บันทึกของพระคุณลุงคนเชียงใหม่ถึงหลานๆ เรื่องภัยพิบัติ

13-6-2556 หาวิธีทำ เตาฉุกเฉินมาให้ ก๊าบ ง่ายมาก

ไปนั่งทำของเล็กๆน้อยๆ ดู เห็นว่า เข้าท่า และประหยัดที่สุด เพราะ แทบไม่ต้องใช้เครื่องมือมากเลย มี คีมเอนกประสงค์ สัก 1อัน เหมาะมากในการใช้เป็นเตาต้มน้ำ ผัดทอดด้วย กะทะใบเล็กๆ ใส่เป้ฉุกเฉินเพื่อการเตรียมรับเหตุการณ์ได้ดีมาก หรือเอาไว้อุ่นอาหารก็ได้ ที่สำคัญเดินไปเจอมันที่ไหน คว้ามาทำได้เลย ขอให้มีแอลกอฮอล์ 70% ขึ้นไปสักขวด หนึ่งที่เอาไว้ใช้ล้างแผลในชุดปฐมพยาบาลก็ได้ครับ

How to Build a Soda Can Alcohol Stove



How to Build a Soda Can Alcohol Stove

[ame=http://www.youtube.com/watch?v=5809TYdnFcY]The Perfect Alcohol Stove, part 3, "Achieving Perfection" - YouTube[/ame]

 

กระทู้หยุดนิ่งมาครบ7วันแล้วครับ คุณหมอฯหายไปไหนเอ่ย

 

หนังเรื่อง world war z แสดงนำโดยแบดพิท เป็นอีกหนึ่งตัวอย่างในการเตรียมพร้อมยามเกิดภัยพิบัติ

 

ผมก็ไม่ได้หายไปไหนครับเข้ามาดูเรื่อยๆทุกวันครับ แต่ตอนนี้พายุยังสงบครับและเหล่าผองเพื่อนก็ได้มีเวลาเตรียมตัวกันครับ. มีบางอย่างที่รู้กันแต่บอกกล่าวในที่แจ้งไม่ได้ครับ มันค่อนข้างซับซ้อนและมีแผนการที่พูดไม่ได้ครับก็ดูๆกันไปก็แล้วกันครับ ที่จะบอกว่าเป็นลางก็ไม่ใช่เป็นวิทย์ก็มีส่วนแต่มันเกิดจากคนเราๆนี่ล่ะครับ
ว่าไปแล้วก็ได้แต่นั่งดูครับ. เน้นดูกันไปครับชิวๆครับ

 

เชิญพี่ๆเพื่อนๆไปร่วมทำบุญเข้าพรรษา กับพระอาจารย์พงษ์ศักดิ์
ที่สำนักสงฆ์ภ้ำตุ๊ปู่ อำเภอจอมทองจังหวัดเชียงใหม่
และพบกับคำตอบที่อาจนำไปสู่การไขปริศนา ครับผมไปช่วงหยุดยาวเข้าพรรษาครับ

 

สุดทางของความซับซ้อนคือความเรียบง่าย
สุดทางของความเรียบง่ายคือความว่างเปล่า
สุดทางของความว่างเปล่า คือคำตอบที่ต้องตามหาครับ
ซึ่งผมเจอที่นี่ครับ เหลือเพียงก้าวไปหาเท่านั้นเอง

ขออนุโมทนาในความไม่ประมาทของทุกคนครับ
ความไม่ประมาท ที่จะมีความพร้อม
อย่าลืมเรื่องทำให้วาระจิตสุดท้ายสามารถควบคุมได้อย่างมีสติ
นั่นคือเส้นทางที่ประเสริฐที่สุดของกายเนื้อครับ

 

มีแผนที่ไหมครับ อยู่ตรงไหนครับตุ๊ปู่่

 

สวัสดีครับ.. ทุกๆท่าน

เมื่อช่วงวันเสาร์-อาทิตย์ที่ผ่านมา
ผมมีทริปพาพรรคพวก Offroad เกือบ 30 คัน
ไปท่องเที่ยวลพบรี ชัยนาท สิงห์บุรี และอ่างทอง
ซึ่งส่วนใหญ่ของการท่องเที่ยวโซนภาคกลางเรา จะเป็นการเที่ยววัดวาอารามที่สำคัญต่างๆซะเป็นส่วนใหญ่..

