รวมคำทำนายและวิเคราะห์ภัยพิบัติ - What's Next ?

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย hiflyer, 8 พฤศจิกายน 2012.

  1. ราชบดินธร

    ราชบดินธร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    98
    ค่าพลัง:
    +564
    แหม นั่งนานก็แหนบสิ เอ๊ะอะก็บาป ปรามาสอะ แหม พูดโกหก ชักจูงให้คนหลงในข้อมูล เลื่อน ๆ แหม อยู่นรก ขุมเดียวกันป่าว หวังดีประสงค์ร้ายมอมเมาคนประชา
     
  2. มณีจำปา

    มณีจำปา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    1,423
    ค่าพลัง:
    +9,369
    เพิ่งรู้ว่า ที่เหน็บแบบหยอกเอิน เนี่ย บาปด้วยอะ กรรม แท้ๆ [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 ธันวาคม 2012
  3. ชูบดี

    ชูบดี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มกราคม 2012
    โพสต์:
    403
    ค่าพลัง:
    +2,271
    รีบมาก่อนเลย"...พูดส่อเสียด หรือ ปิสุณาวาจา หมายถึง เจตนาพูดส่อเสียดเหน็บแนม กระทบกระเทียบ ถากถาง เย้ยหยันให้ผู้อื่นได้รับความเสียใจ คับแค้นใจ ขุ่นเคือง โกรธ อับอาย มีความทุกข์"..โอ..ถ้าข้าน้อย..ล่วงล้ำก้ำเกินใครในกระทู้นี้..ด้วยความไม่ตั้งใจ...ด้วยเจตนาอยากให้ทุกคน.ขำๆมีความสุข..แต่กลายเป็นได้รับความเสียใจ คับแค้นใจ ขุ่นเคือง โกรธ อับอาย มีความทุกข์..แล้วละก็..ขอโปรดอโหสิกรรม.อดโทษ..ให้ข้าน้อยด้วย..เพราะนิสัยชอบตอแยนี้..มุขขำนี้.เป็นวาสนาของข้าน้อยเลย..แต่มิได้มิเจตนาในทางร้ายแม้แต่น้อย..จ้า
     
  4. ชูบดี

    ชูบดี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มกราคม 2012
    โพสต์:
    403
    ค่าพลัง:
    +2,271
    .


    .เราทำด้วยสุจริตใจ..อย่าไปตกนรก.กะเขาเลยท่าน..ไม่เป็นมงคล..จ้า
     
  5. nprofcomp

    nprofcomp เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 เมษายน 2012
    โพสต์:
    90
    ค่าพลัง:
    +339
    ยุคกลาง ความรู้ ความหมายของ ยุคกลาง จากสนุก! กูรู แหล่งความรู้เพื่อคนไทย

    ยุคกลาง
    ในยุคเริ่มต้นของคริสต์ศาสนา เรียกกันว่า ยุคมืดแห่งการสาธารณสุข อิทธิพลทางแนวความคิดสมัยจักรวรรดิโรมันได้รับการต่อต้าน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องการอนามัยส่วนบุคคลและการสุขาภิบาล แม้แต่การมองเพื่อสำรวจตนเองก็ถือว่าเป็นบาป ชาวบ้านในยุคนี้จึงไม่สนใจต่อการชำระล้างร่างกาย เครื่องนุ่งห่มก็ไม่สะอาดกล่าวกันว่าสาเหตุนี้เองที่ทำให้มีการใช้น้ำหอมในตอนปลายของยุคนี้

    การทำอาหารก็เช่นเดียวกัน มักจะทำอย่างง่ายๆไม่พิถีพิถันและขาดคุณค่าทางโภชนาการ นิยมอาหารประเภทหมักดองหรือของแห้ง เป็นผลให้เครื่องเทศเข้ามามีอิทธิพลอย่างมากในการทำอาหาร จึงได้มีการสำรวจทางบก และทางเรือเพื่อหาทางไปเสาะแสวงหาเครื่องเทศในดินแดนห่างไกล

    ในคริสต์ศตวรรษที่ ๑๗ ศาสนาอิสลามเริ่มแผ่ไปยังทวีปแอฟริกา ตะวันออกกลาง เอเชีย และแถบคาบสมุทรบอลข่านและไอบีเรีย ก่อให้เกิดการเดินทางไปยังกรุงเมกกะอย่างมากมายเพื่อการจาริกแสวงบุญโดยเฉพาะอย่างยิ่งจากประเทศอินเดียซึ่งในสมัยนั้นเป็นแหล่งระบาดของอหิวาตกโรค เป็นผลทำให้อหิวาตกโรคระบาดกระจายไปแทบทุกประเทศที่มีการเดินทางเพื่อการจาริกแสวงบุญ

    นอกจากการเผยแผ่ศาสนาอิสลามแล้ว การเดินทางของผู้เผยแผ่ศาสนาคริสต์จากประเทศต่างๆ ในทวีปยุโรปไปยังทวีปอื่นๆ ได้ทำให้อหิวาตกโรคมีโอกาสเข้าไปฟักตัวในทวีปยุโรปและเคลื่อนที่ต่อไปยังทวีปอเมริกาในที่สุด เป็นผลให้เกิดการระบาดของอหิวาตกโรคอย่างรุนแรงหลายครั้ง นอกจากนี้ยังปรากฏว่าโรคเรื้อนได้ระบาดจากอียิปต์มาสู่เอเชียไมเนอร์และไปสู่ทวีปยุโรป โดยมีสาเหตุมาจากการเดินทางเผยแพร่ศาสนาและการอพยพย้ายถิ่นฐานของประชากรในยุคนั้นด้วย

    การที่โรคเรื้อนระบาดในทวีปยุโรป เป็นผลให้มีมาตรการป้องกันการระบาดของโรค ส่วนใหญ่กระทำโดยการกำจัดและทำลายล้างผู้ติดโรค หลายประเทศได้ออกกฎข้อบังคับให้ผู้ป่วยโรคเรื้อนสวมเสื้อผ้าที่แตกต่างจากคนทั่วไป แขวนระฆังไว้ที่คอเพื่อไปไหนมาไหนคนจะได้ยินเสียงและหนีทัน บางแห่งถึงกับห้ามมิให้คนเป็นโรคเรื้อนเข้าไปปรากฏในชุมชน หากฝ่าฝืนจะถูกกำจัดโดยวิธีนี้ผู้ป่วยโรคเรื้อนที่ถูกเนรเทศออกไปก็มักจะอดตาย เพราะไม่มีอาหารและไม่ได้รับการรักษาพยาบาล

