ติดตามสถานะการณ์

ความจริงหลังกึ่งพุทธกาล
33 นาทีที่แล้ว ·
"แร้งคอย"..

วิดีโอ
Lady Liberty & the Attack of the Vultures - A Glimpse of America's Judgment - YouTube

เตรียมรับผลกระทบที่ไม่ธรรมดา!

 

ความจริงหลังกึ่งพุทธกาล แชร์ รูปภาพ ของ Daily Mail
11 นาทีที่แล้ว ·
สิ่งที่ เดลี่เมล นำเสนอ

"เมฆรูปเห็ดที่คล้ายกับนิวเคลยร์" บอกเพียงว่าเป็นการระเบิดสภาพอากาศ

ในขณะที่ข่าวอีกด้านมีการนำเสนอสิ่งที่คล้ายกันคือ การระเบิดของ Chem-Bombs
Chem-Bombs The New Explosive Aerial Aerosol Explosions - The New Method Of Dispersing Chemtrails(Videos) | Chemtrails
Incredible cloud over Denver's skyline looks like a MUSHROOM.

Photographer Greg Thow's incredible photographs of Denver weather | Mail Online Rina Green และ 7 อื่นๆ

 

ความจริงหลังกึ่งพุทธกาล แชร์ รูปภาพ ของ Thanong Fanclub
6 ชั่วโมงที่แล้ว ·
นอกจาก : "พวกบิกแบงค์เป็นเจ้าของนักการเมืองในกรุงวอชิงตัน ดีซี และพวกนี้กำลังทำลายระบบการเงินและเศรษฐกิจสหรัฐฯและทำให้สหรัฐฯเข้าสู่ภาวะเศรษฐกิจถดถอยอย่างรุนแรง"

เพิ่มเติม : โอบามาตั้งใจที่จะยุบเศรษฐกิจสหรัฐ Shocking: Obama Intends To Collapse US Economy – Exclusive – Ann Barnhardt | Obama

โดย แอน Barnhardt
SHOCKING: OBAMA INTENDS TO COLLAPSE US ECONOMY - EXCLUSIVE - Ann Barnhardt - YouTube
บิกแบงค์ปั่น ครอบงำและบิดเบือนทุกๆตลาดการเงินผ่านระบบเทรดคอมพิวเตอร์ที่รวดเร็วปานสายฟ้าแลบ

Paul B Farrell เป็นคอลิมนิสท์ของสื่อกระแสหลักMarketWatch ที่มีเจ้าของคือ Dow Jones & Company อัดGoldman Sachsซะเละ โดยกล่าวหามีส่วนร่วมในการทำผิดจรรยาบรรณ ปั่นทุบตลาดทุกอย่าง เป็นตัวอย่างที่แย่สำหรับบิกแบงค์ทั้งหลาย โดยที่ผ่านมาพวกบิกแบงค์ปั่น ขี้โกงครอบงำ บิดเบือนทุกตลาดเพื่อผลประโยชน์ของตัวเอง ไม่มีตลาดไหนที่มีกลไกเสรีเลย

ที่น่าสนใจ เขาบอกว่าพวกบิกแบงค์เป็นเจ้าของนักการเมืองในกรุงวอชิงตัน ดีซี และพวกนี้กำลังทำลายระบบการเงินและเศรษฐกิจสหรัฐฯและทำให้สหรัฐฯเข้าสู่ภาวะเศรษฐกิจถดถอยอย่างรุนแรง จากการรมีอิทธิพลเหนือกลไกตลาด และร่วมมือกันทั้งทุบ ทั้งปั่น ทั้งฮั๊วกัน ใช้ข้อมูลภายใน ในทุกๆตลาดการเงิน ตัวอย่างคือ

1. บิดเบือนตลาดไลบอร์Libor ที่มีทรัพย์สินรวม$800ล้านล้าน
2. ฟิกซ์ราคาตลาดอนุพันธ์derivativesที่ขนาด$1,200ล้านล้าน
3. ปั่น บิดเบือนตลาดอัตราแลกเปลี่ยน ซึ่งเป็นตลาดการเงินที่ใหญ่ที่สุด
4. ราคาทอง และเงินโดนบิดเบือน ปั่น
5. ทุกวันนี้ สินค้าการเงินทุกอย่างไม่ว่าจะเป็นหุ้น บอนด์ ออลชั่น อัตราแลกเปลี่ยนและ บริโภคภัณฑ์สามารถปั่น บิดเบือนได้ผ่านระบบคอมพิวเตอร์ที่เทรดแบบสายฟ้าแลบ

อีกหลักฐานว่าตลาดทองคำมีการปั่นบิดเบือนจากความเป็นจริง เรายิ่งเปิดประเทศ เปิดตลาดเล่นกับพวกนี้ ประเทศจะไม่เหลืออะไร อเมริกาแท้ๆ พวกบิกแบงค์ยังปล้นไปหมดเลย จนแทบจะไม่เหลืออะไรแล้ว

Thanong Fanclub
9/8/2013

Big Bank Conspiracy has ‘broken virtually every law on the books’

Today, “big banks manipulate every market they touch ... huge government subsidies were used for speculation ... throwing money at banks doesn’t help the economy.” In fact, despite his delusion of saving the world economy, Fed Chairman Ben Bernanke’s policies were “a major source of the crisis.” To stabilize the economy we need to “break up the banks,” but unfortunately “the big banks own D.C. politicians.”

The Washington’s Blog on “The Big Picture” is the must-read of 2013. exposing how Wall Street and the banking world are taking over America. Read some of their more than 50 links to all the toxic examples of the banking conspiracy driving our world to the third market crash of the 21st century, a collapse of the economy and the Great Depression II.

Beyond the tens of millions of overcharges in energy markets, Wall Street’s “Big Banks have manipulated virtually every other market as well — both in the financial sector and the real economy — and broken virtually every law on the books.” Yes, they’re corrupt.

Here are more examples of the Big Banks Conspiracy’s illegal manipulations: They “have been conspiring for decades to manipulate commodity prices” with a wholesale “takeover of the real economy as well as the financial system.” Their conspiracy includes widespread insider trading ... rigging Libor interest rates for $800 trillion in assets, which still hasn’t stopped ... price-fixing the $1,200 trillion derivatives market ... currency markets are “massively rigged” ... gold, silver and oil prices are illegally fixed ... Today virtually “everything can be manipulated through high-frequency trading ... stocks, bonds, options, currencies and commodities.”

The 50-plus examples of the Big Banks Conspiracy also includes: Price-fixing of billions in fraud against local governments and pension funds ... bogus fees to store gold bullion, without ever owning gold ... frauds in mortgage origination fees ... cheating homeowners in foreclosures ... charging unlawful mortgage fees ... pushing bad investment deals “then betting against the same investments.” ... illegal front-running and “wash trades” ... “participating in various Ponzi schemes” ... “cooking their books” ... and “bribing and bullying rating agencies to inflate ratings on their risky investments.”

