ของใช้ในชีวิตระจำวันที่ดี ที่ สุด

เนื่องจาก ห้องนี้ เป็นเรื่อง ของ สุขภาพ ของกายและจิต
ดังนั้น ต่อไป นี้..จะเป็นการแนะแนว เพื่อ สุขภาพของกายและจิต

เป็นที่ รู้กันว่า..ผู้ใด สามารถปรับตัวเข้ากับ ธรรม ชาติ
และสิ่งแวดล้อมได้ ดี ที่ สุด ...ก็จะมีอายุที่ ยืนยาว และ มีสุขภาพดี

หลายๆๆอย่าง เป็น ของ จากธรรม ชาติ บ้าง สารเคมีประดิษฐ์ บ้าง
ไม่ว่า จะเป็นอาหาร /เครื่องดื่ม/เสื้อผ้า/ บ้าน/เคหะสถาน/ ยารักษาโรค

ผู้ผลิตทั้งหลาย จึง พยายามผลิตของ ที่ ออกมาให้ ผู้คนได้ กินได้ ใช้
คิดค้นสิ่งของบริโภค อุปโภค ที่ ดี ผู้คนนิยม ในคุณ ภาพ...แข่งกัน
บางอย่าง เอาใจคนจนเลยเถิด..เกินความจำเป็น

ผกซักฟอก ต้องเอาแรงเข้าไว้..ฟองมากเข้าไว้.ซัก.ผ้า ได้ขาวสะอาดที่ สุด หอม ที่ สุด...นั่นการเน้น ให้คนสนใจ ทั้งๆที่ มันเกินจำเป็น

ผ้า ที่ ขาวสะอาดที่ สุด..คือเน้นสภาพความเป็น "กรด "สูงสุด
กัด คราบสกปรก ได้แรงที่สุด..แต่มือ คนซัก พังหมด
เช่นถ้า เราเอา น้ำยาล้างพื้นที่ มีกรด แรง มา ทำเจือจาง
แล้ว จุ่มผ้า ลงไป..ผ้าจะขาวมากๆๆ..ได้ เช่นกัน

จะราดพื้นห้องน้ำให้ สะอาด..เอาน้ำกลั่นแบตเตอรี่ ก็ได้.ราดทั้งพื้น ทั้งโถส้วมสะอาดที่ สุด

สบู่ ก้ต้องแรงๆๆ ถูตัวทีเดียว ตัวสะอาด..แต่แสบหน้า แสบตา
ยาสีฟัน ของเด็กๆๆ ..หลอกล่อ เด็ก.
.ใส่สี ที่เป็นสารเคมีให้ ดูสวยน่ากิน
ใส่น้ำตาล..ให้ยาสีฟันออก รสหวาน..พร้อมกลิ่น
ตั้งแต่ สตรอเบอรี่/ช๊อคโกแลต..ฯลน สารเคมีที่เป็นพิษ ทั้ง นั้น

 

ดังนั้นจากการได้ ทดลองให้ ผู้คนที่ มาที่ บู๊ธ 042
ทุกคน ลองสัมผัส และตรวจด้วยจิต.
.เพื่อดูว่า ของ สิ่งใด ยี่ห้อใด ที่..เข้าหลัก กับคนได้ เหมาะที่ สุด
คือ ดูแล้ว..ผู้คนใช้แล้ว จะมีคุณ ภาพที่ ปลอดภัยที่ สุด

ข้อแนะนำนี้ ไม่เกี่ยวกับ การโฆษณา/หรือ รับจ้างมา/ได้ สปอนเซอ่ร์..แต่อย่างใด
เป็นการชี้ข้อมูล ว่า สิ่งใดดี ตามหลัก วิจัย และ ทดสอบด้วยจิต

