ตลิ่งจะพัง แผ่นดินถิ่นอธรรมจะถล่มเป็นทะเล

อินเดียส่งน้ำดื่มช่วยมัลดีฟส์​

​

อินเดียได้ทำการขนส่งทางอากาศไปถึงกรุงมาเล เมืองหลวงของหมู่เกาะมัลดีฟส์ หลังเกิดเพลิงไหม้โรงงานผลิตน้ำจืดจากน้ำทะเล เกิดเพลิงไหม้ ทำให้เกิดปัญหาขาดแคลนน้ำดื่มและน้ำสะอาด รัฐบาลต้องประกาศสถานการณ์ขั้นวิกฤต

สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานจากกรุงมาเลประเทศมัลดีฟส์ เมื่อวันที่ 5 ธ.ค.ว่ารัฐบาลมัลดีฟส์ ได้ประกาศสถานการณ์ขั้นวิกฤตในกรุงมาเล อันเนื่องมาจากการขาดแคลนน้ำดื่มและน้ำสะอาด จนกระทั่งเกิดการกระทบกระทั่งและแก่งแย่งน้ำดื่มจากร้านค้า ทั้งนี้สืบเนื่องมาจากเหตุเพลิงไหม้ที่เกิดขึ้นเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ที่โรงงานผลิตน้ำจืดจากน้ำทะเล ซึ่งมีอยู่เพียงแห่งเดียวในเมืองหลวงของมัลดีฟส์ ดังนั้นรัฐบาลมัลดีฟส์จึงได้ติดต่อขอความช่วยเหลือไปยังประเทศต่างๆ เช่น อินเดีย,ศรีลังกา,สหรัฐและ จีน ขอความช่วยเหลือเรื่องน้ำดื่มและน้ำสะอาด ให้กับประชาชน 100,000 คน ในกรุงมาเล

รัฐบาลอินเดียได้ส่งเครื่องบินของกองทัพอากาศ นำน้ำดื่มบรรจุขวดมาส่งให้ถึงกรุงมาเลแล้ว ขณะเดียวกันก็เร่งดำเนินการซ่อมแซมโรงงานผลิตน้ำดื่มที่ได้รับความเสียหายจากเหตุเพลิงไหม้ พื้นที่ส่วนใหญ่ในกรุงมาเลไม่มีน้ำดื่มจนถึงบ่ายวันศุกร์ที่ผ่านมา สื่อท้องถิ่นรายงานว่าชาวบ้านบางคนถึงกับต่อสู้กันหรือไม่ก็ทำลายร้านค้าที่ไม่ยอมจำหน่ายน้ำดื่มเป็นน้ำแร่ ให้กับชาวบ้านส่วนโรงแรมในกรุงมาเลก็เริ่มขาดแคลนน้ำดื่มเช่นกัน

รัฐบาลอินเดียรับปากว่าจะส่งเครื่องบินมาเพิ่มให้อีก 2 ลำ เพื่อนำน้ำดื่มมามอบให้นอกจากนั้น ยังส่งเรือลาดตระเวนอีก 1 ลำ ซึ่งภายในเรือมีระบบผลิตน้ำจืดจากน้ำทะเล สามารถผลิตน้ำดื่มได้วันละ 20 ตัน เพื่อนำไปช่วยเหลือประชาชนในกรุงมาเล วิกฤตขาดแคลนน้ำดื่มไม่ได้ส่งผลกระทบต่อสถานตากอากาศเกาะต่างๆ รอบมัลดีฟส์ เพราะตามกฎหมายแล้วสถานตากอากาศเหล่านั้น จะต้องมีทั้งแหล่งผลิตกระแสไฟฟ้าของตัวเอง และโรงงานผลิตน้ำจืดจากน้ำทะเล

เดลินิวส์ วันศุกร์ 5 ธันวาคม 2557 เวลา 22:40 น.

ฟิลิปปินส์นับหมื่นรับมือพายุไต้ฝุ่นเข้าถล่ม​

​

ทางการฟิลิปปินส์อพยพประชาชนนับหมื่นคน ออกจากพื้นที่เสี่ยงภัยจากพายุไต้ฝุ่น หลังพายุฮากูปิตเตรียมถล่ม

สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานจากกรุงมะนิลาประเทศฟิลิปปินส์ เมื่อวันที่ 5 ธ.ค.ว่า ประชาชนหลายหมื่นคนในฟิลิปปินส์ ได้หาที่กำบังปลอดภัยตามโบสถ์ โรงเรียน และศูนย์อพยพเมื่อวันศุกร์ เนื่องจากพายุไต้ฝุ่นฮากูปิตเคลื่อนตัวเข้าใกล้แล้ว คาดว่า จะเข้ากระหน่ำหลายจังหวัดทางตะวันออกของประเทศ บริเวณเดิมที่เคยถูกพายุไห่เยี่ยนพัดถล่มเมื่อปีที่แล้ว โดยพายุไต้ฝุ่นฮากูปิตจะมีความเร็วสูงถึง 215 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และทำให้เกิดสตรอม เซิร์จหรือคลื่นยกตัวสูงขนาดใหญ่

นอกจากนี้ มีการคาดหมายว่า พายุไต้ฝุ่นฮากูปิตจะถล่มจังหวัดซามาร์และเลย์เตทางตะวันออกของฟิลิปปินส์ จากนั้นจะตัดข้ามภาคกลางของประเทศ ศูนย์เตือนไต้ฝุ่นร่วมของกองทัพเรือสหรัฐแจ้งว่า พายุจะเคลื่อนตัวอย่างช้าๆทางเหนือของจังหวัดซามาร์จากนั้น จะตัดเข้าทางตะวันตกและเคลื่อนผ่านกรุงมะนิลาที่มีประชากรกว่า 12 ล้านคน อย่างไรก็ตามหน่วยงานของสหรัฐได้ปรับลดระดับความเร็วลมของพายุฮากูปิต จากระดับสูงสุดซูเปอร์ไต้ฝุ่นลงมาเป็นไต้ฝุ่น แต่ก็ยังทำให้ฮากูปิตเป็นพายุไต้ฝุ่นที่รุนแรงสุดซึ่งเข้าถล่มฟิลิปปินส์ในปีนี้ ก่อนหน้านั้น พายุรุนแรงอย่างรามสูร คร่าชีวิตผู้คนกว่า 100 ศพ หลังเข้าถล่มกรุงมะนิลาและหลายพื้นที่บนเกาะลูซอนเมื่อเดือนก.ค. ฟิลิปปินส์เป็นหนึ่งในชาติที่เผชิญพายุไต้ฝุ่นมากที่สุดแห่งหนึ่งของโลก เฉลี่ยมีพายุปีละ 20 ลูก

เดลินิวส์ วันศุกร์ 5 ธันวาคม 2557 เวลา 14:46 น.

รัสเซียลั่นไม่สนตะวันตกพร้อมพึ่งพาเศรษฐกิจตัวเอง​

​

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ลั่นรัสเซียจะพึ่งพาการการเจริญเติบโตของเศรษฐกิจตนเอง ไม่สนชาติตะวันตกมุ่งเชื่อมสัมพันธ์ชาติในภูมิภาคอื่นแทน

สำนักข่าวซินหัวของจีน รายงานจากกรุงมอสโอ ประเทศรัสเซีย เมื่อวันที่ 4 ธ.ค.ว่า ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซียกล่าวสุนทรพจน์ประจำปีระบุ รัสเซียจะพึ่งพาการเจริญเติบโตของเศรษฐกิจตนเอง เปิดประตูให้นักลงทุนทั่วโลกเข้ามาลงทุน และการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจของชาติตะวันตกที่มีต่อรัสเซียนั้น ทำให้ประเทศต้องเร่งบรรลุเป้าหมายให้เร็วขึ้น ทุกภาคส่วนในรัฐบาลควรก้าวข้ามความไม่เป็นระบบของการบริหาร การไม่มีความรับผิดชอบและระบบใดก็ตามที่มีข้อบกพร่องอันส่งผลถึงความมั่นคงของประเทศ

ภารกิจหลักของรัฐบาลขณะนี้คือ การจัดการกับภาวะเงินเฟ้อ และทำให้เศรษฐกิจยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง ขณะนี้ธนาคารกลางของรัสเซียได้รับเสียงร้องเรียนจำนวนมากให้จัดการกับนักลงทุนเสี่ยงโชคทั้งหลาย นอกจากนี้ แม้ธนาคารกลางจะหันไปใช้ระบบอัตราแลกเปลี่ยนลอยตัว แต่ก็จะไม่ส่งผลกระทบถึงอัตราแลกเปลี่ยนเงินสกุลรูเบิลอย่างแน่นอน

ในขณะเดียวกันนายปูติน กล่าวอีกว่า รัสเซียจะไม่มุ่งแข่งขันสะสมอาวุธ และจะไม่โดดเดี่ยวตนเอง แม้จะพบเจอความยากลำบากในปัจจุบัน มอสโกจะไม่ก้มหัวให้ใคร เนื่องจากยิ่งประเทศอ่อนแอเท่าใด พวกศัตรูก็จะเข้ามาข่มเหงมากขึ้นเท่านั้น พร้อมกันนี้นายปูตินยังประกาศไม่สนใจชาติตะวันตกและสหรัฐ พร้อมหันไปฟื้นฟูความสัมพันธ์กับชาติในทวีปอเมริกาใต้ แอฟริกาและตะวันออกกลางแทน

เดลินิวส์ วันศุกร์ 5 ธันวาคม 2557 เวลา 09:08 น.

สลดเด็กปากีฯ รับการถ่ายเลือดติดเชื้อเอดส์เพียบ​

​

พบเด็กปากีสถานที่รับการเปลี่ยนถ่ายเลือด เพื่อรักษาโรคโลหิตจาง ติดเชื้อเอชไอวีอย่างน้อย 10 คน แพทย์เผยตัวเลขจริงอาจสูงกว่านี้มาก

สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานจากกรุงอิสลามาบัด ประเทศปากีสถาน เมื่อวันที่ 4 ธ.ค. ว่า เด็กปากีสถานอย่างน้อย 10 คน ที่เข้ารับการเปลี่ยนถ่ายเลือด เพื่อรักษาโรคเลือดจางธาลัสซีเมีย ถูกตรวจพบว่าติดเชื้อไวรัส เอชไอวี ที่เป็นสาเหตุของภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่อง หรือ โรคเอดส์ แต่แพทย์ผู้เชี่ยวชาญรายหนึ่งกล่าวว่า การค้นพบอาจเป็นเพียงแค่ "ยอดปลายภูเขาน้ำแข็งในทะเล" ตัวเลขจริงอาจสูงกว่านี้มาก

ศาสตราจารย์ ยาสมิน ราชิด เลขาธิการ สมาพันธ์ธาลัสซีเมียปากีสถาน องค์กรการกุศลที่ทำการเปลี่ยนถ่ายเลือดให้เด็กกว่า 22,000 คน กล่าวว่า เด็กที่พบว่าติดเชื้อ เอชไอวี เป็นเด็กที่เข้ารับการเปลี่ยนถ่ายเลือดเป็นประจำ เพื่อรักษาโรคโลหิตจาง องค์กรของเธอได้รับแจ้งการตรวจพบเด็กติดเชื้อเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่ทราบว่ามีการตรวจหาเชื้อเด็กกี่คนแล้ว และเด็กจำนวนมากที่ต้องเปลี่ยนถ่ายเลือดบ่อย ได้ใช้บริการจากศูนย์การแพทย์หลายแห่ง

ระบบสาธารณสุขปากีสถานขึ้นชื่อทางด้านความอ่อนแอและขาดแคลนเงินทุนสนับสนุน กฎหมายกำหนดให้มีการตรวจหาเชื้อโรคในเลือด แต่การบังคับใช้กฎหมายหย่อนยานมาก นายวาวีด อาครัม รองผู้อำนวยการสถาบันแพทยศาสตร์ปากีสถาน กล่าวว่า ผู้บริจาคเลือดส่วนใหญ่เป็นผู้ติดยาเสพติด เขาคิดว่าการตรวจพบเด็กติดเชื้อ อาจเป็นเพียงแค่ส่วนเล็กน้อยของผู้ติดเชื้อทั้งหมด เด็กจำนวนมากต้องเปลี่ยนถ่ายเลือดสัปดาห์ละ 2 ครั้ง ยิ่งเพิ่มความเสี่ยงต่อเลือดติดเชื้อ และตามที่เขาทราบ มีเด็กติดเชื้อ เอชไอวี จากการถ่ายเลือด 16 รายแล้ว

ธนาคารเลือดในปากีสถานส่วนใหญ่ดำเนินการโดยเอกชน ซึ่งคุณภาพ อายุ และราคาของเลือด มีหลากหลายและแตกต่างกันมาก.

เดลินิวส์ นพฤหัสบดี 4 ธันวาคม 2557 เวลา 22:42 น.