Big Banks Conspiracy is destroying America - Paul B. Farrell - MarketWatch

 

ศูนย์กลางข่าวสารแผ่นดินไหวที่ญี่ปุ่น โดย สนญ. และ สนทญ. แชร์ รูปภาพ ของ Anawat Suppasri
เมื่อ 9 สิงหาคม 2556เวลา 7:40 น. ·

สาเหตุการเตือนภัยแผ่นดินไหวผิดพลาดเมื่อวานนี้
เมื่อวานนี้ตอน 16.56 แทบจะทุกคนในญี่ปุ่นคงจะได้รับการเตือนแผ่นดินไหวล่วงหน้าขนาด 7.8 ที่มีจุดกำเนิดอยู่แถวๆจังหวัดนารา จังหวัดวาคายาม่า แต่พอถึงเวลาแล้วกลับไม่สั่น แล้วมีมีการออกประกาศใหม่ว่าเป็นการเตือนผิดพลาดซึ่งจริงๆขนาดแผ่นดินไหวคือแค่ 2.3
เมื่อวานนี้ตอน ประมาณ 18.00 สำนักงานพยากรณ์อากาศของญี่ปุ่นได้ออกมายอมรับความผิดพลาด แล้วอธิบายสรุปได้ดังรูป คือว่า เกิดแผ่นดินไหวขนาด 2.3 ขึ้นจริง วัดได้จากเครื่องตรวจจับแผ่นดินไหวบนแผ่นดินทั่วไป แต่ว่าเครื่องตรวจวัดแบบที่วางไว้ใต้ทะเลที่จังหวัดมิเอะ(ไว้สำหรับตรวจจับแผ่นดินไหวใหญ่ในร่องนันไคโดยเฉพาะ)ได้เกินดับกระทันหัน (ประมาณหนึ่งวินาที) แล้วกลับมาวัดใหม่ได้แทบจะเวลาเดียวกันกับที่เกิดแผ่นดินไหวขนาด 2.3… อ่านต่อ
สาเหตุการเตือนภัยแผ่นดินไหวผิดพลาดเมื่อวานนี้ พอดีได้ฟังมาเห็นว่าเป็นประโยชน์เลยขออนุญาตใช้พื้นที่มาเล่าสู่กันฟังครับ
เมื่อวานนี้ตอน 16.56 แทบจะทุกคนในญี่ปุ่นคงจะได้รับการเตือนแผ่นดินไหวล่วงหน้าขนาด 7.8 ที่มีจุดกำเนิดอยู่แถวๆจังหวัดนารา จังหวัดวาคายาม่า แต่พอถึงเวลาแล้วกลับไม่สั่น แล้วมีมีการออกประกาศใหม่ว่าเป็นการเตือนผิดพลาดซึ่งจริงๆขนาดแผ่นดินไหวคือแค่ 2.3
เมื่อวานนี้ตอน ประมาณ 18.00 สำนักงานพยากรณ์อากาศของญี่ปุ่นได้ออกมายอมรับความผิดพลาด แล้วอธิบายสรุปได้ดังรูป คือว่า เกิดแผ่นดินไหวขนาด 2.3 ขึ้นจริง วัดได้จากเครื่องตรวจจับแผ่นดินไหวบนแผ่นดินทั่วไป แต่ว่าเครื่องตรวจวัดแบบที่วางไว้ใต้ทะเลที่จังหวัดมิเอะ(ไว้สำหรับตรวจจับแผ่นดินไหวใหญ่ในร่องนันไคโดยเฉพาะ)ได้เกินดับกระทันหัน (ประมาณหนึ่งวินาที) แล้วกลับมาวัดใหม่ได้แทบจะเวลาเดียวกันกับที่เกิดแผ่นดินไหวขนาด 2.3 พอดี แล้วระยะห่างมันประมาณ 200 กิโลเมตร ระบบเลยตีความไปว่าเป็นแผ่นดินไหวเหตุการณ์เดียวกันซึ่งมีขนาดถึง 200 กิโลเมตร
ซึ่งจากที่เรียนมา ขนาด 200 กิโลเมตรนี่ก็เท่ากับแผ่นดินไหวขนาด 8 ตอนนี้ทางสำนักงานอุตุฯได้กำลังตรวจสอบว่าทำไมเครื่องวัดใต้ทะเลถึงอยู่ๆก็สัญญาณขาดหายไปนี่จึงเป็นบทเรียนให้ทุกคนเข้าใจว่าระบบเครื่องมือแบบนี้มันก็ย่อมมีผิดพลาดกันได้ ถ้าเกิดจุดนี่ผิดปรกติอยู่ใกล้กับที่เกิด 2.3 มาก ก็คงจะไม่เตือนอะไร แต่ถ้าห่างกันมากกว่านี้ ระบบอาจจะซัดไป 8.5 ประกาศเตือนภัยสึนามิใหญ่แบบนี้ไปเลยยิ่งไปกันใหญ่
ยังไงก็ขอให้คิดว่ามันไม่เกิดก็รอดไป ดีแล้ว ถือซะว่าเป็นการซ้อมเหมือนจริง ข่าวสัมภาษณ์คนที่อยู่ในรถไฟชิงคันเซ็นซึ่งหยุดไป 20 นาที เค้าบอกว่าข้างในร้อนมากเพราะระบบทำให้รถหยุดและตัดไฟ ลองคิดย้อนไปดูว่าถ้าเกิดขึ้นแรงๆจริงๆเราจะทำอย่างไร ถือว่าเป็นการเตรียมพร้อมแทนแล้วกันนะครับ
31 คนที่ถูกใจ
ถูกใจ
แสดงความคิดเห็น
แชร์

 

พบสัตว์ทะเลตายเกลื่อนหลังน้ำมัน5แสนลิตรรั่วที่อ่าวมะนิลา
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 9 สิงหาคม 2556 22:15 น.

เหตุน้ำมันดีเซลหลายหมื่นลิตรรั่วไหลในอ่าวมะนิลา ส่งกระทบต่ออุตสาหกรรมประมงอันสำคัญของเมืองหลวงฟิลิปปินส์ในวันศุกร์(9) และทำให้วิถีชีวิตของประชาชนหลายพันคนที่หากินอยู่ตามชายฝั่งตกอยู่ในความเสี่ยง

พบเห็นปลาตายลอยน้ำและชาวบ้านบางส่วนก็ล้มป่วยจากการสูดกลิ่น หลังจากเกิดน้ำมันดีเซลราว 500,000 ลิตร รั่วไหลปกคลุมทั่วบริเวณห่างจากแนวชายฝั่ง 20 กิโลเมตร "ชาวบ้านทั้งคนหนุ่มสาวและคนชราพากันล้มป่วย" มาร์กอส โซลิส กัปตันเรือประมงของหมู่บ้านแห่งหนึ่งซึ่งอยู่ใกล้จุดเลวร้ายที่สุดของเหตุน้ำมันรั่วครั้งนี้บอกกับเอเอฟพี "ราคากุ้งหอยปูปลาพังหมด แม้แต่ฝูงปลาที่อยู่ห่างจากชายฝั่งก็ได้รับผลกระทบ เพราะพวกมันได้กลิ่นน้ำมันและว่ายหนีไป"

นายโจเอล การ์เซีย หัวหน้าสำนักงานยามฝั่งอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม บอกกับผู้สื่อข่าวว่าคราบน้ำมันกระจายทั่วพื้นผิวทะเลเป็นบริเวณกว้าง 300 ตารางกิโลเมตรและกำลังลอยมุ่งหน้าสู่ปากอ่าวห่างจากชายฝั่งกรุงมะนิลาประมาณ 20 กิโลเมตร "ผมไม่สามารถพูดได้ว่าเราควบคุมมันได้แล้ว เพราะผลกระทบต่อพื้นที่กว้างขวางเหลือเกิน"

เจ้าหน้าที่รักษาชายฝั่งชี้ว่าเหตุน้ำมันรั่วครั้งนี้ครอบคลุมพื้นที่ราวร้อยละ 15 เปอร์เซนต์ของอ่าว อันเป็นน่านน้ำที่พลุกพล่านที่สุดของประเทศ ขณะที่ชาวบ้านระบุรู้สึกกังวลต่ออนาคตของอุตสาหกรรมประมงของอ่าวซึ่งหล่อเลี้ยงชีวิตผู้คนในเมืองหลวงและพื้นที่โดยรอบหลายล้านคน

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่าเหตุน้ำมันรั่วครั้งนี้มีความเป็นไปได้ว่าอาจมีการรั่วไหลที่คลังกักเก็บน้ำมันบนอ่าวหรือไม่ก็เรือบรรทุกดีเซลที่ยังไม่ได้ถ่ายน้ำมันนั้นมีรอยรั่ว

 

