การ ลองของ ในห้อง คนตาย

ในห้อง 'เรื่องผี' ตั้งกระทู้โดย vacharaphol, 11 กุมภาพันธ์ 2006.

  1. vacharaphol

    vacharaphol เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    8,849
    ค่าพลัง:
    +27,174
    ธมกร" เล่าประสบการณ์ขนหัวลุกเมื่อลองของกับห้องผีสิง

    ดิฉันไม่เคยเล่าเรื่องสยองขวัญนี้ให้ใครฟังมาก่อนเลย ถึงแม้มันจะไม่ใช่ความลับก็จริง แต่เราก็รู้ๆ กันอยู่แค่ 5 คนเท่านั้นเอง ใครจะเชื่อเราล่ะคะ?

    ปัจจุบันดิฉันอายุ 40 ปี มีครอบครัวและลูกๆ ที่กำลังน่ารักน่าเอ็นดู แต่เหตุการณ์แปลกประหลาดครั้งนั้น ดิฉันกับเพื่อนๆ ไม่เคยลืม และไม่มีวันลืมได้เด็ดขาด.. มันทั้งคาใจ ทั้งเป็นบาดแผลที่แม้ไม่มีใครไปสะกิดสะเกา มันก็เจ็บแปลบได้เสมอ

    ตอนเรียน ม.ปลายอยู่โรงเรียนชื่อดัง ดิฉันซ่าน่าดู และเป็น 1 ในกลุ่มแก๊ง 6 สาวที่ร่ำลือกันว่า สวย เท่ และสุดแสบ ชอบทำอะไรบ้าๆ พิเรนทร์ๆ ตามประสาเด็กวัยรุ่น โดยเลียนแบบพฤติกรรมจากหนังฝรั่ง บางครั้งก็เกินเลยจนดูใจร้าย อย่างการชอบเอาคนที่จ๋องๆ อ่อนแอกว่ามาล้อเป็นตัวตลก

    แหม! นึกย้อนไปแล้วก็อายตัวเองบอกไม่ถูกค่ะ เวลาเจอเพื่อนคนนั้นในงานเลี้ยงรุ่น ดิฉันยังเคยไปสารภาพบาปและขอโทษเธอ แต่เธอผู้นั้นกลับหัวเราะไม่ถือสาและรักดิฉันในฐานะเพื่อนคนหนึ่ง น่าละอายจริงๆ เลย

    ความแผลงทำให้กลุ่มดิฉันเจอเรื่องราวร้ายกาจ กลายเป็นตราบาป เพราะคราวนี้ไม่มีใครมาให้อภัยอย่างเพื่อนคนนั้น

    คุณพ่อคุณแม่ดิฉันเป็นนักธุรกิจระดับเศรษฐี ต้องติดต่อและเดินทางไปต่างประเทศเสมอๆ บ้านหรือคฤหาสน์ของเราอยู่สุขุมวิทช่วงต้นๆ มีบ่าวไพร่เพียบพร้อม ทั้งคนรถ คนสวน คนรับใช้ แม่ครัวและผู้ช่วย รวมแล้ว 5-6 คนได้ค่ะ

    ด้วยเหตุนี้จึงจำเป็นต้องมีเรือนคนใช้อยู่ภายในบริเวณบ้าน แยกต่างหากจากตึกใหญ่ โดยปลูกเป็นลักษณะบังกะโล 3 หลัง โดยหลังหนึ่งเป็นที่อยู่ของครอบครัวคนรถ อีกหลังเป็นของคนสวนกับแม่ครัวซึ่งเป็นสามีภรรยากัน ส่วนสาวใช้อยู่ที่เรือนไม้สีขาวหลังเล็ก มีแค่ห้องนอนและห้องน้ำ แถมยังอยู่ห่างออกไปชิดรั้วหลังบ้าน

    เมื่อพ.ศ. 2524 เรามีสาวใช้อายุ 17 ปี เท่าๆ ดิฉันตอนนั้น เธอชื่ออ้อย เป็นสาวเมืองเหนือ มีจริตจะก้านที่ดิฉันค่อนขอดอย่างหมั่นไส้เงียบๆ แค่ในใจ แต่ภายนอกก็เสแสร้งทำดีกับเธอ

    ดิฉันบาปจริงๆ ค่ะ ความหมั่นไส้ทำให้หลอกล่อเธอไปในทางตกต่ำลงทุกทีๆ เช่น สอนให้เธอดื่มเบียร์ผสมน้ำผึ้งกับมะนาว หรือผสมเข้ากับโค้ก

