การถวายข้าวพระพุทธ

การถวายข้าวพระพุทธ
โดย สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี)

:: ขอกราบเท้าถามหลวงพ่อว่า ทำไมจึงมีการถวายข้าวพระพุทธ โดยมีผู้อธิบายแตกต่างไปหลายนัย

อันการถวายข้าวพระนั้น แต่เดิมครั้งสมัยพุทธันดร ขณะที่องค์สมเด็จพระบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้า ยังทรงพระชนม์ชีพอยู่ พระอานนท์พุทธอุปฐาก แห่งองค์สมเด็จพระบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้านั้น เป็นผู้ที่มีความซื่อสัตย์กตัญญู มีความเคารพนับถือองค์สมเด็จพระบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้าอย่างยิ่ง ไม่มีอย่างอื่นใดจะเปรียบได้

เมื่อครั้งที่องค์สมเด็จพระบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้า จักเสด็จไปในที่ใดพระอานนท์พุทธอุปฐากนั้นไซร์ก็ได้ติดตามไปใกล้ชิดพระยุคลบาทมิได้ห่างเหินเลย ครั้นทรงอาพาธด้วยโรคอย่างใด พระอานนท์พุทธอุปฐากก็ได้พยายามปรนนิบัติรักษาอย่างเต็มความสามารถเสมอ

การถวายภัตตาหารก็ดี น้ำฉันก็ดี ปูอาสนะนั่งนอนก็ดีนั้น เป็นหน้าที่ของพระอานนท์พุทธอุปฐาก และได้กระทำสม่ำเสมอมา ไม่ว่าพระพุทธองค์จะทรงเสด็จไปในที่แห่งใด เมื่อเป็นเช่นนี้พระอานนท์จึงเป็นผู้ที่มีความใกล้ชิดต่อองค์สมเด็จพระบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้าอย่างยิ่ง

และยิ่งกว่านั้นยังเป็นผู้ที่กระทำตนให้เหมือนตู้แห่งพระธรรม ที่องค์สมเด็จพระบรมศาสดาฯ ตรัสออกจากพระโอษฐ์เพื่อเทศนาสั่งสอนปุถุชนเวไนยสัตว์ทั้งหลายก็ตาม พระอานนท์ย่อมจะต้องเป็นผู้รับรู้ซึ่งธรรมอันนั้นด้วย

ในการที่จะแก้ปัญหาธรรมและตอบแก่ผู้มาถามทุกฝ่าย การปฏิบัติต่อองค์สมเด็จพระบรมศาสดาฯ ขององค์พระอานนท์พุทธอุปฐากนี้ ย่อมกระทำเป็นกิจวัตรตลอดมา โดยมิได้มีการเปลี่ยนแปลงและกระทำโดยสม่ำเสมอ

เมื่อครั้งองค์สมเด็จพระบรมศาสดาฯ เสด็จดับขันธ์เข้าสู่พระปรินิพพานแล้ว พระอานนท์พุทธอุปฐากก็ยังระลึกถึงองค์สมเด็จพระบรมศาสดาอยู่มิรู้วาย พระอานนท์คิดเสมอเหมือนหนึ่งว่า องค์สมเด็จพระบรมศาสดาฯ ยังทรงพระชนม์ชีพอยู่

แม้ว่าพระพุทธองค์จะเป็นผู้ขันธปรินิพพานไปแล้วก็ตาม แต่การปฏิบัติของพระอานนท์พุทธอุปฐากก็หาได้ยุติลงไม่ เหตุทั้งนี้ก็เพื่อเป็นเครื่องแสดงซึ่งกตัญญูกตเวทิตาคุณต่อองค์สมเด็จพระบรมศาสดาฯ เมื่อภายหลังประชาชนทั้งหลายได้ทราบเรื่อง จึงพากันซุบซิบนินทาว่า พระอานนท์ได้ปฏิบัติการไปนั้นไม่เป็นการถูกต้องสมควร

