ตลิ่งจะพัง แผ่นดินถิ่นอธรรมจะถล่มเป็นทะเล

รายการ กินอยู่คือ​

[ame=http://www.youtube.com/watch?v=qfqiVYwSLYM]YouTube[/ame]

 

รายการ กินอยู่คือ​

 

เซลล์เชื้อเพลิงผลิตไฟฟ้า​

เผยแพร่เมื่อ 11 มี.ค. 2012​

ติดตามข่าวสารของพวกเรา และความรู้เกี่ยวกับเซลล์เชื้อเพลิงได้ที่ http://www.facebook.com/horizonfuelce...

 

ผลิตไฟฟ้าด้วยพลังน้ำ​

 

มองโลกแบบวิกรม​

 

มองโลกแบบวิกรม​

 

นายกรัฐมนตรีกัมพูชาเปิดเขื่อนพลังน้ำ​

​

เขื่อนไฟฟ้าพลังน้ำที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของกัมพูชา เริ่มปฏิบัติการแล้ว เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา เมื่อสมเด็จฮุนเซน นายกรัฐมนตรีเดินทางมาเป็นประธานในพิธีเปิดโครงการเขื่อนผลิตกระแสไฟฟ้าพลังน้ำที่มีจีนเป็นผู้สร้างให้

สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานจากกรุงพนมเปญประเทศกัมพูชา เมื่อวันที่ 13 ม.ค.ว่าเขื่อนผลิตกระแสไฟฟ้าพลังน้ำที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของกัมพูชา ได้เริ่มปฏิบัติการแล้วเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา โดยมีสมเด็จฮุนเซนนายกรัฐมนตรีกัมพูชา พร้อมด้วยเอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศกัมพูชา ร่วมเป็นประธานในพิธีเปิดใช้งานโครงการเขื่อนผลิตกระแสไฟฟ้าพลังน้ำ “รุสสีจรุม กรอม” ขนาด 338 เมกะวัตต์ ซึ่งใช้เวลา 5 ปี ในการก่อสร้างบริเวณชายฝั่งของกัมพูชา มูลค่าการก่อสร้างอยู่ที่ 500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว16,000 ล้านบาท)

โครงการเขื่อนผลิตกระแสไฟฟ้าพลังน้ำ“รุสสีจรุม กรอม”ตั้งอยู่ที่จังหวัดเกาะกงทางตะวันตกเฉียงใต้ของกัมพูชา โดยมีบริษัทไชน่า ฮัวเตียงทำหน้าที่พัฒนาโครงการและบริหารจัดการเป็นเวลา 35 ปี ก่อนที่จะส่งมอบให้กับรัฐบาลกัมพูชาดูแลต่อไป ร้อยละ 60 ของหมู่บ้านในประเทศกัมพูชา มีไฟฟ้าใช้ตามรายงานของรัฐบาลกัมพูชา ขณะที่รัฐบาลพยายามที่จะพัฒนาพื้นที่อยู่อาศัยจึงต้องการกระแสไฟฟ้า โดยเฉพาะในส่วนของภาคอุตสาหกรรม

จีนถือเป็นประเทศผู้ลงทุนรายใหญ่ในประเทศกัมพูชา และทุ่มงบประมาณกว่า 1,600 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในการสร้างเขื่อนผลิตกระแสไฟฟ้าพลังน้ำ 6 โครงการ รวมผลิตกระแสไฟฟ้าได้ 928 เมกะวัตต์ โดยโครงการสุดท้ายจะแล้วเสร็จในปีนี้

เดลินิวส์ วันอังคาร 13 มกราคม 2558 เวลา 00:02 น.

เบียร์ทำพิษชาวโมซัมบิกตายหมู่ 69 ศพ​

​

ชาวโมซัมบิกอย่างน้อย 69 ราย เสียชีวิตเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา หลังดื่มเบียร์ที่หมักขึ้นเองในงานศพแห่งหนึ่ง

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงมาปูโต ประเทศโมซัมบิก เมื่อวันที่ 12 ม.ค.ว่า ชาวโมซัมบิกที่เข้าร่วมงานศพในหมู่บ้านชิติมา ตอนกลางของประเทศเกิดล้มป่วยเป็นจำนวนมาก หลังดื่มเบียร์ที่ชาวบ้านหมักขึ้นเองระหว่างร่วมงานเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ขณะที่เช้าวันเสาร์ที่ผ่านมามีรายงานยืนยันพบผู้เสียชีวิต 7 ราย จนถึงขณะนี้มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 69 ราย ตลอดสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา

ด้านน.ส.พอลล่า เบอร์นาร์โด ผู้อำนวยการหน่วยปฏิบัติการทางสังคม สตรีและสาธารณสุข แถลงว่า ระหว่างเตรียมทำการตรวจสอบหาสาเหตุการเสียชีวิต พบว่ามีประชาชนจำนวนมากมีอาการท้องร่วง และปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ หลังจากนั้นเริ่มได้รับแจ้งว่า มีผู้เสียชีวิตจำนวนมากจากหลายหมู่บ้าน และมีชาวบ้านอย่างน้อย 169 คน ยังรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล ขณะที่ตัวอย่างเบียร์และวัตถุต้องสงสัยที่พบอยู่ในถังเบียร์ ถูกส่งไปตรวจที่สำนักงานวิจัยแห่งชาติในกรุงมาปูโต

ทั้งนี้เบียร์ที่กลั่นขึ้นเองได้จากการหมักข้าวโพด ข้าวฟ่าง และพืชอื่นๆ ซึ่งในหลายพื้นที่ของแอฟริกามักดื่มรวมถึงในงานศพที่มีการดื่มและการเลี้ยงรับประทานอาหารกัน ขณะที่นายอาร์แมนโด กูบูซา ประธานาธิบดีได้ประกาศวันไว้อาลัยทั่วประเทศ เพื่อไว้อาลัยให้กับเหยื่อผู้เคราะห์ร้ายเป็นเวลา 3 วัน

เดลินิวส์ วันจันทร์ 12 มกราคม 2558 เวลา 23:57 น.

สหรัฐยอมรับควรส่งเจ้าหน้าที่ระดับสูงร่วมงานที่ฝรั่งเศส​

​

ทำเนียบขาวของสหรัฐ ยอมรับว่าควรส่งเจ้าหน้าที่ระดับสูงไปร่วมงานชุมนุมเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ที่ประเทศฝรั่งเศส เพื่อต่อต้านการก่อการร้าย ซึ่งมีผู้นำระดับโลกหลายคนไปร่วมงานด้วย

สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานจากกรุงวอชิงตันประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 13 ม.ค.ว่านายจอช เอียร์เนสต์ โฆษกทำเนียบขาวแถลงว่า รัฐบาลสหรัฐควรจะพิจารณาส่งตัวแทนรัฐบาลระดับสูง เดินทางไปร่วมงานชุมนุมเพื่อต่อต้านการก่อการร้ายที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศสเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาซึ่งมีผู้นำระดับโลกหลายคน ไปร่วมงานเดินขบวนเพื่อแสดงพลังสนับสนุนและความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน แทนที่จะเป็นนางเจน ฮาร์ทลีย์เอกอัครราชทูตสหรัฐประจำฝรั่งเศส

โฆษกทำเนียบขาวระบุด้วยว่าประธานาธิบดีบารัค โอบามาแห่งสหรัฐ ต้องการที่จะเดินทางไปร่วมงานด้วยตนเอง แต่เนื่องด้วยการรักษาความปลอดภัยและการเตรียมการนั้นมีระยะเวลาสั้น จึงไม่สะดวกที่จะไปร่วมงาน เพราะการรักษาความปลอดภัย ให้กับบุคคลระดับประธานาธิบดีหรือรองประธานาธิบดี เป็นเรื่องใหญ่และสำคัญมากยิ่งในสถานการณ์ที่มีผลกระทบต่อกลุ่มบุคคลอื่นๆด้วย โดยเฉพาะในการชุมนุมในที่สาธารณะด้วยจำนวนผู้คนจำนวนมากเช่นนี้

รายงานข่าวระบุว่ามีประชาชนราว 1.5 ล้านคน ออกมาเดินขบวนไปตามท้องถนนในกรุงปารีส เพื่อร่วมรำลึกและไว้อาลัยให้กับผู้เสียชีวิต 17 ศพ ในเหตุโจมตีกรุงปารีสเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เริ่มจากการสังหารหมู่ที่สำนักงานหนังสือพิมพ์ชาร์ลี เอ็บโด จนไปถึงการจี้จับตัวประกันในซูเปอร์มาร์เก็ตในกรุงปารีส ประธานาธิบดีฟรองซัวส์ออลลองด์ แห่งฝรั่งเศสเป็นผู้นำในการเดินขบวนร่วมกับผู้นำชาติอื่นๆอีก 50 คน รวมถึงนายกรัฐมนตรีเบนจามินเนทันยาฮู ของอิสราเอล และนายมาห์มูด อับบาสประธานาธิบดีแห่งปาเลสไตน์

เดลินิวส์ วันอังคาร 13 มกราคม 2558 เวลา 03:28 น.

ควันไฟตลบสถานีรถไฟใต้ดินกรุงวอชิงตันดับ 1 เจ็บเพียบ​

​

เกิดเหตุควันไฟปริศนาปกคลุมทั่วสถานีรถไฟใต้ดินใจกลางกรุงวอชิงตัน มีผู้เสียชีวิตแล้ว 1 ศพ และเป็นลมจากการสำลักควันอีกราว 100 คน ขณะที่เจ้าหน้าที่สั่งปิดสถานีชั่วคราวเพื่อเร่งหาที่มาของกลุ่มควัน

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงวอชิงตัน ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 12 ม.ค. ว่าสำนักงานขนส่งสาธารณะกรุงวอชิงตัน ( ดับเบิลยูเอ็มเอทีเอ ) รายงานการเกิดกลุ่มควันหนาทึบพวยพุ่งภายในสถานีรถไฟใต้ดิน "ลองฟองต์พลาซา" ในเขตใจกลางกรุงวอชิงตัน เมื่อช่วงเย็นตามเวลาท้องถิ่น ซึ่งเป็นชั่วโมงเร่งด่วนที่มีประชาชนใช้บริการระบบขนส่งมวลชนเป็นจำนวนมาก เนื่องจากเป็นช่วงหลังเลิกงานและเลิกเรียน ส่งผลให้ต้องมีการระงับให้บริการชั่วคราวและอพยพประชาชนออกจากพื้นที่ทั้งหมด

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่พบผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 1 ศพ เป็นหญิง ซึ่งเจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่าเธออาจสูดดมควันเข้าไปในปริมาณมากเกิน นอกจากนี้ยังมีรายงานประชาชนเป็นลมและมีอาการหายใจติดขัดอีกราว 100 คน ซึ่งเจ้าหน้าที่กู้ภัยให้การปฐมพยาบาลด้วยการให้สูดดมออกซิเจนบริสุทธิ์ และเร่งนำตัวผู้ที่มีอาการสาหัสส่งโรงพยาบาลแล้ว

ขณะที่เจ้าหน้าที่ประจำสถานีเปิดระบบระบายอากาศทุกจุดในสถานีเพื่อให้อากาศถ่ายเทแล้ว พร้อมทั้งเร่งค้นหาต้นตอของกลุ่มควันไฟร่วมกับตำรวจและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง แต่ยังไม่พบร่องรอย ทั้งนี้ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นส่งผลกระทบต่อระบบการเดินรถในเส้นทางสายสำคัญ 2 เส้นด้วย ประชาชนได้รับแจ้งให้เลี่ยงไปใช้ระบบขนส่งมวลชนอื่นแทนเป็นการชั่วคราว

เดลินิวส์ วันอังคาร 13 มกราคม 2558 เวลา 09:30 น.