สหรัฐสอบคดีตำรวจล็อกคอผิวสีดับ​

​

รมว.ยุติธรรมสหรัฐสัญญาสอบสวนอย่างเต็มที่ ต่อเหตุการณ์ตำรวจผิวขาวล็อกคอชายผิวสีไร้อาวุธจนขาดอากาศหายใจและเสียชีวิต ขณะที่ การประท้วงยังดำเนินต่อไปเป็นวันที่ 2 หลังคณะลูกขุนในนิวยอร์กสั่งไม่ฟ้องตำรวจ

สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานจากกรุงวอชิงตันประเทศสหรัฐ เมื่อวันที่ 5 ธ.ค.ว่า นายเอริค โฮลเดอร์ รมว.ยุติธรรมสหรัฐให้คำมั่นถึงการสอบสวนอย่างเต็มที่ต่อกรณีตำรวจผิวขาวในนครนิวยอร์กล็อกคอชายผิวสีไร้อาวุธจนขาดอากาศหายใจและหมดสติ ก่อนเสียชีวิตในที่สุด หลังจากคณะลูกขุนใหญ่สั่งไม่ฟ้องนายดาเนียลแพนทาเลโอ ตำรวจผิวขาว ได้นำไปสู่การชุมนุมประท้วงเป็นวันที่สองต่อคำตัดสินของคณะลูกขุน ซึ่งฝ่ายสอบสวนน่าจะพุ่งเป้าไปที่การล็อคคอนายเอริคการ์เนอร์ ชายผิวสีวัย 43 ปี ว่าเป็นการละเมิดสิทธิพลเมืองหรือไม่

แม้สำนักงานตำรวจนิวยอร์ก มีกฎห้ามเจ้าหน้าที่ล็อกคอผู้ต้องสงสัย แต่มาเรีย ฮาเบอร์เฟลด์ หัวหน้าฝ่ายกฎหมายและอาชญากรรมของมหาวิทยาลัยจอห์น เจย์ กล่าวว่า หนังสือคู่มือการตรวจตราพื้นที่ของตำรวจที่มีความหนา 2,000 หน้า ก็ไม่มีความชัดเจนเกี่ยวกับการสามารถใช้กำลังได้หรือไม่ ภายใต้สถานการณ์ที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้

ทนายความบอกว่านายแพนทาเลโอ ยังเผชิญการสอบสวนทางวินัยจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และคาดว่า กระบวนการสอบสวนจะดำเนินไปอย่างรวดเร็ว สุดท้ายลูกความของเขาคือนายแพนทาเลโอจะพ้นข้อกล่าวหา ทั้งนี้ มีคลิปวิดีโอเป็นภาพที่ตำรวจผิวขาว เข้าล็อกคอนายการ์เนอร์เพื่อจับกุมด้วยข้อหาขายบุหรี่เถื่อนบนทางเท้าเมื่อเดือน ก.ค.ที่ผ่านมา

อย่างไรก็ตามนายโฮลเดอร์ กล่าวว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องปรับปรุงความไว้วางใจระหว่างเจ้าหน้าที่กับชุมชนต่างๆ ขณะที่ นายบิล เดอ บลาซิโอนายกเทศมนตรีนครนิวยอร์ก เคยให้สัญญาตอนรับตำแหน่งเมื่อเดือน ม.ค.ว่า จะปรับปรุงความสัมพันธ์ระหว่างตำรวจกับชุมชนผิวสีต่างๆ นอกจากนี้ กระทรวงยุติธรรมสหรัฐ ยังได้ดำเนินการสอบสวนกรณีที่ตำรวจผิวขาว ยิงวัยรุ่นผิวสีไร้อาวุธเสียชีวิตในเมืองเฟอร์กูสัน ชานเขตเซนต์หลุยส์ รัฐมิสซูรี

เดลินิวส์ วันศุกร์ 5 ธันวาคม 2557 เวลา 16:50 น.

กองกำลังนานาชาติโจมตีทางอากาศ 20 แห่งถล่มไอเอส​

​

กองกำลังนานาชาติเพื่อการต่อต้านกลุ่มก่อการร้ายไอเอส ที่นำโดยสหรัฐ เปิดฉากโจมตีทางอากาศราว 20 จุด ถล่มฐานที่มั่นไอเอสในซีเรียและอิรัก

สำนักข่าวรอยเตอร์ส รายงานจากประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 5 ธ.ค.ว่า ศูนย์บัญชาการกลางของสหรัฐเผย กองกำลังนานาชาติที่นำโดยสหรัฐเปิดฉากเข้าโจมตีทางอากาศในพื้นที่ต่างๆของซีเรียและอิรักราว 20 จุด เพื่อถล่มฐานที่มั่นของกลุ่มนักรบติดอาวุธไอเอส ที่กำลังเป็นภัยคุกคามความมั่นคงของหลายประเทศในขณะนี้

การโจมตีทางอากาศ 5-6 จุด เกิดขึ้นในเมืองโคบานี ทางเหนือของซีเรียใกล้พรมแดนตุรกี สามารถถล่มฐานที่มั่นของกลุ่มไอเอส และอาวุธหนักที่กลุ่มก่อการร้ายมีไว้ในครอบครองได้สำเร็จ ส่วนในอิรัก กองกำลังนานาชาติได้ทิ้งระเบิดโจมตีทางอากาศ 14 จุด โดยส่วนมากอยู่ในพื้นที่ที่เป็นแหล่งผลิตน้ำมันทางตอนเหนือของอิรัก

การโจมตีในอิรักแบ่งเป็น 4 จุด เข้าถล่มเมืองอัลเคม ชายแดนติดกับซีเรีย ทั้งนี้ สหรัฐกล่าวว่า การโจมตีดังกล่าว สามารถทำลายจุดตรวจ รถถังหุ้มเกราะ หลุมหลบภัย ฐานที่มั่น และศูนย์อำนวยความสะดวกทางยุทธศาสตร์ ส่วนการโจมตีอื่นๆเกิดขึ้นที่เมืองเคอร์คุก ทัล-อัฟฟาร์ ซามาร์รา และฟัลลูจาห์ นอกจากนี้ การโจมตีอีก 2 จุด ในเมืองโมซุล ยังสามารถทำลายหลุมหลบภัย 11 แห่ง อาวุธหนักอีก 9 ชนิด รวมทั้งศูนย์บัญชาการของไอเอส 2 แห่งอีกด้วย

เดลินิวส์ วันเสาร์ 6 ธันวาคม 2557 เวลา 08:51 น.

ที่มา http://www.dailynews.co.th/

 

กองทัพหนอนนับล้านบุกปั๊มน้ำมัน​

​

ชาวบ้านขนหัวลุกกองทัพหนอนผีเสื้อยักษ์ใหญ่สุดในโลก หายากนับแสนบุกปั้มน้ำมัน รุมกินใบกระท้อนพันธ์ปุยฝ้ายราคาแพงเหี้ยนทั้งต้น แถมไต่ยั๊วเยี๊ยะเคลื่อนกินใบต้นข้างๆ อีก 2 ต้น

เมื่อเวลา9.00น. วันที่ 6ธ.ค. ผู้สื่อข่าวรับแจ้งจาก นายฟิต ลุณาวรรณ อายุ 64ปี เจ้าของปั๊มน้ำมัน พงษ์พัฒน์พาณิชย์ เลขที่ 91/3 หมู่ 17 ต.สองพี่น้อง อ.ท่าใหม่ จ.จันทบุรี ว่า มีหนอนผีเสื้อยักษ์หายากนับล้านตัว บุกรุมกินใบต้นกระท้อนที่ปลูกไว้เหี้ยนทั้งต้น ภายใน 4 วัน และยังเคลื่อนขบวนบุกไปกินใบกระท้อนอีก 2 ต้น ที่อยู่ติดกัน จึงไปตรวจสอบพบต้นกระท้อนพันธ์ปุยฝ้าย 3 ต้นอายุกว่า 15 ปี ที่ปลูกไว้บริเวณหน้าปั้มน้ำมันโดย 1 ใน 3 ต้น ถูกหนอนผีเสื้อยักษ์รุมกินใบจนเหี้ยนหมดทั้งต้น เหลือเพียงกิ่งก้าน และรังดักแด้นับพันที่โผล่ขึ้นมาแทน โดยพบหนอนผีเสื้อยักษ์มีลำตัวสีเขียวอ่อน มีขนปุยสีขาวขึ้นเป็นแถวตลอดลำตัวขนาดความยาวประมาณ 10-15 ซม.จำนวนมากกำลังไต่ลงมาตามกิ่งก้านและลำต้น เพื่อไปกินใบต้นกระท้อนอีกต้นที่อยู่ห่างกันประมาณ 15 เมตร ขณะที่ชาวบ้านที่เข้ามาเติมน้ำมันในปั้ม ต่างพากันแวะมายืนดูกองทัพหนอนและต่างพากันขนลุก พร้อมกล่าวว่าไม่เคยเห็นกองทัพหนอนผีเสื้อยักษ์จำนวนมากขนาดนี้มาก่อน

อย่างไรก็ตาม จากการตรวจหนอนยักษ์ที่พบเป็นหนอนใบกระท้อน หรือตัวอ่อนผีเสื้อยักษ์เป็นผีเสื้อกลางคืนที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก เมื่อกางปีกเต็มที่จะมีความยาวประมาณ 25-30 ซม. ตัวหนอนมักจะกินใบกระท้อน ฝรั่งเทพธาโร มะเยา อบเชย การบูรทองโหลง ยี่เข่ง อินทนินน้ำเป็นอาหารโดยผีเสื้อเมื่อออกจากดักแด้สามารถผสมพันธุ์ได้ทันทีและวางไข่สีขาวอมชมพูไว้ตามใบของพืชอาหาร

เดลินิวส์ วันเสาร์ 6 ธันวาคม 2557 เวลา 10:54 น.

ประเทศไทยตอนบนมีอากาศเย็น​

​

บริเวณความกดอากาศสูงกำลังปานกลางจากประเทศจีน ยังคงแผ่ปกคลุมประเทศไทยตอนบน และทะเลจีนใต้ ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณดังกล่าวมีอากาศเย็น และมีฝนบางแห่งบริเวณภาคกลางตอนล่าง และภาคตะวันออก

เมื่อวันที่ 6 ธ.ค.กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์ลักษณะอากาศทั่วไปประจำวัน ระบุว่าบริเวณความกดอากาศสูงกำลังปานกลางจากประเทศจีนยังคงแผ่ปกคลุมประเทศไทยตอนบน และทะเลจีนใต้ ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณประเทศไทยตอนบนมีอากาศเย็น และมีฝนบางแห่งบริเวณภาคกลางตอนล่าง และภาคตะวันออก สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือกำลังปานกลางพัดปกคลุมอ่าวไทย และภาคใต้ ทำให้ภาคใต้มีฝนอยู่ในเกณฑ์กระจายในระยะนี้

อนึ่ง พายุไต้ฝุ่น “ฮากูปิต”(HAGUPIT) บริเวณมหาสมุทรแปซิฟิก มีทิศทางการเคลื่อนตัวผ่านประเทศฟิลิปปินส์ในช่วงวันที่ 7-8 ธันวาคม 2557 ขอให้ผู้ที่จะเดินทางไปประเทศฟิลิปปินส์ตรวจสอบสภาพอากาศก่อนเดินทางด้วย

พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทยตั้งแต่เวลา 06:00 วันนี้ ถึง 06:00 วันพรุ่งนี้.

ภาคเหนือ อากาศเย็น กับมีหมอกในตอนเช้า และมีหมอกหนาในบางพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 18-22 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-33 องศาเซลเซียส บริเวณยอดดอยอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 8-13 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อากาศเย็น กับมีหมอกบางในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 17-21 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-32 องศาเซลเซียส บริเวณยอดภูอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 10-14 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.

ภาคกลาง อากาศเย็นกับมีหมอกบางในตอนเช้า โดยมีฝนบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดราชบุรี สมุทรสงคราม และสมุทรสาคร อุณหภูมิต่ำสุด 22-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-33 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.

ภาคตะวันออก อากาศเย็นกับมีหมอกบางในตอนเช้า โดยมีฝนบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดระยอง จันทบุรี และตราด อุณหภูมิต่ำสุด 23-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-33 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูง 1-2 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) มีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี และนครศรีธรรมราช อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-32 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) มีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล อุณหภูมิต่ำสุด 23-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-33 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร

กรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีหมอกบางในตอนเช้า กับมีฝนบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-33 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.

เดลินิวส์ วันเสาร์ 6 ธันวาคม 2557 เวลา 06:14 น.

