กลิ่นมฤตยู

ในห้อง 'เรื่องผี' ตั้งกระทู้โดย vacharaphol, 15 กุมภาพันธ์ 2006.

  1. vacharaphol

    vacharaphol เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    8,849
    ค่าพลัง:
    +27,174
    "คุณคิด" เล่าเรื่องน่าขนหัวลุกของคนที่ตายเพราะควันบุหรี่

    วันที่ 31 พฤษภาคม ของทุกปีเป็น "วันงดสูบบุหรี่โลก" ทำให้ผมนึกถึงประสบการณ์ต่างๆ เกี่ยวกับเรื่องสูบบุหรี่ที่ได้พบมาหลายสิบปี ขอนำมาเล่าสู่กันฟัง ดังนี้

    สมัยก่อนไม่เห็นมีการห้ามสูบบุหรี่อย่างสมัยนี้ ในร้านอาหาร ในโรงหนัง ในรถเมล์ก็สูบกันควันโขมง ในโรงเรียนหรือแม้แต่ในโรงพยาบาลก็สูบบุหรี่กันหน้าตาเฉย...ขนาดหมอก็ยังเคยเห็นเดินสูบกัน ถ้าจะรณรงค์ให้งดสูบบุหรี่ก็มักเน้นไปที่ความเสียทรัพย์โดยไร้ประโยชน์ เช่นเจ้าของบริษัทรถเมล์ขาว (นายเลิด) สมัยนั้น เคยประกาศว่า

    "เอาเงินไปทิ้งน้ำดีกว่าซื้อบุหรี่สูบ เพราะอาจจะมีคนเก็บเงินไปใช้ได้ แต่การซื้อบุหรี่สูบเป็นการเผาเงินทิ้งเปล่า"

    ในเครื่องบินโดยสารทั้งในและต่างประเทศ ไม่ว่าชั้นหนึ่งหรือชั้นสองก็ไม่ได้ห้ามสูบบุหรี่ นึกแล้วก็น่าเห็นใจคนไม่สูบและเหม็นควัน แต่ก็คงจะเคยชิน หรือไม่อดทนเอา ต่อมา ในเครื่องบินก็มีการแบ่งเขตคนสูบบุหรี่กับไม่สูบ เขาจะถามก่อนขึ้นเครื่องแล้วว่าสูบบุหรี่หรือเปล่า? ใครสูบก็ต้องนั่งตอนกลางไปถึงท้ายๆ ที่ติดกับห้องสุขา

    นับวัน ที่นั่งของคนสูบบุหรี่ก็ร่นไปเรื่อยๆ จนเหลือน้อยลงทุกที ขนาดคนติดบุหรี่ยังต้องทนเหม็นควันเพราะมีคนนับสิบๆ มายืนออกันแถวท้ายเครื่องเพื่อสูบบุหรี่

    สายการบินในประเทศห้ามสูบบุหรี่เด็ดขาด!

    เมื่อ 20 ปีก่อนผมไปเที่ยวรัสเซีย ในโรงละครสัตว์ห้ามสูบบุหรี่ แต่ตอนพักครึ่งเวลา คนดูจะวิ่งเข้าห้องน้ำขนาดเบียดเสียดกันเพื่อสูบบุหรี่จนควันโขมงเหมือนปล่องโรงสี แต่ครั้งต่อมาเมื่อขึ้นเครื่องออกจากมอสควาไปซามาคาน ระยะทางไกลมากขนาดต้องบินถึง 5 ชั่วโมง ห้ามสูบบุหรี่ ทำให้ขี้ยาต้องเคี้ยวหมากฝรั่ง อมลูกอมพอปะทะปะทังไปได้

    เมื่อเกือบ 10 ปีก่อนไปเที่ยวปักกิ่ง แม้จะใช้เวลา 4 ชั่วโมงเศษ ก็ถือว่าเป็นสายการบินข้ามประเทศ...ห้ามสูบบุหรี่เด็ดขาดตลอดทาง การจีนสูบบุหรี่จัดพอๆ กับคนรัสเซียน

    ราว 3-4 ปีก่อนไปเที่ยวออสเตรเลีย จากกรุงเทพฯ ถึงเมลเบิร์น ต้องบินถึง 9 ชั่วโมง ห้ามสูบบุหรี่อีกเหมือนกัน...เป็นอันว่าทุกสายการบินล้วนแต่เป็น "เที่ยวบินปลอดบุหรี่" ไปหมดแล้ว

    ตามห้างสรรพสินค้าบ้านเราเมื่อ 20 กว่าปีก่อนยังเดินสูบบุหรี่ได้สบาย ผมไปเที่ยวฮังการี เดินเข้าห้างสรรพสินค้าพร้อมกับสูบบุหรี่ตามความเคยชิน มี รปภ. เข้ามาพูด "ฮัลโล่ๆ" แล้วชี้ไปที่บุหรี่ โบกมือเป็นสัญญาณห้าม

    เดี๋ยวนี้บ้านเราก็เข้มงวดเรื่องห้ามสูบบุหรี่กันมากที่สุด!