    แต่อย่างใด วิธีกักบริเวณและเนรเทศผู้ป่วยดังกล่าวแล้วถึงแม้จะไม่ถูกต้องตามหลักมนุษยธรรม แต่ก็ทำให้โรคเรื้อนหมดไปจากยุโรปได้ในที่สุด

    หลังจากที่โรคเรื้อนทุเลาเบาบางลงเป็นลำดับกาฬโรคหรือที่ชาวโลกรู้จักกันในนามว่า "ความตายสีดำ" หรือ "black death" ก็ย่างเข้ามาในยุโรป โดยมีสาเหตุมาจากการติดต่อค้าขายระหว่างยุโรปกับดินแดนทางตะวันออกและทวีปเอเชีย กาฬโรคเป็นโรคติดต่อร้ายแรง และทำลายชีวิตมนุษย์มากมายอย่างที่ไม่มีโรคใดทัดเทียม และจากการที่กาฬโรคระบาดนี้เอง ทำให้พลโลกมีความกระตือรือร้นในด้านการป้องกันโรคมากขึ้น

    ผลพลอยได้ในแง่ของการสาธารณสุขอันเนื่องมาจากการระบาดของกาฬโรคก็คือ การเริ่มจัดให้มีด่านกักโรคเพื่อป้องกันการระบาดของโรคติดต่อที่กรุงเวนิสใน พ.ศ. ๑๓๔๘ เรือสินค้าและผู้โดยสารที่ต้องสงสัยว่ามาจากเขตติดโรคจะไม่ได้รับอนุญาตให้ขึ้นท่าเรือ ในบางแห่งเรือต้องจอดอยู่นานถึง ๒ เดือนในบริเวณด่านกักโรค เพื่อพิสูจน์ว่าไม่มีการระบาดของโรค แสดงว่าแนวความคิดที่เกี่ยวกับระยะฟักตัวของโรคคงจะมีมานานแล้ว ถึงแม้ว่าความเชื่อว่าพระเจ้าและโชคลางเป็นสิ่งบันดาลความเจ็บป่วยให้เกิดแก่คนยังมีอยู่บ้างก็ตาม

    สมัยก่อนคริสตกาลและยุคกลาง เชื่อกันว่าโรคภัยไข้เจ็บต่างๆ เช่น คอตีบ บิด ไทฟอยด์ ไทฟัส กามโรค และโรคธรรมดาสามัญอื่นๆ คงจะมีปรากฏเช่นเดียวกัน แต่ไม่ได้มีการบันทึกไว้ในประวัติศาสตร์ ทั้งนี้อาจเป็นเพราะมีโรคอื่นที่ร้ายแรงกว่ามากจึงทำให้โรคเหล่านี้ดูเป็นธรรมดาสามัญไป

    ที่น่าสังเกตว่าการสาธารณสุขในยุคกลางไม่มีเนื้อหาสาระใดๆ นอกเหนือไปจากการรู้จักการกักกันผู้ป่วย การทำลายผู้ติดเชื้อ โดยเริ่มเข้าใจว่าโรคติดต่อมีระยะฟักตัว และเข้าใจความจำเป็นในการจัดให้มีด่านกักโรคต่างๆ

    PANTIP.COM : Y4773271 ยุคมืดของแม่มด ................. การฆ่า คือความงดงามแห่งศาสนธรรม []

    ยุคมืดของแม่มด ................. การฆ่า คือความงดงามแห่งศาสนธรรม

    แม่มด คำว่า witch หรือแม่มดแผลงมาจากคำว่า wit
    ในภาษาแองโกลแซกซอน หมายถึง "to know" หรือ หยั่งรู้ ต้องการรู้ ดังนั้น
    แม่มดจึงหมายถึง พวกที่ต้องการศึกษาหาความรู้ (ในศาสตร์ลึกลับเหนือธรรมชาติ)
    อาจจะด้วยแนวทางที่มีคุณธรรมหรือชั่วร้ายก็ได้

    ยุคมืดของแม่มด

    ไม่ว่าแม่มดจะมีจริงหรือไม่ หรือดีเลวอย่างไรก็ตาม ประมาณต้นศตวรรษที่ 6-11
    แถบยุโรปเคยมีแม่มดและมนุษย์อาศัยอยู่ด้วยกัน แต่พอศตวรรษที่ 15-17
    หรือยุคกลางของยุโรป ที่เรียกกันว่า ยุคมืด นั้นมีการล่าแม่มดขนานใหญ่
    สมมุติว่าเกิดเหตุผิดธรรมชาติขึ้นในท้องถิ่น เช่นฝนไม่ตก มีโรคระบาด
    สิ่งแรกที่คนสมัยนั้นจะโยนบาปก็คือแม่มด
    พวกชาวบ้านจะระดมกำลังกันตามหาผู้ต้องสงสัย และมักเป็นแพะรับบาป
    พร้อมหลักฐานจำนวนหนึ่ง บางทีหลักฐานก็ดูตลกๆ
    เช่นแค่เลี้ยงหมากับแมวไว้ในบ้านก็ตาม หญิงแก่ไร้ญาติบางคน
    ซึ่งมีแค่แมวตัวเดียวเป็นสัตว์เลี้ยงคลายเหงา มักถูกหาว่าเป็นแม่มด
    และถูกลากมาเผาประจานทั้งเป็นอย่างน่าอนาถ
    หญิงสาวบางคนที่สวยเกินไปก็โดนข้อหานี้ด้วย
    เพราะสงสัยว่าจะเอาวิญญาณเข้าแลกกับเรือนร่างอันน่ามอง
    แถมผู้ชายในสมัยนั้นยังชอบทารุณกรรมผู้หญิง โดยยกข้ออ้างจากไบเบิลขึ้นมาอ้างมั่วว่า
    สูเจ้าจะต้องไม่ทรมานแม่มดด้วยการปล่อยให้มีชีวิต ( "Thou shlt not a suffer a witch to live" )

    ฉะนั้นจึงมีการเฆี่ยนประจาน การทรมานด้วยวิธีนานาที่จะนึกออกได้
    ใครจะทนการทรมานไหว ก็จำต้องรับสารภาพ
    เพื่อจะได้ตายด้วยวิธีที่ไม่ทรมานนั่นคือ การเผาทั้งเป็น!

