ฐานความรู้โดยย่อเรื่อง จักระ

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย svt, 23 สิงหาคม 2008.

  1. svt

    svt เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มกราคม 2006
    โพสต์:
    235
    ค่าพลัง:
    +1,033
    ฐานความรู้โดยย่อเรื่อง จักระ พลังจักรวาล

    .......จุดเริ่มต้นความมนุษย์มาจากธาตุละเอียด เป็นแสงสว่างที่มีจิตสำนึกรู้ อาศัยแสงสว่างจากแสงในจักรวาลเป็นพลังงานปราณผ่านจักระทั้ง๗ ฐาน เสพปีติทางใจเป็นอาหาร มีอายุขัยที่ยืนยาวนับหมื่นปีผ่านการเรียนรู้วิฒนาการของจักรวาลไปพร้อมๆกัน
    .......เมื่อความรู้สึกจิตสำนึกในสิ่งต่างๆ เริ่มหยาบลงจากการเสพสิ่งที่หยาบลงๆเป็นอาหาร จากง้วนดิน(ของเหลวคล้ายเนยใส) สู่แป้ง เนื้อสัตว์ ที่เป็นธาตุหยาบขึ้น ร่างกายที่อาศัยจึงมีวิวัฒนการหยาบลง

    .......ร่างกายที่หยาบในส่วนรูปลักษณ์ (physical) แต่ในส่วนที่ละเอียด(mental) ด้านจักระทำงานยังเหมือนเดิม พลังปีติทางใจจากการปฏิสัมพันธ์ในเชิงบวกกับเพื่อนมนุษย์ที่มอบความรักและเมตตาให้แก่กันยังคงมีอยู่เป็นสากล

    ....... ร่างกายที่หยาบขึ้น อายุเซลล์(cell) จึงสั้นตามลงไป ปัจจุบันนี้มนุษย์หนึ่งรอบอายุขัยนึง จึงอยู่ประมาณ ๑๒๐ ปีโดยประมาณ

    [​IMG]
    .......ตามภาษาอินเดีย ชื่อจักระทั้ง ๗ นี้ได้แก่ มูลธาระ สวาธิษฐาน มณีปุระ อนาหตะ วิสุทธะ อาชญะ สหัสราร และมี กุณฑาลินี ไหลเวียน โลดแล่นเป็นพลังให้แก่ชีวิตจิตวิญญาณทุกคน

    .......เรื่องจักระดังกล่าว มนุษย์ทุกมุมโลกล้วนค้นพบสภาวธรรมที่เป็นประสบการณ์ตรงเชิงประจักษ์ มาตั้งแต่โบราณกาล ชื่อเรียกดังกล่าวนั้นจึงมีชื่อเรียกต่างๆกันไป ตามภาษาจีน ,ภาษาอังกฤษ สันสกฤตฯลฯ จุดจักระนั้นแม้ชื่อเรียกต่างกันแต่ก็เป็นจุดเดียวกันคุณลักษณะ ไม่แตกต่างกันจากการสัมผัสภาวะ

    [​IMG]

    Emotional แสงออร่า มีสีพื้นของแต่ละคน และมีส่วนที่เปลี่ยนแปลงตามระดับอารมณ์
    SoulAxis แกนหรือช่องมิติของจิตวิญญาณ ต้นไม้แห่งชีวิตจิตวิญญาณ ที่มีกระบวนการพัฒนา

