เหตุการณ์ใน-นอกโลก VS ภัยธรรมชาติ และupdate พายุสุริยะ

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย Falkman, 10 มกราคม 2011.

  1. Falkman

    Falkman พลังจิตนานาชาติ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    19,726
    ค่าพลัง:
    +77,791
    ทำไมช่วงนี้ดวงอาทิตย์ ระเบิดรูปแบบแปลกดี..... อืมม์ dannce_
     
  2. rehacked

    rehacked เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มกราคม 2010
    โพสต์:
    1,191
    ค่าพลัง:
    +8,013
    เปลวไฟยาวมากกกกกกกกกกกก
     
  3. Falkman

    Falkman พลังจิตนานาชาติ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    19,726
    ค่าพลัง:
    +77,791
    [​IMG]

    [​IMG]

    # CME | t0 | dt0| pa | da | v | dv | minv| maxv| halo?
    0054|2013/02/27 04:36| 07 | 232| 194| 0500| 0086| 0274| 0694| III

    มีการระเบิดแบบรอบด้าน ด้วยความเร็วเฉลี่ย 500 km/s เมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ เวลา 4.36 น. (๑๑.๓๖น.)
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • CME.jpeg
      CME.jpeg
      ขนาดไฟล์:
      50 KB
      เปิดดู:
      606
  4. Falkman

    Falkman พลังจิตนานาชาติ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    19,726
    ค่าพลัง:
    +77,791
    COMET PAN-STARRS UPDATE: Comet Pan-STARRS is brightening as it plunges toward the sun just outside the orbit of Mercury. Amateur astronomer Ian Cooper sends this report from Glen Oroua, New Zealand: "Despite lingering evening twilight and the glare from a nearly full Moon, Comet Pan-STARRS is a 3rd-magnitude object with a fine orange dust tail visible in both binoculars and small telescopes." A 30-second exposure with his Canon 450D digital camera easily revealed the comet:

    [​IMG]

    In early March, the comet will pass about 100 million miles from Earth as it briefly dips inside the orbit of Mercury. At that time it is expected to brighten another two- or three-fold. Whether Pan-STARRS will be visible to the naked eye through the glow of the nearby sun remains to be seen; this NASA video explores the possibilities. Whatever happens, northern hemisphere observers will have a front row seat as the comet crosses the celestial equator before the middle of March. Stay tuned!

    SpaceWeather.com -- News and information about meteor showers, solar flares, auroras, and near-Earth asteroids

    อัพเดทดางหาง PAN-STARRS: ดาวหาง Pan-STARRS ได้มีแสงสว่างมากขึ้น และมุ่งไปที่ดวงอาทิตย์ ตอนนี้ได้อยู่ในวงโคจรของดาวพุธ นักดูดาวสมัครเล่น Ian Cooper ได้ส่งรายงานจาก Glen Oroua นิวซีแลนด์ "แม้จะเป็นยามพลบค่ำและมีแสงจากดวงจันทร์เต็มดวง ดาวหาง Pan-STARRS ได้มีความสว่างระดับ 3-magnitude และก็มีหางที่เป็นฝุ่นสามารถมองเห็นได้ด้วยกล้องส่องทางไกลหรือกล้อมดูดาวขนาดเล็กได้" กล้อง Canon 450D เปิดหน้ากล้องไว้ 30 วินาทีก็สามารถถ่ายดาวหางนี้ได้

    ในต้นเดือนมีนาคมนี้ มันจะผ่านประมาณ 100 ล้านไมล์จากโลก และจะเข้าไปในวงโคจรของดาวพุธ ณ เวลานั้นมันจะถูกคาดว่าจะสว่างขึ้น สองหรือสามเท่า ถ้า Pan-STARRS จะมองเห็นได้ด้วยตาเปล่าเมื่อมันยิ่งเข้าใกล้ดวงอาทิตย์ ลองดู[ame="www.youtube.com/watch?v=OZlenAvqLCI"]วิดีโอจากนาซ่าได้ [/ame] อะไรจะเกิดขึ้นก็ตาม ผู้สังเกตการณ์ทางซีกโลกจะมีเหนือจะนั่งที่นั่งทางเลยเพราะดาวหางนี้จะผ่านเหนือเส้นศูนย์สูตรประมาณ กลางเดือนมีนาคม จับตามองกัน!
     
  5. Jingjoknayork

    Jingjoknayork เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    700
    ค่าพลัง:
    +3,726
    จากเฟซ อ.ก้องภพ อยู่เย็น ครับ

    ในวันที่ 26 กุมภาพันธ์ เวลา 14:12 UT ที่ผ่านมาได้เกิดปฏิกริยาดวงอาทิตย์ที่มีขนาดใหญ่สุดในรอบสองสัปดาห์ โดยส่งพลังงานออกมาเป็นมุมกว้างแพร่กระจายหลายทิศทาง โดยทิศทางหลักไปทางด้านตรงกันข้ามกับโลก แต่โลกจะได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ครั้งนี้ นอกจานนั้น วันที่ 27 กพ ยังพบเปลวพลังงานขนาดใหญ่ออกมาจากผิวดวงอาทิตย์ http://spaceweather.com/images2013/27feb13/eruption_anim.gif