เปิดคลินิกรักษาฟรีถวายพ่อหลวง​

​

อดีพแพทย์ รพ.ศูนย์บุรีรัมย์ เปิดคลินิกรักษาโรคฟรีแก่คนยากไร้ เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่องค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โดยมีประชาชนจำนวนมากมาต่อคิวรับการรักษากันอย่างเนืองแน่น

เมื่อวันที่ 5 ธ.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ประชาชนทั้งเด็ก ผู้ใหญ่ คนชรา และผู้ยากไร้จำนวนมาก ได้แห่ไปเข้าคิวรอรับการตรวจรักษาโรค ที่ คลินิกหมอสนธยา ซึ่งตังอยู่บริเวณถนนนิวาศ ต.ในเมือง อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ โดย นพ.สนธยา วัฒนโกศล เจ้าของคลินิกดังกล่าว เปิดเผยว่า ในอดีตตนเป็นแพทย์ประจำอยู่ รพ.ศูนย์บุรีรัมย์ ภายหลังได้ลาออกมาเปิดคลินิกรักษาโรคนานกว่า10 ปีแล้ว หลังจากที่สมเด็จย่าทรงสวรรคตเมื่อปี 2538 ตนก็ได้เปิดให้บริการตรวจรักษาฟรีแก่ประชาชนที่เจ็บป่วยและมีฐานะยากจนต่อเนื่องเป็นประจำทุกปีๆละ 2 ครั้ง คือในวันที่ 5 ธ.ค. ซึ่งเป็นวันเฉลิมพระชนม์พรรษาสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ และวันที่ 18 ก.ค. ซึ่งเป็นวันคล้ายวันสวรรคตของพระศรีนครินทราบรมราชชนนี หรือสมเด็จย่า โดยใช้งบประมาณส่วนตัวในการซื้อเวชภัณฑ์ยา นอกจากนี้ยังได้มีทีมแพทย์และพยาบาลจาก รพ.ศูนย์บุรีรัมย์ และผู้มีจิตอาสา ได้มาช่วยให้บริการตรวจรักษาและแจกจ่ายยาให้กับผู้ป่วยที่เข้ามารับบริการอีกด้วย

นพ.สนธยา กล่าวอีกว่า สำหรับปีนี้ได้มีคณะแพทย์จาก จ.ขอนแก่น นำเครื่องอัลตร้าซาวด์มาร่วมรักษาผู้ป่วยด้วย ซึ่งที่ผ่านมามีผู้ป่วยที่เข้าการรักษาแล้ว กว่า 13,000 ราย ส่วนมากประชาชนที่มารับการตรวจรักษาฟรีเป็นกลุ่มผู้ใช้แรงงาน ชาวนาที่เจ็บป่วยเนื่องจากการทำงานหนัก อย่างไรก็ตามตนได้ตั้งปณิธานไว้ว่าจะเปิดให้บริการตรวจรักษาโรคฟรีให้กับประชาชนไปตลอดเป็นประจำทุกปีจนกว่าจะหมดลมหายใจ เพื่อเป็นการตอบแทนคุณแผ่นดิน และสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของสมเด็จย่าและพ่อหลวงของปวงชนชาวไทย และหวังว่าการทำความดีในครั้งนี้จะเป็นการจุดประกายให้คนไทยทั้งประเทศได้หันมาร่วมกันทำความดีเพื่อพ่อหลวงในรูปแบบต่างๆ เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล พร้อมขอให้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิต์พระบรมราชินีนาถ ทรงมีพระพลานามัยสุขภาพแข็งแรง เป็นมิ่งขวัญของปวงชนชาวไทยตลอดกาล.

เดลินิวส์ วันศุกร์ 5 ธันวาคม 2557 เวลา 13:39 น.

ที่มา http://www.dailynews.co.th/

 

Weeknight Show คุยเปิดกรรมกับเจน ญาณทิพย์​

เผยแพร่เมื่อ 4 ธ.ค. 2014

เปิดกรรม"สำลี"นักมายากลตกอับ หนี้ท่วมตัว ลูกป่วยหนัก (นายสำลี สังวาลย์ หรือไมเคิล สำลี)​

 

ทีวีแชมเปี้ยนส์-การเอาตัวรอดบนเกาะร้าง​

[ame=http://www.youtube.com/watch?v=u6BIQp23rX8]ทีวีแชมเปี้ยนส์ 250655 - YouTube[/ame]

เผยแพร่เมื่อ 25 มิ.ย. 2012​

 

TV Champion เกาะร้าง​

 

แผ่นดินไหวนอกชายฝั่งอินโดฯและปาปัวฯ​

​

เกิดเหตุแผ่นดินไหวขนาด 6.0 แมกนิจูด นอกชายฝั่งจังหวัดมาลูกู ทางตะวันออกของอินโดนีเซีย และแผ่นดินไหวขนาด 6.8 แมกนิจูด ในปาปัวนิวกินี เมื่อช่วงเช้าวันอาทิตย์ เบื้องต้นยังไม่มีรายงานความเสียหายและเตือนภัยคลื่นยักษ์สึนามิ

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากนครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 7 ธ.ค. ว่า สำนักงานสำรวจธรณีวิทยาสหรัฐ (ยูเอสจีเอส) เผย เกิดแผ่นดินไหวขนาด 6.0 แมกนิจูด นอกชายฝั่งทางตะวันออกของอินโดนีเซีย เมื่อเวลา 07.05 น. เช้าวันอาทิตย์ ตามเวลาท้องถิ่น (05.05 น. ตามเวลาประเทศไทย) จุดศูนย์กลางแผ่นดินไหวอยู่ห่างออกไปราว 222 กิโลเมตร ทางตะวันตกเฉียงเหนือของเมืองซามูลากิ ในจังหวัดมาลูกู ทางตะวันออกของประเทศ และลึกลงไป 117 กิโลเมตร เบื้องต้นยังไม่มีรายงานความเสียหายที่เกิดขึ้น และไม่มีประกาศเตือนภัยคลื่นยักษ์สึนามิจากศูนย์เตือนภัยสึนามิแปซิฟิก

ในเวลาไล่เลี่ยกัน มีรายงานการเกิดแผ่นดินไหวขนาด 6.8 แมกนิจูด นอกชายฝั่งเมืองปันกูนา บนเกาะบูเกนวิลล์ ในหมู่เกาะโซโลมอนของปาปัวนิวกินี เมื่อเวลา 11.22 น. วันอาทิตย์ ตามเวลาท้องถิ่น (08.22 น. ตามเวลาประเทศไทย) มีศูนย์กลางแผ่นดินไหวห่างจากเมืองปันกูนาราว 116 กิโลเมตร และลึกลงไป 10 กิโลเมตร จากนั้นเกิดแผ่นดินไหวตามหรืออาฟเตอร์ช็อคอีก 2 ครั้ง วัดความรุนแรงได้ 5.2 แมกนิจูด และ 5.0 แมกนิจูด ตามลำดับ เบื้องต้นยังไม่มีรายงานความเสียหายหรือเตือนภัยคลื่นยักษ์สึนามิเช่นกัน.

เดลินิวส์ วันอาทิตย์ 7 ธันวาคม 2557 เวลา 09:57 น.

แผ่นดินไหวยูนนานประเทศจีน เด็ก 9 ขวบโชคร้ายดับ​

​

แผ่นดินไหวขนาด 5.5 แมกนิจูด สะเทือนมณทลยูนนาน ทางตะวันตกเฉียงใต้ของจีน มีเด็กเสียชีวิต 1 คน

สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานจากกรุงปักกิ่งประเทศจีน เมื่อวันที่ 7 ธ.ค.ว่าสำนักข่าวซินหัว ของทางการจีนรายงานว่า สำนักธรณีวิทยาของสหรัฐแถลงว่า เกิดเหตุแผ่นดินไหวขนาด 5.5 แมกนิจูด เขย่าในพื้นที่ชนบทของมณฑลยูนนาน ภาคตะวันตกเฉียงใต้ของจีนเมื่อเช้าวันเสาร์ที่ผ่านมา ทำให้กำแพงบ้านหลังหนึ่งพังถล่มและมีเด็กชายวัย 9 ขวบ เสียชีวิตขณะนอนหลับอยู่ภายในบ้าน ประชาชนจำนวนมากพากันวิ่งออกจากอาคารด้วยความแตกตื่น ส่วนสำนักธรณีวิทยายูนนาน ระบุในแถลงการณ์ฉบับหนึ่งเมื่อวันอาทิตย์ว่ามีผู้ได้รับบาดเจ็บ 22 คน ในเหตุการณ์แผ่นดินไหวครั้งนี้

เดลินิวส์ วันอาทิตย์ 7 ธันวาคม 2557 เวลา 15:45 น.

แคนาดาผวาหวัดนก กักโรคฟาร์มสัตว์ปีกแห่งที่ 5​

​

ทางการแคนาดากักโรคที่ฟาร์มเพาะเลี้ยงสัตว์ปีกเป็นแห่งที่ 5 หลังมีการระบาดของไข้หวัดนกในรัฐบริติช โคลัมเบีย

สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานจากเมืองแวนคูเวอร์ รัฐบริติช โคลัมเบีย ประเทศแคนาดา เมื่อวันที่ 7 ธ.ค.ว่า สำนักงานตรวจสอบอาหารของแคนาดา แจ้งว่าการระบาดของไข้หวัดนกในรัฐบริติชโคลัมเบีย ทำให้ 7 ประเทศ เช่น สหรัฐ ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ไต้หวัน จีน แอฟริกาใต้ และเม็กซิโก ห้ามนำเข้าสัตว์ปีกจากรัฐดังกล่าว ขณะที่ ฟาร์มแห่งที่ 5 ในเขตฟราเซอร์ แวลลี กลายเป็นเขตกักโรคแล้ว นอกจากนี้ ไก่งวงและไก่กว่า 140,000 ตัว ในฟาร์มต่างๆ ที่ถูกกักโรคจะต้องถูกฆ่าทิ้ง อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีประชาชนรายใดป่วยด้วยไข้หวัดนก

ดร.ฮาร์พรีท โคชฮาร์ หัวหน้าฝ่ายสัตวแพทย์ของแคนาดา บอกว่า แหล่งต้นตอของไข้หวัดนกยังไม่ทราบแน่ชัด แต่เขาเชื่อว่า มีความเป็นไปได้ว่านกป่าหรือนกอพยพ อาจนำเชื้อมาสู่สัตว์ปีกที่เพาะเลี้ยงในฟาร์ม และสิ่งที่ต้องทำในตอนนี้คือการควบคุมการระบาดของไข้หวัดนก อย่างไรก็ตาม เมื่อปี 2547 เจ้าหน้าที่สาธารณสุขฆ่าทิ้งไก่ ไก่งวงและสัตว์ปีกต่างๆถึง 17 ล้านตัว เพื่อควบคุมการระบาดของไข้หวัดนกที่ฟาร์มเพาะเลี้ยง 42 แห่ง ในเขตฟราเซอร์ แวลลี สร้างความเสียหายให้แก่อุตสาหกรรมสัตว์ปีกหลายร้อยล้านดอลลาร์สหรัฐ

เดลินิวส์ วันอาทิตย์ 7 ธันวาคม 2557 เวลา 16:03 น.

ไต้ฝุ่น “ฮากูปิต” อ่อนกำลัง ปินส์ไม่ซ้ำรอยไห่เยี่ยน​

​

ไต้ฝุ่นกำลังแรง “ฮากูปิต” อ่อนกำลังลงแล้ว หลังพัดถล่มหลายจังหวัดชายฝั่งทะเลของฟิลิปปินส์ โชคดีที่ไม่ได้สร้างความเสียหายรุนแรงซ้ำรอยไต้ฝุ่นไห่เยี่ยนเมื่อปีที่แล้ว

สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานจากเมืองเลกาซปีประเทศฟิลิปปินส์ เมื่อวันที่ 7 ธ.ค.ว่าพายุไต้ฝุ่นกำลังแรง “ฮากูปิต”พัดถล่มหลายจังหวัดบริเวณชายฝั่งทะเลของฟิลิปปินส์ ส่งผลให้เกิดกระแสไฟฟ้าดับเป็นบริเวณกว้าง,ต้นไม้หักโค่นระเนระนาดและประชาชนมากกว่า 650,000 คน อพยพไปอยู่ในที่พักพิงชั่วคราว ก่อนที่ไต้ฝุ่นลูกนี้จะอ่อนกำลังลงในวันนี้ ทำให้ฟิลิปปินส์หายใจโล่งอก เพราะพายุลูกนี้ไม่ได้สร้างความเสียหายรุนแรงซ้ำรอยไต้ฝุ่นไห่เยี่ยน ที่พัดถล่มเมื่อปีที่แล้ว เพียงแต่เกิดน้ำท่วมขังเล็กน้อย,บ้านเรือนที่เป็นกระท่อมได้รับความเสียหายและป้ายห้างร้านต่างๆ ถูกลมพังเสียหายเท่านั้น แต่ไม่มีรายงานผู้เสียชีวิตหรือความเสียหายรุนแรงหลังฮากูปิต พัดกระหน่ำเกาะซามาร์ตะวันออกและเกาะอื่น ๆ

โดยไต้ฝุ่นลูกนี้มีความเร็วที่จุดศูนย์กลาง 140 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และเคลื่อนตัวด้วยความเร็ว 170 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ซึ่งก็อ่อนกำลังลงจากความเร็วลมสูงสุด แต่ก็ดูเหมือนว่าจะยังเป็นพายุที่มีความร้ายกาจอยู่ อย่างไรก็ตามพายุลูกนี้ เคลื่อนตัวอย่างช้าๆ ซึ่งนั่นก็หมายความว่าจะทำให้เกิดฝนตกมากขึ้น และมีความเสี่ยงที่จะเกิดดินถล่มและน้ำท่วมฉับพลัน

เดลินิวส์ วันอาทิตย์ 7 ธันวาคม 2557 เวลา 13:28 น.