เช่นเดียวกับที่ ประเทศ อังกฤษ..เขามีหนังสือ สารคดี
เรื่องการให้คะแนน ของใช้ ประจำวันทุกชนิด ชื่อ หนังสือ "WHICH"
ซึ่งมีความหมายว่า อันไหนดี
เขามีสมาชิก นับ หมื่น นับแสน ที่ จะ ส่ง ข้อมูลมาให้ เป็น โหวต
แล้ว จะสรุป ผล จากผู้ ใช้ ทั้งหมด ว่า อย่างไหนดีที่ สุด
เช่น ยาสีฟัน /สบู่/ แชมภู/ผงซักฟอก/ หวี/แปรง/ เครื่องเป่าไดผม
/เครื่องตีไข่/เตาปิ้งขนมปัง/แยม/นมสด/กล้องถ่ายรูป....ฯลฯ

ในประเทศไทย เราเคยมีหน่วยงาน อยู่หนึ่งหน่วยงาน "องค์กรคุ้มครอง ผู้ บริโภค"
ที่ จะคอยโวยวาย..ถ้า บริษัทใด..ผลิตของที่ ไม่มีคุณ ภาพ และหลอกลวงประชาชน
แต่วันนี้ เห็น หายไป
แต่ที่มาแทน คือ อย. องค์การอาหารและยา
ซึ่งก็เน้นเรื่อง ยา..และอาหาร เป็นหลัก
คอยตรวจอนุมัติการใช้ยา/ คอยครวจอาหารดิบ และ สำเร้จรูป ตามตลาดสด
เช่น เนื้อหมูสด ใส่ ดินประสิวมาก/ ขนมใส่สารสีเป็นพิษ/
ลูกชิ้น ใส่บอแรก ทำให้ เด้งได้/อาหารกระป๋อง หมดอายุ
แต่หน่วยงานที่ เล็กมาก..ดูแลไม่ทั่วถึงอยู่แล้ว
พวกเราจึงต้อง ระวังตัวเอง..เพื่อ ความปลอดภัย

 

กระทู้นี้ จะทะยอย ลงรายละเอียด แนะนำสิ่งของใช้ ที่ได้ ตรวจ ทางจิต
โดยดู ว่า แสงออร่า ของ ผู้ คน กับ คลื่นแสงจากสารเคมี..มีผลอย่างไร
แย่มาก/แย่น้อย/ ดี /พอใช้
โดยจะเรียงจาก ลิ่งที่ดีอยู่หน้า สุด แล้ว ลดหลั่นลงไป
ขอยืนยันว่า..ไม่ได้ มีการโฆษณา /หรือ รับ สะปอนเซอร์ แต่อย่างใด

 

รายการแรก ใกล้ ตัวที่ สุด
ยาสีฟัน
1. ฟลูโอคารีล .. Fluocaril
2. ซิสเต็มม่า..... Systema
3. ซอลซ์..........Salz
4. ออรัล บี......Oral B
5. เซ็นโซดายน์ Sensodyne
6. พาราดอนแทกซ์..Paradontax
7. อีโมฟอร์ม .......Emoform
8. ดาร์ลี่ ....Darlie
9. คอลเกต...Colgate
10. ทิพย์นิยม
11.โคโดโม....Kodomo

ผู้ที่ มีพลังจิต สามารถ พิศูจน์ได้ ด้วยตัวเอง
โดยลองเอามือ มาสัมผัส ทีละชิ้น ทีละยี่ห้อ ใน ซุปเปอร์ สโตร์
ทำจิตให้ นิ่ง.แล้วดู ความแตกต่าง ของ ความสะบาย/
ความโล่ง/ หายใจสะดวก เบาสะบาย
จะพบว่า ไม่เท่า กัน...อันไหน อึดอัด หายใจแย่ลง..แสดงว่า ของ ยี่ห้อ นั้น แย่กว่า
ลองทำดู.เวลาไป 7-11 ฟรือ เทสโก้ โลตัส
ผมจะพยามยาม ทะยอยลงมาเป็นรายการๆๆไป..ตามที่ได้ พบ ได้ เห็น
ทั้งนี้ เพื่อ สุขภาพของกายและจิต..ตามชื่อ ของ ห้อง ที่ได้ ตั้งไว้

 

จะคอยติดตามนะครับ

 

