ประเทศไทยจะเกิดอุบัติภัยอย่างที่ทำนายกันจริงๆหรือไม่

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย koymoo, 25 มกราคม 2005.

  1. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    สื่อจีนเตือนว่าจีนอาจจะตอบโต้ฟิลิปปินส์ในทะเลจีนใต้

    [​IMG]

    ปักกิ่ง 29 มิ.ย.- สื่อจีนเตือนฟิลิปปินส์ว่า จีนอาจจะหลีกเลี่ยงไม่ได้ในการที่จะตอบโต้ฟิลิปปินส์ หากฟิลิปปินส์ยังคงยั่วยุจีนในบริเวณทะเลจีนใต้ ซึ่งอาจจะกลายเป็นบริเวณที่มีปัญหาทางการทหารระหว่างประเทศที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย

    คำเตือนดังกล่าวมีขึ้นในวันนี้ ขณะที่บรรดารัฐมนตรีจากทั้งสองประเทศเข้าร่วมการประชุมสมาคมประชาชาติเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หรืออาเซียน ซึ่งจัดขึ้นที่บรูไนตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ซึ่งการประชุมในครั้งนี้ตั้งความหวังว่าจะมีการบรรลุมาตรฐานทางจริยธรรม เพื่อให้มีผลผูกพันตามกฎหมายระหว่างประเทศ เพื่อการบริหารจัดการน่านน้ำที่กำลังมีปัญหาความขัดแย้งระหว่างประเทศ

    จุดเสี่ยงคือบริเวณน่านน้ำนอกชายฝั่งที่มีปริมาณสำรองน้ำมันจำนวนมหาศาล รวมทั้งน่านน้ำที่เป็นเส้นทางเดินเรือ และการทำการประมง ทั้งจีนและฟิลิปปินส์มีความขัดแย้งกันในดินแดนบริเวณทะเลจีนใต้มานานหลายทศวรรษแล้ว โดยมีความตึงเครียดมากขึ้นหลังจากเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ฟิลิปปินส์เคลื่อนกำลังทหารและยุทโธปกรณ์ชุดใหม่เข้าไปในบริเวณแนวปะการังที่กำลังมีความขัดแย้งกันระหว่างทั้งสองประเทศ ส่งผลให้จีนประณามฟิลิปปินส์ว่าได้ดำเนินการยึดครองพื้นที่อย่างผิดกฎหมาย

    สำนักข่าวไทย TNA News | 29 มิ.ย. 2556 12:03 |

    ที่มา สื่อจีนเตือนว่าจีนอาจจะตอบโต้ฟิลิปปินส์ในทะเลจีนใต้ | MCOT.net | MCOT.net

    ญี่ปุ่นรับปากช่วยฟิลิปปินส์ปกป้องหมู่เกาะที่มีข้อพิพาทกับจีน

    [​IMG]

    มะนิลา 27 มิ.ย.-ญี่ปุ่นรับปากว่าจะช่วยฟิลิปปินส์ปกป้องหมู่เกาะห่างไกลในช่วงที่รัฐบาลทั้งสองประเทศเป็นห่วง เรื่องจีนเคลื่อนไหวอย่างแข็งกร้าวในการอ้างกรรมสิทธิ์เหนือน่านน้ำพิพาทในทะเลจีนตะวันออกและทะเลจีนใต้

    นายอิสึโนริ โอโนะเดะระ รัฐมนตรีกลาโหมญี่ปุ่น แถลงข่าวร่วมกับนายโวลแตร์ กาซมิน รัฐมนตรีกลาโหมฟิลิปปินส์ ว่าได้หยิบยกเรื่องจีนอ้างกรรมสิทธิ์เหนือน่านน้ำในทะเลจีนใต้และทะเลจีนตะวันออกขึ้นหารือระดับสูงกันที่กรุงมะนิลาของฟิลิปปินส์ และเห็นพ้องกันว่าจะร่วมมือกันต่อไปในการปกป้องหมู่เกาะห่างไกล น่านน้ำทางทะเลและผลประโยชน์ทางทะเล ญี่ปุ่นกังวลมากว่าสถานการณ์ในทะเลจีนใต้อาจเกิดขึ้นในทะเลจีนตะวันออก แต่ขอย้ำว่าญี่ปุ่นต้องการหลีกเลี่ยงความขัดแย้งกับจีน และไม่ควรใช้กำลังกับสถานการณ์ในขณะนี้ แต่ควรดำเนินการตามหลักนิติรัฐ

    ด้านนายกาซมิน กล่าวว่า ฟิลิปปินส์ยินดีที่ญี่ปุ่นเสนอให้ความช่วยเหลือทางทหาร และเห็นพ้องกันว่าจะเดินหน้าแลกเปลี่ยนข่าวสารและเทคโนโลยีเพื่อเสริมความสัมพันธ์ด้านกลาโหมให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น

    ฟิลิปปินส์มีข้อพิพาทกับจีนเรื่องการอ้างกรรมสิทธิ์ทับซ้อนในทะเลจีนใต้ ขณะที่ญี่ปุ่นมีข้อพิพาทกับจีนเรื่องการอ้างกรรมสิทธิ์ทับซ้อนในทะเลจีนตะวันออก

    สำนักข่าวไทย TNA News | 27 มิ.ย. 2556 15:49 |

    ที่มา ญี่ปุ่นรับปากช่วยฟิลิปปินส์ปกป้องหมู่เกาะที่มีข้อพิพาทกับจีน | MCOT.net | MCOT.net

    อินเดียเริ่มฌาปนกิจศพเหยื่อน้ำท่วม ขณะอีกเกือบ 4,000 คนยังรอการอพยพ

    [​IMG]

    นิวเดลี 28 มิ.ย.-ทางการอินเดียเริ่มทำการฌาปนกิจศพเหยื่อที่เสียชีวิตจากน้ำท่วมในรัฐอุตตราขัณฑ์ทางตอนเหนือของประเทศ ขณะที่ผู้รอดชีวิตอีกเกือบ 4,000 คนกำลังรอการช่วยเหลืออพยพออกจากภูเขา

    เจ้าหน้าที่ระดับสูงของทางการอินเดียกล่าวว่า พิธีฌาปนกิจเริ่มมาตั้งแต่เมื่อวันพุธตามเวลาท้องถิ่นท่ามกลางฝนตกและความวิตกกังวลว่าจะเกิดโรคระบาดจากศพที่เน่าเปื่อยและระบบสุขอนามัยที่ไม่ดี พิธีฌาปนกิจจะดำเนินต่อไปราว 2-3 วัน แต่ทางการไม่ได้เปิดเผยตัวเลขผู้เสียชีวิตอย่างเป็นทางการ รายงานระบุว่า ยังคงมีประชาชนราว 4,000 คนติดค้างตามหุบเขาทั่วรัฐ ทางการกำลังเร่งหาทางอพยพประชาชนเหล่านั้น รัฐอุตตราขัณฑ์ถูกน้ำท่วมตั้งแต่เมื่อวันที่ 16 มิ.ย. ที่ผ่านมา ปีนี้นับเป็นปีที่มีฝนตกหนักที่สุดในรัฐดังกล่าวในรอบ 60 ปีที่ผ่านมา

    สำนักข่าวไทย TNA News | 28 มิ.ย. 2556 09:03 |

    ที่มา อินเดียเริ่มฌาปนกิจศพเหยื่อน้ำท่วม ขณะอีกเกือบ 4,000 คนยังรอการอพยพ | MCOT.net | MCOT.net
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  2. scot2006

    scot2006 สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 เมษายน 2009
    โพสต์:
    24
    ค่าพลัง:
    +17
    วิธีแยกรูปแยกนามทำให้ท่านเป็นจูฬโสดาบันดูwww.arjantutv.com

    อยากเป็นจูฬโสดาบันต้องดูที่
    http://arjantutv.com
     
  3. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    คลื่นความร้อนโจมตีฝั่งตะวันตกสหรัฐป่วยแล้วนับสิบ

    [​IMG]

    คลื่นความร้อนยังคงแผ่ปกคลุมฝั่งตะวันตกของสหรัฐ ทำให้ประชาชนล้มป่วยแล้วหลายสิบคน เนื่องจากขาดน้ำอย่างหนัก

    สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงวอชิงตัน ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 29 มิ.ย. ว่า ชาวอเมริกันที่อาศัยอยู่ทางตะวันตกของประเทศยังคงเผชิญกับสภาพอากาศร้อนจัด ที่ทำให้ประชาชนจำนวนมากล้มป่วยจากอาการขาดน้ำอย่างรุนแรง