แก๊งก่อวินาศกรรมฝรั่งเศสยังลอยนวลอีก "หลายคน"​

​

ทางการฝรั่งเศสเชื่อว่า ผู้ร่วมขบวนการก่อการร้ายในฝรั่งเศสเมื่อสัปดาห์ที่แล้วยังหลบหนีอยู่อีก 5-6 คน หลังพบยังมีการข่มขู่ออกมาอย่างต่อเนื่องแม้เหตุการณ์ผ่านพ้นไปแล้ว

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส เมื่อวันที่ 13 ม.ค. ว่านายกรัฐมนตรีมานูเอล วาลส์ แห่งฝรั่งเศส แถลงเมื่อวันจันทร์ เรื่องการเร่งเครื่องมาตรการสืบสวนเพื่อติดตามล่าตัวผู้ต้องสงสัยทั้งหมด ซึ่งมีส่วนเกี่ยวข้องกับการก่อวินาศกรรมในกรุงปารีสเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว โดยการจับกุมผู้ต้องสงสัยเพิ่มเติมต้องเกิดขึ้น "เร็วที่สุด" เนื่องจากแม้คนร้ายทั้ง 3 คน จะเสียชีวิตแล้ว แต่ยังคงมีการข่มขู่ออกมาอย่างต่อเนื่องจากกลุ่มคนนิรนาม สะท้อนให้เห็นว่า มีบุคคลร่วมสมคบคิดกับเหตุการณ์ครั้งนี้มากกว่าที่คิด

แม้วาลส์ยังปฏิเสธลงลึกในรายละเอียดของกระบวนการสืบสวน แต่แหล่งข่าวในสำนักงานตำรวจแห่งชาติของฝรั่งเศสเผยว่า เจ้าหน้าที่กำลังเร่งค้นหารถยนต์มินิคูเปอร์ที่ซื้อและจดทะเบียนในชื่อของ น.ส.ฮาเยต โบเมดดีน แฟนสาวของ นายอเมนดี กูลิบาลี คนร้ายก่อเหตุจับตัวประกันในซูเปอร์มาร์เก็ตชานกรุงปารีส ซึ่งรัฐบาลตุรกียืนยันว่า เธอเดินทางผ่านตุรกีเข้าไปในซีเรียตั้งแต่ก่อนเกิดเหตุ

นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ยังเชื่้อด้วยว่า เครือข่ายของโบเมตดีอาจมีมากถึง 10 คน ดังนั้น การที่สูญเสียสมาชิกไปแล้ว 3 คน ขณะที่ตัวเธอเดินทางออกนอกฝรั่งเศสไปแล้ว หมายความว่ายังคงมีสมาชิกหลงเหลืออยู่อีก 5-6 คน ซึ่งเจ้าหน้าที่กำลังเร่งติดตามตัวบุคคลเหล่านี้อย่างสุดความสามารถ เบื้องต้นมีการระดมกำลังทหารแล้ว 10,000 นาย และตำรวจอีก 5,500 นาย กระจายกันอารักขาสถานที่สำคัญและ "สุ่มเสี่ยง" ทุกแห่งทั่วประเทศ

ชาวฝรั่งเศสทั้งประเทศยังคงอยู่ในภาวะตกตะลึงกับการก่อวินาศกรรมระหว่างวันพุธถึงวันศุกร์ที่แล้ว ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิตรวมกันมากถึง 17 ศพ แบ่งเป็น 12 ศพที่ชาร์ลี เอ็บโด เมื่อวันพุธ และในวันรุ่งขึ้นมีตำรวจหญิงนายหนึ่งถูกยิงเสียชีวิต และต่อมาในวันศุกร์เกิดเหตุจับตัวประกันในซูเปอร์มาร์เก็ต ซึ่งเหตุการณ์ยุติลงด้วยการเสียชีวิตของตัวประกัน 4 ศพ

เดลินิวส์ วันอังคาร 13 มกราคม 2558 เวลา 09:05 น.

ราคาน้ำมันดิบโลกทำสถิติต่ำสุดครั้งใหม่​

​

ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกปิดตัวในระดับต่ำกว่าบาร์เรลละ 50 ดอลลาร์ ครั้งใหม่ในรอบเกือบ 6 ปี หลังมีการคาดการณ์ว่าราคาอาจลดต่ำลงอีกในช่วงครึ่งปีนี้

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ เมื่อวันที่ 13 ม.ค. ว่าสัญญาล่วงหน้าน้ำมันดิบเบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนก.พ. ปิดตลาดเมื่อวันจันทร์ปรับตัวลดลง 2.68 ดอลลาร์สหรัฐ ( ราว 88.44 บาท ) มาอยู่ที่ 47.43 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ( ราว 1,565.19 บาท ) ถือเป็นสถิติต่ำที่สุดตั้งแต่เดือนเม.ย. 2552

ขณะที่สัญญาล่วงหน้าน้ำมันดิบชนิดไลต์สวีตครูดของสหรัฐ งวดส่งมอบเดือนก.พ. ปิดตลาดในวันเดียวกันปรับตัวลดลงอีก 2.29 ดอลลาร์สหรัฐ ( ราว 75.57 บาท ) มาอยู่ที่ 46.07 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ( ราว 1,520.31 บาท ) ถือเป็นสถิติต่ำที่สุดนับตั้งแต่เดือนมี.ค. 2552

ทั้งนี้ การที่ทิศทางราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกยังคงปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง เป็นผลมาจากรายงานวิเคราะห์ของ "โกลด์แมน แซ็กส์" หนึ่งในวาณิชธนกิจระดับแนวหน้าของโลกจากสหรัฐ ที่ระบุว่าราคาน้ำมันดิบของสหรัฐในตลาดโลกอาจลดลงเหลือ 41 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรลในช่วง 3 เดือนนี้ ( ราว 1,353 บาท ) ก่อนลดลงเหลือ 39 ดอลลาร์สหรัฐ ( ราว 1,287 บาท ) ในอีก 6 เดือนต่อไป ต่ำว่าที่มีการคาดการณ์ก่อนหน้านี้กว่าครึ่ง ว่าจะอยู่ที่ระหว่าง 70-75 ดอลลาร์สหรัฐ ( ราว 2,310-2,475 บาท )

ขณะที่ราคาน้ำมันดิบลอนดอนมีแนวโน้มปรับตัวลดลงอีกในช่วงเวลาเดียวกัน ซึ่งเป็นผลจากอุปทานที่ยังคงล้นตลาด บวกกับท่าทีเฉยชาขององค์การประเทศผู้ส่งน้ำมันเป็นสินค้าออก ( โอเปก ) และการปรับลดเครดิตความน่าเชื่อถือทางเศรษฐกิจของรัสเซีย ประเทศผู้ผลิตน้ำมันอันดับ 1 ของโลก และส่งออกเป็นอันดับ 2 รองจากซาอุดิอาระเบีย

เดลินิวส์ วันอังคาร 13 มกราคม 2558 เวลา 09:59 น.

ที่มา http://www.dailynews.co.th/

 

เพลิงไหม้โรงงานทอผ้าขนาดใหญ่ 'เอ็มเค เท็กซ์ไทล์'​

​

เพลิงพิโรธเผาโรงงานทอผ้า ขนาดใหญ่ เมืองนครปฐม โกดังต้นเพลิงถูกเผาวอด หลังคาทรุดตัวพังถล่ม เจ้าหน้าที่เร่งควบคุมเพลิง

เมื่อเวลา07.50 น. วันที่ 13 ม.ค. ร.ต.ท.ปณิธาน บุญมาสูงทรง ร้อยเวร สภ.โพธิ์แก้ว อ.สามพราน จ.นครปฐม รับแจ้งมีเหตุเพลิงไหม้ภายในบริษัท เอ็มเค เท็กซ์ไทล์ จำกัด เลขที่ 15/1 หมู่ 6 ต.อ้อมใหญ่ อ.สามพราน จึงไปตรวจสอบพร้อม พ.ต.ท.กรกฎ โปชยะวาณิชย์ รองผกก.ป. นายทศพล รอดรัตนากูล นายกเทศมนตรีตำบลอ้อมใหญ่ รถน้ำดับเพลิงจากอบต.อ้อมใหญ่ กระทุ่มแบน กระทุ่มล้ม มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง มูลนิธิร่วมกตัญญู และเขตใกล้เคียง รวม 30 คัน ในที่เกิดเหตุเป็นอาคารโรงงานทอผ้า และโกดังขนาดใหญ่ 7 หลังปลูกเรียงรายติดกันบนเนื้อที่ 20 ไร่ พบเพลิงกำลังลุกไหม้โกดังต้นเพลิงอย่างรุนแรง โดยเปลวไฟได้ลุกโชนและกลุ่มควันหนาแน่น ได้ลอยขึ้นสู่ท้องฟ้าอย่างน่ากลัว โดยเพลิงได้ลุกลามไปยังอาคารใกล้เคียงอีก 2 หลังที่อยู่ถัดกัน อย่างรวดเร็ว

เจ้าหน้าที่จึงลากสายและหัวฉีดเข้าไปในที่เกิดเหตุและเร่งระดมฉีดน้ำควบคุมเพลิงอย่างเต็มที่ แต่เนื่องจากในโกดังมีทั้งเครื่องจักรทอผ้า และผ้าจำนวนมาก ซึ่งเป็นเชื้อเพลิงอย่างดี ทำให้การควบคุมเพลิงเป็นไปด้วยความยากลำบาก เจ้าหน้าที่จึงต้องฉีดน้ำเลี้ยง อาคารด้านข้างที่เพลิงยังไม่ลุกลาม โดเวลาผ่านไปเกือบ 2 ชั่วโมง แต่เพลิงยังไม่มีทีท่าจะสงบ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะที่เจ้าหน้าที่กำลังเร่งควบคุมเพลิง และฉีดน้ำเลี้ยงตัวอาคาร ได้เกิดเหตุการณ์ระทึก เมื่อหลังโกดังต้นเพลิง ได้ทรุดตัวถล่มลงมา สร้างความตื่นตระหนกให้เจ้าหน้าที่ ที่กำลังปฏิบัติหน้าที่ ต่างหนีตายกันชุลมุน จากนั้นจึงกั้นบริเวณไม่ให้ผู้คนเข้าไปใกล้ เนื่องจากเกรงตัวอาคารจะถล่มซ้ำ สอบสวนเบื้องต้นทราบว่า ก่อนเกิดเหตุ ชาวบ้านได้ยินเสียงดังคล้ายระเบิดติดต่อกัน 3 ครั้ง ก่อนจะเกิดเพลิงไหม้ขึ้นอย่างรวดเร็ว คาดว่าสาเหตุน่าจะเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร หรือเครื่องจักรขัดข้อง

เดลินิวส์ วันอังคาร 13 มกราคม 2558 เวลา 09:46 น.

ไฟไหม้ร้านเฟอร์นิเจอร์วอด 10 ล้าน​

​

เพลิงหนาวผลาญร้านเฟอร์นิเจอร์ ก่อนลุกลามไหม้ร้านจำหน่ายเครื่องใช้ไฟฟ้าของเครือญาติตระกูลเดียวกัน วอดกว่า 10 ล้าน

เมื่อเวลา04.00 น.วันที่ 13 ม.ค. พ.ต.ท.มาโนช กันเกลา สวส. สภ.เมืองปทุมธานี รับแจ้งมีเหตุเพลิงไหม้ อาคารพานิชย์บนถนนปทุมสัมพันธ์ถนนเจริญผลวัฒนา จึงไปตรวจสอบพร้อม พ.ต.อ.อภิชาติ โกมุติกานนท์ ผกก.สภ.เมืองปทุมธานี นายเทพประสิทธิ์ วงศ์ท่าเรือ นายอำเภอเมือง พร้อม รถดับเพลิงจากเทศบาลและ อบต.ต่างๆกว่า 30 คัน ที่เกิดเหตุเป็นอาคารพานิชย์ 3 ชั้นครึ่ง 4 คูหาเลขที่ 72 -76 เปิดเป็นร้านจำหน่ายเฟอร์นิเจอร์ ชื่อโรงพิมพ์กวินสิน พบเพลิงกำลังลุกไหม้ บริเวณชั้นสองก่อนจะลุกลามขึ้นไปยังชั้น 3 ข้ามไปยังโรงพิมพ์ปทุมสัมพันธ์และเครื่องไฟฟ้า เลขที่ 4/8-9 ซึ่งเป็นอาคารพานิชย์ 2 คูหา ด้านหลัง อย่างรวดเร็วเนื่องจาก ภายในร้านมีเศษวัสดุ ประเภทกระดาษ และเฟอร์เจอร์ไม้จำนวนมากซึ่งเป็นเชื้อเพลิงอย่างดี เจ้าหน้าที่จึงเร่งระดมฉีดน้ำควบคุมเพลิง ใช้เวลา 1 ชั่วโมง จึงควบคุมเพลิงอยู่ในวงจำกัด

สอบสวนเบื้องต้นทราบว่า ที่เกิดเหตุทั้ง 2 ร้าน มีเจ้าของคือนายวิภาส หวงวงศ์ อายุ 58 ปี และนายวิรัตน์ หวงวงศ์ อายุ 56 ปี ทั้งคู่เป็นพี่น้องกัน แต่ไม่ได้พักที่ร้าน ขณะเกิดเหตุลูกจ้างที่นอนเฝ้าร้าน พบกลุ่มควันและแสงเพลิงจากด้านหลังร้าน ก่อนจะลุกลามขึ้นอย่างรวดเร็ว จึงรีบหนีเอาชีวิตรอด และแจ้งเจ้าหน้าที่ประสานรถดับเพลิงมาระงับเหตุ ด้านพ.ต.อ.อภิชาติ โกมุติกานนท์ ผกก.สภ.เมืองปทุมธานี เปิดเผยว่า หลังควบคุมเพลิงไว้ได้ จะประสานเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน เข้ามาตรวจสอบหาสาเหตุเพลิงไหม้ในครั้งนี้ ส่วนค่าเสียหายน่าจะไม่ต่ำกว่าสิบล้านบาท.

