ประเทศไทยจะเกิดอุบัติภัยอย่างที่ทำนายกันจริงๆหรือไม่

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย koymoo, 25 มกราคม 2005.

  1. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    เครื่องเคลื่อนย้ายมวลสาร มันจะเป็นไปได้ใหมครับ ?

    [​IMG]

    เหมือนหนังสตาร์เทรคครับ คิดว่าไม่มีทางเป็นไปได้เนอะ แบบเข้าเครื่องแล้วไปโผล่อีกเครื่องหนึ่งอะไรทำนองนี้

    จากคุณ : FF เขียนเมื่อ : 17 พ.ย. 53

    คนที่เคยทำได้ เขาบอกว่า:-

    1. มีซูเปอร์คอมพิวเตอร์ขนาดจิ๋ว เท่าซองบุหรี่ 1 ตัว
    2. มันจะทำการคำนวณตำแหน่งทุกอะตอมของสิ่งที่จะส่งไป
    3. มันสามารถทำการส่งได้ รับคืนได้ ในตัวเอง
    4. มันสามารถเข้าถึงมิติที่มากกว่า 4 โดยการเอาไปฝากไว้ตรงนั้นชั่วคราว วัตถุก็จะหายไป

    ----คนที่ทำได้ ไม่ใช่มนุษย์โลก มาจากต่างดาว หรืออนาคตที่ไกลออกไปเป็นหมื่นๆปี
    ----วิธีการเปลี่ยนมิติ ให้บิดสปินของทุกอะตอมไป 90 องศา ก็พ้นมิติออกไปแล้ว

    แต่ว่าตอนบิดสปินนี่ทำยังไง ?

    ----บางคนบอกว่า จากการทดลองบ้าๆที่ฟิลาเดลเฟีย สามารถทำให้เรือรบหายไปได้ โดยแนวคิดของไอนสไตน์ บอกว่าเวลาที่ศูนย์ คือความถี่ของอะตอมไฮโดรเจน แล้วจะไปปีไหนก็คูณความถี่นี้เข้าไป สมัยนั้นใช้หลอดสูญญากาศสร้างความถี่ ปัจจุบันสายข่าวบอกว่าเราสร้างเครื่องนี้ได้แล้ว ต้องถาม ซีไอเอ เน็นเอสเอ กองทัพเรือที่อเมริกาโน่นครับ หรือถามมิสเตอร์เทอรัน

    จากคุณ : jesdath เขียนเมื่อ : 17 พ.ย. 53

    ที่มา www.topicstock.pantip.com/wahkor/topicstock/2010/11/X9927815/X9927815.html]PANTIP.COM
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • star-trek.jpg
      star-trek.jpg
      ขนาดไฟล์:
      130.9 KB
      เปิดดู:
      1,171
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 26 กันยายน 2013
  2. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    โหราจารย์ชื่อดัง ถอดรหัส 8 ต.ค.56 วันโลกาวินาศ !!!

    [​IMG]

    ผนึกกำลัง ภิญโญ เก่งกาจ โสรัจจะ 3 โหรการเมืองดัง! ถอดรหัสลงมติตรงกัน 8 ตุลาคมวันโลกาวินาศ เก่งกาจ เตือนเป็นฤกษ์แย่แก่ฝ่ายก่อการ ชี้ช่วงเวลาดังกล่าวเป็นเพียงน้ำจิ้มความรุนแรง สยองปลายปีถึงปี 57 มีการเปลี่ยนแปลงใหญ่ ยุบสภา จลาจลบ้านเมืองนองเลือด...!

    เป็นประเด็นร้อนขึ้นมาหลังจากที่ อดีตนายกรัฐมนตรี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ออกมาเปิดเผยว่าฝั่งตรงข้ามพรรคเพื่อไทยจะทำการโค่นรัฐบาลยิ่งลักษณ์ก่อนวันที่ 8 ต.ค. ให้ได้ แถมอดีตนายกฯ พลัดถิ่นยังบอกว่าตนรู้ว่าวันที่ 8 ต.ค. คือวันอะไรประเด็นที่หลายคนให้ความสนใจก็คือก่อนวันที่ 8 ต.ค. เป็นวันอะไร ทำไมต้องโค่นให้ได้ในวันนี้ด้วย...??

    ล่าสุด นายภิญโญ พงศ์เจริญ นายกสมาคมโหราศาสตร์นานาชาติ ออกมากล่าวผ่านไทยรัฐออนไลน์ว่า ช่วงเวลาจากนี้ไปจนถึงวันที่ 11-12-13 ธันวาคม เป็นช่วงเวลาที่อันตรายต่อรัฐบาลมากๆ

    "วันที่ 8 ต.ค.ถือเป็นวันที่โลกาวินาศจริง เนื่องจากดาวเสาร์กับราหูโคจรสวนกันตรงราศีตุล ที่ตรงนั้นเรียกว่า 'จุดสวน'ตรงระยะ 14 องศา กลางราศีตุล ซึ่งเป็นราศีตราคนถือคันชั่งแล้วดาวเสาร์ ราหูยังเล็งลัคนาเมืองอีกด้วย ภาษาโหรเรียกว่า พินทุบาทว์' ส่งผลให้ดวงเมืองแตก' ดวงเมืองร้าว 'พินทุบาทว์' แปลว่าจุดแตก จุดช้ำ จุดร้าว จุดเสียหาย คราวนี้มันเล็งอยู่นานมากกว่าครั้งที่ผ่านๆ มา ซึ่งตั้งแต่สร้างกรุงเทพฯ มาเคยเล็งกันตรงนี้ แค่ 2 ครั้งเท่านั้น

    โหรชื่อดัง บอกว่า ครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ.2351-2352 ตอนนั้นเป็นแผ่นดินพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก ช่วงนั้น 'รัฐปัตตานี' แข็งเมืองแล้วเกิดปัญหาในทางภาคใต้ จึงส่งกองทัพจากจะนะ จากสงขลา ไปปราบปรามพวกกบฏเลยหนีไปมาเลเซียไล่ล่า ตอนนั้นก็นำมาซึ่งการปฏิรูปการเปลี่ยนแปลงรัฐปัตตานีใหม่ แบ่งหัวเมืองออกเป็นสิบหัวเมือง มีการปฏิรูปนโยบายการปกครองหัวเมืองใหม่ ปีรุ่งขึ้นพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกก็สวรรคต ก็เปลี่ยนแผ่นดินจาก รัชกาลที่ 1 เป็นรัชกาลที่ 2 แล้วก็มีการปราบกบฏพระโอรสของพระเจ้าอยู่หัวกรุงธนบุรี

    "ครั้งที่ 2 ปีเกิดขึ้นเมื่อ พ.ศ 2408-2409 ตรงกับแผ่นดินพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 ก็มาเทียบเคียงประวัติศาสตร์ดูก็มีการเสียดินแดนครั้งสำคัญ พระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าก็สวรรคตในปีรุ่งขึ้น ฉะนั้นเสาร์ราหูจรมาตรงราศีตุล ตรงนี้อีกในวิชาโหราศาสตร์บอกว่า ต้องระมัดระวังอย่าให้เกิดเหตุการณ์เสียหายอะไรเกิดขึ้นอีก เช่น มีปัญหาเรื่องดินแดนภาคใต้เรื่องหัวเมืองทางใต้ การเสียดินแดน การแย่งชิงอำนาจกันระหว่างผู้หลักผู้ใหญ่ หรือการสูญเสียผู้หลักผู้ใหญ่ อย่างไรก็เขาก็เพ่งเล็งกันเดือนตุลาคมวันที่ 7 -8 ต.ค.ยังไม่พอ เพราะวันที่น่าสนใจมากๆ อีกช่วงหนึ่งก็คือวันที่ 11-13 ธันวาคมนี้ เป็นวันที่ราหูโคจรได้ 10 องศาตรงราศีตุลแล้วมันเล็งกับอาทิตย์ในดวงเมืองสนิทในอดีตมันเกิดการเปลี่ยนแปลงมาหลายครั้ง จึงต้องระวังเรื่องการยุบสภา การเปลี่ยนแปลงทางการเมือง หรือการจลาจล เป็น 2 ช่วงที่อันตราย อย่างไรก็ดีทั้งหมดนี้ก็อยากให้มองแบบไม่งมงาย อยากให้มองโหราศาสตร์เป็นเพียงเครื่องเตือนเท่านั้น และที่สำคัญกระแสที่บอกว่าวันที่ 8 ต.ค.นี้เป็นวันโลกาวินาศ แต่สิ่งที่ต้องไม่ลืมก็คือในแต่ละสัปดาห์มีฤกษ์วันโลกาวินาศทุกสัปดาห์" นายกสมาคมโหราศาสตร์นานาชาติ

    ด้าน นายโสรัจจะ นวลอยู่ หมอดูชื่อดัง กล่าวตรงกันว่าวันที่ 8 ต.ค. เป็นวันโลกกาวินาศจริงแต่หลังจากตรวจเช็กการเคลื่อนตัวของดวงดาวแล้ว ปรากฏว่าช่วงเวลาดังกล่าวยังไม่มีดาวสำคัญใหญ่ๆ เขยิบไปไหน เนื่องจากดาวใหญ่ อย่างดาวพฤหัสเขยิบมาก่อนหน้านั้นแล้ววันที่ 29 พ.ค. ที่ผ่านมา และดาวพฤหัส ดาว เสาร์ กับราหูจะขยับออกมาจากราศีตุลอีกครั้งหนึ่งก็คือปีหน้า โดยทายว่าอันตรายจะเริ่มสิ้นปี และไปรุนแรงมีการสูญเสียมากมายในช่วงเดือนมิถุนายน พ.ศ. 2557

    "ตามหลักโหราศาสตร์วันที่ 8 เรียกว่าวันโลกาวินาศจริง เป็นวันที่ฤกษ์ไม่ดี แต่ตามดวงดาวยังไม่ถือว่าเป็นดาวใหญ่ที่เคลื่อนแบบผิดปกติ อย่าที่บอกดาวใหญ่จะเคลื่อนใหญ่มากในปีหน้า โดยเฉพาะในมิถุนายน ราหูเคลื่อนที่ถือว่าใหญ่มากๆ ดังนั้นทำนายว่าหากมีการเปลี่ยนแปลงน่าจะเป็นช่วงนั้นมากกว่าเนื่องจากเป็นครั้งใหญ่ของประเทศไทยเลยทีเดียว" โสรัจจะ กล่าว

    ขณะที่ นายเก่งกาจ จงใจพระ โหรการเมืองชื่อดัง วิเคราะห์ในแง่ของการให้ฤกษ์ยามในวันอังคารที่ 8 ต.ค. ที่มีข่าวว่าเป็นฤกษ์ล้มรัฐบาลว่า วันที่ 8 ต.ค.เป็นวันโลกาวินาศ วันที่ 9 ต.ค.ยังเป็นวันอุบาทว์ ดังนั้นถือว่าเป็นฤกษ์ที่ไม่ดี อย่างคราวที่แล้วจะเห็นได้ว่าการจัดเวทีผ่าความจริงฯ บริเวณอุรุพงษ์ก็ใช้วันอุบาทว์ ทำให้จุดไม่ติด ซึ่งหากจะคิดการใหญ่ในวันดังกล่าวนั้นนอกจากจะไม่สำเร็จแล้ว เหตุการณ์ร้ายๆ ก็จะเข้าตัวด้วยจึงอยากจะเตือนคนที่คิดทำการในฤกษ์นี้

    "ก่อนหน้านี้ดวงรัฐบาลและดวงนายกยิ่งลักษณ์เป๋ไปเป๋มา จึงจะเห็นได้ว่าคุณยิ่งลักษณ์พยายามหาเรื่องหลบเคราะห์ไปต่างประเทศเหมือนยุคคุณทักษิณ แม้กระทั่งป๋าเปรม คราวนี้รัฐบาลนี้เผชิญกับดาวพฤหัส ซึ่งเป็นดวงสภารัฐ บาล และดวงประเทศไทยมันเสียมาอยู่ในราศีเมถุนดังนั้นรัฐบาลจึงมีผลกระทบไปด้วย แต่ตอนนี้มันเลยจุดที่เสื่อมมาแล้ว แต่ให้รอดูสิ้นปีว่าจะรอดไหมอีกที ผมทายว่า มี 2 ทางจาก ลีลาดาวราหู ซึ่งเป็นราชาโชคเล็งดวงเมือง ราหูคือตัวแทนศาล และดาวเสาร์เป็นตัวแทนผู้พิพากษาอยู่ในราศีตุล เล็งดวงเมืองเหมือนกัน รวมกับราหูเป็นมหาอุตม์ ดังนั้นศาล ผู้พิพากษา คำพิพากษาจะดวงแรงมาก ระวังเรื่องของการ เมืองเมื่อขึ้นไปอยู่ในศาลช่วงนี้จะเสร็จทุกราย ดังนั้นปลายปีถึงการปีหน้ามีหวาดเสียวอาจจะมีพรรคใหญ่อาจจะถูกยุบ แต่ตอนนี้ยังไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง ส่วนดวงคุณทักษิณ ชินวัตร นั้นยังไม่ได้กลับเมืองไทยเพราะว่าดาวมฤตยูเล็งอยู่อีก 3 ปี" โหรการเมืองระบุ

    เป็นอีกหนึ่งบทพิสูจน์ว่าการเมืองไทยต่อให้ผ่านไปกี่ปี ต่อให้โลกเทคโนโลยีก้าวไกลยังไงก็ไม่พ้นคำว่า 'โหราศาสตร์'!

    โดย ทีมข่าวไทยรัฐออนไลน์
    21 กันยายน 2556, 09:00 น.

    ที่มา ข่าวไทยรัฐออนไลน์
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • Untitled.jpg
      Untitled.jpg
      ขนาดไฟล์:
      144 KB
      เปิดดู:
      740
  3. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    วิกฤตเศรษฐกิจไทยครั้งใหม่ ไม่เหมือนเดิมแน่ !!!

    [​IMG]

    "วิกฤตเศรษฐกิจไทยครั้งใหม่ ไม่เหมือนเดิมแน่" โดย อ.วิชัย กอสงวนมิตร คณะวิทยาการจัดการ ม.ราชภัฏเชียงใหม่ (บทความนี้เคยตีพิมพ์ในหนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจรายวัน ฉบับวันที่ 2 ส.ค. 56)

    ผมเริ่มได้กลิ่นไม่ดีเศรษฐกิจไทยมากขึ้นทุกทีแล้ว ได้ยินจากพ่อค้าจำนวนไม่น้อยที่ให้ข้อมูลตรงกันว่าสองสามเดือนที่ผ่านมา ยอดขายตกลงอย่างมากในแทบทุกกลุ่มสินค้าและบริการ ซูเปอร์มาร์เก็ตหลายแห่งยอดขายตกไปเกือบ 30 % ผู้ผลิตและจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภคบางบริษัทยอดขายต่ำกว่าเป้าถึงครึ่งหนึ่ง แม้กระทั่งโบเบ๊ สำเพ็ง ก็ประสบปัญหายอดขายตกมากที่สุดในรอบ 16 ปี

    16 ปีแห่งความหลังของวิกฤตเศรษฐกิจไทยมาบรรจบในปีนี้ ต้มยำกุ้งไครซิสที่ทำให้คนทั่วโลกพูดถึงประเทศไทยกำลังจะหวนกลับมาใหม่ ผมยังจำได้ดีถึงความหลังครั้งนั้นที่ผมได้ยินคนขับแท็กซี่ในยุโรปและอเมริกายังต้องบ่นถึงความเดือดร้อนจากที่เศรษฐกิจตกต่ำไปทั่วโลกที่เริ่มจากประเทศไทย และถามผมว่าเมื่อไหร่เศรษฐกิจไทยจะฟื้น (แสดงว่าไทยเราก็สำคัญไม่น้อยนะนี่) โชคดีที่ไม่กี่ปีหลังจากนั้นประเทศเราก็พอฟื้นตัวได้ แต่รอบนี้โปรดระวังให้ดี ด้วยเหตุเพราะครั้งนี้

    ๑. เป็นวิกฤตการบริหารจัดการที่ไม่ใช่ฟองสบู่ที่เกิดจากตลาดเงิน วิกฤตเศรษฐกิจปี ๒๕๔๐ เกิดจากนโยบายการเงินที่ผิดพลาดของทั้งรัฐบาลและธนาคารแห่งประเทศไทย แต่รอบนี้นั้นจะเกิดจากทั้งรัฐบาลและประชาขนใช้จ่ายเกินตัว จนทำให้ฐานะทางการคลังของประเทศมีภาระหนี้สินเพิ่มขึ้นอย่างมาก ดังนั้น เมื่อเกิดวิกฤตแล้ว รัฐบาลจะหาทางแก้ปัญหาได้ยากมาก

    ๒. เป็นปัญหาถึงในระดับรากหญ้าไม่ใช่แค่ชนชั้นกลาง ในปี ๒๕๔๐ ผู้คนที่เดือดร้อนหนักส่วนใหญ่จะเป็นชนชั้นกลางขึ้นไป แต่ระดับชาวบ้านนั้นได้รับผลกระทบแค่ทางอ้อม เพราะไม่ได้รับผลกระทบโดยตรงจากค่าเงินบาทและหุ้นที่ลดลงอย่างมาก แต่ครั้งนี้ประชาชนเกือบทั้งประเทศอยู่ในภาวะหนี้สินสูง ดังนั้น เมื่อเกิดวิกฤตแล้ว จะทำให้กำลังซื้อผู้บริโภคหดหายไปอย่างมาก และเมื่อเกิดการเบี้ยวหนี้ ก็จะเกิดปัญหาต่อเนื่องล้มแบบโดมิโนวงใหญ่