    สำนักงานอุตุนิยมวิทยาแห่งชาติ ( เอ็นดับเบิลยูเอส ) ออกประกาศเตือนอย่างต่อเนื่องว่า สภาพอากาศที่ร้อนจัดในขณะนี้อาจเป็นอันตรายถึงแก่ชีวิต ขอให้ทุกคนรักษาสุขภาพ พยายามอย่าปล่อยให้ร่างกายขาดน้ำ พร้อมกับพยากรณ์ว่า อุณหภูมิจะเพิ่มสูงขึ้นอีก โดยที่นครลาส เวกัส ในรัฐเนวาดาอาจสูงถึง 47.2 องศเซลเซียส เช่นเดียวกับที่เมืองฟีนิกซ์ เมืองเอกของรัฐแอริโซนา ที่อุณหภูมิอาจสูงไล่เลี่ยกัน จนทำลายสถิติในรอบ 19 ปี

    ขณะที่อุณหภูมิบริเวณทะเลทรายเดด วัลเลย์ ในรัฐแคลิฟอร์เนีย หรือ "หุบเขามรณะ" จะคงที่ราว 54 องศาเซลเซียส จนถึงช่วงต้นสัปดาห์หน้า ทั้งนี้ ทะเลทรายเดด วัลเลย์เป็นเจ้าของสถิติอุณหภูมิสูงที่สุดในโลก 56.7 องศาเซลเซียส บันทึกไว้เมื่อวันที่ 10 ก.ค. 2456 ส่วนสาเหตุของสภาพอากาศที่ร้อนจัดคาดว่า มาจากบริเวณความกดอากาศสูงเคลื่อนที่มาปกคลุมบริเวณตะวันตกของสหรัฐอย่างหนาแน่น

    ด้านสถานีโทรทัศน์เอ็นบีซีรายงานว่า เจ้าหน้าที่กู้ภัยนครลาสเวกัสต้องเร่งลำเลียงประชาชนกว่า 30 คน ซึ่งกำลังชมเทศกาลดนตรีกลางแจ้ง กระจายไปเข้ารับการรักษาตามโรงพยาบาล เนื่องจากมีอาการขาดล้ำอย่างรุนแรงและเป็นลมแดด

    เดลินิวส์ วันอาทิตย์ที่ 30 มิถุนายน 2556 เวลา 10:38 น.

    ที่มา คลื่นความร้อนโจมตีฝั่งตะวันตกสหรัฐป่วยแล้วนับสิบ | เดลินิวส์
     
  4. k_isara 1

    k_isara 1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    521
    ค่าพลัง:
    +7,059
    1 ก.ค. 56 เรื่องเก่าเล่าซ้ำ

    16 ก.ย. 51 เรื่องเล่าจากภาพ การทะเลาะวิวาท คนกลางเป็นผู้นำ แผ่นดินไหว

    เจ้านายหมอเคยเล่าให้หมอหลวงฟัง ให้สังเกตุพม่าและภาคเหนือเกิดแผ่นดินไหวบ่อย ให้ระวังประเทศเรา

    9 มิ.ย. 51 ซ่อมขั้วไฟฟ้า
    จะเกิดในเวลากลางคืน

    เคอิสรา
     
  5. k_isara 1

    k_isara 1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    521
    ค่าพลัง:
    +7,059
    1 ก.ค. 56 เมื่อไร?

    บทความได้ลงใบ้ไปแล้ว
    แจ้งแนวร่วมให้รับทราบแล้ว
    ผู้สนใจได้แจ้งให้รับทราบทางพีเอ็มแล้ว
    รอการพิสูจน์

    เคอิสรา
     
  6. k_isara 1

    k_isara 1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    521
    ค่าพลัง:
    +7,059
    1 ก.ค. 56

    เร่งทำ ความดี มีไว้
    ใส่ใจ เหตุการณ์ ที่เกิด
    ปกป้อง ครอบครัว ตัวเถิด
    เมื่อเกิด แก้ไข ได้ทัน

    เพื่อนธรรม ต้องนำ ค้ำชู
    เอ็นดู กันไว้ ให้มาก
    ครอบครัว ของตัว แคล้วคลาด
    ช่วยชาติ ประชา พาสุข

    เคอิสรา
     
  7. k_isara 1

    k_isara 1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    521
    ค่าพลัง:
    +7,059
    1 ก.ค. 56

    ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ k_97
    24 มิ.ย. 56 ฟืนไฟ

    หม้อไฟ ที่ใช้ ไฟบ้าน
    ตรวจทาน กันให้ ดีไว้
    ก่อนที่ อัคคี เยี่ยมกราย
    ตรวจไว้ นั้นไม่ เสียหลาย

    เคอิสรา

    โดมิโน่

    ฟืนไฟ ระไว ระวัง
    ตรวจทาน กันไว้ ให้ดี
    เครื่องใช้ ไฟฟ้า น้องพี่
    ก่อนที่ อัคคี เยี่ยมเยือน
    เคอิสรา
     
  8. จริง?หรือ?

    จริง?หรือ? เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2013
    โพสต์:
    2,201
    ค่าพลัง:
    +7,155
    มณีส่องแสง "หัวใจ XXY "แปลว่า"ปัญญาอ่อน ลามปาน จัญไร อีเหี้ยเอ่ย"

    คุณจะแก้ตัวแทนหาสวรรค์วิมาลอะไรล่ะครับ :boo::boo::mad::mad::mad::boo:
    ทีเวลาคนอื่นทักท้วงเรื่องทำนายภัยพิบัติ คุณกลับออกมาพล่าม มาขู่หาว่าคนอื่นเขาปรามาส ทีอย่างนี้ปรามาสเห็นๆกลับมาเห็นดีเห็นงามแก้ต่างให้เสร็จ งามไส้จริงๆน่ะ
     
  9. kb 2500

    kb 2500 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    143
    ค่าพลัง:
    +873
    ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ เกษม
    ผมคิดว่าคุณมณีส่องแสง กำลังนำเสนอข้อมูลในรูปแบบแมทริกซ์ เท่านั้นเองครับ

    ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ มณีส่องแสง
    หัวใจสมเด็จโต "หัวใจ RX One "แปลว่า "ความดี เสียใจ ปัญญาอ่อน อีเหี้ยเอ่ย"..

    ปล. ในอดีตที่นานมาแล้ว คำว่า "ปัญญาอ่อนจะหมายถึง ความดีและความน่ารัก (สิ่งที่ดีๆ) ส่วนคำว่า "อีเหี้ยเอ่ย คือ คำแทนว่า นะคะ นะครับนั้นเอง"...

    และความจริงอีกอย่างก็คือ ดวงจิตของพระพิฆเนศ กับ สมเด็จพุฒจารย์โตคือ ดวงจิตเดียวกันนั้นเอง..

    รวมๆคือมัน..แมทริกซ์มากๆ "อีเหี้ยเอ่ย คือ คำแทนว่า นะคะ นะครับนั้นเอง"
     
  10. scot2006

    scot2006 สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 เมษายน 2009
    โพสต์:
    24
    ค่าพลัง:
    +17
    ประเทศไทยมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้ม ดู www.arjantutv.com จอ2

    ประเทศไทยมีของดี ของศักดิ์สิทธิ์เยอะ ดู
    http://arjantutv.com จอที่ 2
     
  11. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    นางมณีเมขลาพา"พายุเอนเจลล่า"ไปเขาพระสุเมรุ !!!

    [​IMG]

    karan20 สมาชิก

    กรณีพายุเอนเจลล่า

    ขอยกพระราชดำรัสของในหลวง ทุกวันที่ 4 ธันวาคม ของทุกปี เอาปี 38 มาให้อ่านเฉพาะตอนสำคัญ นางมณีเมขลา วันที่ 4 ธันวาคม พ.ศ. 2538 พระราชทานแก่คณะบุคคลต่างๆ ที่เข้าเฝ้าฯ ถวายชัยมงคล

    พายุเอนเจลล่า....แต่ เมืองไทยนี้วิเศษจริงๆ เพราะว่าเหตุการณ์ต่างๆ ที่มีขึ้นให้น้ำท่วมนี่รู้สึกเกิดขึ้นไม่ใช่เฉพาะกรุงเทพฯ และปริมณฑล เดือดร้อนตั้งแต่ภาคเหนือลงมาถึงภาคใต้ และทางอีสานก็มี ภาคใต้ก็มี แต่ว่าที่เดือดร้อนที่สุดก็อยู่ใกล้ที่นั่งของเรา ที่นั่งอยู่เดี๋ยวนี้ ก็คือกรุงเทพฯ เดือดร้อน แต่ก็เรื่องมันไม่มากนัก เพราะมีสิ่งที่ช่วยเมื่อน้ำท่วมอยู่แล้วจวนจะแห้ง ทางกรมอุตุนิยมโดยนายสมิทธ ธรรมสโรช ได้ส่งพยากรณ์อากาศมาให้ แล้วเขียนไว้เป็นโน้ตบอกว่ากรมอุตุนิยมถวาย เกี่ยวข้องกับพยากรณ์อากาศ และเกี่ยวข้องกับพยากรณ์การเคลื่อนไหวของพายุ