แต่ได้มีพระมหากัสสปเถระผู้เป็นใหญ่ แก้ปัญหาข้อนี้ว่า

การที่พระอานนท์กระทำไปหมายถึงว่า พระอานนท์ได้ระลึกถึงพระคุณขององค์สมเด็จพระบรมศาสดาฯ อยู่ตลอดเวลา การปฏิบัติถวายข้าวพระ น้ำดื่ม ปูอาสนะนั่งนอน แม้เมื่อองค์สมเด็จพระบรมศาสดาฯ ได้เสด็จดับขันธปรินิพพานไปแล้ว ก็ยังแสดงซึ่งกตัญญูกตเวทิตาคุณแก่ผู้มีพระคุณดังนี้

การปูอาสนะที่นั่งนอนและภัตตาหารทั้งหลาย น้ำผลไม้หรืออัฏฐบาล น้ำดื่ม น้ำใช้ทั้งปวง เมื่อพระอานนท์เคยจัดอย่างไร เมื่อสมัยที่พระบรมศาสดาฯ ยังทรงพระชนม์ชีพอยู่ พระอานนท์ก็ได้จัดไว้เช่นนั้น จนตราบเท่าที่พระอานนท์ดับขันธปรินิพพานไปเช่นเดียวกัน

การกระทำเช่นนี้เป็นการแสดงกตเวทิตาธรรม อันวิญญูชนทั้งหลายพึงทราบความเป็นจริง ตามที่กล่าวมานี้ เข้าใจหรือยัง


: คำสั่งสอนอบรม
: โดย สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี)

http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=23&t=19706
;aa24

 

การระลึกถึงพุทธคุณ ก็ดีครับ แต่ในปัจจุบันนี้ทำกันแบบคลาดเคลื่อนมาก เพราะเห็นถวายเป็นภาชนะเล็ก ๆ เท่าขนมถ้วย ที่นิยมทำกันในบ้าน เห็นแล้วไม่สมควรเลย น่าจะมาถวายที่วัดใกล้ ๆ บ้าน ตามวัดเขาถวายข้าวพระพุทธแบบสำรับใหญ่ และมีการสวดพระพุทธมนต์ทำบุญกันตามปกติ มีพระสงฆ์มาพิจารณาอาหาร และสวดบทพระพุทธคุณ

 

ขอนอบน้อมต่อสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี)สุดเศียรเกล้า

 

สาธุ
ขอโมทนากับข้อความของคุณ มุ่งเต็มใจ
ได้รับสาระธรรมเพิ่มมากขึ้น

 

== รับบริจาคขวดแก้วสารพัดสี 3000 ขวด ==
เพื่อนำมาสร้างธรรมาศรมดิน ณ เสถียรธรรมสถาน

ขอรับบริจาคขวดแก้วขนาด ๗๕๐ ซีซี ไม่จำกัดสี กว่าสามพันขวด
เพื่อนำมาเป็นวัสดุในการสร้างธรรมาศรมดิน
บริจาคได้ทุกวันที่บริเวณลานบ้านดิน ณ เสถียรธรรมสถาน
ตั้งแต่เวลา ๐๙.๐๐ – ๑๑.๐๐ และ ๑๓.๐๐ – ๑๖.๐๐ น.
(เข้าทางซอยแม่ผิว นาคอุไร ประตูรั้วสีเขียว)ออนุโมทนาต่อผู้มีจิตเมตตา และร่วมเป็นหนึ่งในการสร้างธรรมาศรมดิน มา
ณ โอกาสนี้
ก่อนนำไปบริจาค กรุณาโทรประสานงานได้ที่
โทร ๐-๒๙๔๕-๔๔๔๕ ถึง ๗ ต่อ ๑๐๑-๑๐๓

(หมายเหตุ กำหนดเวลาสิ้นสุดการรับบริจาค 30 เมษายน)

(good)
http://palungjit.org/showthrea...78#post1995878

ใครมีขวดเหลือเยอะอยากไปบริจาคก็เชิญกันนะครับ

 

โ

 

