กรรมอยู่ที่ไหน

ในห้อง 'กฎแห่งกรรม - ภพภูมิ' ตั้งกระทู้โดย slamb, 21 กรกฎาคม 2008.

  1. slamb

    slamb เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กันยายน 2007
    โพสต์:
    1,021
    ค่าพลัง:
    +538
    กรรมอยู่ที่ไหน

    กรรมมันไม่ได้หนีไปไหน มันบันทึกเอาไว้ในจิตของเราเอง มันอยู่กับเราตลอดเหมือนเงา
    เมื่อ ไรที่มันสำแดงผลเราถึงจะรู้ เราไม่สามารถย้อนเวลากลับไปแก้กรรมได้ มีแต่กรรมปัจจุบันเท่านั้นที่จะเปลี่ยนกรรม พลิกชะตากรรมตนเองได้ด้วยการปฎิบัติธรรม


    กรรมปัจจุบัน

    เกิดขึ้นประจำวันทุกวัน ขณะคิด พูด และทำอย่างต่อเนื่องสะสม มีกิจกรรมเรื่องราวต่างๆมากมาย


    วินิจฉัย อะไรกรรมดี อะไรกรรมชั่ว สิ่งใดผิดสิ่งใดควร

    1.การกระทำที่มีเหตุจากกุศลมูล ไม่โลภ ไม่โกรธ ไม่หลง เป็นกรรมดี เป็นบุญ ควรทำ ถ้ามาจากความโลภ โกรธ หลง เป็นกรรมชั่ว ผิด เป็นบาปไม่ควรทำ
    2.การกระทำที่ไม่เบียดเบียนใคร มีสุขเป็นผล เป็นกรรมดี ควรทำ การกระทำที่เบียดเบียนตนและผู้อื่น มีทุกข์เป็นผลร้อนใจภายหลัง เป็นกรรมชั่วไม่ควรทำ
    3.การกระทำที่ทำให้กุศลธรรมเจริญขึ้น อกุศลเสื่อม เป็นกรรมดีเป็นบุญควรทำ การกระทำที่ทำให้กุศลเสื่อมลง อกุศลเจริญขึ้นเป็นกรรมชั่วเป็นบาปไม่ควรทำ


    พิจารณาส่วนอื่นๆด้วยคือ
    1.กฎหมาย ไม่ผิดกฎหมาย
    2.ศีล แม้ถูกกฎหมาย แต่ผิดศีลไม่ควรทำ
    3.ฐานะ ควรกระทำให้เหมาะกับเพศ วัย ความรู้ กำลัง ยศ ตระกูล ฐานะทางสังคม
    4.คำตำหนิ ผู้รู้ผิดชอบชั่วดีตำหนิ ควรพิจารณาแล้วแก้ไข
    5.กาลเวลา เวลาควรรีบก็ให้รีบทำ -เวลาควรช้าก็ให้ช้า -ให้ถูกกาลเวลา พูดถูกกาลเวลา ทำถูกกาลเวลา -ทำให้ถูกตามลำดับก่อนหลัง
    6.สถานที่ ทำให้เหมาะกับประเพณี และ สภาพแวดล้อม
    7.มีความพอดี


    อำนาจกระแสกรรม

    -ดึงดูด ผลักดันให้พบปรากฎการณ์ต่างๆเกิดความสัมพันธ์ระหว่างคนด้วยกัน ผูกพันกับสัตว์ หรือหวงแหน ขวนขวายสะสมสิ่งของบางอย่าง
    -การเกิดอยู่ที่อำนาจกรรมกำหนด ตามบาปบุญกระทำมา เกิดในสถานที่ใด ลูกใคร ครอบครัวไหน รวยหรือจน รูปร่างแบบไหน
    แรงผลักดันกรรมจะทำให้เราเดินทางไปสู่สถานที่ต่างๆเพื่อพบเจอผู้ที่เคยทำ กรรมร่วมกันมา ฉะนั้นการพบเจอใครในชาตินี้ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ แม้แต่การเดินชนกันก็ตาม



