ประเทศไทยจะเกิดอุบัติภัยอย่างที่ทำนายกันจริงๆหรือไม่

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย koymoo, 25 มกราคม 2005.

  1. k_isara 1

    k_isara 1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    521
    ค่าพลัง:
    +7,059
    24 ก.ค. 56

    บุญเอ๋ย บุญใหญ่ ใฝ่จำ
    ต้องทำ เลี้ยงดู พ่อแม่
    อีกทั้ง ผู้เฒ่า ผู้แก่
    เผยแพร่ ให้รู้ คู่ครัว

    ทำบุญ มีทุน หนุนทาน
    เจือจาน อดอยาก ขัดสน
    ข้าวของ แบ่งไป ไม่จน
    เป็นคน ต้องให้ ไม่ขาด

    เคอิสรา
     
  2. k_isara 1

    k_isara 1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    521
    ค่าพลัง:
    +7,059
    24 ก.ค. 56 ลด ละ เลิก

    เหล้ายา ปลาปิ้ง ทิ้งหมด
    ต้องอด ให้ได้ เพื่อตัว
    เงินทอง เหลือใช้ ของชัวร์
    อย่ามัว เสพติด ผิดศีล

    เคอิสรา
     
  3. k_isara 1

    k_isara 1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    521
    ค่าพลัง:
    +7,059
    24 ก.ค. 56 เหิร

    เมื่อเช้าวานนี้ ได้นิมิตว่า เห็นตัวเองเหิรเหนือพื้นดินไป ตามทางได้เห็นบ้านเรือนต่างๆ ได้เห็นลูกสุนัขผรั่งอ้วนปุกปุยก็ลงมาดู ช่วงเหิรผ่านบางที่สุนัขดุก็กระโดดจะงับก็ถูกรวบปากไว้ เมื่อเหิรมาริมน้ำก็เห็นน้ำเอ่อท่วมเข้าแผ่นดินแต่ท่วมไม่มาก

    เคอิสรา
     
  4. จริง?หรือ?

    จริง?หรือ? เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2013
    โพสต์:
    2,201
    ค่าพลัง:
    +7,155
    ขึ้นแน่แอลพีจีครัวเรือน50สต./กก.เริ่ม1ก.ย.ย้ำดูแลคนจนจริงแค่7.7ล้านราย

    “พงษ์ศักดิ์” ลั่นเดินหน้าปรับขึ้นราคาแอลพีจีครัวเรือนเริ่ม 1 ก.ย.นี้อีก 50 สตางค์ต่อกก.โดยพร้อมเจียดเงิน 35.5 ล้านบาทอุ้มคนมีรายได้น้อยจริงๆ 7.7 ล้านรายส่วนที่เหลืออีกกว่า8ล้านรายต้องใช้ตามจริงเหตุไม่ใช่คนจน ย้ำกองทุนน้ำมันฯที่เก็บเงินจากคนใช้น้ำมันจะมีรายได้เพิ่มเดือนละ 55 ล้านบาท ลั่นมาตรการดูแลพร้อมแล้วย้ำมีผลต่อค่าครองชีพแค่ 1%


    นายพงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า รัฐบาลยืนยันที่จะเดินหน้าขึ้นแอลพีจีครัวเรือนที่ตรึงอยู่ 18.13 บาทต่อกิโลกรัมอีก 0.50 บาทต่อกก. วันที่ 1 ก.ย. นี้เนื่องจากมาตรการดูแลผลกระทบครัวเรือน ร้านค้าหาบเร่แผงลอย รวม 7.7 ล้านรายที่จะให้ใช้แอลพีจีราคาเดิมพร้อมแล้วที่จะดำเนินการช่วยเหลือคนที่มีรายได้น้อยอย่างแท้จริง ซึ่งการขึ้น ราคาดังกล่าวจะทำให้กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงที่เก็บจากผู้ใช้น้ำมันมาอุดหนุนราคาแอลพีจีลดลงหรือมีรายได้เพิ่มขึ้นเดือนละ 50-55 ล้านบาทและหากปรับราคาครบ 6 บาทต่อกก.หรือไปอยู่ที่ 24.82 บาทต่อกก.จะมีรายได้เพิ่มถึง 600-660 ล้านบาทต่อเดือน

    “ มีคนคัดค้านการขึ้นแอลพีจีครัวเรือนต้องถามว่าคุณต่อสู้เพื่อใคร เพราะกองทุนน้ำมันฯเก็บเงินจากผู้ใช้น้ำมัน คนขับรถตุ๊กๆ มอเตอร์ไซต์ที่เติมน้ำมันต้องนำเงินมาแบกอุดหนุนคนใช้แอลพีจีทั้งหมดที่เป็นคนรวยเกือบครึ่ง โดยขณะนี้มีผู้ใช้แอลพีจีทั้งสิ้น 16 ล้านครัวเรือนเราเลือกดูแลคนจนจริงๆ 7.7 ล้านครัวเรือนหรือเกือบ 50% ให้ใช้ราคาเดิมที่ 18.13 บาทต่อกก.โดยจะใช้เงินกองทุนน้ำมันฯมาดูแลเพียงเดือนละ 35.5 ล้านครัวเรือนโดยแบ่งเป็นครัวเรือนที่มีไฟใช้และไม่มีไฟ 22 ล้านบาทต่อเดือนและร้านค้าหาบเร่อีก 12.5 ล้านบาทต่อเดือนซึ่งยืนยันว่าผลกระทบต่อราคาอาหารจะมีเพิ่มขึ้นไม่ถึง 1%”รมว.พลังงานกล่าว

    สำหรับครัวเรือนรายได้น้อยจะได้รับสิทธิ์ใช้แอลพีจีราคาเดิมไม่เกิน 18 กก.ต่อ 3 เดือน กรณีร้านค้า หาบเร่ แผงลอย ไม่เกิน 150 กก.ต่อเดือน โดยครัวเรือนที่มีไฟใช้จะได้รับแจ้งสิทธิ์ผ่านบิลค่าไฟ ผู้ไม่มีไฟใช้ ร้านค้าหาบเร่ แผงลอยอาหาร ต้องนำบัตรประชาชนไปแสดงเป็นหลักฐานเพื่อขอรับบัตรแสดงสิทธิ์ที่สำนักงานเขตองค์การบริหารส่วนตำบลหรืออบต. หรือเทศบาลตามที่อยู่ของท่านภายในวันที่ 5-30 ส.ค.นี้โดยในบัตรจะระวุ”รหัสผู้ได้รับสิทธิ์” ที่เป็นตัวเลข 8 หลัก - 11 หลัก

    โดยการใช้สิทธิ์ต้องลงทะเบียนด้วยโทรศัพท์มือถือก่อนเพื่อระบุเบอร์โทรและร้านค้าที่จะซื้อ หลังจากนั้นการใช้สิทธิ์จะต้องส่งข้อความ(SMS) ผ่านโทรศัพท์มือถือ ได้แก่ กด * 755* รหัสผู้ได้รับสิทธิ์ (8-11 หลัก) * รหัสร้านค้า(6หลัก) #กดโทรออกจากนั้นระบบจะทำการส่งข้อความกลับไปที่เบอร์โทรผู้ขอรับสิทธิ์ และเบอร์โทรร้านค้าแอลพีจีที่ท่านสั่งซื้อ โดยรายละเอียดทั้งหมดจะได้ทำการประชาสัมพันธ์ให้กับร้านค้าและประชาชน และหากมีปัญหาสามารถโทร Call Center 02-1707000
    [​IMG]

    โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 24 กรกฎาคม 2556 16:03 น.
     
  5. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    ตึงเครียดหนัก ญี่ปุ่นส่งเครื่องบินรบสกัดเครื่องบินรบจีน

    [​IMG]

    ญี่ปุ่นส่งเครื่องบินรบขึ้นสกัดเครื่องบินรบของกองทัพจีนที่บินผ่านน่านฟ้าเหนือมหาสมุทรแปซิฟิก เฉียดเข้าใกล้ญี่ปุ่นวันนี้

    สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานจากกรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น เมื่อวันที่ 24 ก.ค.ว่า ญี่ปุ่นส่งเครื่องบินรบขึ้นสกัดในวันนี้ หลังจากเครื่องบินกองทัพจีนลำหนึ่งบินผ่านน่านฟ้าสากล ใกล้หมู่เกาะทางตอนใต้เหนือมหาสมุทรแปซิฟิกเป็นครั้งแรก ซึ่งเป็นการเคลื่อนไหวที่ญี่ปุ่นมองว่า เป็นการตอกย้ำให้เห็นการขยายอิทธิพลทางทะเลของจีน

    ความสัมพันธ์ระหว่างจีนและญี่ปุ่นตึงเครียดขึ้นจากกรณีพิพาทดินแดน ที่ต่างฝ่ายต่างก็อ้างกรรมสิทธิ์ครอบครองหมู่เกาะในทะเลจีนตะวันออกที่ไม่มีคนอาศัยอยู่ และนายกรัฐมนตรีสายเหยี่ยวของญี่ปุ่น นายชินโซ อาเบะ ก็ชนะการเลือกตั้งวุฒิสภาอย่างเด็ดขาดในการเลือกตั้งเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา

    กระทรวงกลาโหมญี่ปุ่น แถลงว่า เครื่องบินของกองทัพจีน บินผ่านน่านฟ้าระหว่างเกาะใหญ่ของเขตโอกินาวา และเกาะขนาดเล็ก มิยาโกะ ทางตอนใต้ของญี่ปุ่น เหนือมหาสมุทรแปซิฟิกในช่วงประมาณเที่ยงวัน และจากนั้นบินกลับเส้นทางเดิมเหนือทะเลจีนตะวันออก

    เดลินิวส์ วันพุธที่ 24 กรกฎาคม 2556 เวลา 19:18 น.