    จากโมเดลพบว่าพลังงานจะเดินทางมาถึงในแนววงโคจรของโลกในวันที่ 1 มีนาคม เวลา 0 UT +/- 10 ชั่วโมง (เหตุการณ์หลัก) และ ในวันที่ 2 มีนาคม เวลา 12 UT +/- 7 ชั่วโมง (เหตุการณ์รอง)

    ผู้ที่สนใจสามารถติดตามการเปลี่ยนแปลงทางธรรมชาติเป็นพิเศษได้ตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 2 มีนาคม ครับ

    ข้อมูลเพิ่มเติมของเหตุการณ์ดังกล่าวมีดังนี้ :
    - วิดิโอภาพถ่ายดวงอาทิตย์มุมกว้างจากโลก CACTUS CME Details
    - วิดิโอภาพถ่ายดวงอาทิตย์โดยโลกอยู่ทางซ้ายมือ http://stereo.gsfc.nasa.gov/browse/2013/02/26/ahead_20130226_cor2_512.mpg
    - วิดิโอภายถ่ายดวงอาทิตย์โดยโลกอยู่ทางขวามือ http://stereo.gsfc.nasa.gov/browse/2013/02/26/behind_20130226_cor2_512.mpg
    - โมเดลจำลองเหตุการณ์ครั้งนี้
    http://iswa.ccmc.gsfc.nasa.gov:8080/IswaSystemWebApp/StreamByDataIdServlet?allDataId=497808885
    http://iswa.ccmc.gsfc.nasa.gov:8080/IswaSystemWebApp/StreamByDataIdServlet?allDataId=497971420
     
  6. Falkman

    Falkman พลังจิตนานาชาติ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    19,726
    ค่าพลัง:
    +77,791
    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • latest1.jpg
      latest1.jpg
      ขนาดไฟล์:
      398.4 KB
      เปิดดู:
      548
    • latest.jpg
      latest.jpg
      ขนาดไฟล์:
      139.7 KB
      เปิดดู:
      540
    • ahead_cor2_latest.jpg
      ahead_cor2_latest.jpg
      ขนาดไฟล์:
      36.7 KB
      เปิดดู:
      550
  7. Falkman

    Falkman พลังจิตนานาชาติ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    19,726
    ค่าพลัง:
    +77,791
    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • latest.jpg
      latest.jpg
      ขนาดไฟล์:
      392.7 KB
      เปิดดู:
      464
    • latest1.jpg
      latest1.jpg
      ขนาดไฟล์:
      206 KB
      เปิดดู:
      455
    • expand.jpg
      expand.jpg
      ขนาดไฟล์:
      75 KB
      เปิดดู:
      443
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 1 มีนาคม 2013
  8. rehacked

    rehacked เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มกราคม 2010
    โพสต์:
    1,191
    ค่าพลัง:
    +8,013
    4เหลี่ยมนั่นคืออะไรหว่า แล้วตรงๆวงๆนั่นอีก :boo:
     
  9. Falkman

    Falkman พลังจิตนานาชาติ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    19,726
    ค่าพลัง:
    +77,791
    [​IMG]
     
  10. Falkman

    Falkman พลังจิตนานาชาติ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    19,726
    ค่าพลัง:
    +77,791
    CORONAL HOLE: A dark, V-shaped gap in the sun's atmosphere has opened up, and it is spewing solar wind into space. NASA's Solar Dynamics Observatory took this picture of the coronal hole during the early hours of Feb. 8th:

    Coronal Hole: ช่องสีดำรูปตัว V ในบรรยากาศของดวงอาทิตย์ได้เปิดขึ้น และพ่นพายุสุริยะออกไปในอวกาศ ดาวเทียม SDO ของนาซ่าได้ถ่ายภาพ coronal hole ไว้ระหว่างเช้าวันที่ 8 กุมภาพันธ์

    Coronal hole คือ ที่ๆ สนามแม่เหล็กดวงอาทิตย์ได้เปิดออกมา อนุญาตให้พายุสุริยะได้ออกมา และพายุสุริยะอันนี้ ได้ถูกคาดว่าจะมาถึงโลกเราวันที่ 2-3 มีนาคม NOAA พยากรณ์ว่า ประมาณ 20% - 25% ที่ขั้วโลกจะเกิดพายุแม่เหล็กโลกแปรปรวนเมื่อลมสุริยะมาถึง


    [​IMG]

    Coronal holes are places where the sun's magnetic field spreads apart and allows solar wind to escape. A stream of solar wind flowing from this particular coronal hole should reach Earth on March 2-3. NOAA forecasters estimate a 20% to 25% chance of polar geomagnetic storms when the solar wind arrives.


