ติดตามสถานะการณ์

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย สุกิจSukit, 8 มิถุนายน 2013.

  1. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,656
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ความจริงหลังกึ่งพุทธกาล
    ดร. Turi เตือน เหตุการณ์ที่กำลังจะมาถึงสิงหาคม 2013

    http://beforeitsnews.com/beyond-sci...arns-of-coming-event-august-2013-2443042.html

    HOT: NASA Expert Dr. Turi Warns Of Coming Event August 2013 | Beyond Science
    beforeitsnews.com
    ถูกใจ · ตอบกลับ · 1 ชั่วโมงที่แล้ว

    ความจริงหลังกึ่งพุทธกาล
    มะกันปิด22สถานทูต??
    วันที่ 05 สิงหาคม พ.ศ. 2556 ปีที่ 23 ฉบับที่ 8285 ข่าวสดรายวัน

    สหรัฐปิด22สถานทูต-ระทึกเยเมน
    ตรึงเข้ม - ตำรวจญี่ปุ่นประจำการหน้าสถานเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกา ในกรุงโตเกียว ขณะที่สหรัฐและชาติตะวันตกประกาศปิดสถานทูตในหลายประเทศ ตามคำเตือนของอินเตอร์โพลว่าช่วงนี้อัล ไค ด้าอาจก่อการร้าย เมื่อ 4 ส.ค. (เอเอฟพี)
    ซีเอ็นเอ็นรายงานว่า เมื่อ 4 ส.ค. ทางการสหรัฐอเมริกาเพิ่มกำลังรักษาความปลอดภัยและปิดสถานทูตและกงสุล 22 แห่งในประเทศแถบแอฟริกาเหนือ และตะวันออกกลาง ตามที่ประกาศภัยคุกคามจากเครือข่ายอัล ไคด้า
    การปิดสถานทูตสหรัฐและตรึงเข้มเห็นชัดเจนที่เยเมน หลังเคยถูกกลุ่มผู้ประท้วงบุกเข้าสถานทูตได้เมื่อปีก่อน ครั้งนี้มีรถถัง 12 คันประจำอยู่ใกล้ตัวอาคารไปในระยะ 500 เมตร ด้านรัฐบาลอังกฤษ ฝรั่งเศส และเยอรมนี พากันปิดสถานทูตในกรุงซานา ประเทศเยเมน ตามสหรัฐ หลังหน่วยข่าวกรองสหรัฐได้ข้อมูลว่าอัล ไคด้า วางแผนเตรียมโจมตีครั้งรุนแรง ส่งท้ายเดือนรอมฎอน 

    ที่ตูนิเซีย กองกำลังความมั่นคงวิสามัญฯ ผู้ก่อการร้าย 1 ราย รวมทั้งจับกุมตัวผู้ต้องสงสัยอีก 4 คน ในเขตเมืองหลวง

    ส่วนที่สหรัฐ นายชัก เฮเกล รมว.กลาโหมสหรัฐ ประชุมกับเจ้าหน้าที่ระดับสูงทั้งซีไอเอ เอฟบีไอ และเอ็นเอสเอ เตรียมพร้อมรับมือหากถูกโจมตี พร้อมกับมีกระแสวิตกที่อียิปต์เช่นกัน หลังนายไอย์มาน อัลซาวาฮิรี หัวหน้าอัล ไคด้า เผยแพร่คลิปโจมตีสหรัฐอยู่เบื้องหลังการโค่นอำนาจนายโมฮาเหม็ด มอร์ซี

    http://www.khaosod.co.th/view_news.php?newsid=TURObWIzSXdNekExTURnMU5nPT0=
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 สิงหาคม 2013
  2. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,656
    ค่าพลัง:
    +97,150
    เว็บบอร์ดกรมอุตุนิยมวิทยา
    แม่เหล็กโลกอ่อนกำลังลง และกำลังกลับขั้ว อาจเป็นสาเหตุของการเปลี่ยนภูมิอากาศ

    [ame=http://www.youtube.com/watch?v=HgOmDJbBxvU]Magnetic Field Moving in a BIG WAY, Greg Bradden explains - YouTube[/ame]

    Pole Shift , Nat Geo Earths Force Field part 1 - YouTube


    ปกติกินเวลา 2 แสนปี
    แ่ต่ได้กลับขั้วมีทิศจากใต้ไปเหนือ มา 50 ปีแล้ว
    ส่งผลต่อสนามแม่เหล็กโลกที่ปกป้องโลกจากพายุสุริยะ
    อาจเป็นสาเหตุของน้ำแข็งบนขั้วโลกเหนือลดลง 4.5 แสนตารางไมล์ในรอบ 20 ปีจากปี ค.ศ. 1990
    (ทะเลขั้วโลกเหนือเปิดในฤดูร้อนเป็นครั้งแรก นับแต่ราวปี ค.ศ. 2003 ทำให้เกิดการขุดเจาะน้ำมันและขนส่งระว่างอลาสก้า แคนาดา รัสเซีย เกาะกรีนแลนด์ นอร์เวย์)

    การล่มสลายของทวีปแอตแลนติส มายา ฯลฯ
    และ climate change น่าจะเกี่ยวกับการกลับขั้วและอ่อนตัวลงของสนามแม่เหล็กโลก
    (นอกเหนือจากก๊าซกรีนเฮาส์จากน้ำมือมนุษย์)

    บางทีวิทยาศาสตร์ที่ให้คำตอบ จะเป็นหัวใจแทนศาสนาที่พิสูจน์ไม่ค่อยได้

    youtube: NOVA Earth's magnetic reversal ยืนยันโดยนักวิทยาศาตร์จากฮาร์วาร์ด ฯลฯ
    [ame=http://www.youtube.com/watch?v=NJUTUFAWfEY]Nova - Magnetic Storm - Earth's Invisible Shield - YouTube[/ame]

    กระทู้นี้ไม่ได้ต้องการให้กระต่ายตื่นตูม
    เพียงแต่บอกว่า ชีวิตแต่ละวันมีคุณค่า
    บางทีวันพรุ่งนี้ หรือปีหน้า อาจไม่มีชีวิตเหลือก็ได้
    (อย่าประมาท คือทุกสิ่งอาจจะไม่เหมือนเดิม เวลาเคลื่อนเร็วขึ้น เหมือนจิตใจหรือชีวิตคนเปลี่ยนไป)
    โดยคุณ มาบอก (192.168.67.132) [09-04-2013 15:59]

    ความเห็นที่ 1 โดยคุณ มาบอก (192.168.67.132) [09-04-2013 16:19] #48318

    [ame=http://www.youtube.com/watch?v=pGKKzsRjJ_Y]NOVA Magnetic Pole Flip 530,000 Years Overdue & Happening Now? - YouTube[/ame]
    NOVA Earth's magnetic pole flip 530,000 years overdue and happening now?

    Global Climate News - YouTube
    Global Climate News
    โปรดชม เพื่อความบันเทิงและอรรถรสตามความพอใจของท่านครับ

    ลิงค์หลังด้าน climate มีครบหมดที่สำคัญ

    ความเห็นที่ 2 โดยคุณ lord seyren Member [09-04-2013 16:54] #48320

    LFC

    ข้อมูลด้านสภาพอากาศ แบบกราฟ แล้วก็โครงสร้างสนามแม่เหล็กภายใน จาก vukcevic เดาว่าขั้วเหนือ (ภูมิศาสตร์) น่าจะเริ่มก่อนขั้วใต้ก็ได้ครับ ตามการแยกออกเป็นจุดเข้ม 2 ส่วน ห่างกันคนละซีกโลกเลย คือ ขั้วเดิม แคนาดา และ ขั้ว 2 (แต่ขั้วชนิดเดียวกัน) ที่ไซบีเรีย แถมมีกำลังในแนวดิ่งแรงกว่าขั้วแรกอีก (แคนาดาประมาณ 55,000 nT ไซบีเรีย 62,000 nT ) ทั้งๆที่ก่อตัวเมื่อราวๆ ปี 1870-1900

    ความเห็นที่ 3


    อากาศร้อนเย็นเป็นปกติของโลก ภาพรวม

    WunderMap® | Interactive Weather Map and Radar | Weather Underground


    ความเห็นที่ 4 โดยคุณ มาบอก (192.168.67.132) [10-04-2013 12:55] #48324

    The Gulf Stream and the Next Ice Age - Future Focus Episode 2013

    [ame=http://www.youtube.com/watch?v=SyAEucg6teg]The Gulf Stream and the Next Ice Age - Future Focus Episode 2013 - YouTube[/ame]

    นักวิทยาศาสตร์บอกว่า
    Global warming ทำให้น้ำแข็งขั้วโลกเหนือละลาย
    ทำให้ thermohaline circulation หยุดชะงัก เกิด mini-ice age ได้

    Thermohaline circulation บริเวณแอตแลนติกคือ Gulf stream ตั้งชื่อโดย เบนจามิน แฟรงกลิน ซึ่งนำกระแสน้ำเย็นจากฝั่งอเมริกาแถวฟลอริด้า ไปยังยุโรปแถวสเปนถึงอังกฤษและสแกนดิเนเวีย ทำให้ยุโรปอุ่นกว่าอเมริกา 20 ซ. ที่ละติจูดเดียวกัน เช่น สก๊อตแลนด์ อุ่นกว่าแคนาดา (ที่มีหมีขั้วโลก)

    ข้อมูลจาก
     
  3. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,656
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Jimmy Siri
    7 ชั่วโมงที่แล้ว
    แนะนำว่าทานข้าวให้เสร็จก่อนแล้วค่อยดู ประวัติศาสตร์ของอเมริกา "Land of the Free" เวอร์ชั่นนี้นะครับ!!

    THE HISTORY OF THE LAST KINGDOM ON EARTH - YouTube

    THE HISTORY OF THE LAST KINGDOM ON EARTH
    This video will keep you watching till the end. The real history of this nation will amaze you if not stun you.
    youtube.com
    18 คนที่ถูกใจ·3 ความคิดเห็น
     
  4. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,656
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Narada Siri
    วิวรณ์ / Revelation
    image.jpg
    6:12 เมื่อพระองค์ทรงแกะตราดวงที่หกนั้นแล้ว ดูเถิด ข้าพเจ้าก็ได้เห็นแผ่นดินไหวใหญ่โต ดวงอาทิตย์ก็กลายเป็นมืดดำดุจผ้ากระสอบขนสัตว์ และดวงจันทร์ก็กลายเป็นสีเลือด

    Sixth Seal: Chaos of an Earth under God's Anger
    6:12 And I beheld when he had opened the sixth seal, and, lo, there was a great earthquake; and the sun became black as sackcloth of hair, and the moon became as blood;

    6:13 และดวงดาวทั้งหลายในท้องฟ้าก็ตกลงบนแผ่นดิน เหมือนต้นมะเดื่ออันหวั่นไหวด้วยลมกล้าจนทำให้ผลหล่นลงไม่ทันสุก

    6:13 And the stars of heaven fell unto the earth, even as a fig tree casteth her untimely figs, when she is shaken of a mighty wind.

    6:14 ท้องฟ้าก็หายไปเหมือนกับหนังสือที่เขาม้วนขึ้นไปหมด และภูเขาทุกลูกและเกาะทุกเกาะก็เลื่อนไปจากที่เดิม

    6:14 And the heaven departed as a scroll when it is rolled together; and every mountain and island were moved out of their places.

    6:15 แล้วกษัตริย์ทั้งหลายในโลก พวกคนใหญ่คนโต เศรษฐี นายทหารใหญ่ ผู้มีอำนาจ และทุกคนทั้งที่เป็นทาสและเป็นอิสระ ก็ซ่อนตัวอยู่ในถ้ำและโขดหินตามภูเขา

    6:15 And the kings of the earth, and the great men, and the rich men, and the chief captains, and the mighty men, and every bondman, and every free man, hid themselves in the dens and in the rocks of the mountains;

    6:16 พวกเขาร้องบอกกับภูเขาและโขดหินว่า "จงล้มทับเราเถิด จงซ่อนเราไว้ให้พ้นจากพระพักตร์ของพระองค์ ผู้ประทับอยู่บนพระที่นั่ง และให้พ้นจากพระพิโรธของพระเมษโปดกนั้น

    6:16 And said to the mountains and rocks, Fall on us, and hide us from the face of him that sitteth on the throne, and from the wrath of the Lamb:

    6:17 เพราะว่าวันสำคัญแห่งพระพิโรธของพระองค์มาถึงแล้ว และผู้ใดจะทนอยู่ได้เล่า"

    6:17 For the great day of his wrath is come; and who shall be able to stand?


    แตรที่สอง (สัตว์ทะเลถูกทำลายหนึ่งในสาม)
    8:8 เมื่อทูตสวรรค์องค์ที่สองเป่าแตรขึ้น ก็มีสิ่งหนึ่งเหมือนภูเขาใหญ่กำลังลุกไหม้ถูกทิ้งลงไปในทะเล และทะเลนั้นได้กลายเป็นเลือดเสียหนึ่งในสามส่วน

    Second Trumpet: Volcanic Eruptions Kill One Third of Sea Life
    8:8 And the second angel sounded, and as it were a great mountain burning with fire was cast into the sea: and the third part of the sea became blood;

    8:9 สัตว์ทั้งปวงที่มีชีวิตอยู่ในทะเลนั้นตายเสียหนึ่งในสามส่วน และบรรดาเรือกำปั่นแตกเสียหนึ่งในสามส่วน

    8:9 And the third part of the creatures which were in the sea, and had life, died; and the third part of the ships were destroyed.

    แตรที่สาม (แม่น้ำและบ่อน้ำพุมีรสขมหนึ่งในสาม)
    8:10 เมื่อทูตสวรรค์องค์ที่สามเป่าแตรขึ้น ก็มีดาวใหญ่ดวงหนึ่งเป็นเปลวไฟลุกโพลงดุจโคมไฟตกจากท้องฟ้า ดาวนั้นตกลงบนแม่น้ำหนึ่งในสามส่วน และตกที่บ่อน้ำพุทั้งหลาย

    Third Trumpet: A Great Star Falls into Earth's Waters
    8:10 And the third angel sounded, and there fell a great star from heaven, burning as it were a lamp, and it fell upon the third part of the rivers, and upon the fountains of waters;

    8:11 ดาวดวงนี้มีชื่อว่าบอระเพ็ด รสของน้ำกลายเป็นรสขมเสียหนึ่งในสามส่วน และคนเป็นอันมากก็ได้ตายไปเพราะน้ำนั้นกลายเป็นน้ำรสขมไป

    8:11 And the name of the star is called Wormwood: and the third part of the waters became wormwood; and many men died of the waters, because they were made bitter.

