ฤาษีพุทธภูมิ

ดอกบัวเหล่าที่สี่ดอกบัวกำลังจะบานแค่ได้รับแสงยามอรุณเพียงนิดเดียวก็บานทันที นั่นคือบุคคลที่ฟังธรรมะแค่ประโยคเดียวสั้นๆก็บรรลุอรหันต์

บุคคลสามารถบรรลุธรรมนั้นเปรียบได้ดั่งดอกบัวสี่เหล่าคือ บัวใต้ตม บัวกลางน้ำ บัวพ้นน้ำ และบัวกำลังจะบาน

ถ้าไม่รู้จักจิต ก็ไม่เห็นจิต อุปมาเหมือนคนไม่รู้จักไก่ พอไปเจอไก่ ก็ยังไม่รู้ว่าเป็นไก่

คำว่าจิตว่างนั้นไม่ได้หมายความว่า ว่างจากทุกสิ่ง การคิด พิจารณา สติ ปัญญา ธาตุรู้ยังปรากฏในธรรมชาติของดวงจิต ถ้ารู้จักจิตก็จะเห็นจิต

นิพพานไม่ได้แปลว่าดับสูญ จิตว่างก็ไม่ได้แปลว่าจิตดับสูญไป ถ้าไม่มีจิตไม่มีตัวรู้ แล้วจะเอาอะไรไปรู้เห็นธรรมะ

ถ้าเรานอนพักผ่อนร่างกาย เราควรฝึกจิตฝึกสติกำหนดรู้อยู่ตลอดเวลาในขณะนอนหลับ

ผลของกรรมบาปนั้นย่อมมีที่สิ้นสุดไปเป็นธรรมดา แม้แต่พระเทวทัต เมื่อใช้กรรมบาปหมดแล้ว ท่านจะได้ตรัสรู้เป็นพระปัจเจกพุทธเจ้าพระองค์หนึ่ง

ถ้าดูลมหายใจเพื่อให้เกิดสติอันนี้เหมือนจะนานไปหน่อย แต่ถ้าเอาสติมาตั้งไว้ที่ลมหายใจแล้วสังเกตุดูอารมณ์ไป บางทีอาจจะเป็นทางลัดเดินง่ายๆก็ได้

พุทธมีหลายกลุ่มเพราะคนเริ่มศึกษาธรรมะกันมากขึ้นเมื่อรู้มากก็เห็นมากเหมือนคนตาบอดคลำช้างเลยเถียงกันไม่จบถ้าตาดีถอยออกมาก็จะเห็นช้างทั้งตัว

เมฆฝนบดบังแค่แสง ไม่ให้เห็นดวงตะวัน แต่ดวงตะวันก็ยังส่องแสงในตัวมันเองตลอดเวลา จิตกับกิเลสก็เป็นเช่นนั้นเหมือนกัน

ฝึกสมาธิง่ายๆ......ขณะกำลังตื่นนอน ให้เราสังเกตุดูลมหายใจเข้าออก สังเกตุว่า ขณะหายใจเข้าออกอยู่นั้น จิตเรามีอารมณ์แบบไหนบ้าง สงบหรือวุ่นวาย

สติรู้นั้น ปรากฏอยู่ตลอดเวลา แต่กิเลสยังมีอยู่ เลยบดบังสติและจิตที่สว่างไสว

"เมื่อมีเหตุเกิดขึ้น ผลก็ย่อมเกิดตามเหตุตามปัจจัยนั้นๆ เมื่อเหตุดับ ผลก็ย่อมดับไปเป็นธรรมดา"..ใครเข้าใจธรรมะข้อนี้ก็จะเห็นกระแสธรรมอยู่ไกลๆ

อุปโลคเรียกตัวเองว่า ฤาษีพุทธภูมิ