Piyacheep S.Vatcharobol ได้แชร์ ลิงก์
เมื่อวานนี้ เวลา 16:59 น. ใกล้กับ Bangkok ·
ปรากฏการณ์ Sprite เป็นตัวอย่างที่มองเห็นชัดถึงพลังงานที่เข้ามาสู่โลก ทั้งพลังงานไฟฟ้า พลังงานนามแม่เหล็ก กลางวันก้เกิดการเคลื่อนตัวของพลังงานทั้งแนวดิ่งและแนวราบ คล้ายก้นเมฆเคลื่อนตัว แต่มองไม่เห็น

ข่าวเครื่องบิน เรือ รถไฟ พบอุบัติเหตุ จะเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ อุปกรณ์อิเลคโทรนิคจะถูกรบกวน ทำงานผิดพลาด เสียหาย ถี่เพิ่มขึ้นไปทุกวันทุกคืน

ปรับตัว รับความเป็นจริงนะครับ ผมขึ้นเครื่องบินก็ระวังเตรียมพร้อมเสมอ แต่ตัวรัดกุมมากกว่าเดินทางทางเรือทางรถอีกนะครับ

[ame=http://www.youtube.com/watch?v=b49uQ5x-Nek&feature=c4-overview&list=UUAmpGJtlKGHIxTReyB-Y8bg]ข่าวสั่น คั่นเหตุการณ์ ๐๙๐๘๕๖ Sprite - YouTube[/ame]
ข่าวสั่น คั่นเหตุการณ์ ๐๙๐๘๕๖ Sprite
YouTube
77 คนที่ถูกใจ·5 ความคิดเห็น
ถูกใจ
แสดงความคิดเห็น
แชร์

 

Piyacheep S.Vatcharobol
11 ชั่วโมงที่แล้ว ใกล้กับ Bangkok
Trisha Wareing
Lightning Powerful Enough To Produce Radiation Bursts Similar To What Occurs On The Sun? - WDRB Weather Blog

Lightning Powerful Enough To Produce Radiation Bursts Similar To What Occurs On The Sun? - WDRB...
fox41blogs.typepad.com
NASA just launched a new satellite that will be installed on the International Space Station to study rare high energy bursts that have been coming from earth. This is a VERY cool experiment and I have more in this article courtesy of NASA... NASA’s Firestation on way to the International...


Piyacheep S. Vatcharobol Current estimates suggest there may be some 500 terrestrial gamma ray flashes, or TGFs worldwide every day, and Firestation will spend a year observing them.

หากยังจำที่ ดร.ก้องภพ สอนได้ว่า เมื่อโปรตรอนจากอวกาศ จากดวงอาทิตย์มาปะทะอิเลคตรอน ในชั้นบรรยากาศจะเกิดการระเบิด และได้รังสีแกมมาออกมา ปรากฏการณืนีเกิดขึ้นวันละกว่า ๕๐๐ ครั้ง จนนาซาต้องส่งยานสำรวจไปเชื่อมต่อกับสถานีอวกาศ

รังสีแกรมมาเป็นอันตรายต่อสิ่งมีช่วิตโดยตรง แรงกว่ารัวสีเอ็กซ์ การระเบิดของโปรตรอนและอิเล็ตตรอน ก็ทำให้เกิดโซนิคบูมได้ ฟ้าแล็ป ฟ้าผ่า ชั่วโมงละเกือบ ๘ พันครั้ง ก็มาจากปรากฏการณ์นี้

จากนี้ไป ปรากฏการณืทางไฟฟ้าจะเพิ่มมากขึ้นๆๆๆๆ ไปเรื่อยๆ เพราะทุสิ่ง ทุกอย่าง ผงดิน แสง น้ำ ล้วนเป็นปรากฏการณ์ของไฟฟ้าทั้งสิ้น
Lightning Powerful Enough To Produce Radiation Bursts Similar To What Occurs On The Sun? - WDRB...
NASA just launched a new satellite that will be installed on the International Space Station to study rare high energy bursts that have been coming from earth. This is a VERY cool experiment and I have more in this article courtesy of NASA... NASA’s Firestation on way to the International...
fox41blogs.typepad.com

 

In August 2013, NASA’s Firestation instrument will be mounted to the International Space Station to help study lightning, as seen here in an image captured in January 2011 from the space station while over Brazil, and its relationship to huge gamma ray bursts called terrestrial gamma ray flashes.

Image Credit: ESA/NASA
An experiment to study the effects of lightning flashes on Earth's atmosphere hitched a ride to the International Space Station on Aug. 3, 2013. The Firestation experiment launched aboard a Japan Aerospace Exploration Agency’s transfer vehicle called Kounotori-4. Firestation will be installed robotically to the outside of the space station, a process that will take about three weeks.

Some 50 strokes of lightning occur on Earth every second. NASA’s Firestation will study lightning’s role in the vast electrical atmospheric system that surrounds Earth.
At the end of August, Firestation should be ready to begin observations, watching for lightning on Earth, which regularly appears some 50 times a second around the globe. Firestation will study the link between lightning and mysterious events known as terrestrial gamma ray flashes, or TGFs. TGFs are very brief but intense bursts of gamma rays produced in Earth’s atmosphere by the powerful electrical charges over thunderstorms. Gamma radiation is typically produced only in extreme environments, like nuclear fusion inside the sun or from within distant exploding stars, so this suggests the environment near a lightning flash is much more energetic and complex than previously thought. In addition to being a fascinating and unexpected aspect of our planet, TGFs also may shed light on the processes that trigger lightning in thunderstorms.

"We know that lightning might be intimately linked to these flashes of gamma rays, but we don’t know the cause and effect mechanisms just yet," said Doug Rowland, principal investigator for Firestation at NASA’s Goddard Space Flight Center in Greenbelt, Md. "So one of Firestation's goals is to study many TGF and lightning events to see what kinds of lightning produce gamma rays and what kinds do not."

Current estimates suggest there may be some 500 TGFs worldwide every day, and Firestation will spend a year observing them.

I find this experiment very interesting! Partially because gamma ray flashes are INCREDIBLY energetic. The fact that lightning may be produce bursts of this magnitude is incredible and the next year of data should be quite interesting. More insight into storms is a good thing!!!

It is summer storm season and if you want to be one of my storm spotters, you can join me on my facebook or twitter page. Just follow the link below and click "like" or "follow".

If you ever have any question, please remember I can be reached on facebook or twitter easily! Just follow the link below to my facebook or twitter page and click "LIKE/FOLLOW"!

https://www.facebook.com/pages/Marc-Weinberg/171330336238674#!/pages/Marc-Weinberg/171330336238674

http://twitter.com/MarcWeinbergWX

 

Piyacheep S.Vatcharobol ได้แชร์ ลิงก์
1 ชั่วโมงที่แล้ว ·
ฝนดาวตกวันแม่ประจำปีนี้มีมาอย่างมากมาย หาเวลาไปในที่ท้องฟ้ามืด
นอนหงายมองบนฟ้าเวลาหลังตี ๒ ดีที่สุด นอกจากฝนอุกาบาตแล้ว
ท่านอาจเห็นผีพุ่งไต้ กรืออุดาบาตที่ตกใส่โลกจริง
และที่แน่ๆ จะเห็นดาวเทียมสื่อสาร โคจรขวักไขว่ไปมาทุกๆ ๑๐ นาที
Meteor Shower Peaking This Weekend, 10 To 40 Tons Of Material Incoming | Space
beforeitsnews.com

Meteor Shower Peaking This Weekend, 10 To 40 Tons Of Material Incoming. Friday, August 9, 2013 16:35. 0. (Before It's News)
On Aug.11 and 12, 2013, the annual Perseid meteor shower will peak, filling the sky with streaks of light, commonly known as shooting stars. Such visually stunning showers are actually but the tip of the iceberg when it comes to meteoroids slamming into Earth’s atmosphere: Some 10 to 40 tons of material of invisible meteoric dust enters the atmosphere from interplanetary space every day.

Larger meteoroids cause bright flashes of light when they hit Earth’s atmosphere, such as this fireball caught during the Perseid meteor shower Aug. 12, 2006. The bulk of meteoric activity is much less showy: Some 10 to 40 tons of meteor dust enter our atmosphere every day.