    เมื่อมีช่างก่อสร้างข้างบ้านมาติดพันเธอ ดิฉันนี่แหละเป็นคนยุยงส่งเสริม แอบเอากุญแจรั้วให้เธอยืมไขประตู ลอบไปเที่ยวกับผู้ชายยามดึกดื่นค่อนคืน..ไม่นานอ้อยก็ท้องป่องขึ้นมา

    แทนที่จะสงสาร ดิฉันกลับกระหน่ำซ้ำเติมความเสียขวัญของเธอด้วยคำพูด เช่น เธอต้องแย่แน่! พ่อแม่ต้องเล่นงานเธอแน่! ชาวบ้านต้องนินทาว่าร้ายให้พ่อแม่เธออับอายจนแทบจะเอาปี๊บคลุมหัว..สารพัดสารพัน

    ในที่สุด อ้อยก็ผูกคอตายในห้องนอนที่เรือนไม้สีขาวริมรั้วนั่นเอง!

    ดิฉันใจหาย พยายามแก้ตัวให้ตัวเองฟังว่า อ้อยมันไม่รักดีเองต่างหาก ไม่ใช่เพราะคำพูดของเราสักหน่อย

    3-4 เดือนหลังจากอ้อยตาย เรือนไม้ซึ่งถูกใช้เป็นห้องเก็บสัมภาระก็กลายเป็นที่ลองของของดิฉันและกลุ่มแก๊งอีก 5 คน เพราะปิดเทอมใหญ่พอดี และคุณพ่อคุณแม่ก็ต้องไปเมืองนอก

    ดิฉันชวนเพื่อนร่วมแก๊งทั้งหมดมาค้างที่บ้าน เราสนุกกันมากๆ จนคนรถ คนสวน และแม่ครัวต่างเอือมระอาไปตามๆ กัน

    สุดท้าย ดิฉันท้าให้ใครก็ตามที่ใจกล้า ใจถึง ไปนอนห้องที่อ้อยผูกคอตาย โดยมีเงื่อนไขว่า..ต้องถูกขังล็อกกุญแจด้านนอกไว้ตลอดคืน ปรากฏว่า แอน-สาวห้าวที่สุดในกลุ่มรับคำท้าค่ะ

    ป้าสายที่เป็นแม่ครัวแกโมโหและห้ามปราม แต่เราก็ไม่ยอมฟัง กลับหัวเราะกรี๊ดกร๊าดกันยกใหญ่

    รุ้งเช้าเราไขประตู ปล่อยแอนออกมา..

    ดูเธอเปลี่ยนไปค่ะ ถามอะไรก็ไม่ตอบ ไม่ยอมบอกว่าเจออะไรบ้าง เราเลยคิดว่าไม่มีอะไร..แต่แอนไม่เหมือนเดิมอีกแล้ว เธอกลับมีบางสิ่งบางอย่างในกิริยาท่าทางเหมือนกับอ้อยขึ้นทุกที ทั้งๆ ที่แอนไม่เคยรู้จักอ้อยเลย

    ดิฉันยอมรับว่ากลัวแววตาของเธอมากจริงๆ ค่ะ เพราะชอบแอบจ้อง พอหันไปสบตาเธอแล้วขนลุกซ่าไปทั้งตัว ต้นคอเย็นวาบไปถึงไขสันหลัง..

    ให้ตายเถอะ! มันเป็นแววตาของอ้อยชัดๆ

    และแล้ว ก่อนที่เราจะเรียนจบเทอมสุดท้ายของ ม.6 นั่นเอง แอนก็ท้อง! พวกเราช็อกสุดขีด เหตุการณ์ยิ่งเลวร้ายหนักขึ้น เมื่อแอนหาทางออกด้วยการผูกคอตายเหมือนอ้อยไม่มีผิด

    พวกเราทั้ง 5 คน แทบสติแตกไปตามๆ กันเมื่อทราบข่าว

    ดิฉันแทบช็อก ทั้งตกใจและหวาดกลัว สำนึกตัวว่าเป็นผู้ผิดตั้งแต่แรก แต่ก็ไม่อาจแก้ไขอะไรได้อีกแล้ว..ก๊วนเราสลายไปตั้งแต่นั้น ดิฉันทำบุญใส่บาตร อุทิศส่วนกุศลให้แก่อ้อยและแอนตลอดมาจนถึงทุกวันนี้ค่ะ

    ที่มา : คอลัมน์ ขนหัวลุก
    ใบหนาด
    - ข่าวสด
     

แชร์หน้านี้

Loading...