เรื่องเด่น ตำนานเล่าขาน ตอน พระพุทธเสรฏฐมุนี พระพุทธรูปปราบยาเสพติด

ในห้อง 'ประสบการณ์ เรื่องเล่า' ตั้งกระทู้โดย joni_buddhist, 28 มิถุนายน 2017.

  1. joni_buddhist

    joni_buddhist Legal returns ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กันยายน 2005
    โพสต์:
    13,555
    กระทู้เรื่องเด่น:
    203
    ค่าพลัง:
    +63,444
    ตำนานเล่าขาน ตอน พระพุทธเสรฏฐมุนี พระพุทธรูปกลับร้ายกลายดี

    พระพุทธเสรฏฐมุนี.jpg
    พระพุทธเสรฏฐมุนี

    พระพุทธเสรฏฐมุนี เป็นพระพุทธรูปสมัยรัตนโกสินทร์ ปางมารวิชัย วัสดุทองเหลือง หน้าตักกว้าง 1 ศอก 1 คืบ 1 นิ้ว ประดิษฐานเป็นพระประธานในศาลาการเปรียญ

    ครั้งแผ่นดินรัชกาลที่ 3 พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว มีชาวต่างชาตินำฝิ่นเข้ามาเผยแพร่ในราชอาณาจักรเป็นสินค้าเข้า ให้รายได้สูง แต่ฝิ่นเป็นสิ่งเสพติด มอมเมาพลเมือง เสพแล้วทำให้ร่างกายเปลี้ย สติปัญญาเสื่อมถอย พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงมีสายพระเนตรที่ยาวไกล ทรงมีพระราชดำริว่า เมื่อพลเมืองของชาติติดสิ่งเสพติดย่อมเป็นการบั่นทอนความมั่นคงของบ้านเมือง การที่กำลังของชาติคือประชาชนอ่อนแอ หมดความรับผิดชอบในหน้าที่ ดูเป็นที่น่าเวทนา

    จึงมีพระบรมราชโองการให้ปราบอย่างเด็ดขาด ในปีพ.ศ.2382 มีการปราบฝิ่นครั้งใหญ่ตั้งแต่ภาคกลางลงไปจนภาคใต้ คราวที่ใหญ่ที่สุดนี้ปราบตั้งแต่ปราณบุรีจนถึงนครศรีธรรมราชฟากหนึ่ง ตะกั่วป่าถึงถลางอีกฟากหนึ่ง ได้ฝิ่นดิบเข้ามา 3,700 หาบเศษ ฝิ่นสุก 2 หาบ รวมแล้วเกือบ 2.6 แสนกิโลกรัม

    ตัวฝิ่นนั้นโปรดให้เผาที่หน้าพระที่นั่งสุทธาสวรรย์ (สุทไธศวรรย์)สำหรับฝิ่นที่ถูกกวาดล้างได้คราวนั้น ถูกนำมาทำพิธีเผาที่หน้าพระที่นั่งสุทไธสวรรย์ คือบริวเณสนามชัย การเผาได้จัดพิธีใหญ่โตอย่างพิธีหลวง มีคำอารธนาเทวดาอ่านประกาศก่อนเผาฝิ่น ดังมีเนื้อความต่อไปนี้

