แฉความลับ (ทหารปฏิรูปประเทศไทย)

วันที่ 15 ก.ค.57 มีผู้ประท้วงการโจมตีเด็กปาเลสไตน์ ที่หน้าสถานทูตอิสราเอล

มีกลุ่มผู้ชุมนุมกว่า 100 คน ประท้วงการโจมตีเด็กปาเลสไตน์ ที่หน้าสถานทูตอิสราเอล ถ.อโศก กทม. ไม่มีผลกระทบต่อการจราจรบน ถ.อโศก แต่ให้ระวังพวกพิราบกระป๋องแดงแฝงตัว (มิจฉาชีพรับจ้างเคลื่อนไหวทางการเมือง) ที่มักจะมายืนปนแทรก ทำท่าทางแปลกๆ เนียนๆ ไปกับทุกกลุ่มที่เขาชุมนุมต่างๆ

เพราะแดงไม่กล้าออกมาชุมนุมตรงๆ เนื่องจากถูกจับไปแล้วหลายคน จึงจะขอแฝงแจมไปกับทุกกลุ่มแทน..แล้วก็จะเอาภาพไปใส่คำอธิบายคนละเรื่องกัน และเผยแพร่ขายต่างชาติมะกัน คือ เขาคิดได้เท่านี้จริงๆ




วันที่ 15 ก.ค.57 ออกหมายจับกองกำลังติดอาวุธแดง นปช. ยิงลูกระเบิด M79 ตาย 3 คน

หลังจากที่กำลังติดอาวุธแดง นปช.ใช้เครื่องยิงลูกระเบิด M79 ยิงเข้าไปในกลุ่มผู้ชุมนุม กปปส. เมื่อช่วงเย็นวันที่ 23 ก.พ. 2557 บริเวณหน้าห้างสรรพสินค้าบิ๊กซี ราชดำริทำให้มีผู้เสียชีวิต 3 คน เป็นเด็กอายุ 5 ขวบ 2 คน และมีผู้ได้รับบาดเจ็บมากกว่า 20 คน นั้น ที่ผ่านมารัฐบาลเผาไทยปกป้องกลุ่มติดอาวุธพวนี้มาตลอด เพราะเป้าหมาย คือ ก่อสงครามกลางเมือง ทำให้คดีถูกดองและไม่คืบหน้า

วานนี้ ศาลได้อนุมัติออกหมายจับกองกำลังติดอาวุธแดง นปช.ชุดนี้แล้วประกอบด้วย

1.นายทวีชัย วิชาคำ อายุ 39 ปี ให้การรับสารภาพว่าเป็นผู้รับจ้างลงมือยิง
2.นายสาทร ผิผ่วนนอก อายุ 49 ปี
3.นายสุขสันต์ ล้อมวงศ์ อายุ 32 ปี
4.นายสมศรี มาฤทธิ์ อายุ 40 ปี
5.นายชัชวาล ปราบบำรุง อายุ 45 ปี
6.นางกรรณิการ์ วงศ์ตัว อายุ 38 ปี
7.นายวิเชียร สุขภิรมณ์ อายุ 33 ปี

ส่วนคนอื่นๆ อ้างว่ารับจ้างมาจากแดง นปช. ทำหน้าที่ดูต้นทางเท่านั้น ซึ่งจะต้องสอบสวนขยายผล หาหลักฐานไปถึงผู้จ้างวานต่อไป เพราะครั้งก่อนที่จับมือยิง M79 ที่อาคารชิน 3 , ข้างเขตพระราชฐาน และอีกหลายจุดได้ เขาสารภาพว่าไปรับเครื่องยิง พร้อมระเบิดที่ลานจอดรถชั้น 5 ห้างอิมฯ ลาดพร้าว จากแกนนำแดง นปช.

** ภาพเหตุการณ์วันนั้นรวมอยู่ในอัลบั้มภาพที่ https://www.facebook.com/media/set/?set=a.216502668539768.1073741925.187529244770444&type=3

ของไทยก็มีกลุ่มติดอาวุธโหด นปช. เหมือนทหารยิว ที่กำลังสังหารกับเด็กๆ ปาเลสไตน์อยู่ขณะนี้













@ เสธ น้ำเงิน2
https://www.facebook.com/thailandcoup

 

วันที่ 15 ก.ค.57 ชาวอินเดียรวมตัวประท้วงยิว และมะกันที่สังหารเด็กตาดำๆ

ประชาชนในอินเดีย ที่เคยมีประวัติที่ปวดร้าว จากการถูกอังกฤษปกครอง เคยนำประท้วงสันติ อหิงสาโดยมหาตมะ คานธี ต่อมาคนอินเดียจำนวนมากรวมตัวกันประท้วงอังกฤษ โดยเดินดาหน้ากันให้ทหารอังกฤษยิงจนหมดกระสุนโดยไม่ต่อสู้ ตายไปจำนวนมาก จนอังกฤษยอมปล่อยให้เป็นเอกราช

วันนี้คนอินเดีย ที่มีประชากรราว 1,000 ล้านคน บางส่วนพวกเขาแสดงออกโดยการประท้วงยิวอิสราเอล และรัฐบาลมะกัน ในกรณีปิดล้อมฆ่าล้างเผ่าพันธ์ชาวปาเลสไตน์ ซึ่งขณะนี้มีประชาชนอีกหลายประเทศ ออกมาประท้วงอสูรกายยิวกันโดยไม่ได้นัดหมาย

แต่ที่เริ่มมีสัญญาณไม่ดีต่อยิว หลายอย่างคือ
- ประเทศแถบอาหรับเงียบผิดปกติต่อกรณีนี้ ซึ่งผิดปกติมาก การสู้รบในซีเรีย และอิรักชลอลง
- จอร์แดนมีพรมแดนติดยิวไม่ให้มะกันใช้ดินแดนตนนำกลุ่มติดอาวุธซีเรียมาฝึก
- บาห์เรนไล่ รมช.มะกันออกนอกประเทศ
-
อินเดียกับจีนไม่ถูกกันมานานเรื่องพรมแดน ดันส่งผู้นำระดับสูงเยือนกัน
- จีนไปเยือนเกาหลีไต้ ก่อนเกาหลีเหนือ ซึ่งไม่เคยเกิดขึ้นเลย
- เกาหลีหลีเหนือกล้ายิงขีปนาวุธพิสัยกลาง ใส่ทะเลทั้งๆ ที่มีเรือรบมะกันมาจอดเทียบท่าเกาหลีไต้
- รัสเซีย จีน บุกไปลาตินอเมริกา และเดินสายหาประเทศอื่นทั่วโลกถี่ยิบทุกวัน แถมช่วยเหลืออาเจนฯ เรื่องนิวพัฒนาเคลียร์ ??
- ประเทศ EU มีท่าทีแหยงๆ กรณีนี้
- เยอรมันถึงกับขับหัวหน้า CIA ของมะกันออกนอกประเทศด้วยซ้ำ
- ไทยจับมืออินเดีย จีน และประเทศในอาเซียน มีกำหนดฝึกทางทหารเร็วนี้ และมะกันมาขอแจมฝึกด้วย แต่ไทยยังเฉยไม่ตอบรับ และไล่ให้มะกันชี้แจงอธิบายมาเป็นลายลักษณ์อักษรก่อน
- กองทัพไทย ได้รับการจัดอันดับให้แข็งแกร่งอันดับ 24 ของโลก
- มีการสอยเครื่องบินรัฐบาลยูเครนร่วงหัวปัก ด้วยจรวดหลายลำกล้องของรัสเซีย
- ปูติน รัสเซีย ไปดูบอลโลกรอบชิงที่บราซิล พอดีกับนายกฯ หญิงประเทศหนึ่งไปดูด้วยพอดี และกระโดดดีใจ..แต่กลับไม่มีภาพไอ้มาม่าอยู่ที่นั่น ??

ฟ้าผ่าโดยที่ฝนไม่ตั้งเค้ามันน่ากลัว...มันกำลังเป็นสัญญาณอะไรสักอย่าง?




@ เสธ น้ำเงิน4
https://www.facebook.com/thailandcoup

 

วันที่ 15 ก.ค.57 ไม่ใช่รบเพื่อปกป้องคนยิว แต่คือการจัดระเบียบชนชาติ และวาดพรมแดนใหม่

จากการที่อิสราเอล จู่ๆ ก็สั่งกำลังทหารยิว ทั้งทางอากาศ บก เรือ หน่วยพิเศษ พร้อมบรรดาอาวุธหนัก ข้ามพรมแดนประเทศปาเลสไตน์มา และปิดล้อมสังหารเข่นฆ่าลูกเด็กเล็กแดงชาวปาเลสไตน์ แบบไม่สนใจชาวโลก โดยมีรัฐบาลมะกันส่งอาวุธร้ายแรงให้ และยืนตบมือเชียร์แบบออกหน้าออกตานั้น มีวัตถุประสงค์แฝงแปลกๆ คือ

- ทหารยิวเลือกไม่โจมตีชาวปาเลสไตน์ กลุ่มฟาร์ตา หรือ PLO เดิม ที่อยู่ในเขตเวสแบ๊งค์ ที่พรมแดนติดกับ จอร์แดน
- ยิวสั่งโจมตีเฉพาะชาวปาเลสไตน์กลุ่มฮามาส ในเขตฉนวนการ์ซา ที่พรมแดนติดอียิปต์ และแม่น้ำไนน์ ที่มีพื้นที่นิดเดียว
- ทหารยิวทิ้งระเบิด และปืนใหญ่ใส่จุดนี้ที่อยู่ตอนใต้ของฉนวนการ์ซา มากกว่า 1,400 จุด ในเวลา 8 วัน นั่นหมายถึงต้องใช้ระเบิดมากกว่า 2,000 ลูก หย่อนลงพื้นที่เล็กๆ เพื่อทำลายตึก อาคาร โรงเรียน โรงพยาบาล ทุกแห่งนั่นเอง
- ทหารยิวบีบบังคับให้คนปาเลสไตน์จุดนี้หลายหมื่นคน ทิ้งถิ่นฐาน อพยพขึ้นเหนือไปรวมกันในค่าย ที่เมืองการ์ซา เมืองเอกของย่านนี้

อิสราเอลมีประชากรราว 8.2 ล้านคน ในนี้แบ่งเป็นคนยิวที่นับถือศาสนายิว (ไม่ใช่คริสต์) จำนวน 73% ที่เหลืออีก 27% ส่วนใหญ่เป็นคนอาหรับ นับถือศาสนาอิสลาม และที่เหลือ นับถือศาสนาคริสต์อีกเล็กน้อย และมีกลุ่มชาติพันธุ์ อีกหลายชนชาติ เช่น ครูช เบดูอิน ฯลฯ

จากจุดเมืองการ์ซา ที่ยิวอ้างว่ากลุ่มฮามาสใช้จรวดโจมตีไปทางทิศเหนือยังกรุงเทลอาวีฟ เมืองหลักทางการเงินนั้น มีระยะพิกัดราว 65 กม.ซึ่งจรวดของฮามาส เกินระยะหวังผลแล้ว และจากเมืองการ์ซา ไปเยรูซาเลม เมืองใหญ่ยิว ระยะพิกัด 77 กม. จรวดฮามาส ยิงไม่ไกลขนาดนั้น

เมืองเยรูซาเลม ยิวกำหนดให้เป็นเมืองหลวงของอิสราเอล แต่นานาชาติกลับไม่ยอมรับ ?? แถมเมืองนี้ศาสนาคริสต์ และ อิสลาม ต่างก็อ้างว่าศาสดาของตนขึ้นสวรรค์ที่เมืองนี้ ซึ่งอยู่ติดกับเขตเวสแบ็งค์ ของชนชาติปาเลสไตน์ กลุ่มฟาร์ตา

นั่นหมายความว่าอะไร ?? มันคือ การบีบกลุ่มฮามาส ไปรวมกัน ในค่ายอพยพ ของเมืองการ์ซา แล้วก็จะจัดการฆ่าล้างเผ่าพันธ์ุปาเลสไตน์หัวแข็ง แบบเบ็ดเสร็จ อาจใช้อาวุธชีวภาพที่ยิวถนัด หรือ รูปแบบการปล่อยให้อดอาหารตาย เหมือนฮิตเลอร์ เคยใช้วิธีนี้กับค่ายกักกันชาวยิว

หากมีเหลือรอด ก็จะย้ายปาเลสไตน์หัวอ่อน ไปรวมกันที่เขตเวสแบ็งค์ ที่ยิวควบคุม สั่งซ้าย ขวา หันได้ และชนชาติปาเลสไตน์จะแย่ลงไปกว่านี้อีก เพราะเขตเวสแบ็งค์ไม่มีทางออกทะเล ประเทศที่ไม่มีทางออกทะเล จะเจริญได้ยาก เพราะการค้าขายสินค้า ขนส่งน้ำมัน แก๊ส ในปริมาณมาก ล้วนต้องอาศัยท่าเรือทั้งสิ้น

จากนั้นยิว และมะกัน คงมีแผนจะบีบชาวโลกนานาชาติ ให้ยอมรับเมืองเยรูซาเลม เป็นเมืองหลวงของอิสราเอล โดยชูเรื่องดินแดนแห่งพระเจ้ามอบให้ ยิวจะจูงใจทำให้ชาวคริสต์คล้อยตามตน แต่ยิวก็เหยียดหยันชาวคริสต์อีก

ส่วนฉนวนการ์ซา ยิวคงจะประกาศขยายเขตแดนตนเอง เหมือนที่เคยทำสมัยสงคราม 6 วัน ที่อียิปต์เป็นแกนนำ แล้วยิวชนะ เพื่อที่ยิวก็จะสามารถจ่อทหารไปติดชายแดนอียิปต์ได้เลย และได้ชายฝั่งน่านทะเลเมดิเตอร์เรเนียน เพิ่มแนวยาว เพื่อใช้ประโยชน์เชิงอุตสาหกรรม และการเกษตร

แล้วคงจะขนย้ายชาวยิว ที่กระจัดกระจายทั่วโลก มาอาศัยแทนปาเลสไตน์ กลุ่มฮามาส ถ้าวิเคราะห์สถานการณ์จุดอื่นของอาหรับด้วย เช่น ซีเรีย อิรัก เลบานอน ที่ยิว กับมะกัน หนุนกลุ่มติดอาวุธต่างๆ คงเป็นไปตามแผนการจัดระเบียบโลกใหม่ ที่ยิวไซออนิสต์ (กลุ่มชาตินิยมยิวอิทธิพล) ใฝ่ฝันมานานแล้วนั่นเอง

นี่ไม่ใช่การปกป้องคนยิว จากการโจมตีของกลุ่มฮามาส แต่เบื้องหลังแฝง คือ แผนฆ่าล้างเผ่าพันธ์ุ จัดระเบียบชนชาติ แล้วขีดเส้นแผนที่พรมแดนในรอบใหม่ของยิวต่อจากเมื่อ 47 ปีที่แล้วปี ค.ศ.1967 คราวสงคราม 6 วันนั่นเอง แต่ครั้งนี้แยบยนแนบเนียนมาก เพราะโลกเปลี่ยนไป

ตอนนี้อียิปต์ ขอให้ รัฐยิว กับ กลุ่มฮามาส หยุดยิงชั่วคราว นับเป็นเรื่องที่ดี แต่จะเป็นผลหรือไม่ เพราะฮามาส เขาสูญเสียมาก ความแค้นมันฝังเจ็บปวดมาก การสู้รบ คงจะเกิดขึ้นอีกประปรายในอนาคต แต่จะนานเท่าไร บอกได้ยาก
เพราะการฆ่าล้างเผ่าพันธ์คนปาเลสไตน์จำนวนมากนั้น ทั้ง ยิว และมะกัน คงต้องใช้เวลาอีกพอสมควร และอีกสักพัก ชาวโลกก็ชินชาข่าวนี้ไปเอง จนเห็นเป็นเรื่องธรรมดา !!







