ฝึก กรรม-ฐาน ด้วยภาษาที่เข้าใจง่าย

ในห้อง 'ประสบการณ์อภิญญา' ตั้งกระทู้โดย ธรรม-ชาติ, 16 ตุลาคม 2013.

  1. ธรรมอยู่

    ธรรมอยู่ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มีนาคม 2014
    โพสต์:
    63
    ค่าพลัง:
    +55
    ช่วงนี้เหมือนนิ่งๆ คงไม่ได้ฝึกและนั่งสมาธิเลยเพราะรู้สึกว่านั่งนานนานกับไม่นั่งมันก็รู้สึกเป็นอาการเดียวกันยืนอยู่มันก็โยกๆ (อาจเป็นเพราะช่วงนี้ทำงานทุกวันเลยรู้สึกเหนื่อยๆ) แต่สังเกตุว่ามีชีพจรเต้นที่ขมับซ้ายชัดเจนมากถ้าไปรับอารมณ์ภายนอกมาไม่สลัดออกจะปวดหัวแบบเต้นตุ๊บๆ ถ้าตามเพื่อนๆไม่ทันอย่าว่ากันนะ พี่ธรรมชาติ เบื่อทางโลกสุดๆแต่ยังไปไม่ได้ (หลวงพ่อบอกยังไม่ถึงเวลาใช้กรรมไปก่อน) คงเป็นเหมือนหลายๆท่านในนี้ไม่อยากคบหาสมาคมกับใคร
     
  2. ธรรม-ชาติ

    ธรรม-ชาติ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    2,566
    ค่าพลัง:
    +9,966
    ช่วงนี้เหมือนนิ่งๆ คงไม่ได้ฝึกและนั่งสมาธิเลยเพราะรู้สึกว่านั่งนานนานกับไม่นั่งมันก็รู้สึกเป็นอาการเดียวกันยืนอยู่มันก็โยกๆ (อาจเป็นเพราะช่วงนี้ทำงานทุกวันเลยรู้สึกเหนื่อยๆ)

    +++ ขณะที่มันโยก หากมีความเพลิน ๆ ปรากฏอยู่ด้วยก็ให้อยู่กับความเพลินไปเลย ตรงนี้เป็นการ "พักผ่อนในฌาน 2"
    +++ หากต้องการที่จะ "เล่น" กับมัน ก็ให้คอยจับจังหวะการโยก หรือ momentum ของการโยกไปด้วยก็ได้
    +++ จากนั้นให้ scan ดูว่า แนวแกนตรงปลายของการโยกอยู่ตรงไหน (ส่วนใหญ่จะอยู่ที่ แนวแกนกระดูกสันหลัง ถึง ปลายกระหม่อม ประดุจเสากระโดงเรือใบ ที่โยกเยกไปมา)
    +++ ในขณะที่ยังอยู่กับความเพลิน และจับ momentum ของมันได้แล้ว ก็ให้กำหนดจิต "เปลี่ยนแนวการโยกของมัน" เช่นจาก ซ้าย-ขวา ไปเป็น หน้า-หลัง หรือแกว่งเป็นวงกลมก็ได้
    +++ ให้เปลี่ยนแนวการโยกของมันไปมา ในขณะที่ยังเพลินอยู่ตลอดเวลา
    +++ ในขณะที่ยังโยกอยู่นี้ ให้รู้ แนวแกน หรือ แก่นแห่งการโยก ตลอดเวลา

    +++ หากทำได้แล้ว อยากฝึกต่อทางด้าน "ใช้จิตเคลื่อนร่าง" หรือจะฝึก "มหาปัฏฐาน" ก็ให้ระบุมาด้วย

    แต่สังเกตุว่ามีชีพจรเต้นที่ขมับซ้ายชัดเจนมากถ้าไปรับอารมณ์ภายนอกมาไม่สลัดออกจะปวดหัวแบบเต้นตุ๊บๆ

    +++ หากเป็น เต้นตุ๊บๆ แบบปวดหัวข้างเดียว ก็มักจะเป็นอาการทางร่างกายมากกว่า สามารถแก้ได้ง่าย ๆ ด้วย "ยาถ่าย" ตรงนี้ "ศักดิ์สิทธิ์มาก" ถ่ายปุ๊บแทบจะหายปั๊บเลยทีเดียว