ขอเพิ่มเติมจาก อ.ตาที่สาม ได้กล่าวไว้

ปกติทุคนมีธาตุเจ้าเรือน ธาตุจร ฯลฯ แตกต่างกัน
ทำให้ ปัจจุบันธาตุของแต่ละคนก็แตกต่างกัน ออร่า ประจำตัวจึงแตกต่างกัน
แม้แต่ผู้เดียวกัน ช่วงเวลาที่แตกต่างกัน เช่น ปีที่แล้ว กับปีนี้ การย้ายที่อยู่ การทำบุญมหากุศล ฯลฯ
ความเปลี่ยนแปลงเหล่านี้จะทำให้ปัจจุบันธาต และออราเปลี่ยนแปลง

อาหารการกิน สิ่งของเครื่องใช้ แม้แต่สภาวะแวดล้อมรอบกาย
ก็จะมีผลต่อสุขภาพกายและจิต ของผู้ที่ได้ที่ได้สัมผัส ได้บริโภค แตกต่างกัน ไป ตามปัจจุบันธาตุ(ออร่าปัจจุบัน)

ที่ อ.ตาที่สาม เขียนไว้ เป็นข้อมูลกว้างๆที่ยังไม่เจาะลึก เป็นค่าเฉลี่ยทั่วๆไป
สิ่งที่ อ. บอก ดีที่สุดสำหรับคนทั่วไป อาจเป็นสิ่งที่ด้อย อยู่ในอันดับ 3, 4 สำหรับบางคน

ผู้ที่มีพลังจิตระดับหนึ่ง จะสามารถตรวจสอบสิ่งเหล่านี้ได้เอง
ในงาน มินิหมกรรมพลังจิต ครั้งที่ 5 จะมีการแนะนำ และฝึก การตรวจสอบสิ่งเหล่านี้ด้วยตัวเอง

 

ลำดับของที่ ควรใช้ จากที่ดีที่สุด...ใช้สรุปข้อมุล โดยเฉลี่ย
ผู้คนที่จะเป้นตามนี้ จะมีมากกว่า 80%
ส่วนที่เหลือ อาจจะสลับ ลำดับบ้าง..โดยลงมาในอันดับ ที่ 3-4

อย่างไร ก้ตาม จะไม่เกิน 5 อันดับ วน กัน..
ถ้าใช้ของที่ ไม่เกิน อันดับ 5 ก็นับว่า ดี
คนที่ มีพลังจิต ที่ได้ ฝึกมา และรู้เคล็ดวิชา
ก็จะเลือก ของ ที่เหมาะตัว ได้ทุกอย่าง

สิ่งที่ จะช่วยได้ มาก..ถ้ามีพลังจิต คือ การเลือกใช้ยา
บางทียาที่หมอให้ มาจาก โรงพยาบาล..ซึ่งอาจจะตรงกับโรค
เหมาะแก่คน หนึ่ง..แต่อาจจะไม่เหมาะ กับ คนอีกคน

ในต่างประเทศ บางแห่ง เริ่มทำ บัตรประจำตัว "สมาร์ทการ์ด"
ที่ นอกจากจะระบุชื่อ/ที่อยู่/ประวัติ/กรุ๊บเลือดแล้ว.
เขาจะระบุกลุ่มยาไว้ด้วย ว่า เหมาะกับยากลุ่มไหน

จากไอเดียนี้..ในงานวันที่ 28 กย 2551...
จะมีการเอายากลางบ้านสาระพัดชนิดที่พวกเราชอบใช้มาแสดง
ให้ สัมผัสจะได้ รู้ตัวว่า..กินยาชนิดใด..ไม่ได้
ที่ไม่ได้ คือ กินแล้ว หอบ หายใจไม่ออก/ ปวดศรีษะ/เป็นลม/ปวดท้อง/หูอื้อ๑..ฯลฯ
มาลองทดลองดูในงาน..แล้วก็จะรู้ตัว..และเพื่อ ตัวเอง

 

อุปโภค/บริโภค..ต่อมา...สบู่
1. Asepso
2 .Dettol
3 .Johnson
4. cusson
5. Protex
6. Safe guard
7. Care
8. LUX
9. Imperial
10. แก่นจันทร์
11. Dove
12. นกแก้ว

 

อาจารย์.จารรรรรรร.......