    แตรที่สี่ (ดวงต่างๆในท้องฟ้ามืดไปหนึ่งในสาม)
    8:12 เมื่อทูตสวรรค์องค์ที่สี่เป่าแตรขึ้น ดวงอาทิตย์ก็ถูกทำลายไปหนึ่งในสามส่วน ดวงจันทร์และดวงดาวทั้งหลายก็เช่นเดียวกันจึงมืดไปหนึ่งในสามส่วน กลางวันก็ไม่สว่างเสียหนึ่งในสามส่วน และกลางคืนก็เช่นเดียวกับกลางวัน

    Fourth Trumpet: God's Curse on Heavenly Bodies
    8:12 And the fourth angel sounded, and the third part of the sun was smitten, and the third part of the moon, and the third part of the stars; so as the third part of them was darkened, and the day shone not for a third part of it, and the night likewise.


    ขันใบที่สอง (ทะเลเป็นเหมือนเลือด)
    16:3 ทูตสวรรค์องค์ที่สองก็เทขันของตนลงในทะเล และทะเลก็กลายเป็นเหมือนเลือดของคนตาย และบรรดาสิ่งที่มีชีวิตอยู่ในทะเลนั้นก็ตายหมดสิ้น

    Second Vial: Water Becomes as Blood
    16:3 And the second angel poured out his vial upon the sea; and it became as the blood of a dead man: and every living soul died in the sea.

    ขันใบที่สาม (แม่น้ำทั้งหลายกลายเป็นเลือด)
    16:4 ทูตสวรรค์องค์ที่สามเทขันของตนลงที่แม่น้ำและบ่อน้ำพุทั้งปวง และน้ำเหล่านั้นก็กลายเป็นเลือด

    Third Vial: Rivers Turn to Blood
    16:4 And the third angel poured out his vial upon the rivers and fountains of waters; and they became blood.

    16:5 และข้าพเจ้าได้ยินทูตสวรรค์แห่งน้ำร้องว่า "โอ ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า ผู้ดำรงอยู่บัดนี้ และผู้ได้ทรงดำรงอยู่ในกาลก่อน และผู้จะทรงดำรงอยู่ในอนาคต พระองค์ทรงเป็นผู้ชอบธรรม เพราะพระองค์ทรงพิพากษาอย่างนั้น

    16:5 And I heard the angel of the waters say, Thou art righteous, O Lord, which art, and wast, and shalt be, because thou hast judged thus.

    16:6 เพราะเขาทั้งหลายได้กระทำให้โลหิตของพวกวิสุทธิชนและของพวกศาสดาพยากรณ์ไหลออก และพระองค์ได้ประทานโลหิตให้เขาดื่ม ด้วยเขาทั้งหลายก็สมควรอยู่แล้ว"

    16:6 For they have shed the blood of saints and prophets, and thou hast given them blood to drink; for they are worthy.
     
  5. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,656
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ข้อมูลวันที่ 9 สิงหาคม 2556 เว็บบภัยพิบัติ

    ดาวเคราะห์น้อย 2005 WK4 กำลังเข้าใกล้โลกที่ระยะ 8.1 เท่าของดวงจันทร์ ด้วยขนาด ~420 ม.ความเร็ว 8.38 กม/วินาที น้ำหนัก~977 เมกกะตัน
     
  6. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,656
    ค่าพลัง:
    +97,150
    'น้ำท่วม-ดินถล่ม'ญี่ปุ่นสังเวยแล้ว5
    ฝนที่ตกหนักได้ก่อให้เกิดน้ำท่วมและดินถล่มในหลายพื้นที่ทางเหนือของญี่ปุ่น ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 5 คน
    10 ส.ค. 56 สถานีโทรทัศน์ TBS ได้แพร่ภาพน้ำท่วมในเมืองยาฮาบะ จังหวัดอิวาเตะ และประชาชนเดินฝ่ากระแสน้ำตามถนนสายต่างๆ ซึ่งที่เมืองยาฮาบะ ยังไม่มีรายงานผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิต เนื่องจากมีการอพยพประชาชนราว 300 คน ตั้งแต่วันศุกร์ และอีกราว 130 คน อยู่ที่ศูนย์อพยพในวันนี้ แต่เจ้าหน้าที่ในเมืองเซนโบกุ จังหวัดอากิตะ พบผู้เสียชีวิตแล้ว 3 คน เนื่องจากดินถล่มใส่บ้าน 2 หลัง
    ทหาร ตำรวจ และเจ้าหน้าที่ดับเพลิง เกือบ 280 นาย ยังคงค้นหาผู้สูญหาย และมีรายงานการพบศพหญิงชราวัย 91 ปี จากดินถล่มที่เมืองฮานามากิ และพบศพชาย วัย 62 ปี ลอยอยู่ในทะเลสาปเมืองนิชิวากะ หลังถูกมวลน้ำพัดหายไปก่อนหน้านี้
    เมืองชิสุกุอิชิ ในจังหวัดอิวาเตะ มีปริมาณน้ำฝนวัดได้ 261 มิลลิเมตร ตลอด 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา ซึ่งนับว่ามากที่สุดอย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน // ที่จังหวัดอากิตะ มีผู้สูญหาย 5 คน หลังจากอาคารอย่างน้อย 9 แห่ง เสียหาย หรือพังราบ ที่เชื่อว่าน่าจะเกิดจากดินถล่ม ในเมืองเซนโบกุ ทำให้ผู้หญิงวัย 60 กว่าคนหนึ่ง ได้รับบาดเจ็บรุนแรง และชายอีก 2 คน บาดเจ็บแต่ไม่รุนแรง
    ตำรวจ และทหาร ได้ประชุมกันเมื่อเช้าวันนี้ และตัดสินใจจะรื้อปฏิบัติการค้นหา ขณะที่เจ้าหน้าที่พยากรณ์อากาศ เตือนฝนตกหนักในระดับที่คาดไม่ถึง และเรียกร้องให้มีความระมัดระวังอย่างสูงสุด รวมถึงให้อพยพประชาชนในพื้นที่ประสบภัย
     
  7. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,656
    ค่าพลัง:
    +97,150
    หายนะ อเมริกา ตาม พระคัมภีร์ วิวรณ์ บทที่17....ข้อมูล สมาชิก Kamen rider
    17:1 ทูตสวรรค์องค์หนึ่งในเจ็ดองค์ที่ถือขันเจ็ดใบนั้น มาหาข้าพเจ้าและพูดว่า "เชิญมาที่นี่เถิด ข้าพเจ้าจะให้ท่านดูการพิพากษาลงโทษหญิงแพศยาคนสำคัญที่นั่งอยู่บนน้ำมากหลาย
    17:2 คือหญิงที่บรรดากษัตริย์ทั่วแผ่นดินโลกได้ล่วงประเวณีด้วย และคนทั้งหลายที่อยู่ในแผ่นดินโลกก็ได้มัวเมาด้วยเหล้าองุ่นแห่งการล่วงประเวณีของเธอ"
    17:3 ทูตสวรรค์องค์นั้นได้นำข้าพเจ้าเข้าไปในถิ่นทุรกันดารโดยพระวิญญาณ และข้าพเจ้าได้เห็นผู้หญิงคนหนึ่งนั่งอยู่บนสัตว์ร้ายสีแดงเข้มตัวหนึ่ง ซึ่งมีชื่อหลายชื่อเป็นคำหมิ่นประมาทเต็มไปทั้งตัว มันมีเจ็ดหัวและสิบเขา
    17:4 หญิงนั้นนุ่งห่มด้วยผ้าสีม่วงและสีแดงเข้ม และประดับด้วยเครื่องทองคำ เพชรพลอยต่างๆและไข่มุก หญิงนั้นถือถ้วยทองคำที่เต็มด้วยสิ่งน่าสะอิดสะเอียนและของโสโครกแห่งการล่วงประเวณีของตน
    17:5 และที่หน้าผากของหญิงนั้นเขียนชื่อไว้ว่า "ความลึกลับ บาบิโลนมหานคร แม่ของหญิงแพศยาทั้งหลาย และแม่แห่งสิ่งทั้งปวงที่น่าสะอิดสะเอียนแห่งแผ่นดินโลก"
    17:6 และข้าพเจ้าเห็นหญิงนั้นเมามายด้วยโลหิตของพวกวิสุทธิชน และโลหิตของคนทั้งหลายที่พลีชีพเพื่อเป็นพยานของพระเยซู เมื่อข้าพเจ้าเห็นหญิงนั้นแล้ว ข้าพเจ้าก็อัศจรรย์ใจยิ่งนัก
    17:7 ทูตสวรรค์องค์นั้นจึงถามข้าพเจ้าว่า "เหตุไฉนท่านจึงอัศจรรย์ใจ ข้าพเจ้าจะบอกให้ท่านรู้ถึงความลึกลับของหญิงนั้น และของสัตว์ร้ายที่มีเจ็ดหัวและสิบเขาที่เป็นพาหนะของหญิงนั้น
    17:8 สัตว์ร้ายที่ท่านได้เห็นนั้นเป็นอยู่ในกาลก่อน แต่บัดนี้มิได้เป็น และมันจะขึ้นมาจากเหวที่ไม่มีก้นเหวเพื่อไปสู่ความพินาศแล้ว และคนทั้งหลายที่อยู่ในโลก ซึ่งไม่มีชื่อจดไว้ในหนังสือแห่งชีวิตตั้งแต่แรกทรงสร้างโลกนั้น ก็จะอัศจรรย์ใจ เมื่อเขาเห็นสัตว์ร้าย ซึ่งได้เป็นอยู่ในกาลก่อน แต่บัดนี้มิได้เป็น และกำลังจะเป็น
    17:9 นี่ต้องใช้สติปัญญา หัวทั้งเจ็ดนั้นคือภูเขาเจ็ดยอดที่หญิงนั้นนั่งอยู่
    17:10 และมีกษัตริย์เจ็ดองค์ ซึ่งห้าองค์ได้ล่วงไปแล้ว องค์หนึ่งกำลังเป็นอยู่ และอีกองค์หนึ่งนั้นยังไม่ได้เป็นขึ้น และเมื่อเป็นขึ้นมาแล้ว จะต้องดำรงอยู่ชั่วขณะหนึ่ง
    17:11 สัตว์ร้ายที่เป็นแล้วเมื่อก่อน แต่เดี๋ยวนี้ไม่ได้เป็นนั้นก็เป็นที่แปด แต่ก็ยังเป็นองค์หนึ่งในเจ็ดองค์นั้น และจะไปสู่ความพินาศ
    17:12 เขาทั้งสิบเขาที่ท่านได้เห็นนั้นคือกษัตริย์สิบองค์ที่ยังไม่ได้เสวยราชสมบัติ แต่จะรับอำนาจอย่างกษัตริย์ด้วยกันกับสัตว์ร้ายนั้นหนึ่งชั่วโมง
    17:13 กษัตริย์ทั้งหลายนั้นมีน้ำพระทัยอย่างเดียวกัน และทรงมอบฤทธิ์และอำนาจของตนไว้แก่สัตว์ร้ายนั้น
    17:14 กษัตริย์เหล่านี้จะกระทำสงครามกับพระเมษโปดก และพระเมษโปดกจะทรงชนะพวกเขา เพราะว่าพระองค์ทรงเป็นเจ้านายเหนือเจ้านายทั้งหลาย และทรงเป็นพระมหากษัตริย์เหนือกษัตริย์ทั้งหลาย และผู้ที่อยู่กับพระองค์นั้นเป็นผู้ที่พระองค์ได้ทรงเรียก และทรงเลือกไว้ และเป็นผู้ที่สัตย์ซื่อ"
    17:15 และทูตสวรรค์นั้นบอกข้าพเจ้าว่า "น้ำมากหลายที่ท่านได้เห็นหญิงแพศยานั่งอยู่นั้น ก็คือชนชาติ มวลชน ประชาชาติ และภาษาต่างๆ
    17:16 เขาสิบเขาที่ท่านได้เห็นอยู่บนสัตว์ร้าย จะพากันเกลียดชังหญิงแพศยานั้น จะกระทำให้นางโดดเดี่ยวอ้างว้างและเปลือยกาย และจะกินเนื้อของหญิงนั้น และเผานางเสียด้วยไฟ
    17:17 เพราะว่าพระเจ้าทรงดลใจเขาให้กระทำตามพระทัยของพระองค์ โดยการทรงทำให้พวกเขามีความคิดอย่างเดียวกัน และมอบอาณาจักรของเขาให้แก่สัตว์ร้ายนั้น จนถึงจะสำเร็จตามพระวจนะของพระเจ้า
    17:18 และผู้หญิงที่ท่านเห็นนั้นก็คือนครใหญ่ ที่มีอำนาจเหนือกษัตริย์ทั้งหลายทั่วแผ่นดินโลก"
    จาก
    http://software77.com/onlinebibles/thai/66_017.html

