"กินเหนียวกินมัน" พิธีกรรมทางไสยศาสตร์แห่งสำนักเขาอ้อ

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย paang, 10 พฤศจิกายน 2005.

  1. paang

    paang เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 เมษายน 2005
    โพสต์:
    9,492
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +34,328
    [​IMG]

    วัดเขาอ้อ ตั้งอยู่หมู่ที่ ๓ ต.มะกอกเหนือ อ.ควนขนุน จ.พัทลุง เป็นแหล่งวิทยาคม ทางไสยศาสตร์ ที่มีชื่อเสียงโด่งดังตั้งแต่ มัยโบราณ จนมีการขนานนามว่า "ตักศิลาแห่งไสยศาตร์" ซึ่งมีพิธีกรรมที่สำคัญอยู่ ๔ อย่าง คือ
    ๑.พิธีเสกว่านให้กิน ทำโดยการนำว่าน ที่เชื่อว่ามีสรรพคุณทางด้าน อยู่ยงคงกระพัน มาลงอักขระเลขยันต์ แล้วนำไปปลุกเสกด้วยอาคม ตามหลัก ไสยศาสตร์ หลังเสร็จพิธี จะนำมาแจกจ่ายให้กิน
    ๒.พิธีหุงข้าวเหนียวดำ ทำโดยนำเครื่องยาสมุนไพร หรือว่านต่างๆ ไม่น้อยกว่า ๑๐๘ ชนิด มาต้มเอาน้ำยา ใช้หุงกับข้าวเหนียวดำ เมื่อข้าวเหนียวสุกแล้ว นำไปเข้าพิธีปลุกเสกก่อนนำมาป้อนให้กิน

    [​IMG]

    ๓.พิธีเสกน้ำมันงาดิบ ทำโดยใช้น้ำมันงาดิบ หรือน้ำมันยางแดงผสมว่าน พระอาจารย์ผู้ประกอบพิธี นั่งบริกรรมคาถาจนน้ำมันแห้ง แล้วจึงนำมา ป้อนให้กิน
    ๔.พิธีแช่ว่านยา ทำโดยให้ผู้ต้องการเข้าประกอบพิธีกรรม ลงไปนอนแช่ใน น้ำว่านยา ที่ได้ปลุกเสกตามหลักไสยศาสตร์ จากพระอาจารย์ ผู้ประกอบพิธีกรรมแล้ว

    [​IMG]

    ปัจจุบันนี้พิธีกรรมทั้ง ๔ อย่าง ได้รับการสืบทอดโดย อาจารย์จวบ คงเหลือ และ หลวงพ่อพรหม เจ้าอาวาส วัดบ้านสวน อ.ควนขนุน จ.พัทลุง ศิษย์สายตรงสำนักเขาอ้อ ซึ่งจะจัดขึ้นเป็นที่รู้กัน ในหมู่ลูกศิษย์ที่เคารพ นับถือกันเท่านั้น ปีละ ๒-๓ ครั้ง ด้วยเหตุผลที่ว่า "ต้นทุนค่าใช้จ่ายในแต่ ละครั้ง โดยเฉพาะในการหาว่านยา ๑๐๘ ไม่ต่ำกว่า ๒๐,๐๐๐ บาท"
    อย่างไรก็ตาม เพื่อสืบสานศาสตร์อันศักดิ์สิทธิ์ และเพื่อให้คนในยุคปัจจุบันได้เห็น รวมทั้งได้ร่วมพิธีกรรม ดังกล่าว เมื่อเร็วๆ นี้ ดร.ไมตรี บุญสูง ได้จัดพิธีกรรมกินเหนียวกินมันขึ้น ณ บริเวณลานกว้างข้างบ้าน ซึ่งอยู่ตรงกันข้าม กับโรงพยาบาลวชิระ จ.ภูเก็ต โดยนิมนต์หลวงพ่อพรหม และเชิญอาจารย์จวบ มาร่วม เป็นเจ้าพิธีดังกล่าว ปรากฏว่ามีผู้ที่เคารพนับถือ จำนวนมากมาร่วมพิธีดังกล่าว

    [​IMG]

    ดร.ไมตรี บอกว่า ทุกวันนี้ที่วัดเขาอ้อ ต้นตำรับในการประกอบพิธีกรรม ทั้ง ๔ อย่าง ไม่มีผู้สืบทอดแล้ว แต่จะไปมีที่อื่นๆ ซึ่งเป็นศิษย์สายตรงเขาอ้อ การจัดพิธีกินเหนียวกินมันนี้ เพื่ออนุรักษ์พิธีกรรมอันศักดิ์สิทธิ์สายเขาอ้อ เอาไว้ เมื่อใครได้กินเหนียวกินมัน อยากให้เกิดความขลัง และความเหนียว นอกจากยึดมั่นในศีลข้อ ๓ แล้ว ต้องตั้งมั่นอยู่ในศีลอยู่ในธรรม