    รหัสกรรม

    -มนุษย์ทุกคนมีความทรงจำบางอย่างติดมาจากอดีต ถ้ารุนแรงมากก็ก่อเป็นบุคลิกนิสัยติดตัวมาแต่เล็กโดยไม่ทราบเหตุผล เช่นกลัวปลาทู แพ้สับปะรด กลัวตะปู ชอบเครื่องดนตรีบางอย่างมาก ชอบร้องรำทำเพลง ชอบปฎิบัติธรรมมะมาแต่เด็ก
    -ความรู้สึกสัมผัสว่ารู้สึกคุ้นๆบางคนและเข้าใกล้ชิดกันง่ายรู้สึกดี แต่กับบางคนก็ไม่ชอบหน้า รู้สึกว่าเป็นศัตรู เป็นความรู้สึกล้วนๆไม่เกี่ยวเหตุผล สถานที่ หรือวัตถุบางอย่างที่เดินผ่านก็รู้สึกคุ้นเคย

    ฉะนั้นรหัสกรรมจึงเป็น
    -เรื่องราวตัวเราล้วนๆที่แสดงออกทางกาย วาจา ใจ
    -รหัสกรรมจึงเป็นบุคลิคลักษณะบางอย่างที่อยู่ในตัวเรา
    -อำนาจกรรม ทำให้กลายเป็นสัญญา(ความจำ)ที่ข้ามภพข้ามชาติมา
    -รหัสกรรมเป็นเครื่องชี้จุดดี จุดด้อยบางอย่างของคนเรา รหัสกรรมที่ไม่ดีเหมือนการตีตราบาปลงไปในดวงใจ
    -การป่วยด้วยรหัสกรรมเช่นปวดหัวไมเกรนอย่างรุนแรง หายได้ด้วยการปฎิบัติธรรม โดยนั่งสมาธิ เจริญอานาปานัสสติ หรือ ใช้อาโปกสิน
    -รหัสกรรมที่ดี แสดงข้อดีและจุดเด่นในชีวิตคนๆนั้น ควรพัฒนาความสามารถนั้นๆให้ดี เสริมต่อจากอดีตชาติที่ผ่านมา
    -รหัสกรรมเป็นสิ่งบ่งชี้ว่ามนุษย์เรามีการสั่งสมอุปนิสัยใจคอทับถมกันมาแต่ อดีตชาติ แต่ละชาติมีการสร้างรหัสกรรมชาตินั้นๆขึ้น ขณะเดียวกันก็พาเอารหัสจากอดีตชาติติดตามมาด้วย ผสมผสานนิสัยเก่าและใหม่ผันแปรเป็นรหัสที่ซับซ้อนขึ้นทุกที แต่ทุกรหัสแก้ได้แปลคำตอบได้ว่าควรเลี่ยงกรรมอะไร เลี่ยงวัตถุ อาหาร ใคร สถานที่ใดบ้าง


    วาสนากับรหัสกรรม

    -วาสนาทางพระพุทธศาสนาหมายถึง อาการทางกาย วาจา ใจ ที่เป็นลักษณะพิเศษของบุคคล ซึ่งเกิดจากกิเลสลบางอย่าง ที่ได้สั่งสมอบรมมาเป็นเวลานาน จนเคยชินติดเป็นนิสัยเป็นพื้นประจำตัว เช่น แกว่งแขนเวลาเดิน หัวเราะดัง ฯลฯ
    -วาสนาเป็นสิ่งที่สะสมมานาน หลายภพหลายชาติจนติดเป็นนิสัย บางนิสัยก็แก้ได้ บางอย่างก็ละไม่ได้ แม้สำเร็จพระอรหันต์ มีแต่พระพุทธเจ้าเท่านั้นที่สามารถละวาสนาได้ทั้งหมดจนเข้าข่ายลักษณะมหาปุร สิลักษณะมหาบุรุษ
    -วาสนาที่เป็นกุศล เช่นมีนิสัยทางธรรม อ่านหนังสือธรรมมะ นักเลงพระ สนใจพระเครื่อง เครื่องรางของขลัง เล่นพลังจิต คนเหล่านี้เคยมีวาสนากับเส้นทางเหล่านี้ แต่ยังคงไม่เข้าเส้นทางธรรมอย่างแท้จริง ยังผ่านด่านนี้ไม่ได้ ถ้าจะผ่านได้ต้องปฏิบัติธรรมมะควบคู่ไปได้จะสำเร็จ คนที่มีวาสนาทางนี้จะเจริญสมาธิเร็ว โดยเฉพาะกสิน หรือ อาณาปานัสสติ