    ๓. เกิดปัญหาขึ้นพร้อมกับประเทศอื่นๆ ในปี ๒๕๔๐ หลายประเทศไม่มีปัญหาเศรษฐกิจ แต่ในเวลานี้ไม่ว่ายุโรป อเมริกา ก็ยังอยู่ในภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ แม้กระทั่งจีนก็ไม่รู้ว่าฟองสบู่จะแตกวันไหน ดังนั้น เมื่อเกิดวิกฤตแล้ว การส่งออกก็จะสะดุดและจะใช้เป็นตัวช่วยไม่ได้อีก และกลายเป็นวิกฤตเศรษฐกิจโลกที่สาหัสกว่าหลังสงครามโลกครั้งที่สอง ตามที่นายอลัน กรีนสแปร์เคยทำนายไว้

    ๔. ความสามารถในการแข่งขันของไทยกับต่างประเทศแย่ลงกว่าแต่ก่อนมาก ในปี ๒๕๔๐ หลังเกิดวิกฤต ภาคการผลิตของไทยส่วนที่ไม่ได้เลิกกิจการ ยังเป็นกำลังหลักในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจใหม่ได้ แต่ในปีนี้ ด้วยนโยบายค่าแรงขั้นต่ำ ๓๐๐ บาท ตลอดค่าสาธารณูปโภคและอื่นๆ ที่สูงขึ้นมาก ไม่ว่าการผลิตภาคเกษตรหรืออุตสาหกรรม ก็ไม่อาจต่อสู้ต้นทุนการผลิตกับต่างประเทศได้ จึงอาจมีการเลิกกิจการจำนวนมากตามมา

    ๕. แรงงานต่างชาติในไทยมหาศาลที่จะสร้างปัญหาหลังวิกฤต ในปัจจุบันมีชาวต่างชาติเข้ามาทำงานในไทยทั้งถูกต้องและผิดกฏหมายนับล้านคน หากพวกเขาไม่มีงานทำ ก็คงเป็นการยากที่จะเดินทางกลับประเทศโดยเร็ว ดังนั้น ปัญหาอาชญากรรมและสังคมก็จะเกิดขึ้นตามมาอย่างมากมาย

    ๖. เกิดขึ้นท่ามกลางปัญหาความขัดแย้งทางการเมือง ในปี ๒๕๔๐ ด้วยสปิริตของผู้นำรัฐบาล จึงมีการเปลี่ยนผู้บริหารประเทศทันที แต่ในปีนี้ ปีที่สีเหลือง สีฟ้า สีแดง ไม่สามารถมองหน้ากันได้ หลังเกิดวิกฤตเศรษฐกิจ อาจจะตามมาด้วยปัญหาการทะเลาะกันรุนแรงทางการเมืองต่อไป โดยไม่คำนึงถึงอนาคตของประเทศชาติ

    ๗. การแข่งขันในธุรกิจแบบโอเว่อร์ซัพพลายเกือบทุกวงการ เนื่องจากหลังวิกฤตเศรษฐกิจปี ๒๕๔๐ เป็นต้นมา มีการเกิดขึ้นใหม่ของธุรกิจจำนวนมาก จนปัจจุบันแทบทุกวงการมีการแข่งขันรุนแรง หากเกิดวิกฤตเศรษฐกิจครั้งใหม่นี้ การดิ้นรนเพื่อความอยู่รอดจะเกิดการแข่งขันตัดราคากันอย่างสุดฤทธิ์เดช และจะทำให้มีธุรกิจล้มตายจำนวนมากกว่าเดิมมาก

    ๘. ไม่สามารถดึงเงินจากต่างประเทศเข้ามากู้วิกฤต ด้วยเหตุที่วิกฤตเศรษฐกิจมีอยู่ทั่วโลก การหวังพึ่งยืมเงินจากกองทุนการเงินระหว่างประเทศ หรือหวังนักลงทุนจากต่างชาติมาช่วยซื้ออสังหาริมทรัพย์หรือธุรกิจไทย หรือแม้กระทั่งจะอาศัยรายได้จากนักท่องเที่ยวต่างชาติ ก็อาจไม่สามารถทำได้แบบในปี ๒๕๔๐

    อันตรายมาก....มันมาใกล้ถึงแล้ว เตรียมตัวรับสถานการณ์ได้แล้วครับ ต้มยำกุ้งไครซิสรอบสอง ที่ผมให้ชื่อใหม่รอแล้วว่า "วิกฤตเศรษฐกิจส้มโอเน่า" เพราะเกิดจากผู้ปลูกใส่ปุ๋ยเกินขนาด และการแก้ไขก็คงจะยากกว่าเดิมมากด้วยเหตุตามที่ได้กล่าวมา

    ที่มา www.oknation.net
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  4. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    คนดีและคนชั่ว จะถูกคัดแยกก่อนภัยพิบัติใหญ่จะมา !!!

    [​IMG]

    Baansuanpyramid

    เราสังเกตกันไหมว่าเดี๋ยวนี้ผู้คนในสังคมต่างแสดงความโหดร้าย ความหยาบคาย และพฤติกรรมลบต่อกันแบบรุนแรงยิ่งขึ้นๆ ซึ่งโดยปกติเราก็มักจะเห็นกันอยู่แล้วในสังคม แต่เดี๋ยวนี้เราจะเห็นผู้คนเหล่านี้กล้าแสดงออกมา และรวมกลุ่มกันแบบชัดเจนเลย แต่นี่คือสัญญาณที่ชัดเจนต่างหากล่ะว่า ก่อนภัยใหญ่จะมาเหล่าผู้คนทั้งหลายจะถูกคัดแยกจากกันอย่างชัดเจนยิ่งๆขึ้นไป คนชั่วก็จะรวมตัวและหาที่ชอบๆอยู่ร่วมกัน

    บุคคลใดที่ชอบความหยาบคาย ลามก ความรุนแรง หรือพฤติกรรมอันไม่น่าพึงกระทำ พลังลบก็จะดึงดูดคนเหล่าเดียวกันเข้ามารวมกัน และคนเหล่านี้ก็จะยิ่งสร้างพฤติกรรมลบทวีความรุนแรงยิ่งขึ้นเมื่อรวมตัวกัน ขณะเดียวกันในหลายๆประเทศพบว่าผู้คน ทั้งชายหญิงต่างร่วมกันสวดมนต์ ทำจิตใจให้สงบ เพื่อสันติสุขของโลก โดยการนัดรวมกันทำกิจกรรมพร้อมกันในช่วงวันเวลาที่กำหนดไว้ ซึ่งเป็นการตื่นตัวในเรื่องของภัยธรรมชาติที่กำลังคุกคามมนุษย์อยู่ และคนเหล่านี้ก็เชื่อว่าความดีจะทำให้ทุกอย่างผ่านไปด้วยดี

    ดังนั้นตอนนี้จงตระหนักให้ดีว่า สิ่งศักดิ์สิทธิ์กำลังมีการคัดแยกคนดีและคนไม่ดีออกจากกัน

    พวกเราจงฉลาดที่จะแสดงออก เลือกคบคน เลือกที่จะใช้สติปัญญา และเร่งทำบุญ ให้ทาน รักษาศีล เจริญภาวนา ทำความดีทุกลมหายใจ อยู่ด้วยการเจริญมรณานุสติเป็นอารมณ์ และมีเป้าหมายคือพระนิพพานในชาตินี้ ไม่ว่าภัยพิบัติจะเกิดหรือไม่ เราก็ไม่สามารถหนีความตายได้ แต่เราสามารถเลือกที่ไปหลังความตายได้ ว่าจะไปที่สูงหรือที่ต่ำ คุณเห็นด้วยไหมล่ะ

    8 สิงหาคม 2012 เวลา 2:11 น.

    ขนม ไทย
    อนุโมทนา สาธุ น่ะค่ะ
    8 สิงหาคม 2012 เวลา 2:13 น.

    Jirapat Mayyaiklang
    ใช่หลังความตายเราจะไปไหน...?(พระนิพพาน)
    8 สิงหาคม 2012 เวลา 2:22 น.

    หนุง หนิง
    นึกถึงอยู่เสมอ...ขอเข้าพระนิพพานในชาติปัจจุบันนี้ด้วยเถิด...
    8 สิงหาคม 2012 เวลา 3:33 น.

    Ratana Wh
    เห็นด้วยอย่างยิ่งค่ะ
    8 สิงหาคม 2012 เวลา 3:38 น.

    ดาเรศ เจริญศิลป์
    เห็นด้วยค่ะ เกิด แก่ เจ็บ ตาย เป็นสิ่งที่เราไม่สามารถหลีกเลี่ยงหรือเลือกได้ แต่ชีวิตหลังความเราสามารถเลือกได้ว่าจะไปอยู่ที่ใด ขอเลือกไปนิพพานด้วยนะคะ
    8 สิงหาคม 2012 เวลา 4:41 น.

    Kwan Kwan W
    เห็นด้วยค่ะ เราควรทำความดีเป็นประจำ ทำทุกวัน ทำเดี๋ยวนี้ ทำให้มากขึ้น อย่าคิดจะทำดีเพราะรักตัวกลัวตาย เพราะความตายมาถึงเราได้ทุกเมื่อ ดังนั้นเราไม่ควรประมาท ควรตั้งใจจะหยุดประกอบกรรมชั่ว เปลี่ยนใจมารักษาศีล ทำทาน ทำสมาธิวิปัสสนา เพื่อจะได้ไปที่สูงหลังความตายดีกว่า
    8 สิงหาคม 2012 เวลา 4:44 น.

    พรหมทองแก้ว ณัชชา
    ณัชชาเห็นด้วยเป็นอย่างยิ่งค่ะ เพราะผู้คนในโลกสมัยนี้เปลี่ยนไปมาก ไม่เหมือนเมื่อก่อนที่มีความช่วยเหลือ เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่กัน อนุโมทนาสาธุ
    8 สิงหาคม 2012 เวลา 4:58 น.

    Mee Unchalee
    เห็นด้วยค่ะเพราะฉะนั้นขณะมีชีวิตอยู่เราควรเลือกทางเดินชีวิตไปในทางที่มีแสงสว่างคบแต่คนดีที่จะหนุนนำชีวิตไปในทางที่ดีสร้างแต่กรรมดีทุกขณะจิตทำบุญให้ทานรักษาศีลให้บริสุทธิ์เจริญภาวนาไม่มีใครที่จะหลีกหนีความตายไปได้แต่เราสามารถเลือกที่ไปหลังความตายได้สิ่งสุดท้ายเป้าหมายคือนิพพานในชาตินี้
    8 สิงหาคม 2012 เวลา 6:56 น.

    Somporn Poon
    ขออนุโมทนาสาธุค่ะ อ.อุบลที่คอยเตือนสติพวกเราตลอดมา ปัจจุบันหน่องจะบอกคนรอบข้างให้ช่วยกันเร่งทำบุญเพราะถ้าเราตายไปจะมีแค่บุญกับบาปติดตัวไปเท่านั้นค่ะ
    8 สิงหาคม 2012 เวลา 6:56 น.

    Benyapa Becks
    สาธุค่ะ
    8 สิงหาคม 2012 เวลา 7:01 น.

    Thang Hwangwan
    พลังลบเยอะเหลือเกินครับในสังคมตอนนี้ เราควรเลือกคบคน อย่าคบคนพาลเป็นมิตร แต่อย่าตำหนิกรรมของผู้ใด ควรช่วยผู้อื่นตามกำลัง หากช่วยไม่ได้ก็ให้ปล่อยวาง วางอุเบกขาซะ ไม่งั้นใจเราก็พลอยหมองไปด้วย
    8 สิงหาคม 2012 เวลา 10:19 น.

    ที่มา https://th-th.facebook.com/Baansuan...comment_id=3992135&offset=0&total_comments=11
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • Untitled.jpg
      Untitled.jpg
      ขนาดไฟล์:
      243.1 KB
      เปิดดู:
      2,654
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 26 กันยายน 2013
  5. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    การเป็นคนดี...เป็นอย่างไร...ทำอย่างไร ?

    [​IMG]

    ผมเชื่อว่าหลายคนเคยตั้งคำถามกับตัวเองว่า เราเป็นคนดีจริงๆหรือเปล่า จะได้คู่ครองเป็นคนดีไหม เมื่อไหร่เราจะได้เจอคนดีๆเสียที แล้วคนดีในความรู้สึกนึกคิดของเราล่ะ...เป็นอย่างไร บางทีเราสามารถพูดเต็มปากได้ไหมว่า เราเป็นคนดี หรือจะบอกว่าเราเป็นคนชั่วเป็นคนเลว....ได้หรือเปล่า

    คนดี ก็คือคนที่ประกอบกรรมดี ทั้งกายวาจาและใจ งดหรือละเว้นกรรมชั่ว ทั้งกายวาจาและใจ นอกจากนั้นยังประกอบด้วย การประพฤติตนอยู่ในศีลในธรรม รู้จักแบ่งปันสิ่งดีๆให้กับผู้อื่น และรู้จักเจริญสติ เพื่อให้เกิดการพัฒนาจิตใจอย่างต่อเนื่อง หรือที่เรียกว่า ทานศีลและภาวนานั่นเอง

    ไม่มีใครหรอกครับ ที่ไม่เคยกระทำความผิดทำความชั่ว เพียงแต่ใครจะคิดได้และเริ่มต้นทำความดี ละความชั่ว หากเราคิดจะเริ่มต้นในการเป็นคนดี การทำความดีสร้างบุญละบาป เพื่อความสุขในชีวิตของเราแล้วล่ะก้อ ขอแนะนำให้เริ่มที่การละเว้นความชั่ว ละเว้นบาปกันเสียก่อน ทางพุทธศาสนาเรียกว่า อกุศลกรรมบถ 10

    อกุศลกรรมบถ 10

    ทางกาย ฆ่าสัตว์ตัดชีวิต ลักทรัพย์ ประพฤติผิดในกาม ทางวาจา พูดเท็จ พูดส่อเสียด พูดหยาบคาย พูดเพ้อเจ้อ ทางใจ มีความโลภ มีความพยาบาท ความโกรธ มีความเห็นผิด

    การงดเว้นพฤติกรรมแห่งการสร้างบาป ทั้งกายวาจาและใจ นั้นสำคัญมาก และเป็นจุดเริ่มต้นในการทำความดี ในการเป็นคนดี ส่วนการเป็นคนดี การทำความดี การสร้างบุญนั้น ให้เริ่มจากการประกอบ บุญกิริยาวัตถุ 10

    บุญกิริยาวัตถุ 10

    ทานการทำทาน การอุทิศบุญกุศลให้ผู้อื่น การยินดีหรืออนุโมทนาความดีของผู้อื่น ศีลการรักษาศีล มีความอ่อนน้อมต่อผู้อื่น ช่วยเหลือขวนขวายรับใช้ผู้อื่น ภาวนา การฟังธรรม การแสดงธรรม การภาวนา (การนั่งสมาธิ, เดินจงกรม เพื่อเจริญสติ) การทำความเห็นให้ตรง หรือมีสัมมาทิฐิ มีความเห็นดี เห็นชอบ

    หากเราหมั่นปฏิบัติกรรมดี และละเว้นกรรมชั่วอย่างสม่ำเสมอ เราจะเริ่มเข้าใจคำว่าคนดีได้ง่ายขึ้น และหลังจากนั้น เราค่อยศึกษาเพิ่มเติม หมั่นทำบุญละบาปสร้างบุญบารมี เพื่อชีวิตที่ดีในวันข้างหน้า ภพข้างหน้าต่อไป หลายคนที่ชอบคิดว่าการทำบุญ จะช่วยล้างบาปได้ หรือการแก้กรรม จะทำให้เราหมดกรรมชั่วได้นั้น ความจริงแล้วกรรมมีทั้ง กรรมดีและกรรมชั่ว

    หากเราทำกรรมดี เราก็จะได้บุญ หากเราทำกรรมชั่ว เราก็จะได้บาป บุญและบาป ไม่สามารถรวมกันได้ ลดทอนกันได้ เพียงแต่การสร้างบุญนั้น อาจช่วยบรรเทาบาปลงได้ ในกรณีที่บุญที่เราสร้างนั้น ส่งผลออกมาในช่วงที่มีบาปพอดี หรือเลื่อนเวลาที่บาปจะส่งผลต่อชีวิตเราออกไปเท่านั้นเอง ดังนั้นสิ่งที่ดีที่สุด ก็คือเลิกทำบาปเสียตั้งแต่วันนี้ บาปกรรมใดก็ตาม ที่เราทำมาทั้งในชาตินี้ หรือก่อนหน้านี้ ก็ให้มีเพียงเท่านั้น ยุติเพียงเท่านั้น

    มาเริ่มทำความดี ..... เป็นคนดี .... กันเถิดครับ

    Posted by วันพุธ , ผู้อ่าน : 31628 , 09:18:21 น.

    ที่มา www.oknation.net
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 กันยายน 2013
  6. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    เหยื่อแผ่นดินไหวปากีฯทะลุหลัก 500 ศพ

    [​IMG]

    ยอดผู้เสียชีวิตจากแผ่นดินไหวรุนแรงทางตะวันตกเฉียงใต้ของปากีสถานเพิ่มขึ้นเป็น 515 ศพแล้ว ขณะที่มีรายงานว่าฝ่ายผู้ก่อความไม่สงบลอบโจมตีปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบภัย

    สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากเขตอวาราน จังหวัดบาลูชิสถาน ประเทศปากีสถาน เมื่อวันที่ 27 ก.ย.ว่า นายบาบาร์ ยากูบ เจ้าหน้าที่ของจังหวัดบาลูชิสถาน เปิดเผยว่า ตัวเลขผู้เสียชีวิตจากเหตุแผ่นดินไหวรุนแรงวัดได้ 7.7 ริคเตอร์ ในเขตอวาราน จังหวัดบาลูชิสถาน ทางตะวันตกเฉียงใต้ของปากีสถาน เมื่อวันที่ 24 ก.ย.ที่ผ่านมา เพิ่มขึ้นเป็น 515 ศพแล้ว เพราะมีการพบศพเพิ่มเติมภายในบ้านเรือนราษฎรที่พังถล่ม เพราะเป็นบ้านที่สร้างด้วยดินโคลน และ ไม้ จึงพังได้ง่าย รวมแล้วกว่า 1,500 หลังคาในเขตอวาราน

    เจ้าหน้าที่ของบาลูชิสถาน กล่าวต่อไปว่า ชาวบ้านเข้ามาร้องเรียนต่อเจ้าหน้าที่ว่า อยากได้เต็นท์สำหรับพักอาศัยชั่วคราว เพราะขณะนี้สภาพอากาศร้อนจัดในตอนกลางวัน

    พื้นที่ประสบเหตุนี้ ยังเป็นฐานที่มั่นสำคัญของกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบที่ต้องการแบ่งแยกดินแดนในจังหวัดบาลูชิสถาน ซึ่งได้ลงมืออย่างน้อยสองครั้งด้วยการยิงจรวดเข้าใส่เฮลิคอปเตอร์ของกองทัพปากีสถาน ซึ่งลงพื้นที่ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบภัยแผ่นดินไหว นำสิ่งของช่วยเหลือ ไปมอบให้กับผู้ประสบภัย แต่โชคดีที่จรวดพลาดเป้าหมาย

    เดลินิวส์ วันศุกร์ที่ 27 กันยายน 2556 เวลา 20:35 น.