    จากคุณ : Ritti Janson

    *+*+*+: แม่มด เรื่องเล่าจากยุคกลาง :+*+*+*

    ศาลในยุคมืดของยุโรป

    โดย คุณ ธงชัย วินิจจะกูล
    ที่มา เวบบอร์ด ประชาไท
    11 กรกฎาคม 2551

    ใน ยุคกลาง (medieval) ของยุโรป ซึ่งคริสตศาสนจักรเรืองอำนาจเหลือล้น เครื่องมือสำคัญประการหนึ่งของศาสนจักรคือ INQUISITION ซึ่งมีบทบาทระหว่างศตวรรษที่ 12-16 (และยังคงใช้ต่อมา ในอาณานิคมของสเปนบางแห่งจนถึงศตวรรษที่ 18)

    INQUISITION คือ ระบบศาลของศาสนจักร เพื่อตามกวาดล้างลงทัณฑ์บรรดาพวกนอกรีตทั้งหลาย พวกก่อความกระด้างกระเดื่องต่ออาณาจักรศักดิ์สิทธิ์ของพระเจ้า รวมทั้งผู้ที่ถูกหาว่า เป็นพ่อมดแม่มด

    ในศตวรรษแรกๆ ของ INQUISITION พวกนอกรีต หมายถึงพวกยิวและพวกนับถือผีสาง อำนาจศักดิ์สิทธิ์อื่นๆ ที่ไม่ใช่พระเจ้าของชาวคริสต์ ในระยะปลายของ INQUISITION พวกนอกรีต รวมถึงพวกโปรเตสแตนท์ด้วย

    ใน ระบบศาลยุติธรรมสมัยใหม่ ศาลเป็น “กรรมการ” ผู้ตัดสินความขัดแย้ง หรือการละเมิด ที่ฝ่ายหนึ่งกระทำต่ออีกฝ่าย แม้แต่ผู้รักษากฎหมาย ก็ถือเป็นฝ่ายหนึ่งในความขัดแย้ง กรรมการไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย เข้าข้างผู้รักษากฎหมาย

    INQUISITION ไม่เหมือนศาลยุติธรรมสมัยใหม่ ตรงที่ศาลไม่ได้เป็นแค่กรรมการ แต่เป็นผู้รักษากฎหมายเอง สืบสวนสอบสวนเอง เป็นอัยการเอง ตีความกฎหมายเอง เพื่อเล่นงานพวกนอกรีตให้ได้

    ที่ สำคัญคือ ถือว่าจำเลยมีความผิดไว้ก่อน จนกว่าจำเลยจะพิสูจน์ได้ว่า ตนบริสุทธิ์ ซึ่งหมายความว่า จำเลยต้องต่อสู้กับศาล INQUISITOR ที่เป็นทั้งผู้ฟ้องร้อง และเป็นผู้พิพากษาในตัวเอง

    บ่อยครั้ง INQUISITION ทำกันในที่สาธารณะ เพื่อหวังให้ประชาชนผู้ชมกลัว และยอมสยบต่ออำนาจของศาสนจักร

    ครั้นสิ้นสุดการตัดสิน ประชาชนฝ่ายสนับสนุนศาสนจักร ก็มักโห่ร้องให้แขวนคอหรือเผาจำเลยกลางที่สาธารณะ

    INQUISITION จึงเป็นส่วนหนึ่งของการใช้อำนาจ กดปราบให้คนกลัว ไม่ใช่กระบวนการยุติธรรมอย่างระบบศาลสมัยใหม่

    ระบบ ศาลแบบ INQUISITION เป็นเหตุสำคัญอย่างหนึ่ง ที่ทำให้ผู้คนไม่ยอมรับ และเกลียดชังศาสนจักรอย่างมาก จนศาสนจักรถึงกับล่มหมดอำนาจในเวลาต่อมา

    ระบบศาลสมัยใหม่ ใช้เวลาอีกหลายร้อยปี กว่าที่จะพัฒนาพ้นมรดกของ INQUISITION ไปได้

    นี่เป็นเกร็ดประวัติศาสตร์ยุโรปยุคกลาง ซึ่งถือกันว่าเป็น “ยุคมืด” (DARK AGE)

    การล่าแม่มดในยุคกลาง

    เดิมทีมีการจัดการกับพวกแม่มดหมอผีอยู่บ้าง แต่การประหัตประหารเหล่าแม่มดอย่างเป็นระบบนั้น เริ่มต้นจากการพิพากษาของศาลที่สนับสนุนโดยพระสันตะปาปา ที่จัดตั้งขึ้นในคริสต์ศตวรรษที่ 13 เพื่อกำจัดพวกนอกรีตอัลโบเจนเซียน หรือ ชาวเมือง ฮีลบี ทางตอนใต้ของฝรั่งเศษ อย่างที่เราทราบกันดีกว่าแต่ก่อนนั้น ประสัตะปาปา หรือ โป๊บ เป็นผู้กุมอำนาจ ทั้งการเมือง และ ศาสนาไปพร้อมๆกัน เพราะฉะนั้น คริสต์ศตวรรษที่ 13 จึงมีบรรดเจ้าหน้าที่บ้านเมืองที่มี โป๊บ สนับสนุนเที่ยวไปสอบสวย ระรานพวก อัลโบเจนเซียน แล้วทำเลยเถิดไป กลายเป็นการเข่นฆ่าพ่อมด แม่มด เทียมกันอย่างสนุกมือ แต่สยองใจไปแทน

    http://palungjit.org/threads/เพี้ยน...ีฟ-จ็อบส์”หลังตายเกิดเป็นเทพกึ่งยักษ์.354979/

    Case Study Steve Jobs (สตีฟ จ็อบส์) ตอนที่ 1.2 - YouTube

    <iframe width="420" height="315" src="http://www.youtube.com/embed/abMQPXSng2E" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 ธันวาคม 2012
  6. ชูบดี

    ชูบดี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มกราคม 2012
    โพสต์:
    403
    ค่าพลัง:
    +2,271