    เขาบอกว่า ถวายแล้วต่อด้วยเพื่อทรงพิจารณา หมายความว่า กรมอุตุนิยมมาใช้เรา ใช้เราเป็นผู้พยากรณ์ก็เป็นเกียรติ เขาเขียนว่าเพื่อทรงพิจารณา ดูแล้วก็หนักใจอยู่เพราะว่าดูในแผนที่อากาศ พายุเอนเจลล่า อ้วนจ้ำม่ำ อ้วนเหมือนในการ์ตูน เอนแจลล่าไม่ทราบว่าท่านทั้งหลายเห็นหรือเปล่า เอนเจลล่าที่เป็นอริของป๊อบอาย ไม่ทราบว่าเห็นหรือเปล่า เห็นไหมว่าในการ์ตูนป๊อบอายมีเอนเจลล่า ตัวเบ้อเร่ออ้วนเลย นี่แหละกำลังมาเป็นอริกับเรา แล้วก็คุณสมิทธก็บอกว่า เอนแจลล่าเป็นซุปเปอร์ไต้ฝุ่นน่ากลัว คร่าชีวิตในฟิลิปปินส์พันกว่า ผ่านมาแล้ว มาในทะเลจีนใต้ ตามธรรมดาเมื่อเวลาพายุผ่านฟิลิปปินส์ มันต้องผอมลง แต่นี่คุณเอนเจลล่ามันอ้วนขึ้นเป็นซุปเปอร์ไต้ฝุ่น

    เราก็ไม่รู้จะทำอย่างไร ได้รับพยากรณ์อากาศนั้นตอนบ่าย ตอนบ่ายแก่ๆ มาดูเอ เราจะทำอย่างไร ก็ดูถึงประมาณตี 1 แล้วก็รู้สึกว่าต้องดูต้องใช้ ไอทีหน่อย ใช้ อินฟอร์เมชั่น เทคโนโลยี (Information Technology) เราก็ใช้อินฟอร์เมชั่นเทคโนโลยีแล้วรู้สึกว่า เอนเจลล่านี่จะแพ้แรง คือ แพ้แรงจะต้องบอก ต้องเผยให้ทราบ แพ้แรงมณีเมขลา เพราะว่าเดี๋ยวนี้ท่านทั้งหลายก็คงเข้าใจคงรู้จักนางมณีเมขลาพอสมควรแล้ว ก็เลยบอกไปตอนตี 1 ว่า ให้บอกกรมอุตุนิยมว่า พรุ่งนี้ จะหมายถึงพรุ่งนี้แบบไทยหรือพรุ่งนี้แบบฝรั่งก็ไม่ทราบ

    แต่ว่าพรุ่งนี้จะกลายเป็นดีเปรสชั่น จากซุปเปอร์ไต้ฝุ่นนี้จะกลายเป็นดีเปรสชั่น และต่อไปอีก 2 วัน จะเป็นหย่อมความกดอากาศต่ำที่จะอยู่แถวๆ ไหหลำ ฤาเข้าไปเมืองจีนก็คงต่ำ ข้อพิจารณาอย่างนี้ เสร็จแล้ววันรุ่งขึ้นก็ดูไอทีต่อไป เอ!ดีแล้ว ที่เราพูดนับว่าถูกพอสมควร ควรจะถูกพอสมควร แต่ว่าทางวิทยุพวก CNN BBC เขาก็ยังบอกว่าเป็นไต้ฝุ่น ไต้ฝุ่นอีก วันรุ่งขึ้นก็เป็นไต้ฝุ่น วันต่อไปก็เป็นซีเรียส ทรอปิคคัลสตอร์ม (Serious Tropical Storm) หมายความว่า เป็นพายุโซนร้อนที่รุนแรง แต่ดูไม่รุนแรง เราก็ยืนยันว่าเมืองไทยไม่เป็น

    แล้วในที่สุด ท่านทั้งหลายเจอเอนเจลล่าที่ไหนก็คงไม่ได้เจอ บินไปที่โน่นที่นี่ก็ไม่ได้เจอคุณเอนเจลล่าเลย คุณเอนเจลล่าก็ไม่เข้าคุณสมิทธบอกเข้า ขอโทษคุณสมิทธ ก็หมายความว่า คุณสมิทธวันก่อนนี้มาพบ แล้วก็ถามว่ายังไง ก็ได้บอกว่าให้นางมณีเมขลาไปเจรจา ก็ได้ผลดี ถ้ามาแบบที่ว่าเพราะว่าเคยมีไต้ฝุ่นใหญ่ และเข้าทะลุเมืองเวียดนาม และเข้ามาในเมืองไทย ผ่านแถวมุกดาหาร หรือแถวอุบล เข้ามาจะเห็นว่าพังจริงๆ แต่ไม่เป็นอะไร

    ฉะนั้นก็ตอนนี้จะได้โฆษณา โฆษณามณีเมขลา มณีเมขลาและหนังสือเล่มใหม่ สำนักงานมณีเมขลานี้ ท่านก็ได้ทราบว่าสำนักงานมณีเมขลานี้ได้แถลงอาการพระประชวร ก็คงนึกสำนักงานนี้เป็นอะไรแน่ เป็นสำนักงานอุตุนิยมมีฐานที่ตั้งอยู่ที่เขาพระสุเมรุ ก็ถามว่าเขาพระสุเมรุอยู่ที่ไหน ก็มีแผนที่ให้ในเล่มนี้ มีสำนักงานมณีเมขลา เขาพระสุเมรุอยู่ที่นี่ เป็นที่ตั้งของสำนักงานมณีเมขลา

    แต่ที่จริงสำนักงานมณีเมขลานี้เป็นสาขาหนึ่ง เป็นส่วนหนึ่งของสำนักงาน ฝล. ท่านคงยังไม่เคยทราบว่าสำนักงาน ฝล. นี้คืออะไร สำนักงาน ฝล. คือ นี่เป็นเครื่องหมายของสำนักงาน ฝล. ท่านที่ไม่มีกล้องส่องก็คงไม่เห็น แต่อีกหน่อยก็คงมีชื่อเสียงดีมาก สำนักงาน ฝล. นี้ สำนักงานมณีเมขลาเป็นส่วนหนึ่งของสำนักงาน ฝล. แต่ที่สำคัญที่สุดคือว่า นางมณเมขลานี้เป็นตัวละครสำคัญ ในหนังสือเล่มใหม่ที่จะออกในโอกาส 50 ปีกาญจนาภิเษก เป็นหนังสือที่กำลังทำ หวังว่าจะทำเสร็จทันสำหรับฉลอง

    คือว่าหนังสือเล่มนี้ ไม่เหมือนหนังสือติโตหรือนายอินทร์ หนังสือนายอินทร์ ค่อนข้างจะดุเดือดในทางราชการลับ หนังสือติโต เป็นหนังสือที่เกี่ยวข้องกับสงครามเหมือนกัน เกี่ยวข้องการต่อสู้ แต่หนังสือใหม่นี้ยังไม่บอกชื่อ มีบางคนเขาบอกว่า ควรจะโฆษณาแต่รู้สึกไม่จำเป็น เพราะว่าเป็นหนังสือที่น่าดูมาก เอาไว้ดูเอง ในหนังสือนี้นางมณีเมขลา จะว่าเป็นนางเอกก็ไม่ใช่ ก็ไม่เชิงแต่ว่าเป็นตัวสำคัญ

    ในรูปนี้จะเห็นว่ามีเรือที่แล่นในมหาสมุทรอินเดีย แล้วก็มีที่เป็นเส้นที่เกี่ยวข้องกับลม คือ เป็นเรื่องของอุตุนิยม และตรงนี้ก็มีดวงของวัน อันนี้ก็เกี่ยวข้องกับวันที่ 15 เมษา 2537 ที่ตอนนั้นแห้งแล้ง แล้วก็เกิดที่ตอนน้ำแห้ง แห้งแล้งแล้วก็เกิดเขาบอกว่า จะเล่นสงกรานต์ไม่ได้ ก็ไม่มีน้ำ แต่ว่าไปติดต่อนางมณีเมขลา นางมณีเมขลาก็บันดาล ให้มีฝนแล้ว ก็นี่เป็นแผนที่ของคุณสมิทธ์เอง มันเป็นอย่างนี้จริงๆ คุณสมิทธก็ต้องรับรองว่า แผนที่นี้ไม่ผิด ถูกต้องสำหรับวันที่ 15 แล้วก็ดวงนี้ เป็นดวงวันที่ 15 เมษายน อันนี้เป็น 2537 แต่ว่าในเรื่องนั้น ไม่เสร็จ 2537 ไม่ทราบว่าปีอะไร แต่ก็เป็นในระยะเดียวกัน