    ยูเอ็นชี้โลกจะร้อนขึ้นในศตวรรษนี้

    [​IMG]

    คณะกรรมการระหว่างรัฐบาลของสหประชาชาติ(ยูเอ็น)ระบุว่า อุณหภูมิโลกจะเพิ่มสูงขึ้นระหว่าง 0.3 ถึง 4.8 องศาเซลเซียสในศตวรรษนี้

    สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงสตอกโฮล์ม ประเทศสวีเดน เมื่อวันที่ 27 ก.ย. โดยอ้างคำกล่าวของคณะกรรมการระหว่างรัฐบาลว่าด้วยภูมิอากาศเปลี่ยนแปลง(ไอพีซีซี)เมื่อวันศุกร์ว่า เป็นที่แน่นอนแล้วว่า มนุษย์เป็นต้นเหตุของโลกร้อน และคาดว่า อุณหภูมิจะเพิ่มสูงขึ้นระหว่าง 0.3 ถึง 4.8 องศาเซลเซียสในศตวรรษนี้ นอกจากนั้น ไอพีซีซียังระบุด้วยว่า ระดับน้ำทะเลจะเพิ่มขึ้นระหว่าง 26-82 เซนติเมตรในปี 2643

    ไอพีซีซี ซึ่งเคยพิชิตรางวัลโนเบลมาแล้วบอกว่า มีความน่าจะเป็นมากที่สุดถึงร้อยละ 95 ที่ว่า มนุษย์เป็นสาเหตุของโลกร้อนขึ้นในช่วง 60 ปีที่ผ่านมา ซึ่งเพิ่มมากขึ้นจากรายงานครั้งที่แล้วเมื่อปี 2550 ครั้งนั้น ไอพีซีซี เชื่อมั่นว่า มนุษย์เป็นต้นเหตุของโลกร้อนถึงร้อยละ 90 สำหรับการคาดหมายโลกร้อนขึ้นในศตวรรษนี้มาจากการใช้คอมพิวเตอร์จำลองแนวโน้มของการปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่ดักความร้อน โดยเฉพาะจากถ่านหิน น้ำมัน และแก๊ส ซึ่งเป็นพลังงานหลักที่ใช้กันอยู่ในทุกวันนี้

    แต่ถ้ามองในแง่ดี มีโอกาสที่เราจะได้เห็นอุณหภูมิเฉลี่ยของโลกเพิ่มขึ้นอีก 1.0 องศาเซลเซียสในปี 2643 หรือปีค.ศ.2100 จากระดับปี 2543 หรือปีค.ศ.2000 ที่อยู่ระหว่าง 0.3 ถึง 1.7 องศาเซลเซียส ซึ่งหนึ่งในหลายปัจจัยที่ทำให้โลกร้อนขึ้นเริ่มจากการปฏิวัติอุตสาหกรรม

    เดลินิวส์ วันศุกร์ที่ 27 กันยายน 2556 เวลา 18:33 น.

    เรือยามฝั่งจีน 4 ลำ ป่วนน่านน้ำญี่ปุ่น

    [​IMG]

    หน่วยยามฝั่งญี่ปุ่นระบุ เรือยามฝั่งของจีน 4 ลำ แล่นเข้ามาในน่านน้ำนอกหมู่เกาะที่เป็นกรณีพิพาทอีกครั้ง

    สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น เมื่อวันที่ 27 ก.ย. ว่า เรือจีน 4 ลำได้แล่นเข้ามาในน่านน้ำที่เป็นกรณีพิพาทกับญี่ปุ่น ซึ่งเป็นเวลาหนึ่งสัปดาห์ หลังจากจีนระบุว่า เป็นไปได้สำหรับการเจรจา หากญี่ปุ่นยอมรับว่า มีข้อพิพาทเกี่ยวกับอธิปไตยของเกาะ หน่วยยามฝั่งญี่ปุ่นรายงานว่า เรือยามฝั่งของจีน 4 ลำได้แล่นเข้ามาในน่านน้ำระยะ 12 ไมล์ทะเลนอกหมู่เกาะเซนกากุในภาษาญี่ปุ่นหรือเตียวหยูในภาษาจีน เมื่อเวลาประมาณ 15.00 น. ตามเวลาท้องถิ่นหรือตรงกับ 13.00 น. ตามเวลาในไทย ซึ่งนับเป็นครั้งแรกในรอบ 8 วันที่มีรายงานข่าวว่า เรือจีนแล่นเข้ามาในน่านน้ำพิพาท

    เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว นายหวัง หยี่ รมว.ต่างประเทศจีนกล่าวว่า ทางการปักกิ่งเตรียมที่จะนั่งโต๊ะเจรจากับญี่ปุ่น ตราบใดที่ญี่ปุ่นยอมรับว่า มีความขัดแย้งเกี่ยวกับอธิปไตยของหมู่เกาะดังกล่าว แต่ญี่ปุ่นไม่ยอมรับว่า เป็นข้อพิพาท เพราะเกรงว่า จะสร้างความชอบธรรมให้แก่จีนในการอ้างสิทธิเหนือเกาะเช่นกัน

    เดลินิวส์ วันศุกร์ที่ 27 กันยายน 2556 เวลา 17:47 น.

    ที่มา เดลินิวส์ | อ่านความจริง อ่านเดลินิวส์
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 กันยายน 2013
  7. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    ตุลาอาถรรพณ์ วันมหาสงคราม เจ้ากรรมนายเวร !!!

    [ame=http://www.youtube.com/watch?v=q8dm3UD73LE&feature=player_embedded#t=1254]154# ตุลาอาถรรพณ์ 3/4 - YouTube[/ame]​

    ที่มา http://www.jitchakraval.com/home/
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 28 กันยายน 2013
  8. ไฟฉาย

    ไฟฉาย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    88
    ค่าพลัง:
    +112
    ข่าวใน msnข่าว บอกว่า "อึ้ง! รายงานรั่ว UN เผยโลกไม่ได้ร้อนขึ้น" แล้วจะเชื่ออันไหนละเนี่ย
     
  9. Nat_usp

    Nat_usp เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    676
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +2,394
    [​IMG]

    สื่อนอกจัดอันดับ 10 ทฤษฎี ความเป็นไปได้ ที่ทำให้เกิด โลกาวินาศ วันสิ้นโลก

    Mthai News : เว็บไซต์ เทเลกราฟ ประเทศอังกฤษ รายงาน 10ทฤษฎี ความเป็นไปได้ที่ทำให้เกิดโลกาวินาศ โดยยกหลักฐาน พร้อมให้คะแนนความเป็นไปได้ที่จะเกิดขึ้น ดังนี้



    [​IMG]

    Mthai News : 1.การบุกรุกจากมนุษย์ต่างดาว และการยึดครองจากสิ่งมีชีวิตนอกโลก

    เรื่องราวของมนุษย์ต่างดาว เป็นเรื่องที่ยังคงถกเถียงกันมาเป็นเวลานาน ยังไมีใครสามารถยืนยันได้ว่า นนุษย์ต่างดาวมีจริงหรือไม่ แต่อย่างไรก็ตาม มีผู้อ้างว่า พบเห็นมนุษต่างดาว ยานอวกาศ อย่างต่อเนื่อง

    การบุกรุกจากมนุษย์ต่างดาวเคยเป็นเรื่องราวในนวนิยาย ไม่ว่าจะเป็นจากดาวอังคาร และดาวดวงอื่นๆ? แต่ทว่า มนุษย์ก็ยังคงหวาดกลัวว่า เหตุดังกล่าวอาจเกิดขึ้นจริงขึ้นมาก็ได้ อีกทั้งหลักฐานต่างๆที่พบ ยิ่งสนับสนุนทฤษฎีนี้

    หลักฐาน ภาพถ่าย วีดิโอ การเคลื่อนไหวของรัฐบาลจากประเทศต่างๆที่มีการเตรียมพร้อมรับมือ และตรวจสอบยานอวกาศนานกว่า 50 ปี

    คะแนนความเป็นไปได้ 0.1 เต็ม 10



    [​IMG]

    Mthai News : 2.ดาวปริศนา Nibiru (Planet X)

    ยังคงเป็นที่ถกเถียงและหาทางพิสูจน์กันอยู่ว่า ดาวลึกลับในตำนาน มีอยู่จริงหรือไม่? และถ้ามี ตอนนี้มันอยู่ที่ไหน?

    ดาวดังกล่าวถูกเชื่อมโยงถึงเรื่องปรากฏการณ์วันสิ้นโลก อยู่ในกาแลกซี่เดียวกับโลกของเรา มีชื่อตั้งทางวิทยาศาตร์ว่า นิบิรุ (Nibiru) เส้นทางการเดินทางของวงโคจรดาว นิบิรุ มีความเป็นไปได้ที่มันจะโคจรมาทับเส้นเดียวกับวงโคจรของโลก นั่นแสดงว่า มันมีสิทธิชนโลกได้ คาดว่าในปี 2012 เราสามารจะเห็นดาวนิบิรุ ใหญ่ขนาดดวงอาทิตย์ เพราะมันโคจรใกล้กับโลกของเราเต็มที

    หลักฐาน องค์การนาซ่า (NASA)ได้ออกมาเปิดเผยข้อมูลดังกล่าวในปี ค.ศ.2005 แต่ทั้งนี้ ข้อมูลดังกล่าวมีการเปิดเผยน้อยมาก และยังไม่แน่นพอ

    คะแนนความเป็นไปได้ 0.2 เต็ม 10



    [​IMG]

    Mthai News : 3.ภัยพิบัติจากดวงอาทิตย์

    ตามปฏิทินของชาวมายัน โดยอ้างอิงตามหลักวิทยาศาสตร์ เชื่อว่าดวงอาทิตย์จะนำโลกไปสู่หายนะในปี 2012 การขับแก๊ส และการปะทุของดวงไฟขนาดใหญ่ สร้างความเสียหายแก่มวลมนุษย์ และระบบนิเวศในโลกจนสิ้น

    หลักฐาน ปฏิทินของชาวมายัน อาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับทฤษฎีนี้ เนื่องจากมีการสังเกตวงโคจรของดวงอาทิตย์กว่า 11 ปี แม้หลักฐานค่อนข้างอ่อน แต่แสงจากดวงอาทิตย์ ก็สามารถสร้างปัญหาให้กับมนุษย์ได้ เช่น ระบบดาวเทียม การเดินทางของนักบินอวกาศ หากในอนาคต ดวงอาทิตย์หมดเชื้อเพลิงในการขับเคลื่อน นักวิทยาศาตร์ต่างเชื่อว่า ดวงอาทิตย์จะขยายตัวเป็นเชื้อเพลิงสีแดงขนาดใหญ่ เขมือบโลกจนวินาศ

    คะแนนความเป็นไปได้? 0.3 เต็ม 10



    [​IMG]

    Mthai News : 4.การเปลี่ยนขั้วของสนามแม่เหล็ก

    สนามแม่เหล็กหลักที่ถูกสร้างขึ้นโดยกระแสการไหลอันรุนแรงของเหล็กที่หลอมเหลวของ แกนรอบนอกของโลกนั้น บางครั้งจะกลับทิศทางของมัน ด้วยเหตุนี้เข็มของเข็มทิศจะชี้ไปทางใต้แทนที่จะชี้ไปทางเหนือ การกลับหัวของขั้วเช่นนี้ เคยเกิดขึ้นนับร้อยครั้งที่ช่วงระยะเวลาไม่แน่นอนในประวัติศาสตร์ของโลก? ครั้งล่าสุดก็ประมาณ 780,000 ปีก่อน แต่นักวิทยาศาสตร์นั้นก็ยังพยายามที่จะศึกษาว่า มันเกิดขึ้นได้อย่างไร และทำไมมันถึงได้เกิดขึ้น

    เหตุนี้เองเป็นหนึ่งในทฤษฎีที่ถูกเชื่อว่า จะเป็นสาเหตุให้การหมุนของโลกปั่นป่วน เกิดความหายนะตามมา

    หลักฐาน นักวิทยาศาสตร์ และนักวิจัยจากมหาวิทยาลัย Princeton และ Paul Sabatier ประเทศฝรั่งเศส ชี้ให้เห็นว่า โลกของเรามีการหมุนตัวกลับทิศด้วยตัวมันเองมานานกว่า 800 ล้านปี นอกจากนี้ยังมุ่งความสนใจไปยังหินที่บรรจุหลักฐานของจำนวนครั้งที่สนามแม่เหล็กหลัก เหนือใต้นั้นได้อ่อนกำลังลง ซึ่งเป็นสัญญาณหนึ่งที่บอกว่าขั้วแม่เหล็กนั้นอาจจะกลับทิศทาง

    คะแนนความเป็นไปได้? 1 เต็ม 10



    [​IMG]

    Mthai News : 5.การระเบิดภูเขาไฟครั้งร้ายแรงที่สุด

    การปะทุของวันสิ้นโลก เป็นการระเบิดครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ โดยนักวิทยาศาสตร์เชื่อว่า แมกม่าขนาดใหญ่จะขยายตัวภายในเปลือกโลก จนกระทั่งปะทุออกมา ผลก็คือ พื้นที่โลกมหาศาลถูกทำลายล้าง

    หลักฐาน หลักฐานภาพถ่ายดาวเทียมของผิวโลกพบว่า มีการเปลี่ยนแปลง และการเคลื่อนไหวของหินหลอมละลาย 10 ไมล์ ใต้ผิวโลก

    คะแนนความเป็นไปได้? 1 เต็ม 10



    [​IMG]

    Mthai News : 6.สงครามโลกครั้งที่สาม

    การขัดประโยชน์กันเอง นำไปสู่ภัยพิบัติที่เกิดจากน้ำมือของเหล่ามวลมนุษย์ ทุกชีวิตจะล้มตาย ส่วนที่เหลือ จะได้รับความลำบากทุกข์ยาก ขาดแคลนทั้งเสบียง อาหาร น้ำดื่ม มนุษย์จะฆ่ากันเอง พื้นที่หลายส่วนจะถูกลบทิ้งออกจากแผนที่โลก บางแห่งอาจจะหายไปทั้งประชากรและแผ่นดิน สิ่งที่ไม่น่าเกิดก็จะเกิดขึ้น รวมถึงภัยพิบัติต่างๆตามธรรมชาติ ที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ

    ที่ผ่านมามีการแข่งขันด้านระเบิดนิวเคลียร์จากทั้งฝ่ายตะวันตก และตะวันออก มีการสะสมอาวุธนิวเคลียร์อย่างต่อเนื่องตลอดปี 1970 และ 1980

    หลักฐาน สงครามระหว่างประเทศเพิ่มระดับความขัดแย้งเป็นระดับโลก อาทิ สงครามเกาหลีเหนือ-ใต้ การเตรียมความพร้อมระเบิดนิวเคลียร์ในจีน มหาอำนาจยักษ์ใหญ่

    คะแนนความเป็นไปได้? 1.5 เต็ม 10



    [​IMG]

    Mthai News : 7.โลกาวินาศจากเหตุก่อการร้าย

    ตั้งแต่การโจมตีก่อการร้าย ในกรุงนิวยอร์ค และวอชิงตัน สหรัฐ เมื่อวันที่ 11 กันยายน ปี 2001 ที่ผ่านมา มีผู้เสียชีวิตทั้งสิ้นกว่า 3 พันคน กลุ่มก่อการร้ายอัลเคดาห์ และกลุ่มก่อการร้ายอื่นๆ มีบทบาทสร้างความหวาดกลัวแก่มวลมนุษยชาติ ทั้งการสะสมอาวุธสงคราม การทำลายล้างสิ่งก่อสร้าง การปล่อยสารเคมี และการโจมตีทางชีวภาพ ทั้งอังกฤษ และสหรัฐถูกตั้งเป้าเป็นแหล่งโจมตีของกลุ่มก่อการร้าย

    หลักฐาน บิน ลาดิน? ผู้ก่อตั้งขบวนการอิสลามแนวหน้านานาชาติเพื่อสงครามศักดิ์สิทธิ์ต่อต้านชาวยิว และพวกคริสเตียน (Interna-tional Isalamic Front for Jihad Against the Jews and Crusaders) ได้ให้สัมภาษณ์โจมตีอย่างรุนแรงถึงรัฐบาลอเมริกัน ว่าเป็นพวกโหดเหี้ยม ทำร้ายรวมถึงเข้าครอบครองพื้นที่มุสลิม โดยสนับสนุนอิสราเอล และประกาศจะให้บทเรียนที่สาสม ในวัน “ดำมืด” แก่สหรัฐอเมริกา รวมถึงพลเมืองที่ต้องรับผิดด้วย ทั้งนี้ เชื่อกันว่า กลุ่มก่อการร้ายเหล่านี้ มีการสะสมอาวุธนิวเคลียร์จ้องสังหารอยู่

    คะแนนความเป็นไปได้? 2 เต็ม 10



    [​IMG]