เดลินิวส์ วันอังคาร 13 มกราคม 2558 เวลา 08:04 น.

ไทยตอนบนอุณหภูมิลดอีกระลอก​

​

อิทธิพลความกดอากาศสูงกำลังค่อนข้างแรงจากจีน ส่งผลให้ไทยตอนบนอากาศหนาวเย็น อุณหภูมิจะลดลงอีก 1-2 องศาเซลเซียส ขณะที่ลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมภาคใต้ และอ่าวไทยส่งผลมีฝนเป็นแห่ง อ่าวไทยตอนล่างคลื่นลมแรง

เมื่อเวลา 04.00 น. วันที่ 13 ม.ค. กรมอุตุนิยมวิทยา รายงานว่า บริเวณความกดอากาศสูงกำลังค่อนข้างแรงจากประเทศจีนยังคงแผ่ปกคลุมประเทศไทยตอนบน ลักษณะเช่นนี้ส่งผลให้บริเวณดังกล่าวมีอากาศหนาวเย็นทั่วไป และอุณหภูมิจะลดลงอีก 1-2 องศาเซลเซียสในวันที่ 14 ม.ค. สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือพัดปกคลุมภาคใต้ และอ่าวไทย ทำให้บริเวณภาคใต้มีฝนอยู่ในเกณฑ์เป็นแห่งๆ ส่วนบริเวณอ่าวไทยตอนล่างตั้งแต่ จ.นครศรีธรรมราชลงไป ทะเลมีคลื่นสูง 2-3 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง

พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทยตั้งแต่เวลา 06:00 วันนี้ ถึง 06:00 วันพรุ่งนี้

ภาคเหนือ อุณหภูมิจะลดลง 1-2 องศาเซลเซียส ทางตอนบน อากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 12-15 องศาเซลเซียส ทางตอนล่าง อากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 16-17 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 25-28 องศาเซลเซียส บริเวณยอดดอยอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 2-8 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 10-25 กม./ชม.

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อากาศเย็นถึงหนาว อุณหภูมิจะลดลง 1-2 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 14-18 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 25-29 องศาเซลเซียส บริเวณยอดภูอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 7-12 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-35 กม./ชม.

ภาคกลาง มีเมฆมากกับมีฝนบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ ส่วนมากทางตอนบนของภาค อุณหภูมิต่ำสุด 18-19 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 24-26 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม.

ภาคตะวันออก มีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ ส่วนมากทางตอนบนของภาค อุณหภูมิต่ำสุด 21-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-32 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูง 1-2 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) มีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร และสุราษฎร์ธานี อุณหภูมิต่ำสุด 20-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 28-31 องศาเซลเซียส ตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานีขึ้นมา ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ตั้งแต่จังหวัดนครศรีธรรมราชลงไป ลมตะวันออก ความเร็ว 20-40 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 2-3 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) มีเมฆบางส่วน กับมีฝนบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดระนอง พังงา และภูเก็ต อุณหภูมิต่ำสุด 22-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร

กรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีเมฆบางส่วน กับมีอากาศเย็นในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 20-21 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 28-30 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม.

เดลินิวส์ วันอังคาร 13 มกราคม 2558 เวลา 07:29 น.

ชื่นชมแท็กซี่หัวใจงาม ส่งพระ-คนพิการฟรี​

​

สังคมออนไลน์ แชร์ภาพ "แท็กซี่ หัวใจงาม" โชเฟอร์หนุ่มวัย 37 ปี ติดสติกเกอร์ บอกบุญ รับผู้โดยสารไปทุกที่ ส่วนพระสงฆ์ สามเณร แม่ชี คนพิการ นั่งฟรี เจ้าตัวเผยทำแบบนี้มาตั้งแต่เริ่มอาชีพ ชี้ไม่อยากรอให้รวยก่อน แล้วค่อยทำบุญ พร้อมเผย หัวใจบริการคือ ผู้โดยสารเหมือนญาติพี่น้อง

จากกรณีสื่อสังคมออนไลน์ เฟซบุ๊กเผยแพร่ภาพ รถแท็กซี่ติด ติดสติกเกอร์ข้างรถข้อความว่า “เชิญครับไปทุกที่ พระสงฆ์สามเณร แม่ชี นิมนต์นั่งฟรีคนพิการ คนตาบอดนั่งฟรี” อีกทั้งภายในตัวรถ ยังติดคำสอนและรูปในหลวงไว้เต็มหลังคารถด้านใน ซึ่งผู้ที่แชร์ภาพดังกล่าว ยังให้รายละเอียดว่า โชเฟอร์ที่ขับรถคันนี้ ไม่เคยปฏิเสธผู้โดยสาร จนเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ไปในวงกว้าง โดยส่วนใหญ่ชื่นชมว่าเป็นคนที่มีจิตใจดีงาม น่ายกย่องและเป็นแบบอย่างที่ดี

ความคืบหน้า เมื่อวันที่ 12 ม.ค. ผู้สื่อข่าว "เดลินิวส์ออนไลน์" ได้รับการเปิดเผยจาก นายสุวรรณฉัตร พรหมชาติ อายุ 37 ปี ชาวจ.นครศรีธรรมราช เจ้าของรถแท็กซี่สีเขียวเหลืองหมายเลขทะเบียน มฎ-2840 กรุงเทพ ว่า เริ่มขับรถแท็กซี่มาตั้งแต่อายุ 18-19 ปี และเริ่มให้บริการรังส่งฟรี สำหรับพระสงฆ์สามเณร แม่ชี และคนพิการตาบอดพิการแขนขา มาตั้งแต่ตอนนั้น นับจนถึงวันนี้กว่า 10 ปี แล้ว

โดยในช่วงแรกต้องเช่ารถจากอู่มาขับ จึงไม่สามารถติดสติ๊กเกอร์ได้ แต่จะใช้วิธีเปิดประตูรถกว้าง ๆ แล้วนิมนต์พระ สามเณร แม่ชี หรือ เรียกคนพิการขึ้นรถ แต่พอช่วง 5 ปี หลังมานี้ พอมีทุนซื้อรถแท็กซี่ของตัวเอง จึงสั่งตัดสติ๊กเกอร์ติดไว้รอบคัน ปกติจะวิ่งรถรับพระ สามเณร แม่ชี และคนพิการ ประมาณวันละ 4-5 เที่ยว บางวันรับสูงสุดถึง 8 เที่ยว เมื่อผู้โดยสารทั่วไปเรียก ก็ไม่เคยปฏิเสธ ไม่มีข้ออ้างว่า ต้องไปเติมแก๊ส เพราะถ้ารู้ว่าแก๊สไม่พอ ก็ปิดไฟว่างแล้วไปหาปั๊มเติม

"เวลาผมรับพระสงฆ์ขึ้นรถ ผมก็จะได้ฟังธรรมะไปด้วย เคยรับพระสงฆ์จากโรงพยาบาลสงฆ์ ไปส่งไกลสุดที่ อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม หรือรับจากแถวรังสิต จ.ปทุมธานี ไปส่ง อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ ขณะที่คนพิการ รับส่งฟรี เพราะอยากให้เขามีกำลังใจในการต่อสู้ชีวิต รถจอดเสียข้างถนนก็ลากให้ฟรี ต่อแบตให้ฟรี ไม่เคยคิดเรื่องขาดทุนหรือกำไร เพราะถ้าจะรอให้รวยแล้วค่อยทำบุญชาตินี้คงไม่มีโอกาสได้ทำ บางวันช่วยคนมากรับลูกค้าได้น้อย ก็ไม่เป็นไร เดี๋ยวพรุ่งนี้เราค่อยหาใหม่ ต้องข้ามขั้นคำว่า “ขาดทุน” ไปให้ได้ คิดเสียว่ายิ่งทำมาก ยิ่งได้มาก นายสุวรรณฉัตร กล่าวและเผยอีกว่า

ที่สำคัญเวลารับผู้โดยสารไม่ว่าคนไทย หรือ คนต่างชาติ ต้องบริการเท่าเทียมกัน บริการทุกคนเหมือนเป็นลูก หลาน ญาติสนิท ถ้าเราเข้าใจหัวใจของการบริการแบบนี้ เราจะมีศักดิ์ศรี มีคุณธรรม ไม่มีเรื่องติดค้างในใจ นอกจากนี้ ผมยังเป็นหนึ่งในแท็กซี่จิตอาสา TRS 99.5 โครงการช่วยเหลือสังคม สถานีจราจรเพื่อสังคม ภายใต้การดูแลของสํานักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ ฉะนั้นตั้งใจแล้วว่า จะทำความดี โดยยึดหลักคำสอนของในหลวงตลอดไป.

เดลินิวส์ วันจันทร์ 12 มกราคม 2558 เวลา 22:26 น.

เร่งติดไฟเพิ่มความอบอุ่นให้สัตว์​

​

สวนสัตว์เชียงใหม่ เร่งติดไฟเพิ่มความอบอุ่นให้สัตว์ หลังอุตุฯเตือน อุณหภูมิจะลดลง 4 - 6 องศา หวั่นสัตว์เจ็บป่วย

เมื่อเวลา 17.00 น.วันที่ 12 ม.ค. นายนิพนธ์ วิชัยรัตน์ ผช.ผอ.สวนสัตว์เชียงใหม่ เปิดเผยว่า จากข้อมูลของศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคเหนือระบุว่า ช่วงนี้ในพื้นที่ภาคเหนืออุญหภูมิจะลดลงอีก 4 - 6 องศาเซลเซียส ทางสวนสัตว์เชียงใหม่เห็นว่าช่วงที่ผ่านมาสภาพอากาศในพื้นที่หนาวเย็นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งหากอุณหภูมิลดลงอีกจะส่งผลให้สัตว์เขตร้อนที่อยู่ในส่วนจัดแสดงสวนสัตว์เชียงใหม่ที่เป็นอาคารเปิด ทั้งยีราฟ ม้าลาย ช้างสัตว์เลื้อยคลานประเภท งู เต่า ฯลฯ เกิดปัญหาด้านสุขภาพ อาจจะล้มป่วย เพราะสภาพอากาศหนาวเย็นลงได้

เพื่อเป็นการป้องกันผลกระทบต่อสุขภาพสัตว์สวนสัตว์เชียงใหม่จึงได้ให้ทางเจ้าหน้าที่เร่งติดตั้ง สปอตไลท์พร้อมจัดเตรียมกระสอบ ฟาง และใบไม้แห้ง ยาวิตามินรวม ช่วยเพิ่มความอบอุ่นให้กับสัตว์ในช่วงอุณหภูมิลด โดยเฉพาะช่วงกลางคืน นอกจากนี้ยังได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ดูแลติดตามพฤติกรรมสัตว์ในความรับผิดชอบอย่างใกล้ชิด เพื่อป้องกันสัตว์ป่วยจากอากาศหนาว มาตรการทั้งหมดนี้สวนสัตว์เชียงใหม่มีประสบการณ์และทำมาทุกปี จึงมั่นใจได้ว่าสัตว์จะไม่เจ็บป่วยล้มตายจากอากาศที่หนาวเย็นในฤดูหนาวแน่นอน.

เดลินิวส์ วันจันทร์ 12 มกราคม 2558 เวลา 18:37 น.

