ติดตามสถานะการณ์

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย สุกิจSukit, 8 มิถุนายน 2013.

  1. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,656
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ด่วน!!! พบเอกสารลับสหรัฐแจ้งผบตร."อัลกออิดะห์ เล็งโจมตีไทย 30 ก.ค.- 7 ส.ค.นี้???
    image.jpg
    จะๆ!!! เอกสารลับสหรัฐฯ เตือนไทย ระบุ "อัลกออิดะห์" อาจโจมตีไทยช่วงปลายรอมฎอน 30 ก.ค.- 7 ส.ค.นี้ ??? แต่ไม่รู้รายละเอียดแผนการ สั่งเข้มสถานีรถไฟ สนามบิน
    วันนี้( 2 ส.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้มีหนังสือจาก พล.ต.ท. สฤษฎ์ชัย เอนกเวียง ผบช.ส. ผู้ถึงผบ.ตร. เรื่อง สหรัฐอเมริกา ได้มีหนังสือลงวันที่ 30 ก.ค.56 เรื่อง อาจจะมีการโจมตีของเครือข่ายอัลกออิดะห์ ในช่วงปลายเทศกาลรอมฎอน
    โดยตามหนังสือแจ้งว่า มีความเป็นไปได้ว่าสมาชิกเครือข่ายกลุ่มก่อการร้ายอัลกออิดะห์ อาจมีการโจมตีในช่วงปลายเทศกาลรอมฎอน โดยเฉพาะในระหว่างวันที่ 30 กรกฎาคม- 7 สิงหาคม 2556 ทั้งนี้ทางการสหรัฐฯ ยัง ไม่มีข้อมูลข่าวสารถึงเป้าหมายและแผนการโจมตี แต่ได้มีการแจ้งเตือนเพื่อให้เพิ่มความระมัดระวังภัยคุกคามดังกล่าว เกี่ยวกับระบบการขนส่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งสถานีรถไฟ และสนามบิน
    ทั้งนี้ บช.ส.พิจารณาแล้วเห็นว่า การที่ทางการสหรัฐฯ แจ้งข่าวดังกล่าวเชื่อว่า อาจจะมีสัญญาณบอกเหตุบางอย่าง แต่ยังไม่สามารถรู้ถึงแผนการและเป้าหมายได้ ดังนั้น เพื่อเป็นการไม่ประมาท และเป็นการเฝ้าระวัง ป้องกันเหตุที่อาจเกิดขึ้น จึงเห็นควรให้มีการเฝ้าระวัง สืบสวนหาข่าว และเพิ่มความเข้มข้น ในการรักษาความปลอดภัย ระบบขนส่งทั่วประเทศ จึงเห็นควรให้ บช.น. บช.ก. และศชต. เพิ่มมาตรการในการสืบสวนหาข่าว การรักษาความปลอดภัย บุคคลและสถานที่ ต่อไป

     
  2. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,656
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ศูนย์กลางข่าวสารแผ่นดินไหวที่ญี่ปุ่น โดย สนญ. และ สนทญ.
    image.jpg
    ระบบเตือนภัยธรรมชาติใหม่้โดยกรมอุตุฯญี่ปุ่นจะเริ่มใช้ 30 ส.ค.นี้ ไปดูรายละเอียดกันจ้า Japan Meteorological Agency
     
  3. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,656
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ศูนย์กลางข่าวสารแผ่นดินไหวที่ญี่ปุ่น โดย สนญ. และ สนทญ.
    8 กรกฎาคม ·
    image.jpg
    นอกจากนี้กรมอุตุฯญี่ปุ่นยังนำเสนอ "พยากรณ์ความเข้มข้นของรังสี UV" ในกรณีที่ฟ้าโปร่งไว้ด้วย ศึกษาระดับรังสียูวีก่อนออกจากบ้านก็ดีนะจ๊ะ

    Japan Meteorological Agency | UV Index
    5 คนที่ถูกใจ·1 ความคิดเห็น
    ถูกใจ
    แสดงความคิดเห็น
    แชร์
     
  4. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,656
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ผลวิจัยระบุแผ่นดินไหวรุนแรงส่งผลภูเขาไฟในญี่ปุ่น-ชิลีทรุด โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 1 กรกฎาคม 2556 10:21 น.
    ผลการวิจัยที่ตีพิมพ์เผยแพร่ในญี่ปุ่นและชิลี วานนี้ ระบุว่า แผ่นดินไหวครั้งใหญ่สามารถเป็นสาเหตุให้ภูเขาไฟที่อยู่ห่างไกลหลายลูกทรุดตัวลงได้ โดยแผ่นดินไหวขนาด 9 ริกเตอร์ ที่ทำให้เกิดคลื่นยักษ์สึนามินอกชายฝั่งญี่ปุ่นเมื่อปี 2554 ได้เป็นสาเหตุให้เกิดการทรุดตัวมากถึง 15 เซนติเมตร ของภูเขาไฟหลายลูกบนเกาะฮอนชู
    ขณะที่แผ่นดินไหวขนาด 8.8 ริกเตอร์ ในชิลี เมื่อปี 2553 เป็นสาเหตุให้เกิดการทรุดตัวในลักษณะคล้ายกัน ใน 5 พื้นที่ที่มีภูเขาไฟตั้งอยู่ห่างออกไปไกลถึง 220 กิโลเมตร
     
  5. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,656
    ค่าพลัง:
    +97,150
    วันที่ 3 สิงหาคม 2556 เยลโล่สโตน
    image.jpg
     
  6. หาจนเจอ

    หาจนเจอ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    38
    ค่าพลัง:
    +158
    <iframe width="560" height="315" src="//www.youtube.com/embed/KrWFrt4B6rA" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>
     
  7. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,656
    ค่าพลัง:
    +97,150
    วันที่ 4 สิงหาคม 2556 เวลา 00:30
    image.jpg
    อุกกาบาตจากฝนดาวตกเพอซิอิดส์มาถึงโลกแล้ว Petr Horálek ถ่ายภาพอุกกาบาตนี้ได้ในสาธารณรัฐเช็ค (ฉากหลังเป็นทางช้างเผือก) โดยืนยันว่ามองเห็นอุกกาบาตถึง 4 ลูกใน 35 นาที
     
  8. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,656
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ความจริงหลังกึ่งพุทธกาล
    28 นาทีที่แล้ว ·
    คำเตือนมาใหม่! 20/21/22 สิงหาคม 13

    หลังสงบเงียบไปเป็นระยะเวลาที่นาน น้ำพุร้อนที่ใหญ่ที่สุดของโลก น้ำพุร้อนในเยลโล่สโตนก็ได้ฤกษพุ่งสูงใหญ่อีกครั้ง ..
    World's largest geyser puts on rare show at Yellowstone | Reuters

    จวบเหมาะกับสถานการณ์ที่ไม่น่าไว้ใจที่เกิดขึ้นในดินแดนที่หลายคนมองว่ามันคือ..มันเป็นลักษณะเช่นเดียวกับ "เมืองบาบิโลน" ในอดีต

    ผู้คร่ำหวอด แนะอ่านสองลิงค์ที่เกี่ยวข้อง ที่ทุกคนต้องเตรียมให้พร้อม! เตือนอเมริกัน! เตือนโลก!