@ เสธ น้ำเงิน4
https://www.facebook.com/thailandcoup

 

วันที่ 16 ก.ค.57 ถนนยางมะตอยอุทยานแห่งชาติเยลโลว์สโตนมะกัน เดือดจนละลายแดงฉาน

อุทยานแห่งชาติเยลโลว์สโตน อเมริกา มีพลังงานความร้อนใต้ดินมากกว่าหนึ่งหมื่น และน้ำพุร้อนอีก 500 แห่ง และได้สั่งปิดถนน เพื่อซ่อมแซมเนื่องมาจากได้รับความเสียหายจากความร้อนซูปเปอร์โวลคาโนมาแล้ว ถนนเส้นนี้เกิดปัญหาที่ต้องปิดซ่อม เดี๋ยวเปิดเดี๋ยวปิด ในปี 2013 อุทยานแห่งชาติแห่งนี้ปิดตัวลง จากปัญหาวิกฤตถังแตกของหน่วยงานรัฐของสหรัฐฯ

ความร้อนมโหฬารจากภูเขาไฟใต้ดินพลังมหาศาล ที่อยู่ใต้อุทยานแห่งชาติเยลโลว์สโตน อเมริกา ได้ละลายถนนสายหลักที่เป็นที่สัญจรเพื่อชมธรรมชาติของนักท่องเที่ยวช่วงฤดูร้อนให้กลายเป็นธารมะตอยสีส้ม เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งขาติได้ปิดในส่วนที่ได้รับผลกระทบในช่วงนี้

บางส่วนของถนนในอุทยานแห่งชาติ ได้ถูกปิดตัวลงเนื่องมาจากความร้อนจากใต้ดินที่เกิดมาจากภูเขาไฟใต้ดินที่อยู่ใต้เยลโลว์สโตนได้ผุดขึ้นมา และทำลายผิวหน้าถนนราดยางแอสฟัลท์ พื้นผิวหน้าของถนน เส้นทางหลักเข้าชมธรรมชาติ มีอุณภูมิสูงถึง 160 องศา สูงมากจนหลอมผิวหน้ายางมะตอยสีดำ ให้กลายเป็นธารแอสฟัลท์สีส้มได้

ความร้อนจากดวงอาทิตย์ในช่วงหน้าร้อน ประกอบกับ “ซูปเปอร์ภูเขาไฟใต้ดิน” ที่บังเอิญอยู่ด้านใต้แผ่นดินอุทยานได้หลอมยางมะตอยของถนนสายหลักเส้นนี้ไปเกือบ 3 ไมล์ครึ่ง

ผิวโลกกำลังเดือด ถนนมีความร้อนถึง 160 องศา จนยางมะตอยหลอมละลายจากสีดำเป็นสีส้ม ความร้อนใต้ดินตรงนั้น มันพร้อมจะปะทุพุ่งขึ้นมา และยากต่อการคาดเดาปรากฎการณ์ธรรมชาติ









@ เสธ น้ำเงิน4
https://www.facebook.com/thailandcoup

 

วันที่ 16 ก.ค.57 พระอาทิตย์อัสดง ในแมนฮัตตัน แดนมะกัน

เกิดปรากฎการณ์อาทิตย์อัสดง ในตำแหน่งขนานกับถนนในเขตแมนฮัตตัน นิวยอร์ค อเมริกา ทำให้ประชาชนมะกัน หยุดดูบนท้องถนน และถ่ายภาพด้วยความสนใจ

อาทิตย์อัสดง ในความเชื่อของไทย คงเป็นลางไม่ดีนัก สำหรับผู้ปกครองดินแดนแห่งนั้น หมายถึงการเสื่อมอำนาจนั่นเอง




@ เสธ น้ำเงิน3
https://www.facebook.com/thailandcoup

 

วันที่ 15 ก.ค.57 พระสุเทพบวชที่วัด ในสุราษฎร์ฯ

วันนี้พระสุเทพ ได้บวชเรียบร้อยแล้ว ฉายาปภากโร แปลว่า ผู้กระทำให้ได้แสงสว่าง ณ วัดแห่งหนึ่ง ที่เคยบวชสมัยหนุ่ม ในจังหวัดสุราษฎร์ธานี ขอร่วมอนุโมทนาบุญ ในโอกาสช่วงเข้าพรรษาด้วย




@ เสธ น้ำเงิน3
https://www.facebook.com/thailandcoup

 

วันที่ 16 ก.ค.57 เผย..หากเกิดสงครามโลกครั้งที่ 3 ใครจะชนะ และไทยจะเป็นเช่นไร

ยูเครน เป็นพื้นที่ชายขอบทางตะวันออก ของ EU อดีตเคยเป็นส่วนหนึ่งของสหภาพโซเวียต และตั้งอยู่ในพื้นที่ทางยุทธศาสตร์ที่สำคัญตรงกลางระหว่างรัสเซียและยุโรป การปะทะกันที่ยูเครน ทวีความรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ ระหว่างกลุ่มติดอาวุธที่ฝักใฝ่รัสเซีย กับกองทัพยูเครน ที่มะกันและ EU ชักใยหุ่นเชิด

ส่งผลให้มีพลเรือนเสียชีวิตไปแล้วกว่า 550 ราย ส่วนปูติน ผู้นำรัสเซีย ก็ไม่สนใจ ไม่คุยด้วย ไปดูการแข่งขันฟุตบอลโลกที่บราซิล หน้าตาเฉย ยูเครนโดนมะกันปั่นเสียประเทศแตกเป็นเสี่ยง เกิดสงครามกลางเมือง คนในชาติห้ำหันกันเอง ตายเป็นเบือ การสู้ทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างตะวันตก และตะวันออกลุกเป็นไฟ และทำท่าจะบานปลายขยายตัวไปเป็นสงครามกลางเมืองอย่างเต็มขั้นอีกรอบแล้ว

มีการโจมตีอีกหลายระลอก ตลอดพื้นที่ทางตะวันออกของยูเครน ดับความหวังในการพักรบ ทำให้ทหารยูเครนอีก 18 ราย รวมถึงพลเรือนอีก 20 รายต้องสังเวยชีวิตเพิ่ม และมีผู้เสียชีวิต และได้รับบาดเจ็บ แถวชานเมืองของโดเน็ตสก์ เมืองที่มีประชากรนับล้านและเป็นฐานที่มั่นของกองกำลังติดอาวุธฝักใฝ่รัสเซีย

ส่วนเมืองลูกันสก์ ที่มีประชากรประมาณ 425,000 คน และก็เป็นที่มั่นสำคัญอีกแห่งหนึ่งของกลุ่มติดอาวุธ ก็มีผู้เสียชีวิตในละแวกนี้ และบาดเจ็บอีก หลายรายจากเหตุการณ์สู้รบกับรัฐบาลยูเครน สมุนมะกัน ตลอดทั้งคืน

จำนวนผู้บาดเจ็บล้มตายที่เกิดขึ้นกับพลเรือน เป็นสถิติสูงสุดตลอดช่วงระยะเวลากว่า 3 เดือนของความขัดแย้งครั้งนี้ เป็นภัยคุกคามต่อความอยู่รอดของยูเครน ปลายสัปดาห์ก่อน กองกำลังติดอาวุธกลุ่มติดอาวุธฝักใฝ่รัสเซีย ได้ใช้เครื่องยิงจรวดหลายลำกล้อง ยิงใส่กองทัพรัฐบาล จนทำให้ทหารยูเครนเสียชีวิต 19 รายและได้รับบาดเจ็บเกือบ 100 ราย บริเวณใกล้กับชายแดนรัสเซีย

ความสูญเสียของกองทัพยูเครน ยังได้บ่อนทำลายความหวังที่จะใช้ชัยชนะในสนามรบเป็นตัวโน้มน้าวให้ฝ่ายกลุ่มติดอาวุธต้องยอมสงบศึก

ประธานาธิบดียูเครน หุ่นเชิดมะกัน คุยโอ่ว่า จะสังหารกลุ่มติดอาวุธหลายร้อยคน แลกกับทหารทุกๆ คนที่ต้องเสียชีวิตไป เขายังสั่งให้กองทัพปิดล้อมทางอากาศอย่างหนาแน่น ต่อเมืองลูกันสก์ และเมือง โดเน็ตสก์ สองเมืองที่สถาปนาตัวเองเป็นสาธารณรัฐ และประสงค์จะแยกตัวเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของรัสเซีย เพิ่มเติมจากเมืองไครเมียที่รวมไปแล้ว

การใช้เครื่องยิงจรวดหลายลำกล้อง ของฝ่ายกลุ่มติดอาวุธนั้น แสดงให้เห็นว่าได้รับการสนับสนุนจากรัสเซีย แต่ปูตินได้ปฏิเสธข้อกล่าวหาที่ว่า รัสเซียเป็นผู้บงการอยู่เบื้องหลังการลุกฮือของกลุ่มติดอาวุธ เพราะหวังที่จะควบคุมพื้นที่บางส่วนทางตะวันออกของยูเครน รวมถึงเป็นการลงโทษยูเครนที่หันไปผูกมิตรกับสหภาพยุโรป

ประธานาธิบดีหุ่นเชิดยูเครน โม้ต่อว่า การสงบศึกกับฝ่ายกบฏไม่มีทางเกิดขึ้นได้ จนกว่ากองทัพของเขา จะสามารถปิดกั้นแนวชายแดนรัสเซีย เพื่อหยุดการหลั่งไหลเข้ามาของบรรดาอาวุธและกองกำลังสนับสนุน

รัสเซีย โมโหยูเครนมาก เมื่อกระสุนของฝ่ายยูเครน เลยข้ามพรมแดนไปตกในพื้นที่ชุมชนเล็กๆ ใกล้กับชายแดนรัสเซีย ทำให้พลเรือนรัสเซียเสียชีวิต 1 ราย กับผู้บาดเจ็บอีก 2 ราย จาก รัสเซียบอกว่าเหตุครั้งนี้อาจนำไปสู่ผลลัพธ์ที่ไม่อาจเปลี่ยนแปลงได้

ต่อมาเครื่องบินลำเลียงทางทหาร AN-26 ของยูเครน ที่เข้าร่วมปฏิบัติการทางทหารกวาดล้างกลุ่มติดอาวุธ ถูกสอยร่วงด้วยจรวดลูกหนึ่ง ที่ยิงออกมาจากดินแดนรัสเซีย เครื่องบินลำดังกล่าวบินอยู่ในระดับที่สูงมาก จนจรวดแบบหิ้วที่กลุ่มติดอาวุธยิงไม่ถึง จึงเป็นการยิงโดยอาวุธจรวดทรงแสนยานุภาพมากกว่า ออกมาจากดินแดนของรัสเซียนั่นเอง

รัฐบาลยูเครน กำลังเร่งมือปฏิบัติการค้นหาและกู้ภัย ในพื้นที่ซึ่งอยู่ติดกับชายแดนรัสเซีย ทางตะวันออกเฉียงใต้ของเมืองลูฮานสก์ อันเป็นจุดที่มีการปะทะกันอย่างดุเดือดระหว่างกองทัพยูเครนกับนักรบฝ่ายกบฏนิยมมอสโก

รายงานทางลับ ระบุว่ารัสเซียกำลังพิจารณาถึงความเป็นไปได้ในการโจมตีรวดเดียว ต่อที่ตั้งต่างๆ ในยูเครน ซึ่งเป็นจุดที่เปิดฉากยิงอาวุธเข้าใส่ดินแดนของรัสเซียโดยตรง เนื่องจากความอดทนมีขีดจำกัด และรัสเซีย รู้แน่ชัดแล้วว่าพวกยูเครนยิงปืนใหญ่มาจากไหน

จุดนี้ก็เป็นจุดที่อย่างไรเสีย รัสเซียก็ยอมไม่ได้ เพราะมะกันและ EU หยามกันเกินไป ที่กล้ามาแหย่หมีขาวยามสลึมสลือ ตอนนี้พี่หมีตืนแล้ว..ตะปบ เคี้ยวๆๆ !!

ขณะที่วิกฤตยูเครนกำลังฉุดให้สายสัมพันธ์ระหว่างรัสเซียกับสหรัฐฯ และบรรดาชาติยุโรปถลำลงสู่จุดต่ำสุด นับตั้งแต่ยุคสงครามเย็นเป็นต้นมา ประธานาธิบดี ปูติน ของรัสเซีย ก็เดินสาย กระชับสัมพันธ์กับภูมิภาคลาตินอเมริกาใต้

โดยแผนการเดินทางเยือนของผู้นำแดนหมีขาว รวมถึง การร่วมหารือกับเหล่าผู้นำฝ่ายซ้ายของชาติที่เป็นปฏิปักษ์กับสหรัฐฯ และเข้าร่วมประชุมระดับผู้นำของกลุ่มประเทศเศรษฐกิจเฟื่องฟูใหม่รายใหญ่ของโลกหรือ BRICS เพื่อหาทางผลักดันให้เกิดโลกหลายขั้ว ที่ได้รับอิทธิพลจากโลกตะวันตกน้อยลง

ปูติน และ ประธานาธิบดี กริสตินา เคิร์ชเนอร์ แห่งอาร์เจนตินา ได้แถลงให้มีการวางกฎระเบียบสำหรับ “โลกแบบหลายขั้ว” อันเป็นแนวคิดที่เกิดจากการที่ประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่ เริ่มมีบทบาทในเศรษฐกิจโลกมากขึ้น

ประธานาธิบดี เคิร์ชเนอร์ กำลังต่อสู้กับคำตัดสินของศาลสหรัฐฯ ที่มีคำสั่งให้อาร์เจนตินาชดใช้เงินมูลค่ากว่า 4.2 หมื่นล้านบาท ให้แก่กองทุนป้องกันความเสี่ยงภายในสิ้นเดือน ก.ค.57 นี้ สืบเนื่องมาจากการที่อาร์เจนตินา ปฏิเสธไม่ยอมปรับโครงสร้างหนี้ค้างชำระของประเทศ

ปูติน กล่าวยอว่า รัสเซียมี “ทัศนะเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างประเทศที่เหมือนกับอาร์เจนตินา เป็นอย่างยิ่ง” เขายังแสดงจุดยืนสนับสนุน การที่อาร์เจนตินาอ้างกรรมสิทธิ์เหนือหมู่เกาะฟอล์กแลนด์มาเนิ่นนาน เพราะหมู่เกาะที่ฟอล์กแลนด์ หรือที่อังกฤษเรียกว่า “มอลวินาส” ได้จุดชนวนให้เกิดสงครามระหว่างอาร์เจนตินา กับ อังกฤษเมื่อปี 1982 จนอังกฤษ ใช้ระเบิดตอร์ปิโด ยิงเรือรบอาร์เจนตินา จนล่มมาแล้ว

ปูติน ระบุว่ารัสเซียสนับสนุนหลักการ “โลกหลายขั้ว” ซึ่งมีความเท่าเทียม ความมั่นคง และไม่สามารถแบ่งแยกได้ โดยที่รัสเซียจะเดินหน้าสนับสนุนให้ อังกฤษ กับ อาร์เจนตินา เปิดโต๊ะเจรจากัน เพื่อการหาหนทางแก้ไขกรณีพิพาทเรื่องหมู่เกาะฟอล์กแลนด์ ต่อไป..โห้..ตบหน้าอเมริกาฉาดเบ่อเร่อเลย

ผู้นำหญิงอาร์เจนตินาได้เน้นย้ำว่า จะต้องมีการยกเครื่องสถาบันระดับโลกเสียใหม่ เชื่อมั่นในโลกแบบหลายขั้ว และระบบพหุนิยมในโลกที่ประเทศต่างๆ ไม่ใช้ระบบสองมาตรฐาน..เดิมกระแสเงินทุนทั่วโลก เปลี่ยนโลกนี้ให้กลายเป็นคาสิโน จนหลายประเทศกลายเป็นหนี้ท่วมหัว จำเป็นต้องวางระเบียบควบคุมใหม่..เปรี๊ยะๆๆ คมมาก

และที่ต้องทำให้อเมริกาสะดุ้ง เหงื่อตก ก็คือ คณะผู้แทนของรัสเซีย และอาร์เจนตินาร่วมลงนามข้อตกลงทวิภาคหลายฉบับ เช่รน ข้อตกลงด้านพลังงานนิวเคลียร์ซึ่งทั้งสองชาติบรรลุร่วมกัน โดยรัสเซียจะช่วยอาร์เจนตินาเร่งมือสร้างโรงไฟฟ้านิวเคลียร์แห่งที่ 4 ของประเทศชื่อ “อาตูชา 3” ด้วยงบประมาณ ราว 9.6 หมื่นล้านบาท

นอกจากนี้ สมาชิกคณะผู้แทนรัสเซียยังจะเดินทางเยือนแหล่งน้ำมันและแก๊สธรรมชาติ “วากา มูเอร์ตา” ซึ่งอาจเป็นการสำรวจพบบ่อน้ำมันครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ โดยอาร์เจนตินาที่กำลังขาดแคลนเงิน ภายหลังถูกกีดกันจากตลาดทุน ตั้งแต่ผิดนัดชำระหนี้เมื่อปี 2011 กำลังต้องการเงินลงทุนเพื่อพัฒนาแหล่งพลังงานแห่งนี้

แถม รัสเซีย และอาร์เจนตินา ยังมีกำหนดจะร่วมหารือในประเด็นความร่วมมือทางทหาร ซึ่งรวมถึงช่องทางที่รัสเซียจะส่งเครื่องบินลำเลียงทางทหารเข้าไปดำเนินภารกิจแถบขั้วโลกใต้..แถมออกจากอาร์เจนตินา ไป พี่หมีขาวแกก็ไปดูบอลโลกรอบชิงชนะเลิศที่บราซิลต่อเลยเอากะลีลากวนๆ ยั่วไอ้มาม่าของแกซิ !!

รัสเซียดันมาพัฒนานิวเคลียร์ในพื้นที่จ่อรูตูดมะกันเลย โดยอ้างโรงไฟฟ้านิวเคลียร์เป็นฉากบังหน้า และความร่วมมือทางทหารอีกด้วย..ใครๆ ก็รู้ว่ามันสามารถนำกากนิเคลียร์มาพัฒนาเป็นหัวรบนิวเคลียร์ และนำไปติดตั้งในขีปนาวุธพิสัยไกลได้

ประธาธิบดี ปูติน แห่งรัสเซีย ยังพยายามสร้างอิทธิพลแถบละตินอเมริกา เพื่อต้านมาตรการคว่ำบาตรของชาติตะวันตก โดยไปเยือนและพบประธานาธิบดี ราอูล คาสโตร แห่งคิวบา ณ ทำเนียบ กรุงฮาวานา คิวบา ก่อนหน้านี้ได้ประกาศ “ยกหนี้” สมัยสหภาพโซเวียตให้แก่คิวบาถึง 90% ซึ่งคิดเป็นมูลค่าสูงถึง 1.03 ล้านล้านบาท มาแล้ว..รวยซะอย่างจะยกหนี้ให้ มีไรป่ะ !!