    17:1 ทูตสวรรค์องค์หนึ่งในเจ็ดองค์ที่ถือขันเจ็ดใบนั้น มาหาข้าพเจ้าและพูดว่า "เชิญมาที่นี่เถิด ข้าพเจ้าจะให้ท่านดูการพิพากษาลงโทษหญิงแพศยาคนสำคัญที่นั่งอยู่บนน้ำมากหลาย
    หญิงแพศยา ใช้แทน พฤติกรรมของ อเมริกา ครับ นิสัย อยู่ด้วยผลประโยชน์ หลอกลวง สำส่อนไปทั่ว เห็นๆ กันอยู่ ....คือเค้าใช้คำได้แรงและ น่า รังเกียจ มาก....แล้ว ตกลงในความเป็นจริง อเมริกา ทำตัว น่ารังเกียจ ขนาดนั้น เชียวหรือ ท่อนนี้จะกล่าวถึง จุดจบบางประการของ อเมริกา
    "น้ำมากหลายที่ท่านได้เห็นหญิงแพศยานั่งอยู่นั้น ก็คือชนชาติ มวลชน ประชาชาติ และภาษาต่างๆ
    17:2 คือหญิงที่บรรดากษัตริย์ทั่วแผ่นดินโลกได้ล่วงประเวณีด้วย และคนทั้งหลายที่อยู่ในแผ่นดินโลกก็ได้มัวเมาด้วยเหล้าองุ่นแห่งการล่วงประเวณีของเธอ"
    ความสัมพันธ์ ประเทศทั้งหลาย ในโลก กับ อเมริกา อำนาจ วัฒนธรรม ข่าวสาร เศรษฐกิจ ครอบคุมทั่ว โลก ทุกประเทศ จะถูก ระบบอเมริกา กลืน เดินตามเอมริกาเป็นแถบ เพราะวัฒนธรรม ทางวัตถุของเอมริกา จะตอบ สนอง กิเลส มนุษย์ ได้ สุดๆ ....ทุกประเทศจะ นิยม เหมือนกับ หลงไหล มัวเมา เหล้า องุ่น ให้เห็นว่า เป็นคุณค่า เป็นอารยธรรม ที่แสนวิเศษ ตามอำนาจ พลัง ข่าวสาร ที่ อเมริกา ประเคน หลอกล่อ ยัดเยียด ให้
    17:4 หญิงนั้นนุ่งห่มด้วยผ้าสีม่วงและสีแดงเข้ม และประดับด้วยเครื่องทองคำ เพชรพลอยต่างๆและไข่มุก หญิงนั้นถือถ้วยทองคำที่เต็มด้วยสิ่งน่าสะอิดสะเอียนและของโสโครกแห่งการล่วงประเวณีของตน. การล่วงประเวณี ให้ดู ประวัติศาสตร์ครับ หลังจากอังกฤษ หมดอำนาจ มหาอำนาจ..อเมริกาเข้ามาแทนที่...ด้วย...การที่พยายามจะเป็นเจ้าโลก....อเมริกาได้ทำ...อะไรไว้ในโลกบ้าง.......อเมริกาใช้ทุกวิถีทาง แห่ง ระบบ ทุนนิยม...สร้างความหายนะ อะไรกับ โลกใบนี้บ้าง.....ดูดกลืนทรัพยากรณ์ จากประเทศต่างๆ...เข้าไป ยุ่ง เข้าไป แหย่ ใคร บ้าง........หยาดน้ำตาเท่าไหร่..เลือดเท่าไหร่..ทำความแค้น ให้ ประเทศใหนบ้าง...ถ้วยทองคำที่เต็มด้วยสิ่งน่าสะอิดสะเอียนและของโสโครกแห่งการล่วงประเวณีของตน หมายถึง อานาจทางการเงินเศรษกิจ บน ความหายนะ ของ ประเทศต่างๆ
    17:7 ทูตสวรรค์องค์นั้นจึงถามข้าพเจ้าว่า "เหตุไฉนท่านจึงอัศจรรย์ใจ ข้าพเจ้าจะบอกให้ท่านรู้ถึงความลึกลับของหญิงนั้น และของสัตว์ร้ายที่มีเจ็ดหัวและสิบเขาที่เป็นพาหนะของหญิงนั้น. หมาย ถึง อเมริกา และ บรรดา ประเทศ คูค้า คู่ร่วมผลประโยชน์ อุ้มชูกันอยู่
    17:16 เขาสิบเขาที่ท่านได้เห็นอยู่บนสัตว์ร้าย จะพากันเกลียดชังหญิงแพศยานั้น จะกระทำให้นางโดดเดี่ยวอ้างว้างและเปลือยกาย และจะกินเนื้อของหญิงนั้น และเผานางเสียด้วยไฟ
    เขาสิบเขา น่าจะเป็นกลุ่ม ประเทศ พันธมิตร ทาง เศรษ กิจ ที อเมริกาพึ่งพาอยู่...อยู่ด้วยผลประโยชน์......ไม่จริงใจ..ในที่สุด...ถึงคราวแตกหัก.....อเมริกาเจอ เอาคืน...สุดท้าย เจอ ไฟ ซึ่ง เป็นนิวเคลีย แน่ๆ
    17:18 และผู้หญิงที่ท่านเห็นนั้นก็คือนครใหญ่ ที่มีอำนาจเหนือกษัตริย์ทั้งหลายทั่วแผ่นดินโลก" ประเทศ มหาอำนาจ อเมริกาแน่นอน บท นี้

    ทูตสวรรค์องค์ที่สองได้ประกาศให้รู้ว่า บาบิโลนมหานครนั้นล่มจมแล้ว ล่มจมแล้ว บาบิโลนมหานคร ได้ถูกพูดถึงชัดเจนยิ่งขึ้นในบทที่ 16:18-19 และในบทที่ 18 ซึ่งได้กล่าวถึงบาบิโลนเป็นมหานครอย่างน้อย 9 แห่ง
    14:8 ทูตสวรรค์อีกองค์หนึ่งเป็นองค์ที่สองตามไปประกาศว่า บาบิโลนมหานครนั้นล่มจมแล้ว ล่มจมแล้วนครนั้นทำให้ประชาชาติทั้งปวงดื่มเหล้าองุ่น แห่งความกำหนัดของเธอในการร่วมประเวณี
    16:18-19 "และเกิดมีฟ้าแลบ มีเสียงต่างๆ มีฟ้าร้อง และเกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ซึ่งตั้งแต่มีมนุษย์มาเกิดบนแผ่นดินโลกไม่เคยมีแผ่นดินไหวร้ายแรงเช่นนี้เลย มหานครนั้น ก็แยกออกเป็นสามส่วน และบ้านเมืองของนานาประชาชาติก็ล่มจม พระเจ้ามิได้ทรงลืมมหานครบาบิโลน พระองค์ทรงให้มหานครนั้นดื่มถ้วยแห่งพระพิโรธอันใหญ่หลวงของพระองค์"
    17:5 และที่หน้าผากของหญิงนั้นเขียนชื่อแฝงความหมายไว้ว่าบาบิโลนมหานคร แม่ของหญิงแพศยาทั้งหลาย และแม่สิ่งทั้งปวงที่น่าสะอิดสะเอียนแห่งแผ่นดินโลก
    17:18 และผู้หญิงที่ท่านเห็นนั้นคือ นครใหญ่ ที่มีอำนาจเหนือกษัตริย์ทั้งหลายทั่วแผ่นดินโลก
    18:2 ท่านได้ร้องประกาศเสียงกึกก้องว่า "บาบิโลนมหานครล่มจมแล้ว ล่มจมแล้ว กลายเป็นที่อาศัยของผีปีศาจเป็นที่สิงอยู่ของผีโสโครกทุกอย่างที่ไม่สะอาด และน่าเกลียด"
    18:7 นครบาบิโลนได้เย่อหยิ่งจองหอง และเสเพลมากเท่าใด ก็จงให้นครนั้นได้รับการทรมานและความระทมทุกข์มากเท่านั้น เพราะว่านครนั้นทนงใจว่า เราดำรงอยู่ในตำแหน่งราชินี ไม่ใช่หญิงม่าย เราจะไม่ประสบความระทมทุกข์เลย
    18:10 พวกกษัตริย์จะยืนอยู่แต่ห่างๆ เพราะกลัวภัยแห่งการทรมานแห่งนครนั้น และกล่าวว่า"วิบัติแล้ว วิบัติแล้วบาบิโลนมหานคร ที่ยิ่งใหญ่เจ้าได้รับการพิพากษาโทษให้พินาศไปภายในชั่วโมงเดียวเท่านั้น"
    18:15-17 บรรดาพ่อค้าที่ได้ขายสิ่งของเหล่านั้น จนเป็นคนมั่งมีเพราะนครบาบิโลนนั้นจะยืนอยู่แต่ไกล เพราะกลัวภัยจากการทรมานของนครนั้นพวกเขาจะไห้คร่ำครวญด้วยเสียงดังว่า วิบัติแล้ว วิบัติแล้วมหานครนั้น ที่ได้นุ่งห่มผ้าป่านเนื้อละเอียด ผ้าสีม่วงและผ้าสีแดงเข้ม ที่ได้ประดับด้วย ทองคำ เพชรพลอยต่างๆ และไข่มุกนั้นเพียงในชั่วโมงเดียวทรัพย์สมบัติเหล่านั้นพินาศ ศูนย์ไปสิ้น และนายเรือทุกคน คนที่โดยสารเรือพวกลูกเรือและคนทั้งหลาย ที่มีอาชีพทางทะเลก็ได้ยืนอยู่แต่ห่างๆ
    18:18-21 และเมื่อคนเหล่านั้นได้เห็นควันไฟไหม้นครนั้นก็ร้องว่า นครใดเล่าจะเป็นเหมือนมหานครนี้และเขาก็โปรยผงคลีลงบนศีรษะของตน พลางร้องไห้คร่ำ ครวญว่า วิบัติแล้ว วิบัติแล้วมหานครนี้อันเป็นที่ซึ่งคนทั้งปวง ที่มีเรือกำปั่นเดินทะเลได้ เป็นคนมั่งมีขึ้นด้วยทรัพย์สมบัติของนครนั้นภายในชั่วโมงเดียวนครนั้นก็เป็นที่ร้างเปล่า แน่ะเมืองสวรรค์บรรดาธรรมิกชน อัครทูตและพวกผู้เผยพระวจนะทั้งหลายจงร่าเริงยินดีเพราะนครนั้นเถิด เพราะ พระเจ้าได้ทรงพิพากษาลงโทษนครนั้นให้ท่านทั้งหลายแล้ว แล้วทูตสวรรค์ องค์ที่มีฤทธิ์มากก็ได้ยกหินก้อนหนึ่งเหมือนหินโม่ใหญ่ทุ่มลงไปในทะเล แล้วว่า บาบิโลนมหานครนั้นจะถูกทุ่มลงโดยแรง อย่างนี้แหละและจะไม่มี เห็นนครนั้นอีกต่อไปเลย และจากภาพที่บรรยาย เราจะพบว่ามหานครบาบิโลนเป็นศูนย์กลางของโลกไม่ว่าระบบการเมือง (17:2,18) ระบบเศรษฐกิจ (18:11,15,19) ระบบศาสนา (17:3,6, 18:24) และสิ่งชั่วร้ายทั้งปวง (17:5, 18:2)

    ทูตสวรรค์องค์ที่สามได้ประกาศให้รู้ว่า ผู้ที่บูชาสัตว์ร้ายและรูปของมันคือ ผู้ที่มีเครื่องหมายของสัตว์ร้ายจะต้องรับพระพิโรธจากพระเจ้าเขาจะต้องถูกทรมานด้วยไฟ และกำมะถันตลอดไปนิตย์ ไม่มีการพักผ่อนเลยทั้งกลางวันและกลางคืน
    http://www.geocities.com/janejira_jc/Rev/Rev_8.htm

    พระธรรมวิวรณ์ บทที่ 6-11
    1. ตราทั้งเจ็ด
    ตราที่ 1 (6:1-2) ม้าขาวและผู้ที่ขี่ม้านั้นถือธนู
    ดูแล้วเหมือนภาพพระเยซูคริสต์ที่เสด็จมาพร้อมกับชัยชนะ เพราะทรงม้าขาวและได้รับพระราชทานมงกุฎ (19:11) แต่ไม่ใช่ เพราะชัยชนะของพระคริสต์นั้นไม่ได้อยู่ที่เริ่มต้น และพระองค์จะทรงพระแสง คือ พระวจนะ ไม่ใช่ธนู ภาพที่เห็นคือผู้ที่อ้างตนเป็นพระคริสต์ ปลอมตัวเหมือนพระคริสต์มาสร้างสันติให้กับโลกโดยเฉพาะอย่างยิ่ง
    หลังจากที่คริสเตียนถูกรับไปแล้ว (rapture) คงมีความวุ่นวายเกิดขึ้นทั่วโลก และผู้ขี่ม้าขาว คือพระคริสต์ปลอมได้มาจัดการแก้ไขปัญหาต่างๆ จนได้รับการยกย่องซึ่งเท่ากับประสบชัยชนะและได้รับพระราชทานมงกุฎ

    ตราที่ 2 (6:3-4) ม้าสีแดงสดและผู้ที่ขี่ม้านำสันติสุขไปจากโลก
    จากสันติสุขที่ได้รับไม่นาน พระคริสต์เทียมเท็จก็ได้แสดงธาตุแท้ของมันออกมา โดยเปลี่ยนความสงบสุขเป็นการรบราฆ่าฟัน เปลี่ยนธนูที่ไม่มีลูกศรเป็นดาบใหญ่ และสีแดงสดเป็นสัญลักษณ์ของเลือดที่ท่วมทั่วปฐมพี เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นคงมาจากประชาชนที่ถูกหล่อหลอมมากับระบบเสรีประชาธิปไตย ยอมรับระบบเผด็จการของพระคริสต์ปลอมไม่ได้จึงเกิดสงครามฆ่าฟันผู้ที่ไม่ยอมสวามิภักด์

    ตราที่ 3 (6:5-6) ม้าดำและผู้ที่ขี่ม้าถือตราชู
    หลังจากสงครามสิ่งที่ตามมาคือ ทั่วโลกตกอยู่ในความมืดเพราะขาดแคลนอาหาร ทำให้เกิดความอดอยากหิวโหยไปทั่วแผ่นดิน ข้าวสาลีทะนานละหนึ่งเดนาริอัน หมายความว่าทำงานวันหนึ่งจะเพียงพอกับอาหารหนึ่งมื้อเท่านั้น ส่วนน้ำมันและน้ำองุ่นเป็นเครื่องหมายของเศรษฐกิจและความร่ำรวย ซึ่งเป็นภาพที่ตรงกันข้ามกับความเป็นอยู่ของประชาชนทั่วไปที่กำลังอดอยาก เพราะอำนาจของเศรษฐกิจทั้งหมดอยู่ในมือของพระคริสต์ปลอมหรือผู้ต่อต้านพระคริสต์

    ตราที่ 4 (6:7-8) ม้าสีกะเลียวและผู้ที่ขี่ม้าซึ่งได้ชื่อว่ามัจจุราช สีกะเลียวคือสีคนตาย
    สภาพต่อมาของโลกในขณะนั้นคือความตายได้กระจัดกระจายไปทั่วโลก เกิดสงครามแย่งชิงอาหารกันเพื่อความอยู่รอดอันเนื่องด้วยความอดอยาก มีผู้คนจำนวนมากมายล้มตายเพราะคมดาบ เพราะความอดยาก เพราะโรคระบาดและเพราะสัตว์ร้ายแห่งแผ่นดิน จำนวนผู้ที่เสียชีวิตรวมแล้วเป็นหนึ่งในสี่ของประชากรโลก

    ตราที่ 5 (6:9-11) ดวงวิญญาณใต้แท่นบูชา
    ดวงวิญญาณของผู้ที่ถูกฆ่าเพราะยืนหยัดในพระวจนะของพระเจ้าในช่วงภัยพิบัติ ร้องเรียกให้พระเจ้าทรงพิพากษาโลกนี้โดยเร็ววัน แต่พระเจ้าทรงตอบให้รอคอยอีกหน่อย จนกว่าจะครบจำนวนผู้ที่รอดตามที่กำหนดไว้ น่าสังเกตที่ก่อนหน้านี้พระเจ้าอนุญาตให้มีภัยพิบัติคร่าชีวิต