    Mthai News : 8.วิกฤติน้ำมัน

    ไม่ว่าจะใช้ความพยายามเท่าใด ปริมาณน้ำมันที่ได้จากการสำรวจขุดเจาะ ก็จะลดลง แนวคิดนี้มาจากการสังเกตปริมาณน้ำมันของแต่ละบ่อที่ขุดเจาะ และเมื่อรวมถึงผลผลิตน้ำมันโดยรวม เมื่อถึงจุดที่สามารถผลิตน้ำมันที่ได้จากแหล่งปิโตรเลียมสูงสุดแล้ว หลังจากนั้น ปริมาณน้ำมันที่สำรวจขุดเจาะได้จากธรรมชาติจะลดลงอย่างรวดเร็ว เพราะในขณะเดียวกัน ความต้องการใช้พลังงานก็จะมีแนวโน้มที่สูงขึ้น เข้าลักษณะอุปสงค์สูงกว่าอุปทาน ไปถึงจุด Peak Oil นั่นคือ?จุดที่ไม่มีน้ำมันเหลืออยู่? กระทบต่อสภาพเศรษฐกิจ และอุตสาหกรรมทั่วโลก

    หลักฐาน จุดวิกฤติน้ำมัน เริ่มใกล้เข้ามาทุกที แต่ยังมีคำถามอยู่ว่า
    1.มันจะเกิดขึ้นเมื่อไหร่
    2.โลกจะพัฒนาให้มีเชื้อเพลิงใช้เป็นทางเลือกอื่นอีกหรือไม่

    คะแนนความเป็นไปได้? 4 เต็ม 10




    [​IMG]

    Mthai News : 9.ปรากฏการณ์ Colony Collapse Disorder (CCD) การล่มสลายของผึ้ง

    ผู้เลี้ยงผึ้งในสหรัฐรวม 22 มลรัฐ? พบว่าผึ้งที่เลี้ยงอยู่กว่าร้อยละ 50 หายสาบสูญไปจากรัง? ปล่อยให้นางพญาและตัวอ่อนอดตายคารัง? ปรากฏการณ์? CCD นี้ยังเกิดลุกลามไปยุโรป? คือ โปแลนด์ สเปน สวิตเซอร์แลนด์ และเยอรมนี? สาเหตุที่เดากันและพยายามหาคำตอบอยู่ในเวลานี้สันนิษฐานว่า
    1.เป็นเพราะผลกระทบจากมลพิษในสิ่งแวดล้อม
    2.การเกิดโรคระบาด
    3.การใช้ยาฆ่าแมลง
    4.ผลจากการที่พืชตัดต่อพันธุกรรมเข้าไปปนเปื้อนกับธรรมชาติ
    5.คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าจากสายส่งไฟฟ้าแรงสูง

    ดังนั้น กุญแจสำคัญในการดำรงชีวิตของมนุษย์จะขาดหายไป อันเนื่องจาก วัฏจักรสิ่งมีชีวิตในระบบนิเวศไม่สมบูรณ์ อาหารที่ผลิตโดยผึ้งขาดแคลน อาทิ ถั่วเหลือง องุ่น แอปเปิล ทานตะวัน และอื่นๆ

    หลักฐาน การสูญหายไปจากรังของผึ้ง ลุกลามไปยังพื้นที่ยุโรป

    คะแนนความเป็นไปได้? 7 เต็ม 10



    [​IMG]

    Mthai News : 10 การล่มสลายของสิ่งแวดล้อมและสิ่งมีชีวิต

    การเปลี่ยนแปลงทางสภาพภูมิอากาศ หรือภาวะโลกร้อน นำไปสู่หายนะโลกาวิบัติในไม่ช้า เห็นได้จากภัยพิบัติทางธรรมชาติที่ผ่านมา เป็นสิ่งบ่งชี้ถึงผลกระทบที่จะเกิดขึ้น มนุษย์ ซึ่งต้องพึ่งพาสิ่งแวดล้อมได้รับผลกระทบโดยตรง

    หลักฐาน อุณหภูมิโลกที่เพิ่มสูงขึ้นในทุกๆปี การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ

    คะแนนความเป็นไปได้? 7 เต็ม 10


    ที่มา : เผย 10 ทฤษฎี ความเป็นไปได้ สู่ยุค โลกาวินาศ | ข่าว ข่าวรายวัน ข่าววันนี้ ข่าวการเมือง
     
  10. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    สหรัฐเสี่ยงปิดสำนักงานภาครัฐ ทำหุ้นสำคัญดิ่ง

    [​IMG]

    รัฐบาลสหรัฐวุ่น มีสิทธิ์ปิดสำนักงานภาครัฐบางส่วน หากรัฐสภาไม่ลงมติผ่านร่างกฎหมายงบประมาณรายจ่ายทันเส้นตายวันที่ 1 ตุลาคมนี้ ทำให้ตลาดหุ้นวอลล์ สตรีท ดิ่งลงทั่วหน้า

    สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานจากนครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐ เมื่อวันที่ 28 ก.ย.ว่า หุ้นสหรัฐปิดตลาดเมื่อวานนี้ ปรับตัวลดลง และเอสแอนด์พี 500 และดาวโจนส์ ลดลงเป็นสัปดาห์แรกในรอบ 4 สัปดาห์ ขณะที่ สมาชิกรัฐสภาพรรคเดโมแครตและรีพับลิกัน พยายามอย่างหนักในอันที่จะตกลงผ่านร่างงบประมาณรายจ่ายฉุกเฉิน เพื่อหลีกเลี่ยงการปิดหน่วยงานของรัฐบาล โดยเอสแอนด์พี 500 ลดลงร้อยละ 1.1 ในสัปดาห์นี้ และต่ำกว่าสถิติสูงสุดที่ทำไว้เมื่อวันที่ 18 กันยายน ประมาณร้อยละ 2 เมื่อธนาคารกลาง หรือเฟด ประกาศว่าจะยังคงรักษาโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจเอาไว้โดยยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงต่อไป

    ทั้งนี้ สหรัฐเหลือเวลาอีกไม่มากแล้ว สำหรับสมาชิกรัฐสภาที่จะหลีกเลี่ยงการปิดการดำเนินงานของรัฐบาลในบางส่วนภายในวันที่ 1 ตุลาคมนี้ สมาชิกพรรครีพับลิกันในสภาผู้แทนราษฎร ต้องการใช้กฎหมายรายจ่ายเพื่อรองรับการปฏิรูประบบประกันสุขภาพฉบับใหม่ ซึ่งเป็นเป้าหมายหนึ่งของพรรคที ปาร์ตี้ พรรคอนุรักษ์นิยม

    วุฒิสภาผ่านร่างกฎหมายรายจ่ายฉุกเฉินเมื่อวานนี้ ซึ่งจะทำให้สำนักงานของรัฐบาลสหรัฐดำเนินงานต่อไปได้หลังจากวันที่ 30 กันยายน แต่มาตรการดังกล่าวต้องผ่านความเห็นชอบในสภาผู้แทนราษฎร ที่พรรคลิพับลิกันครองเสียงข้างมาก ซึ่งจะคาดการณ์คงมีการโต้เถียงกันอย่างหนัก โดยสภาผู้แทนราษฎรอาจลงมติร่างกฎหมายดังกล่าวในการประชุมวิสามัญไม่วันเสาร์ก็วันอาทิตย์นี้

    ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ลดลง 70.06 จุด หรือร้อยละ 0.46 อยู่ที่ 15,258.24 จุด, เอสแอนด์พี ลดลง 6.92 จุด หรือร้อยละ 0.41 อยู่ที่ 1,691.75 จุด และแนสแดค ดิ่งลง 5.83 จุด หรือร้อยละ 0.15 ปิดที่ 3,781.59 จุด

    เมื่อคิดเป็นสัปดาห์ ดาวโจนส์ ลดลงร้อยละ 1.3 และแนสแดค เพิ่มขึ้นร้อยละ 0.2 โดยก่อนปิดตลาด ประธานาธิบดีบารัค โอบามา เรียกร้องให้ส.ส.พรรครีพับลิกัน หลีกเลี่ยงการปิดสำนักงานของรัฐ โดยไม่ต้องยกเลิกกฎหมายประกันสุขภาพ หรือเงื่อนไขอื่น ๆ

    เดลินิวส์ วันเสาร์ที่ 28 กันยายน 2556 เวลา 07:34 น.

    "เพนตากอน" ประกาศงดจ่ายเงินเดือนทหารหลังรัฐบาลส่อโดนตัดงบ

    [​IMG]

    กระทรวงกลาโหมสหรัฐ ( เพนตากอน ) แจ้งให้เจ้าหน้าที่เตรียมผลัดกันลาหยุดโดยไม่รับค่าจ้าง พร้อมกับประกาศงดจ่ายเงินเดือนให้ทหาร หลังมีความเป็นไปได้สูงที่รัฐบาลต้องเข้าสู่ภาวะ "โกเวอร์เมนท์ ชัตดาวน์" ผลพวงจากการที่สภาคองเกรสไม่อนุมัติงบประมาณ

    สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงวอชิงตัน ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 27 ก.ย.ว่านายแอชตัน คาร์เตอร์ รมช.กระทรวงกลาโหมสหรัฐ ( เพนตากอน ) แถลงให้เจ้าหน้าที่ทั้งฝ่ายทหารและพลเรือนของกระทรวง เตรียมรับมือการเข้าสู่ภาวะ "โกเวอร์เมนท์ ชัตดาวน์" หรือภาวะที่รัฐบาลกลางไม่สามารถนำงบประมาณออกมาใช้จ่ายได้ เนื่องจากสภาคองเกรสกับทำเนียบขาวยังมีความเห็นไม่ลงรอยกัน ในเรื่องแผนงบประมาณปี 2557 ที่จะต้องลงมติภายในเที่ยงคืนวันที่ 30 ก.ย. เพื่อให้มีผลบังคับใช้ทันตามกฎหมายในวันที่ 1 ต.ค.

    ทั้งนี้ หากไม่มีการลงมติเกิดขึ้น หรือที่ประชุมไม่เห็นชอบในร่างหลักการ เจ้าหน้าที่ฝ่ายพลเรือนของเพนตากอนราว 400,000 คนจากทั้งหมดเกือบ 800,000 คนทั่วโลก จะต้องเริ่มผลัดเปลี่ยนกันลาหยุดงานโดยไม่รับค่าตอบแทน ส่วนผู้ที่ได้รับสิทธิ์ให้ทำงานต่อ มีแนวโน้มสูงที่จะได้รับการจ่ายค่าตอบแทนช้ากว่ากำหนด "มาก"

    ขณะที่ทหารอเมริกันซึ่งประจำการอยู่ตามฐานทัพทั่วโลกเกือบ 1.4 ล้านนายจะยังคงปฏิบัติหน้าที่ต่อ เพนตากอนยืนยันจะไม่มีการสั่งปลดประจำการทหารหน่วยใดเป็นพิเศษ อย่างไรก็ตาม ทหารทุกนายจะไม่ได้รับการจ่ายค่าตอบแทนจนกว่าสถานการณ์จะกลับเข้าสู่สภาวะปกติ ยกเว้นกองทัพสหรัฐในอัฟกานิสถาน และเรือรบทุกลำที่ประจำการอยู่ใกล้น่านน้ำซีเรีย ซึ่งเจ้าหน้าที่ทั้งฝ่ายทหารและพลเรือนจะยังคงได้รับการจ่ายค่าตอบแทน แต่จะมีการตัดงบประมาณสำหรับการฝึกซ้อมและซ่อมบำรุงสรรพาวุธ

    เดลินิวส์ วันเสาร์ที่ 28 กันยายน 2556 เวลา 08:29 น.

    ยูเอ็นมีมติเอกฉันท์ให้ซีเรียทำลายอาวุธเคมีทั้งหมด

    [​IMG]

    สหประชาชาติ ( ยูเอ็น ) มีมติเป็นเอกฉันท์ครั้งประวัติศาตร์ สั่งให้ซีเรียทำลายอาวุธเคมีทั้งหมด

    สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากนครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 27 ก.ย. ว่าคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ( ยูเอ็นเอสซี ) ทั้ง 15 ประเทศมีมติเอกฉันท์ครั้งประวัติศาสตร์ ผ่านร่างมติหมายเลข 2118 ให้ประณามเหตุการณ์ใช้อาวุธเคมีสังหารหมู่ประชาชนกว่า 1,400 ศพ บริเวณชานกรุงดามัสกัส เมื่อวันที่ 21 ส.ค. พร้อมกับออกคำสั่งเด็ดขาด ให้รัฐบาลซีเรียทำลายอาวุธเคมีที่ครอบครองอยู่ทั้งหมดภายในกลางปี 2557

    มติดังกล่าวถือเป็นความสำเร็จครั้งสำคัญของสหประชาชาติ ( ยูเอ็น ) ที่ต้องการใช้กระบวนการทางการทูตอย่างสันติวิธี เพื่อแก้ไขวิกฤตสงครามกลางเมืองซีเรียที่ยืดเยื้อมานานกว่า 30 เดือน และทำให้มีผู้เสียชีวิตไม่ต่ำกว่า 110,000 ศพ เนื่องจากเป็นที่ทราบกันดีว่า ก่อนหน้านี้รัสเซียและจีน ซึ่งเป็น 2 ใน 5 ประเทศที่เป็นสมาชิกถาวรของยูเอ็นเอสซี ใช้สิทธิ์คัดค้าน ( วีโต้ ) ร่างหลักการของที่ประชุมที่เกี่ยวข้องกับซีเรียมาตลอด จนกระทั่งนายจอห์น แคร์รี รมว.กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐ กับนายเซอร์เก ลาฟรอฟ รมว.กระทรวงการต่างประเทศรัสเซีย สามารถ "ตกลงกันได้" ในการประชุมร่วมกันที่นครเจนีวา ในสวิตเซอร์แลนด์ เมื่อ 2 สัปดาห์ที่แล้ว

    แม้ที่ประชุมทั้ง 15 ประเทศจะเห็นพ้องให้มีการผ่านร่างมติด้วยคะแนนเอกฉันท์ แต่เนื้อหาส่วนหนึ่งที่อ้างอิงจากกฎบัตรยูเอ็นมาตรา 7 ระบุให้มีสามารถมีการแทรกแซงทางทหารได้หากจำเป็น ซึ่งรัสเซียยังคงคัดค้าน เช่นเดียวกับการที่อังกฤษและฝรั่งเศสเสนอให้ศาลอาญาระหว่างประเทศ ( ไอซีซี ) เข้ามาไต่สวนเหตุการณ์ใช้อาวุธเคมีในซีเรีย ที่มอสโกยังคงไม่เห็นด้วย

    อย่างไรก็ตาม นายบัน คี-มูน เลขาธิการยูเอ็น แถลงยกย่องผลการลงมติที่ออกมาว่า เป็นการจุดประกายความหวังแห่งสันติภาพในซีเรีย ที่ทุกฝ่ายรอคอยมายาวนาน ขณะที่ประธานาธิบดีบารัค โอบามา ผู้นำสหรัฐ กล่าวว่า มติของยูเอ็นเอสซีในเรื่องดังกล่าว คือ "ชัยชนะ" ครั้งยิ่งใหญ่ของมวลมนุษยชาติ

    เดลินิวส์ วันเสาร์ที่ 28 กันยายน 2556 เวลา 08:03 น.

    ที่มา เดลินิวส์ | อ่านความจริง อ่านเดลินิวส์
     
  11. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    โลกไม่ได้ร้อนขึ้นจริงหรือไม่ ?

    [​IMG]

    ดูข่าวต่างประเทศ เห็นหิมะตกหนักมากในปหลายๆประเทศที่อยู่เหนือเส้นศูนย์สูตร ก็เลยมีคำถามมาให้ลองคิดกันว่า ในเมื่อโลกกำลังร้อนขึ้น น้ำแข็งที่ขั้วโลกก็ลดน้อยลงไปเยอะ แล้วทำไมอากาศถึงได้หนาวเย็น จนมีหิมะตกมากมายดังกล่าวละครับ ก็คงมีหลายทฤษฎีละครับ ที่อาจจะเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้

    ในส่วนของผมคิดว่า เป็นไปได้ไหมครับ จากการที่หิมะขั่วโลกจะละลายได้นั้น ก็ต้องใช้พลังงานความร้อนที่มากมายมหาศาล และพลังงานความร้อนนั้น ส่วนหนึ่งมาจากซีโอทูที่ทำให้เกิดภาวะเรือนกระจก กักเก็บความร้อนจากแสงแดด ทำให้โลกร้อนขึ้น แต่เมื่อมีการดึงความร้อนหรือพลังงานในอากาศออกไปละลายหิมะเป็นจำนวนมาก พลังงานความร้อนในอากาศก็เลยลดน้อยลงไป เลยทำให้อุณหภูมิของอากาศลดต่ำลงไปมาก จนเกิดหิมะตกแบบผิดปกติในหลายๆพื้นที่

    เปรียบโลกใบนี้เหมือนตู้เย็น มีสามประตู ประตูแรกช่องฟรีซอยู่บนสุด เปรียบเหมือนขั้วโลก ประตูที่สองต่ำลงมาเป็นช่องแช่เย็นทั่วไป คือประเทศที่อยู่เหนือเส้นศูนย์สูตรขึ้นไปมากหน่อย ประตูล่างสุดช่องเก็บผักผลไม้ คือประเทศแถวๆเส้นศูนย์สูตร

    วันหนึ่งตู้เย็นเจ๊ง มอเตอร์เสีย คอลย์เย็นรั่ว ไฟฟ้าดับ ชั้นกั้นระหว่างตู้ทะลุ ฯลฯ น้ำแข็งในช่องฟรีซจะละลาย โดยการดึงเอาความร้อนในอากาศที่อยู่ในอีกสองชั้น ซึ่งเย็นน้อยกว่า ผลก็คือน้ำแข็งในช่องฟรีซเริ่มละลาย และอุณหภูมิในอีกสองชั้นจะต่ำลงไปมากกว่าปกติ แต่เมื่อถึงจุดหนึ่ง ภายในตู้เย็นเน่าๆใบนั้นจะเริ่มร้อนขึ้นเรื่อยๆ ด้วยรังสีความร้อนที่ได้รับจากดวงอาทิตย์ พอฟังได้ไหมครับ

    โดยคุณ Ctan:

    ที่มา www.bybyd.com
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • polarbear1.jpg
      polarbear1.jpg
      ขนาดไฟล์:
      59.1 KB
      เปิดดู:
      1,925
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 28 กันยายน 2013
  12. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    หนี้ครัวเรือนของคนไทยพุ่งสูงสุดในรอบ 5 ปี

    [​IMG]

    หอการค้าเผยผลสำรวจหนี้ครัวเรือนภาคประชาชนสูงที่สุดในรอบ 5 ปี นับตั้งแต่ปี 51 เหตุค่าครองชีพสูงกว่ารายได้ โดยเฉพาะหนี้นอกระบบ แนะรัฐเร่งแก้ปัญหา

    นายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยว่า ได้สำรวจสถานภาพหนี้ครัวเรือนจากประชาชนทั่วประเทศ 1,200 ราย พบว่า มีภาคครัวเรือนที่มีหนี้สินถึง 64% โดยมีหนี้เฉลี่ย 188,774.54 บาทต่อครัวเรือน เพิ่ม 12% จากปี 55 ที่ 168,517.16 บาท ซึ่งถือเป็นการเพิ่มขึ้นสูงสุดในรอบ 5 ปี นับตั้งแต่เริ่มสำรวจในปี 51 ในจำนวนนี้ แบ่งเป็นหนี้ในระบบ 50.4% หนี้นอกระบบ 49.6% มีการผ่อนชำระเฉลี่ยเดือนละ 11,671.93 บาท

    ทั้งนี้ เมื่อถามถึงการเป็นหนี้สิน และการเปลี่ยนแปลงของหนี้ พบว่า ในปี 55-56 มีการก่อหนี้ใหม่เพิ่มขึ้นถึง 10% โดยกลุ่มที่รายได้ต่ำกว่า 5,000 บาทต่อเดือน มีสัดส่วนการก่อหนี้นอกระบบถึง 50% ขณะที่กลุ่มรายได้ 5,000-15,000 บาท จะมีทั้งหนี้ในและนอกระบบ ใกล้เคียงกันที่ 42-44% ส่วนกลุ่มที่รายได้เกิน 15,000 บาท ส่วนใหญ่จะเป็นหนี้ในระบบ 43-46%

    "สาเหตุที่หนี้เพิ่มขึ้นนั้น ผู้ตอบส่วนใหญ่ 23.3% ระบุว่า มาจากค่าครองชีพที่สูงขึ้น รองลงมา 22% เป็นค่าเล่าเรียนบุตรหลาน, 13.5% มาจากการซื้อสินทรัพย์ถาวร เช่น บ้าน รถยนต์ พร้อมกับเสนอแนะให้รัฐบาลแก้หนี้ครัวเรือน ด้วยการลดค่าครองชีพ ลดดอกเบี้ยเงินกู้ ดอกเบี้ยบัตรเครดิต และดูแลราคาก๊าซและน้ำมันไม่ให้สูงเกินไป"

    สำหรับกลุ่มผู้มีรายได้น้อย และผู้ใช้แรงงานที่กู้เงินต่ำกว่า 5,000 บาท มีการกู้เงินนอกระบบสูงสุด และมีปัญหาในการผ่อนชำระ หลังจากที่เศรษฐกิจไทยปีนี้ชะลอตัวลง โดยเฉพาะในเดือนเม.ย.-พ.ค.ได้เห็นสัญญาณการชะลอตัวของเศรษฐกิจชัดเจนขึ้น ทำให้ความสามารถในการจับจ่ายใช้สอยน้อยลง ส่วนกลุ่มตัวอย่างที่มีรายได้ 15,000 บาทขึ้นไป มีการกู้เงินจากบัตรเครดิตเพิ่มขึ้น แต่ยังมีความสามารถในการชำระหนี้ตามกำหนดเวลา และไม่ได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจชะลอตัว

    ดังนั้นสิ่งที่รัฐบาลต้องดูแลคือปัญหาค่าครองชีพของผู้มีรายได้น้อย และราคาสินค้าที่ปรับตัวสูงขึ้น หากผู้มีรายได้น้อย ยังมีรายรับไม่เพียงพอต่อการใช้จ่าย ก็จะกระทบต่อความสามารถในการชำระหนี้ ซึ่งในรอบปีที่ผ่านมาพบว่าถึง 70.6% เคยมีปัญหาในการชำระหนี้ ทำให้สุ่มเสี่ยงต่อการถูกเจ้าหนี้ข่มขู่ และทำร้าย ทำลายข้าวของ หากไม่สามารถชำระหนี้ได้ ที่สำคัญแม้ที่ผ่านมารัฐบาลจะมีนโยบายการปรับเพิ่มค่าแรงงานวันละ 300 บาท แต่ไม่ได้ช่วยให้ค่าใช้จ่ายลดลง มิหนำซ้ำยังมีหนี้เพิ่ม การออมยังน้อยลง.

    เดลินิวส์ วันอังคารที่ 25 มิถุนายน 2556 เวลา 17:04 น.

    ที่มา เดลินิวส์ | อ่านความจริง อ่านเดลินิวส์
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 28 กันยายน 2013
  13. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    ของแพง - เงินฝืด !!!

    [​IMG]

    สัญญาณผิดปกติในระบบเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นตอนนี้ เมื่อเห็นตัวเลขเงินเฟ้อล่าสุดออกมาต่ำมาก แต่บรรดาข้าวของกลับแพงขึ้นไม่หยุด ค่าเงินในกระเป๋าของชาวบ้านลดน้อยลงทุกที เงิน 100 บาทแทบซื้ออะไรไม่ได้

    เมื่อเข้าสู่ยุคของแพง แต่รายได้เท่าเดิม เป็นธรรมดาที่หลายคนต้องประหยัด เพื่อให้เงินในกระเป๋าชักหน้าถึงหลัง ยอมซื้อยอมจ่ายเฉพาะของที่จำเป็น ของแพงมากซื้อน้อยหรือไม่ซื้อเลย ทำให้พ่อค้าแม่ค้า ตอนนี้ต้องลงทุนมากขึ้น เพราะวัตถุดิบแพงทุกอย่าง ทั้งเนื้อสัตว์ ไข่ไก่ ราคาก๊าซหุงต้ม แม้แต่หอม กระเทียม แพงไปหมด แต่ลงทุนมากแล้วกลับขายไม่ดีอีก ก็ยิ่งเดือดร้อน กำไรหาย ทุนหด

    แม้แต่ตอนนี้ปัญหาเงินฝืด หรือ คนไม่ใช้จ่ายเหมือนเดิมจะยังไม่รุนแรง ยังพอขายของได้บ้าง แต่หากปล่อยให้ปัญหาของแพง ทั้งแพงจริง แพงแบบคิดไปเอง หรือรู้สึกไปเอง ต่อไป คนจะยิ่งไม่กล้าใช้จ่าย ปัญหาตามมาเป็นลูกโซ่เลย เริ่มจากคนไม่ใช้จ่าย สิ่งที่ตามมาจะยิ่งขยายวงกว้างมากขึ้น

    แม่ค้าซื้อของมาขายน้อยลง เพราะคนซื้อน้อย ผู้ผลิตก็ต้องลดกำลังการผลิต ไม่ลงทุนเพิ่ม ไม่ขยายกิจการ เลิกจ้างงาน คนตกงานเพิ่มขึ้น สุดท้ายเศรษฐกิจก็ขาดเงินหมุนเวียนในระบบ เศรษฐกิจภาพรวมยิ่งแย่ลง จากที่ชะลอตัวลงอยู่แล้วในเวลานี้

    ความอึดอัดจากปัญหาของแพง ไม่บ่อยนักที่เราจะเห็นการชุมนุมที่ออกมาจี้ให้รัฐบาลเร่งดูแลแก้ปัญหาค่าครองชีพ การชุมนุมของกลุ่มเครือข่ายประชาชนเจ้าของพลังงานไทย และกลุ่มผู้ชุมนุมกองทัพประชาชนโค่นระบอบทักษิณ ที่ออกมาคัดค้านการขึ้นราคาก๊าซหุงต้ม แม้จะไม่ใช่การชุมนุมที่รุนแรง หรือน่าห่วง แต่ก็เป็นสัญญาณที่บอกให้เราและรัฐบาลรู้สึกว่า ปัญหาค่าครองชีพ เป็นปัญหาที่อาจลุกลามได้ หากปล่อยให้กระทบต่อความรู้สุกของชาวบ้านมากๆ และยาวนานต่อไป

    การแสดงออกที่ชัดเจน และจริงจังกับการแก้ปัญหาของแพงเป็นสิ่งที่ชาวบ้านอยากเห็นตอนนี้ อยากเห็นให้ชัดเจนว่ารัฐบาลจะทำอย่างไร จะดูแลแก้ปัญหาอย่างไรไม่ให้ของแพงขึ้นอีก หากรัฐบาลแก้ปัญหาจริงจัง ชาวบ้าน พ่อค้าแม่ค้า นักลงทุนก็จะเชื่อมั่นและยอมลงทุน ยอมใช้จ่าย เงินหมุนเวียนในระบบมากขึ้น เศรษฐกิจก็เดินหน้าได้

    มาตรการขอความร่วมมือให้ผู้ผลิตสินค้าอุปโภคบริโภค อย่าขึ้นราคาสินค้าไปจนถึงสิ้นปี เป็นแนวทางประคับประคองปัญหาไปได้ แต่เอาเข้าจริงๆ ผู้ผลิตไม่ขึ้นราคาของก็จริง แต่ก็ได้ปรับลดน้ำหนักของลง เปลี่ยนหีบห่อ เปลี่ยนรูปภาพหน้าแพ็กเก็จจิ้งใหม่ และโฆษณาว่าเป็นสินค้าใหม่ ราคาแพงขึ้น แบบนี้ก็มี รัฐบาลต้องอย่าเผลอ และเข้ามาดู บางทีของไม่ขึ้นราคาแต่น้ำหนักของลดลง คุณภาพลดลง ก็มี เวลาซื้อของใช้ต้องสังเกตดูดีๆ เปรียบเทียบน้ำหนัก เปรียบเทียบราคาของให้ละเอียด

    เมื่อ่กอนของใช้พวก Refill จะถูกกว่าของที่บรรจุหีบห่อสวยงาม แต่ตอนนี้ของบางอย่างซื้อแบบ Refill มาเติมใส่ขวดกลับแพงขึ้นกว่าซื้อของใหม่มาใช้

    ของใช้อุปโภค บริโภค กระทรวงพาณิชย์มีกฎหมายเข้าไปควบคุมได้ง่าย แต่ที่น่าห่วง และกำลังเดือดร้อนกันเยอะ คือ ราคาอาหารจานด่วน ไม่มีกฎหมายเข้าควบคุมว่า ห้ามขายเกินเท่าไร ตอนนี้ กระทรวงพาณิชย์ทำได้แค่เพิ่มทางเลือกให้ประชาชนด้วย ร้านอาหารธงฟ้า

    ที่ว่าอาหารจานด่วนคุมยาก เพราะวัตถุดิบที่นำมาใช้ ราคาขึ้นลงตามฤดูกาล ราคาหมู ไก่ ผัก แพงทุกฤดูกาล แต่หากปล่อยขึ้นราคาไปแล้ว ไม่ลงเลย ไม่เคยเห็นร้านข้าวแกง ร้านอาหารตามสั่งร้านไหน ปรับราคาขายแพงถูกตามราคาหมู ไข่ ผักเลย

    Tag: เด็ดเศรษฐกิจ 19 ก.ย.56 ของแพง เงินฝืด เงินเฟ้อ ปัญหาสินค้าแพง ค่าครองชีพสูง ราคาอาหารตามสั่ง

    ที่มา เด็ดเศรษฐกิจ : ของแพง เงินฝืด
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  14. prachas

    prachas เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    220
    ค่าพลัง:
    +1,208
    เอาอีกแล้วครับ 6.8-7ริกเตอร์ปากีสถานมันชักยังงัย
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • image.jpg
      image.jpg
      ขนาดไฟล์:
      813.8 KB
      เปิดดู:
      67
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 28 กันยายน 2013
  15. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    โอบามาเตือนวิกฤตคลังรอบใหม่

    [​IMG]

    ประธานาธิบดีบารัค โอบามา แห่งสหรัฐ เตือนวิกฤตการคลังรอบใหม่จะทำให้เศรษฐกิจอเมริกาและโลกไร้เสถียรภาพ

    สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงวอชิงตัน ประเทศสหรัฐ เมื่อวันที่ 28 ก.ย. ว่า ประธานาธิบดีบารัค โอบามา ผู้นำสหรัฐ ออกมาเรียกร้องต่อสมาชิกสภาคองเกรสที่ไม่ยอมประนีประนอม ยุติการทำให้สถานการณ์เสี่ยงอันตราย ด้วยการผ่านร่างกฎหมายงบประมาณรายจ่าย ในขณะที่ รัฐบาลกำลังเดินหน้าเข้าสู่ภาวะที่ต้องหยุดทำการ

    ทั้งนี้ สหรัฐมีเวลา 72 ชั่วโมงในการแก้ไขปัญหางบประมาณรายจ่าย ก่อนที่หน่วยงานต่างๆของรัฐจำเป็นต้องปิดทำการในวันอังคารตามเวลาท้องถิ่น และทหารสหรัฐกว่า 1 ล้านนายยังคงต้องปฏิบัติหน้าที่ต่อไปโดยไม่ได้รับเงินเดือน ซึ่งสภาคองเกรสยังไม่เข้าใกล้กับการหาทางออกให้แก่วิกฤตการคลังที่กำลังปรากฎขึ้นในอเมริกา พรรครีพับลิกัน ที่ครองเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ จะจัดประชุมนัดพิเศษในวันเสาร์ตามเวลาท้องถิ่น เพื่อทบทวนร่างกฎหมายในการทำให้หน่วยงานของรัฐเปิดทำการต่อไป

    ประธานาธิบดีโอบามาบอกว่า ในอีก 3 วันข้างหน้า ส.ส.รีพับลิกันจะต้องตัดสินใจว่า จะเข้าร่วมกับวุฒิสภาในการใช้มาตรการการคลังชั่วคราวหรือไม่ เพื่อให้หน่วยงานของรัฐเปิดทำการได้เหมือนเดิม หรือต้องหยุดทำการ เพราะไม่สามารถหาทางออกร่วมกันได้ นอกจากนั้น ประธานาธิบดีโอบามา กล่าวต่อไปว่า การผิดนัดชำระหนี้จะส่งผลกระทบอย่างรุนแรง ทำให้เศรษฐกิจสหรัฐและทั่วโลกไร้เสถียรภาพ ดังนั้นเราจะต้องหยุดวิกฤตนี้ และจะต้องไม่มีหน่วยงานใดของรัฐปิดทำการ ร่างงบประมาณรายจ่ายต้องผ่านสภาได้ทันเวลา

    เดลินิวส์ วันเสาร์ที่ 28 กันยายน 2556 เวลา 17:07 น.

    ปากีสถานแผ่นดินไหว 6.8 ริคเตอร์

    [​IMG]

    เกิดแผ่นดินไหว 6.8 ริคเตอร์ ทางตะวันตกเฉียงใต้ของปากีสถาน ซึ่งเป็นพื้นที่เดียวกับที่เกิดแผ่นดินไหว 7.7 ริคเตอร์เมื่อกลางสัปดาห์ ที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้วกว่า 350 ศพ

    สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงอิสลามาบัด ประเทศปากีสถาน เมื่อวันที่ 28 ก.ย. สำนักงานสำรวจธรณีวิทยาสหรัฐ ( ยูเอสจีเอส ) รายงานว่า เกิดแผ่นดินไหวรุนแรงขนาด 6.8 ริคเตอร์ มีจุดศูนย์กลางลึกลงไปใต้ดินราว 14 กิโลเมตร ห่างจากเขตอาราวาน ในจังหวัดบาลูคิสถาน ทางตะวันตกเฉียงใต้ของปากีสถาน เมื่อเวลา 12.34 น. ตามเวลาท้องถิ่น ( 14.34 น. ตามเวลาในประเทศไทย )

    เบื้องต้นยังไม่มีรายงานความเสียหายรุนแรงเกิดขึ้น แต่พื้นที่เกิดแผ่นดินไหวครั้งนี้อยู่ในบริเวณเดียวกับพื้นที่ประสบภัยจากแผ่นดินไหวรุนแรง 7.7 ริคเตอร์ เมื่อวันพุธ ที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตเป็นทางการแล้วอย่างน้อย 359 ศพ และไร้ที่อยู่อาศัยอีกกว่า 100,000 คน

    ต่อมานายอับดุล ลาติฟ คาคาร์ หัวหน้าสำนักงานบริหารจัดการวิบัติภัยจังหวัดบาลูชิสถาน เปิดเผยว่า ได้รับรายงานว่ามีผู้เสียชีวิต 12 ศพ และบาดเจ็บ 7 คน

    เดลินิวส์ วันเสาร์ที่ 28 กันยายน 2556 เวลา 15:47 น.