    - Release of California Inmates & Predictions For South Africa | Dr. Turi M.D.U.S.

    - CIA was at Benghazi what's next For Obama? | Dr. Turi M.D.U.S.

    นี่เป็นลางบอกเหตุร้ายแรงของสิ่งที่มาในอเมริกาและโลก!

    วิด๊โอคำเตือนสำหรับเดือนกรกฎาคมและสิงหาคม 2013 โดย Dr.Turi [ame=http://www.youtube.com/watch?v=xWc2zI-XcqY]Cosmic Warnings to the World for July and August 2013 by Dr.Turi - YouTube[/ame]

    ที่เกี่ยวข้อง
    Cosmic Warnings to the World for July 22/23/24 & August 20/21/22 by Dr.Turi | Dr. Turi M.D.U.S.


    ...ถูกค่าร้อยครั้งจากการเตือนร้อยครั้ง ยังดีกว่าไม่เตือนแล้วเกิดตูมเดียวตายเรียบ!
     
  9. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,656
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ความจริงหลังกึ่งพุทธกาล
    2 ชั่วโมงที่แล้ว ·
    แม่น้ำสีเลือดในอิรัค
    image.jpg
    http://www.freewebs.com/neegroid/ats/lake1.jpg

    บางอย่างแปลกใน Google Earth ทะเลสาบในอิรักปรากฏเป็นสีแดงเลือด ทุกคนมีความคิดว่าเรื่องนี้จะเป็นอย่างไร

    Blood Lake - YouTube
    24 คนที่ถูกใจ·4 ความคิดเห็น
    ถูกใจ
    แสดงความคิดเห็น
    แชร์
     
  10. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,656
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ความจริงหลังกึ่งพุทธกาล
    2 ชั่วโมงที่แล้ว ·
    สัญลักษณ์ดาวห้าแฉกลึกลับบน Google Maps
    image.jpg
    ดาวห้าแฉกล้อมด้วยวงกลม เห็นเต็มตาบน Google Maps มีเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 1,200 feetin ตั้งอยู่บนชายฝั่งทางตอนใต้ของอ่างเก็บน้ำ Tobol ใกล้เมือง Lisakovsk

    สัญลักษณ์ที่แปลกประหลาดลักษณะนี้ยังถูกพบเป็นจำนวนมากบนอาคาร, สถานที่สำคัญต่างๆ และถูกพบเห็นเป็นจำนวนมากในท้องฟ้าของการฉีดพ่นสารเคมี Chemtrail ทั่วโลก

    มันเป็นเรื่องยากที่จะแยกแยะว่าสิ่งนี้เกิดขึ้นจากทางการของคาซัคสถานเพื่อแสดงสัญลักษณ์บางอย่าง?

    อ่านที่ : Giant Pentagram Visible From Above In Wilderness Of Kazakhstan - disinformation
    34 คนที่ถูกใจ·2 ความคิดเห็น
    ถูกใจ
    แสดงความคิดเห็น
    แชร์
     
  11. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,656
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ก้องภพ อยู่เย็น ได้แชร์ ลิงก์
    วันนี้ เวลา 8:11 น. ใกล้กับ Arlington, VA ·
    ในวันที่ 2 สิงหาคม เวลา 15 UT เกิดปฏิกริยาดวงอาทิตย์ที่มากกว่าปกติ โดยมีคลื่นพลังงานแพร่กระจายมาในแนวเดียวกับโลก และมีการขยายตัวของจุดดับเบอร์ 1806 (http://spaceweather.com/images2013/03aug13/hmi200.gif) จากโมเดลพบว่าคลื่นพลังงาน และอนุภาคไฟฟ้าบางส่วนจะเดินทางมาถึงโลกในวันที่ 5 สิงหาคม เวลา 2 UT +/- 7 ชั่วโมง ผู้ที่สนใจสามารถติดตามสังเกตการเปลี่ยนแปลงบนโลกได้ตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 6 สิงหาคม ครับ

    ข้อมูลเพิ่มเติมของเหตุการณ์ครั้งนี้มีดังนี้
    - โมเดลจำลองการแพร่กระจายของคลื่นพลังงานจากดวงอาทิตย์ SOLARHAM.com - CME Tracker
    - ภาพถ่ายมุมกว้างของดวงอาทิตย์ โดยโลกอยู่ทางด้านซ้ายมือของภาพ http://stereo.gsfc.nasa.gov/browse/2013/08/02/ahead_20130802_cor2_512.mpg
    - ภาพถ่ายมุมกว้างของดวงอาทิตย์ โดยโลกอยู่ทางด้านขวามือของภาพ http://stereo.gsfc.nasa.gov/browse/2013/08/02/behind_20130802_cor2_512.mpg
    SOLARHAM.com - CME Tracker
    SOLARHAM.com / Solar Cycle 24 / Spaceweather / Amateur Radio VHF Aurora Website
    152 คนที่ถูกใจ·10 ความคิดเห็น
    ถูกใจ
    แสดงความคิดเห็น
    แชร์
     
  12. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,656
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ฤาแผ่นดินใหญ่จีนโดนฤทธิ์ H.A.A.P. เข้าไปแล้ว

    http://ainews1.com/article482.html

    หลายๆท่านอาจยังไม่คุ้นเคยกับฤทธิ์เดชของ HAARP ลองศึกษาข้อสรุปสั้นๆ ...

    H.A.A.R.P WEAPON อาวุธสภาพอากาศ

    ฮาร์พ "อาศัยเทคโนโลยีการส่งคลื่นวิทยุพลังมหาศาล เพื่อยกบริเวณชั้นบรรยากาศส่วนบน (ไอโอโนสเฟีย) ของโลกขึ้น โดยเล็งพลังงานไปยังพื้นที่บนชั้นบรรยากาศและเผาบริเวณนั้นจนร้อน(หลอมละลาย จนกลายเป็นเสมือนจานพลาสม่าขนาดยักษ์ที่สามารถรับส่งคลื่นได้) จากนั้นคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าก็จะสะท้อนกลับมายังโลกและทะลุทะลวงทุกสิ่ง ทุกอย่าง ทั้งที่มีชีวิตและไม่มี" ซึ่งเป็นอาวุธใหม่ทางธรณีฟิสิกส์ ซึ่งอาจสามารถส่งอิทธิพลต่อชั้นบรรยากาศใกล้โลก ด้วยคลื่นวิทยุความถี่สูง"
    ดัง นั้นหากมีการใช้อาวุธนี้ สนามแม่เหล็กไฟฟ้า จะทำให้ ท้องฟ้ามีสีประหลาด จึงมีความเป็นไปได้สูงที่จะใช้อาวุธชนิดนี้ในจีนจนเกิดแผ่นดินไหวขึ้น

    กว่า12ปี ที่มีนโยบายพัฒนาอาวุธชนิดนี้ขึ้นอย่างเต็มที่ ดังนั้นปัจจุบันอเมริกาจึงจะต้องมีหรือกำลังพัฒนาอาวุธ ที่เหนือกว่า HAARP และก้าวขึ้นสู่อาวุธเส้นแสง(ในเลเยอร์ที่6)อยู่อย่างแน่นอน? บาป มวลรวมประชาโลก เหตุการณ์ความเป็นไปของโลกาวิบัติจะบีบบังคับให้ต้องใช้อาวุธเหล่านี้ อย่างเช่นที่เคยใช้ระเบิดปรมาณู ในฮิโรชิม่า และนางาซากิ ตอนสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่สอง!!