    ฟิลิปปินส์จับมือเวียดนามประท้วงจีน

    [​IMG]

    ชาวฟิลิปปินส์พร้อมด้วยชาวเวียดนามหลายร้อยคน ร่วมชุมนุมประท้วงต่อต้านจีนในกรุงมะนิลา กรณีที่รัฐบาลจีนอ้างสิทธิเหนือดินแดนในทะเลจีนใต้

    สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงมะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์ เมื่อวันที่ 24 ก.ค. ว่า ประชาชนหลายร้อยคน รวมทั้งชาวเวียดนามบางส่วน ได้รวมตัวกันที่บริเวณหน้าอาคารสถานกงสุลของจีนในกรุงมะนิลาของฟิลิปปินส์เมื่อวันพุธ เพื่อประท้วงจีนที่อ้างสิทธิเหนือดินแดนในทะเลจีนใต้ โดยกลุ่มผู้ประท้วงเหล่านี้ ซึ่งมีทั้งเป่าแตรและโบกธงชาติฟิลิปปินส์ มีราว 500 คน ท่ามกลางตำรวจต่อต้านการจลาจลเฝ้าดูอย่างใกล้ชิด อย่างไรก็ตาม เนื่องจากมีการประท้วง ทางสถานกงสุลจีนได้ปิดสำนักงานประทับตราหนังสือเดินทาง

    เมื่อไม่นานนี้ เกิดการเผชิญหน้ากันหลายครั้งซึ่งเกี่ยวข้องกับเรือตรวจการณ์ของจีน กับเรือฟิลิปปินส์และเรือเวียดนาม ทำให้สถานการณ์ตึงเครียดในบริเวณหมู่เกาะสแปรทลี ซึ่งนอกจากเป็นเส้นทางเดินเรือที่สำคัญแล้ว ยังอุดมไปด้วยน้ำมันและก๊าซธรรมชาติ

    เดลินิวส์ วันพุธที่ 24 กรกฎาคม 2556 เวลา 17:40 น.

    ปูตินเตรียมเยือนอิหร่านคาดรื้อฟื้นเจรจานิวเคลียร์

    [​IMG]

    ประธานาธิบดีรัสเซีย เตรียมเดินทางเยือนอิหร่านเดือนหน้า คาดรื้อฟื้นเจรจานิวเคลียร์

    สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงมอสโก ประเทศรัสเซีย เมื่อวันที่ 24 ก.ค. ว่า ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน แห่งรัสเซียมีกำหนดเดินทางเยือนอิหร่านในเดือนส.ค. เพื่อพยายามรื้อฟื้นการเจรจาว่าด้วยโครงการนิวเคลียร์ของอิหร่าน หนังสือพิมพ์คอมเมอร์แซนต์รายงานเมื่อวันพุธว่า ประธานาธิบดีปูตินจะเดินทางเยือนอิหร่านในช่วงกลางเดือน ส.ค. หลังจากนายฮัสซัน โรว์ฮานี ประธานาธิบดีคนใหม่ของอิหร่านเข้าพิธีสาบานตนในวันที่ 3 ส.ค. และเป็นการเยือนอิหร่านครั้งแรกของนายปูติน นับตั้งแต่ปี 2550

    นายดมิทรี เปสคอฟ โฆษกประธานาธิบดีปูตินบอกว่า เขาไม่สามารถยืนยันรายงานข่าวนี้ แต่สื่อดังกล่าวระบุรัฐบาลมอสโกหวังว่า การเยือนครั้งนี้ จะเกิดแรงผลักดันให้มีการเจรจากันว่าด้วยโครงการนิวเคลียร์อิหร่านกันอีก หลังหยุดชะงักไปนาน นอกจากนั้น หนังสือพิมพ์คอมเมอร์แซนต์รายงานอ้างคำกล่าวของกระทรวงต่างประเทศอิหร่านด้วยว่า การเดินทางเยือนอิหร่านของประธานาธิบดีรัสเซียจะมีขึ้นระหว่างวันที่ 12-13 ส.ค.

    ด้านมหาอำนาจตะวันตกแสดงความหวังว่า การเจรจานิวเคลียร์จะเกิดการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดี ภายหลังอิหร่านเลือกนายโรว์ฮานี ขึ้นเป็นประธานาธิบดีคนใหม่ แทนนายมาห์มูด อาห์มาดิเนจาด ที่หมดวาระการทำหน้าที่ประธานาธิบดีอิหร่าน

    เดลินิวส์ วันพุธที่ 24 กรกฎาคม 2556 เวลา 15:09 น.

    ที่มา เดลินิวส์ | อ่านความจริง อ่านเดลินิวส์
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 กรกฎาคม 2013
  6. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    จากดีทรอยท์ถึงเมืองไทย
    โดยพระไพศาล วิสาโล​

    [​IMG]

    ครั้งหนึ่งดีทรอยท์เป็นเมืองอุตสาหกรรมที่สำคัญที่สุดในอเมริกา เพราะเป็นที่ตั้งของบริษัทผลิตรถยนต์ชั้นนำของประเทศ กล่าวได้ว่าดีทรอยท์เปรียบเสมือนหัวใจที่สูบฉีดโลหิตไปเลี้ยงระบบเศรษฐกิจของอเมริกาให้เติบใหญ่ เพราะรถยนต์ซึ่งเป็นกลไกทางเศรษฐกิจที่สำคัญผลิตจากเมืองนี้แทบทั้งนั้น ดีทรอยท์ในยุคที่เจริญสุดขีดมีสีสันหลากหลาย เพราะนอกจากเป็นเมืองอุตสาหกรรมชั้นนำแล้ว ยังมีชื่อเสียงโดดเด่นด้านดนตรีและความบันเทิง ใจกลางเมืองคึกคักด้วยผู้คนและวัฒนธรรมที่มีชีวิตชีวา ในช่วงทศวรรษ ๑๙๕๐ ดีทรอยท์มีประชากรเกือบ ๒ ล้านคน จัดว่าใหญ่เป็นอันดับที่ ๔ ของสหรัฐอเมริกา

    แต่มาวันนี้ดีทรอยท์กลายเป็นเมืองที่ซบเซา ยกเว้นใจกลางเมืองซึ่งเต็มไปด้วยตึกระฟ้าทันสมัยแล้ว ส่วนที่เหลือของเมืองกลับเงียบเหงา มีแต่ตึกร้างและอาคารเก่าคร่ำคร่ามากมาย ประชากรหายไปครึ่งหนึ่ง เหลือไม่ถึง ๑ ล้านคน ตามท้องถนนเกลื่อนกล่นด้วยปัญหาอาชญากรรม คุณภาพชีวิตของผู้คนตกต่ำ บริการสาธารณูปโภคไร้ประสิทธิภาพ เพราะงบประมาณไม่พอเพียง ขณะที่อัตราการว่างงานสูงถึงร้อยละ ๒๙ คนยากจนมีมากถึงร้อยละ ๒๖ ของประชากร ความตกต่ำดังกล่าวมิได้เพิ่งเกิด หากดำเนินต่อเนื่องมา ๔๐ ปีแล้ว ยิ่งมาเจอวิกฤตเศรษฐกิจและความถดถอยของอุตสาหกรรมรถยนต์เมื่อเร็ว ๆ นี้ จึงทรุดหนักกว่าเดิม

    อะไรทำให้ชะตากรรมของดีทรอยท์พลิกผันเช่นนั้น เมื่อเร็ว ๆ นี้นิตยสารไทม์ได้วิเคราะห์ความตกต่ำของดีทรอยท์ว่าเกิดจากเหตุปัจจัยหลายประการ ปัจจัยแรกที่ส่งผลกระทบอย่างรุนแรงและต่อเนื่อง ก็คือการจลาจลครั้งใหญ่ของคนดำเมื่อปี ๒๕๑๐ ซึ่งทำให้มีคนตายถึง ๔๓ คน บ้านเรือนถูกเผาทำลายเป็นจำนวนมาก นั่นเป็นจุดเริ่มต้นที่ผลักให้คนขาวนับหมื่นย้ายไปอยู่ตามเมืองรอบนอก

    การจลาจลดังกล่าวเกิดจากความรู้สึกชิงชังโกรธแค้นในหมู่คนดำที่ถูกปฏิบัติเยี่ยงพลเมืองชั้นสอง ดีทรอยท์ในตอนนั้นมีการแบ่งแยกผิวสีอย่างรุนแรงทั้งในที่ทำงาน โรงเรียน สถานที่สาธารณะ แม้กระทั่งบนรถยนต์ คนดำถูกกีดกันไม่ให้อยู่ปะปนกับคนขาว เขตที่พักอาศัยบางแห่งของคนขาวมีการสร้างรั้วคอนกรีตสูง ๒ เมตรยาวเป็นกิโลเมตร เพื่อแยกขาดจากถิ่นของคนดำที่อยู่ใกล้เคียง

    การถูกกีดกันในอาชีพการงาน ขาดโอกาสในการศึกษาและเข้าถึงบริการของรัฐอย่างทัดเทียมกับคนขาว ทำให้คนดำจมปลักอยู่ในความยากจน ยากที่จะเงยหน้าอ้าปากได้ ความรู้สึกถึงความไม่เป็นธรรม และความเหลื่อมล้ำอย่างชัดเจนทางเศรษฐกิจระหว่างผิวสี เป็นตัวบ่มเพาะความเกลียดชังที่พร้อมระเบิดเป็นความรุนแรงได้ทันทีเมื่อเห็นคนดำถูกรังแกโดยเจ้าหน้าที่ตำรวจซึ่งเป็นคนขาว นั่นคือสิ่งที่เกิดขึ้นในปี ๒๕๑๐

    ไม่กี่ปีหลังจากที่คนขาวพากันผละหนีไปเมืองรอบนอก ดีทรอยท์โดยเฉพาะชั้นในก็เต็มไปด้วยคนดำเป็นส่วนใหญ่ ๖ ปีหลังจลาจลใหญ่ดีทรอยท์ก็ได้นายกเทศมนตรีผิวดำเป็นคนแรกในประวัติศาสตร์คือโคลแมน ยัง เขาสร้างความนิยมในหมู่คนดำด้วยการชูประเด็นผิวสี โจมตีคนขาว และใช้นโยบายเผชิญหน้ากับฝ่ายบริหารของเมืองรอบนอกซึ่งเป็นถิ่นคนขาว ทำให้เกิดความแตกแยกที่ร้าวลึกระหว่างดีทรอยท์กับเมืองเหล่านั้น ขณะเดียวกันนโยบายเอียงข้างคนดำ(เช่นดึงงบประมาณมาลงใจกลางเมืองซึ่งเป็นย่านคนดำแต่ละเลยชานเมืองซึ่งเป็นถิ่นคนขาว)ก็ยิ่งผลักไสให้คนขาวละทิ้งดีทรอยท์ไปมากขึ้น ธุรกิจหดหายไปเป็นจำนวนมาก ทำให้รายได้ของเมืองลดลงจนงบประมาณติดลบนับร้อยล้านดอลลาร์ทุกปี