    เจ้ากรรมนายเวร

    คือบุคคลผู้ที่เราเคยทำหนี้กรรมกับเขาเอาไว้ในอดีตชาติ หรือในชาตินี้แล้วเขาเหล่านั้นผูกใจเจ็บเอาไว้ ไม่ว่าบุคคลดังกล่าวจะสิ้นไปแล้วหรือยังมีชีวิตอยู่ รวมถึงบุคคลใกล้ตัวเรา ใครก็ตามที่ทำให้เราเจ็บช้ำน้ำใจทั้งทางตรงและทางอ้อม ล้วนเป็นเจ้ากรรมนายเวรเราทั้งสิ้น


    ประเภทเจ้ากรรมนายเวร

    -เป็นวิญญานในอดีตที่ยังไม่ไปผุดไปเกิด อำนาจแรงกรรมจะชักนำไปพบเจ้ากรรมนายเวร และเขาจะตามตัวมาก่อเกิดความเจ็บป่วย อุปสรรคในชีวิต
    -เป็นคน อาจเป็นญาติสนิท พ่อ แม่ พี่ น้อง เพื่อน บุคคลใกล้ตัว เจ้ากรรมเราจะมีอิทธิพลส่งผลทำให้เรากลุ้มใจ ทำร้ายเราโดยไม่ทราบสาเหตุ สร้างความกดดันให้กับเรา เพื่อทวงใช้หนี้กรรมเก่าซึ่งกันและกัน
    -จากผลการดำเนินชีวิต เป็นเจ้ากรรมที่เกิดขึ้นในชีวิตประจำวันที่เกิดจากความเคยชิน จากสัมมาอาชีพตนเอง
    -จากเราเป็นทายาทของกรรมเราเอง เราเป็นผู้ผลิตกรรมเอง เช่น จากความโกรธ พาล กรรมตัวนี้จะลดทอนบุญบารมีที่เราเคยมีติดตัวมา และเป็นอุปสรรคในการพัฒนาจิตให้เข้าถึงธรรม


    เจ้ากรรมจากสัมมาอาชีพ

    สัมมาอาชีพคือการเลี้ยงชีวิตชอบ ให้ถูกด้วยกฎหมายไม่ผิดตามที่พระพุทธองค์ทรงห้ามคือ ค้าสัตว์ ค้ายาเสพติด ค้าอาวุธ ค้ายาพิษ ค้ามนุษย์ ขณะประกอบอาชีพก็อย่าโกง หลอกลวง สอพลอ บีบบังคับขู่เข็ญ สิ่งเล็กๆน้อยๆที่มักมองข้ามก็ไม่ควรละเว้น เช่น โกงเวลา(ทำงานสายเลิกเร็ว)อู้งาน เวลาที่เราโกงก็ถูกสะสมไปเรื่อยๆ และไม่ค่อยเจริญ ฉะนั้นให้พยายามซื่อสัตย์ ซื่อตรงต่อหน้าที่ อย่าให้เกิดเจ้ากรรมนายเวรจากการประกอบอาชีพ


