ตลิ่งจะพัง แผ่นดินถิ่นอธรรมจะถล่มเป็นทะเล

ตะลุยแดนน้ำแข็งยุคโลกร้อน​

อัปโหลดเมื่อ 29 ธ.ค. 2011

 

ฟางข้าวผลพลอยได้อันล้ำค่า​

[ame=http://www.youtube.com/watch?v=RXk4vGijXSM]เห็ดฟางในตะกร้า - YouTube[/ame]

 

วิธีใช้งานอินเวอร์เตอร์​

 

โซล่าเซลล์ ชาร์จแบตเตอรี่​

[ame=http://www.youtube.com/watch?v=eWzI1Cirtgw]YouTube[/ame]

 

หิมะตกหนักหลายพื้นที่ของตุรกี​

​

หิมะตกหนักปกคลุมหลายพื้นที่ของประเทศตุรกี ทำให้เส้นทางการจราจรติดขัดและต้องปิดสถานศึกษา

สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานจากกรุงอังการาประเทศตุรกี เมื่อวันที่ 6 ม.ค.ว่าสำนักข่าวโดกันแจ้งว่าเกิดหิมะตกหนักปกคลุมหลายพื้นที่ของประเทศตุรกีเช่น ที่จังหวัดคาบาบักรถโรงเรียนคันหนึ่งแล่นตกถนนเนื่องจากสภาพถนนลื่นจากหิมะปกคลุมทำให้มีนักเรียนเสียชีวิต 1 ศพ และบาดเจ็บอีก 18 คน

หิมะที่ตกลงมาอย่างหนัก ยังทำให้เส้นทางการจราจรติดขัดในหลายพื้นที่ และยังสร้างปัญหาการจ่ายกระแสไฟฟ้า ซึ่งบางจุดนั้นมีปัญหาไฟฟ้าขัดข้องโดยเฉพาะในพื้นที่ทางตอนเหนือ ด้านสายการบินเตอร์กิชแอร์ไลน์สสายการบินแห่งชาติของตุรกี ได้สั่งยกเลิกเที่ยวบินระหว่างประเทศและเที่ยวบินในประเทศ 44 เที่ยว ซึ่งเป็นเที่ยวบินขาเข้าและขาออกจากสนามบินเมืองอิสตันบูล รวมทั้งในบางเมือง เช่นกรุงอังการา

ส่วนในเมืองใหญ่เช่นอิสตันบูลนั้น ทางการได้เตรียมมาตรการป้องกันซึ่งอาจหมายถึงการสั่งปิดสถานศึกษา เพื่อป้องกันไว้ก่อนแต่ดูเหมือนว่า หิมะจะตกในเมืองไม่มากนัก แต่เรือเฟอรีข้ามช่องแคบบอสฟอรัสได้ยกเลิกการเดินเรือ สถานศึกษาในกรุงอังการาในบางพื้นที่นั้น ทางการได้สั่งปิดไปแล้วเพราะมีหิมะตกหนัก วัดได้ 15-20 ซม.

มีรายงานอุบัติเหตุอันเกิดจากสภาพอากาศ ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บไปหลายสิบคน การจราจรมีปัญหาในบางเส้นทางเช่น เส้นทางหลวง อิสตันบูล-อิซเมียร์เป็นต้น รถยนต์หลายร้อยคันเคลื่อนไปไหนไม่ได้เพราะหิมะ ทางการได้แจ้งเตือนไว้หลายวันแล้วว่าคลื่นอากาศหนาวเย็น อาจพัดผ่านและอุณหภูมิอาจลดลงถึงระดับลบ 20 องศาเซลเซียส ในเมืองอิสตันบูล

เดลินิวส์ วันอังคาร 6 มกราคม 2558 เวลา 23:39 น.

ไฟป่าออสเตรเลียลามไหม้อาคารกว่าร้อยหลัง​

​

เจ้าหน้าที่ดับเพลิงออสเตรเลียหลายร้อยคน พยายามอย่างหนักในการควบคุมไฟป่าในเมืองแอดิเลด รัฐเซาท์ ออสเตรเลีย ประเทศออสเตรเลีย ซึ่งไม้อาคารบ้านเรือนไปแล้วมากกว่า 160 หลัง

สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานจากกรุงแอดิเลดออสเตรเลีย เมื่อวันที่ 6 ม.ค.ว่าเจ้าหน้าที่ดับเพลิงหลายร้อยคนในภาคใต้ของออสเตรเลีย ใช้ความพยายามอย่างหนักในการควบคุมไฟป่า ที่กำลังลุกลามพื้นที่ป่าครอบคลุมอาณาบริเวณ 240 กิโลเมตร เมื่อวันอังคารตั้งแต่เกิดไฟไหม้ป่ามาตั้งแต่เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ซึ่งเผาผลาญอาคารบ้านเรือนประชาชนไปแล้วมากกว่า 150 หลัง และมีผู้ป่วยอีกหลายสิบคน เจ้าหน้าที่ดับเพลิงพยายามที่จะควบคุมเพลิง ที่ไหม้กินพื้นที่ไร่นาและป่าไปแล้ว 77,500 ไร่ ในบริเวณเชิงเขาทางตะวันตกเฉียงเหนือของเมืองแอดิเลด เมืองเอกของรัฐเซาท์ ออสเตรเลีย

อย่างไรก็ตามเกรก เนตเทิลตันหัวหน้าสำนักงานดับเพลิงของเมือง กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่ามีความก้าวหน้าในการดับไฟ โดยเฉพาะในบริเวณรอบนอกและเจ้าหน้าที่จะยังคงปฏิบัติหน้าที่จนถึงช่วงกลางคืน เพื่อรักษาป่าในส่วนที่เหลือไม่ให้ไฟลุกลามนอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ดับเพลิงส่วนหนึ่งก็ยังปฏิบัติหน้าที่อยู่ใกล้กับบ้านเรือน 1,000 หลัง ที่อยู่นอกเขตไฟป่าครั้งนี้ เพื่อรักษาความปลอดภัยไม่ให้ไฟลามเข้าไปใกล้ และกำลังประสานเพื่อให้เปิดใช้ถนนบางสายในพื้นที่ที่ถูกไฟไหม้ไปแล้วด้วย

นายเจย์เวธเทอริลล์ นายกรัฐมนตรีของรัฐเซาท์ออสเตรเลีย กล่าวว่าเจ้าหน้าที่ชุดประเมินความเสียหาย ซึ่งกำลังตรวจสอบพื้นที่ที่ได้รับความเสียหายจากไฟป่าครั้งนี้พบว่า มีอาคาร 163 หลัง ซึ่งรวมทั้งบ้านเรือน 38 หลัง ถูกทำลายหรือได้รับความเสียหายรุนแรงจากไฟป่า ขณะที่ มีประชาชน 23 คน ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล เนื่องจากได้รับบาดเจ็บด้วยอาการที่เกิดจากไฟป่าแต่มีเพียง 2 คนที่ยังไม่ได้ออกจากโรงพยาบาล โดยเกษตรคนหนึ่งบาดเจ็บสาหัสเมื่อถูกต้นไม้ล้มใส่และผู้ป่วยรายที่ 2 ที่อยู่ในโรงพยาบาลเนื่องจากมีอาการอ่อนแรง

เดลินิวส์ วันอังคาร 6 มกราคม 2558 เวลา 16:48 น.

ประกันเตรียมจ่ายครอบครัวเหยื่อแอร์เอเชียตก​

​

บริษัทประกันภัยเริ่มกระบวนการจ่ายค่าสินไหมทดแทน ให้แก่ครอบครัวของเหยื่อเครื่องบินแอร์เอเชียตก ในทะเลชวาของอินโดนีเซีย

สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานจากกรุงจาการ์ต้าประเทศอินโดนีเซีย เมื่อวันที่ 6 ม.ค.ว่า นายฟิร์ดาอุส จาลานี เจ้าหน้าที่สถาบันการเงินที่ไม่ใช่ธนาคารของรัฐบาลอินโดนีเซีย เปิดเผยเมื่อวันอังคารว่าบรรดาบริษัทประกันภัยเริ่มกระบวนการจ่ายค่าประกันภัย ในเหตุการณ์เครื่องบินแอร์เอเชียอินโดนีเซีย ตกทะเลชวา เมื่อปลายเดือนที่แล้ว แม้แอร์เอเชีย อินโดนีเซียได้รับอนุญาตให้เปิดเส้นทางบินระหว่างเมืองสุราบายา ไปยังสิงคโปร์เป็นเวลา 4 วัน คือจันทร์ อังคารพฤหัสบดีและเสาร์ แต่เที่ยวบิน คิวแซท8501 ประสบเหตุตกทะเลในวันอาทิตย์ที่ 28 ธ.ค. ซึ่งนายจาลานีบอกว่า กรณีดังกล่าวยังสามารถรับเงินประกัน แม้เกิดความสับสนเกี่ยวกับการอนุมัติเส้นทางก็ตาม

นายจาลานีกล่าวต่อไปว่า จากการสอบสวนเบื้องต้นพบว่า สภาพอากาศเป็นปัจจัยที่ทำให้เครื่องบินตกและไม่ว่าเหตุผลใด สายการบินแอร์เอเชียต้องรับผิดชอบต่อผู้โดยสาร และครอบครัวของผู้โดยสารที่เสียชีวิต จะได้รับเงินรายละ 1,250 ล้านรูเปียห์ หรือราว 3.2 ล้านบาท จากบริษัทประกันที่แอร์เอเชียทำสัญญาเอาไว้เช่น พีที อาซูรันซี จาซาอินโดนีเซีย และอาซูรันซีซินาร์ มาส

นอกจากนี้ผู้โดยสารบางคน อาจได้เงินเพิ่มจากนโยบายประกันภัยโดยผ่านทางสายการบิน ที่ทำไว้กับพีทีอาซูรันซี เดย์อิน มิตรา แต่เอลิซาเบธ เควนแดนเกน รองผู้อำนวยการฝ่ายเทคนิคของบริษัทประกันดังกล่าวบอกว่า จ่ายเพิ่มได้อีกรายละ 750 ล้านรูเปียห์ ทั้งนี้ อินโดนีเซียไม่ได้ลงนามในอนุสัญญามอนทรีออล ซึ่งระบุให้ผู้โดยสารที่เสียชีวิตในอุบัติเหตุทางอากาศของเครื่องบินพาณิชย์ ได้รับเงินชดเชยรายละ 170,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 5.6 ล้านบาท

เครื่องบินแอร์บัส เอ320-200 ของแอร์เอเชียอินโดนีเซีย พร้อมผู้โดยสารและลูกเรือ 162 คน ตกทะเลชวาหลังบินไปได้ราว 40 นาที บนเส้นทางจากเมืองสุราบายาไปยังสิงคโปร์ และเชื่อว่า ผู้โดยสารตายหมดทั้งลำ ทีมค้นหา ซึ่งเผชิญสภาพอากาศเลวร้ายและคลื่นสูง สามารถกู้ศพขึ้นมาได้ 37 ราย ส่วนกล่องดำบันทึกข้อมูลการบิน และสามารถไขปริศนาเครื่องบินตกยังหาไม่พบ

เดลินิวส์ วันอังคาร 6 มกราคม 2558 เวลา 19:34 น.

รถไฟชนกันที่บราซิลเจ็บ 158 คน​

​

เกิดเหตุรถไฟสองขบวนชนกัน นอกเมืองริโอ เดอ จาเนโร ของบราซิล ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 158 คน

สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานจากเมืองริโอเดอ จาเนโร ประเทศบราซิลเมื่อวันที่ 7 ม.ค.ว่านายคาร์ลอส โอโซริโอหัวหน้าฝ่ายคมนาคมของรัฐริโอเดอ จาเนโร แถลงว่าเกิดอุบัติเหตุรถไฟสองขบวนชนกันเมื่อเวลา 20.20 น.ของคืนวันจันทร์ที่ 5 ม.ค.ที่ผ่านมา เมื่อรถไฟขบวนหนึ่งได้หยุดรถที่สถานี แล้วก็มีรถไฟอีกขบวนหนึ่งแล่นเข้ามาชนด้านหลัง เหตุเกิดที่เมืองเมสกิตาอยู่นอกเมืองริโอ เดอ จาเนโรห่างออกไป 34 กม.

ซูเปอร์เวียคอมมิวเตอร์ เซอร์วิสขบวนรถไฟสายที่เกิดเหตุนี้ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างมากจากประชาชนผู้ใช้บริการว่า อยู่ในสภาพทรุดโทรมไม่มีแม้แต่เครื่องปรับอากาศ ทั้งที่สภาพภูมิประเทศของบราซิลในพื้นที่ให้บริการนั้นมีสภาพอากาศร้อนชื้น หัวหน้าฝ่ายคมนาคมของรัฐริโอเดอ จาเนโร ยืนยันว่า ซูเปอร์เวียคอมมิวเตอร์ เซอร์วิสจะต้องถูกลงโทษปรับแต่ไม่ได้ระบุว่าจำนวนเท่าใดส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บ 158 คนนั้น ส่วนใหญ่บาดเจ็บเล็กน้อยแค่บาดแผล และรอยถลอกเท่านั้นแต่ก็มี 7 คน ที่ยังต้องรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลแต่เขาก็ยอมรับว่า ซูเปอร์เวียคอมมิวเตอร์ เซอร์วิสจำเป็นที่จะต้องยกระดับและปรับปรุงคุณภาพการให้บริการที่ดีขึ้น

เดลินิวส์ วันพุธ 7 มกราคม 2558 เวลา 00:07 น.

