ประเทศไทยจะเกิดอุบัติภัยอย่างที่ทำนายกันจริงๆหรือไม่

ดุตามคำทำนาย? ภัยพระเพลิงแค่ต้นปีวอดไปอื้อ!!!​

​

เริ่มเข้าสู่ปีใหม่ 2556 มาได้ไม่ทันไร ดูเหมือน ’ภัยพระเพลิง“ ภัยจากไฟ ในปีนี้มีแวว ’ดุตามคำทำนาย“ ของหลายหมอดู ซึ่งไม่นับรวมเหตุที่ไม่เป็นข่าว ว่ากันเฉพาะที่เป็นข่าวใหญ่ ๆ ต้นปีนี้ก็มีหลายเหตุแล้ว

เช่น...1 ม.ค. รับปีใหม่ ที่ระยอง ร้านอาหาร ริมหาดดังกว่า 10 ร้าน ตู้เอทีเอ็ม 2 ธนาคาร 2 ตู้ ถูกไฟไหม้เสียหายหมด ถังแก๊สระเบิดตูมตาม หนีตายกันอลหม่าน เบื้องต้นสันนิษฐานว่าต้นเพลิงเกิดจากการจุดพลุฉลองเคานท์ดาวน์,

5 ม.ค. ที่เพชรบูรณ์ โรงสี แห่งหนึ่ง ซึ่งเก็บข้าวเปลือกรับจำนำด้วย เกิดไฟไหม้ รวมความเสียหายกว่า 20 ล้านบาท เบื้องต้นสันนิษฐานว่าเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร,

7 ม.ค. ที่ราชบุรี โรงงานย้อมผ้า แห่งหนึ่ง เกิดไฟไหม้ เบื้องต้นคาดว่าความเสียหายน่าจะกว่า 10 ล้านบาท,

8 ม.ค. ย่านดินแดง กรุงเทพฯ บ้านประมาณ 30-40 หลัง ย่านชุมชนซอยบุญชูศรี ถูกไฟไหม้วอดวาย มีผู้เดือดร้อนสิ้นเนื้อประดาตัวจำนวนมาก,

10 ม.ค. ย่านถนนศรีวรา กรุงเทพฯ ร้านอาหาร ของคู่รักนักร้อง-ดาราดังคู่หนึ่ง บริเวณห้างแห่งหนึ่ง ถูกไฟไหม้เสียหายทั้งร้าน และร้านข้างเคียงก็ถูกไฟไหม้ด้วย 2 ร้าน เบื้องต้นคาดว่าความเสียหายรวมอาจจะมากกว่า 10 ล้านบาท และในวันเดียวกันนี้ ที่สมุทรปราการ ร้านอาหาร อีกแห่งหนึ่ง ย่านถนนศรีนครินทร์ ก็ถูกไฟไหม้ ค่าเสียหายเบื้องต้นคาดว่าไม่ต่ำกว่า 5 ล้านบาท,

11 ม.ค. ที่พิษณุโลก กุฏิพระ วัดบ้านป่าดอนทอง ก็เกิดไฟไหม้เสียหายไปไม่ต่ำกว่า 1 แสนบาท สาเหตุเบื้องต้นคาดว่าเพราะไฟฟ้าลัดวงจร และในวันเดียวกันนี้ ที่สมุทรปราการ อู่รถเมล์ ย่านถนนบางนาตราด ก็เกิดไฟไหม้ รถเมล์วอดวายไป 6 คัน,

12 ม.ค. ที่ราชบุรี เตาเผาโอ่งมังกร ของโรงงานปั้นโอ่งแห่งหนึ่ง ก็เกิดไฟไหม้ ซึ่งความเสียหายรวมคาดว่าประมาณ 1 ล้านบาท

นี่แค่ตัวอย่างบางส่วน แค่ 12 วันแรกของปีนี้ ทั้งนี้ ปี 2556 นี้ มีหมอดูทายทักเตือนภัยไฟกันไว้หลายคน-หลายแบบ เช่น...อ.เก่งกาจ จงใจพระ ประธานสถาบันโหราศาสตร์เก่งกาจพยากรณ์ ก็เตือนเกี่ยวกับเรื่องพิบัติภัย ผ่านทาง “สกู๊ปหน้า 1 เดลินิวส์” ไว้บางช่วงบางตอนว่า...’ช่วงเดือน ม.ค.-มี.ค. 2556 ในไทยต้องระวังอัคคีภัย“ โดย อ.เก่งกาจได้เน้นที่ ’ตามย่านชุมชน ศูนย์การค้า ย่านอุตสาหกรรม“ รวมถึงให้ระวัง ’ไฟไหม้ที่จะเกิดจากภาวะภัยแล้งจัด“ ด้วย

ด้านประธานสถาบันค้นคว้าวิชาการฮวงจุ้ย (ประเทศไทย) อ.มาศ เคหาสน์ธรรม ก็พยากรณ์ภัยไฟผ่าน “สกู๊ปหน้า 1 เดลินิวส์” ไว้เช่นกัน ซึ่งแม้จะระบุว่าปีนี้ภัยใหญ่ยังคงไม่พ้นที่จะเกี่ยวกับน้ำขนาดใหญ่ แต่ก็มีการเตือนให้ ระวัง ’ไฟป่าครั้งใหญ่-ไฟร้อนแรงยากจะดับ-ไฟไหม้ครั้งใหญ่-เหล็กเกิดไฟลุกท่วม“ ไว้ในหลายช่วงเดือน และ อ.มาศ ก็ยังชี้ด้วยว่า ปีนี้มีพลังธาตุน้ำอยู่บนฐานธาตุไฟ มีชุดพลังธาตุน้ำที่มาพร้อมไฟ

สำหรับใครที่อาจไม่ได้สนใจ ไม่เชื่อการทำนายตามหลักโหราศาสตร์ กับ “ภัยไฟ” นี้ในทางวิทยาศาสตร์ ทางหน่วยงานที่มีหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับการป้องกันภัยต่าง ๆ อย่างกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ก็มีการย้ำเตือนประชาชนอยู่ประจำ โดยเฉพาะในช่วงปลายปีถึงต้นปีที่ “อากาศแห้ง-อากาศแล้ง” ซึ่งเกิดไฟไหม้ได้ง่าย

ถ้าถามว่า...ไม่ประมาท-มีมาตรการป้องกัน กับภัยพระเพลิง-อัคคีภัย-ภัยไฟ ต้องแบบไหน? คำตอบโดยสรุปก็มีราว 5 ข้อหลัก ๆ คือ...

1.จัดระเบียบภายใน-ภายนอกบ้านหรืออาคาร เช่น ขจัดสิ่งรกรุงรัง เก็บรักษาสิ่งที่อาจเป็นต้นเหตุให้เกิดไฟไหม้ได้ง่ายไว้เป็นสัดส่วน,

2.ตรวจตราซ่อมบำรุงสิ่งที่นำมาใช้ในบ้านหรืออาคาร เช่น สายไฟฟ้า เครื่องจักรกล เครื่องทำความร้อน ฯลฯ ให้อยู่ในสภาพที่สมบูรณ์และปลอดภัยอยู่เสมอ

3. เคร่งครัดกับข้อควรระวังต่าง ๆ อาทิ ดูแลไม่ให้เด็กเล่นไฟ ไม่จุดธูปเทียนบูชาพระทิ้งไว้ ไม่วางบุหรี่ทิ้งไว้หรือสูบบุหรี่บนที่นอน ระวังกาต้มน้ำไฟฟ้าไม่ให้น้ำแห้ง ไม่เปิดพัดลมข้ามวันข้ามคืน ไม่ลืมปิดทีวี ถอดปลั๊กเครื่องไฟฟ้าก่อนออกจากบ้าน ไม่วางเครื่องไฟฟ้า เช่น ทีวี ตู้เย็น ติดผนังเกินไปจนทำให้เครื่องร้อนจัดง่าย ไม่หมกผ้าขี้ริ้ว เศษกระดาษ ไม้กวาด ไว้หลังตู้เย็น เพราะอาจคุติดไฟ ไม่ใช้อุปกรณ์ไฟฟ้าที่ไม่ได้มาตรฐานหรือของปลอมแปลง ไม่จุดไฟเผาขยะหรือหญ้าแห้งโดยไม่มีคนดูแล หุงต้มเสร็จแล้วต้องดับไฟให้สนิท ปิดวาล์วแก๊ส ไม่ใช้สิ่งของติดไฟง่าย เช่น สเปรย์ต่าง ๆ ใกล้เปลวไฟ จัดเก็บสิ่งของไวไฟให้ห่างจากแหล่งกำเนิดไฟ ฯลฯ

4. มีอุปกรณ์ เช่น ถังดับเพลิง ภาชนะใส่น้ำ จัดเตรียมไว้ เผื่อกรณีฉุกเฉิน และที่สำคัญต้องรู้วิธีการดับไฟที่ถูกต้องด้วย,

5.ร่วมมือ ปฏิบัติตามคำแนะนำเกี่ยวกับความปลอดภัยจากอัคคีภัย อย่างเคร่งครัด

ทั้งนี้ กับเรื่องภัยไฟไหม้นี้ ทางสมาคมวิศวกรรมสถานฯ ก็ได้ศึกษาในพื้นที่กรุงเทพฯ พบว่า มีอาคาร บ้านเรือน กว่า 80% เสี่ยงอันตรายจากไฟไหม้ เพราะไม่มีการติดตั้งอุปกรณ์ดับเพลิง ไม่ดูแลเครื่องใช้ไฟฟ้าให้อยู่ในสภาพปลอดภัย และสายไฟเก่าชำรุด ซึ่งสามารถทำให้เกิดไฟไหม้ได้ง่าย ๆ จากการที่กระแสไฟฟ้าลัดวงจร

สิ่งควรทำ มาตรการต่าง ๆ เกี่ยวกับการ ’ป้องกันภัยไฟ“ ดังที่ว่ามาข้างต้น ไม่ว่าจะคนจน คนรวย จะเป็นบ้านเรือนอยู่อาศัย เป็นสถานประกอบการใด ๆ ก็ล้วน ’สำคัญ“ ล้วนแล้วแต่ ’ต้องใส่ใจ“ ไม่ว่าจะมองจากศาสตร์ไหน ’ภัยไฟปีนี้ดุอีกแล้ว“

’อย่าประมาท“ มิฉะนั้นอาจ ’หมดตัว-ถึงตาย!!!!!“.