เมื่อหลายๆปีก่อน.. หลายๆท่านอาจจะเคยได้ยินคำบอกกล่าว
เกี่ยวกับกรุงเทพมหานครจะเกิดน้ำท่วมใหญ่ จนผู้คนอยู่อาศัยกันไม่ได้
โดยมีปริมาณน้ำท่วมสูงมาก และก็ท่วมเป้นเวลาหลายๆเดือน... !!!

ผมเองก็เคยได้รับการบอกเล่าจากพรรคพวกรุ่นพี่
จากสายพระพม่า และสายพระลาว

โดยส่วนตัวผมเอง ก็เชื่อว่ามีโอกาสเป็นได้ได้สูงมากที่จะเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวได้ขึ้น
แต่ก็ยังสงสัยอยู่ว่า.. มันจะต้องมีปริมาณน้ำที่มหาศาลมากๆถึงจะทำให้เกิดเหตุแบบนั้นได้
แล้วน้ำปริมาณมหาศาลเหล่านั้น.. จะมาจากไหนกัน..???

กลับมาที่ทริปท่องเที่ยว..

และก็เป็นธรรมชาติของผมเอง ที่เมื่อไปที่ไหน ต่างพื้นที่
ผมชอบเดินสำรวจพื้นที่นั้นๆประจำ

และวัดวาอารามที่ได้ไปท่องเที่ยวนมัสการนั้น ก็เกือบทุกแห่งจะอยู่ริมแม่น้ำลำคลองสายหลักของประเทศไทย

การเดินที่สำรวจพื้นที่ริมแม่น้ำจึงเป็นสิ่งที่พลาดไม่ได้อยู่แล้วครับ..
เมื่อมองออกไปที่ริมฝั่งแม่น้ำทั้ง 2 ฝั่ง.. ผมก็พบว่า

มีการก่อสร้างคันดินกันน้ำท่วม ที่มีขนาดสูงใหญ่ สันคันดินกว้างพอที่จะเอารถนต์ไปวิ่งได้สบายๆ ตลอดความยาวริมแม่น้ำ..!!!

ปกติ.. เวลาน้ำหลากจากภาคเหนือลงสูงภาคกลาง
ปริมาณน้ำจะกระจายตัวออกไปยังพื้นที่ราบลุ่มภาคกลางทั้งหมด

เป็นการชลอปริมาณน้ำหลากเข้ากรุงเทพ..
ไม่ให้มีปริมาณที่มากเกินกว่ากรุงเทพจะรับมือได้

กรุงเทพมหานครเอง.. ก็ได้สร้างเขื่อนคอนกรีตกั้นน้ำท่วมตลอดริมฝั่งเม่น้ำเจ้าพระยา ฃซึ่งสามารถรับน้ำท่วมได้สูงถึง 2.50 เมตร..!!!

คราวน้ำท่วมปี 54
มันท่วมสูงอยู่ที่ 2.00 เมตรกว่าๆ ( ตามที่งการรายงานออกมา )..!!!

นั่นแปลว่า.. เหลืออีกเพียงไม่ถึง 50 เซนติเมตร
กรุงเทพมหานคร ก็มีความเสี่ยงท่กลายเป้นเมืองใต้บาดาลไม่ได้ยากเย็นเลยจริงๆ..???

คราวต่อไป.. เมื่อเขื่อนกั้นน้ำท่วมที่อยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาที่จังหวัดต่างๆระดมกันสร้างกันอย่างแข็งขันเสร็จสมบูณ์หละก็...???

สำหรับผม.. มันแปลได้ว่า
เราจะได้คลองส่งน้ำหลากขนาดมหึมาเข้ากรุงเทพ ซึ่งเป็นมวลน้ำปริมาณมหาศาลจากภาคเหนือเข้าสู่เมืองหลวงโดยตรง..!!!

การกระจายน้ำหลากเข้าสู่ท้องทุ่งภาคกลาง สงสัยจะเป็นเพียงการทำแบบไม่ให้โดนด่าเท่านั้น.. แต่ที่แน่ๆในแต่ละจังหวัดจะกั้นน้ำหลากกันสุดฤทธิสุดเดชกันหละงานนี้

ยังไม่รวมถึง.. การที่พื้นที่ภาคกลางทั้งหมดกำลังทรุดตัวอย่างต่อเนื่อง
แถมด้วยน้ำทะเลที่หนุนสูงในยามนั้น กระหน่ำตามปกติเข้าไปอีก

ดูๆว่า.. ระดับน้ำท่วมที่สูงเกินกว่า 2.50 เมตรจะไม่ใช่เรืองยากซะแล้วสิครับ..???