    แล้วก็นางมณีเมขลา เป็นผู้ที่เป็นตัวสำคัญในเรื่องของทะเล มหาสมุทรอินเดีย ทะเลอันดามัน และประเทศไทย ซึ่งเขาเรียกว่าสุวรรณภูมิ อันนี้ก็พูดถึงว่า เมืองไทยถูกน้ำท่วม แต่ถ้าหากว่าไม่มีสิ่งที่ดีๆ ที่ช่วยป้องกัน ป่านนี้คงยังจมน้ำอยู่ เพราะว่าพายุอย่างคุณเอนเจลล่า ก็จะต้องเข้ามา ตอนนี้ที่จริงอยากจะพูดสักเล็กน้อย แต่พูดมามากแล้ว พูดทุกวัน เกือบทุกวัน ที่สภากาแฟ สภากาแฟนี้ท่านทั้งหลายอาจจะไม่เข้าใจว่าอะไร คือว่า ในเขตพระบรมมหาราชวังมีที่ที่ชื่อ พระราชกรัณยสภา (บางส่วนจากพระราชดำรัสของในหลวง)

    ที่มา http://palungjit.org/threads/ภัยพิบัติถูกเลื่อนออกไป-นั้นเป็นได้แค่-ข้ออ้าง.290338/
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • a005.jpg
      a005.jpg
      ขนาดไฟล์:
      71.8 KB
      เปิดดู:
      1,210
  12. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    ประกาศิตของพระสยามเทวาธิราช !!!

    [​IMG]

    ” กูกรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ ผู้เป็นโอรสของพระปิยะมหาราช ขอประกาศให้พวกมึงรับรู้ไว้ว่า แผ่นดินสยามนี้ บรรพบุรุษได้เอาเลือด เอาเนื้อ เอาชีวิตเข้าแลกไว้ ไอ้ อี มันผู้ใด คิดบังอาจทำลายแผ่นดิน ทำลายชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ฤๅ กระทำการทุจริตก่อให้เกิดความเดือดร้อนต่อส่วนรวม จงหยุดการกระทำนั้นเสียโดยเร็ว ก่อนที่กูจะสั่งทหารผลาญสิ้นทั้งโคตร ให้หมดเสนียดของแผ่นดินสยามอันเป็นที่รักของกู ตราบใดที่คำว่า “อาภากร” ยังยืนหยัดอยู่ในโลก กูจะรักษาผืนแผ่นดินสยามของกู ลูกหลานทั้งหลาย แผ่นดินใดให้เรากำเนิดมา แผ่นดินใดให้ที่ซุกหัวนอน ให้ความร่มเย็นเป็นสุข มิให้อนาทรร้อนใจ จงซื่อสัตย์ต่อแผ่นดินนั้น. “

    ที่มา ไอ้ อี มันผู้ใด คิดบังอาจทำลายแผ่นดิน ทำลายชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ กูจะสั่งทหารผลาญสิ้นทั้งโคตร!!! | Ronakorn: Thailand SEO and More.

    “---คนนับถือกรมหลวงชุมพรฯ เยอะ แต่คนไม่สนใจท่านในฐานะปุถุชน คนไม่สนใจว่าท่านเคยทำอะไรมา หรือทรงมีพระปรีชาอย่างไร คนสนใจท่านแต่ในฐานะสิ่งศักดิ์สิทธิ์---”

    เป็นข้อความตอนหนึ่งในคำบอกเล่าของ ม.ร.ว. อภิเดช อาภากร ซึ่งมีศักดิ์เป็น “หลานปู่” ของ พลเรือเอก พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงชุมพรเขตรอุดมศักดิ์ กล่าวถึงเสด็จปู่ เมื่อครั้งรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับกรมหลวงชุมพรฯ เพื่อเขียนหนังสือเรื่อง “หลวงปู่ศุขกับกรมหลวงชุมพรฯ” ครั้งนั้นพบว่าหลักฐานต่างๆ โดยเฉพาะจากคำบอกเล่าของผู้เฒ่าผู้แก่นั้นล้วนจดจำและมักจะเล่าถึงแต่เรื่องอิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์ของพระองค์มากกว่าที่จะเล่าเกี่ยวกับพระประวัติความเป็นมา พระปรีชาสามารถ ตลอดจนผลงานการทำคุณประโยชน์ให้แก่ประเทศชาติ แต่เมื่อได้ศึกษาพระประวัติของพระองค์ก็อาจคาดเดาถึงสาเหตุดังกล่าวได้โดยไม่ยากนัก

    พลเรือเอก พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงชุมพรเขตรอุดมศักดิ์ มีพระนามเดิมว่า พระองค์เจ้าอาภากรเกียรติวงศ์ เป็นพระราชโอรสในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ประสูติแต่เจ้าจอมมารดาโหมด สายสกุลบุนนาค เป็นพระราชโอรสรุ่นแรกที่เสด็จไปทรงศึกษาวิทยาการสมัยใหม่ในทวีปยุโรป ทรงเลือกศึกษาวิชาการทหารเรือที่ประเทศอังกฤษ ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นประเทศที่มีกองทัพเรือที่เก่งกาจเกรียงไกรที่สุดในสมัยนั้น

    ทั้งนี้น่าจะสืบเนื่องมาจากการที่ไทยเคยถูกกองทัพเรือฝรั่งเศสคุกคามในวิกฤตการณ์ ร.ศ. ๑๑๒ ทำให้ไทยต้องยอมเสียดินแดนฝั่งซ้ายของแม่น้ำโขงให้แก่ฝรั่งเศส นำความเจ็บช้ำพระทัยมาสู่องค์พระประมุขซึ่งไม่มีหนทางหลีกเลี่ยงเพราะเป็นประเทศเล็ก ไม่มีกำลังพอที่จะต่อสู้ ไม่มีอำนาจที่จะต่อรองกับมหาอำนาจที่ไม่รู้ถูกรู้ผิด ความวิปโยคโศกเศร้าของพระบรมราชชนกชนนีและประชาชนชาวสยามในเหตุการณ์ครั้งนั้น ฝังอยู่ในพระทัยของเจ้าชายเล็กๆ ซึ่งมีพระชนมายุเพียง ๑๓ พรรษา แต่น้ำพระทัยแข็งแกร่ง ทรงตั้งพระทัยแน่วแน่และมั่นคงในการที่จะนำความรู้ด้านการทหารเรือสมัยใหม่มาพัฒนากองทัพเรือของไทยให้เกรียงไกรสามารถต่อสู้ป้องกันตนเองให้พ้นจากภัยคุกคามจากประเทศมหาอำนาจที่มักรุกล้ำอธิปไตยของสยามเนืองๆ

    การเข้าศึกษาวิชาการทหารเรือของเจ้าชายไทยในประเทศอังกฤษต้องเผชิญกับอุปสรรคนานาประการ นับแต่ข้อกำหนดซึ่งห้ามนักศึกษาต่างชาติเข้าศึกษาในโรงเรียนนายเรือของราชนาวีอังกฤษด้วยเหตุผลด้านความมั่นคง แต่ก็มิได้ทำให้พระองค์ทรงย่อท้อ ทรงเข้าศึกษาวิชาการทหารเรือในโรงเรียนเอกชนที่มีชื่อเสียงด้านวิชาการทหารเรือที่แข็งแกร่ง เมื่อสำเร็จการศึกษาแล้ว ได้เข้ารับการฝึกเป็นนักเรียนทำการนายเรือ (Midshipman) ในเรือรบอังกฤษ

    เสด็จกลับประเทศไทยมีพระชนมายุเพียง ๒๐ พรรษา ทรงมีทั้งกำลังพระทัย กำลังพระวรกาย และประการสำคัญทรงมีความตั้งพระทัยแน่วแน่มั่นคงในอันที่จะพัฒนากองทัพเรือไทยให้สามารถเกรียงไกรเทียบเท่าอารยประเทศ เพราะขณะนั้นกิจการทหารเรือไทยอยู่ภายใต้การบังคับบัญชาของฝรั่งต่างชาติซึ่งโปรดว่าจ้างให้มาเป็นผู้วางรากฐานกิจการทหารเรือสมัยใหม่ แต่ทรงพบว่าฝรั่งผู้ปฏิบัติงานขาดความตั้งใจจริงในการพัฒนากองทัพเรือให้เป็นไปตามพระราชประสงค์ กองทัพเรือจึงยังมิได้รับการวางรากฐานอย่างมั่นคง หลักสูตรการสอนนักเรียนนายเรือต่ำ เมื่อเรียนจบหลักสูตรก็ยังไม่สามารถที่จะนำเรือออกสู่ทะเลลึกโดยลำพังตนเองได้ ไม่สามารถใช้อาวุธสมัยใหม่ได้ โดยเฉพาะทหารเรือในขณะนั้นเป็นหน่วยทหารที่มีศักดิ์ศรีต่ำกว่าทหารหน่วยอื่น จึงมักถูกนำไปใช้ในงานโยธา ไม่ใคร่มีโอกาสที่จะเรียนรู้วิชาการ