    คนไปถึงหนึ่งในสี่ของประชากรโลก คนทั่วไปอาจเข้าใจว่าพระเจ้าลงโทษหนักเกินไป แต่ที่นี่วิญญาณของผู้ชอบธรรมกลับเร่งเร้าให้พระเจ้าพิพากษาโลกนี้โดยเร็ว

    ตราที่ 6 (6:12-17) การเปลี่ยนแปลงของธรรมชาติ
    ดวงอาทิตย์จะไม่ส่องแสง เพราะฉะนั้นความมืดมิดจะเข้ามาครอบงำ และดวงจันทร์วันเพ็ญจะกลับเป็นสีเลือด ดวงดาวจะตกจากฟากฟ้า ท้องฟ้าจะหายไป (โยเอล 2:10-11) แผ่นดินไหว ภูเขาจะสั่นเทือนและเลื่อนจากที่เดิม มนุษย์ต่างต้องการหาที่ซ่อนตัวในถ้ำและโขดหินตามภูเขาเพราะเกิดความหวั่นกลัว การลงโทษจากพระเจ้า

    บทที่ 8
    ตราที่ 7 (8:1-5) ซึ่งได้เป็นแตรทั้ง 7 ทูตสวรรค์เจ็ดองค์ ได้รับพระราชทานแตรเจ็ดคันเตรียมพร้อมที่จะเป่า และก่อนที่จะเป่าแตร พระเจ้าทรงให้ทูตสวรรค์อีกองค์ถือกระถางไฟทองคำถวายคำอธิษฐานของธรรมมิกชน

    สู่เบื้องพระพักตร์พระเจ้า หลังจากนั้นให้โยนกระถางไปนั้นลงบนพื้นดินโลกซึ่งทำให้เกิดเสียงฟ้าร้อง เสียงต่างๆ ฟ้าแลบ และแผ่นดินไหว

    2. แตรทั้ง 7 (8:6-15)

    แตรที่ 1 (8:6-7) ลูกเห็บและไฟปนเลือด

    แตรที่ 1 ถูกเป่าเป็นเหมือนการเริ่มต้นลงโทษโลกนี้อีกระดับหนึ่ง ลูกเห็บที่ตกลงมาได้ทำลายพืชผัก ต้นไม้ที่อยู่ตามที่โล่ง เราสามารถดูภาพเปรียบเทียบได้จาก อพยพ.9:18-26 ส่วนไฟปนเลือดนั้นเป็นไปตามคำพยากรณ์ของโยเอล 2:30 ว่า เราจะสำแดงลางอัศจรรย์ในท้องฟ้าและบนดินเป็นเลือดและไฟและลำควัน ผลจากลูกเห็บและไฟปนเลือดแผ่นดินโลกไหม้ไปหนึ่งในสาม ต้นไม้ หมายถึงพืชผลด้วยไหม้ไปหนึ่งในสาม อาหารด้านพืชผักจะขาดแคลนอย่างมากมาย หญ้าเขียวสดเป็นอาหารของสัตว์ที่ให้นมและเนื้อแก่มนุษย์ก็ถูกทำลายสิ้น

    แตรที่ 2 (8:8-9) ภูเขาใหญ่ที่ลุกไหม้ถูกทิ้งลงทะเล
    ภาพของสิ่งที่เหมือนภูเขาใหญ่มีไฟลุกไหม้อยู่ถูกทิ้งลงไปในทะเล อาจเป็นเพลิงไฟที่ตกจากฟ้าลงสู่ทะเลตามตัวอักษร แต่ก็มีผู้สันนิษฐานว่าเป็นอุกกาบาตที่ยังลุกไหม้อยู่ตกลงมาสู่ทะเล
    หรืออาจเป็นระเบิดนิวเคลียร์ที่ถูกยิงสู่อวกาศแล้วตกลงสู่ทะเล อย่างไรก็ตามผลของลูกไฟที่ตกลงทะเลทำให้หนึ่งในสามส่วนของทะเลกลายเป็นเลือด หนึ่งในสามส่วนของสัตว์ทะเลตายลง และหนึ่งในสามส่วนของเรือสินค้าพินาศไป นี่ไม่เพียงเกิดปัญหามลภาวะเท่านั้น อาหารส่วนหนึ่งของมนุษย์จะขาดหายไป การขนส่งทางทะเลก็มีปัญหาใหญ่เกิดขึ้น

    แตรที่ 3 (8:10-11) ดวงดาวที่ชื่อบอระเพ็ดตกลงตามธารน้ำ
    ลักษณะเดียวกับดวงไฟที่ตกลงทะเลของแตรที่ 2 ต่างกันที่นี้บอกไว้ชัดเจนว่าเป็นดวงดาวดวงใหญ่ที่เป็นเปลวไฟ และตกลงที่ธารน้ำจืด ทำให้น้ำจืดของโลกหนึ่งในสามส่วนกลายเป็นรสขม รสขมในพระคัมภีร์จะใช้เป็นเครื่องหมายของความเศร้าโศก และความขมขื่น (เฉลยธรรมบัญญัติ. 29:18) ผลที่เกิดขึ้นน่าเวทนายิ่ง เพราะน้ำดื่มซึ่งเป็นสิ่งที่จำเป็นสำหรับชีวิตมนุษย์หนึ่งในสามส่วนต้องกลายเป็นพิษ มนุษย์จำนวนมากต้องเสียชีวิตลงจากการดื่มน้ำที่เป็นพิษ หรือจากการขาดน้ำดื่ม

    แตรที่ 4 (8:12) ดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ และดวงดาวมืดไป
    ภัยพิบัติจากแตรสามคันที่ผ่านมามีผลทำลายพื้นดินและน้ำ เพียงหนึ่งในสามส่วนเท่านั้น แต่การที่ระบบสุริยะจักรวาลมีปัญหา ดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ ดวงดาวมืดไปหนึ่งในสามมีผลต่อทั้งแผ่นดินโลก เพราะเมื่อขาดพลังที่มาจากแสงอาทิตย์ ระบบของธรรมชาติก็ดี การดำเนินชีวิตทั่วไปก็ดี จะเกิดปัญหาตามมา เช่น อากาศเป็นพิษ ความหนาว พืชผัก สัตว์เลี้ยงและอาหารทั้งหลายตรงกับพระธรรมอาโมส 5:18 ได้บรรยายถึงวันแห่งพระเจ้าว่าเป็นวันแห่งความมืด

    แตรที่ 5 (8:13, 9:1-12) ฝูงตั๊กแตนจากช่องบาดาล
    ก่อนเริ่มเป่าแตรที่ 5 มีนกอินทรีตัวหนึ่งบินมาประกาศว่าวิบัติจะมีแก่มนุษย์ในโลก ร้องว่า วิบัติ 3 ครั้ง ซึ่งเกี่ยวกับแตร 3 คันที่เหลืออยู่ น่าสังเกตที่แตร 4 คัน ที่เป่าไปแล้วมีการทำลายสภาพแวดล้อมที่อยู่รอบๆ ตัวมนุษย์ แต่แตรที่เหลืออยู่อีก 3 คัน แต่ละคันจะเป็นการทำลายคนที่อยู่ในแผ่นดินโลก คำว่า คนทั้งหลายที่อยู่ในแผ่นดินโลก ถูกใช้ในพระธรรมวิวรณ์ 12 ครั้ง (3:10; 6:10; 8:13; 11:10; (2 ครั้ง) 12:12; 13:8; 13:12; 13: 14; 14:6; 17:2; 17:8) เป็นคำที่ตรงข้ามกับคำว่า บ้านเมืองของเรานั้นอยู่ที่สวรรค์ (ฟิลิปปี.3:18-21) เมื่อแตรคันที่ 5 ถูกเป่าดาวดวงหนึ่งตกจากฟ้า ดาวดวงนี้เป็นบุคคลไม่ใช่วัตถุสิ่งของ เพราะได้รับกุญแจช่องบาดาลมาด้วย และก็เป็นผู้เปิดช่องบาดาล เป็นที่เข้าใจว่าดวงดาวนี้ คือ ซาตานที่ถูกขับลงมาจากสวรรค์ ซึ่งมีชื่อว่าดาวประจำรุ่ง หรือ ลูซิเฟอร์ (อิสยาห์ 14:12-14) พระเยซูคริสต์ก็ทรงตรัสไว้ว่า เราได้เห็นซาตานตกจากฟ้าเหมือนฟ้าแลบ (ลูกา 10:18) ช่องบาดาลเป็นที่อยู่ของสิ่งชั่วร้าย พวกมันถูกปล่อยออกมาและติดตามกษัตริย์ของมันคือซาตาน (11) ที่มีอีกชื่อหนึ่งว่าผู้ทำลาย ตั๊กแตนในที่นี้ไม่ใช่ตั๊กแตนตามตัวอักษร เพราะถ้าเป็นตั๊กแตนสิ่งที่มันจะทำลายคือพืชผล แต่ตั๊กแตนเหล่านี้จะไม่ทำลายพืชผลทั้งหลายกลับจะทำการทำลายมนุษย์ที่อยู่ในโลก และตั๊กแตนจริงไม่มีเหล็กไนที่หางตั๊กแตนในที่นี้คงจะหมายถึงผู้ที่ทำลายคน
    หรือเป็นวิญญาณชั่วที่คอยทำร้ายคน แต่มันไม่มีสิทธิต่อผู้ที่ได้รับประทับตราของพระเจ้าบนหน้าผาก ผลที่เกิดขึ้นต่อผู้ที่ถูกทำร้ายคือทรมานอยู่ห้าเดือน พวกเขาจะแสวงหาความตายแต่จะไม่พบ (9:6)

    แตรที่ 6 (9:13-21) ทูตทั้งสี่แห่งยูเฟรติส
    หลังจากเป่าแตรที่ 6 ทูตสวรรค์ที่เป่าก็ได้รับคำสั่งให้แก้มัดทูตสวรรค์ทั้งสี่แห่งแม่น้ำ ยูเฟรติส ทูตสวรรค์ทั้งสี่เป็นทูตสวรรค์ที่เลวแน่ เพราะทูตสวรรค์ที่ดีจะไม่ถูกมัดไว้ พระเจ้าทรงเตรียมพวกเขาไว้สำหรับ (ชั่วโมง วันเดือน และปี) ที่จะให้ฆ่ามนุษย์เสียหนึ่งในสามส่วน จุดประสงค์พิเศษมนุษย์หนึ่งในสามที่ถูกฆ่ารวมกับหนึ่งในสี่ที่บันทึกในเรื่องตราดวงที่สี่ ที่ผู้ขี่ม้าสีกะเลียวชื่อมัจจุราชมาฆ่าทำลายแล้ว ร่วมเป็นครึ่งหนึ่งของมนุษย์ในโลกถูกทำลายในช่วงนี้ พลทหารสองร้อยล้านคนตัวเลขทหารสองร้อยล้านเป็นสิ่งที่ยากในอดีต. ที่ประเทศไหนในโลกจะมีทหารมากมายเช่นนี้ แต่เป็นได้แล้วในปัจจุบัน เป็นประเทศใดไม่ได้ถูกเจาะจงรู้แต่ว่ามาจากตะวันออก (16:12) และได้พยากรณ์ไว้แล้วในดาเนียล 11:44

    ข้อ 17-19 ภาพของม้าที่ฆ่าทำลายมนุษย์หนึ่งในสามนั้น เป็นภาพของอาวุธสงครามที่ชัดเจนมาก ไฟ ควัน และกำมะถันที่ออกจากปากนั้นเป็นกระสุน ระเบิดต่างๆ ที่พบเห็นได้ในสงคราม อย่างไรก็ตามที่น่าสังเกตคือ ข้อ 20-21 แม้มนุษย์จะอยู่ในสภาพที่น่าเวทนาเช่นนี้ แทนที่จะกลับใจเสียใหม่ พวกเขากลับไปยึดรูปเคารพ กราบไหว้บูชาผี เชื่อในเวทมนต์ และดำเนินชีวิตที่ชั่วร้ายต่อไป

    จาก
    http://www.geocities.com/janejira_jc/Rev/Rev_6.html

    บทที่ 9
    พระธรรมวิวรณ์บทที่ 16:1-21
    1. ขันทั้ง 7 (16:1-21)
    ขันที่ 1 (16:1-2) เกิดแผลร้ายที่เป็นหนองทั้งตัว
    ยอห์นได้ยินเสียงดังมาจากพระวิหารสั่งทูตสวรรค์ทั้ง 7 ให้นำขันทั้ง 7 ที่เต็มไปด้วยพระพิโรธของพระเจ้าเทลงบนแผ่นดินโลก

    ทูตสวรรค์องค์แรกก็เทขันลงบนแผ่นดินโลก คนทั้งหลายที่มีเครื่องหมาย 666 และบูชารูปของสัตว์ร้ายจะเกิดแผลร้ายที่เป็นหนองทั่วตัว มีแผลที่เป็นหนองทั้งตัว เป็นภาพที่น่ากลัวยิ่งกว่าภาพของพวกอียิปต์เกิดฝีแตกลามไปทั่วตัวคนและสัตว์ ในคราวภัยพิบัติเพราะฟาโรห์ไม่ยอมให้อิสราเอลออกจากอียิปต์ (อพยพ 9:10) อาจจะเป็นโรคที่ร้ายยิ่งกว่าโรคเอดส์ เพราะคนที่มีแผลร้ายนี้จะกัดลิ้นของตนด้วยความระทมและต่อว่าพระเจ้า (16:10) และมีความเจ็บปวดมาก (16:11) แต่น่าเสียดายอย่างยิ่งที่พวกเขาไม่ได้สำนึกในการประพฤติของตน ไม่ได้กลับตัวกลับใจจากความผิดบาป กลับสาปแช่งพระเจ้าแห่งสวรรค์ (16:11) เพราะฉะนั้นพระพิโรธของพระเจ้าที่มีต่อบุคคลเหล่านี้ ก็สาสมกับพฤติกรรมของพวกเขาแล้ว

    ขันที่ 2 (16:3) ทะเลกลายเป็นเลือด
    เมื่อเป่าแตรที่ 2 ทะเลได้กลายเป็นเลือดเสียหนึ่งในสามส่วน สิ่งมีชีวิตก็ตายหนึ่งในสามและบรรดาเรือกำปั่นแตกเสียหนึ่งในสามส่วน (8:9) แต่เมื่อถึงขันแห่งพระพิโรธที่ทูตสวรรค์องค์ที่ 2 เทขันที่ 2 ลงในทะเล ทะเลก็กลายเป็นเลือดเหมือนเลือดคนตายทั้งหมด และสิ่งมีชีวิตในทะเลก็ตายหมดสิ้น และแน่นอนระบบธรรมชาติที่เกี่ยวข้องกับอากาศ การเป็นอยู่ของสิ่งมีชีวิตในโลกทั้งอยู่ใต้ทะเลและบนแผ่นดินต้องพบกับความหายนะ