The big showers like the Perseids, and later the Leonids in November, are caused when Earth and its atmosphere travels through a region of the sky filled with left over debris lost by a particular comet. In the case of the Perseids, the small fragments were ripped of the tail of comet Swift-Tuttle, which orbits the sun once every 130 years. The fragments light up due to the immense friction created when they plough into the gas surrounding Earth. Each such fragment is approximately the size of a dime, but the more constant, sporadic meteoroids have been around much longer, breaking down over time into tiny fragments only about as wide as a piece of human hair.
“This is interplanetary dust,” said Diego Janches, who studies micrometeoroids at NASA’s Goddard Space Flight Center in Greenbelt, Md. “The fragments are either remnants from the solar system’s formation, or they are produced by collisions between asteroids or comets from long ago.”

Janches researches such tiny meteoroids using radar systems set up around the globe, in places such as Sweden, Puerto Rico and Alaska, or the radar system he deployed and operates in Tierra Del Fuego, Argentina. These fragments plough into Earth’s atmosphere at speeds of between 7 to 44 miles per second. They also bring with them minerals and metals from their parent bodies, such as sodium, silicon, calcium and magnesium.

“The small meteoroids feed the atmosphere with all these extra materials,” Janches said. “They come in, release metallic atoms that get deposited in the mesosphere and then get pushed around from pole to pole by the general global circulation. So by using the metals as tracers, you can answer some important questions about the general composition and movement of the atmosphere.”

The radar systems set up around the world can track such motion. The meteors collide with atoms in the atmosphere and leave behind a path of electrons and charged particles. This electrically charged region acts as a perfect mirror for radar waves, so the radar bounces back carrying both position information and Doppler shift information. This can be used to measure speed and direction of the background atmospheric winds at the altitudes where the meteoric tails are produced, between 40 and 60 miles high in the sky. Because there are so many such trails, they can be used to measure the velocity and direction of the winds continuously, helping to map out very complex wind patterns on a minute-by-minute basis.

Similar techniques, but using lasers, can be used to map how something like sodium sweeps through the entire atmosphere, thus tracing the global circulation system. This system also sweeps the meteoric dust to the poles where, during the summertime, they can serve as nuclei for ice crystals in the sky forming what’s called night-shining or noctilucent clouds.

This shower, part of the debris stream of comet Swift-Tuttle, actually starts in mid to late July and extends for most of August each year.

However, while there will only be a few meteors each hour most of those nights (if you are lucky!), the peak time for viewing the shower will bring many, many more. How much more? The number actually varies every year; there can be as little as couple dozen per hour, or there can be up to one hundred beautiful “shooting stars” per hour.

Map of Perseid radiant

courtesy NASA Science News

If you trace the meteor trails of the Perseids back to their source, you will find they seem to come from a spot near the constellation Perseus – hence their name, and the name of most meteor showers.

We have a few tips on how to make the most of your meteor shower viewing experience:
Get out of the city! Try to get to the darkest location you can. The darker it is where you are, the more meteors you will see streaking across the sky.

Check the weather forecast for that night! You may need to check out two or three areas for predictions on fog, clouds, and temperature. Some weather sites even offer forecasts specially tailored for sky watching. Make sure you have clear skies to go along with those dark ones.

If you know of a gathering of folks, or an event hosted by a local astronomy club, go there-especially if it’s your first time!. Find a meteor party by searching the Night Sky Network for clubs near you, or by searching for events near you

You will be outside for a good while, and will want to lie flat on your back to soak up as much of the sky as possible. To stay cozy bring a blanket, a jacket and hat, warm cocoa and water, and friends and family. The more the merrier! If you are in an area with bugs, you may also want to bring some bug spray.

We also have a handout you can use at your star parties and outreach events (or even for yourself). You can find it on our Heads up! It’s a Meteor Shower resource page.

 

ความจริงหลังกึ่งพุทธกาล
ภัยพิบัติระดับโลก : การรั่วไหลของรังสีจากโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ที่โรงงานนิวเคลียร์ฟุกุชิมะอาจปนเปื้อนครอบคลุมมหาสมุทรแปซิฟิกทั้งหมด

Water leaks at Fukushima could contaminate entire Pacific Ocean — RT Op-Edge
รูปภาพบนไทม์ไลน์ · 5 นาทีที่แล้ว ·
ดูภาพขนาดเต็ม · รายงานรูปภาพ
ถูกใจ·แสดงความคิดเห็น·แชร์·ติดตาม

 

ความจริงหลังกึ่งพุทธกาล ได้แชร์ ลิงก์
55 นาทีที่แล้ว ·
เซี่ยงไฮ้ร้อนจัดที่สุดในรอบ 140 ปี หลายคนนำสื่อมาปูนอนตากแอร์ที่สถานีรถไฟ
Heatwave In Shanghai Leads People To Subway - Business Insider
It's So Hot In Shanghai That People Are Camping Out In Air Conditioned Subway Stations
Business Insider

 

InfoMonde Du Six Quatre

Allemagne ,grelon geant (12cm) du 05 Aout 2013.
รูปภาพบนไทม์ไลน์ · วันพุธ เวลา 23:59 น. ·
ดูภาพขนาดเต็ม · รายงานรูปภาพ

 

Jimmy Siri ▶ The Gold War Phase II...by Jimmy Siri
2 ชั่วโมงที่แล้ว
วรวรรณ ธาราภูมิ
กระสุนทอง เขียนในไทยรัฐว่าจากข้อมูลจากโครงการปริซึมที่เตือนภัยอเมริกันทั่วโลกในสัปดาห์ก่อนให้ระวังภัยก่อการร้ายครั้งใหญ่ของ อัลเคดาร์ ทำให้สหรัฐสั่งปิดสถานทูตและสถานกงสุลอเมริกันกว่า 20 แห่งในพื้นที่เสี่ยงตั้งแต่สัปดาห์ก่อน และประธานาธิบดีโอบามาถึงกับต้องเชิญเกลอเกล่า คือ อังกฤษ ฝรั่งเศส และเยอรมนี มาประชุมลับร่วมกับฝ่ายความมั่นคงของสหรัฐ และร่วมกันจัดตั้งหน่วยติดตามความเคลื่อนไหวของอัลเคดาร์อย่างเร่งด่วน

ฟังดูก็เหมือนจะห่างไกลบ้านเราดีอยู่ แล้วจะเอาของเขามาเล่าไปทำไมกัน

ที่เล่า ก็เพราะล่าสุด สถานทูตสหรัฐในประเทศไทย ได้แจ้งให้ทางการไทยระมัดระวังระบบขนส่ง สถานีรถไฟ และสนามบิน จากการเป็นเป้าหมายของอัลเคดาร์ด้วย

เฮ้อ ....

แต่เอ๊ะ แล้วมันเกี่ยวอะไรกับคลิปขู่ฆ่าสักสิบกว่าวันก่อนไหม ?