    SpaceWeather.com -- News and information about meteor showers, solar flares, auroras, and near-Earth asteroids
     
  11. Falkman

    Falkman พลังจิตนานาชาติ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    19,726
    ค่าพลัง:
    +77,791
    เอาแบบสรุปๆ

    เมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2013 นาซ่าได้ออกประกาศว่า 2012 DA14 จะมาใกล้โลก โดยจะไม่ทำอะไรกับโลก แต่เมื่อตอนเช้าวันที่ 15 ท้องฟ้าได้มีแสงสว่างทำให้หน้าต่างหลายๆ ตึกได้แตกกระจาย และไม่กี่คนสามารถคิดได้เลยว่า มันไม่ใช่เครื่องบินตกหรือการโจมตีทางอากาศ

    Bill Cooke จากนาซ่ากล่าวไว้ว่า "มันเป็นอุกาบาตที่มีพลังมาก หลังจากอันก่อนที่ตกที่ Tunguska ที่รัสเซีย เมื่อปี 1908"


    และผู้เชียวชาญของนาซ่ายังส่ายหัวว่า มันเป็นเหตุบังเอิญจริงๆ ที่อุกาบาตเล็กๆ นี้เข้ามาก่อน 2012 DA14 และมันก็เข้ามาทิศเดียวกับดวงอาทิตย์อยู่ เลยทำให้กล้องดูดาวต่างๆ มองไม่เห็น ทำให้ทุกคนตกใจ "มันเป็นเหตุการณ์บังเอิญที่เกิดขึ้นได้ยากมาก ที่วัตถุสองอันนี้มาพร้อมๆ กัน"

    Infrasound คือ ชนิดของเสียงแบบคลื่นความถี่ต่ำ ได้ยินเฉพาะช้าง หรือ สัตว์บางชนิดเท่านั้น แต่มันเกิดขึ้นเมื่ออุกาบาตนี้วิ่งเข้ามายังชั้นบรรยากาศโลก และคลื่นเสียงนี้ก็กระจายไปทั่วอากาศของโลก การวิเคราะห์เสียงนี้ ทำให้เรารู้ว่านานเท่าไหร่ที่อุกาบาตนี้อยู่ในอากาศ และทิศไหนที่มันไป และ พลังงานของมันที่ปล่อยออกมา

    อุกาบาตในรัสเซียนี้ ได้เป็น Infrasound ที่แรงที่สุดที่เคยตรวจจับได้ ที่ CTBTO (Test Ban Treaty Organization) network และสถานีที่บันทึกได้คือสถานีที่ไกลที่สุด ห่างจาก Antarctica 15,000 กิโลเมตร
    Western Ontario Professor of Physics Peter Brown analyzed the data: บอกว่า "อุกาบาตเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 17 เมตร น้ำหนักประมาณ 10,000 ตัน มันเข้ามายังบรรยากาศโลก 40,000 ไมล์ต่อชั่วโมง และแตกตัวเป็นเสียงๆ ประมาณ 12 - 15 ไมล์ เหนือจากพื้นโลก ส่วนพลังที่ได้จากการระเบิดมากกว่า 470 kilotons of TNT " (เพื่อการเปรียบเทียบ ระเบิดปรมาณูแรกๆ ให้พลังงานแค่ 15-20 kilotons เอง

    จากวงโคจรของลูกไฟนี้ ได้ความว่า มันมาจากวงแหวนอุกาบาต ประมาณ 2.5 เท่า ของระยะทางโลกและดวงอาทิตย์

    Cooke บอกว่า มันไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกันเลยของอุกาบาตสองลูกนี้ มันต่างคนต่างมาและมาถึงโลกวันเดียวกันและเข้าใกล้กัน และมันก็เป็นความบังเอิญอย่างมาก

    อุกาบาตที่รัสเซียส่วนมากประกอบด้วยหินและเหล็กนิดหน่อย และมันเป็นปกติของอุกาบาตพวกนี้ที่มันอยู่ตรงวงแหวนอุกาบาต และก็มีจำนวนหลายล้านที่เป็นแบบนี้


    [​IMG]

    When the sun rose over Russia's Ural Mountains on Friday, Feb. 15th, many residents of nearby Chelyabinsk already knew that a space rock was coming. Later that day, an asteroid named 2012 DA14 would pass by Earth only 17,200 miles above Indonesia. There was no danger of a collision, NASA assured the public.

    Maybe that's why, when the morning sky lit up with a second sun and a shock wave shattered windows in hundreds of buildings around Chelyabinsk, only a few people picking themselves off the ground figured it out right away. This was not a crashing plane or a rocket attack.

    [​IMG]

    "It was a meteor strike--the most powerful since the Tunguska event of 1908," says Bill Cooke of NASA's Meteoroid Environment Office.

    In a coincidence that still has NASA experts shaking their heads, a small asteroid completely unrelated to 2012 A14 struck Earth only hours before the publicized event. The impactor flew

    out of the blue, literally from the direction of the sun where no telescope could see it, and took everyone by surprise.

    "These are rare events and it is incredible to see them happening on the same day," says Paul Chodas of NASA's near-Earth Object Program at JPL.

    Researchers have since pieced together what happened. The most telling information came from a network of infrasound sensors operated by the Comprehensive Test Ban Treaty Organization (CTBTO). Their purpose is to monitor nuclear explosions.