    เมื่อยิ่งเห็นข้อมูล ของจิกซอร์แต่ละชิ้น ทำให้ต้องกลับมาย้อนถามพวกเรากันเองว่า หากเหลือเวลาเพียง40 เดือน? กับ สิ่งที่ต่างคนก็ต่างทำหน้าที่ของตนอยู่ พวกเรามั่นใจหรือไม่ว่า สิ่งที่ทำไปนั้นจะทำให้เป็นเหตุปัจจัยให้สามารถฝ่าวิกฤตประเทศชาติ วิกฤติโลกไปได้ หรือเตรียมความพร้อมกันได้แค่ไหน?

    Project Tevatron
    เป็น โคลงการพัฒนาอาวุธที่มีอนุภาพยิ่งกว่านิวเคลียร์นั้นคืออาวุธเส้นแสง!!(+ รังสี) ซึ่งสามารถทะลุทะลวงวัตถุและเครื่องป้องกันต่างๆได้ ในวงกว้าง
    ปัจจุบัน นักวิทยาศาสตร์กำลังก้าวสู่ พลังงานเส้นแสง(เลเยอร์ที่6)โดยมีการแข่งกันพัฒนาระหว่างยุโรปและอเมริกา ประเทศไทยเองก็มีวิสัยทัศน์ที่จะพัฒนาและนำพลังงานชนิดนี้มาใช้ประโยชน์ โดยมีเครื่องกำเนิดแสงสยาม ตั้งอยู่ที่สถาบันวิจัยแสงซินโครตรอน(องค์การมหาชน)จ.นครราชสีมา โดยได้อนุมัติโครงการในปี พ.ศ.2539

    การพัฒนาพลังงานชนิดนี้ในยุโรป นั้นเราจะรู้จักกันดีจากสื่อต่างๆในชื่อของเซิร์น CERN: European Center for Nuclear Research แต่เราจะไม่ค่อยรู้จัก Tevatron ของ Fermilab ในประเทศอเมริกา

    โดยโปรเจ็คเทวาตรอนนี้จะปิดตัวลงในพ.ศ.2553 ซึ่งหมายความว่าการค้นคว้าวิจัยต่างๆสำเร็จเสร็จสิ้นแล้ว!!

    จากข้อมูลต่างๆ ทั้ง HAARP,Tevatron และตัวอย่างการใช้งานที่ชัดเจนจากลิ้งค์นี้ครับ
    MTHEL



    แอร์บอน มิสไซล์

    ทำให้เห็นว่า..

    อาวุธเส้นแสงนั้นมิใช่นิยายวิทยาศาสตร์อีกต่อไป!!

    มองอนาคตจากอดีต

    -หาก พิจารณาย้อนกลับไปในสมัยสงครามโลกครั้งที่สอง หลังจากอเมริกาประสบความสำเร็จในการวิจัยอาวุธนิวเคลียร์สดๆร้อนๆ อาวุธชนิดนี้ก็ถูกนำมาทดลองใช้จริงในฮิโรชิม่าและนางาซากิ

    เหตุผล ที่สหรัฐตัดสินใจใช้อาวุธนิวเคลียร์นี้ นอกจากจะทำให้ญี่ปุ่นยอมแพ้เพื่อยุติสงครามแล้ว ยังเป็นสงครามจิตวิทยาชิงความเป็นผู้นำโลก ในสงครามเย็นกับรัสเซียอีกด้วย

    -การ ที่สหรัฐตัดสินใจทำสงครามกับอีรัก เกิดจากการหายไปของขีปอาวุธนิวเคลียร์จำนวน หนึ่ง ในช่วงการล่มสลายของประเทศรัสเซีย การที่สหรัฐเข้าใจว่าอาวุธนิวเคลียร์นี้อยู่กับประเทศอีรักจึงเป็นสาเหตุ หลักในการทำสงคราม โดยมีผลประโยชน์ด้านน้ำมันเป็นสาเหตุรอง(หรือไม่!?)

    และเรื่องนี้น่าจะเชื่อมโยงกับการที่...

    สำนัก ข่าวเอพีระบุว่า ศาลไทยตัดสินไม่ส่งผู้ร้ายข้ามแดนที่เป็นพ่อค้าอาวุธ คือนายวิคเตอร์ บูท เจ้าของฉายา The Merchant of Death ให้สหรัฐ ในวันที่ 12 ส.ค.2552 เนื่องจากถูกรัสเซียขู่ว่า...อาวุธรัสเซียจะเกลื่อนภาคใต้ของไทย!!


    คดี นี้ มีความสำคัญมากต่อการควานหาอาวุธนิวเคลียร์ที่หายไป แม้แต่ประธานาธิปดีบุชเองก็ย้ำกับนายกสมัคร(นายกในสมัยนั้น)ว่าเรื่องนี้ สำคัญมากเพียงใดกับสหรัฐ (นายวิคเตอร์ถูกจับกุมเมื่อวันที่ 6 มี.ค. 2551)

    ปัจจุบัน มี 8 ประเทศที่ครอบครองอาวุธนิวเคลียร์ คือ สหรัฐฯ รัสเซีย จีน สหราชอณาจักร ฝรั่งเศส อินเดีย ปากีสถาน และอิสราเอล ในที่นี้ไม่รวมประเทศที่กำลังพัฒนาเทคโนโลยีนิวเคลียร์เช่น เกาหลีใต้และอิหร่าน

    คำถามก็คือ...ในปัจจุบันที่มีกำแพงสกัดกั้น การยิงอาวุธนิวเคลียร์ทั่วทั้งในสหรัฐและยุโรปนี้ จะมีเหตุผลอะไรที่บังคับให้สหรัฐจำเป็นต้องใช้อาวุธที่มีอนุภาพทำลายล้าง มากกว่านิวเคลียร์เพื่อประหัตประหารกันอีกด้วยหรือ? (และนั่นคือจุดเริ่มต้นของสงครามระหว่างยักษ์นอกศาสนาในพุทธทำนาย*)

    เหตุผลคงจะไม่ต่างกับการตัดสินใจใช้อาวุธนิวเคลียร์กับประเทศญี่ปุ่นและการทำสงครามในประเทศอีรักมากนัก

    เพราะ หากสมดุลนิวเคลียร์ถูกทำลายลงและมีการใช้อาวุธเชื้อโรค หรือมีผู้ก่อการร้ายนำอาวุธนิวเคลียร์ที่หายไปมาใช้ประเทศต่างๆก็จะระแวง ซึ่งกันและกัน อันบังคับให้ผู้ที่ชิงลงมือก่อนย่อมได้เปรียบ

    รวม ถึงความเชื่อเรื่องวันพิพากษาในศาสนาที่มีพระเจ้าทั้งสองศาสนานั้น พอจะเป็นเหตุผลที่ให้อ้างถึงความชอบธรรมในการทำลายล้างมวลมนุษยชาติกันเอง ได้!!!?