เรื่องนี้กระสุนทองเล่าต่อว่าหน่วยข่าวติดตามอัลเคดาร์บอกว่า คลิปเนี่ยะ มาจากเมืองปาเชวาร์ ที่ชายแดนปากีสถานด้านติดกับอาฟกานิสถานอันเป็นฐานของอัลเคดาร์ และชายที่เปิดหน้าในคลิปเป็นชนเผ่าปาเชวาร์ชื่อนายดัสตุน นอกจากนี้ ยังมีคนกลุ่มหนึ่งจากไทยทางตอนใต้สุดที่ไปฝึกก่อการร้ายที่นั่นเมื่อหลายปีมาแล้วด้วย

อ้าว ทำไป ทำมา มันเหมือนจะเกี่ยวข้องเชื่อมโยงกับปัญหาชายแดนใต้ไปแล้วละหรือ อย่างนี้พวกเราพลเมืองไทยก็ต้องช่วยกันจับตาดูดีๆ เพราะลำพังรัฐบาลที่ไหน ประเทศใด ก็คงป้องกันทุกอย่างไม่ได้ทั้งหมด

เอ่อ แต่จะยังไงๆ รัฐบาลก็ต้องก็ดูแลอาแม้วไว้ด้วย เพราะอาแม้วก็คนไทยเหมือนกัน เพราะหากคลิปนั่นเป็นเรื่องจริงตามที่กระสุนทองเล่า อาแม้วก็อยู่ในอันตราย

และล่าสุด การเจรจาของไทยกับ BRN เรื่องดินแดนปลายด้ามขวานที่เราดันไปยกให้มาเลเซียอำนวยความสะดวกก็ทำท่าจะหยุดลง โดยฝ่ายไทยดูจะอ่อนข้อให้พวกก่อการร้ายมากไป โดยเฉพาะกับกรณีที่ BRN กล่าวหาว่าไทยละเมิดกติกาเจรจาโดยไปสร้างสถานการณ์เลวร้ายแล้วโยนความผิดไปให้ BRN

เอ นี่อาจจะเป็นช่องทางให้องค์กรโลกแทรกตัวเข้ามาไกล่เกลี่ยคล้ายๆ กับกรณีเขาพระวิหาร ได้ไหมหนอ

เพื่อนพี่เล่าให้ฟังว่าเขามีธุรกิจในพื้นที่ กิจการก็ไม่ดีเลยในตอนนี้เพราะมีความรุนแรงในพื้นที่ แต่กลับมีคนใหญ่คนโตไปตามตื๊อขอซื้อกิจการของเขา โดยให้มูลค่าพื้นที่แค่กระหยิบมือเดียว 50 ล้านบาท

เขาบอกว่าแปลกใจจริง เพราะราคาไม่น่าจะได้ขนาดนั้น เพียงแค่ 1-2 ล้าน ก็แพงแล้ว

อ้าว แล้วจะไปซื้อมาทำไม ในเมื่อมีแต่เรื่องรุนแรง กำลังผู้บริโภคก็ไปไม่ไหว หรือเพราะมีสมบัติล้ำค่าอยู่ในดิน หรือจะซื้อเอาไปแก้บนก็ไม่รู้

รู้แต่ว่าพอเขาไม่ขาย เขาก็โดน ตู้มๆๆๆ บึ้มๆๆๆ

หันหลับมามองในกรุงกัน

วานนี้ก็มีข่าวจะเชิญ โทนี แบลร์ กับ โคฟี่ อันนั้น มาแนะแนวทางปรองดองสมานฉันท์ ให้คนไทย

เออ แล้วไงล่ะ

อ้าว ก็ลองมอง 3 เหตุการณ์นี้สิ พระวิหาร ชายแดนใต้ กับเรื่องทำให้ไทยปรองดอง เห็นไหมละว่าคนไทยล้วนแล้วแต่แสดงความพร้อมในการอัญเชิญให้คนต่างชาติอันเป็นพระราหูเข้าเมืองทั้งนั้นเลย แบบว่าคิดไม่ออกให้บอกฝาหรั่ง ยังไงยังงั้น

อย่างนี้โบราณเขาให้ระวังไว้ว่า อาจเป็นการชักศึกเข้าบ้านได้นะ

สวัสดีพระราหู

 

มาตามนัด! ฝนดาวตก 'เพอร์เซอิดส์' 12-13 ส.ค. หากฟ้าเปิดเห็นได้ทั่วไทย

กระทรวงวิทย์ฯ ชวนชมฝนดาวตก "เพอร์เซอิดส์" หลังเที่ยงคืนวันที่ 12 ส.ค.-13 ส.ค. ชี้หากปลอดฝน คนไทยเห็นได้ด้วยตาเปล่าเกือบร้อยดวงต่อชั่วโมง ...

เมื่อวันที่ 10 ส.ค. นายศรัณย์ โปษยะจินดา รองผู้อำนวยการสถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ เปิดเผยว่า กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โดยสถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) ชวนคนไทยทั้งประเทศ ชมฝนดาวตกเพอร์เซอิดส์ หลังเที่ยงคืนวันที่ 12 สิงหาคม เวลาประมาณ 01.00-04.00 น. หรือช่วงเช้ามืดของวันที่ 13 สิงหาคมตามเวลาในประเทศไทย บนท้องฟ้าทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ คาดจำนวน 60-100 ดวงต่อชั่วโมง หากปลอดฝนสามารถเห็นได้ทั่วไทย ภาคใต้มีโอกาสลุ้นชมมากที่สุด

“หากท้องฟ้าเปิดเราจะสามารถสังเกตฝนดาวตกเพอร์เซอิดส์ ในช่วงหลังเที่ยงคืนของวันที่ 12 ถึงรุ่งเช้าวันที่ 13 สิงหาคม 2556 เวลาประมาณ 01.00-04.00 น. บนท้องฟ้าบริเวณทิศตะวันออกเฉียงเหนือ จุดศูนย์กลางการกระจายอยู่บริเวณกลุ่มดาวค้างคาว (Cassiopeia) และกลุ่มดาวเพอร์เซอุส (Perseus) ในช่วงเวลาดังกล่าวอาจมีจำนวนดาวตกที่เห็นได้ด้วยตาเปล่าถึง 60-100 ดวงต่อชั่วโมง ฝนดาวตกเพอร์เซอิดส์นับเป็นฝนดาวตกที่มีความสว่างเป็นอันดับสองรองจากฝน ดาวตกลีโอนิดส์ มีสีสันสวยงาม สามารถสังเกตเห็นได้ในช่วงวันที่ 17 กรกฎาคม-24 สิงหาคมของทุกปี ได้รับความสนใจเป็นอย่างมากในประเทศแถบซีกโลกเหนือ เนื่องจากในพื้นที่ดังกล่าวเป็นช่วงฤดูร้อน แต่เป็นที่น่าเสียดายว่าในเดือนสิงหาคมพื้นที่ส่วนใหญ่ของประเทศไทยเป็นช่วงกลางฤดูฝน ทำให้สภาพท้องฟ้าไม่เอื้ออำนวยต่อการสังเกตการณ์ทางดาราศาสตร์ ยกเว้นในบริเวณภาคใต้ตอนล่างที่เป็นช่วงฝนค่อนข้างน้อย จึงนับเป็นโอกาสทองของชาวใต้ที่จะได้ชื่นชมความสวยงามของฝนดาวตกเพอร์เซอิดส์ได้ดีกว่าภูมิภาคอื่น” ดร.ศรัณย์ กล่าว

ทั้งนี้ ฝนดาวตกเพอร์เซอิดส์เกิดจากเศษฝุ่นละอองที่ ดาวหางสวิฟท์-ทัตเทิล (109P/Swift-Tuttle) เหลือทิ้งไว้ในวงโคจรเมื่อ 20 ปีก่อน เมื่อโลกโคจรผ่านเข้าไปบริเวณที่มีเศษฝุ่นเหล่านี้ จะดึงดูดเศษฝุ่นเหล่านี้เข้ามาในชั้นบรรยากาศ สังเกตเห็นฝุ่นของดาวหางลุกไหม้เป็นแสงสว่างวาบ และถึงแม้ว่าเศษฝุ่นของดาวหาง 109P/Swift-Tuttle จะถูกทิ้งไว้เป็นเวลา 20 ปีแล้ว แต่เศษฝุ่นของดาวหางเหล่านี้ก็ยังทำให้ชาวโลกได้สัมผัสความสวยงามของฝนดาวตกเพอร์เซอิดส์นี้เป็นประจำทุกปี.