ขออนุโมทนากับทุกๆท่านที่ร่วมบุญในครั้งนี้ด้วยครับ สาธุ สาธุ สาธุ อนุโมทามิ ครับ<!-- google_ad_section_end -->

<!-- google_ad_section_end -->

 

อนุโมทนาสาธุค่ะ

สมัยเด็กๆ คุณยายให้เราถวายข้าวพระพุทธเป็นประจำทุกวันค่ะ

 

อนุโมทนา คะ การแสดงความเคารพ นั้นเป็นเรื่องละเอียดอ่อน จริงๆๆๆ เคยสงสัยอยู่เหมือนกัน ว่า ท่านไปแล้วนิพพานไปแล้วท่านไม่หิว มีแต่สุขแล้วแต่ก็ยังมีคนถวายให้อยู่อย่างนั้น บ้านเราก็ ยังถวยอยู่ รู้ ซึ่งความหมายนั้นแล้ว ขอบคุณ มากๆๆ คะ
คนเรานั้น ส่วยใหญ่ชอบถวายแล้วขอนุ้นขอนี้ น่าเบื่อ จริง ๆๆ แทนที่จะเป็นการละลึกถึงท่านกลายเป็นสร้างความให้ท่านซะงั้น

 

เชิญร่วมบุญกุศลกฐินวัดพระธาตุศรีสามรักษ์ เชียงใหม่ อาทิตย์ ๒๕ ตุลาคม ๕๒
http://palungjit.org/threads/%E0%...87.208887/

 

ผมขอถามสักคำถาม ครับ

หลังจากเราถวายอาหารต่อหน้าพระพุทธรูป ผมต้องวางอาหารเหล่านั้น นานเท่าไหร่ครับ? และหลังจากเก็บอาหาร ผมควรจัดการอาหารเหล่านั้นอย่างไรครับ? (เช่น นำมาทาน)

บุญรักษาทุกท่าน ครับ ^_^

 

<TABLE id=post2557755 class=tborder border=0 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center><TBODY><TR vAlign=top><TD style="BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid" class=alt2 width=175><!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->innovex<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_2557755", true); </SCRIPT>
สมาชิก



วันที่สมัคร: Sep 2005
อายุ: 39
ข้อความ: 105
Groans: 2
Groaned at 1 Time in 1 Post
ได้ให้อนุโมทนา: 2,305
ได้รับอนุโมทนา 2,544 ครั้ง ใน 253 โพส
พลังการให้คะแนน: 133


</TD><TD style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid" id=td_post_2557755 class=alt1><!-- google_ad_section_start -->อ้างอิง:
<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%"><TBODY><TR><TD style="BORDER-BOTTOM: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-RIGHT: 1px inset" class=alt2>ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ พิษณุ สุริยา
มีเรื่องตำนาน " การถวายข้าวพระพุทธ " ครับ

ท่านใดรู้แล้วบ้างครับ ว่าการถวายข้าวพระพุทธนั้น เกิดขึ้นจากอะไร ใคร เมื่อไรครับ ???

การถวายข้าวพระพุทธนั้น พระพุทธท่านไม่ได้ฉันข้าวหรอกครับ แต่เป็นการแสดงออกถึง
ความกตัญญู ระลึกถึงคุณงามความดีขององค์พระศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้าครับ

เรื่องนี้ ผมน้อมนำเก็บไว้ เตือนใจตนเองอยู่เสมอ ในยามที่ความขลาดเขลา เข้าครอบงำจิตใจ
ต่อศรัทธา ที่ผมมีต่อสมเด็จพระนเรศท่าน

เพราะผู้ที่เริ่มทำการถวายข้าวพระพุทธ ก็คือ พระอานนทเถระเจ้า นั้นเองละครับ
ในสมัยหลังพระพุทธองค์ เสด็จดับขันธืปรินิพานไปแล้ว พระอานนทเถระเจ้า ก็ยังคงปฏิบัติต่อพระพุทธองค์เช่นเดิม
ดั่งกับว่า พระพุทธองค์ท่านยัง พระชนม์ชีพอยู่