    ถ้าตามเพื่อนๆไม่ทันอย่าว่ากันนะ พี่ธรรมชาติ เบื่อทางโลกสุดๆแต่ยังไปไม่ได้ (หลวงพ่อบอกยังไม่ถึงเวลาใช้กรรมไปก่อน) คงเป็นเหมือนหลายๆท่านในนี้ไม่อยากคบหาสมาคมกับใคร

    +++ หากจะตามให้ทัน ก็ต้องฝึก "โยกให้เป็น" ตามข้างบนนั้น แล้วก็สามารถ "ลักไก่" โดดเข้า มหาปัฏฐาน ได้เหมือนกัน (วิธีพิเศษ) นะครับ
     
  3. Apinya17

    Apinya17 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    775
    ค่าพลัง:
    +3,023
     
  4. Apinya17

    Apinya17 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    775
    ค่าพลัง:
    +3,023
    ลืมรายงาน ช่วงนี้ไม่ค่อยทำอะไรเท่าไหร่
    แต่วันนี้หนีความรำคาญเสียงของเพื่อนบ้านที่ต่อเติมบ้าน เสียงเจาะผนัง กำแพง เสียงดังมาก

    วิธีหนีง่ายๆ โดยทำความรู้สึกตัว เข้าณานหนึ่งหลบไป โดยใช้เสียงของครูบาอาจารย์นำ (กราบ)
     
  5. เมิล

    เมิล เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    421
    ค่าพลัง:
    +3,132
    เมิลลองทำงีบตอนบ่ายกับสภาวะรู้ คือตอนแรกเมิลจมูกตันหายใจไม่ออกอยู่ ก็อยู่กับรู้ รู้ว่าหายใจแรงนิดหนึ่งเพราะหายใจไม่ออก พอรู้ไปสักพักเมิลก้รู้สึกโล่งโปร่งเบาขึ้นมา พอถึงตอนนี้การรับรู้แบ่งออกเป็น 3 ส่วน คือ
    1. ลมหายใจ เปลี่ยนเป็นเบาแทน
    2. มีตัวพากย์อาการว่า ลมหายใจเปลี่ยนเป็นเบา ละเอียดแล้วนิ หายใจออกแล้ว
    3. แล้วก็ส่วนที่รู้อาการตามข้อ 1 และ 2.
     
  6. mobilelizard

    mobilelizard เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    558
    ค่าพลัง:
    +4,678
    ขออธิบายตัวเองหน่อยนะครับ เรื่องที่ผมเล่าไปเดี๋ยวจะเข้าใจอะไรผิด

    1. ผมไม่รู้ว่าจะทำให้เกิดเหตุการณ์ภพภูมิมีปีก แล้วบินขึ้นสวรรค์ ไปด้วย
    2. หลังจากนั้นผมคุยกับยมพบาล ยมพบาลไม่ได้พูดเรื่องนี้เลยด้วยซ้ำ ไปคุยกันเรื่องอื่น ตอนแรกผมไม่ได้คิดว่าทำอะไรไม่ดีเลย แต่คุณธรรมชาติก็แนะนำมาดังกล่าวก็เอาที่คุณธรรมชาติตอบมาเล่าสูกันฟัง
    3. ผมอาจจะทำอีก

    ีที่ผมเอามาเล่าเพราะตอนแรกเมิลถาม และคุณธรรมชาติบอกว่าเรื่องยมพบาลขึ้นมานั้น ถ้ามาเล่าจะมีประโยชน์
     
  7. mobilelizard

    mobilelizard เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    558
    ค่าพลัง:
    +4,678
    ทำไมยมพบาลไม่ได้พูดเรื่องนี้ ส่วนนึงท่านอาจจะรู้ว่าเดี๋ยวมันต้องเกิดแน่ๆ ส่วนตัวไม่ได้คิดว่าทำอะไรไม่ดีเลย ถ้าผมย้อนเวลากลับไปได้ ผมก็คงต้องทำเหมือนเดิมอยู่ดี
     
  8. ธรรม-ชาติ

    ธรรม-ชาติ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    2,566
    ค่าพลัง:
    +9,966

    +++ ตรงนี้ถูกต้อง กรรมและผลของกรรม มีความสัมพันธ์และมีความสมบูรณ์อยู่ในตัว และเป็นกฏเกณฑ์การทำงานทางธรรมชาติ