    ญี่ปุ่นปฏิเสธข้อเสนอเจรจากับจีนเรื่องหมู่เกาะพิพาท

    [​IMG]

    ทางการญี่ปุ่นปฏิเสธเจรจากับจีนเรื่องหมู่เกาะพิพาทในทะเลจีนตะวันออก หลังปักกิ่งมีข้อแม้ให้ญี่ปุ่นต้องยอมรับว่า หมู่เกาะแห่งนี้ยังไม่ได้เป็นของประเทศใดประเทศหนึ่ง

    สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากนครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 28 ก.ย. ว่านายกรัฐมนตรีชินโซ อาเบะ ผู้นำญี่ปุ่น แถลงหลังเสร็จสิ้นการเข้าร่วมประชุมสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ ( ยูเอ็นจีเอ ) เมื่อวันศุกร์ ปฏิเสธข้อเสนอของทางการจีน ที่ระบุว่าพร้อมเจรจากับญี่ปุ่น หากอีกฝ่ายยอมรับว่า หมู่เกาะในทะเลจีนตะวันออก ซึ่งมีชื่อเรียกในภาษญี่ปุ่นว่า "เซนกากุ" และ "เตียวหยู" ในภาษาจีน เป็นพื้นที่พิพาทระหว่างทั้งสองประเทศ

    อาเบะยืนยันว่า หมู่เกาะเซนกากุตั้งอยู่ในอาณาเขตทางทะเลของญี่ปุ่น ซึ่งเป็นไปตามหลักฐานทางประวัติศาสตร์และกฎหมายสากล แต่รัฐบาลจีนกลับเป็นฝ่ายละเมิดกฎหมาย ด้วยการส่งเรือรุกล้ำน่านน้ำเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ถือเป็นเรื่องไม่สมควรอย่างยิ่ง และญี่ปุ่นจะไม่ประสงค์จะให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้นอีก อย่างไรก็ตาม โตเกียวยังไม่ต้องการแสดงท่าทีต่อเรื่องดังกล่าวในเวลานี้

    แต่กระนั้นผู้นำญี่ปุ่นกล่าวว่า ยังพร้อมจะฟื้นฟูและสานต่อความสัมพันธ์กับปักกิ่งในเรื่องอื่น เนื่องจากบทบาทของทั้งสองประเทศมีความสำคัญต่อความมั่นคงและเศรษฐกิจในทวีปเอเชียอย่างมาก

    ถ้อยแถลงของอาเบะมีขึ้นหลังนายหวัง อี้ รมว.กระทรวงการต่างประเทศจีน แถลงในที่ประชุมเดียวกัน แสดงความประสงค์ให้มีการเจรจากับญี่ปุ่นเกิดขึ้น แต่มีข้อแม้ว่าอีกฝ่ายต้องยอมรับอย่างเป็นทางการว่า หมู่เกาะในทะเลจีนตะวันออกยังไม่ได้เป็นของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง ขณะที่ในการประชุมเมื่อปีที่แล้ว นายหยาง เจียฉี รมว.กระทรวงการต่างประเทศจีนในเวลานั้น สร้างความไม่พอใจอย่างรุนแรงให้แก่ญี่ปุ่น ด้วยการกล่าวสุนทรพจน์ต่อที่ประชุมยูเอ็นจีเอว่า ญี่ปุ่นเป็นฝ่าย "ขโมย" หมู่เกาะแห่งนี้

    เดลินิวส์ วันเสาร์ที่ 28 กันยายน 2556 เวลา 11:24 น.

    ที่มา เดลินิวส์ | อ่านความจริง อ่านเดลินิวส์
     
  16. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    ปฏิบัติการลวงโลก..?

    [​IMG]

    ทฤษฎีสมคบคิดเรื่องเหยียบดวงจันทร์

    ทฤษฎีสมคบคิดเรื่องเหยียบดวงจันทร์ (อังกฤษ: Moon landing conspiracy theories) อ้างว่า โครงการอะพอลโลและการลงจอดบนดวงจันทร์ที่สืบเนื่องบางส่วนหรือทั้งหมด เป็นการหลอกลวงที่นาซาและสมาชิกองค์การอื่นจัดฉากขึ้น มีหลายปัจเจกบุคคลและกลุ่มได้อ้างการสมคบคิดดังกล่าวมาตั้งแต่กลางคริสต์ทศวรรษ 1970 การอ้างที่โดดเด่นที่สุด คือ การลงจอดที่มีมนุษย์โดยสารไปด้วยทั้งหกครั้ง (ระหว่าง ค.ศ. 1969-1972) เป็นเรื่องกุ และนักบินอวกาศของอะพอลโลสิบสองคนมิได้เดินบนดวงจันทร์

    นักทฤษฎีสมคบคิดมีพื้นฐานข้ออ้างจากความคิดที่ว่า นาซาและองค์การอื่นทำให้สาธารณะหลงผิดเชื่อว่า การลงจอดเกิดขึ้นโดยการผลิต ทำลายหรือยุ่งกับหลักฐาน รวมทั้งภาพถ่าย เทปการวัดและส่งข้อมูลทางไกล การสื่อสัญญาณ ตัวอย่างหินจากดวงจันทร์ และกระทั่งพยานปากสำคัญบางคน นักทฤษฎีสมคบคิดได้จัดการรักษาความสนใจของสาธารณะเอาไว้กับทฤษฎีของพวกตนมาได้นานกว่า 40 ปี แม้จะมีหลักฐานจากฝ่ายที่สามเกี่ยวกับการลงจอดและการหักล้างในรายละเอียดต่อข้ออ้างการหลอกลวงนี้

    การสำรวจความคิดเห็นในหลายสถานที่ได้แสดงว่า ชาวอเมริกันระหว่าง 6% ถึง 20% ที่ถูกสำรวจ เชื่อว่า การลงจอดโดยมีมนุษย์โดยสารไปด้วยนั้นเป็นการกุขึ้น แม้แต่ใน พ.ศ. 2547 เครือข่ายโทรทัศน์รายใหญ่อย่างฟ็อกซ์ ยังออกอากาศสารคดีชื่อ Conspiracy Theory: Did We Land on the Moon? (ทฤษฎีสมคบคิด: เราลงจอดบนดวงจันทร์จริงหรือ) โดยอ้างว่า นาซากุการลงจอดครั้งแรกใน พ.ศ. 2512 เพื่อชนะการแข่งขันด้านอวกาศ

    ตั้งแต่ปลายคริสต์ทศวรรษ 2000 ภาพถ่ายจุดลงจอดของอะพอลโลความละเอียดสูงที่ถ่ายโดยอวกาศยาน LPOC สามารถจับภาพส่วนลงจอดและรอยเท้าที่นักบินอวกาศหลงเหลือไว้ได้ ใน พ.ศ. 2555 มีการเผยแพร่ภาพถ่ายที่แสดงธงอะพอลโลที่ยังตั้งอยู่บนดวงจันทร์ การกล่าวอ้างว่า ภาพ อะพอลโล 11 ลงจอดบนดวงจันทร์ในวันที่ 20 กรกฎาคม พ.ศ. 2512 (ค.ศ. 1969) นั้น ไม่ได้ถ่ายบนดวงจันทร์ แต่ถ่ายทำขึ้นในสตูดิโอภาพยนตร์บนพื้นโลก

    ความคิดนี้เริ่มเป็นที่พูดคุย หลังจากภาพยนตร์เรื่อง แคปริคอร์นวัน (Capricorn One) ออกฉาย ภาพยนตร์นั้นว่าองค์การนาซาได้หลอกลวงชาวโลก โดยสร้างภาพการลงจอดยานที่ดาวอังคาร อย่างไรก็ตาม มีข้อพิสูจน์หลายอย่างว่า ถึงแม้ว่าการสำรวจอวกาศของอะพอลโล 11 จะเป็นเรื่องจริง แต่ภาพถ่ายของ นีล อาร์มสตรอง ถูกถ่ายทำขึ้นบนโลก โดยตามความคิดของรัฐบาลสหรัฐอเมริกา ถึงแม้ว่า นีล อาร์มสตรองจะประสบความสำเร็จหรือไม่ก็ตาม ภาพถ่ายนี่จะออกมาต่อสื่อมวลชนเพื่อสร้างข่าวลือของความสำเร็จของสหรัฐอเมริกา

    ในปี พ.ศ. 2517 ได้มีหนังสือซึ่งเขียนขึ้นโดย บิลล์ เคย์ซิง (Bill Kaysing) ชื่อเรื่องว่า เราไม่เคยไปดวงจันทร์ (We Never Went to the Moon) หรือ หนังสือของ ราล์ฟ มูน ในชื่อเรื่อง นาซาเหยียบสหรัฐอเมริกา (NASA Mooned America) ซึ่งเกี่ยวกับข่าวหลอกลวงที่นาซาสร้างขึ้น และมีมิวสิกวีดีโอเพลง อเมริกา (Amerika, ใช้ตัวอักษร k) ของ แรมม์ไสตน์ (Rammstein) เนื้อเพลงเกี่ยวกับการหลอกลวงในการลงจอดบนดวงจันทร์ ซึ่งนักร้องแต่งชุดเป็นนักบินอวกาศ และฉากหลังเป็นดวงจันทร์

    ข้อกล่าวอ้างถึงแรงจูงใจในการสร้างภาพ

    การสร้างภาพของโครงการอะพอลโล 11 ส่งผลให้ สหรัฐอเมริกาเป็นผู้นำของโลกในทางด้านเทคโนโลยีจากคนอื่นทั่วโลก และชาวสหรัฐอเมริกาเอง และยังทำให้ประเทศอื่นเชื่อว่า สหรัฐฯ มีเทคโนโลยีอื่นรวมทั้งอาวุธต่าง ๆ ซึ่งยังไม่ได้นำออกมาแก่สื่อมวลชน และได้รับชัยชนะเหนือ สหภาพโซเวียต ซึ่งได้นำยานอวกาศขึ้นสำรวจอวกาศก่อนหน้านี้ สาเหตุหลายอย่างที่สนับสนุนให้เกิดการสร้างข่าวลือ ในการเหยียบดวงจันทร์ของสหรัฐอเมริกา เบี่ยงเบนความสนใจ ของเรื่องสงครามเวียดนาม โดยเบี่ยงเบนความสนใจของชาวโลก เรื่องของการโจมตีประเทศเวียดนาม เพื่อหยุดยั้งการขยายตัวของคอมมิวนิสต์

    ชัยชนะในสงครามเย็น โดยสหรัฐอเมริกาได้รับชัยชนะเหนือโซเวียตในเรื่องการสำรวจอวกาศ ซึ่งถือว่าเป็นเทคโนโลยีที่สูงสุดในขณะนั้น ถึงแม้ว่าการสำรวจอวกาศเหมือนที่โซเวียตได้ทำก่อนหน้านี้ ทางสหรัฐสามารถทำได้เช่นกัน แต่การถ่ายทำในสตูดิโอและสร้างข่าวลือ สามารถส่งผลที่ให้เกิดชัยชนะได้แน่นอนและลดค่าใช้จ่ายและความเสี่ยง ส่งผลให้สหภาพโซเวียตล่มสลายในช่วงเวลาต่อมา

    รวบรวมเงิน ซึ่งนาซาได้รวบรวมเงินประมาณ 60,000 ล้านบาทในขณะนั้น (30 billion dollars) สำหรับโครงการสำรวจดวงจันทร์ โดยการสร้างแรงจูงใจให้ชาวสหรัฐอเมริกาและองค์กรต่าง ๆ บริจาคเงินจำนวนมหาศาลได้ โดยเงินสามารถนำมาใช้สำหรับสงครามเวียดนาม ได้โดยไม่มีข้อสงสัยความเสี่ยงสูง ถึงแม้ว่าโอกาสที่จะประสบความสำเร็จในการสำรวจอวกาศจะเป็นไปได้สำหรับสหรัฐอเมริกา แต่ขณะเดียวกันความล้มเหลวก็มีสูงเช่นกัน

    ที่มา ทฤษฎีสมคบคิดเรื่องเหยียบดวงจันทร์ - วิกิพีเดีย

    "เอ็กซ์-ไฟล์" ชาวโลก-มนุษย์ต่างดาว

    รวบรวมเหตุการณ์การเผชิญหน้าระหว่าง มนุษย์โลกกับมนุษย์ต่างดาว นับแต่ปีหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 สิ้นสุดลงหรือนับแต่ปี 1950 หรือ 50 กว่าปีก่อนซึ่งยุคนั้นคนเราได้เจอกับมนุษย์ต่างดาวหลายรูปแบบ และบ่อยครั้งราวกับว่า เป็นยุคที่มนุษย์ต่างดาวจงใจเปิดตัวเองต่อชาวโลกอย่างไรอย่างนั้น

    นักยูเอฟโอ.วิทยา (Ufologist) หรือนักชีววิทยาผู้เชี่ยวชาญสิ่งมีชีวิตจากต่างดาวชาวอังกฤษ แบ่งการเผชิญหน้าระหว่างชาวเรากับชาวเขา(ชาวต่างดาว) มี 3 รูปแบบได้แก่

    1.ได้พบหน้ามนุษย์ต่างดาว และได้พูดจาพูดคุยกัน ตัวต่อตัว
    2. ถูกเชื้อเชิญ หรือการขึ้นยานอวกาศ ยูเอฟโอ.ไปท่องอวกาศ
    3.ได้ติดต่อสื่อสารกับมนุษย์ต่างดาวโดยผ่านสื่อ ทั้งโดยอุปกรณ์สื่อสาร และโดยระบบโทรจิต(ติดต่อกันทางจิต)

    ผู้ศึกษาวิจัย เรียกมนุษย์ต่างดาวในยุคเริ่มแรกว่า “ครึ่งคนครึ่งเทพ”เนื่องเพราะมีอิทธิฤทธิ์ มีเทคโนโลยีสูงส่งกว่ามนุษย์โลกหลายเท่า เอาแค่การสร้างยานอวกาศ มนุษย์ต่างดาวมียานขับเคลื่อนเท่าความเร็ว ได้ไม่เกิน 10 เท่าความเร็วเสียงเท่านั้น การเผชิญหน้าระหว่างชาวโลก ทั้งเป็นชาวบ้านธรรมดาและนักวิชาการ ต่างให้ข้อมูลตรงกันดวงดาวที่อยู่ของมนุษย์ต่างดาวนั้น มีสภาพไม่ต่างไปจากอาณาจักรในอุดมคติของนักปราชญ์ ชาวกรีกเพลโตนั่นคืออาณาจักรยูโทเปีย

    การเผชิญหน้าครั้งสำคัญที่สุด ในประวัติศาสตร์มนุษย์ต่างดาวมาเยือนโลก นับแต่ปี 1950 เป็นต้นมา คือเหตุการณ์วันที่ 20 พฤศจิกายน ค.ศ.1952 โดยหนุ่มชาวอเมริกันชื่อ จอร์จ อดัมสกี ที่กลางทะเลทรายแคลิฟอร์เนีย ซึ่งจอร์จ ได้บรรยายว่า “สิ่งมีชีวิตผู้นั้นเป็นผู้ชายแน่นอน แต่มีความสวยงามราวผู้หญิง เป็นความสวยสดงดงาม และเรือนร่างที่สมบูรณ์แบบที่สุดเท่าที่เคยเจอะเจอมา

    “คนผู้นั้นมีไหล่กว้างตรง ผิวสีทราย ผมสีทองเป็นลอนสลวย รูปร่าง คล้ายชนเผ่าคอเชียน แต่ทั่วทั้งร่างเกลี้ยงเกลา ไม่มีขนหนวดเครา แม้เส้นเดียว”

    สิ่งมีชีวิตจากต่างดาวที่จอร์จ เผชิญหน้า เขาเปิดเผยในเวลาต่อมาว่า ออกมาจากยานทรงกลมสีเทาเงิน จอดอยู่ กลางทะเลทราย ชายคนนั้นสวมใส่ชุดเหมือนถักทอเป็นชิ้นเดียวกันตลอดทั่วร่าง เหมือนเครื่องแบบยูนิฟอร์ม สิ่งมีชีวิตจากต่างดาวติดต่อสื่อสารกับจอร์จ 2 รูป แบบโดยใช้ภาษามือ และใช้พลังจิตโทรจิตส่งสัญญาณเข้าสู่สมองโดยไม่ต้องเปิดปากพูด ต่อมาจอร์จจึงรู้ว่า ชายรูปสวยคนนั้น ชื่อออร์โธน มาจากดาววีนัสหรือดาวพระศุกร์เหตุผลมาที่นี่ก็เพื่อเตือนชาวโลก เกี่ยวกับมหันตภัยจากระเบิดนิวเคลียร์ สามารถทำลายโลกได้

    มนุษย์ต่างดาวออร์โธน อธิบายว่าแม้พลังงานนิวเคลียร์ได้ประโยชน์มาก แต่กำมันตภาพรังสีที่ไม่อาจควบคุมได้ จะเป็นอันตราต่อระบนิเวศน์ของโลกอย่างมหาศาล และได้แนะนำให้ชาวโลกใช้พลังงานที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม คือพลังแม่เหล็กไฟฟ้า ซึ่งงานของเขาได้ใช้พลังงานนี้เดินทางท่องจักรวาล การสนทนาระหว่างจอร์จ ชาวโลกกับออรโธน มนุษย์ต่างดาว ได้ถูกรวบรวมเป็นหนังสือ “จานผี ร่อนลงบนโลก” พิมพ์จำหน่ายเมื่อปี 1953 รวบรวมและเรียบเรียงโดย เดสมอนด์ เลสลีย์ ต่อมาอีก 2 ปี ในปี 1955 หนังสืออีกเล่มก็ออกวางแผงจำหน่ายชื่อ“ประชากร ภายในยานอวกาศมนุษย์ต่างดาว" ซึ่งเป็นเรื่องราวต่อจากการพบปะระหว่างจอร์จ กับออร์โธน โดยออร์โธนได้เชื้อเชิญชาวโลกจอร์จขึ้นไปบนยานอวกาศของเขาด้วย

    บนยานอวกาศลำนั้นจอร์จได้พบกับมนุษย์โลก ซึ่งเป็นแขกรับเชิญด้วยเช่นกัน เป็นชาวอเมริกันอาศัยอยู่ที่นครลอสแองเจลีส ซึ่งยานอวกาศได้ร่อนบินจากโลกมายังดวงจันทร์ ซึ่งเป็นซีกด้านมืดแต่จากแสงสลัวทำให้พอมองเห็นป่าไม้ ทะเลสาบ แม่น้ำถนนหนทางไป และที่ดวงจันทร์ซึ่งเป็นฐานปฏิบัติการแห่งหนึ่ง เพื่อกินอาหารปรุงจากผักล้วน ๆ ไม่มีเนื้อผสม

    จากนั้นเดินทางต่อไปยังดาวพระศุกร์ การเดินทางไปอย่างรวดเร็วมาก เหมือนยานถูกส่งไปด้วยลำแสงส่องจากดวงจันทร์ไปยังดาวศุกร์ ที่นั่นจอร์จเล่าว่าผู้คนต่างมีรูปร่างสวยสดงดงาม เป็นพวกมังสะวิรัติมีอายุยืนถึง 1,000 ปี เคล็ดลับทำให้ออร์โธน และเผ่าพันธุ์ของเขามีอายุยืนมาก ก็เพราะมีเมฆหมอกปกคลุมอย่างถาวร ป้องกันไม่ให้แสงอาทิตย์ส่องมาถึงโดยตรงได้