    ในขณะที่โคลแมน ยังใช้นโยบายแบ่งเขาแบ่งเราตลอด ๒๐ ปีที่เขาเป็นนายกเทศมนตรี ตัวแปรอีกด้านหนึ่งได้แก่ธุรกิจยักษ์ใหญ่ในเมืองก็มีส่วนไม่น้อยในการสร้างความตกต่ำให้แก่ดีทรอยท์ บริษัทรถยนต์ทั้ง ๓ บริษัท คือ จีเอ็ม ฟอร์ด และไครสเลอร์ พยายามทุกวิถีทางเพื่อขัดขวางไม่ให้มีการออกกฎหมายที่กระทบผลประโยชน์ของบริษัท โดยอาศัยสส.และสหภาพแรงงานเป็นเครื่องมือ ทั้งสองส่วนมีบทบาทอย่างมากในการต่อต้านกฎระเบียบต่าง ๆ เกี่ยวกับการผลิตรถยนต์ อาทิ มาตรการความปลอดภัยที่เข้มงวดกว่าเดิม การเพิ่มประสิทธิภาพของรถยนต์ รวมทั้งการผ่อนคลายข้อจำกัดทางการค้า ความพยายามดังกล่าวแม้เป็นไปเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของบริษัทรถยนต์ แต่ในระยะยาวกลับกลายเป็นผลเสียต่ออุตสาหกรรมรถยนต์ของอเมริกา เพราะทำให้รถยนต์อเมริกันขาดการพัฒนาคุณภาพ จึงไม่สามารถแข่งขันกับรถยนต์ที่นำเข้าต่างประเทศได้ ผลก็คือบริษัทรถยนต์เหล่านี้ขาดทุนต่อเนื่องจนเกิดวิกฤตทางการเงิน ผลก็คือต้องปิดโรงงานและปลดคนงานออกเป็นจำนวนมาก

    ดีทรอยท์อาจไม่ตกต่ำลงถึงขนาดนี้หากมีอุตสาหกรรมหรือธุรกิจที่หลากหลาย แทนที่จะผูกติดอยู่กับอุตสาหกรรมรถยนต์อย่างเดียว แต่เหตุผลหนึ่งที่ทำให้ดีทรอยท์ไม่มีอุตสาหกรรมที่หลากหลาย ก็คือค่าแรงที่สูงมาก อันเป็นผลจากการเรียกร้องของสหภาพแรงงานรถยนต์ ค่าแรงที่สูงมากนี้ครอบคลุมไปถึงกิจการที่อยู่นอกอุตสาหกรรมรถยนต์ด้วย ทำให้อุตสาหกรรมเกิดใหม่เติบโตได้ยาก ดังนั้นเมื่ออุตสาหกรรมรถยนต์เกิดวิกฤต จึงไม่มีอุตสาหกรรมอื่นมารองรับหรือขับเคลื่อนเศรษฐกิจของดีทรอยท์แทน

    ดีทรอยท์เป็นตัวอย่างของเมืองที่เจริญรุ่งเรืองอนาคตเจิดจรัสแต่แล้วในชั่วหนึ่งอายุคนเท่านั้นกลับเสื่อมโทรมอย่างรวดเร็ว นับเป็นอุทธาหรณ์สอนใจได้ดีถึงความไม่จีรังยั่งยืนอันเป็นธรรมดาโลก มองให้ใกล้ตัวเข้ามา ดีทรอยท์เป็นบทเรียนที่ดีมากสำหรับเมืองไทย ไม่ใช่เพียงเพราะว่าเมืองไทยตกอยู่ภายใต้กฎอนิจจังเช่นเดียวกับดีทรอยท์ แต่ยังเป็นเพราะว่าหลายอย่างที่ฉุดดีทรอยท์ให้ตกต่ำนั้นกำลังเกิดขึ้นกับเมืองไทยด้วยเช่นกัน

    ดีทรอยท์เมื่อ ๕ ทศวรรษก่อนเจริญสุดขีดก็จริง แต่ก็เปรียบเสมือนตึกระฟ้าที่ขาดฐานที่มั่นคง คนดำส่วนใหญ่ที่เป็นฐานของดีทรอยท์นั้นอยู่อย่างยากจน มีความเหลื่อมล้ำต่ำสูงอย่างชัดเจนระหว่างคนขาวกับคนดำ มิใช่แต่ในทางรายได้เท่านั้น แต่รวมถึงสถานภาพ ความรู้สึกว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมเกิดขึ้นกับคนดำแทบทั้งนั้น ในขณะที่คนขาวหาได้ล่วงรู้หรือใส่ใจกับความรู้สึกดังกล่าวไม่ คนขาวส่วนใหญ่คิดว่าคนดำพอใจกับสภาพที่เป็นอยู่ จึงนึกไม่ถึงว่าจะเกิดการจลาจลลุกฮือโดยคนดำในปี ๒๕๑๐

    แม้เมืองไทยไม่มีการเหยียดผิว แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่ามีความเหลื่อมล้ำสูงมากในสังคม รายได้ระหว่างกลุ่มคนที่รวยสุดกับกลุ่มคนที่จนสุดนั้นถ่างกว้างขึ้นเรื่อย ๆ จนจัดอยู่ในกลุ่มประเทศที่มีความเหลื่อมล้ำสูงที่สุดในโลก ความไม่เท่าเทียมระหว่างคนมีกับคนไม่มีเห็นได้ทั่วไป คนรวยสามารถทำผิดกฎหมายได้อย่างสบาย(เพราะมี “เส้น” และสินบน) ในขณะที่คนจนถูกข้าราชการรีดไถและถูกนายทุนเอาเปรียบเป็นอาจิณ ทุกวันนี้มหาวิทยาลัยชั้นนำอย่างจุฬา ฯ หรือธรรมศาสตร์ แทบไม่มีลูกชาวนาชาวไร่สอบเข้าได้เลย หากต้องการได้ปริญญา ก็ต้องไปเรียนที่มหาวิทยาลัยอื่น เช่น ราชภัฏ มหาวิทยาลัยไทยจึงมีการแบ่งชั้นไปโดยปริยาย ระบบการสอบเข้ามหาวิทยาลัยที่ปรับปรุงใหม่ทำให้คนจนถูกกีดกันออกไปมากขึ้น เพราะเอื้อให้คนที่มีเงินกวดวิชามีโอกาสสอบได้มากขึ้น

    คนชั้นล่างที่รู้สึกถึงความเหลื่อมล้ำและความไม่เป็นธรรมนับวันจะมีมากขึ้นเรื่อย ๆ ในขณะที่คนชั้นกลางส่วนใหญ่ไม่ตระหนักถึงปัญหานี้เลย และไม่รับรู้ด้วยว่าคนชั้นล่างมีความคับข้องใจเพียงใดบ้าง เพราะอยู่ในกลุ่มก้อนหรือชนชั้นของตัว ดังนั้นจึงไม่อาจเข้าใจได้ว่าเหตุใดคนชนบทหรือคนยากจนในเมืองจึงชื่นชมคนอย่างพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ซึ่งมีนโยบาย(และภาพลักษณ์)ที่ใส่ใจคนจนมากกว่าหัวหน้ารัฐบาลคนอื่น ๆ อย่างน้อยพรรคการเมืองของเขาก็ทำให้ชาวบ้านที่เป็นหัวคะแนนได้รับความเกรงใจจากข้าราชการ ซึ่งเคยอวดเบ่งใส่พวกเขามาตลอด

    ความเหลื่อมล้ำในสังคมมักนำไปสู่ความรุนแรง ไม่ว่าจะเป็นอาชญากรรม การก่อกวนเยี่ยงอันธพาล ไปจนถึงการประท้วงต่อต้านที่ลงเอยด้วยการสูญเสียเลือดเนื้อและชีวิต สังคมไทยมีแนวโน้มจะเกิดเหตุแบบนี้มากขึ้นเรื่อย ๆ และนับวันจะขยายวงกว้างขึ้นจนอาจเกิดการนองเลือดครั้งใหญ่ในอนาคตอันใกล้ โดยมีตัวเร่งมาจากการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา

    การที่คนชนบทพร้อมใจหย่อนบัตรเลือกพรรคของพ.ต.ท.ทักษิณ (ไม่ว่าชื่อใดก็ตาม)อย่างล้นหลามหลังรัฐประหารปี ๒๕๔๙ (รวมทั้งการชุมนุมของคนเสื้อแดง) มองในแง่หนึ่งก็คือการแสดงความไม่พอใจต่อการเมืองการบริหารที่มองข้ามคนจน แต่สิ่งที่เกิดขึ้นตามมาคือการเมืองแบบแบ่งฝักแบ่งฝ่าย ไม่ต่างจากการเมืองของดีทรอยท์เมื่อได้นายกเทศมนตรีผิวดำ ทุกพรรคที่ได้เป็นรัฐบาลคิดแต่จะตอบโต้ โจมตี และบั่นทอนอีกฝ่ายหนึ่ง เข้าทำนอง “ทีใครทีมัน” ขณะเดียวกันกลุ่มมวลชนทั้งเสื้อเหลืองเสื้อแดงก็ใช้วิธีการเดียวกัน จนเกิดความร้าวลึกไปทุกระดับตั้งแต่ระดับครอบครัวไปจนถึงระดับภาค และระดับประเทศ การพยายามแสวงหาความร่วมมือเพื่อขับเคลื่อนประเทศไปข้างหน้าแทบจะไม่เกิดขึ้นเลย

    ที่คล้ายกันอีกอย่างคือนโยบายเศรษฐกิจที่คำนึงถึงประโยชน์ระยะสั้นของกลุ่มทุนที่มีอำนาจ การออกนโยบายและกฎระเบียบเพื่อปกป้องอุตสาหกรรมชั้นนำ รวมทั้งการขัดขวางมิให้เกิดมาตรการที่เข้มงวดด้านสิ่งแวดล้อม โดยรัฐบาล นักการเมืองและข้าราชการในเมืองไทยตลอดหลายปีที่ผ่านมานั้น แม้จะช่วยลดต้นทุนการผลิต ทำให้สามารถแข่งขันในตลาดโลกได้ แต่ถึงที่สุดก็ไม่ต่างจากการปกป้องผลประโยชน์ของบริษัทรถยนต์ในดีทรอยท์ นั่นคือทำให้ขาดแรงจูงใจในการพัฒนาคุณภาพของสินค้าและประสิทธิภาพการผลิต กาลเวลาได้ชี้ให้เห็นว่าการปกป้องผลประโยชน์ด้วยวิธีนี้ก่อผลเสียในระยะยาวแก่บริษัทเหล่านั้น รวมทั้งเป็นอันตรายต่อเศรษฐกิจของดีทรอยท์อย่างมาก ในเมืองไทยปรากฏการณ์ทำนองนี้กำลังจะเกิดขึ้นด้วยเช่นกัน