    +++ ผู้ที่จะเห็น "กฏเกณฑ์การทำงานทางธรรมชาติของ วงจรกรรม โดยตัดคำว่า จิตเราจิตเขา ออกไปได้นั้น" จะต้องเป็นผู้ที่เห็น "อณู" และการก่อกำเนิดของ "ตัวดู" อย่างสมบูรณ์ก่อนเท่านั้น

    +++ การเห็น "อนุภาคเคลื่อนที่" การก่อกำเนิดของ "หย่อมความกด" "สนามพลังควบแน่น" "กำเนิดแห่งรังสีและแสง" "ตัวพายุและตาพายุ" "การ touch down ไปยังภพภูมิ (จิตส่งออก จุติจิต)" ต่าง ๆ ทั้งหมดนี้เป็น Pure Science ทั้งสิ้น ไม่มีเรา ไม่มีเขา อยู่ใน "ปรากฏการณ์ของ Pure Science นี้เลย"

    +++ ยามที่มัน touch down ลงไปในสถานที่บริเวณเดียวกัน (ภพ) ด้วยสนามพลังที่ match กันกับสนามพลังที่มีอยู่แล้ว (อัตถิปัจจะโย)(ภูมิ) มันก็อยู่ด้วยกันได้ (สัมปะยุตตะปัจจะโย)(ภพภูมิภายนอก)

    +++ การแปรปรวนของ "สนามพลังควบแน่น" (สังขารา ธรรมานุปัสสนา ธรรมารมณ์ ตัวดูฝ่ายนาม ภูมิ) ทำให้ เกิดการแปรปรวนของ "รังสีและแสง" ภายในของมัน ก็สามารถทำให้มัน "ถอน" การ touch down นั้น ไปยังที่อื่น (เปลี่ยนภพแปลงภูมิ)

    +++ ส่วนในกรณีกลับกัน การเกิดสนามพลังแปรปรวนแบบที่เรียกว่า Force Field Anomaly (การทำปัฏฐานของ mobilelizard) ก็จะทำให้ภายในบริเวณนั้นเกิด Forve Field Incompatible (วิปปะยุตตะปัจจะโย) จึงทำให้เกิดการถอน touch down ของจิตอื่นไปทั้งบริเวณ (ภูมิ) รวมทั้งการทำให้เกิดรอยฉีกขาดของภูมิที่ออกมาในรูปธรรมของ "ท้องฟ้าเปิดออกเป็นรูกว้างแล้วแสงส่องลงมา" ซึ่งตรงนี้ คือ worm hole ระหว่างภูมิ (dimension) การอธิบายให้ใกล้เคียงที่สุดในยุคนี้คือ ปรากฏการของ High Frequency Active Auroral Research Program (HAAP) ที่ถึงระดับการฉีกขาดของชั้นบรรยากาศ จนทำให้ "ภูมินั้นอยู่ไม่ได้" เกิดขึ้น

    +++ การเปลี่ยนภพแปลงภูมิที่เกิดขึ้นนั้น แท้จริงแล้วมันเป็นการ "อพยพ" มากกว่า อาการที่ "ภพภูมิเริ่มมีแสงสีแดงบนตัวแล้วบนกายเริ่มมีแสงสว่าง" นั้นคืออาการ "ตกใจแล้วจึงเกิดสติตามมาภายหลัง" และด้วย อานุภาพแห่ง "สติ" (มาจากอำนาจปัฏฐานในขณะนั้น) จึงไปในที่ ๆ ดีกว่าได้ (ตรงนี้ไม่ใช่ แผ่เมตตา แต่เป็นการแผ่ สติ แบบตรง ๆ) ผู้ที่ได้สติก่อน ย่อมไปก่อนเป็นธรรมดา ส่วนผู้ที่ได้สติในภายหลัง อาจจะ "อพยพ" ไม่ทัน ดังนั้น "หน่วยกู้ภัย" (Rescue)(ยมพบาล) จึงรีบเร่งเข้ามาช่วย อพยพ ให้ทันเหตุการณ์

    +++ การทำปัฏฐาน (ด้วยตัวดู) ในครั้งนี้แม้ว่ามันจะเป็น "การฝึกโดยไม่มีเจตนาอื่น" ก็ตาม แต่ก็ควรทราบไว้ด้วยว่า "อิทธิพลของมหาปัฏฐาน" นั้นส่งผลอย่างไร