    จากภาพ ในส่วนแรก คือ Physical Body ของร่างกายมนุษย์ ต้องการอาหาร ๕ หมู่เป็นอย่างน้อยเพื่อนำมาหล่อเลี้ยงร่างกายให้ดำรงอยู่ได้ตามธรรมชาติ จากอาหารชนิดหยาบที่อาศัยการเคี้ยว ไปจนถึงอาหารชนิดละเอียดที่เล็กระดับ nano เพื่อให้ร่างกายได้ซึมซับสิ่งที่มีคุณค่าต่อร่างกาย
    ...... ในส่วนที่สอง จักระส่วนต่างๆบนเรือนกายจะทำหน้าที่รับพลังงานในส่วนละเอียด ซึมซับพลังงานในธรรมชาติ หรือพลังงานจักรวาล สิ่งที่มีคุณค่าต่อร่างกาย โดยที่ภาพรวมคลื่นสั่นสะเทือนของการทำงานของจักระ+ สุขภาพ+อารมณ์ และธาตุรู้ี่ดำรงอยู่ทุกเซลล์ของมนุษย์แต่ละคน จะบ่งบอกออกมาทางรังสีของออร่า ที่ปรากฏออกมาเป็นคุณภาพความเข้มในเฉดสีต่างๆ ทางวิทยาศาสตร์ มีเครื่องมือเพื่อถ่ายภาพสีออร่าของแต่ละคนเช่นกัน เรียกว่า กล้องออร่า
    ......ในส่วนที่สาม Soul Axis ท่อนแกนเส้นทางของจิตวิญญาณ ที่ผ่านการฟูมฟักจากสมาธิภาวนา ผ่านระเบียบวินัยในการฝึกฝนอย่างจริงจังต่อเนื่อง จนทุกจักระพลังงานสำนึกรู้ของจิตวิญญาณ ธาตุทุกจุดเชื่อมถึงกันอย่างสมดุลย์กันเปิดฟ้าเปิดดิน ผ่านขึ้นไปเบื้องบนประสานจิตวิญญาณสากล ส่วนนี้โบราณเรียกว่า ต้นไม้แห่งชีวิต(Tree Of Life) หรือเสาแกนอันศักดิ์สิทธิ์แห่งจักรวาล (Axis Of Cosmic) คนโบราณถือว่าจิตวิญญาณและีชีวิตเป็นเรื่องเดียวกัน

    ..............................

    เนื้อหาที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติม:

    กฏจักรวาล ธรรมชาติรังสรรค์จิตวิญญาณ
    http://www.dhammachak.net/board/viewtopic.php?t=578
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 4 พฤศจิกายน 2010
  2. svt

    svt เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มกราคม 2006
    โพสต์:
    235
    ค่าพลัง:
    +1,033
    [​IMG]
    ภาพออร่าของมนุษย์สัมพันธ์กับพลังจักระในส่วนต่างๆ ตลอดเวลา


    [​IMG]
    ภาพภาวะหมุนวนทำงานของจุดจักระ คลื่นสเปคตรัมแสงแถบสีตามลำดับความละเอียด ณ จุดจักระ


    [​IMG]
    ภาพถ่ายแกเลกซี่ ที่กำลังหมุนวนและสัมพันธ์กับภาวะจักระในมนุษย์


    ฌานสมาธิระดับอัปปนาสัมมาสมาธิ
    พุทธเถรวาท ให้ความสำคัญ เรื่อง จิต และเจตสิก
    พุทธมหายาน วัชรยานให้ความสำคัญ เรื่อง จักระ พลังงานบนเรือนกาย
    สภาวธรรมบุคคล ผู้ปฏิบัติเมื่อมีประสบการณ์ตรงของกายและจิต ก็จะมีประสบการณ์ดังกล่าวเหมือนกัน ขึ้นกับว่าจะมองมุมไหน มุมเถรวาท มุมมหายาน

    ซึ่งอย่างไรก็แล้วแต่ล้วนเป็นเรื่องเดียวกัน คือ องค์ความรู้ที่ปูพื้นในการพัฒนาจิตวิญญาณมนุษย์
    ผ่านการเรียกรู้ต่างๆของประสบการณ์ธรรม ประสบการณ์ชีวิต
    เรียนรู้ถึงความไม่เที่ยง เป็นทุกข์ อนัตตา ของธรรมชาติภายใน(จิตและกาย)
    และการนำไปสู่ความรักเมตตาที่เป็นสากล สัจจะที่เป็นองค์รวม
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 25 สิงหาคม 2008
  3. svt