    ที่ตามมา มีคำถามว่าทะเลที่กลายเป็นเลือดนั้นเป็นเลือดจริงๆ หรือเปล่า และทะเลซึ่งกว้างใหญ่ไพศาลมากเช่นนี้ จะถูกทำลายทั้งหมดได้หรือ จากข้อเขียนที่ว่า เหมือนเลือดของคนตาย พอคาดคะเนได้ว่าไม่น่าจะเป็นเลือดแดงๆ ของมนุษย์หรือสัตว์ แต่เป็นไปได้ที่เป็นสารเคมีที่มีอยู่เต็มทะเลจนสัตว์ทั้งหลายไม่สามารถอาศัยดำรงชีวิต ได้ต่อไป เช่น น้ำมันที่มีอยู่ในทะเลยิ่งมายิ่งมาก ขยะและวัตถุที่ไม่ละลายหรือพลาสติกสิ่งเหล่านี้เป็นสสารทางเคมีที่นับวัน จะเพิ่มทวีมากขึ้น นับเป็นปรากฏการณ์ที่สะท้อนให้เห็นว่าสภาพที่ทะเลจะถูกทำลายลงนั้น เป็นไปได้อย่างสูง เนื่องจากทะเลถูกทำลายนั่นเองมีผลกระทบต่อสภาพแวดล้อม และการดำเนินชีวิตของมนุษย์เป็นอย่างมาก

    ขันที่ 3 (16:4-7) ธารน้ำทั้งหมดกลายเป็นเลือด
    ทูตสวรรค์องค์ที่สามเทขันลงธารน้ำทั้งหลาย น้ำในแผ่นดินทั้งหมดก็กลายเป็นเลือด คงจะเป็นสภาพเดียวกันกับน้ำทะเลที่ถูกทำลายลงด้วยสารเคมีต่างๆ สำหรับแม่น้ำลำคลองแล้วยิ่งเห็นได้ชัดเจนยิ่งขึ้น เพราะทุกวันนี้แหล่งน้ำดื่มเหล่านี้เริ่มมีปัญหาอยู่แล้ว ด้วยเหตุที่มนุษย์ขาดน้ำไม่ได้ เพราะฉะนั้นในนิมิตที่ยอห์นเห็นแม่น้ำกลายเป็นเลือดมนุษย์ก็ต้องดื่ม (16:6) และนี้เป็นผลจากการที่พวกเขาได้กระทำต่อธรรมมิกชนและผู้เผยพระวจนะ แม้ภาพที่เห็นจะทารุณกรรมสักเพียงใดแต่เสียงทูตสวรรค์และเสียงจากแท่นบูชา ได้ยืนยันว่าพระเจ้าบริสุทธิ์ ชอบธรรมเที่ยงธรรม และยุติธรรมที่ได้พิพากษาโลกนี้ สิ่งที่น่าสังเกตคือ การลงโทษที่เกิดขึ้นนี้เป็นผลตอบสนองจากการกระทำของมนุษย์ต่อผู้อื่นรวมทั้ง ต่อธรรมชาติ

    ขันที่ 4 (16:8-9) ดวงอาทิตย์คลอกมนุษย์ด้วยไฟ
    ทูตสวรรค์องค์ที่สี่ เทขันที่ 4 ลงที่ดวงอาทิตย์ ดวงอาทิตย์กลายเป็นเพลิงไฟที่คลอกมนุษย์ ช่วงที่แกะตราที่ 6 ดวงอาทิตย์ได้มืดลงดุจผ้ากระสอบขนสัตว์ เมื่อเป่าแตรที่สี่ ดวงอาทิตย์มืดไปหนึ่งในสามแต่ที่นี้ถึงช่วงขันที่ 4 ดวงอาทิตย์กลับร้อนแรงกล้า แผดเผามนุษย์จนกลายเป็นคลอกมนุษย์ด้วยไฟ สภาพเช่นนี้ที่เกิดขึ้งคงเกี่ยวข้องกับมหาสมุทรที่เสียไป เมื่อน้ำตามธรรมชาติถูกทำลายระบบหมุนเวียนของน้ำก็เสียไป เพราะฉะนั้นความแห้งแล้งคงมีไปทั่วแผ่นดิน พืชผักต้นไม้ไม่สามารถมีชีวิตอยู่ได้ แผ่นดินแตกระแหง ทะเลทรายเพิ่มขึ้นรวมถึงมนุษย์ไม่มีน้ำดื่ม ต้องหิวกระหายน้ำเป็นภาพที่น่าสังเวชอย่างยิ่ง แต่มนุษย์แทนที่จะสำนึกกลับใจมาขออภัยโทษจากพระเจ้า พวกเขากลับสาปแช่งพระนามพระเจ้าไม่ยอมถวายพระเกียรติแด่พระองค์

    ขันที่ 5 (16:10-11) อาณาจักรสัตว์ร้ายมืดไป
    ขันที่ห้าเป็น เต็มตัว ขาดน้ำดื่ม น้ำใช้ ถูกความร้อนของดวงอาทิตย์แผดเผา เป็นสิ่งที่ระทมทุกข์ยิ่ง แต่แม้ตกอยู่ในสภาพเช่นนี้ พวกเขาก็ไม่ได้สำนึกผิดในการประพฤติของตน สัตว์ร้ายซึ่งเป็นที่บูชาของมนุษย์ก็ไม่สามารถรักษามนุษย์ได้ ตรงกันข้ามอาณาจักรของมันก็มืดไปเพราะอำนาจของพระเจ้า

    ขันที่ 6 (16:12-16) แม่น้ำยูเฟรติสเหือดแห้ง
    ทูตสวรรค์องค์ที่หกเทขันลงที่แม่น้ำใหญ่ ทำให้แม่น้ำยูเฟรติสเหือดแห้ง เพื่อพวกกษัตริย์จากตะวันออกจะยกทัพมายังอารมาเกดโดน มีผีโสโครกสามตนรูปร่างคล้ายกบออกจากปากของพญานาค (ซาตาน) สัตว์ร้าย (ศัตรูของพระคริสต์) ผู้เผยพระวจนะเทียมเท็จและผีโสโครกทั้งสามเป็นวิญญาณชั่วที่ไปชักชวนกษัตริย์
    ทั้งหลายด้วยหมายสำคัญเพื่อมาทำสงครามกับพระเจ้า กษัตริย์จากตะวันออกหมายถึงประเทศอะไร มีผู้อธิบายแตกต่างกันไป แต่ที่น่าสังเกต คือ ต้องข้ามแม่น้ำยูเฟรติสไปยังตำบลที่เรียกว่าอารมาเกดโดน ประเทศอีกฟากของแม่น้ำยูเฟรติสมีมากมายและศึกษาจากภาพรวมเรื่องกำลังพลแล้ว รับว่ามีมหาศาลทีเดียว อย่างไรก็ตามไม่มีข้อมูลระบุว่าเป็นประเทศอะไรบ้าง
    อารมาเกดโดน เป็นชื่อของที่เนินสูงของมาเกดโดน (har Megiddo) ที่นี่รวมถึงที่ราบแห่งเอสเดรโคลน (The plain of Esdraclon) มีพื้นที่กว้างประมาณ 14 ไมล์และยาว 20 ไมล์ นโปเลียนเคยบอกไว้ว่า ที่นี่เป็นสนามรบที่เป็นธรรมชาติที่สุดของโลก สมัยผู้วินิจฉัยเดโบราห์และบาราคเคยรบชนะบรรดากษัตริย์คานาอันที่นี่และทหารอังกฤษเคยใช้ที่นี่เพื่อทำสงครามรบชนะทหารเตอร์กี ปี ค.ศ. 1917
    ผีร้ายทั้งสามชักนำพวกกษัตริย์ทั้งหลายทำสงครามกับพระเจ้า เพราะซาตานรู้ว่าเวลาของมันมีน้อยมาก พระเยซูคริสต์กำลังจะเสด็จมาที่ภูเขามะกอกเทศ (เศคาริยาห์ 14:4) เพราะฉะนั้นมันจึงรวมพลที่อารมาเกดโดนเพื่อต่อต้านการเสด็จกลับมาของพระองค์ และผลของสงครามอารมาเกดโดน คือ สัตว์ร้ายและผู้เผยพระวจนะปลอมถูกจับทิ้งลงในบึงไฟที่ไหม้ด้วยกำมะถัน พญามารถูกมัดไว้และทิ้งลงในบาดาลลั่นกุญแจประทับตรา 1000 ปี (ดูรายละเอียดเพิ่มเติมในบทที่ 19:11 - 20:3) น่าสังเกต ผีร้ายทั้งสามสามารถชักนำพวกกษัตริย์ทั้งหลายมาทำสงครามได้ก็ด้วยหมายสำคัญ หรือการแสดงสิ่งอัศจรรย์ต่างๆ แสดงว่าซาตานได้ใช้อิทธิพลต่างๆ ครอบงำจิตใจของผู้นำประเทศในขณะนั้น เพื่อมาทำสงครามกับพระคริสต์

    ขันที่ 7 (16:17-21) สำเร็จแล้ว
    สำเร็จแล้ว นั้นหมายถึงการพยากรณ์ถึงวันแห่งพระพิโรธที่มีทั้งหมดนั้นได้สำเร็จ เมื่อเทขันสุดท้ายลงที่อากาศ แผ่นดินไหวครั้งใหญ่ซึ่งไม่เคยมีมาก่อนในแผ่นดินทำให้มหานครน่าจะหมายถึง บาบิโลน (ในบทที่ 18) แยกเป็นสามส่วนและที่แสดงให้เห็นว่าเป็นแผ่นดินไหวครั้งรุนแรงที่สุดในโลก คือเมืองใหญ่ของบรรดาประเทศทั้งหลายในโลกก็พังพินาศไปด้วย และบรรดาเกาะต่างๆ ภูเขาทั้งหลายก็หายไปหมด นักวิชาการที่มีทัศนะเห็นพ้องกับเรื่องก่อนพันปี (Premillenial) อธิบายเหตุการณ์ตอนนี้ว่าอาจเป็นการเคลียร์พื้นที่ต้อนรับการเสด็จมาปกครอง 1000 ปี ของพระคริสต์ในโลกนี้ก็ได้ ในนิมิตขันที่ 7 นี้ยังบันทึกว่าได้มีลูกเห็บที่ใหญ่ที่สุดในโลกตกลงสู่พื้นถูกคนทั้งหลาย คือประชาชนทั่วโลก มนุษย์แทนที่จะกลับใจ พวกเขายังสาปแช่งพระเจ้า นี่คงเป็นไปตามธรรมชาติความบาปที่มีอยู่ในมนุษย์ เพราะฉะนั้นก็สมควรอย่างยิ่งต่อการลงโทษของพระเจ้า

    2. เปรียบเทียบเรื่องภัยพิบัติในช่วงตราทั้ง 7 แตรทั้ง 7 และขันทั้ง 7
    1. ภัยพิบัติที่เกิดขึ้นทั้ง 3 ช่วงนี้ เกี่ยวข้องกันโดยตรง เพราะตราที่ 7 ประกอบด้วยแตรทั้ง 7 และแตรที่ 7 ประกอบด้วยขันทั้ง 7
    2. ภัยพิบัติที่เกิดขึ้นใหม่แต่ละช่วงนั้นจะเป็นลักษณะค่อยๆ เพิ่มความเข้มข้นในการลงโทษจากตราที่ 1-6 นับว่าเป็นการลงโทษขั้นเริ่มต้นเพื่อให้มนุษย์ได้สำนึกความบาปผิดของตน มีผู้ที่เสียชีวิตหนึ่งในสี่และธรรมชาติส่วนหนึ่งถูกทำลาย แต่มาถึงช่วงแตรที่ 1-6 การลงโทษทวีความรุนแรงมากขึ้น ทะเล ธารน้ำจืดและธรรมชาติ รวมทั้งมนุษย์หนึ่งในสามถูกทำลายสิ้น และมาจนถึงขันที่ 1-7 การลงโทษทวีความรุนแรงยิ่งขึ้น จนถึงที่สุด ทะเล ธารน้ำจืด สัตว์น้ำทั้งหมดถูกทำลายสิ้น ดวงอาทิตย์คลอกมนุษย์ด้วยไฟ สงครามอารมาเกดโดนได้ทำลายผู้ที่อยู่ฝ่ายของซาตานทั้งกษัตริย์ ทหาร ประชาชน ไม่ว่าไทหรือทาส ไม่ว่าผู้ใหญ่หรือผู้น้อยที่อยู่ฝ่ายซาตาน (สังเกตได้จากคนเหล่านั้นสาปแช่งพระเจ้า) พร้อมทั้งลูกเห็บที่แต่ละก้อนหนักประมาณ 50 กิโลกรัม ตกลงมาจากฟ้าถูกคนทั้งปวง
    3. ตราที่ 4 มนุษย์หนึ่งในสี่ต้องเสียชีวิตลง ที่นี่ยังไม่ได้พูดถึงการประทับตราชนชาติ อิสราเอล (ประทับตราชนชาติอิสราเอล 144,000 คน ในบทที่ 7) ซึ่งดูเหมือนเป็นภาพรวมของประชากรของโลกนี้ทั้งหมด และอธิบายตามทัศนะของก่อนพันปี (Premillenial) เห็นว่าช่วงนี้ชนชาติอิสราเอลถูกหลอกให้ร่วมมือกับสัตว์ร้าย อิสราเอลได้รับความเห็นชอบให้สร้างพระวิหารขึ้นมาใหม่ ภาพที่เห็นคือสันติภาพที่เกิดขึ้นในตะวันออกกลาง แต่ 3 ปีครึ่งให้หลังความจริงจึงได้ปรากฏพระวิหารถูกดูหมิ่นเหยียบย่ำลงโดยสัตว์ร้าย อิสราเอลจึงได้ตระหนักข้อเท็จจริงไม่ยอมร่วมมือกับสัตว์ร้ายอีกต่อไปอย่างเด็ดขาด และกระจายไปยังที่ต่างๆ และเป็นพยานที่ดีของพระเจ้า ภาพของแตรที่ 5 ก็ดี หรือของขันที่ 1 ได้แยกผู้ที่มีตราประทับของพระเจ้ากับผู้ที่มีตราของสัตว์ร้าย 666 ออกจากกัน ผู้ที่ไม่มีตราประทับของพระเจ้า (แตรที่ 5: วิวรณ์ 9:4) หรือผู้ที่มีเครื่องหมายของสัตว์ร้าย (ขันที่ 1 วิวรณ์ 16:2) ต้องรับการลงโทษให้ทุกข์ทรมานจากพิษแมลงป่อง และจากแผลร้ายที่เป็นหนองทั่วตัว
    4. วิญญาณใต้แท่นบูชาตามที่ได้บันทึกไว้ว่าในช่วงตราที่ 5 และช่วงขันที่ 3 ช่วงแรกเรียกร้องให้รีบทรงพิพากษาและตอบสนองต่อผู้ที่สมควรได้รับการลงโทษ ช่วงหลังเป็นการสะท้อนเสียงสนับสนุนการทรงลงโทษของพระเจ้าต่อผู้ที่สมควรได้รับการลงโทษ
    5. ดวงอาทิตย์ได้ถูกกล่าวถึงช่วงที่แกะตราที่ 6 เป่าแตรที่ 4 และเทขันที่ 4 สิ่งที่แตกต่างคือในช่วงตราและแตร ดวงอาทิตย์จะมืดลง แต่มาถึงขันดวงอาทิตย์กลับร้อนแรง และคลอกเผามนุษย์จนตาย
    6. ผลของการลงโทษไม่ว่าจากตรา แตร และขัน หรือจากเบาไปสู่หนัก การตอบสนองของผู้ที่ได้รับการลงโทษยังคงออกมาในทางลบ พวกเขาไม่ได้สำนึกผิด หลังจากตราที่ 6 พวกเขาร้องกับภูเขาและโขดหินว่า จงล้มทับเราเถิด จงซ่อนเราไว้ให้พ้นจากพระพักตร์ของพระองค์ผู้ประทับอยู่บนที่นั่ง และให้พ้นจากพระพิโรธของพระเมษปโดกนั้น (6:16)