 

ลมสุริยะถอย.คอสมิกบุก
6 พฤศจิกายน 2552รายงานโดย: วิมุติ วสะหลาย (wimut@hotmail.com)
ใครอยากไปท่องอวกาศตอนนี้ยกมือขึ้น

อ่านรายงานต่อไปนี้ก่อนแล้วค่อยตัดสินใจอีกทีก็ได้

ในปี 2552 นักวิทยาศาสตร์ได้พบว่าความเข้มของรังสีคอสมิกได้สูงขึ้น 19 เปอร์เซ็นต์ เป็นระดับที่สูงที่สุดในรอบ 50 ปี

"การเพิ่มขึ้นนี้ถือเป็นเรื่องใหญ่ เพราะอาจทำให้เราต้องกลับมาทบทวนถึงระบบการป้องกันรังสีคอสมิกสำหรับนักบินอวกาศว่าเพียงพอหรือไม่" ริชาร์ด เมวาลดต์ จากคาลเทคกล่าว

ต้นตอของการเพิ่มขึ้นของรังสีคอสมิกนี้คือช่วงต่ำสุดของดวงอาทิตย์ ทั้งนี้เนื่องจากวัฏจักรของดวงอาทิตย์ได้ลดลงถึงจุดต่ำสุดมาตั้งแต่ปี 2550 และยังคงหลับยาวมาจนถึงตอนนี้

นักวิทยาศาสตร์ทราบมาเป็นเวลานานแล้วว่ารังสีคอสมิกจะเข้มขึ้นเมื่อกัมมันตภาพของดวงอาทิตย์ลดลง และการที่ดวงอาทิตย์หลับยาวเช่นนี้ จึงเปิดโอกาสให้รังสีคอสมิกรุกล้ำเข้ามามากขึ้น

รังสีคอสมิกมีทิศทางมาจากนอกระบบสุริยะ ประกอบด้วยอนุภาคมูลฐาน ส่วนใหญ่เป็นโปรตอนและนิวเคลียสของธาตุหนักบางชนิดที่เคลื่อนที่ด้วยความเร็วสูงเกือบเท่าแสง ต้นกำเนิดของอนุภาคเหล่านี้คือซูเปอร์โนวา เมื่อกระทบเข้ากับบรรยากาศโลก จะทำให้เกิดรังสีทุติยภูมิ เป็นปรากฏการณ์ที่เรียกว่า "ฝนจักรวาล" รังสีคอสมิกไม่มีผลต่อชีวิตบนโลก เพราะลงมาไม่ถึงพื้นโลก แต่มีอันตรายต่อนักบินอวกาศที่ปฏิบัติหน้าที่ในวงโคจรและเครื่องมือต่าง ๆ รังสีคอสมิกแม้เพียงอนุภาคเดียวก็อาจร้ายแรงพอจะทำให้ดาวเทียมเสียหายได้

สนามแม่เหล็กของดวงอาทิตย์เป็นปราการแรกที่สกัดกั้นอนุภาคพลังงานสูงเหล่านี้ไว้ได้ วัตถุในระบบสุริยะทั้งหมด ตั้งแต่ดาวพุธไปจนถึงดาวพลูโตและเลยออกไปล้วนแต่อยู่ภายในเกราะแม่เหล็กที่เป็นเหมือนฟองอากาศขนาดยักษ์ห่อหุ้มอยู่ เรียกว่าฮีลิโอสเฟียร์ ฟองนี้มีขนาดใหญ่ได้จากแรงผลักดันของลมสุริยะ เมื่อรังสีคอสมิกพุ่งเข้ามาสู่ระบบสุริยะ จะต้องผ่านชั้นนอกของฮีลิโอสเฟียร์เสียก่อน และถ้าหากฝ่าเข้ามาได้ ก็ยังมีสนามแม่เหล็กชั้นในที่คอยเบี่ยงเบนอนุภาคผู้รุกรานนี้อีก

"ในช่วงที่กัมมันตภาพของดวงอาทิตย์ลดต่ำลง เกราะคุ้มกันธรรมชาติของเรานี้ก็จะอ่อนแอลงด้วย รังสีคอสมิกก็จะเข้าถึงระบบสุริยะชั้นในได้มากขึ้น" เพสเนลล์อธิบาย

เมวาลดต์อธิบายถึงลักษณะสามประการของช่วงต่ำสุดของวัฏจักรดวงอาทิตย์ปัจจุบันที่เป็นสูตรสำเร็จของการก่อให้เกิดสิ่งที่เขาเรียกว่า พายุที่สมบูรณ์แบบของรังสีคอสมิก

1. สนามแม่เหล็กดวงอาทิตย์อ่อนกำลังลง "เราพบว่าสนามแม่เหล็กดวงอาทิตย์อ่อนกำลังลงอย่างรวดเร็วจากปกติ 6-8 นาโนเทสลาจนเหลือเพียง 4 นาโนเทสลา" เป็นที่ชัดเจนว่าระดับที่ต่ำจนเป็นสถิติใหม่นี้มีส่วนทำให้ความเข้มของรังสีคอสมิกที่วัดได้สูงขึ้นเป็นสถิติเช่นกัน

2. ข้อมูลจากยานยูลีสซีสแสดงว่าแรงดันลมสุริยะต่ำที่สุดในรอบ 50 ปี โดยเฉพาะในปี 2551-2552 ความเร็วลมสุริยะลดลงต่ำมาก แรงดันลมที่ต่ำลงนี้ ทำให้ฟองแม่เหล็กที่ห่อหุ้มคุ้มกันระบบสุริยะไม่แผ่กว้างอย่างที่เป็นในช่วงปกติ" ฟองที่เล็กลงทำให้รังสีคอสมิกเข้าใกล้ระบบสุริยะมากขึ้น

3. แผ่นกระแสกำลังแผ่ราบ แผ่นกระแสคือแนวรอยต่อระหว่างสนามแม่เหล็กบวกและลบ ซึ่งมีโครงสร้างเป็นแผ่นแผ่กว้าง ออกไปจากดวงอาทิตย์และบิดเป็นลอนเกลียว คล้ายกระโปรงของนักเต้นบัลเลต์ที่บิดสะโพกอย่างรวดเร็ว การที่แผ่นกระแสบิดเป็นลอนในสภาวะปกติ เป็นอุปสรรคสำหรับรังสีคอสมิกที่จะทะลุทะลวงเข้ามาในระบบสุริยะชั้นใน แต่ในระยะหลังแผ่นกระแสนี้เริ่มเหยียดราบออก ทำให้รังสีคอสมิกเข้าถึงระบบสุริยะชั้นในได้ง่ายยิ่งขึ้น

"หากการแผ่ราบนี้ยังคงเกิดขึ้นต่อไป รังสีคอสมิกที่เข้ามาถึงเราอาจเข้มกว่าสถิติที่เคยวัดได้ถึง 30 เปอร์เซ็นต์เลยทีเดียว" เมวาลดต์คาดการณ์

สัญญาณเหล่านี้ไม่ได้หมายความว่าโลกเราใกล้หายนะแต่อย่างใด บรรยากาศและสนามแม่เหล็กของโลกยังคงทำหน้าที่เป็นเกราะคุ้มกันสิ่งมีชีวิตบนโลกจากรังสีคอสมิกได้เป็นอย่างดี เมื่อหลายร้อยปีก่อนโลกเรายังเคยผ่านสถานการณ์ที่รุนแรงกว่าที่เราวัดได้ในยุคอวกาศ 200-300 เปอร์เซ็นต์มาแล้ว

นักวิทยาศาสตร์ทราบเรื่องนี้จาก หลักฐานที่ปรากฏอยู่ในน้ำแข็งที่ขั้วโลก เมื่อรังสีคอสมิกกระทบบรรยากาศโลก จะทำให้เกิดไอโซโทปของเบริลเลียม 10Be ซึ่งฝังอยู่ในน้ำแข็งที่ขั้วโลก การศึกษาแกนน้ำแข็งที่เจาะมาจากพื้นที่ขั้วโลก นักวิทยาศาสตร์สามารถประมาณความเข้มของรังสีคอสมิกในอดีตย้อนหลังไปได้ถึงกว่าหนึ่งพันปี หลักฐานนี้แสดงว่าเมื่อสหัสวรรษที่แล้วยังมีความเข้มรังสีคอสมิกมากกว่าในยุคปัจจุบันนี้มาก