    svt เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มกราคม 2006
    โพสต์:
    235
    ค่าพลัง:
    +1,033
    เมื่อผู้ปฏิบัติศึกษาผ่านสภาวธรรมภายในด้วยตัวเองอย่างลึกซึ้งก็จักเข้าใจแจ่มแจ้ง
    ถึงความสอดคล้อง คล้องจอง หนึ่งเดียวเกี่ยวพันร้อยรัดเป็นส่วนหนึ่งของกันและกัน
    ระหว่างชีวิตจิตวิญญาณท่านเองที่สัมพันธ์กับโลก เพื่อนร่วมโลก แกแลกซี่ จักรวาลอันสากล
    เข้าใจในเมตตารักอันเป็นสากล ความเป็นหนึ่งเดียวกัน ไม่แยกเราเขา
    หากเพื่อนท่านใดกำลังศึกษาเรียนรู้ในเรื่องดังกล่าว ...

    ขอฝากแนะนำวิธีปฏิบัติหัวข้อบทหนึ่งที่ตรง คม ชัดเจนที่น่าสนใจ
    ที่พระคุณเจ้าท่านนามว่า พระอาจารย์นาวี ปิยทัสสี ภิกขุ รจนาไว้แล้วในหนังสือ หนังสือ วิมุตติธรรม ฉบับพิมพ์ครั้งที่ ๔

    อานาปานสติ - ภาคปฏิบัติิ (1)
    อานาปานสติ - ภาคปฏิบัติิ (2)
    อานาปานสติ - ภาคปฏิบัติิ (3)
    อานาปานสติ - ภาคปฏิบัติิ (4)
    อานาปานสติ - ภาคปฏิบัติิ (5)
    อานาปานสติ - ภาคปฏิบัติิ (6)
    อานาปานสติ - ภาคปฏิบัติิ (7)
     
  4. svt

    svt เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มกราคม 2006
    โพสต์:
    235
    ค่าพลัง:
    +1,033
    มิติแห่งจิต

    [​IMG]

    มิติแห่งจิต
    ........จักระ จักระคือศูนย์รวมของพลังงานภายในร่างกายของมนุษย์ ซึ่งเป็นศูนย์พลังอันละเอียดอ่อนที่โีดยทั่วไปจะไม่สามารถสัมผัสได้ มนุษย์ มีจักระจำนวนมากมายอยูู่ภายในร่างกาย จักระที่สำคัญของมนุษย์เ์รานั้น มีอยู่ด้วยกัน ๗ ตำแหน่ง จักระในแต่ละตำแหน่งจะดูแลและควบคุมการทำงานของอวัยวะส่วนต่างๆ ภายในร่างกายของคนเราให้ทำงานเป็นปกติ

    ........ร่างกายของคนเราถูก ควบคุมด้วยต่อมต่า่งๆ ที่เีรียกว่า ต่อมไร้ท่อ โดยต่อมไร้ท่อจะส่งสารทางเคมีที่เรียกว่า ฮอร์โมน ไปสู่กระแสเลือดและน้ำเหลืองโดยไม่ต้องผ่านท่อส่งสารฮอร์โมนมีความสำคัญต่อการทำงานของร่างกายเป็นอย่างมาก เช่นระบบการเจริญเติบโต การย่อยอาหาร ระดับพลังงานภายในร่างกาย เรื่องทางเพศ รวมถึงการรักษาระดับน้ำและของเหลวในร่างกายอีกด้วย ต่อมต่างๆ เหล่านี้มีความสัมพันธ์กับจักระทั้ง ๗ หรือศูนย์รวมระบบประสาทหรือพลังงานทางจิตซึ่งมีอยู่ ๗ แห่งในร่างกาย

    สภาวธรรมระดับอัปปนาสมาธิ
    องค์ความรู้ฝ่า่ยมหายาน จักระ โยคะศาสตร์ให้ความสำคัญกับ จุดจักระต่างๆ บนเรือนกาย
    องค์ความรู้ฝ่ายเถรวาท ให้ความสำคัญกับองค์ประกอบของ จิต(เจตสิก)
    ตามหลักสภาวธรรม กายและจิตมีความสัมพันธ์กันทุกระดับ จากระดับหยาบสู่สภาวะละเอียด