มัลดีฟส์ขาดแคลนน้ำดื่ม หลังไฟไหม้โรงผลิตน้ำ​

​

เกิดเหตุไฟไหม้โรงงานปรับปรุงคุณภาพน้ำในมัลดีฟส์ ส่งผลให้เกิดภาวะขาดแคลนน้ำดื่มในกรุงมาเล เมืองหลวง ประชาชนประมาณ 1 แสนเดือดร้อน เกิดความวุ่นวายในการแย่งซื้อน้ำดื่มจากร้านค้าต่าง ๆ ด้วย

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงมันเล ประเทศมัลดีฟส์เมื่อวันที่ 7 ธ.ค.ว่าเหตุเพลิงไฟโรงงานปรับปรุงคุณภาพน้ำในมัลดีฟส์ ทำให้ไม่สามารถส่งน้ำดื่มไปยังกรุงมาเลเมืองหลวงของประเทศ ในมหาสมุทรอินเดียแห่งนี้ได้โดยประชาชนประมาณ 100,000 คน ในกรุงมาเลไม่สามารถเข้าถึงน้ำดื่มที่ส่งมาทางท่อน้ำได้ ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องจัดหาน้ำขวดมาแจกจ่ายประชาชน ซึ่งก็มีรายงานการเกิดความโกลาหล เพราะมีประชาชนบางส่วนยื้อแย่งกันซื้อน้ำดื่มในร้านค้าต่างๆ

ด้านอินเดียแถลงว่า กำลังส่งน้ำดื่มทางอากาศไปช่วยมัลดีฟส์ โฆษกของกระทรวงต่างประเทศอินเดียไซเอด อัคบารุดดิน กล่าวว่าอินเดียยังได้ส่งเรือ 2 ลำไปสำรองไว้ที่โรงงานปรับปรุงคุณภาพน้ำของมัลดีฟส์ด้วย“เมื่อคืนนี้ รัฐมนตรีต่างประเทศมัลดีฟส์ ได้ติดต่อกับทางการอินเดียบอกว่า พวกเขากำลังเผชิญหน้ากับภาวะฉุกเฉินครั้งเลวร้ายอีก 7 หรือ 8 วันข้างหน้า พวกเขาจะยิ่งประสบกับวิกฤติน้ำหนักหน่วงรุนแรงยิ่งขึ้น เพราะเฉพาะนั้นพวกเขาจึงร้องขอความช่วยเหลือ”อัคบารุดดินกล่าว

นอกจากนี้รัฐบาลมัลดีฟส์ ยังได้เรียกร้องขอความช่วยเหลือไปยังศรีลังกา,จีน และสหรัฐด้วย ทั้งนี้ตามรายงานของสหประชาชาติหรือยูเอ็น มัลดีฟส์ไม่มีแม่น้ำหรือลำธารถาวรบนเกาะ และประเทศก็พบกับความยากลำบากในการบริหารจัดการน้ำดื่มอย่างยั่งยืน ซึ่งแหล่งน้ำดื่มสำคัญในกรุงมาเลจะได้มาจากโรงงานปรับปรุงคุณภาพน้ำ อย่างไรก็ตามโรงแรมและสถานที่ท่องเที่ยวตากอากาศ ไม่ได้รับผลกระทบจากการขาดแคลนน้ำครั้งนี้ เนื่องจากพวกเขามีโรงงานปรับปรุงคูณภาพน้ำเป็ฯของตนเองอยู่แล้ว

ด้านสำนักข่าวซินหัวของทางการจีน รายงานเมื่อวันอาทิตย์ว่า จีนกำลังส่งเรือของกองทัพลำหนึ่ง บรรทุกน้ำดื่มจำนวนมากไปช่วยเหลือมัลดีฟส์ ที่กำลังประสบปัญหาวิกฤติน้ำดื่ม ซึ่งตามรายงานของซินหัว ระบุว่า กระทรวงกลาโหมจีน อ้างว่า เรือลำดังกล่าว ขนน้ำดื่ม 960 ตัน ขณะที่กระทรวงต่างประเทศ แถลงว่า จีนยังได้ส่งเครื่องบินพลเรือน 2 ลำ ขนน้ำดื่มบรรจุขวดไปช่วยมัลดีฟส์เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา

เดลินิวส์ วันอาทิตย์ 7 ธันวาคม 2557 เวลา 12:30 น.

ที่มา http://www.dailynews.co.th/

 

ระทึกชั้นวางของห้างดังถล่ม 2 แม่ลูกเจ็บ​

​

ชั้นอุปกรณ์สีห้างโฮมเวิร์กภูเก็ต สูงกว่า 6 เมตรพังครืนถล่ม แม่ลูกเดินชอปปิงบาดเจ็บ เสียหายนับล้านบาท ตร.เร่งสืบสวน คาดโครงเหล็กรับน้ำหนักของไม่ไหว

เมื่อเวลา 16.20 น.วันที่ 7 ธ.ค. ร.ต.อ.หญิง ณัฐชยา สุพรรณพงศ์ ร้อยเวร สภ.วิชิต จ.ภูเก็ต รับแจ้งมีอุบัติเหตุชั้นวางสินค้าภายในห้างโฮมเวิร์กภูเก็ต ถนนเฉลิมพระเกียรติ ร.9 ต.วิชิต อ.เมืองพังถล่ม มีทรัพย์สินเสียหาย คาดว่าน่าจะมัพนักงาน และลูกค้าติดคาอยู่ ไปตรวจสอบพร้อมเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัย และอาสาสมัครมูลนิธิกุศลธรรมภูเก็ต ที่เกิดเหตุเป็นห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ชั้นล่างแบ่งเป็นล็อกให้เช่าจำหน่ายสินค้า จำหน่ายอาหาร และซูปเปอร์มาเก็ตชั้น 2 เปิดเป็นแผนกจำหน่ายสินค้าในครัวเรือน และเครื่องใช้ไฟฟ้านานาชนิด พบพนักงานชาย-หญิงจำนวนมาก จับกลุ่มยืนวิพากษ์วิจารณ์ ด้วยความตื่นตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยพนักงานชายหญิงบางส่วนกำลังช่วยกันขนย้ายถังสี และโครงเหล็กซึ่งเป็นชั้นวางสินค้าที่ล้มระเนระนาดลงมากองอยู่บนพื้น โดยในที่เกิดเหตุมีกลิ่นฉุนของทินเนอร์ที่ใช้ผสมสีฟุ้งกระจายคละคลุ้ง ไปทั่วบริเวณจนแสบจมูก

เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัย และอาสาสมัครตลอดจนพนักงานประจำห้าง จึงเร่งลำเลียงถังสี และอุปกรณ์สีออกจากบริเวณดังกล่าว พร้อมกับตัดกระแสไฟฟ้า เพื่อป้องกันเหตุเพลิงไหม้ เนื่องจากวัสดุบางอย่างเป็นสารไวไฟ โดยเจ้าหน้าที่ได้เร่งค้นหา และลำเลียงถังสีขนาดต่างๆ ออกพร้อมกับตะโกนเรียกใช้เวลา 2 ชั่วโมง แต่ไม่พบผู้ติดคาในซากหักพัง มีเพียงผู้บาดเจ็บจำนวน 2 ราย ที่ถูกถังสีหล่นลงมาทับ ทราบชื่อต่อมาคือคือ น.ส.พัชรี บุญทะเล อายุ 35 ปี มีบาดแผลถลอกตามร่างกาย และ ด.ญ.พิชญา แซ่กิ้น อายุ 11 ปี ถูกถังสีกระแทกโหนกแก้มขวาบวมช้ำ เบื้องต้นคาดว่าค่าเสียหายกว่า 1 ล้านบาท ส่วนสาเหตุที่ทำให้ชั้นวางสี และอุปกรณ์สีถล่มลงมาอยู่ระหว่างการสอบสวนข้อเท็จจริง สันนิษฐานว่าอาจเกิดจากการวางสินค้าบนชั้นสูงสุดหนักเกินไปทำให้ชั้นวางสินค้าที่เป็นโครงเหล็กสูง 6 เมตร ทนรับน้ำหนักไม่ไหวจึงหักโค่นลงมา โดยทางห้างได้ปิดให้บริการชั่วคราวเพื่อเคลียร์พื้นที่ พร้อมกับซ่อมแซมในส่วนที่ได้รับความเสียหายแล้ว.

เดลินิวส์ วันอาทิตย์ 7 ธันวาคม 2557 เวลา 20:04 น.

เตือนระวังโรคราน้ำค้างช่วงอากาศหนาว​

​

เตือนระวังโรคราน้ำค้างช่วงอากาศหนาว

เมื่อเวลา09.00 น.วันที่ 7 ธ.ค. นายวรพจน์ คุณาวิวัฒนางกูร พยากรณ์อากาศศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคเหนือ เปิดเผยว่า ความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นจากประเทศจีน ปกคลุมประเทศไทยตอนบน ลักษณะเช่นนี้ส่งผลให้ภาคเหนืออากาศหนาวเย็นทั่วไปกับมีหมอกหนาบางพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด10-13 องศาเซลเซียส บริเวณยอดดอยอากาศหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 18-22 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-25 กิโลเมตรต่อชั่วโมง อุณหภูมิต่ำสุดช่วงเช้าบริเวณยอดดอยอินทนนท์ อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่ วัดได้ 9.0 องศาเซลเซียส ช่วงนี้จนถึงวันที่ 11 ธ.ค. บริเวณความกดอากาศสูงกำลังค่อนข้างแรงอีกระลอกหนึ่งจากจีนจะแผ่เสริมลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบน ส่งผลให้อากาศเย็นลง อุณหภูมิจะลดลง 1-3 องศาเซลเซียส โดยบริเวณภาคเหนือตอนบนจะมีอากาศหนาวบางพื้นที่ ขอให้ประชาชนเพิ่มความระมัดระวังการใช้ยวดยานพาหนะบริเวณพื้นที่หมอกหนาในช่วงตลอดระยะปลายสุดสัปดาห์นี้

ขณะที่สำนักเฝ้าระวังแผ่นดินไหวกรมอุตุนิยมวิทยา เปิดเผยว่า เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ได้เกิดแผ่นดินไหวขนาด 2.7 ริกเตอร์ ที่ละติจุด 19.76 ลองจิจูด 99.74 มีจุดศูนย์กลางอยู่ที่ อ.แม่ลาว จ.เชียงราย เบื้องต้นเป็นเพียงแผ่นดินไหวที่รู้สึกตัวได้ ไม่ได้รับรายงานเรื่องของความเสียหายในพื้นที่แต่อย่างใด ด้านนายชูศักดิ์ เทพสาร เกษตรอำเภอฝาง จังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่าจากการประเมินสถานการณ์ทางด้านภูมิอากาศ คาดว่าในปีนี้น่าจะมีอากาศหนาวกว่าทุกปีโดยอุณหภูมิจะลดต่ำลงมาก ถึงแม้จะเป็นช่วงเวลาสั้นๆแต่มีความเสี่ยงสูงต่อการเกิดโรคพืชที่มาพร้อมกับอากาศหนาวจนอาจจะส่งผลให้ผลิตผลทางการเกษตรเสียหายได้เกษตรกรต้องเฝ้าระวังติดตามสถานการณ์การระบาดของเพลี้ยไฟและไรแดงที่เป็นศัตรูกับพืชผักในช่วงฤดูหนาว รวมไปถึงระมัดระวังโรคพืชที่สำคัญได้แก่ โรคราน้ำค้าง ที่มักจะพบในพืชผักและไม้ดอก

ทั้งนี้สำหรับวิธีการป้องกันเกษตรกรควรทำบันทึกการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศหากมีอากาศเย็นติดต่อกันเกิน 2 สัปดาห์ให้พ่นสารกำจัดเชื้อราจำพวกไดแมทโทมหรือเมทาแลคซิล ป้องกันโรคราน้ำค้างไว้ก่อนหากตรวจพบว่าใบหงิกงอผิดปกติให้นำตัวอย่างมาปรึกษาสำนักงานเกษตรอำเภอฝาง เนื่องจากขณะนี้มีฝ่ายอารักขาพืชที่ทำการวินิจฉัยโรคพืชในเบื้องต้นรวมไปถึงส่งต่อไปในระดับจังหวัดเพื่อหาทางช่วยเหลือเกษตรกรต่อไป ยอดดอยอินทนนท์ อ.จอมทอง มีนักท่องเที่ยวขึ้นไปสัมผัสอากาศหนาวและรอชมพระอาทิตย์ขึ้นในตอนเช้า มีจำนวนนักท่องเที่ยวเพิ่มมากขึ้นทุกวัน ซึ่งทางเจ้าหน้าที่อุทยานก็ได้เข้ามาดูแลอย่างใกล้ชิด ส่วนสถานที่ท่องเที่ยวตามธรรมชาติอื่นๆ ก็เริ่มมีนักท่องเที่ยวเข้าไปเที่ยวเพิ่มมากขึ้นเช่นกัน บางแห่งที่มีที่พัก ก็ถูกจองเกือบเต็มหมดแล้ว คาดว่าภายใน 1 อาทิตย์ข้างหน้า ห้องพักต่างๆ ตามรีสอร์ทและแหล่งท่องเที่ยวคงจะถูกจองเต็มยาวจนถึงต้นปีหน้าอย่างแน่นอน.