    แต่เหตุผลประการหนึ่งที่น่าตกใจและมิอาจอ้างความชอบธรรม ใดๆได้เลยก็คือ เพื่อเป็นการควบคุมและลดประชากรโลกที่มีอัตราเพิ่มขึ้นมากเกินไป ในแผน new world order ก่อน Tipping point เพื่อให้โลกปลอดภัยจาก climate change

    ซึ่งในขณะนี้ เหลือเวลานับถอยหลังเพียง 85 เดือน!!
    (นับจากวันนี้ 17/11/09)

    สาเหตุแห่งแผ่นดินไหว การเกิดแผ่นดินไหวรุนแรงหลายคราวที่ผ่านมา ทำความเสียหายให้แก่ประเทศจีนไม่ยิ่งหย่อนกว่า แคทรีนา ในนิวออร์ลีนส์ 25 ล้านๆเหรียญ ในขณะที่ปัจจุบัน สหรัฐฯ มีหนี้สินสาธารณะมากกว่า 125 ล้านๆเหรียญ และมีประเทศจีน เป็นเจ้าหนี้เงินกู้ 25% แม้เป็นประเทศลูกหนี้ก็จริง แต่อาวุธทันสมัยของสหรัฐฯเดินทางไปไกลมากจนถึงเลเยอร์ที่ 6 ของการใช้พลังงาน เหนือกว่าอาวุธนิวเคลียร์

    ดังนั้นสหรัฐฯจะปล่อยให้จีนรุ่งโรจน์เป็นจ้าวเศรษฐกิจโลกไปเพียงประเทศเดียวหรือ ที่อาจนำอาวุธ H.A.A.R.P.มาใช้สร้างคลื่นแผ่นดินไหว เช่นเดียวกับชาวแอตแลนตีส ได้เคยนำอาวุธเส้นแสงมาถล่มกัน จนเป็นเหตุแผ่นดินทนแรงสั่นสะเทือนไม่ไหว อาณาจักรล่มจมทะเลไปในชั่วเวลาเพียงข้ามคืนนั่นเอง

    ส่วนอีกสาเหตุหนึ่งมาจากการกักเก็บน้ำจำนวนมหาศาล ของอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่หลายแห่งของประเทศจีน และอาจใช่ทั้ง 2 อย่างมาผสมกันทำให้ยากแก่การวินิจฉัยสาเหตุมากยิ่งขึ้น หรือแนบเนียนมากยิ่งขึ้น

    ปรากฏการณ์การใช้อาวุธแบบเส้นแสงจะปรากฏตัวชัดเจน เมื่อโลกเกิดสงครามโลกครั้งที่ 3 หลังจากที่มนุษย์ได้สร้างที่พักบนอวกาศได้สำเร็จแล้วสัก 1 ปีเศษ หรือหลังจากพระสงฆ์ในประเทศไทยถูกยึดเงินไปแล้วสัก 1 ปี ใครที่ยังมีชีวิตรอดจากภัยพิบัติภัยก็รอคอยดูกันไป คงจะได้เห็น

     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 สิงหาคม 2013
  13. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,656
    ค่าพลัง:
    +97,150
    กราฟตรวจจับระดับค่าดัชนี KP
    Kp.gif
    กราฟแสดงค่าดัชนี kp ทุก 3 ชั่วโมง กรณีมีค่ามากกว่า 5 แสดงว่าเริ่มเกิดพายุแม่เหล็กในบรรยากาศโลก ผลกระทบที่ระดับสูง หากค่า kp ไปถึง 8 หรือ 9 คือดาวเทียม การสื่อสารวิทยุ จะเริ่มถูกพายุแม่เหล็กรบกวน อาจขัดข้องไม่ทำงาน หรือในขั้นรุนแรงอาจเหนี่ยวนำให้เกิดกระแสไฟฟ้าไหลในวัตถุที่มีลักษณะยาวบนผิวโลกได้ เช่นท่อส่งน้ำมัน หรือขอลวดในหม้อแปลง อาจทำให้หม้อแปลงระเบิดเกิดไฟฟ้าดับได้
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 1.png
      1.png
      ขนาดไฟล์:
      620.5 KB
      เปิดดู:
      53
  14. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,656
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ก้องภพ อยู่เย็น วันที่ 4 เกิดแผ่นดินไหวขนาด 5.7 ริตเตอร์ เวลา 13:22 UT ที่ประเทศแคนาดา Earthquake - Magnitude 5.7 - VANCOUVER ISLAND, CANADA REGION - 2013 August 04, 13:22:29 UTC

    Earthquake, Magnitude 5.0 - VANCOUVER ISLAND, CANADA REGION - 2013 August 04, 13:22:29 UTC
    Earthquakes - Earthquake today - Latest Earthquakes in the World - EMSC
    Magnitude: Mi 5.0, Region: VANCOUVER ISLAND, CANADA REGION, Date time: 2013-08-04 13:22:29.0 UTC, Location: 49.73 N ; 127.34 W, Depth: 16 km.
    3 ชั่วโมงที่แล้ว · ถูกใจ · 1
     
  15. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,656
    ค่าพลัง:
    +97,150
    สหรัฐอเมริกา: มหาอำนาจใหม่ในวงการพลังงานโลก
    วันอังคารที่ 30 กรกฏาคม 2013 เวลา 16:39 น. มนูญ ศิริวรรณ คอลัมนิสต์ผู้ทรงคุณวุฒิ - มนูญ ศิริวรรณ พิมพ์
    User Rating: / 0
    แย่ดีที่สุด
    altช่วงที่ผ่านมามีองค์กรที่มีบทบาทสูงในวงการพลังงานโลก 2 แห่ง ได้ออกรายงานคาดการณ์เกี่ยวกับภาพรวมในอนาคตของพลังงานโลกระยะสั้นเอาไว้อย่างน่าสนใจดังต่อไปนี้