ทีมสอบสวนมั่นใจใช้แก๊สคลอรีนโจมตีหมู่บ้านในซีเรีย​

​

ทีมสอบสวนมั่นใจมีการใช้แก๊สคลอรีน โจมตีหมู้บ่านที่อยู่ภายใต้การควบคุมของฝ่ายกบฎในซีเรีย

สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานจากองค์การสหประชาชาติในนครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐเมื่อวันที่ 7 ม.ค.ว่า ทีมสอบสวนอาวุธเคมี ได้ข้อสรุปด้วยความมั่นใจอย่างเต็มเปี่ยมว่า มีการใช้แก๊สคลอรีนเป็นอาวุธโจมตี หมู่บ้าน 3 แห่ง ที่ถูกควบคุมโดยฝ่ายกบฎในซีเรียเมื่อปีที่แล้ว ส่งผลกระทบต่อประชาชนระหว่าง 350 ถึง 500 คน และเสียชีวิต 13 ราย

รายงานชิ้นที่สามโดยทีมค้นหาความจริง จากองค์การห้ามอาวุธเคมี (โอพีซีดับเบิลยู) ยังไม่ได้ระบุว่าฝ่ายใดต้องรับผิดชอบ แต่จากการสอบถามประชาชน 32 คน จากทั้งหมด 37 คน บอกว่าพวกเขาเห็นหรือได้ยินเสียงเฮลิคอปเตอร์บินอยู่เหนือหมู่บ้าน ในช่วงเวลาที่มีการโจมตีด้วยระเบิดถังน้ำมันที่ข้างในบรรจุสารเคมีพิษ นอกจากนี้ มีถึง 29 คน ได้กลิ่นแก๊สอย่างรุนแรงหลังจากระเบิดกระแทกกับพื้น ซึ่งน่าจะเป็นแก๊สคลอรีน

อย่างไรก็ตาม แก๊สคลอรีน ไม่ได้ถูกจัดให้เป็นอาวุธเคมี และ 8 ชาติสมาชิกของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ รวมทั้งสหรัฐ ระบุว่า มติปี 2556 แจ้งว่า การใช้อาวุธเคมีถือเป็นภัยคุกคามต่อสันติภาพและเสถียรภาพของนานาชาติ ซึ่งสมควรต้องถูกประณาม ก่อนหน้านี้ นายเฟย์ซาล เม็กดัด รัฐมนตรีช่วยต่างประเทศซีเรียบอกว่า รัฐบาลซีเรียไม่เคยใช้อาวุธเคมีหรือแก๊สคลอรีน ในระหว่างสงครามกลางเมืองที่ดำเนินมา 4 ปี

เดลินิวส์ วันพุธ 7 มกราคม 2558 เวลา 09:33 น.

สหรัฐประณามลิเบียทิ้งระเบิดโจมตีเรือบรรทุกน้ำมัน​

​

ทางการสหรัฐแถลงประณามลิเบีย ส่งเครื่องบินทิ้งระเบิดโจมตีเรือบรรทุกน้ำมัน หลังเรือดังกล่าวไม่ยอมหยุดให้ตรวจสอบสินค้า

สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานจากกรุงวอชิงตันประเทศสหรัฐ เมื่อวันที่ 7 ม.ค.ว่า น.ส.เจนซากี โฆษกกระทรวงต่างประเทศสหรัฐ แถลงประณามเครื่องบินรบลิเบียทิ้งระเบิดโจมตีเรือบรรทุกน้ำมันลำหนึ่ง นอกเมืองท่าเดอร์นาเขตควบคุมของกลุ่มติดอาวุธ ส่งผลให้ลูกเรือสองคนชาวกรีกและชาวโรมาเนียเสียชีวิต

โดยเรืออราเอโวที่ขึ้นทะเบียนในไลบีเรีย ถูกโจมตีเมื่อวันอาทิตย์หลังเรือดังกล่าวไม่ยอมให้ตรวจสอบสินค้า ทำให้รัฐบาลสหรัฐประณามการโจมตีเรือบรรทุกน้ำมันดังกล่าว เมื่อวันที่ 4 ม.ค.ที่ผ่านมา ทั้งนี้สถานการณ์รุนแรงต่อผลประโยชน์ทางธุรกิจของพลเรือนในลิเบีย ขยายตัวมากขึ้นอันมีสาเหตุมาจากความขัดแย้งทางการเมืองในประเทศ

นับเป็นเวลากว่า 3 ปี หลังพ.อ.โมอัมมาร์กัดดาฟี อดีตผู้นำลิเบียถูกโค่นอำนาจและเสียชีวิต ประเทศลิเบียตกอยู่ในความวุ่นวาย บ้านเมืองเต็มไปด้วยอาวุธและกลุ่มหัวรุนแรงแย่งชิงอำนาจ รวมทั้งรัฐบาลและรัฐสภาแตกแยก ความรุนแรงเหล่านี้ล้วนคุกคามต่อความเป็นเอกภาพและเสถียรภาพ ตลอดจนสถาบันอิสระต่างๆ รวมทั้งบริษัทน้ำมันแห่งชาติ อย่างไรก็ตาม สหรัฐยังคงทำงานกับประชาคมโลก เพื่อช่วยเหลือชาวลิเบียในการตั้งรัฐบาลแห่งชาติ

เดลินิวส์ วันพุธ 7 มกราคม 2558 เวลา 10:40 น.

ออสเตรเลียคุมไฟป่าได้เกือบหมดแล้ว​

​

หน่วยดับเพลิงออสเตรเลียระบุ ควบคุมไฟป่าได้ถึงร้อยละ 85 แต่ยังหวั่นว่า คลื่นความร้อนจะทำให้ไฟป่าปะทุอีก

สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานจากเมืองแอดิเลดรัฐเซาท์ออสเตรเลียประเทศออสเตรเลีย เมื่อวันที่ 7 ม.ค.ว่า ทางการออสเตรเลียอ้างควบคุมไฟป่าในทางใต้ของประเทศได้เป็นส่วนใหญ่ แต่ยังคงเฝ้าระวังไฟป่าปะทุขึ้นมาอีก เนื่องจากคลื่นความร้อนจะทำให้อุณหภูมิสูงขึ้น

หน่วยดับเพลิงประจำรัฐเซาท์ออสเตรเลียรายงานว่า ตอนนี้เจ้าหน้าที่ควบคุมไฟป่าในบริเวณแอดิเลดฮิลล์ได้แล้ว ร้อยละ85 ของพื้นที่ แต่คาดว่าอุณหภูมิจะเพิ่มขึ้นเป็น 38 องศาเซลเซียส นายสกอต เทอร์เนอร์ เจ้าหน้าที่ดับเพลิงบอกว่า ตอนนี้เราควบคุมได้เกือบหมด แต่ยังมีความเสี่ยงที่ไฟป่าอาจปะทุขึ้นมาอีกในบางพื้นที่ที่ยังไม่ไหม้ ทั้งนี้ นักดับเพลิงราว 500 คน เข้าจัดการไฟป่าที่เผาทำลายพื้นที่ป่าไม้และเพาะปลูก 77,220 ไร่ ในเมาน์ทลอฟตี้ เรนจ์ ทางตะวันออกของเมืองแอดิเลด อย่างไรก็ตามไฟป่าเผาทำลายและสร้างความเสียหายแก่อาคารราว 167 หลัง รวมทั้งบ้าน 38 หลัง นับตั้งแต่ไฟป่าเริ่มปะทุเมื่อวันศุกร์ที่แล้ว

นายเทอร์เนอร์กล่าวทิ้งท้ายว่า เจ้าหน้าที่ดับเพลิงได้ระดมเครื่องมือเพิ่มขึ้นอีก รวมทั้งเครื่องบินทิ้งสารหน่วงไฟ ก่อนที่อุณหภูมิสูงขึ้นและการเปลี่ยนแปลงของกระแสลม

เดลินิวส์ วันพุธ 7 มกราคม 2558 เวลา 12:48 น.

ที่มา http://www.dailynews.co.th/

 

Thailand Outdoor​

 

Thailand Outdoor​

 

แผ่นดินไหว 6.6 แมกนิจูด นอกชายฝั่งปานามา​

​

เกิดเหตุแผ่นดินไหวขนาด 6.6 แมกนิจูด นอกชายฝั่งประเทศปานามา ในมหาสมุทรแปซิฟิก เมื่อกลางดึกที่ผ่านมา เบื้องต้นยังไม่มีรายงานความเสียหายและเตือนภัยสึนามิ

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากนครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 7 ม.ค. ว่า สำนักงานสำรวจะรณีวิทยาสหรัฐ (ยูเอสจีเอส) รายงานเหตุแผ่นดินไหวขนาด 6.6 แมกนิจูด ในมหาสมุทรแปซิฟิก ของปานามา เมื่อเวลา 23.07 น. วันอังคาร ตามเวลาท้องถิ่น (11.07 วันพุธ ตามเวลาประเทศไทย) มีจุดศูนย์กลางแผ่นดินไหวอยู่ห่างออกไปทางตอนใต้ของเมืองปุนตา เดอ บูริกา ของปานามา ราว 245 กม. ใกล้พรมแดนประเทศคอสตาริกา และอยู่ลึกลงไป 33 กม.

เบื้องต้นยังไม่มีรายงานความเสีย และการแจ้งเตือนภัยคลื่นยักษ์สึนามิจากศูนย์เตือนภัยสึนามิแปซิฟิก โดยเมื่อช่วงต้นเดือน ธ.ค. ที่ผ่านมา เกิดแผ่นดินไหวขนาด 5.8 แมกนิจูดและ 6.6 แมกนิจูด ในพื้นที่เดียวกัน แต่ไม่มีความเสียหายรุนแรงหรือผู้ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์นั้น.

เดลินิวส์ วันพุธ 7 มกราคม 2558 เวลา 14:58 น.

แผ่นดินไหว 5.4 แมกนิจูด เขย่าตึกสูงไต้หวัน​

​

เกิดแผ่นดินไหว 5.4 แมกนิจูด ที่เมืองฮัวเหลียน เบื้องต้นไม่มีความเสียหายหรือการสูญเสียชีวิต แต่ทำให้ตึกหลายแห่งในกรุงไทเปสั่นไหว

สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานจากกรุงไทเปในไต้หวันเมื่อวันที่ 7 ม.ค.ว่า เมื่อเวลา 12.48 น.ตามเวลาท้องถิ่นของวันพุธหรือตรงกับ 11.48 น.ตามเวลาในไทย เกิดแผ่นดินไหว 5.4 แมกนิจูด ในพื้นที่ทางตะวันออกของไต้หวัน เบื้องต้นยังไม่มีรายงานความเสียหายหรือการสูญเสียชีวิต ศูนย์แผ่นดินไหวไต้หวันรายงานว่า แผ่นดินไหวดังกล่าวเกิดขึ้นแถบตะวันออกเฉียงเหนือของเมืองฮัวเหลียน เมืองชายฝั่งทางตะวันออกของไต้หวันและอยู่ลึกลงไป 22 กิโลเมตร รู้สึกถึงแรงสั่นสะเทือนไปทั่วเกาะไต้หวันรวมทั้งกรุงไทเปที่อยู่ห่างออกไปทางเหนือ 120 กิโลเมตร

แผ่นดินไหวครั้งนี้มีขึ้นหลังเกิดแผ่นดินไหวใต้ทะเลวัดได้ 5.5 แมกนิจูด ทางเหนือของไต้หวันเมื่อวันพุธที่แล้ว แต่ไม่มีรายงานความเสียหาย ทั้งนี้เกาะไต้หวันอยู่ใกล้จุดเชื่อมต่อของรอยเลื่อนเปลือกโลก 2 แผ่น ทำให้เกิดแผ่นดินไหวบ่อยครั้ง นอกจากนั้น เมื่อเดือน มิ.ย.ปี 2557 มีแผ่นดินไหวรุนแรงวัดได้ 6.3 แมกนิจูด คร่าชีวิตผู้คน 4 ศพ และทำให้ดินถล่มเป็นบริเวณกว้าง ส่วนเมื่อเดือน ก.ย.ปี 2542 แผ่นดินไหวรุนแรงระดับ 7.6 แมกนิจูด ถล่มไต้หวัน ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตราว 2,400 ศพ

เดลินิวส์ วันพุธ 7 มกราคม 2558 เวลา 13:43 น.

คาร์บอมบ์มหาวินาศ ถล่มเมืองหลวงเยเมนตายเกลื่อน​

​

คนร้ายวางระเบิดรถยนต์ ที่บริเวณด้านนอกของโรงเรียนนายร้อยตำรวจในกรุงซานาของเยเมน ทำให้มีผู้เสียชีวิตราว 33 ศพ บาดเจ็บกว่า 50 คน ส่วนที่โซมาเลีย กลุ่มติดอาวุธอัลชาบับยิงทิ้งชายสี่คนที่ถูกกล่าวหาเป็นสายลับให้สหรัฐ

สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานจากกรุงซานาประเทศเยเมน เมื่อวันที่ 7 ม.ค.ว่า เกิดเหตุระเบิดรถยนต์ที่ด้านนอกของโรงเรียนนายร้อยตำรวจ ในเมืองหลวงเยเมนเมื่อเช้าวันพุธตามเวลาท้องถิ่น คร่าชีวิตผู้คนราว 33 ศพ และบาดเจ็บกว่า 50 ราย ตอกย้ำให้เห็นว่า การรักษาความมั่นคงของเยเมนเสื่อมถอยลงไปทุกที และภัยคุกคามของเครือข่ายก่อการร้ายอัลกออิดะห์ ทวีความรุนแรงมากขึ้น โดยเหยื่อส่วนใหญ่เป็นนักเรียนนายร้อยตำรวจ และผู้ที่มาเข้าแถวสมัครเรียนตลอดจนผู้สัญจรไปมา

ผู้เห็นเหตุการณ์บอกว่า รถพยาบาลฉุกเฉินหลายคันวิ่งเข้ามารับผู้บาดเจ็บและผู้เสียชีวิตไปโรงพยาบาล เนื่องจากมีศพผู้เสียชีวิตจำนวนมากตายเกลื่อนพื้นถนน เหตุระเบิดครั้งนี้เสียงดังสนั่นหวั่นไหว จนได้ยินไปทั่วเมืองและเกิดกลุ่มควันดำขนาดใหญ่ พวยพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้าเหนือโรงเรียนนายร้อยตำรวจ อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีกลุ่มใดอ้างความรับผิดชอบ แต่ในช่วงที่ผ่านมากลุ่มอัลกออิดะห์แห่งคาบสมุทรอารเบีย (เอคิวเอพี) มักอ้างอยู่เบื้องหลังการโจมตี

ส่วนที่โซมาเลีย กลุ่มติดอาวุธอัลชาบับได้ประหารชีวิตชาย 4 คน ด้วยการยิงเป้าโดยชายเหล่านี้ถูกกล่าวหาว่าเป็นสายลับให้สหรัฐ เอธิโอเปีย และรัฐบาลโซมาเลีย ที่ได้รับการหนุนหลังจากนานาชาติ ซึ่งหนึ่งในนั้นทำงานให้แก่สำนักงานข่าวกรองกลางสหรัฐ (ซีไอเอ) จนนำไปสู่การสังหารผู้บัญชาการกลุ่มอัล-ชาบับ

การยิงเป้าทั้ง 4 คน เกิดขึ้นที่เมืองบาร์เธเร ฐานที่มั่นของกลุ่มอัลชาบับในภูมิภาคเกโด ทางตะวันตกเฉียงใต้ของโซมาเลีย และมีขึ้นเพียงสัปดาห์เดียวหลังจากสหรัฐระบุว่า ได้สังหารหัวหน้าข่าวกรองของกลุ่มก่อการร้ายอัลกออิดะห์

เดลินิวส์ วันพุธ 7 มกราคม 2558 เวลา 15:16 น.