เดลินิวส์ วันอาทิตย์ 7 ธันวาคม 2557 เวลา 16:40 น.

หามสามเณรวัดดังท้องร่วงส่งโรงพยาบาล​

​

หามสามเณรวัดดังท้องร่วงส่งโรงพยาบาล

เมื่อเวลา 09.30 น.วันที่ 7 ธ.ค. ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งว่า สามเณรที่วัดพระนอน (ขอนม่วง) หมู่ 5 ต.ดอนแก้ว อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่จำนวนหลายรูป ล้มป่วยด้วยอาการท้องร่วง เนื่องจากอาหารเป็นพิษ โดยบางรายอาการหนักจนต้องหามส่งโรงพยาบาลกลางดึก ผู้สื่อข่าวจึงลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงที่วัด เมื่อไปถึงพบว่าที่ศาลาภายในวัดมีสามเณรนอนเรียงรายกันเป็นจำนวนมาก โดยทีมแพทย์และพยาบาลจาก รพ.นครพิงค์ กำลังช่วยกันให้การปฐมพยาบาล โดย นพ.ธรณี กายี ผู้ช่วย ผอ.ด้านระบบบัญชาการเหตุการณ์ รพ.นครพิงค์ เปิดเผยว่า กลุ่มสามเณรที่ป่วยนั้นเป็นตัวแทนจากโรงเรียน 3 แห่งคือ โรงเรียนนวมินทราชูทิช พายัพ จ.เชียงใหม่ โรงเรียนศึกษาสงเคราะห์อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ และโรงเรียนวัดพระนอนขอนม่วง ได้เข้าพิธีบรรพชาอุปสมบทตั้งแต่วันที่ 3 ธ.ค. ที่ผ่านมา ทั้งหมด 114 รูป เมื่อช่วงเช้าวันที่ 6 ธ.ค. ที่ผ่านมา หลังจากที่สามเณรและพระสงฆ์ภายในวัดกลับจากบิณฑบาตรก็ได้ร่วมฉันอาหารเป็นข้าวเปล่ากับพะโล้ไก่ จากนั้นในช่วงฉันเพล เวลา 11.00 น. ก็นำอาหารรวมถึงขนมที่พระเณรได้ไปบิณฑบาต และอาหารที่มีผู้นำมามอบให้ที่วัดนำมาให้สามเณรเหล่านี้ทานก็มีข้าวมันไก่ และขนมจีน ส่วนตอนเย็นนั้นก็เป็นเรื่องปกติที่จะกินอะไรไม่ได้แล้วนอกจากน้ำ ซึ่งสามเณรก็ทานนมเปรี้ยว กับโอวัลติน ก่อนที่จะแยกย้ายกันไปจำวัด กระทั่งช่วงเช้าสามเณร 43 รูป เกิดอาการท้องร่วง โดยในจำนั้นมี 5 ราย ที่อาการหนักจนต้องนอนพักรักษาตัวและดูอาการที่โรงพยาบาลนครพิงค์ ส่วนกลุ่มที่เหลือนั้นทางเจ้าหน้าที่เห็นว่าอาการยังไม่หนักจึงให้การรักษาและให้การรักษาอยู่ภายในวัด

นพ.ธรณี กล่าวต่อว่า สาเหตุที่ทำให้สามรเณรล้มป่วยน่าจะมาจาก อาหารเป็นพิษเพราะได้ตรวจอุจจาระแล้วพบว่า มีการติดเชื้อจากทางเดินอาหารแต่ยังไม่ทราบว่าเป็นเชื้ออะไร เพราะอยู่ในช่วงของการเพาะเชื้ออยู่ แต่รู้จากการตรวจอุจจาระว่ามีการติดเชื้อ และการอักเสบของลำไส้จึงทำให้เกิดอาการอาเจียน นอกจากนี้ก็ยังไม่ทราบแน่ชัดว่า เกิดมาจากอาหารประเภทไหน แต่ได้ขอตัวอย่างอาหารทั้งหมดไปตรวจสอบแล้ว ส่วนอาการของสามเณรที่นอนพักรักษาตัวที่โรงพยาบาล ขณะนี้อาการก็ดีขึ้นและอยู่ในช่วงปลอดภัยแล้วเช่นกัน ส่วนสามเณรที่นอนอยู่ในศาลาก็ได้รักษาด้วยการให้ยาแก้อักเสบ การประคับประคอง คอยดูอาการหากพบว่ามีไข้สูง ความดันไม่ค่อยดี หรือเกิดอาการช็อก กินไม่ได้ก็จะส่งเข้าโรงพยาบาลเพื่อรักษาต่อ พร้อมกับประสานให้ทางโรงพยาบาลนครพิงค์เตรียมเตียงรองรับไว้แล้ว 30 กว่าเตียง เพื่อจะรองรับในกรณีมีอาการหนัก แต่เบื้องต้นยังไม่มีอาการไหนที่หนักเพิ่มขึ้น แต่ก็จะดูอาการต่อไป ส่วนผลการตรวจว่าเป็นอาหารชนิดไหนก็ต้องขอเวลาสักระยะหนึ่ง เพื่อให้เกิดความชัดเจนมากยิ่งขึ้นต่อไป.

เดลินิวส์ วันอาทิตย์ 7 ธันวาคม 2557 เวลา 14:22 น.

'พระสุเทพ'เผยเคล็ดลับลดน้ำหนัก​

​

พระสุเทพรับกิจนิมนต์ วัดคงคารี-ระนอง ตั้งวงสนทนาธรรม เผยบวชมานานกว่า 5 เดือน น้ำหนักลดลงไป 13 กก. ชี้เหตุฉันท์อาหารมื้อเช้าเพียงมื้อเดียว รู้สึกผ่องใส แนะเคล็ดลับกินมือเดียว ถือศีล 8 สุขภาพกาย-ใจแข็งแรง

เมื่อวันที่ 7 ธ.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงเช้าที่ผ่านมา พระสุเทพ เทือกสุบรรณ หรือปภากโรภิกขุ ได้รับกิจนิมนต์เดินทางจากวัดสวนโมกขพลาราม อ.ไชยา จ.สุราษฎร์ธานี มาร่วมพิธีทอดผ้าป่าสามัคคี เพื่อสร้างพระอุโบสถที่ วัดคงคารี หมู่ 2 ต.เชี่ยวเหลียง อ.กะเปอร์ จ.ระนอง ภายหลังมีประชาชนทราบข่าวต่างเดินทางร่วมงานบุญทอดผ้าป่าเป็นจำนวนมาก พร้อมขออนุญาตบันทึกภาพถ่ายเป็นที่ระลึก โดยมีนายจุมพล นวลใส อดีตแกนนำ กกปส. ติดตามร่วมคณะมาด้วยทั้งนี้พระสุเทพ ได้เปิดสนทนาธรรมร่วมกับชาวบ้านในพื้น โดยมีการตั้งเก้าอี้ล้อมวงเป็นวงกลม ก่อนจะเปิดเผยว่า ตลอดห้าเดือนที่เข้าบวชเป็นพระภิกษุ รู้สึกผ่องใสขึ้น ช่วงที่เป็นอาตมาในวันนี้ กับอาตมาตอนเป็นลุงกำนันแตกต่างกันมาก อานิสสงฆ์ของการบวชอยู่วัดสวนโมกข์จะฉันท์อาหารเพียงมื้อเช้ามื้อเดียว บวชมากว่า 5 เดือน น้ำหนักลดไป 13 ก.ก. ใครที่รู้ตัวน้ำหนักมาก ทดลองทานอาหารมื้อเดียว วิกาละโภชนา และถือศิล 8 สุขภาพกายและสุขใจจะกลับมาแข็งแรงสมบูรณ์

สำหรับยอดเงินบริจาคทอดผ้าป่าสามัคคี เพื่อสร้างพระอุโบสถที่ วัดคงคารี มีจำนวนทั้งสิ้น 105,601 บาท โดยมีพระเทพสิทธิมงคล ที่ปรึกษาเจ้าคณะจังหวัดระนองเป็นประธานฝ่ายสงฆ์ และนายบุญจักดิ์ สงคราม กำนัน ต.เชี่ยวเหลียง เป็นประธานฝ่ายคฤหัสถ์ โดยหลังพิธีถวายพุ่มผ้าป่า และผ้าไตร เสร็จสิ้นแล้ว พระสุเทพพร้อมคณะได้เดินทางกลับวัดสวนโมกขพลารามทันที.

เดลินิวส์ วันอาทิตย์ 7 ธันวาคม 2557 เวลา 14:48 น.

ที่มา http://www.dailynews.co.th/

 

มีดช่างแขก OTOP​

 

ผจญภัยสุดขั้ว-เกาะร้าง​

 

ผจญภัยสุดขั้ว ภูเขาไฟฮาวาย​

 

ผจญภัยสุดขั้ว ป่าฝนคอสตาริก้า​

 

ผจญภัยสุดขั้ว ไซบีเรีย​

[ame=http://www.youtube.com/watch?v=-5XhOwsBK-8]ผจญภัยสุดขั้ว ไซบีเรีย ตอนที่ 1 - YouTube[/ame]
[ame=http://www.youtube.com/watch?v=CffvM9jebNE]ผจญภัยสุดขั้ว ไซบีเรีย ตอนที่ 2 - YouTube[/ame]

 

ปานามาแผ่นดินไหว 6.6 แมกนิจูด​

​

แผ่นดินไหวรุนแรง 6.6 แมกนิจูด นอกชายฝั่งทางตะวันตกของปานามา เบื้องต้นยังไม่เกิดความเสียหายร้ายแรง

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงปานามาซิตี ประเทศปานามา เมื่อวันที่ 8 ธ.ค. ว่าสำนักงานสำรวจธรณีวิทยาสหรัฐ ( ยูเอสจีเอส ) รายงานการเกิดแผ่นดินไหวรุนแรงระดับ 6.6 แมกนิจูด เมื่อเวลา 03.54 น. ตามเวลาท้องถิ่นของปานามา ( 15.54 น. ตามเวลาในประเทศไทย ) โดยมีจุดศูนย์กลางลึกลงไปใต้ทะเลราว 20 กิโลเมตร และห่างจากเมืองดาวิก ริมชายฝั่งทางตะวันตกของประเทศออกไปทางตะวันตกเฉียงใต้อีกราว 58 กิโลเมตร

อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีรายงานการเกิดความเสียหาย รวมถึงผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต และการประกาศเตือนภัยสึนามิ

เดลินิวส์ วันจันทร์ 8 ธันวาคม 2557 เวลา 17:11 น.

กลุ่มสิทธิฯจี้ประชาคมโลกช่วยผู้ลี้ภัยซีเรีย​

​

กลุ่มสิทธิมนุษยชนเรียกร้องนานาชาติ ให้ที่พักพิงแก่ผู้ลี้ภัยชาวซีเรียราว 180,000 คน เพื่อรองรับจำนวนผู้อพยพ ที่คาดว่าจะเพิ่มสูงในปีหน้าท่ามกลางสถานการณ์ความขัดแย้งของซีเรียที่ยังร้อนระอุ

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากนครเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เมื่อวันที่ 8 ธ.ค. ว่า องค์กรด้านสิทธิมนุษยชนกว่า 30 แห่ง รวมตัวกันเมื่อวันจันทร์เรียกร้องให้ประชาคมโลกให้การสนับสนุนที่พักพิงแก่ผู้ลี้ภัยชาวซีเรียราว 180,000 คน ซึ่งคิดเป็นร้อยละ 5 ของจำนวนผู้ลี้ภัยชาวซีเรียที่สำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ (ยูเอ็นเอชซีอาร์) คาดว่าจะมีสูงถึง 3.6 ล้านคนภายในสิ้นปี 2558 ซึ่งประเด็นนี้จะถูกนำมาหารือในที่ประชุมที่นครเจนีวาในวันอังคารนี้

สงครามในซีเรียที่ยืดเยื้อมานานกว่า 3 ปี ทำให้พลเมืองกว่า 3.2 ล้านคนต้องอพยพออกนอกประเทศไปยังประเทศเพื่อนบ้าน โดยยูเอ็นเอชซีอาร์ กล่าวว่า หากนานาชาติให้ความช่วยเหลือกลุ่มผู้ลี้ภัยราว 180,000 คนนี้ รวมถึงสนับสนุนความช่วยเหลือด้านเศรษฐกิจและอื่นๆ แก่กลุ่มประเทศเพื่อนบ้านผู้ให้ที่พักพิง จะทำให้กลุ่มประเทศเหล่านี้ ซึ่งกำลังเผชิญปัญหาด้านโครสร้างพื้นฐานและบริการสาธารณะไม่เพียงพอ มีกำลังใจและยินดีเปิดพรมแดนให้แก่ผู้อพยพชาวซีเรียต่อไป

ในการนี้ ยูเอ็นเอชซีอาร์ยังเรียกร้องให้กลุ่มประเทศที่ยังไม่เคยให้การสนับสนุนด้านที่พักพิงแก่ผู้ลี้ภัยชาวซีเรียเลย เช่น กลุ่มประเทศแถบอ่าวเปอร์เซีย และกลุ่มประเทศลาตินอเมริกา เข้ามามีส่วนร่วมในภารกิจด้านมนุษยธรรมนี้ด้วย.