    อีกรายได้รับการบันทึกอย่าง เป็นทางการถึงการเผชิญหน้าครั้งยิ่งใหญ่ระหว่างคนกับมนุษย์จากต่างดาว คือชาวอเมริกันชื่อ เดเนียล ฟราย ถูกลำแสงดูดขึ้นบนยานอวกาศมนุษย์ต่างดาว ต่อมารู้จักชื่อ เอ-ลาน บอกว่ามาจาก ดาวอังคาร มนุษย์ต่างดาวอู-ลาน และเพื่อน ๆ เล่าว่าเผ่าพันธุ์ของพวกเขาเคยอยู่ที่ดาวอังคารมาก่อน ต่อมาเมื่อ 30,000 ปี ก่อนเกิดสงครามนิวเคลียร์ขึ้น ทำให้มีบางกลุ่มบางคน ขึ้นยานอวกาศหลบหนีภัยพิบัติสงครามล้างโลกมาได้และใช้ชีวิตร่อนเร่อยู่ในอวกาศ บนโลกใดมีสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมก็ไปอยู่อาศัยอย่างลับ ๆ โดยไม่พยายามเปิดเผยตัว

    การเชื้อเชิญเดเนียลขึ้นมาบนยานอวกาศ เพราะต้องการเตือนภัยที่นักวิทยาศาสตร์ชาวโลกกำลังเร่งพัฒนาระเบิดนิวเคลียร์ ซึ่งหากไม่มีการจำกัดการสะสมอาวุธนิวเคลียร์ อีกหน่อยทั่วโลกดวงดาวสีน้ำเงินจะกลายเป็นดวงดาวสีแดงเหมือนดาวอังคาร

    อีกคนได้เผชิญหน้ากับมนุษย์ ต่างดาวอย่างฉันมิตรคือ ออฟีโอ แอง เจลัคชี่ ซึ่งได้เรียกผู้มาจากต่างดาวว่า “พี่น้องจากอวกาศ” ได้เตือนเขาเรื่องการพัฒนาอุตสาหกรรมบนโลก สุดท้ายความเจริญทางวัตถุก็จะทำลายล้างโลกและมนุษยชาติทั้งหมด เขาเสนอให้ชาวโลกนำพลังงานอื่น ๆ มาใช้แทนพลังงานนิวเคลียร์ เมื่อใดมนุษย์สามารถค้นพบ พลังงานทำให้ยานอวกาศเคลื่อนที่ได้เร็วเท่าแสง เท่ากับว่า“ชาวโลกได้ค้นพบสัจธรรม”แล้ว

    ย้อนอดีตไปเมื่อปี 1932 หรือเกือบ 80 ปีก่อน ชาวอเมริกัน โฮเวิร์ด เมงเจอร์ ได้เผชิญหน้ากับมนุษย์ต่างดาว เช่นกันซึ่งขณะนั้่นเขามีอายุแค่ 8 ขวบ ได้พบมนุษย์ต่างดาวรูปร่างเหมือนผู้หญิงนางแบบ เธอบอกกับ ด.ช.โฮเวิร์ดว่าถิ่นที่อยู่มีอยู่ 3 แห่ง คือที่ดาวศุกร์ ดาวอังคาร และดาวเสาร์ พร้อมกันนั้นได้มอบของขวัญแก่โฮเวิร์ด เป็นวิธีการทำ “พลังงานไร้มอเตอร์”เป็นพลังงานไม่ได้เกิดจากตัวมอเตอร์ แต่เป็นพลังงานจักรวาลมีอยู่ทุกที่ใช้ไม่มีวันหมด แต่จนถึงทุกวันนี้ ไม่มีใครสามารถถอดรหัสสูตรการสร้างพลังงานไร้มอเตอร์ได้

    มนุษย์ต่างดาวผู้นี้ได้พาโฮเวิร์ด ขึ้นยานไปเยี่ยมดวงจันทร์ซึ่งเป็นชุมชนแห่งหนึ่งของมนุษย์ต่าวดาว ซึ่งอยู่ใกล้โลก ที่สุด เมื่อเขากลับมายังโลกได้รับพันธุ์มันฝรั่งเป็นของขวัญ ซึ่งเมื่อนำมาปลูกโตกว่ามันฝรั่งบนโลกกว่า 5 เท่ารวมทั้งวิทยาการอื่น ๆ ที่ได้รับการถ่ายทอดมา ต่อมาโฮเวิร์ดได้บอกเล่าวิทยาการทั้งหมดแก่เจ้าหน้าที่จากรัฐบาลสหรัฐหลังจากนั้นเขาไม่เคยรู้อีกเลยว่า “ความรู้” ที่เขาได้รับมานั้น เป็นประโยชน์แก่ชาวโลกอย่างไรบ้าง อย่างไรก็ตามโฮเวิร์ดได้ออก หนังสือ 1 เล่ม หนาแค่ 63 หน้า จดจำได้ถึงวิธีการปรับปรุงดินเหมาะแก่การปลูกพืช รวมทั้งอาหารที่ช่วยลดความอ้วน

    อีกผู้หนึ่งซึ่งได้ชื่อว่าเป็นคนสำคัญในการพบปะระหว่างชาวโลกกับชาวต่างดาว คือบัค แนลสัน เจ้าของไร่เมือง หลังเขาเมืองโอซาร์คส์ รัฐมิสซูรี่ เหตุเกิด เมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม ค.ศ. 1945 ยานยูเอฟโอลำหนึ่งร่อนลงที่สนามหญ้า สำหรับใช้เลี้ยงวัว ก่อนหน้าจะร่อนลงสู่พื้นดิน ยานยูเอฟโอลำนั้นปล่อย แสงนีฟ้าใส่อาบร่างบั๊คขณะที่ยืนมองยานจากต่างดาวอย่างตื่นตะลึง การฉายแสงครั้งนี้ เป็นของขวัญล้ำค่าจากผู้มาเยือนอย่างฉันมิตร บั๊คพลันรู้สึกว่าอาการโรคเรื้อรัง ปวดเอว ปวดหลัง และปลายประสาทอักเสบ หายไปราวปลิดทิ้ง

    ผู้มาจากต่างดาว เชิญชวนเขาไปขึ้นยานเพื่อไปท่องอวกาศ บั๊คเกิดความกลัวจึงให้เพื่อนชื่อบ้อบโซโลมอน และบัคกี้หนุ่มคนงานในไร่ พร้อมหมาตัวโตชื่อโบไปแทน ทั้ง 3 ชีวิต จากโลกหายหน้าไปเป็นจนกระทั่งปลายเดือนเมษายน ปี 1955 ทั้งหมดกลับมายังโลก และได้บอกเล่าเรื่องราวให้ฟังว่า มนุษย์ต่างดาวพาพวกเขาไปหลายแห่ง ทีแรกไปดาวอังคาร ที่นั่นมีห้วยหนองคลองบึงเหมือนบนโลก ชาวอังคารกินแต่ผักไม่กินเนื้อสัตว์

    ต่อมาพาไปเยือนดาวศุกร์ ที่นั่นกลางวันกับกลางคืนมีแค่ 17 ชั่วโมง พวกเขาพบเห็นยานพาหนะที่ใช้กัน คล้ายรถยนต์แต่ร่อนบินเหนือพื้น 3-5 ฟุต “ที่นั่นจึงไม่มีถนน ไม่มีตำรวจจราจร ไม่มีคุกตะราง ไม่มีรัฐบาล ไม่มี นักการเมือง ไม่มีสงคราม ไม่มีการใช้เงินตรา ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนได้มาฟรี ๆ ไม่มีโรคภัยไข้เจ็บ ไม่ต้องกินไม่ต้องใช้ เหมือนทุกคนอิ่มทิพย์อยู่ในโลกทิพย์ ต้องการอะไรได้ดังใจนึก”

    เมื่อปี 1950 กระแสตื่นมนุษย์ ต่างดาวในยุโรปและสหรัฐอเมริกาถึงขีดสูงสุด ช่วงปลายปีมีข่าวลือชาวดาวอังคาร จะมาเยือนโลก เพื่อช่วยชาวโลกพ้นจากมหาภัยพิบัติ ช่วงเวลานั้นเองทรูแมนเบธูรัม ได้ประกาศตัวว่า เขาเป็นตัวแทนได้รับมอบหมาย จากมนุษย์ต่างดาวชื่อออร่า เรนส์ ซึ่งเป็นกัปตันยานอวกาศทรงกลม บินมาถึงโลกโดยระบุว่า “มาจากดวงดาวอยู่ ด้านหลังดวงจันทร์” ซึ่งคำกล่าวนี้ต่อมา ถูกตีความว่าดวงจันทร์ในที่นี่น่าจะหมาย ถึงดวงอาทิตย์มากกว่า ดวงดาวที่กล่าวนี้ ทรูแมนยืนยัน ว่าคือดาวแคลเรียนโคจรอยู่ด้านหลังดวงอาทิตย์ตลอดเวลา ดังนั้น มองจากดาวโลกจึงมองไม่เห็น

    ต่อมาทรูแมนอ้างว่าคู่รัก ของเขาโดโรซี มาร์ตินชาวเมืองชิคาโก เป็นร่างทรงหรือได้รับการแต่งตัวจาก ชาวดาวแคลเรียน ให้เป็นสื่อกลางติดต่อ จากปากของโคโรซีนี่เองเปิดเผยว่า ชาวดาวแคลเรียนปกครองด้วยระบอบที่มี “แม่” เป็นหัวหน้าครอบครัว ผู้คนมีอายุยืนยาวมากกว่าพันปีจึงจะเสียชีวิตลง โดยหายวับไปเหมือนสายหมอก พร้อมกันนี้โคโรซีได้อ้างคำ เตือนจากเพื่อนชาวต่างดาวว่าจะเกิดน้ำท่วมใหญ่ขึ้นบนโลก ในวันที่ 21 ธันวาคม ค.ศ.1954 แต่ปรากฏว่าเมื่อถึงวันนั้นไม่มีอะไรเกิดขึ้นเธอจึงถูกหาว่าเป็นคนบ้าเสียสติ

    ต่อมานักวิทยาศาสตร์จาก มหาวิทยาลัยมินเนโซตา 3 คน คือลีออง เฟสตินเจอร์ เฮนรี เรคเชน และสแตนลีย์ แชคเตอร์ ได้ร่วมกันจับโกหก ทรูแมน และโคโรธีว่าเป็นการแอบอ้าง เพราะคำว่าดวงดาวแคลเรียนนั้นมาจากหนัง วิทยาศาสตร์ สร้างจากนวนิยายเขียน โดย วิลเลียม กรีนลีฟรวมทั่งคำกล่าว ที่ว่า “เราเดินทางมายังโลกก็เพราะ แสดงความปรารถนาดีต่อชาวโลกช่วยเหลือมนุษยชาติ ระหว่างเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ขึ้นบนโลก “ก็มาจากคำ พูดในภาพยนตร์เช่นกัน”

    เรื่องนี้นับเป็นเหตุการณ์เดียว ที่มีการพิสูจน์ได้ว่า เป็นการอ้างมนุษย์ต่างดาวเพื่อทำมาหากินเพราะขณะ โดโรธี เป็นร่างทรงมนุษย์ต่างดาวจากดาว แคลเรียนนั้นเงินทองไหลมาเทมา จนร่ำรวย

    อีกรายที่อ้างว่าติดต่อกับ มนุษย์ต่างดาวได้เป็นผู้หญิงจากประเทศ แอฟริกาใต้ชื่ออลิซาเบธแคลเรอร์ เปิดเผยว่าเมื่อวันที่ 7 เมษายนต์ ค.ศ. 1956 เธอได้รู้จักกับมนุษย์ต่างดาวผู้ชายคนหนึ่ง รูปร่างคล้ายคนแต่ไม่เหมือนเสียทีเดียวเพราะสวยงามราวเทพบุตร ต่อมารู้จักชื่อว่า “อาคอน” มนุษย์ต่างดาวอาคอนได้พาอลิซาเบธขึ้นยานอวกาศเพื่อไปเยือนดาวมาตุภูมิของเขา ไปกับยานอวกาศใช้พลังงานธรรมชาติ หรือพลังคอสมอส (พลังจักรวาล) ต่อมาทั้งคู่เกิดรักกันและตั้งท้อง อาคอนจึงพาเธอไปที่ดาวเมตัน ดวงดาวของเขาและคลอดลูกชายชื่อ ไอลิงที่นั่น

    ชาวดาวเมตันเป็นพวกมังสะวิรัต เป็นดวงดาวมีแต่สันติสุขปราศจากสงครามและการแย่งชิง ไม่มีเชื้อโรค ไม่มีเงินทอง หลังคลอดลูกได้ 4 เดือน อลิซาเบธ รู้สึกหายใจไม่ออกไม่อาจอยู่บนดวงดาวเมตันได้อีก จึงถูกส่กลับมายัง โลกเวลาผ่านไปถึงปี 1963 อาคอนกับ ลูกชายมาเยี่ยมเธอที่แอฟริกาใต้ อยู่ร่วมชีวิตได้ระยะเวลาหนึ่งพ่อกับลูกก็จากไป และไม่กลับมาอีก

    จากการเผชิญหน้าระหว่าง มนุษย์โลกกับมนุษย์ต่างดาว นักยูเอฟโอ. วิทยาได้สรุปรูปร่างหน้าตาและพฤติกรรม ของมนุษย์ต่างดาวได้ดังต่อไปนี้

    ► 1.มนุษย์ ต่างดาวมีรูปร่างหน้าตาดั้งเดิมเป็นอะไร อย่างใด? ไม่มีใครรู้ได้แต่ที่พบเห็น สัมผัสได้ มาในรูปแบบคล้ายคนและมี บุคลิกภาพที่ชาวโลกประทับใจในความ สวยงามน่าคบหา

    ► 2. บ้านของมนุษย์ต่างดาว ไม่มีรูปแบบคล้ายอาศัยอยู่ในโลกแห่ง จินตนาการหรือโลกอุดมคติที่ปราศจากรูปร่างอยู่ร่วมกันอย่างไมตรีจิตมีคุณธรรมล้ำเลิศ ไม่ต้องกินไม่ต้องหา มีแต่เสพย์สุข ราวกับอยู่ในสรวงสวรรค์ตามจินตนาการ ของมนุษย์

    ► 3.ดวงดาวของมนุษย์ต่างดาว มันเป็นจักรวาลหรือกลุ่มดาวไม่ใช่ดาวดวงใดดวงหนึ่ง มนุษย์ต่างดาวมี ความสัมพันธ์กันทั้งจักรวาล

    ► 4.มีข้อสังเกตว่ามนุษย์ ต่างดาวไม่แทรกแซงกิจการภายในของชาวโลก ดังรู้เห็นได้จากไม่เคยมีการติดต่อกับผู้นำชาวโลกชาติใด ๆ มีแต่ปรากฏตัวต่อผู้ยากไร้ชาวไร่หรือผู้มีการศึกษาน้อย คล้ายกับเป็นการเปิดสัมพันธ์เพื่อให้ความช่วยเหลือในทางอ้อม

    ► 5.เมื่อไม่มีใครรู้เห็นผู้มาจากต่างดาว มีรูปร่างอย่างไรที่เป็นรูปแบบดั้งเดิม จึงมีข้อสันนิษฐานว่าน่าจะเป็น พลังงานที่ใช้รูปกลิ่น ไร้เสียงชนิดหนึ่ง ซึ่งอาศัยอยู่ได้ทุกที่ทุกสภาพแวดล้อม หรือเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของวัตถุสสาร ชนิดใด ๆ ก็ตามอาจทำให้วัตถุและสสารนั้นมีชีวิตเคลื่อนไหวได้

    มีคำถามอยู่นานมา แล้วมนุษย์ต่างดาวหากมาถึงโลกจริงพวกเขา มาดีหรือมาร้าย จากเหตุการณ์ซึ่งนำมาเป็น ข้อสรุปหลายเหตุการณ์ เช่นผู้เผชิญหน้ากับมนุษย์ต่างดาว เรียกหาผู้มาจากต่างดาวว่า“พี่น้องผู้มาจากต่างดาว”ก็แสดงว่าย่อมมาดีกว่ามาร้าย

    อีกทั้งเหตุการณ์สำคัญในปี 1952 กองทัพ สหรัฐทดลองระเบิดเอช - บอมบ์เป็นครั้งแรก เมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน ที่กลางทะเลทรายแคลิ-ฟอร์เนีย และหลังจาก นั้น 19 วัน คือวันที่ 20 พฤศจิกายน จอร์จ อดัม สกีได้พบกับมนุษย์ต่างดาวชื่อออร์โธนที่ บริเวณทะเลทรายแคลิ-ฟอร์เนียเช่นกัน ซึ่ง ออร์โธน ได้กล่าวกับ จอร์จว่า“นี่ชาวโลก กำลังจะทำลายล้างโลก อย่างนั้นหรือ?”