    สังคมที่มีความเหลื่อมล้ำสูง การเมืองที่แบ่งฝักแบ่งฝ่ายมุ่งร้ายต่อกัน และนโยบายเศรษฐกิจที่ปกป้องผลประโยชน์ของคนเฉพาะกลุ่ม หากมารวมกันเมื่อใด ก็ทำให้ผู้คนแตกแยก ฉุดรั้งบ้านเมืองให้ถอยหลัง บั่นทอนความคิดสร้างสรรค์ ไม่อาจเจริญรุดหน้าได้ เมืองไทยกำลังจมปลักจนถูกเพื่อนบ้านแซงขึ้นหน้าก็เพราะเหตุนี้

    ป่วยการที่จะพูดถึงความสามัคคี หากสังคมไทยยังมีความเหลื่อมล้ำกันสูงมาก สามัคคีจะเกิดขึ้นได้อย่างแท้จริงก็ต่อเมื่อช่องว่างทางรายได้และสถานภาพของผู้คนลดลง เปิดโอกาสให้มีการเข้าถึงทรัพยากรสาธารณะหรือบริการของรัฐอย่างเท่าเทียมกัน รวมทั้งมีการกระจายรายได้และโอกาสในทางการศึกษาให้แก่ผู้ยากไร้อย่างทั่วถึง นี้คือธรรมในระดับสังคมที่มิอาจมองข้ามได้

    สังคมใดจะเจริญงอกงามได้อย่างยั่งยืนก็ต่อเมื่อตั้งอยู่บนธรรมะ นอกจากการเอื้อเฟื้อเจือจานหรือแบ่งปันกัน ทั้งระหว่างบุคคล และระหว่างกลุ่มชน เพื่อลดความเหลื่อมล้ำในสังคมแล้ว ทุกฝ่ายยังควรหันมาร่วมมือกันให้มากขึ้น แทนที่จะขับเคลื่อนการเมืองด้วยความโกรธเกลียดเดียดฉันท์ ซึ่งทำให้อีกฝ่ายเป็นปฏิปักษ์หนักกว่าเดิม ควรดึงเอาพลังฝ่ายบวกของทุกฝ่ายออกมา เพื่อทำงานสร้างสรรค์ร่วมกัน

    การเมืองที่โจมตีใส่ร้ายกันนั้นสนองผลประโยชน์เพียงชั่วคราวเท่านั้น แต่ส่งผลเสียกลับมาที่ตนเองและสังคมในระยะยาว เพราะความโกรธเกลียดนั้นไม่เคยให้ผลดีที่ยั่งยืน เช่นเดียวกับการปกป้องผลประโยชน์ทางธุรกิจด้วยความโลภ โดยไม่คำนึงถึงความถูกต้อง ไม่เคยเป็นผลดีต่อกลุ่มทุนในระยาว ในที่สุดผลร้ายย่อมเกิดขึ้น ตัวอย่างมีมากมายนับไม่ถ้วน

    การผลักดันให้เกิดนโยบายเศรษฐกิจที่คำนึงถึงความถูกต้องและเป็นธรรม ไม่ลำเอียงเข้าข้างคนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง มุ่งประโยชน์ของส่วนรวมเป็นสำคัญ กาลเวลาย่อมพิสูจน์ว่าเป็นการกระทำที่ฉลาดและเห็นการณ์ไกล คนไทยจึงควรสนับสนุนนโยบายเหล่านี้ แม้ว่ามันจะกระทบ “ความเชื่อมั่น”ของนักลงทุนต่างประเทศจำนวนหนึ่งก็ตาม

    ความเสื่อมของดีทรอยท์ กล่าวอย่างถึงที่สุดแล้วเป็นเพราะทุกฝ่ายไม่ว่านักการเมือง นักธุรกิจ และสหภาพแรงงานต่างเห็นแก่ประโยชน์ส่วนตนและคำนึงถึงผลตอบแทนเฉพาะหน้ามากเกินไป จึงพากันฉุดรั้งดีทรอยท์ให้ตกต่ำอย่างยากจะฟื้นตัวได้ นี้ใช่ไหมที่กำลังเกิดขึ้นกับเมืองไทยวันนี้ด้วยเช่นกัน

    ธรรมะมิใช่เป็นเรื่องของการดำเนินชีวิตเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการจัดระบบสังคมด้วย เมื่อใดก็ตามที่สังคม การเมือง และเศรษฐกิจคลาดเคลื่อนจากธรรมะ บ้านเมืองย่อมเสื่อมถอย ชีวิตย่อมตกต่ำ แม้จะมีวัดนับหมื่นพระนับแสนทุกหัวระแหงก็ดูจะช่วยอะไรไม่ได้

    มติชนรายวัน วันที่ ๑๕ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๕๒

    ที่มา www.visalo.org/article/matichon255211.htm
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 กรกฎาคม 2013
  7. k_isara 1

    k_isara 1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    521
    ค่าพลัง:
    +7,059
    25 ก.ค. 56 เตือนมา

    เมื่อวาน ลูกค้าที่เป็นเจ้าหน้าที่ระดับสูงของชมรมศูนย์ข่าวดอนเมืองได้มาอุดหนุนสินค้าที่ร้าน ได้เตือนว่า น้ำกำลังมา ก็ถามว่าจริงหรือ?...จริง แต่ก็ไม่ได้ถามต่อเพราะลูกค้าจะรีบไป ลูกมือที่ช่วยขายของก็แซวว่า ระวังปลาสวายที่เลี้ยงไว้ในบ่อจะไปตามน้ำ(เปิดสวนอาหารและมีสระน้ำใหญ่เลี้ยงปลาสวายไว้มาก)

    กรมอุตุก็ได้ประกาศเตือน ว่าฝนจะตกหนักโดยเฉพาะภาคเหนือตอนบน

    จึงขอเตือนมายังท่านที่มีบ้านริมน้ำหรือใกล้น้ำ ขออย่าได้ประมาทเพราะภาพที่เห็น น้ำจะเอ่อท่วมจากแม่น้ำหรือพื้นที่ๆเป็นน้ำเข้าหาแผ่นดิน

    ขอแนะนำว่า ถ้ามีงบพอก็ประกันภัยเรื่องน้ำท่วมและแผ่นดินไหวเอาไว้ จะช่วยแบ่งเบาภาระได้

    เคอิสรา
     
  8. จริง?หรือ?

    จริง?หรือ? เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2013
    โพสต์:
    2,201
    ค่าพลัง:
    +7,155
    สลด! รถไฟสเปนตกรางตายอย่างน้อย 35 ศพ
    [​IMG]
    เกิดเหตุรถไฟโดยสารตกรางที่เมืองทางตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศสเปน โดยรถไฟทั้งขบวน 13 ตู้ ตกรางทั้งหมด มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 35 ราย และมีผู้บาดเจ็บอีกหลายสิบคน...
    สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อวันที่ 25 ก.ค. ว่า เกิดเหตุรถไฟโดยสารตกรางที่เมืองซานติอาโก เด คอมโพสเตลา ในแคว้นกาลิเซีย ทางตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศสเปน โดยรถไฟทั้งขบวน 13 ตู้ ตกรางทั้งหมด เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 35 ราย เมื่อวันพุธ (ตามเวลาท้องถิ่น) เชื่อว่าเป็นอุบัติเหตุทางรถไฟที่ร้ายแรงที่สุดในรอบ 4 ทศวรรษของสเปน
    [​IMG]
    บริษัทรถไฟ 'เรนเฟ' เปิดเผยว่า รถไฟขบวนนี้มีผู้โดยสารในขบวนอย่างน้อย 218 คน เดินทางมาจากกรุงมาดริด มุ่งหน้าไปยังเมืองเฟร์รอล ชายฝั่งแคว้นกาลิเซีย แต่ประสบอุบัติเหตุตกรางห่างจากสถานีรถไฟเมืองซานติอาโก เด คอมโพสเตลา ราว 3 กิโลเมตร
    ภาพถ่ายในที่เกิดเหตุซึ่งเผยแพร่โดยสื่อท้องถิ่นของสเปน แสดงให้เห็นศพผู้เสียชีวิตจำนวนหนึ่ง ถูกวางเรียงอยู่ใกล้กับขบวนรถที่เสียหายยับเยิน ขณะเดียวกับที่เจ้าหน้าที่หน่วยฉุกเฉินหลายสิบนายกำลังปฏิบัตการค้นหายภายในซากรถไฟ ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่ได้ร้องขอให้ประชาชนช่วยกันบริจาคโลหิตในโรงพยาบาลท้องที่ เนื่องจากมีผู้บาดเจ็บหลายคนที่เสียเลือดมาก
    นายอัลเบร์โต นูเนซ เฟฆู ผู้นำรัฐบาลท้องถิ่นแคว้นกาลิเซีย ยืนยันกับผู้สื่อข่าวท้องถิ่นว่าพบผู้เสียชีวิตแล้ว 35 ราย และกล่าวด้วยว่า ตอนนี้ยังเร็วเกินไปที่จะระบุสาเหตุของอุบัติเหตุในครั้งนี้ ด้าน นายกรัฐมนตรีมาริอาโน ราฆอย เรียกประชุมรัฐมนตรีวาระฉุกเฉินทันทีเมื่อคืนวันพุธและเตรียมตัวเดินทางไปยังจุดเกิดเหตุในวันพฤหัสบดี (25 ก.ค.) นี้.
    ทั้งนี้ รายงานล่าสุดจากสำนักข่าวต่างประเทศ ณ เวลา 6:00น. ตามเวลาไทยระบุว่า จำนวนผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์นี้เพิ่มขึ้นเป็นอย่างน้อย 50 รายแล้ว ส่วนจำนวนผู้บาดเจ็บมีจำนวนนับร้อยคน
    [​IMG]

    [​IMG]

    ที่มา : ข่าวไทยรัฐออนไลน์
    วันที่ 25 Jul 2013 - 06:00
     
  9. Spammer

    Spammer เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    976
    ค่าพลัง:
    +3,498
    ระวัง......
    โรคไข้เลือดออกระบาดหนักทั่วประเทศ

    เกิดจากไวรัสเต็งกี ป่วย 54,042 ราย เสียชีวิต 62 ราย ซึ่งสูงกว่าปี 53 ที่เคยระบาดหนักสุดอยู่หลายเท่าแล้ว

    อันดับ 1 สงขลา
    อันดับ 2 เลย

    อาการ
    - มีไข้สูง 39 องศาเซลเซียสขึ้นไป
    - 2-3 วันแล้วไข้ก็ยังไม่ลด

    ควรนำส่งโรงพยาบาลก่อนเลย เพราะอาจมีอาการช็อคตามมา

    ระยะที่ 1 เลือดออก เพราะเส้นเลือดมีรูพรุน ทำให้น้ำในเส้นเลือดไหลออกมา เลือดจึงเข้มข้นขึ้น จึงต้องให้น้ำเกลือ

    ระยะที่ 2 เลือดคลั่งในอวัยวะต่างๆ

    ระยะที่ 3 เสียชีวิต

    ปัจจุบัน ไม่มียารักษา

    ป้องกันโดย
    - ไม่ให้ยุงกัด
    - ทำลายแหล่งเพาะพันธุ์ยุง
     
  10. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    ระบบเงินดอลล่าร์กำลังจะพังทลาย !!!