ที่มา "ดุอีก"ดังคำทำนาย?"ภัยพระเพลิง"แค่ต้นปี"วอดไปอื้อ!" | เดลินิวส์

 

จับตาปี 2556 "ดวงสังคมไทย"ฟังๆไว้..ให้กลัวกรรม!!!​

​

ปี 2555 ก็ผ่านเลยไป เข้าสู่ปีใหม่ 2556 ซึ่งกับปรากฏการณ์ “สังคมไทย” ในยุคปัจจุบันก็นับว่ามีเรื่องราวในส่วนที่น่าจับตาที่ต้องระวังอยู่ไม่น้อย ขณะที่ในทางโหราศาสตร์กับการทำนายดวงเมืองก็มีการ ’พยากรณ์ความเป็นไปในสังคมไทยในปี 2556 ที่น่าจับตา-ที่ต้องระวัง“ ด้วยเช่นกัน...

’ฟังไว้ใช่ว่า“ ก็ไม่น่าจะเสียหายอะไร…!!!

ทั้งนี้ กับ “สังคมไทยในปี 2556” นั้น ถ้าดูกันตามหลักโหราศาสตร์แบบจีน ทาง อ.มาศ เคหาสน์ธรรม ประธานสถาบันค้นคว้าวิชาการฮวงจุ้ย (ประเทศไทย) ชี้ไว้เป็นรายเดือน ดังนี้คือ...เดือน ม.ค. เรื่องเด่นที่มีเกณฑ์จะเกิดขึ้นคือ ผู้ที่เป็นหญิงจะรับภาระหนัก ชื่อเสียงเสียหาย, เดือน ก.พ. เรื่องสำคัญคือ ศูนย์กลางของประเทศจะเกิดเรื่องวิบัติรุนแรง ขณะที่ทางตะวันออกต้องระวังการทะเลาะวิวาทใหญ่โต, เดือน มี.ค. ในภาพรวมของสังคมไทยก็ต้องระวังเรื่องการทะเลาะวิวาท, เดือน เม.ย. ในภาพรวมต้องระวังเรื่องยาเสพติดมากยิ่งขึ้น

เดือน พ.ค. ในสังคมไทยผู้ที่เป็นหญิงจะมีเสน่ห์โดดเด่นในการสานสายสัมพันธ์ในสังคม คนหนุ่มได้รับความไว้วางใจจากผู้ใหญ่ดี แต่เด็กจะก้าวร้าวทะเลาะกับผู้ใหญ่, เดือน มิ.ย. สังคมไทยทางเหนือระวังเรื่องการวิวาทแย่งชิงให้มาก ขณะที่ตะวันออกต้องระวังทั้งการทะเลาะและภัยโจรปล้นทำลาย, เดือน ก.ค. ทางเหนือเรื่องวิวาทแย่งชิงยังแรง ขณะที่ตะวันตกต้องระวังการปล้นแย่งชิงให้มาก, เดือน ส.ค. ตะวันออกยังหนักเรื่องวิวาท

เดือน ก.ย. ในภาพรวมสังคมไทยจะมีเรื่องมงคลน่าชื่นใจ แต่ทางตะวันตกเฉียงเหนือผู้ที่เป็นหญิงระวังเกิดเหตุโลหะทำลาย ทางตะวันออกระวังเกิดการทะเลาะ ปะทะรุนแรง, เดือน ต.ค. ในสังคมไทยช่วงนี้ผู้ที่เป็นผู้หญิงจะรับภาระหนัก ในภาพรวมก็ต้องระวังเรื่องเกี่ยวกับน้ำเป็นต้นเหตุทะเลาะวิวาท, เดือน พ.ย. ด้านวิชาการในสังคมไทยจะโดดเด่น แต่เด็กมักไม่เชื่อฟังผู้ใหญ่ โดยเฉพาะทางใต้ และ เดือน ธ.ค. อ.มาศ เคหาสน์ธรรม ประธานสถาบันค้นคว้าวิชาการฮวงจุ้ยฯ ชี้เน้นทางตะวันตกว่าระวังเรื่องวิวาท เสียทรัพย์ โจรขโมยชุกชุม นี่คือเรื่องน่าจับตา-ต้องระวัง...แบบรายเดือน

ทางด้าน อ.ภาณุวัฒน์ พันธุ์วิชาติกุล ประธานสถาบันศาสตร์แห่งชีวิตแห่งประเทศไทย ทายทัก “ดวงสังคมไทยในปี 2556” ในภาพรวมโดยบอกว่า...ปี 2556 จะเปลี่ยนจากปีนักษัตรมะโรง-งูใหญ่หรือมังกร เป็น “ปีมะเส็ง-งูเล็ก” ตั้งแต่หลังตรุษจีนไปแล้ว ซึ่งจะเป็นปีนักษัตรมะเส็ง ธาตุน้ำ ที่ไม่เกื้อหนุนกับปีนักษัตรขาลที่เป็นดวงเมืองของประเทศไทยที่ตั้งขึ้นเมื่อปี 2325 ที่เป็นปีนักษัตรขาล ธาตุน้ำ จึงส่งผลให้สภาวการณ์โดยทั่วไปของประเทศไทยในปี 2556 ซึ่งรวมถึง ด้านสังคมจะค่อย ๆ เริ่มมีปัญหาสับสนวุ่นวายขึ้นเรื่อย ๆ จะมีการผันผวนผันแปร หรืออาจถึงขั้นมีการเปลี่ยนแปลงในบางเรื่องบางราวชนิดที่ทุกคนคาดไม่ถึง

จะเป็นปีที่ สังคมไทยมีโอกาสเกิดความหงุดหงิดขัดแย้ง ซึ่งมีทั้งเฉพาะบุคคล และเป็นกลุ่มเป็นคณะ ต้องระวังเรื่องการกระทบกระทั่ง กระแทกแดกดัน หักเล่ห์ชิงเหลี่ยม ชิงไหวชิงพริบ ช่วงชิงผลประโยชน์ ชิงจังหวะการได้เปรียบ โดยไม่มีการเอื้อน้ำใจต่อกัน จะ เป็นปีแห่งการฉกฉวย ช่วงชิงโอกาสในสังคม หักหลัง แว้งฉกกัดกัน กลืนกินกันเพื่อครองอำนาจ เพื่อความอยู่รอดของครอบครัวและของตัวเอง โดยไม่นึกถึงน้ำใจ ไม่มองถึงคุณธรรมความถูกต้องชอบธรรม ไม่มองหน้าอินทร์หน้าพรหม ไม่เห็นแก่หน้าใคร ๆ ทั้งสิ้น

อ.ภาณุวัฒน์ ทายทักสังคมไทยปี 2556 ไว้อีกว่า... สังคมของวัยรุ่นไทยที่ยังด้อยวุฒิภาวะ ก็ยิ่งต้องจับตาการหลงระเริงคล้อยตามแรงชักจูงที่ดึงไปสู่วงจรที่ไม่ดี หรือวงจรอุบาทว์ ไม่ว่าจะจากกลุ่มเพื่อนฝูง หรือจากการโฆษณาชวนเชื่อที่ดึงไปสู่เป้าหมายด้านผลประโยชน์ของนักลงทุน โดยไม่เห็นแก่ศีลธรรมหรือไม่มีคุณธรรม

ระวังเยาวชนถูกมอมเมาให้ลุ่มหลงอบายมุขจนเสียคน

ไม่ว่าจะด้วย แสงสีเสียง สุรายาเมา ยาเสพติด หรือแม้กระทั่งการพนัน ที่ยิ่งเป็นที่แพร่หลายจนยิ่งน่าเป็นห่วงเยาวชนและประชาชนคนไทยที่ไม่สามารถจะควบคุมจิตใจตัวเองได้ จนต้องตกลงไปในบ่วงของอบายมุขทั้งหลาย ทำให้ มีการแตกแยกในครอบครัว ญาติพี่น้อง และกลุ่มเพื่อนฝูง มากขึ้นไปเรื่อย ๆ

และเมื่อเยาวชนถูกมอมเมาแล้ว เหล่าเสือสิงห์กระทิงแรด บรรดาเฒ่าหัวงู พวก ’มือถือสาก ปากถือศีล“ ก็จะลงรุมตีกินโดยไม่เห็นแก่คุณธรรม จนทำให้สังคมมีความเสื่อมโทรมมากขึ้น กว่าที่ผ่านมา

ทั้งนี้ ทางประธานสถาบันศาสตร์แห่งชีวิตฯ ยังบอกไว้ด้วยว่า... เพื่อที่จะบรรเทาผลกระทบจากภาวะสังคมดังที่ว่ามา ทางหนึ่งก็คือ เลือกคนที่จะคบค้าสมาคมด้วยให้ถ้วนถี่ เลือกลูกน้องบริวารที่จะใช้ให้ดีว่าไว้วางใจได้หรือไม่?? จะได้ไม่ต้องมาเสียใจภายหลัง กับยุคที่สังคมไทยยิ่งเป็นยุค ’ปากปราศรัย น้ำใจเชือดคอ“ ผู้คนเห็นแก่ตัวมากขึ้นไปเรื่อย ๆ ยุคที่แทบจะเรียกได้ว่า ’กระเบื้องจะเฟื่องฟูลอย น้ำเต้าน้อยจะถดถอยจมลง“

คำทายทัก ’สังคมไทย ปี 2556“ ดูแล้วก็น่ากังวล...แต่…มีคำทำนายด้วยว่า...’จะเป็นยุคที่กรรมจะติดจรวด“ กรรม...จะตอบสนองการกระทำอย่างรวดเร็ว!!!“.