    ถ้าครบองค์ประกอบ..ก็บาป..จ้า..แต่ถ้าไม่ครบองค์...ก็เหมือนเดินหมิ่นๆ..เหว..เผลอปุ๊บ..ตก..ปั๊บ..แฮ่ะๆ..ข้าน้อยจึงขอขมาไว้ก่อน..เผื่อตกไปอาจมีกิ่งไม้เล็กๆ..ยื่นมา..ให้..เกาะแล้วตะกายขึ้นได้หน่อย..เป็นเช่นนี้..ครูท่านจึงได้เป็นห่วง..ตามมาเอ็ดถึงที่..จ้า
     
  7. webang906

    webang906 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    335
    ค่าพลัง:
    +1,759
    ถ้าเหน็บแล้วทำให้คนฉุกคิดได้ ไม่เป็นแบบข้อความข้างล่าง ส่วนตัวถือว่าทำบุญอยู่

    สื่อในฮ่องกง รายงานว่า การที่มีหลายคนเชื่อตามปฏิทินของชาวมายาว่า วันที่ 21 ธันวาคมจะเป็นวันสิ้นโลก ทำให้ชายชาวฮ่องกงวัย 40 ปีคนหนึ่ง ซึ่งเคยทำงานด้านไอที และหาเลี้ยงครอบครัว และใช้จ่ายอย่างประหยัด ได้ขายแฟลตที่เขาพักอาศัยและข้าวของทั้งหมด เมื่อ 6เดือนก่อน และใช้เงินทั้งหมดไปอย่างรวดเร็ว

    ชายผู้นี้ลาออกจากงาน ขายแฟลตและเดินทางไปทั่วทุกหนทุกแห่ง รับประทานอาหารในร้านหรูและพักตามโรงแรม เขารูดบัตรเครดิตทุกใบ และยังขอยืมเงินคนอื่นด้วย ด้วยความเชื่อว่า จะหาความสุขใส่ตัวก่อนที่ชีวิตจะดับสูญไปพร้อมกับวันโลกาวินาศ
     
  8. ชัยบวร

    ชัยบวร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 กันยายน 2011
    โพสต์:
    928
    ค่าพลัง:
    +1,642
    การพูดจาพาที จะต้องดูที่เจตนาด้วยนะครับ บางคนปากร้าย แต่ใจดีมาก บางคนปากหวาน แต่ใจร้ายก็มี ไม่ใช่พูดแต่คำหวาน ๆ แล้วจะดีก็หาไม่ครับ ยกเว้นคนที่มีวาจาสิทธิ์เท่านั้นที่จะต้องระวังถ้อยคำปราศรัย

    ในสังคมปัจจุบันที่มีการใส่หน้ากากเข้าหากัน คนที่ซื่อสัตย์พูดจาอาจไม่ถูกหูคนอื่น หรือพูดจาตรง ๆ อาจมองว่าเป็นคนไม่ดี ทั้ง ๆ ที่ในใจเขาเป็นคนดีมีธรรมมากกกว่าคนที่พูดจาอ่อนหวานแต่ในใจเต็มไปด้วยแผนร้ายทำลายผู้อื่นก็ได้เช่นกันครับ แต่ก็ไม่ได้เข้าข้างคนที่พูดจาไม่ดีนะครับเพราะในบางครั้งคนที่พูดจาไม่ดี ก็มีคนที่พื้นฐานเป็นคนที่ไม่ดีได้ หรือเป็นพาลได้เช่นกันครับ พิจารณาให้ดีนะครับ.....
     
  9. ชูบดี

    ชูบดี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มกราคม 2012
    โพสต์:
    403
    ค่าพลัง:
    +2,271
    ฤาษีสันตจิต (พระอริยคุณาธาร ปุสโส เส็ง)

    ความบริสุทธิ์ บริบูรณ์ย่อมเกิดขึ้นแล้วแก่จิตของผู้ปราศจากอาสวะทั้งปวง พระพุทธเจ้าทั้งหลาย ล้วนกระทำความสัจแห่งธรรมให้เกิดขึ้นแล้ว ในเบื้องต้น ท่ามกลาง และเบื้องปลาย ด้วยอริยสัจสี่ประการ พระธรรมทั้งหลายที่ได้ตรัสล้วนเป็นไปเพื่อประโยชน์ในพระนิพพานแก่เหล่าผู้มีวิสัยพึงเกื้อกูลด้วยธรรมหมู่นั้น ด้วยการกล่าวสัจจะนี้ขอความสวัสดีจงบังเกิดมี


    นี่ล่ะคือความจริงของโลก คือความทุกข์ของสรรพสัตว์ อันไม่สิ้นสุด แต่เราจักแสดงความเป็นที่สิ้นให้ท่านทั้งหลายได้พิจารณาตาม แม้ด้วยเหตุใด ๆ ก็พึงสงบ ระงับ สดับรับฟังธรรมทั้งหลายอันพึงควรเจริญแล้วให้เกิดแก่ตนเถิด

    เกรงผู้ปฏิบัติรุ่นหลัง จะไม่รู้จักคุณของครูบาอาจารย์ ที่เป็นสุปฏิปันโน อันยิ่งควรแก่ความศรัทธา ด้วยเหตุแห่งทิฐิ กิเลสตัณหามันครอบงำอยู่มาก พูดศีลแต่ไม่มีศีล ละเลยการปฏิบัติอันพึงเข้าถึงแก่นแท้ของพระพุทธศาสนา มักมากในกามคุณ ยกยอปอปั้นตนเองเกินเหตุ หรือคะนองด้วยปาก อันไร้สติ ยกตนข่มท่านด้วยกิเลสตัณหา นานาประการ ซึ่งเป็นที่น่าสังเวชใจทั้งสิ้น

    วันนี้เป็นกุศลจิตอันดี ได้มาระลึกถึงคุณของผู้มีสุปฏิปันโน คือฤาษีสันตจิต หรือในนามของพระอริยคุณาธาร ปุสโส เส็ง