 

ท่านเข้าใจถูกต้องแล้ว ครับ

ทุกพื้นที่ก่อนน้ำจะถึงกรุงเทพฯ ทำคันคลองป้องกันน้ำท่วมของตัวเอง
แต่จะไปเพิ่มปริมาณน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาให้ยกตัวสูงขึ้น
เพราะไม่มีทางระบายเข้าท้องทุ่ง (ซึ่งเป็นถนนและบ้านจัดสรรไปหมดแล้ว)

ทีนี้น้ำจะรวมตัวกันพุ่งเข้าหาพื้นที่ต่ำกว่าอย่างรุนแรง อันเป็นธรรมชาติของน้ำ แล้วอะไรจะเกิดขึ้น

นี่คือ ความหายนะที่เราสร้างขึ้นกันเองด้วยความเขลา ครับ
ไม่ว่าเราจะสร้างกำแพงมากและสูงเท่าไร น้ำก็จะยกตัวสูงขึ้นเท่านั้น
ที่ตรงไหนอ่อนไหวก็จะโดนโจมตีทันทีด้วยความเชี่ยวกราก

การแก้ไขมีวิธีทางเดียวคือ ต้องทำฟลัดเวย์ให้น้ำไหลลงอ่าวไทยเร็วที่สุด
ไม่ว่าจะวิธีใด แต่ที่แน่ๆต้องเวนคืนที่ดินหรือลงมือทำอะไรสักอย่างในวันนี้

นี่ยังไม่เห็นอะไรในสายตาเลยสักเรื่อง

มีอะไรก็ตัวใครตัวเผือกแล้วกัน ครับ

 

ตอนนี้ทางการกำลังเร่งทำคันปูนริมแม่น้ำกันทุกจังหวัดคัรบโดยต่างคนต่างเร่งทำกันเพราะเชื่อว่ามันจะกันน้ำเเอ่อเข้ามาในตัวจังหวัดซ้ำรอยเดิมครับ ส่วนแผนการจัดการน้ำแบบองค์รวมยังอยู่ในขั้นตอนครับผมว่ามันจะดูขัดๆกับสิ่งที่ทางจังหวัดกำลังทำนะครับ ล่าสุดที่ริมคลองรังสิตข้างๆถนนรังสิตองค์รักษ์ก็ได้เร่งทำคันปูนก้ันน้ำที่ฝั่งด้านทิศใต้เกือบจะตลอดแนวแล้วครับ สูงประมาณ2เมตรครับ ผมเดินสำรวจแล้วพบว่ามีบางจุดดินเกิดอาการทรุดตัวและส่งผลให้แนวปูนแตกเป็นโพรงใหญ่อยู่หลายจุด นอกจากนั้นมีบางจุดที่ติดบ้านชาวบ้านริมคลองทำให้ไม่สามารถสร้างให้ต่อเนื่องตลอดแนวได้ครับเห็นแล้วเครียดครับ
กล่าวโดยสรุปตอนนี้ต่างหน่วยต่างบริษัทก็เร่งทำในสิ่งเดียวกันคือทำกำแพงกั้นน้ำครับผมเข้าใจเขานะครับว่าตอนนี้มีเวลาก็ตัวใครตัวมันต่างคนต่างทำ สุดท้ายผมว่าฟลัดเวย์จะมีระดับน้ำที่สูงมากๆครับไม่น่าจะเอาอยู่ครับ คราวนี้ผมไม่อยู่สู้แล้วครับเก็บของขึ้นชั้นสองแล้วโกยอย่างเดียวครับ เห็นใจคนที่รับผิดชอบระดับนโยบายนะครับดูมันสวนทางกันยังไงชอบกล ตอนนี้ผมไปถอยรถตู้commuterมา1คันครับเอาไว้เที่ยวกันทั้งครอบครัวและเอาไว้หนีด้วยครับ กำลังมันส์กับการแต่งรถตู้ครับสนุกดีครับและยังไปถอยฮอนด้าฟรีดมาไว้ใช้ในเมืองรับส่งลูกๆครับประหยัดค่าน้ำมันดีพอสมควรครับแต่เวลานั่งแล้วเวียนหัวเมารถง่ายมากเลยครับมันแสนจะโครงเครงสมราคาจริงๆครับก็เลยเป็นการฝึกลูกๆให้ชินกับการนั่งเรือในอนาคตไปอีกแบบหนึ่งครับ

 