ที่มา จับตา"ปี2556"ยิ่งเละ"ดวงสังคมไทย"ฟังๆไว้..ให้กลัวกรรม! | เดลินิวส์

 

ก็กระทู้ ภัยพิบัติ นี่ครับ จะจริงจะฝัน ก็เอามาหมด แต่ถ้าฟันธงกับขายอะไร ก็โดนหนักหน่อย สำคัญที่ปัญญา / วิจารณาญาณของเราเท่านั้น

 

การแจ้งภัยพิบัติก้อดีนะ

แต่เท่าที่เห็นบางกระทู้ก้อ ออกแนวมาขายของ อะไรก้อไม่รู้ เฮ้อ พิจารณาเอาเถิดพี่น้อง

 

ขอบคุณที่ติดตามมาให้ดูกันนะ เรื่องการลงทุนตรงมากๆ

 

---------

ขอบคุณ คุณเกษมครับที่รวบรวมภัยพิบัติให้อ่านกัน จะได้เห็นว่ามันเริ่มเกิดแล้วจริงๆ คนที่ยังไม่แน่ใจจะได้เตรียมตัวและอาจเริ่มปฎิบัติธรรมกันให้มากขึ้น

โมทนาครับ

 

16 ม.ค. 56 เที่ยงธรรม

ถ้าคน มีใจ ใฝ่ธรรม
ติดตาม บทความ เรื่อยมา
ทุกท่าน ก็จะ พบว่า
ที่ว่า เอาไว้ เป็นจริง

บ้างดู บ้างหยุด สะดุด
กลับผลุด วาจา ปรามาส
คิดว่า เรื่องลง นั้นวาด
เพราะขาด การเอา ใจใส่

เปรียบเหมือน หูหนวก อวดบอด
ช้ำชอก เพราะปิด ดวงใจ
ไม่เห็น คุณค่า ของใคร
หัวใจ จึงปิด สนิท

มหาประชาบดี ๙๗

 

2 โหรดังผ่าดวงนายกฯ ยิ่งลักษณ์ !!!​

​

ภิญโญ พงศ์เจริญ
นายกสมาคมโหราศาสตร์นานาชาติ

จากดวงชะตา น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นั้นเกิดวันที่ 21 มิ.ย. 2510 เวลา 18.00 น. เศษ ที่ จ.เชียงใหม่ ตรงกับวันพุธ ขึ้น 14 ค่ำเดือน 7 ปีมะแม ลัคนาอยู่ราศีพิจิก รูปแมงป่อง มีดาวจันทร์กุมลัคนา ดาวประจำราศีเกิดเป็นดาวพระอังคาร โดยพระอังคาร ได้มาตรฐานเป็นมหาจักรแปลว่าโลดโผน ไปอยู่ในเรือนที่ดี คือเรือนลาภะแปลว่าโชคลาภ ความสำเร็จ ยังกุมพระเกต เล็งดาวเสาร์ซึ่งเป็นดาวคู่อุบัติเหตุ ทำให้ต้องระมัดระวังเรื่องอุบัติเหตุให้มาก ๆ ด้วย ในดวงของนายกฯ ยิ่งลักษณ์ มีดาวมาตรฐานอยู่หลายองค์ มีพระราหูได้สองมาตรฐานเป็นดาวยงยศ พระราหูสถิตราศีเมฆ มีมาตรฐานบุญสุระ

แปลว่ามีบุญและกล้าหาญ ได้มาตรฐานเรียกว่าปกิณกะโชค หมายถึงมีโชคบ่อย ๆ บุญสุระมีบุญกล้า ยงยศมียศตำแหน่ง ลัคนากุมดาวจันทร์มีจริตจะก้าน มีมายาจริต ดาวจันทร์เป็นมนตรีกุมลัคนากำเนิด ทำให้มีคนอุปถัมภ์ มีผู้ใหญ่ เมตตาช่วยเหลือทำให้มีที่พึ่ง แต่ดาวประจำตัวพระอังคารจริง ๆ เป็นดาวกาลกินี ชีวิตครอบครัวไม่เรียบร้อย เพราะดาวประจำตัวเป็นดาวกาลกินี แต่ในแง่ดีในดวงชะตามีดาวพระพฤหัสเป็นมหาอุจ แปลว่าสูงส่ง ยังกุมดาวพระศุกร์ ได้มาตรฐานเป็นราชาโชค ทำให้มีความรู้ และมีทรัพย์สินเงินทอง แต่เรือนที่อยู่ในภพมรณะ ดังนั้นการแสดงความรู้วิชาการมักแสดงออกในรูปมรณะ ไม่เหมือนคนอื่นคือเมื่อแสดงออกมีแต่อยู่ในภพที่เสีย

ช่วงต้น ๆ ปีดาวพฤหัส เล็งลัคนาพระจันทร์ ถือว่าดวงชะตายังดีอยู่ จะดีไปจนถึงวันที่ 29 พ.ค. 56 หลังจากนั้นดาวพฤหัสย้ายเข้าราศีสู่ราศีมิถุนซึ่งเป็นภพมรณะ เพราะฉะนั้นผู้หลักผู้ใหญ่หรือคนให้การสนับสนุนคอยให้การช่วยเหลือเปลี่ยนท่าทีไม่ให้ความช่วยเหลืออย่างเปิดเผยเหมือนแต่ก่อน ความยุ่งยากเกิดจากท่าทีผู้ใหญ่เปลี่ยนแปลงไป ส่งผลเรื่องการสนับสนุนรวมไปถึงเกิดปัญหากับพรรคร่วมรัฐบาล ระหว่างวันที่ 4 มี.ค. ถึง 13 เม.ย. 56 เป็นอุบัติเหตุทางการเมืองแตกหักเสียหายทั้งเรื่องส่วนตัวเกิดการหย่าร้าง ถ้ามาดูตามดวงเมืองไม่เกินช่วงที่ราหูอยู่ตรงราศีตุลย์ เริ่มตั้งแต่ 10 ธ.ค. 55 ถึง 30 มิ.ย. 57 อันเนื่องจากดาวราหูเล็งลัคนาดวงเมืองช่วง 31 มี.ค. 56

และเล็งพระอาทิตย์ ในดาวเมือง จนถึงวันที่ 9 ธ.ค. 56 เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญทางการเมืองน่าจะเกิดขึ้นแถวเดือนปลาย เม.ย. 56 และ พ.ค. 56 จนถึงปลายปี ทำให้ดวงนายกฯ ยิ่งลักษณ์ ผ่านไปไม่ได้ เมื่อราหูโคจรอยู่ในราศีตุลย์ เกิดการเปลี่ยนแปลงบ้านเมืองทุกครั้งในอดีตที่ผ่านมาทุก 18 ปี ในครั้งนี้ราหูไม่ได้อยู่องค์เดียวยังกุมดาวเสาร์ในดวงเมืองอีกด้วย จะนำมาซึ่งการรัฐประหาร ยึดอำนาจ เกิดการพลิกขั้วอำนาจทางการเมืองครั้งใหญ่ทุกครั้ง ซึ่ง พ.ต.ท.ทักษิณ อยู่เบื้องหลัง นายกฯ ยิ่งลักษณ์ ต้องเลือกว่าจะเปลี่ยนแปลงทางการเมืองแบบรุนแรง คือเกิดจราจร ยึดอำนาจ

หรือเลือกที่จะเปลี่ยนแบบสุภาพคือการยุบสภาเพื่อไม่ให้บ้านเมืองบอบช้ำมาก เพราะเมื่อเสาร์ ราหู มาอยู่ราศีตุลย์เกิดการช่วยเหลือกัน จับตานักการเมืองปฏิบัติการบางอย่างในพื้นที่ราศีตุลย์ หมายถึงออกกฎหมาย กติกา ในการปกครองประเทศ ทำให้เกิดเปลี่ยนแปลงในรูปแบบใหม่ มันปะทุเกิดความขัดแย้งรุนแรง เห็นได้จากดาวเสาร์เล็งลัคนาเมืองเรียกว่าดวงเมืองแตกนำไปสู่ความขัดแย้งแตกแยกรุนแรง รวมทั้งน่าห่วงอาจจะเกิดสงครามจากกิจการต่างประเทศความสัมพันธ์ต่างประเทศ เพราะการคึกคักนำมาซึ่งดวงเมืองแตก หมายถึงว่าเกิดความขัดแย้งชนิดรับกันไม่ได้ เกิดการขัดแย้งจนกระทั่งรุนแรง จนกระทั่งต้องใช้มาตรการระหว่างประเทศ ยิ่งขยายตัวภาวการณ์ขัดแย้งตึงเครียดนำไปสู่สงคราม.
................