    โรงพยาบาลศิริราชเมื่อปีกลายยังมีจุดสูบบุหรี่ข้างทาง เช่น แถวตึก 84 ปี เป็นต้น มีกระถางทรายเป็นที่ดับก้นบุหรี่ แต่ปีนี้ไม่มีจุดนั้นอีกแล้ว แต่มีป้ายติดไว้ว่า "ห้ามสูบบุหรี่ในโรงพยาบาล" ตั้งแต่ทางเข้า

    ตามห้องอาหารและล็อบบี้โรงแรมทั่วไปก็ห้ามสูบบุหรี่มากขึ้น ใครทนไม่ไหวจริงๆ ต้องออกไปอัดควันเอาที่หน้าโรงแรม...ถ้าไม่รัก ไม่ห่วงใยตัวเองก็อย่ายัดเยียดพิษภัยใส่ผู้อื่น

    น.พ.ครรชิต อมาตยกุล มิตรรักตั้งแต่วัยหนุ่มเคยติดบุหรี่เหมือนกัน แต่ก็เลิกได้เด็ดขาดมาราว 20 ปีแล้ว หน้าตาผ่องใสขึ้นมากได้บอกยาอดบุหรี่ขนานสำคัญให้ว่า

    "ยาใจ! คือกำลังใจของเราเองเป็นยาดีที่สุด"

    โดยทั่วไปแล้ว ทุกคนย่อมคิดว่าในโรงแรมต่างๆ คนติดบุหรี่จะสูบได้อย่างเสรีในห้องพักของตน แต่ผมได้พบกับเหตุการณ์แปลกประหลาดมาหยกๆ เมื่อต้นเดือนนี้เอง คือ...ห้ามสูบบุหรี่ในห้องนอน!

    มีเพื่อนจากต่างจังหวัดมาทำธุระที่กรุงเทพฯ พักอยู่โรงแรมรอยัลปริ๊นเซส ใกล้อำเภอป้อมปราบฯ ถนนหลานหลวง ระหว่างที่เรากินข้าวราดสตู แกล้มกุนเชียงที่ร้านด้านหลัง เพื่อนก็บอกว่าเคยไปเที่ยวมาเกือบรอบโลกหลายครั้งแล้ว ก็เพิ่งเคยเห็นโรงแรมนี้แหละที่ไม่มีที่เขี่ยบุหรี่ อยากจะนอนสูบบนเตียงให้สบายใจก็ไม่สำเร็จ

    ลงท้ายต้องไปถามพนักงานประจำฟลอร์ว่าลืมที่เขี่ยบุหรี่หรือเปล่า ก็ได้รับยิ้มนิดๆ เป็นคำตอบ ก่อนจะหยิบของที่ต้องการให้พร้อมกับไม้ขีดโรงแรมหนึ่งกล่อง

    ตอนเข้าห้องปิดประตู ถึงได้ตะลึงเมื่อเพิ่งสังเกตเห็นป้ายห้ามสูบบุหรี่อยู่ที่เหนือประตูนั่นเอง!

    "ในเมื่อเขาห่วงใยสุขภาพของเราเองแท้ๆ โดยไม่เกี่ยวกับสุขภาพของคนอื่น ก็นึกขอบใจเขา....พาลหายอยากบุหรี่ไปเลย"

    เมื่อกลางเดือนนี้เอง ผมไปงานศพของเพื่อนรุ่นพี่ ที่วัดตรีทศเทพ ญาติมิตรคับคั่ง ระหว่างรอพิธีก็นั่งคุยกันในห้องติดแอร์ ซึ่งห้ามสูบบุหรี่อยู่แล้ว แต่มองผ่านกระจกไปด้านนอกซึ่งเป็นแถวเก้าอี้ยาว แขกนั่งกันเต็ม...ไม่เห็นมีใครสูบบุหรี่แม้แต่คนเดียว

    กระทั่งใกล้จะได้เวลาขึ้นไปวางดอกไม้จันทน์บนเมรุกันแล้ว...ผมออกไปนั่งรอข้างนอกได้ครู่เดียว กลิ่นบุหรี่ก็ลอยกรุ่นมาเข้าจมูก ผมมองหาคนสูบ แต่คนอื่นๆ ก็เหลียวซ้ายแลขวามองหาเช่นกัน

    ขนลุกซ่าเมื่อไม่เห็นใครสูบบุหรี่แม้แต่คนเดียว หลายๆ คนมองขึ้นไปบนเมรุที่มีโลงศพตั้งเด่นอยู่...เพื่อนผมตายเพราะสูบบุหรี่จัดจนเป็นมะเร็งในปอดครับ

    คอลัมน์ ขนหัวลุก
    โดย ใบหนาด
    - ข่าวสด
     

แชร์หน้านี้

Loading...