    องค์กรแรกคือองค์กรของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกปิโตรเลียม หรือที่เรารู้จักกันในชื่อย่อว่า OPEC นั่นเอง ได้ออกรายงานประจำเดือนกรกฎาคมที่เรียกว่า "Monthly Oil Market Report" โดยมีเนื้อหาสำคัญคือ เศรษฐกิจโลกในปีนี้จะเติบโตเพียง 3% (ลดลงจากการคาดการณ์ครั้งก่อนที่ 3.2%) แต่ปีหน้าจะเติบโตได้ที่ 3.5% ขณะที่เศรษฐกิจของประเทศที่พัฒนาแล้วจะทรงตัวในระดับเดิมอย่างที่เคยคาดการณ์เอาไว้ เช่น สหรัฐฯจะเติบโต 1.8% EU -0.6% ยกเว้นญี่ปุ่นจะขยายตัวดีขึ้นจากเดิมคาดไว้ +1.5% เป็น +1.8% แต่เศรษฐกิจของประเทศกำลังพัฒนาอย่างเช่น จีน อินเดีย จะขยายตัวน้อยกว่าที่คาด โดยจีนจะลดลงจาก +7.9% เป็น +7.7% และอินเดียจาก +6% เป็น +5.6%ส่วนปีหน้าเศรษฐกิจของประเทศเหล่านี้จะขยายตัวดีขึ้น โดยสหรัฐฯ +2.5%, EU +0.6%, ญี่ปุ่น +1.4%, จีน + 7.7% และอินเดีย +6%
    ขณะที่ความต้องการน้ำมันของโลกในปีนี้จะเพิ่มขึ้น 8 แสนบาร์เรลต่อวันหรือ 0.9% สู่ระดับ 89.6 ล้านบาร์เรลต่อวัน โดยเป็นการผลิตจากกลุ่มโอเปก 29.9 ล้านบาร์เรลต่อวัน และจากกลุ่มนอกโอเปก 54 ล้านบาร์เรลต่อวัน
    ส่วนปีหน้าความต้องการน้ำมันของโลกจะเพิ่มสูงขึ้น 1 ล้านบาร์เรลต่อวันหรือ 1.2% สู่ระดับ 90.7 ล้านบาร์เรลต่อวัน โดยเป็นการผลิตจากกลุ่มโอเปก 29.6 ล้านบาร์เรลต่อวัน ลดลง 3 แสนบาร์เรลต่อวัน และจากกลุ่มนอกโอเปก 55.1 ล้านบาร์เรลต่อวัน เพิ่มขึ้น 1.1 ล้านบาร์เรลต่อวัน
    จะเห็นได้ว่าแม้ตัวเลขความต้องการน้ำมันดิบของโลกจะสูงขึ้นในปีหน้าสู่ระดับที่แข็งแกร่งมากที่สุดนับจากปี 2010 เป็นต้นมาจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก แต่ในสายตาของกลุ่มโอเปกเองก็ยอมรับว่า ความต้องการน้ำมันจากกลุ่มโอเปกจะลดลง ทั้งนี้เพราะโอเปกจะเผชิญหน้ากับการแข่งขันที่สูงขึ้น จากการที่ประเทศนอกกลุ่มโอเปกสามารถผลิตน้ำมันดิบได้มากขึ้น โดยเฉพาะประเทศสหรัฐฯและแคนาดา
    ในสหรัฐฯ หน่วยงานที่เรียกว่าสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงาน หรือ EIA สังกัดกระทรวงพลังงานของสหรัฐฯก็ได้ออกรายงานประจำเดือนในสัปดาห์ที่แล้วเช่นกัน ชื่อ Short-Term Energy Outlook
    ในรายงานระบุว่า สหรัฐฯกำลังก้าวเข้าสู่การเป็นประเทศที่สามารถพึ่งพาตนเองได้ทางด้านพลังงาน โดยในเดือนมีนาคมที่ผ่านมา สหรัฐฯสามารถผลิตพลังงานได้ถึง 89% ของความต้องการพลังงานทั้งหมดของประเทศ ซึ่งถือเป็นระดับของการพึ่งพาตนเองที่สูงที่สุดในรอบมากกว่า 27 ปี นับจากเดือนเมษายนปี 1986 เป็นต้นมา
    EIA ยังคาดการณ์อีกด้วยว่า ปีหน้าสหรัฐฯจะนำเข้าน้ำมันดิบและผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมเพียง 5.7 ล้านบาร์เรลต่อวัน ลดลงจากปี 2005 ซึ่งเคยนำเข้าสูงสุดถึง 12.5 ล้านบาร์เรลต่อวัน
    ทั้งหมดนี้ เป็นผลมาจากการที่สหรัฐฯสามารถผลิตน้ำมันดิบในประเทศได้เพิ่มขึ้นจากเทคโนโลยีใหม่ที่เรียกว่า Hydraulic Fracturing หรือ Fracking ร่วมกับ Horizontal Drilling ที่สามารถผลิตน้ำมันดิบประเภท Shale Oil หรือ Tight Oil จากชั้นหินดินดานได้ ทำให้ผลผลิตน้ำมันดิบพุ่งขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบมากกว่า 21 ปี นับจากเดือนมกราคม ปี 1992 เป็นต้นมา
    ตามการคาดการณ์ของ EIA ปีนี้สหรัฐฯจะผลิตน้ำมันดิบได้เฉลี่ยทั้งปีที่ 7.3 ล้านบาร์เรลต่อวัน ส่วนปีหน้าจะผลิตเพิ่มได้เป็นเฉลี่ย 8.1 ล้านบาร์เรลต่อวัน ทำให้กลายเป็นประเทศผู้ส่งออกผลิตภัณฑ์น้ำมันเบนซินและดีเซลใหญ่ที่สุดในโลก ส่งขายทั้งในยุโรป เอเชีย และ อเมริกาใต้ ล่าสุดมีตัวเลขส่งออกน้ำมันดีเซลสูงกว่า 5 ล้านบาร์เรลต่อวัน เลยทีเดียว
    นอกจาก Shale Oil แล้ว สหรัฐฯยังค้นพบแหล่ง Shale Gas ปริมาณมหาศาล ใช้ไปได้เป็นร้อยปี ซึ่งจะมีส่วนทำให้ตลาด LNG ในอนาคตมีการแข่งขันที่รุนแรงมากขึ้น และราคาน่าจะถูกลง
    ปัจจุบันกฎหมายสหรัฐฯยังไม่ยอมให้มีการส่งออกน้ำมันดิบและก๊าซธรรมชาติไปขายต่างประเทศ ยกเว้นประเทศในเขตการค้าเสรีทวีปอเมริกาเหนือ หรือ NAFTA อันได้แก่ แคนาดาและเม็กซิโก เท่านั้น แต่บริษัทน้ำมันกำลัง lobby รัฐบาลและสภา Congress เต็มที่ ซึ่งผมเชื่อว่าในที่สุดสหรัฐฯก็ต้องยอมให้ส่งออกได้
    เมื่อถึงวันนั้นสหรัฐฯก็จะกลายเป็นมหาอำนาจใหม่ทางด้านพลังงาน และโอเปกก็จะต้องลดบทบาทของตนเองลงไป ก็ได้แต่หวังว่า เมื่อวันนั้นมาถึง ชาวโลกจะได้ใช้พลังงานในราคาที่ถูกลง ไม่ใช่สหรัฐฯไปจับมือกับโอเปก ผูกขาดตลาดพลังงาน ทำให้ราคากลับยิ่งสูงขึ้นไปอีก

    จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 33 ฉบับที่ 2,866 วันที่ 1 - 3 สิงหาคม พ.ศ. 255
     
  16. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,656
    ค่าพลัง:
    +97,150
    "เอทานอล"จากขยะ เป็นไปได้แล้วที่ฟลอริดา
    วันที่ 05 สิงหาคม พ.ศ. 2556 เวลา 11:13:27 น.