    แก้กรรม

    พระพุทธเจ้าทรงสรรเสริญเฉพาะกายของมนุษย์เท่านั้นที่มีคุณค่าในการเข้าถึง ธรรมวิเศษที่จะสามารถชุบมนุษย์ธรรมดาคนหนึ่งให้เป็นพระอรหันต์จนถึงเป็นพระ โพธิสัตว์หน่อเนื้อพุทธางกูลของพระพุทธเจ้าได้
    1.ผลกรรมที่เคยทำมาในอดีต เรากลับไปแก้ไขไม่ได้ มีแต่เราเท่านั้นที่ขออโหสิกรรมต่อเจ้ากรรมนายเวร การเริ่มต้นอโหสิกรรมเพียงในใจที่ตัวเราอย่างจริงใจ เท่ากับยุติโซ่กรรมสังสารวัฎในอนาคตทันที
    2.การอโหสิกรรมของเราเท่ากับเราดับพิษร้อนในใจตน ด้วยการเจริญเมตตาอย่างถึงที่สุด ที่จะอภัยให้ทุกคนและศัตรูตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน



    การอโหสิกรรมต่อเจ้ากรรมนายเวร

    อาศัยอำนาจบุญ และพลังเมตตาเป็นหลัก จึงจะมีพลังจิตเพียงพอ
    -อำนาจบุญ เช่นการให้ทาน รักษาศีล เจริญสมาธิภาวนาให้จิตสงบมีพลัง
    -การเจริญเมตตา เช่น วางอารมณ์จิตให้มีความรักต่อเพื่อนมนุษย์และสรรพสัตว์ทั้งหลาย ปรารถนาให้พวกเขาพ้นทุกข์มีสุขถ้วนหน้า ถ้าจะให้กระแสเมตตามีกำลังสูงต้องให้ทาน ถือศีล เจริญภาวนา
    -แผ่เมตตา เจ้ากรรมนายเวรที่มีจิตวิญญาน หรือมนุษย์ กระแสเย็นแห่งเมตตาจะทำให้รู้สึกอ่อนแรง อ่อนโทสะ กลับมาเป็นมิตร เกิดอโหสิกรรมเลิกจองเวร
    -เจ้ากรรมนายเวรที่เป็นคน ต้องอดทนอย่างยิ่ง ให้อภัยเสมอๆให้อภัยก่อน ให้อภัยบ่อยๆ ผลจากการให้อภัยทำให้เขาสำนึกและเปลี่ยนแปลงได้ในที่สุด หากตบะบารมีจากบำเพ็ญเมตตาเราเต็มเปี่ยมแล้ว กรรมย่อมเลิกราไปเอง เกิดอโหสิกรรมขึ้นแล้ว



    หลักแก้กรรม

    1.ละชั่ว
    2.ทำดี
    3.ทำจิตให้บริสุทธิ์


    สรุปกรรมมาจาก

    1.เจ้ากรรมนายเวร จากอำนาจกรรม
    2.จากอำนาจอกุศลกรรม การกระทำเราเป็นเหตุ ไม่มีเจ้าหนี้เจ้ากรรม เพราะเขาไม่ถือสา แต่อำนาจการทำเราส่งผลให้เราตกต่ำลง อำนาจกรรมนี้ติดตามไปไม่สิ้นสุด ดังเช่น ทำดีความดีติดตัวเราผลกรรมดีทำให้เราดี ถ้าทำชั่วผลทำชั่วจะทิ่มตำเราให้เจ็บจากการกระทำของตัวเอง


    วิธีแก้กรรม

    ผลอกุศกรรมที่ทำมาในอดีต มาบังเกิดในชีวิตไม่ผิดกับโรคร้ายอำนาจบาปทำให้เป็นโรคร้ายขึ้นมาจริงๆ ผลกรรมชั่วบางอย่างหายได้ เพราะมีภูมิคุ้มกันคืออำนาจบุญกุศลในทางที่ดีประคับประคองอยู่ เมื่อรักษาด้วยอำนาจบุญย่อมหายได้
    โรคกรรม เป็นผลของกรรมชั่ว มีอานุภาพหลากหลายมากกว่าร่างกายที่เจ็บป่วยทั่วไป เช่น การงานล้มเหลว ชีวิตรักล้มเหลว การเงินไม่ดี มีคนคอยกลั่นแกล้ง อิจฉา มีอุบัติเหตุการเดินทาง มีอุปสรรคต่างๆในการดำรงชีวิต และอำนาจที่ทำให้กดดันทางอารมณ์ ทางใจรูปแบบต่างๆ ความเศร้า ความอ่อนแอทางใจ