    +++ หากผู้ใดไปค้นคว้าหรือไปเปิดพระไตรปิฏก ก็จะรู้ได้ว่า "หลังจากที่พระพุทธเจ้า ได้ตรัสรู้แล้ว พระพุทธองค์ทรงพิจารณา พระอภิธรรม 7 คัมภีร์ เมื่อทรงพิจารณาคัมภีร์ที่ 1 จนถึง 6 มิได้มีเหตุการณ์พิเศษเกิดขึ้น ต่อเมื่อทรงพิจารณาคัมภีร์ที่ 7 คือ ปัฏฐาน จึงได้เกิดรัศมีแผ่ซ่านออกจากพระวรกายถึง 6 สี (หรือที่เรียกว่า ฉัพพรรณรังสี)"

    +++ มหาปัฏฐาน เป็นคัมภีร์ที่พระพุทธองค์ทรงพยากรณ์ไว้ว่า จะสูญสิ้นเป็นคัมภีร์แรก เพราะเป็นคัมภีร์ที่ละเอียดลึกซึ้ง สุขุมคัมภีร์ภาพด้วยปัจจัยแห่งปรมัตถธรรม โดยที่พระผู้มีพระภาคทรงแสดงเรื่องราวความเป็นไปของสภาพธรรมที่เป็นเหตุเป็นผลแก่กัน โดยนัยมากมายทั้งพิสดารและละเอียดสุขุมลึกซึ้งยิ่งนัก ธรรมในมหาปัฏฐานนี้ ถ้าจะนับรวมกันทั้งหมดก็มีจำนวนถึงหลายโกฏิ ด้วยเหตุนี้ท่านอรรถกถาจารย์จึงเรียกคัมภีร์นี้ว่า “มหาปัฏฐาน”

    +++ เหตุการณ์จากการเข้า "ปัฏฐาน" และผลลัพธ์จากบางส่วนของมัน ในครั้งนี้ เน้นว่า "เป็นบางส่วนเท่านั้น" ก็คงจะเพียงพอที่จะทำให้เห็นถึงคำพูดของหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต ได้ว่า "มหาปัฏฐาน เป็น อนันตนัย" และมีแค่เพียง "อนันตนัย" เท่านั้นที่เป็นกุญแจของ "อจินไตย" ได้



    +++ "กรรมนั้นรับแทนกันไม่ได้" แต่การที่เข้าไปใน "วงจรกรรมของผู้อื่น" ก็จะทำให้ "วงจรเกิดการ เกี่ยวพัน กันได้" ดังนั้นคุณ mobilelizard อาจจะต้องไปรับภาระของ Rescue Unit ในอนาคตของจิตเหล่านั้น และนี่คือ การเริ่มต้น มหากาพย์แห่ง พุทธภูมิผู้นำ และ พุทธภูมิติดตาม Long Long Time In The Future นะครับ
     
  9. ธรรม-ชาติ

    ธรรม-ชาติ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    2,566
    ค่าพลัง:
    +9,966
    +++ หาก "อยู่" กับความรู้สึกตัวได้ดี "เสียง" ย่อมถูกแยกออกไปเอง คือ "มันมีอยู่" แต่ไม่มีอิทธิพลอะไรเลย นะครับ
     
  10. ธรรม-ชาติ

    ธรรม-ชาติ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    2,566
    ค่าพลัง:
    +9,966
    +++ ลมหายใจ แยกออกเป็นชั้นหนึ่ง "ตัวพูดมาก" เป็นคนละชั้น แยกออกจากกัน
    +++ ต่อไปให้ "รู้" กายเนื้อ กายเวทนา และ กิริยาจิต ให้มันแยกออกเป็น ชั้น ๆ ให้ละเอียดเท่าที่ สถานการณ์จะอำนวยให้ นะครับ
     
  11. ธรรม-ชาติ

    ธรรม-ชาติ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    2,566
    ค่าพลัง:
    +9,966
    +++ ภพภูมิมีปีก เป็นเพียงแค่ "การแสดงออกของรูปธรรม" เฉย ๆ ส่วนการอธิบาย "ด้วยภาษาที่เข้าใจได้" นั้นอยู่ในโพสท์ข้างบน รวมทั้ง "วงจรเริ่มต้นบางประการ" ไว้ให้แล้ว
    +++ และ เรื่องนี้มีประโยชน์ทั้ง ประโยชน์ตน และ ประโยชน์ท่าน แน่นอน

