ท่าน้ำผีสิง

ในห้อง 'เรื่องผี' ตั้งกระทู้โดย vacharaphol, 27 มีนาคม 2006.

  1. vacharaphol

    vacharaphol เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    8,849
    ค่าพลัง:
    +27,174
    คอลัมน์ ขนหัวลุก

    ใบหนาด

    "ขุนอาจ" เล่าประสบการณ์ขนหัวลุกจากบางกระบือ

    ผมเป็นคนกลัวผีมาแต่ไหนแต่ไรแล้วครับ ยิ่งได้ยินเขาบอกว่า ใครยิ่งกลัวผีก็จะโดนผีหลอกบ่อยๆ เพราะผีรู้ว่าใครกลัวมันก็คอยจ้องจะหลอกหลอนท่าเดียว ทำให้ผมยิ่งกลัวจนขนลุกขนพองขึ้นไปอีก

    เหมือนกับคนกลัวหมามักจะโดนหมากัดน่ะแหละ เพราะร่างกายจะหลั่งสารบางอย่างออกมาให้หมารู้ว่ากลัวมัน หมาก็จะแร่เข้างับน่องทันที

    คนไม่กลัวผีมักไม่โดนผีหลอก คนไม่กลัวหมาก็มักจะไม่โดนหมากัด!

    เรื่องนี้ต้องเห็นใจคนปอดแหกอย่างพวกเรานะครับ

    ผมเป็นคนบางกระบือ เคยได้ยินว่าพวกมีสียกโขยงมาตีกับนักเลงที่ท่าน้ำเขียวไข่กา ราวๆ สามทุ่มเศษ พวกนักเลงสู้ไม่ไหวเผ่นหนีกระเจิงไปตามๆ กัน บางคนวิ่งหนีมาทางศาลานกกระจอกที่สี่แยกก็มี กระโจนลงน้ำหนีก็มี

    พวกคนมีสีตามไล่ไปจนถึงท่าน้ำ แต่ไม่ถึงขนาดกระโดดตามลงไปหรอกครับ...บังเอิญมีร่างดำทะมึนโผล่พรวดขึ้นมาบนโป๊ะ คนมีสีเงื้อกำปั้นขึ้นสุดล้า กะว่าโครมเดียวหล่นน้ำตูม

    "เฮ้ย! ไม่ใช่คนโว้ย..."

    เสียงเพื่อนร้องบอกเล่นเอาชะงัก จ้องมองจนเห็นว่าร่างนั้นคือซากอสุภที่โผล่มายืนจังก้า เล่นเอาผงะหน้าร้องเฮ้ยๆๆ หันหลังกลับ เผ่นอ้าวออกจากท่าเขียวไข่กา..รวดเดียวไปหอบแฮกๆ ที่วงเวียนเกียกกาย แทบจะขาดใจตายไปตามๆ กัน

    เห็นไหนครับ อย่าว่าแต่ธรรมดาๆ อย่างผมเลย ขนาดคนมีสีหรือนักเลงใหญ่หลายคน ล้วนแต่พูดตรงกันว่า..เรื่องชกต่อยหรือตีรันฟันแทงไปกลัวใคร ขอให้เรียงหน้าเข้ามาเถอะ รับรองว่าเลือดแดงเถือกไปซอยซีน่า

    แต่เรื่องผีไม่เอา...ไปไกลๆ เลย มันไม่ไปก็ไม่เป็นไร เรานี่แหละจะเป็นฝ่ายไปเอง...คือวิ่งหนีน่ะซี!

    สมัยผมเด็กๆ เคยตามยายไปเล่นไพ่ผ่องไทยที่บ่อนป้าพริ้ม ในซอยวัดจันทร์สโมสร หน้าตลาดบางกระบือ เป็นบ่อนตีตั๋วถูกกฎหมาย ไม่ต้องกลัวโดนตำรวจจับ

    เล่นกันตั้งแต่เที่ยงวันยันเที่ยงคืนนะครับ หลังจากนั้นใครอยากเล่นต่อก็ย้ายขึ้นไปเล่นชั้นบน...เสี่ยงตำรวจเอาเองแล้วกัน

    "ยายเพี้ยน" อายุราว 70 ปี ผมขาวโพลนไปทั้งหัว เป็นคนฝั่งธนฯ ลงเรือไอข้ามฟากมาขึ้นที่ท่าเขียวไข่กา แล้วนั่งสามล้อมาที่บ่อนป้าพริ้ม ตอนดึกๆ บ่อนเลิกก็หาสามล้อไปที่ท่าน้ำ แล้วนั่งเรือจ้างที่คุ้นๆ หน้ากันข้ามแม่น้ำเข้าคลองซอยจนถึงบ้าน

    ถามว่าทำไมไม่ไปท่าวัดจันทร์? แกบอกกลัวหมาจะรุมฟัดตายน่ะซี

    แต่หลายๆ ครั้งกว่าแกจะออกจากบ่อนก็ปาเข้าไปตีห้า ผู้คนเริ่มออกมาจ่ายตลาดพอดี

    ...บางคนบอกว่าแกเป็นคนบางพลัด แต่บางคนก็ว่าบางอ้อ ที่แน่ๆ คือยายผลมีเรื่องน่าขนหัวลุกมาเล่าเป็นประจำ!