    [​IMG]

    สำหรับการกินเหนียวกินมันครั้งแรกนั้น ดร.ไมตรี เล่าว่า เมื่ออายุ ประมาณ ๒๐ ปี ได้กินกับ อาจารย์นำ แก้วจันทร์ จากนั้นก็เว้นว่าง ไปหลายปี และได้มากินครั้งสุดท้าย เมื่อปีที่แล้ว ซึ่งจะรู้กัน ในเฉพาะหมู่ลูกศิษย์ สายเขาอ้อเท่านั้น ว่าแต่ละปีจะมีการประกอบพิธีที่ไหน บ้าง ดังนั้นจึงเป็นเรื่องยากมากสำหรับคนทั่วๆ ไปที่จะมีโอกาสได้เข้าร่วมพิธี ดังกล่าว รวมทั้งปัจจุบันนี้ที่เรียกว่าศิษย์สายตรง สำนักเขาอ้อ ก็เหลือเพียง ไม่กี่คน และในที่สุดก็จะสิ้นสูญไป


    <TABLE width="100%" border=1><TBODY><TR><TD borderColor=#ff6600 bgColor=#ffffcc>
    ต้องเคร่งในศีลข้อ ๓
    [​IMG]

    สานุศิษย์ของสำนักเขาอ้อ เชื่อกันว่าใครกินเหนียวกินมัน ได้ถึง ๓ ครั้ง จะมีคุณค่าทางด้านอยู่ยงคงกระพัน มีเมตตามหานิยม และยังเป็นยาแก้โรค ปวดหลังปวดเอว ได้เป็นอย่างดี แต่มีข้อห้ามไว้ว่า ถ้าผิดลูกเมียผู้อื่นเมื่อใด น้ำมันที่กินเข้าไป จะไหลออกมาตามขุมขนจนหมดสิ้น และถ้าจะกินน้ำมันใหม่ ก็ต้องทำพิธีสะเดาะใหม่อีกครั้ง

    หลวงพ่อพรหม บอกว่า สำนักเขาอ้อมีข้อห้ามที่ศิษย์ทุกคน ยึดปฏิบัติตั้งแต่ สมัยโบราณ จนถึงปัจจุบัน คือ ต้องเคร่งครัดในศีลข้อ ๓ ที่ว่า ห้ามผิดลูกเมีย ผู้อื่น ถ้าใครไม่ยึดปฏิบัติ เครื่องรางของขลัง ของสำนักเขาอ้อ ที่ติดตัวจะสิ้น ความขลังทันที แต่ถ้าใครปฏิบัติได้ความขลัง ความศักดิ์สิทธิ์ก็จะเกิดกับผู้นั้นตลอดไป ซึ่งไม่ต่างจากการ สักยันต์ของภาคกลาง ที่ต้องยึดมั่นในศีลทั้ง ๕ ข้อ

    ทั้งนี้หลวงพ่อพรหม ได้อธิบายให้ฟังว่า พิธีหุงข้าวเหนียวดำ นิยมทำพร้อมกับ พิธีเสกน้ำมันงาดิบ ชาวบ้าน นิยมเรียกว่า "กินเหนียวกินมัน" แต่ละปี จะประกอบพิธีกิน ๒ ครั้ง คือ วันขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๕ และวันขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๑๐

    พิธีหุงข้าวเหนียวดำ หมายถึง การนำเครื่องยาสมุนไพร หรือ ว่านชนิดต่างๆ ไม่ต่ำกว่า ๑๐๘ ชนิด มาผสมกัน แล้วต้มเอาน้ำยา มาใช้หุงข้าวเหนียวดำ
    การประกอบพิธี นิยมทำกันภายในอุโบสถ มากกว่าสถานที่อื่นๆ ในสมัยก่อน นิยมทำกันในถ้ำฉัตรทันต์ หม้อและไม้ฟืนทุกอัน จะต้องลงอักขระเลขยันต์กำกับไว้ด้วยเสมอ พระอาจารย์ผู้ประกอบพิธี จะเริ่มปลุกเสก ตั้งแต่จุดไฟ จนกระทั่งข้าวเหนียวในหม้อสุก แล้วนำข้าวเหนียวที่สุกแล้ว ไปประกอบพิธีปลุกเสกอีกครั้งหนึ่ง