    " ...บัดนี้ทรงพระราชดำริกอปรด้วยพระกรุณาธิคุณ ทรงเห็นว่าข้าราชการและราษฎรชายหญิงในกรุงนอกกรุงทั่วเขตแดนกระทำทุจริต คบกันสูบยาฝิ่น สิ้นทรัพย์สิ่งของทองเงิน เครื่องอุปโภคบริโภค เสียรูปพรรณสัณฐาน จนใช้ราชการมิได้ ก็มีเป็นอันมาก ทรงพระราช ดำริจะให้เป็นหิตานุหิตประโยชน์ ในภายภาคหน้า จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้เก็บเอายาฝิ่นให้สิ้นเชิง กระทำฌาปนกิจเผาฝิ่นเสีย มิให้ข้าราชการและราษฎรสูบต่อไปในเบื้องหน้า จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ข้าพระพุทธเจ้าอารธนาอัญเชิญเทพยเจ้าทุกสถาน สัคเค กาเม จรูเป ข้าพระบาทขอเชิญเทพยเจ้าอันสถิตในทิพยพิมานเมืองสวรรค์ชั้นฉ้อกามาพจรแลโสฬมหา พรหมทั้งสิบหกห้องฟ้า คิริสิขรตเฏ ขอเชิญทั้งภูมเทพยดาอันสิงสถิตในยอดคีรี มีพระมเหศวรเป็นอาทิ แลเทพเจ้าอันสิงสถิตในเหวหุบห้วยละหาน อันตลิก เขวิมาเน ขอเชิญทั้งอมรเทพอันสิงสถิตในอากาศสัฏฐกะ พิมานลอยอยู่ในอัมพรวิถีประเทศ ที เปรัฏเฐ จ คาเม ขอเชิญทั้งเทพเจ้าอัน สิงสู่อยู่ในขอบเขตทวีปใหญ่แลทวีปน้อยทุกถิ่นฐาน บ้านแลนิคมชนบท แลราชธานีบุรีใหญ่น้อยนานา ตรุวนคหเน ขอเชิญทั้งภูมิเทพย ดาอันสิงสถิตในต้นพฤกษาลดาวัลอรัญประเทศป่าระหงแลป่าชัฏ เคหวัตถุ มหิ ขอ เชิญทั้งอารักษ์เทพยเจ้าอันสิงสถิตในเคหสถาน เป็นต้น คือพระเสื้อเมือง พระทรงเมือง แลเทพยเจ้าอันบริรักษ์ในจังหวัดพระราชนิเวศน์มหาสถานเขตเต ขอเชิญทั้งอารักษ์เทพยเจ้า อันบริรักษ์อภิบาลในที่นาแลที่สวน ขอเชิญเทพเจ้าทั้งปวงประชุมชวนกันมาสโมสรสันนิบาตในประเทศที่นี้ให้พร้อมเพรียงกันอย่าให้ บุคคลผู้ใดผู้หนึ่งซึ่งอยู่ในกรุงเทพฯ แลนานาทั้งปวง ล่วงลักเอายาฝิ่นเข้ามาจำหน่ายซื้อขายในกรุงเทพฯ นี้เป็นอันขาดถ้าบุคคลใดมิได้ ถือสัตว์กตัญญูต่อสมเด็จพระพุทธเจ้าอยู่หัวแลฝ่าพระราชอาณาจักร ขืนลับลอกเอายาฝิ่นเข้ามาซื้อขายในกรุงเทพฯ แลนิคมคามชนบท ประเทศทั่วเขตแดนกรุงเทพฯ นี้ก็ดี ขอให้เทพยดาเจ้าทั้งปวงแต่บรรดาซึ่งได้รับเครื่องพลีกรรม แลทานาทิผลานิสงส์ซึ่งทรงพระราช อุทิศให้ จงเข้าดลจิตชักนำผู้กระทำผิดไปสู่ที่อื่นๆ อย่าให้ฝ่าฝืนพระราชอาณาจักรล่วงเขตแดนเข้ามาได้ ขอเทพยดาจงช่วยบันดาล เกิดการวิบัติต่างๆ ในทางน้ำ ทางบก บุคคลผู้ใดอาจจะสามารถนำเอายาฝิ่นซ่อนเหน็บเข้ามาได้ด้วยอุบายถ่ายเทประการใดก็ดี ขอเทพยดาเจ้าเข้าดลจิตให้มีผู้มาส่อเสียดจับเอาตัวบุคคลนั้นให้จงได้ ด้วยอานุภาพคุณพระรัตนตรัยและสมเด็จพระพุทธเจ้าอยู่หัวดัง ข้าพระพุทธเจ้าอยู่หัวดังข้าพระพุทธเจ้าพรรณนามานี้เถิด..."
    เหลือแต่กลักฝิ่นซึ่งทำด้วยทองเหลืองอยู่จำนวนมาก โปรดให้หล่อเป็นพระพุทธรูปประดิษฐานเป็นพระประธานในศาลาการเปรียญ อันเป็นศาลาโรงธรรมที่จะสั่งสอนเตือนใจพลเมือง สถานที่ตั้งอยู่ใจกลางพระนคร เป็นศูนย์กลางที่ผู้คนควรรับรู้ได้