    [​IMG]

    ปี ค.ศ.1971 อเมริกายกเลิกระบบทองคำหนุนหลังเงิน Dollar ล่าสุด(ปี ค.ศ.2013) มีการรายงานข่าวอย่างไม่เป็นทางการว่า รัฐบาลจีนกำลังจะเลิกใช้เงินดอลล่าร์เป็นสกุลอ้างอิงและใช้ทองคำเป็นมาตรฐานหนุนหลังเงินหยวนเพื่อปฏิวัติระบบการเงินโลกใหม่....

    จะเห็นว่าในยุคที่ระบบการเงินโลกใช้ทองคำ ซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่มีจำกัดเป็นสินทรัพย์หนุนหลังเงินกระดาษ ทำให้ระบบเงินเฟ้อของโลกอยู่ในระดับมีเสถียรภาพ เพราะทองคำมีจำกัด สมัยก่อนจะพิมพ์ธนบัตรออกใช้ได้ จะต้องมีทองคำอย่างเดียวเท่านั้นเป็นทุนสำรอง 100% ประเทศอังกฤษนับเป็นประเทศแรกที่ใช้มาตรฐานทองคำ ประกาศใช้ในปี ค.ศ. 1821 ทำให้เงินปอนด์สเตอร์ลิงของอังกฤษเป็นเงินตราสกุลหลักที่มีเสถียรภาพ และทรงมูลค่ามากที่สุดในยุคนั้น เพราะว่าใช้ทองคำบริสุทธิ์หนุนไว้ในการผลิตธนบัตร แต่ละประเทศก็พยายามรักษาเสถียรภาพและคุณค่าของเงินตราประเทศตนเองไว้ และในหลายๆประเทศเริ่มประกาศใช้มาตรฐานทองคำแบบเช่นอังกฤษในช่วงปี 1876 ในช่วงนั้นแต่ละประเทศก็ใช้ทองคำหนุนหลัง 100% ดังเช่นอังกฤษเป็นต้นมา

    หลังจากนั้นในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 สหรัฐอเมริกาซึ่งเป็นมหาอำนาจในสมัยนั้นจากผู้นำในการชนะสงครามโลกครั้งที่ 2 จึงทำให้สหรัฐเป็นผู้นำของโลกนับแต่นั้นมา อำนาจในมือของสหรัฐล้นเหลืออย่างหาที่สุดไม่ได้ จนกระทั่งปี 1971ประธานาธิบดี ริชาร์ด นิกสัน ของสหรัฐ ได้ออกมาประกาศยกเลิกการใช้ทองคำหนุนหลังธนบัตร การประกาศยกเลิกนั้นทำให้สหรัฐอเมริกาเป็นเพียงชาติเดียวที่สามารถพิมพ์ธนบัตรออกมาเป็นปริมาณเท่าใดก็ได้ และในปี 2008 เกิดวิกฤติอสังหาแตกในอเมริกา และ FED ก็ได้พิมพ์เงินดอลล่าออกมาใช้มากกว่าระดับปกติถึง 3 เท่าตัว เพื่อเป็นเครื่องมือในการแทรกแซงเศรษฐกิจเพราะ รัฐบาลเองประสบปัญหาหนี้สินล้นพ้นตัว ไม่สามารถใช้นโยบายการคลังอุ้มได้แล้ว

    ตั้งแต่มีการตั้ง FED ในปี 1913 และประธานาธิบดีนิกสันยกเลิกผูกเงินดอลล่ากับทองคำในปี 1971 FED เองก็มีหน้าที่ในการควบคุมการผลิตเงินเพื่อรักษาเสถียรภาพระบบเศรษฐกิจอเมริกาและจะเห็นว่าตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาภาวะเงินเฝืดก็แทบไม่เคยปรากฏบบเศรษฐกิจอเมริกาอีกเลย และด้วยเงินดอลล่าคือสกุลเงินหลักของโลก ทำให้ภาวะข้าวของแพงระบาดหนักไปทั่วโลก และมันเป็นจุดเริ่มความล่มสลายของระบบเศรษฐกิจอเมริกันในทศวรรษหน้า

    จากคอลัมน์ เดินคนละฟาก โดย กมล กมลตระกูล ประชาชาติธุรกิจ วันที่ 13 ธันวาคม พ.ศ. 2550 กล่าวว่า การซื้อขายน้ำมันในตลาดโลกกำลังจะเปลี่ยนไปใช้เงินตราสกุลอื่น เช่น ยูโร หรือเยน ที่เกิดจากการผลักดัน ของประธานาธิบดีฮูโก ชาเวซ แห่งเวเนซุเอลา และล่าสุด ในการประชุมกลุ่มประเทศผู้ผลิตน้ำมันหรือโอเปก (OPEC) ครั้งที่ 146 เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม ที่เมืองอาบู ดาบี ประเทศสาธารณรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ที่ผ่านมานี้ อิหร่านได้กระโดดเข้ามาผลักดันแนวคิดนี้อย่างจริงจัง โดยเสนอให้ตั้งธนาคารโอเปกขึ้นมา และให้เลิกซื้อขายน้ำมันในตลาดโลกด้วยเงินดอลลาร์

    ทำไมการเลิกใช้เงินดอลลาร์เป็นการคุกคามเศรษฐกิจอเมริกา? ปีที่แล้วอเมริกาขาดดุลบัญชีเดินสะพัด (current account deficit) $811 พันล้านเหรียญ - 8.11 ล้านล้านเหรียญ หรือ 6% ของจีดีพี ตัวเลขนี้ คือ รายจ่ายที่มากกว่ารายรับ การที่อเมริกาเป็นประเทศเดียวที่สามารถ ขาดดุลชำระเงินและขาดดุลการค้าได้มากขนาดนี้ หรือ เรียกว่า "การขึ้นรถฟรี (free rider)" ก็เพราะได้ใช้อิทธิพลทำข้อตกลงกับกลุ่มประเทศโอเปกเมื่อปี 1971 ให้การซื้อขายน้ำมันโลกใช้เงินดอลลาร์เพียงสกุลเดียว ข้อตกลงนี้ทำให้ทุกประเทศที่บริโภคน้ำมัน ต้องสะสมเงินดอลลาร์เพื่อใช้ในการซื้อน้ำมันเข้าประเทศ และการซื้อขายน้ำมันโลกร้อยละ 85 ซื้อขายกันนอกประเทศสหรัฐอเมริกา และหมุนเวียนกันอยู่ภายนอกอเมริกา ด้วยเหตุนี้ ธนาคารกลางสหรัฐจึงสามารถพิมพ์เงินดอลลาร์ออกมาได้อย่างไม่จำกัด (ตามข้อตกลงของไอเอ็มเอฟ โดยที่ไม่ต้องมีทองคำมาสำรองตามจำนวนที่พิมพ์ออกมา) และไม่ต้องหวั่นว่าจะเกิดภาวะเงินเฟ้อขึ้นภายในประเทศ

    เงินที่พิมพ์ออกมานี้ก็คือเงินที่ใช้ในการซื้อสินค้าหรือจ่ายหนี้ให้ประเทศที่อเมริกานำเข้าสินค้า มาตรฐานชีวิตคนอเมริกัน จึงสูงที่สุดในโลก เพราะพิมพ์เงินออกมาซื้อฟรี กินฟรีสินค้าจาก ทั่วโลก หรือลงทุนในประเทศอื่นๆเพื่อหากำไร ส่งกลับเข้าประเทศ ประเทศที่ขายสินค้าให้ อเมริกาก็นำเงินดอลลาร์มาเป็นเงินสำรอง หรือนำมาไว้ใช้ซื้อน้ำมันมาบริโภค และเพื่อนำเข้ามาผลิตสินค้าไว้ขายอเมริกาต่อไปเป็นวงจร หรือไม่ก็นำมาซื้อพันธบัตรของรัฐบาลอเมริกัน (U.S. Treasury Bonds) ซึ่งก็คือ นำเงินที่ขายสินค้าได้ดุลมาให้อเมริกาที่เป็นผู้บริโภคกู้เพื่อนำมาซื้อสินค้ากลับไปกินไปใช้ใหม่ (recycle)

    ตัวเลขในปี 2007 จีน ถือพันธบัตรอเมริกันไว้ทั้งสิ้น 396.7 พันล้านเหรียญ หรือเกือบๆ 4 แสนล้านเหรียญ ส่วนญี่ปุ่นเป็นเจ้าหนี้รายใหญ่ ที่สุดของอเมริกา คือ 582.2 พันล้านเหรียญ หรือเกือบ 6 แสนล้านเหรียญ ประเทศผู้ขายน้ำมันก็นำเงินดอลลาร์มาขาย ในตลาดเงิน - Foreign Exchange Markets (Forex) เช่น ที่ลอนดอน หรือนิวยอร์ก สิงคโปร์ ให้ประเทศที่ต้องการบริโภคน้ำมันซื้อไปเพื่อใช้ซื้อน้ำมันต่อไป เงินดอลลาร์จึงหมุนเวียนอยู่ภายนอกอเมริกาเป็นเช่นนี้มาหลายสิบปีติดต่อกันมา

    แต่วงจรนี้กำลังจะถูกทำให้สะดุด และอเมริกาจะยอมไม่ได้ เพราะว่าถ้าปล่อยให้มันเกิดขึ้น หนี้สินจำนวน 8.11 ล้านล้านเหรียญที่อเมริกา เป็นหนี้ชาวโลก ก็ต้องหามาจ่าย และอเมริกาก็ไม่มีเงินนี้จ่าย นอกจากจะต้องขายทรัพย์สิน หรือบริษัทไปสักครึ่งประเทศ ประธานาธิบดีซัดดัมแห่งอิรักบังอาจท้าทาย ความเป็นอภิมหาอำนาจทางเศรษฐกิจของอเมริกา โดยขายน้ำมันของตน ด้วยเงินยูโรแทนดอลลาร์ ในปี 2000 และเปลี่ยนเงินสำรองประเทศของตนเป็นยูโรด้วย ทำให้หลายๆ ประเทศ ที่ซื้อน้ำมัน จากอิรักต้องเปลี่ยนตามไปด้วย ความต้องการ (demand) ดอลลาร์ในตลาดโลกจึงทยอยลดลง ในปี 2002 เงินดอลลาร์ มีค่าลดลงร้อยละ 18 พอถึงปี 2003 อเมริกา จึงบุกอิรัก โดยอ้างว่ามีอาวุธนิวเคลียร์ (อิหร่าน อาจจะโดนเช่นเดียวกัน) จากนั้นก็เปลี่ยนการ ซื้อขายน้ำมันของอิรักจากเงินยูโรกลับมาเป็น เงินดอลลาร์ใหม่