    ความพยายามที่จะใช้สิ่งเหลือใช้มาผลิต "เอทานอล" เพื่อนำไปผสมกับน้ำมันเชื้อเพลิงเป็น "แก๊สโซฮอล์" สำหรับใช้กับรถยนต์บนท้องถนนนั้นมีมานานไม่ใช่น้อยแล้ว เป้าหมายก็เพื่อลดการผลิตเอทานอลจากพืชที่ใช้เป็นอาหารและอาหารสัตว์ เพื่อไม่ให้การลดใช้พลังงานน้ำมันไปทำให้ราคาอาหารโลก ถีบตัวเพิ่มสูงขึ้นจนเป็นวิกฤตอีกด้านหนึ่งนั่นเอง

    ในกระบวนการผลิตเอทานอลทั่วไปที่ใช้กันอยู่ มักใช้กระบวนการแบบเดียวกันกับที่เราใช้ในการผลิตเบียร์ นั่นคือการสกัดเอาน้ำตาลออกมาจากข้าวโพดหรือธัญพืชอื่นๆ ที่ใช้ จากนั้นก็ใช้ยีสต์เข้าไปเพื่อเร่งกระบวนการหมักบ่มที่จะเปลี่ยนน้ำตาลที่ได้ให้เป็นเอทานอล

    การผลิตเอทานอลจากเศษไม้และขยะจำพวกพืชผักที่ให้เส้นใยหรือเซลลูโลสนั้นแตกต่างออกไปจากกระบวนการดังกล่าว ในสหรัฐอเมริกามีความพยายามส่งเสริมให้เกิดการคิดค้นหากระบวนการเพื่อผลิตเอทานอลจากเศษสิ่งของเหลือใช้เหล่านี้มาตั้งแต่ปี 2009 มีหลายบริษัทเข้ารับการส่งเสริม แต่จนแล้วจนรอดก็ยังไม่มีกระบวนการผลิตของบริษัทไหนประสบความสำเร็จถึงขั้นสามารถผลิตออกมาใช้ในเชิงพาณิชย์ได้ ยกเว้น "อินีออส ไบโอ" บริษัทที่ตั้งอยู่ในเวโร บีช รัฐฟลอริดา สหรัฐอเมริกา

    พีเตอร์ วิลเลียมส์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของบริษัท ระบุว่า กระบวนการที่อินีออส ไบโอ คิดค้นขึ้นนั้น มีขีดความสามารถสูงจนสามารถผลิต "ไบโอเอทานอล" ออกมาเป็นปริมาณมากพอสำหรับใช้ในเชิงพาณิชย์ได้ โดยอาศัยวัตถุดิบจากขยะเหลือใช้จำพวกเศษไม้และผักต่างๆ จนสามารถ "ส่งออก" พลังงานไฟฟ้าให้กับชุมชนในท้องถิ่นได้แล้ว

    สิ้นปีนี้บริษัทตั้งเป้าจะเพิ่มปริมาณการผลิตเอทานอลขึ้นมาให้ได้ในอัตราส่วน 8 ล้านแกลลอนต่อปี นอกเหนือจากนั้นยังมีก๊าซที่เกิดขึ้นในกระบวนการผลิตนำมาใช้ผลิตกระแสไฟฟ้าได้ถึง 6 เมกะวัตต์ อีกด้วย

    กระบวนการผลิตเอทานอล ของอินีออส ไบโอ เริ่มต้นจากเศษไม้ที่เป็นขยะและพืชผัก ใช้กระบวนการบดและให้ความร้อนเพื่อเปลี่ยนวัตถุดิบเหล่านี้ให้เป็นก๊าซที่ให้พลังงานสูง คือ คาร์บอนมอนนอกไซด์ และไฮโดรเจน จากนั้นก็เพิ่มแบคทีเรียเข้าไปในกระบวนการเพื่อหมักก๊าซที่ผสมผสานกันอยู่ในขั้นตอนนี้ให้เป็นเอทานอลสำหรับนำไปกลั่นแยกส่วนต่อไป

    ความร้อนและก๊าซอื่นๆ ที่เกิดขึ้นในระหว่างการดำเนินกระบวนการเหล่านั้น จะถูกดักจับเก็บไว้เพื่อนำไปใช้เป็นพลังงานสำหรับผลิตกระแสไฟฟ้าที่ใช้อยู่ในโรงงานผลิตทั้งหมด ดังนั้น กระบวนการทั้งหมดจึงอยู่ได้ด้วยตัวเอง ไม่จำเป็นต้องพึ่งพาพลังงานจากที่อื่น ส่วนพลังงานไฟฟ้าที่ผลิตได้และเหลือจากการใช้ในโรงงานก็ส่งขายให้กับชุมชนที่อยู่ใกล้เคียงโดยรอบโรงงาน

    หากต้องการเพิ่มปริมาณการผลิตก็สามารถขยายสเกลของโรงงานให้ใหญ่โตขึ้นเพื่อให้สามารถผลิตเอทานอลในปริมาณที่มากขึ้น พลังงานไฟฟ้าที่ผลิตได้ก็จะมากขึ้นตามไปด้วย

    จิม แม็คมิลแลน นักวิจัยด้านวิศวกรรม จากห้องปฏิบัติการการนำพลังงานกลับมาใช้ใหม่แห่งชาติ ในสังกัดกระทรวงพลังงานของสหรัฐอเมริกา ซึ่งตั้งอยู่ในเมืองโกลเดน รัฐโคโลราโด สหรัฐอเมริกา บอกว่า แม้จะยังมีปัญหาเรื่องต้นทุนที่แท้จริงอยู่บ้าง เพราะโรงงานแห่งนี้ได้รับทุนส่งเสริมจากรัฐบาลมาก่อนหน้านี้ แต่การที่สามารถผลิตเอทานอลจากเศษขยะเหลือใช้ได้ในระดับล้านแกลลอนต่อปีก็นับว่าเป็นก้าวสำคัญก้าวหนึ่งของพลังงานทางเลือกในสหรัฐอเมริกา

    โดยเฉพาะอย่างยิ่งจะทำให้สามารถส่งเสริมและใช้เอทานอลได้อย่างเต็มปากเต็มคำ ไม่ต้องไปกังวลว่าจะทำให้ราคาอาหารโลกแพงขึ้น ก็ถือว่าประสบความสำเร็จไม่น้อยเลยทีเดียว

    หน้า 9,มติชนรายวัน ฉบับวันจันทร์ที่ 5 สิงหาคม 2556
     
  17. kiatp123

    kiatp123 โมฆะแมน

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    3,493
    ค่าพลัง:
    +19,616
    [​IMG]

    ในที่สุดอเมริกา ก็หมดหนทาง จำเป็นต้องกลับไปใช้วิธีโบราณคือการฉีดน้ำหรืออัดแรงดันเข้าไปทำลายชั้นหินดินดานในแนวราบระดับตื้นให้แตกออก(Horizontal Drilling Techniques) เพื่อเปิดทางให้ก๊าซและน้ำมันดิบ ให้ไหลออกมาสู่แอ่งเก็บก่อนดูดมาใช้

    วิธีการนี้นักธรณีวิทยาทั้งหลายรู้มานานแล้วว่าเป็นวิธีการที่จะส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมมากมายมหาศาล เราทราบกันดีอยู่แล้วว่าก๊าซและน้ำมันจะอยู่บริเวณรอยแตกหรือรอยเลื่อน วิธีการที่อเมริกาทำอยู่นี้ จะทำเกิดการเลื่อนของชั้นหินเลื่อนมากขึ้นเพื่อปรับสมดุลทางพลศาสตร์ แผ่นดินไหวจะถี่ขึ้นมากขึ้น แรงขึ้น ก๊าซมีเทนที่ถูกกักเก็บไว้ในชั้นหินจะฟุ้งกระจายออกสู่สิ่งแวดล้อมมากขึ้น โลกจะร้อนเร็วขึ้นอีกซักหน่อยกระมัง

    ใครสนใจก็ลองตามไปดู http://www.dmf.go.th/file/รายงานดูงานShaleGas-ฉบับสมบรูณ์.pdf ครับ ให้รายละเอียดเรื่องนี้สมบูรณ์พอสมควร