ของในตู้เย็น ที่ 7-11 ด้วย

 

สังเกต กันใหม..ว่า
ในช่วงหลังๆๆ นี้ กระทู้เริ่มเร้วมาก
วันเดียวหล่นหายตกหน้าไปแล้ว..ต้อง
กลับมาค้นหน้า..ในหน้าหลังๆๆ
คราวก่อน กว่าจะขยับ ..นานเป้นอาทิตย์
เป็นเพราะ มีผู้มาอ่านมาก ขึ้น
มีเรื่องที่ มีสาระมากขึ้น
และผู้ที่เป็นสามชิก ก็อยากมาเเล่ เรื่องด้วย

...ห้องดี ขึ้น..คนมาอ่านมาก ขึ้น
ข้อเสีย..คือกระทู้ ตกเร็ว เลื่อนเร็ว
บางครั้ง ตกเร็วมากๆๆ..ก็ไม่อยากเข้ามาเขียน..เพราะ คนอ่านไม่ทัน
เห็นจะต้อง หยุดเขียนเรื่องเล่า ในห้องนี้ ไปก่อน สักพัก
จนกว่า ห้อง จะ ช้า ลง..อาจจะเป็นเดือน

 

โห อาจารย์ ไม่เอาแงะค่ะ T^T รอจาร มา หลายวันกว่าจะมาที T^T

 

ผิด!! ของใช้ที่จำเป็นที่สุดสำหรับคนส่วนใหญ่ คือ "เงิน";aa20

อิอิ​

 

คุณcoolz คงจะเป้นคนรุ่นหลัง ที่ไม่เคยได้ ยินว่า
จตุปัจจัยสี่ ที่ คนต้องใช้ คือ
1. อาหาร
2. ที่อยู่ อาศัย
3. เครื่อง นุ่งห่ม
4. ยารักษาโรค

ไม่มีคำว่า เงิน
เงินเป็นเพียง ตัวกลาง..ที่ จะเชื่อม จตุปัตจัย..ให้หมุนไป
อีกหน่อย เราจะไม่ต้อง จับ ธนบัตร แบ็ง สารพัด
เราจะใช้ บัตรเครดิต ในการรับเงินเดือน/ใช้เงินซื้อของ

บางแห่งการค้า..เขาไม่ใช้เงิน
แต่เอาของ แลกกัน..ชาวนาข้าว เอาข้าวมาแรกกับ เกลือ ของ ชาวนาเกลือ
ไทยเอาข้าว พันๆๆตัน แลกกับ น้ำมันจากซาอุ..ฯลฯ

 

<TABLE style="TABLE-LAYOUT: fixed" cellSpacing=0 cellPadding=5 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=top width="85%" height="100%">น่าจะมีประโยชน์ไม่มากก็น้อยนะค่ะ

เครื่องใช้ในชีวิตประจำวันที่ก่อให้เกิดพิษภัย ได้แก่

<TABLE style="DISPLAY: inline; VERTICAL-ALIGN: middle" cellSpacing=0 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR><TD style="FILTER: Glow(color=red, strength=2)">1. ภัยจากเครื่องใช้ไฟฟ้า</TD></TR></TBODY></TABLE>