    อิหร่านเริ่มยุติการซื้อขายน้ำมันของตนจากเงินดอลลาร์มาเป็นเงินยูโรแทนเมื่อปี 2003 และหลังจากนั้นเป็นต้นมา ค่าเงินดอลลาร์ก็ลดลงแล้วถึงร้อยละ 30 ในวันนี้ ตามหลักความต้องการซื้อ (demand) และความต้องการขาย (supply) เมื่อความต้องการซื้อลดลง ราคาของสิ่งนั้นก็ลดตามด้วย การแก้เกมของอเมริกาคือ การปั่นราคาน้ำมันโลกให้สูงขึ้นเพื่อสร้างความต้องการซื้อดอลลาร์ให้อยู่ในระดับเดิม ทุกวันนี้ราคาน้ำมันจึงพุ่งทะยานขึ้นเกือบแตะ 100 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรลแล้ว ถ้าวิธีนี้ไม่ได้ผล อเมริกาอาจจะตัดสินใจ โจมตีอิหร่านเหมือนเช่นที่ทำกับอิรักด้วยเหตุผลเดียวกันคือ กำลังพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ โดยใช้ยุทธวิธี "โจมตีก่อนแล้วพิสูจน์ทีหลัง" (pre-emptive strike )

    อย่างไรก็ตามอิหร่านเป็นประเทศใหญ่กว่าอิรักมาก มีประชากรมากกว่า ถ้าอเมริกาโจมตี และเข้ายึดครอง ก็อาจจะเป็นสงครามยืดเยื้อกว่าสงครามอิรัก และอาจจะต้องลงทุนด้วยชีวิต ทหารอเมริกันมากกว่าอิรักอีกหลายเท่า คนอเมริกันจำนวนมากจึงไม่เห็นด้วย รวมทั้งสมาชิกรัฐสภาจำนวนหนึ่ง เจ้าหน้าที่ รัฐบาล และสื่อมวลชน ดังนั้นจึงมีรายงานวิจัย เผยแพร่ออกมาว่าอิหร่านได้ยุติการพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์มาแล้วตั้งแต่ปี 2003 เพื่อป้องกัน ไม่ให้ประธานาธิบดีบุชโจมตีอิหร่านเสียก่อน แล้วพิสูจน์ทีหลัง ประธานาธิบดีฮูโก ชาเวซ ก็ยุติการขาย น้ำมันของตนด้วยเงินดอลลาร์ไปแล้ว แต่ขายเป็นเงินยูโรแทน ดังนั้นโอกาสที่ค่าเงินดอลลาร์จะแข็งค่ากลับมามีอิทธิพลในตลาดเงินโลกเหมือนเดิมจึงมีโอกาสน้อย หรือเป็นไป ไม่ได้เลย

    สถานการณ์ข้างต้นเป็นสัญญาณขาลงของอภิมหาอำนาจที่ครองความเป็นเจ้ามาเป็นเวลาเกือบ 60 ปี ซึ่งสั้นกว่ายุคล่าอาณานิคมที่ยาวนานเป็นร้อยปี ปัจจุบัน FED มีแผนจะหยุดพิมพ์เงินเข้าระบบเศรษฐกิจเมื่อเห็นสัญญาณเศรษฐกิจฟื้นตัว ... แต่สัญญาณที่ว่ามันยังเลือนลางมาก ล่าสุดมีการรายงานข่าวอย่างไม่เป็นทางการว่า รัฐบาลจีนกำลังจะเลิกใช้เงินดอลล่าเป็นสกุลอ้างอิงและใช้ทองคำเป็นมาตรฐานหนุนหลังเงินหยวนเพื่อปฏิวัติระบบการเงินโลกใหม่....จีนจะเปลี่ยนโลกได้ ก็ต่อเมื่อเศรษฐกิจจีนเชื่อมโยงกับโลกมากพอ แล้ววันนั้นโลกจะใช้เงินหยวนเป็นทุนสำรองของทุกชาติอัตโนมัติ เพราะทุนสำรองเป็นที่เก็บสินทรัพย์เพื่อการค้าระหว่างประเทศ ดังนั้นเมื่อทุกประเทศค้าขายกับจีนมากขึ้น เงินหยวนจะครองโลกเอง เมื่อจีนเป็นใหญ่ ระเบียบโลกใหม่จะเปลี่ยน

    เขียนโดย deerfreedom

    ที่มา Deer Freedom: ระบบเงินดอลล่ากำลังจะพังทลาย !!!
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • dollar.jpg
      dollar.jpg
      ขนาดไฟล์:
      91.1 KB
      เปิดดู:
      1,797
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 26 กรกฎาคม 2013
  11. k_isara 1

    k_isara 1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    521
    ค่าพลัง:
    +7,059
    26 ก.ค. 56 นิมิต

    ต่างชาติ มาดใหม่ วัยใส
    สวมใส่ เครื่องแบบ สยาม
    เฝ้าดู แล้วแจ้ง ทหาร
    ป้องปราม เหตุการณ์ ที่ตาม

    เคอิสรา
     
  12. k_isara 1

    k_isara 1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    521
    ค่าพลัง:
    +7,059
    26 ก.ค. 56 ความเหมือน

    ป้าไม่อยู่เสียหลายวัน ไปแอ่วเหนือมาจ้า พบแม่เฒ่าที่เชียงแสน เธอก็ว่าน้ำท่วมกรุงฯ แน่ แต่บอกว่า เขาไม่ให้พูดวันเวลา แต่เพื่อนที่อุดร บอกว่า ปลายสิงหาถึงกันยา มา แน่ มาแรงด้วย ป้าเองยังไม่มีสัญญานเรื่องนี้เลย คุณเค มีบ้างไหม

    คิดถึงเสมอ

    ป้าทวานา

    เคอิสรา
     
  13. boonma05

    boonma05 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กันยายน 2008
    โพสต์:
    141
    ค่าพลัง:
    +516
    ปีที่แล้วก็ทำนายกันแบบนี้แหละค่ะ มาแน่ มาแรงและเร็วกว่าปี 54 ด้วย แล้วก็เงิบ

    และอีกประเด็นหนึ่ง ปลายสิงหาถึงกันยา น้ำจะท่วมก็ไม่ใช่เรื่องแปลกหรือผิดธรรมชาตินี่คะ
     
  14. k_isara 1

    k_isara 1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    521
    ค่าพลัง:
    +7,059
    26 ก.ค. 56 วันดี

    เมื่อวานวันดี เช้าได้ตักบาตรพระเจ็ดองค์ เย็นลูกสาวชวนไปกินสุกี้ที่หลักสี่ พอเดินผ่านจะออกจากร้านเจอหลานจิ๊บและแฟนสาวนั่งทานอยู่ในร้านเดียวกันก็เข้าไปทักทายเพราะไม่ค่อยได้เจอกัน หลานจิ๊บยังคงเป็นพิธีกรช่องไทยพีบีเอสส่วนหลานกวางบอกทำอยู่ช่องห้าช่วงเจ็ดโมงเช้าวันอาทิตย์

    ได้สอบถามความก้าวหน้าในเรื่องการเตรียมการ หลานก็เล่าให้ฟังว่าญาติธรรมได้ซื้อที่ดินไว้ 21ไร่พร้อมกับเปิดภาพในโทรฯให้ดูแต่ไม่ทราบว่าอยู่จุดใดของเมืองเลย รู้แต่ว่าเลยตัวเมืองไปหน่อย พื้นที่เป็นเนินสูง ขาไปยังได้ไปพักที่บ้านพักหมอวลีที่สร้างอยู่ตรงข้ามฐานผาแบ่นและบอกพื้นที่ฐานฯขณะนี้เขียวชะอุ่ม

    หลานจิ๊บถามว่าอาได้ขึ้นไปหรือไม่?(ช่วงปีใหม่ไปมาแล้ว)และได้นัดแนวร่วมไว้เดือนหน้าถ้าว่างก็จะขนของขึ้นอีกเที่ยวขาขึ้นถ้าท้ายรถมีที่ว่างพอตั้งเครื่องสีข้าวระบบถีบก็จะแวะรับและพักที่ขอนแก่นหนึ่งคืน

    เรื่องตู้คอนฯกำลังรวบรวมเงินตัวเองไปผสมกับของหลานสาว คงอีกไม่นานก็ครบ

    เคอิสรา
     
  15. comfx22

    comfx22 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 เมษายน 2011
    โพสต์:
    137
    ค่าพลัง:
    +234
    เคยเช็คพื้นที่กรุงเทพ เสี่ยงอยู่ในระดับ โซน4 ถึง โซน 5 จากแผนที่น้ำท่วมฉับพลัน (world map of natural hazard) ถือว่าอยู่ในระดับเสี่ยงแค่กลางๆ โดยโซน 6 เสี่ยงสูงสุด ส่วนมากจะเป็นพื้นที่ลาดเชิงเขา ทำให้น้ำไหลแรง แต่กรุงเทพโชคดี เป็นพื้นที่ราบลุ่ม คาดว่าน้ำคงจะไหลไม่แรงจนขนาดทำลายอาคารบ้านเรือนได้ แต่อาจมีน้ำท่วมขัง น้ำทะเลหนุนสูงบ้าง ถ้าจัดการให้น้ำท่วมระบายได้ดี อย่าปล่อยให้น้ำขังจนเน่าเสีย ก็โอเค.
    [ame=http://www.youtube.com/watch?v=L0i2aTSZfNk&feature=c4-overview&list=UU9-aSGgj7pVXFEnd-iFzVdA]Signs Of Change The Past Week Or So July 2013 Part 2 - YouTube[/ame]
     
  16. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    ระทึกใกล้เกาะพิพาท เรือจีนเผชิญหน้ากับเรือลาดตระเวนญี่ปุ่น

    [​IMG]