กิจจา ทวีกุล (หมอนิด)
เจ้าของฉายา หมอทำนายญาณวิเศษ

ในปี พ.ศ. 2556 น.ส.ยิ่งลักษณ์ จะเจอปัญหาต่าง ๆ เข้ามาเยอะมาก คอยจับตาให้ดี ตั้งแต่มีนาคมถึงเมษายน พฤษภาคม จะยุ่งมาก ทั้งปัญหาจากการชุมนุมประท้วงเพราะคนไม่พอใจผลงานรัฐบาลและ ครม. ยังต้องเจอปัญหาเกี่ยวกับทางโรงทางศาล จากกรณีโครงการต่าง ๆ ปัญหาทุจริตคอร์รัปชั่นต่าง ๆ ถึงขนาดทำให้ ครม. ชุดนี้ยุติการบริหารประเทศลงได้ แต่ถ้าตุลาการทำงานช้าไม่รีบตัดสินออกมา ไม่ว่าจะเป็น ป.ป.ช. หรือหน่วยงานอิสระ ประชาชนจะทนไม่ไหว จะเกิดการชุมนุมเกิดขึ้นรุนแรงบานปลาย ถึงขั้นนำคนออกมาปะทะกัน เสื้อแดงออกมาชนกับเสื้อเหลือง การชุมนุมต่อเนื่องระยะยาว มีการเกณฑ์คนเสื้อแดงมาเป็นจำนวนมาก เพื่อปะทะกับฝ่ายตรงข้ามที่จงรักภักดี จนเกิดเป็นสงครามประชาชน

ฉะนั้นปี พ.ศ. 2556 น่ากลัว หากศาลตัดสินเร็ว สงครามประชาชนก็ไม่เกิด พรรคเพื่อไทยจะถูกยุบอีก เหมือนสมัยนายสมัคร นายสมชาย หากปล่อยให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ บริหารประเทศต่อไป ประเทศจะทรุดหนัก มองเรื่องธาตุ ตัว น.ส.ยิ่งลักษณ์นายกฯ เป็นธาตุไฟ แต่ปี พ.ศ. 2556 เป็นธาตุน้ำ เข้ามาเล่นงานธาตุไฟของยิ่งลักษณ์ และ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เกิดปีฉลู น.ส.ยิ่งลักษณ์ เกิดปีมะแม ปีเกิดชงกันปีหน้า เกิดการแข็งข้อขึ้นมาได้

หมายความว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชักจะดื้อขึ้นมาต่อคำสั่ง พ.ต.ท.ทักษิณ เพราะจะมีกุนซือรอบตัวมากขึ้น และในพรรคเพื่อไทยเองจะปั่นป่วน เจอมรสุมทั้งภายในและภายนอกพรรคเพราะไม่ว่าโครงการรับจำนำข้าวก็ดี การจ่ายเงินให้เสื้อแดงที่เสียชีวิต 7.5 ล้านบาทก็ดี มีโอกาสโดนยุบพรรคได้ทั้งนั้น ถ้ากฎหมายทำงานช้า ประชาชนผู้รักความยุติธรรมก็จะต่อต้านชุมนุมประท้วง และคราวนี้ถ้าตำรวจเข้ามาทำรุนแรง เที่ยวนี้จะบานปลายจนเลือดนองท้องช้างอย่างแน่นอน

ดวงเมืองไม่ดีถึงปี พ.ศ. 2558 หมายถึงหากรัฐบาลนี้ไปแล้วยังไม่มีทางพรรคประชาธิปัตย์ จะได้เป็นรัฐบาล เพราะจะมีการล้างนักการเมืองเก่า ๆ ไปเยอะ การเมืองหยุดไปอย่างน้อย 5 ปีไม่มีการเลือกตั้งในปี พ.ศ. 2556 ไม่ต้องรอถึงปลายปี เดือนเมษายน-พฤษภาคม น่าจับตาที่สุด ดวงของผู้หลักผู้ใหญ่หลายคนดวงไม่ดีบ้านเมืองยุ่งไปหมดหนีไม่พ้น บ้านเมืองระส่ำระสาย ดังนั้นจะจัดการให้รัฐบาลนี้กว่าจะลงได้ยากเช่นกันเพราะมีกองกำลังตนเอง ใช้วิธีการโจมตี ก่อวินาศกรรมมีกองกำลังติดอาวุธ ให้ระวังปั๊มนำมัน คลังน้ำมัน สถานที่สำคัญให้ระวังไม่เกิดกรุงเทพฯ ที่เดียว จะเกิดขึ้นหลายจังหวัดมีกองกำลังติดอาวุธไม่ทราบฝ่ายบานปลาย คล้ายกับประเทศไทยเป็นเหมือนกับประเทศตุรกี คนหนีออกจากต่างจังหวัด

เกิดกักตุนอาหาร ร้านค้าโดนปล้น กลียุคเกิดขึ้นในบ้านเมืองหากทหารออกมาช้าบ้านเมืองยิ่งพังพินาศจะมีคนบางตระกูลออกจากประเทศไทยหากชุมนุมยืดเยื้อให้สังเกตว่าถ้านายกฯ ออกประเทศให้ระวัง พวกแกนนำแดงจะติดคุกในปี 56 ถือเป็นงานล้างป่าช้า ขุดรากถอนโคนกันแล้วคราวนี้ ครั้งนี้จะใหญ่กว่าปี 53 เป็นร้อยเท่า ครั้งนี้เป็นสงครามครั้งสุดท้ายจริง ๆ ของประเทศตั้งแต่มีกรุงเทพฯ มาก็ว่าได้ จะถึงขั้นแตกหัก คนไทยแตกแยกกันรบกันจนต้องจารึกไว้ในประวัติศาสตร์ ส่วนปี พ.ศ. 2558 ระวังบุคคลสำคัญจะสูญเสียและเกิดการแก่งแย่งกันระหว่างคนมีสีและคนมีอำนาจกันแต่ความวุ่นวายจะจบลงภายใน 3-6 เดือน ต่อจากนั้นบ้านเมืองเข้ารูปเข้ารอยและได้คนดีมาปกครองประเทศ.

ที่มา 2 โหรดังผ่าดวงนายกฯ ยิ่งลักษณ์ | เดลินิวส์

 

สัญญาณฟ้าเตือนภัยพิบัติ !!!​

pungkopink สมาชิก

อาจารย์คะ พระจันทร์คืนนี้ยังไงไม่รู้ สีแดงส้มๆคล้ำๆ (ไม่อยากจะคิดว่าออกเป็นสีเลือด) เหลือเพียงเสี้ยวเล็กมากๆ เคลื่อนตัวเร็วมากด้วยคะ แป๊บเดียวคล้อยต่ำลงแล้ว เห็นแล้วรู้สึกหดหู่มาก ที่เห็นอย่างนี้คืออะไรอะคะ ไม่ทราบมีใครเห็นเหมือนกันบ้างรึเปล่า??

17-01-2013, 03:06 PM

ฮั้วโต๋ สมาชิก

..เป็นสัญญาณเตือนที่ไม่ดี มีอันตรายยิ่ง.อาจารย์เพิ่งกลับลงมาจากข้างบน.โลกมนุษย์มีเหตุเสียแล้ว.สีแดงส้ม ๆ จากพระจันทร์คือ.สีเลือดครับ.มีการตายหมู่.พึงระมัดระวังอย่าประมาทโดยเด็ดขาด.ในช่วง 2-3 วันนี้ครับ. อาจารย์เพิ่งกลับลงมายังอึ้งกิมกี่อยู่เลย.พูดยังไม่ออก.ขอเลี้ยงกำลังใจอีกสักหน่อย.เพราะเร็วมาก ตั้งรับแทบไม่ทัน..

เจริญในธรรม มีพระพุทธเจ้าในจิตให้มาก ๆ

17-01-2013, 03:18 PM

pungkopink สมาชิก

ไม่ถึง5นาที มองไม่เห็นพระจันทร์แล้วคะ ทั้งๆที่ตอนหัวค่ำเสี้ยวพระจันทร์ขนาดใหญ่กว่าที่เห็นเมื่อกี้และมีสีเหลืองนวลสวยอยู่เลยอยู่กลางท้องฟ้า แล้วไหงเวลานี้คล้อยต่ำลงจนมองไม่เห็นเสียแล้ว เห็นแบบนั้น วิ่งมาหาอาจารย์ก่อนเลย แหะๆๆ หลายคืนมานี้ท้องฟ้าสีน่ากลัวมาก สีออกส้มๆตลอดเลย จะว่าเป็นแสงสีส้มจากไฟถนนก็ไม่น่าจะใช่นะคะ

17-01-2013, 03:26 PM

ฮั้วโต๋ สมาชิก

..ครับ..เข้าใจถูกต้องแล้ว.ความรู้สึกที่สัมผัสบอกถึงความวังเวงและหดหู่.นั่นคือ..มหันตภัย.ในการปรับสมดุลย์ธรรมธาตุ.เริ่มต้นขึ้นแบบรวดเร็วมาก. อันตราย.กำลังใกล้เข้ามา.อาจารย์ไปเห็นภาพในการทำลายมา.เมื่อสักครู่ที่ผ่านมา.เวลานี้ยังรู้สึกผะอืดผะอมอยู่เลย.น่ากลัวและสยดสยองยิ่งนัก.ขอให้ติดตามข่าวของบ้านเมืองประกอบด้วยยิ่งดี..