    +++ "ยมพบาล" น่าจะรู้ถึง "วงจรเริ่มต้น" ตรงนี้ก็ได้ แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม "ให้อ่านรายละเอียดที่ผม โพสท์ ไว้ข้างบน" สัก 2-3 เที่ยว ก็จะทำให้เข้าใจในรายละเอียดได้มากขึ้น นะครับ
     
  12. ธรรมอยู่

    ธรรมอยู่ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มีนาคม 2014
    โพสต์:
    63
    ค่าพลัง:
    +55
    ได้ฟังพี่ธรรมชาติพูดถึงพุทธภูมิแล้ว คิดถึงเพื่อนคนนึง อยากจะถามว่าเหนื่อยไหมกับสิ่งที่เธอทำอยู่ (เห็นแล้วเหนื่อยแทน) แต่กำลังใจเค้าสุดยอดมากๆ เช่น ได้เงินจากการทำงานเค้าเอามาทำบุญหมดเค้าบอกว่ามีคนรอเกาะบุญเยอะต้องช่วยไปที่ใหนต้องขนวิญญาณตลอด (เค้าบอกต้องขนสัตว์ในนรกให้หมด)เราก็เหรอช้านขอไปคนเดียวแล้วกันนะ บางทีเค้าเหนื่อยมากๆแต่ด้วยหน้าที่ เค้ามีตาที่สามด้วยอันนี้สยองพอสมควรเพราะแถวที่ทำงานเยอะมากๆ เห็นฤาษีท่านนึงตามหลวงพ่ออีกท่านนึงบ่อยๆเราก็สงสัยว่าสมาธิน่าจะสูงทำไมไม่เข้านิพพาน หลวงพ่อท่านก็เลยบอกว่าเคยแซวว่า "พุทธภูมิเนิ่นช้า ทรมาณหนักหนา" เลยถึงบางอ้อ กระทู้นี้พุทธภูมิเยอะนะคะ
     
  13. ธรรม-ชาติ

    ธรรม-ชาติ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    2,566
    ค่าพลัง:
    +9,966
    ได้ฟังพี่ธรรมชาติพูดถึงพุทธภูมิแล้ว คิดถึงเพื่อนคนนึง อยากจะถามว่าเหนื่อยไหมกับสิ่งที่เธอทำอยู่ (เห็นแล้วเหนื่อยแทน) แต่กำลังใจเค้าสุดยอดมากๆ เช่น ได้เงินจากการทำงานเค้าเอามาทำบุญหมดเค้าบอกว่ามีคนรอเกาะบุญเยอะต้องช่วยไปที่ใหนต้องขนวิญญาณตลอด (เค้าบอกต้องขนสัตว์ในนรกให้หมด)

    +++ หากมองจากภายนอกก็จะ "เห็นแล้วเหนื่อยแทน" แต่ถ้า map จิตเป็น ก็จะรู้ได้ว่า "ไม่เท่าไร" เพราะจิต "อยู่" ในส่วนของ "มุมานะ" ไม่ได้ "อยู่" ในส่วนของ "เหนื่อย และ แบบภาระ" ดังนั้น แม้ว่า เหนื่อยและภาระ มีอยู่ แต่ก็จะ "ไม่มีอิทธิพล" อะไรมากมายนัก

    +++ แต่ส่วนที่บอกว่า "ต้องขนสัตว์ในนรกให้หมด" นั้น เกิดจาก "ความไม่รู้ในเรื่อง กำเนิดของจิต" หากรู้เรื่องนี้เมื่อไรก็จะรู้ได้ว่า มันจะเป็นจริงได้ก็ต่อเมื่อเกิด "ประลัยกัลป์ในระดับ ล้างอสงไขย" เท่านั้้น และ ตรงนี้มีพุทธภูมิที่ "จองตรงนี้" เอาไว้แล้ว หากจะจองตรงนี้จริงก็ได้ แต่จะต้องเป็น "อสงไขย ถัดออกไปจากตรงนี้" และเป็นเรื่องของ "หากบารมีเท่ากัน ก็เป็นแบบ First come First serve" เท่านั้นเอง ส่วนผม "ไม่จองรายการ ตามไปดู" แน่นอนครับ