ปูติน ยังรับปากจะแปรสภาพ “หนี้” ส่วนที่เหลือของคิวบาอีกราว 1.12 แสนล้านบาท เป็นเม็ดเงินลงทุนในโครงการใหญ่ๆ และยังได้พา ประธานบริษัท รอสเนฟต์ รัฐวิสาหกิจพลังงานของรัสเซีย ซึ่งได้เดินทางไปยังกรุงฮาวานาด้วย เพื่อลงนามข้อตกลงสำรวจน้ำมันนอกชายฝั่งตอนเหนือของคิวบา

แหล่งน้ำมันดิบอายุเก่าแก่บนแผ่นดินคิวบามีกำลังผลิตเพียงราวๆ 55,000 บาร์เรลต่อวัน รัฐบาลจึงจำเป็นต้องนำเข้าน้ำมันราว 110,000 บาร์เรลต่อวันจากเพื่อนบ้านอย่างเวเนซุเอลา ซึ่งจำหน่ายให้ในราคาถูกเป็นพิเศษ หากมีการสำรวจพบแหล่งน้ำมันดิบขนาดใหญ่นอกชายฝั่งจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของคิวบาได้อย่างมาก

แผนปลดหนี้ และแปรสภาพหนี้ จะช่วยอัดฉีดเม็ดเงินลงทุนต่างชาติซึ่งจำเป็นอย่างยิ่งสำหรับคิวบาในยามนี้ และถือเป็นการประกาศคานอำนาจกับสหรัฐฯ ซึ่งคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจกับคิวบามานานถึง 52 ปี จนเป็นผลให้บริษัทตะวันตกหลายแห่งไม่สามารถเข้าไปทำธุรกิจในคิวบาได้

ปูติน กล่าวว่า “เราพร้อมที่จะสนับสนุนมิตรชาวคิวบา เพื่อให้สามารถเอาชนะการกีดกันทางเศรษฐกิจอันไม่ชอบด้วยกฎหมาย” การเดินทางเยือนหลังบ้านสหรัฐฯ ของ ปูติน ในครั้งนี้ เขาแกล้งเดินไปขณะมี กระแสกดดันจากชาติตะวันตก ที่ต้องการให้รัสเซียใช้อิทธิพลบีบกลุ่มกบฏแบ่งแยกดินแดนในยูเครนให้ยอมวางอาวุธ และเปิดเจรจาสันติภาพกับรัฐบาลยูเครนอย่างจริงจัง

อมริกา ยังกลั่นแกล้งรัสเซีย โดยประกาศขึ้นบัญชีดำบุคคลใกล้ชิดของ ปูติน หลายราย ซึ่ง ประธานบริษัท รอสเนฟต์ เองก็เป็นหนึ่งในบรรดาผู้ทรงอิทธิพลของรัสเซียที่ตกเป็นเป้าหมายคว่ำบาตรด้วย

ปูติน ได้เข้าพบอดีตประธานาธิบดี ฟิเดล คาสโตร วัย 87 ปี บิดาแห่งการปฏิวัติคิวบา โดยได้หารือเกี่ยวกับกิจการระหว่างประเทศ เศรษฐกิจโลก และความสัมพันธ์ระหว่างรัสเซีย และคิวบาด้วย จากนั้นรัฐบาลคิวบาได้มอบเหรียญเชิดชูเกียรติ “โฆเซ มาร์ตี” ซึ่งเป็นอิสริยาภรณ์ชั้นสูงสุดของคิวบาแก่ ปูติน

อเมริกาและ EU เจาะยูเครน ข้างบ้านรัสเซีย แต่รัสเซียก็เจาะทะลวงหลังบ้านอเมริกา โดยเลือกประเทศที่มะกันแกล้งคว่ำบาตรเขา ด้วยข้อหาไม่เปิดขายกัญชาเสรี เหมือนอเมริกาบ้าง ที่คิวบานี่แหละ...ติดตั้งขีปนาวุธเพื่อถล่มมะกัน..เจ๋งสุดๆ

จากนั้น ปูติน ก็ทะลวงตูดไอ้มาม่าไม่หยุด โดยเดินทางเยือนบราซิลต่อ เพื่อโน้มน้าวให้เหล่าผู้นำในภูมิภาคนี้ ร่วมกันสนับสนุนนโยบายของเขา ในช่วงที่รัสเซียกำลังตึงเครียดกับบรรดาชาติตะวันตก โดยผู้นำบราซิล และรัสเซียได้ลงนามข้อตกลงทางการทหาร, เศรษฐกิจ, เทคโนโลยี และสาธารณสุขร่วมกัน

ประธานาธิบดี ดิลมา รูสเซฟฟ์ แห่งบราซิล กล่าวขณะยืนเคียงข้างปูติน ว่า “เราขอเน้นย้ำว่า การร่วมมือกันด้านกลาโหม และการใช้พลังงานนิวเคลียร์เชิงสันติเป็นสิ่งที่มีความสำคัญ” ตามข้อตกลงทางทหาร ที่สองชาติบรรลุร่วมกัน กองทัพรัสเซียและบราซิลจะซ้อมรบร่วมกันในเดือน ส.ค.57 เพื่อทดสอบระบบขีปนาวุธจากพื้นสู่อากาศพิสัยใกล้และพิสัยกลาง “แพนต์ซีร์ - เอส 1” และระบบปืนใหญ่ต่อสู้อากาศยาน ซึ่งบราซิลจะขอซื้อจากรัสเซียในเร็วๆ นี้

ประธานาธิบดี บราซิล ฮึ่มเหน็บมะกันว่า “เนื่องจากชาติของเราจัดอยู่ในกลุ่มประเทศที่ใหญ่ที่สุดในโลก เราจึงไม่อาจพอใจที่ยังต้องพึ่งพาผู้อื่นในศตวรรษที่ 21 เช่นนี้..เราจำเป็นจะต้องมีศักยภาพมากพอที่จะพึ่งตนเองได้ทั้งทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี”..แสบ !!

ปูตินได้ยาหอมบราซิลว่าเป็น “หุ้นส่วนที่ยิ่งใหญ่ที่สุด” ของรัสเซียในภูมิภาคอเมริกาใต้ พร้อมบอกว่า พวกเขาได้ผนึกกำลังกันจัดการ “ประเด็นปัญหาที่สำคัญระดับนานาชาติ” ทั้งสองต่างตั้งความหวังที่จะ “พัฒนาศักยภาพด้านอุตสาหกรรม โดยเฉพาะด้านเทคโนโลยี” โดยถือเป็นส่วนหนึ่งของแผนความร่วมมือระหว่างสองชาติ

โดยวางแผนจะร่วมกันสร้างสาธารณูปโภค สำหรับโรงไฟฟ้า สถานีรถไฟปลายทาง เครื่องบิน และรถบัส บราซิลยังตั้งเป้าจะเปิดทางให้รัสเซีย เข้ามาลงทุนด้านพลังงาน และโครงสร้างพื้นฐานเพิ่มขึ้น เพื่อพัฒนาสายสัมพันธ์ด้านการค้าของสองประเทศ

โดยลงนามร่วมกันไปแล้วว่า ตั้งเป้ายกระดับการค้าจาก ราว 1.8 แสนล้านบาท เมื่อปีที่แล้ว ขึ้นเป็น ราว 3.21 แสนล้านบาท การทำเช่นนี้จะช่วยผลักดันให้ทั้งสองฝ่าย ทุ่มเม็ดเงินลงทุนโดยตรงมากขึ้น บราซิลได้บอกปูติน เข้าใจอย่างลึกซึ้งถึงโอกาสด้านพลังงาน และโครงสร้างด้านพื้นฐานที่มีมากมายในบราซิล ซึ่งบรรดาบริษัทรัสเซีย สามารถเข้ามาแสดงบทบาทที่สำคัญได้มากขึ้น โดยเฉพาะการอนุญาตเพื่อเปิดทางให้เข้ามาลงทุนด้านน้ำมัน ท่าเรือ และทางรถไฟ

ปูติน เดินทางต่อไปยังอาร์เจนตินา และ บราซิล เพื่อร่วมหารือทวิภาคีกับผู้นำทั้ง 2 ชาติ และจะเข้าร่วมการประชุมสุดยอดผู้นำกลุ่มประเทศเศรษฐกิจเฟื่องฟูใหม่หรือ BRICS ซึ่งประกอบด้วยบราซิล, รัสเซีย, อินเดีย, จีน และแอฟริกาใต้ ช่วงวันที่ 15-16 กรกฎาคม 57 ต่อเลย

ต่อมาผู้นำ 5 ชาติ กลุ่มประเทศเศรษฐกิจเฟื่องฟูใหม่หรือ BRICS (บราซิล, รัสเซีย, อินเดีย, จีน และแอฟริกาใต้ ) มีประชากรรวมกัน 40% ของประชากรโลก และมีมูลค่าเศรษฐกิจ 1 ใน 5 ของเศรษฐกิจโลก กลุ่มนี้ประกอบด้วยชาติสมาชิกที่มีความแตกต่างกัน ทั้งด้านเศรษฐกิจ นโยบายต่างประเทศ และระบบการเมือง

สิ่งที่กลุ่มนี้มีร่วมกันคือ ความต้องการมีเสียงในนโยบายเศรษฐกิจโลกมากขึ้น ทุกประเทศล้วนมีประสบการณ์เจ็บปวดกับการครอบงำทางการเงินของตะวันตก เช่น เคยถูกลงโทษทางเศรษฐกิจ ถูกบังคับให้ลดงบประมาณและเงื่อนไขยากลำบากอีกหลายอย่าง เพื่อแลกกับเงินกู้ฉุกเฉินจากไอเอ็มเอฟ

เป็นโครงข่ายความปลอดภัยโครงข่ายสำรอง หากพวกเขาเกิดงัดข้อกับตะวันตก การที่ห้าชาติปลีกตัวจากสถาบันการเงินที่มีอยู่เดิม ตอกย้ำให้เห็นความแตกแยกของระบบเศรษฐกิจช่วงหลังสงคราม ที่เคยมีบทบาทสำคัญในการสนับสนุนสันติภาพและความมั่งคั่งของโลก ถึงขณะนี้ไม่สามารถปรับตัวให้เข้ากับความเป็นจริงในยุคปัจจุบัน และการแจ้งเกิดของมหาอำนาจรายใหม่ๆ ได้เสียแล้ว

ปีที่ผ่านมากลุ่มนี้ได้ประกาศแผนตั้งธนาคาร ที่มีเป้าหมายเพื่อเป็นทางเลือกแทนธนาคารโลก รวมทั้งตั้งกองทุนที่เป็นคู่แข่งของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF)

มุ่งปล่อยกู้ให้แก่โครงการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานในประเทศกำลังพัฒนา จะมีเงินทุนเริ่มต้น 16 ล้านล้านบาท ที่สมาชิกแต่ละชาติสมทบเท่าๆ กัน กองทุนสำรองมีทุนเริ่มต้น 3.2 ล้านล้านบาท จีนจะเป็นผู้สมทบรายใหญ่สุด 1.32 ล้านล้านบาท ตามด้วยบราซิล อินเดีย และรัสเซียประเทศละ 5.76 ล้านล้านบาท และแอฟริกาใต้ อีก 1.6 ล้านล้านบาท และในอนาคตอาจมีประเทศอื่นร่วมลงขันเพิ่มเติม

การประชุมสุดยอดกันครั้งนี้ หนึ่งในประเด็นสำคัญที่จะหารือคือ การจัดตั้งธนาคารเพื่อการพัฒนาและกองทุนสำรองขึ้นมา เพื่อคานอำนาจสถาบันการเงินที่ถูกตะวันตกครอบงำอย่างธนาคารโลก และไอเอ็มเอฟ ที่น่าอึ้งคือ เป็นครั้งแรกที่ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน ได้พบปะแบบตัวต่อตัวกับนายกรัฐมนตรีคนใหม่ของอินเดีย นเรนทรา โมดี เพราะสองประเทศนี้มีข้อขัดแย้งพรมแดนกันมานานแล้ว

ตอนนี้มีประชาชนมากกว่า 3,500 ล้านคน จากอินเดีย 1,200 ล้านคน จีน 1,400 ล้านคน รวมถึงเพื่อนบ้านอาเซียนอีก 600-700 ล้านคน ที่เข้าใจประเทศไทยอย่างไม่มีเงื่อนไขใดๆ ที่ผ่านมา คสช.ได้ทำความเข้าใจกับต่างประเทศ โดยเฉพาะกลุ่มประเทศอาเซียน ซึ่งมีความเข้าใจประเทศไทยเป็นอย่างดี ที่ต้องปลดล็อกปัญหาสะสมมานานกว่า 10 ปี

ที่ผ่านมาประเทศไทย เหมือนเป็นเจ้าชายนิทรา ที่รอวันตายเท่านั้น ทหารพยายามประคับประคองประชาธิปไตย แต่ทุกอย่างก็เดินไม่ได้ ถ้าวันนี้กองทัพไม่ทำอะไรสักอย่างประชาธิปไตยก็จะต้องล้มอยู่ดี เพราะมีสัญญาณการใช้อาวุธทำร้ายกันของกลุ่มที่มีความคิดเห็นต่างแน่นอน การรัฐประหารกองทัพจึงเป็นการยับยั้งไม่ให้เสียเลือดเนื้อ จากสงครามกลางเมือง

ตอนนี้อเมริกา เปิดตัวแรง โดยจะไม่ร่วมฝึก "คอบร้าโกลด์" กับไทย ซึ่งไทยไม่ได้ว่าอะไร และจะไปฝึกกับประเทศเพื่อนบ้านแถบอาเซียน รวมทั้งจีน พม่า และอินเดีย ที่ตอบตกลงจะเข้าร่วมฝึกด้วย แต่ปรากฏว่าล่าสุดมะกันความรู้สึกช้า กลับกลอก ได้ทำหนังสือขอที่จะร่วมฝึกกับไทยอีก แต่ขณะนี้ไทยก็ยังไม่ยอมตอบรับ โดยไทยให้มะกันทำหนังสือชี้แจงรายละเอียดมาเป็นลายลักษณ์อักษร ให้ดูก่อน แล้วจะพิจารณาเมื่อสบอารมณ์ !!

จากผลสำรวจ "โกลบอล ไฟร์ พาวเวอร์" ที่สำรวจจากปัจจัยด้านการทหารมากกว่า 50 ปัจจัย เช่น กำลังพล จำนวนเรือรบ เครื่องบิน หัวรบนิวเคลียร์ ฯลฯ เป็นดัชนีชี้วัดกำลังพล และแสนยานุภาพทางการทหารทั่วโลก พบว่าส่วนประเทศที่มีกำลังทหารมากที่สุดคือ มะกัน รัสเซีย และจีน ส่วนประเทศไทยอยู่อันดับที่ 24 ของโลก และมีความแข็งแกร่งเป็นลำดับที่ 3 ของภูมิภาคอาเซียน

หากมีสงครามโลกครั้งที่ 3 การต่อสู้กันจะไม่มีทางที่จะหลีกเลี่ยงการใช้อาวุธนิวเคลียร์ได้เลย เท่าที่ประกาศ “อย่างเป็นทางการ” ในการลงนามสนธิสัญญาห้ามแพร่กระจายอาวุธนิวเคลียร์ 8 ประเทศ ที่มีอยู่ในครอบครอง มีดังนี้

1. รัสเซีย มีหัวรบนิวเคลียร์ 11,500 หัวรบ และอยู่ในคลังนิวเคลียร์สำรอง 17,000 หัวรบ
2. อเมริกา มีหัวรบนิวเคลียร์ 9,200 หัวรบ และอยู่ในคลังนิวเคลียร์สำรอง 5,700 หัวรบ
3. ยูเครน มีหัวรบนิวเคลียร์ที่พร้อมปฏิบัติการได้ จำนวน 1,104 หัวรบ
4. คาซัคสถาน มีหัวรบนิวเคลียร์ที่พร้อมปฏิบัติการได้ จำนวน 600 หัวรบ
5. ฝรั่งเศส มีหัวรบนิวเคลียร์ที่พร้อมปฏิบัติการได้ จำนวน 530 หัวรบ
6. จีน มีหัวรบนิวเคลียร์ที่พร้อมปฏิบัติการได้ จำนวน 735 หัวรบ
4. อังกฤษ มีหัวรบนิวเคลียร์ที่พร้อมปฏิบัติการได้ จำนวน 200 หัวรบ
5. เบรารุส มีหัวรบนิวเคลียร์ที่พร้อมปฏิบัติการได้ จำนวน 34 หัวรบ
6. อิสราเอล มีหัวรบนิวเคลียร์ที่พร้อมปฏิบัติการได้ จำนวน 1,104 หัวรบ
7. อินเดีย มีหัวรบนิวเคลียร์ที่พร้อมปฏิบัติการได้ จำนวน 50 หัวรบ
8. ปากีสถาน มีหัวรบนิวเคลียร์ที่พร้อมปฏิบัติการได้ จำนวน 35 หัวรบ

ความจริงยังมีอีกหลายสิบประเทศ ที่สะสมอาวุธนิวเคลียร์ แต่ไม่ได้ประกาศเปิดเผยอย่างเป็นทางการเท่านั้น นาทีต่อจากนี้ โลกกำลังหมุนทิศกลับ ใน 8 ประเทศที่มีอาวุธนิวเคลียร์นี้ ฝ่ายตะวันตก จะมีจำนวนหัวรบรวม น้อยกว่าฝ่ายตะวันออก และจะโดนปิดล้อมทางภูมิศาสตร์

แต่หากชาติมหาอำนาจสู้กันแบบเต็มพิกัด จนเกิดสงครามโลกครั้งที่ 3 ขึ้นมาจริงๆ ฝุ่นทึบคงจะฟุ้งหุ้มชั้นบรรยากาศโลก บดบังแสงอาทิตย์อยู่หลายเดือน และมนุษย์คงใช้เวลาเกือบทั้งหมด ดำรงชีพอยู่ใต้ดินลึก แต่รับประกันได้ว่า โลกที่มีประชากร 7,000 ล้านคน จะเหลือคนเพียงไม่มากเท่าไรเท่านั้น เราคงต้องเริ่มวิวัฒนาการมนุษย์กันใหม่

Facebook คงใช้ไม่ได้ เพราะเซิพเวอร์แหล่งเก็บข้อมูลระบบคลาร์ว ที่อเมริกา คงพังหมด ,เพราะมาร์ค ซัคเคอร์เบร์ก ที่มีเชื้อสายยิว คงไม่รอด , เจ้าพ่อการเงิน จอร์ท โซรอท และ เดวิต แบคแฮม ที่มีเชื้อยิว ก็คงไม่รอด , ธุรกิจการเงิน อุตสาหกรรมต่างๆ ในอเมริกา และยุโรป ร้อยละ 80% ที่เป็นของชาวยิว คงพินาศเรียบ..