เดลินิวส์ วันจันทร์ 8 ธันวาคม 2557 เวลา 14:28 น.

เรือขนผู้อพยพล่มนอกชายฝั่งเยเมนดับ 70 ศพ​

​

เกิดเหตุเรือบรรทุกผู้อพยพผิดกฎหมาย อับปางนอกชายฝั่งทางตอนใต้ของเยเมน เมื่อวันเสาร์ ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 70 ศพ เป็นชาวเอธิโอเปียทั้งหมด

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงซานา ประเทศเยเมน เมื่อวันที่ 8 ธ.ค. ว่ากระทรวงมหาดไทยเยเมนออกแถลงการณ์เรื่องการพบผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 70 ศพ เป็นชาวเอธิโอเปียทั้งหมด หลังเกิดเหตุเรือบรรทุกผู้อพยพผิดกฎหมายอับปางในทะเลแดง นอกชายฝั่งเมืองอัล-มักกา ทางตอนใต้ของประเทศ เมื่อวันเสาร์ตามเวลาท้องถิ่น ขณะที่สาเหตุทำให้เรืออับปางยังอยู่ระหว่างการสืบสวนของเจ้าหน้าที่ ซึ่งเบื้องต้นสันนิษฐานว่า อาจเป็นผลจากสภาพอากาศเลวร้ายในเวลานั้น

ข้อมูลของสำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ ( ยูเอ็นเอชซีอาร์ ) ระบุว่า ตลอดระยะเวลา 5 ปีที่ผ่านมา ผู้อพยพผิดกฎหมายกว่า 500,000 คน ส่วนใหญ่เป็นชาวเอริเทรีย เอธิโอเปีย และโซมาเลีย พยายามเดินทางมาขึ้นฝั่งที่เยเมน ผ่านการโดยสารเรืออย่างแออัดข้ามอ่าวเอเดนและทะเลแดง โดยมีจุดมุ่งหมายคือการค้นหาอนาคตที่ดีกว่าในซาอุดิอาระเบียและประเทศร่ำรวยในแถบตะวันออกกลาง

อย่างไรก็ตาม ความพยายามดังกล่าวกลับกลายเป็นการเอาชีวิตมาทิ้งกลางมหาสมุทร ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 31 พ.ค. ที่ผ่านมา เกิดเหตุเรือบรรทุกผู้อพยพจากโซมาเลียและเอธิโอเปียอับางนอกชายฝั่งเยเมน มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 60 ศพ ในจำนวนนี้ 2 ศพ เป็นลูกเรือชาวเยเมน

เดลินิวส์ วันจันทร์ 8 ธันวาคม 2557 เวลา 13:39 น.

ไต้ฝุ่น "ฮากูปิต" เริ่มอ่อนกำลัง​

​

ไต้ฝุ่น "ฮากูปิต" เริ่มอ่อนกำลัง

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงมะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์ เมื่อวันที่ 8 ธ.ค.ว่าสำนักงานป้องกันภัยพลเรือนของฟิลิปปินส์ออกแถลงการณ์เรื่องอิทธิพลของพายุไต้ฝุ่น "ฮากูปิต" ว่าทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 2 ศพ นับตั้งแต่พายุเคลื่อนตัวเข้าสู่ฝั่งบริเวณหมู่บ้านโดโลเรส บนเกาะซามาร์ ทางตอนกลางของประเทศ เมื่อคืนวันเสาร์ตามเวลาท้องถิ่น สร้างความเสียหายให้กับพื้นที่ดังกล่าวแล้วเกือบร้อยละ 80

ขณะที่ประชาชนกว่า 1.2 ล้านคน ในพื้นที่เสี่ยงต้องอพยพออกจากที่อยู่อาศัยเป็นการชั่วคราว เนื่องจากอิทธิพลของพายุก่อให้เกิดฝนตกหนักลมกระโชกแรง น้ำท่วมฉับพลันเป็นวงกว้าง กระแสไฟฟ้าดับ และต้นไม้หักโค่นระเนระนาด

อย่างไรก็ตามพายุอ่อนกำลังลง จากความรุนแรงเทียบเท่าพายุเฮอริเคนระดับ 5 ลงมาเหลือระดับ 2 ตามมาตรวัดพายุแบบซัฟเฟอร์-ซิมป์สัน บรรเทาความกังวลของทุกฝ่ายได้เปลาะหนึ่งว่า อิทธิพลของพายุเมื่อเคลื่อนตัวเข้าสู่แผ่นดินใหญ่ไม่รุนแรงเมื่อครั้งซูเปอร์ไต้ฝุ่น"ไห่เยี่ยน" ซึ่งขึ้นฝั่งในบริเวณเดียวกันนี้เมื่อเดือน พ.ย.ปีที่แล้ว และคร่าชีวิตประชาชนกว่า 7,000 ศพ กระนั้นรัฐบาลยังคงมาตรการรับมือเอาไว้ที่ระดับสูง เนื่องจากทิศทางการเคลื่อนตัวของพายุมีแนวโน้มจะสร้างความเสียหายให้กับพื้นที่ทางตอนใต้ของกรุงมะนิลาภายในวันนี้ตามเวลาท้องถิ่นด้วย

เดลินิวส์ วันจันทร์ 8 ธันวาคม 2557 เวลา 08:10 น.

เครื่องบินอิสราเอลทิ้งระเบิดถล่มซีเรีย​

​

เครื่องบินทิ้งระเบิดของอิสราเอล โจมตี 2 จุด ใกล้กับกรุงดามัสกัส ประเทศซีเรีย เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ใกล้กับสนามบินนานาชาติกับเมืองใกล้พรมแดนเลบานอน

สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานจากกรุงดามัสกัสประเทศซีเรีย เมื่อวันที่ 8 ธ.ค.ว่ากองทัพซีเรีย แถลงว่านับตั้งแต่ซีเรียเกิดความขัดแย้งขึ้นในประเทศเมื่อเดือน มี.ค.2554 ที่ผ่านมาอิสราเอลได้ปฏิบัติการโจมตีทางอากาศในประเทศซีเรียโดย มีเป้าหมายอยู่ที่ระบบอาวุธอันนำสมัย เช่น ขีปนาวุธต่อสู้อากาศยานผลิตในประเทศรัสเซีย และขีปนาวุธผลิตในประเทศอิหร่าน เพราะอิสราเอลเชื่อว่าอาวุธเหล่านี้ มีจุดหมายเพื่อจัดส่งไปให้กับกลุ่มที่เป็นศัตรูของอิสราเอลคือ กลุ่มเฮซบอลลาห์ในประเทศเลบานอน

อย่างไรก็ตามอิสราเอลไม่เคยรายงานยืนยัน เรื่องการโจมตีทางอากาศที่เกิดขึ้นในประเทศอิสราเอล โดยกองทัพอิสราเอลแจ้งแต่เพียงว่าไม่สามารถให้ความเห็นกับรายงานข่าวของต่างชาติได้

กลุ่มสังเกตการณ์ด้านสิทธิมนุษยชน กลุ่มเคลื่อนไหวด้านสิทธิมนุษยชนซึ่งตั้งอยู่ในประเทศอังกฤษ และมีเครือข่ายรายงานในพื้นที่ของสงครามกลางเมืองในประเทศซีเรียระบุว่า จุดที่ถูกเครื่องบินทิ้งระเบิดของอิสราเอล โจมตีอยู่ใกล้กับสนามบินนานาชาติกรุงดามัสกัส ถูกอาคารคลังสินค้าสำหรับนำเข้าและส่งออก ยังไม่มีรายงานยืนยันว่ามีผู้เสียชีวิตหรือบาดเจ็บหรือไม่

แต่อีกจุดหนึ่งที่ถูกโจมตีอยู่ด้านนอกค่ายทหาร ใกล้กับเมืองดิมาสชายแดนประเทศเลบานอน มีผู้ได้ยินเสียงระเบิดจากการโจมตีราว 10 ครั้ง ด้วยกันแต่ไม่มีรายงานยืนยันเรื่องผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ

เดลินิวส์ วันจันทร์ 8 ธันวาคม 2557 เวลา 02:57 น.

สหรัฐใช้ "โดรน" สังหารหัวรุนแรง 9 ราย​

​

โดรน ที่ต้องสงสัยเป็นของอเมริกาโจมตีเป้าหมายในอัฟกานิสถาน ส่งผลให้สมุนตาลีบันปากีสถานเสียชีวิต 9 ศพ

สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานจากกรุงคาบูลประเทศอัฟกานิสถาน เมื่อวันที่ 7 ธ.ค.ว่า เกิดเหตุโจมตีในอัฟกานิสถาน ด้วยโดรนหรือเครื่องบินไร้คนขับที่ต้องสงสัยว่าเป็นของสหรัฐ ทำให้นักรบตาลีบันปากีสถานเสียชีวิต 9 ศพ ในหมู่บ้านชนบทใกล้ภูเขา ที่ตั้งอยู่บริเวณพรมแดนสองประเทศ การโจมตีเกิดขึ้นเมื่อบ่ายวันเสาร์ที่หมู่บ้านชิลตันในจังหวัดคูนาร์ สังหารผู้บัญชาการระดับสูงของตาลีบัน แต่การโจมตีครั้งนี้ไม่มีพลเรือนเสียชีวิตหรือบาดเจ็บ ขณะที่ นาโตไม่ยืนยันการโจมตีดังกล่าว

แต่สหรัฐใช้โดรนโจมตีและเข่นฆ่ากลุ่มหัวรุนแรง ในอัฟกานิสถานและปากีสถานมานานแล้ว เจ้าหน้าที่สหรัฐไม่ค่อยออกมาแสดงความเห็นต่อโครงการโดรน ที่ดำเนินการโดยซีไอเอหรือหน่วยข่าวกรองสหรัฐ ส่วนตาลีบันยังไม่ได้แสดงความเห็นเกี่ยวกับการโจมตีดังกล่าว อย่างไรก็ตาม นักรบตาลีบัน,อัลกออิดะห์และกลุ่มหัวรุนแรงอื่นๆ มักข้ามพรมแดนเข้ามาโจมตีทหารท้องถิ่นและกองกำลังนาโต ช่วงหลังกลุ่มหัวรุนแรงโหมโจมตีอย่างหนักในอัฟกานิสถาน เนื่องจากนาโตและสหรัฐมีแผนถอนกำลังทหารส่วนใหญ่ออกจากอัฟกานิสถานในช่วงสิ้นเดือนนี้

เดลินิวส์ วันอาทิตย์ 7 ธันวาคม 2557 เวลา 17:32 น.

ที่มา http://www.dailynews.co.th/

 

กินอยู่คือ - พืชใต้ดินกินอร่อย​

เผยแพร่เมื่อ 20 เม.ย. 2014​

 

พื้นที่ชีวิต - เรากินอะไรอยู่ ​

เผยแพร่เมื่อ 15 พ.ย. 2012​

 

วิธีการปลูกข้าวและพืชผักบนแพลอยน้ำ​

 

ผู้เสียชีวิตจากไต้ฝุ่น "ฮากูปิต" เพิ่มเป็น 27 ศพ​

​

จำนวนผู้เสียชีวิตจากอิทธิพลของพายุไต้ฝุ่น "ฮากูปิต" ที่ถล่มฟิลิปปินส์เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เพิ่มเป็นอย่างน้อย 27 ศพ ขณะที่พายุมุ่งหน้าออกทะเลจีนใต้แล้ว

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงมะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์ เมื่อวันที่ 9 ธ.ค. ว่านายริชาร์ด กอร์ดอน ประธานกาชาดฟิลิปปินส์ แถลงว่าจำนวนผู้เสียชีวิตจากอิทธิพลของพายุไต้ฝุ่น "ฮากูปิต" ซึ่งเคลื่อนตัวเข้าถล่มพื้นที่ทางตอนกลางของประเทศตั้งแต่เมื่อสุดสัปดาห์ที่แล้ว เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วเป็นอย่างน้อย 27 ศพ อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่อาจต้องปรับเพิ่มตัวเลขขึ้นอีกในอนาคตอันใกล้นี้ เนื่องจากยังไม่เสร็จสิ้นการสำรวจความเสียหายของพื้นที่อีกหลายส่วนบนเกาะซามาร์ ซึ่งเป็นเส้นทางผ่านโดยตรงของพายุได้

ขณะที่ประชาชนจำนวนมากทยอยเดินทางออกจากศูนย์พักพิงกลับไปยังบ้านเรือนของตัวเอง หลังสถานการณ์ในภาพรวมเริ่มคลี่คลาย โดยไม่เกิดอุทกภัยรุนแรงอย่างที่หลายฝ่ายหวั่นเกรงกันก่อนหน้านี้ แม้ก่อให้เกิดฝนตกในหลายเขตของกรุงมะนิลาก็ตาม แต่พายุอ่อนกำลังลงอย่างต่อเนื่อง และกำลังเคลื่อนตัวมุ่งหน้าออกสู่ทะเลจีนใต้แล้ว

เดลินิวส์ วันอังคาร 9 ธันวาคม 2557 เวลา 09:56 น.