หิมะถล่มทั่วตะวันออกกลาง​

​

พายุหิมะถล่มหลายพื้นที่ในตะวันออกกลาง ส่งผลกระทบอย่างหนักต่อผู้ลี้ภัยชาวซีเรียหลายหมื่นคนในเลบานอน

สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานจากเมืองอันจาร์ประเทศเลบานอน เมื่อวันที่ 7 ม.ค.ว่าเกิดหิมะตกทั่วตะวันออกกลางเมื่อวันพุธขณะที่ พายุฤดูหนาวกำลังแรงแผ่ปกคลุมทั่วภูมิภาค บีบให้ผู้ลี้ภัยชาวซีเรียหลายหมื่นคน ซึ่งหลบหนีภัยสงครามกลางเมืองในประเทศ ต้องไปรวมตัวกันเพื่อสร้างความอบอุ่นในค่ายผู้ลี้ภัย ที่อาศัยอยู่ในเต้นท์และที่พักพิงชั่วคราวในเขตเบกา โดยพายุครั้งนี้ทำให้เกิดฝนและลูกเห็บตกหนักบริเวณชายฝั่งเลบานอน และหิมะตกหนักในบริเวณเทือกเขาและหุบเขาเบกา ตอนกลางของประเทศซึ่งทั้งสถานีแก็ส,ธนาคาร,โรงเรียนและร้านค้าส่วนใหญ่ต่างปิดให้บริการ

ส่วนในพื้นที่อื่นๆ เจ้าหน้าที่รัฐบาลปาเลสไตน์ในเขตเวสต์แบงก์ และฉนวนกาซาประกาศภาวะฉุกเฉิน กรณีพายุดังกล่าวซึ่งมีเด็กทารกชาวปาเลสไตน์วัย 8 เดือน ในค่ายผู้ลี้ภัยตุลคาเรมเสียชีวิตจากเหตุการณ์ไฟไหม้ อันเนื่องมาจากครอบครัวจุดไฟในเตาเพื่อคลายความหนาวเหน็บ นอกจากนี้ ยังมีหิมะตกหนักในที่ราบสูงโกรัน และภาคเหนือของอิสราเอล โรงเรียนทั่วกรุงเยรูซาเลมปิดทำการเรียนการสอน ก่อนที่สำนักงานพยากรณ์อากาศจะเตือนว่าจะมีหิมะตกหนักสูง 10 นิ้ว

ในซีเรียหิมะตกปกคลุมเขตเทือกเขาคัสซิอุน ซึ่งมองเห็นกรุงดามัสกัสทำให้การจราจรในเมืองหลวงเกือบเป็นอัมพาต และกระตุ้นให้กระทรวงศึกษาธิการปิดโรงเรียนและมหาวิทยาลัยเป็นเวลา 2 วัน

เดลินิวส์ วันพุธ 7 มกราคม 2558 เวลา 20:24 น.

ช็อกโลก!บุกยิงถล่ม นสพ.ดังฝรั่งเศสดับ 12 ศพ​

​

ช็อกโลก!บุกยิงถล่ม นสพ.ดังฝรั่งเศสดับ 12 ศพ

สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานจากกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศสเมื่อวันที่ 7 ม.ค.ว่าเครือข่ายโทรทัศน์ฝรั่งเศสไอเทเล รายงานว่า คนร้ายอย่างน้อย 3 คน ซึ่งสวมหมวกคลุมศีรษะ พร้อมอาวุธครบมือ ทั้งปืนกลมืออาก้า และเครื่องยิงจรวดอาร์พีจี บุกยิงถล่มสำนักงานหนังสือพิมพ์ชาร์ลีเอบโด ซึ่งเป็นหนังสือพิมพ์แนวเสียดสีรายสัปดาห์ของฝรั่งเศส ในใจกลางกรุงปารีส ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 12 ศพ และบาดเจ็บ 10 คน ซึ่งในจำนวนนี้อาการสาหัส 5 คน โดยในอดีตที่ผ่านมาหนังสือพิมพ์ฉบับนี้ เคยเผยแพร่การ์ตูนล้อเลียนพระศาสดามูฮัมหมัดของศาสนาอิสลาม ในเดือน พ.ย.2554 ซึ่งก็ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักและล่าสุด หนังสือพิมพ์ชาร์ลีเอบโด เพิ่งทวิตการ์ตูนล้อเรียนนายอาบูบาเคอร์ อัล-แบกดาดี ผู้นำกลุ่มหัวรุนแรงไอเอส

ผู้เห็นเหตุการณ์หลายรายเผยว่า มีเสียงปืนดังสนั่นหวั่นไหวขึ้นในอาคารสำนักงานของหนังสือพิมพ์ดังกล่าว ขณะที่คนร้ายบุกเข้าไปในอาคารพร้อมอาวุธสงคราม และเปิดฉากยิงสังหารหมู่ผู้คนไม่เลือกหน้า พร้อมตะโกนคำว่า “แก้แค้นให้พระศาสดา” และยิงปะทะกับกองกำลังรักษาความมั่นคงด้วย ซึ่งผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส มีเจ้าหน้าที่ตำรวจด้วยหนึ่งนาย อย่างไรก็ตามสิ้นเสียงปืน คนร้ายหลบหนีออกจากตัวอาคารไปได้ลอยนวล ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจปฏิบัติการไล่ล่าคนร้ายครั้งใหญ่ทั่วกรุงปารีส แหล่งข่าวระบุว่า ระหว่างการหลบหนีมือปืน ได้ปล้นเอารถยนต์คันหนึ่ง และพุ่งชนคนเดินถนนคนหนึ่งล้มลงก่อนขับรถด้วยความเร็วหลบหนีไป

ด้านประธานาธิบดีฟรองซัวส์ออลลองด์ ผู้นำฝรั่งเศสรีบเร่งเดินทางถึงที่เกิดเหตุ และเรียกประชุมคณะรัฐมนตรีฉุกเฉิน พร้อมให้สัมภาษณ์ว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เป็นการก่อการร้ายอย่างไม่ต้องสงสัย เพราะก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่สามารถสกัดการก่อการร้ายได้หลายครั้ง ในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ขณะที่ทางรัฐบาลได้เพิ่มระดับการเตือนภัยขั้นสูงสุด ทั่วพื้นที่กรุงปารีส

ขณะที่นายเสข วรรณเมธี อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวถึงเหตุการณ์ดังกล่าว ทางกระทรวงฯได้ประสานกับเจ้าหน้าที่สถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส เบื้องต้นแล้ว ซึ่งในตอนนี้ยังไม่มีรายงานว่าเหตุการณ์ดังกล่าว มีผลกระทบต่อคนไทยหรือชุมชนไทยในฝรั่งเศส สำหรับการประเมินสถานการณ์นั้นสถานเอกอัครราชทูตไทยฯ กำลังติดตามข้อมูลและการประเมินสถานการณ์ จากรัฐบาลฝรั่งเศสอย่างใกล้ชิด รวมถึงจะแจ้งให้กระทรวงฯทราบต่อไป

บรรดาผู้นำต่างชาติต่างส่งสาร แสดงความเสียใจและกล่าว ประณามต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยนายเดวิด คาเมรอน นายกรัฐมนตรีอังกฤษ กล่าวประณามว่า การโจมตีครั้งนี้เป็นเรื่องที่โหดร้ายป่าเถื่อนและน่ารังเกียจ อังกฤษพร้อมยืนเคียงข้างประชาชนชาวฝรั่งเศสทุกคน ขอต่อต้านการก่อการร้ายทุกรูปแบบ และขอยืนหยัดสนับสนุนเสรีภาพในการแสดงออกและประชาธิปไตย ส่วนนายสตีเฟน ฮาร์เปอร์ นายกรัฐมนตรีแคนาดา ได้แสดงความเสียใจไปยังครอบครัวของเหยื่อทุกคน เช่นเดียวกับทำเนียบขาวของสหรัฐที่ย้ำว่า พร้อมร่วมมือกับทางการฝรั่งเศสอย่างเต็มที่ในการสืบสวนและตามล่าหาตัวคนร้าย

ด้านนางอังเกลา แมร์เคิล นายกรัฐมนตรีเยอรมัน กล่าวว่า การกระทำอันน่ารังเกียจนี้ ไม่เพียงเป็นภัยต่อชีวิตของพลเมืองและความมั่นคงของฝรั่งเศสเท่านั้น แต่ยังคุกคามถึงเสรีภาพในการแสดงออกของสื่อ อันเป็นหลักสำคัญของสังคมเสรีประชาธิปไตย ซึ่งเป็นการกระทำที่ไม่สามารถหาเหตุผลใดมารองรับเพื่อสร้างความชอบธรรมได้ ขณะที่นายวลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย ออกแถลงการณ์แสดงความเสียใจและประณามเหตุการณ์ครั้งนี้ พร้อมระบุว่า การต่อสู้กับการก่อการร้ายจะประสบความสำเร็จไม่ได้เลย หากปราศจากความร่วมมือจากทุกฝ่าย

องค์กรทางศาสนาก็มีปฏิกิริยาต่อเรื่องนี้เช่นกัน โดยสภามุสลิมฝรั่งเศส (ซีเอฟซีเอ็ม) และองค์กรมุสลิมฝรั่งเศส (ยูโอไอเอฟ) ต่างออกแถลงการณ์ประณามต่อการกระทำที่รุนแรงป่าเถื่อน อันเป็นปฏิปักษ์ต่อประชาธิปไตย โดยย้ำจุดยืนขององค์กร ในการสนับสนุนเสรีภาพในการแสดงออกของสื่อมวลชน พร้อมเรียกร้องให้สังคมอย่าได้พาดพิงถึงศาสนา เพียงเพราะถูกคนร้ายนำไปแอบอ้างอย่างไม่เป็นธรรม นอกจากนี้ ยังขอให้สังคมมุสลิมช่วยกันเป็นหูเป็นตา เฝ้าระวังการยั่วยุจากผู้ไม่หวังดีที่มุ่งบิดเบือนเจตนารมณ์ของศาสนา ฝ่ายแรบไบฮาอิม คอร์เซีย ผู้นำศาสนายิวในฝรั่งเศส กล่าวว่า ในเวลานี้ชาวฝรั่งเศสควรแสดงถึงความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน เพื่อร่วมปกป้องเสรีภาพ โดยฝรั่งเศสนับเป็นประเทศที่มีพลเมืองชาวมุสลิมและชาวยิวอาศัยอยู่มากที่สุดในยุโรป

ขณะเดียวกัน นายเว็งซอง เปย์เรนย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสมาคมหนังสือพิมพ์และผู้ผลิตสื่อสิ่งพิมพ์โลก (WAN-IFRA) ได้ออกแถลงการณ์ ระบุว่า 'เราขอประณามการกระทำอันเลวร้ายนี้ และพร้อมจะอยู่เคียงข้างให้การสนับสนุนทีมงานของหนังสือพิมพ์ชาร์ลี เอบโดและเหล่าสื่อมวลชนในฝรั่งเศสต่อไป รวมถึงขอเรียกร้องความเป็นธรรมแก่เหยื่อทุกคนด้วย โดยเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในคราวนี้ และผู้สื่อข่าว 61 คน ที่ถูกสังหารในปีที่ผ่านมา เตือนให้เราตระหนักว่า การโจมตีในลักษณะนี้ กำลังพุ่งเป้าไปที่หัวใจสำคัญของเสรีภาพ ซึ่งเป็นสิ่งที่บรรดาสื่อมวลชนในฝรั่งเศสต่างร่วมปกป้อง การโจมตีครั้งนี้จึงไม่ใช่เพียงการต่อต้านสื่อ แต่ยังเป็นภัยคุกคามต่อสิ่งที่เป็นรากฐานของสังคม หวังว่าสิ่งนี้จะเป็นเสมือนสัญญาณเตือนให้เราทุกคน ลุกขึ้นมาต่อสู้กับความเกลียดชัง ที่กำลังบ่อนทำลายความเป็นประชาธิปไตยของเรา

ทั้งนี้ มีรายงานเพิ่มเติมว่า ในจำนวนผู้เสียชีวิต มี 4 ราย เป็นนักเขียนการ์ตูนที่มีชื่อเสียงของฝรั่งเศส โดยหนึ่งในนั้นทราบชื่อคือนายสเตฟาน ชาร์บอนนิเยร์ ซึ่งดำรงตำแหน่งบรรณาธิการบริหารของชาร์ลี เอบโด ด้วย.

เดลินิวส์ วันพุธ 7 มกราคม 2558 เวลา 23:42 น.

ที่มา http://www.dailynews.co.th/

 

การเตรียมตนเอง และจิตวิญญาณ​

เผยแพร่เมื่อ 8 ก.ค. 2012​

ถ่ายทอดคลื่นความคิดจากองค์จิตจักรวาล ครั้งที่ 140 (วันอาทิตย์ที่ 6 เมษายน 2551) เรื่อง "การเตรียมตนเอง และจิตวิญญาณเพื่อการผจญภัย (อีกครั้ง)" จำนวน 6 ตอน ณ ห้องทิพย์พิมาน โรงแรมมิโด สะพานควาย กทม.

 

จะอยู่รอดได้อย่างไรในวันสิ้นยุค​

[ame=http://www.youtube.com/watch?v=0axOZO2lRjo]YouTube[/ame]

[ame=http://www.youtube.com/watch?v=z2RPjDf2g0I]YouTube[/ame]

เผยแพร่เมื่อ 16 พ.ค. 2012​

ถ่ายทอดคลื่นความคิดจากองค์จิตจักรวาล ครั้งที่ 141 (อาทิตย์ที่ 11 พฤษภาคม 2551) เรื่อง "จะอยู่รอดได้อย่างไร ในวันสิ้นยุค" จำนวน 4 ตอน ณ ห้องเดอะสกาย โรงแรมเดอะแทรเวลเลอร์ ถนนรัชดา กรุงเทพฯ

 

แห่ถ่ายภาพปรากฎการณ์ "เมฆครึ่งฟ้า"​

​

แห่ถ่ายภาพปรากกฎการณ์ "เมฆครึ่งฟ้า"บนท้องฟ้าขอนแก่น ชี้แผ่เรียงรายเป็นผืนเดียวตัดกับขอบฟ้าสวยงาม เชื่อเป็นธรรมชาติที่หาดูยาก

เมื่อวันที่ 7 ม.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เป็นที่ฮือฮา และถูกแชร์ภาพไปอย่างแพร่หลาย สำหรับปรากฎการณ์ธรรมชาติที่เกิดขึ้นบนท้องฟ้าใน จ.ขอนแก่น มีลักษณะเป็นกลุ่มเมฆหนาทึบแผ่เรียงรายเป็นผืนเดียวกันตัดกับแสงอาทิตย์ และขอบฟ้า คล้ายแบ่งครึ่งกันระหว่างเมฆกับท้องฟ้าครอบคลุมทั้งจังหวัด กลายเป็นภาพสวยงามที่หาดูยาก ทำให้ผู้ที่พบเห็น และสัญจรไปมาในช่วงเช้าต่างหยิบมือถือสมาร์ทโฟนขึ้นมาถ่ายภาพ และแชร์ส่งต่อกัน โดยเชื่อว่าเป็นปรากฎการณ์ธรรมชาติที่นาน ๆ จะเกิดซักครั้ง มากกว่าจะเป็นเรื่องอาถรรพณ์ ซึ่งก่อนหน้านี้ก็เกิดขึ้นที่ จ.อุดรธานี และกรุงเทพฯมาแล้ว.