ตอนนี้ผมก็ยุ่งอยู่กับงานฝึกSaRex เป็นการฝึกกู้ภัยอากาศยานตกขนาดใหญ่ที่จัดการฝึกระดับชาติทุกปีโดยปีนี้กองทัพอากาศเป็นแม่งานครับจัดกันที่อุดรกองบิน23ครับ ผมเป็นkeymanในการวางแผนและเขียนแผนการฝึกครั้งนี้ครับ งานเข้าครับ งานช้างเลยครับ

 

น้ำทะลักแนวกระสอบทรายกั้นน้ำชั่วคราวพระโขนง

หายนะอีกเรื่องหนึ่งที่เห็นได้ชัดคือ น้ำทะเลหนุน ครับ

จากที่ได้โพสต์ไปเมื่อวานนี้เรื่อง การสร้างคันดินทุกจังหวัดทำให้น้ำยกตัวสูงขึ้น
แต่โดยสภาพภูมิศาสตร์แม่น้ำเจ้าพระยาจะมีผลกระทบเมื่อมีน้ำทะเลหนุนสูงไปสุดแค่ จ.อยุธยา
เหนือกว่านั้นพื้นที่สูงจนน้ำทะเลไปไม่ถึง

ทีนี้เรื่องก็มีอยู่ว่า เมื่อน้ำที่ถูกกั้นตลอดทางไหลลงมาถึง กทม.
ก็จะเจอกับสภาพน้ำทะเลหนุนเกิดอาการกินไม่เข้าคายไม่ออกไม่รู้จะเลี้ยวไปทางไหน
ก็คงเอ่อท้นท่วมข้ามกำแพงกั้นเข้ามาสู่กรุงเทพฯชั้นใน ทีนี้ล่ะ...ดูไม่จืด

ความเสียหายจากน้ำท่วมกทม.ชั้นใน นับได้เป็นนาที นะครับ อย่าล้อเล่น
เพราะที่นี่คือ หัวใจและสมองของประเทศ ปี 2554 ประเมินกว่าแสนล้าน
แล้วคราวต่อไปจะเจออีกเท่าไหร่ ลองไปคิดเล่นๆดู

ที่สำคัญคือ นักลงทุนหมดความเชื่อถืออีกต่างหาก ทีนี้ล่ะ /B]

 

พื้นที่ภาคกลางเป็นที่ราบลุ่มดินตะกอน เหมาะสำหรับเป็นพื้นที่เกษตรโดยเฉพาะนาข้าว : ใคร ๆ ก็เรียนมาอย่างนี้ จริงมั๊ยครับ แต่เรามาใช้กันผิดวัตถุประสงค์ และรัฐบาลก็ส่งเสริมให้ใช้ผิดวัตถุประสงค์
หลายครั้งหลายหน ที่เราคิดจะย้ายเมืองหลวงไปอยู่ที่สูงกว่านี้ แต่เนื่องจากลูบหน้าปะจมูกครับ ขัดคนโน้น คนนี้ และก็ไม่ย้ายซ๊ะที ผมคิดว่าน้ำท่วมใหญ่อีกที คงย้ายกันอัตโนมัติโดยไม่มีใครสั่งหล่ะครับ

 

<iframe width="420" height="315" src="http://www.youtube.com/embed/CrUn9xinqZY" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>

ขอมอบเพลงนี้ให้ทุกๆคนเลยนะค่ะ ^^

 

นั่งรอUpdate ของพี่หมอพราน4141 และเพื่อนๆครับ

 

ถ้าน้ำเกิดข้ามแนวกั้นที่ทำไว้ เท่ากับน้ำก็ท่วมทั้งภายในและภายนอก แล้วชาวบ้านก็เดือดร้อนอีกค่ะ คิดว่าน่าจะสำรองสิ่งจำเป็นเช่นเตาแก๊ส น้ำดื่มอาหารแห้ง ยา เอาไว้ชั้นสองของบ้านไว้บ้างก็ดีค่ะ เผื่อฉุกเฉินจะได้ไม่ลำบากมากนักค่ะ เรือก็เริ่มเป็นสิ่งที่จำเป็นแล้วค่ะ

 

สวัสดีครับ.. ทุกๆท่าน
ช่วงนี้ดูเงียบๆดีคับ...สบายๆน่าจะได้อีกพักใหญ่ๆเลยละครับ !!!