    นอกจากนี้ยังมีคำเตือนจาก พี่น้องชาวต่างดาวถึงชาวโลก จากการเผชิญหน้าไม่ต่ำกว่า 50 ครั้ง ได้เตือนถึงวาระสุดท้ายของโลกเกิดจากสงครามนิวเคลียร์ และมหาภัยพิบัติครั้งใหญ่เกิดจากภาวะโลกร้อน พร้อมกันนี้ ก็มีคำมั่นสัญญาจาก เพื่อนผู้หวังดีจากต่างดาวถึงมนุษย์บางคนว่า หากเกิดอะไรขึ้นกับโลก พวกเขายินดีพาเพื่อนชาวโลก (บางคน) เดินทางไปอยู่โลกใหม่ซึ่งชาวโลกรับรู้ในชื่ออาณาจักรยูโตเปีย คำมั่นสัญญานี้ดูเหมือนว่า ตรงกับข้อความบันทึกในคัมภีร์ไบเบิลของชาวคริสต์ ซึ่งพระเจ้าเตือนโนอาห์สร้างเรืออาร์คเพื่อรักษาสัตว์และพืชเอาไว้ก่อนจะเกิดน้ำท่วมโลก

    ดังนั้นคำเตือนจากเพื่อนชาวต่างดาวระหว่างปี 1950 จะเกิดอะไรขึ้นหรือไม่กับโลกในยุคปัจจุบัน แน่นอนสิ่งที่เรา สัมผัสได้จากทุกชาติทุกส่วนของโลกในเวลานี้ ชาวโลกกำลังเผชิญกับภาวะโลกร้อน ตัวการสำคัญทำให้น้ำแข็งขั้วโลกละลาย เกิดภัยแล้ง ภัยน้ำท่วม ภัยพายุร้าย ภัยภูเขาไฟระเบิด หากว่าภัยพิบัติดังกล่าวมาเกิดขึ้นถึงระดับสูงสุดไม่ว่าเป็นมหาภัยพิบัติใด ล้วนแล้วทำให้มนุษย์ทั่วโลกสูญพันธุ์ไปได้เพียงแค่ชั่วข้ามคืนเท่านั้น

    ผู้เผชิญหน้ากับมนุษย์ต่างดาว เรียกหาเพื่อนผู้อารีว่า “กึ่งเทพ” ดังนั้นพระเจ้าที่เราเรียกหาขณะเผชิญกับอันตรายนั้นน่าจะใช่ “พวกเขา” หรือไม่? ก็ไตร่ตรองกันเอาเอง

    ที่มา: เรื่องลึกลับจากทั่วโลก All mystery world: "เอ็กซ์-ไฟล์" ชาวโลก-มนุษย์ต่างดาว
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 56005-3.jpg
      56005-3.jpg
      ขนาดไฟล์:
      129.4 KB
      เปิดดู:
      1,580
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 29 กันยายน 2013
  17. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    โหรดังเตือนอย่าประมาท 'หมอดูอีที' ทำนายแผ่นดินไหวใหญ่ กทม.

    [​IMG]

    "อาจารย์นพ โพธิรักษ์" เตือนคำทำนายหมอดูอีทีอย่าประมาท กทม.ตกอยู่ในพื้นที่เสี่ยงแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ปลายปีนี้ได้ ขณะที่ "อาหลิ่ว" ซินแซชื่อดัง อาจเกิดลมพายุที่มากกว่าแผ่นดินไหว เหตุในหลักศาสตร์จีน ประเทศไทยอยู่ในจุดหางมังกร เมื่อหัวขยับหางจะสะบัด

    ภายหลังจากเกิดเหตุการณ์แผ่นดินไหวซึ่งมีจุดศูนย์กลางในประเทศพม่า ห่างจาก อ.ปางมะผ้า จ.แม่ฮ่องสอน ไป 438 กม.เมื่อช่วงเช้าวันนี้ สร้างความอกสั่นขวัญแขวนให้กับประชาชนที่อาศัยอยู่ในตึกสูงทั้งในพื้นที่ กทม.และเชียงใหม่ ผู้สื่อข่าวจากเชียงใหม่ รายงานความคืบหน้ามาว่า เมื่อเวลา 09.00 น.วันที่ 11 พ.ย.55 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานผ้าพระกฐินแก่สำนักงานโครงการลูกพรดาบสสมุทรปราการตามพระราชดำริ โดยว่าที่ร้อยโท วิชัย กุลวุฒิวิลาศ นำไปถวายพระสงฆ์จำพรรษาถ้วนไตรมาส ณ วัดบวกครกน้อย ต.หนองป่าครั่ง อ.เมือง จ.เชียงใหม่ โดยมีข้าราชการชั้นผู้ใหญ่พร้อมด้วยประชาชนชาวจังหวัดเชียงใหม่ ได้มาร่วมทำบุญทอดกฐินเป็นจำนวนมาก

    ขณะเดียวกัน อาจารย์นพ โพธิรักษ์" เจ้าของคอลัมน์ "ดวงดาวของท่าน" ในหนังสือพิมพ์ "ไทยรัฐ" ซึ่งเดินทางมาร่วมกับคณะ เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า เหตุการณ์แผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นเมื่อช่วงเช้าวันนี้ ทางโหราศาสตร์มองว่า ช่วงนี้เป็นช่วงที่ดาวราหูหรือดาวเสาร์จะโครจรมากระแทกกันในราศีตุลย์ ตอนนี้ตามหลักโหราศาสตร์ถือว่า ดาวเสาร์มารอแล้วที่ราศีตุลย์ และวันที่ 10 ธ.ค. ดาวราหูก็จะโคจรมา แต่ลักษณะเวลาการโคจรของดาวทั้งสองดวง ไม่ได้โคจรตามกันมา เพราะต่างฝ่ายต่างมา จึงโคจรมากระแทกกัน แล้วเล็งอะไร ก็ลงดวงเมือง หรือดวงประเทศไทยรวมถึงดวงโลกด้วย เพราะฉะนั้น เมื่อเหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นต้องระวังให้มากๆ ทั้งโลกเลย ไม่เฉพาะประเทศไทยเท่านั้น เพราะการโครจรมากระแทกครั้งนี้ทางโหราศาสตร์ถือว่าเป็นการกระแทกที่แรงมาก

    เมื่อถามว่า กรณีหมอดูอีที หมอดูชื่อดังชาวพม่าเคยทำนายว่า ในปลายปีนี้ เมืองหลวงของประเทศไทยจะเกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ ทางโหราศาสตร์มองเรื่องการทำนายเรื่องนี้อย่างไรบ้าง เพราะว่าขณะนี้เริ่มจะส่อแววเกิดแผ่นดินไหวเข้ามาใกล้ประเทศไทยทุกขณะ อาจารย์นพ กล่าวว่า เรื่องนี้มีความเป็นไปได้ เราต้องยอมรับว่า หมอดูอีทีเขามีญาณพิเศษ เท่าที่ผมรู้จักกับหมอดูอีที เขาเป็นคนปฏิบัติถือศีลเคร่งครัดและเป็นคนที่มุ่งมั่นในการทำบุญกุศล เงินทองที่เขาได้จากการให้เขา หมอดูอีทีจะเอาไปทำบุญหมด เขาจะไม่เก็บไว้เลย

    นี่คือหมอดูอีที และหมอดูอีทียังเป็นคนที่สวดมนต์ไหว้พระตลอดเวลา เขารู้ว่าเขาเกิดมารูปร่างหน้าตาเขาอาภัพ ไม่เหมือนคนอื่น แต่ว่าจิตใจเขาสวยมาก อย่างเช่นคำทำนายของหมอดูอีทีเราจะประมาทไม่ได้ และมีโอกาสเป็นไปได้มากๆ ที่เมืองหลวงของประเทศไทยจะประสบกับภัยพิบัติทางแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ในปลายนี้้ ซึ่งเป็นเรื่องที่ประมาทไม่ได้เลย ซึ่งไม่ใช่เฉพาะที่ กรุงเทพฯ เท่านั้น ยังทั้งโลกเลย เพราะมาสอดคล้องกับหลักโหราศาสตร์ของไทย ที่ราศรีตุลย์ซึ่งเป็นแกนของโลกมันเล็งดวงเมืองของประเทศไทยหรือดวงกรุงรัตนโกสินทร์ เพราะดวงเมืองกรุงรัตนโกสินทร์ เป็นราศีเมษ และเมื่อโคจรมาตรงกับราศีตุลย์ เพราะฉะนั้นมันจะต้องกระทบกระเทือนอย่างแน่นอน

    อยากจะฝากเตือนให้พี่น้องประชาชนคนไทยโดยเฉพาะชาวเมืองหลวงไม่ให้ตื่นตระหนก อาจารย์นพกล่าวว่า คนไทยเราไม่ควรประมาท ทำบุญทำทานเอาไว้ สร้างความดีเอาไว้ดีที่สุด เพราะหากเราทำความดีจะทำให้คิดได้และนึกออกว่าควรจะอยู่ตรงไหนจึงจะเหมาะสม ควรจะอยู่ใกล้น้ำดีหรือใกล้ภูเขาดีหรืออยู่ที่ต่ำหรือที่สูงดี เขาจะนึกออกเองถ้าทุกคนทำความดี แต่คนใจบาปหยาบช้าเขาจะนึกไม่ออก เมื่อนึกไม่ออก เขาก็ต้องอยู่ในที่อันตราย นี่คือสัจธรรม อ.นพ กล่าว

    [​IMG]

    ขณะที่ "อาหลิ่ว" ซินแซชื่อดังที่เดินทางมาพร้อมกับคณะกล่าวถึงเรื่องเหตุการณ์แผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นเมื่อช่วงเช้าของวันนี้ว่า หากเปรียบ 12 ราศีแบบศาสตร์คนจีน ปีนี้จะเป็นปีมะโรง ซึ่งปีนี้มังกรก็จะสะบัดหาง ประเทศไทยเปรียบเสมือนหางมังกร หัวมังกรคือแผ่นดินจีน เมื่อเกิดแผ่นดินไหวขึ้นในประเทศไทย มันอาจเกิดลมพายุที่มากกว่าแผ่นดินไหว ซึ่งตรงจุดนี้เราหลบไม่ได้ คือเดือน 12 จีน เดือนมกราคม เป็นเดือนที่มังกรกำลังจะเคลื่อนทัพออกมาเป็นงูเล็กเพราะจะเปลี่ยนปีใหม่ มังกรจะสะบัดหาง มนุษย์เราต้องรับอย่างหนึ่งว่า มนุษย์เราเข้าไปบุกรุกพื้นที่ธรรมชาติ

    เพราะธรรมชาติเขาอยู่ดีๆ ของเขาอยู่แล้ว แต่เราไปสร้างถิ่นฐานบุกรุกเข้าไปอยู่ในถิ่นของธรรมชาติ ยกตัวอย่างเช่น การบุกรุกเข้าไปสร้างบ้านบนเขา ซึ่งไม่มีใครหรอกที่จะไปบุกรุกไปสร้างบ้านบนเขา แต่ในช่วง 30 ปีที่ผ่านมา บนเขาในประเทศไทยเรา กลับถูกมนุษย์เข้าไปบุกรุกเป็นสถานที่พักผ่อน หากเราย้อนกลับมา ย้อนดูตามหลักของฮวงจุ้ยว่า หากฐานของฮวงจุ้ยซึ่งมีหัวอยู่ที่แผ่นดินของจีนหางก็คือแผ่นดินไทย ซึ่งเราสามารถดูตามแผนที่ในกูเกิลได้ เพราะหัวมังกรขยับ หางมังกรก็จะสะบัด โอกาสที่จะเกิดภัยธรรมชาตินี้ถือว่าประเทศไทยเรามีโอกาสเกิดร้อยเปอร์เซ็นต์เลย เพราะฉะนั้นเราอย่าประมาท มันจะเริ่มออกฤทธิ์ออกเดชในช่วงหลังเดือนธันวาคมไปแล้ว เราจะเริ่มเห็นแล้ว ยกตัวอย่างเช่น อาจเกิดพายุดีเปรสชันแบบแปลกๆ เข้ามา หรือเหมือนกับอย่างนิวยอร์ก เมืองหลวงของประเทศอเมริกา เจอพายุทอร์นาโด

    "วันนี้เราต้องยอมรับอย่างหนึ่งว่าทุกวันนี้ไม่เหมือนกับอดีต จึงอยากจะฝากเตือนไปยังพี่น้องประชาชนคนไทยทุกท่านว่า หากใครก็ตามที่อาศัยอยู่ตามรอยต่อของจังหวัด หรือรอยต่อของสะพาน มีโอกาสที่จะโดนเยอะ เพราะอาคารในประเทศของเราไม่แข็งแรง วีธีแก้ตามศาสตร์จีนก็คือต้องเคลื่อนทัพออกจากรอยต่อ เช่น รอยต่อของ จ.กาญจบุรี ก็มีรอยต่อหรือสันเขาเชื่อมมาถึง อ.ปางมะผ้า จ.แม่ฮ่องสอน ที่อยู่ใกล้กับศูนย์กลางของการเกิดแผ่นดินไหวในครั้งนี้ ซึ่งปีนี้มีคนมองว่าแผ่นดินไทยอาจจะแตก ซึ่งอาจจะมีเรื่องอื่นๆ เขามาผสมผสาน

    แต่ขอนำเรียนว่า ประชาชนคนไทยไม่ควรประมาท ต้องระวังในช่วง หลังวันที่ 15 ธ.ค.55 ถึงวันที่ 15 ธ.ค.56 ภัยธรรมชาติจะแรงมาก "อาหลิ่ว" ซินแซชื่อดังกล่าวในที่สุด

    ไทยรัฐออนไลน์ 11 พฤศจิกายน 2555, 13:55 น.

    ที่มา โหรดังเตือนอย่าประมาท 'หมอดูอีที' ทำนายแผ่นดินไหวใหญ่ กทม. - ข่าวไทยรัฐออนไลน์
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  18. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    'หมอนิด' ทำนายรัฐบาล 'ยิ่งลักษณ์' ดวงตกสุดขีดแนะยุบสภา

    [​IMG]

    “หมอนิด” ทำนายรัฐบาล “ปู” ดวงตกสุดขีด แนะยุบสภาเลือกตั้งใหม่ ยันยังไงก็ได้กลับมาเป็นรัฐบาล ขณะที่ “มาร์ค” ดวงตกถึงปี 61 ...

    วันที่ 20 ก.ย. นายกิจจา ทวีกุลกิจ หรือ หมอนิด หมอดูการเมืองชื่อดัง กล่าวถึงกรณี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ระบุมีความพยายามล้มรัฐบาลให้ได้วันที่ 8 ต.ค.ว่าดวงรัฐบาลตกสุดขีด อาจจะเกิดเหตุการณ์กับรัฐบาลก่อนหรือหลังวันที่ 8 ต.ค.ก็ได้ เพราะทั้ง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม และพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ธาตุไฟทั้งคู่กำลังเจอธาตุน้ำเล่นงาน โอกาสที่รัฐบาลจะเจออุปสรรคจากนี้

    นายกิจจา กล่าวต่อว่า มีความเป็นได้ที่รัฐบาลจะต้องนับถอยหลัง ไม่ประเภทโดนแบบสายฟ้าฟาด ก็อาจจะโดนเล่นในแง่ของข้อกฎหมาย ทั้ง พ.ร.บ.กู้เงิน 2 ล้านล้าน การแก้ไขรัฐธรรมนูญ จะไม่ผ่านจะไปติดที่ศาลรัฐธรรมนูญ หรือไม่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เล่นงานการทุจริตโครงการรับจำนำข้าว รัฐมนตรีหลายคนก็ดวงตก ยังไงก็แก้ดวงไม่ได้ นอกจากจะยุบสภาฯเลือกตั้งใหม่ แต่จะได้รับเลือกตั้งกลับมา เพราะเวลานี้ดวงนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ไม่ดีไปถึงปี 2561 นายอภิสิทธิ์ปิดประตูได้เลย.

    ไทยรัฐออนไลน์

    โดย ทีมข่าวการเมือง
    20 กันยายน 2556, 16:40 น.

    ที่มา 'หมอนิด' ทำนายรัฐบาล 'ยิ่งลักษณ์' ดวงตกสุดขีดแนะยุบสภา - ข่าวไทยรัฐออนไลน์
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  19. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    เห็นอีกข่าวที่พูดถึงกลางเดือนตุลานี้เหมือนกันครับ !!!

    [​IMG]

    mead สมาชิก

    ไม่ต้องห่วงครับว่าเงินในธนาคารจะหายไป แต่ก็อาจเป็นได้ว่าตุู้ ATM อาจใช้การไม่ได้สักระยะนึง ช่วงตุลานี้ ก็กดออกมาติดตัวไว้ให้พอใช้สัก 1 เดือนก็ดีครับ เค้าจะทำการปิดระบบเพื่อตรวจสอบเงินที่อยู่ในมือของฝ่ายมืด และยึดเงินที่ได้มาด้วยความไม่ชอบธรรมกลับคืนมาเท่านั้นเองครับ เมื่อเค้าตรวจสอบบัญชีทั้งหมดแล้ว หลังจากนั้นทุกอย่างจะกลับมาเป็นปกติ และจะมีข่าวดีๆตามมาเป็นระยะ ไม่มีอะไรที่น่ากลัวเลยครับ สบายใจได้ บ้านเราอาจไม่มีผลกระทบมากหมือนที่เมกาและยุโรปครับ

    เห็นอีกข่าวที่พูดถึงกลางเดือนตุลานี้เหมือนกันครับ ขุนคลังสหรัฐเตือนหนี้ประเทศกำลังจะชนเพดาน กระทรวงการคลังสหรัฐออกมาเตือนรัฐบาลและสภาคองเกรสเป็นครั้งที่ 2 ในรอบ 5 เดือนว่า หนี้สินของประเทศจะชนเพดานในกลางเดือนหน้านี้ หากยังไม่เร่งหาทางแก้ไข สหรัฐจะผิดนัดชำระหนี้เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ ..http://www.dailynews.co.th/world/235915
    ที่มา http://palungjit.org/threads/ข้อควา...ของมนุษยชาติ-ไปสู่มิติที่-5-a.246190/page-390
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • I9962700-16.jpg
      I9962700-16.jpg
      ขนาดไฟล์:
      121.6 KB
      เปิดดู:
      1,243
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 29 กันยายน 2013
  20. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    นิมิตเตือนภัยการก่อวินาศกรรม !!!

    ๒๘ ก.ย. ๕๖ รีโมทคอนโทรล

    ลูกบอมบ์ ของใคร แขวนไว้?
    ข้างใต้ รถยนต์ ของตัว
    เห็นแล้ว นั้นดู น่ากลัว
    ถ้าชัวร์ ต้องใช้ ไว้กด

    มหาประชาบดี ๙๗

    ที่มา แจ้งเตือนภัยทางอีเมล์จากคุณ K_97
     

แชร์หน้านี้

Loading...