เดลินิวส์ วันพุธ 7 มกราคม 2558 เวลา 15:37 น.

เกษตรกรคลองจินดาเครียดน้ำเค็มหนุน​

​

รองอธิบดีกรมชลประทานลงพื้นที่อำเภอสามพราน หาทางแก้ปัญหาน้ำเค็มหนุนเข้าพื้นที่เกษตรกรรม พร้อมนำเครื่องผลักดันน้ำตั้งเพิ่ม 2 ตัว ขณะที่ชาวบ้านลงขัน 2 แสนบาท สร้างบิ๊กแบ๊คป้องน้ำเค็มไหลผ่านเพิ่ม

เมื่อวันที่ 8 ม.ค. นายสุเทพ น้อยไพโรจน์ รองอธิบดีกรมชลประทาน พร้อมคณะลงพื้นที่คลองจินดา ต.บางช้าง อ.สามพราน จ.นครปฐม ติดตามความคืบหน้าการแก้ปัญหาน้ำเค็มของเกษตรกร ซึ่งได้รับผลกระทบจากน้ำเค็ม ที่หนุนสูงกว่าเกณฑ์มาตรฐาน เข้าพื้นที่เกษตรกรรมไม่สามารถนำน้ำไปรดพืชผลทางการเกษตรได้ พร้อมกันนี้ได้สั่งการให้กรมชลประทาน ผันน้ำที่สำรองไว้จากลุ่มน้ำแม่กลอง เข้ามาช่วยเหลือเกษตรกรลุ่มน้ำท่าจีน อ.สามพราน จ.นครปฐม อ.บ้านแพ้ว และ อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร เพื่อป้องกันไม่ให้กล้วยไม้ ซึ่งเป็นพืชเศรษฐกิจที่สำคัญของไทย ได้รับความเสียหาย พร้อมกันนี้จะได้นำเครื่องผลักดันน้ำมาตั้งอีก 2 ตัว และเดินเครื่องสูบน้ำที่ล้นเข้ามา ให้ออกไปจากเขื่อนบิ๊กแบ็คที่ทำไว้ โดยอนาคตปากคลองจินดาแห่งนี้ มีแผนที่จะก่อสร้างประตูระบายน้ำพร้อมสถานีสูบน้ำถาวร ซึ่งจะช่วยแก้ไขปัญหาได้อย่างถาวร ช่วงนี้กรมชลประทานจะได้ส่งรถบรรทุกน้ำใช้หมุนเวียนไม่น้อยกว่าวันละ10 คัน ช่วยเหลือเกษตรกรให้มีน้ำเพียงพอแก่การใช้งานจนกว่าสถานการณ์จะดีขึ้น

ด้านนายเอนก น้อยพิทักษ์ นายก อบต.คลองใหม่ กล่าวว่าปัญหาน้ำเค็มที่หนุนเข้าพื้นที่การเกษตร ซึ่งได้มีการพูดคุยกันมากว่าครึ่งเดือน จนชาวบ้านรู้สึกไม่ไหวแล้ว หากปล่อยไว้เกษตรกรจะต้องเดือดร้อนมากกว่านี้ พืชสวนของเกษตรกรจะต้องเสียหาย จึงได้ลงขันกัน 2แสนบาท เพื่อทำบิ๊กแบ๊คปิดคลองจินดา โดยได้รับการสนับสนุนจากพล.ต.ชาติชาย อ่อนน่วม เจ้ากรมการสัตว์ทหารบก ส่งทหารเข้ามาช่วยชาวบ้าน ปิดกั้นคลอง ตั้งแต่เริ่มแรกจนสำเร็จและในวันพรุ่งนี้ จะนำผ้าใบผืนใหญ่ มาปิดทับบิ๊กแบ็คอีกชั้น เพื่อไม่ให้น้ำเค็มไหลผ่านเข้าไปเพิ่มในพื้นที่ ช่วงเวลาที่น้ำลงก็จะเปิดให้น้ำด้านในไหลออก แต่ช่วงน้ำขึ้นก็จะปิดและอาจจะนำเครื่องสูบไล่น้ำเค็มเพิ่ม คาดจะต้องใช้งานไปถึงเดือนเมษายนหรือจนกว่าจะเข้าสู่ภาวะปกติ

เดลินิวส์ วันพฤหัสบดี 8 มกราคม 2558 เวลา 18:41 น.

ชี้ เหนือ-อีสานบน เฝ้าระวังลูกเห็บตก​

​

กรมอุตุนิยมวิทยาเตือน ภาคเหนือและอีสานตอนบน ต้องเฝ้าระวังลูกเห็บตก หลังความกดอากาศสูงจากจีนจะทำให้ไทยแปรปรวน

เมื่อวันที่ 8 ม.ค. กรมอุตุนิยมวิทยา ได้ออกประกาศเตือนภัยลักษณะอากาศอากาศแปรปรวนบริเวณประเทศไทยตอนบน ฉบับที่ 8 ระบุว่า บริเวณความกดอากาศสูงกำลังค่อนข้างแรงจากประเทศจีนได้แผ่ปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทยแล้ว และจะแผ่ปกคลุมประเทศไทยตอนบนถึงวันที่ 11 ม.ค.58 ประกอบกับจะมีคลื่นกระแสลมตะวันตกเคลื่อนที่ผ่านภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณประเทศไทยตอนบนมีลักษณะอากาศแปรปรวน โดยเฉพาะบริเวณภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน

ในระยะแรกจะมีพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และอาจมีลูกเห็บตกได้บางแห่ง หลังจากนั้นอุณหภูมิจะลดลงได้ 6-8 องศาเซลเซียส ทำให้มีอากาศหนาวเย็นโดยทั่วไป สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมภาคใต้ และอ่าวไทย จะมีกำลังแรงขึ้น ทำให้บริเวณภาคใต้ตอนล่างมีฝนเพิ่มมากขึ้น ส่วนบริเวณอ่าวไทยตอนล่างตั้งแต่จังหวัดนครศรีธรรมราชลงไป ทะเลมีคลื่นสูง 2-3 เมตร

สำหรับกรุงเทพฯ และปริมณฑล มีเมฆเป็นส่วนมากกับมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 21-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-35 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม.

เดลินิวส์ วันพฤหัสบดี 8 มกราคม 2558 เวลา 06:29 น.

เคลียร์ปัญหาไม่จบ! ขู่ปิดเขาคิฌชกูฏไม่ให้จัดงานบุญ​

​

ทหาร-ตำรวจคุมเข้มหวั่นนองเลือด!ชิงเขาพระบาทเมืองจันท์

เมื่อเวลา 15.30 น.วันที่ 7 ม.ค.นายนิพนธ์ โชติบาล อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุพืช กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวถึงกรณีปัญหาความขัดแย้งเรื่องการจัดงานนมัสการรอยพระพุทธบาทพลวง ในเขตอุทยานฯ เขาคิฌชกูฏ อ.เขาคิฌชกูฏ จ.จันทบุรีว่า เรื่องนี้ทางจังหวัด และกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) และเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้าไปดูแลอยู่ร่วมกับเจ้าหน้าที่อุทยานฯ ซึ่งทางกรมได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่ในพื้นที่ดูแลอย่างใกล้ชิดซึ่งปัญหาความขัดแย้งที่เกิดขึ้นหน่วยงานในพื้นที่ต้องพูดคุยกันว่าจะดำเนินการอย่างไร

“ทางกรมอุทยานฯ ดูอยู่ว่าถ้ามีปัญหามาก เราก็จะไม่อนุญาตให้จัดงานในพื้นที่อุทยานฯเขาคิฌชกูฎ เพราะที่ผ่านมามีคนขึ้นไปนมัสการรอยพระพุทธบาทปีละเป็นล้านคน ซึ่งทางกรมอุทยานฯ ยกเว้นค่าธรรมเนียมให้มาโดยตลอด กรมอุทยานฯไม่ได้อะไร เพราะถือว่าเป็นการทำบุญ เป็นงานเทศกาลประจำปี และเป็นประเพณีของจังหวัด แต่ก็มีในเรื่องพื้นที่ธรรมชาติที่ทุกฝ่ายต้องร่วมกันดูแล อย่างไรก็ตามเวลานี้ต้องให้ทางจังหวัดกับทหารเป็นหลักในการพูดคุยกับคณะผู้ จัดงานแต่ละฝ่ายให้รู้เรื่อง แต่หากคุยไม่รู้เรื่องทางจังหวัดคงเสนอเรื่องมาที่กรมอุทยานฯ ให้เราพิจารณาต่อไป กรณีที่เกิดขึ้นเราไม่อยากยุ่ง แต่บังเอิญว่าพื้นที่จัดงานอยู่ในเขตอุทยานฯ”

โดยก่อนหน้าที่ช่วงเช้าวันเดียวกัน ที่บริเวณวัดพลวง อ.เขาคิฌชกูฏ จ.จันทบุรี พระปลัด ฐาวะโร เจ้าคณะตำบลวัดทุ่งขนานและเจ้าอาวาสวัดทรัพย์ตาพุต พร้อมคณะสงฆ์ จาก 8 วัด ซึ่งเป็นกรรมการจัดงานนมัสการรอยพระพุทธบาทพลวง ประจำปี 2558 นำชาวบ้านในพื้นที่ตลอดจนประชาชนผู้มีจิตศรัทธาที่จะเข้าร่วมบวชชีพราหมณ์ รักษาศีล ช่วงเทศกาลรอยพระพุทธบาทกว่า 1,000 คน จากทั่วสารทิศชุมนุมคัดค้านสมาคมแห่งหนึ่ง และวัดกระทิงที่ขึ้นไปจัดงานบวชชีพราหมณ์ และจัดเตรียมสถานที่จัดงานนมัสการรอยพระพุทธบาทพลวง โดยไม่ได้รับการอนุญาตจากกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ทำให้คณะสงฆ์ซึ่งเป็นคณะกรรมการจัดงานที่ได้รับสิทธิการอนุญาตจากกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ซึ่งเป็นผู้จัดงานนมัสการรอยพระพุทธบาทประจำปี 58 ไม่สามารถนำคณะสงฆ์ และเจ้าหน้าที่ขึ้นไปดำเนินการจัดเตรียมสถานที่ได้

ขณะเดียวกัน น.ท.วิชณุ จันศิริรัตน์หัวหน้าชุดควบคุมทหารเรือที่ 7พร้อม นายนุกูลกิจ วิชกูล อุทยานแห่งชาติเขาคิชฌกูฏ กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ได้นำเจ้าหน้าที่ฝ่ายทหาร ตำรวจ และฝ่ายปกครองลงพื้นที่ชี้แจงทำความเข้าใจพร้อมขอร้องให้ลงจากยอดเขา เนื่องจากเลยกำหนดเวลาที่ได้ขออนุญาตไว้กับอุทยานฯแล้ว ซึ่งหากเจ้าหน้าที่อนุญาตให้อยู่ต่อจนถึงวันที่ 9 ม.ค. จะนำไปสู่การร้องขอขึ้นมาปฏิบัติธรรมของวัดพลวงเช่นกัน จึงไม่อยากให้เกิดการปะทะของทั้ง 2 ฝ่าย แต่จากการพูดคุย ผู้ปฏิบัติธรรมยืนยันที่จะอยู่ปฏิบัติธรรมบนยอดเขาต่อไป ทางเจ้าหน้าที่จึงอนุญาตให้อยู่ต่อจนครบกำหนด โดยตั้งเงื่อนไขว่าต้องยอมให้อีกฝ่ายขึ้นมาปฏิบัติธรรมบนยอดเขาด้วย และต้องอยู่ร่วมกันอย่างสงบในความควบคุมดูแลของเจ้าหน้าที่อย่างเข้มงวด เพื่อป้องกันการเผชิญหน้าของทั้ง 2 ฝ่าย

จากนั้น น.ท.วิชณุ และนายนุกูลกิจ จึงลงมาชี้แจงทำความเข้าใจกับคณะเจ้าหน้าที่ของวัดพลวง พร้อมทั้งอนุญาตให้คณะสงฆ์ และเจ้าหน้าที่ตลอดจนประชาชนผู้เลื่อมใสศรัทธาที่จะเข้าร่วมบวชชีพราหมณ์ขึ้นไปดำเนินงาน และปฏิบัติธรรมบนยอดเขาพระบาทได้ โดยเน้นย้ำให้เป็นการปฏิบัติธรรม เพื่อสืบทอดประเพณีที่สืบต่อกันมาอย่างแท้จริง ส่วนการตกลงเจรจาเพื่อยุติธรรมหาความขัดแย้งที่เกิดขึ้นของทั้งสองฝ่ายในเรื่องการจัดงานนมัสการรอยพระบาทพลวงที่เขาคิชฌกูฏ ที่กำหนดจัดขึ้นในวันที่ 19 ม.ค.- 19 มี.ค. อยู่ในช่วงเจรจาหาข้อสรุปว่า ควรเป็นไปในทิศทางใดและใครจะเป็นผู้รับผิดชอบเพื่อความตรึงเครียดของสถานการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมกันนี้เจ้าหน้าที่ฝ่ายทหารร่วมกับเจ้าหน้าที่ป่าไม้และ อส. ได้ตรวจเข้มค้นอาวุธในรถทุกคันตลอดจนเจ้าหน้าที่และประชาชนที่จะขึ้นไปบนยอดเข้าพระบาท เพื่อป้องกันเหตุการณ์รุนแรงที่อาจเกิดขึ้นได้.

เดลินิวส์ วันพุธ 7 มกราคม 2558 เวลา 21:54 น.