    Infrasound is a type of very low-frequency sound wave that only elephants and a few other animals can hear. It turns out that meteors entering Earth's atmosphere cause ripples of infrasound to spread through the air of our planet. By analyzing infrasound records, it is possible to learn how long a meteor was in the air, which direction it traveled, and how much energy it unleashed.

    The Russian meteor's infrasound signal was was the strongest ever detected by the CTBTO network. The furthest station to record the sub-audible sound was 15,000km away in Antarctica.

    [​IMG]

    Listen to the infrasound recording, sped up 135x into the range of human hearing. Play it Western Ontario Professor of Physics Peter Brown analyzed the data: "The asteroid was about 17 meters in diameter and weighed approximately 10,000 metric tons," he reports. "It struck
    Earth's atmosphere at 40,000 mph and broke apart about 12 to 15 miles above Earth's surface.

    The energy of the resulting explosion exceeded 470 kilotons of TNT." For comparison, the first atomic bombs produced only 15 to 20 kilotons.

    Based on the trajectory of the fireball, analysts have also plotted its orbit. "It came from the asteroid belt, about 2.5 times farther from the sun than Earth," says Cooke.

    Comparing the orbit of the Russian meteor to that of 2012 DA14, Cooke has shown that there is no connection between the two. "These are independent objects," he says. "The fact that they reached Earth on the same day, one just a little closer than the other, appears to be a complete coincidence."

    Infrasound records confirm that the meteor entered the atmosphere at a shallow angle of about 20 degrees and lasted more than 30 seconds before it exploded. The loud report, which was heard and felt for hundreds of miles, marked the beginning of a scientific scavenger hunt.

    Thousands of fragments of the meteor are now scattered across the Ural countryside, and a small fraction have already been found.

    Preliminary reports, mainly communicated through the media, suggest that the asteroid was made mostly of stone with a bit of iron--"in other words, a typical asteroid from beyond the orbit of Mars," says Cooke. "There are millions more just like it."

    And that is something to think about as the cleanup in Chelyabinsk continues.

    NASA: What Exploded Over Russia, The Latest Results | Space
     
  12. engineer03

    engineer03 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    4,961
    ค่าพลัง:
    +44,308
    เวลานี้สนามแม่เหล็กโลกกำลังถูกโจมตีด้วยพายุแม่เหล็กที่ปล่อยออกมาจากหลุมโคโรน่า ด้วยอัตราความเร็ว 655 กม./วินาที

    [​IMG]
    กราฟแสดงค่าดัชนี kp ทุก 3 ชั่วโมง กรณีมีค่ามากกว่า 5 แสดงว่าเริ่มเกิดพายุแม่เหล็กในบรรยากาศโลก ผลกระทบที่ระดับสูง หากค่า kp ไปถึง 8 หรือ 9 คือดาวเทียม การสื่อสารวิทยุ จะเริ่มถูกพายุแม่เหล็กรบกวน อาจขัดข้องไม่ทำงาน หรือในขั้นรุนแรงอาจเหนี่ยวนำให้เกิดกระแสไฟฟ้าไหลในวัตถุที่มีลักษณะยาวบนผิวโลกได้ เช่นท่อส่งน้ำมัน หรือขดลวดในหม้อแปลง อาจทำให้หม้อแปลงระเบิดเกิดไฟฟ้าดับได้


    Minor Geomagnetic Storm
    The solar wind continues to increase this morning and is now over 500 km/s. The Bz component of the Interplanetary Magnetic Field (IMF) was tipped sharply south for several hours and a G1 Geomagnetic Storm is currently underway. Be on the lookout for aurora at very high latitudes if it is dark outside.

    ALERT: Geomagnetic K-index of 5
    Threshold Reached: 2013 Mar 01 1134 UTC
    Synoptic Period: 0900-1200 UTC
    Active Warning: Yes
    NOAA Scale: G1 - Minor

    [​IMG]

    Solar Update / Aurora Watch
    Solar activity remains at very low levels with only B-Class flares detected within the past 24 hours. There will continue to be a chance for C-Class solar flares around Sunspots 1682 and 1683. A small new sunspot trailing 1683 is rotating into view off the southeast limb.

    Aurora Watch: A solar wind stream flowing from a Coronal Hole on the Sun has shown a gradual increase over the past several hours and this trend is expected to continue during the day on Friday. Minor geomagnetic activity will be possible at very high latitudes. Be on the lookout for visible aurora if you are near the polar regions.
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 มีนาคม 2013
  13. Falkman

    Falkman พลังจิตนานาชาติ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    19,726
    ค่าพลัง:
    +77,791
    Jim McCanney พูดถึงข่าวลือระบบสุริยะขนาดเล็กเข้ามาในระบบสุริยะของเรา

    [ame="http://www.youtube.com/watch?v=xwma4l0or2g"]http://www.youtube.com/watch?v=xwma4l0or2g[/ame]

    Credit ที่มา http://www.truth4thai.org/node/1552
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 มีนาคม 2013
  14. engineer03

    engineer03 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    4,961
    ค่าพลัง:
    +44,308
    Double Peak Expected?
    Something unexpected is happening on the sun. 2013 is supposed to be the year of Solar Max, but solar activity is much lower than expected. At least one leading forecaster expects the sun to rebound with a double-peaked maximum later this year. Click HERE to watch.

