ตำนานอาถรรพ์ เทพและผีที่พุทไธสวรรค์ กรุงเก่า, by สายทิพย์

ในห้อง 'เรื่องผี' ตั้งกระทู้โดย rinnn, 17 เมษายน 2006.

  1. rinnn

    rinnn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    7,666
    ค่าพลัง:
    +24,025
    ประสบการณ์ลี้ลับ: "เทพเจ้าอู่ทอง" และ "ผี" ที่พุทไธสวรรค์
    โดย สายทิพย์

    ยังมีเรื่องราวอันเป็นเรื่องเล่าของสถานที่ศักดิ์สิทธิ์แห่งหนึ่งในเขตเมืองกรุงเก่า
    หรือ จ.พระนครศรีอยุธยา ซึ่งมีความเป็นมาทางประวัติศาสตร์ที่สำคัญ เพราะเคยเป็นสถานที่พำนักแห่งแรกของพระมหากษัตริย์แห่งกรุงศรีอยุธยา องค์ที่ 1 คือ สมเด็จพระเจ้าอู่ทอง สถานที่ที่ว่านี้อยู่ติดริมน้ำเจ้าพระยา แต่เดิมเรียกว่า "เวียงเหล็ก" ปัจจุบันเป็นที่ตั้งของวัดพุทไธสวรรย์ ที่นี่เล่าขานกันว่าเป็นสถานที่รวมของความศักดิ์สิทธิ์แห่งเทพและวิญญาณหลายตน ซึ่งสถิตย์อยู่และแสดงฤทธิ์แสดงอาถรรพณ์ให้บังเกิดต่างๆนานา
    หากใครเคยไปเที่ยววัดพุทไธสวรรย์ คงจะเคยไปสักการะ "เทพพระเจ้าอู่ทอง" ที่ประดิษฐานอยู่ตรงผนังด้านนอก ด้านซ้ายของพระปรางค์องค์ใหญ่ "เทพพระเจ้าอู่ทอง" เป็นพระพุทธรูปยืนขนาดเท่าคนจริง หรือพระพุทธรูปองค์นี้จะมีพระพุทธรูปปางไสยาสน์ ซึ่งพระเจ้าอู่ทองสร้างขึ้นเพื่อระลึกถึงพระราชมารดาของพระองค์
    เทพ หรือ "เทพารักษ์พระเจ้าอู่ทอง" มีประวัติว่าสร้างมานานนับร้อยๆปีเพื่อเป็นเทพารักษ์ ประจำพระนคร ให้ชาวเมืองสักการะ โดยแต่เดิม ประดิษฐานอยู่ที่หอพระเทพบิดร ภายในวัดพระศรีสรรเพชญ์ ครั้นเสียกรุงเมื่อ พ.ศ. 2310 ไฟไหม้วัดพระศรีสรรเพชญ์ เสียหายหมด ภายหลังจึงได้อัญเชิญ พระเทพบิดรไปปฏิสังขรณ์แล้วนำไปประดิษฐาน ณ พระปรางค์วัดพุทไธสวรรย์
    ครั้นปี พ.ศ. 2327 สมัยรัชกาลที่ 1 พระเจ้าลูกเธอกรมหมื่นเทพพลภักดิ์คุมกรมพระคชบาล เสด็จออกไปซ่อมเพนียดที่กรุงศรีอยุธยา ทรงพบพระพุทธธูปพระเจ้าอู่ทอง จึงกราบทูลรัชกาลที่ 1 ขออัญเชิญลงมากรุงเทพฯ และโปรดให้เปลี่ยนรูปใหม่เป็นพระพุทธรูปทรงเครื่องหุ้มด้วยเงินทั้งองค์ และให้หล่อพระพุทธรูปพระเจ้าอู่ทองขึ้นใหม่เป็นทองสำริดลงรักปิดทองทรงเครื่องน้อย
    "เทพพระเจ้าอู่ทอง" ถูกร่ำลือถึงความศักดิ์สิทธิ์และอภินิหารมานานชาวอยุธยารุ่นผู้เฒ่าผู้แก่เล่าตรงกัน
    ว่า เมื่อก่อนท่านมักปรากฏกายเป็นชายหนุ่มรูปงาม ท่องเที่ยวไปตามบ้านเรือนของชาบ้าน จนทำให้หญิงสาวชาวบ้านหลงใหลคลั่งไคล้เป็นจำนวนมาก
    จนกระทั่งความล่วงรู้ไปถึงในวัด ทำให้ท่านเจ้าคุณวัดพุทไธสวรรย์สมัยนั้นเห็นว่า ขืนปล่อยให้เทพพระเจ้าอู่ทอง ท่องเที่ยวไปตามบ้านคนเช่นนี้คงไม่ดีแน่ ท่านจึงอัญเชิญเทพพระเจ้าอู่ทองมา และขอร้องให้บวชซึ่งท่านก็ยอมแต่โดยดี จึงไม่ปรากฏข่าวเรื่องเทพพระเจ้าอู่ทองไปจำแลงเป็นชายหนุ่มที่ไหนอีก นอกจากแสดงปาฏิหาริย์ช่วยเหลือผู้เดือดร้อนที่ไปบนบานขอความช่วยเหลือจากท่าน จนกระทั่งทุกวันนี้