"ยุคอวกาศที่ผ่านมา เราอยู่ในช่วงที่รังสีคอสมิกอ่อนกำลัง" เมวาลดต์กล่าว "บางทีตอนนี้เราแค่กำลังจะกลับไปสู่ช่วงระดับรังสีปกติที่เป็นอยู่ในศตวรรษที่ผ่านมาเท่านั้น"

ที่มา:
Cosmic Rays Hit Space Age High - Science@NASA

 

จีนวิกฤต! เผชิญน้ำท่วมบ้านเรือน-การเกษตรเสียหายหนัก
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 10 สิงหาคม 2556 10:20 น.
พายุฝนพัดถล่มเมืองหลงหนาน ทางภาคตะวันตกเฉียงเหนือของจีน ติดต่อกันมาเป็นเวลาหลายวัน ทำให้เกิดน้ำท่วมและดินถล่มในหลายพื้นที่ สร้างความเสียหายให้บ้านเรือน และพื้นที่การเกษตร กระแสไฟฟ้าถูกตัดขาด มีชาวบ้านได้รับผลกระทบมากกว่า 33,000 คน และต้องอพยพออกจากบ้านเรือนไปอยู่ในที่ปลอดภัยอีกกว่า 2,000 คน แต่ยังไม่มีรายงานผู้เสียชีวิต หรือได้รับบาดเจ็บ
นอกจากนี้ ยังเกิดพายุลูกเห็บพัดถล่มในหลายพื้นที่ของมณฑลเหลียวหนิง ทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือ บ้านเรือนและพืชผลการเกษตรเสียหาย ประชาชนได้รับผลกระทบกว่า 200,000 คน ขณะที่เมืองต้าเหลียน เกิดปรากฏการณ์ฟ้าผ่ามากที่สุดในรอบปี หลังสภาพอากาศร้อนจัดจากอุณหภูมิที่พุ่งสูงมาเป็นเวลาหลายวัน

 

หน้าหลัก ข่าวดาราศาสตร์
ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ยืนยันสาเหตุการเกิดแสงวาบรังสีแกมมาสั้น
18 พ.ค. 2554รายงานโดย: วิมุติ วสะหลาย ()
การสร้างแบบจำลองเหตุการณ์ด้วยคอมพิวเตอร์สมัยใหม่ ได้แสดงถึงช่วงเสี้ยววินาทีของการกำเนิดแสงวาบรังสีแกมมาสั้น ซึ่งเป็นการระเบิดที่รุนแรงที่สุดในเอกภพได้สำเร็จเป็นครั้งแรก
แสงวาบรังสีแกมมา หรือจีอาร์บี (GRB--Gamma-Ray Burst) เป็นการปะทุที่สว่างและรุนแรงมากที่สุดในเอกภพ การเกิดแสงวาบแต่ละครั้งกินเวลาเพียงไม่กี่วินาทีแต่ให้พลังงานเทียบเท่ากับที่ดาราจักรทั้งดาราจักรแผ่ออกมาทั้งปี พลังงานส่วนใหญ่ที่แผ่ออกมาอยู่ในรูปของรังสีแกมมา ซึ่งเป็นย่านมีพลังงานสูงที่สุดของคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า
แสงวาบรังสีแกมมามีสองประเภท ส่วนใหญ่เป็นประเภทที่แผ่รังสียาวนานกว่า 2 วินาที เรียกว่าแสงวาบรังสีแกมมายาว คาดว่าเกิดจากดาวฤกษ์ที่มีมวลสูงมากยุบไปเป็นหลุมดำ ขณะที่สสารถูกหลุมดำดูดเข้าไป สสารบางส่วนจะก่อรูปเป็นลำพุ่งออกจากหลุมดำในแนวขั้วทั้งสองด้านด้วยความเร็วสูงเกือบเท่าแสง ลำของสสารนี้เจาะทะลุดาวที่กำลังยุบตัวลงมาตามแกนหมุนของดาวและแผ่รังสีแกมมารุนแรงออกมาเมื่อผ่านพ้นผิวดาวออกมา
ส่วนแสงวาบสั้น ซึ่งส่องสว่างเป็นเวลาสั้นกว่ามาก มีต้นกำเนิดที่เข้าใจยากกว่า อีกทั้งการสำรวจและค้นหาตำแหน่งก็ทำได้ยากกว่า
ในช่วงสองทศวรรษที่ผ่านมา ทฤษฎีที่อธิบายต้นกำเนิดแสงวาบสั้นส่วนใหญ่บอกว่า เป็นปรากฏการณ์ที่เกิดจากดาวนิวตรอนชนกัน แต่ก็ไม่มีแบบจำลองใดที่อธิบายรายละเอียดของปรากฏการณ์ได้ถึงขนาดที่แสดงถึงกระบวนการที่ทำให้เกิดโครงสร้างสนามแม่เหล็กรุนแรงอันเป็นที่มาของแสงวาบได้ จนกระทั่งบัดนี้
ด้วยการใช้ซอฟต์แวร์ที่ทันสมัย ทำให้นักวิทยาศาสตร์สามารถตามรอยการชนกันของดาวนิวตรอนได้ การจำลองเหตุการณ์พบว่า การชนทำให้เกิดโครงสร้างทางแม่เหล็กที่เร่งอนุภาคให้พุ่งออกมาด้วยความเร็วสูงตามที่สำรวจพบในแสงวาบรังสีแกมมาได้ เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นและสิ้นสุดภายในเวลา 35 มิลลิวินาที
"นับเป็นครั้งแรกที่เราสามารถจำลองเหตุการณ์ข้ามจังหวะเวลาที่ชนกันจนถึงการก่อตัวของหลุมดำ" คริสซา คูวีลีโอโท จากศูนย์การบินอวกาศมาร์แชลของนาซาในฮันต์สวีลกล่าว
ดาวนิวตรอนเป็นซากแกนของดาวฤกษ์จากการระเบิดเป็นซูเปอร์โนวาที่เกิดจากดาวฤกษ์ที่มีมวลมากกว่าดวงอาทิตย์ไม่ถึง 30 เท่า ความหนาแน่นของดาวนิวตรอนสูงมากจนไม่อาจสร้างขึ้นบนโลกได้ เนื้อดาวนิวตรอนเพียงหนึ่งช้อนอาจหนักเท่ากับเทือกเขาหิมาลัยทั้งเทือก
การจำลองด้วยคอมพิวเตอร์ใช้เวลาวิ่งโปรแกรมเกือบ 7 สัปดาห์ ด้วยระบบคอมพิวเตอร์แบบคลัสเตอร์ชื่อ ดาเมียนา ที่สถาบันแอลเบิร์ตไอน์สไตน์ในพอทสดัม เยอรมนี ระบบเริ่มต้นด้วยดาวนิวตรอนสองดวงโคจรรอบกันโดยมีระยะห่าง 17 กิโลเมตร แต่ะละดวงมีมวล 1.5 เท่าของดวงอาทิตย์ มีเส้นผ่านศูนย์กลาง 27 กิโลเมตร มีสนามแม่เหล็กเข้มข้นกว่าดวงอาทิตย์ประมาณหนึ่งล้านล้านเท่า
ภายในเวลา 15 มิลลินาที ดาวนิวตรอนทั้งสองก็ชนกัน และหลอมรวมกันเป็นหลุมดำมวล 2.9 เท่าของดวงอาทิตย์ที่หมุนรอบตัวเองด้วยความเร็วสูง หลุมดำนี้มีขนาด (วัดจากขนาดของขอบฟ้าเหตุการณ์) น้อยกว่า 10 กิโลเมตร
บริเวณโดยรอบหลุมดำที่เกิดใหม่นี้เกิดความปั่นป่วนอลหม่านและอุณหภูมิพุ่งขึ้นสูงกว่าหนึ่งหมื่นล้านองศาเซลเซียส สนามแม่เหล็กก็ทวีความเข้มข้นจากการรวมกันของสนามแม่เหล็กเดิมและยุ่งเหยิงไร้ระเบียบอย่างยิ่ง
ต่อมาอีก 11 มิลลิวินาที สนามแม่เหล็กในแก๊สที่หมุนวนด้วยความเร็วใกล้ความเร็วแสงยังคงทวีความเข้มข้นขึ้นเรื่อย ๆ จนกระทั่งรุนแรงกว่าความหนาแน่นของสนามแม่เหล็กเดิมของดาวนิวตรอนต้นกำเนิดถึงหนึ่งพันเท่า ในขณะเดียวกัน สนามแม่เหล็กก็ค่อย ๆ ปรับตัวเข้ารูปแบบเป็นลำสองลำที่พุ่งออกในทางตรงกันข้ามตามแนวแกนหมุนของหลุมดำ
นี่คือสถานการณ์ที่ทำให้เกิดลำอนุภาคพลังงานสูงที่ทำให้เกิดแสงวาบสั้นอย่างชัดเจนที่สุด
ส่วนการพิสูจน์แบบจำลองนี้ว่าถูกต้องหรือไม่ จะต้องมีสำรวจจากการตรวจหาคลื่นความโน้มถ่วง ซึ่งเป็นระลอกคลื่นบนปริภูมิเวลาที่เกิดขึ้นตามการคาดการณ์ของทฤษฎีสัมพัทธภาพ ขณะนี้มีหอสังเกตการณ์หลายแห่งที่กำลังตรวจหาคลื่นความโน้มถ่วงนี้อยู่ แต่ยังไม่ประสบความสำเร็จ เนื่องจากคลื่นความโน้มถ่วงนี้หากมีจริงก็จะอ่อนมาก

