จิตเสื่อม

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย สันโดษ, 24 พฤษภาคม 2008.

แท็ก: แก้ไข
  1. สันโดษ

    สันโดษ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    9,940
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +16,870
    ขอขอบคุณ สันติธรรม

    http://www.bangkokmap.com/pm/content/view/161/39/


    เรามองกันว่า จิตเสื่อมไม่ดี จิตเจริญมันดี :cool:

    ทั้งๆ ที่การทำลายสักกายทิฏฐินั้น จะทำลายได้ก็ต้องอาศัย "จิตเสื่อม" ผู้ปฏิบัตินั้น รักและหวงแหน"จิตผู้รู้"กันมาก

    พยายามปัดกวาดสิ่งสกปรก ประคับประคองบำรุงสติสัมปชัญญะยิ่งกว่าเลี้ยงลูกอ่อนแล้วไม่ว่าจะรักษาศีล บำเพ็ญภาวนาปานใด

    ความเสื่อมของจิตผู้รู้ก็ยังกล้ำกลายเข้ามาอีกจนได้ คือ มองไม่เห็นจิตผู้รู้ เห็นแต่ความฟุ้งซ่านรำคาญใจ การที่จิตเจริญแล้วเสื่อม

    เสื่อมแล้วเจริญนั้น ถึงจุดหนึ่งจิตจะรู้แจ้งแทงตลอดในความเป็นจริงว่า

    แม้ตัวจิตเองก็ไม่เที่ยง เป็นทุกข์ เป็นอนัตตา -=จิตไม่ใช่ตัวเรา=- ขณะเดียวที่เห็นว่าจิตไม่ใช่เรานั้น

    สักกายทิฏฐิก็ขาดแล้ว แล้วก็จะเข้าใจว่า จริงๆ ยังมีธรรมชาติที่ผ่องใสอันหนึ่ง มันเป็นธรรมชาติของมันอยู่อย่างนั้นแหละ

    ที่เจริญและเสื่อมก็คือขันธ์เท่านั้นเอง จิตที่ฉลาดแล้ว สะอาดแล้ว ไม่เจริญและเสื่อมไปด้วย (แต่ไม่ใช่ไม่เกิดไม่ดับนะครับ)

    เหมือนน้ำในท่อน้ำครำ ที่น้ำสะอาดก็ยังคงอยู่ ที่มันสกปรกนั้นไม่ใช่น้ำสกปรก แต่เป็นเพราะมีสิ่งอื่นเข้ามาแทรกปน

    พอแยกสิ่งที่แทรกปนออก น้ำก็สะอาดอย่างเก่า น้ำที่สะอาดจึงไม่เคยหายไปไหน เพียงแต่บางคราวเรามองไม่เห็นเท่านั้น

    พระพุทธเจ้าท่านจึงสอนว่า จิตนั้นผ่องใส แต่เศร้าหมองเพราะกิเลสที่จรมา เรื่องที่จะเล่าต่อไปนี้เป็นเรื่องที่ผมฟังครูบาอาจารย์มา

    ท่านว่าพระอนาคามีนั้น จิตผู้รู้จะเด่นดวงอย่างยิ่ง ไม่เศร้าหมอง เพราะกามไม่มีอำนาจดึงดูดแล้ว

    บางท่านหาทางพัฒนาต่อไปไม่ได้ เพราะดูอย่างไรก็เห็นแต่จิตที่ไม่เสื่อมความยึดถือจิตจึงยังคงอยู่เรื่อยๆ ไป

    ต่อเมื่อสังเกตเห็นว่า บางครั้งจิตก็ยังหมองไปนิดๆ เพราะกิเลสชั้นละเอียดคือความไม่รู้ คือมองเห็นความเสื่อมของจิตนั่นเอง

    แล้วสามารถแยกเอากิเลสละเอียดออกจากจิตได้อีก จิตจึงถึงความบริสุทธิ์ที่แท้จริง ไม่ตกอยู่ใต้แรงดึงดูดใดๆ อีก



    ที่จริงผมไม่ได้เข้ามาตอบกระทู้นี้ เพราะเห็นว่าตอบกันดีอยู่แล้วน่ะครับ แล้วเรื่องอย่างนี้ หากอธิบายแจกแจงละเอียดเกินไป

    ผู้ปฏิบัติใหม่ๆ ก็จะนิ่งนอนใจกับภาวะจิตเสื่อม เพราะปัญญาที่เป็นสัญญาจากการอ่านมันล้ำหน้าไปแล้ว

    ว่า จิตเสื่อมเป็นเรื่องธรรมชาติ แบบเดียวกับการเป็นสิว แต่เมื่อ คุณนิดนึง เปิดประเด็นที่ละเอียดไว้ ก็เลยต้องตกบันไดพลอยโจนครับ

    แต่ก็อยากบอกน้องๆ และหลานๆ ว่าอย่างนิ่งนอนใจกับภาวะจิตเสื่อมเราจะต้องพยายามต่อสู้แก้ไขจนเต็มที่

    เพื่อพิสูจน์ความจริงให้จิตเห็นว่า จิตนั้นเป็นอัตตาหรืออนัตตากันแน่ หากไม่พิสูจน์กันสุดชีวิตจิตใจ