ช้างเขาใหญ่ตกมัน! พังร้านอาหารหาของกิน​

​

ช้างป่าตกมันพังร้านอาหาร "วนาลี" ตรงข้ามศูนย์บริหารนักท่องเที่ยวบนอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ล้วงเครื่องปรุงเป็นน้ำตาลทราย-ผงชูรสกว่า 8 กิโลกรัมไปกิน ขณะที่เจ้าหน้าที่เร่งหาทางผลักดันกลับเข้าป่า พร้อมคุมเข้มความปลอดภัยนักท่องเที่ยว

เมื่อวันที่ 12 ม.ค. ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจาก เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ต.หมูสีอ.ปากช่อง จ.นครราชสีมาว่า เมื่อช่วงเช้ามืดที่ผ่านมาเกิดเหตุ ช้างป่าชื่อว่า "อ้ายหางด้วน" น้ำหนักกว่า 3 ตัน อายุ 15 ปี ตัวขนาดใหญ่มีอาการตกมันบุกเข้าไปทำลายข้าวของในร้านอาหาร "วนาลี" และล้วงกินอาหารในร้าน จึงรายงานให้นายครรชิต ศรีนพวรรณ หัวหน้าอุทยานฯเขาใหญ่ทราบ นำกำลังไปตรวจสอบ พบช้างตัวดังกล่าวมีอาการตกมัน ส่วนหัวมีน้ำมันพลายไหลออกจากขมับทั้ง 2 ข้าง หลังจากเข้าไปในร้านแล้วได้ล้วงกินถุงรสดี ถุงผงชูรส น้ำตาลทรายกว่า 8 กิโลกรัม ก่อนจะเดินวนเวียนอยู่ด้านนอก เจ้าหน้าที่จึงนำรถขยะไล่ดันให้ช้างกลับเข้าป่า ใช้เวลากว่า 30 นาที จึงล่าถอยเข้าป่าไป อย่างไรก็ตามอ้ายหางด้วน ยังคงวนเวียนเดินไปมาจนรุ่งเช้า เจ้าหน้าที่จึงปักหลักเฝ้าระวังอยู่ใกล้ ๆ

ด้านนางหนูนา แนบชิด อายุ 43 ปี แม่ครัวร้านอาหารสวัสดิการ เปิดเผยว่า ร้านอาหารเปิดทุกวันตั้งแต่เวลา 07.00 น. และจะปิดเวลา 18.30 น.ทุกวัน ซึ่งไม่มีใครเฝ้า ภายในร้านเก็บอุปกรณ์เครื่องปรุงอาหารไว้ และในคืนที่ผ่านมาถูกช้างป่าบุกเข้าทุบทำลายกระจกหน้าต่างล้วงกินน้ำตาลทราย และของอย่างอื่นไปเป็นจำนวนมาก ต้องไปหาซื้อมาใหม่ ทั้งนี้มีถุงเกลือป่นถูกช้างนำออกไปฉีกแต่ก็ไม่กิน

ขณะที่นายตระกูลอาจอารัญผู้ช่วยหัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ฝ่ายป้องกัน เปิดเผยว่า หลังจากเกิดเหตุนายครรชิตได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่นำกำลังออกคุมเข้มความปลอดภัยบริเวณร้านอาหารแห่งนี้ และยังสั่งให้ไปประจำจุด บริเวณ กม.30 ที่ช้างเคยออกมาทุบทำลายรถยนต์ 3 คัน บริเวณใกล้น้ำตกเหวนรกเมื่อวันก่อนด้วย เนื่องจากเกรงว่านักท่องเที่ยวอาจจะมีอันตรายหากเจอช้างป่าเข้าอีก

ส่วนนายกำพล โปสาภิวัฒน์นักท่องเที่ยวที่เดินทางมาพักแรมบนอุทยานฯเขาใหญ่ กล่าวว่า เดินทางมาเที่ยวเขาใหญ่เป็นประจำและชอบอากาศที่นี่ แต่ในขณะนี้เกิดอะไรขึ้นกับช้างป่าเขาใหญ่ ช้างถูกรบกวนจากกลุ่มทัวร์เดินป่าหรือไม่ และทางอุทยานควรมีป้ายเสาเหล็กปักถาวรเตือนนักท่องเที่ยวในบริเวณตามถนนตลอดเส้นทาง ไม่ใช่นำไปปักไว้จุดป้อมยามเจ้าหน้าที่เท่านั้น เห็นภาพออกทางสื่อแล้วน่ากลัวมาก.

เดลินิวส์ วันจันทร์ 12 มกราคม 2558 เวลา 14:56 น.

ที่มา http://www.dailynews.co.th/

 

เครื่องทำความร้อน สำหรับบ้าน ห้องนอน​

เผยแพร่เมื่อ 19 ม.ค. 2014​

Mica heater เป็น heater ที่เหมาะกับใช้งานในห้องนอน ไม่มีแสง และเสียง ใช้งานง่าย น้ำหนักเบา แค่เสียบปลั๊กก็ใช้งานได้เลย

รายละเอียดสินค้า : ฮีตเตอร์(Heater) /เครื่องให้ความร้อน บ้านสำหรับห้องนอน : Inspired by LnwShop.com
JUDPAI จัดไป! Heater บ้าน, เครื่องทำความร้อนปรับอากาศในบ้าน ส่งตรงทั่วประเทศ : Inspired by LnwShop.com

หมายเหตุ ผมไม่ได้มีเจตนาจะมาโฆษณาสินค้าใดๆทั้งสิ้นนะครับ แต่เพราะเห็นว่าเครื่องทำความร้อนเป็นสิ่งจำเป็นมากในหน้าหนาว สำหรับเด็ก ผู้สูงอายุ และคนเจ็บป่วย ถ้าอากาศหนาวเย็นมากๆ ก็อาจทำให้ป่วยไข้ไม่สบายเอาได้ และราคาก็ไม่แพงมากนัก ถ้าใครอยากจะหาซื้อเตรียมเก็บเอาไว้ใช้ ในช่วงที่มีภัยจากอากาศที่หนาวเย็นมากๆ จะได้มีไว้ใช้ให้กับครอบครัวของตนเองครับ

 

อิกลู : Igloo​

อิกลู : Igloo คือ ที่พักอาศัยของชาวเอสกิโม ซึ่งเป็นมนุษย์เผ่าหนึ่งที่อาศัยอยู่ทางแถบขั้วโลกเหนือหรือชนเผ่าบางกลุ่มที่อาศัยในเขตหนาว วัสดุที่ใช้ในการก่อสร้างนั้นก็คือน้ำแข็ง ซึ่งถูกตัดเป็นก้อนสี่เหลี่ยมให้มีขนาดที่เหมาะสมแล้วนำไปวางซ้อนกันเป็นชั้นๆ เมื่อสร้างเสร็จแล้วจะมีลักษณะคล้ายโดม โดยเจาะทางเข้าไว้ที่ระดับต่ำเพื่อป้องกันลมหนาว จากภายนอกพัดเข้ามาด้านใน ภายในจะมีหนังสัตว์ขึงไว้ที่ผนัง เพื่อใช้เป็นฉนวนสำหรับกักเก็บความร้อนที่เกิดจากการจุดตะเกียง หรือความร้อนจากร่างกายมนุษย์ ซึ่งหลักการสร้างเหล่านี้อาจทำให้อุณหภูมิด้านในอิกลูมีค่าระหว่าง -7 จนถึง 16 องศาเซลเซียส โดยอาศัยเพียงการปรับอุณหภูมิกายอย่างเดียว ขณะที่ภายนอกอิกลูนั้น อุณหภูมิอาจต่ำถึง -45 องศาเซลเซียส

ที่มา https://www.facebook.com/FreedomAlb...8507956597565/383983758383317/?type=3&theater

 

คำเตือน (ไม่ใช่คำทำนาย) จากหมอนิด​

​

โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน ท่านมีสิทธิจะเชื่อ หรือไม่เชื่อ ขึ้นอยู่กับดุลพินิจของท่านเอง ผมไม่ได้บังคับให้ใครมาเชื่อ เพราะทุกอย่าง...”เกิดจากกรรม”...ทั้งสิ้น.....“คำเตือน” นี้จะเกิดขึ้นปีไหน เมื่อไหร่ ไม่สามารถระบุวัน เดือน ปีได้อย่างชัดเจน บางเรื่องอาจจะเกิดก่อน หรือเกิดหลัง แต่เชื่อว่าทุกคนจะได้เห็นบางอย่างที่ได้เตือนเอาไว้นี้......บางเรื่องอาจจะเกิดขึ้นเร็วๆนี้ แต่บางอย่างอาจจะช้ากว่าจะประสบพบเห็น ไม่แน่ใจว่าคนอายุรุ่นผม (64 ปี) จะได้เห็นหรือไม่? แต่รุ่นลูก รุ่นหลาน จะได้เห็น ได้ประสบอย่างแน่นอน

นับจากนี้เป็นต้นไป ประเทศไทยยังมีเคราะห์ ทั้งเกิดจากน้ำมือมนุษย์ เกิดจากจิตใจมนุษย์ ที่เต็มไปด้วยกิเลสตัณหา โลภ โกรธ หลง มัวเมาในอำนาจ ต่างฝ่ายต่างแย่งชิงอำนาจ และผลประโยชน์ ประเทศไทยยังไม่มีวันสงบทางการเมือง บ้านเมืองยังวุ่นวายปั่นป่วนไม่เลิก...การปะทะกันของประชาชนทั้งสองฝ่าย...“จนนองเลือด”...มีโอกาสสูงที่จะเป็นไปได้ เศรษฐกิจประเทศพังยับเยินเพราะผู้ที่หลงอำนาจ จะมีคนตกงานมากขึ้น ประชาชนคนชั้นกลางและคนชั้นล่าง จะเดือดร้อนไปทุกหย่อมหญ้า การทำมาหากินจะฝืดเคืองยิ่งขึ้น

ถึงแม้ว่าจะมี...”ผู้นำประเทศ”...คนใหม่เข้ามาบริหารประเทศ ก็ยังไม่สามารถทำให้ประเทศพ้นวิกฤติไปได้ พ่อค้า แม่ค้า นักธุรกิจ จะเดือดร้อนไปทั่ว เพราะการเมืองของประเทศไทยยังไม่นิ่ง ยังจะเกิดศึกชิงอำนาจขึ้นมาอีก นอกจากการ...”ชิงอำนาจของนักการเมืองแล้ว”...ยังจะเกิดการชิงอำนาจของ...”คนมีสี”...ที่ต่างฝ่ายต่างมีอาวุธและมีกำลังพล ซึ่งอาจเกิดขึ้นเพราะ...”มีผู้ใดผู้หนึ่ง หรือกลุ่มบุคคล กลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง”...แอบสนับสนุนอยู่เบื้องหลังให้...”ทหาร”...อีกฝ่ายหนึ่งทำการ...”ปฏิวัติ”...ก็เป็นไปได้

ถ้าเกิดเหตุการณ์...”ปฏิวัติ”...ขึ้นจะรุนแรงมากเป็นประวัติศาสตร์ เพราะต่างฝ่ายต่างมีอาวุธสงคราม ฝ่ายไหนแพ้จะกลายเป็น...”กบฏ”...ไปทันที อาจถูกตัดสินประหารชีวิต เหมือนคราวที่ พล.อ. (จำชื่อและ นามสกุลไม่ได้) ทำการปฏิวัติแต่ไม่สำเร็จ จนถูกประหารชีวิต....ถ้าไม่ถูกประหารชีวิตก็คงต้องหลบหนีออกนอกประเทศ

อีกไม่นานนี้ (ปี พ.ศ. 2558 ให้ระวังครั้งหนึ่ง และปีพ.ศ.2560-2561 เป็นปีที่ต้องระวังมากๆ) ประเทศไทยจะมีการ....”สูญเสียบุคคลสำคัญของประเทศ”....นั่นคือสัญญาณอันตรายของประเทศไทย บ้านเมืองระส่ำระสายไปหมด คนรวยไม่เดือดร้อน คนจน จะจนลงมากขึ้น การปล้นจี้-ชิงทรัพย์ จะเกิดขึ้นลามไปทั่วประเทศ ประเทศไทยจะบอบช้ำอย่างหนักติดต่อกันหลายปี เศรษฐกิจบอบช้ำพังตามไปด้วย โรงงานบางแห่งต้องปิดตัวลง บริษัท บางบริษัท ก็อยู่ไม่ได้เพราะขาดเงินหมุนเวียน ธนาคารพลอยรับผลสะเทือนไปด้วย ตลาดหลักทรัพย์ตกต่ำอย่างหนัก

ผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ จำพวกบ้านจัดสรร คอนโดมิเนียม จะได้รับผลกระทบอย่างรุนแรง ราคาที่ดินจะตกต่ำลง คนจะตกงานจำนวนมาก ผู้ที่ผ่อนบ้าน ผ่อนรถอยู่มีสิทธิถูกยึดบ้านหรือยึดรถ เศรษฐกิจของประเทศจะตกติดต่อกันยาวอย่างน้อย ห้า ถึง หกปี หรืออาจจะมากกว่านั้น ประเทศไทยเหมือนถูกผีซ้ำ ด้ามพลอย ขอให้ทุกคนเตรียมตัวรับสถานการณ์ ที่จะเกิดขึ้นกับประเทศไทย ขอบอกเพียงคร่าวๆว่าจากปี พ.ศ.2557 เป็นต้นไปถึงปี พ.ศ. 2561 ประเทศไทยอยู่ในช่วงมีเคราะห์ใหญ่ ทั้งเรื่องเศรษฐกิจ ทั้งเรื่องการชิงอำนาจ ทั้งเรื่องภัยธรรมชาติ และจะมีการสูญเสียของรักของใหญ่ในแผ่นดิน ประชาชนจะเศร้าหมองกันทั้งประเทศ ”ภัยธรรมชาติ”...จะเข้ามาซ้ำเติม