    หลังจากแตรที่ 6 พระคัมภีร์บันทึกว่า มนุษย์ทั้งหลายที่เหลืออยู่ ที่มิได้ถูกฆ่าด้วยภัยพิบัติเหล่านี้ยังไม่ได้กลับใจใหม่จากงานทื่มือเขาได้กระทำ ไม่ได้เลิกบูชาผี บูชารูปเคารพที่ทำด้วยทองคำ เงินทองสัมฤทธิ์ หินและไม้ รูปเคารพเหล่านั้นจะดูหรือฟังหรือเดินก็ไม่ได้และเขาก็มิได้สำนึกในการฆ่าฟันกัน และการเชื่อเวทมนต์ การล่วงประเวณีและการลักขโมย (9:20-21) และหลังจากขันที่ห้า พระคัมภีร์บันทึกว่า คนเหล่านั้นได้กัดลิ้นของตนด้วยความระทมและสาปแช่งระเจ้าแห่งสวรรค์ เพราะความเจ็บปวดและเพราะแผลตามตัวของเขาเอง แต่เขาไม่ได้สำนึกในการประพฤติผิดของตน (16:10-11)

    7. ที่น่าสังเกตมากจากการเปรียบเทียบเหตุการณ์ในช่วงตราแตร และขันทั้ง 7 นั้นเมื่อมาถึงที่สุดของแต่ละช่วง (ตราที่ 7 แตรที่ 7 และขันที่ 7) นิมิตที่ยอห์นเห็นนอกจากการลงโทษบนโลกแล้วคือ การสำแดงเหตุการณ์ในสวรรค์ เมื่อถึงตราที่ 7 สวรรค์เงียบไปครึ่งชั่วโมง ทูตสวรรค์รับพระราชทานแตร มีการถวายเครื่องหอมสู่เบื้องพระพักตร์พระเจ้า และโยนกระถางสู่พื้นโลกเมื่อถึงแตรที่ 7 มีการกล่าวสรรเสริญพระเจ้าในสวรรค์ การนมัสการพระเจ้าของผู้อาวุโสยี่สิบสี่คน พระวิหารในสวรรค์เปิดออก ฟ้าแลบ ฟ้าร้อง แผ่นดินไหว และลูกเห็บตกบนโลกอย่างรุนแรง

    เมื่อถึงขันที่ 7 มีพระสุรเสียงดังจากพระที่นั่งในพระวิหาร (อยู่บนสรรค์) ว่าสำเร็จแล้วเช่นเดียวกับช่วงแตรที่ 7 มีเสียงฟ้าแลบ ฟ้าร้อง แผ่นดินไหวรุนแรงที่สุดในโลกและลูกเห็บที่หนักถึง 50 กิโลกรัมตกจากฟ้าถูกคนทั้งปวงในโลก

    image.jpg

    2. มหานครบาบิโลนล่ม 18:1-19:5
    ในช่วงก่อนที่มหานครบาบิโลนจะล่ม ยอห์นได้ยินเสียงร้องที่แตกต่างกัน ซึ่งสามารถแยกแยะได้เป็นสี่ประเภทด้วยกัน
    1. เสียงแห่งการลงโทษ (18:1-3)
    เสียงร้องดังกึกก้องจากทูตสวรรค์ว่า บาบิโลนล่มจมแล้วนครนี้ได้กลายเป็นที่อาศัยของความชั่วทั้งปวง โดยเฉพาะเกี่ยวข้องกับศาสนา เพราะประชาชาติได้มัวเมาหลงไหลกับนครนี้ ซึ่งเป็นศูนย์กลางทางศาสนาที่เต็มไปด้วยการบูชารูปเคารพและเต็มไปด้วยความผิดบาป บาปของนครนี้ได้กองสูงขึ้นถึงสวรรค์แล้ว (18:5)

    2. เสียงเรียกให้แยกออกจากนครนี้ (18:4-8)
    เสียงเรียกจากสวรรค์บอกให้ชนชาติของพระเจ้าให้ออกจากนครนี้ (18:4) เพื่อพวกเขาจะได้ไม่มีส่วนในความผิดบาปของนครนี้ และจะได้ไม่ต้องรับภัยพิบัติที่จะเกิดขึ้นกับนครนี้ และภัยพิบัตินี้ได้แก่ โรคระบาด ความระทมทุกข์ การกันดารอาหาร และไฟจะเผานครนี้จนพินาศสิ้นภายในวันเดียว (18:8) บาบิโลนที่เคยเย่อหยิ่งทะนงใจว่าตนอยู่อย่างราชินี (ยิ่งใหญ่มั่นคง มีพร้อมทุกสิ่ง) ไม่ใช่หญิงม่าย (ต่ำต้อย ไร้ที่พึ่ง ขาดแคลน) แต่เพียงวันเดียวทุกอย่างก็เปลี่ยนไป

    3. เสียงร่ำไห้คร่ำครวญ (18:9-19)
    จากเหตุการณ์ความพินาศของบาบิโลนได้ทำให้มีคนสามกลุ่มที่พิลาปร่ำไห้ และคร่ำครวญ
    - บรรดากษัตริย์แห่งแผ่นดินโลกที่ผูกพันกับมหานครนี้ พวกเขาร่ำไห้เพราะเห็นความพินาศของบาบิโลน และกลัวภัยแห่งการทรมานนครนั้นจะถึงตน (สะท้อนภาพว่าบาบิโลนเป็นศูนย์กลางทั้งด้านศาสนาและการเมือง)
    - บรรดาพ่อค้าในแผ่นดินโลก พวกเขาร่ำไห้ เพราะนครนี้เป็นศูนย์กลางของเศรษฐกิจ มีการค้าขายทุกชนิดแม้ชีวิตมนุษย์ พวกเขาทั้งหลายกลายเป็นคนมั่งมีเพราะนครนี้ แต่บัดนี้ทุกอย่างก็พินาศสูญสิ้น และพวกเขาก็กลัวภัยจากการทรมานนครจะถึงตนด้วย
    - บรรดาเรือ ผู้มีอาชีพทางทะเลทั้งหลาย ต่างก็โปรยผงลงศีรษะของตนและร้องไห้คร่ำครวญ เพราะพวกเขากลายเป็นคนมั่งมีได้เพราะนครนี้ บัดนี้กลายเป็นนครร้างเปล่าแล้ว และพวกเขาก็กลัวภัยพิบัติจากนครนี้จะถึงตนด้วย (สะท้อนภาพให้เห็นว่าบาบิโลนเป็นศูนย์กลางคมนาคมของโลก) น่าสังเกต คือคนเหล่านั้นทุกกลุ่มต่างก็ยืนอยู่แต่ห่างเพราะกลัว (18:10,15,17) ต่างก็คร่ำครวญว่า วิบัติแล้ว วิบัติแล้ว (18:10,16,19) ต่างก็บอกว่า ภายในชั่วโมงเดียวเท่านั้น (18:10,17,19) และภาพที่ทุกกลุ่มร่ำไห้คร่ำครวญแสดงออกถึงการหวั่นวิตกในผลประโยชน์ของตนมากกว่า

    4. เสียงแห่งความชื่นชนยินดี (18:20-24)
    หลังจากเสียงพิลาปร่ำไห้ของบรรดาผู้ที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับบาบิโลนแล้ว เสียงที่ยอห์นได้ยินคือ การเชิญชวนคนของพระเจ้าให้ร่าเริงเพราะพระเจ้าได้ทรงพิพากษานครนี้แล้ว นครนี้ได้ฆ่าคนของพระเจ้ามากมาย (18:24) ตรงข้ามกับเสียงความชื่นชมยินดีบนสวรรค์คือ ความว่างเปล่า และเงียบสงบของบาบิโลนเพราะบาบิโลนถูกกลืนหายลงไปในทะเลเหมือน
    หินโม่ใหญ่ที่ถูกทุ่มลงในทะเล ความสนุกสนานวิทยาการต่างๆ การงานทั้งหลายและความร่าเริงจะหมดหายไป (18:22-23)
    บาบิโลนมีความเป็นมาอย่างไร และในพระธรรมวิวรณ์ยอห์นต้องการชี้ว่ามหานครบาบิโลน คือที่ไหน นี่เป็นคำถามที่ยังคงแสวงหาคำตอบ

    เริ่มจากพระธรรมปฐมกาลบทที่ 10 ได้บันทึกว่านิมโรดพรานใหญ่ยิ่งต่อพระพักตร์พระเจ้า เป็นผู้ทรงสร้างเมืองบาบิโลน (ปฐมกาล 10:9-10) บาบิโลนตั้งอยู่ในแผ่นดินชินาร์ (ปฐมกาล 10:10) ซึ่งเป็นที่ตั้งเดียวกับหอบาเบล (ปฐมกาล 11:1-9) และเป็นที่ราบอันอุดมสมบูรณ์บริเวณแม่น้ำยูเฟรติส บาบิโลนได้กลายเป็นจักรวรรดิภายใต้การนำของกษัตริย์ฮัมมูราบี (Hammurabi) ในช่วงก่อนคริสตศักราช.1726 - 1686 และเป็นที่รู้จักกันดีในเรื่องกฎหมายของฮัมมูราบีซึ่งถือเป็นกฎหมายฉบับแรกของโลก แต่ช่วงที่บาบิโลนรุ่งเรืองที่สุดนั่นอยู่ในช่วงของกษัตริย์เนบูคัดเนสซาร์ก่อน

    คริสตศักราช 600 ทรงสร้างเมืองขึ้นมาใหม่โดยเฉพาะอย่างยิ่งสวนลอยฟ้าซึ่งเป็นหนึ่งในเจ็ด

    สิ่งมหัศจรรย์ของโลกโบราณ และชนชาติอิสราเอลถูกกวาดต้อนมาเป็นเชลยอยู่ที่บาบิโลน ในปีก่อนคริสตจักรศักราช 587 จักรวรรดิบาบิโลนได้ล่มสลายลงเมื่ออาณาจักรมีเดียเข้ามายึดครอง ต่อมาตกอยู่ภายใต้การปกครองของเปอร์เซีย, กรีก, โรม ปัจจุบันบาบิโลนอยู่ในประเทศอิรัก สวยลอยฟ้าเป็นเมืองโบราณ หรือพิพิธภัณฑ์สถาน สำหรับคริสตจักรในยุคแรก หรือช่วงเวลาของยอห์นผู้เขียนพระธรรมวิวรณ์ มหานคร บาบิโลนเป็นภาษาสัญลักษณ์ หมายถึง อาณาจักรโรม แต่ขณะเดียวกันก็จะเกี่ยวข้องกับความเป็นศูนย์กลางของอาณาจักร นิมิตที่ยอห์นได้รับ เสียงจากทูตสวรรค์ที่ประกาศว่า บาบิโลนมหานครนั้นล่มจมแล้ว (14:8) วิบัติแล้ว วิบัติแล้ว บาบิโลนมหานครที่ยิ่งใหญ่ เจ้าได้รับการพิพากษาโทษให้พินาศไปภายในชั่วโมงเดียวเท่านั้น (18:10) มหานครบาบิโลนที่เอ่ยถึงนี้น่าจะหมายถึง ประเทศหรืออาณาจักรไหนกันแน่ มีผู้ให้ข้อคิดเห็นแตกต่างกันมากมาย พอสรุปได้อย่างน้อย 3 แห่งด้วยกัน
    1. อาณาจักรโรมที่ถูกฟื้นขึ้นมาใหม่ ซึ่งอาจหมายถึงกลุ่มประเทศในยุโรปที่จะรวมตัวกันเป็นสหราชอาณาจักร เหมือนอาณาจักรเดียวกันที่ก้าวขึ้นมาเป็นศูนย์กลางต่างๆ ของโลก เมื่อการคมนาคมของยุโรปได้ผูกพันเป็นเอกภาพและเงินยูโรถูกใช้เป็นสกุลเดียวกันทั่วยุโรป ภาพของยุโรปเป็นอาณาจักรโฉมใหม่เริ่มถูกกล่าวถึงมากขึ้น
    2. อาณาจักรบาบิโลนที่ถูกรื้อฟื้นขึ้นมาใหม่ ซึ่งอาจหมายถึง ประเทศในตะวันออกกลาง อิรักหรืออิหร่านที่ก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำของโลกอาหรับก่อนแล้วขยายครอบคลุมไปทั่วโลก(b-wow)
    3. มหาอำนาจประเทศหนึ่งในโลกนี้ ซึ่งเป็นศูนย์กลางสำคัญทั้งด้านเศรษฐกิจ การศึกษา ศาสนาและการอำนาจทางการเมือง หลังจากค่ายคอมมิวนิสต์ในยุโรปและสหภาพรัสเซียล่มสลายแล้วมีมหาอำนาจเดียวที่เหลืออยู่ คือ สหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นทั้งศูนย์กลางเศรษฐกิจของโลกและมีอิทธิพลทางทหารและอาวุธมากที่สุดของโลกทุกวันนี้

