ 1 มวนเลยทีเดียว และหากจุดธูป 3 ดอกภายในบ้านที่ไม่เปิดให้อากาศระบายจะเทียบเท่ากับมลพิษทางอากาศในสี่แยกที่มีการจราจรพลุ่กพล่าน

    "นอกจากนี้ยังพบผู้ป่วยโรคมะเร็งซึ่งไม่สูบบุหรี่และไม่ได้ใกล้ชิดกับผู้สูบบุหรี่ จึงน่าจะมีสาเหตุอื่นที่ก่อให้เกิดมะเร็งและคาดว่าคัวนธูปน่าจะเป็นสาเหตุหนึ่ง แต่ระยะเวลาที่จะส่งผลให้เป็นมะเร็งนั้นต้องสั่งสมเป็นสิบๆ ปี เช่นเดียวกับการสูบบุหรี่ที่ต้องใช้ระยะเวลาในการสะสม" นายแพทย์มนูญกล่าว

    ถึงแม้จะพบว่าควันธูปมีอันตราย แต่คงไม่ง่ายนักที่จะเลิกวัฒนธรรมการจุดธูป โดยนายแพทย์มนูญระบุว่า การจุดธูปมีจุดเริ่มต้นจากอียิปต์ที่สักการะเทพเจ้าด้วยควันกลิ่นหอมและปัจจุบันกว่าครึ่งโลกก็ยังยึดถือวัฒนธรรมนี้อยู่ โดยเอาควันหอมเป็นเครื่องสักการะ และเครื่องมือสื่อสารกับสิ่งที่สักการะ

    อีกทั้งเพื่อคำนึงผู้ประกอบการด้วย นายแพทย์มนูญจึงมีแนวคิดในการทำโครงการ "จุดแล้วรีบดับ" โดยเสนอว่าผู้ที่จุดธูปอธิษฐานเมื่อขอพรเสร็จแล้ว ก็รีบดับด้วยวิธีจุ่มน้ำหรือทราย ทั้งนี้คนที่จุดธูปจะได้มีส่วนช่วยในการรักษาสิ่งแวดล้อม และลดสารพิษ ในการก่อมะเร็งด้วย

    "ตอนนี้ยังไม่ได้เริ่มโครงการ แต่จะเข้าไปพบพระ เพราะพระได้รับผลกระทบมาก กะจะเข้าไปคุยที่วัดพระราม 9 กาญจนาภิเษกก่อน" นายแพทย์มนูญเผย

    ทั้งนี้ โครงการที่ริเริ่มไว้จะมีคำขวัญคือ "ดับควันธูป ลดคาร์บอน หย่อนควันพิษ ทอนฤทธิ์มะเร็ง" และอนาคตจะขอให้ผู้ประกอบการผลิตธูปชนิดใหม่ ที่มีเนื้อบริเวณปลายธูปเท่านั้นเพื่อลดปริมาณควันธูป

    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     

แชร์หน้านี้

Loading...