    เมื่อทรงมีโอกาสได้เข้าบริหารงาน จึงโปรดปรับปรุงกองทัพเรือใหม่ในทุกๆ ด้าน ตั้งแต่การวางหลักสูตรการเรียนการสอนใหม่ โดยเพิ่มวิชาที่จำเป็นสำหรับทหารเรือที่จำเป็นจะต้องเรียนรู้อย่างเข้มข้น ยกระดับทหารเรือให้สูงขึ้นโดยเน้นหนักด้านวิทยาการสมัยใหม่ และการฝึกเพื่อการเป็นนายทหารเรือที่เก่งกาจเกรียงไกร

    แต่ถึงกระนั้นอุปสรรคสำคัญประการหนึ่งที่ทรงพบคือการที่ไม่มีผู้นิยมสมัครเข้าเป็นทหารเรือ อันเป็นธรรมชาติของผู้ที่มิได้อยู่ใกล้ทะเล โปรดแก้ปัญหาด้วยการให้เงินเดือนนักเรียนที่สมัครเข้าเรียนและเพิ่มเงินให้ตามชั้นที่สูงขึ้น ทำให้เริ่มมีผู้สมัครเรียนเพิ่มขึ้น แต่นักเรียนส่วนใหญ่มักเป็นคนยากจนและนักเลงที่หวังเงินเดือน แต่เมื่อได้เข้ามาเรียนแล้วทรงมีวิธีการผูกใจนักเรียนให้ตั้งใจเรียน รักและภาคภูมิใจในสถาบันที่เรียน โดยใช้ความจริงพระทัยจริงจังในการถ่ายทอดวิชาความรู้ ปลูกฝังความรู้สึกรักและภาคภูมิใจในกองทัพเรือ

    ประการสำคัญคือ พระอุปนิสัยซึ่งมีพระเมตตาต่อผู้คนทั่วไปโดยไม่เลือกชั้นวรรณะ ทรงสามารถผูกใจนักเรียนที่มีนิสัยนักเลงได้ด้วยความเป็นนักเลงที่เหนือกว่า กล่าวคือ กรมหลวงชุมพรฯ ทรงมีฐานันดรศักดิ์และความรู้ที่สูงเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว เมื่อประกอบเข้ากับการดำเนินพระจริยวัตรในทางที่นักเลงสมัยนั้นนิยมกัน เช่น เก่งฉกาจในวิชาการต่อสู้ป้องกันตัวทุกรูปแบบ มีคาถาวิทยาคมเพราะทรงมอบพระองค์เป็นศิษย์หลวงปู่ศุข วัดมะขามเฒ่า ที่ผู้คนสมัยนั้นเชื่อและนับถือว่าเป็นพระอาจารย์ด้านเวทมนตร์คาถา จนเป็นที่ร่ำลือว่า ทรงอยู่ยงคงกระพัน สามารถหายตัวได้ จนทรงสามารถสร้างความเชื่อมั่นให้เหล่าลูกศิษย์รู้สึกว่าพระองค์ทรงสามารถเป็นที่พึ่งได้ คือทรงมีทั้งพระบารมี มีทั้งความเป็นนักสู้และนักเลงที่ยิ่งใหญ่อย่างแท้จริง

    พระจริยวัตรสำคัญอีกประการหนึ่งคือ ความไม่ถือพระองค์ ทรงแสดงให้ทุกคนประจักษ์และซาบซึ้งในพระคุณสมบัติส่วนนี้ตลอดพระชนมชีพ ดังที่มีเรื่องเล่าลือสืบมาว่า ทรงรักและเอาพระทัยใส่ชีวิตความเป็นอยู่ของลูกศิษย์และผู้ใต้บังคับบัญชาทั้งในเวลาและนอกเวลางาน เล่ากันว่าครั้งหนึ่งเวลาค่ำขณะประทับพักผ่อนที่วังนางเลิ้ง มีผู้วิ่งมาทูลว่า ทหารเรือชั้นผู้น้อยคนหนึ่งถูกรุมต่อยตีจากคู่ต่อสู้ที่ตลาดนางเลิ้ง เมื่อทรงรู้ข่าวก็เร่งเสด็จไปสถานที่เกิดเหตุทันที ทรงช่วยทหารเรือผู้นั้นให้รอดจากการถูกคู่วิวาทฟันด้วยการเอาพระองค์เข้ารับคมดาบโดยไม่เป็นอันตราย หรือโปรดเสด็จไปสู่ขอผู้หญิงให้ลูกศิษย์ด้วยพระองค์เองในฐานะพระอาจารย์ มิใช่ในฐานะเจ้า หรือโปรดให้ตั้งฌาปนกิจสถานสำหรับทหารเรือขึ้นเพื่อช่วยในการฌาปนกิจศพทหารเรือทุกระดับชั้นอย่างสมเกียรติยศ เป็นต้น

    พระจริยวัตรดังที่กล่าวมาทั้งหมดล้วนเป็นเครื่องน้อมนำจิตใจของผู้ใกล้ชิดให้ถวายความจงรักภักดีด้วยชีวิต ยิ่งเมื่อประทานความเป็นกันเองโดยทรงเรียกขานพระองค์เองว่า “พ่อ” หรือ “เตี่ย” ก็ยิ่งทำให้สามัญชนทั่วไปรู้สึกว่าสามารถปวารณาตนเป็นลูกของพระองค์ได้อย่างเท่าเทียมกัน ความนิยมนับถือและบูชาในพระองค์ยิ่งกว้างขวางและยิ่งใหญ่ทวีคูณขึ้นอีกเมื่อครั้งโชคชาตาฟ้าลิขิตให้ต้องทรงรับบทบาท “หมอพร” ครั้งนั้นก็ทรงจริงจังกับการเป็นหมอพร ด้วยการทรงศึกษาวิชาแพทย์ทั้งของไทยและฝรั่ง ทรงนำความรู้ทั้ง ๒ แบบมาผสมผสานและทดลองจนทรงมั่นพระทัยในความเป็นหมอพร จึงทรงรับรักษาผู้เจ็บป่วยทั่วไปโดยไม่คิดเงิน ไม่เลือกชั้นวรรณะ ด้วยพระเมตตาอันเป็นพื้นพระอุปนิสัยที่แท้จริงของพระองค์ ทั้งความรู้พระปรีชาสามารถและน้ำพระทัย ทำให้ผู้คนที่มีโอกาสได้สัมผัสพระองค์ นึกไปถึงเทพเจ้าที่ทรงลงมาโปรดมนุษย์ในโลกมากกว่าจะเป็นเจ้านาย จึงพร้อมใจขานนามพระองค์ว่า “หมอพรเทวดา”

    เมื่อกรมหลวงชุมพรฯ สิ้นพระชนม์ ความรักอาลัยของผู้ที่รักใคร่เทิดทูนบูชาพระองค์ยังคงตราตรึงอยู่อย่างมิอาจลืมเลือน ความดีงามเก่งฉกาจในทุกๆ ด้านของพระองค์ได้รับการบอกเล่าสืบต่อกันปากต่อปาก มีการต่อเติมเสริมแต่งให้ทรงเป็นเสมือนผู้วิเศษ จนพัฒนาเป็นความเชื่อว่าพระวิญญาณของพระองค์ยังคงอยู่คอยให้ความคุ้มครองภยันตราย สดับตรับฟังทุกข์ร้อนของบรรดาลูกๆ หรือช่วยเหลืออำนวยให้ได้รับผลสำเร็จในสิ่งปรารถนาเหมือนเมื่อครั้งยังทรงดำรงพระชนมชีพ จึงเกิดการบนบานขอให้ทรงช่วย เมื่อได้รับผลตามต้องการก็ยิ่งทวีคูณความเชื่อในอิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์สิ่งต่างๆ ที่เนื่องในพระองค์ไม่ว่าจะเป็นพระรูปเหรียญ ล้วนเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ผู้คนตั้งไว้บนที่สูงเพื่อเคารพบูชา

    จึงไม่น่าแปลกที่ ม.ร.ว. อภิเดชจะบอกเล่าถึงเสด็จปู่ของท่านว่า “---คนนับถือกรมหลวงชุมพรฯ เยอะ---แต่---คนสนใจท่านแต่ในฐานะสิ่งศักดิ์สิทธิ์---”

    ที่มา พระอุปนิสัยและพระจริยวัตรของ"เสด็จเตี่ย" กรมหลวงชุมพรเขตรอุดมศักดิ์ : มติชนออนไลน์
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 กรกฎาคม 2013
  13. kb 2500

    kb 2500 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    143
    ค่าพลัง:
    +873
    อันนี้ข้อมูลนี้ข้างต้น ไม่ใช่แมทริกซ์นะครับ ป๋าเกษม..555

    พอเรื่องใหนคลุมเครือจะแก้ต่าง มีพลาดพลั้งแก้ไขไม่ชัดเจนทำเนียนไม่ตอบข้อขัดข้องเลยหรือครับ เป้นผู้สนับสนุนเว็ปเป็นพิเศษกว่าใครๆ บอกมั่งก็ได้หรอกครับ ไม่เสียหน้าเสียหายไม่มีใครกล้าว่ากล่าวอะไรหรอก ตามนั้น
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 กรกฎาคม 2013
  14. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    ใครบ้างที่ต้องโดนประหาร 7 ชั่วโคตร !!!