    ต่อมาพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวถวายพระนาม พระพุทธเสรฏฐมุนี
    ส่วนคนทั่วไปเรียกว่า "หลวงพ่อกลักฝิ่น"
    เชื่อกันว่า ผู้ที่ต้องการละเลิกเสพสิ่งเสพติด ให้มากราบขอกำลังใจและความเป็นมงคลจากพระพุทธเสรฏฐมุนี
    พระพุทธเสรฏฐมุนี

    พระพุทธเสรฏฐมุนี เป็นพระพุทธรูปสมัยรัตนโกสินทร์ ปางมารวิชัย วัสดุทองเหลือง หน้าตักกว้าง 1 ศอก 1 คืบ 1 นิ้ว ประดิษฐานเป็นพระประธานในศาลาการเปรียญ

    ครั้งแผ่นดินรัชกาลที่ 3 พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว มีชาวต่างชาตินำฝิ่นเข้ามาเผยแพร่ในราชอาณาจักรเป็นสินค้าเข้า ให้รายได้สูง แต่ฝิ่นเป็นสิ่งเสพติด มอมเมาพลเมือง เสพแล้วทำให้ร่างกายเปลี้ย สติปัญญาเสื่อมถอย พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงมีสายพระเนตรที่ยาวไกล ทรงมีพระราชดำริว่า เมื่อพลเมืองของชาติติดสิ่งเสพติดย่อมเป็นการบั่นทอนความมั่นคงของบ้านเมือง การที่กำลังของชาติคือประชาชนอ่อนแอ หมดความรับผิดชอบในหน้าที่ ดูเป็นที่น่าเวทนา

    จึงมีพระบรมราชโองการให้ปราบอย่างเด็ดขาด ในปีพ.ศ.2382 มีการปราบฝิ่นครั้งใหญ่ตั้งแต่ภาคกลางลงไปจนภาคใต้ คราวที่ใหญ่ที่สุดนี้ปราบตั้งแต่ปราณบุรีจนถึงนครศรีธรรมราชฟากหนึ่ง ตะกั่วป่าถึงถลางอีกฟากหนึ่ง ได้ฝิ่นดิบเข้ามา 3,700 หาบเศษ ฝิ่นสุก 2 หาบ รวมแล้วเกือบ 2.6 แสนกิโลกรัม

    ตัวฝิ่นนั้นโปรดให้เผาที่หน้าพระที่นั่งสุทธาสวรรย์ (สุทไธศวรรย์)สำหรับฝิ่นที่ถูกกวาดล้างได้คราวนั้น ถูกนำมาทำพิธีเผาที่หน้าพระที่นั่งสุทไธสวรรย์ คือบริวเณสนามชัย การเผาได้จัดพิธีใหญ่โตอย่างพิธีหลวง มีคำอารธนาเทวดาอ่านประกาศก่อนเผาฝิ่น ดังมีเนื้อความต่อไปนี้