นักวิทยาศาสตร์ตั้งข้อสงสัยว่าเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน เช่น เครื่องปิ้งขนมปัง เครื่องดูดฝุ่น หรือแม้แต่เครื่องเป่าผม อาจเป็นสาเหตุของโรคมะเร็ง เพราะเครื่องใช้เหล่านี้ล้วนแต่มีกระแสไฟฟ้าไหลเวียนอยู่ตลอดเวลาขณะใช้งาน ซึ่งจะปล่อยสนามแม่เหล็กอย่างอ่อนออกมาภายนอก วิธีป้องกันมีดังนี้
1.1 คนที่ทำงานอยู่กับคอมพิวเตอร์ ควรอยู่ห่างจากหน้าจออย่างน้อย 70 เซนติเมตร อยู่ห่างจากด้านข้างหรือด้านหลังอย่างน้อย 90 เซนติเมตร
1.2 นาฬิกาไฟฟ้าหรือพัดลม ควรตั้งห่างจากเตียงนอนอย่างน้อย 75 เซนติเมตร
1.3 เครื่องใช้ไฟฟ้าที่ต้องใช้ใกล้กับร่างกาย เช่น เครื่องโกนหนวด หรือเครื่องเป่าผมควรใช้ให้น้อยที่สุดเท่าที่จะน้อยได้ ถึงแม้จะยังไม่มีข้อพิสูจน์แน่ชัดนัก แต่เราป้องกันไว้ก่อน

<TABLE style="DISPLAY: inline; VERTICAL-ALIGN: middle" cellSpacing=0 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR><TD style="FILTER: Glow(color=red, strength=2)">2. ภัยจากหลอดไฟฟ้า</TD></TR></TBODY></TABLE>

หลอดไฟฟ้าชนิดที่ใช้อ่านหนังสือหรือโคมไฟฟ้าตั้งโต๊ะที่ใช้ทังสเตนและก๊าซอาโลเจนใช้นานและเข้าใกล้นานจะทำให้ผิวหนังเกรียม กระตุ้นให้เกิดต้อกระจกที่ตารวมทั้งมะเร็งที่ผิวหนังด้วย ได้มีผู้วัดระดับรังสีอัลตราไวโอเลตจากหลอดไฟขนาด 50 วัตต์ ที่ระยะห่าง 25 เซนติเมตร ปรากฏว่ารังสีอัลตราไวโอเลตที่วัดได้มากพอ ๆ กับตอนที่แดดจัด การใช้หลอดไฟที่วัตต์ต่ำ ๆ ก็จะมีอันตรายน้อยลงไปอีก

<TABLE style="DISPLAY: inline; VERTICAL-ALIGN: middle" cellSpacing=0 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR><TD style="FILTER: Glow(color=red, strength=2)">3. ภัยจากเครื่องคอมพิวเตอร์</TD></TR></TBODY></TABLE>

ปัจจุบันคอมพิวเตอร์นับเป็นอุปกรณ์จำเป็นในสำนักงาน อันตรายจากการทำงานกับคอมพิวเตอร์คือ

3.1 ผลกระทบกับสายตาคือจะทำให้เกิดอาการตาลาย เมื่อยตา เคืองตา ตาแห้ง ตาแดง คันตาได้ ดังนั้นผู้ใช้ควรเลือกใช้เครื่องที่มีแสงเหมาะสม สบายตา ต้องมีแสงสว่างในห้องทำงานเพียงพอ ที่สำคัญคือควรใช้แสงสว่างจากหลอดไฟชนิดฟลูออเรสเซนต์ ต่อจากนั้นควรใช้หลอดเรืองแสงจากจอภาพนั้นด้วย

3.2 อันตรายจากการแผ่รังสีของจอภาพเครื่องคอมพิวเตอร์ ได้แก่ รังสีเอกซ์เรย์ รังสีอัลตราไวโอเลต และคลื่นความถี่ของแม่เหล็กไฟฟ้าที่แผ่จากจอภาพ และด้านข้างรอบ ๆ ตัวเครื่อง ซึ่งจะทำให้เซลล์ผิวหนังและอวัยวะต่าง ๆ เกิดการเปลี่ยนแปลงเป็นสาเหตุของโรคมะเร็งได้

<TABLE style="DISPLAY: inline; VERTICAL-ALIGN: middle" cellSpacing=0 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR><TD style="FILTER: Glow(color=red, strength=2)">4. ภัยจากเครื่องถ่ายเอกสาร</TD></TR></TBODY></TABLE>