    มีบางสิ่งบางอย่างที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้นบนดวงอาทิตย์ ปี2013ควรจะเป็นปีที่มีพลังสุริยะ สูงสุด แต่ปฎิกิริยาแสงอาทิตย์กลับต่ำมากกว่าที่คาดไว้ คาดว่าดวงอาทิตย์จะเกิดปฎิกิริยาแบบดับเบิลสูงสุดในช่วงปลายปีนี้

    <iframe width="560" height="315" src="http://www.youtube.com/embed/6j4bl57D_1U" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 มีนาคม 2013
  15. Falkman

    Falkman พลังจิตนานาชาติ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    19,726
    ค่าพลัง:
    +77,791
    ลมสุริยะจาก coronal hole อันนี้น่าจะมาถึงโลกประมาณวันที่ 7-8 มีนาคม

    Coronal Holes: 04 Mar 13

    [​IMG]

    Solar wind flowing from the indicated coronal hole should reach Earth on March 7-8. Credit: SDO/AIA.
     
  16. kiatp123

    kiatp123 โมฆะแมน

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    3,493
    ค่าพลัง:
    +19,616
    เรากำลังอินเทรนด์กับความสวยงามของดาวหาง

    สิ่งมีชีวิตรอดหรืออยู่ ถูกกำหนดโดยดาวหาง


    March 23rd, 2009
    Adapted From space.com : Cometary Life Limit

    บนดาวฤกษ์บางดวงมีความเคลื่อนไหวของดาวหาง(comet)ที่โคจรรอบตัวมันเป็นปริมาณมาก และสามารถพิพากษาชีวิตใดๆ ที่พยายามจะหยั่งรกรากบนดาวเคราะห์ดวงใดๆ งานวิจัยที่กำลังเดินหน้าชิ้นหนึ่ง ทำการศึกษาเพื่อคำนวณอัตราส่วนของระบบดาวฤกษ์ที่อาจไม่เหมาะสำหรับอยู่อาศัยอันเนื่องมาจากความเสี่ยงต่อการถูกชนโดยดาวหาง

    [​IMG]

    ดาวหางในระบบสุริยะ(solar system) หลายดวงถูกพบในแถบเข็มขัดคุยเปอร์(Kuiper Belt) อันเป็นกลุ่มวงแหวนที่เต็มไปด้วยเศษวัสดุซึ่งอยู่ถัดออกไปจากวงโคจรของดาวเนปจูน(Neptune) ในขณะที่ดาวเนปจูนอยู่ห่างจากดวงอาทิตย์ 30 หน่วยดาราศาสตร์(Astronomical Unit:ระยะทางเฉลี่ยระหว่างโลกถึงดวงอาทิตย์) แต่แถบเข็มขัดคุยเปอร์อยู่ห่างออกไปเป็นสองเท่า ไม่เพียงแต่ระบบสุริยะเท่านั้นที่มีแถบวัสดุเหล่านี้ ดาวฤกษ์อื่นๆต่างก็มีวงแหวนเศษวัสดุรูปแบบนี้เช่นกัน

    Jane Greaves แห่งมหาวิทยาลัยแห่งเซนต์แอนดริวส์(University of St. Andrews) ประเทศสกอตแลนด์ กล่าวว่า “เศษวัสดุก็คือฝุ่นและเศษชิ้นส่วนขนาดใหญ่ที่เกิดจากการแตกตัวของดาวหางหรือดาวเคราะห์น้อย(asteroids) ขณะที่พวกมันชนกันเอง”

    สืบเนื่องจากการสังเกตการณ์โดยกล้องโทรทรรศน์อวกาศสปิตเซอร์(Spitzer space telescope) คณะนักวิจัยนำโดย Jane Greaves สามารถประมาณอย่างหยาบๆ ไว้ว่า ร้อยละ 20 ของดาวฤกษ์คล้ายดวงอาทิตย์(sun-like star) มีวงแหวนเศษวัสดุที่มีปริมาณวัสดุมากกว่าแถบเข็มขัดคุยเปอร์ ยิ่งมีเศษวัสดุมาก ก็หมายความว่ามีดาวหางอยู่มาก แต่นี่หมายความว่ามีโอกาสที่จะเกิดการปะทะอย่างรุนแรงที่คร่าชีวิตสิ่งมีชีวิตบนดาวเคราะห์คล้ายโลกใดๆ ที่กำลังโคจรรอบดาวฤกษ์เหล่านี้หรือไม่?