    สืบเนื่องมาจากครั้งหนึ่ง ปี พ.ศ. ๒๔๘๗ ท่านฤาษีสันตจิต(ลูกศิษย์ท่านพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต) เมื่อครั้งดำรงสมณศักดิ์เป็นพระอริยคุณาธาร ปุสฺโส เส็ง และเป็นผู้ตรวจการผู้ช่วยภาค ๔ ท่านมีธุระที่ต้องเดินทางไปยังนครจำปาศักดิ์ ซึ่งเมื่อก่อนยังเป็นดินแดนของไทย แต่ปัจจุบันอยู่ในเขตประเทศลาว หลังจากที่ท่านเสร็จธุระแล้ว พร้อมกับถือโอกาสพักอยู่ที่นั่น 1 เดือน วันหนึ่งท่านมีโอกาสได้สนทนาธรรมกับเจ้าคณะจังหวัด ซึ่งเป็นเรื่องเกี่ยวกับวิปัสสนาธุระ และความเป็นไปของพระสงฆ์ที่นั่นที่มีการปฏิบัติย่อหย่อน ซึ่งพระอริยคุณาธาร ปุสฺโส เส็ง ก็ได้แนะวิธีตรวจสอบพระอรหันต์หรือบุคคลที่แอบอ้างว่าตนเองสำเร็จเป็นพระอรหันต์แล้วตามวิธีของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ด้วยวิธีพระปรมาภิเษก ซึ่งพระพุทธองค์มักใช้วิธีละมุนละไมนี้กับพระสาวกทุกองค์ แม้แต่หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต ท่านก็เคยทดสอบตัวท่านเองและคณะศิษย์ของท่านมาแล้วหลายองค์ ด้วยวิธีของพระพุทธองค์ 5 วิธี คือ

    1.ประเภทยอ พระองค์จะทรงสรรเสริญบุคคลที่สำคัญตนสำเร็จเป็นพระอรหันต์ว่า มีคุณธรรมอย่างนั้นอย่างนี้เท่าที่มีจริงตามจริง จะทรงเปรียบเทียบว่าดีกว่าผู้นั้นผู้นี้ หรือดีกว่าใครๆ เพื่อจะหยั่งดูจิตใจว่า เขายินดีในคำสรรเสริญหรือไม่

    2.ประเภทยวน จะทรงเนรมิตภาพวิสภาคารมณ์(อารมณ์ที่ทำให้เกิดกำหนัด) มาให้เห็นหรือทรงดนตรีโลกุตระให้ฟัง เพื่อหยั่งดูว่าจะกำหนัดยินดีในวิสภาคารมณ์ หรือเสียงดนตรีหรือไม่

    3.ประเภทยั่วโทสะ จะทรงเนรมิตภาพศัตรูคู่เวรให้ปรากฏและทำการยั่วโทสะด้วยประการต่างๆ เพื่อหยั่งดูว่า จะมีโทสะหรือไม่

    4.ประเภทหลอก จะทรงเนรมิตภาพบุคคลเจ้าทิฐิมาถามปัญหาธรรมที่สุขุมคัมภีรภาพ หรือพูดแนะนำในทางปฏิบัติ ซึ่งเป็นปัญหา เพื่อหยั่งดูภูมิปัญญาว่า จะรู้จักเหตุผลเพียงไร

    5.ประเภทขู่ จะทรงเนรมิต ภาพบุคคลผู้มีอำนาจเหนือมาขู่ว่ามีความผิดร้ายแรงเป็นชนิดอุกฤษฎ์ มหันตโทษจะต้องประหารชีวิตแล้วทำการประหาร เพื่อหยั่งดูว่า จะเกิดความหวาดสะดุ้ง มีความอาลัยในชีวิตหรือไม่

    หลังจากสนทนากับเจ้าคณะจังหวัดมาถึงช่วงนี้ พระพรหมนารอด(นารกะ)ก็มาปรากฏองค์ในลักษณะทรงเจ้าคณะจังหวัด อย่างไม่คาดฝัน ท่านว่า “ข้าพเจ้าพระพรหมเป็นผู้ทำนาย มิใช่เจ้าคณะจังหวัด ข้าพเจ้ารู้จักคัมภีร์บ้าง รู้ด้วยตนเองบ้าง จึงทำนายให้ฟังเรื่องพระพุทธศาสนาเพื่อให้ท่านได้สังเกตการณ์ต่อไป” พร้อมกับกล่าวต่อไปว่า “เรามิใช่พุทธศาสนิกชนแต่เป็นฤาษีชีไพร สำเร็จณานสมาบัติ(เป็นผู้มุ่งดี) ตายแล้วได้อุบัติในพรหมโลก ไม่เป็นปฏิปักษ์กัน

    ฉะนั้นข้าพเจ้าสนใจในบวรพระพุทธศาสนาและได้สนับสนุนเสมอมา ข้าพเจ้าห่วงใยภัยอันตรายในพระศาสนา ในท่ามกลางอายุพระพุทธศาสนา จะมีภิกษุอลัชชีใจบาปนำลัทธิลามกเข้ามาแทรกปะปน ด้วยเห็นแก่ลาภสักการะ และยศศักดิ์เอากิเลสมาเป็นบ่อนทำลายพระพุทธศาสนา จะลุกลามไปตามอารามต่างๆทำให้พระภิกษุที่ดีต้องเดือดร้อนระส่ำระสาย พลอยแปดเปื้อนมลทินไปด้วย เหล่าภิกษุอลัชชีจักกล่าวร้ายป้ายสีพระภิกษุดีๆด้วยประการต่างๆนานา เพื่อทำลายศรัทธาของสาธุชน แต่ด้วยบาปอกุศลบันดาลเขาจักทำการอันน่าบัดสียิ่งขึ้น จนประชาชนรู้ทันกลมารยาของเขาจักนั้นเขาจะพินาศไปตามๆกัน

    ที่นั้นจักมีพระภิกษุผู้วิเศษรู้เหตุการณ์ดีมีความรู้เชี่ยวชาญทางอภิญญา ชำระสะสางพระภิกษุอลัชชีออกจากคณะสงฆ์ทำให้คณะสงฆ์บริสุทธิ์สะอาดปราศจากคนชั่วปะปน พระพุทธศาสนาจักเจริญรุ่งเรืองและแผ่ไพศาลมากจนถึงนานาประเทศอย่างกว้างขวาง จักมีผู้เข้ามาทำนุบำรุงฟื้นฟูไปจนถึงอายุของพระพุทธศาสนา ซึ่งมีกำหนด ๕,๐๐๐พระวัสสะ”

    พระอริยคุณาธาร ท่านสงสัยจึงถามไปว่า “พระภิกษุผู้วิเศษนั้นเป็นใคร”