..อีกประการนึง.สัญญาณนี้ยังหมายถึง."อริยะ"หลาย ๆ ท่าน.ตัดสินใจที่จะกลับ.(ละขันธ์)กันเป็นจำนวนมาก.ความเคว้งคว้าง.เหมือนเรือขาดกัปตัน.ก็กำลังจู่โจมในหัวใจของเราแต่ละคน.เตรียมใจให้พร้อมต้อนรับ.ให้ดีๆ มีกำลังใจที่เต็มล้นไว้ให้มากๆ ครับ..เช้าๆ ของวันใหม่มาว่ากันอีกหน.อาจารย์ต้องกลับขึ้นไปข้างบนอีกครับ...(อริยะกิจลับ)แล้วจะมาแจ้งผลว่าเป็นอย่างไรต่อไป.

เจริญในธรรม มีพระพุทธเจ้าในจิตให้มาก ๆ

ที่มา http://palungjit.org/threads/สัญญาณฟ้าเตือนภัยพิบัติ.294356/page-543

 

มีผู้ส่งข่าวจากทางวัดว่า ท่านเทศน์ว่าคล้ายๆว่าภัยจะเกิดขึ้น ขอให้ทุกคนเตรียมใจ
ซึ่งไมทราบว่าภัยอะไร ยังไม่มีใครไปถามท่าน
แต่ตอนนี้ภัยจากเชื้อปอดอักเสบ มีคนรอบข้างไอกันเยอะมาก
ตอนปีใหม่ฉุกคิดว่า พระลูกศิษย์ท่านที่เจริญสติอยู่ท่านพูดว่า "ปิดเทอมหน้าหนาว"
ในใจคิดว่าปิดเทอมหน้ามันหน้าร้อนนะ ท่านไม่น่าพูดผิด
ดร.วรภัทร บอกว่าต่อไปไทยจะอุณหภูมิ 16-17 c เท่าเกาหลี
ไม่รู้ว่าสอดคล้องกันรึเปล่า

 

เริ่มจากสภาพอากาศ ที่จะได้อยู่เย็นแน่นอน (พร้อมรับ)

 

อย่าใส่อารมณ์ครับ....พิจารณากันด้วยเหตุผล และสติ ตามหลักพระพุทธศาสนา ดีก็พร้อมรับ ไม่ดีก็หาทางป้องกัน แก้ไข แต่อย่าปล่อยให้สาย แล้วมาแก้จะดีกว่านะครับ ผมไม่เชื่อแน่นอนว่า ทุกอย่างมีทางแก้ไขนะ มีแต่หมกปัญหาเสียมากกว่า ทุกวันนี้เพราะการหมกปัญหา ทำให้แก้ไขได้ยาก เพราะปัจจัยแวดล้อมมากมายเข้ามา ทางที่ดีป้องกันไว้ก่อนน่าจะดีกว่านะครับ แต่ไม่ได้ให้เครียดหรือฟุ้งซ่านจนทำงานทำการไม่ได้นะครับ....ทางสายกลางครับ ทางสายกลาง

ปัญหาที่จะเกิดขึ้นนะไม่ใช่แค่ภัยธรรมชาติอย่างเดียว ปัญหาอันเกิดจากคนก็มีด้วยเช่นกันครับ

 

ทั้งปี 2556 และทั่วโลกก็ไม่ต่ำกว่า 250 ล้านคนครับ !!!​

​

ฮั้วโต๋ สมาชิก

..ใน"อริยกิจลับ"ของเมื่อคืนที่ผ่านมา.จะนำมาบอกกล่าวให้ทราบกันเฉพาะส่วนที่ได้รับอนุญาตให้เปิดเผยได้เท่านั้น.คือ.

1.มีบางพื้นที่.ที่ถูกทำลายไปด้วยลมพายุและน้ำ.หลายคนไม่มีที่อยู่อาศัย.
2.มีบางพื้นที่.มีพระพุทธรูปถูกทำลาย.แตกหักมากมาย.ทั้งเล็กและใหญ่.สร้างเพิ่มมามากจนล้นเมือง.และเต็มพื้นที่.จึงถูกทำลายไป.
3.ผู้คนโกลาหล-อลหม่านแตกตื่นตกใจเป็นจำนวนมาก.เพราะเหตุนั้นมากลางคืนดึก ๆ.
4.มีคนเจ็บมาก-ตายน้อย.
5.เดียรถีย์.ไม่รอดครับดูเอาว่าเป็นที่ใด..
เจริญในธรรม มีพระพุทธเจ้าในจิตให้มาก ๆ

anirutpae สมาชิก

การณ์ปรับสมดุลธรรมชาติในปี 2556 นี้จะมีคนตายถึงหลัก 100 ล้านคน ไหมครับอาจาย์? ตลอดทั้งปีและทั่วโลกนะครับ...

ฮั้วโต๋ สมาชิก

..ครับ..ถ้าทั้งปีและทั่วโลกก็ไม่ต่ำกว่า 250 ล้านคนครับ.

..ในส่วนตรงจุดนี้มาช่วยกันคิดครับ....
1.ระเบิด 1 ครั้ง ต่อ 200.
2.ระเบิด 10 ครั้ง ต่อ 800.
3.ระเบิด 3 ครั้ง ต่อ 600-800..

....มาช่วยกันคิดในปริศนานี้กันครับ..อาจารย์เห็นในภาพนี้มา 3 วันติดกันและวิปัสนาในความหมายของปริศนานี้แล้วครับ..

เจริญในธรรม มีพระพุทธเจ้าในจิตให้มาก ๆ

..ภาคอิสาน.ทั่วทุกจังหวัดยังพบกับปัญหา"ภัยแล้ง"และจะทวีความรุนแรงมากขึ้น ๆ.และภาคเหนือก็ไม่ยอมน้อยหน้า.แถมขยายวงกว้างออกไป.นั่นแหละเรียนรู้จากชีวิตจริง ๆ.

เมื่อเข้าขั้นที่วิกฤตก็ยังมีความหวังว่า."หนึ่งองค์"ที่มาพร้อมด้วย"บุญญฤทธิ์-อภิญญา".มาช่วยได้ทันการ.มาพร้อมความสงบสุขและความอุดมสมบูรณ์.แต่ก่อนจะถึงเวลานั้น ก็มาเพื่อทำลายในสิ่งที่ไม่เป็นธรรมชาติ.มาเพื่อปฏิรูปปรับสมดุลย์ก่อน.ในช่วงเวลาของการปฏิรูปปรับสมดุลย์.ขอให้ทุก ๆ ท่านมีความอดทน.ฟันฝ่าให้ผ่านพ้นไปได้ด้วยกำลังใจที่ดีพร้อม..เตรียมรองรับความสงบสุข ความอุดมสมบูรณ์.เป็นทรัพย์ในดิน สินในน้ำ.ในแผ่นดินธรรม แผ่นดินทองครับ..ใกล้ได้เวลาที่"องค์หนึ่ง"นั้นมาแล้วครับ..

เจริญในธรรม มีพระพุทธเจ้าในจิตให้มาก ๆ

ใส้เดือน สมาชิก

อาจารย์ครับ แล้วองค์ที่ว่า ท่านจะรอให้เกิดภัยก่อนหรือจะเข้ามาช่วยเหลือก่อนครับ ตามหาท่านจะเจอไหมครับ หรือ รอบุญวาสนาครับ

ฮั้วโต๋ สมาชิก

..ครับ.ในช่วงที่...
1.ก่อนเกิดภัย.ท่านก็ช่วยในหน้าที่ ในขอบเขตครับ.
2.ช่วงเกิดภัย.ท่านก็ช่วยประคับประคอง.ช่วยเหลือได้ตามกำลังที่ไม่เกินวิสัย.
3.พบเจอยากที่สุดครับ.หรือบางท่านที่มีวาสนาได้พบเจอ.พอพบเจอท่านแล้ว
ยังไม่รู้จักว่าท่านเป็นใคร.พอรู้จักว่าท่านเป็นใคร ไปตามหาท่านก็ไม่พบท่าน
แล้วล่ะครับ..
4.ท่านไปพบทางจิตมากกว่าครับ.

เจริญในธรรม มีพระพุทธเจ้าในจิตให้มาก ๆ

ที่มา http://palungjit.org/threads/สัญญาณฟ้าเตือนภัยพิบัติ.294356/page-544

 

เรื่องคนคลานและภัยจากน้ำมือมนุษย์ !!!​

​

ฮั้วโต๋ สมาชิก

..ให้เตรียมตัวระวังให้มากที่สุดในช่วงที่"ปรับสมดุลย์ธาตุ"ในปี 2556 นี้.เริ่มตั้งแต่ วันที่ 1 มกราคม 2556 เป็นต้นไปเป็นเวลา 45-90 วัน.เผลอ ๆ อาจลุกไม่ได้-ไปไม่เป็น-คลานเหมือนเด็กกัน..