น้ำมันเถื่อนพ่นพิษรถพังเข้าอู่เพียบ​

​

น้ำมันเถื่อนพ่นพิษรถพังเข้าอู่เพียบ

จากกรณีที่ จ.สงขลา มีการลักลอบซื้อขายน้ำมันเถื่อนตามริมถนนสายหลักสายรองเต็มไปหมด ซึ่งพ่อค้าแม่ค้าได้นำน้ำมันเถื่อนจากประเทศเพื่อนบ้านมาบรรจุใส่แกลลอนขนาด 5, 10 และ 20 ลิตร มาวางจำหน่ายทั้งดีเซลและเบนซิน โดยรถยนต์ที่ผ่านสัญจรไปมาก็แห่กันเข้าไปซื้อ เนื่องจากน้ำมันเบนซินปรับลดราคาลงมาเหลือลิตรละ 28 บาท ดีเซลลิตรละ 25 บาท หลังรัฐบาลปรับราคาเบนซินลงมาเหลือลิตรละ 29 บาทเศษ และดีเซล 26 บาท พ่อค้าแม่ค้าน้ำมันเถื่อนจึงต้องปรับราคาลงบ้างเช่นกัน เพื่อหวังสู้ราคากับของรัฐอย่างเปิดเผย ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วน้ัน

ความคืบหน้าเกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 7 ม.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากมีข่าวปรากฎทำให้ทั้งรถเล็กรถใหญ่ต่างทยอยกันไปเติมหรือซื้อหาน้ำมันเถื่อนตลอดทั้งวันจนกลายเป็นที่นิยมไปแล้ว เพราะราคาถูกกว่าน้ำมันถูกกฎหมายอย่างเห็นได้ชัด อย่างไรก็ตามถึงแม้จะราคาถูก แต่ก็ส่งผลเสียหายมากตามไปด้วย โดยนายวรเชษฐ์โดนทิง เจ้าของอู่รุ่งเรืองเซอร์วิส อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา เปิดเผยว่า ตอนนี้มีรถยนต์ที่เติมน้ำมันเถื่อนเข้ามาให้ซ่อมจำนวนมาก ส่วนใหญ่มีปัญหาเรื่องระบบหัวฉีดอุดตันน้ำมันในถัง และไส้กรองดีเซลก็กลายเป็นสีดำเหนียว เหมือนเวลาถ่ายน้ำมันเครื่องที่ใช้มานานๆ ยืนยันว่าน้ำมันเถื่อนทำลายสภาพรถแน่นอน เพราะมันมีสารปลอมปน แม้จะถูกกว่าแต่ไม่คุ้มแน่ ซื้อเติมไม่กี่บาท แต่เวลาซ่อมถึงขั้นแตะหลักหมื่น สังเกตุง่ายๆก่อนที่หัวฉีดจะพัง ควันรถจะดำมาก เพราะระบบไม่จ่ายน้ำมันเป็นละอองและเผาไม่หมด โดยเฉพาะรถรุ่นใหม่ ๆ เสี่ยงวาล์วพังง่ายด้วย

ขณะดียวกันผู้ค้าน้ำมันเถื่อนรายหนึ่ง กล่าวว่า น้ำมันเถื่อนส่วนใหญ่ที่นำมาวางขายตามริมถนนจะมีการผสมสารโซเวนท์ (สารละลายหรือตัวทำละลาย) เข้าไปทำให้ได้กำไรมากขึ้น สังเกตุได้ว่าน้ำมันเถื่อนที่วางขายแต่ละเจ้า สีของน้ำมันจะอ่อนและแก่ไม่เท่ากัน ซึ่งหมายถึงการผสมสารโซเวนท์มากน้อยแค่ไหนซึ่งหากผสมสารโซเวนท์มากก็จะยิ่งส่งผลกระทบโดยตรงต่อเครื่องยนต์แน่นอน.

เดลินิวส์ วันพุธ 7 มกราคม 2558 เวลา 18:29 น.

ที่มา http://www.dailynews.co.th/

 

รถจักรยานไฟฟ้า​

 

Thaikid ลูกหมุนผลิตกระแสไฟฟ้า​

เผยแพร่เมื่อ 14 ก.ย. 2013​

รายการมุสลิมไทม์ ช่วงไทยคิด (Thai Think) ออกอากาศทางช่อง ททบ. 5 ได้สัมภาษณ์ นาย ระพี บุญบุตร ผู้ร่วมประดิษฐ์คิดค้น ลูกหมุนระบายอากาศผลิตกระแสไฟฟ้าตัวแรกของ­ประเทศไทย ถึงความเป็นมาในการประดิษฐ์, ประโยชน์ของพลังงานทดแทน และแนวคิดในการอนุรักษ์พลังงานครับ

 

เจเนอเรเตอร์ กังหันลม จากบัลลาสต์ขดลวด​

เผยแพร่เมื่อ 12 พ.ค. 2014​

แนวคิดในการประยุกต์ใช้บัลลาสต์ขดลวด เพื่อสร้างเจเนอเรเตอร์ กังหันลม โดย อ.นันท์ ภักดี การอบรมปฏิบัติการ หลักสูตรอาชีวะพลังงาน ๑๕ วัน รุ่นที่ ๑ วันที่ ๒๕ เมษายน ถึง ๑๐ พฤษภาคม ๒๕๕๗ ณ. โรงเรียนมีชัยพัฒนา อ.ลำปลายมาศ จ.บุรีรัมย์

 

แบตเตอรี่ : ความรู้พื้นฐาน​

เผยแพร่เมื่อ 28 ก.ค. 2014​

Battery : An Introduction ความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับแบตเตอรี่ โดย อ. นันท์ ภักดี การอบรมหลักสูตรอาชีวพลังงาน รุ่นที่ ๑ ระหว่างวันที่ ๒๕ เมษายน - ๑๐ พฤษภาคม ๒๕๕๗ ณ. โรงเรียนมีชัยพัฒนา อ.ลำปลายมาศ จ.บุรีรัมย์

 

GRID-TIE : แหล่งเรียนรู้ชุมชนตลอดชีวิต​

เผยแพร่เมื่อ 22 ก.ค. 2014​

ระบบไฟฟ้าจากพลังงานแสงแดด ภายในโรงเรียนมีชัยพัฒนา อ.ลำปลายมาศ จ.บุรีรัมย์ เป็นทั้งระบบไฟฟ้าที่ช่วยประหยัดค่าใช้จ่า­ย และ ยังเป็นสถานที่เรียนรู้ของชุมชนในบุรีรัมย­์ และ บุคคลที่สนใจอื่น ๆ ทั่วไป

 

ซีเรียขอความช่วยเหลือหิมะถล่ม​

​

กลุ่มฝ่ายต่อต้านรัฐบาลซีเรียที่มีชาติตะวันตกให้การหนุนหลัง ออกมาเรียกร้องให้ประชาคมโลก ให้ความช่วยเหลือกับผู้ลี้ภัยชาวซีเรียที่กำลังเผชิญกับคลื่นอากาศหนาวเย็น คร่าชีวิตไปแล้ว 5 ศพ

สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานจากเมืองอัล-มาร์จประเทศเลบานอน เมื่อวันที่ 9 ม.ค.ว่ากลุ่มฝ่ายต่อต้านรัฐบาลซีเรีย ที่มีชาติตะวันตกให้การหนุนหลังในชื่อกลุ่มพันธมิตรแห่งชาติซีเรีย โดยมีนายอาหมัด ทูมาทำหน้าที่รักษาการนายกรัฐมนตรีแถลงที่เมืองอิสตันบูลประเทศตุรกีว่า ขณะนี้ผู้ลี้ภัยชาวซีเรียกำลังประสบปัญหาขั้นเลวร้าย

อันเนื่องจากสภาพอากาศหนาวเย็น อุณหภูมิลดต่ำจนเกิดหิมะตกหนัก ประกอบกับการขาดแคลนเต็นท์ที่พักอาศัยสำหรับผู้ลี้ภัยชาวซีเรีย ทำให้ผู้ลี้ภัยชาวซีเรียในประเทศเลบานอนเสียชีวิตไปแล้ว 3 ศพ และอีก 2 ศพ ในเมืองอเลปโปทางเหนือของซีเรีย จึงเรียกร้องให้ประชาคมโลกให้ความช่วยเหลือกับผู้ลี้ภัยชาวซีเรียด้วย

คลื่นอากาศหนาวเย็น พัดผ่านพื้นที่ในภูมิภาคตะวันออกกลาง เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ส่งผลให้เสียงปืนจากการสู้รบในประเทศซีเรียสงบลง และ เครื่องบินรบฝ่ายรัฐบาลก็ไม่สามารถบินขึ้นได้ เพราะทัศนวิสัยเลว รักษาการนายกรัฐมนตรีของกลุ่มฝ่ายต่อต้านรัฐบาลซีเรีย กล่าวอีกว่า ในช่วง 2 เดือน ที่ผ่านมามีชาวซีเรียราว 2,000 ครอบครัว อพยพออกจากบ้านเรือนที่อาศัย เพราะสถานการณ์สู้รบและเหตุรุนแรง และอีก 800 ครอบครัว ไร้ที่อยู่อาศัย

เดลินิวส์ วันศุกร์ 9 มกราคม 2558 เวลา 00:49 น.

อากาศหนาวจัด โรงเรียนมะกันปิดการเรียนการสอน​

​

โรงเรียนในนครชิคาโก บอสตัน และเมืองใหญ่หลายเมืองของสหรัฐ ประกาศหยุดเรียน หลังอุณหภูมิในพื้นที่ภาคกลางและภาคตะวันออกของประเทศ ลดลงต่ำกว่าจุดเยือกแข็งติดต่อกันเป็นวันที่ 3

สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานจากนครชิคาโก ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 8 ม.ค.ว่า สำนักอุตุนิยมวิทยาแห่งชาติสหรัฐ รายงานสภาพอากาศว่า กระแสลมอาร์ติกจากแคนาดา ได้แผ่ลงมาปกคลุมพื้นที่ตอนกลาง เขตมิดแอตแลนติก และพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือของสหรัฐ ส่งผลให้พื้นที่หลายแห่งมีอุณหภูมิต่ำกว่า -23 องศาเซลเซียส ซึ่งต่ำกว่าจุดเยือกแข็งเป็นวันที่ 3

ทั้งนี้คาดว่าความกดอากาศสูง ที่พัดเอาความหนาวเย็นมา จะปกคลุมพื้นที่ต่ออีกเป็นเวลา 1-2 วัน ก่อนจะเคลื่อนตัวไปทางตะวันออก จากนั้นคลื่นความหนาวเย็นอีกระลอก จะแผ่เข้ามาปกคลุมพื้นที่รัฐภาคกลางตอนเหนือของสหรัฐอีกครั้งในช่วงสุดสัปดาห์

ขณะที่โรงเรียนประจำเมืองชิคาโก ซึ่งเป็นโรงเรียนท้องถิ่นที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 3 ของสหรัฐ รวมทั้งสถาบันการศึกษาเกือบ 800 แห่ง ทั้งในนครบอสตันและเมืองใหญ่หลายเมือง ได้ประกาศงดการเรียนการสอน หลังอุณหภูมิลดต่ำกว่าอุณหภูมิเฉลี่ยระหว่าง -2 ถึง -12 องศาเซลเซียส

เดลินิวส์ วันพฤหัสบดี 8 มกราคม 2558 เวลา 23:30 น.

ติดหัด 9 ราย เที่ยวสวนสนุกดิสนีย์รัฐแคลิฟอร์เนีย​

​

สหรัฐพบผู้ป่วย 9 ราย ติดโรคหัดในระหว่างเที่ยวสวนสนุกดิสนีย์ รัฐแคลิฟอร์เนีย แพทย์เตือนสงสัยติดเชื้อให้รีบมาพบด่วน

สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานจากเมืองซานตาอนา รัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐเมื่อวันที่ 8 ม.ค.ว่า เจ้าหน้าที่สาธารณสุขของรัฐแคลิฟอร์เนียในสหรัฐเปิดเผยว่า ชาวรัฐแคลิฟอร์เนีย 7 คน และชาวรัฐยูทาห์ 2 คน ได้รับการยืนยันว่าเป็นโรคหัด ซึ่งน่าจะติดระหว่างการเดินทาง ไปเที่ยวสวนสนุกดิสนีย์ในรัฐแคลิฟอร์เนียเมื่อเดือนที่แล้ว นอกจากนี้ ยังมีชาวรัฐแคลิฟอร์เนียอีก 3 คน ต้องสงสัยติดเชื้อหัด แต่กรณีนี้ยังอยู่ในระหว่างการสอบสวน

เจ้าหน้าที่บอกว่า พวกเขาน่าจะได้รับเชื้อที่ลอยมาในอากาศที่บริเวณสวนสนุกดิสนีย์ อย่างไรก็ตาม ผู้ติดเชื้อจะป่วยเป็นเวลา 9 วัน และผู้ติดเชื้ออายุระหว่าง 8 เดือนถึง 21 ปี แต่ผู้ป่วย 7 คน มาจากสถานที่ต่างๆ 5 แห่งในรัฐ ด้านดร.รอนแชปแมน ผู้อำนวยการสาธารณสุขประจำรัฐแคลิฟอร์เนียบอกว่า หากคนใดสงสัยว่าตนเองติดเชื้อให้รีบพบแพทย์ อาการของโรคหัดคือเป็นไข้ ไอ มีน้ำมูก ตาแดงและผื่นคัน

เดลินิวส์ วันพฤหัสบดี 8 มกราคม 2558 เวลา 17:21 น.