    จิตมันไม่เชื่อหรอกครับว่า จิตเป็นอนัตตา



    ส่วนอุบายวิธีที่จะแก้ปัญหาจิตเสื่อม ขอให้พยายามพิจารณากันเองเองเถอะครับ กุศลธรรมทั้งหลายนั้น เอามาใช้ได้ทั้งนั้น เช่น สัจจะ อธิษฐาน

    ขันติ ทาน สมถะ วิปัสสนา ฯลฯ แต่อุบายวิธีในการแก้ปัญหานั้น เราต้องพัฒนาขึ้นตลอดเวลา เพราะกิเลสมันมีพัฒนาการเหมือนกัน

    เช่นคราวนี้เราแก้ความฟุ้งซ่านได้ด้วยการทำสมถะ อีกวันหนึ่งเอาสมถะมาแก้ ก็ไม่สำเร็จเสียแล้ว คล้ายกับกิเลสเป็นเชื้อโรคที่ดื้อยาชนิดนั้นไป

    แล้ว เราก็ต้องผลิตยาตัวใหม่ มาต่อสู้กับมันอีก อุบายวิธีในการต่อสู้กับกิเลส จึงมีมากมายนับไม่ถ้วนดังนั้นที่ทองคำขาวถามหาวิธี ก็คงตอบไม่ได้

    หรอกครับลองนึกถึง ภาพพระโพธิสัตว์ของฝ่ายมหายานสิครับ พระโพธิสัตว์มีจำนวนมาก แต่ละองค์บางทีก็มีตั้งพันกร

    เพื่อจะต่อสู้กับกิเลสพันห้าตัณหาร้อยแปด ดังนั้น ไม่มีอุบายสำเร็จรูปหรอกครับ ที่จะสู้กับจิตเสื่อม



    แต่ถ้าจะกล่าวอย่างย่นย่อ "โยนิโสมนสิการ" ครับ ที่จะผลิตอาวุธมาแก้ปัญหาจิตเสื่อมของเราได้เสมอ

    ก็ต้องสู้กันจนมารและพระโพธิสัตว์ตายไปพร้อมๆ กันแหละครับ

    [10 ก.พ. 2542]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 พฤษภาคม 2008
  2. โอซารัน

    โอซารัน Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มกราคม 2008
    โพสต์:
    873
    ค่าพลัง:
    +91
    ชิมิ ผมเชื่อว่าจิตเป็นอนันตา ครับ
     
  3. ฐาณัฏฐ์

    ฐาณัฏฐ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2008
    โพสต์:
    6,197
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +4,075
    จิตเสื่อม จิตถอดถอย ใช่ใจล้า
    จิตใช่ครอบงำใจ แต่ใจนั่นแหละที่คล้อยตามจิต
     
  4. ฐาณัฏฐ์

    ฐาณัฏฐ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2008
    โพสต์:
    6,197
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +4,075
    ชิมิ ชิมิ
     
  5. jinny95

    jinny95 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    6,074
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +9,666
    ละของละเอียด ละหลงในสุข น่าจะยากนะ^-^
     
  6. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    จิตเสื่อม ใจรับรู้แล้วก็ เฉย

    จิตฟู ใจรับรู้แล้วก็ เฉย

    จิตเฉย ใจรับรู้แล้วก็ เฉย

    จิตขี้เกียจ ใจรับรู้แล้วก็ เฉย

    รู้เฉยๆไม่ต้องเข้าครัว ปรุงแต่ง

    ชิมิ ชิมิ
     
  7. Ong

    Ong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มีนาคม 2005
    โพสต์:
    2,501
    ค่าพลัง:
    +12,861
    จิตไม่ใช่เรา

    จะเสื่อม จะฟู จะดี จะเจริญ ก็รู้ รู้แล้ว จบ

    ชิมิ ชิมิ
     
  8. polala

    polala สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    8
    ค่าพลัง:
    +2
    จิตเคยเสื่อม จิตกำลังเสื่อม กับ ไม่รู้ว่าจิตเสื่อม หลงว่าจิตไม่เคยเสื่อม

    2 อย่างหลัง นี่ อีน่ากัว
     
  9. polala

    polala สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    8
    ค่าพลัง:
    +2
    วันนี้ฟ้าฝนก็ไม่คลึ้มนะ แต่ทำไม วันนี้มันเงียบสงัด
    หรือว่ากลัวจิตเสื่อม จนไม่กล้าคุยกัน

    ว้า แย่จัง
     
  10. อวิโรธนะ

    อวิโรธนะ สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    88
    ค่าพลัง:
    +6
    เหตุที่นิ่ง ไม่ได้หมายความว่าหมดเรื่องคุยเสมอไป
    ฟ้าฝนมาทำเคลิ้มได้หลายๆเวลา
    แต่สิ่งที่เคลิ้มก็ไม่ใช่ฟ้าฝนในเวลานั้น
     
  11. polala

    polala สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    8
    ค่าพลัง:
    +2

    ขอบคุณที่เตือน ..ไม่ใช่ฟ้าฝนในเวลานั้น ...ลึกซึ้ง ๆ
     

แชร์หน้านี้

Loading...