    บทนำก่อนเข้าสู่ภาคปฏิบัติ
    สัจจะอันเป็นองค์รวม
    ........องค์ความรู้เรื่องพลังของจิตในระดับต่างๆ เช่น พลังจักรวาล พลังกุณฑาลินี พลังแห่งจักระ สหจะโยคะ ราชาโยคะฯ พึงทราบว่าโดยสภาวะนั้นเป็นการพูดถึงสิ่งเดียวกันคือเรื่อง สมาธิจิต ต่อมายุคหลังๆ การฝึกจิตเข้าสู่สมาธิระดับต่างๆ มีการคลาดเคลื่อนจากหลักแห่งความเป็นจริงไปบ้าง เช่นนึกอยากจะเข้าสมาธิระดับใดก็เข้าได้เลยโดยไม่ต้องผ่านสมาธิระดับต้นๆ ซึ่งตามหลักสภาวธรรมแล้ว เป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้

    ........หลักการ อุบายวิธียกระดับจิตตามราชาโยคะ พลังจักรวาล สหจะ โยคะฯ ในยุคหลังๆ ขาดความรู้อันเป็นหลักใหญ่ (องค์ประกอบของจิต -เจตสิก)จึงทำให้สภาวธรรมอันเป็นผลที่พึงได้รับไม่สมบูรณ์เหมือนยุคสมัยต้นๆ ของการค้นพบศาสตร์นี้

    ........มิติมุมมององค์ความรู้ในพุทธศาสตร์เรียกระดับชั้นของพลังจิตที่อยู่ในระดับสมาธิขั้นสูงนั้นว่า ฌานจิต องค์ความรู้ระดับฌานจิตเป็นองค์ความรู้ที่มีมาก่อนพุทธกาล พระพุทธองค์ก่อนตรัสรู้ก็ทรงศึกษาและสำเร็จ วิชาฌานจิต ทั้งแปดระดับ ลำพังความรู้ระดับฌานจิตนั้นไม่สามารถ ไปถึงที่สุดแห่งทุกข์ได้ พระพุทธองค์ทรงทราบชัดว่าตราบใดที่กระแสแห่งการเกิดดับของขันธ์ยังเกิด - ดับ สืบ ต่อเนื่องกันอยู่นั่นคือ ภาวะความสืบต่อแห่งทุกข์ยังไม่สิ้นสุด! สภาวธรรมระดับอรูปฌานที่สี่คือ เนวสัญญานาสัญญายตนะ ขันธ์เกือบจะดับสนิท อย่แล้ว แต่เ่พราะยังมีเีชื้อ ตัณหาอุปาทานอยู่ สันตติแห่งการเกิด - ดับของขันธ์ จึงไม่ดับสนิท ไม่ดับสิ้นสุดลง! พระพุทธองค์จึงทรงปลีกออกไปโดยลำพังเพื่อแสวงหาองค์ความรู้ที่ สูงกว่าที่สุด พระองค์ท่านก็ได้ทรงค้นพบด้วยความสามารถของพระองค์เองนั่นคือ วิปัสสนา

    ........สิ่งหนึ่งที่ผู้ศึกษาวิชาความรู้ในพุทธศาสนาไม่ควรมองข้ามก็คือ พระพุทธองค์ทรงตรัสสรรเสริญองค์ความรู้ระดับฌานจิตว่าเป็นส่วนหนึ่งของอัฏฐังคิกมัคค์ คือเป็นองค์ประกอบหนึ่งในแปดขององค์ความรู้ที่จะนำไปสู่ความพ้นทุกข์......ด้วยบารมีธรรมแห่งโพธิญาณของเจ้าชายสิทธัตถะ ถึงวาระให้ผลเต็มรอบ สภาวธรรม ๗ ประการปรากฏขึ้น แวดล้อม เกื้อหนุน สมาธิระดับสามัญยกระดับขึ้นสู่ภาวะ สัมมาสมาธิ อันเป็นบาทฐานแห่งวิชชา ๓ ในรัตติกาลแห่งการตรัสรู้