    กรรมชั่วรักษาให้หายโดย
    1.ยากิน-ทำบุญภายใน รักษาโรค คือทำกรรมฐาน รักษาศีล เจริญปัญญา
    2.ยาทา-ทำบุญภายนอก คือ ถวายทาน ทำพิธีกรรมขอขมาเจ้ากรรมนายเวรที่ติดตามมา
    อุบาย ธรรมในการแก้ไขกรรมให้ดีขึ้น ใช้หนทางมรรคแปด และอริยสัจสี่ ดับทุกข์ ที่ถาโถมในชีวิตให้เบา จนจิตใจสงบ ควรหันมาเจริญมรรคแปดให้เกิดขึ้นในชีวิตได้



    การแก้กรรมด้วยอุบายธรรม

    1.วัตถุใดสร้างกรรมแก้ด้วยวัตถุนั้น -เพื่อคลายความทุกข์ให้เบาบางเพราะจิตมันติดอยู่ที่วัตถุที่ใช้สร้างกรรม ต้องดับภาพวัตถุนั้นออกจากจิตไม่ให้มันซุกซ่อนในจิตจะส่งผลทางกาย แก้ที่วัตถุนี้มันแก้ที่ตัวของคนทำเองโดยต้อง
    -มีจิตสำนึกผิดแท้จริง
    -มีสัจจะวาจาออกเสียงให้สื่อได้ยินทั้งสามภพเป็นการบอกเจ้ากรรมนายเวรและเทพ ให้เป็นสักขีพยานว่าจะไม่ทำอีก ถ้าได้ทำตามสัจจะที่ลั่นออกไปก็ได้สัจจะบารมีเพิ่มในจิตใจ


    2.อธิษฐานจิตดับดวงจิตเดิม โดยเฉพาะดวงจิตอกุศลที่ติดมาเป็นสัญญารเก่าค้างมา คนเราทุกคนจะมีนิสัยจากอดีตชาติติดตัวมาปะปนกับนิสัยใหม่ในชาตินี้ เมื่อเกิดภาวะทุกข์ใจจากอำนาจกรรม หรือภาวะจิตบางอย่างที่อธิบายไม่ได้ เช่น กลัวสูง เกลียดพี่น้อง และอาจเคยเป็นคู่เวรคู่กรรมกับพี่น้องตนมาจึงเกลียดอย่างไร้สาเหตุ แก้ไขโดยปฎิบัติธรรมทำกรรมฐานแผ่เมตตา อธิษฐานจิตว่าดวงจิตดวงเดิมที่ทำให้เกิดทุข์ร้อน ขอให้ดับไปอย่าเกิดขึ้นอีก




    ขอบคุณที่มา
    http://sprbird.multiply.com/reviews/item/3?&item_id=3&view:replies=reverse
     
  2. โสภา จาเรือน

    โสภา จาเรือน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    2,013
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +3,332
    อนุโมทนาสาธุบุญ


     
  3. TupLuang

    TupLuang เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    3,143
    ค่าพลัง:
    +1,371
    [​IMG]

    Morning Glory

    อนุโมทนาครับ
     
  4. oomsin2515

    oomsin2515 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    2,934
    ค่าพลัง:
    +3,393
    อนุโมทนากับเจ้าของกระทู้ครับ
    สาธุ สาธุ สาธุ<O:p</O:p
    <O:p</O:p
    <O:p</O:p


    _____________________________<O:p</O:p
    เชิญร่วมบริจาคหนังสือ เข้าห้องสมุดชุมชนวัดย่านยาว<O:p</O:p
    http://palungjit.org/showthread.php?t=130823<O:p</O:p
    <!-- / message --><!-- sig -->
     
  5. J.Sayamol

    J.Sayamol เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 เมษายน 2008
    โพสต์:
    6,190
    ค่าพลัง:
    +21,530
    จะดี...จะชั่ว...ก็อยู่ที่ตัวทำ...

    จะสูง...หรือต่ำ...ก็อยู่ที่ทำตัว...


    ;aa19
     

แชร์หน้านี้

Loading...