เรื่องเด่น ตายจากคนได้ทิพยจักขุดูหมอได้ ไปเป็นนางฟ้าบนสวรรค์ชั้นยามา

ในห้อง 'หลวงพ่อฤๅษีลิงดำ' ตั้งกระทู้โดย picko, 1 กันยายน 2017.

  1. picko

    picko เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 มกราคม 2014
    โพสต์:
    635
    กระทู้เรื่องเด่น:
    97
    ค่าพลัง:
    +2,133
    Untitled-1.jpg

    “..อาตมาให้ชื่อเรื่องนี้ว่า “นางฟ้าหมอดู” เป็นนางฟ้าองค์ที่ ๓ ขยับเข้ามาใกล้เมื่อนางฟ้าปลาทูถอยออกไป เข้ามาเธอก็กราบอาตมาแล้วถามว่า “จำฉันได้ไหม” อาตมาตอบว่า “เวลานี้ฉันยังเป็นคน จำเธอไม่ได้ ถ้าฉันเป็นเทวดา อาจจะจำเธอได้เพราะเธอสวย” เธอก็ยิ้มแล้วบอกว่า “ในสมัยที่ฉันเป็นมนุษย์ ท่านก็ชอบพูดล้อเล่นแบบนี้อยู่เสมอเพื่อให้เกิดความสนุก ฉันเคยทำบุญและเคยเจริญพระกรรมฐานกับท่าน แต่การเจริญพระกรรมฐานของฉันศึกษาจากวัดต่างๆ มาก่อนหลายวัด ฉันชอบเจริญสมาธิ ต่อมาทราบข่าวการสอนของท่าน ฉันก็เลยไปศึกษาที่ท่านด้วย การที่เจริญสมาธิอยู่เรื่อยๆ มีผลอย่างหนึ่งนั่นคือทิพย์จักขุญาณ พอใช้ได้ตามสมควรก็เลยทำพระกรรมฐานเรื่อยมา “จิตเป็นสุข


    “ความจริงทิพย์จักขุญาณช่วยให้จิตเป็นสุขมาก วันไหนถ้ามีอารมณ์แห้งแล้งทางใจเกิดขึ้นหรือหงอยเหงาทางใจเกิดขึ้น ความหดหู่ทางใจเกิดขึ้นก็ใช้ทิพย์จักขุญาณเป็นเครื่องปลอบ หมายความว่า หาทางเห็นเทวดา เห็นนางฟ้า เห็นพรหม เห็นพระ และก็คุยกับท่าน ท่านก็คุยด้วย ฉันก็คุยกับท่าน สร้างความเพลิดเพลินเพราะเทวดาก็ดี นางฟ้าก็ดี พรหมก็ดี พระก็ตาม ท่านไม่คุยเรื่องอกุศล ท่านคุยเฉพาะสิ่งที่เป็นกุศลเสมอ อะไรที่ยังบกพร่องอยู่ท่านก็เตือน เตือนให้ปฏิบัติแบบง่ายๆ ฉันก็ทำตามท่าน” ถามเธอว่า “เวลานี้เธอเป็นนางฟ้าของสวรรค์ชั้นไหน”

    เธอตอบว่า “ฉันอยู่ชั้นยามาเจ้าค่ะ” จึงถามเธอว่า “อยากจะดูวิมานของเธอสวยไหม” วิมานของเธอก็เลื่อนเข้ามา เป็นวิมานหลังใหญ่และมีวิมานแถมเป็นหลังย่อมๆ ๒ หลัง คล้ายๆ กับสถานที่นั่งเล่น วิมานขาวใสเป็นเพชรแพรวพราวเป็นระยับเต็มหลังไปหมด รอบๆ วิมานของเธอเหมือนกับมีถังตักน้ำห้อยอยู่เต็มไปหมด แต่ถังมันเป็นเพชรแพรวพราวเป็นระยับ มีแสงออกสวยงามมากไม่ใช่เป็นทองคำ และของที่ใส่ในถังเป็นเพชรสูงขึ้นมาจากถังสวยมาก ไม่เหมือนถังที่ใส่ของถวายสังฆทานในเมืองมนุษย์เป็นถังเก่าและของที่อยู่ ข้างในก็ดูมัวๆ เธอบอกว่า “นี่คืออานิสงส์การถวายสังฆทานที่พระคุณเจ้าจัดให้ใส่ในถังก็เลยมาห้อยรอบๆ วิมานของฉัน” ถามว่า “เธอถวายสังฆทานแบบถังๆ นี้กี่ครั้งจึงมีมากมายอย่างนี้” เธอตอบว่า “การถวายสังฆทานจริงๆ ไม่เกิน ๑๐ ครั้ง เฉพาะสังฆทานถัง เพราะเวลานั้นสังฆทานถังราคา ๑๐๐ บาทยังไม่มี มีแต่สังฆทานถัง ๕๐๐ บาท เงิน ๕๐๐ บาทมันก็หาได้ยาก”