ยังปูที่หลับจับที่นอน ถวายอาหาร ถวายน้ำปานะ อยู่เสมอ มิได้ขาด
จนพระภิกษุทั้งหลาย พากันเคลือบแคลงใจ ว่าพระอานนท ยังไม่รู้จักละกิเลส ยังหลงว่าพระพุทธองค์มีพระชนม์ชีพอยู่
เป็นการไม่สมควร จึงไปเรียนปรึกษา กับพระมหากัสปะเถระผู้ใหญ่

พระมหากัสปะเถระเจ้า จึงกล่าวสรรเสริญพระอานนท ว่าเป็นผู้กตัญุตาอย่างจะหาใครเสมอเหมือนได้ยาก
ด้วยการแสดงออก ต่อพระพุทธองค์นั้น แม้ว่าจะปรินิพานไปแล้วก็ตาม
แล้วพระอานนทเถระเจ้า ก็ปฏิบัติดังนี้ ตลอดจนท่านล่วงสู่แดนพระนิพพานครับ

ผมพบเรื่องนี้ละครับ ผมจึงตัดสินใจได้มั่นคง ว่าผมไม่ได้บ้า นี่หว่า ๕๕๕
</TD></TR></TBODY></TABLE>
ใช่ครับ ท่านเห็น ป่าเห็นภูเขาท่านมองว่ามีบุณคุณกับท่านหมดเลย<!-- google_ad_section_end -->
</TD></TR><TR><TD style="BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid" class=alt2> <SCRIPT type=text/javascript> vbrep_register("2557755")</SCRIPT> </TD></TR></TBODY></TABLE>

 

ที่มา
http://palungjit.org/threads/รวมพลเ...หาราชจอมราชันย์-แห่งสยามประเทศ.205692/page-43

 

การถวายข้าวพระพุทธ ในพิธีทำบุญเลี้ยงพระ นิยมถวายข้าวพระพุทธ คือ จัดอาหารทุกอย่างเหมือนกับที่ถวายพระสงฆ์ (ไม่ควรจัดเป็นชุดเล็ก ๆ เหมือนกับที่จัดอาหารเซ่นผี) เสร็จแล้วพึงวางไว้บนโต๊ะหรือบนผ้าขาวที่สะอาดหน้าโต๊ะหมู่บูชา จุดธูป ๓ ดอกในกระถางธูปหน้าพระพุทธรูป นั่งคุกเข่าประนมมือกล่าวคำนมัสการว่า “นะโม ตัสสะ….” ว่า ๓ จบ เสร็จแล้วกล่าว
คำถวายข้าวพระพุทธว่า
อิมัง สูปะพะยัญชนะสัมปันนัง สีลีนัง โอทะนัง อุทะกัง วะรัง พุทธัสสะ ปูเชมิ. และเมื่อพระสงฆ์ฉันเสร็จแล้ว เจ้าภาพ พิธีกร หรือผู้อื่นก็ได้ พึงกราบพระพุทธรูป ๓ ครั้ง แล้วประนมมือกล่าวคำลาข้าวพระพุทธว่า เสสัง มังคะลา ยาจามิ หรือจะกล่าวว่า เสสัง มังคะลัง ยาจามิ ก็ได้ เสร็จแล้วกราบ ๓ ครั้ง และยกภาชนะข้าวพระพุทธออกไป

http://www.dhammajak.net/phitee/3.html พิธีทำบุญเลี้ยงพระ

 

ขอบคุณมากครับ คุณมุ่งเต็มใจ

 

ภาพโคกระบือที่ไถ่ในวันแม่แห่งชาติ12สิงหาคม งวดที่แล้วที่วัดราชโอรสารามครับ

http://palungjit.org/threads/%E0%....185801/page-8

 

อนุโมทนาสาธุเจ้าค่ะ


อิมัง นะภะ อุอะ นะชาลีติ

 

สาธุๆๆอนุโมทามิครับ