    พระพรหมนารอดไม่ยอมตอบชื่อเพียงแต่กล่าวเป็นนัยว่า “ผู้ใดรู้จักเห็นพระพุทธเจ้าได้ ผู้นั้นเป็นผู้วิเศษ ท่านผู้นั้นรู้เหตุการณ์ดีกว่าใครๆในยุคเดียวกัน”

    (คำทำนายนี้มีมาเมื่อ ปี พ.ศ. ๒๔๘๗ ณ นครจำปาศักดิ์) จากนิตยสาร
    โลกทิพย์ ฉบับที่ ๒๕ ปีที่ ๓ เดือนมกราคม(ฉบับหลัง) พ.ศ.๒๕๒๗ หน้า ๑๐๕-๑๐๗

    About these ads
     
  10. zixma99

    zixma99 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    300
    ค่าพลัง:
    +1,175

    เห็นมั้ย..ไม่ทันข้ามวันผมโดนให้ลงนรกซะแหละ...ว้าแย่จัง..ปรามาสผู้วิเศษท่านนี้..ตกนรกเบย:cool:
     
  11. ชูบดี

    ชูบดี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มกราคม 2012
    โพสต์:
    403
    ค่าพลัง:
    +2,271
    ใครยังแอบลุ้นอยู่ว่า 21/12/12 จะเกิดภัยพิบัติอะไรยังไง เกี่ยวเนื่องการกับการสิ้นสุดของปฏิทินมายา อันเป็นที่มาของการทำนายวันสิ้นโลกอยู่นั้น หันมาอ่านกันดูว่า กว่าเราจะอยู่กันถึงเวลานี้ มีคำทำนายวันสิ้นโลกมาแล้วหลายหน มีครั้งไหนใกล้เคียงความจริงบ้าง ...

    1999 คำทำนายของ “นอสตราดามุส”

    ก่อนกระแสวันสิ้นโลกของปฏิทินมายา เชื่อว่าคำทำนายจาก “นอสตราดามุส” ดูเหมือนจะทรงอิทธิพลที่สุด จากบันทึกของเขาที่ตีพิมพ์ในปี 1555 ในฐานะโหราจารย์ชื่อดังแห่งฝรั่งเศส ซึ่งทำนายเรื่องราวไว้หลายเหตุการณ์ หนึ่งในนั้นคือ “วันสิ้นโลก”

    ในบันทึกของเขาระบุว่า “ในปี 1999 เดือนที่ 7 (สิงหาคม 1999) จะมีราชาแห่งความน่าสะพรึงกลัวมาจากฟากฟ้า” และนั่นอาจนำไปสู่หายนะของโลก

    เมื่อนำมาตีความในหลายๆ แบบ ก็เชื่อว่าอาจจะมีดาวเคราะห์ดวงใหญ่พุ่งชนโลก แต่ต่อมาเมื่อเกิดสถานการณ์อันตึงเครียดระหว่างอเมริกากับอิรัก ก็ทำให้เกิดการพุ่งเป้าไปที่การเกิด “สงครามโลกครั้งที่ 3” ราชาแห่งความน่าสะพรึงจึงหมายถึงประธานาธิบดีอิรัก “ซัดดัม อุสเซน”

    แต่แล้วเหตุการณ์สงครามแม้จะร้ายแรงและยืดเยื้อ แต่ก็ไม่รุนแรงถึงขั้นทำให้โลกหายนะ และไม่ได้กลายเป็นสงครามโลกครั้งที่ 3 แต่อย่างใด

    1666 ปีอาถรรพ์ 666

    เลข 666 ตามความเชื่อของคริสเตียนว่าเป็นเลขแห่งปิศาจและความชั่วร้าย ชาวคริสต์ในยุโรปต่างกังวลกับการมาถึงของปี 1666 นี้ ว่าจะกลายเป็นหายนะครั้งใหญ่ โดยในปีก่อนหน้าได้เกิดกาฬโรคระบาดคครั้งใหญ่คร่าชีวิตชาวลอนดอนไปนับแสน จึงนำไปสู่คำทำนายวันสิ้นโลกในปี 1666

    และวันที่เลวร้ายที่สุดแห่งปีก็มาถึง ในวันที่ 2 กันยายนเกิดไฟไหม้ร้านเบเกอรีในลอนดอน ไฟโหมกระหน่ำ 3 วันกว่าจะมอด เผาอาคารไปกว่า 13,000 หลัง ชาวเมืองอีกนับหมื่นไม่มีบ้านอยู่อาศัย มีผู้เสียชีวิตน้อยกว่า 10 ราย และโลกก็ยังไม่ได้พังทลายแต่อย่างใด

    1910 ดาวหางฮัลเลย์ พาสารพิษสู่โลก

    ตั้งแต่ปี 1881 ที่นักดาราศาสตร์ค้นพบว่า หางของดาวหางนั้นมีก๊าซไซยาโนเจน (สารไซยาไนด์) ปนอยู่ จึงได้สร้างความตื่นตระหนกว่า ถ้าดาวหางโคจรผ่านโลก ชาวโลกก็จะอาบสารพิษมรณะนั้นไปด้วย ซึ่งดาวหางที่จะมาเยือนถัดไปคือ “ฮัลเลย์” ในปี 1910 ความวิตกดังกล่าวได้รับการตีพิม์ลงหน้าหนึ่งหนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทมส์ และฉบับอื่นๆ จนทำให้เกิดความตื่นกลัวไปทั่วโลก

    แต่ในที่สุดแล้ว ก็มีกลุ่มนักวิทยาศาสตร์ออกมาช่วยอธิบายว่า การโคจรของดาวหางไม่สร้างอันตรายให้ชาวโลกได้ขนาดนั้น

    2000 ขึ้นศตวรรษใหม่ อาจกลายเป็นอวสาน

    หลายคนคงผ่านช่วงเวลาเข้าสู่ปี 2000 อันคือ “ยุคมิลเลเนียม” พร้อมๆ กับปัญหา วายทูเค (Y2K) เมื่อการก้าวเข้าสู่วันที่ 1 มกราคม 2000 จะกลายเป็นการสร้างปัญหาให้ระบบคอมพิวเตอร์ทั่วโลก มีการคาดการณ์ไว้ในช่วงปี 1970 ว่า ระบบคอมพิวเตอร์อาจจะไม่สามารถแยกแยะความแตกต่างของศตวรรษได้ จากการปรับนาฬิกาสู่ 2000 อาจกลับไปสู่ 1900 แทน อันจะนำไปสู่ความยุ่งเหยิงวุ่นวาย และหายนะตามมา