เจริญในธรรม มีพระพุทธเจ้าในจิตให้มาก ๆ

undersea12000 สมาชิก

ผมคิดว่าเหตุการณ์เรื่องคลาน เป็นแค่เลื่อนไป แสดงว่าน่าจะยังเกิดได้อยู่ โดยเฉพาะหากติดตามสาเหตุของการคลานว่าเป็น เพราะแกนโลกจะเอียงจนล้มเป็น 90 องศา ทำให้น่าเชื่อว่า ดาวนิบิรุน่าจะยังอยู่ในระบบสุริยะขณะนี้ และจะยังอยู่ต่อไปเรื่อยๆ จนกระทั่งเมื่อท่านผู้มีฤทธิ์พร้อมที่จะให้แกนโลกเอียงจนล้มเป็น 90 องศามในอนาคต เมื่อนั้นก็ใช้ดาวนิบิรุเป็นกลไกที่ทำให้เกิด ซึ่งน่าจะเป็นความสดวกอย่างมาก ไม่ต้องไปสรรหากลไกอื่นให้มันยาก การอนุมานดังนี้เป็นจริงตามนี้ไหมครับอาจารย์

ฮั้วโต๋ สมาชิก

..ครับ.การที่ต้องคลาน.ไม่ได้เกี่ยวกับแกนโลกเอียง.และยังต้องระวังอยู่.ไม่ได้เลื่อนออกไปนะครับ.ตามกำหนดเดิม.เป็นเวลา 90 วันอยู่.ถ้าหากว่าไม่เกิดนั่นหมายความว่าเหตุนั้นถูกเปลี่ยน.เป็นเหตุอื่นเข้ามาแทนครับ.ที่ต้องคลานเพราะพลังกดดันจากดวงอาทิตย์มากกว่าแกนโลกเอียงครับ.แกนโลกเอียงมาก ๆ นั้นเกิดขึ้นตั้งแต่ 14 มิถุนายน 2553.มาแล้วนะครับ.แกนโลกเอียงจนทำให้บรรยากาศของโลกเปลี่ยนไป.

เจริญในธรรม มีพระพุทธเจ้าในจิตให้มาก ๆ

anirutpae สมาชิก

ขอบคุณครับ อาจารย์ จะได้เตรียมตัวเตรียมใจไว้ให้พร้อม..ถามอีกนิดครับ ... ภัยอย่างไหนจะสร้างความเสียหายมากกว่ากันครับ ระหว่าง "ภัยธรรมชาติ" กับ "ภัยจากน้ำมือมนุษย์" ครับ? ดูจากโพสน์ก่อนหน้านี้ ผมเดาว่า"ภัยจากน้ำมือมนุษย์"น่าจะก่อหายนะมากกว่า"ภัยธรรมชาติ"หลายเท่านัก จริงหรือเปล่าไม่รู้นะ ผมเดาเอาครับ.

ฮั้วโต๋ สมาชิก

..ครับ..มีความเสียหาย.50-50.ครับ.แต่ภัยจากน้ำมือของมนุษย์สยดสยองมากกว่าครับ...แต่ภัยจาก"ไฟนำ"ก็ยังหนักอยู่ครับ.มีคนเจ็บและตายมากกว่าเดิม.ของไทยบ้านเราเอง.ก็มีเหตุจากภัย"ไฟนำ"ก็มากในหลายพื้นที่อยู่.ขณะเดียวที่ตามมาสมทบผสมโรงคือ"ลมพายุ"ครับ...จากสัญญาณฟ้าของวันนี้ยังเตือนในภัยที่เริ่มทวีความรุนแรงขึ้นครับ.อากาศร้อนระอุขึ้น.ขอให้ระมัดระวังนะครับ.

..ในส่วนตรงจุดนี้มาช่วยกันคิดครับ....
1.ระเบิด 1 ครั้ง ต่อ 200.
2.ระเบิด 10 ครั้ง ต่อ 800.
3.ระเบิด 3 ครั้ง ต่อ 600-800..

....มาช่วยกันคิดในปริศนานี้กันครับ..อาจารย์เห็นในภาพนี้มา 3 วันติดกันและวิปัสสนาในความหมายของปริศนานี้แล้วครับ..

เจริญในธรรม มีพระพุทธเจ้าในจิตให้มาก ๆ

chatmongkon สมาชิก

หากตัวเลขสุดท้ายคือจำนวนคนตาย การระเบิด 3 ครั้ง น่าจะมีความรุนแรงมากที่สุด เฉลี่ยครั้งละมากกว่า 250 คน ถ้าระเบิด 10 ครั้ง คนที่ตายมีน้อย เพราะการระเบิดช่วงหลังน่าจะหลบภัยกันได้มากขึ้น...ยกเว้น ระเบิดอย่างต่อเนื่องกันรวดเดียว ระเบิดที่มีอานุภาพรุนแรงขนาดนี้ ผมนึกออกแค่เพียงวัตถุระเบิดขนาดใหญ่ มาจากทางไกล หรือการระเบิดในกลุ่มฝูงชนที่กำลังชุมนุมอยู่น่ะครับ

ฮั้วโต๋ สมาชิก

.ครับ..เข้าใจถูกแล้วครับ..ระเบิดต่อเนื่องกันรวดเดียว.และในกลุ่มมหาชนที่กำลังชุมนุมกันจำนวนมาก.เช่น.มหาวิทยาลัย.โรงภาพยนตร์.ภัตตาคาร.โรงแรม.รีสอร์ท.ห้างสรรพสินค้า.ครับ..

เจริญในธรรม มีพระพุทธเจ้าในจิตให้มาก ๆ

ที่มา http://palungjit.org/threads/สัญญาณฟ้าเตือนภัยพิบัติ.294356/page-545

 

ที่ใดที่ผู้คนมากมาย เจ้าจงหลีกเลี่ยง !!!​

​

สาส์นจากแม่พระธรณีถึงผู้รับใช้(ฉบับที่ 14)
ให้ไว้ ณ.วันที่ 17 กันยายน พ.ศ. 2549

อีกเพลาแค่ 1 วันสวรรค์เท่านั้น(1 ปีมนุษย์) ความอดอยากจะเข้ามาหาพวกเจ้าและทุกๆ คนที่อยู่บนพื้นแผ่นธรณี เลือดจะนองธรณี เจ้าจำนะลูกนะ เลือดจะนองธรณีขึ้นทุกวัน เสียงดังของสิ่งที่เจ้าเรียกว่า “กัมปนาทแสนยากร” มันจะดังขึ้นทุกวันมิเว้นเพลาใดและเอาชีวิตมนุษย์ไป เจ้าคงเข้าใจคำแม่ใช่มั้ยลูก เสียงกัมปนาทนั้นคือเสียงอะไรรึ?

(แม่แผ่นเหล็ก - เสียงระเบิดค่ะแม่)

ใช่ลูก... มันจะพรากชีวิตแม้กระทั่งเมืองที่เจ้าอยู่นะแม่แผ่นเหล็ก (หมายถึงกรุงเทพฯ) แม่บอกนะลูกนะ อย่าขึ้นตึกสูงใหญ่ระฟ้า ที่ใดที่ผู้คนมากมาย เจ้าจงหลีกเลี่ยง มิฉะนั้นสิ่งที่เกิดการเป็นเลือดเจ้าจะได้เห็นในเพลามิช้า เจ้าจะได้พบกับการตายของมนุษย์เหมือนใบไม้ที่ร่วงหล่นนะลูกนะ เจ้าจงเตรียมพร้อมผ้าห่อกายเน่าเหม็น เจ้าเตรียมไว้ได้กี่ผืนแล้วรึ?

(แม่แผ่นเหล็ก – 10 ผืนค่ะ)

วันใดเจ้ามีทรัพย์ จำแม่พูดนะลูกนะ เตรียมอีก 9 ผืน จะมีคนนำศพมาไว้บ้านถ้ำ เตรียมพร้อมที่เจ้าจะรับศพ เตรียมพร้อมที่จะช่วยคนที่จะมาตาย ณ บ้านถ้ำ คนจะหลั่งไหลด้วยความอดอยาก

อีก 1 วันสวรรค์เท่านั้น เจ้าจงเตรียมทุกอย่าง แม่แผ่นเหล็ก ใจนิ่ง... เตรียมรับสิ่งเลวร้ายอย่างไม่คาดคิด ปีแม่จะผ่านไป ปีมารจะเข้ามา เจ้าจะทุกข์ทรมานอย่างบอกไม่ถูกกันทุกๆ คน ใครเชื่อมั่นในแม่ เจ้าจงจำคำนี้ไว้ จะรอดตั้งแต่แสงสุรีย์ดับ จนแสงสุรีย์ขึ้นใหม่ จะมิมีสิ่งใดแผ้วพานได้นะลูกนะ 1 วันสวรรค์จะเริ่มขึ้นด้วยการที่มารทำงาน เหล่ามนุษย์จะสูญเสียชีวิตอย่างน่าสะพรึงกลัว มันใกล้จะเริ่มแล้วนะแม่แผ่นเหล็ก ทรัพย์มิอาจช่วยชีวิตใครได้นอกจากคำภาวนาธรรมเท่านั้นที่จะให้พวกเจ้ารอดนะลูกนะ