พืชผลการเกษตรจะเสียหายเพราะ...”ภัยธรรมชาติ”...ดินฟ้าอากาศจะแปรปรวนไปทั่วโลก ฤดูกาลจะแปรเปลี่ยนไปหมด ฤดูหนาวอาจกลายเป็นฤดูฝน ฤดูฝนอาจกลายเป็นฤดูร้อน ฤดูร้อนอาจกลายเป็นฤดูหนาวอย่างนี้เป็นต้น เวลาร้อนก็จะร้อนเป็นประวัติการณ์ เวลาหนาว ก็จะหนาวจนมีสิทธิที่จะเกิดหิมะตกในประเทศไทย เวลาฝนตก จะตกแบบไม่ลืมหูลืมตา มีโอกาสที่ฤดูจะแปรเปลี่ยนอย่างฉับพลัน

ยกตัวอย่างเช่น....”อากาศหนาวๆอยู่ๆ ฝนก็ตกลงมาในเวลาเดียวกัน”....หรืออากาศกำลังร้อนๆอยู่ ฝนก็ตกลงมาอย่างไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย หรือแปรเปลี่ยนเป็นอากาศหนาวเป็นต้น.....หลายๆประเทศจะเจอลักษณะนี้ ประเทศที่ไม่เคยมีหิมะ ก็จะมีหิมะตก ประเทศที่เคยหนาวจนลบ จะกลายเป็นประเทศที่มีอากาศร้อน พืชบางชนิดที่เคยเพาะปลูกในประเทศไทย อาจจะปลูกไม่ได้ในบางภาคของประเทศ หรือปลูกไม่ได้ผลเลยก็เป็นไปได้ ”อาหารจะขาดแคลนอย่างหนัก”

คนจะตายเป็นเบือเพราะ...”ภัยธรรมชาติ”...โดยเฉพาะภัยที่เกิดจาก “น้ำ” ทั้งจากน้ำจืด (น้ำที่เกิดจากฝน) และภัยที่มาจาก “น้ำทะเล” แผ่นดินไหวจะเกิดขึ้นถี่และจะแรงขึ้นอย่างน่ากลัว ตึกราม บ้านช่อง มีโอกาสจะถล่มเพราะแผ่นดินไหว อาคารสูงก็มีความเสี่ยงเช่นกันถนน สะพาน สิ่งก่อสร้างจะได้รับความเสียหาย..........ผู้ที่มีบ้านเรือนอยู่ริมน้ำ หรือใกล้ทะเลให้ระวังเป็นพิเศษ โดยเฉพาะทะเลแถบอ่าวไทยควรระวังให้มาก เพราะมีโอกาสที่จะเกิดคลื่นยักษ์โถมเข้าใส่ (เหมือนประเทศพม่าที่เคยเจอมาแล้ว) สร้างความเสียหายอย่างใหญ่หลวง แม้แต่ทะเลฝั่งอันดามันก็ไม่ควรประมาทเช่นกัน.....

”อาหารจะขาดแคลนอย่างหนัก”.....เพราะภัยธรรมชาติ ที่เกิดรุนแรงอย่างไม่ทันตั้งตัว คนจะตายกันมาก ผู้ที่รอดชีวิตจะพากันอพยพไปยังถิ่นใหม่ บางส่วนจะไปอาศัยอยู่ตามวัดต่างๆ ไม่เฉพาะอาหารเท่านั้นที่จะขาดแคลน...”น้ำดื่ม”...ก็จะขาดแคลนมากเช่นกัน ผู้คนต้องปรับตัวกันใหม่ เพราะทุกอย่าง หรือหลายสิ่งหลายอย่างจะเปลี่ยนไปแม้แต่...”น้ำมันเชื้อเพลิง”...ก็หามาเติมรถยากขึ้น เพราะการขนส่งบางแห่งถูกตัดขาด ต้องใช้เวลาอีกนานจึงจะปรับสภาพให้ดีขึ้นได้...

คนที่อยู่ทางภาค...”ตะวันออกเฉียงเหนือ”...จะปลอดภัยที่สุด ยกเว้นผู้ที่มีบ้านเรือน ที่ดินเพาะปลูกติดริม...”แม่น้ำโขง”...จะเป็นจุดเสี่ยงเกี่ยวกับ...”ภัยทางน้ำ”...ที่รุนแรงจนทำให้แผ่นดินหายไปส่วนหนึ่ง เพราะถูกน้ำพัดพาหายไป สาเหตุอาจจะมาจาก...”เขื่อนกักเก็บน้ำที่ประเทศจีน”....พังทลาย...ส่วนผู้ที่อยู่ทางภาคเหนือ บางจังหวัดต้องผจญกับเรื่อง...”แผ่นดินไหว”...ที่อาจทำความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สินได้ “ต้องย้ายเมืองหลวง”

ต่อไป...”กรุงเทพฯ”....จะอยู่ไม่ได้ กรุงเทพจะกลายเป็นเมืองบาดาล ช้าหรือเร็วก็ต้องย้ายเมืองหลวงใหม่ ถ้าคนรุ่นอายุผมไม่ได้เห็นกรุงเทพฯจมบาดาล รุ่นลูก รุ่นหลานผม จะได้เห็นกรุงเทพฯจมบาดาลอย่างแน่นอน รวมทั้งปริมณฑล และอีกหลายจังหวัด จะจมอยู่ใต้บาดาล น้ำทะเลจะสูงขึ้นบ้านเรือนจะจมอยู่ใต้น้ำ สิ่งก่อสร้างสาธารณะต่างๆใช้การไม่ได้ เช่นรถไฟใต้ดินเป็นต้น ภัยจากธรรมชาติจะมากวาดล้างมนุษย์ไปจำนวนมาก โดยเฉพาะ...”คนไม่มีศีล”...จะล้มหายตายจากไปไม่น้อย

ไม่เพียงแต่ประเทศไทยเท่านั้นที่จะเจอวิกฤติ อีกหลายๆประเทศก็จะเจอเหตุการณ์...”ภัยธรรมชาติ”...เช่นกัน แต่จะไม่ขอพูดถึงประเทศอื่นมากนัก ขอพูดถึงเฉพาะประเทศไทยก็พอ อยากให้ทุกคนตื่นตัว เตรียมตัว แต่ไม่ต้องแตกตื่น ตกใจในตอนนี้ เพราะยังมีโอกาสให้ทุกคนเตรียมตัว

สรุป....ปี พ.ศ.2557 การเมืองร้อน และจะเกิดการนองเลือด สุดท้ายทหารจะต้องออกมา จะมีการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง เศรษฐกิจฟุบยาว คนจะตกงานเพิ่มขึ้น จะเกิดภัยธรรมชาติขึ้น การลงทุนจะชะลอตัว ชาวต่างชาติจะย้าย หรือไปลงทุนประเทศอื่น ตลาดหลักทรัพย์ (หุ้น) จะตกต่ำ

ปี พ.ศ.2558 ภัยธรรมชาติยังต้องระวังให้มาก จะมีการสูญเสียบุคคลสำคัญของประเทศ จะมีนักการเมืองตายหรือเจ็บหนัก และจะมีพระสงฆ์ที่ผู้คนเคารพนับถือ แม้แต่ในหมู่พระสงฆ์เองก็เคารพนับถือ “ละสังขาร” (อาจจะเกิดขึ้นตั้งแต่ปลายปี พ.ศ.2557 เป็นต้นไปถึงปี พ.ศ.2558)........จะเกิดการชิงอำนาจเกิดขึ้นระหว่าง คนมีสี ด้วยกัน เศรษฐกิจยังไม่ฟื้น พ่อค้า แม่ค้า นักธุรกิจ บริษัท ห้างร้าน โรงงานหลายแห่งจะปิดหรือเลิกกิจการ คนจะตกงานเพิ่มขึ้น โจรผู้ร้ายจะชุกชุม ชาวต่างชาติจะขยาดประเทศไทย

ประเทศไทยยังมีเคราะห์ ต่อเนื่องไปอีกหลายปี จะเกิดสงครามระหว่างประเทศมหาอำนาจ ถ้าประเทศ อเมริกา มีผู้หญิงเป็น ประธานาธิบดี เป็นไปได้สูงมากที่ประเทศ อเมริกา จะมีประธานาธิบดีเป็นผู้หญิง ต่อจากประธานาธิบดี บารัค โอบามา......อีกไม่นานจะเกิดภัยธรรมชาติที่รุนแรง จนมีผู้คนล้มตายจำนวนมาก เสียหายทั้งชีวิตและทรัพย์สิน ใครไม่มีเงินหมุนเวียนพอ หรือดวงไม่ดีจริง อย่าคิดลงทุนใดๆตั้งแต่ปี พ.ศ.2557-2561 ถ้ายังฝืนลงทุน มีสิทธิ...”จีเจ้ง ต๊ะ เต่ากัว”...ใครไม่รู้คำว่า...”จีเจ้ง ต๊ะ เต่ากัว”...แปลว่าอะไร? ไปถามคนจีนเอาเอง / สวัสดี นี่เป็น “คำเตือน”...ไม่ใช่...”คำทำนาย” จากหมอนิด

หมอนิด กิจจา ทวีกุลกิจ
5 มี.ค. 2557

ที่มา https://www.facebook.com/mornid/posts/556361954480420

 

รายการต่างคนต่างคิด ตอน โหรวารินทร์ บัววิรัตน์เลิศ​

เผยแพร่เมื่อ 2 ก.ย. 2014​

 

"เรือบ้าน" ในประเทศอินเดีย​

 

ภูเขาไฟตองกาปะทุ กระทบเที่ยวบินระหว่างประเทศ​

​

เที่ยวบินระหว่างประเทศของตองกา ประเทศหมู่เกาะในมหาสมุทรแปซิฟิก ถูกยกเลิกทั้งหมดในวันอังคาร เนื่องจากการปะทุของภูเขาไฟ คาดว่าจะกลับมาให้บริการได้เช่นเดิมในวันพุธ

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงนูกูอะโลฟา ประเทศตองกา เมื่อวันที่ 13 ม.ค. ว่า นายวิลีอามี มาอาเก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (ซีอีโอ) บริษัทท่าอากาศยานตองกา รายงานการยกเลิกเที่ยวบินระหว่างประเทศทั้งหมด ทั้งขาเข้าและขาออกที่เดินทางระหว่างตองกาไปยังออสเตรเลีย ฟิจิ และนิวซีแลนด์ ในวันอังคาร เนื่องจากการปะทุของภูเขาไฟที่พ่นเถ้าถ่านจำนวนมากขึ้นสู่ท้องฟ้า โดยคาดว่าเที่ยวบินจะกลับมาให้บริการได้ตามปกติในวันพุธ ขณะที่เที่ยวบินในประเทศกลับมาดำเนินการตามปกติแล้ว หลังถูกระงับไปก่อนหน้านี้

นางลิบบี อาร์มสตรอง โฆษกหญิงสายการบินเวอร์จินออสเตรเลีย กล่าวว่า มีการยกเลิกเที่ยวบินจากนครซิดนีย์ของออสเตรเลียไปยังตองกาเมื่อวันจันทร์ และเที่ยวบินจากตองกาไปยังนิวซีแลนด์ในวันอังคาร แต่ได้มีกำหนดให้บริการในวันพุธซึ่งคาดว่าสถานการณ์จะกลับสู่ปกติ ขณะที่แถลงการณ์ของสายการบินแอร์นิวซีแลนด์ ระบุว่า เที่ยวบินจากเมืองโอคแลนด์ในนิวซีแลนด์ไปยังตองกาเมื่อวันจันทร์ ได้เปลี่ยนเส้นทางไปยังประเทศซามัวแทน ก่อนจะย้อนกลับไปยังโอคแลนด์ ส่วนเที่ยวบินของวันอังคารในเส้นทางดังกล่าวถูกยกเลิกทั้งหมด และจะกลับมาให้บริการอีกครั้งภายในสัปดาห์นี้ ขณะที่เที่ยวบินอื่นๆ ในเส้นทางแปซิฟิกยังคงดำเนินการตามปกติ โดยนายมาอาเกกล่าวว่า ยังคงต้องเฝ้าติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดต่อไป โดยเฉพาะรายละเอียดเกี่ยวกับการปะทุที่เกิดขึ้น

นายแบรด สกอตต์ นักภูเขาไฟวิทยาจากสถาบันวิทยาศาสตร์จีเอ็นเอสของนิวซีแลนด์ กล่าวว่า ในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ได้เกิดการปะทุของภูเขาในพื้นที่หมู่เกาะเล็กๆ ที่ทอดตัวห่างออกไปทางตอนเหนือของกรุงนูกูอะโลฟา ราว 60 กิโลเมตร ซึ่งคาดว่าการระเบิดเกิดขึ้นใต้พื้นมหาสมุทรก่อนจะค่อยๆ ก่อตัวเป็นภูเขาสูงขึ้นจนถึงผิวน้ำ และเกิดเป็นเกาะใหม่ แต่รายละเอียดเกี่ยวกับการระเบิดยังคงเป็นปริศนา โดยสถาบันจีเอ็นเอสเตรียมส่งผู้เชี่ยวชาญเข้าตรวจสอบ ตามคำร้องขอของตองกาทันทีที่เที่ยวบินกลับมาให้บริการตามปกติ เพื่อศึกษาว่าการปะทุในครั้งนี้เชื่อมโยงกับเหตุภูเขาไฟระเบิดรุนแรงเมื่อปี 2552 หรือไม่.