    เพื่อนสมาชิกทางสกลนคร และพิษณุโลก จับดาดูกันไว้ด้วยก็แล้วกันครับ บ้านท่านอยู่ในแอ่ง ไม่ได้สร้างอยู่บนภูเขา พื้นที่สกลนครของท่านมีแอ่งหินดานยุคไทรแอสสิค และทางพิษณุโลกเป็นแอ่งหินดินดานยุคเทอเชียรี่ ที่หมายตาของนายทุนทั้งหลายจะเข้าไปเจาะเอาแก๊สและน้ำมันออกมา ด้วยวิธีการอันล้าสมัยนี้
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 สิงหาคม 2013
  18. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,656
    ค่าพลัง:
    +97,150
    แผ่นดินไหวที่จีน คุณรู้ไหมว่ามีอะไรผิดปกติ?
    บทคัดลอก...
    Credit :
    ประเทศไทยจะเกิดอุบัติภัยอย่างที่ทำนายกันจริงๆหรือไม่ - หน้า 413 - PaLungJit.org
    http://www.innnews.co.th/chatcharin.php?nid=109844

    ถ้าถามต่อไปว่า...แล้วทำไมพื้นผิวมหาสมุทรมันถึงร้อนขึ้นๆ จนกลายเป็นตัวเติมพลังความแรงให้กับพายุแต่ละลูก มีฤทธิ์ มีเดช มีความร้ายกาจมากยิ่งขึ้น คำตอบที่ค่อนข้างชัด และเป็นระบบในเรื่องนี้ คงต้องไปพลิกหนังสือเรื่อง “เพชฌฆาตอารยธรรม” หรือ “The Winds of Change” ที่สำนักพิมพ์ “มติชน ” เพิ่งพิมพ์ออกมาวางขายเมื่อปี 2550 ที่ผ่านมา ผู้ทำการศึกษาค้นคว้าเรื่องความเป็นไปทางธรรมชาติ อย่างนาย “ยูจีน ลินเดน” แก “ฟันธง” เอาไว้ชนิดน่าเชื่อกว่า “หมอลักษณ์” ไม่รู้กี่เท่าต่อกี่เท่าว่า มันเป็นเพราะปริมาณก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ และก๊าซมีเทน ที่ถูกปล่อยออกจากประเทศต่างๆในโลกนี้มาตั้งแต่ยุค“ปฏิวัติอุตสาหกรรม”เป็นต้นมานั่นเอง...จนทำให้ขณะนี้ปริมาณก๊าซที่ว่า...มีปริมาณสูงสุดในรอบ 400,000 ปีที่ผ่านมาเข้าไปแล้ว...
    5 ปี ผ่านไป แจ้งลบ
    รายละเอียดเพิ่มเติม
    ก๊าซที่ไปทำหน้าที่เหมือน “เรือนกระจก” ครอบโลกอยู่นั่นเอง ที่ทำให้อุณหภูมิบนพื้นผิวมหาสมุทร และทุกๆพื้นที่ในโลกร้อนขึ้นๆ พายุที่ได้ดื่มกินพลังความร้อน อันเนื่องมาจากการกระทำของมนุษย์ มากขึ้นๆ ก็จึงดุขึ้น เหี้ยมขึ้น และออกมาเล่นงานมนุษย์ ได้อย่างอำมหิต รุนแรง เพิ่มขึ้นเท่านั้น...เป็นไปตาม “กฏแห่งกรรม” หรือ “กฏอิทัปปจยตา” ในหลักศาสนาเป๊ะๆ...นั่นก็คือ...เหตุเพราะสิ่งนี้-สิ่งนี้...สิ่งนี้-สิ่งนี้จึงเป็นไป...

    ส่วนแผ่นดินไหวนั้น...โดยทั่วไปก็ต้องถือว่าเป็นเรื่อง “ปกติ” อีกเหมือนกัน แต่ในกรณีแผ่นดินไหวในจีน...มันก็มีอะไรบางอย่างที่ออกจะ “ผิดปกติ” อยู่ไม่น้อย เริ่มแรกก็คงต้องลองหันไปมอง “การกระทำที่ไม่ปกติ” ของชาวจีนในบางเรื่อง บางกรณี โดยเฉพาะอย่างยิ่ง...ในกรณีที่รัฐบาลจีนซึ่งกำลังหมกมุ่น บ้าคลั่ง กับการพัฒนาเศรษฐกิจมานับเป็นทศวรรษๆ ได้พยายามเสาะหา “พลังงาน ” เข้ามารองรับการเติบโตทางเศรษฐกิจของตัวเองในแต่ละวิธี จนกระทั่งตัดสินใจที่จะสร้าง “เขื่อนขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ” ชนิดที่สามารถมองเห็นได้ในอวกาศ หรือถือเป็นสิ่งมหัศจรรย์อันดับ 2 รองจากกำแพงเมืองจีนก็ว่าได้ นั่นก็คือเขื่อน “ซานเซียตาป้า”
    5 ปี ผ่านไป

    หรือที่เราเรียกกันว่า “เขื่อนสามโตรก-สามผา” ฝรั่งเรียกว่า “Three Gorges Dam” นั่นเอง...ขึ้นมาขวางแม่น้ำแยงซีเกียง ในแถบบริเวณมลฑลหูเป่ย ที่ห่างไปจากมลฑลเสฉวน จุดที่เกิดเหตุแผ่นดินไหวไม่ใกล้-ไม่ไกล...

    ก่อนหน้าที่จีนจะลงมือสร้างอภิมหาเขื่อนที่ว่า...พวกฝรั่ง และไม่ใช่ฝรั่ง จำนวนไม่น้อย ประเภทที่เป็นพวกนักสิ่งแวดล้อมทั้งหลาย ได้เคยเตือนรัฐบาลจีนมาโดยตลอดว่า ปริมาณน้ำประมาณ 10.3 ล้านล้านแกลลอน ที่จะถูกเก็บกักเอาไว้ในเขื่อนแห่งนี้ มันอาจจะมีน้ำหนักเอามากๆ ในการกดทับ “รอยเลื่อน” ที่กระจัดกระจายอยู่ในพื้นที่บริเวณเขื่อน รอบเขื่อน หรือเชื่อมโยงกับรอยเลื่อนอื่นๆ ที่มีอยู่จำนวนมากมาย ลักษณะเช่นนี้มันเคยมีตัวอย่างให้ศึกษาเป็นบทเรียน ในกรณีเขื่อนออโรวิลล์(Oroville)ในแคลิฟอร์เนียของสหรัฐฯ ที่ท้ายที่สุดก็ต้องมีการล้มเลิกโครงการสร้างเขื่อนสาขา เพื่อหลีกเลี่ยงอัตราเสี่ยงจากแผ่นดินไหวในเวลาต่อมา...
    5 ปี ผ่านไป

    แต่สำหรับรัฐบาลจีนนั้น...จะเป็นเพราะเขาไม่เชื่อพวกนักสิ่งแวดล้อม หรือจะเป็นเพราะเค้าเชื่อในประสิทธิภาพของเขื่อนที่เขาสร้าง...ว่าสามารถป้องกันแผ่นดินไหวได้ในทุกกรณีก็แล้วแต่ เขาก็เลยลงมือสร้างมาตั้งแต่ปีค.ศ.1994 เดินหน้าตามเป้าหมายโครงการมาโดยตลอด แต่ในช่วง 5 ปีหลัง...หรือหลังจากที่ทุกสิ่งทุกอย่างมันได้เป็นไปตามเป้าหมาย เกือบจะเสร็จสิ้นสมบูรณ์ร้อยเปอร์เซ็นต์ภายในปี ค.ศ.2009 บริเวณพื้นที่รอบๆเขื่อนแห่งนี้ก็เคยเจอกับแผ่นดินไหวติดต่อกันมาไม่ต่ำกว่า 19 ครั้ง ครั้งหลังสุดที่เมืองซานลีกัง ในมลฑลหูเป่ย ห่างจากตัวเขื่อนแค่ 200 กิโลเมตร ความรุนแรงในระดับ 4.7 ริกเตอร์...