    แต่แล้วการฉลองศตวรรษใหม่ก็ผ่านไปได้ด้วยดี วายทูเคไม่ได้สร้างปัญหาตามที่คาด ทว่ามีจุดจบใหม่ที่ชาวโลกต้องกังวล นั่นคือ 5/5/2000 วันที่ 5 พฤษภาคม 2000 เป็นวันที่ดาวเคราะห์เรียงตัวกัน แผ่นน้ำแข็งแอนตาร์กติกจะหนาถึง 3 ไมล์ นั่นเป็นผลให้ชาวโลกล้มตายด้วยความเหน็บหนาว ... แต่เหตุการณ์ก็ไม่เป็นเช่นนั้น อาจต้องขอบคุณภาวะโลกร้อนที่ช่วยชีวิตพวกเราไว้

    2011 วันพิพากษา

    ถัดมาปีก่อนหน้านี้ ในเดือนพฤษภาคม ฮาโรลด์ แคมปิง (Harold Camping) นักเทศน์ทางวิทยุ ได้สร้างความตระหนกให้แก่ชาวโลก ด้วยการประกาศคำทำนายว่า วันที่ 21 พฤษภาคม 2011 คือวันพิพากษา ซึ่งจะเริ่มต้นด้วยการเกิดแผ่นดินไหวไปทั่วโลก และหายนะจะต่อเนื่องยาวไปจนถึงวันที่ 31 ตุลาคมปีเดียวกัน และโลกจะสูญสิ้นในวันนั้น

    ทว่า ทั้งวันพิพากษาและวันสิ้นโลกของแคมปิงก็ผ่านไปอย่างเงียบๆ และต่อมาเขาก็อธิบายว่า แผ่นดินไหวที่จะเกิดขึ้นนั้นไม่ใช่ทางกายภาพ แต่เป็นแผ่นดินไหวทางจิตวิญญาณ และพระเจ้าก็ได้พิพากษาเหล่าวิญญาณของมนุษย์ทั้งหลายเป็นที่เรียบร้อยไปแล้ว ... โดยไม่มีใครรู้ตัว

    2011 เด็กชายปลาบู่ผู้ระลึกชาติได้

    เรื่องนี้คงเป็นที่ฮือฮา และใกล้ตัวเราที่สุด วันสิ้นโลกฉบับไทยๆ ยังไม่มีบันทึกไว้ในระดับสากล เหตุเกิดเมื่อปลายปี 2011 ผ่านทางยูทูบที่ชายคนหนึ่งอ้างว่าเป็นพ่อของ “เด็กชายปลาบู่” ได้เล่าเรื่องราวของลูกชาย เป็นคำทำนายจากการระลึกชาติได้ ว่าจะมีการเกิดภัยพิบัติในช่วงเวลาต่างๆ และอันใกล้ที่สุดก็คือช่วงวันปีใหม่ที่ผ่านมา จะมีเหตุการณ์เขื่อนแตก แผ่นดินไหว มีผู้เสียชีวิต แต่แล้วคำทำนายดังกล่าวก็ไม่เป็นจริง

    ตอนนี้เราเพียงแต่รอว่า วันที่ 21/12/12 จะเป็นอีกวันที่ผ่านไป จากนั้นยังมีคำทำนายถึงหายนะและวันสิ้นโลกอีกมากมายหลายฉบับ มีเว็บไซต์แห่งหนึ่งได้รวบรวมสารพัดคำทำนายเหล่านี้ไว้ แทบจะเรียกได้ว่า มีคำทำนายถึง “วันสิ้นโลก” เกือบทุกปีทีเดียว ถ้าหลังวันที่ 21 ธันวาคมนี้ เรายังอยู่กันพร้อมหน้า ลองแวะไปดู manyends.com รอรับคำทำนายรอบถัดไปกันได้ ....จาก/astvผู้จัดการ..


    ข้าน้อยเห็นว่าน่าสนใจ..เอามาลงให้อ่านกัน..ตอนรอลุ้นผล..แผ่นดินไหว..จ้า
     
  12. มณีจำปา

    มณีจำปา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    1,423
    ค่าพลัง:
    +9,369
    ต้องขอขอบคุณ คุณ zixma99, คุณชูบดี, คุณราชบดินธร, คุณ nprofcomp, คุณ webang906, คุณชัยบวร และ คุณ noway [​IMG] ที่มาให้แง่คิด และแง่ธรรม ในการพูดคุยกัน ผ่าน social network บางครั้ง การไม่เห็นหน้าตา สีหน้าขณะพูด ไม่รู้จักกันเป็นการส่วนตัว การสื่อสารบางครั้งอาจผิดพลาดได้ค่ะ แต่ดิฉันคิดว่า เท่าที่เที่ยวไปทุกกระทู้นั้น เพื่อนสมาชิกแต่ละท่าน มีเจตนาดีค่ะ แต่อาจสื่อสารได้ ไม่ตรงกับช่องทางของผู้รับนั้นๆ เพราะพื้นฐานของแต่ละคนมาแตกต่างกัน เพราะฉะนั้น การรับ-ส่งสาร อาจผิดเพี๊ยนไปจากเจตนาที่ส่งได้ หากเราอ่าน หรือเสพสารนั้นเข้าไปแล้ว มันไม่ตรงกับช่องการสื่อสารของเรา เราอาจขุ่นใจ เคืองใจ [​IMG] ฉะนั้น เราก็เพียง อ่านแล้วมองเช่นเราอ่านนิยาย เรื่องเล่า หรืออื่นๆ ให้เกิดความบันเทิง หรือสะเทือนใจ แล้วแต่นิยายเรื่องนั้น มันเป็นเช่นไร หรือบางทีอาจเป็นตลกร้าย ที่ฟังแล้วไม่โออะ แต่มันก็เป็นเพียงนิยาย เลือกรับเอาแต่สิ่งที่ดี ประเทืองปัญญา ประเทืองใจ ของเรา อะไรที่เรามองว่ามันไม่โอสำหรับเรา ก็มองซะว่า อืมม์ อย่างนี้เราไม่โอ เราเลือกเสพ เลือกรับได้ค่ะ เท่านั้นเราก็จะสุขใจในการเข้ามาอ่านกระทู้ในเว็บพลังจิตของพวกเรากันทุกคนค่ะ [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 ธันวาคม 2012
  13. อธิฎฐาน