    [​IMG]

    คำตอบของคำถามนี้ขึ้นอยู่กับว่ามีดาวเคราะห์ก๊าซยักษ์(gas giant planet)อยู่มากน้อยเพียงใด สำหรับระบบสุริยะซึ่งมีดาวพฤหัสบดี(Jupiter) เป็นเสมือนโล่กำบังดาวหางให้กับโลก ด้วยการสะท้อนดาวหางบางดวงออกไปจากระบบสุริยะ อย่างไรก็ตามนักวิทยาศาสตร์บางกลุ่มสามารถแสดงให้เห็นว่าเมื่อปี 2550 ดาวพฤหัสบดีสามารถเหวี่ยงดาวหางดวงอื่นๆให้โคจรเข้ามาตัดกับเส้นทางโคจรของโลกรอบดวงอาทิตย์ ทว่าโดยข้อเท็จจริงแล้ว หากดาวพฤหัสบดีมีขนาดเท่าดาวเสาร์(Saturn) จำนวนการชนโลกของดาวหางหรือเทหวัตถุจากแถบเข็มขัดคุยเปอร์จะมากยิ่งขึ้น

    Greaves ได้พัฒนาแบบจำลองทางกายฟิสิกส์ที่อธิบายว่า ดาวหางได้รับผลกระทบจากแรงโน้มถ่วงของดาวเคราะห์ก๊าซยักษ์ ผลการวิจัยชิ้นก่อนนั้น ก็บ่งบอกว่าดาวหางจะเป็นตัวปัญหาหลักของระบบดาวฤกษ์คล้ายดวงอาทิตย์จำนวนไม่มากนัก

    [​IMG]
    ผิวดวงจันทร์เต็มไปด้วยร่องรอยการชนของอุกกาบาต เนื่องจากไม่มีน้ำ ชั้นบรรยากาศ และกิจกรรมทางธรณีวิทยา ทำให้ร่องรอยเหล่านี้ยังคงหลงเหลืออยู่นานนับบ้านปี
    Image Credit: Galileo Project, JPL, NASA

    ในยุคแรกๆ ของประวัติศาสตร์ระบบสุริยะ มีเศษวัสดุที่หลงเหลืออยู่มากมายจากกระบวนการก่อกำเนิดดาวเคราะห์ วัสดุทั้งหมดนี้นำไปสู่การปะทะกันอย่างหนักหน่วงของดาวหางและดาวเคราะห์น้อยในยุคหนึ่งของระบบสุริยะบริเวณเขตดาวเคราะห์วงใน ซึ่งมีหลักฐานหลงเหลืออยู่บนผิวดวงจันทร์ เนื่องจากดวงจันทร์ไม่มีชั้นบรรยากาศ น้ำ และกิจกรรมทางธรณีวิทยาเหมือนกับโลกจึงไม่มีการกัดกร่อนทำลายร่องรอยการชน ทว่าบนโลกร่องรอยการชนหรือหลุมอุกกาบาตเหล่านั้นจะถูกลบหายหรือกลบฝังไปตามกาลเวลาด้วยการกระทำของกระแสลม กระแสน้ำหรือแม้แต่การเคลื่อนไหวของเปลือกโลก

    จำนวนครั้งของการชนลดลงเมื่อประมาณ 3,800 ล้านปีก่อน หรือ 700 ล้านปีหลังจากระบบสุริยะถือกำเนิด สาเหตุที่ปริมาณการชนลดลงอาจเกิดจากการถอยห่างออกไปของวงโคจรรอบดวงอาทิตย์ของดาวเคราะห์ก๊าซยักษ์ เหตุการณ์ดังกล่าวทำให้ดาวเคราะห์ก๊าซยักษ์กวาดเอาดาวหางจำนวนมากออกไป ดาวพฤหัสบดีและดาวเสาร์ดูเหมือนว่าจะโคจรออกห่างจากดวงอาทิตย์ รวมทั้งผลักดันให้วงโคจรของดาวยูเรนัส(Uranus) และดาวเนปจูน(Neptune) ถอยห่างออกจากดวงอาทิตย์เช่นกัน เหตุการณ์นี้เป็นการก่อกวนเทหวัตถุในแถบเข็มขัดคุยเปอร์(Kuiper Belt Objects) และดาวหางจำนวนมากก็ถูกผลักออกสู่อวกาศระหว่างดาวฤกษ์ Greaves อธิบาย “นี่อาจเป็นเหตุการณ์พิเศษเฉพาะในระบบสุริยะของเรา หรือเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นในระบบสุริยะอื่นๆ ประเด็นนี้เรายังไม่ทราบแน่ชัด เนื่องจากเรามีข้อมูลเกี่ยวดาวเคราะห์ก๊าซยักษ์ของระบบดาวฤกษ์ในปริมาณจำกัด”

    [​IMG]

    อย่างไรก็ตาม ดาวเคราะห์โลกของเราดูเหมือนจะได้รับข้อยกเว้นจากเหตุการณ์ปะทะทำลายล้าง นักวิทยาศาสตร์หลายคนเชื่อว่าไดโนเสาร์ถูกกวาดล้างโดยดาวหางหรือดาวเคราะห์น้อยขนาดกว้างประมาณ 4 ถึง 20 กิโลเมตร ที่พุ่งชนโลกเมื่อ 65 ล้านปีก่อน ที่บริเวณคาบสมุทรยูคาทัน(Yucatan peninsula) เกิดเป็นหลุมอุกกาบาตชิกซูลับ(Chicxulub crater) ประเทศเมกซิโก ทวีปอเมริกาใต้ การพุ่งชนครั้งนั้นทำให้เกิดทะเลเพลิงกวาดล้างไปทั่วทั้งโลก และท้ายที่สุดรูปแบบสิ่งมีชีวิตเกินกว่าครึ่งก็สูญพันธุ์ไปจากโลก เรียกการสูญพันธุ์ที่เส้นแบ่งยุค K-T (Cretaceous / Tertiary)