ช่วงวันหยุดเข้าพรรษาอาทิตย์ที่จะถึงนี้.. ผมได้หยุด 4 วัน
เลยชวนพรรคพวกกลุ่ม Offroad ขับรถไปเที่ยวเวียงจันทร์.. เลยไปถึงวังเวียงสักคืน
แล้วกลับมาเที่ยวอยู่แถวบอลิคำไซ เพราะว่าพรรคพวกที่ไปด้วยกันอีกท่านนึงก็เตรียมตัวรับมือกับภัยพิบัติรอบใหญ่.. มีคนรู้จักกลุ่มใหญ่อยู่ที่บอลิคำไซครับ..

ผมเลยถือโอกาสไปรู้จักกับคนทางฝั่งโน้นเอาไว้บ้างเสียก่อน..
พร้อมกับจะพาสมาชิกแก๊งค์เตรียมรับมือภัยฯ
แวะไปขอชมไซด์งานที่ลี้ภัยของคุณหมอนกที่หนองคายด้วยครับ..

เพื่อการรับรู้ข้อมูลของคนในกลุ่มที่เท่าๆกัน..
ก็จะได้กลับไปวางแผนกันต่อไปครับ..

ที่หนองคายก็เป็นอีกจุดหนึ่งที่ทางกลุ่มเล็กๆของพวกผมให้ความสนใจ ที่จะเลือกเป็นที่สำรองในกรณีที่ปากช่องรับมือไม่ไหวครับ...???

 

ช่างรอบคอบดีแท้.....

ส่วนตัวคิดว่าถ้ามหาภัยพิบัติเกิดขึ้นจริง
ปากช่องคงรองรับผู้คนไม่ไหว
เพราะเป็นทางเสือผ่าน
ใครๆก็ต้องมาแวะจุดนี้ ก่อนเข้าโคราช

ที่สำคัญปากช่องน้ำอาศัยเพียงลำตะคองแหล่งเดียว
แต่ก็ปลูกข้าวไม่ได้ มีปัญหาเช่นกัน

 

สวัสดีค่ะ ขออนุญาติประชาสัมพันธ์ เรียนเชิญทุกๆท่านที่สนใจมาร่วมในงานธรรมะบำบัดสัญจรที่ศิลปากร กรุงเทพตามรายละเอียดที่แนบมานี้ โปรดพิจารณาด้วยนะคะ ดิฉันเชื่อว่าต้องมีประโยชน์ไม่มากก็น้อยนะคะ ขอขอบคุณมากค่ะ





https://www.facebook.com/photo.php?...129772673.89761.132865910103931&type=1&ref=nf

 

สวัสดีครับ.. คุณ Nirvana และทุกๆท่าน

จริงเลยล่ะครับแบบที่คุณ Nirvana ว่าเอาไว้... "ปากช่องมันเป็นเหมือนทางเสือผ่านจริงๆ"..!!!

ใครๆก็หนีมาตั้งหลักที่แถวนี้กันก่อน..
มีผู้คนจำนวนไม่น้อยที่ตั้งใจปักหลักเป็นที่มั่นหลักอยู่ที่โซนปากช่องนี่เลย..

มีครูบาอาจารย์สายหนึ่ง.. ท่านกล่าวเอาไว้ว่า
ในยามภัยพิบัติใหญ่นั้น ที่ลพบุรี.. จะเกิดโรคระบาดใหญ่เป็นที่แรกของไทย
ส่วนที่ปากช่องนี่... มันจะกลาย "Killing Field ( ทุ่งสังหาร )" ดีๆนี่แหละ ???

ไอ้ผมเอง.. มานั่งคิดๆดู ก็คิดว่ามีความเป็นไปได้สูงทีเดียวเลยล่ะครับ !!!

มีแต่คนกรุงเทพมาอยู่.. จะปลูกพืชทำกิน..
ไม่ได้ดูถูกนะครับ.. แต่ดูๆแล้วก็ไม่น่าจะสามารถเลี้ยงดูตนเองและครอบครัวได้สักเท่าไรหรอกครับ.. ผมเชื่อแบบนั้น เพราะคนกรุงเทพไม่ได้มีพื้นฐานความถนัดด้านนี้เอาเสียเลยเป็นส่วนใหญ่..
( เอาแบบที่ต่อให้มีแสงแดด มีน้ำอย่างเพียงพอด้วยนะครับ.. แต่ในความเป็นจริงอาจจะไม่ใช่แบบนั้น เดี๋ยวค่อยมาเล่าทีหลังอีกทีครับ )

แต่... คนกรุงเทพพวกนี้
ผมเชื่อว่ามากกว่าครึ่งมีอาวุธปืนอยู่ในครอบครอง
เวลาที่หิวจัดๆ.. ในมือก็มีอาวุธเสียด้วย....
ยิ่งผู้คนของเรา.. ความมีระเบียบวินัยขนาดไหน ???.... ก็เข้าใจกันดี.!!!