    จาก
    http://www.geocities.com/janejira_jc/Rev/Rev_10.html

    ต่อด้วยบท 18
    18:1 ภายหลังเหตุการณ์เหล่านี้ข้าพเจ้าก็ได้เห็นทูตสวรรค์อีกองค์หนึ่งลงมาจากสวรรค์ ท่านมีอำนาจใหญ่ยิ่ง และรัศมีของท่านได้ทำให้แผ่นดินโลกสว่างไป
    18:2 ท่านได้ร้องประกาศด้วยเสียงกึกก้องว่า "บาบิโลนมหานครล่มจมแล้ว ล่มจมแล้ว กลายเป็นที่อาศัยของผีปิศาจ เป็นที่คุมขังของผีโสโครกทุกอย่าง และเป็นกรงของนกทุกอย่างที่ไม่สะอาดและน่าเกลียด
    18:3 เพราะว่าประชาชาติทั้งปวงได้ดื่มเหล้าองุ่นแห่งความเดือดดาลในการล่วงประเวณีของนครนั้น และบรรดากษัตริย์บนแผ่นดินโลกได้ล่วงประเวณีกับนครนั้น และพ่อค้าทั้งหลายแห่งแผ่นดินโลกก็ได้มั่งมีขึ้นด้วยทรัพย์ฟุ่มเฟือยของนครนั้น"
    18:4 และข้าพเจ้าได้ยินเสียงอีกเสียงหนึ่งประกาศมาจากสวรรค์ว่า "ชนชาติของเรา จงออกมาจากนครนั้นเถิด เพื่อท่านทั้งหลายจะไม่มีส่วนในการบาปของนครนั้น และเพื่อท่านจะไม่ต้องรับภัยพิบัติที่จะเกิดแก่นครนั้น
    18:5 เพราะว่าบาปของนครนั้นกองสูงขึ้นถึงสวรรค์แล้ว และพระเจ้าได้ทรงจำความชั่วช้าแห่งนครนั้นได้
    18:6 นครนั้นได้ให้ผลอย่างไร ก็จงให้ผลแก่นครนั้นอย่างนั้น และจงตอบแทนการกระทำของนครนั้นเป็นสองเท่า ในถ้วยที่นครนั้นได้ผสมไว้ก็จงผสมลงเป็นสองเท่าให้นครนั้น
    18:7 นครนั้นได้เย่อหยิ่งจองหองและมีชีวิตอย่างหรูหรามากเท่าใด ก็จงให้นครนั้นได้รับการทรมานและความระทมทุกข์มากเท่านั้น เพราะว่านครนั้นทะนงใจว่า `เราดำรงอยู่ในตำแหน่งราชินี ไม่ใช่หญิงม่าย เราจะไม่ประสบความระทมทุกข์เลย'
    18:8 เหตุฉะนั้น ภัยพิบัติต่างๆของนครนั้นจะเกิดขึ้นในวันเดียว ความตาย และความระทมทุกข์ การกันดารอาหาร และไฟจะเผานครนั้นให้พินาศหมดสิ้น เพราะว่าองค์พระผู้เป็นเจ้า พระเจ้า ผู้ทรงพิพากษานครนั้น ทรงอานุภาพยิ่งใหญ่"
    18:9 บรรดากษัตริย์แห่งแผ่นดินโลกที่ได้ล่วงประเวณีกับนครนั้น และได้มีชีวิตอย่างหรูหราร่วมกันนั้น เมื่อได้เห็นควันไฟที่ไหม้นครนั้น ก็จะพิลาปร่ำไห้คร่ำครวญเพราะนครนั้น
    18:10 พวกกษัตริย์จะยืนอยู่แต่ห่างๆเพราะกลัวภัยแห่งการทรมานของนครนั้น และจะกล่าวว่า "อนิจจาเอ๋ย อนิจจาเอ๋ย บาบิโลนมหานครที่ยิ่งใหญ่ นครที่แข็งแรง เพราะเจ้าได้รับการพิพากษาโทษให้พินาศไปภายในชั่วโมงเดียวเท่านั้น"
    18:11 บรรดาพ่อค้าในแผ่นดินโลกจะร่ำไห้คร่ำครวญเพราะนครนั้น เพราะว่าไม่มีใครซื้อสินค้าของเขาอีกต่อไปแล้ว
    18:12 สินค้าเหล่านั้นคือ ทองคำ เงิน เพชรพลอยต่างๆ ไข่มุก ผ้าป่านเนื้อละเอียด ผ้าสีม่วง ผ้าไหม ผ้าสีแดงเข้ม ไม้หอมทุกชนิด บรรดาภาชนะที่ทำด้วยงา บรรดาภาชนะไม้ที่มีราคามาก ภาชนะทองสัมฤทธิ์ ภาชนะเหล็ก ภาชนะหินอ่อน
    18:13 อบเชย เครื่องเทศ เครื่องหอม กำยาน เหล้าองุ่น น้ำมัน ยอดแป้ง ข้าวสาลี สัตว์ต่างๆ แกะ ม้า รถรบ และทาส และชีวิตมนุษย์
    18:14 และผลซึ่งจิตของเจ้ากระหายใคร่ได้นั้นก็ล่วงพ้นไปจากเจ้าแล้ว สิ่งสารพัดอันวิเศษยิ่งและหรูหราก็พินาศไปจากเจ้าแล้ว และเจ้าจะไม่ได้พบมันอีกเลย
    18:15 บรรดาพ่อค้าที่ได้ขายสิ่งของเหล่านั้น จนเป็นคนมั่งมีเพราะนครนั้น จะยืนอยู่แต่ไกลเพราะกลัวภัยจากการทรมานของนครนั้น พวกเขาจะร้องไห้คร่ำครวญด้วยเสียงดัง
    18:16 ว่า "อนิจจาเอ๋ย อนิจจาเอ๋ย มหานครนั้น ที่ได้นุ่งห่มผ้าป่านเนื้อละเอียด ผ้าสีม่วง และผ้าสีแดงเข้ม ที่ได้ประดับด้วยทองคำ เพชรพลอยต่างๆและไข่มุกนั้น
    18:17 เพียงในชั่วโมงเดียว ทรัพย์สมบัติอันยิ่งใหญ่นั้นก็พินาศสูญไปสิ้น" และนายเรือทุกคน คนที่โดยสารเรือ พวกลูกเรือ และคนทั้งหลายที่มีอาชีพทางทะเล ก็ได้ยืนอยู่แต่ห่างๆ
    18:18 และเมื่อคนเหล่านั้นได้เห็นควันไฟที่ไหม้นครนั้นก็ร้องว่า "นครใดเล่าจะเป็นเหมือนมหานครนี้"
    18:19 และเขาทั้งหลายก็โปรยผงคลีลงบนศีรษะของตน พลางร้องไห้คร่ำครวญว่า "อนิจจาเอ๋ย อนิจจาเอ๋ย มหานครนั้น อันเป็นที่ซึ่งคนทั้งปวงที่มีเรือกำปั่นเดินทะเลได้กลายเป็นคนมั่งมีด้วยเหตุจากสิ่งของมีค่าของนครนั้น เพราะภายในชั่วโมงเดียวนครนั้นก็เป็นที่รกร้างไป"
    18:20 เมืองสวรรค์ พวกอัครสาวกอันบริสุทธิ์ และพวกศาสดาพยากรณ์ทั้งหลาย จงร่าเริงยินดีเพราะนครนั้นเถิด เพราะพระเจ้าทรงแก้แค้นต่อนครนั้นให้ท่านทั้งหลายแล้ว
    18:21 แล้วทูตสวรรค์องค์หนึ่งที่มีฤทธิ์มาก ก็ได้ยกหินก้อนหนึ่งเหมือนหินโม่ใหญ่ทุ่มลงไปในทะเลแล้วว่า "บาบิโลนมหานครนั้นจะถูกทุ่มลงโดยแรงอย่างนี้แหละ และจะไม่มีใครเห็นนครนั้นอีกต่อไปเลย
    18:22 และจะไม่มีใครได้ยินเสียงนักดีดพิณเขาคู่ นักเล่นมโหรี นักเป่าปี่ และนักเป่าแตร ในเจ้าอีกต่อไป และในเจ้าจะไม่มีช่างในวิชาช่างต่างๆอีกต่อไป และจะไม่มีใครได้ยินเสียงโม่แป้งในเจ้าอีกต่อไป
    18:23 และในเจ้าจะไม่มีแสงประทีปส่องสว่างอีกต่อไป และจะไม่มีใครได้ยินเสียงเจ้าบ่าวเจ้าสาวในเจ้าอีกต่อไป เพราะว่าบรรดาพ่อค้าของเจ้าได้เป็นคนใหญ่โตแห่งแผ่นดินโลกแล้ว และโดยวิทยาคมของเจ้าได้ล่อลวงบรรดาประชาชาติให้ลุ่มหลง
    18:24 และในนครนั้นเขาได้พบโลหิตของพวกศาสดาพยากรณ์และพวกวิสุทธิชน และบรรดาคนที่ถูกฆ่าบนแผ่นดินโลก"

    http://palungjit.org/f2
    /หายนะ-อเมริกา-ตาม-พระคัมภีร์-วิวรณ์-บทที่17-9723.html
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 สิงหาคม 2013
  8. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,656
    ค่าพลัง:
    +97,150
    11 ส.ค. สยอง! ภูเขาไฟ “โรกาเตนดา” ระเบิดในอินโดนีเซีย ลาวาร้อน “กลืนผู้เคราะห์ร้ายทั้งเป็น” 6 ศพคาชายหาด
    image.jpg
    เอเจนซีส์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์-มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 6 ราย หลังจากที่ “ลาวาร้อน” ที่ไหลออกมาภูเขาไฟลูกหนึ่งทางตะวันออกของอินโดนีเซีย กลืนกินร่างของพวกเขาทั้งเป็น บนชายหาดแห่งหนึ่งในวันเสาร์ (10) ขณะที่เถ้าถ่านและกลุ่มควันจำนวนมากที่เกิดจากการระเบิดของภูเขาไฟลูกนี้ ได้ลอยสูงขึ้นไปบนท้องฟ้าสูงหลายกิโลเมตร

    รายงานข่าวระบุว่า ภูเขาไฟ “โรกาเตนดา” บนเกาะปาลูเอในจังหวัดนูซา เตงการาตะวันออกของอินโดนีเซีย ได้เกิดการระเบิดครั้งใหญ่ในวันเสาร์ (10) เป็นเหตุให้ทางการต้องเร่งสั่งอพยพผู้คนเกือบ 3,000 คนออกนอกพื้นที่เป็นการด่วน

    อย่างไรก็ดี มีรายงานการพบผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 6 ราย รวมถึงเด็ก 2 คน โดยผู้เสียชีวิตทั้งหมดถูกกลืนกินจากลาวาร้อนที่ไหลบ่ามายังชายหาดปองเกในเขตหมู่บ้านโรกิโรเล ซึ่งเจ้าหน้าที่คาดว่าทั้งหมดอาจเป็นนักท่องเที่ยวที่กำลังพักผ่อนอยู่ภายในเตนท์พักแรมบริเวณชายหาดและอาจหนีออกมาไม่ทัน จากสายธารลาวาที่ไหลบ่ามาอย่างรวดเร็ว

    ทั้งนี้ ภูเขาไฟโรกาเตนดาเป็นหนึ่งในภูเขาไฟจำนวน 129 ลูกที่ยังคงคุกรุ่นในอินโดนีเซีย ประเทศมุสลิมที่ใหญ่ที่สุดในโลกซึ่งมีเกาะมากกว่า 17,000 แห่งและเป็นบ้านของประชากรราว 240 ล้านคน
    Around the World - Manager Online -
     
  9. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,656
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ความจริงหลังกึ่งพุทธกาล image.jpg
    Shocking ใหม่ วิดีโอสึนามิญี่ปุ่นพบและปล่อยออกมาบน YouTube

    วิดีโอใหม่ สึนามิญี่ปุ่น ได้เปิดขึ้นและได้รับการตีพิมพ์เมื่อเร็ว ๆ นี้โดย LEAKEDCHANNEL บน YouTube

    วิดีโอนี้แสดงให้เห็นขนาดและความร้ายกาจของโศกนาฏกรรมครั้งนี้ที่ยังไม่ได้เห็นบนแหล่งข่าวของสื่อสำคัญอย่าง Beforeitsnews และที่อื่น ๆ

    สึนามิและพลังการทำลายทุกอย่างที่ขวางทางมัน เผยแพร่เมื่อ 3 มิถุนายน 2013
    Tsunami in Japan 2011 - Shocking video - YouTube
    รูปภาพบนไทม์ไลน์ · 8 นาทีที่แล้ว ·
    ดูภาพขนาดเต็ม · รายงานรูปภาพ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 11 สิงหาคม 2013
  10. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,656
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ความจริงหลังกึ่งพุทธกาล
    คลื่นน้ำเริ่มไหลจริงๆใน 3 นาทีแรก และจากนั้น คลื่นสึนามิและพลังงาน ทำลายทุกอย่างที่ขวางทางมันTsunami in Japan 2011 - Shocking video - YouTube
    Tsunami in Japan 2011 - Shocking video
    youtube.com
     
  11. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,656
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ความจริงหลังกึ่งพุทธกาล
    'STRANGE' - "สิ่งที่มนุษย์ไม่เคยเห็น จะได้เห็น"

    รวบรวมเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับท้องฟ้า อากาศ เหตุการณ์ที่ไม่สามารถอธิบายได้จากทั่วโลก จากแหล่งข่าวอิสระ
    image.jpg
    รวบรวมสิ่งแปลกของ 15 วันที่ผ่านมา
    https://www.youtube.com/watch?feature=player_embedded&v=myUsTmzn9o8
     
  12. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,656
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ความรู้ปัจจุบันที่เรามีอยู่ขณะนี้คือ ผลกระทบของพายุสุริยะจะรุนแรงอย่างไร และเช่นไร ขึ้นกับ 3 เหตุการณ์ต่อไปนี้ คือ