โอบามาชี้แก้ปัญหาเหยียดผิวต้องใช้เวลา​

​

ประธานาธิบดีบารัค โอบามา ผู้นำสหรัฐ ยอมรับการแก้ไขความขัดแย้งที่เกิดจากการมีสีผิวที่แตกต่างเป็นปัญหาเรื้อรังในสังคมอเมริกัน ที่ต้องใช้เวลาในการแก้ไข แต่ยืนยันรัฐบาลไม่เคยนิ่งนอนใจและจะเร่งปฏิรูปนโยบายที่เกี่ยวข้อง

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงวอชิงตัน ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 9 ธ.ค. ว่าสถานีโทรทัศน์ "แบล็ก เอ็นเตอร์เทนเมนต์ เทเลวิชั่น" ( บีอีที ) ออกอากาศเทปบันทึกการสัมภาษณ์ประธานาธิบดีบารัค โอบามา เมื่อวันจันทร์ ซึ่งผู้นำสหรัฐกล่าวถึงปัญหาด้านทัศนคติที่เกิดขึ้นจากความต่างของสีผิว ว่าไม่ใช่ความขัดแย้งที่สามารถแก้ไขได้ในระยะเวลาอันสั้น เนื่องจากเป็นปัญหาที่ฝังรากลึกอยู่ในสังคมอเมริกันมายาวนาน

ทั้งนี้ โอบามาเรียกร้องให้ทุกภาคส่วนพยายามอดกลั้นและประนีประนอม หลีกเลี่ยงการแก้ปัญหาโดยใช้ความรุนแรง เพื่อไม่ให้สถานการณ์ย่ำแย่และบานปลายมากไปกว่านี้ นอกจากนี้ ผู้นำสหรัฐให้คำมั่นจะปฏิรูประบบการทำงานของตำรวจ และปรับเปลี่ยนนโยบายที่เกี่ยวข้องทั้งหมดด้วย พร้อมกับยืนยันว่า รัฐบาลไม่เคยเพิกเฉยกับปัญหาเหล่านี้

ถ้อยแถลงของโอบามาผ่านสถานีบีอีทีได้รับการเผยแพร่ออกมา ในช่วงที่สถานการณ์ชุมนุมและจลาจลเรื่องสีผิว กลับมารุนแรงอีกครั้งในนครนิวยอร์กและพื้นที่บางส่วนของรัฐแคลิฟอร์เนีย จากกรณีคณะลูกขุนใหญ่รัฐนิวยอร์กมีมติไม่ส่งฟ้องตำรวจผิวขาวซึ่งใช้แขนรัดคอชายผิวสี คุณพ่อลูกหก เสียชีวิตเมื่อเดือนก.ค. ทั้งที่อีกฝ่ายไม่มีอาวุธ ยิ่งเป็นการเติมเชื้อไฟให้บรรยากาศแห่งความขัดแย้งรุนแรงทางสีผิวทวีความรุนแรง เนื่องจากมติดังกล่าวเกิดขึ้นเพียง 1 สัปดาห์ หลังคณะลูกขุนใหญ่รัฐมิสซูรีมีมติไม่ดำเนินคดีกับตำรวจผิวขาว ซึ่งยิงเด็กหนุ่มผิวสีเสียชีวิตเมื่อเดือน ส.ค.

เดลินิวส์ วันอังคาร 9 ธันวาคม 2557 เวลา 13:38 น.

เซียร์ราลีโอนมีผู้เสียชีวิตจากเชื้ออีโบลามากที่สุด​

​

จำนวนผู้เสียชีวิตจากเชื้อไวรัสอีโบลาในปีนี้เพิ่มเป็นมากกว่า 6,300 ศพแล้ว โดยเซียร์ราลีโอนแซงไลบีเรีย ขึ้นมาเป็นประเทศที่พบผู้เสียชีวิตจากเชื้อไวรัสมรณะชนิดนี้มากที่สุดแล้ว

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากนครเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เมื่อวันที่ 9 ธ.ค.ว่ารายงานฉบับล่าสุดขององค์การอนามัยโลก ( ฮู ) เกี่ยวกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสอีโบลา เผยแพร่เมื่อวันจันทร์ ระบุการพบผู้เสียชีวิตตั้งแต่เดือนธ.ค.ปีที่แล้วเป็นต้นมา ถึง ณ วันที่ 6 ธ.ค. อยู่ที่อย่างน้อย 6,346 ศพ จากจำนวนผู้ติดเชื้อ 17,834 คน พบใน 8 ประเทศ ได้แก่ กินี ไลบีเรีย เซียร์ราลีโอน มาลี เซเนกัล ไนจีเรีย สเปน และสหรัฐ

แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น หากคำนวณสถิติเฉพาะ 3 ประเทศที่มีอัตราการแพร่ระบาดสูงที่สุด คือ กินี ไลบีเรีย และเซียร์ราลีโอน จำนวนผู้เสียชีวิตจะอยู่ที่อย่างน้อย 6,331 ศพ

อย่างไรก็ตาม สถิติผู้เสียชีวิตของเซียร์ราลีโอนแซงไลบีเรียขึ้นมาเป็นอันดับ 1 แล้ว โดยจำนวนผู้เสียชีวิตอยู่ที่อย่างน้อย 1,742 ศพ จากจำนวนผู้ป่วยสะสม 7,798 คน ตามด้วยกินี ประเทศที่เป็นต้นตอของการแพร่ระบาดในครั้งนี้ พบผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 1,412 ศพ จากจำนวนผู้ป่วยสะสม 2,283 คน ขณะที่ไลบีเรียพบผู้เสียชีวิตจากเชื้อไวรัสอีโบลาแล้ว 1,377 ศพ จากจำนวนผู้ติดเชื้อ 7,719 คน

เดลินิวส์ วันอังคาร 9 ธันวาคม 2557 เวลา 08:16 น.

วาฬหัวทุย 6 ตัว เกยตื้นตายหมู่หาดออสซี่​

​

พบวาฬหัวทุย 6 ตัวตายหมู่ คลื่นซัดเกยหาดชายฝั่งทางใต้ของออสเตรเลีย

สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานจากเมืองซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย เมื่อวันที่ 8 ธ.ค. ว่า พบวาฬหัวทุย หรือ วาฬสเปิร์ม ขนาดใหญ่ 6 ตัว ตายหมู่และถูกคลื่นทะเลซัดเกยตื้น บนชายหาดปารารา ห่างจากเมืองแอดิเลด ไปทางตะวันตกเฉียงเหนือประมาณ 150 กม. เมื่อวันจันทร์ เจ้าหน้าที่หน่วยอนุรักษ์สัตว์ของออสเตรเลียกำลังคิดหาวิธีจัดการกับซากศพของฝูงวาฬ ที่มีขนาดน้ำหนักตัวรวมกันประมาณ 50 ตันเหล่านี้

เจ้าหน้าที่กระทรวงสิ่งแวดล้อมออสเตรเลียรายหนึ่ง กล่าวว่า เบื้องต้นยังไม่ทราบสาเหตุการตายของวาฬหัวทุยฝูงนี้ แต่ตามทฤษฎีน่าจะเกิดจากวาฬตัวใดตัวหนึ่งในฝูงเกิดล้มป่วย แล้วว่ายเข้าสู่เขตน้ำตื้น ทำให้ตัวอื่นๆ ติดตามมา เจ้าหน้าที่กำลังพิจารณาทางเลือก ในการจัดการกับซากฝูงวาฬ ซึ่งการเกยหาดในเขตน้ำตื้นอาจดึงดูดฝูงฉลาม ขณะที่ชาวประมงท้องถิ่นรายหนึ่งสันนิษฐานว่า วาฬฝูงนี้อาจตามไล่ล่าฝูงปลาแซลมอนสู่เขตน้ำตื้น แต่ไม่สามารถคาดเดาสาเหตุการตาย และว่า เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้ยากมาก ที่จะเห็นวาฬเกยตื้นตามแนวชายฝั่งทางใต้ของออสเตรเลีย โดยก่อนหน้านี้ ในปี 2533 มีโลมาเกยตื้นตายหมู่ 58 ตัว บนหาดในอ่าวเนเปียน.

เดลินิวส์ วันอังคาร 9 ธันวาคม 2557 เวลา 01:54 น.

ที่มา http://www.dailynews.co.th/

 

ผจญภัยสุดขั้ว - ยูทาห์ ​

 

ภัตตาคารบ้านทุ่ง - ผักดอง​

 

เมืองคอนขายข้าวราคาถูกช่วยชาวบ้าน​

​

เมืองคอนขายข้าวราคาถูกช่วยชาวบ้าน

เมื่อวันที่ 10 ธ.ค. ที่ห้องประชุมศรีวิชัย ชั้น 5 ศาลากลางจังหวัดนครศรีธรรมราช นายพีระศักดิ์ หินเมืองเก่า ผวจ.นครศรีธรรมราช เป็นประธานพิธีร่วมลงนามบันทึกข้อตกลง ความร่วมมือโครงการช่วยเหลือประชาชน ลดรายจ่าย เพิ่มรายได้คืนความสุขให้แก่ประชาชนชาวนครศรีธรรมราช โดยมีนายสุทธิพร กาฬสุวรรณ นายกสมาคมโรงสีข้าวและกลุ่มชาวนาภาคใต้ และนายเกียรติศักดิ์ ยอดระบำ รองนายกองค์การส่วนจังหวัดนครศรีธรรมราช ร่วมลงนาม 3 ฝ่าย

โดยนายพีระศักดิ์ กล่าวว่า การลงนามบันทึกข้อตกลงดังกล่าว เป็นความร่วมมือระหว่างหน่วยงานภาคราชการ อบจ.นครศรีธรรมราช สมาคมโรงสีข้าวและและกลุ่มชาวนาภาคใต้ เพื่อช่วยประชาชนลดรายจ่ายภาคครัวเรือน ในภาวะเศรษฐกิจซบเซา ราคาผลผลิตทางการเกษตรและพืชเกษตรกิจหลักในพื้นที่ทั้งยางพาราและปาล์มน้ำมัน ราคาตกต่ำต่อเนื่อง และส่งผลกระทบในวงกว้างแก่ประชาขนในพื้นที่ ทั้งนี้โครงการช่วยเหลือเกษตรกรดังกล่าวจะเป็นการจำหน่ายข้าวสารหอมปทุมในราคาต้นทุน จำนวน 1,000 ตัน หรือ 1 ล้านกิโลกรัม ในขนาดบรรจุถุงละ 5 กิโลกรัม จำหน่ายในราคาถุงละ 100 บาท จากราคาปกติ 150 บาท หรือราคาลดลง 50 บาทต่อถุง

“ในเบื้องต้นจะจำหน่ายให้ประชาชนครัวเรือนละไม่เกิน 4 ถุง หรือ 20 กิโลกรัม เพื่อเป็นของขวัญปีใหม่ 2558 โดยคาดว่าจะเริ่มวางจำหน่ายให้แก่พี่น้องประชาชนในพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราชได้ตั้งแต่วันที่ 15 ธันวาคมนี้เป็นต้นไป สำหรับจังหวัดนครศรีธรรมราช มีพื้นที่ในการเกษตรกรรม กว่า 3 ล้าน 5 หมื่น 9 พันไร่ หรือคิดเป็นร้อยละ 49.23 ของพื้นที่จังหวัด โดยรายได้ของประชากรส่วนใหญ่มาจากสาขาเกษตรกรรม 47,340 ล้านบาท หรือร้อยละ 30.73”.

เดลินิวส์ วันพุธ 10 ธันวาคม 2557 เวลา 10:46 น.