มลภาวะที่เกิดจากเครื่องถ่ายเอกสาร จะเป็นสาเหตุของโรคเกี่ยวกับระบบประสาท ตา ผิวหนัง ปวดศีรษะ เหนื่อยง่าย โรคทางเดินหายใจและโรคมะเร็ง

ปัจจุบันผู้ที่มีหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับเครื่องถ่ายเอกสารมักจะละเลยจากการป้องกันอันตรายที่จะเกิด ซึ่งอาจทำได้ เช่น

4.1 ควรใส่ถุงมือยาวป้องกันไม่ให้ผิวหนังสัมผัสกับสารเคมีจากในหมึกพิมพ์โดยตรง
4.2 ถ่ายหมึกพิมพ์ช้า ๆ อย่าให้หมึกฟุ้งกระจายเข้าจมูก
4.3 ล้างถุงมือทุกครั้งหลังจากเติมหมึก
4.4 ปิดฝาเครื่องถ่ายเอกสารเพื่อป้องกันแสงอัลตราไวโอเลตที่จะเข้าตาและถูกผิวหนัง
4.5 ติดตั้งเครื่องไว้ในที่โปร่งไม่อับทึบ อากาศถ่ายเทสะดวก ไม่ควรนำไปไว้ในห้องแอร์

<TABLE style="DISPLAY: inline; VERTICAL-ALIGN: middle" cellSpacing=0 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR><TD style="FILTER: Glow(color=red, strength=2)">5. ภัยจากวีดีโอเกมส์</TD></TR></TBODY></TABLE>

วีดีโอเกมส์ที่ว่านี้เป็นเครื่องเล่นที่ฮิตติดอันดับมากที่สุด บรรดาเด็กเล็ก วัยรุ่น จะคลั่งไคล้กันมาก ปัญหาที่เกิดจากวีดีโอเกมส์ ได้แก่

การทุ่มเทความสนใจให้วีดีโอเกมส์ตลอดเวลา ทำให้ร่างกายไม่แข็งแรงเท่าที่ควรเพราะไม่ได้ออกกำลังกาย ไม่ได้เคลื่อนไหวอิริยาบถ
<TABLE style="DISPLAY: inline; VERTICAL-ALIGN: middle" cellSpacing=0 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR><TD style="FILTER: Glow(color=red, strength=2)">
6. ภัยจากถ่านไฟฉาย</TD></TR></TBODY></TABLE>

ถ่านไฟฉายเป็นอุปกรณ์ที่ใช้กันมากกับเครื่องใช้ไฟฟ้า มี 2 ชนิด คือ

6.1 ถ่านไฟฉายชนิดอัลคาลอยด์ จะประกอบด้วยปรอท แคดเมียม ใช้สำหรับการติดต่อสื่อสาร เช่น โทรศัพท์เคลื่อนที่ วิทยุสื่อสาร และของเล่นที่ควบคุมจากระยะไกลทำให้เกิดอันตรายจากสารพิษถ้าทิ้งถ่านไฟฉายเหล่านี้ลงสู่สิ่งแวดล้อม
6.2 ถ่านไฟฉายชนิดปรอทใช้กับนาฬิกาและกล้องถ่ายรูป

<TABLE style="DISPLAY: inline; VERTICAL-ALIGN: middle" cellSpacing=0 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR><TD style="FILTER: Glow(color=red, strength=2)">7. ภัยจากผงซักฟอก</TD></TR></TBODY></TABLE>

อันตรายจากผงซักฟอกก็คือ
7.1 ในผงซักฟอกแบบกิโลกรัมอาจผสมแคลเซียมคาร์บอเนตเพื่อเพิ่มน้ำหนัก สารชนิดนี้จะมีอันตรายถ้าซึมเข้าใต้ผิวหนังทำให้คัน ถ้าฟุ้งกระจายเข้าตาจะทำให้ตาอักเสบ
7.2 ผงซักฟอกที่มีเอนไซม์เมื่อเข้าสู่ทางเดินหายใจจะทำให้เกิดโรคหืด โรคปอด ระคายเคืองผิวหนังเวลาซัก ละลายไขมันที่ผิวหนังออกมาทำให้ผิวหนังเปื่อยยุ่ยง่าย
7.3 ภาชนะบรรจุอาหารที่มีผงซักฟอกมาปนเปื้อน ถ้าล้างไม่หมดจะทำให้ปวดท้อง อุจจาระร่วง สารฟอสเฟตทำให้เกิดพิษ เช่น มึนศีรษะ ตกใจง่าย อาเจียน กล้ามเนื้อกระตุกสั่นได้