    [​IMG]

    บทลงโทษการ กระทำผิดต่อบ้านเมืองสมัยก่อนคือ การตัดหัวหรือกุดหัว

    1.ใครทำผิดสถานเบา ฉกชิงวิ่งราว ตีชิงจี้ปล้น ลักเล็กขโมยน้อย มันผู้นั้นจะถูกจองจำ ใส่ขื่อคา พาเดินแห่ประจานให้ได้ อับอายขายหน้า

    2.ใครทำร้ายผู้อื่น ให้ต้องสูญเสีย ถึงกับชีวิต มันผู้นั้นจะถูกประหารตัดหัว ให้ตายตกไปตามกัน

    3.ใครคิดคตทรยศต่อ เจ้านายฝ่ายปกครอง หัวเมืองต่างๆจนถึงกับ สูญเสียชีวิต มันผู้นั้นจะถูก ประหารตัดหัว ให้ตายตกไปตามกัน และริบเรือน ที่มีเสียทั้งหมด

    4.ใครคิดคตทรยศ ต่อเจ้าฟ้าเจ้าแผ่นดิน ทำให้สูญสิ้นชีพภิตักษัย มันผู้นั้นต้องโทษประหาร 7 ชั่วโคตร ริบเรือน เลือกสวนไร่นา ที่มีเสียทั้งหมด

    ** การประหารตัดหัว 7 ชั่วโคตร ก็คือวงศ์สกุลที่สืบสายโลหิต ซึ่งนับตั้งแต่ตัวเองขึ้นไป 3 ชั้น คือ ชั้นพ่อ ชั้นปู่ และชั้นทวด กับนับจากตัวเองลงมาอีก 3 ชั้น คือ ชั้นลูก ชั้นหลาน และชั้นเหลน รวมเป็น 7 ชั่วโคตร **

    คงพอจะนึกภาพออกนะครับว่าใครที่จะโดน ตัดหัว 7 ชั่วโคตร น่าเอากฎหมาย แบบนี้มาใช้ในปัจจุบันบ้าง ไอ้พวกโกงกินบ้านเมือง กับไอ้พวกจาบจ้วง มันจะได้หมดไปเสียที จริงมั้ยครับ พี่น้อง !

    Posted by คนสองยุค2503 , ผู้อ่าน : 502 , 15:41:56 น.

    ที่มา ใครที่ต้องโดนประหาร 7 ชั่วโคตร !
     
  15. มุงมิง

    มุงมิง Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 กรกฎาคม 2013
    โพสต์:
    12
    ค่าพลัง:
    +29
    ป๋าเกษมครับถ้าโจรจะต้องโดนประหารเจ็ดชั่วโคตรแล้วมันบอกว่ามันอยู่ในเมตริกซ์ อย่างนี้จะได้ลดหย่อนโทษหรือเปล่าครับ

    ------------------------------------------------------------------------------

    หนังไทยสมัยก่อน
    น้องจ๋าอภัยให้พี่เถิด พี่พูดไปแบบนั้นเพราะเมา

    หนังไทยสมัยนี้

    น้อง น้อง อย่าโกรธกันนะ ตอนนั้นพี่พูดแบบเมตริกซ์
     
  16. มุงมิง

    มุงมิง Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 กรกฎาคม 2013
    โพสต์:
    12
    ค่าพลัง:
    +29
    พวกนี้พูดได้ทุกอย่าง ติดต่อเทพเบื้องบน ล่วงรู้เหตุการณ์ล่วงหน้า เลื่อนภัยได้ บ้างก็บอกเป็นพระศรีอาริยเมตไตร สำเร็จอะไรแปลกๆที่มันดูล้ำๆ แต่ถ้าให้ทำอะไรให้เป็นรูปธรรมให้ดูหน่อย พวกนี้จะอ้างนู่นอ้างนี่ ยกตัวอย่างนะ ไม่เคยมีใครหน้าไหนเคยประกาศเลยว่าผมเหาะได้ ผมนั่งในกองไฟได้ คืออะไรที่ทำให้เห็นๆประจักษ์ด้วยตา พวกนี้ไม่เคยทำให้ดูได้
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 กรกฎาคม 2013
  17. pass_111

    pass_111 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    23
    ค่าพลัง:
    +74
    พูดเรื่องภัยต่างๆ

    พูดเรื่องภัยพิบัติตามหัวกระทู้ดีกว่า พูด เรื่องอื่นมากไป มิตรจะกลายเป็นศัตรูป่าวๆหรื่อท่านไม่กัว ก้ิิอตามจัย แต่ผมชักเห็นด้วยกับ มุงมิงบางแรว
     
  18. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    อุปกิเลส 16
    (สิ่งที่ทำให้จิตใจเศร้าหมองขุ่นมัว รับคุณธรรมได้ยาก 16 ข้อ)

    [​IMG]

    กิเลส หรือเครื่องเศร้าหมองของจิต มีตัวหลักอยู่ 3 ตัว คือ

    1. โลภะ คือ ความโลภ ความอยากได้ความเพลิดเพลินยินดี ความยึดเหนี่ยวทางใจ

    2. โทสะ คือ ความโกรธ ความขัดเคืองใจ ความเศร้า ความเสียใจ ความกลัว ความทุกข์ทางใจทั้งหลาย

    3. โมหะ คือ ความหลง ความไม่รู้ธรรมชาติของสิ่งต่างๆ ตามความเป็นจริง อวิชชา

    กิเลส 3 ตัวนี้ เป็นเหตุที่ทำให้เกิดอกุศลทั้งมวล เปรียบเสมือนมารดาให้กำเนิดบุตร (เรียกว่าเป็นอกุศลเหตุ หรืออกุศลมูล) และได้แตกลูกแตกหลานออกมาอีก เรียกว่าเป็น อุปกิเลส 16

    พระไตรปิฎก : พระสุตตันตปิฎก เล่ม 4 มัชฌิมนิกาย มูลปัณณาสก์ วัตถูปมสูตร

    อุปกิเลส 16

    การพิจารณาจิต คือ ตามรู้จิตตลอดกาลตลอดเวลา ทั้งเมื่ออยู่ในอิริยาบถตามปกติและเมื่อตั้งใจปฏิบัติ เมื่อเราตั้งใจพิจารณา ตามดูจิตแล้ว เราจะมองเห็นอาการของจิตต่าง ๆ ทำให้เข้าใจจริตนิสัยของตัวเองมากขึ้น เมื่อเราเข้าใจตัวเอง ยอมรับตัวเองตามความเป็นจริง ก็จะเป็นพื้นฐานในการปรับปรุงพัฒนาตนเอง คือเมื่อรู้สึกตัวแล้ว ก็จะไม่หลงไปตามอามรณ์

    จิตเดิมแท้ของเราทุกคนเป็นประภัสสร บริสุทธิ์ผ่องใสโดยธรรมชาติ แต่กิเลสเป็นอาคันตุกะที่จรเข้ามาครอบงำจิต ทำให้จิตเศร้าหมอง กิเลสหรืออกุศลมูล อันได้แก่ ราคะ โทสะ โมหะ เมื่อมีเหตุปัจจัยประสมประสานกัน แล้วก่อตัวขึ้นมาเป็นอุปนิสัยต่าง ๆ มี 16 ลักษณะ เรียกว่า อุปกิเลส 16

    อุปกิเลส ทั้ง 16 ประการนี้ แม้ประการใดประการหนึ่ง เมื่อเกิดขึ้นในใจแล้วก็จะทำให้ใจสกปรกไม่ผ่องใสทันที และจะส่งผลให้เจ้าของใจหมดความสุขกายสบายใจ เกิดความเร่าร้อน หรือเกิดความฮึกเหิมทะนงตัว เต้นไปตามจังหวะที่อุปกิเลสนั้นๆ บงการให้เป็นไป อุปกิเลส16 ได้แก่...