    เราก็เหรอช้านขอไปคนเดียวแล้วกันนะ บางทีเค้าเหนื่อยมากๆแต่ด้วยหน้าที่ เค้ามีตาที่สามด้วยอันนี้สยองพอสมควรเพราะแถวที่ทำงานเยอะมากๆ เห็นฤาษีท่านนึงตามหลวงพ่ออีกท่านนึงบ่อยๆ

    +++ คำว่า "ตาที่สาม" นั้น "มีทุกคน ตามธรรมชาติ" อย่าไป "ตื่นเต้นกับคำศัพท์" อะไรให้มากนัก มันคือ "ตัวดูฝ่ายรูป หรือ ตาพายุ" เท่านั้นเอง หัดควบคุม "ตัวดูฝ่ายนาม" (ธรรมารมณ์) ให้เป็นก็ควบคุมมันได้เองนั่นแหละ

    เราก็สงสัยว่าสมาธิน่าจะสูงทำไมไม่เข้านิพพาน หลวงพ่อท่านก็เลยบอกว่าเคยแซวว่า "พุทธภูมิเนิ่นช้า ทรมาณหนักหนา" เลยถึงบางอ้อ กระทู้นี้พุทธภูมิเยอะนะคะ

    +++ "พุทธภูมิ" ในกระทู้นี้ "ไม่เยอะ" แต่เป็น "พุทธภูมิ ที่มีรากฐานตามความเป็นจริงแล้ว" เท่านั้น ส่วน "พุทธภูมิเลื่อนลอย" ก็อาจจะผ่านไปมาได้เป็นบางครั้ง แต่พวกนั้นจะโดนกรรมบังตาในส่วนที่เรียกว่า "พุทธภูมิ สูงกว่า อริยะภูมิ" อะไรพวกนั้น จึงทำให้ต้อง "เลื่อนลอย" ต่อไปเรื่อย ๆ ไม่มีกำหนด ดังนั้นพวกนี้ต้องปล่อยไปตามทางของเขา ส่วนผมจะลงมือเร่งเฉพาะ ตัวจริง เพื่อส่งให้ถึงมือ พุทธทำนาย รวมทั้งอุปกรณ์ในการเดินทางบางประการ ให้เร็วที่สุด เพราะหลังจากนั้นแล้ว อย่างต่ำยังต้องผ่าน "4 อสงไขย" ไปอีก In The Future Far Far Away นะครับ
     
  14. *ธรรมดา*

    *ธรรมดา* เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    72
    ค่าพลัง:
    +924
    ผมคงต้องมารายงานตัวในกระทู้นี้บ่อยๆซะแล้วครับ ไม่อยากเลื่อนลอยไปในทะเลกรรมอีก
     
  15. mobilelizard

    mobilelizard เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    558
    ค่าพลัง:
    +4,678
    ที่คุณธรรมชาติ พูดว่าอพยพนั่นมันใช่เลยครับ ยมพบาลท่านออกมาช่วยเพราะถ้าผม "ปล่อย" เมื่อไหร่หมดสิทธิ์ ภาพที่เห็นมันสุดยอด ที่เทวดานางฟ้าบินจากทุกทิศทุกทางขึ้นไปบนฟ้า แล้วอัดกันเข้าไปในรูจนอัดกันเข้าไปไม่ได้ แถมยิ่งอัดพลังไปใส่แบบเน้นๆ สำหรับพวกที่ "แปลงร่างช้า" ยังได้ เยอะจนยมพบาลกับผู้ช่วยต้องมารีบรากเข้าไป

    หลังจากเหตุการณ์ผมตื่นเต้นมากที่ได้ช่วยภพภูมิทีละมหาศาล บรรยกาศโดยรวม ทุกอย่าง เป็นอะไร ที่หาดูได้ยาก และยิ่งได้คุยกับยมพบาลวันนั้นยิ่งทำให้ผมมั่นใจในสิ่งที่ทำ

    ผมบอกกับคนในครอบครัวว่าผมฝึกแทบกระอักเลือดมาสองสามปีให้หลังนี้ ผมช่วยภพภูมิได้ที่ละมหาศาล ออกจากความมืดมิด ถือว่าโคตรคุ้มแล้วครับ ถ้าย้อนกลับไปได้ ก็จะทำเหมือนเดิม
     