อากาศเย็นมีหมอกบางในตอนเช้า​

​

ความกดอากาศสูงจากประเทศจีน ยังคงปกคลุมประเทศไทยตอนบน และทะเลจีนใต้ อากาศเย็นกับมีหมอกบางในตอนเช้า และอุณหภูมิจะลดลงได้อีกเล็กน้อย

กรมอุตุนิยมวิทยารายงานลักษณะอากาศทั่วไป บริเวณความกดอากาศสูงจากประเทศจีนยังคงปกคลุมประเทศไทยตอนบน และทะเลจีนใต้ ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณประเทศไทยตอนบน มีอากาศเย็นกับมีหมอกบางในตอนเช้า และอุณหภูมิจะลดลงได้อีกเล็กน้อย สำหรับในช่วงวันที่ 12-14 ธันวาคม 2557 บริเวณความกดอากาศสูงกำลังค่อนข้างแรงอีกระลอกหนึ่งจากประเทศจีนจะแผ่เสริมลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบน ทำให้บริเวณดังกล่าว มีอากาศเย็นลงและอุณหภูมิจะลดลง 3-5 องศาเซลเซียส ส่วนมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทย และภาคใต้ จะมีกำลังแรงขึ้น ทำให้ภาคใต้มีฝนเพิ่มขึ้น และบริเวณอ่าวไทยตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานีลงไป มีคลื่นสูง 2-3 เมตร อนึ่ง พายุโซนร้อน “ฮากูปิต”(HAGUPIT) บริเวณทะเลจีนใต้ มีแนวโน้มจะอ่อนกำลังลง คาดว่า พายุนี้จะสลายตัวบริเวณชายฝั่งประเทศเวียดนาม โดยไม่มีผลกระทบต่อลักษณะอากาศของประเทศไทย

พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทยตั้งแต่เวลา 06:00 วันนี้ ถึง 06:00 วันพรุ่งนี้.

ภาคเหนือ อากาศเย็น อุณหภูมิลดลงเล็กน้อยกับมีหมอกในตอนเช้า และมีหมอกหนาในบางพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 18-22 องศา เซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-33 องศาเซลเซียส บริเวณยอดดอยอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 9-13 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อากาศเย็น อุณหภูมิลดลงเล็กน้อยกับมีหมอกบางในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 16-19 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-32 องศาเซลเซียส บริเวณยอดภูอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 10-14 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.

ภาคกลาง อากาศเย็น อุณหภูมิลดลงเล็กน้อยกับมีหมอกบางในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 20-22 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-33 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.

ภาคตะวันออก อากาศเย็น อุณหภูมิลดลงเล็กน้อยกับมีหมอกบางในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 21-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูง 1-2 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) มีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 30 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดสุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส อุณหภูมิต่ำสุด 22-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-33 องศาเซลเซียส ตั้งแต่จังหวัดสุราษฏร์ธานีขึ้นมา ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ตั้งแต่จังหวัดนครศรีธรรมราชลงไป ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-35 กม./ชม.ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) มีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 30 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล อุณหภูมิต่ำสุด 23-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-33 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม.ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร

กรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีเมฆบางส่วน กับมีอากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 22-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.

เดลินิวส์ วันพุธ 10 ธันวาคม 2557 เวลา 06:17 น.

'ช่าง'แจงเหตุ 'งู'เข้าไปในชักโครกส้วมบ่อยครั้ง​

​

อุปนายกรับสร้างบ้าน เผยสาเหตุที่มีงูเข้าไปโผล่ในชักโครกตามบ้านได้บ่อยครั้ง มีหลายสาเหตุ รวมทั้งวิธีการแก้ไข

จากกรณีพบ "งู" อยู่ในชักโครก หรือ "คอห่าน" บ่อยครั้ง ตามบ้านเรือนของประชาชน จนสร้างความหวาดวิตก และหวาดกลัวเป็นอย่างมาก จนทำให้หลายฝ่ายออกมาเตือนว่า เกิดจากประชาชนสร้างบ้านเรือนรุกรานที่อยู่ของ "งู" หรือบริเวณบ้านดังกล่าวเป็นป่ารก ติดสวน หรือนาข้าวนั้น

ล่าสุด นายธีระศักดิ์ บุญวาสนา อุปนายกฝ่ายวิชาการ สมาคมธุรกิจรับสร้างบ้าน และกรรมการผู้จัดการ บริษัท อยุธยาสร้างบ้าน จำกัด เปิดเผยกับทีมข่าว “เดลินิวส์ออนไลน์” ว่า ต้องอธิบายก่อนว่า ปกติโถส้วมที่เราใช้ จะมีท่อต่อจากโถส้วมไปถังส้วม หรือบ่อเกรอะ ซึ่งปัจจุบันบ้านปลูกใหม่ส่วนใหญ่จะใช้ถัง สำเร็จรูป ยกเว้นบ้านเก่าที่สร้างมานาน จะใช้ถังปูนกลมแบบเก่า ซึ่งถังส้วมตัวนี้ จะถูกแบ่งออกเป็นสองฝั่ง เฉพาะด้านบน เนื่องจากฝั่งที่รับของเสียจากโถส้วม จะต้องรองรับกากและน้ำ ซึ่งกากจะลอยตัวสูงขึ้น ส่วนน้ำจะอยู่ด้านล่าง ฉะนั้นด้านล่างของถัง จะไม่มีตัวกั้น เพื่อให้น้ำสามารถผ่านไปยังถังอีกฝั่ง จากนั้นส่วนที่เป็นน้ำ ให้ไหลออกไปยังท่อระบายน้ำภายในบ้าน และไหลลงสู่ท่อระบายน้ำสาธารณะ โดยมีตะแกรงเป็นตัวป้องกันสัตว์เลื้อยคลาน หรือสิ่งสกปรกจากภายนอกย้อนกลับเข้ามาในถัง

"ลองจินตนาการง่ายๆ ถังส้วมเป็นตัวกลาง ซ้ายเป็นท่อเชื่อมไปยังโถส้วมภายในบ้าน และฝั่งขวาท่อระบายน้ำ ฉะนั้นหากถังส้วมในฝั่งที่ปล่อยน้ำลงท่อมีการชำรุด จึงมีความเป็นไปได้ว่า สัตว์เลื้อยคลานจะสามารถเดินทางเข้าไปยังโถส้วม จะโผล่ขึ้นภายในบ้านได้ อีกกรณีที่งูจะเลื้อยเข้าไปได้คือ บ้านเก่าที่ปลูกไว้นานแล้ว โดยใช้ระบบบ่อเกราะ หรือถังปูนแบบสมัยก่อน ซึ่งไม่มีตัวกั้น หรือตะแกรง หรืออีกประเด็นหนึ่งคือ งูเลื้อยมาจากทิศทางอื่นในบ้าน แล้วแอบไปหลบซ่อนตัวอยู่ในโถส้วม ซึ่งก็มีความเป็นไปได้เช่นเดียวกัน"นายธีระศักดิ์กล่าว

นายธีระศักดิ์ กล่าวต่อว่า ในความเป็นจริงแล้ว เราไม่มีทางรู้ได้เลยว่า ถังส้วมของเราชำรุดหรือไม่ แต่ปัจจัยที่จะทำให้ถังชำรุดส่วนหนึ่ง ก็อยู่ที่กระบวนการก่อสร้าง โดยปกติถังส้วนสมัยใหม่ จะมีการตรวจคุณภาพจากโรงงาน แต่กระบวนการติดตั้งของช่าง ขณะติดตั้ง อาจก่อให้เกิดการชำรุด “เรียกว่า...เกิดการชำรุดระหว่างติดตั้งก่อสร้าง” เนื่องจากปกติขั้นตอนการติดตั้งตามมาตรฐาน ช่างจะต้องใส่ท่อ Flex หรือท่อยืดหยุ่นที่ปลายท่อ ข้างที่เชื่อมต่อระหว่างโถส้วมกับท่อส่งไปยังถังส้วม ป้องกันการขาดของท่อ เพราะปกติบ้านพักอาศัยจะสร้างบนเสาเข็มที่เจาะลงไปที่ความลึก 18-21 เมตร ที่ชั้นดินดาล การทรุดตัวน้อยแต่ถังส้วมเราจะวางไว้บนเข็มสั้น 4-6 เมตร บนชั้นดินธรรมดา แล้วเทปูนเป็นฐานรอง ซึ่งความลึกขนาดนี้ ดินจะเกิดการทรุดตัวมากกว่า ดังนั้นเมื่อถังส้วมเกิดจากทรุดตัว หรือเกิดการขยับตัว หากช่างไม่ได้ใส่ท่อ Flex หรือท่อยืดหยุ่น จะทำให้เกิดท่อแตก น้ำในชักโครกรั่ว ไม่ไหลลงถังโดยตรง และอาจมีสัตว์เลื้อยเข้าไปได้ และอีกสาเหตุหนึ่งที่จะทำให้ถังส้วมชำรุดคือ ในกระบวนการติดตั้ง หากมีการขยับ ท่ออาจเกิดการชำรุดฉีกขาดจนสัตว์เลื้อยเข้าไปได้เช่นกัน

สำหรับกรณีที่เกิดการชำรุดขึ้นแล้ว วิธีการแก้ไขทำได้ดังนี้ 1.ใช้ตระแกรงตาถี่ตะแกรงกรงไก่มาปิด ช่วงที่ท่อจากถังส้วมไปออกท่อระบายน้ำ แต่อย่าถี่มาก ไม่อย่างนั้น น้ำจะไหลไม่ได้ และ 2.ปิดที่ต้นทางเข้า คือใช้ฝาปิดท่อระบายน้ำทั้งหมด แต่ต้องปิดโดยที่ไม่มีผลต่อการระบายน้ำทิ้งด้วย

เดลินิวส์ วันอังคาร 9 ธันวาคม 2557 เวลา 20:51 น.

ช้างป่าละอู โผล่เหยียบชาวบ้านดับ​

​

ช้างป่าละอู โผล่เหยียบชาวบ้านดับ

เมื่อวันที่ 9 ธ.ค. ร.ต.ท.รณชัย ชอบค้า ร้อยเวร สภ.หนองพลับ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ รับแจ้งเหตุมีช้างป่าทำร้ายคนบาดเจ็บ และเสียชีวิตบนถนนสายหนองพลับ-ป่าละอู ระหว่างหน่วยอุทยานหุบเต่า-ฐานตำรวจพลร่มพรุไทร เขตอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน หมู่ 1 ต.ห้วยสัตว์ใหญ่ อ.หัวหิน จึงพร้อมด้วย พ.ต.อ.ไชยกร ศรีหล้าเดโช ผกก.สภ.หนองพลับ พ.ต.ท.วุฒิชัย หอมกรุ่น รอง ผกก.สส. และหน่วยกู้ภัยเพชรเกษมหัวหิน รุดไปยังที่เกิดเหตุพบรถจักรยานยนต์ยี่ห้อยามาฮ่าสีแดงดำ หมายเลขทะเบียน กรล 992 เพชรบุรี ล้มคว่ำอยู่ข้างถนน ใกล้กันพบศพ นางพูลทรัพย์ นกน่วม อายุ 65 ปี อยู่บ้านเลขที่ 52 หมู่ 5 ต.ป่าเด็ง อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี นอนเสียชีวิตในสภาพถูกช้างป่าเหยียบเข้าที่แขนซ้ายแหลกจนเห็นกระดูก ที่ศีรษะและตามลำตัวช้ำไปทั้งร่าง และนายฉลวย นกน่วม อายุ 67 ปี สามีนางพูลทรัพย์ได้รับบาดเจ็บมีแผลถลอกตามร่างกาย ก่อนช่วยกันนำส่ง รพ.หัวหินให้แพทย์ทำแผลจนอาการปลอดภัย

จากการสอบสวน นายฉลวย ให้การว่า ขณะตนเองขี่รถจักรยานยนต์มีภรรยานั่งซ้อนท้ายกลับจากซื้อเมล็ดผักที่ อ.ท่ายาง จ.เพชรบุรี มุ่งหน้าจะกลับบ้านที่ ต.ห้วยสัตว์ใหญ่ โดยขี่ตามหลังรถปิกอัพ มาถึงที่เกิดเหตุ จู่ๆ มีช้างป่าขนาดใหญ่ขึ้นมายืนดักบนถนน คนขับปิกอัพจึงชะลอจอดอย่างสงบ โดยมีตนจอดรถแอบซ่อนด้านหลังรถปิกอัพอีกที เพื่อไม่ให้ช้างเห็น โดยไม่คาดฝันช้างตัวดังกล่าวคงเห็นตนเข้า จึงวิ่งอ้อมรถปิกอัพตรงเข้าใช้งวงฟาดรถจักรยานยนต์ล้มลง ตนเองกระเด็นไปอีกทาง ก่อนที่ช้างจะตรงเข้าใช้เท้าเหยียบร่างภรรยาตนจนหนำใจ หลังตั้งสติตนร้องตะโกนให้คนช่วย ซึ่งเป็นจังหวะที่เจ้าหน้าที่อุทยานที่อยู่ใกล้ๆ เห็นเข้า จึงช่วยไล่ก่อนช้างจะเดินหนีหายเข้าป่าไป หลังแน่ใจว่าช้างไปแล้วจึงเข้าไปดูก็พบว่าภรรยาตนถูกช้างเหยียบเสียชีวิตแล้ว

เดลินิวส์ วันอังคาร 9 ธันวาคม 2557 เวลา 19:58 น.

ที่มา http://www.dailynews.co.th/