    อธิฎฐาน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    430
    ค่าพลัง:
    +1,610
    ขอเปลี่ยนภาพให้คุณ zixma ค่ะ

    [​IMG]
     
  14. noway

    noway เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 เมษายน 2012
    โพสต์:
    916
    ค่าพลัง:
    +3,969
    ลองเอาทางโลกไปพิจารณาเทียบเคียงดู

    มันขึ้นกับว่า หยอกเอินกับใคร

    หยอกเอินกับเพื่อน กับเด็ก คงไม่มีปัญหาอะไร

    หยอกเอินกับผู้ใหญ่ น่าจะถูกเขม่นบ้างไม่มากก็น้อย

    หยอกเอินกับผู้สูงศักดิ์ มีอำนาจ น่าจะเดือดร้อน

    ทางธรรม

    หยอกเอินกับผู้มีศีลมีธรรม ก็ต้องพึงระวัง

    ยิ่งผู้ที่เป็นอริยะบุคลล ยิ่งระวังให้หนัก

    แต่เราจะรู้ไหมว่าใครมีคุณธรรมระดับไหน

    เว้นเสียแต่เรามีคุณธรรมเท่าเขา หรือสูงกว่าเขา

    หรือมีเจโตปริยญาณรู้วาระจิตเขา
     
  15. zixma99

    zixma99 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    300
    ค่าพลัง:
    +1,175
    ขอบคุณมากๆครับท่าน...แต่โดยส่วนตัวผม..ผมว่าการตัดสินว่าใครถูกใครผิด..ใครชั่วใครเลวนั้น..ผู้ที่ตัดสินนั้นท่านคงมีตรรกะมากพอครับ ไม่ใช่ว่ากล่าวอ้างอะไรขึ้นมาแล้วตัวเราไม่เชื่อหรือนับถือกราบไหว้แล้ว ทำให้ตัวเราตกนรก..ผมว่าคนที่คิดแบบนั้นน่าสงสารมากกว่าตัวผมที่โดนสาปแช่งให้ตกนรกครับ :cool:
     
  16. zixma99

    zixma99 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    300
    ค่าพลัง:
    +1,175
    รบกวน .. ผู้วิเศษทั้งหลายในบอร์ดนี้น่ะครับ ช่วยเอาพลังวิเศษของท่านช่วยคิดหน่อยว่า ถ้าการปรามาสนั้นทำให้ตก นรก แล้ว การกล่าวอ้างเรื่องต่างๆแล้วทำให้ผู้คนหวาดกลัวหรือมี จิต ขุ่นมัว และวันเวลาได้พิสูจณ์แล้วว่าเรื่องดังกล่าวไม่เคยเป็นความจริง อย่างนี้จะ ตกนรกมั้ย ครับ..:cool:
     
  17. webang906

    webang906 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    335
    ค่าพลัง:
    +1,759
    แล้วเวลาจะเป็นข้อพิสูจน์ ถึงเวลาเตรียมคำพูดไว้ให้ดีๆเน้อ ท่านผู้วิเศษทั้งหลาย

    [​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  18. noway

    noway เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 เมษายน 2012
    โพสต์:
    916
    ค่าพลัง:
    +3,969
    กฎหมายทางโลกมันซับซ้อนนะ เรียนกัน 4 ปี
    มันมีทั้งแพ่ง อาญา วิแพ่ง วิอาญา ล้มละลาย ทหาร ภาษี ทรัพย์สินทางปัญญา แรงงาน
    อีกนับไม่ถ้วน บลาๆๆ
    ไม่รู้ ไม่แน่น ไปต่อเนติอีก
    จบมายังมาเถียงกันต่ออีก ยันศาลรัฐธรรมนูญ

    ไอ้ที่ว่าซับซ้อน เห็นไม่ตรงกัน ไม่ไมีใครรู้จริง ไม่มีใครฟันธงจริง เรื่องกฎหมาย
    มันเทียบไม่ได้กับทางธรรมเลยท่าน
    ทางธรรม ตัวแปรมันเยอะแยะ
    ทั้งเจตนาหนักเบา ทั้งตัวผู้กระทำ ตัวผู้ถูกกระทำ
    ทั้งผลที่กระทำไปแล้ว
    มันกระทบวงกว้างวงแคบ

    การจะบอกว่าใครตกนรกมากกว่ากัน มันบอกไม่ได้ดอกท่าน
    มันต้องแยกส่วน
    เขาบาป เขาก็ตกนรก
    เราบาป เราก็ตกนรก
    ใครจะตกนานกว่า ลึกกว่า ร้อนกว่า จะมีใครรู้ไหม
    และมันเปรียบกันไม่ได้ เขาส่วนเขา เราส่วนเรา
    ภาษากฎหมายเขาเรียก ต่างกรรม ต่างวาระ ต่างฐานความผิด
     
  19. ชูบดี

    ชูบดี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มกราคม 2012
    โพสต์:
    403
    ค่าพลัง:
    +2,271
    ..เข้ามาดูอีกที..ท่านzixma99..กำลัง..มีอารมณ์เล็กๆ..ข้าน้อยกดไม่เห็นด้วย..เองแหละท่าน..ก็ตรงที่ว่า.."ตกนรกเบย"..แหม..ก็ท่านพูดจาไม่เป็นมงคล..ข้าน้อย.เลย..เป็นห่วงเล็กๆ..จ้า..
    ส่วนของท่าน noway ..ข้าน้อยมิทราบว่า..ใครพลาดพลั้งไปโดนเข้า..จ้า
     
  20. noway

    noway เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 เมษายน 2012
    โพสต์:
    916
    ค่าพลัง:
    +3,969
    เราเห็นคุยกันเรื่องนรก เราเลยแจมในฐานะคนเคยตกมาก่อน

    ไม่มีอะไรดอก

    ส่วนที่ว่ามีใครพลาดพลั้งอะไรกับเรา

    เราว่าไม่มีนะ

    ถึงมีใครเหวี่ยงแหเอาเราเข้าด้วย

    เราไม่ถือ

    เพราะเจตนาเขาไม่มี

    ถึงมีเจตนา

    เราก็ไม่ถืออีก
     

แชร์หน้านี้

Loading...