    [​IMG]
    หลุมอุกกาบาตชิกซูลับ คาบสมุทรยูคาทัน ประเทศเม็กซิโก
    source: http://www.physics.uc.edu/~hanson/ASTRO/LECTURENOTES/ET/Earth/ChicxulubCrater.jpg

    เทหวัตถุขนาด 100 กิโลเมตรขึ้นไป เมื่อพุ่งชนโลก พลังงานจากการปะทะจะทำลายล้างทุกสิ่ง ไม่มีสิ่งมีชีวิตใดเหลือรอด การชนระดับทำลายล้างสิ้นจะกวาดเอาเปลือกโลกและก๊าซที่เป็นชั้นบรรยากาศออกสู่อวกาศจนหมด โลกดูเหมือนว่าจะเคยพบกับประสบการณ์เช่นนี้มาก่อน ก่อนที่สิ่งมีชีวิตจะอุบัติขึ้นเสียด้วยซ้ำ

    Greaves เสริมว่า “ขณะที่เทหวัตถุระดับผู้ประหัตประหารไดโนเสาร์พุ่งชนโลกทุกๆ 100 ล้านปีโดยประมาณ มนุษย์เราไม่น่าจะพบกับเหตุการณ์ดาวหางขนาด 100 กิโลเมตรพุ่งชนโลกอีก ภายในช่วงชีวิตนี้ของดวงอาทิตย์”
    ต่อคำถามที่ว่าอัตราการชนดาวเคราะห์ต้องสูงสักเท่าใดที่จำเป็นต่อการขัดขวางการกำเนิดของสิ่งมีชีวิต Greaves คิดว่าสิ่งมีชีวิตไม่สามารถวิวัฒนาการบนดาวเคราะห์ที่มีเทหวัตถุขนาดประมาณ 10 ถึง 100 กิโลเมตร พุ่งชนทุกๆ 20 ล้านปี อัตราการกระหน่ำชนแบบนี้ไม่อนุญาตให้สิ่งมีชีวิตมีเวลาพอสำหรับฟื้นตัวระหว่างการชนแต่ละครั้ง ระดับความหลากหลายทางชีวภาพยังคงต่ำมาก ดังนั้นมีความเป็นไปได้น้อยมากที่สปีชีส์ของสิ่งมีชีวิตใดๆ จะอยู่รอดในการทำลายล้างครั้งถัดไป

    [​IMG]
    ภาพถ่ายแสดงวงแหวนอนุภาคฝุ่นที่ล้อมรอบดาวฤกษ์ Tau Ceti โดยกล้องความยาวคลื่นต่ำกว่ามิลลิเมตร SCUBA สีในภาพแสดงความสว่างของวงแหวนฝุ่น ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางของมันใหญ่กว่าระบบสุริยะของเราเล็กน้อย Credit: James Clerk Maxwell Telescope.​


    ในงานวิจัยชิ้นก่อนของ Greaves และคณะ พวกเขามุ่งศึกษาระบบดาว Tau Ceti ระบบดาวฤกษ์คล้ายดวงอาทิตย์อีกแห่งที่เป็นเป้าหมายโปรดของโครงการเสาะหาสิ่งมีชีวิตทรงภูมิปัญญาต่างดาวอย่างโครงการสำรวจ SETI Tau Ceti เป็นระบบดาวที่ไม่อาจอยู่อาศัยได้เนื่องจากระบบดาวแห่งนี้มีปริมาณดาวหางจำนวนมากโคจรไปมารอบดาวฤกษ์ การประมาณการนี้จะดูเหมือนมองโลกในแง่ร้ายเกินไปก็ตาม

    คณะวิจัยของ Greaves กำลังค้นหาลางบอกเหตุทั่วไปโดยอาศัยปริมาณดาวหาง พวกเขาสร้างแบบจำลองทางคอมพิวเตอร์เพื่อใช้ตัวแทนของระบบที่มีความหลายหลาย ทั้งระบบดาวแบบที่มีและไม่มีดาวเคราะห์ก๊าซยักษ์ จากจุดนี้ คณะทำงานได้ประมาณการไว้ว่าระบบดาวฤกษ์ที่มีดาวหางโคจรเป็นบริวารจำนวนมากและพร้อมพุ่งชนดาวเคราะห์นั้น มีความเป็นไปได้น้อยมากที่จะเป็นสถานที่อาศัยของสิ่งมีชีวิต.