    ยกข้อธรรมจากพุทธพจน์-เรื่องอุปกิเลศ 16

    [๙๓] ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็ธรรมเหล่าไหนเป็นเครื่องเศร้าหมองของจิต [คือ]

    อภิชฌาวิสมโลภะ [ละโมบไม่สม่ำเสมอ คือความเพ่งเล็ง] (คืออยากได้ของๆ ผู้อื่นมาเป็นของตน โดยไม่ถูกทำนองคลองธรรม - ธัมมโชติ) พยาบาท [ปองร้ายเขา] โกธะ [โกรธ] อุปนาหะ [ผูกโกรธไว้] มักขะ [ลบหลู่คุณท่าน] ปลาสะ [ยกตนเทียบเท่า] (คือการตีเสมอผู้อื่น คิดว่าเราก็แน่เหมือนกัน - ธัมมโชติ) อิสสา [ริษยา] มัจฉริยะ [ตระหนี่] มายา [มารยา] สาเฐยยะ [โอ้อวด] (คือการพูดยกตนด้วยสิ่งที่ไม่เป็นจริง - ธัมมโชติ) ถัมถะ [หัวดื้อ] สารัมภะ [แข่งดี] มานะ [ถือตัว] อติมานะ [ดูหมิ่นท่าน] มทะ [มัวเมา] ปมาทะ [เลินเล่อ] (ความประมาท ความเผลอ ความขาดสติ - ธัมมโชติ) เหล่านี้เป็นธรรมเครื่องเศร้าหมองของจิต.

    พระไตรปิฎก : พระสุตตันตปิฎก เล่ม 4 มัชฌิมนิกาย มูลปัณณาสก์ วัตถูปมสูตร

    ที่มา http://www.dungeon.gr/database/gallery/categories/idia.jpg

    อธิบายความ

    ๑. อภิชฌมวิสมโลภะ คือความละโมภ อยากได้ อยากมี อยากเป็นอย่างไม่รู้จักพอ เห็นแก่ได้จนลืมตัว

    ๒. พยาบาท คือความคิดร้าย มุ่งจะทำร้ายเขา ใครพูดไม่ถูกใจก็คิดตำหนิเขา คิดจะทำร้ายฆ่าเขาก็มี บางครั้งทำร้ายผู้อื่นไม่ได้ ก็หันมาตำหนิตัวเอง ทำร้ายตัวเอง จนฆ่าตัวตายก็มี ซึ่งเป็นเพราะอำนาจพยาบาท เป็นอาการอย่างหนึ่งของโทสะ

    ๓. โกธะ คือความโกรธ มีอะไรมากระทบก็โกรธ เป็นลักษณะโกรธง่าย แต่เมื่อหายแล้วก็เหมือนกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น คือไม่ผูกใจเจ็บ ไม่พยาบาท เป็นอาการอย่างหนึ่งของโทสะ

    ๔. อุปนาหะ คือการผูกโกรธ ใครพูดอะไร ทำอะไรให้เกิดความโกรธแล้วจะผูกใจเจ็บ เก็บไว้ ไม่ปล่อย ไม่ลืม เป็นทุกข์อยู่อย่างนั้น กระทบอารมณ์เมื่อไร ก็เอาเรื่องเก่ามาคิดรวมกัน คิดทวนเรื่องในอดีตว่าเขาเคยทำไม่ดีกับเราขนาดไหน เป็นอาการอย่างหนึ่งของโทสะ

    ๕. มักขะ คือการลบหลู่คุณท่าน ปิดบังความดีของผู้อื่น ลบหลู่ความดีของผู้อื่น เช่น เขาให้ของแก่เรา แทนที่จะขอบคุณกลับนึกตำหนิเขาว่า เอาของไม่ดีมาให้ หรือเมื่อมีใครพูดถึงความดีของเขา เราทนไม่ได้ เราไม่ชอบ จึงยกเรื่องที่ไม่ดีของเขามาพูด เพื่อปฏิเสธว่าเขาไม่ใช่คนดีถึงขนาดนั้น เป็นต้น

    ๖. ปลาสะ คือการตีเสมอ ยกตัวเทียมท่าน ไม่ยอมยกให้ใครดีกว่าตน แต่ชอบยกตัวเองดีกว่าเขา มักแสดงให้เขาเห็นว่าเราคิดเก่งกว่า รู้ดีกว่า ถ้าให้เราทำ เราจะทำให้ดีกว่าเขาได้

    ๗. อิสสา คือความริษยา เห็นเขาได้ดี ทนไม่ได้เมื่อเห็นเขาได้ดีมากกว่าเรา เขาได้รับความรักความเอาใจใส่มากกว่าเรา เรารู้สึกน้อยใจ อยากจะได้เหมือนอย่างเขา ความจริงเราอาจจะมีมากกว่าเขาอยู่แล้ว หรือเรากับเขาต่างก็ได้รับเท่ากัน แต่เราก็ยังเกิดความรู้สึกน้อยใจ ทนไม่ได้ก็มี

    ๘. มัจฉริยะ คือความตระหนี่ ขี้เหนียว เสียดายของ ยึดในสิ่งของที่เราครอบครองอยู่อย่างเหนียวแน่น อยากแต่จะเก็บเอาไว้ ไม่อยากให้ใคร

    ๙. มายา คือเจ้าเล่ห์หลอกลวง ไม่จริงใจ พยายามแสดงบทบาทตัวเองเกินความจริง หรือจริงๆ แล้วเรามีน้อย แต่พยายามแสดงออกให้คนอื่นเข้าใจว่ามั่งมี เช่น ด้วยการแต่งตัว กินอยู่อย่างหรูหรา หรือบางกรณี ใจเราคิดตำหนิติเตียนเขา แต่กลับแสดงออกด้วยการพูดชื่นชมอย่างมาก หรือบางทีเราไม่ได้มีความรู้มาก แต่ของคุยแสดงว่ารู้มาก เป็นต้น

    ๑๐. สาเถยยะ คือการโอ้อวด หลอกลวงเขา ชอบอวดว่าดีกว่าเขา เก่งกว่าเขา พยายามแสดงให้เขาเห็น เพื่อให้เขาเกิดอิจฉาเรา เมื่อได้โอ้อวดแล้วมีความสุข

    ๑๑. ถัมภะ คือความดื้อ ความกระด้าง ยึดมั่นถือมั่นในตัวเอง ใครแนะนำอะไรให้ก็ไม่ยอมรับฟัง

    ๑๒. สารัมภะ คือการแข่งดี มุ่งแต่จะเองชนะเขาอยู่ตลอด จะพูดจะทำอะไรต้องเหนือกว่าเขาตลอด เช่นเมื่อพูดเถียงกันก็อ้างเหตุผลต่าง ๆ นานา เพื่อเอาชนะให้ได้ ถึงแม้ความจริงแล้วตัวเองผิด ก็ไม่ยอมแพ้

    ๑๓. มานะ คือความถือตัว ทะนงตน

    ๑๔. อติมานะ คือการดูหมิ่นท่าน ความถือตัวว่าเราดียิ่งกว่าเขา ทำให้ดูถูกดูหมิ่นคนอื่น

    ๑๕. มทะ คือความัวเมา หลงว่ายังเป็นหนุ่มเป็นสาว ยังไม่แก่ ยังไม่ตาย หลงในอำนาจ หลงในตำแหน่ง คิดว่าเราจะเป็นอย่างนี้ตลอดไป แล้วทำอะไรเกินเหตุ

    ๑๖. ปมาทะ คือความประมาท เลินเล่อ ไม่คิดให้รอบคอบ อาการที่ขาดสติ ขาดปัญญา

    ที่มา http://www.insideafricanart.com/Artists Main Pages/Omari Idi/Idi - Malachite Kingfishers.jpg

    เหตุแห่งความเศร้าหมองทั้ง 16 ข้อนี้จะมีอยู่ในแต่ละบุคคล มากบ้างน้อยบ้างต่างกันตามแต่จริตและความรู้สึกตัวทั่วพร้อมในแต่คน เมื่อทราบสาเหตุของตนแล้วให้ละเสีย (ทำวันนี้ยังไม่สาย ทำเถอะดีกว่าไม่รู้ตัวเลย หรือรู้ตัวแล้วไม่ทำ) โดยการ