ผู้รอดชีวิตเผยนาทีระทึกกราดยิงที่ "ชาร์ลี เอ็บโด"​

​

ผู้รอดชีวิตเผยนาทีระทึกกราดยิงที่ "ชาร์ลี เอ็บโด"

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส เมื่อวันที่ 9 ม.ค. ว่าช่วงเวลาที่ชายฉกรรจ์คนหนึ่ง สวมชุดสีดำและอำพรางใบหน้าจนเหลือให้เห็นเพียงดวงตา บุกเข้ามากลางที่ประชุมของกองบรรณาธิการหนังสือพิมพ์ "ชาร์ลี เอ็บโด" เมื่อวันพุธ ก่อนสาดกระสุนปืนใส่นักข่าวอย่างเลือดเย็นเป็นรายคน ด้วยเหตุผลคือต้องการ "แก้แค้น" ให้ "องค์ศาสดา" โลรองต์ เลเจอร์ เป็นหนึ่งในผู้สื่อข่าวเพียงไม่กี่คนที่รอดชีวิตจากเหตุการณ์ระทึกขวัญในวันนั้น

เลเจอร์ให้สัมภาษณ์กับสถานีวิทยุ "ฟรองซ์ เรดิโอ" เมื่อวันพฤหัสบดีว่า มือปืนร้องเรียกชื่อ "ชาร์บ" เป็นคนแรก ซึ่งเป็นนามปากกาของ สเตฟาน ชาร์บอนนิเยร์ บรรณาธิการใหญ่ผู้รับหน้าที่เขียนการ์ตูนด้วย ทันทีที่ทราบว่าชาร์บคือคนไหน คนร้ายระดมยิงปืนเข้าใส่บรรณาธิการวัย 47 ปี ของสำนักพิมพ์ล้มลงเสียชีวิตตรงหน้า

เลเจอร์กล่าวด้วยว่า เดิมทีหลายคนคิดว่าเป็นเรื่องล้อเล่นที่อาจจะแรงไปสักหน่อย ตามแบบฉบับการทำงานของสำนักพิมพ์ ซึ่งตีพิมพ์การ์ตูนเสียดสีบุคคลทุกชนชั้นในสังคมอยู่ทุกสัปดาห์ แต่เมื่อได้กลิ่นและเห็นเขม่าดินปืน ทุกคนเชื่อแล้วว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นคือ "เรื่องจริง" หลังจากนั้นมือปืนเรียกชื่อนักข่าวทีละคน ก่อนยิงเข้าใส่ไม่ยั้ง ทุกคนในที่นั้นพยายามหาที่หลบเพื่อเอาชีวิตรอด โดยเลเจอร์คลานเข้าไปซ่อนใต้โต๊ะตัวหนึ่ง

หลังจากนั้นความเงียบปกคลุมทั่วทั้งห้องเป็นเวลานาน จนกระทั่งเลเจอร์ได้ยินเสียงคนคุยกัน ทำให้รู้ว่า มีมือปืนเดินเข้ามาอีกคนหนึ่ง และกำลังตรวจดูว่ามีผู้รอดชีวิตหลงเหลืออยู่หรือไม่ แต่สภาพที่เกิดเหตุซึ่งไม่กว้างมากนักและเต็มไปด้วยสิ่งของวางระเกะระกะ มือปืนทั้งคู่จึงวิ่งหลบหนีออกไป เลเจอร์และผู้รอดชีวิตไม่กี่คนจึงรีบออกมาจากที่ซ่อนและพยายามช่วยเหลือผู้ที่ถูกยิงในห้องทั้ง 8 คน รวมเวลาเกิดเหตุเลเจอร์เชื่อว่าอยู่ที่ราว 5 นาทีเท่านั้น ขณะที่บริเวณเคาน์เตอร์เลเจอร์พบศพช่างประจำสำนักพิมพ์และรีเซ็ปชั่นนอนเสียชีวิตจมกองเลือดอยู่

ทั้งนี้ โศกนาฏกรรมที่เกิดขึ้นกับชาร์ลี เอ็บโด ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 12 ศพ และได้รับบาดเจ็บ 11 คน ในจำนวนนี้ 4 คนมีอาการสาหัส แม้ไม่ใช่ครั้งแรก เนื่องจากสำนักพิมพ์เคยถูกลอบวางเพลิงมาแล้วเมื่อเดือนพ.ย. 2554 ฐานปฏิเสธยกเลิกการตีพิมพ์การ์ตูนล้อเลียน "องค์ศาสดา" แต่เลเจอร์กล่าวว่า เหตุการณ์ครั้งนี้เลวร้าย และสร้างความหวาดกลัวให้กับทุกคนอย่างมาก

อย่างไรก็ตาม กองบรรณาธิการที่เหลือของชาร์ลี เอ็บโด ประกาศเมื่อวันพฤหัสบดี เรื่องการกลับมาตีพิมพ์ฉบับใหม่ออกวางจำหน่ายในสัปดาห์หน้า และจะเพิ่มเป็น 1 ล้านฉบับ จากปกติ 60,000 ฉบับต่อสัปดาห์ เลเจอร์กล่าวว่าเป็นเรื่อง "สำคัญ" ที่ชาร์ลี เอ็บโด ต้องเดินหน้าต่อไป เพื่อต่อสู้กับกลุ่มคนที่มีแนวคิดทางศาสนา "สุดโต่ง" จนงมงาย

เดลินิวส์ วันศุกร์ 9 มกราคม 2558 เวลา 14:00 น.

ที่มา http://www.dailynews.co.th/

 

วันหายนะโลก มนุษย์ต่างดาวเขาเตือนมา​

เผยแพร่เมื่อ 18 ส.ค. 2014​

 

กรมอุตุฯชี้เหนือ-อีสานตอนบน อากาศแปรปรวน​

​

กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์ประเทศไทยระบุ ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ลักษณะอากาศแปรปรวน มีฝนฟ้าคะนอง และลมกระโชกแรง แต่ยังมีอากาศหนาวเย็น ขณะที่ภาคใต้มีฝนตกกระจายบริเวณอ่าวไทยตอนล่าง ส่วนกทม.มีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนบางแห่ง

เมื่อวันที่ 10 ม.ค. กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์ลักษณะอากาศทั่วไปว่า บริเวณความกดอากาศสูงกำลังค่อนข้างแรงจากประเทศจีน ยังคงปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทย ประกอบกับในช่วงวันที่ 10-11 มกราคม 2558 คลื่นกระแสลมตะวันตกจะเคลื่อนผ่านภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณประเทศไทยตอนบนมีลักษณะอากาศแปรปรวน โดยจะมีฝนฟ้าคะนอง และลมกระโชกแรง โดยเฉพาะบริเวณภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน และอุณหภูมิจะลดลงได้อีก 3-5 องศาเซลเซียส ทำให้มีอากาศหนาวเย็นโดยทั่วไป

สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือกำลังค่อนข้างแรงพัดปกคลุมภาคใต้ และอ่าวไทย ทำให้บริเวณภาคใต้มีฝนในเกณฑ์กระจาย ส่วนบริเวณอ่าวไทยตอนล่างตั้งแต่จังหวัดนครศรีธรรมราชลงไป ทะเลมีคลื่นสูง 2-3 เมตร

พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทยตั้งแต่เวลา 06.00 วันนี้ ถึง 06.00 วันพรุ่งนี้.

ภาคเหนือ มีเมฆมาก โดยมีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 70 ของพื้นที่ กับมีฝนตกหนักและมีลมกระโชกแรงแห่งอุณหภูมิต่ำสุด 18-22 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 20-30 องศาเซลเซียส บริเวณยอดดอยอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 6-10 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 10-25 กม./ชม.

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อากาศเย็น โดยมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 30 ของพื้นที่ กับมีลมแรงส่วนมากบริเวณจังหวัดเลย อุดรธานี หนองคาย และนครราชสีมา อุณหภูมิต่ำสุด 16-21 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 24-32 องศาเซลเซียส บริเวณยอดภูอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 8-10 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-35 กม./ชม.

ภาคกลาง มีเมฆเป็นส่วนมากกับมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดกาญจนบุรี อุทัยธานี นครสวรรค์ และชัยนาทอุณหภูมิต่ำสุด 20-22 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-31 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม.

ภาคตะวันออก มีเมฆบางส่วน กับมีอากาศเย็นในตอนเช้าส่วนมากทางตอนบนของภาคอุณหภูมิต่ำสุด 21-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-33 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูง 1-2 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) มีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 30 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดชุมพร นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา และนราธิวาสอุณหภูมิต่ำสุด 22-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-32 องศาเซลเซียส ตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานีขึ้นมา ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตรตั้งแต่จังหวัดนครศรีธรรมราชลงไป ลมตะวันออก ความเร็ว 20-40 กม./ชม.ทะเลมีคลื่นสูง 2-3 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) มีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดระนอง พังงา กระบี่ และตรัง อุณหภูมิต่ำสุด 23-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-32 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร

กรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 22-24 องศาเซลเซียสอุณหภูมิสูงสุด 32-33 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม.

เดลินิวส์ วันเสาร์ 10 มกราคม 2558 เวลา 08:31 น.

บรรยากาศวันเด็กคึกคักทั่วไทย​

​

บรรยากาศวันเด็กคึกคักทั่วไทย

เมื่อเวลา 08.30 น.วันที่ 10 ม.ค. 58 ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการจัดงานวันเด็กใน จ.เชียงใหม่ เป็นไปอย่างคึกคัก โดยมีทั้งหน่วยงานภาครัฐและเอกชนต่างร่วมใจกันจัดงานเพื่อให้เด็กๆได้ร่วมสนุก โดยเฉพาะที่กองบิน 41 ก็มีการจัดงานวันเด็กอย่างยิ่งใหญ่ ซึ่งมีกลุ่มเด็กทั้งในพื้นที่ จ.เชียงใหม่ และในต่างจังหวัด เดินทางมาท่องเที่ยวนับหมื่นคน และสัมผัสเครื่องบินนานาชนิด อาทิ เครื่องบินรบ เครื่องบินขนส่ง และชมการแสดงต่างๆ เช่น การบินผาดโผน การแสดงของสุนัข ให้เด็กๆ การแสดงดนตรี และเล่นเกมแจกของรางวัลจากเหล่าทหารกองทัพอากาศ ส่วนกิจกรรมวันเด็กที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 ก็คึกครื้นไม่แพ้กัน โดยมีการแสดงของสุนัขตำรวจ การแสดงชิงตัวประกัน การแสดงเครื่องบินบังคับ การแสดงยุทโธปกรณ์ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ การแจกของขวัญ และทุนการศึกษาให้เด็กๆ สร้างความสนุกสนานให้กับเด็กๆที่มาร่วมงานอย่างมาก ขณะที่ที่สวนสัตว์เชียงใหม่ในวันนี้ก็ได้เปิดให้เด็กๆเข้าชมฟรี รวมทั้งมีกิจกรรมต่างๆให้ร่วมสนุกมากมาย

ที่ จ.นครราชสีมา น.ส.สลักจิต กิมตระกูล นายกเทศมนตรีตำบลด่านขุนทด เป็นประธานเปิดงานวันเด็กแห่งชาติ ที่บริเวณลานอนุสาวรีย์พ่อขุนทดบึงบ้านหาญ ซึ่งทางคณะผู้บริหาร และข้าราชการพนักงานเทศบาลทุกคนได้ร่วมกันจัดงานขึ้น ภายในงานมีกิจกรรมต่างๆให้เด็กได้ร่วมสนุกมากมาย อาทิ การแข่งขันเกมพื้นบ้านที่หาดูได้ยาก เช่น เกมกินวิบาก ต่อให้ยาว และเหยียบลูกโป่ง รวมถึงมีการแจกขนม และตุ๊กตาให้กับเด็กๆที่มาเที่ยวงานด้วย ส่วนที่ จ.สระบุรี ได้มีการจัดกิจกรรมงานวันเด็กขึ้นที่หน้าสำนักงานเทศบาลตำบลวิหารแดง โดย นางอรนุช คูวิจิตรสุวรรณ นายกเทศมนตรีตำบลวิหารแดง กล่าวว่า งานวันเด็กในปีนี้มีเด็กๆเข้าร่วมกิจกรรมกว่า 2,000 คน ซึ่งเด็กทุกคนจะได้รับของขวัญ รวมถึงได้รับความรู้จากนิทรรศการของหน่วยงานต่างๆ และได้สนุกสนานกับของเล่นนานาชนิด การแสดงของเด็กนักเรียนโรงเรียนต่างๆ การแจกทุนการศึกษา และจักรยานสำหรับให้เด็กไว้ใช้ขี่ไปโรงเรียน นอกจากนี้ยังมีบริการจัดเลี้ยงอาหาร เครื่องดื่ม และผลไม้ฟรีตลอดงาน

ที่ มหาวิทยาลัยราชภัฎพระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา ดร.เกษม บำรุงเวชช์ อธิการบดีฯ เป็นประธานเปิดงานวันเด็กแห่งชาติ โดยภายในงานมีการแสดงของเด็กนักเรียนจากโรงเรียนต่างๆ และมีการละเล่นที่เรียกความสนุกสนานอย่างมากมาย ได้แก่ การแสดงของช้าง และการเต้นระหว่างเด็กๆกับช้าง ขณะที่ อบต.บ้านป้อม อ.พระนครศรีอยุธยา นายเกื้อกูล ด่านชัยวิจิตร อดีต ส.ส.พระนครศรีอยุธยา ไปเป็นประธานเปิดกิจกรรมวันเด็ก โดยก่อนเปิดงานทางเจ้าอาวาสวัดท่าการ้องได้มาแสดงธรรมเทศนาให้กับเด็กๆฟัง จากนั้นได้มีการแข่งขันคลานของเด็กเล็ก สร้างความสนุกสนานอย่างมาก ส่วนที่สนามกีฬาจังหวัดพระนครศรีอยุธยา นายอภิชาต โตดิลกเวชช์ ผวจ.พระนครศรีอยุธยา เป็นประธานเปิดงานวันเด็ก มีการแสดงจากโรงเรียนต่างๆมากมาย และยังมีซุ้มเล่นเกมจากหน่วยงานต่างๆของจังหวัดฯมาร่วมกิจกรรม ขณะที่ตำรวจท่องเที่ยวก็จัดกิจกรรมส่งเสริมการขี่จักรยานและการออกกำลังกายที่บริเวณหน้าศูนย์ข้อมูลข่าวสารอยุธยา ศาลากลางจังหวัดหลังเก่า

ส่วนบรรยากาศงานวันเด็กแห่งชาติ ที่ลานจอดฝูงบิน 501 กองบิน 5 อ.เมือง จ.ประจวบคีรีขันธ์ ก็มีผู้ปกครองนำบุตรหลานเดินทางไปเที่ยวชมกิจกรรมเป็นจำนวนมาก โดยภายในงานมีการแสดงการบินผาดโผนของเครื่องบินขับไล่ "กริพเพน" จากกองบิน 7 จ.สุราษฎร์ธานี การกระโดดร่มเหินเวหา การป้องกันฐานบินภาคพื้น การแสดงของสุนัขสงคราม การแสดงเครื่องเล็ก และที่ได้รับความสนใจมากที่สุดคือ การนำเครื่องบินพีชเมกเกอร์ หรือเครื่องบินโจมตีธุรการฝูงสุดท้ายของโลก ที่ประจำการในกองทัพอากาศไทยมาจัดโชว์ให้เด็กและเยาวชนได้ถ่ายภาพเป็นที่ระลึก นอกจากนั้นที่บริเวณเขาล้อมหมวกซึ่งมีฝูงค่างแว่นถิ่นใต้ก็มีความคึกคัก และบริเวณอ่าวมะนาวมีผู้ปกครองนำบุตรหลานลงเล่นน้ำทะเลอย่างสนุกสนาน

ที่ จ.ระนอง ผู้สื่อข่าวรายงานว่าได้มีหลายหน่วยงานร่วมกันจัดกิจกรรมงานวันเด็ก เพื่อส่งความสุขให้กับเด็กๆ โดยเฉพาะที่บริเวณหน้าสวนสุขภาพ และลานเอนกประสงค์เทศบาลเมืองระนอง ที่มีหน่วยงานจากทั้งภาครัฐ และภาคเอกชน นำความสุขและความสนุกสนารมามอบให้กับเด็กๆ โดยมีทั้งเด็กชาวไทยและเด็กชาวเมียรม่าโดยเฉพาะเด็กชาวเมียรม่าที่เป็นลูกหลานของแรงงานชาวเมียรม่า ที่ทำงานใน จ.ระนอง ได้นำบุตรหลานมารอร่วมงานตั้งแต่งานยังไม่เริ่ม ซึ่งเด็กทุกคนคนที่มาร่วมงานต่างได้กินของอร่อย และได้ของขวัญกลับบ้านทุกคน ท่ามกลางการดูแลความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่มูลนิธิระนองสงเคราะห์

ที่บริเวณสถานีเรือสมุย ทัพเรือภาคที่ 2 กองทัพเรือ ต.ลิปะน้อย อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี น.ท.วิศิษฐ์พงศ์ เจริญวิชยเดช หัวหน้าสถานีเรือสมุย ร่วมกับ น.ส.วาสนา บรมธนรัตน์ ประธานวิสาหกิจธนาคารปูบ้านสระเกศ จัดกิจกรรมวันเด็ก โดยภายในงานได้จัดให้มีการแสดงความสามารถด้วยการร้องและเต้น การตอบคำถาม การประกวดระบายสี พร้อมกับแจกของขวัญ อาหาร และขนม นอกจากนี้ธนาคารปูบ้านสระเกศยังได้ให้ความรู้แก่เด็กๆในด้านการอนุรักษ์พันธุ์ปูม้า นอกจากนี้ทัพเรือภาคที่ 2 กองทัพเรือได้นำเรือตรวจการณ์ หรือ เรือ ต.98 มาจอดเทียบท่า และให้เด็กได้ขึ้นสัมผัสกับยุทโธปกรณ์ที่อยู่บนเรือ ซึ่งเด็กๆต่างให้ความสนใจอย่างมาก นอกจากนี้ยังมีอีกหลายๆจังหวัดทั่วประเทศไทย ต่างจัดงานวันเด็กกันอย่างพร้อมเพียง.