    เธอบอกอีกว่า
    “เธอเป็นหมอดูทางในใช้ทิพย์จักขุญาณดู การใช้ทิพย์จักขุญาณดูนี่มีประโยชน์มาก เพราะตื่นขึ้นมาแต่เช้าตรู่ก็ต้องคุมอารมณ์ไม่ให้นิวรณ์กวนใจ ต้องจับจิตไล่นิวรณ์ทันที เมื่อขับนิวรณ์แล้วสิ่งที่จับประจำอยู่ก็คือพระพุทธเจ้ากับครูบาอาจารย์ เทวดาหรือพรหมทั้งหลายที่ท่านเมตตา รวมความว่าจิตเป็นสมาธิเป็นพุทธานุสติกรรมฐาน เป็นสังฆานุสติ ด้วย เป็นเทวตานุสติด้วย เธอทำเป็นประจำกำลังสมาธิของเธอจึงสูง เวลาใครเขามาดูหมอให้พยากรณ์ เขาให้เงินก็เก็บไว้ถวายสังฆทานบ้าง ไว้ใส่บาตรบ้าง เวลาพระท่านขัดข้องอะไรขึ้นมาก็ทำบุญกับพระบ้าง ทำทุกอย่าง เงินที่ได้มาทั้งหมดก็ใช้ ๒ ประการคือ กินใช้เองตามความจำเป็นและเก็บไว้บ้างเพียงแค่ยารักษาโรคป้องกันการเจ็บป่วย นอกนั้นก็ทำบุญหมด เพราะคิดว่าเราต้องตาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งก่อนจะตายก็เห็นวิมานที่ชั้นยามาก่อน ได้ถามพระ

    ถามเทวดา ท่านว่า คนอย่างฉันถ้าตายจากความเป็นคนจะไปอยู่ที่ไหน ท่านก็ชี้ให้ดูวิมานหลังนี้ วิมานหลังนี้เกิดก่อนฉันตายมาก พอฉันฝึกมโนมยิทธิได้ทิพย์จักขุญาณแล้ว ฉันก็อาศัยมโนมยิทธิมาที่วิมานนี้ได้ ฉันก็เห็นวิมานหลังนี้ว่างจากเจ้าของ แต่ว่ามีคนอยู่นั่นคือบริวาร” ถามว่า “บริวารของเธอมีเท่าไร เธอตอบว่า “ บริวารของฉันมี ๔,๐๐๐ คน เป็นนางฟ้าทั้งหมด” เธอบอกให้ดูบริวารของเธอก็เห็นทุกคนนั่งสงบสงัด ก็ถามว่า “เขานั่งเงียบๆ เขาทำอะไรกัน” เธอก็บอกว่า “บริวารทั้งหมดนี้ทำสมาธิ ถามว่า “เธอมีบริวารไว้ทำไม ในเมื่อเป็นนางฟ้าเป็นเทวดาก็ตาม ไม่มีงานจะพึงทำ และมีบริวารก็ไม่ได้ใช้ บริวารทุกคนต่างคนต่างนั่งหลับตา” เธอก็หัวเราะตอบว่า “มันเป็นธรรมเนียมของสวรรค์” ถามว่า “บริวารพวกนี้มาจากไหน”เธอตอบว่า “บริวารพวกนี้เป็นคนที่เคยเจริญสมาธิ เคยให้ทาน เคยรักษาศีล เคยฟังเทศน์ แต่ว่าขาดการสร้างวิหารทาน คนประเภทนี้มีมากในเมื่อไม่เคยสร้างวิหารทาน วิมานของตัวเองก็ไม่มีอยู่ ก็ต้องมาอยู่ร่วมกัน คำว่า “บริวาร” นี้ไม่ใช่เป็นทาสรับใช้ ถือว่าเป็นเพื่อนแก้เหงาดีกว่า”
     

แชร์หน้านี้

Loading...