    เรือจีน 4 ลำเผชิญหน้ากับเรือลาดตระเวนของญี่ปุ่นบริเวณน่านน้ำใกล้หมู่เกาะที่ทั้งสองฝ่ายอ้างกรรมสิทธิ์ในทะเลจีนตะวันออก ก่อนเรือทั้ง 4 ลำถอนสมอกลับออกไป ขณะแผนนโยบายกลาโหมของญี่ปุ่น กระตุ้นให้ญี่ปุ่นเสริมกองทัพเรือและใช้โดรน ออกลาดตระเวน

    สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานจากกรุงปักกิ่ง ประเทศจีน เมื่อวันที่ 26 ก.ค.ว่า รัฐบาลจีน แถลงว่า เรือ 4 ลำจากหน่วยยามฝั่งที่เพิ่งตั้งขึ้นมาใหม่ของจีน เผชิญหน้ากับเรือลาดตระเวนของญี่ปุ่นในน่านน้ำใกล้หมู่เกาะในทะเลจีนตะวันออกที่ทั้งสองฝ่ายต่างอ้างกรรมสิทธิ์ครอบครองในวันนี้ โดยสำนักงานบริหารกิจการทะเลและมหาสมุทรแห่งชาติของจีน ซึ่งดูแลหน่วยยามฝั่ง แถลงว่า เรือของหน่วยยามฝั่ง 4 ลำ “ประกาศขึงขัง” อธิปไตยของจีนเหนือหมู่เกาะ ที่ญี่ปุ่นเรียกว่า “เซนกากุ” และจีนเรียกว่า “เตียวหยู” และเรียกร้องให้เรือทั้ง 4 ลำออกจากพื้นที่ดังกล่าว หมู่เกาะที่ไร้ผู้คนอาศัยนี้ ถูกควบคุมโดยญี่ปุ่น แต่จีนก็อ้างกรรมสิทธิ์ครอบครองด้วย

    เป็นพัฒนาการที่นักสังเกตการณ์ระบุว่า จะนำมาซึ่งความขัดแย้งมากขึ้นในบริเวณรอบหมู่เกาะเซนกากุ เจ้าหน้าที่หน่วยยามฝั่งญี่ปุ่น ระบุว่า ญี่ปุ่นเรียกร้องให้เรือทั้ง 4 ลำออกไปจากน่านน้ำดินแดนของญี่ปุ่น เขากล่าวเพิ่มเติมด้วยว่า เรือทั้ง 4 ลำ ออกจากน่านน้ำรัศมี 12 ไมล์ทะเล เมื่อเวลาประมาณ 13.30 น.ตามเวลาท้องถิ่นในญี่ปุ่น หรือตรงกับ 11.30 น.ตามเวลาในไทย หรือลอยลำอยู่นาน 3 ชั่วโมงหลังเดินทางไปถึง

    ด้านแผนนโยบายกลาโหมของญี่ปุ่นฉบับหนึ่ง ระบุว่า ญี่ปุ่นควรเสริมกองทัพเรือและใช้อากาศยานไร้คนขับ หรือโดรน ออกลาดตระเวน ซึ่งเป็นการแสดงความวิตกกังวลกรณีความขัดแย้งกับจีนและเกาหลีเหนือมากขึ้น โดยแผนนโยบายดังกล่าว ยังเรียกร้องให้มีการป้องกันการโจมตีด้วยขีปนาวุธให้ดีขึ้น และความเป็นไปได้ในการโจมตีฐานทัพของศัตรู ทั้งนี้ ในบทบัญญัติตามรัฐธรรมนูญ กองทัพญี่ปุ่น มีขอบเขตจำกัดเป็นได้เพียงกองกำลังป้องกันตัวเอง แต่นายกรัฐมนตรีชินโซ อาเบะ กำลังเตรียมขยายขอบเขตของกิจกรรมกองทัพ ซึ่งก็มีความเป็นไปได้ว่า จะเป็นความเคลื่อนไหวที่สร้างความขัดแย้งและทำให้ประเทศเพื่อนบ้านไม่พอใจ

    เดลินิวส์ วันศุกร์ที่ 26 กรกฎาคม 2556 เวลา 17:17 น.

    สงครามกลางเมืองซีเรีย 2 ปีตายทะลุหลัก 1 แสนคน

    [​IMG]

    สงครามกลางเมืองในซีเรียที่ยืดเยื้อมากว่า 2 ปี ทำให้ยอดผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นเป็นมากกว่า 100,000 คนแล้ว และประชาชนต้องอพยพลี้ภัยในประเทศเพื่อนบ้านอีกกว่า 1.7 ล้านคน

    สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานจากยูเอ็น ในนิวยอร์ก สหรัฐเมื่อวันที่ 26 ก.ค.ว่า นายบัน คี-มูน เลขาธิการสหประชาชาติ หรือยูเอ็น เปิดเผยเมื่อวานนี้ว่า ตัวเลขผู้เสียชีวิตจากสงครามกลางเมืองในซีเรีย ที่ยืดเยื้อมากกว่า 2 ปี เพิ่มเป็นมากกว่า 100,000 คนแล้ว สูงกว่าที่ยูเอ็นประกาศไว้เมื่อเดือนที่แล้วถึง 7,000 คน โดยนายบัน แถลงที่สำนักงานใหญ่ยูเอ็นในนครนิวยอร์ก พร้อมกับนายจอห์น แคร์รี รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ ซึ่งบุคคลทั้งสองต่างเน้นย้ำให้เร่งหาทางแก้ปัญหาทางการเมืองเพื่อยุติความขัดแย้งดังกล่าว และนายบันเรียกร้องให้ใช้ความพยายามจัดการประชุมสันติภาพครั้งใหม่ขึ้น

    ที่ผ่านมา ยูเอ็นระบุว่า ตัวเลขผู้เสียชีวิตต่ำกว่าความเป็นจริง เนื่องจากเชื่อว่า ยังมีผู้เสียชีวิตอีกจำนวนมากไม่ได้รายงาน ขณะที่ ชาวซีเรียกว่า 1.7 ล้านคน ต้องอพยพทิ้งบ้านเรือนไปอยู่ในที่พักพิงชั่วคราวในประเทศเพื่อนบ้าน การประกาศของยูเอ็นครั้งนี้ มีขึ้นขณะที่มีรายงานจากกรุงดามัสกัส ว่า มีผู้เสียชีวิต 7 คนจากเหตุการณ์โจมตีด้วยระเบิดรถยนต์ ชานเมืองจารามานา ย่านที่พักของชาวคริสเตียน

    ความพยายามจัดการประชุมสันติภาพซีเรียก่อนหน้านี้ มีอันต้องเลื่อนออกไป เนื่องจากเกิดความขัดแย้งระหว่างมหาอำนาจโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งรัสเซียและสหรัฐ และยังมีความสงสัยว่า ฝ่ายที่เกี่ยวข้องในซีเรียจะเข้าร่วมประชุมด้วยหรือไม่ อย่างไรก็ตาม นายแคร์รี กล่าวว่า เขาได้พูดคุยกับนายเซอร์เก ลาฟรอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซียแล้ว เมื่อวันพุธที่ผ่านมา และทั้งสองประเทศยังยึดมั่นที่จะจัดการประชุมสันติภาพซีเรียต่อไป

    เดลินิวส์ วันศุกร์ที่ 26 กรกฎาคม 2556 เวลา 06:04 น.

    ตูนิเซียเตรียมชุมนุมใหญ่หลังแกนนำฝ่ายค้านถูก "ลอบสังหาร"

    [​IMG]

    สหภาพแรงงานตูนิเซียปลุกระดมประชาชนให้ออกมาชุมนุมใหญ่ในกรุงตูนิส ในวันนี้ ( 26 ก.ค. ) หลังนักการเมืองคนสำคัญของพรรคฝ่ายค้านถูกสังหารโหดหน้าบ้านพัก

    สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงตูนิส ประเทศตูนิเซีย เมื่อวันที่ 26 ก.ค. ว่าสหภาพแรงงานตูนิเซียประกาศปลุกระดมประชาชนให้ออกมาชุมนุมใหญ่ในวันนี้ หลังเกิดเหตุลอบสังหารนักการเมืองคนสำคัญของพรรคฝ่ายค้านอย่างเหี้ยมโหด

    แม้นายกรัฐมนตรีอาลี ลาราเยดห์ จะออกมากล่าวประณามผู้ที่อยู่เบื้องหลังการยิงสังหารนายโมฮัมเหม็ด บราห์มี วัย 58 ปี หัวหน้าพรรคขบวนการประชาชน หนึ่งในสมาชิกแกนนำฝ่ายค้านคนสำคัญ เสียชีวิตหน้าบ้านพักเมื่อวันพฤหัสบดี ตามลำตัวมีร่องรอยการถูกยิงถึง 11 นัด แต่การที่ลาราเยดห์กล่าวในเชิงปฏิเสธยอมรับข้อเรียกร้องยุบสภาด้วยเรื่องการเสียชีวิตของบราห์มี โดยให้เหตุผลว่า จะเป็นการสร้างสุญญากาศทางการเมือง สร้างความไม่พอใจให้แก่ประชาชนจำนวนไม่น้อย

    โดยสหภาพแรงงานแห่งชาติตูนิเซีย ประกาศจัดชุมนุมใหญ่ในวันนี้ เพื่อกดดันให้รัฐบาลลาออก เนื่องจากมีความเป็นไปได้ว่า เป็นผู้บงการ อย่างไรก็ตาม มีประชาชนหลายพันคนเริ่มออกมาชุมนุมกันตามท้องถนนแล้ว เพียงไม่นานหลังข่าวการเสียชีวิตของบราห์มีแพร่กระจายออกไป ทำให้ตำรวจปราบจลาจลต้องฉีดน้ำและแก๊สน้ำตาสลายการชุมนุม

    ขณะที่สหประชาชาติ ( ยูเอ็น ) ออกแถลงการณ์ประณามกลุ่มคนร้ายที่สังหารโหดบราห์มีด้วยเช่นกัน พร้อมกับวิงวอนขอให้ทุกฝ่ายอยู่ในความสงบ อย่าทำอะไรวู่วาม เนื่องจากอาจส่งผลต่อเสถียรภาพทางการเมืองของประเทศที่ยังไม่เข้ารูปเข้ารอย

    การเสียชีวิตของบราห์มีเกิดขึ้นเพียง 5 เดือนหลังนายโชครี บีเลด ผู้นำฝ่ายค้านคนก่อนหน้านี้ ถูกยิงเสียชีวิตหน้าบ้านพักเช่นกัน เมื่อวันที่ 6 ก.พ.

    เดลินิวส์ วันศุกร์ที่ 26 กรกฎาคม 2556 เวลา 12:27 น.