เดลินิวส์ วันอังคาร 13 มกราคม 2558 เวลา 15:08 น.

พายุกระหน่ำเซาเปาโล ไฟฟ้าดับมืดทั้งเมือง​

​

ประชาชนราว 800,000 คน ในเมืองเซาเปาโลของบราซิลต้องอยู่อย่างไม่มีไฟฟ้าใช้ หลังพายุฝนกระหน่ำเมื่อคืนวันจันทร์สร้างความเสียหายรุนแรงให้แก่ระบบไฟฟ้า

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากเมืองเซาเปาโล ประเทศบราซิล เมื่อวันที่ 13 ม.ค. ว่า บริษัทเออีเอส อิเล็คโทรเปาโล บริษัทไฟฟ้าในเซาเปาโล เมืองที่มีประชากรหนาแน่นที่สุดของบราซิล ออกแถลงการณ์ผ่านเว็บไซต์ระบุว่า เนื่องจากพายุฝนและกระแสลมแรงที่มีความเร็วลมกว่า 80 กิโลเมตร/ชั่วโมง ซึ่งพัดกระหน่ำเมืองเมื่อคืนวันจันทร์ที่ผ่านมา บวกกับเหตุฟ้าผ่าที่เกิดขึ้นอีกเกือบ 8,000 ครั้งทั่วเมือง ก่อให้เกิดความเสียหายอย่างหนักในระบบการจ่ายกระแสไฟฟ้า ทำให้ชาวเมืองเซาเปาลูราว 800,000 คน ไม่มีกระแสไฟฟ้าใช้ คล้ายคลึงกับเหตุการณ์ที่เคยเกิดขึ้นก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 29 ธ.ค. ที่ผ่านมา ซึ่งมีประชาชนได้รับผลกระทบราว 500,000 คน

ทั้งนี้ นอกจากทำให้เกิดไฟดับทั่วเมืองแล้ว พายุฝนเมื่อวันจันทร์ยังทำให้เกิดน้ำท่วมขังตามถนนและเขตที่อยู่อาศัยในหลายพื้นที่ นอกจากนี้กระแสลมยังพัดต้นไม้โค่นล้มลงมาเกือบ 80 ต้น รวมถึงเสาไฟฟ้าอีกจำนวนหนึ่งด้วย.

เดลินิวส์ วันอังคาร 13 มกราคม 2558 เวลา 23:38 น.

จีนบุก'โรงงานผลิตเด็ก'ช่วยทารก 37 คน​

​

เจ้าหน้าที่บุกรวบแก๊งค้ามนุษย์ 103 คน และช่วยเหลือทารก 37 คน ที่แม่ของเด็กคลอดทิ้งไว้เพื่อขาย ในจำนวนนี้ 7 คน ได้รับเชื้อเอชไอวีจากแม่

เว็บไซต์ข่าวเดอะมิร์เรอร์ ประเทศอังกฤษ รายงานเมื่อวันที่ 13 ม.ค. ว่า ตำรวจในมณฑลซานตงทางตะวันออกเฉียงเหนือของจีน บุกทลายแหล่งซ่องสุมแห่งหนึ่งในเมืองจี่หนิง ซึ่งเจ้าหน้าที่เรียกว่า "โรงงานผลิตเด็ก" พร้อมจับกุมสมาชิกขบวนการค้ามนุษย์ได้ 103 คน และช่วยเหลือเด็กทารกได้อีก 37 คน ทั้งหมดอยู่ในสภาพป่วยและอิดโรย มีเด็กอย่างน้อย 7 คน ตรวจพบเชื้อเอชไอวี สาเหตุของโรคภูมิคุ้มกันบกพร่องหรือโรคเอดส์ ซึ่งได้รับถ่ายทอดเชื้อมาจากมารดาผู้ให้กำเนิด โดยเด็กเหล่านี้อยู่ในระหว่างรอเพื่อถูกขายให้กับครอบครัวที่ต้องการมีบุตร

เจ้าหน้าที่กล่าวว่า วิธีการของแก๊งค้ามนุษย์ที่ผ่านมามักเป็นการขโมยเด็ก แต่นี่คือรูปแบบใหม่ของการก่อเหตุ คนร้ายจะมุ่งเป้าไปที่หญิงตั้งครรภ์และเสนอเงินจำนวนหนึ่งแลกกับทารก บางกรณีจะเข้าไปยื่นข้อเสนอกับหญิงสาวให้ตั้งครรภ์เพื่อแลกกับค่าตอบแทน ซึ่งทารก 1 คน มีมูลค่าอยู่ระหว่าง 5,000 - 10,000 ปอนด์ (ราว 250,000 - 500,000 บาท) และจะได้ราคาสูงขึ้นหากเป็นเด็กผู้ชาย โดยคนร้ายจะจัดหาที่พักและอาหารให้กับหญิงเหล่านั้นจนกว่าทารกจะคลอดออกมา ซึ่งสถานที่ดังกล่าวสกปรกและไร้อนามัย ไม่เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการเลี้ยงดูเด็กและการทำคลอด จึงส่งผลให้เด็กได้รับเชื้อและโรคติดต่อมากมาย เด็กเหล่านี้จะถูกแยกจากมารดาทันทีที่คลอดออกมา และได้รับเลี้ยงดูด้วยบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป และเศษอาหารเหลือ เพื่อรอให้มีลูกค้ามารับไป

ทั้งนี้ การซื้อขายเด็กทารกมีความผิดตามกฎหมายในประเทศจีน ซึ่งอาจได้รับโทษจำคุก หรือถึงขั้นประหารชีวิตหากขายเด็กมากกว่า 3 คนขึ้นไป.

เดลินิวส์ วันพุธ 14 มกราคม 2558 เวลา 02:05 น.

ญี่ปุ่นอนุมัติงบประมาณทางทหารครั้งใหญ่​

​

รัฐบาลญี่ปุ่นอนุมัติงบประมาณทางทหารครั้งใหญ่สุดเท่าที่เคยมีมา หลังจากญี่ปุ่นกับจีนมีข้อพิพาทเหนือหมู่เกาะในทะเลจีนตะวันออก

สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานจากกรุงโตเกียวประเทศญี่ปุ่น เมื่อวันที่ 14 ม.ค.ว่า ญี่ปุ่นอนุมัติงบประมาณทางทหารครั้งใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมาสำหรับปีงบประมาณหน้าเมื่อวันพุธ โดยปีงบประมาณใหม่ จะเริ่มต้นปีนี้และจะสิ้นสุดเดือน มี.ค.ปี 2559 รัฐบาลญี่ปุ่นจะใช้งบประมาณ 4.98 ล้านล้านเยน หรือราว 1.3 ล้านล้านบาท นับเป็นการเพิ่มงบประมาณทางทหารเป็นปีที่สามติดต่อกัน

เจ้าหน้าที่กระทรวงกลาโหมญี่ปุ่นบอกว่า นี้คืองบประมาณทางทหารครั้งใหญ่เท่าที่เคยมีมา ซึ่งมากกว่า 4.96 ล้านล้านเยน ของปี 2545 ที่ถือว่ามากที่สุดแล้ว สะท้อนให้เห็นความต้องการของนายกรัฐมนตรี ชินโซอาเบะ ที่อยากให้กองทัพญี่ปุ่นมีความแข็งแกร่งมากขึ้น อีกทั้งญี่ปุ่นกับจีนมีความขัดแย้งกันกรณีอ้างสิทธิเหนือหมู่เกาะต่างๆ ในทะเลจีนตะวันออก

ทั้งนี้กองทัพญี่ปุ่นต้องการซื้อเครื่องบิน วี-22 ออสเปรย์ จำนวน 5 ลำ พร้อมด้วยเครื่องบินขับไล่ สเตลธ์เอฟ-35 เอ จำนวน 6 ลำ ไม่เพียงแค่นั้นกระทรวงกลาโหม ยังต้องการฝูงโดรนหรือเครื่องบินไร้คนขับ โกลบอลฮอว์ก รวมถึงยานสะเทินน้ำสะเทินบกและเครื่องบินเตือนภัยล่วงหน้า เนื่องจากระยะหลังมานี้ เรือรบและเครื่องบินของจีนเข้ามาป้วนเปี้ยนรอบๆญี่ปุ่นบ่อยขึ้น ขณะที่ เกาหลีเหนือก็มีโครงการนิวเคลียร์และขีปนาวุธ

อย่างไรก็ตาม เมื่อเดือน พ.ย.ปีที่แล้ว นายกรัฐมนตรีอาเบะ และประธานาธิบดีสีจิ้นผิง แห่งจีน ได้พบปะกันครั้งแรกนับตั้งแต่ผู้นำสองฝ่ายขึ้นครองอำนาจ และเห็นพ้องกันที่จะทำงานร่วมกันเพื่อลดความตึงเครียดกรณีอ้างอธิปไตยเหนือหมู่เกาะพิพาท

เดลินิวส์ วันพุธ 14 มกราคม 2558 เวลา 10:00 น.

เหยื่อโรคหัดดิสนีย์แลนด์ เพิ่มเป็น 26 ราย​

​

สำนักงานสาธารณสุขแคลิฟอร์เนียของสหรัฐ รายงานสถานการณ์การระบาดของโรคหัดในสวนสนุกดิสนีย์แลนด์ มีผู้ติดเชื้อเพิ่มเป็น 26 ราย ใน 4 รัฐ

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากเมืองอนาไฮม์ ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 13 ม.ค. ว่า สำนักงานสาธารณสุขแคลิฟอร์เนียของสหรัฐ รายงานผู้ติดเชื้อโรคหัดที่เกี่ยวข้องกับการเดินทางไปเยือนสวนสนุกดิสนีย์แลนด์ในแคลิฟอร์เนีย ระหว่างวันที่ 15 ธ.ค. ถึง 20 ธ.ค. ที่ผ่านมา เพิ่มอีก 7 ราย เมื่อวันจันทร์ มาจากเขตแคลิฟอร์เนียใต้ 3 ราย จากเขตซานเบอร์นาร์ดิโน 2 ราย จากเขตลองบีช 1 ราย และอีก 1 รายไม่ระบุรายละเอียดที่อยู่ชัดเจน

ส่งผลให้จำนวนผู้ติดเชื้อล่าสุดอยู่ที่อย่างน้อย 26 ราย จาก 4 รัฐ ได้แก่ แคลิฟอร์เนีย 22 ราย ยูทาห์ 2 ราย วอชิงตัน 1 ราย และโคโลราโด 1 ราย ซึ่งส่วนใหญ่ได้รับเชื้อโดยตรงจากดิสนีย์แลนด์ ขณะที่บางคนได้รับเชื้อต่อจากผู้ติดเชื้อกลุ่มแรกอีกทอดหนึ่ง โดยดิสนีย์แลนด์เผยว่า พร้อมให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่เต็มที่

การแพร่ระบาดครั้งนี้ของเชื้อหัด มีขึ้นท่ามกลางความหวั่นวิตกต่อการลดลงของการได้รับวัคซีนในเด็กของแคลิฟอร์เนีย โดยสำนักข่าวลอสแอนเจลิส ไทม์ส รายงานว่า ตั้งแต่ปี 2545 เป็นต้นมา อัตราการได้รับวัคซีนของเด็กเล็กในโรงเรียนอนุบาลลดลงจากเดิมร้อยละ 95 เป็นร้อยละ 92 ซึ่งส่งผลให้มีความเสี่ยงมากขึ้นต่อโรคหัดและไอกรน โดยเฉพาะในกลุ่มเด็กเล็ก ผู้ที่ไม่ได้รับวัคซีน และผู้ที่ได้รับยากดภูมิคุ้มกัน ทั้งนี้ ในการแพร่ระบาดครั้งล่าสุด มีผู้ติดเชื้อ 2 ราย เป็นทารกที่มีอายุยังไม่ถึงเกณฑ์รับวัคซีน.