    จะจริงเท็จยังไงลองฟังดูนะครับ

    อาทิตย์ก่อน บ่อนเลิกแกนั่งสามล้อไปถึงท่าน้ำ เห็นใครนั่งยองๆ มีผ้าขาวม้าคลุมหัว สูบยาแดงวาบๆ อยู่บนโป๊ะ พอเดินไปถึงกลับไม่เห็นใครแม้แต่คนเดียว ยายเพี้ยนคิดว่าแกคงตาฝาดไป เพราะจ้องไพ่พวกเจ็ดนก-หกละเอียดมาตั้งหลายชั่วโมง

    ที่ไหนได้ล่ะ พอลงเรือตาผูกขาประจำ แจวออกมาได้อึดใจเดียวหันไปดูอีกทีก็แทบตกน้ำตกท่าเพราะอารามอกสั่นขวัญหายสุดขีด...ร่างของใครผู้นั้นยังนั่งสูบยาแดงวั่บๆ อยู่ที่เดิม!

    เมื่ออาทิตย์ที่แล้ว ยายเพี้ยนเล่าว่าแกโดนผีหลอกกลางวันแสกๆ

    ยายเพี้ยนนั่งเรือไอมากับคนอื่นๆ มีเด็กชายไว้ผมจุก สวมเสื้อป่านคอกลมหน้าตาน่ารักนั่งอยู่ข้างๆ คนเดียว ไม่เห็นมีผู้ใหญ่ที่จะเป็นพ่อแม่นั่งมาด้วย แต่แกก็ไม่ได้คิดอะไรมาก...จนกระทั่งเรือเทียบท่า

    ใครๆ เข้าขึ้นจากเรือกันหมด แต่เจ้าจุกก็ยังนั่งเฉยอยู่กับที่ แกเองก็รีบขึ้นเหมือนกัน แต่เมื่อเหยียบโป๊ะหันไปมองก็แทบจะพลัดตกน้ำอีกครั้ง

    เด็กผมจุกหายไปไหนแล้วก็ไม่รู้!

    เรื่องของยายเพี้ยนมีทั้งคนเชื่อและไม่เชื่อ บางคนก็หาว่าแกตาฝาดไปเองตามประสาคนแก่ แถมคอยจ้องแต่สี่มะเขือผ่า - ห้าแตงโมอยู่ตลอด..บางคนถึงกับนินทาว่าแกแต่งนิยายเอง เชื่อเป็นตุเป็นตะไปเอง พลอยทำให้คนอื่นๆ ขนหัวลุกไปด้วยน่ะซี

    คนที่เชื่อก็บอกว่า เด็กๆ กับคนแก่น่ะจะมีจิตอ่อนไหวเป็นพิเศษยิ่งกว่าคนหนุ่มสาว ทำให้มองเห็นและได้ยินในสิ่งที่คนทั่วๆ ไปไม่ได้ยิน จึงมองเห็นหรือได้ยินทั้งภาพและเสียงภูตวิญญาณที่เป็นสัมภเวสี หรือผีเร่ร่อนได้ง่ายๆ

    คนสองวัยนี้จึงมีโอกาสถูกผีหลอกมากที่สุด!

    อาทิตย์สุดท้าย ยายเพี้ยนโผล่เข้ามาตอนบ่าย ป้าพริ้มต้องให้น้านุ้ย-ลูกชายคนโต "ขัดขา" ไปก่อน..ยายเพี้ยนเดินช้าๆ ไปเข้าห้องน้ำด้านขวา หายเงียบไปนานจนน้านุ้ยนึกขึ้นได้ พวกขาไพ่ก็ตกใจไปตามๆ กัน

    "ไปดูเร็วเข้า แกคงเป็นลมไปแล้วละมั้ง?"

    ที่ไหนได้ ห้องน้ำว่างเปล่า ไม่มีวี่แววของยายเพี้ยนแม้แต่น้อยนิด!

    ร้องเอะอะช่วยกันหา แต่ก็ไม่เห็นจริงๆ สงสัยว่าแกคงจะออกไปหาซื้อหมากพลูกินตามประสาคนแก่ ที่บ่อนเลี้ยงอาหารกับขนมเท่านั้น พวกบุหรี่หรือน้ำชากาแฟต้องสั่งซื้อเอาเอง..แต่ก็ตามหาตัวยายเพี้ยนไปพบ ทั้งๆ ที่เห็นแกมากันทุกคน

    มารู้ทีหลังว่ายายเพี้ยนเป็นลมอยู่ในเรือ เมื่อมาถึงท่าเขียวไข่กาเขาก็พาแกไปส่งวชิรพยาบาล แต่แกไปสิ้นลมที่นั่นเอง..มีแต่วิญญาณเท่านั้นแหละที่โลดลิ่วมาหาพวกเรา ทำให้ขนหัวลุกไปตามๆ กัน!
     
  2. วิญญาณนิพพาน

    วิญญาณนิพพาน ทีมงานอาสาฯ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 เมษายน 2008
    โพสต์:
    22,666
    กระทู้เรื่องเด่น:
    51
    ค่าพลัง:
    +21,019
    หลอนมาก ๆ ครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...