ระเบิดนิวเคลียร์ ที่เริ่มคิดขึ้นโดย อัลเบริต ไอน์สไตน์ ที่เป็นคนยิว คงทำลายทุกสิ่งหมด..สูงสุด คืนสู่สามัญ หันมาใช้แต่ตะแล็ปแก็ปโทรเลขแทนกันไปพลางๆ เดี๋ยวก็ชิน..เออ.ว่าแต่จะอ่านเพจ แฉ ความลับ กันจากไหนล่ะนี่ คงต้องนุ่งห่มใบใม้ แล้วเอาหินไปขีดเขียนสี ให้สมาชิกได้ปีนขึ้นไปอ่านทุกวันที่หน้าผา..โห่ ฮี๊ โฮ !!

ดินแดนประเทศไทย จะเสี่ยงต่ำกว่าประเทศที่มีหัวรบนิวเคลียร์เหล่านี้ คนส่วนมากของเราจะดำรงค์เผ่าพันธุ์อยู่ต่อไปได้ จากชัยภูมิชั้นเลิศ อาหารอุดมสมบูรณ์ ที่บรรพบุรุษสร้างมา..อย่าลืมไปเตรียมหาไดโนเสาร์มาเลี้ยงไว้เป็นเพื่อนแก้เหงาสักตัว..รักและสามัคคีกันไว้นะ !!















@ เสธ น้ำเงิน1
https://www.facebook.com/topsecretthai

 

วันที่ 17 ก.ค.57 เผย..เหมืองแร่ทองคำไทย ใหญ่ติดอันดับโลก กว่าออสเตรเลีย และชิลี

หลังจากมีแต่งตั้งบอร์ด ปตท.ใหม่แทนคนเก่าที่ลาออกไป และกรรมการบอร์ด ปตท.ได้เลือกประธานบอร์ดใหม่ เป็นนายปิยสวัสดิ์ ไปแล้วนั้น ทำให้มีภาคประชาชนบางกลุ่มโจมตีตัวประธานบอร์ดอย่างหนัก โดยไม่เปิดโอกาสให้เขาทำงานไปก่อน

ถ้าข้อกล่าวหาที่มีต่อเขาในเรื่องความไม่เหมาะสมต่างๆ ก็สามารถฟ้องศาลย้อนหลังเอาเข้าคุกได้ แต่จนถึงบัดนี้ก็ยังไม่พบใคร หรือองค์กรใด ฟ้องเขาตามข้อกล่าวหาเลยแม้แต่น้อย ??? มีแต่ พูดกันไปเท่านั้น..แถมบางคนที่กล่าวหา ก็โดนปิยสวัสดิ์ฟ้องกลับฐานหมิ่นประมาท จนต้องขอโทษและยอมความเงียบๆ อีก..แปลกดี

เรื่องพลังงาน หลายคนคิดถึงแค่ ปตท.แต่จริงๆ แล้ว มันมีความสัมพันธ์กับต่างประเทศด้วย เช่น เขาพระวิหาร ที่อาจจะเรียกได้ว่าเป็นแหล่งพลังงานซ่อนเร้น ให้กลุ่มข้ามชาติเข้ามาแสวงหาผลประโยชน์ เพราะเขาเล็งเห็นขุมทรัพย์บ่อน้ำมันของเขมร เช่น ฝรั่งเศส (กลุ่ม TOTAL Oil) , จีน (บริษัท CNOOC) เพิร์ลออย ของ อัล ฟาเยด เจ้าของห้างแฮร์รอดส์ ในอังกฤษ และอีกหลายแห่งในพื้นที่ภาคใต้ อีสาน ภาคกลาง ฯลฯ

ดังนั้น ปตท.เป็นแค่จิ๊กซอพลังงานตัวหนึ่งเท่านั้น “ไม่ใช่ระบบพลังงานทั้งประเทศ “ ที่เกี่ยวพันทั้งน้ำมัน แก๊สธรรมชาติ น้ำมันหล่อลื่น เขตแดนประเทศ ความมั่นคงทางทหาร การเมืองระหว่างประเทศ ฯลฯ พอต่อมา คสช.มีคำสั่งย้ายข้าราชการกระทรวงพลังงาน และกระทรวงทรัพย์ ฯ ระดับบิ๊กๆ ยกกระบิ กว่า 10 คน เพื่อจัดทัพพลังงานใหม่..เรื่องนี้กลับเงียบในหมู่ภาคประชาชน..แปลกไหม ??

วานนี้ บิ๊กสีฟ้า รองหัวหน้า คสช.ฝ่ายเศรษฐกิจ ประธานคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน เผยถึงการปฎิรูปโครงสร้างราคาพลังงานว่า ขณะนี้ได้ส่งรายละเอียดทั้งหมดให้กับ หัวหน้า คสช. แล้ว คาดว่าจะพิจารณาได้แล้วเสร็จภายใน 2 สัปดาห์จากนี้ (ราวสิ้นเดือน ก.ค.57)

โดยแนวทางหลัก มีเป้าหมายที่ทำให้ฐานะการเงินกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงเป็นบวก จากปัจจุบันติดลบอยู่ 8,800 ล้านบาท จากนโยบายประชานิยมของรัฐบาลที่แล้ว ส่งผลให้กองทุนน้ำมันฯ มีติดลบวันละ 27 ล้านบาท โดยไม่มีการจัดเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันของดีเซล

แต่ปัจจุบันราคาน้ำมันในตลาดโลกปรับลดลงต่อเนื่อง ทำให้ค่าการตลาดดีเซล เฉลี่ย 2.52 บาทต่อลิตร อยู่ในระดับที่สูงเกินไป จึงจะลดค่าการตลาดเหลือประมาณ 1.50 บาทต่อลิตร แล้วจัดเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันของดีเซล 1 บาทต่อลิตร ส่งผลให้กองทุนน้ำมันเป็นบวกวันละ 33 ล้านบาท

เปรียบเทียบกับว่าสมัยรัฐบาลก่อน ใช้จ่ายเกินตัวจนเป็นหนี้บัตรเครดิตบักโกรก ทำงานเท่าไรก็ใช้หนี้หมด ไม่มีเงินเหลือเก็บ พอ คสช.เข้ามาก็สั่ง “ตรึงค่าใช้จ่ายเท่าเดิม” ไว้ก่อน จุดนี้เรียกว่าเสมอตัว จากนั้นก็ดูว่าจะ “ลดค่าใช้จ่าย” ตรงไหนได้บ้าง นั่นเอง..อย่าลืมนะว่าปูเน่าทิ้งหนี้ตรงนี้ไว้ให้ คสช.อีก 8,800 ล้านบาท..มันแสบแค่ไหน

พอหัวหน้า คสช. พิจารณารายละเอียดการปฎิรูปโครงสร้างราคาพลังงานเสร็จ ราวสิ้นเดือน ก.ค.57 และมีการประกาศการใช้รัฐธรรมนูญชั่วคราว มันก็เหมือนถนนหลายสายกำลังไปรวมกันตามระยะที่กำหนด ประเทศโดยรวม น้ำมัน แก๊สธรรมชาติ น้ำมันหล่อลื่น เขตแดนประเทศ ความมั่นคงทางทหาร การเมืองระหว่างประเทศ ฯลฯ

แต่หลายคนไม่รู้ ก็จะเชื่อสิ่งที่ได้ยินมา และจะเอามันท่าเดียว จะลดราคา แต่ไม่ได้ดูภาพใหญ่อื่นๆ ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับระบบ ทุกระบบมันต้องไปด้วยกัน ไม่งั้นมันจะเขย่งกัน รถยนต์มันต้องมีทุกอะไหล่ มันถึงจะวิ่งได้ ถ้าเราเอาแต่ล้อไม่สนใจส่วนอื่น ล้อกลิ้งนำไป รถก็อยู่กับที่เดิม แล้วจะได้อะไร ??

และคงจะมีคนไทยจำนวนมาก ที่ไม่ทราบว่าเหมืองทองคำในไทย ใหญ่ติดอันดับโลก และใหญ่กว่าเหมืองทองคำที่ออสเตรเลีย และที่ชิลี เสียอีก โดยมีแนวบริเวณพาดผ่านแนวทิศเหนือ ใต้ ของไทย หลายจังหวัด แหล่งใหญ่ที่ทำเป็นอุตสาหกรรม คือ แหล่งแร่ชาตรี ในเขตพิจิตร และเพชรบูรณ์

ในปี 2555 ไทยส่งออกทองคำประมาณ 5 ล้านกรัม แต่ทองคำที่ขุดได้ส่งออกนอกหมดเลย จ่ายค่าภาคหลวงให้คนไทยแค่ 7% เท่านั้น คนไทยแทบจะไม่ได้ประโยชน์อะไรเลยจากทรัพย์ในดิน ที่บรรพบุรุษทิ้งมรดกไว้ให้ ??

หากเราขุด แล้วแปรสภาพใช้ในประเทศ หรือ เก็บไว้เป็นทุนสำรองเงินตราระหว่างประเทศเพื่อความมั่นคงของชาติ จะเกิดประโยชน์กับคนไทยมาก แต่อย่าเอาไปฝากมะกันไว้ ราว 150 ตัน เพื่อค้ำประกันค่าเงินบาท เหมือนสมัยสงครามเย็น..เพราะมะกัน ก็จะไม่คืนให้ไทย ตราบเท่าทุกวันนี้

แต่ปัญหาของทองคำ คือ การสกัดแร่ต้องใช้สารไซยาไนด์ และโลหะหนัก เมื่อได้ทองคำแล้วแล้ว ก็ต้องเอาดินปนสารเคมีทิ้งไว้แถวๆ ที่เดิม ซึ่งเป็นอันตรายต่อประชาชนมาก

แผ่นดินสุวรรณภูมิ แห่งนี้ มีทองคำสมชื่อจริงๆ..แต่โดนนักแสวงโชคการเมือง อ้างประชาธิปไตย อนุมัติสัมปทานให้เอกชนไปแล้ว..โดยที่ประชาชนที่เลือกตั้งได้ค่าตอบแทนจากการซื้อเสียงกลับมาแค่ 500 บาทต่อ 4 ปี เท่านั้น..

นี่แหละระบอบประชาธิปไตย ล่ะ..ใครจะรู้บ้างว่ายิว ออกแบบระบบนี้มา เพื่อเอื้อประโยชน์ให้นายทุนใหญ่กดขี่ประชาชนทั่วโลก และบังคับให้ทั่วโลกใช้ระบบที่ยิวสร้างขึ้นมา..ลองคิดซิว่าหลังการเปลี่ยนแปลงการปกครองปี 2475 เป็นต้นมา..ท่านได้อะไรจากทรัพยากรของบรรพบุรุษ เราบ้าง..

สิ่งที่ทุนนิยมต้องการมากที่สุดคือ การสร้างระบอบ “การเมือง” ใหม่ โดยอ้างถึงระบอบประชาธิปไตยแบบตัวแทน ที่ใครมีเงินก็เล่นการเมืองได้ แล้วย้อนไปดูชีวิตของนักแสวงโชคทางการเมืองเปรียบเทียบกับตัวท่านเอง..จะเห็นความจริงว่า เออ ประชาธิปไตย นี่มันออกแบบมาสำหรับทุนนิยมนั่นเอง !!..

เดินที่ก้าว กินข้าวทีละคำ แต่ทำอย่างมั่นคง..ใจต้องมั่น ใครใจแกว่งไปมาตามกระแส จะเสียของ









@ เสธ น้ำเงิน3
https://www.facebook.com/topsecretthai

 

วันที่ 17 ก.ค.57 ป.ป.ช. มีมติ 7 ต่อ 0 ชี้มูลความผิดปูเน่าต่อตำแหน่งราชการ ฟ้องอาญา

นายวิชา มหาคุณ กรรมการ ป.ป.ช. ในฐานะโฆษกคณะกรรมการ ป.ป.ช. เผยกรณีการไต่สวนข้อเท็จจริงที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. แจ้งข้อกล่าวหา น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ว่ากระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการเกี่ยวกับโครงการรับจำนำข้าว และระบายข้าว

นายวิชา กล่าวว่า คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติ 7 ต่อ 0 เสียง ยกเว้น พล.ต.อ.สถาพร หลาวทอง ที่ถอนตัวออกไปก่อน เห็นว่าการที่ผู้ถูกกล่าวหาดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีอยู่ในฐานะหัวหน้ารัฐบาล ซึ่งได้กำหนดนโยบายการรับจำนำข้าวมาตั้งแต่ต้น และในฐานะประธานคณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ (กขช.) ที่มีอำนาจหน้าที่ในการกำหนดนโยบาย และมีส่วนร่วมในการบริหารโครงการรับจำนำข้าวของรัฐบาล แต่ปรากฎว่าในการดำเนินการโครงการเกิดการทุจริตทุกขั้นตอน

ทั้งนี้ ผู้ถูกกล่าวหาได้รับรู้รับทราบจากรายงานผลการปิดบัญชีโครงการรับจำนำข้าวของรัฐบาล และยังรับทราบว่ามีการทุจริตในทุกขั้นตอนของการดำเนินโครงการรับจำนำข้าว และระบายข้าว อีกทั้งปรากฏข้อเท็จจริงว่า มีชาวนาเข้าร่วมโครงการรับจำนำข้าวนับล้านครอบครัวที่ยังไม่ได้รับเงินทำให้ได้เดือดร้อน จึงเป็นกรณีจำเป็นที่ผู้ถูกกล่าวหาในฐานะนายกรัฐมนตรีจะต้องพิจารณายับยั้งโครงการตั้งแต่เริ่มรับทราบว่า มีการทุจริตในการดำเนินโครงการและความเสียหายต่าง ๆ จากการดำเนินโครงการ

แต่ผู้ถูกกล่าวหากลับยืนยันที่จะดำเนินโครงการรับจำนำข้าวต่อไป ทำให้เกิดความเสียหายแก่ทางราชการมากขึ้นเรื่อย ๆ ทั้งที่ผู้ถูกกล่าวหามีอำนาจหน้าที่โดยตรงที่จะต้องพิจารณายุติหรือยกเลิกโครงการรับจำนำข้าวของรัฐบาล เพื่อระงับยับยั้งมิให้เกิดการทุจริตและระงับยับยั้งมิให้เกิดความเสียหายจากการดำเนินโครงการมากยิ่งขึ้น ซึ่งถือได้ว่าเป็นสภาพความเสียหายที่เกิดจากโครงการรับจำนำข้าวที่ร้ายแรงที่สุดของประเทศ

การกระทำของผู้ถูกกล่าวหาดังกล่าวมา “ จึงมีมูลความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ” ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 และเป็นความผิดตามพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 123/1 จึงให้ส่งรายงานและเอกสารพร้อมความเห็นไปยังอัยการสูงสุด เพื่อดำเนินการฟ้องคดีต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ตามฐานความผิดดังกล่าวตาม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต มาตรา 70

สำหรับตัวเลขการขาดทุนในโครงการดังกล่าวนั้น คาดว่าไม่ต่ำกว่า 5 แสนล้านบาท ตามที่คณะอนุกรรมการปิดบัญชีนำเสนอ และยืนยันตลอดมา และจะส่งให้กับอัยการสูงสุดในสัปดาห์หน้าฟ้องศาลต่อไป

เรียบร้อย..ขืนไปเมืองนอกตามที่ขอกับ คสช. ก็เข้าทางกลลวงศึก ไม่ได้กลับมาไทยอีกเลย และหารัฐธรรมนูญชั่วคราวฉบับใหม่ที่จะประกาศใช้ปลาย ก.ค.57 และฉบับถาวรในปี 58 กำหนด คุณสมบัติผู้สมัคร ส.ส.ว่าต้องพำนักในประเทศเท่านั้น , ไม่เคยโดนคดีหมิ่นเบื้องสูง , ไม่เคยโดน ปปช.ชี้มูลความผิดคดีทุจริต , คดีทุจริตแก้ไขกฎหมายรัฐธรรมนูญ

มองไปไกลๆ ระยะยาว ผู้สมัครราว 400 คน จากบางบริษัททางการเมือง จะหายวับไปกับตา การเดินหน้าประเทศไทยโดยรัฐบาลหน้า จะเข้มแข็ง เพราะจะทำงานคู่ขนานกันไปกับ คสช. รัฐบาลหน้าก็ทำงานบริหารไป ส่วน คสช.ก็ช่วยประกบดูด้านความมั่นคง..เป็นรูปแบบที่ไม่เคยมีในไทยมาก่อน แต่คล้ายของจีนในตอนนี้

ตำราบอกว่า เมื่อต้องการจะลดความเสี่ยงกระทำการใดที่จะไม่สำเร็จ มี 2 วิธีใหญ่ๆ ที่มีประสิทธิภาพ คือ สร้างระบบใหม่ใส่ลงไป กับ ดีดสิ่งนั้นออกจากระบบ เราอยู่ตามลำพังในโลกไม่ได้ โลกยุคใหม่มี 2 ค่ายชัดเจน คือ ตะวันตก กับ ตะวันออก เมื่อตะวันตกบีบเรามาก ก็ยิ่งปลิ้นให้รูปแบบการปกครองเรา คล้ายไปทางตะวันออก ไปโดยปริยาย
ตัวอย่างชัดๆ มือปืนสิบล้านกระบอก เจ๊เพ็ญ และคนที่หนีออกไปหลายคน ระหว่างอยู่ในประเทศ กับหนีไปต่างประเทศ ศักยภาพการป่วนประเทศแบบไหนมากกว่ากัน คนแดนไกล ที่ผ่านมาถ้าไร้สมุน ก็บ่มีไก๊ ที่ป่วนได้ก็เพราะพวกสมุนนี่แหละ ยิ่งออกไปมาก แขน ขา นิ้ว ก็หมด ได้แต่เย้วๆ อยู่ที่มะกัน กับ EU เดี๋ยวก็แก่หมดสภาพไปเอง

