เรื่องเด่น ถ้ายังเกิดแก่เจ็บตายอยู่ บุญยังสำคัญต้องรีบทำไว้

ในห้อง 'หลวงพ่อเล็ก วัดท่าขนุน' ตั้งกระทู้โดย iamfu, 30 พฤศจิกายน 2019.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,198
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,511
    ค่าพลัง:
    +26,345
    lp004.jpg ถ้ายังเกิดแก่เจ็บตายอยู่ บุญยังสำคัญต้องรีบทำไว้

    สมเด็จพระสังฆราช (อยู่ ญาโณทยมหาเถระ) ท่านบอกว่า ถ้ายังมีชีวิตอยู่ สิ่งที่ควรขวนขวายที่สุดก็คือ เร่งทำบุญเอาไว้ ถ้าคนเราตราบใดยังเกิด แก่ เจ็บ ตาย อยู่ให้ทำบุญไว้ให้มาก ถ้ายังเกิด แก่ เจ็บ ตาย คือยังไม่หลุดพ้น ถ้าเราตั้งหน้าทำความดีอยู่ ได้รับผลฝ่ายดีอย่างเดียวก็สบายไปตลอด นั่นระดับนั้นท่านยังให้ไว้เป็นคติประจำใจเลย “มีแต่บุญเท่านั้นที่ควรจะเร่งขวนขวายไว้ให้มาก ถ้ายัง เกิด แก่ เจ็บ ตาย อยู่ บุญยังสำคัญ ต้องรีบทำไว้”

    พระพุทธเจ้าท่านบอกอะไรเป็นจริงตามนั้น เพราะฉะนั้นเราเองพอมาเจอในสถานการณ์อย่างนี้ ก็ดีอยู่อย่างว่า ศาสนาพุทธเป็นศาสนาของแท้ เป็นอริยสัจ คือความจริงแท้ ๆ อย่างประเสริฐ พิสูจน์ได้ทุกเวลา ฉะนั้นเราเองก็ไม่ต้องเสียเวลาพิสูจน์ ท่านบอกว่าเป็นเพราะกรรม คือการกระทำของเรา ในอดีตเราทำมาปัจจุบันจะรับ เพราะฉะนั้นถ้าเราทำปัจจุบันดี อนาคตเราก็จะรับความดีส่วนเดียว

    ตอนนี้เป็นปัจจุบัน อีกวินาทีหนึ่งก็กลายเป็นอดีตไปแล้ว ก็ไล่ไปเรื่อย ๆ เพราะฉะนั้นถ้าหากเราทำกรรมดีในปัจจุบันให้ต่อเนื่องยาวไปเรื่อย ก็จะกลายเป็นส่งผลให้อนาคตของเราดีเอง คราวนี้ ความดีไม่ได้จะต้องเสียเงินเสียของอยู่ตลอด

    ทานมัย ความดีเกิดจากการให้ทรัพย์สินสิ่งของแก่คนอื่น หรือว่าให้ความรู้ก็ได้ ให้อภัยก็ได้ เขาเรียกว่าเป็น ธรรมทาน อภัยทาน

    สีลมัย บุญเกิดจากการรักษาศีล มีผลมากกว่าให้ทานเป็นร้อยเท่า เพียงแต่ตั้งหน้ารักษาสิกขาบทให้ครบถ้วนสมบูรณ์เท่านั้น

    ภาวนามัย บุญเกิดจากการทำสมาธิ ภาวนา มีผลมากกว่าศีลเป็นอีกร้อยเท่า ก็ไม่เสียอะไรเลย

    อปจายนมัย อ่อนน้อมถ่อมตนกับคนอื่น คนเขาเห็นเย็นตาเย็นใจ เกิดความรักใคร่เมตตา ทำให้บุญกุศลเกิดขึ้น เนื่องจากความเย็นตาเย็นใจที่คนอื่นเขาเห็น เกิดความเมตตาต่อเรา ก็เลยได้บุญตรงนั้น

    เวยยาวัจจมัย เห็นคนอื่นเขาทำบุญ ช่วยให้งานบุญเขาสำเร็จ

    ปัตติทานมัย ทำบุญแล้วอุทิศให้คนอื่นเขา สิ่งที่เราทำมาโดยยาก ยังตั้งใจแบ่งให้คนอื่นเขา กำลังใจประกอบไปด้วยเมตตากรุณา ขนาดนั้นก็เลยเป็นบุญ

    ปัตตานุโมทนามัย เห็นคนอื่นทำดีพลอยยินดีด้วย แทนที่จะอิจฉาริษยาก็ยินดีในบุญเขา

    ธัมมัสสวนมัย ฟังธรรมแล้วนำไปปฏิบัติก็เป็นบุญ

    ธัมมเทสนามัย ทำได้แล้วสอนคนอื่นต่อก็เป็นบุญ

    ทิฏฐุชุกรรม มีความเห็นถูกว่าพระพุทธเจ้าสอนมานั้นดีจริง เราจะทำตาม

    สรุปแล้ว เราทำบุญได้ทุกวัน โดยไม่ต้องเสียอะไรเลยก็ได้ เพียงแต่วิธีทำบางคนเขาไม่รู้ ในเมื่อไม่รู้ก็เลยทำไม่ถูก มีแต่ทานมัยบุญที่สำเร็จด้วยการให้เท่านั้นที่จะเสียของ แต่ถ้าเราให้เป็นธรรมทาน คือสอนเขาก็ดี เป็นอภัยทาน คือรู้จักปล่อยวาง รู้จักละเว้นเขาก็ดี เป็นบุญทั้งนั้น

    พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
    เดือนพฤศจิกายน พุทธศักราช ๒๕๔๕ ณ บ้านอนุสาวรีย์ฯ

    ที่มา : www.watthakhanun.com
    #๖๐ปีพระครูวิลาศกาญจนธรรม
     
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...