เพราะฉะนั้นควรระวังในการเลือกซื้ออย่าเห็นแก่ของถูกและก่อนซื้อควรสังเกตรายละเอียดที่ข้างกล่องว่ามีรายละเอียดเรื่องใดบ้าง เช่น วิธีใช้ น้ำหนักสุทธิ แหล่งที่ผลิต ถ้ามีเครื่องหมายรับรองมาตรฐานอุตสาหกรรม (มอก.) ด้วยก็จะเป็นการดี

<TABLE style="DISPLAY: inline; VERTICAL-ALIGN: middle" cellSpacing=0 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR><TD style="FILTER: Glow(color=red, strength=2)">8. สารพิษจากน้ำยาล้างห้องน้ำ และเครื่องสุขภัณฑ์</TD></TR></TBODY></TABLE>

สารเคมีที่ใช้คือกรดไฮโดรคลอริกและสารฟินอล ซึ่งอาการพิษที่เกิดจากสารเหล่านี้ คือ

8.1 หากถูกที่ผิวหนังจะทำให้ปวดแสบปวดร้อน ไหม้
8.2 ถ้าเข้าตาอาจจะบอดได้
8.3 ถ้าสูดดม จะระคายเคืองเยื่อบุทางเดินหายใจ ทำให้ไอ สำลัก ปวดศีรษะ หน้ามืด อ่อนเพลีย แน่นหน้าอก
8.4 ถ้ากินจะปวดร้อนในปาก คอ ท้อง อาเจียน ถ่ายเป็นเลือด ความดันโลหิตลดลง และตายได้

เราสามารถทำน้ำยาล้างห้องน้ำใช้เองเพื่อหลีกเลี่ยงสารพิษดังกล่าวได้โดย

1. ใช้น้ำส้ม 1 ขวด
2. โซดาไฟ 1 ช้อนโต๊ะ
3. น้ำสะอาด 20 ลิตร (ประมาณ 1 ถังเล็ก)

ผสมส่วนทั้งสามเข้าด้วยกัน แล้วใช้ขจัดคราบสกปรกตามสุขภัณฑ์และห้องน้ำได้เช่นกัน แถมยังปลอดภัยและประหยัดเงินอีกด้วย

<TABLE style="DISPLAY: inline; VERTICAL-ALIGN: middle" cellSpacing=0 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR><TD style="FILTER: Glow(color=red, strength=2)">9. ภัยจากผ้าอนามัย</TD></TR></TBODY></TABLE>

เกิดจากการหมักหมมของเชื้อราและแบคทีเรียบนผ้าอนามัยและลุกลามเข้าไปถึงมดลูก ทำให้เป็นโรคติดเชื้อได้ง่าย
</TD></TR><TR><TD class=smalltext vAlign=bottom width="85%">http://www.boarddev.com/forum/index.php?topic=955.msg3253</TD></TR></TBODY></TABLE>

 

น่าขำขันนัก

ล้าหลังกว่าเด็กน้อยอีกหรือ หากเงินเป็นเพียงตัวกลางอย่างท่านกล่าวเพิ่งเชื่อมให้
ได้มาซึ่งสิ่งต่างๆ.... ท่านหาได้รู้ดีไม่

ของใช้ที่จำเป็นในชีวิตหาใช่สิ่งอื่นใด.....