อยู่ที่ไหนจะสุขใจเหมือนบ้านเรา ดูคนแดนไกลเป็นตัวอย่าง ว่าทุกข์ทุรนทุรายแค่ไหน ยิ่งพยายามกลับยิ่งไร้ผล ยิ่งห่างไกล , ผู้นำ แกนนำ รัฐบาลที่ถูกรัฐประหารของไทย หลายคนก็ไม่ได้กลับมาเหยียบแผ่นดินไทยอีกเลย เพราะแต่ละคนอายุมากแล้ว และทรัพย์สมบัติก็ตกกลับมาเป็นแผ่นดินดังเดิม

เงิน 4.6 หมื่นล้านบาท..คือ บทพิสูจน์ว่าเคยเอากลับมาคืนชาติได้มาแล้ว..ใครไม่กลับซิยิ่งดีไม่มีใครคอยขัดขวางการยึด อยากได้เงินชาติคืนมามากกว่าคน เพราะคนเปลืองข้าวคุก




@ เสธ น้ำเงิน2
https://www.facebook.com/thailandcoup

 

วันที่ 18 ก.ค.57 หิวๆ ทนไม่ไหวแล้วจ้าาา

ใครอ่ะ คุ้นๆ ว่าเป็นเสื้อแดง นายไม่ฉลาด..เห็นนะ ขอแบ่งกินบ้างจิ หย่อยๆ จุงเบย ซ๊วบๆ อิอิ..ไหนว่าจะประท้วงไม่ตายไม่เลิกไง ป้ายข้างหลังไม่แกะออกเบย..โฮ๊บๆ ซู๊ดๆ อาหย่อยยยย

พวกเนี๊ยะชอบแอบมาถ่ายภาพตอนกินข้าวทุกที..น้องๆ..ขอข้าวเปล่าเพิ่ม 2 ถ้วย..เช็คบิลกับกับหมอเหวงนะ..ฮา






@ เสธ น้ำเงิน1
https://www.facebook.com/thailandcoup

 

วันที่ 18 ก.ค.57 เผย..แผนถ่ายเทประชากรยิว สู่ฉนวนการ์ซา จนสอยเครื่องบินมาเลย์ร่วง

พื้นที่แถบตะวันตกเฉียงเหนือของปากีสถาน ถูกขนานนามจากโลกตะวันตก อ้างว่าเป็น “ศูนย์กลางของการก่อการร้าย” เพราะเป็นแหล่งบ่มเพาะ และสถานที่กบดานของกลุ่มนักรบหัวรุนแรงหลายกลุ่มรวมถึง พวกอัลกออิดะห์ และกลุ่มหัวรุนแรง เตห์รีค อี ตอลิบาน ซึ่งทางสหรัฐฯ และชาติพันธมิตร ได้ใช้ความพยายามตลอดหลายปีที่ผ่านมา ในการกวาดล้าง แต่ก็ไม่ประสบผลสำเร็จมากนัก

กองทัพปากีสถาน ได้เปิดปฏิบัติการทางทหารครั้งใหญ่ทั้งทางอากาศและภาคพื้นดิน ตั้งแต่เดือน มิถุนายน 57 หวังกวาดล้างพวกหัวรุนแรงในพื้นที่ดังกล่าวให้สิ้นซาก แต่ปฏิบัติการครั้งนี้ของกองทัพปากีสถาน ที่หนุนโดยมะกันสำเร็จในวงจำกัดเท่านั้น เพราะสามารถสังหารนักรบหัวรุนแรงได้เพียง 400 คน จากจำนวนทั้งหมดที่คาดว่าจะมีอยู่หลายพันคน ขณะที่ประชาชนมากกว่า 800,000 คนต้องอพยพหนีออกนอกพื้นที่

วันก่อน ในเมือง มิรันชาห์ ที่เป็นเมืองเอกของเขตวาซิริสถานเหนือ ปากีสถาน มีการใช้อาวุธโจมตีทันสมัยของอากาศยานรบไร้นักบิน หรือ “โดรน” ของสหรัฐฯ ใส่ชนเผ่า “วาซิริสถานเหนือ” ที่อยู่ในพื้นที่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของปากีสถาน รอยต่อพรมแดนปากีสถาน-อัฟกานิสถาน แล้วมะกันอ้างว่าพวกเขาคือ นักรบหัวรุนแรง จนทำให้ผู้เสียชีวิตจากการ ในอย่างน้อย 13 คน

อีกรายงานหนึ่งข้อมูลว่า จำนวนผู้เสียชีวิตจากการโจมตีของโดรนในครั้งนี้เป็นชาวบ้าน เด็กที่ไม่รู้เรื่องรู้ราว อย่างน้อย 20 คน โดยที่ในจำนวนนี้มี 12 คน ที่เป็นนักรบหัวรุนแรงที่มีเชื้อสาย “อุซเบกิสถาน”

ตรงกับที่ เสธ เคยบอกไว้ว่าชาวมุสลิม ในบริเวณพรมแดนใกล้กับ ปากีสถาน กำลังจะถูกจุดชนวนก่อความรุนแรงขึ้น สาเหตุจริงๆไม่ใช่เรื่องชนชาติ ศาสนา หรือก่อการร้าย แต่อเมริกาเอาเรื่องความแตกต่างทางศาสนา มายุจุดชนวนความขัดแย้ง

สาเหตุแท้จริงๆ ก็คือ ข้อตกลงทางเศรษฐกิจระหว่าง จีน กับปากีสถาน ความร่วมมือในการขนส่งน้ำมันจากเมืองท่าขนาดใหญ่แห่งหนึ่งของปากีสถาน ซึ่งมีท่อส่งน้ำมันจากอิหร่าน แอฟริกา และจากตะวันออกกลาง ทางบก ทางรถไฟ ผ่านปากีสถาน มายังจีนแผ่นดินใหญ่ บริเวณมณฑลซินเจียง ซึ่งถือเป็นหัวใจหลัก ทางเศรษฐกิจของจีนนั่นเอง

หลังข้อตกลงระหว่างจีน กับ ปากีสถานเป็นต้นมา ดินแดนแถบนี้ ก็ถูกอเมริกาจุดชนวนสงคราม อ้างว่าต่อต้านก่อการร้ายขึ้นทันที ในบริเวณพรมแดนของปากีสถาน โดยมีองค์กรที่ให้ทุนสนับสนุนเจ้าเก่า เจ้าเดียวกันกับที่สนับสนุน เว็บไซต์ประชาไทยที่ถูกปิดไป คือ NED และ USAID ของ CIA อเมริกานั่นเอง

และอเมริกาก็ใช้เครื่องบินไร้คนขับ โดรน สังหารผู้คนในละแวกนี้ มีพลเรือนที่บริสุทธิ์เสียชีวิตเป็นจำนวนมากไม่เว้นแต่ละวัน คนทั่วๆ ไปดูข่าวจะเข้าใจว่า เป็นเครือข่าย ก่อการร้าย อัลเคด้า , อัลกออิดะห์ . ตอลิบาน สายปากีสถาน แต่จริงๆ ไม่ใช่

อเมริกา “ ต้องการตัดเส้นทางลำเลียงน้ำมันของจีน บังคับให้จีนยังต้องซื้อน้ำมัน จาก ซาอุดิอาราเบีย “ ในรูปสกุลเงินดอลลาร์ เพื่อเตะตัดขาจีน เศรษฐกิจจะได้ไม่แซงหน้าอเมริกานั่นเอง..อเมริกา มันอิจฉาตาร้อนประจำโลก

แต่ความอิจฉาของประเทศนี้ มันแลกมาด้วยชีวิตของคนประเทศอื่น ที่เขาเพียงต้องการได้ใช้ทรัพยากรใต้ผืนดินที่เขาเหยียบเท่านั้น ชนเผ่า “วาซิริสถานเหนือ” ที่ยากจนข้นแค้นไม่มีแม้น้ำจะกิน ถูกโจมตีด้วยอากาศยานรบไร้นักบิน หรือ “โดรน” ของมะกัน..แม่จ้าว..คิดได้อย่างไร!!

มาดูประเทศที่ติดปากีสถานบ้าง เมื่อ รมต.ต่างประเทศมะกัน เพิ่งบินไปแทรกแซง บีบให้อัฟกานิสถาน นับคะแนนเลือกตั้งประธานาธิบดีใหม่ ที่เต็มไปด้วยเหตุโต้เถียงในผลคะแนน และฝ่ายแพ้ที่มะกันหนุนไม่ยอมรับ ท่ามกลางคำขู่ก่อความรุนแรงจากกลุ่มติดอาวุธตอลิบัน ที่ช่วงหลังเป็นเด็กในคาถามะกัน

ทหารอัฟกานิสถานกำลังเดินหน้าปฏิบัติการโจมตีฐานที่มั่นกลุ่มติดอาวุธตอลิบัน สายปากีสถาน ในแนวชายแดนที่ติดกับแคว้นนอร์ทวาซิริสถานเหนือ ของปากีสถาน ในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา เป็นเหตุให้เหล่าพวกนักรบต้องล่าถอยมุ่งสู่ อัฟกานิสถาน

ปฏิบัติการโจมตีดังกล่าว เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่วุ่นวาย เกิดเหตุระเบิดครั้งรุนแรง ขึ้นไม่ไกลจากฐานที่มั่นกลุ่มติดอาวุธตอลิบัน แต่กลุ่มมูจาฮิดีน อัฟกานิสถาน ปฎิเสธว่าไม่ได้เป็นผู้ลงมือโจมตีนี้ และการโจมตีลักษณะนี้ไม่ได้นำมาซึ่งผลประโยชน์ใดๆ ต่อพวกเขาเลย

ตำรวจได้รับแจ้งเบาะแสเกี่ยวกับรถกระบะคาร์บอมดังกล่าว และกำลังไล่ล่ารถคนนั้นตอนที่มันเกิดระเบิด แรงระเบิดอานุภาพรุนแรงมาก จนทำลายร้านค้าหลายแห่งพังราบเป็นหน้ากลอง ชาวบ้านหลายสิบคนติดอยู่ใต้ซากหลังคา ตายจำนวน 89 ศพ ผู้บาดเจ็บอาจสูงกว่า 100 คนและยอดผู้เสียชีวิตก็น่าจะเพิ่มขึ้นเช่นกัน

มะกันไปที่ไหน พินาศที่นั่น เขาเลือกประธานาธิบดีกันในประเทศเขา แต่พอผลว่าหุ่นเชิดตัวเองทำท่าจะนับคะแนนแพ้ รมต.ต่างประเทศมะกัน รีบแจ้นไปขู่คนที่คะแนนนำทันที จนเขาต้องยอมให้นับคะแนนใหม่ แล้วกลุ่มติดอาวุธตอลีบันในปากีสถานที่เพิ่งโจมตีสนามบินซะเละ ก็ตามติดตูดข้ามมาทันที ก่อเหตุในอัฟกานิสสถาน

มุขเดิมๆ แค่จงใจบล็อกเส้นทางขนส่งน้ำมันไปแคว้นซินเจียง เมืองอุตสาหกรรมใหญ่ของจีน ก็แค่นั้นแหละ ไม่ได้ซับซ้อนอะไรนักสำหรับความคิดมะกัน..ก็แค่คนขี้อิจฉาประจำโลก !!

ถัดมาติดๆ ดินแดนติดๆ กันคือยูเครน ที่ผ่านมากองกำลังติดอาวุธ ที่ฝักใฝ่รัสเซีย ใช้จรวดที่มีแสนยานุภาพ สอยเครื่องบินลำเลียงทางทหาร AN-26 ขนาดใหญ่ยูเครน ตกไปหลายลำแล้ว ล่าสุดสัปดาห์นี้สอยตกอีกที่ความสูง 21,000 ฟุต

ครั้งก่อนต้น มี.ค.57 เครื่องบินพาณิชย์ Boeing 777 มาเลเซีย แอร์ไลนส์ MH370 พร้อมผู้โดยสาร 239 คน จากกรุงกัวลาลัมเปอร์มุ่งหน้าไปยังกรุงปักกิ่ง ประเทศจีน ก็โดน CIA มะกัน เล่นงานหายวับไปมหาสมุทรอินเดียตอนใต้ ลำหนึ่งแล้ว จนถึงปัจจุบันยังไม่พบร่องรอยหรือซากใดๆ แม้จะมีการระดมทีมนานาชาติและอุปกรณ์ไฮเทคในการค้นหา

วานนี้เครื่องบินพาณิชย์ Boeing 777 มาเลเซีย แอร์ไลนส์ MH 17 บรรทุกผู้โดยสาร และลูกเรือ 295 คน บินจากกรุงอัมสเตอร์ดัม เนเธอร์แลนด์ มีจุดหมายปลายทาง ที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ มาเลเซีย บินผ่านเมืองชักตาร์สก์ แคว้นโดนเนตสก์ ระหว่างพรมแดนตะวันออกของยูเครน ติดรัสเซีย

ตรงนี้เป็นพื้นที่สีแดงสู้รบกันอย่างหนัก ระหว่างกองทัพยูเครน และ กองกำลังติดอาวุธ ที่ฝักใฝ่รัสเซียมานานหลายเดือน ทันใดนั้นมีจรวดพุ่งใส่เครื่องบินลำนี้ ขณะบินอยู่ที่ความสูงห่างจากพื้นดิน 33,000 ฟุต หรือเท่ากับ 10 กิโลเมตรจากพื้นดิน จนตกลงมาในสภาพลุกไหม้ เศษซากเครื่องบินกระจายไปไกลรัศมีกว่า 15 กม. พบศพไฟไหม้ดำเป็นตอตะโกแล้ว 100 กว่าศพ

มีการโทษ ระหว่างยูเครน กับฝ่าย กองกำลังติดอาวุธ เพราะรัฐบาลยูเครนว่า กองกำลังติดอาวุธฯ ยิงจรวดใส่ แต่ กองกำลังติดอาวุธฯ บอกว่า โดนเครื่องบินรบ ของรัฐบาลยูเครนยิงใส่ กองกำลังติดอาวุธ ที่ฝักใฝ่รัสเซีย อ้างว่าพบกล่องดำเครื่องบินแล้ว

ข้อมูลเท่าที่มีเวลานี้ การยิงนี้น่าจะเป็นจรวดจากพื้นสู่อากาศที่เรียกว่า BUK เพราะ นายอิกอร์ เกอร์คิน กองกำลังติดอาวุธที่ฝักใฝ่รัสเซียในเมืองโดเนตสก์ บอกว่ากองกำลังเขาเป็นผู้ยิงครื่องบินลำนี้ เพราะเข้าใจผิด คิดว่าเป็นเครื่องบินของยูเครน..กรรมแท้ๆ

** ดูคลิปสมรรถนะ และความแม่นยำของจรวด BUK ที่สอยเครื่องบินร่วงที่ [ame=http://www.youtube.com/watch?v=DDXScnEKaP0]Buk-M2 SAM In Action - YouTube[/ame]

สายการบินมาเลเซียแอร์ไลน์ส ก็ออกมาแถลงผ่านทางทวิตเตอร์แล้วว่าเครื่องบินโดยสารลำดังกล่าวตกจริง โดยจุดสุดท้ายที่ขาดการติดต่อ อยู่เหนือน่านฟ้ายูเครน ส่วนรัสเซีย บอกว่าเครื่องบินลำดังกล่าวถูกพบเพลิงไหม้ อยู่บนพื้นในภาคตะวันออกของยูเครนซึ่งเป็นพื้นที่กองกำลังติดอาวุธฯ กำลังต่อสู้กับรัฐบาลยูเครน ผู้โดยสาร 280 ราย ลูกเรือ 15 ราย คงเสียชีวิตทั้งลำ

จากย่านนี้ไปสมรภูมิเดือดที่ฉนวนการ์ซาบ้าง ตอนนี้ กองกำลังติดอาวุธ ของปาเลสไตน์ ในฉนวนกาซ่า ที่เรียกกันว่า พันธมิตร มูญาฮิดีน ประกอบด้วย hamas Qassam และ al Qust anshar baitul maqdis ต่อสู้กับอิสราเอล กลุ่มฮามาส ถือว่าเป็นหัวหอก และเป็นผู้บัญชาการสูงสุดในครั้งนี้

กองทัพอิสราเอล ได้ไช้กำลังอาวุธที่เหนือกว่ามาก ปืนใหญ่ 105 ถล่มใส่ปาเลสไตน์ ในฉนวนกาซ่าในเดือนรอมฏอนถือศีลอด จนทำให้มัสยิดทางศาสนาถูกทำลาย จึงต้องใช้เต็นท์ทำมัสยิดขึ้นชั่วคราว แต่แล้วยิ่งเป็นสิ่งที่สุดอัปยศ เมื่ออิสราเอลก็ยังยิงโจมตีทำลายมัสยิดชั่วคราวของประชาชนปาเลสไตน์เสียอีก จนแหลกเหลวไม่มีชิ้นดี ลุกเป็นไฟ

ที่น่าสลดสุดๆ ก็คือ ในฉนวนกาซ่า โรงพยาบาลไม่มีที่รับคนเจ็บ ไม่มีเตียงและยาจะรองรับผู้บาดเจ็บอีก ในเมืองเดร์ข่าน ฉนวนกาซ่า อิสราเอลถล่มยับโดยไม่สนใจ ว่าใครจะเป็นเช่นไร จนเมืองนี้ ได้กลายเป็นทะเลเพลิง การถล่มอาวุธจากยิวตลอดทั้งคืน ส่งผลให้เด็กๆ เสียชีวิตจำนวนมากมาย เครื่องปั้มหัวใจชีวิตน้อยๆ ในโรงพยาบาลยังทำงานหนัก

อิสราเอล ไม่สนกระแสต่อต้าน ยังคงส่งขบวนรถบรรทุกรถถัง ยุทโธปกรณ์หนัก ทางทหารเคลื่อนไปยังชายแดนฉนวนกาซ่า อย่างต่อเนื่อง

ที่สุดจะอึ้ง คือ คนยิวกำลังเอาเก้าอี้ มานั่งบนยอดเขาสูงแบบสนุกสนาน เพื่อมองลงไปดูการยิงอาวุธ ใส่เข่นฆ่าเด็กปาเลสไตน์ และเด็กยิว ก็เขียนข้อความสนุกสนาน ลงบนหัวลูกปืนใหญ่ ที่ส่งไปยิงใส่เด็กปาเลสไตน์ ??