    พิธีกินข้าวเหนียวดำ จะทำพิธีกันภายในอุโบสถก่อนกิน ถ้าสานุศิษย์คนใด ไม่บริสุทธิ์จะต้องทำพิธีสะเดาะ หรือที่เรียกว่า "พิธีการเกิดใหม่" หรือ "พิธีบริสุทธิ์ตัว" เพื่อให้ตัวเองบริสุทธิ์ จากสิ่งไม่ดีและชั่วร้ายทั้งปวง
    เมื่อถึงฤกษ์กินข้าวเหนียวดำ สานุศิษย์จะเปลี่ยนเครื่องแต่งกาย เป็นนุ่งด้วยผ้าขาวม้าโจงกระเบน ไม่ใส่เสื้อ แล้วเข้าไปกราบพระอาจารย์ ผู้ประกอบพิธี ๓ ครั้ง เสร็จแล้วพระอาจารย์ จะให้นั่งชันเข่าบนหนังเสือ เท้าทั้ง สองเหยียบบนเหล็กกล้า หรือเหล็กเพชร ปิดศีรษะด้วยหนังหมี มือทั้งสองวางบนหลังเท้าของตัวเอง พระอาจารย์ ใช้มือซ้ายกดมือทั้งสองไว้ พร้อมกับภาวนาพระคาถา
    ส่วนมือขวาปั้นข้าวเหนียวดำ เป็นก้อนป้อนให้ศิษย์ครั้งละ ๑ ก้อน แล้วปล่อยมือศิษย์ที่กดไว้บนหลังเท้า มือทั้งสองของศิษย์ จะลูบขึ้นไปตั้งแต่หลังเท้า จนทั่วตัวจรดใบหน้า การลูบขึ้นนี้เรียกว่า "การปลุก" เสร็จแล้วลูบลง เอามือทั้งสองไปวางไว้บนหลังเท้าเช่นเดิม โดยกะว่ากินข้าวเหนียวก้อนแรก หมดพอดี ซึ่งสำหรับผู้ที่ไม่เคยกินอาจกลืนลำบาก

    หลวงพ่อพรหม บอกด้วยว่า เนื่องจากว่าข้าวเหนียวมีรสขมมาก บางคนป้อนก้อนแรก ถึงกับอาเจียนออกมา ก็มี แต่ถ้ากลืนก้อนแรกจนหมดได้ ก้อนต่อไปจะไม่มีปัญหา พระอาจารย์จะป้อนจนครบ ๓ ก้อน ในแต่ละครั้ง จะลูบขึ้นลูบลง เช่นเดียวกับครั้งแรก แต่ครั้งที่ ๓ นั้น เมื่อศิษย์กินข้าวเหนียวหมดแล้ว พระอาจารย์จะใช้ มือซ้ายกดมือทั้งสองไว้ที่เดิม หัวแม่มือขวาสะกดสะดือศิษย์ ทำทักษิณาวัตร ๓ รอบ พร้อมกับภาวนา พระคาถาไปด้วย ซึ่งเป็นการผูกอาคม สำหรับ เหล็กกล้า หนังเสือ หนังหมี ซึ่งเป็นเครื่องประกอบพิธีกรรมที่สำคัญ หลวงพ่อพรหม ได้อธิบายให้ฟังว่า เป็นคติความเชื่อของคนโบราณ ที่ปฏิบัติสืบทอดกันมา คือ เข้มแข็งเหมือนเหล็กกล้า มีอำนาจเหมือนเสือ อดทนเหมือนหมี

    </TD></TR></TBODY></TABLE>

    ที่มา http://www.komchadluek.net/column/pra/2005/11/10/02.php
     
  2. Nirvana

    Nirvana เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กุมภาพันธ์ 2005
    โพสต์:
    8,188
    ค่าพลัง:
    +20,865
    ใครอยากเห็นวิชาของสำนักเขาอ้อ ไม่ต้องไปไกลถึงภูเก็ต เพราะที่ลพบุรีก็มี พิธีอาบน้ำว่านจะมีตอนวันไหว้ครูประมาณเดือน สิงหาคม ของทุกปี
    ปรมาจารย์วิชาเขาอ้อคือ หลวงปู่คง วัดแค ซึ่งเป็นอาจารย์ของขุนแผน
     
  3. Phuket

    Phuket เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    499
    ค่าพลัง:
    +877
    ท่าทาง น่าสนใจ ผม ก็ชอบ
     
  4. bridge

    bridge เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    1,249
    ค่าพลัง:
    +1,814
    อ่านดูโพสทื นึกว่า กินข้าวเหนี่ยว กับ กินมัน
     

แชร์หน้านี้

Loading...