    สำหรับแผ่นดินไหวที่มลฑลเสฉวนในคราวนี้...มันจะเกี่ยวพัน เชื่อมโยงกับกรณีการสร้างเขื่อนสามโตรกหรือไม่? อาจจะยังสรุปไม่ได้ชัดเจน และเหตุการณ์ดังกล่าว...จะมีส่วนทำให้รัฐบาลจีนเกิดความรู้สึก หรือความตระหนัก ถึงความยิ่งใหญ่ ความลึกซึ้ง ละเอียดอ่อน ของธรรมชาติ ขึ้นมาได้บ้างหรือไม่?ก็ไม่อาจทราบได้... เพราะโดยแนวคิดแบบพวกคอมมิวนิสต์ หรือแบบพวกวัตถุนิยมทั้งหลาย(กระทั่งพวกทุนนิยมก็ตามที)...ธรรมชาตินั้นก็เป็นเพียงแค่วัตถุ สสาร
    5 ปี ผ่านไป

    ที่สามารถควบคุม บังคับ หรือสามารถเอาชนะได้เสมอๆ...ด้วยเหตุนี้สิ่งที่เรียกว่า “ความสมดุลทางธรรมชาติ” จึงไม่มีอยู่ในพจนานุกรมของผู้ที่มีแนวคิดทำนองนี้มานานแล้ว...มีแต่คำว่า “อัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจ” “การขยายตัวทางเศรษฐกิจ” “จีดีพี.” “จีเอ็นพี.” ฯลฯลฯลฯ...เมื่อถึงจังหวะหนึ่ง จะโดยวิธีอะไรก็แล้วแต่... “ธรรมชาติท่านจึงเอาคืน ” อย่างที่คุณ “ผ่านมา” ได้ตอบเอาไว้แล้ว...นั่นเอง...
     
  19. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,656
    ค่าพลัง:
    +97,150
    กรุงเทพฯ จะเป็นทะเล .... คุณเชื่อหรือไม่?
    ท่าน ดร.อาจอง กล่าวในรายการ เบื้องหลัง เอาไว้ สรุปได้ว่า กรุงเทพฯ เสี่ยงต่อการเกิดน้ำท่วมได้ เคยได้ยินมาว่า เดิมกรุงเทพฯ เองก็เป็นทะเลมาก่อน พื้นที่เป็นแอ่ง เป็นทรงกระทะ ท่านบอกว่ากรุงเทพฯ อยู่สูงกว่าระดับน้ำทะเล 1 เมตร ซึ่งถ้าหากเกิดน้ำท่วม แน่นอนว่า ท่วมเกิน 1 เมตรแน่ ๆ ยิ่งถ้าหากน้ำแข็งจากขั้วโลกเหนือละลายมากขึ้นไหลมาสมทบด้วยอีก ยิ่งมีระดับสูงขึ้นตามไปด้วย

    ใครที่ได้ได้ดู (เราก็ไม่ได้ดู) แต่มีคน post ไว้ ต้องขอขอบคุณมา ณ ทีนี้

    ตอนที่ 1 http://video.hunsa.com/watch/?v=UYPKWMlFX7Bt-13
    ตอนที่ 2 http://video.hunsa.com/watch/?v=-KudAA15nv5l3Iu

    Credit : คุณเกษม
    http://palungjit.org/showthread.php?t=3906&page=413

    ---------------------------------------------------------------------------

    เจตนาเพียงเพื่อแบ่งปันข้อมูล ไม่ได้ต้องการให้ใครตื่นตกใจ เมื่อรับรู้ข้อมูลไว้บ้าง จะได้ไม่ประมาท และเตรียมตัวได้ทันค่ะ

    แล้วคุณล่ะมีความเห็นยังไงบ้างคะ
     
  20. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,656
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Piyacheep S.Vatcharobol ได้แชร์ลิงก์
    ประมาณ 1 ชั่วโมงที่แล้ว บริเวณ Bangkok
    เปิดเผยยอมรับเป็นทางการโดยตรงจาก NASA แล้วว่าไม่เกิน ๔ เดือนนี้
    สนามแม่เหล็กของดวงอาทิตย์จะสลับขั้ว ขั้วบวกจากขั้วโลกเหนือไปขั้วโลกใต้
    ขั้วลบจากขั้วโลกใต้ไปขั้วโลกเหนือ แต่สิ่งที่ NASA ไม่ได้บอกละเอียดคือ
    ตอนนี้ ดวงอาทิตย์มีอาการที่ไม่ได้สลับขั้วแบบปกติที่เคยมาคือ ๒ ขั้ว
    แต่อาการตอนนี้กลับกลายเป็น ๔ ขั้ว

    แล้ว ๓-๔ เดือน คือตุลาคม หรือ พฤศจิกายน อันหมายถึง
    ขั้วสนามแม่เหล็กใหม่บนดวงอาทิตย์จะเป็นรูปธรรมปลายเดือนพฤศจิกายน
    หรือ ต้นเดือนธันวาคม ตรงตามการคาดการณ์ของ ดร.ก้องภพ อยู่เย็น
    และนักวิชาการอิสระชาวต่างชาติที่นำข้อมูลของ ดร.ก้องภพ อยู่เย็นไปศึกษา

    รวมทั้งนักวิชาการจากสถาบันการศึกษาต่างๆ จากองค์กรรัฐต่างๆทั่วโลก
    ต่างคาดการณ์กันว่า some things really big will change the world and the solar system going to happen

    อาหาร น้ำ ยารักษาโรค เสื้อผ้ากันหนาว พลังงานไฟฟ้า แสงสว่าง
    ให้ท่านและครอบครัวอยู่ได้อย่างน้อย ๑ เดือน ต้องมี และที่แน่ๆ
    ขนของจากชั้นล่างขึ้นชั้นบนให้เรียบร้อยก่อนสิ้นเดือนสิงหาคมนี้นะครับ

    NASA Solar Dynamics Observatory (Little SDO)

    No worries - nothing will happen to us on Earth. Something big is happening on the Sun. The Sun's global magnetic field is about to flip, a sign that Solar Max has arrived.ScienceCasts: The Sun's Magnetic Field is About to Flip - YouTube

    ScienceCasts: The Sun's Magnetic Field is About to Flip
    <iframe width="640" height="360" src="https://www.youtube.com/embed/34gNgaME86Y?feature=player_embedded" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>
    YouTube
    Visit NASA Science for breaking science news. Something
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 6 สิงหาคม 2013

แชร์หน้านี้

Loading...