เดลินิวส์ วันอังคาร 13 มกราคม 2558 เวลา 20:47 น.

ทัพแคเมอรูน ถล่มโบโก ฮารามตายเกลื่อนกว่า 140 คน​

​

กองทัพแคเมอรูน สังหารนักรบโบโก ฮาราม กว่า 140 ศพ หลังย่ามใจบุกข้ามพรมแดนไนจีเรีย เข้าไปหมายถล่มฐานทัพในฝั่งแคเมอรูน นับเป็นความสูญเสียครั้งใหญ่สุดของกลุ่มก่อการร้ายโบโก ฮาราม

สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานจากกรุงอาบูจาประเทศไนจีเรีย เมื่อวันที่ 13 ม.ค.ว่าอิสซา ชีโรมา บาการี รัฐมนตรีข่าวสารและโฆษกรัฐบาลแคเมอรูนแถลงผ่านทางสถานีโทรทัศน์และวิทยุว่ากองทัพแคเมอรูน สังหารนักรบโบโกฮาราม ซึ่งบุกโจมตีฐานทัพแห่งหนึ่งในเมืองโคโลฟาตาทางตอนเหนือของประเทศเมื่อวันจันทร์เสียชีวิตไปอย่างน้อย 143 คน และสูญเสียอาวุธที่สำคัญไปอีกจำนวนมากซึ่งรัฐบาลแคเมอรูน ระบุว่าถือเป็นความสูญเสียครั้งใหญ่ที่สุด ของกลุ่มหัวรุนแรงในดินแดนแคเมอรูนส่วนฝ่ายแคเมอรูน มีทหารเสียชีวิตไป 1 นาย ในการปะทะกัน

ตัวเลขผู้เสียชีวิตนี้ถือว่าเป็นความสูญเสียที่หนักที่สุดที่โบโกฮาราม ได้รับในดินแดนแคเมอรูนและเกิดขึ้นในช่วงเวลา ที่มีความหวาดกลัวว่าการบุกโจมตีข้ามพรมแดนเข้าไปในแคเมอรูนชาด และไนเจอร์ จากกลุ่มโบโกฮาราม ซึ่งมีฐานอยู่ในไนจีเรียจะทวีความรุนแรงมากขึ้น โฆษกรัฐบาลแคเมอรูนกล่าวว่า การโจมตีเริ่มต้นขึ้นในช่วงเช้า เมื่อนักรบกลุ่มหัวรุนแรงหลายร้อยคนรุกคืบข้ามพรมแดนจากไนจีเรีย ท่ามกลางหมอกลงจัดและพยายามที่จะจู่โจมฐานทัพในเมืองซึ่งมีหน่วยทหารประจำการอยู่ แหล่งข่าวท้องถิ่นระบุว่า ชาวบ้านพากันหลบหนีทันที หลังจากได้ยินเสียงปืนนัดแรกดังขึ้นในเมืองดังกล่าว

การโจมตีเมืองโคโลฟาตามีขึ้น หลังนายอาบูบาการ์เชเกา ผู้นำกลุ่มโบโก ฮารามให้คำมั่นเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งเผยแพร่ทางยูทูปว่าจะตอบโต้แคเมอรูน เพื่อแก้แค้นที่ส่งเครื่องบินรบโจมตีนักรบโบโกฮาราม เมื่อเดือน ธ.ค.ปีที่แล้วหลังจากพวกเขายึดค่ายทหารแห่งหนึ่ง การโจมตีเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาเป็นครั้งแรกของกลุ่มโบโกฮาราม ในเมืองดังกล่าวตั้งแต่กองกำลังปฏิบัติการเคลื่อนที่เร็วของกองทัพแคเมอรูน ถูกส่งเข้าประจำการเพื่อป้องกันพื้นที่หลังการโจมตีนองเลือดเมื่อปีที่แล้ว

เดลินิวส์ วันอังคาร 13 มกราคม 2558 เวลา 20:40 น.

จีนส่งทีมแพทย์เพิ่มสู้อีโบลาที่แอฟริกาตะวันตก​

​

เจ้าหน้าที่ทางการแพทย์จีนอีก 232 คน เดินทางไปร่วมสมทบกับเจ้าหน้าที่ชุดแรกก่อนหน้านี้ที่เซียร์ราเลโอน เพื่อร่วมในภารกิจต้านการแพร่ระบาดของเชื้อร้ายอีโบลาในแอฟริกาตะวันตก

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงปักกิ่ง ประเทศจีน เมื่อวันที่ 13 ม.ค. ว่า ทางการจีนส่งเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์เดินทางไปยังประเทศในภูมิภาคแอฟริกาตะวันตกเพิ่มอีก 232 คน เพื่อร่วมในปฏิบัติการต่อสู้กับการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสอีโบลา แบ่งเป็น 154 คน เดินทางไปยังไลบีเรีย และอีก 78 คน ไปยังเซียร์ราเลโอน โดยทั้งหมดจะไปสมทบกับแพทย์ 43 คน และผู้เชี่ยวชาญ 35 คน จากศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของจีน (ซีซีดีซี) ที่เดินทางมาถึงก่อนหน้านี้และกำลังปฏิบัติการอยู่ในเซียร์ราเลโอน ในการรักษาคนไข้ 61 ราย และฝึนเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์ท้องถิ่น 1,600 ราย

ทั้งนี้ แม้จีนจะยังไม่เคยประสบกับการแพร่ระบาดของเชื้อร้ายนี้ แต่บุคลากรทางการแพทย์ของจีนก็นับว่ามากไปด้วยประสบการณ์ในการรับมือกับโรคระบาด อย่างโรคระบบทางเดินหายใจเฉียบพลันร้ายแรง (ซาร์ส) และไข้หวัดนก โดยทางการจีนมีแผนจะยกระดับความร่วมมือในด้านมนุษยธรรมและการทูต ให้มากขึ้นเทียบเท่ากับความสัมพันธ์ทางด้านการค้าที่จีนนับเป็นคู่ค้าสำคัญของภูมิภาคนี้.

เดลินิวส์ วันอังคาร 13 มกราคม 2558 เวลา 20:35 น.

ไต้หวันตรวจเข้มไข้หวัดนก เชือดห่านครึ่งหมื่น​

​

ทางการไต้หวันสั่งฆ่าห่านเพิ่มอีกเกือบ 6,000 ตัว จากฟาร์มในนครเจียอี้ หลังตรวจพบเชื้อไข้หวัดนกในฟาร์มอีก 14 แห่ง รวมเป็นอย่างน้อย 21 แห่ง โดยมีสัตว์ปีกถูกฆ่าไปแล้วกว่า 140,000 ตัว นับแต่การพบเชื้อรอบใหม่เมื่อสัปดาห์ก่อน

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงไทเป สาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) เมื่อวันที่ 13 ม.ค. ว่า สำนักงานตรวจสอบและกักกันสัตว์และพืชของไต้หวัน สั่งฆ่าห่านเพิ่มอีก 5,830 ตัว ในฟาร์ม 3 แห่งที่นครเจียอี้ ทางตอนใต้ของเกาะ เมื่อช่วงกลางดึกวันจันทร์ต่อเนื่องถึงเช้าวันอังคาร หลังการตรวจสอบรอบล่าสุดพบการแพร่การะจายของเชื้อไวรัสที่เป็นสาเหตุของโรคไข้หวัดนกในฟาร์มสัตว์ปีกอีก 14 แห่ง โดยนับตั้งแต่ตรวจพบการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส เอช5เอ็น2 และ เอช5เอ็น8 ที่ฟาร์มแห่งหนึ่งในเทศมณฑลผิงตงเมื่อสัปดาห์ก่อน พบมีการติดเชื้อในฟาร์มอย่างน้อย 21 แห่ง ทั้งหมดอยู่ทางภาคใต้ของไต้หวัน ส่งผลให้มีสัตว์ปีกถูกกำจัดไปแล้วกว่า 140,000 ตัว

นายเฉิน เป่าจี รมว.กระทรวงเกษตรไต้หวัน กล่าวว่า เพื่อเป็นการควบคุมการแพร่กระจายของเชื้อ สัตว์ปีกในฟาร์มที่พบว่ามีการติดเชื้อจะถูกทำลายในทันที โดยคาดว่าภายในเดือนหน้าจะพบฟาร์มที่มีการติดเชื้อเพิ่มขึ้นอีก นับเป็นครั้งแรกที่ตรวจพบเชื้อสายพันธุ์ เอช5เอ็น8 ในไต้หวัน โดยเชื้อไวรัสที่แพร่ระบาดในไต้หวันก่อนหน้านี้เป็นสายพันธุ์ เอช5เอ็น2 และยังไม่เคยมีการพบเชื้อสายพันธุ์ เอช5เอ็น1 ที่มีความรุนแรงมากกว่าสายพันธุ์อื่นในพื้นที่มาก่อน ยกเว้นกรณีการตรวจพบเชื้อจากนกที่ลักลอบนำเข้าจากจีนเพื่อมาเป็นสัตว์เลี้ยงเมื่อปี 2548 และ 2555.

เดลินิวส์ วันอังคาร 13 มกราคม 2558 เวลา 16:48 น.

อัล-กออิดะห์ ส่งคำเตือนถึงฝรั่งเศส​

​

กลุ่มอัล-กออิดะห์ในแอฟริกาเหนือเตือนฝรั่งเศสให้เตรียมรับมือความเลวร้าย "ขั้นสูงสุด" หากยังไม่ถอนทหารออกจากทวีปแอฟริกา และปล่อยให้สื่อนำเสนอผลงานดูหมิ่นองค์ศาสดาต่อไป

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส เมื่อวันที่ 13 ม.ค. ว่ากลุ่มนักรบหัวรุนแรง “มาเกร็บ” ( เอคิวไอเอ็ม ) เครือข่ายในแอฟริกาเหนือของกลุ่มอัล-กออิดะห์ ออกแถลงการณ์ผ่านเว็บไซต์ "ไซต์" เครือข่ายสังคมออนไลน์ของกลุ่มนักรบจีฮัด เตือนให้ฝรั่งเศสเตรียมรับมือกับสถานการณ์ที่เลวร้าย " ถึงขีดสุด" ในอนาคต ตราบใดที่ยังไม่ถอนทหารออกจากมาลีและสาธารณรัฐแอฟริกากลาง ( ซีเออาร์ ) รวมถึงการเข้าร่วมปฏิบัติการโจมตีทางอากาศในซีเรียและอิรัก ที่มีสหรัฐเป็นหัวเรือใหญ่

นอกจากนี้ เนื้อหาในแถลงการณ์ของเอคิวไอเอ็มยังระบุถึงการดูถูก "องค์ศาสดา" ผ่านสื่อด้วย ซึ่งในเวลาเดียวกันสำนักพิมพ์ "ชาร์ลี เอ็บโด" เจ้าของหนังสือพิมพ์เสียดสีการเมืองและศาสนารายสัปดาห์ในชื่อเดียวกัน เผยเรื่องการเพิ่มการตีพิมพ์ฉบับพิเศษสำหรับวางจำหน่ายทั้งในและต่างประเทศในวันพุธนี้เป็น 3 ล้านฉบับ ตรงกับวันครบรอบ 1 สัปดาห์การสังหารหมู่ 12 ศพที่สำนักพิมพ์ ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้ชื่อของ ชาร์ลี เอ็บโด กลายเป็นสัญลักษณ์ของปกป้องและเรียกร้องเสรีภาพในการแสดงออกทางความคิดเห็นไปโดยปริยาย

เดลินิวส์ วันอังคาร 13 มกราคม 2558 เวลา 14:35 น.