    " ...บัดนี้ทรงพระราชดำริกอปรด้วยพระกรุณาธิคุณ ทรงเห็นว่าข้าราชการและราษฎรชายหญิงในกรุงนอกกรุงทั่วเขตแดนกระทำทุจริต คบกันสูบยาฝิ่น สิ้นทรัพย์สิ่งของทองเงิน เครื่องอุปโภคบริโภค เสียรูปพรรณสัณฐาน จนใช้ราชการมิได้ ก็มีเป็นอันมาก ทรงพระราช ดำริจะให้เป็นหิตานุหิตประโยชน์ ในภายภาคหน้า จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้เก็บเอายาฝิ่นให้สิ้นเชิง กระทำฌาปนกิจเผาฝิ่นเสีย มิให้ข้าราชการและราษฎรสูบต่อไปในเบื้องหน้า จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ข้าพระพุทธเจ้าอารธนาอัญเชิญเทพยเจ้าทุกสถาน สัคเค กาเม จรูเป ข้าพระบาทขอเชิญเทพยเจ้าอันสถิตในทิพยพิมานเมืองสวรรค์ชั้นฉ้อกามาพจรแลโสฬมหา พรหมทั้งสิบหกห้องฟ้า คิริสิขรตเฏ ขอเชิญทั้งภูมเทพยดาอันสิงสถิตในยอดคีรี มีพระมเหศวรเป็นอาทิ แลเทพเจ้าอันสิงสถิตในเหวหุบห้วยละหาน อันตลิก เขวิมาเน ขอเชิญทั้งอมรเทพอันสิงสถิตในอากาศสัฏฐกะ พิมานลอยอยู่ในอัมพรวิถีประเทศ ที เปรัฏเฐ จ คาเม ขอเชิญทั้งเทพเจ้าอัน สิงสู่อยู่ในขอบเขตทวีปใหญ่แลทวีปน้อยทุกถิ่นฐาน บ้านแลนิคมชนบท แลราชธานีบุรีใหญ่น้อยนานา ตรุวนคหเน ขอเชิญทั้งภูมิเทพย ดาอันสิงสถิตในต้นพฤกษาลดาวัลอรัญประเทศป่าระหงแลป่าชัฏ เคหวัตถุ มหิ ขอ เชิญทั้งอารักษ์เทพยเจ้าอันสิงสถิตในเคหสถาน เป็นต้น คือพระเสื้อเมือง พระทรงเมือง แลเทพยเจ้าอันบริรักษ์ในจังหวัดพระราชนิเวศน์มหาสถานเขตเต ขอเชิญทั้งอารักษ์เทพยเจ้า อันบริรักษ์อภิบาลในที่นาแลที่สวน ขอเชิญเทพเจ้าทั้งปวงประชุมชวนกันมาสโมสรสันนิบาตในประเทศที่นี้ให้พร้อมเพรียงกันอย่าให้ บุคคลผู้ใดผู้หนึ่งซึ่งอยู่ในกรุงเทพฯ แลนานาทั้งปวง ล่วงลักเอายาฝิ่นเข้ามาจำหน่ายซื้อขายในกรุงเทพฯ นี้เป็นอันขาดถ้าบุคคลใดมิได้ ถือสัตว์กตัญญูต่อสมเด็จพระพุทธเจ้าอยู่หัวแลฝ่าพระราชอาณาจักร ขืนลับลอกเอายาฝิ่นเข้ามาซื้อขายในกรุงเทพฯ แลนิคมคามชนบท ประเทศทั่วเขตแดนกรุงเทพฯ นี้ก็ดี ขอให้เทพยดาเจ้าทั้งปวงแต่บรรดาซึ่งได้รับเครื่องพลีกรรม แลทานาทิผลานิสงส์ซึ่งทรงพระราช อุทิศให้ จงเข้าดลจิตชักนำผู้กระทำผิดไปสู่ที่อื่นๆ อย่าให้ฝ่าฝืนพระราชอาณาจักรล่วงเขตแดนเข้ามาได้ ขอเทพยดาจงช่วยบันดาล เกิดการวิบัติต่างๆ ในทางน้ำ ทางบก บุคคลผู้ใดอาจจะสามารถนำเอายาฝิ่นซ่อนเหน็บเข้ามาได้ด้วยอุบายถ่ายเทประการใดก็ดี ขอเทพยดาเจ้าเข้าดลจิตให้มีผู้มาส่อเสียดจับเอาตัวบุคคลนั้นให้จงได้ ด้วยอานุภาพคุณพระรัตนตรัยและสมเด็จพระพุทธเจ้าอยู่หัวดัง ข้าพระพุทธเจ้าอยู่หัวดังข้าพระพุทธเจ้าพรรณนามานี้เถิด..."
    เหลือแต่กลักฝิ่นซึ่งทำด้วยทองเหลืองอยู่จำนวนมาก โปรดให้หล่อเป็นพระพุทธรูปประดิษฐานเป็นพระประธานในศาลาการเปรียญ อันเป็นศาลาโรงธรรมที่จะสั่งสอนเตือนใจพลเมือง สถานที่ตั้งอยู่ใจกลางพระนคร เป็นศูนย์กลางที่ผู้คนควรรับรู้ได้

    ต่อมาพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวถวายพระนาม พระพุทธเสรฏฐมุนี
    ส่วนคนทั่วไปเรียกว่า "หลวงพ่อกลักฝิ่น"
    เชื่อกันว่า ผู้ที่ต้องการละเลิกเสพสิ่งเสพติด ให้มากราบขอกำลังใจและความเป็นมงคลจากพระพุทธเสรฏฐมุนี
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 29 มิถุนายน 2017

แชร์หน้านี้

Loading...