  16. ธรรม-ชาติ

    ธรรม-ชาติ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    2,566
    ค่าพลัง:
    +9,966
    +++ หนทาง "หมื่นลี้" หากยังมัวแต่นั่ง จิบน้ำชาแล้วทำ ตาลอย อยู่ก็จะยังนับอะไรไม่ได้เลย ทั้งหมดเริ่มนับกันที่ "ก้าวแรก" (ลงมือ) และเริ่มที่ "วสี 5 ในสติระดับ 3" เท่านั้นเอง
     
  17. ธรรม-ชาติ

    ธรรม-ชาติ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    2,566
    ค่าพลัง:
    +9,966
    +++ ประสพการณ์ตรงนี้ สามารถประยุกต์ใช้ได้ในเหตุการณ์หลาย ๆ ด้าน เพียงแต่ให้ทำความเข้าใจกับ "สภาวะธรรมที่มีอยู่ก่อนหน้านี้" (ปุเรชาตะปัจจะโย) "การกระทำที่เป็นตัวเร่ง" (กัมมะปัจจะโย หรือ catalysis) "ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น" (ปัจฉาชาตะปัจจะโย) ไปจนถึง "ผลพวงของวงจรนี้" (วิปากาปัจจะโย)

    +++ ตรงนี้หากเทียบกับ "ฌาน" ก็จะคล้ายกับการเดินจิตแบบ "เอกัคตา สู่ เอกัคตา" แต่สำหรับมหาปัฏฐานแล้วคือการ "ปักหลักอยู่ในสภาวะหนึ่ง (อยู่) ในขณะที่มีทุกสภาวะอยู่ด้วยกัน (แตกชั้นแยกกันอยู่)" และอาจทำการ "ปรับแต่ละสภาวะ" เพื่อเรียนรู้ว่า "ขณะใด ที่สภาวะใดเป็นประธาน (ย้าย หรือ เร่ง ณ ชั้นหนึ่งใด) จะมีผลกระทบต่อสภาวะอื่นรอบข้างอย่างไร" จากนั้นจึง "อยู่ - ย้าย - เร่ง - ลด" ไปตามสภาวะต่าง ๆ แต่ละสภาวะ ก็จะเห็นผลลัพธ์ และ วงจรต่าง ๆ ที่แปรเปลี่ยนสลับกลับเปลี่ยนกันไปมาต่าง ๆ เป็น "อนันตนัย" ที่ไม่รู้จบ รวมทั้ง สภาวะหยาบ สู่ กลาง สู่ ละเอียด ซึ่งแต่ละสภาวะก็จะมี "วงจร" ของมันเอง รวมทั้ง "วงจรร่วม" ที่เข้ามาเกี่ยวพันแบบ ชั่วคราว หรือ เข้ามาแล้ว ประกบรวมตัวกัน ทำให้เกิดการแปรเปลี่ยนไปแบบ "อจินไตย"
    +++ รากฐานทั้งหมดมาจากการฝึกเดินจิตเบื้องต้นของ สติระดับ 3 คือ "เข้า-ออก-เร่ง-ลด-ตรึง-แช่-อยู่-ย้าย" (วสี) และไม่มีอะไรเกินออกจากตรงนี้ไปได้เลย รวมถึงการเดินจิต (พิจารณา) ในมหาปัฏฐานด้วย

    +++ พุทธภูมิ ให้ใช้ "ตัวดูเป็นประธาน" (อธิปะติปัจจะโย) เพราะเมื่อถึงที่สุดแล้วจึงจะขาดจาก "นิสัยและวาสนาซึ่งอยู่ในตัวดูได้" ก่อนที่จะ "ย้ายและเคลื่อนตัวไปตามสภาวะธรรมต่าง ๆ" ส่วน อริยะภูมิ ให้ใช้ "สภาวะรู้เป็นประธานข้างในตัวดู" อาจจะ "ย้ายตัวดู หรือ แยกออกจากตัวดู หรือ เร่งตัวดู แบบจิตส่งออกแล้วแตะแบา ๆ ที่สภาวะธรรมรอบนอกนั้น" จากในสภาวะธรรมใดก็ได้ แล้วแต่สะดวก
    +++ ประสพการณ์ (อภิญญา XP) เท่านั้น ที่จะเป็นกุญแจในการตัดสินใจได้อย่างถูกต้อง แต่ในขณะที่ยังต้องเดินทางไกลอยู่นี้ "ความรอบคอบ และ การฝึกฝน" เท่านั้นที่ความถูกต้องจะเกิดขึ้นมาได้ ดังนั้นให้รุดหน้าไปเรื่อย ๆ นะครับ
     