    อริยสัมมาสมาธิ
    ........ภิกษุทั้งหลาย เราจักแสดง อริยสัมมาสมาธิ ที่มี ที่ตั้งอาศัย ที่มีบริขาร เธอจงฟังซึ่งธรรมนั้น จงทำในใจให้สำเร็จประโยชน์ เราจักกล่าว ภิก ษุทั้งหลาย อริยสัม มาสมาธิที่มี ที่ตั้งอาศัยที่มี บริขารเป็นอย่างไรเล่า ภิก ษุทั้งหลาย องค์มรรคเหล่านี้คือ สัมมาทิฏฐิ สัมมาสังกัปปะ สัมมาวาจา สัมมากัมมันตะ สัมมาอาชีวะ สัมมาวายามะ สัมมาสติเหล่าใด อันเป็นองค์๗ ประการ ที่แวดล้อมเอกัคคตาจิต อยู่เอกัคคตาจิต ชนิด นี้ เราเรีย กว่าอริยสัมมาสมาธิ ที่มีที่ตั้งอาศัยดังนี้บ้าง ที่มีบริขารดังนี้บ้าง
    ม.อุปริ. 14/136/184 มหาจัตตารีสกสูตร
     
  5. svt

    svt เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มกราคม 2006
    โพสต์:
    235
    ค่าพลัง:
    +1,033
    [​IMG]

    วงโคจรการวนรอบของจิตในสังสารวัฏ
    ........พลังงานทุกหน่วยในโลกและจักรวาล เคลื่อนที่ไีปในลักษณะวงกลมตามวงจรอันเป็น ระบบจิต เป็น สภาวธรรมที่เีคลื่อนที่เีกิด - ดับ สืบเนื่องกันตลอดเวลาและกลุ่มพลังงานที่เีกิดจากกระแสแห่งความสืบต่อนี้ ก็เ็คลื่อนไปตามวงโคจรของวัฏฏะแห่งภพ จิตที่ปรากฏเกิด - ดับ จะมีองค์ประกอบ(เจตสิก) เกิดร่วมด้วยทุกครั้ง เมื่อองค์ประกอบระดับหยาบๆ ดับไป จิตก็เคลื่อนสู่สภาวะที่ละเอียดขึ้นๆ จากกามภูมิสู่รูปภูมิ สู่อรูปภูมิตามลำดับ และวนกลับมาที่กามภูมิตามวงโคจรของจิตในสังสารวัฏ

    [​IMG]
    สรุป การที่จิตจะเข้าสู่สภาวะระดับต่างๆ ที่ละเอียดสูงขึ้นๆ องค์ประกอบของจิต (เจตสิก) ต้องดับไปก่อนจึงสามารถเคลื่อนสู่สภาวะนั้นๆได้ หากองค์ประกอบยังไม่ดับ แม้จะสร้างเจตจำนงยกจิตขึ้นสู่จักระระดับต่างๆ พึงทราบว่านั่นเป็นเพียงลักษณะของความคิด นึกเท่า่นั้น จิต ยังอยู่ระดับเดิม (กามภูมิ) หาได้เ้คลื่อนสู่ระดับที่สูงไม่
     
  6. svt

    svt เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มกราคม 2006
    โพสต์:
    235
    ค่าพลัง:
    +1,033
    [​IMG]

    จุดเริ่มต้นของโลกทัศน์และชีวิต
    จุดเริ่มต้นสังขารธรรม จุดเริ่มต้นของกาละ



    ศึกษาอ่านเพิ่มเติมได้ที่:
    http://www.dhammachak.net/board/viewtopic.php?t=454........
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 4 พฤศจิกายน 2010
  7. The Shadow

    The Shadow เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ตุลาคม 2004
    โพสต์:
    557
    ค่าพลัง:
    +1,732
    อ่านจบแล้วครับ แต่ยังไม่ค่อยเกตครับ แต่อย่างหนึ่งที่เห็นด้วย ถ้ากุณทาริณีเคลื่อน สภาวะจิต จะเปลี่ยนไปตามลำดับ
     
  8. svt

    svt เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มกราคม 2006
    โพสต์:
    235
    ค่าพลัง:
    +1,033
    เข้าใจครับ ส่วนที่เกต ก็เป็นส่วนที่คุณเคยผ่านประสบการณ์ตรงมาแล้ว
     

แชร์หน้านี้

Loading...