.........แต่คือ "ใจ"

ใครใคร่ให้ความรู้ข้าเพิ่ม โปรดชี้แนะด้วย

 

555+นี่ๆๆ ก่อนจะเถียงอะไรว่าอะไรแงะ ช่วยเงยหน้าขึ้นไปอ่านหัวข้อชื่อกระทู้หน่อยนะค่ะ ว่ามันชื่ออะไรอ่า หุๆ *-*


กระทู้มันชื่อว่าของใช้ที่อยู่ในชีวิตประจำวินมิใช่หรือไรเจ้า แล้วใจมันใช่ของใช้ที่ไหน คนล่ะเรื่งแล้วท่านจ๋า ห้องนี้เป็นห้องของใช้ที่ไหนเล่า หากจะคิดอารมธรรมะ สงสัยจะเมามากจนเข้าผิดห้องแล้วค่ะ *-*

ข้าน้อยความรู้น้อยกว่าท่านหลายนัก หากข้อความที่ข้าน้อยพูดมานั้นปิดข้าน้อยขออภัย ได้โปรดท่านผู้รู้ชี้แนะด้วยค่ะ หึๆ

 

ขอบคุณที่สอนสั่งข้า...

เด็กน้อยก่อนเงยหน้าขึ้นไปมองนั้น เงยศรีษะเจ้าหรือยังว่ามีปัญญาไม่

ของใช้และทุกสรรพสิ่งล้วนมาจากการค้นคิด จากจิตที่ต้องการ "แล้วคำตอบที่ว่าใจผิดหรือ" ก่อนจะหัวเราะผู้อื่นโปรดหัวเราะตนเองเสียก่อน

 

หากนัน้เพราะ ข้าน้อยไม่มีปัญญาอะไรนั้นไงเล่า ถึงได้ขำ

ว่าพี่ใช้ใจแปรงฟัน ใช้ใจสระผม หึๆ มันมาจากจิตค่ะ แต่จิตมะใช้ของใช้

จิต=ความคิด=วิญญาณ จริงม๊ะ *-*

จิต = สิ่งของ หรือ ค่ะ

เพราะจิตอยาก มนุษย์จึงเกิดกิเลศ และสร้างสิ่งของขึ้นมาเพื่อ ตอบสนองกิเลศ

และยิ่งมีกิเลศ จิตจึงคิดให้มีสิ่งของเยอะขึ้นๆ เพื่อให้เกิดความอยากและตัวกิเลส

และของที่เราใช้นั้น ยิ่งมีมากเท่าไหร่ เราจึงจำเป็นต้องเลือกและระมัดระวังในการใช้มากขึ้น

เพราะอาจจะโดน นมใส่สารพิษเหมือนจีน เข้า หึๆ

เพราะข้าน้อยโง่เขลา เบาปัญญา ไม่มีแม้แต่ขี้เลื่อนในสมองขอผู้รู้จง ขี้แนะข้าด้วย หึๆ

 

พอเถิดท่าน ข้าน้อย ไม่อยากใช้วาจา หรือโถ้เถียง อะไรในกระทู้นี้ ข้าน้อยอยากจะหยุด

เพราะอาจารย์มาอาจารย์คงไม่ชอบใจนักแล ที่เห็นใครมาเถียงกัน และข้าน้อยไม่ชอบโต้เถียงหรือมีเรื่องกับใครด้วย หากข้าน้อยกล่าววาจา ใจ ไม่สมควรไปขอท่านจงอภัยด้วย ค่ะ

อาจารย์อย่าโกรธปลานะค่ะปลาหยุดแล้ว ไม่ก่อกรรมแล้วค่ะ ปลาขอโทษ T^T

 

ดีใจด้วยครับน้องปลาที่สามารถควบคุมตัวจากเรื่องนี้ได้ปล่อยเค้าไปเถอะดีแล้วครับ เป็นที่สังเกตุได้ตั้งแต่เค้าเข้ามาก็ไม่มีใครไปยุ้งเพราะเราเรียนวิธีอ่านจิตมาเเล้วไงละจะได้ทดสอบไงว่าเค้าเป็นไง ก็เลยไม่มีใครไปยุ้งกับเค้าไงครับ แค่นี้คงจะรุ้ได้แล้วว่าเป็นคนอย่าไงนะครับ