เดลินิวส์ วันเสาร์ 10 มกราคม 2558 เวลา 12:15 น.

สคร.7 เตือนระวังเด็กป่วยหน้าหนาว​

​

สคร.7 เตือนประชาชนเฝ้าระวังการระบาดของโรคอีสุกอีใสช่วงหน้าหนาว แนะกลุ่มที่ต้องระวังเป็นพิเศษ คือ เด็กอายุต่ำกว่า 1 ปี และผู้ที่มีโรคประจำตัวเรื้อรัง เนื่องจากมีภูมิต้านทานโรคต่ำ

เมื่อวันที่ 9 ม.ค.นพ.ศรายุธ อุตตมางคพงศ์ ผอ.สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 7 (สคร.7) อุบลราชธานีรับผิดชอบพื้นที่ 7จังหวัดเปิดเผยว่า จากข้อมูลของกลุ่มระบาดวิทยาสคร.7 ในปี 56-57 พบว่ามีผู้ป่วยโรคอีสุกอีใสในพื้นที่รับผิดชอบ 7 จังหวัด เพิ่มมากขึ้นโดยกลุ่มอายุที่ป่วยมากที่สุดคือ 5-9 ปี โดยกลุ่มที่ต้องระมัดระวังเป็นพิเศษคือเด็กอายุต่ำกว่า 1 ปี และผู้ที่มีโรคประจำตัวเรื้อรังอาจมีความเสี่ยงอาการรุนแรงกว่ากลุ่มอื่น นพ.ศรายุธกล่าวต่ออีกว่า โรคอีสุกอีใสมักเกิดในเด็กโดยเฉพาะเด็กอายุต่ำกว่า1ปีเนื่องจากมีภูมิต้านทานโรคต่ำอย่างไรก็ตามการป้องกันโรคอีสุกอีใสควรหมั่นดูแลสุขภาพร่างกายให้แข็งแรงออกกำลังกายสม่ำเสมอและพักผ่อนให้เพียงพอไม่คลุกคลีหรือใช้สิ่งของร่วมกับผู้ป่วยปิดจมูกทุกครั้ง เวลาไอ จามล้างมือบ่อยๆให้สะอาดและเลี่ยงสถานที่มีคนพลุกพล่านอากาศถ่ายเทไม่สะดวกซึ่งเป็นแหล่งแพร่กระจายเชื้อหากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับการป้องกันโรคอีสุกอีใสสามารถโทรศัพท์สอบถามได้ที่สายด่วนกรมควบคุมโรค 1422

เดลินิวส์ วันศุกร์ 9 มกราคม 2558 เวลา 17:33 น.

ศึกเขาคิฌชกูฏสงบหลังถูกสั่งให้สามัคคี​

​

ศึกเขาคิฌชกูฏสงบหลังถูกสั่งให้สามัคคี

เมื่อวันที่ 10 ม.ค. ที่บริเวณรอยพระพุทธบาทยอดเขาคิฌชกูฏ ต.พลวง อ.เขาคิฌชกูฏ จ.จันทบุรี ซึ่งเป็นสถานที่จัดงานเทศกาล นมัสการรอยพระพุทธบาทพลวง ประจำปี 2558 โดยหลังเกิดปัญหาความขัดแย้งแบ่งเป็นสองฝ่าย จนเรื่องบานปลายมาหลายวัน ล่าสุดพบว่าวันนี้บรรยากาศโดยรวมเป็นไปด้วยความสงบเรียบร้อย เนื่องจากยังคงมีผู้เข้ามาร่วมบวชชีพราหมณ์ ก่อนเริ่มงานนมัสการรอบพระบาทจำนวนมาก ท่ามกลางการดูแลรักษาความสงบของเจ้าหน้าที่อุทยาน ตำรวจ อส. ขณะที่กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธ์พืช ก็ออกหนังสืออนุญาตให้ทั้งสองฝ่ายจัดงานร่วมกัน

พระครูพุทธบทบริบาล ปญญาทีโป เจ้าอาวาสวัดพลวง เปิดเผยว่า ปัญหาข้อพิพาทเกิดจากเดิมทีจะมีคณะสงฆ์จาก 9 วัด รวมวัดกระทิง เป็นผู้ดำเนินการจัดงานนมัสการรอยพระพุทธบาททุกปี แต่ปีที่ผ่านมาวัดกระทิงเกิดมีปัญหา เจ้าอาวาสถูกคณะสงฆ์จังหวัดสั่งปลดจากตำแหน่ง เนื่องจากใช้เงินมากเกินกิจสงฆ์ ต่อมาวัดกระทิง ได้ร่วมกับสมาคมตำรวจ ยื่นหนังสือต่อกรมอุทยาน ขอจัดงานบวชชีพราหมณ์เทิดพระเกียรติ โดยไม่สนใจคำสั่งคณะสงฆ์อีก 8 วัด ส่งผลให้คณะสงฆ์ไม่พอใจจึงชุมนุมคัดค้านการจัดงานของวัดกระทิง

ทางด้านพระจตุรงค์ ขันติโก พระลูกวัดกระทิง ซึ่งเป็นผู้ที่มีหน้าที่ดูแลกิจการงานกุศลบนยอดเขาพระบาท เปิดเผยว่าปัญหาความขัดแย้ง เกิดจากกรรมการของคณะสงฆ์ทั้งสองฝ่าย ที่มีความคิดเห็นแตกต่างกันออกไป โดยรวมยอมรับว่าปัญหาส่วนใหญ่เกิดจากการจัดงานทับซ้อน เป็นที่มาของเม็ดเงินและผลประโยชน์ ในทางตรงข้าม

เดลินิวส์ วันเสาร์ 10 มกราคม 2558 เวลา 10:51 น.

เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเปิดตัว"ลูกแกะบาร์บารี"​

​

เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเปิดตัว"ลูกแกะบาร์บารี"

เมื่อเวลา 13.00 น.วันที่ 9 ม.ค. ดร.ศราวุฒิ ศรีศกุน ปฏิบัติหน้าที่ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาพิงคนคร (องค์การมหาชน) เปิดเผยว่า ในงานวันเด็กแห่งชาติ ประจำปี 58 เชียงใหม่ไนท์ซาฟารี เตรียมเปิดตัวลูกแกะบาร์บารี หรือแกะภูเขาวัย 2 เดือน 3 ตัว สมาชิกใหม่ ซึ่งยังไม่ทราบเพศ โดยลูกแกะทั้ง 3 ตัว มีร่างกายแข็งแรงสมบูรณ์ พร้อมที่จะนำออกสู่ส่วนแสดง โดยทางเราได้เริ่มนำออกส่วนจัดแสดงและพร้อมจะเปิดให้เด็กๆเข้าชมฟรี ในวันเด็กแห่งชาติ ขณะนี้ลูกแกะทั้งหมดได้รับการดูแลจากแม่ของมันเป็นอย่างดีในส่วนแสดง ซาวันนาซาฟารี โดยปัจจุบันเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี มีแกะภูเขา หรือ แกะบาร์บารี จำนวน 11 ตัว เพศผู้ 2 ตัว เพศเมีย 6 ตัว และไม่ทราบเพศ จำนวน 3 ตัว

สำหรับแกะภูเขา หรือแกะบาร์บารี Barbary sheep มีชื่อวิทยาศาสตร์ Ammotraguslervia เป็นแกะชนิดหนึ่ง ที่มีขนแผงยาวนุ่มที่คอ หน้าอกและส่วนบนของขาหน้า มีเขาขนาดใหญ่โง้งยาวไปทางด้านหลัง ทั้งตัวผู้และตัวเมียลำตัวยาว 1.3-1.9 เมตร เมื่อโตเต็มที่จะสูงถึง 90 เซนติเมตร หางยาว 25 เซนติเมตร น้ำหนักประมาณ 130-150 กิโลกรัมมีถิ่นกำเนิดอยู่ในแถบภูเขาสูงชันและทะเลทรายในทวีปแอฟริกาตอนเหนือ เช่นประเทศอียิปต์, แอลจีเรีย, ลิเบีย,ชาด, ซูดาน และตูนิเซียมีอุปนิสัยอยู่ตามลำพัง หรือเป็นฝูงเล็ก ๆ เป็นครอบครัว มีสีขนออกสีน้ำตาล เพื่อใช้ประโยชน์ในการพรางตัว ให้กลมกลืนกับทรายและหิน เพื่อหลบภัยจากศัตรูสามารถปีนป่ายตามเขาชัน ด้วยความเร็ว 15 ไมล์/ชั่วโมงและสามารถกระโจนข้ามซอกหินได้ถึง 6 เมตร กินหญ้า, ต้นไม้, ใบไม้, เปลือกไม้ เป็นอาหาร ออกลูกครั้งละ 1-2 ตัว ปีละ 1 ครั้ง.

เดลินิวส์ วันศุกร์ 9 มกราคม 2558 เวลา 15:21 น.

ที่มา http://www.dailynews.co.th/

 

สหรัฐเผชิญหิมะตกหนักทั่วประเทศ ปิดโรงเรียนหนีหนาว​

​

หลายพื้นที่ทั่วประเทศสหรัฐ เผชิญพายุหิมะตกหนัก ทางการต้องสั่งปิดโรงเรียน ให้นักเรียนพักอยู่ที่บ้านพร้อมประกาศเตือนสภาพอากาศหนาวเย็นในระดับที่เป็นอันตราย

สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานจากกรุงวอชิงตันประเทศสหรัฐ เมื่อวันที่ 9 ม.ค.ว่าพื้นที่ภาคตะวันออกและแถบมิดเวสต์หรือภาคกลางตอนบนของสหรัฐ ประสบปัญหาด้านการจราจรอย่างหนักเมื่อวันพฤหัสบดี และทางการยังสั่งปิดโรงเรียนคาดว่า จะมีหิมะตกหนักทับถมสูงถึง 1 เมตร ในนิวยอร์ก และหิมะยังปกคลุมรัฐเซาท์ดาโกตา ที่มีกระแสลมพัดแรงด้วยส่วนสถานที่ที่หนาวเย็นที่สุดเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมาคือเขตเอสต์คอร์ต สเตชั่นจุดเหนือสุดในรัฐเมนซึ่งอุณหภูมิติดลบ 39 องศาเซลเซียส จากการเปิดเผยของนายแดนปีเตอร์เซนเจ้าหน้าที่สำนักงานพยากรณ์อากาศแห่งชาติ

โรงเรียนในอินดีแอนา,วิสคอนซินและมินนิโซตา ต่างปิดการเรียนการสอนทั้งหมดเพราะสภาพอากาศหนาวเย็น ส่วนรายงานอากาศจากเมืองมองต์เปลิเยร์รัฐเวอร์มอนต์ ทำสถิติลดลงต่ำสุดติดลบ 29 องศาเซลเซียส ขณะที่เมืองแจ็คสัน รัฐเคนตักกีก็ติดลบ 18 องศาเซลเซียส สำนักงานพยากรณ์อากาศแห่งชาติแถลงว่า อุณหภูมิทั่วภาคเหนือและตะวันออกของสหรัฐ กำลังดิ่งลงสู่ระดับ “ความหนาวเย็นที่เป็นอันตราย” คาดว่ากระแสลมแรงจะยิ่งทำให้อุณหภูมิหนาวเย็นลงอีกโดยติดลบ 45 องศาเซลเซียส ในมินนิโซตาซึ่งอุณหภูมิที่อยู่ในจุดเยือกแข็งนี้ นำไปสู่การปิดโรงเรียนจากภาคเหนือถึงใต้ จากรัฐดาโกตาถึงแอละแบมา รัฐบาลประกาศคำเตือนอากาศหนาวเย็นใน 17 รัฐ

ส่วนในตะวันออกกลาง ก็เผชิญกับพายุหิมะตกหนัก โดยเฉพาะในบริเวณหุบเขาเบกาภาคกลางของเลบานอน ซึ่งเป็นการซ้ำเติมความทุกข์ยากสำหรับผู้ลี้ภัยจากสงครามในซีเรีย ซึ่งต้องเจอกับสภาพอากาศหนาวเย็นเป็นปีที่ 4 ติดต่อกันแล้ว ในค่ายผู้ลี้ภัยขณะที่ชาวปาเลสไตน์ในฉนวนกาซา ซึ่งสูญเสียบ้านเรือนในช่วงสงคราม 50 วัน กับอิสราเอลเมื่อช่วงฤดูร้อนที่ผ่านมา และชาวซีเรียที่ไร้ที่อยู่อาศัยก็ประสบชะตากรรมเดียวกัน เมื่อประชาชนหลายพันคนยังพักอาศัยอยู่ในศูนย์พักพิงชั่วคราวของสหประชาชาติ และบ้านเรือนที่ได้รับความเสียหาย และมีไฟฟ้าใช้เพียงวันละ 6 ชั่วโมงเท่านั้น

เดลินิวส์ วันศุกร์ 9 มกราคม 2558 เวลา 18:57 น.