    ภายในเขตวัดพุทไธสวรรย์ ยังปรากฏเรื่องของ "วิญญาณ" หรือ "ผี" ที่มาปรากฏร่าง ปรากฏกลิ่นให้คนรู้เห็น และในแวดวงศิลปินที่มีชื่อเสียงด้านจิตรกรรม ก็ปรากฏว่า อ.เฟื้อ หริพิทักษ์ ก็เป็นท่านหนึ่งที่เจอผีที่วัดพุทไธสวรรย์
    อ.เฟื้อ หริพิทักษ์ ท่านได้ชื่อว่าเป็นจิตรกรฝีมือเยี่ยม ครั้งหนึ่งท่านได้ไปทำงานคัดลอกภาพเขียน ซึ่งเป็นจิตรกรรมสมัยอยุธยาที่วัดพุทไธสวรรย์แห่งนี้โดยทำการคัดลอกภาพที่ตึกสมเด็จพ
    ระพุทธโฆษาจารย์ ซึ่งต้องใช้เวลาทำงานนานถึง 2 ปี ท่านจึงต้องพักอยู่ที่วัดเลย โดยแขกมาอยู่คนเดียวที่ศาลาการเปรียญใกล้ๆตึกสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ ห้องบนศาลาการเปรียญไม่ใหญ่นัก และเดิมก่อนที่ อ.เฟื้อจะเข้าไปอยู่ได้มีพระภิกษุรูปหนึ่งจำพรรษาอยู่ก่อน แต่ต่อมาท่านอยู่ไม่ได้ไม่ทราบด้วยเหตุผลกลใด อ.เฟื้อจึงเข้าไปอยู่แทน
    แต่เมื่อเข้าไปอยู่ในห้องนั้นซัก 10 วัน อ.เฟื้องก็พบกับเหตุการณ์ประหลาดที่ท่านเข้าใจว่าเป็น " ผีหลอก" แน่แล้ว เพราะมีอยู่คืนหนึ่ง ราว 4 ทุ่ม ขณะที่พระกุฏิข้างๆปิดไฟจำวัดกันเงียบแล้ว อ.เฟื้องท่านก็ล้มตัวลงนอนหลับ ชั่วเวลาไม่นานท่านก็ฝันเห็นเด็ก 4 คน ย่องเข้ามาในห้องพอเข้ามาได้ก็ตรงมาแหย่ มาล้อเล่นไม่ให้นอน อ.เฟื้อได้เอามือผลักแต่พอมือไปสัมผัสที่ตัวเด็กก็รู้สึกตัวเย็นชืด สะดุ้งตื่นขึ้นมามองไปรอบๆห้องก็ไม่มีใคร
    ผีเด็กทั้ง 4 ตนนี้ พระในวัดพุทไธสวรรย์ เจอมาก่อนแล้วทั้งนั้นแสดงว่ามีจริงๆแม้แต่พระที่อาศัยอยู่ในห้อง อ.เฟื้อแต่เดิมที่ท่านอยู่ไม่ได้ก็เพราะเหตุเดียวกับ อ.เฟื้อคือฝันว่ามีเด็ก 4 คน จับท่านกดลงไปในน้ำ ท่านจึงอยู่ไม่ได้ สำหรับผีเด็กทั้ง 4 ตนนี้ ไม่มีใครรู้ประวัติความเป็นมาว่า วิญญาณมาอยู่ที่นั่นได้อย่างไร
    สำหรับ อ.เฟื้อนั้นท่านยังต้องผจญกับ "ผี" ที่วัดพุทไธสวรรย์อีก แต่คราวนี้เป็นผีผู้หญิง และเจอหลังจากเจอผีเด็กเพียงไม่กี่วัน เรื่องมีอยู่ว่าคืนนั้น อ.เฟื้อทำงานดึกจึงเพลีย ผล็อยหลับไปตอนตี 2 โดยไม่ได้สวดมนต์ไหว้พระก่อนนอน แล้วก็ฝันเห็นผีผู้หญิงรูปร่างน่าเกลียดน่ากลัวคล้ายคนเป็นโรค ไม่มีผม เข้ามารัดจน อ.เฟื้ออึดอัดหายใจไม่ออก คิดสู้ก็สู้ไม่ไหว จึงร้องให้คนช่วยดังลั่นน เสียงร้องของ อ.เฟื้อปลุกพระที่อยู่กุฏิใกล้ๆกันตื่นตกใจวิ่งเข้ามาดู ทำเอาคืนต่อๆมาพระในวัดต้องจุดตะเกียงนอนกันเลยทีเดียว
    ภายหลังท่านจึงรู้ว่าผีผู้หญิงตนนี้ยังไม่ได้เผา ศพยังคงเก็บไว้ที่วัดวิญญาณจึงคงวนเวียน มาปรากฏให้เห็นอยู่เนือง ๆ

    อัพภาพ image(s)
    [​IMG] [​IMG]
     

แชร์หน้านี้

Loading...