    เรียบเรียงโดย : วัชราวุฒิ กฤตินธรรม ภาควิชาฟิสิกส์ คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล

    ที่มา March09.html
     
  17. Falkman

    Falkman พลังจิตนานาชาติ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    19,726
    ค่าพลัง:
    +77,791
    BRIGHT COMET PAN-STARRS: Comet Pan-STARRS (C/2011 L4) is inside the orbit of Mercury, brightening as it plunges toward the sun. Observers in the southern hemisphere say they can see Pan-STARRS with the unaided eye in the evening sunset sky. Michael White sends this view from Manawatu, New Zealand:

    [ame=http://www.youtube.com/watch?v=OZlenAvqLCI]ScienceCasts: A Naked-Eye Comet in March 2013 - YouTube[/ame]

    [​IMG]
    Photo details: Canon 50D, 140mm, f4.0, ISO1600, 3.2s exposure


    "As Comet Pan-STARRS was setting on the southwestern horizon, its nucleus was visible to the naked eye and its tail could just be seen with averted vision," says White. "Crops in the foreground were illuminated by nearby highway lights."

    Several important dates are approaching. On March 5th, Comet Pan-STARRS makes its closest approach to Earth (1.1 AU), followed on March 10th by its closest approach to the sun (0.3 AU). As Comet Pan-STARRS passes the sun, solar glare might make it difficult to see even as the nucleus vaporizes and brightens. By March 12th and 13th, the comet will reappear in the sunset skies of the northern hemisphere not far from the crescent Moon; think photo-op! Light curves suggest that the comet's brightness will peak near 2nd magnitude, similar to the stars of the Big Dipper. Check the realtime comet gallery for the latest images.

    ดาวหางที่สุกสว่าง PAN-STARRS (C/2011 L4) อยู่ในวงโคจรของดาวพุธตอนนี้ และจะสว่างขึ้นเพราะมุ่งหน้าเข้าหาดวงอาทิตย์ ผู้สังเกตการณ์ที่ซีกโลกใต้ สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่าในช่วงเวลาพลบค่ำตอนพระอาทิตย์กำลังจะตก Michael White จาก Manawatu นิวซีแลนด์ได้ส่งภาพข้างล่างนี้มา

    เพราะดาวหาง Pan-STARRS ได้อยู่ตรงขอบฟ้าทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ ตัวของมันก็เห็นได้จากตาเปล่าและหันไปก็จะมองเห็นหางมัน มันมองเห็นได้จากฉากที่เป็นไฟทางหลวงและต้นไม้ต่างๆ (จากภาพ)

    หลายๆ วันที่มีความสำคัญในการเห็นดาวหางนี้เมื่อมันมาถึง

    5 มีนาคม - Pan-STARRS จะมาใกล้โลกที่สุด 1.1 AU

    10 มีนาคม - จะใกล้ดวงอาทิตย์ที่สุด 0.3 AU แต่ว่ามันวิ่งผ่านดวงอาทิตย์แสงดวงอาทตย์อาจทำให้ยากต่อการเห็นตัวมัน แต่จะเห็นหางที่สดใสของมัน

    12,13 มีนาคม - มันจะกลับมาเห็นได้อีกหนตอนพระอาทิตย์ตก ท้องฟ้าทางซีกโลกทางเหนือไม่ไกลกับดวงจันทร์เสี้ยว (คงสวยดีนะเตรียมตัวจับภาพด้วย-Falkman) และดาวหางนี้จะสว่างสุดถึง 2 magnitude คล้ายๆ กับดาวของดาวในกลุ่มดาวไถ


    ที่มา http://www.spaceweather.com/
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 มีนาคม 2013
  18. Falkman

    Falkman พลังจิตนานาชาติ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    19,726
    ค่าพลัง:
    +77,791
    WEEKEND AURORAS: Throughout the weekend, a solar wind stream buffeted Earth's magnetic field, sparking Northern Lights around the Arctic Circle. Aurora tour guide Chad Blakley sends this report from Abisko National Park, Sweden: "Every dark night for the last five years I have gone out and patiently waited for the opportunity to see a once-in-a-lifetime aurora display. March 3rd was the night that it happened." Scroll past his photo of the apparition for the rest of the story:

    [​IMG]

    "Our guests spent most of the evening photographing some very nice auroras," he continues. "Then, on the way back to the lodge the most amazing corona I have ever seen appeared and danced overhead for about five minutes. Some of our guests were in tears and others were overcome with laughter and joy. Tonight will be a night that I never forget!"

    NOAA forecasters estimate a 40% chance of polar geomagnetic storms on March 4th as Earth exits the solar wind stream. Arctic sky watchers should remain alert for auroras.

    SpaceWeather.com -- News and information about meteor showers, solar flares, auroras, and near-Earth asteroids
     
  19. Falkman

    Falkman พลังจิตนานาชาติ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    19,726
    ค่าพลัง:
    +77,791
    [​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  20. มะลิดำ

    มะลิดำ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 เมษายน 2012
    โพสต์:
    147
    ค่าพลัง:
    +588
    ขอบคุณคุณ falkman ภาพสวยดี แต่ดูน่ากลัว จินตนาการเป็นเหมือนนางพญาอะไรสักอย่างในหนังจีนกำลังภายในที่กำลังจะปล่อยพลังทำลายโลก...(อิ อิ อย่าจริงจัง!)
     

แชร์หน้านี้

Loading...