 

อ้างอิง
ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ llilliilliiill
ผมมีข้อสังเกตุอยู่อย่างนึงครับคุณ hiflyer จากการเก็บสถิติ การสลับขั้วของสนามแม่เหล็กดวงอาทิตย์ครั้งล่าสุด เกิดขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 2001 (2544) และจะเกิดอีกครั้งในอีก 4 เดือนที่จะถึงนี้

โดยปกติแล้ว ช่วงเวลาที่สนามแม่เหล็กสลับขั้ว จะเป็นช่วงเวลาที่มีกิจกรรมบนดวงอาทิตย์มากที่สุด ทำให้มีการแผ่รังสียูวี คลื่นความร้อนออกมามาก ส่งผลกระทบไปทั่วทั้งระบบสุริยะ รวมทั้งโลกที่ควรจะร้อนขึ้นกว่าเดิม

แต่หากผมจำไม่ผิด ในปี พ.ศ.2544 เป็นปีที่กรุงเทพฯมีอากาศหนาวกว่าค่าเฉลี่ยในรอบหลายๆีีปี จำได้ว่าปลายปีนั้นอุณหภูมิลดต่ำจนเหลือ 14-15 องศาเซลเซียส ซึ่งตามหลักของการกลับขั้วแม่เหล็กดวงอาทิตย์ อุณหภูิมิโลกควรสูงกว่าปกติ แต่ทำไมถึงหนาวกว่าค่าเฉลี่ยได้? อาจจะมีหลายๆปัจจัยประกอบกันครับ
เพราะฉะนั้น การกลับขั้วสนามแม่เหล็กดวงอาทิตย์ ก็หาใช่เรื่องใหญ่อะไรนะครับ ดูจากสถิติแล้ว ปัจจัยภายในต่างหากที่ส่งผลต่อโลกมากกว่าเสียอีก

พูดถึงเรื่องอากาศหนาว ผมมีสถิติอากาศหนาวสุดๆที่เคยมีการวัดค่าไว้กับกรุงเทพมหานคร เมืองฟ้าอมรของเราชาวไทย ไม่น่าเชื่อว่ากรุงเทพฯเคยมีอากาศหนาวระดับ 9 องศาฯ, 10 และ 11 องศาฯ กะเค้าด้วย แต่นั่นก็นานมากแล้วครับ


ข้อความเดิมจากคุณ llilliilliiill ปีนั้นที่ดวงอาทิตย์สลับขั้วแม่เหล็ก หนาวมากๆพวกขายเครื่องกันหนาวขายดีมากๆ เป็นอยู่ประมาณ 1 เดือน ผมว่าการกลับขั้วของสนามแม่เหล็กของดวงอาทิตย์ ซึ่งขณะนั้นสนามแม่เหล็กจะลดลงมากจนหมดไป และจะกลับมาใหม่แบบกลับขั้วแล้ว อาจเป็นแรมเดือน ก็ต้องใช้เวลาซึ่งขณะนั้นเราก็ต้องเจอกับรังสีคอสมิกแบบเต็ม สภาพจะเ็นยังไงน่ะ

 

ความจริงหลังกึ่งพุทธกาล
สัญญาณจากดวงอาทิตย์ : ดวงอาทิตย์กำลังจะได้รับการกดปุ่ม Shift โลกอาจต้องได้รับผลกระทบที่รุนแรง

วิดีโอ
Signs in the Sun : The Sun is about to undergo a Major Magnetic Pole Shift (Aug 08, 2013) - YouTube

พายุกำลังจะมา: ดวงอาทิตย์จะกลับขั้วในสี่เดือน และมันอาจนำไปสู่สภาพอากาศที่เลวร้าย A storm is coming: Sun's magnetic field is set to FLIP and could lead to bad weather and radio disruption | Mail Online

ภัยคุกคาม EMP จะเพิ่มมากขึ้น
The EMP Threat is Growing and We Must Prepare

สนามแม่เหล็กของดวงอาทิตย์จะพลิกกลับขั้ว
The Sun's Magnetic Field is about to Flip - NASA Science

ที่จะเพิ่มมากขึ้นพร้อมๆกัน!!

ฝนดาวตกจะเพิ่มขึ้นอย่างมากในสัปดาห์นี้
Meteor Shower Peaking This Weekend, 10 To 40 Tons Of Material Incoming | Space

ปรากฏการณ์ฟ้าผ่าจะเพิ่มมากขึ้น
Lightning Powerful Enough To Produce Radiation Bursts Similar To What Occurs On The Sun? - WDRB Weather Blog

การพบเห็น UFO ที่เพิ่มมากยิ่งขึ้น (วิดีโอยูเอฟโอที่ดีที่สุดประจำสัปดาห์สิงหาคม 2013)
[ame=http://www.youtube.com/watch?v=zdlX5weXaBs&feature=c4-overview&list=UU9-aSGgj7pVXFEnd-iFzVdA]The Best Of Ufos Weekly August 2013 Part 1 - YouTube[/ame]

การพบเห็นสิ่งแปลกประหลาดเพิ่มมากขึ้น
[ame=http://www.youtube.com/watch?v=WAC4xQ76G6I&feature=c4-overview&list=UU9-aSGgj7pVXFEnd-iFzVdA]Ufo Alien Or Ghostly Apparition Naples Florida 8/7/13 - YouTube[/ame]

ลูกา 21 :
- 21:25 จะมีหมายสำคัญที่ดวงอาทิตย์ ที่ดวงจันทร์ และที่ดวงดาวทั้งปวง และบนแผ่นดินก็จะมีความทุกข์ร้อนตามชาติต่างๆ ซึ่งมีความพิศวงงงงวยเพราะเสียงกึกก้องของทะเลและคลื่น
- 21:26 จิตใจมนุษย์ก็จะสลบไสลไปเพราะความกลัว และเพราะสังหรณ์ถึงเหตุการณ์ซึ่งจะบังเกิดในโลก ด้วยว่า บรรดาสิ่งที่มีอำนาจในท้องฟ้าจะสะเทือนสะท้านไป

 

ความจริงหลังกึ่งพุทธกาล
NASA WHISTLEBLOWER SAYS "THE U.S. EMBASSIES CLOSED BECAUSE BILLIONS OF PEOPLE about TO DIE"http://www.youtube.com/watch?v=FPNi6tWsNzc

http://youtu.be/FPNi6tWsNzc
NASA WHISTLEBLOWER SAYS "THE U.S. EMBASSIES CLOSED BECAUSE BILLIONS OF PEOPLE about TO DIE"