  18. ธรรมอยู่

    ธรรมอยู่ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มีนาคม 2014
    โพสต์:
    63
    ค่าพลัง:
    +55
    "ผมบอกกับคนในครอบครัวว่าผมฝึกแทบกระอักเลือดมาสองสามปีให้หลังนี้ ผมช่วยภพภูมิได้ที่ละมหาศาล ออกจากความมืดมิด ถือว่าโคตรคุ้มแล้วครับ ถ้าย้อนกลับไปได้ ก็จะทำเหมือนเดิม"
    โหะๆๆๆ คิดถึงตัวเองทันที 3 ปีก่อนยังลั้ลลาอยู่เลย ตอนนี้ไม่เอาแล้ว ถึงแม้คนรอบข้างจะไม่เข้าใจก็ตาม มามั่นใจตอนที่มีพระมาหาในความฝันหน้าตาจริงจังบอกประมาณว่า "หมดเวลาเล่นแล้วถึงเวลาละกิเลสแล้วนะ" และอีกหลายๆความฝันที่เป็นนิมิตหมายที่ดีมีแต่เรื่องครูบาอาจารย์ หลวงพ่อทั้งที่ละสังขารแล้วและยังไม่ละสังขาร พระพุทธเจ้า
    และเรื่องที่บอกว่า "ถ้าย้อนกลับไปได้ ก็จะทำเหมือนเดิม" ถ้าเป็นเราก็จะทำทำเหมือนกันค่ะ
     
  19. ธรรม-ชาติ

    ธรรม-ชาติ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    2,566
    ค่าพลัง:
    +9,966
    +++ แสดงว่า "ลั้ลลา" จนพระต้องบอกให้หยุด สำหรับเรื่อง "กิเลส" นั้นสำหรับคุณให้ถือว่า "อะไรก็ตาม ที่เกิดมาจากจิตของคุณ แล้วเป็นอุปสรรคในการปฏิบัติธรรม" ให้ถือว่า "นั่นคือปรากฏการณ์ของ กิเลส" ดังนั้น ไม่ต้องไปหาความหมายอะไรเพิ่มเติมอีก เอามันสั้น ๆ แค่นี้พอ

    +++ สำหรับ "นิมิต ครูบาอาจารย์ หลวงพ่อทั้งที่ละสังขารแล้วและยังไม่ละสังขาร พระพุทธเจ้า" ต่าง ๆ นั้น มีได้ทั้งจาก บุพกรรมเก่า และ จิตอื่นติดต่อมา เรื่องเหล่านี้จะสามารถแยกแยะได้ก็ต่อเมื่อ "สติของคุณ มีขีดความสามารถในการ อ่านวาระจิตของตนเอง ได้แล้วเท่านั้น" จึงจะรู้ได้ว่า วาระจิตที่ติดต่อมานั้น "เป็นของใคร" ที่เรียกว่า เจโตปริยะญาณ นั่นเอง นะครับ
     
  20. Apinya17

    Apinya17 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    775
    ค่าพลัง:
    +3,023
    อนุโมทนาบุญด้วยค่า จากใจจริง เชื่อว่าเหล่าเทวดานางฟ้าเหล่านั้นคงดีใจมากมายค่ะ แม้แต่ดาวเอง แค่อ่านตรงนี้ก็ยังได้ปีติขนลุกไปด้วยน่ะค่ะ :cool::cool::cool::cool: นิสัยพุทธภูมิของแท้

    ส่วนตัวข้าพเจ้าขอบอกมือลาชาตินี้เหลือชาติเดียวเท่านั้น หน่ายเหลือเกิน เหลือแต่ทำหน้าที่สองสามอย่างเท่านั้นเอง หุ หุ อารมณ์เหมือนคนใกล้วัยเกษียณนั่นแหละ ใกล้เข้ามาแล้ว
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 กรกฎาคม 2014

แชร์หน้านี้

Loading...