เรื่องเด่น "คนพาล เข้าไปนั่งใกล้บัณฑิตอยู่แม้จนตลอดชีวิต เขาย่อมไม่รู้ธรรม เหมือนทัพพีไม่รู้รสแกงฉะนั้น"

ในห้อง 'พุทธศาสนา และ ธรรมะ' ตั้งกระทู้โดย บ้องแบ้ว, 23 กุมภาพันธ์ 2017.

  1. บ้องแบ้ว

    บ้องแบ้ว นางฟ้าผู้น่ารัก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    3,293
    กระทู้เรื่องเด่น:
    105
    ค่าพลัง:
    +5,301
    FB_IMG_1487827984128.jpg

    "คนพาล เข้าไปนั่งใกล้บัณฑิตอยู่แม้จนตลอดชีวิต เขาย่อมไม่รู้ธรรม เหมือนทัพพีไม่รู้รสแกงฉะนั้น"

    พุทธวจนะในพระสัมมาสัมพุทธเจ้า

    มีพระเจ้าปัญหารูปหนึ่งที่มีความประพฤติและความรู้ไม่เหมาะสมนั่นก็คือ พระอุทายี ซึ่งพระอุทายีเป็นต้นบัญญัติเรื่องที่ว่า ท่านเคยนำอุบาสิกาท่านหนึ่งไปนั่งสนทนากันในที่ลับตา คือในกุฎิ ซึ่งก็พอดีว่านางวิสาขามหาอุบาสิกามาพบเห็นเข้าจึงได้กล่าวเตือน สิ่งที่ได้รับกลับมาก็คือ ท่านอุทายีกล่าวตอบว่า "โยมยุ่งอะไรด้วย"
    เมื่อพระนางวิสาขามหาอุบาสิกาได้ยินเช่นนั้นจึงนำเรื่องนี้ไปกราบทูลพระพุทธเจ้า พระพุทธองค์จึงทรงบัญญัติเป็นข้อห้ามภิกษุพูดเจรจากับสตรีสองต่อสอง หากจะเจรจาด้วยควรมีพระหรือสามเณรรูปอื่นอยู่ด้วย
    อีกหนึ่งกรณีก็คือ ท่านอุทายีเป็นผู้มีฝีมือในการเย็บจีวร ครั้งหนึ่งมีภิกษุณีที่ไม่ใช่ญาติของท่านมาขอให้เย็บจีวรให้ ท่านก็เย็บให้อย่างดี ภิกษุณีผู้ไม่รู้ความก็นำไปสวมใส่ บรรดาภิกษุที่มักน้อยต่างก็เพ่งโทษ ติเตียน โพนทะนาว่า ไฉนท่านพระอุทายีจึงได้เย็บ จีวรให้ภิกษุณีเล่าเรื่องนี้ความทราบถึงพระพุทธองค์ พระองค์จึงตรัสติเตียนว่า
    "ดูก่อนโมฆะบุรุษ ภิกษุที่มิใช่ญาติ ย่อมไม่รู้การกระทำที่สมควรหรือไม่สมควร อาการที่น่าเลื่อมใสหรือไม่น่าเลื่อมใส ของภิกษุณีที่มิใช่ญาติ ไฉนเธอจึงได้เย็บจีวรให้ภิกษุณีที่มิใช่ญาติเล่า การกระทำของเธอนั่น ไม่เป็นไปเพื่อความเลื่อมใสของชุมชนที่ยังไม่เลื่อมใส หรือ เพื่อความเลื่อมใสยิ่งของชุมชนที่เลื่อมใสแล้ว ...
    ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็แลพวกเธอพึงยกสิกขาบทนี้ขึ้นแสดงอย่างนี้ว่า "อนึ่ง ภิกษุใด เย็บก็ดี ให้เย็บก็ดี ซึ่งจีวร เพื่อภิกษุณีผู้มิใช่ญาติ เป็นปาจิตตีย์"
    พระอุทายีผู้นี้ยังมีวีรกรรมเป็นเถ้าแก่ไปขอเมียให้ชาวบ้านอีกหลายราย บางคู่ก็อยู่กันได้ บางคู่ก็ทะเลาะหย่าร้างกัน พ่อแม่ฝ่ายหญิงตามมาด่าพ่อสื่ออุทายีถึงวัด ทำให้ต่อมาก็มีสิขาบทเพิ่มเติมห้ามพระเป็นพ่อสื่อ หรือเป็นสื่อชักนำชายหญิงให้ได้เกี้ยวพาราสีกัน
    ความประพฤติอีกอย่างของพระอุทายีก็คือ เมื่อเห็นพระเถระชั้นผู้ใหญ่ไม่อยู่แล้วก็มักจะเข้าไปนั่งในโรงธรรมนั่งบนธรรมาสน์อยู่บ่อยๆ ต่อมาวันหนึ่งมีภิกษุอาคันตุกะเห็นพระอุทายีนั่งบนธรรมาสน์ ก็เข้าใจว่าเป็นพระผู้ใหญ่ผู้มี่ความรู้มาก จึงเข้าไปถามปัญหาธรรมะเช่นปัญหาเรื่องปฏิสังยุตด้วยขันธ์ แต่พระอุทายีตอบไม่ได้ พวกภิกษุจึงตำหนิว่า "นี่พระเถระอะไร อยู่ในวิหารเดียวกับพระพุทธเจ้ายังไม่รู้ธรรมเพียงเท่านี้ แม้สักว่าขันธุ์ธาตุและอาตยนะ"
    เหล่าภิกษุจึงไปกราบทูลต่อพระพุทธองค์ พระพุทธองค์จึงตรัสแก่ภิกษุเหล่านั้นว่า
    "คนพาล เข้าไปนั่งใกล้บัณฑิตอยู่แม้จนตลอดชีวิต เขาย่อมไม่รู้ธรรม เหมือนทัพพีไม่รู้รสแกงฉะนั้น" พอจบเทศนานี้แล้วจิตของภิกษุทั้งหลายก็หลุดพ้นเป็นพระอรหันต์
    ************
    ธ.ธรรมรักษ์
     

แชร์หน้านี้

Loading...