1 วันสวรรค์มิช้านะลูกนะ ผู้คนจะกราบกรานเพื่อขอทานกลุ่มเรา อย่าเห็นแก่ตน จงช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ แม่มิได้ให้นำเกล็ดขาว(น้ำตาล) มาช่วยมนุษย์นะลูกนะ แต่เกล็ดขาวนั้นจะเปลี่ยนไปเป็นข้าวที่เราต้องช่วยผู้อื่นยังชีพ เตรียมผ้าอีก 9 ผืน เพื่อที่จะห่อร่างกายเน่าเหม็นที่มาจากกาย ณ บ้านถ้ำ 19 ผืนห่อวิญญาณมนุษย์ ใกล้ที่เจ้าจะได้ใช้แล้วนะลูกนะ เจ้าจงซื้ออีก 9 ผืน วันพระจันทร์เต็มดวง เจ้าจะได้ใช้ทั้ง 19 ผืนในปีแห่งมาร

เจ้าจะมีชีวิตที่ไม่เหมือนผู้ใด ลูกแม่ต้องไม่เหมือนมนุษย์ผู้อื่น ใครเป็นลูกแม่ เจ้าต้องพร้อมที่จะร้อนมากกว่าเย็น ถ้าเจ้ามิพร้อมที่จะเป็นลูกเรา เจ้าจงถอยกลับไปเป็นมนุษย์ ณ บัดนี้ อย่าเดินเข้ามากองไฟที่เราอยู่โดยเด็ดขาด เจ้าจงไปทำหน้าที่ช่วยผู้อื่นอย่างจริงจัง อย่าช่วยผู้ใดโดยหวังผล กรรมมันจะมาหาเจ้าในฉับพลัน แม่ขอลั่นวาจาไว้ ลูกผู้ใดทำให้ผู้อื่นเดือดร้อนด้วยความสุขของตน ด้วยทุกข์ของผู้อื่น เจ้าจะอับปางโดยฉับพลัน จำนะลูกนะ เป็นลูกแม่ต้องมีธรรมะห่อหุ้ม แม่ต้องการให้พวกเจ้าสร้างทานเพื่อตนเอง เหมือนเก็บทานไว้และเอามาใช้เมื่อเจ้ายามยากนะลูกนะ

ขอให้เจ้าได้ทรัพย์ที่เป็นของเจ้าทุกๆ คน แม่ขอให้เจ้า รวย รวย รวย นะลูกนะ

หมายเหตุ : ถอดความบางส่วนจากคำสนทนาระหว่างแม่พระธรณีกับแม่นางฟ้า ไก่โต้ง แม่มะนาว และคุณกาญจน์ลดา มฤคพิทักษ์(แม่แผ่นเหล็ก) ณ บ้านถ้ำ เวลา 12.17 น. ของวันอาทิตย์ที่ 17 กันยายน 2549

ที่มา Anontawong Series - Anontawong Series

 

ปัจจุบันเฉลี่ยมีคนตายทั่วโลกนาทีละ 108 คน หรือประมาณ 55.6 ล้านคนต่อปี ส่วนคนเกิดประมาณ 2 เท่าของคนตาย...

 

ไม่ต่ำกว่า 250 ล้านคน ในความเป็นจริง อาจจะมากกว่านั้นหลายเท่าก็เป็นได้ครับ เพราะคนเราส่วนใหญ่ ไม่ได้ตายทันทีเมื่อเกิดภัยพิบัติ แต่จะตายหลังจากนั้น เนื่องจากขาดแคลนสิ่งอุปโภคบริโภคที่จำเป็น หลังจากเกิดภัยพิบัติครับ เช่นขาดแคลนที่อยู่อาศัย ขาดแคลนอาหาร ขาดแคลนยารักษาโรค ขาดแคลนน้ำดื่ม ขาดแคลนไฟฟ้า ขาดแคลนยวดยานพาหนะ ขาดแคลนหมอและพยาบาล ทำให้เกิดสงครามต่อสู้แย่งชิงอาหาร ทำให้เกิดโรคระบาด และทำให้อัตราคนเกิดใหม่ลดลง เนื่องจากเด็กทารกไม่สามารถอยู่รอดได้ในสภาวะทุกข์ทรมานแบบนั้นครับ

 

ช่วงเวลาแห่งความทุกข์ทรมานยากลำบาก !!!​

​

“จงเฝ้าระวังอยู่ เพราะท่านทั้งหลายไม่รู้กำหนดวันหรือชั่วโมงนั้น” เตือนตัวเองด้วย เตือนคนข้างๆ เตือนญาติพี่น้องของเรา เตือนผู้ที่รู้จักพระเจ้าแล้ว เตือนลูกหลานของเราว่าเราไม่รู้ว่าชั่วโมงนั้น จะมาเมื่อไร ในพระคัมภีร์บอกมา ก็คือมาแน่ๆ

คราวที่แล้ว เราได้เรียนรู้กันแล้วว่า เมื่อถึงวันที่พระเยซูคริสต์กลับมารับประชากรของพระองค์ เหตุการณ์ทั้งหลายจะเกิดขึ้นแบบชั่วพริบตาเดียว รับเราขึ้นไป แล้วประตูก็ปิดทันที ไม่มีการให้เราตั้งตัวเลยว่าพระเยซูจะมาแล้ว รีบมาอธิษฐาน รีบเชื่อเลย รีบกลับใจใหม่ แต่จะมาแบบเหมือนขโมยย่องมา คือไม่รู้ตัวนั่นเอง ถึงตอนนั้นไม่มีเวลาเหลือแล้ว เหมือนหญิงพรหมจารีย์ทั้ง 5 คนที่ไม่มีเวลาไปหาซื้อน้ำมัน

ใครที่พลาดเที่ยวนี้ ก็ต้องอยู่ทนทุกข์ทรมานบนแผ่นดินโลกนี้ต่อไป เพราะยุคพระคุณพระเจ้าได้ผ่านไปแล้ว ใครที่เคยได้ยินข่าวประเสริฐแล้ว แต่ยังไม่เชื่อ ถึงวันที่พระเยซูคริสต์มารับเรียบร้อยไปแล้ว ก็จะถูกทิ้งบนโลกใบนี้ พบกับความทุกข์ยากลำบากอย่างมากมาย เพราะวันที่พระเจ้าส่งพระเยซูกลับมาใหม่ และรับเราไป พระวิญญาณบริสุทธิ์จะถูกนำกลับไปด้วย เป็นยุคที่ไม่ใช่พระคุณแล้ว ดังนั้นผู้ที่จะเชื่อในยุคนั้นจะลำบากยากเข็ญมากๆ เลยทีเดียว

มีหนังสือคริสเตียนติดอันดับหนึ่ง เป็นที่รู้จักกันของนักอ่านทั้งที่เป็นคริสเตียน และไม่เป็นคริสเตียนด้วย เคยมีคนนำมาทำเป็นภาพยนตร์ เมื่อประมาณสัก 2-3 ปีที่แล้ว เนื้อหาของเรื่องนี้อ้างอิงพระคัมภีร์ในหนังสือมัทธิว 24:40-41 ที่บันทึกไว้ว่า “ชายสองคนอยู่ที่ทุ่งนา จะทรงรับคนหนึ่ง และทรงละคนหนึ่ง และหญิงสองคนโม่แป้งอยู่ที่โรงโม่ จะทรงรับคนหนึ่ง และทรงละคนหนึ่งไว้” ในเรื่องนี้กล่าวถึงเหตุการณ์ที่พระเยซูคริสต์มา แล้วคริสเตียนทั้งหลายถูกรับขึ้นไป แล้วมีคนจำนวนมากมายถูกทิ้งไว้บนโลก แล้วหลังจากนั้นก็เกิดเหตุการณ์ทุกข์เข็ญ เกิดสิ่งชั่วร้ายต่างๆ มากมายบนโลกใบนี้ ตามที่พระคัมภีร์บันทึกเอาไว้

เนื้อเรื่องที่นำมาทำเป็นภาพยนตร์ ตอนที่คริสเตียนถูกรับขึ้นไปแล้ว มีตั้งแต่ผู้คนกำลังเดินอยู่บนถนน แล้วก็หายแว๊บไป ก็คือถูกรับไปเลย การจราจรอยู่บนถนนหยุดนิ่งเป็นอัมพาต เพราะมีรถหลายคันที่คนขับหายไป มีภาพเด็กทารกแรกเกิดเพิ่งคลอดออกมา อยู่ๆ ก็หายไป แล้วก็มีเครื่องบินลำหนึ่ง ผู้โดยสารเต็มลำเลย อยู่ๆ ผู้โดยสารส่วนหนึ่งก็หายแว๊บไป ดีนะที่เป็นผู้โดยสารหายแว๊บไป ไม่ใช่กัปตันหายแว๊บไป แต่พระเจ้าทรงทราบ และเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น หลังจากที่เหล่าผู้เชื่อถูกรับขึ้นไป โลกก็ถูกครอบครองด้วยพวกต่อต้านพระเจ้า หรือเรียกว่าแอนตี้ไคร์ส แล้วก็มีสงคราม มีเหตุการณ์ร้ายเกิดขึ้นทุกวัน ผู้คนหลงเหลืออยู่ล้วนแล้วแต่เผชิญกับ ความทุกข์ยากลำบากอย่างแสนสาหัส