เฮ้อ !!... ไม่อยากจะคิดต่อเลยครับ!!!
.....................................................................................

พูดมาถึงเรื่องการเกิดภัยพิบัติใหญ่ๆ
เดี๋ยวก็มีผู้คนมาบอกว่า.. ไอ้พวกซาดิส อยากให้เกิดนักหริองัย ???

ก็ต้องบอกกันเอาไว้ตรงๆได้เลยครับว่า... ถ้ามันไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลยนะครับ..จะดีที่สุด
ผมก็ไม่ได้อยากจะให้มันเกิดหรอกครับ.. ไม่เห็นจะสนุกเลยจริงๆ

อ้าว !!!... แล้วมาบ้าเตรียมตัว เตรียมอะไรให้มันสิ้นเปลืองเงินทองและเวลาทำไมกัน ???

นั่นนะสิครับ.. 555 !!!
ก็เพราะว่าความรู้พื้นฐาน และการรับรู้ในข้อมูลข่าวสารของแต่ละคนมันไม่เท่ากันนะสิครับ..

โอ้โห !!... เตรียมตัวกันแบบนี้
คนที่รอดก็มีแต่พวกคนรวยๆ มีสตางค์เท่านั้นสิทีรอดกัน ???

เท่าที่ผมได้ยินและรับทราบมา ก็ยังไม่เคยเห็นหรือได้ยินครูบาอาจารย์ท่านบอกว่า
... คนที่รอด จะมีแต่คนรวยๆเท่านั้นที่อยู่รอดปลอดภัย ???

มีแต่ท่านบอกว่า.. "คนที่รอด จะมีแต่คนดีจริงๆเท่านั้นที่รอด" นะครับ!!!

ที่จริงแล้ว.. โดยความเห็นส่วนตัว
พวกคนรวยๆยิ่งมีสตางค์เยอะๆนี่กลับมีโอกาสเสี่ยงที่จะสูญพันธ์ก่อนเพื่อนเลยก็ว่าได้
ส่วนใหญ่ทำเองไม่ค่อยจะเป็น สั่งเป็นอย่างเดียว.. 555!!!

พวกคนป่าคนดอย.. ที่มีแค่มีดเล่มเดียวก็เอาตัวรอดอยู่ในป่าได้
คนพวกนี้ต่างหากครับ.. ที่มีพื้นฐานการดำรงชีพและเอาตัวรอดสูงมากๆ
เพราะว่า เขาดิ้นรนมาทั้งชีวิต.. ผมว่าคนพวกนี้มีโอกาสรอดชีพสูงกว่าพวกคนเมือง ยามเกิดภัยพิบัติใหญ่ๆมากกว่าครับ.. !!!

โอ๊ย !!... เดี๋ยวมันก็ออกมาบอกว่า.."มันเลื่อนออกไปแล้ว"
เรื่องนี้.. ผมว่าไม่ยากหรอกครับ.. ถ้าอยากจะพิสูจน์กัน ไอ้เลื่อน ไม่เลื่อนนี่!!!

เพียงแค่คนที่อยากจะพิสูจน์ต้อง.. มั่นทำบุญทำกุศล ทำความดี ละลดความชั่ว ทำจิตใจให้ผ่องใส
แล้วก็หาครูบาอาจารย์ให้ท่านสอนการทำสมาธิให้..

และวันหนึ่ง.. เมื่อท่านฝึกไปได้สักระดับหนึ่ง
แล้วได้มีโอกาสนำเอาพลังงานที่เกิดจากการทำสมาธิของท่านไปทดลองใช้งานดู
ท่านก็อาจจะพบว่า.. พลังงานนี้มันมีอานุภาพขนาดนี้เลยหรือ ???

และท่านก็อาจจะเข้าใจได้ว่า มันมีอะไรอีกตั้งเยอะมากๆ ที่เรายังไม่รู้มันอีกตั้งเยอะที่รอเราเข้าไปเรียนรู้และสัมผัสมันแบบที่ไม่ได้มีอันตรายครับ !!!
( เมื่ออยู่ภายใต้การควบคุมดูแลของครูบาอาจารย์นะครับ.. )