ที่มา http://www.dailynews.co.th/

 

อาหารที่เหมาะกับหน้าหนาว​

 

ภัตตาคารบ้านทุ่ง - ถั่วงอก​

เผยแพร่เมื่อ 11 มี.ค. 2012​

 

มรสุมพัดปกคลุมภาคใต้และอ่าวไทย​

​

มรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมภาคใต้ และอ่าวไทย มีกำลังค่อนข้างแรง ทำให้บริเวณอ่าวไทยจะมีคลื่นสูง 2-3 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง เรือเล็กบริเวณอ่าวไทยตอนล่างตั้งแต่จังหวัดนครศรีธรรมราชลงไปควรงดออกจากฝั่ง

กรมอุตุนิยมวิทยารายงานลักษณะอากาศทั่วไป บริเวณความกดอากาศสูงกำลังค่อนข้างแรงจากประเทศจีนยังคงแผ่เสริมลงมาปกคลุมประเทศไทย ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณประเทศไทยตอนบนจะมีอากาศหนาวเย็นโดยทั่วไปอย่างต่อเนื่องต่อไปอีก 1-2 วัน และบริเวณยอดดอยในภาคเหนือจะเกิดน้ำค้างแข็งในบางพื้นที่ ขอให้ประชาชนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากอากาศที่หนาวเย็นในระยะนี้สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมภาคใต้ และอ่าวไทย มีกำลังค่อนข้างแรง ทำให้บริเวณอ่าวไทยจะมีคลื่นสูง 2-3 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง เรือเล็กบริเวณอ่าวไทยตอนล่างตั้งแต่จังหวัดนครศรีธรรมราชลงไปควรงดออกจากฝั่งไว้ด้วย

พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทยตั้งแต่เวลา 06:00 วันนี้ ถึง 06:00 วันพรุ่งนี้.

ภาคเหนือ อากาศหนาว กับมีหมอกในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 10-16 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 25-30 องศาเซลเซียส บริเวณยอดดอยอากาศหนาวถึงหนาวจัด และมีน้ำค้างแข็งในบางพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 2-8 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 10-25 กม./ชม.

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อากาศหนาวกับมีหมอกบางในตอนเช้า และอุณหภูมิจะเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยอุณหภูมิต่ำสุด 9-15 องศา เซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 26-29 องศาเซลเซียส บริเวณยอดภูอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 4-10 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.

ภาคกลาง อากาศเย็นกับมีหมอกบางในตอนเช้า และอุณหภูมิจะเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยอุณหภูมิต่ำสุด 17-19 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-31 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.

ภาคตะวันออก อากาศเย็นในตอนเช้า และอุณหภูมิจะเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยอุณหภูมิต่ำสุด 17-22 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-32 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูง 1-2 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) จังหวัดสุราษฎร์ธานีขึ้นมา อากาศเย็นในตอนเช้า ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตรตั้งแต่จังหวัดนครศรีธรรมราชลงไป มีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20 ของพื้นที่อุณหภูมิต่ำสุด 19-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29-32 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 20-40 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 2-3 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) มีเมฆบางส่วน กับมีฝนบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่อุณหภูมิต่ำสุด 23-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-33 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูง 1-2 เมตร

กรุงเทพมหานครและปริมณฑล อากาศเย็นในตอนเช้า และอุณหภูมิจะเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยอุณหภูมิต่ำสุด 18-19 องศาเซลเซียสอุณหภูมิสูงสุด 30-31 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.

เดลินิวส์ วันพฤหัสบดี 15 มกราคม 2558 เวลา 07:22 น.

ติวเข้มชุดเสือไฟรับมือไฟป่า​

​

สำนักป้องกันปราบปรามและควบคุมไฟป่าฝึกทฤษฎีและปฏิบัติ "ชุดเสือไฟ" พร้อมรับมือเหตุไฟป่าลุกไหม้สามารถดับทันท่วงทีปลอดภัย

เมื่อวันที่ 14 ม.ค. ที่ศูนย์ฝึกอบรมและพัฒนาการควบคุมไฟป่าภาคกลาง จ.กาญจนบุรี ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำนักป้องกันปราบปรามและควบคุมไฟป่า ได้มีการฝึกทบทวนเพิ่มเติม องค์ความรู้ภาคทฤษฎีและทักษะปฏิบัติงานการดับไฟป่า ที่เหมาะสมแก่ชุดปฏิบัติการพิเศษดับไฟป่า หรือชุดเสือไฟที่จัดตั้งขึ้น เพื่อให้หน่วยงานมีความสามารถและประสบการณ์ตลอดจนมีมาตรฐานความแข็งแกร่ง ทั้งทางรางกายและจิตใจสามารถปฏิบัติภารกิจดับไฟป่าให้สำเร็จได้อย่างรวดเร็วและปลอดภัย

โดยมี นายธนทร บรรทัดจันทร์ นักวิชาการชำนาญการและหัวหน้าศูนย์ปฏิบัติและพัฒนาการควบคุมไฟป่าภาคตะวันออกเฉียงเหนือ นายชัยสันติ์ ศรียาภัย นักวิชาการป่าไม้ชำนาญการพิเศษ และหัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการไฟป่าชุมพร นายธงชัย สาแรก หัวหน้าศูนย์ปฎิบัติการไฟป่ากาญจนบุรี และครูผู้สอนควบคุมการฝึก ทั้งนี้ จะมีการฝึกไปจนถึงวันที่ 18 ม.ค. นี้

เดลินิวส์ วันพุธ 14 มกราคม 2558 เวลา 14:36 น.

ให้สัตว์ออกกำลังกายผิงไฟคลายหนาว​

​

เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีจัดกิจกรรมให้ช้างออกกำลังกาย พิงไฟคลายหนาว พร้อมติดสปอร์ตไลท์ ก่อกองฟาง ให้สัตว์ทุกชนิดได้ซุกรับไออุ่น หวั่นได้รับผลกระทบจากอากาศที่เย็นจัด

เมื่อวันที่ 14 ม.ค. ดร.ศราวุฒิ ศรีศกุน ผู้อำนวยการสำนักงานเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี ปฏิบัติหน้าที่ผู้อำนวยการสำนักงานพิงคนคร จ.เชียงใหม่ เปิดเผยว่า จากอากาศที่หนาวเย็นจัดในทุกวัน เกรงว่าจะส่งผลกระทบต่อสัตว์ในเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี ทางเจ้าหน้าที่จึงได้นำช้าง 5 เชือก ได้แก่ พังเอ๋ พังสาลินี พังลินดา พังลำดวน และพังน้ำหวาน มาออกกำลังกายและผิงไฟ เพื่อให้ร่างกายอบอุ่น เนื่องจากอุณภูมิในช่วงนี้ลดต่ำลงจึงต้องให้ช้างทำกิจกรรมเพื่อป้องกันอาการป่วย

นอกจากนี้เจ้าหน้าที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารียังได้นำไฟสปอตไลท์ , ฟางและสแลมกันลมมากันให้กับสัตว์ทุกชนิด ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ดำเนินการอย่างเร่งด่วนจนติดตั้งครบทุกส่วนจัดแสดงของสัตว์แล้ว และยังนำวิตามินแท่งมาให้ทั้งสัตว์เล็กและสัตว์ใหญ่ได้เลียกินเพื่อสร้างภูมิต้านทาน โดยสัตว์เล็กพากันไปหาความอบอุ่นยังอุปกรณ์ที่ทางเจ้าหน้าที่นำไปติดตั้งให้ ทั้งพากันซุกไออุ่นในกองฟาง และไฟสปอร์ตไลท์กันเป็นกลุ่ม ๆ

เดลินิวส์ วันพุธ 14 มกราคม 2558 เวลา 14:36 น.

แม่ค้าเซ็งสารเคมีโรงงานไฟไหม้ฟุ้ง​

​

แม่ค้าร้านขายอาหารใกล้โรงงานในนิคมฯบางปะอิน ที่ถูกไฟเผาโอดครวญ สารเคมีฟุ้งกระจายทำลูกค้าหาย หวั่นสารเคมีปนเปื้อนอาหาร พร้อมวอนหน่วยงานเกี่ยวข้องเร่งแก้ไข

เมื่อวันที่ 14 ม.ค. ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปสำรวจร้านค้าขายอาหาร ใกล้กับโรงงานเอพีซีบีอิเล็คทรอนิคส์ (ประเทศไทย ) ในนิคมอุตสาหกรรมบางปะอิน อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา หลังจากเกิดเพลิงไหม้อาคาร ทำให้มีกลิ่นของสารเคมีฟุ้งกระจายไปทั่วบริเวณโดยรอบ และพื้นที่ใกล้เคียง จากการสอบถาม น.ส.โสน เรนทร์สถาน อายุ 47 ปี แม่ค้าขายอาหารตามสั่ง กล่าวว่า หลังจากมีเหตุการณ์เพลิงไหม้โรงงาน ภายในนิคมอุตสาหกรรมบางปะอิน และมีสารเคมีฟุ้งกระจายทำให้ประชาชนในพื้นที่ใกล้เคียง ต่างกังวลและกลัวว่าสารเคมีที่ฟุ้งกระจาย

เมื่อสูดดมเข้าไปจะทำให้เป็นอันตรายต่อร่างกาย จึงได้นำหน้ากากอนามัยมาปิดปากและจมูกเพื่อป้องกันอันตราย อีกทั้ง ส่งผลทำให้ชาวบ้านและประชาชนในพื้นที่ต่างออกไปเลือกซื้อและรับประทานอาหารนอกพื้นที่ทำให้ตนเองและร้านขายอาหารใกล้เคียงต่างได้รับความเดือดร้อนไม่มีลูกค้ามาทานอาหารเหมือนเช่นเคย เพราะกลัวว่าสารพิษอาจจะเจือปนในอาหาร ตนเองจึงอยากฝากเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องช่วยเร่งลงพื้นที่สำรวจและแก้ไขอย่างเร่งด่วน

เดลินิวส์ วันพุธ 14 มกราคม 2558 เวลา 13:34 น.

เร่งช่วยบ้านตลิ่งพังริมน้ำป่าสักเมืองกรุงเก่า​

​

เร่งช่วยบ้านตลิ่งพังริมน้ำป่าสักเมืองกรุงเก่า

จากกรณีชาวบ้าน หมู่ 3 ต.บ้านเกาะ อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา หลายครัวเรือนได้รับความเดือดร้อนตลิ่งพัง และทรุดตัวลงในแม่น้ำป่าสัก เป็นระยะทางยาวกว่า 100 เมตร และมีความลึกกว่า 2 -3 เมตร โดยตลิ่งดังกล่าวห่างจากตัวบ้านเรือน เพียงอีก 1-2 เมตร จนเป็นที่วิตกกังวลว่าบ้านจะพังลงมาในฤดูน้ำหลากนี้ ตามที่ปรากฏเป็นข่าวมาแล้วนั้น ความคืบหน้า เมื่อวันที่ 15 ม.ค. พ.อ.รณวุธ เรืองสวัสดิ์รองผู้อำนวยการ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน จ.พระนครศรีอยุธยา เปิดเผยว่า ได้เรียกผู้บริหาร และเจ้าหน้าที่ขององค์การบริหารส่วนตำบลบ้านเกาะ เจ้าหน้าที่จากกรมเจ้าท่าพระนครศรีอยุธยาและกรมโยธาธิการและผังเมืองพระนครศรีอยุธยา ตัวแทนจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เข้าร่วมการประชุมเตรียมการก่อสร้างแนวป้องกันตลิ่งพังแล้ว

จากการประชุมได้มีการสรุปให้ทางจังหวัดพระนครศรีอยุธยา สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เร่งทำเรื่องเสนอ นายอภิชาติ โตดิลกเวชช์ ผวจ.พระนครศรีอยุธยา ให้รับทราบ พร้อมทั้งทำเรื่องงบประมาณ อบต.บ้านเกาะ ทำแนวป้องกันตลิ่งทรุดตัว โดยจะทำเป็นเสาเข็มไม้ชั่วคราวไปก่อน ซึ่งจะได้ให้กรมเจ้าท่าพระนครศรีอยุธยาเป็นผู้ทำเรื่องเสนอกระทวงในส่วนกลางในการนำงบประมาณลงมาสร้างแนวป้องกันตลิ่งทรุดตัวแบบถาวร ซึ่งจะต้องสร้างให้เสร็จภายใน 2 เดือนนี้ เพื่อป้องกันน้ำในช่วงฤดูน้ำหลากที่จะมาถึง

เดลินิวส์ วันพฤหัสบดี 15 มกราคม 2558 เวลา 18:20 น.

ที่มา http://www.dailynews.co.th

 

การใส่และถอดหน้ากากอนามัย​

 

เครื่องปั่นไฟด้วยเเรงโยก จาก มอเตอร์เครื่องซักผ้า​

เผยแพร่เมื่อ 20 ก.ค. 2014
สิ่งประดิษฐ์ของคนรุ่นใหม่ วิทยาลัยเทคนิคอุบลราชธานี ปี 2014​

 

ไบโอดีเซลสาหร่ายทะเล​

[ame=http://www.youtube.com/watch?v=wkMEBK_8e-g]สถานีเขียว ไบโอดีเซลสาหร่ายทะเล 1Apr12 - YouTube[/ame]

เผยแพร่เมื่อ 1 เม.ย. 2012​