จากการที่อิสราเอล จู่ๆ ก็สั่งกำลังทหารยิว ทั้งทางอากาศ บก เรือ หน่วยพิเศษ พร้อมบรรดาอาวุธหนัก ข้ามพรมแดนประเทศตนเองมา และปิดล้อมสังหารเข่นฆ่าลูกเด็กเล็กแดงชาวปาเลสไตน์ แบบไม่สนใจชาวโลก โดยมีรัฐบาลมะกันส่งอาวุธร้ายแรงให้ และยืนตบมือเชียร์แบบออกหน้าออกตานั้น มีวัตถุประสงค์แฝง คือ

- ทหารยิวเลือกไม่โจมตีชาวปาเลสไตน์ กลุ่มฟาร์ตะห์ หรือ PLO เดิม ที่อยู่ในเขตเวสแบ๊งค์ ที่พรมแดนติดกับ จอร์แดน
- ยิวสั่งโจมตีเฉพาะชาวปาเลสไตน์กลุ่มฮามาส ในเขตฉนวนการ์ซา ที่พรมแดนติดอียิปต์ และทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ที่มีพื้นที่นิดเดียว
- ทหารยิวทิ้งระเบิด และปืนใหญ่ใส่จุดนี้ที่อยู่ตอนใต้ของฉนวนการ์ซา มากกว่า 1,400 จุด ในเวลา 8 วัน นั่นหมายถึงต้องใช้ระเบิดมากกว่า 2,000 ลูก หย่อนลงพื้นที่เล็กๆ เพื่อทำลายตึก อาคาร โรงเรียน โรงพยาบาล ทุกแห่งนั่นเอง
- ทหารยิวบีบบังคับให้คนปาเลสไตน์จุดนี้หลายหมื่นคน ทิ้งถิ่นฐาน อพยพขึ้นเหนือไปรวมกันในค่าย ที่เมืองการ์ซา เมืองเอกของย่านนี้

อิสราเอลมีประชากรราว 8.2 ล้านคน ในนี้แบ่งเป็นคนยิวที่นับถือศาสนายิว (ไม่ใช่คริสต์) จำนวน 73% ที่เหลืออีก 27% ส่วนใหญ่เป็นคนอาหรับ นับถือศาสนาอิสลาม และที่เหลือ นับถือศาสนาคริสต์อีกเล็กน้อย และมีกลุ่มชาติพันธุ์ อีกหลายชนชาติ เช่น ครูช เบดูอิน ฯลฯ

จากจุดเมืองการ์ซา ที่ยิวอ้างว่ากลุ่มฮามาสใช้จรวดโจมตีไปทางทิศเหนือยังกรุงเทลอาวีฟ เมืองหลักทางการเงินนั้น มีระยะพิกัดราว 65 กม.ซึ่งจรวดของฮามาส เกินระยะหวังผลแล้ว และจากเมืองการ์ซา ไปเยรูซาเลม เมืองใหญ่ยิว ระยะพิกัด 77 กม. จรวดฮามาส เกินระยะหวังผลเช่นกัน และถูกระบบไอออนโดมมิสไซน์ทำลายหมด

เมืองเยรูซาเลม ยิวกำหนดให้เป็นเมืองหลวงของอิสราเอล แต่นานาชาติกลับไม่ยอมรับ ?? แถมเมืองนี้ศาสนาคริสต์ และ อิสลาม ต่างก็อ้างว่าศาสดาของตนขึ้นสวรรค์ที่เมืองนี้ ซึ่งอยู่ติดกับเขตเวสแบ็งค์ ของชนชาติปาเลสไตน์ กลุ่มฟาร์ตะห์

นั่นหมายความว่าอะไร ?? มันคือ การบีบกลุ่มฮามาส ไปรวมกัน ในค่ายอพยพ ของเมืองการ์ซา แล้วก็จะจัดการฆ่าล้างเผ่าพันธ์ปาเลสไตน์หัวแข็ง แบบเบ็ดเสร็จ อาจใช้อาวุธชีวภาพที่ยิวถนัด หรือ รูปแบบการปล่อยให้อดอาหารตาย เหมือนฮิตเลอร์ เคยใช้วิธีนี้กับค่ายกักกันชาวยิว

หากมีเหลือรอด ก็จะย้ายปาเลสไตน์หัวอ่อน ไปรวมกันที่เขตเวสแบ็งค์ ที่ยิวควบคุม สั่งซ้าย ขวา หันได้ และชนชาติปาเลสไตน์จะแย่ลงไปกว่านี้อีก เพราะเขตเวสแบ็งค์ไม่มีทางออกทะเล ประเทศที่ไม่มีทางออกทะเล จะเจริญได้ยาก เพราะการค้าขายสินค้า ขนส่งน้ำมัน แก๊ส ในปริมาณมาก ล้วนต้องอาศัยท่าเรือทั้งสิ้น

จากนั้นยิว และมะกัน คงมีแผนจะบีบชาวโลกนานาชาติ ให้ยอมรับเมืองเยรูซาเลม เป็นเมืองหลวงของอิสราเอล โดยชูเรื่องดินแดนแห่งพระเจ้ามอบให้ ยิวจะจูงใจทำให้ชาวคริสต์คล้อยตามตน แต่ยิวก็เหยียดหยันชาวคริสต์อีก

ส่วนฉนวนการ์ซา ยิวคงจะประกาศขยายเขตแดนตนเอง เหมือนที่เคยทำสมัยสงคราม 6 วัน ที่อียิปต์เป็นแกนนำ แล้วยิวชนะ เพื่อที่ยิวก็จะสามารถจ่อทหารไปติดยันชายแดนอียิปต์ได้อีกแนวหนึ่ง และได้ชายฝั่งน่านทะเลเมดิเตอร์เรเนียน เพิ่มแนวยาว เพื่อใช้ประโยชน์เชิงอุตสากรรม พลังงานน้ำมัน แก๊ส และการเกษตร

แล้วคงจะขนย้ายชาวยิว ที่กระจัดกระจายทั่วโลก มาอาศัยแทนปาเลสไตน์ กลุ่มฮามาส ถ้าวิเคราะห์สถานการณ์จุดอื่นของอาหรับด้วย เช่น ซีเรีย อิรัก เลบานอน ที่ยิว กับ มะกัน หนุนกลุ่มติดอาวุธต่างๆ วางแผนจะยุบประเทศอิรักกับซีเรีย แล้วขีดเส้นพรมแดนเสียใหม่เป็น 3 ประเทศ คือ สาธารณรัฐอิสลามสุนีย์ สาธารณรัฐชีอะห์ และสาธารณรัฐเคิร์ด

ทั้งหมดก็เพื่อความมั่นคงของอิสราเอลนั่นเอง นี่ คงเป็นไปตามแผนการจัดระเบียบโลกใหม่ ที่ยิวกลุ่มลัทธิไซออนนิสม์ โดยกลุ่มชาวยิวปัญญาชนและพ่อค้ายิวที่ทำมาหากินจนร่ำรวยจากทั่วทุกมุมโลก โดยเฉพาะบนแผ่นดินอเมริกาและยุโรป มีจุดประสงค์เพื่อนำชาวยิวกลับมาตั้งถิ่นฐาน สร้างชาติยิวขึ้นมาใหม่บนแผ่นดินปาเลสไตน์ ซึ่งกลุ่มไซออนนิสต์ยึดมั่นในพระคัมภีร์ที่ว่า “พระเจ้าได้ประทานดินแดนแห่งนี้ให้กับชาวยิว”

ผู้นำของอิสราเอล มีแผนการบีบบังคับให้ชาวปาเลสไตน์ ต้องออกจากดินแดนของพวกเขาไป เพื่อตนจะได้เข้าไปครอบครองแทนที่เพื่อให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของลัทธิไซออนนิสม์ ซึ่งตั้งใจจะให้ประเทศนั้นกลายเป็นชาวยิวโดยเฉพาะเท่านั้น

จุดมุ่งหมายคือ ชาวยิวยึดประเทศปาเลสไตน์ให้ได้ การแก้ปัญหาปาเลสไตน์ ก็คือต้องกำจัดชาวอาหรับออกไปจากมาตุภูมิของพวกเขาให้หมดสิ้น ดังนั้นจึงมีความคิดในเรื่อง “การถ่ายเทประชากร” ที่ฝังหัวอยู่ในสมองของพวกไซออนนิสม์เสมอ

ชาวยิว จะเป็นเชื่อเสมอว่าในประเทศนี้ไม่มีเหลือพอที่คนสองชาติจะอยู่ร่วมกันได้ เขาย่อมจะไม่บรรลุถึงเจตนาที่จะเป็นอิสระชนได้ ถ้ามีชาวอาหรับอยู่ด้วยในประเทศเล็ก ๆ นี้ วิธีแก้ปัญหาวิธีเดียวก็คือต้องไม่ให้มีคนอาหรับอยู่ด้วย ไม่มีวิธีอื่นที่จะทำได้มากไปกว่าต้องย้ายชาวอาหรับจากที่นี่ไปยังประเทศเพื่อนบ้าน ย้ายไปให้หมด ไม่ให้เหลือแม้แต่หมู่บ้านเดียวหรือเผ่าเดียว

นี่ไม่ใช่การปกป้องคนยิว จากการโจมตีของกลุ่มฮามาส แต่เบื้องหลังแฝง คือ แผนฆ่าล้างเผ่าพันธ์ุ จัดระเบียบชนชาติ ถ่ายเทประชากร แล้วขีดเส้นแผนที่พรมแดนในรอบใหม่ของยิวต่อจากเมื่อ 47 ปีที่แล้วปี ค.ศ.1967 คราวสงคราม 6 วันนั่นเอง แต่ครั้งนี้แยบยนแนบเนียนมาก เพราะโลกเปลี่ยนไป

ตอนนี้อียิปต์ ขอให้ รัฐยิว กับ กลุ่มฮามาส หยุดยิงชั่วคราว นับเป็นเรื่องที่ดี แต่จะเป็นผลหรือไม่ เพราะฮามาส เขาสูญเสียมาก ความแค้นมันฝังเจ็บปวดมาก ก็เหมือนกรณีนักรบเวียดกง สู้กับทหารมะกันในอดีตนั่นแหละ สู้ก็ตาย ไม่สู้ก็ตาย ไม่เหลือทางเลือกให้เลย การสู้รบนี้ คงจะเกิดขึ้นอีกประปรายในอนาคต แต่จะนานเท่าไร บอกได้ยาก

เพราะการฆ่าล้างเผ่าพันธ์ุคนปาเลสไตน์จำนวนมากนั้น ทั้ง ยิว และมะกัน คงต้องใช้เวลาอีกพอสมควร ในยามที่อิสราเอล ซึ่งเป็นชาติพันธมิตรของสหรัฐฯ อ้างว่าถูกกลุ่มฮามาส โจมตึด้วยจรวดจากฉนวนกาซา คณะกรรมาธิการชุดหนึ่งของวุฒิสภาอเมริกัน ได้อนุมัติเงินช่วยเหลือ 50 เปอร์เซ็นต์ให้แก่อิสราเอล เพื่อนำไปพัฒนาระบบต่อต้านขีปนาวุธ “ไอออนโดม”

สหรัฐฯ จะต้องจัดหาเงิน 2 หมื่นล้านบาท ให้แก่โครงการต่อต้านขีปนาวุธของอิสราเอล ในปีงบประมาณ 2015 ซึ่งจะเริ่มต้นในเดือนตุลาคมนี้ โดยเงิน ราว 1.1 หมื่นล้านบาท ในกองทุนนี้จะถูกนำไปใช้พัฒนาระบบต่อต้านขีปนาวุธพิสัยใกล้ไอออนโดม ซึ่งกำลังถูกทดสอบประสิทธิภาพอย่างหนักหน่วงในช่วง 8 วันทีผ่านมา กับจรวดของฮามาส

เมื่อปีที่แล้ว รัฐสภาสหรัฐฯ ได้จัดสรรเงินช่วยเหลือ ราว 7.5 พันล้านบาท เพื่อสนับสนุนระบบไอออนโดมนี้มาแล้ว

รัฐบาลมะกันได้ทำเรื่องขอเงินราว ราว 5.6 พันล้านบาท เพื่อพัฒนาระบบต่อต้านขีปนาวุธในปี 2015 แต่สมาชิกสภาไซออนิสต์ทั้งหลาย ตัดสินใจเบิ้ลเพิ่มวงเงินเป็น 2 เท่าไปเลย รัฐสภาอเมริกัน มักจะเพิ่มเงินสนับสนุนโครงการด้านความมั่นคงของอิสราเอล ที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ เป็นผู้ผลักดันอยู่ประจำ

การมอบเงินช่วยเหลือ ถือเป็นส่วนหนึ่งของคำขอของรัฐบาลอเมริกัน ส่งความช่วยเหลือทางการทหารมูลค่า ราว 1 แสนล้านบาท ให้แก่อิสราเอล ซึ่งเป็นชาติที่ได้รับผลประโยชน์รายใหญ่ที่สุด จากกองทุนช่วยเหลือต่างประเทศของสหรัฐฯ

มาตรการดังกล่าวของวุฒิสภาสหรัฐฯ เป็นส่วนหนึ่งของรายจ่ายทั้งหมดของกระทรวงกลาโหม คณะอนุกรรมาธิการฯ ได้ให้คำมั่นว่าจะอนุมัติเงิน ราว 18 ล้านล้านบาท ให้แก่ปฏิบัติการทหารในปี 2015 ทำให้ช่วยรักษาโครงการของกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ หลายโครงการ เช่น อากาศยานปราบรถถัง A-10 เป็นอาวุธสนับสนุนทางอากาศที่ดีที่สุดในคลังแสงของสหรัฐฯ

ทำให้ตอนนี้ประเทศมุสลิมที่ทนไม่ไหว เช่น เลบานอน นามิเบีย ตุรกี สหรัฐอาหรับอิมิเรต ส่งทหารไปช่วยปาเลสไตน์ ที่ฉนวนกาซ่าแล้ว ที่อึ้งก็คือ กองทัพอินโดนีเซีย กลุ่มอาเซียนเพื่อนบ้านไทย ที่มีประชากร 160 ล้านคน ส่งกองกำลังทหารจำนวน 1,500 นาย ไปยังฉนวนกาซ่า เพื่อปกป้องชาวอาหรับด้วยกันแล้วเช่นกัน

ความจริงของโลกสำหรับพื้นที่คนอาหรับ และปาเลสไตน์ ที่เต็มไปด้วยน้ำมันและแก๊ส มันไม่ใช่“ศูนย์กลางของการก่อการร้าย” ที่อเมริกา และ EU กล่าวหาพวกเขา แต่ความจริงมันคือ “ศูนย์กลางการโดนอเมริกันกดขี่และทำร้าย” มากกว่า

กลิ่นฉุนๆ กึกเข้าจมูก ของสงครามโลกครั้งที่ 3 ใกล้มาแล้ว..จะเมื่อไรก็เท่านั้น !!











@ เสธ น้ำเงิน4
https://www.facebook.com/thailandcoup

 

วันที่ 18 ก.ค.57 เด้ง เลขาธิการคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน

ครั้งก่อนคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) มีการย้ายข้าราชการสายพลังงาน ในกระทรวงพลังงาน และกระทรวงทรัพยากร ยกกระบิไปกว่า 10 ราย เพื่อจัดแม่ทัพนายกองด้านพลังงาน ตามแนวคิดปฎิรูป

วันนี้ คสช. มีคำสั่งคำสั่งเด้ง นายกวิน ทังสุพานิช เลขาธิการคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน พ้นจากตำแหน่ง และการแต่งตั้งคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน ตามมาตรา 10 แห่งพระราชบัญญัติประกอบกิจการพลังงาน พ.ศ. 2550 ประกอบด้วย

- นายไกรสีห์ กรรณสูต
- นางดวงมณี โกมารทัต
- นางปัจฉิมา ธนสันติ
- นายพรเทพ ธัญญพงศ์ชัย
- นายวัชระ คุณาวัฒนาวุฒิ
- นางสาววิไลพร ลิ่วเกษมศานต์
- นายวีระพล จิรประดิษฐกุล

ทรัพยากรของไทย ทุกชนิดล้วนเกี่ยวพันโยงใยข้อกฎหมายกันไปหมด เช่น น้ำมันในทะเล น้ำมันในป่าสงวน ทองบนภูเขา แร่ในป่าต้นน้ำ และแร่ อัญมณี อีกสารพัด คลื่นความถี่มือถือก็จะหมดสัมปทานเร็วๆ นี้

วิธีการปฎิรูปไม่ใช่หมายถึงการลดราคาสถานเดียว มันมีวิธีอื่นด้วย เช่น ย้อนกลับมาในรูปกองทุนชดเชยค่าพลังงาน การเพิ่มสวัสดิการประชาชนทุกกลุ่ม เรียนฟรีสูงๆ สุขภาพ ฯ โครงสร้างพื้นฐาน เหมือนในบรูไน

การมองปัญหาประเทศ ต้องมองทุกอณูของสังคม และไม่มีใครเอาเปรียบกลุ่มอื่น เวลาภายใน 2 เดือนนี้ อยู่แค่ช่วงแค่เฟส 1 เท่านั้นตาม Road map เมื่อขึ้นเฟส 2 เฟส 3 จะร้องอ๋อกันทั้งเมือง เหมือนสร้างบ้านตอนนี้แค่ตั้งเสา เทพื้นเท่านั้นเอง จะไปทาสีมันยังไม่ได้

เดินที่ก้าว..กินข้าวทีละคำ แต่ทำอย่างมั่นคง..ไม่หวั่นไหวแม้วันถูกป่วน


@ เสธ น้ำเงิน2
https://www.facebook.com/thailandcoup

 

วันที่ 20 ก.ค.57 เผยโฉมอาวุธฮามาส ที่อิสราเอลอ้างว่าร้ายแร๊ง..แรงฝุดๆ

เฉพาะเมื่อคืนที่ผ่านมา รัฐบาลอิสราเอลสังหารเด็ก และพลเรือนชาวปาเลสไตน์ ในเมืองใหญ่ไปแล้วถึงราว 47 คนรวด ส่งผลให้ตัวเลขการตายเป็นทางการนับได้ราว 350 ราย ในจำนวนนี้เป็นเด็กน้อยถึง 25% ส่วนบาดเจ็บนับกันไม่หวาดไม่ไหวกว่า 2,400 รายแล้ว นี่แค่ 12 วันเท่านั้นนะ

ฮามาสเขาจะยอมหยุดยิง ก็มีเงื่อนไขง่ายแสนง่าย คือ " ต้องได้รับการรับรองว่าจะมีการเปิดด่านผ่านชายแดนของฉนวนการ์ซาร์ทั้งหมด " แปลเป็นภาษาชาวบ้านคือ อย่ามาปิดล้อมบ้านเขา ขอให้พวกเขาเข้า-ออกติดต่อขอความช่วยเหลือโลกภายนอกได้บ้าง..เท่าเนี้ยะจริงๆ

เหมือนท่านมีบ้านรั้วรอบ จู่ๆ มีขาใหญ่ประจำซอยไม่ถูกกันมานาน เอานักเลงปาปิดล้อมบ้าน ขว้างก้อนหินเข้ามาตลอดเวลา จนบ้านพังหมด คนในครอบครัวหัวร้างข้างแตก ท่านก็ปาเศษกิ่งไม้จากในรั้วบ้านออกมาบ้าง พอจะเลิกทะเลาะกันท่านขอแค่ให้ออกจากรั้วบ้านท่านไกลๆ หน่อย และเปิดทางเข้าออกด้วย จะได้ไปหาหมอ หรือไปแจ้งความบ้าง..ทำนองเนี้ยะ

ทหารอิสราเอล แมนมาก ทะเลาะกับกลุ่มฮามาส ที่ชายแดนไม่ค่อยมีบ้านคนทางตอนใต้ และทางตอนเหนือ ของฉนวนการ์ซา แต่กลับเอาอาวุธบรรดามีมาทิ้งใส่ย่านชุมชนกลางเมืองที่มีพลเรือนหนาแน่น...อ้าวเฮ่ย !!