    ที่มา เดลินิวส์ | อ่านความจริง อ่านเดลินิวส์
     
  17. k_isara 1

    k_isara 1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    521
    ค่าพลัง:
    +7,059
     
  18. k_isara 1

    k_isara 1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    521
    ค่าพลัง:
    +7,059
    28 ก.ค. 56

    26 ก.ค. 56 นิมิต

    ต่างชาติ มาดใหม่ วัยใส
    สวมใส่ เครื่องแบบ สยาม
    เฝ้าดู แล้วแจ้ง ทหาร
    ป้องปราม เหตุการณ์ ที่ตาม

    เคอิสรา

    28 ก.ค. 56

    นี่ก็หนึ่งเหตุการณ์ที่มีความเหมือนที่ต้องรับฟังส่วนจะเกิดหรือไม่? ไม่มีใครตอบได้ ได้แต่รับรู้และเฝ้าตามดูเท่านั้น

    abyss1@gmail.com

    27/7/2556

    ถึง: อิสรา แจ่มใส

    น้ำท่วมกรุงที่ทราบมาจะแรงกว่าคราวก่อน แต่กรุงที่ว่าหนักแล้ว ต่าง จว หนักกว่าค่ะ และเรื่องสาดยิงมีค่ะ

    เคอิสรา
     
  19. ฟาสิรี

    ฟาสิรี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มกราคม 2011
    โพสต์:
    396
    ค่าพลัง:
    +729
    น้ำจะท่วม มาทำนาย ทายทักในหน้าฝน ซึ่งมันก็เคยเกิดมาแล้ว ไม่ใช่ไม่เคย ... ใครก็ทำนายได้ คงไม่ต้องรอสัญญาณเพ้อเจ้อ วันละหลายรอบอะไรนั่นหรอก ...

    ถ้าทำนายล่วงหน้าว่าน้ำจะท่วมเมืองไทย ช่วงหน้าแล้ง เดือน กุมภาพันธ์ - เมษายน แล้วเกิดจริงนี่ จะเชื่ออยู่นะ

    เมื่อไรจะเลิกเพ้อซะที หลายปีแล้ว พอเหอะ :boo::boo::boo::boo::boo:
     
  20. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    ฟิลิปปินส์เตรียมย้ายฐานทัพไปอยู่ใกล้พื้นที่พิพาท

    [​IMG]

    ฟิลิปปินส์ เตรียมย้ายฐานทัพอากาศและทัพเรือไปอยู่ที่อ่าวซูบิก อดีตฐานทัพเรือสหรัฐ ทางตอนเหนือของกรุงมะนิลา จุดประสงค์คือจะได้ออกสู่น่านน้ำที่พิพาทกับจีนได้เร็วขึ้น

    สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานจากกรุงมะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์ เมื่อวันที่ 28 ก.ค.ว่า รัฐบาลฟิลิปปินส์มีแผนการที่จะย้ายฐานทัพอากาศและฐานทัพเรือ ไปตั้งยังอดีตฐานทัพเรือสหรัฐ ทางตอนเหนือของกรุงมะนิลา เพื่อความสะดวกสบายในการเดินทางไปยังน่านน่านที่พิพาทกับจีนในทะเลจีนใต้ได้เร็วขึ้น จากคำบอกเล่าของรัฐมนตรีกลาโหมและรายงานลับของรัฐบาล โดยโวลแตร์ กาซมิน รัฐมนตรีกลาโหมฟิลิปปินส์ กล่าวเมื่อวันอาทิตย์ว่า รัฐบาลมีแผนย้ายกองทัพอากาศและกองทัพเรือ และฝูงเครื่องบินรบและเรือรบไปยังอ่าวซูบิก ซึ่งกลายเป็นเมืองร้างไปแล้วตั้งแต่กองทัพเรือสหรัฐถอนกำลังออกไปเมื่อปี 2535

    กาซมิน ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวทางโทรศัพท์จากเกาหลีใต้ ซึ่งอยู่ระหว่างการเยือนว่า มันเป็นไปเพื่อการปกป้องทะเลฟิลิปปินส์ด้านตะวันตก ซึ่งเขาใช้ชื่อที่รัฐบาลฟิลิปปินส์เรียกพื้นที่พิพาทในทะเลจีนใต้

    อ่าวซูบิก ถือเป็นท่าเรือน้ำลึกตามธรรมชาติ ที่สามารถรองรับเรือรบขนาดใหญ่ได้ถึง 2 ลำ ซึ่งรัฐบาลฟิลิปปินส์ได้มาจากสหรัฐเมื่อไม่นานมานี้ โดยเฉพาะเมื่อเปรียบเทียบกับน่านน้ำที่ตื้นกว่าที่ฐานทัพเรือแซงเลย์ พอยท์ ในจังหวัดคาวีเต ทางตอนใต้ของกรุงมะนิลา

    เดลินิวส์ วันอาทิตย์ที่ 28 กรกฎาคม 2556 เวลา 16:29 น.

    สองชนเผ่าในดาร์ฟูร์ปะทะเดือดตายเกือบ 100 คน

    [​IMG]

    สองชนเผ่าในแคว้นดาร์ฟูร์ ของซูดาน ปะทะกันเอง ทำให้มีผู้เสียชีวิตเกือบ 100 คน ทั้งสองเผ่าเริ่มต่อสู้แย่งที่ดินกันหนักขึ้นตั้งแต่ช่วงต้นปีนี้

    สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานจากกรุงคาร์ทูม ประเทศซูดาน เมื่อวันที่ 28 ก.ค.ว่า ผู้นำชนเผ่า เปิดเผยเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาว่า มีผู้เสียชีวิตกว่า 94 คน ในการปะทะกันครั้งใหม่ระหว่าง 2 ชนเผ่าคู่อริ ในแคว้นดาร์ฟูร์ ของซูดาน โดยความขัดแย้งเกิดขึ้นทั่วพื้นที่ที่กว้างใหญ่ไพศาลตั้งแต่ปี 2546 เมื่อชนเผ่าแอฟริกา จับอาวุธขึ้นต่อสู้กับรัฐบาลอาหรับในกรุงคาร์ทูม พร้อมกล่าวหารัฐบาลว่า ไม่ใส่ใจดูแลทุกข์สุขของพวกเขา อย่างไรก็ตาม ความรุนแรงได้ลดลงจากระดับสูงสุดเมื่อปี 2547-2548 แต่การสู้รบกันระหว่างชนเผ่าได้เพิ่มขึ้นอย่างมากตั้งแต่เดือนม.ค.ที่ผ่านมา

    นายอาเหม็ด อัล-เครี ผู้นำชนเผ่าอาหรับ มิสเซริยา กล่าวว่า ชนเผ่ามิสเซริยาและสมาชิกของชนเผ่าคู่อริ ซาลามาต ในเมืองอัมดูคุน ซูดานใต้ ปะทะกันเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา โดยเผ่าซาลามาต 86 คน และมิสเซริยา 8 คน เสียชีวิต ขณะที่ ผู้นำชนเผ่าซาลามาต กล่าวว่า ชนเผ่ามิสเซริยาโจมตีพื้นที่ยึดครองของซาลามาต โดยใช้รถยนต์แลนด์ ครูยเซอร์ 30 คัน ชนเผ่าทั้งสอง ต่อสู้เพื่อแย่งสิทธิ์ครอบครองที่ดินทำกินกันมาเมื่อต้นปีนี้

    เดลินิวส์ วันอาทิตย์ที่ 28 กรกฎาคม 2556 เวลา 16:47 น.

    ตำรวจตูนิเซียปะทะผู้ประท้วงยิงแก๊สน้ำตาสลายการชุมนุมหน้ารัฐสภา

    [​IMG]

    ฝ่ายค้านชาวตูนิเซียหลายพันคน ชุมนุมประท้วงหน้าอาคารรัฐสภา เรียกร้องให้ยุบสภาและขับไล่รัฐบาลเคร่งศาสนา โดยขว้างปาก้อนหินเข้าใส่เจ้าหน้าที่ตำรวจ ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจก็ยิงแก๊สน้ำตาเข้าใส่เพื่อสลายการประท้วง

    สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานจากกรุงตูนิส ประเทศตูนิเซีย เมื่อวันที่ 28 ก.ค.ว่า ตำรวจตูนิเซียยิงแก๊สน้ำตาเพื่อสลายการชุมนุมประท้วงของประชาชนที่เรียกร้องให้มีการยุบสภาบริเวณด้านหน้าอาคารรัฐสภาเมื่อวานนี้ โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจเริ่มยิงแก๊สน้ำตา หลังจากผู้ประท้วงฝ่ายค้านหลายพันคนเดินทางมาถึง หลังจากเข้าร่วมพิธีฝังศพของนายโมฮาเหม็ด บราห์มี แกนนำฝ่ายค้าน ที่ถูกลอบสังหาร กลุ่มผู้ประท้วงได้ขว้างปาก้อนหินเข้าใส่เจ้าหน้าที่ตำรวจ และมีผู้ได้รับบาดเจ็บหลายคน

    ทั้งนี้ พรรคฝ่ายค้านกำลังเรียกร้องให้ยุบสภาผู้แทนราษฎร และรัฐบาลที่นำโดยกลุ่มเคร่งศาสนา ผู้ประท้วงบางคนตะโกนต่อต้านนายราเชด กันนูชี ผู้นำพรรคเอ็นนาห์ดา พรรคเคร่งศาสนาของรัฐบาล ซึ่งครอบครัวของนายบราห์มี กล่าวหาว่า อยู่เบื้องหลังการสังหารนายบราห์มี

    อย่างไรก็ตาม นายกันนูชี ก็ประณามเหตุการณ์ลอบสังหารเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมาว่า เป็นการโจมตีประชาธิปไตย ขณะเดียวกัน ก็มีกลุ่มผู้ที่สนับสนุนรัฐบาลหลายร้อยคน ออกมาชุมชุมต่อต้านฝ่ายค้านด้านหน้าอาคารรัฐสภา พร้อมตะโกนประณามในสิ่งที่พวกเขาเรียกร้องเป็นความพยายามก่อรัฐประหารต่อประชาธิปไตย ส่วนกระทรวงมหาดไทย ออกแถลงการณ์เรียกร้องให้อยู่ในความสงบ

    เดลินิวส์ วันอาทิตย์ที่ 28 กรกฎาคม 2556 เวลา 03:45 น.

    ที่มา ตำรวจตูนิเซียปะทะผู้ประท้วงยิงแก๊สน้ำตาสลายการชุมนุมหน้ารัฐสภา | เดลินิวส์
     

แชร์หน้านี้

Loading...