    - อย่าเพ่งเล็งอยากได้ไม่เลือกที่
    - อย่ามีความพยาบาท
    - อย่าผูกโกรธไว้
    - อย่าผูกความเจ็บใจไว้
    - อย่าลบหลู่บุญคุณ
    - อย่าข่มผู้อื่น
    - อย่าริษยา
    - อย่าตระหนี่
    - อย่าเจ้าเล่ห์
    - อย่าโอ้อวด
    - อย่าเป็นคนหัวดื้อถือรั้น
    - อย่าแข่งดี
    - อย่าถือตัว
    - อย่าดูหมิ่นผู้อื่น
    - อย่ามัวเมาหมกหมุ่น
    - อย่าประมาทเลินเล่อ

    และบำเพ็ญธรรมยกระดับจิตใจเพิ่มความใสให้แก่จิต โดยการบำเพ็ญ ทาน ศีล ภาวนา,ทำดี เว้นชั่ว ทำจิตใจให้ผ่องใส รักษาศีล 5 เป็นพื้นฐานให้หนักแน่น(ปิดอบายภูมิ) และรักษากรรมบถ 10

    กรรมบถ 10 (เทศนาหลวงพ่อฤาษีลิงดำ จากศิวโมกข์เล่ม 4) กรรมบถ 10 มีอะไรบ้าง กรรมบถ 10 ญาติโยมบางคนไม่เข้าใจ ยังไม่ทราบ ก็จะบอกให้ทราบ

    กรรมบถ 10 ทางกายมี 3 คือ

    1. ไม่ฆ่าสัตว์
    2. ไม่ลักทรัพย์
    3. ไม่ประพฤติผิดในกาม

    ทางวาจา มี 4 คือ

    1. ไม่พูดปด
    2. ไม่พูดคำหยาบ
    3. ไม่พูดส่อเสียดยุยงให้เขาแตกร้าวกัน ไม่นินทา
    4. ไม่พูดเพ้อเจ้อเหลวไหล

    ทางใจ มี 3 คือ

    1. ไม่คิดอยากได้ทรัพย์สมบัติของบุคคลอื่น โดยไม่ชอบธรรม
    2. ไม่จองล้างจองผลาญใคร คือ ไม่พยาบาท ความโกรธยังมี
    3. มีความเห็นถูกคือ สัมมาทิฏฐิ มีความเห็นตรงตามที่พระพุทธเจ้าสอน ไม่คัดค้าน

    นี่คือกรรมบถ 10 แบ่งไปตาม กาย วาจา ใจ ก็เอาสติเข้าไปควบคุมว่า ศีล 5 ก็ดี กรรมบถ 10 ก็ดี มีกี่สิกขาบท มีอะไรบ้าง คุมไว้ไม่ยอมลืม ใหม่ๆก็ลืมบ้าง เป็นของธรรมดา

    อานิสงส์ของการประพฤติธรรม

    - เป็นมหากุศล
    - เป็นผู้ไม่ประมาท
    - เป็นผู้รักษาสัทธรรม
    - เป็นผู้นำศาสนาให้เจริญ
    - เป็นสุขในโลกนี้และโลกหน้า
    - ไม่ก่อเวรก่อภัยกับใคร ๆ
    - เป็นผู้ให้อภัยแก่สรรพสัตว์
    - เป็นผู้ดำเนินตามปฏิปทาของนักปราชญ์
    - สร้างความเจริญความสงบสุขแก่ตนเองและส่วนรวม
    - เป็นผู้สร้างทางมนุษย์ สวรรค์ พรหม นิพพาน

    "ธมฺมจารี สุขํ เสติ" การประพฤติธรรม นำสุขมาให้(พุทธพจน์)

    จงพึงสังวรไว้เสมอว่า ในทางกลับกันผู้ไม่รักษาธรรมอันเป็นกุศลแล้ว ย่อมพบความฉิบหายจากผลกรรมที่ตนเองสร้างไว้ ทั้งในโลกนี้และโลกหน้าอย่างไม่มีทางเลี่ยงได้เลยหากไม่รักษาความดี สิ่งที่ปถุชนทั่วไปเขาว่าไม่มีๆ แต่ต่อให้พูดขนาดไหน ก็ไม่มีทางที่จะลบล้างความจริงของธรรมชาติได้ อันมีอยู่แล้วเป็นธรรมดาทั้งนรกสววรค์ และ นิพพาน

    ที่มา สิ่งที่ทำให้จิตใจเศร้าหมองขุ่นมัวรับคุณธรรมได้ยาก 16 ข้อ (อุปกิเลส 16) จากบล็อก โอเคเนชั่น oknation.net
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 กรกฎาคม 2013
  19. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    แผ่นดินไหวสุมาตรา 6.1 ริคเตอร์

    [​IMG]

    เกิดแผ่นดินไหวรุนแรง 6.1 ริคเตอร์ ในเขตจังหวัดอาเจะห์ ทางตะวันตกเฉียงเหนือของอินโดนีเซีย ตามรายงานของสำนักงานสำรวจธรณีวิทยาสหรัฐ ส่งผลให้แตกตื่นวิ่งหนีลงมาตามท้องถนน มีบ้านเรือนพังถล่มลงมา และ ผู้ได้รับบาดเจ็บราว 50 คน

    สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากเมืองบันดา อาเจะห์ จังหวัดอาเจะห์ ประเทศอินโดนีเซีย เมื่อวันที่ 2 ก.ค.ว่า สำนักงานสำรวจธรณีวิทยาสหรัฐ รายงานการตรวจพบเหตุแผ่นดินไหวรุนแรงวัดได้ 6.1 ริคเตอร์ เมื่อวันที่ 2 ก.ค. โดยมีจุดศูนย์กลางอยู่ลึกลงไปใต้ดิน 10 กม. และ ห่างจากเมืองบันดา อาเจะห์ เมืองเอกของจังหวัดอาเจะห์ไปทางตะวันออกเฉียงใต้ 188 กม. แล้วยังห่างจากเมืองไบรุน 55 กม. เมืองรอยลูเอตอีก 72 กม.

    รายงานข่าวระบุว่า ประชาชนที่อาศัยอยู่ในบ้านเรือน ต่างเผ่นหนีลงมาตามท้องถนนด้วยความตื่นตระหนก โดยเฉพาะในเมืองบันดา อาเจะห์ บ้านเรือนราษฎรสั่นไหวอยู่นานประมาณ 1 นาที วิทยุท้องถิ่นรายงานว่า มีผู้ได้รับบาดเจ็บราว 50 คน เพราะกำแพงบ้านเรือนพังถล่มลงมา โดยแพทย์ประจำสถานพยาบาลในเมืองลัมปาฮัน ระบุว่า ผู้ได้รับบาดเจ็บ มีตั้งแต่บาดเจ็บเล็กน้อยไปจนถึงกระดูกหัก เป็นต้น

    จังหวัดอาเจะห์เคยได้รับความเสียหายอย่างรุนแรงจากแผ่นดินไหวเมื่อวันที่ 26 ธ.ค.2547 เกิดคลื่นยักษ์สึนามิพัดถล่มจังหวัดอาเจะห์บนเกาะสุมาตราของอินโดนีเซีย มีผู้เสียชีวิตราว 170,000 ศพ และ อีกหลายหมื่นในอีกหลายประเทศรอบมหาสมุทรอินเดีย สาเหตุนั้นก็เพราะอินโดนีเซียตั้งอยู่ในเขตที่เรียกว่า “วงแหวนไฟ” แห่งแปซิฟิก จุดที่แผ่นเปลือกโลกมาบรรจบกัน จึงเกิดแผ่นดินไหวและภูเขาไฟระเบิดขึ้นบ่อยครั้ง

    วันเดียวกันผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะที่ศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ แจ้งว่าเกิดแผ่นดินไหวบนบก บริเวณตอนเหนือของเกาะสุมาตรา ประเทศอินโดนีเซีย เบื้องต้นรับรู้ได้ถึงแรงสั่นไหว บริเวณ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา และจ.ภูเก็ต

    เดลินิวส์ วันอังคารที่ 2 กรกฎาคม 2556 เวลา 15:54 น.

    ที่มา แผ่นดินไหวสุมาตรา 6.1 ริคเตอร์ | เดลินิวส์
     
  20. รรรรรรฤ

    รรรรรรฤ สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กรกฎาคม 2013
    โพสต์:
    3
    ค่าพลัง:
    +9
    กระทู้นี้ไม่มีใครเป็นเจ้าของแล้วครับ เจ้าของจริงเค้าไม่เข้านานแล้ว
    ที่มาเขียนความเห็นกันนี่ก็มาอาศัยกระทู้เขาครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 3 กรกฎาคม 2013

แชร์หน้านี้

Loading...