และก็แผ่นเสียงตกร่องอ้างว่าฮามาสใช้โล่มนุษย์ จนโดนชาวโลกแฉ กลางอากาศ เรื่องทหารอิสราเอลใช้จรวดยิงเด็ก 4 คน ที่เตะบอลอยู่ชายหาดจนตาย จนยิวและมะกันหน้าแตกเสียหายยับเยิน แบะๆๆ มาแล้ว

ที่คนปาเลสไตน์ โดนทหารอิสราเอล ฆ่ามากนั้น เพราะเขาใช้อาวุธแบบขี้ช้างจับตั๊กแตนมาก เช่น เครื่องบินไอพ่นทันสมัยจากมะกัน ติดจรวดอื้อ , เครื่องโดรนโจมตีไร้คนขับ , ฮอลิคอปเตอร์จู่โจม บินฟิ้วฟ้าว กันทั่วท้องฟ้าฉนวนการ์ซาไปหมด บางส่วนใช้โจมตีจรวดเอง บางส่วนใช้ชี้เป้าจากบนท้องฟ้า.. ไฮเทคม๊วกกๆ

ส่วนทางเรือนั่นเล่า ก็เอาเรือรบขนาดเคลื่อนไหวคล่องตัว ติดจรวด ระดมยิงใส่อาคารบ้านเรือนพลเรือน เหมือนนั่งเล่นเกมส์กด ตูมๆๆ หนุกหนาน ดูจากจอมอนิเตอร์เท่านั้น

กองทัพบกเขา ก็ปิดล้อมกรอบชายแดนทุกด้านจากใต้ยันเหนือ ประเคนปืนใหญ่ 105 จากรถถังเข้าใส่ย่านชุมชน โดยคนยิงก็ไม่รู้ว่ายิงทำไม? และโดนใครบ้าง? แต่ยิงตามคำสั่งมาจากการสื่อสาร ตามพิกัดที่รัฐบาลสั่งมาว่าเป็นนักรบฮามาส พวกเขาจึงเป็นแค่เครื่องจักรสังหารมีชีวิตเท่านั้น

มาดูอาวุธแสนร้ายแรง ที่อิสราเอลว่ามันแสนจะอันตรายของฮามาสบ้าง..มันคือ..มันคือ..เครื่องบินเด็กเล่นบังคับวิทยุขนาดใหญ่ ที่ผูกติดระเบิดประดิษฐ์กับเครื่องบิน ใช้คนยืนถือเวลาจะปล่อยขึ้นฟ้า จุดชนวน แล้วใช้รีโมทบังคับทิศทาง ใช้กล้องส่องทางไกล บังคับไปชนเป้าหมาย หรือ กะๆ เอาตามประสบการณ์

แทบทั้งหมดพอบินขึ้น ก็จะโดนสอยร่วง (แค่เอาหนังสะติ๊กยิงยังร่วงเลย) , พลังงานเครื่อบินบังคับหมดก่อนถึงเป้าหมายที่อยู่ไกลมาก , เกินระยะคลื่นวิทยุบังคับ หรือ โดนก่อกวนคลื่น จนร่วงลงพื้นไปเอง...แหม่ อาวุธอะไรจะสุโค่ยร้ายแรงขนาดนี้หนอ !!

นี่แหละคือกองทัพอากาศของฮามาสเขาล่ะ ทีอิสราเอลวิเคราะห์ว่า มันอันตรายมากต่อประชาชนเขา ดังนั้นต้องตอบโต้ด้วย เครื่องบิน ไอพ่นยิงแสงเลเซอร์ โดรน คอปเตอร์จู่โจม มันถึงจะสูสีกัน..เจ๋งป่ะ

เปรียบเทียบไปก็เหมือนเป็ดเหลิมจับอาวุธการ์ด กปปส.ที่มีแต่ง่ามหนังสติ๊ก หัวน็อต เพื่อไว้ป้องกันตัวจาก M79 , M16 , RGD-5 , ไร้เฟิล , จรวด RPG ของแดง นปช.นั่นแหละ เขารู้ตัวว่าสู้กลุ่มติดอาวุธแดง นปช.ไม่ไหว แต่ก็ต้องจำเป็นทำ เพื่อปกป้องมวลชน กปปส.ไว้..

ทีนี้เข้าใจกลุ่มฮามาส ปาเลสไตน์หรือยังว่าทำไมต้องสู้ถึงขนาดนี้ ดีนะที่ฮามาสไม่ยิงบั้งไฟพญานาคใส่ มะกันกับอิสราเอล ไม่งั้นคง ถูกฟ้องชาวโลกผ่านสื่อไซออนิสต์ที่ตัวเองเป็นเจ้าของแน่ๆ ว่ามันคือ คือ "นิวเคลียร์"...เฮ่อ เอาข้าวเหนียว ไก่ย่าง ส้มตำปลาร้า สักชุดไหมครับ จะได้เข้ากัน !!

และถ้าขืนฮามาส ใช้ระเบิดปิงปอง ยิงจากง่ามหนังสะติ๊กขนาดใหญ่ วิถีโค้งใส่อิสราเอล ก็คงจะถูกตอบโต้กลับด้วยขีปนาวุธ โทมาฮอร์ค ในจุดพิกัดนั้น อ้างว่าฮามาสใช้ระเบิดแสวงเครื่องแบบใหม่ร้ายแรงไม่มีชื่อในสารบบอาวุธมาก่อน

โถ..ทั้งเครื่องบินบังคับ และระเบิดปิงปอง อย่าไปค้นตาราว่าต้นทางจากไหนเลย..สายลับมะกันขี่มอเตอร์ไซต์รับจ้างแวะไปที่คลองถม กับสำเพ็งโน่น..เฮ่อ ทำไปด้าย










@ เสธ น้ำเงิน1
https://www.facebook.com/thailandcoup

 

วันที่ 20 ก.ค.57 อึ้ง..ตะลึง ช็อคโลก..ทหารอิสราเอล ยิงเด็ก 4 คนล่มคว่ำตายคาที่ต่อหน้าทัพนักข่าว

สิ่งที่หลายคนพูดแผ่นเสียงตกร่องมาตลอดว่า กลุ่มฮามาส ใช้เด็กเป็นโล่มนุษย์นั้น ไม่ว่าใครจะพูดอย่างไร สิ่งที่ถูกฝังหัวมาคงลบออกได้ยาก ถ้าไม่ยอมเปิดใจรับความจริง ว่าในอดีตอาจเคยเกิดเหตุแบบนี้ แต่ช่วงการรบ 12 วันนี้ ไม่ใช่โล่มนุษย์แน่นอน

ทุกอย่างมันต้องว่ากันตามหลักฐานของคนที่เป็นกลาง ไม่ใช่พูดมามาจากฝ่ายฮามาส หรือ ฝ่ายอิสราเอล ฝ่ายใดฝ่ายเดียว เพราะคำพูดยามสงครามคือจิตวิทยาเบื้องต้น เรื่องนี้เป็นสิ่ปกติยามสงคราม ที่จะพูด แต่ลองมาดูให้เห็นด้วยตาและหูของท่านเองว่าความจริจากคนกลางคืออะไรกันแน่

เมื่อ 2 วันที่แล้ว เด็กชาวปาเลสไตน์ กำลังแตะบอลเล่นกันอยู่บนชายหาดตามประสาเด็กน้อย ที่ฉนวนกาซ่า ทันใดนั้นเรือรบของอิสราเอลซึ่งจอดอยู่ตรงนั้นได้ยิงระเบิดใส่ ทำให้เด็กคนหนึ่งเสียชีวิตลงทันที ทำให้เด็กอีกอีก 3 คน เขาตกใจตามประสาเด็กจึงเริ่มวิ่งหนี

และแล้วจรวดอิสราเอลก็พุ่งมาจากเรือรบลูกที่สองไปที่เด็กทั้ง 3 คนที่เหลือ ทำให้บาดเจ็บสาหัส หลังจากได้ยินระเบิดคนที่อยู่แถวนั้นเริ่มวิ่งเข้าไปช่วยเหลือทันทีไม่รอช้า ปรากฏว่า เด็ก 3 คนเสียชีวิตที่โรงพยาบาลจากบาดแผลที่สาหัสฉกรรจ์

นักข่าวจากหลายสำนักข่าว เห็นเหตุการณ์ตอนเรือรบยิงใส่เด็กนี้ด้วย เพราะตรงนั้นเป็นโรงแรมที่นักข่าวเข้าพักเพื่อทำข่าวเรื่องกาซ่า

** ดูให้เห็นด้วยตาฟังด้วยหูที่ For weary Gaza, the ceasefire will achieve nothing

แล้วลบเลือนคำว่า กลุ่มฮามาส ใช้เด็กเป็นโล่มนุษย์ ออกจากความทรงจำของท่าน แล้วแทนที่ด้วยศพของ 4 เด็กน้อย ที่เขาไม่ได้เป็นโล่ให้ใครทั้งนั้น จุดนี้ไม่มีฮามาส ไม่มีอาวุธ ไม่ใช่จุดสู้รบ แต่เป็นโรงแรมของนักข่าว เด็กปาเลสไตน์เขาแค่เตะบอลเล่นเท่านั้น โทษของเขาถึงต้องตายละหรือ ?? แล้วทีผู้ใหญ่เตะบอลโลกกันเฮๆ ทำไมทำได้ ?? พวกเขาก็อยากเล่นบ้าง ฝันว่าสักวันจะได้ไปเตะบอลโลกอย่างผู้ใหญ่พวกนั้นบ้าง !!

แบบนี้คงไม่เรียกว่าป้องกันตัวใช่ไหม ? แล้วอุโมงค์ของฮามาสอยู่ตรงไหน ? และการที่เด็กวิ่งเล่นเตะบอลในเขตดินแดนของเขาเอง มันไปทำร้ายคนอิสราเอลตรงไหน ? อะไรคือสิทธิเสรีภาพมนุษย์ชน ที่อเมริกาพร่ำและเพรียกหาจากโลก หรือแค่เด็กพวกนี้ไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง ??

การค้ามนุษย์ที่เกิดขึ้นสมัยปูเน่า การรัฐประหารของไทยเพื่อยับยั้งสงครามกลางเมือง จนทำให้ไม่มีใครเจ็บและตายสักรายเดียว อเมริกา EU และออสเตรเลีย ว่ายอมรับไม่ได้ ร้ายแรงเหลือเกิน แล้วการรัฐบาลเลือกตั้งอิสราเอล แล้วมาสังหารเด็กอีกดินแดนชาวปาเลสไตน์ อเมริกา เห็นว่าอย่างไหนมันร้ายแรงกว่ากัน ?

คนที่แผ่นเสียงตกร่องกล่าวโทษกลุ่มฮามาส และเด็กปาเลสไตน์ มีอะไรจะขอโทษเขาก็เชิญ..ตามบาย และหยุดกล่าวร้ายเขาเพราะเพียงแค่ได้ยินคนอื่นพูดมา ก็ถือว่าไถ่บาปเบื้องต้นแล้ว


@ เสธ น้ำเงิน2
https://www.facebook.com/thailandcoup

 

วันที่ 19 ก.ค.57 คสช.พัฒนาโครงการรถไฟรางคู่ ความเร็วสูง 160-180 กม./ชม.

เนื่องจากการล่าอาณานิคมของอังกฤษและฝรั่งเศสบริเวณเหลมอินโดจีน พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ทรงตระหนักถึงความสำคัญของการคมนาคม โดยเส้นทางรถไฟ เพราะสมัยก่อนการใช้แต่ทางเกวียน และ แม่น้ำลำคลองนั้น ไม่เพียงพอแก่การบำรุงรักษาพระราชอาณาเขต

ราษฎรที่อยู่ห่างไกลจากเมืองหลวง มีจิตใจโน้มเอียงไปทางประเทศใกล้เคียง สมควรที่จะสร้างทางรถไฟขึ้นในประเทศไทย เพื่อติดต่อกับมณฑลชายแดนก่อนอื่น ทั้งนี้เพื่อสะดวกแก่การปกครอง ตรวจตราป้องกันการรุกราน เป็นการเปิดภูมิประเทศให้ประชาชนพลเมืองเข้าบุกเบิกพื้นที่รกร้างว่างเปล่า ให้เป็นประโยชน์ทางเศรษฐกิจของประเทศ

และเป็นเส้นทางขนส่งผู้โดยสารและสินค้าไปมาถึงกันได้ง่ายยิ่งขึ้น ดังนั้น ในปี พ.ศ. 2430 จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้บริษัท ปันชาร์ด แมกทักการ์ด โลเธอร์ ดำเนินการสำรวจเพื่อสร้างทางรถไฟสายกรุงเทพ - นครราชสีมา และมีทางแยก ลพบุรี - เชียงใหม่ สายหนึ่ง , จากเมืองอุตรดิตถ์ – ตำบลท่าเดื่อ ริมฝั่งแม่น้ำโขงสายหนึ่ง และจากเมืองเชียงใหม่ไปยังเชียงราย เชียงแสนหลวง อีกสายหนึ่ง

ในวันที่ 26 มีนาคม พ.ศ. 2439 พระองค์ได้เสด็จฯ ทรงเปิดการเดินรถไฟ สายกรุงเทพ -นครราชสีมา เส้นทางรถไฟสายแรกของประเทศสยาม

แม้ว่าจะเปลี่ยนแปลงการปกครองหลังปี 2475 แล้ว นักการเมืองไม่เคยยอมพัฒนารางรถไฟรางคู่เลย มีเพียงยุครัฐบาลฤษี 2551 เท่านั้น ได้มีการดำเนินการประมูลสร้างรถไฟรางคู่ จากฉะเชิงเทราถึงแหลมฉบัง ระยะทาง78 กิโลเมตร ตามมาด้วยรถไฟรางคู่จากคลอง 19 ถึงชุมทางแก่งคอย และ นครปฐม ถึง หัวหิน

เหตุเพราะนักแสวงโชคการเมือง หันไปสร้างถนน หลายแสนหลายหมื่นล้านบาทมาอย่างยาวนาน เนื่องจากแต่ละคนมีบริษัทก่อสร้างถนนของตนเองในการรับงานจากรัฐ มีการทำไม่นานก็พัง แล้วก็ทำไม่อีก ซ้ำไปซ้ำมาหลายสิบรอบ ไม่รู้จบรู้สิ้น หมดเงินไปกับการทุจริตถนนของนักแสวงโชคทางการเมือง โดยไม่เคยพัฒนารถไฟรางคู่ทั่วประเทศอีกเลย

ระบบรางของไทยที่ใช้อยู่ปัจจุบันนั้น มีความกว้าง 1 เมตร รองรับการวิ่งของขบวนรถที่ความเร็วช้าประมาณไม่เกิน 90 กม./ชม. ซึ่งในอนาคตนั้น จะมีปัญหาในเรื่องการจัดหาอะไหล่ และการซ่อมบำรุงที่ทั่วโลก มีแนวโน้มไปใช้งานระบบรางแบบใหม่..เหมือนคอมพิวเตอร์ และรถตกรุ่นทำนองนั้น อะไหล่หายาก

จากรัชกาลที่ 5 เป็นต้นมาถึงปัจจุบัน 118 ปี นับเป็นครั้งแรกที่ คสช. แม้ว่าจะไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง จะเริ่มพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทางด้านคมนาคม ในปี 2558 เพื่อให้สามารถดำเนินการได้ตั้งแต่ ส่วนใดที่มีความพร้อมให้เริ่มดำเนินการไปก่อน