ข่าวกรองอังกฤษเตือนอัล-กออิดะห์เตรียมก่อเหตุใหญ่​

​

ผู้อำนวยการหน่วยสืบราชการลับ “เอ็มไอ 5” ของอังกฤษ ออกมาเตือนกลุ่มประเทศแถบตะวันตก หลังพบเบาะแสกลุ่มอัล-กออิดะห์ในซีเรียเตรียมก่อการร้ายครั้งใหญ่

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุลอนดอน ประเทศอังกฤษ เมื่อวันที่ 9 ม.ค. ว่านายแอนดรูว์ ปาร์คเกอร์ ผู้อำนวยการหน่วยสืบราชการลับ “เอ็มไอ 5” แถลงที่สำนักงานใหญ่ในกรุงลอนดอน เมื่อวันพฤหัสบดี เรื่องการสืบพบเบาะแสความเคลื่อนไหวของกลุ่มอัล-กออิดะห์ในซีเรีย เตรียมก่อวินาศกรรมครั้งใหญ่ในประเทศแถบตะวันตก โดยมีเป้าหมายเป็นระบบขนส่งมวลชนซึ่งเป็นสถานที่มีประชาชนรวมอยู่เป็นจำนวนมาก เพื่อให้เกิดความสูญเสียครั้งใหญ่ที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้

ปาร์คเกอร์เชื่อว่า หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกแห่งทั้งในและต่างประเทศต่างมีเบาะแสในเรื่องนี้เป็นของตัวเอง และพยายามอย่างสุดความสามารถที่จะยับยั้งไม่ให้เหตุการณ์เลวร้ายเกิดขึ้น อย่างไรก็ตาม ไม่มีใครสามารถหยุดทุกสิ่งได้ในเวลาเดียวกัน แม้เอ็มไอ 5 พยายามอย่างหนักในการป้องกันอังกฤษจากภัยก่อการร้าย แต่ยังมีประชาชนหัวรุนแรงในประเทศราว 500 สามารถเดินทางเข้าไปในซีเรีย เพื่อร่วมรบกับกลุ่มหัวรุนแรงไอเอส ซึ่งเอ็มไอ 5 มองว่า คนกลุ่มนี้ "อันตราย" ต่อสังคมอย่างมาก เนื่องจากเดินทางกลับมาอีกครั้งพร้อมความคิดที่ "บิดเบือน" จนยากจะแก้ไข

ถ้อยแถลงของผู้อำนวยการเอ็มไอ 5 ซึ่งเป็นหน่วยสืบราชการลับของอังกฤษที่เน้นงานในประเทศ ต่างจาก "เอ็มไอ 6" ที่เน้นงานต่างประเทศ มีขึ้นเพียง 1 วัน หลังเกิดเหตุกราดยิงที่สำนักพิมพ์ของหนังสือพิมพ์ "ชาร์ลี เอ็บโด" ในกรุงปารีส ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 12 ศพ ในจำนวนนี้รวมบรรณาธิการและนักเขียนการ์ตูนระดับแนวหน้า 4 คน ขณะที่รัฐบาลฝรั่งเศสระดมเจ้าหน้าที่ฝ่ายความั่นคงจำนวนมากตามล่าตัวคนร้าย ซึ่งเป็นมือปืน 2 พี่น้อง

เดลินิวส์ วันศุกร์ 9 มกราคม 2558 เวลา 14:49 น.

เฮติรำลึกครบรอบ 5 ปีแผ่นดินไหว สภาพยังเหลือแต่ซาก​

​

เฮติเตรียมจัดพิธีรำลึก 5 ปีแผ่นดินไหวรุนแรง ซึ่งมีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บรวมกันกว่า 5 แสนคน ในกรุงปอร์โตแปรงซ์ สภาพความเป็นอยู่ บางแห่งยังเหลือแต่ซากปรักหักพัง ผู้คนจำนวนมากยังไร้ที่อยู่อาศัย

สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานจากกรุงปอร์โตแปรงซ์ประเทศเฮติ เมื่อวันที่ 9 ม.ค.ว่าผ่านมาเกือบ 5 ปีแล้ว หลังเกิดแผ่นดินไหวครั้งรุนแรงชนาด 7.0 แมกนิจูด ในฮติประเทศยากจนในแถบทะเลแคริบเบียน ทำลายกรุงปอร์โตแปรงซ์เมืองหลวง ได้รับความเสียหายเกือบหมดและมีผู้เสียชีวิตมากกว่า 200,000 คน และบาดเจ็บอีก 300,000 คน โดยแผ่นดินไหวรุนแรงครั้งนี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 12 มกราคม 2553 ศูนย์กลางอยู่ทางตะวันตกของกรุงปอร์โตแปรงซ์ เป็นแผ่นดินไหวครั้งเลวร้ายที่สุดครั้งที่ 5 ในประวัติศาสตร์ของประเทศ

ภัยธรรมชาติครั้งนี้ จุดชนวนให้เกิดวิกฤติประชาชนไร้ที่อยู่อาศัยจำนวนมากโดยเกือบ 1.5 ล้านคน ไม่มีที่อยู่อาศัยทั้งนี้ อาคารบ้านเรือนทั่วกรุงปอร์โตแปรงซ์พังเสียหาย ขณะที่แผ่นดินไหวเกิดขึ้นในช่วงเย็นวันอังคาร ฝังประชาชนหลายหมื่นคน ส่วนผู้รอดชีวิตต่างหวีดร้องวิ่งฝ่าฝุ่นละอองออกมาตามถนน ที่เต็มไปด้วยเศษซากของอาคารบ้านเรือน ที่พังถล่มซึ่งหลายคนก็ค้นหาสมาชิกในครอบครัวของตน

ภาพข่าวจากกล้องโทรทัศน์วงจรปิด จับภาพทำเนียบประธานาธิบดีขณะเกิดแผ่นดินไหว เขย่ากรุงปอร์โตแปรงซ์ซึ่งมีประชากร 2.8 ล้านคน ในขณะนั้นแม้ว่า จุดศูนย์กลางของแผ่นดินไหว อยู่ในเมืองลีโอกาเนห่างจากกรุงปอร์โตแปรงซ์ประมาณ 25 กิโลเมตร แต่ก็ทำให้เมืองหลวงได้รับความเสียหายอย่างหนัก ซึ่งรวมทั้งสถานที่สำคัญต่างๆ เช่นทำเนียบประธานาธิบดี,มหาวิหารแห่งชาติ,สำนักงานใหญ่สหประชาชาติและโรงแรมสำคัญต่าง ๆ

จนถึงวันนี้ยังคงมีประชาชนเกือบ 80,000 คน ไร้ที่อยู่อาศัย เพราะผลจากแผ่นดินไหว ซึ่งทางรัฐบาลเฮติจะจัดพิธีรำลึกครบรอบ 5 ปี เหตุการณ์แผ่นดินไหวครั้งนี้ด้วย

เดลินิวส์ วันศุกร์ 9 มกราคม 2558 เวลา 20:08 น.

ศึกชิงเมืองไนจีเรียตายเกลื่อน 2,000 ศพ​

​

กลุ่มก่อการร้ายโบโกฮาราม บุกโจมตีและยึดเมืองบากาทางตะวันออกเฉียงเหนือของไนจีเรียได้สำเร็จ มีประชาชนนับพันถูกสังหารโหด ขณะที่กองทัพรัฐบาลเร่งเดินหน้าโจมตีหนักหวังยึดเมืองคืน

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากเมืองโยลา ประเทศไนจีเรีย เมื่อวันที่ 10 ม.ค. ว่า นายไมค์ โอเมริ โฆษกรัฐบาลไนจีเรีย แถลงว่า กองกำลังความมั่นคงของไนจีเรียกำลังพยายามอย่างหนัก ทั้งการโจมตีภาคพื้นดินและการใช้ปฏิบัติการทางอากาศ เพื่อยึดคืนเมืองบากาทางตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศ ซึ่งอยู่ติดพรมแดนประเทศชาด จากการยึดครองของกลุ่มก่อการร้ายโบโกฮาราม ที่เข้าควบคุมฐานทัพหลักในเมืองได้เมื่อวันที่ 3 ม.ค. ก่อนจะบุกโจมตีเมืองบากาอีกครั้งเมื่อวันพุธที่ผ่านมา

นายมูฮัมหมัด อับบา ฮัสซัน โฆษกประจำกองกำลังพลเรือน กล่าวว่า คนร้ายโจมตีด้วยจรวดก่อนจะใช้ปืนไรเฟิลกราดยิงใส่ชาวบ้าน ทำให้มีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก ส่วนใหญ่เป็นเด็ก สตรี และคนชรา ที่หวาดกลัวและอ่อนแรงเกินกว่าจะหนีได้ทัน ซึ่งองค์กรนิรโทษกรรมสากล (เอไอ) เผยว่า มีศพผู้เสียชีวิตเกลื่อนไปทั่วบริเวณ มีรายงานว่าอาจมากถึง 2,000 ศพ

หากเป็นเช่นนั้นจริง ก็นับเป็นการโจมตีครั้งรุนแรงที่สุดของกลุ่มโบโกฮาราม โดยครั้งที่รุนแรงที่สุดก่อนหน้านี้ คือการบุกโจมตีฐานทัพกิวาในเมืองไมดูกูรี เมื่อวันที่ 14 มี.ค. 2557 ซึ่งภาพถ่ายดาวเทียมเผยให้เห็นผู้เสียชีวิตกว่า 600 ศพ ที่ถูกสังหารในวันนั้นเพียงวันเดียว ด้านสภาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ (ซีเอฟอาร์) รายงานว่า เหตุรุนแรงจากฝีมือของกลุ่มโบโกฮารามที่ยืดเยื้อมา 5 ปี ทำให้ประชาชนนับล้านคนไร้ที่อยู่อาศัย ส่วนหนึ่งต้องอพยพย้ายถิ่นฐานไปยังส่วนอื่นของประเทศ ขณะที่บางส่วนลี้ภัยข้ามพรมแดนมายังประเทศเพื่อนบ้านอย่างชาดและคาเมอรูน ในขณะที่ปีที่แล้วเพียงปีเดียวมีผู้เสียชีวิตจากการโจมตีกว่า 10,000 ราย.

เดลินิวส์ วันเสาร์ 10 มกราคม 2558 เวลา 04:03 น.

แกนนำอัล-กออิดะห์เตือนตะวันตกหยุดหมิ่นศาสนา

​

​

สมาชิกระดับสูงของกลุ่มอัล-กออิดะห์ในเยเมน เตือนตะวันตกให้หยุดการดูหมิ่นองค์ศาสดา มิเช่นนั้นจะไม่ได้อยู่อย่างสงบอีกต่อไป หลังประกาศอยู่เบื้องหลังการโจมตีสำนักงานของหนังสือพิมพ์ "ชาร์ลี เอ็บโด" ในกรุงปารีส เมื่อวันพุธ

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงไคโร ประเทศอียิปต์ เมื่อวันที่ 10 ม.ค. ว่าชีค ฮาริธ อัล-นาดฮารี สมาชิกระดับสูงของกลุ่มก่อการร้ายแห่งคาบสมุทรอาระเบีย ( เอคิวเอพี ) เครือข่ายในเยเมนของกลุ่มอัล-กออิดะห์ แถลงยกย่องมือปืน 2 พี่น้อง คือนายซาอิด คูอาชี อายุ 34 ปี และนายเชอรีฟ คูอาชี อายุ 32 ปี ซึ่งร่วมกันสังหารหมู่ 12 ศพ ที่สำนักงานของหนังสือพิมพ์เสียดสีการเมือง "ชาร์ลี เอ็บโด" ในกรุงปารีส เมื่อวันพุธ ว่าเป็น "วีรบุรุษ" ของนักรบศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งต่อสู้เพื่อปกป้ององค์ศาสดา ด้วยการมอบบทเรียนให้ตะวันตกตระหนักว่า เสรีภาพในการแสดงออกทางความคิดเห็นนั้นมี "ขีดจำกัด"

อัล-นาดฮารีไม่ได้กล่าวโดยตรงว่า กลุ่มเอคิวเอพีอยู่เบื้อหลังการโจมตีครั้งนี้ ตามที่มีกระแสข่าวออกมาก่อนหน้านี้จริงหรือไม่ แต่เตือนให้ตะวันตกยุติการดูหมิ่นและโจมตีศาสนา หากต้องการใช้ชีวิตอย่างสงบสุขต่อไป ขณะที่สมาชิกอีกคนหนึ่งของเอคิวเอพีซึ่งขอสงวนนาม ออกมากล่าวในเวลาต่อมาว่า การที่กลุ่มเอคิวเอพีใช้เวลาหลายวันก่อนออกมาแสดงตัวในเรื่องนี้ และไม่กล่าวโดยตรงว่าเป็นผู้บงการ เป็นไปตามเหตุผลด้าน "ด้านความมั่นคง"

ทั้งนี้ สมาชิกระดับสูงของเอคิวเอพีเป็นผู้วางแผนและกำหนดเป้าหมายด้วยตัวเอง โดยเลือกฝรั่งเศสเนื่องจากเป็นประเทศที่แสดง "บทบาท" อย่างชัดเจน ว่าต้องการทำสงครามศาสนาและกดขี่อีกหลายประเทศ พร้อมกับอ้างคำกล่าวของนายโอซามา บิน ลาเดน หัวหน้ากลุ่มอัล-กออิดะห์ผู้ล่วงลับ และนายไอย์มาน อัล-ซาวาฮิรี ผู้นำคนปัจจุบัน ซึ่งเคยเตือนให้ตะวันตกรับมือผลกระทบจากการดูหมิ่นและให้ร้ายองค์ศาสดา

หากเป็นเช่นนั้นจริง เหตุการณ์ที่สำนักพิมพ์ชาร์ลี เอ็บโด ซึ่งมักตีพิมพ์การ์ตูนเสียดสีและล้อเลียนศาสนาอยู่เป็นประจำ คือ "ความสำเร็จ" ครั้งแรกของกลุ่มเอคิวเอพีในการก่อวินาศกรรมบนแผ่นดินตะวันตก นับตั้งแต่ก่อตั้งเมื่อปี 2552 และเป็นไปตามข้อมูลจากรัฐบาลสหรัฐและเยเมน ซึ่งเชื่อตรงกันว่า นายซาอิด คูอาชี เคยเดินทางไปเข้ารับการฝึกฝนวิธีการสู้รบจากกลุ่มเอคิวเอพี

เดลินิวส์ วันเสาร์ 10 มกราคม 2558 เวลา 10:02 น.

ที่มา http://www.dailynews.co.th/