    เหตุการณ์แรกเกี่ยวข้องกับจุดดับบนดวงอาทิตย์ (sunspot) ซึ่งเป็นบริเวณผิวดวงอาทิตย์ที่มีอุณหภูมิต่ำกว่าบริเวณส่วนอื่น และเป็น บริเวณที่สนามแม่เหล็กจากดวงอาทิตย์สามารถทะลุออกจากดวงอาทิตย์ออกมาสู่ อวกาศภายนอกได้ ดังนั้น เมื่อเกิดการระเบิดที่ผิวดวง อาทิตย์ในบริเวณนี้ กระแสอนุภาคจะถูกผลักดันออกมาตามแนวเส้นแรงแม่เหล็กนี้มาสู่โลก และเมื่อกระแสอนุภาคจากจุดดับพุ่งชน บรรยากาศเบื้องบนของโลก มันจะปะทะอนุภาคที่มีประจุไฟฟ้าที่อยู่ในชั้นบรรยากาศของโลก (ionosphere) การชนกันเช่นนี้จะทำให้ เกิดกระแสประจุซึ่งมีอิทธิพลมากมายต่อการสื่อสารทางวิทยุ

    เหตุการณ์สองที่มีอิทธิพลทำให้สภาวะของอวกาศระหว่างโลกกับดวงอาทิตย์ปรวนแปร ในกรณีมีพายุสุริยะที่รุนแรงคือ ชั้นบรรยากาศ ของโลกอาจจะได้รับรังสีเอกซ์มากกว่าปกติถึง 1,000 เท่า รังสีเอกซ์นี้ จะทำให้อิเล็กตรอนที่กำลังโคจรอยู่รอบอะตอม กระเด็นหลุดออก จากอะตอม และถ้าอิเล็กตรอนเหล่านี้ชนยานอวกาศ ยานอวกาศก็จะมีความต่างศักย์ไฟฟ้าสูง ซึ่งจะทำให้วงจรอิเล็กทรอนิกส์ในยานเสีย และนั่นก็หมายถึงจุดจบของนักบินอวกาศ

    ส่วนเหตุการณ์สาม ซึ่งอาจถือได้ว่าเป็นเหตุการณ์ที่รุนแรงที่สุด เกิดขึ้นเมื่อกลุ่มก๊าซร้อนหลุดลอยมาถึงโลก และเมื่อมันพุ่งมาถึงโลกสนาม แม่เหล็กในก๊าซร้อนนั้นจะบิดเบนสนามแม่เหล็กโลก ทำให้มีกระแสไฟฟ้าไหลในชั้นบรรยากาศของโลกอย่างมากมาย กระแสไฟฟ้านี้ จะทำให้ชั้นบรรยากาศของโลกมีอุณหภูมิสูงขึ้น มันจึงขยายตัว ทำให้ยานอวกาศที่เคยโคจรอยู่เหนือบรรยากาศ ต้องเผชิญแรงต้านของ อากาศ ซึ่งจะมีผลทำให้ยานมีความเร็วลดลงแล้วตกลงสู่วงโคจรระดับต่ำ และตกลงโลกเร็วกว่ากำหนด

    เหล่านี้คือเหตุการณ์ที่อาจเกิดขึ้นเวลาโลกถูกพายุสุริยะกระหน่ำ ดังนั้น เพื่อเตือนภัยล่วงหน้า ศูนย์สภาวะแวดล้อมของอวกาศจึงได้ประกาศ คำพยากรณ์สภาวะของอวกาศล่วงหน้าหนึ่งวันทุกวัน เพื่อให้คนเกี่ยวข้องได้รู้ว่า พายุจากอวกาศที่กำลังจะเกิดนั้นรุนแรงเพียงใด และจะมาถึงเมื่อใด โดยใช้ดาวเทียมที่ชื่อ Solar and Heliospheric Observatory (SOHO) ซึ่งถูกส่งขึ้นไปเมื่อ 5 ปีก่อนนี้ ให้สำรวจดวงอาทิตย์ตลอดเวลา 24 ชั่วโมง เพราะดาวเทียมดวงนี้อยู่ห่างจากโลก 1.5 ล้านกิโลเมตร และมีกล้องโทรทรรศน์สำหรับ วิเคราะห์เหตุการณ์ต่างๆ บนดวงอาทิตย์ ดังนั้น SOHO ก็สามารถบอกได้ว่า ความเร็วของกลุ่มก๊าซร้อนเป็นเช่นไร และกลุ่มก๊าซนั้นมี ขนาดใหญ่หรือไม่เพียงใด และนอกจากดาวเทียม SOHO แล้วสหรัฐฯ ก็ยังมีดาวเทียมที่ชื่อ Advanced Composition Explorer หรือ ACE อีกด้วย ซึ่ง ACE ถูกส่งไปโคจรรอบดวงอาทิตย์กับโลก และทำหน้าที่รายงานให้โลกรู้ว่า มหพายุสุริยะกำลังจะมาหรือไม่ เพราะถ้ามาจริงๆ เราจะได้มีเวลาปลง
     
  13. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,656
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ความจริงหลังกึ่งพุทธกาล
    Whistleblower (ผู้เปิดเผยความลับ) นาซาบอกว่า สหรัฐฯปิดสถานทูตเพราะพันล้านกำลังจะตาย (วิดีโอ)
    NASA WHISTLEBLOWER SAYS "THE U.S. EMBASSIES CLOSED BECAUSE BILLIONS OF PEOPLE about TO DIE" - YouTube

    image.jpg

    ยังอยู่ที่ข่าวการปิดสถานทูต เพราะหลายคนยังไม่เชื่อว่ามะกันกลัวภัยก่อการร้ายของกลุ่มอัล ไกดา หลังจากมีการดักฟังการสื่อสารระหว่างนายไอมาน อัล ซาวาฮิรี ผู้นำอัล ไกดา และนายนัสเซอร์ อัล-วูเฮย์ชี ผู้นำกลุ่ม

    ข่าวการปิดสถานทูต
    การดักฟังผู้นำอัลไกดาทำให้สหรัฐปิดสถานทูต20แห่ง

    จนถึงขนาดต้องปิดสถานทูตและสถานกงสุลกว่า 20 แห่ง ในตะวันออกกลาง

    อ่านข่าวที่ https://www.google.co.th/search?q=N...BILLIONS+OF+PEOPLE+about+TO+DIE"&sa=N&start=0
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 11 สิงหาคม 2013
  14. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,656
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Signs of the end in Current Events : ก่อนเวลาสิ้นสุด!
    ข้อมูลเพิ่มเติม
    ความจริงหลังกึ่งพุทธกาล
    11 สิงหาคม 2013 ·
    กองทัพเรือสหรัฐออกแผนที่ใหม่!
    US Navy Map Of The Future Is This Now?
    image.jpg
    กองทัพเรือสหรัฐเผยแพร่แผนที่ใหม่ เป็นภาพของภูมิศาสตร์ในอนาคตของอเมริกา หรือแผนที่ใหม่หลังจากเกิดผลกระทบจากวิกฤติภัยพิบัติ เป็นภูมิทัศน์ทางธรณีฟิสิกส์ในอนาคต ผลกระทบจากเหตุการณ์ธรณีฟิสิกส์และจักรวาล ระหว่าง 2011 - 2012

    อาจเป็นภาพและข้อมูลของปีก่อน แต่หากลองเปรียบเทียบกับ สิ่งต่างๆที่เกิดขึ้นในขณะนี้ ดวงอาทิตย์ที่กำลังพลิกขั่ว และแผนที่ของนาย GORDON MICHAEL SCALLION อาจมีส่วนใกล้เคียงหรือไม่
    http://pelasgos.e-e-e.gr/assets/beforeitsnews_com.pdf

    และมันเป็นที่กังขาของผู้เฝ้าระวังหลายคน บังเอิญแผนที่ของ FEMA ที่มีพื้นที่ทับซ้อนกันของสีฟ้า คือสิ่งที่ต่างรู้ว่าเป็นแนวชายฝั่ง? ขอบเขตที่เป็นสีฟ้าที่หมายถึงทะเล ดูภาพถ่าย http://truthfrequencyradio.com/wp-content/uploads/2013/08/fema-camps-map.jpg

    และยิ่งเพิ่มความน่าสงสัยจากการการเตรียมการหลายๆอย่างของพวกเขา! สิ่งใหญกำลังจะได้เวลาหรือไม่?
     
  15. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,656
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ศูนย์กลางข่าวสารแผ่นดินไหวที่ญี่ปุ่น โดย สนญ. และ สนทญ. ได้แชร์ ลิงก์
    1 ชั่วโมงที่แล้ว ·
    @TomyamWasabi: เขตคันโตญี่ปุ่นอากาศร้อนจัดจ.กุมมา40.1℃ ส่วนโตเกียวอย่างน้อยไม่ต่ำกว่า77คนเป็นลมแดด &ถูกหามส่งโรงพยาบาล
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • image.jpg
      image.jpg
      ขนาดไฟล์:
      57.1 KB
      เปิดดู:
      81
  16. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,656
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ความจริงหลังกึ่งพุทธกาล
    1 ชั่วโมงที่แล้ว ·
    ข่าววันโลกาวินาศ จากในปี 2010 ได้เตือนถึงภัยพิบัติที่อาจเกิดจากการเปลี่ยนขั้วของดาวทอง
    image.jpg
    กลับไปในปี 2010 ดร. Michio Kaku เตือนเหตุการณ์ภัยพิบัติที่อาจเกิดขึ้น "เมื่อขั้วของดวงอาทิตย์จะพลิกในปี 2012"

    Doomsday - Sun Polar Shift Interview With Dr. Michio Kaku
    อัปโหลดเมื่อ1 เม.ย. 2010 Doomsday - Sun Polar Shift Interview With Dr. Michio Kaku - YouTube

    สนามแม่เหล็กของดวงอาทิตย์ (เกี่ยวกับการพลิก)
    เผยแพร่เมื่อ5 ส.ค. 2013
    The Sun's Magnetic Field is About to Flip. - YouTube

    และขณะนี้เราทุกคนรู้แล้วว่าตอนนี้ขั้วดวงอาทิตย์ไม่ได้พลิกในปี 2012 แต่เรารู้สำหรับข้อเท็จจริงตามที่องค์การนาซ่าบอกที่ขั้วดวงอาทิตย์จะพลิกใน 3 หรือ 4 เดือนข้างหน้า
     
  17. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,656
    ค่าพลัง:
    +97,150
    เกิดการประทุ และ CME บริเวณจุดดับหมายเลข 1810 บนดวงอาทิตย์ ซึ่งกลุ่มพลาสมา ได้เคลื่อนที่ไปทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ ไม่ตรงมาทางโลก
    image.jpg

    Added 08/10/2013 @ 12:30 UTC
    Eruption and CME
    A slow moving coronal mass ejection (CME) is visible in the latest STEREO Ahead COR2 imagery on Saturday morning. The source appears to be an eruption in the vicinity of region 1810 in the southwest quadrant. Based on the location, a majority of the cloud should be directed to the south and west, however there may also be somewhat of an Earth directed component. More imagery is needed in order to complete an analysis. More updates later today.

    UPDATE: The latest analysis is showing the plasma cloud directed southwest and away from Earth.
     
  18. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,656
    ค่าพลัง:
    +97,150
    การเมือง : สถานการณ์โลก
    วันที่ 11 สิงหาคม 2556 15:00
    ญี่ปุ่นเจอคลื่นความร้อนแรงสุดรอบ 6 ปี
    โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์

    สำนักงานอุตุนิยมวิทยาของญี่ปุ่นเผยคลื่นความร้อนที่รุนแรงได้แผ่ปกคลุมตลอดทั้งญี่ปุ่น ส่งผลให้อุณหภูมิเพิ่มขึ้นสูงกว่า 40 อาศาครั้งแรกในรอบ6ปี

    รายงานระบุว่า สามารถวัดอุณหภูมิได้ถึง 40.7 องศาเซลเซียส ซึ่งเป็นสถิติสูงสุดอันที่ 4 ของปะเทศ ที่จังหวัดโคชิในภาคตะวันตก และจังหวัดยามานาชิในภาคกลาง ในขณะที่อุณหภูมิโดยเฉลี่ยตลอดทั้งประเทศอยู่ที่ระดับสูงกว่า 35 องศาเซลเซียส
    คลื่นความร้อนที่แผ่ปกคลุมในทุกภูมิภาคส่งผลให้ประชาชนชีวิตไปแล้ว 2 คน โดยเป็นหญิงวัย 84 ปีและชายวัย 66 ปีในขณะที่ประชาชนอีก 16 คนถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลในพื้นที่
    ข้อมูลสถิติของสำนักงานระบุว่า สถิติอุณหภูมิสูงสุดในญี่ปุ่นอยู่ที่ 40.9 องศาเซลเซียสซึ่งวัดได้เมื่อวันที่ 16 สิงหาคม 2550
     
  19. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,696
    ค่าพลัง:
    +51,932
    *** กรรม ****

    เหลือเวลาไม่มาก...
    ขอให้เชื่อสัจจะ ปฏิบัติตนเป็นคนมีสัจจะ
    บาบิโลน อยู่ไม่ไกล....

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
     
  20. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,656
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ก้องภพ อยู่เย็น
    6 ชั่วโมงที่แล้ว
    วันที่ 10 สิงหาคม เวลา 17:56 UT เกิดปฏิกริยาที่ดวงอาทิตย์ที่มากกว่าปกติทางทิศตะวันตกเป็นหลัก จากการคำนวณพบว่าคลื่นพลังงานจะเดินทางมาถึงในแนววงโคจรของโลกในวันที่ 14 สิงหาคม เวลา 6 UT +/- 7 ชั่วโมง นอกจากนั้นยังพบการขยายตัวของจุดดับเบอร์ 1817 อย่างฉับพลันในเวลาประมาณ 23 UT (SolarHam.com - Sunspot Map) ผู้ที่สนใจโปรดติดตามสังเกตการณ์การเปลี่ยนแปลงทางธรรมชาติบนโลกที่สัมพันธ์กัน ตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 15 สิงหาคม ครับ

    รายละเอียดเพิ่มเติมมีดังนี้
    - ภาพถ่ายมุมกว้างของดวงอาทิตย์ มุมมองจากโลก CACTUS CME Details
    - วิดิโอภาพถ่ายมุมกว้างของดวงอาทิตย์ โดยโลกอยู่ทางด้านซ้ายมือของภาพ http://stereo.gsfc.nasa.gov/browse/2013/08/10/ahead_20130810_cor2_512.mpg
    - วิดิโอภาพถ่ายมุมกว้างของดวงอาทิตย์ โดยโลกอยู่ทางด้านขวามือของภาพ http://stereo.gsfc.nasa.gov/browse/2013/08/10/behind_20130810_cor2_512.mpg
    - โมเดลการแพร่กระจายของคลื่นพลังงานจากดวงอาทิตย์สู่โลก http://iswa.ccmc.gsfc.nasa.gov:8080/IswaSystemWebApp/StreamByDataIdServlet?allDataId=394776365
    SolarHam.com - Sunspot Map
    solarham.net
    image.jpg
     

แชร์หน้านี้

Loading...