ในระยะแรกของปีนี้ เพื่อเป็นการใช้จ่ายงบประมาณอย่างมีประสิทธิภาพ และไม่เสียโอกาสในเรื่องการพัฒนาการค้า การขนส่งคมนาคม คสช. จะพัฒนาปรับปรุงให้ระบบเดิมให้มีการวางรางขนาด 1 เมตร เพิ่มเติม เฉพาะเส้นทางที่มีการจราจรหนาแน่น และเป็นเส้นหลักในการขนส่งสินค้า เพิ่มปริมาณการขนส่งสินค้า การลดต้นทุนการขนส่ง

ในส่วนโครงการรถไฟรางคู่นั้น จะทำไปพร้อมกันเพื่อรองรับการเชื่อมต่อกับประเทศเพื่อนบ้าน ในภูมิภาคอาเซียน รวมทั้งการเชื่อมต่อกับประเทศจีน ที่ต้องใช้เทคโนโลยีใหม่ ที่มีรางขนาด 1.435 เมตร รองรับการวิ่งของขบวนรถที่ความเร็วสูงถึง 160-180 กม./ชม. การพัฒนาจุดเชื่อมต่อทางลอดต่างๆ เพื่อให้ขบวนรถไฟวิ่งได้อย่างต่อเนื่อง

ไม่ใช่รถไฟฟ้า ที่รัฐบาลเผาไทยที่แล้วจะกู้ถึง 2.2 ล้านๆ บาท หวุดหวิดจะทำให้ประเทศหนี้ทุ่วมหัวล้มละลายมาแล้ว กู้ชาตินี้ ใช้ชาติหน้า แต่รถไฟรางคู่ การลงทุนจะต่ำกว่ามาก เพราะไม่ต้องก่อสร้างใดเพิ่มเติมนัก มีวางรางที่กว้างขึ้น วิ่งสวนกันได้ ในเส้นทางหลัก ที่ดินก็เป็นของการรถไฟอยู่แล้ว ไม่มีการเวนคืนเพิ่ม

นักแสวงโชคทางการเมืองจากระบอบประชาธิปไตย เลือกตั้งขี้โกงไม่ทำ จ้องแต่จะกู้แล้วโยนหนี้มาให้ประชาชนทั้งประเทศ งั้นลองให้ คสช.จากรัฐประหาร ทำรถไฟรางคู่เพื่อประโยชน์ประชาชน โดยรวมดูบ้าง โดยใช้งบประมาณปกติของประเทศนี่แหละ



@ เสธ น้ำเงิน2
https://www.facebook.com/thailandcoup

 

วันทึ่ 21 ก.ค.57 กลุ่มติดอาวุธใช้จรวด RPG ถล่มจุดตรวจอียิปต์ตาย 21 ราย

สถานการณ์ใช้อาวุธโจมตีกัน ขยายวงออกไปที่ชายแดนอียิปต์อีกแล้ว เมื่อจุดตรวจของรัฐบาลถูกกลุ่มติดอาวุธ โจมตีด้วยจรวด RPG และปืนกล จนมีทหารตาย 21 ราย เจ็บ 4 ราย และมีการระดมยิงประทะกันอย่างหนักหน่วงจนเกิดเพลิงไหม้อาคาร

ส่วนในฉนวนการ์ซา ตอนนี้มีการรับสมัครนักรบปาเลสไตน์เพิ่ม เพราะต้องยันกับอิราเอล ในภาพจะเห็นหนูน้อยคนนี้ถือปืนจริง เป็นการแสดงตัวปวารณาเข้าเป็นนักรบ ปกป้องดินแดนของตนเอง

หนูน้อยคนนี้ และเพื่อนๆ เขา คงเข้าฝึกอาวุธระยะสั้นๆ แล้วแต่งกายนักรบฮามาส เข้าปะทะกับทหารอิสราเอล ในเขตชายแดนเร็วๆ นี้ ..บางทีชีวิตพวกเขาก็ไม่มีทางเลือกนัก เพราะแค่วิ่งเตะบอลที่ชายหาดบ้านตัวเอง ยังถูกจรวดจากเรืออิสราเอล สังหายตาย การจับอาวุธมาสู้บ้าง ก็ต้องทำ เพื่อไม่ให้ถูกรังแกฝ่ายเดียว

เพราะล่าสุดแม้แต่นักข่าวต่างชาติ ที่ติดสัญลักษณ์สื่อมวลชนชัดเจนตามมาตรฐานสากล ยังโดนอิสราเอลถล่มด้วยระเบิดซะตายไป 2 คนอีกแล้ว สถานการณ์จุดฉนวนการ์ซา จึงหลุดจากกฎเกณฑ์ของสังคมไปเรียบร้อยแล้ว





@ เสธ น้ำเงิน2
https://www.facebook.com/thailandcoup

 

วันที่ 21 ก.ค.57 เกิดจลาจลแล้วในฝรั่งเศส ปล้นสะดมร้านค้า วางเพลิง ขโมย ยิง

ฝรั่งเศส เป็นประเทศที่มีประชากรมุสลิมมากที่สุดในภูมิภาคยุโรปตะวันตก และมีชุมชนชาวยิวขนาดใหญ่ด้วย ได้เกิดเหตุชุลมุนวุ่นวายขึ้น ณ เขตการปกครองท้องถิ่นซาร์แซลส์ ชานเมืองทางตอนเหนือของกรุงปารีส ฝรั่งเศส ในการชุมนุม รประท้วง ปะทุขึ้นเป็นครั้งที่ 3 มานาน 8 วันแล้ว ต่อต้านปฏิบัติการทหารของกองทัพอิสราเอล ในฉนวนกาซา

เจ้าหน้าที่ตัดสินใจสั่งห้ามชุมนุมในพื้นที่เหล่านี้ กลับเป็นตัวเร่งปฏิกิริยาชั้นดี เพราะนอกจากจะจุดชนวนให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างรุนแรงแล้ว ผู้ประท้วงยังเพิกเฉยกฎหมาย และเดินหน้าจัดการชุมนุมต่อไป จนเกิดเหตุรุนแรง ผู้ประท้วงบุกปล้นสะดมร้านค้า และตำรวจปราบจลาจลยิงแก๊สน้ำตา และกระสุนยางใส่ฝูงชน

ในกรุงเวียนนา สตอกโฮล์ม และ อัมสเตอร์ดัม ผู้คนจำนวนมหาศาลออกมารวมตัวเดินขบวน เพื่อต่อต้านภารกิจโจมตีของอิสราเอล ซึ่งคร่าชีวิตชาวปาเลสไตน์ไปกว่า 400 คน และชาวอิสราเอลอีก 20 คน

บรรดาผู้จัดการเดินขบวนในกรุงเวียนนา มีผู้เข้าร่วม 11,000 คนชี้แจงว่า “เราไม่ใช่พวกต่อต้านยิว เรามาที่นี่เพื่อประชาชน เราขอเรียกร้องให้ชาวยุโรป และอเมริกันลงมือทำอะไรสักอย่าง” ส่วนที่เขตการปกครองท้องถิ่น ซาร์แซลส์ (ลิตเติล เยรูซาเลม) เนื่องจากเป็นที่ตั้งของชุมชนชาวยิวขนาดใหญ่ ได้เกิดเหตุชุลมุนวุ่นวายปะทุขึ้น ระหว่างการชุมนุมของประชาชนซึ่งเป็นการฝ่าฝืนคำสั่งห้ามชุมนุม เมื่อวัยรุ่นหลายสิบคน ซึ่งบางส่วนสวมหน้ากากพากันจุดไฟเผาถังขยะ จุดประทัด และระเบิดควัน

จากนั้นผู้ประท้วงบางส่วนก็บุกเข้าไปฉกชิงข้าวของในร้านค้า ทำลายโรงฌาปนกิจศพ และกระจกหน้าต่างด้านหน้า ในเวลาที่ผู้ประท้วงหลายคนตะโกนว่า “อิสราเอลไปตายซะ!” คนอื่นๆ บุกเข้าไปในร้านขายยา ที่กำลังเกิดเพลิงลุกไหม้ ขณะที่พวกสาวๆ ฉกฉวยเอานมผงสำหรับเด็กกลับไป จากนั้นตำรวจปราบจลาจลก็เปิดฉากระดมยิงกระสุนยางใส่กลุ่มผู้ก่อจราจล

ห่างออกไปไม่ไกลนัก เจ้าหน้าที่ตำรวจจลาจล ได้ปิดขวางทางเข้าโบสถ์ยิวในพื้นที่ ซึ่งมีกลุ่มชายหนุ่มยืนถือกระบองและท่อนเหล็กยืนจังก้า โดยหนึ่งในกลุ่มโบกธงชาติอิสราเอล

การถล่มฉนวนกาซาครั้งรุนแรง ได้สร้างความแตกแยกให้แก่สังคมฝรั่งเศส ที่ชุมชนชาวยิวเริ่มหวาดกลัวพวกต่อต้านยิว และกลุ่มมุสลิมที่มีแนวคิดหัวรุนแรงมากขึ้น ตลอดจนบรรดานักรณรงค์ซ้ายจัด ที่การชุมนุมต่อต้านนโยบายของอิสราเอลของพวกเขา โอนเอียงไปทางการต่อต้านยิว

เหตุรุนแรงที่เกิดขึ้นในซาร์แซลส์ มีความคล้ายคลึงกับการชุมนุมเมื่อวันเสาร์ ในเขตทางเหนือของกรุงปารีส เมื่อการชุมนุมที่เริ่มต้นอย่างสงบ กลับลุกลามบานปลายจนเกินควบคุม ส่งผลให้เกิดการปะทะกับตำรวจปราบจลาจล และมีการจับกุมผู้ประท้วงหลายสิบคน

ทางการฝรั่งเศสได้สั่งห้ามการชุมนุม เนื่องจากเกรงว่าจะจุดชนวนให้เกิดเหตุไม่สงบ และกังวลว่าชุมชนชาวยิวจะตกเป็นเป้าเล่นงาน เพราะเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว บรรดาผู้ประท้วงพยายามจู่โจมโบสถ์ยิว 2 แห่ง ในเมืองหลวงของฝรั่งเศส

มันส์ล่ะงานนี้..เป็นไปตามการคาดการณ์ไม่ก่อนหน้าทุกประการ เมื่อประชาชนที่หลากหลายเชื้อชาติ และศาสนาในประเทศ EU การก่อจลาจล ปล้นสะดม ขโมย สภาพไร้รัฐ จะแผ่กระจายขยายวงออกไปเรื่อยๆ

และหากอิสราเอลไม่หยุดการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ ชาวปาเลสไตน์เพื่อไล่ที่ สุดท้ายจะมีต่างชาติแทรกแซงสนับสนุนอาวุธร้ายแรงให้กลุ่มชนชาติต่างๆ ในประเทศ EU เพื่อเข้าปะทะกับกำลังของรัฐบาลในที่สุด..มันเป็นไปตามทฤษฎีการจลาจล..Action and Reaction

เอ..ว่าแต่ใครจะชวนครอบครัวมาฉลองวันเกิดที่ 26 ก.ค.57 นี้นะ..พอกลุ่มนี้มา ความพินาศมาเยือนดินแดนที่เหยียบทันที..เผาไปเลยครับพี่น้อง..หากเสียงปืนแตกผมจะเดินนำหน้าเอง..คุ้นๆ นะ







@ เสธ น้ำเงิน4
https://www.facebook.com/thailandcoup

 

วันที่ 21 ก.ค.57 วุ่นวายอีกจุดแล้ว ชาวอเมริกา ออกมาเดินขบวนประท้วงยาวสุดลูกหูลูกตา

ด้วยอเมริกาประชาธิปไตยมาก จึงให้สื่อสื่อหลักมะกันทั้งหมด ที่เป็นของยิวไซออนิสต์ ปิดหูปิดตาประชาชนมะกัน ไม่ให้มีเสรีภาพ เห็นภาพ และไม่ให้รับรู้ข่าวอิสราเอลโจมตี เด็กปาเลสไตน์ด้วยอาวุธหนัก

** ดูคลิปความเป็นอยู่เด็กปาเลสไตน์ที่ [ame=http://www.youtube.com/watch?v=pacvQClT4yQ]Carnage wrought in Gaza by Israel's offensive - YouTube[/ame]

แต่โลกสมัยใหม่ ปิดทางทีวี หนังสือพิมพ์ คนก็หันไปดูทางอินเตอร์เน็ต โซเชียลเน็ตเวอร์ค Youtube , Facebook ฯลฯ ทำให้คนอเมริกัน ยอมรับการฆ่าเด็กตาดำๆ ของอิสราเอล โดยมีรัฐบาลอเมริกาหนุนหลังไม่ได้ พวกเขาจึงนัดกันออกมาเดินประท้วงบนท้องถนนยาวเหยียด

ปกติคนอเมริกัน จะไม่ค่อยจัดประท้วงใหญ่แบบนี้นัก นับเป็นเรื่องที่แปลก และหากมีมือที่ 3 สร้างสถานการณ์จะง่ายมาก เพราะอเมริกามีปืนในความครอบครองถึง 310 ล้านกระบอก จึงมีการยิงกันเป็นประจำแม้แต่ในโรงเรียน

หากมีกลุ่มคนกราดยิงใส่ม็อบ วางระเบิดเหมือนครั้งที่เดินสวนสนาม ม็อบก็จะเสี่ยงลุกลามบานปลายวุ่นวายในอเมริกา และลามไปยังมลรัฐต่างๆ ได้





@ เสธ น้ำเงิน4
https://www.facebook.com/thailandcoup

 

ปิดฉาก! คดีไร่ส้ม สรยุทธ ได้ข้อยุติส่งอัยการยื่นฟ้อง





คณะทำงานร่วม อสส.-ป.ป.ช. มีมติสิ้นสุดคดีไร่ส้ม-สรยุทธ กรณียักยอกเงินโฆษณา อสมท ส่งสำนวนให้ อสส. เป็นผู้ฟ้องคดี หลังสอบปากคำจนท.อสมท 3 รายเสร็จสิ้น – “ภักดี” ยันสำนวนครบถ้วนสมบูรณ์ทุกอย่าง

21 ก.ค.57 จากกรณีคณะทำงานร่วมระหว่างอัยการสูงสุด (อสส.) และคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) มีมติเรียกเจ้าหน้าที่ บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) ที่เกี่ยวข้องในคดีที่คณะกรรมการ ป.ป.ช.ชี้มูลความผิดพนักงาน อสมท, บริษัท ไร่ส้ม จำกัด และนายสรยุทธ สุทัศนะจินดา พิธีกรชื่อดัง พร้อมพวก กรณียักยอกเงินโฆษณาจาก บริษัท อสมท จำกัด กว่า 138 ล้านบาท มาสอบปากคำเพิ่มเติม จำนวน 3 ราย

ล่าสุด แหล่งข่าวจากอัยการสูงสุด เปิดเผยถึงกรณีดังกล่าวว่า ในการประชุมคณะทำงานร่วมครั้งล่าสุด ได้สอบสวนเจ้าหน้าที่ อสมท จำนวน 3 ราย เสร็จสิ้นแล้ว และคณะกรรมการ ป.ป.ช.ก็เห็นด้วยที่จะส่งเรื่องให้กับอัยการสูงสุดเป็นผู้ฟ้องคดี

ขณะที่ นายภักดี โพธิศิริ กรรมการ ป.ป.ช.ผู้รับผิดชอบสำนวนคดีนี้ เปิดเผยถึงกรณีดังกล่าวว่า คณะทำงานร่วมได้ดำเนินการสอบสวนเจ้าหน้าที่ อสมท เสร็จสิ้นแล้ว และมีความเรียบร้อยครบถ้วนสมบูรณ์ในสำนวนทุกอย่าง ซึ่งขณะนี้คณะกรรมการ ป.ป.ช.ได้ส่งเรื่องให้กับอัยการสูงสุดเป็นผู้ฟ้องคดีดังกล่าวเอง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในคดีดังกล่าว คณะกรรมการ ป.ป.ช.มีมติชี้มูลความผิดพนักงาน อสมท, บริษัท ไร่ส้ม จำกัด และนายสรยุทธ สุทัศนะจินดา พิธีกรชื่อดัง พร้อมพวก ในคดียักยอกเงินโฆษณาจาก บริษัท อสมท จำกัด กว่า 138 ล้านบาท ในการร่วมกันผลิตรายการคุยคุ้ยข่าว


ปิดฉาก! คดีไร่ส้ม สรยุทธ ได้ข้อยุติส่งอัยการยื่นฟ้อง

 

วันที่ 22 ก.ค.57 ในหลวงทรงลงพระปรมาภิไธย รัฐธรรมนูญ ฉบับชั่วคราว แล้ว

การประชุมคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ( คสช.) ครั้งที่ 7/2557 เช้านี้ มี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้า คสช.เป็นประธานการประชุม ร่วมด้วยรองหัวหน้า คสช. เลขาธิการ คสช. เลขาธิการคณะรัฐมนตรี เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ เลขาธิการสภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ

พล.อ.ประยุทธ์ หัวหน้า คสช. กล่าวในการประชุมระบุว่า ในวันนี้มีภารกิจสำคัญที่ต้องไปเข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ฯ ณ พระตำหนักเปี่ยมสุข พระราชวังไกลกังวล อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ เพื่อรับพระราชทานรัฐธรรมนูญ ฉบับชั่วคราว พุทธศักราช 2557 ที่ทรงลงพระปรมาภิไธยแล้ว

เริ่มเห็นเค้านายกฯ หน้ากลม ผิวขาว มีพุง โหดแต่ใจดี ตามที่เคยบอกไว้แล้ว และนายกฯ ใหม่เฉพาะกาลที่มีอำนาจเต็ม ก็จะเกิดขึ้นตามรัฐธรรมนูญชั่วคราวฉบับนี้ ช่วงต้นเดือน ตุลาคม 2557 นี้

เรื่องสำคัญแบบนี้ ท่านหัวหน้า คสช.จะชี้แจงรายละเอียดให้ประชาชนทราบผ่านทางทีวีพูล ในวันที่ 22 ก.ค.57 เวลา 20.00 น. (^_^)





@ เสธ น้ำเงิน2
https://www.facebook.com/thailandcoup