ประเด็นที่น่าสนใจในหนังสือและในหนังเรื่องนี้ คือภาพหลังจากเหตุการณ์ ที่ผู้เชื่อถูกรับขึ้นไปอยู่กับพระเจ้าแล้ว ผู้คนที่ถูกทิ้งไว้บนโลก มีทั้งผู้ที่ไม่รู้เรื่องเลยว่ามีอะไรเกิดขึ้น แล้วมีคนจำนวนไม่น้อยที่รู้ดีว่าเกิดอะไรขึ้น แต่สายเกินไปแล้วที่จะเปลี่ยนแปลงอะไรได้ และในจำนวนนั้นก็มีทั้งศิษยาภิบาล และสมาชิกคริสตจักรร่วมอยู่ด้วย ฟังแล้วหวาดเสียวนะ อาจจะเชื่อ แต่ยังไม่ได้เตรียมพร้อม เหมือนหญิงพรหมจารีย์ที่น้ำมันไม่พอ เพราะฉะนั้นอย่าไว้วางใจว่าเราเป็นคริสเตียนแล้ว แต่ระมัดระวังดูแลชีวิตเราให้ดีๆ แล้วก็อย่าคิดว่าเราเป็นศิษยาภิบาลด้วย สบายอยู่แล้ว ไม่แน่นะครับ ศิษยาภิบาลก็มีโอกาสเผลอ แล้วก็ล่องลอยไปกับโลกใบนี้ได้เหมือนกัน

ตอนที่หนังสือเล่มนี้ออกมา มีผู้คนจำนวนมากทั้งที่เชื่อพระเจ้าแล้ว และยังไม่เชื่อ ตื่นตัวในเรื่องนี้กันมาก มีการสำรวจว่าสืบเนื่องจากความกลัว ที่จะถูกทิ้งไว้ตอนที่พระเยซูคริสต์เสด็จกลับมา ทำให้คนไปโบสถ์กันมากขึ้น แต่ก็มีคนอีกจำพวกหนึ่งที่ออกมาแสดงความคิดเห็น ในลักษณะว่ายังไม่ต้องรีบร้อนหรอก เพราะถึงแม้ว่าจะยังไม่ถูกรับขึ้นไปในครั้งแรก พร้อมกับผู้เชื่อคนอื่นๆ แต่ก็ยังมีโอกาสอีกครั้งหนึ่ง หลังผ่านช่วง 7 ปีไปแล้ว คือผ่านช่วงความทุกข์ทรมาน ทุกข์เข็ญไปแล้ว มีพวกหนึ่งคิดอย่างนั้นนะครับ

ก็มีศิษยาภิบาลออกมาเตือนว่า ให้รอไปศึกษาดูว่าพระคัมภีร์บอกไว้ว่าอย่างไร ว่าในช่วง 7 ปีแห่งความทุกข์ยากลำบากนั้น จะมีอะไรเกิดขึ้นบ้าง สิ่งที่เรียกว่าความทุกข์ยากลำบากบนโลกในขณะนี้ เทียบไม่ได้เลย กับสิ่งที่จะเกิดขึ้นในช่วงทุกข์ลำเค็ญครั้งใหญ่ 7 ปีนั้น หลังจากเสด็จกลับมาของพระเยซู พระเยซูถึงได้กำชับและใช้คำว่า “ถ้าผู้ใดทนได้จนถึงที่สุด ผู้นั้นจะรอด” มันทุกข์ทรมานมาก ก็แสดงว่าไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เลยที่จะทนได้

เพราะอย่าลืมว่ายุคพระคุณพระเจ้าได้ผ่านไปแล้ว เพราะฉะนั้นเราฟังเรื่องนี้แล้ว ต้องระมัดระวัง บอกลูก บอกหลาน หรือใครก็ตาม ที่เรารักหรือห่วงใยว่าอย่าหลงระเริงไปกับโลกนี้ เพราะว่าเราระเริงกับกิเลสตัณหา และสิ่งของบนโลกใบนี้แล้ว มันจะพาเราห่างออกไป ทำให้เราลืมพระเจ้า แล้วทิ้งพระเจ้าไป ซึ่งเรากำลังเสี่ยงอย่างมหาศาล ไม่รู้ว่าช่วงที่เราหลงไป พระเยซูจะกลับมาตอนนั้นหรือไม่ เพราะฉะนั้นเราต้องพร้อมอยู่ตลอดเวลา

เหตุการณ์ความทุกข์ยากลำบากที่จะเกิดขึ้นก่อนการสิ้นสุดยุคเก่า ภาษาอังกฤษใช้คำว่า “Tribulation” ที่พวกเราทั้งหลายที่ได้รับความรอดแล้ว ก็ไม่ต้องเผชิญกับเหตุการณ์ตรงช่วงนี้ เพราะถูกรับขึ้นไปแล้ว เหตุการณ์ความทุกข์ยากลำบากต่างๆ ตามที่บันทึกไว้ในหนังสือวิวรณ์ บทที่ 6 – 9 จะเป็นระยะเวลาทั้งหมด 7 ปี แบ่งเป็น 2 ช่วง ช่วง 3 ปีครึ่งแรกกับ 3 ปีครึ่งที่สอง 7 ปีแห่งความทุกข์ยากลำบาก สาหัสสากันมากๆ เลยทีเดียว ก่อนที่จะเกิดยุคใหม่ ที่เราจะเรียนต่อไป โดย 3 ปีครึ่งแรกนั้น จะเกิดสงครามทั่วแผ่นดิน ทำลายสันติสุขบนโลก เกิดทุรกันดาร ข้าวยากหมากแพง เกิดโรคระบาด คริสตจักรถูกข่มเหง ถูกทรมานอย่างหนัก เกิดภัยแผ่นดินไหว ตรงนี้อยู่ในวิวรณ์ บทที่ 6 และบทที่ 8 พูดถึงดวงตรา 7 ดวง

และในช่วง 3 ปีครึ่งหลัง ซึ่งบันทึกไว้ในหนังสือวิวรณ์ บทที่ 8 กับบทที่ 9 ซึ่งพูดถึงแตรทั้ง 7 และขันทั้ง 7 ก็จะเกิดการทำลายล้างแผ่นดินโลก เกิดไฟไหม้ครั้งใหญ่ ดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์และดวงดาวถูกทำลายลงบางส่วน ความสว่างหายไป มีแต่ความมืดมิด ท่านนึกภาพออกไหมว่าจะเกิดอะไรขึ้น คนที่มีชีวิตอยู่ในช่วงนั้นจะเป็นอย่างไร แม้แต่คนที่เชื่อพระเจ้าแล้ว จะทุกข์ทรมานขนาดไหน ตอนสุดท้ายของยุคเก่าจะสิ้นยุค เราก็จะเข้ามาเกี่ยวข้องตรงนี้ด้วย ก็จะเกิดสงครามใหญ่

ซึ่งในพระคัมภีร์เรียกว่าสงครามอะมาเกดอน เขาเอาไปทำเป็นหนัง อะมาเกดอนเป็นสงครามระหว่างพวกต่อต้านพระคริสต์ หรือแอนตี้ไคร์สกับกองทัพของพระเยซู ซึ่งกองทัพของพระเยซูคริสต์กับพวกเราทั้งหลายผู้เชื่อ ผู้ชอบธรรมของพระองค์ที่เราจากโลกใบนี้ไปแล้ว และเราไปอยู่กับพระองค์แล้ว เป็นธรรมิกชนของพระองค์ จะกลับมาร่วมกับพระเยซูคริสต์ ทำสงครามครั้งนี้ด้วย

ที่มา http://www.holyofholies.net/sermon08/10_oct_12.htm

 

พลังกดดันจากดวงอาทิตย์ !!!​

​

ฮั้วโต๋ สมาชิก

..พลังกดดันจากดวงอาทิตย์ ที่ส่งลงมายังโลกมนุษย์ในวันนี้.มีมากมหาศาล.รักษาสุขภาพกายให้ดี.เวลาปวดศีรษะ อาเจียน ทานอาหารไม่ได้ เป็นหวัด ไอเรื้อรัง มีเลือดออกตามจุดสำคัญต่าง ๆ.คลื่นไส้ ตาลาย ตาพร่ามัว หายใจติดขัด....

อาการเหล่านี้เป็นผลของพลังดำ.หาเครื่องดื่มร้อน ๆ ที่ชอบ.ดื่มบ่อย ๆ..อาการก็จะดีขึ้นในระดับนึง.แล้ว ท่อง นะ มะ พะ ธะ.บ่อย ๆ หรือตลอดเวลา.

การท่อง นะ มะ พะ ธะ ได้ประโยชน์ดังนี้.

1.กายทิพย์-จิตทิพย์ เป็นทิพย์เร็ว มีกำลังมาก.
2.ปรับสมดุลย์ธาตุทั้ง 4.ในขันธ์ 5.เร็ว ไม่เจ็บป่วยได้ง่าย ๆ.
3.รักษาอาการป่วยทางกายได้.
4.มีกำลังในการเจริญในธรรมนั้น ๆ ได้รวดเร็ว.
5.ฝึกมโนมยิทธิได้เร็ว..

เจริญในธรรม มีพระพุทธเจ้าในจิตให้มาก ๆ

18-01-2013, 04:31 AM

ที่มา http://palungjit.org/threads/สัญญาณฟ้าเตือนภัยพิบัติ.294356/page-545