ประเทศไทยจะเกิดอุบัติภัยอย่างที่ทำนายกันจริงๆหรือไม่

*** เยี่ยงอย่างพระพุทธเจ้า ****

พระพุทธเจ้า อาศัยอยู่ในป่าคนเดียว
ก้าวข้ามกรรมไปได้ ด้วยสัจจะที่ปฏิบัติได้
มีสัจจะ เป็นที่พึ่ง

- " หนุมาน ผู้นำสาร "

 

เมื่อคืนฝันแปลกมากเลยคะ หนูฝันว่าตัวเองเดินอยู่บนถนนมีแต่คนนอนป่วยและจากนั้นก็มีแสงที่สว่างมาก หนูรู้สึกว่าแสบตาและแสบตามเนื้อตัวไปหมดเลย สะดุ้งตื้นมา ในฝันมันเหมือนเรื่องจริงมาเลยคะ .

 

เป็นคนละเหตุการณ์ คนละช่วงเวลากันนะครับ !!!​

​

อ้างอิงพุทธทำนายจากศิลาจารึกที่ประเทศอินเดีย

ปีมะโรง (เม.ย.55-เม.ย.56) คนจะเปลี่ยนสภาพเดินเป็นคลาน
ปีมะเส็ง (เม.ย.56-เม.ย.57) ตลิ่งจะพัง แผ่นดินถิ่นอธรรมจะถล่มจมทะล

วิเคราะห์พุทธทำนาย

หลายๆ คนคงจะคิดว่า ทั้งสองเหตุการณ์นี้เป็นเรื่องที่จะเกิดขึ้นในเวลาเดียวกัน ซึ่งเป็นเรื่องไม่ตรงตามความเป็นจริง เพราะเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นคนละช่วงเวลากัน ดังที่ปรากฏอยู่ที่พุทธทำนายจากศิลาจารึกที่ว่า:-

ปีมะโรง (เม.ย.55-เม.ย.56) คนจะเปลี่ยนสภาพเดินเป็นคลาน

ก็หมายถึงเหตุการณ์ตามที่พระอาจารย์รัตน์ได้บอกให้ทราบกันไปแล้วว่า พลังงานจากนอกโลกจะมาทำให้ทุกคนบนโลกนี้ ต้องนอนราบขนานไปกับพื้นโลก และถ้าจะเคลื่อนไหวตัวไปที่ใด ก็ต้องใช้วิธีคลานไปกับพื้นเท่านั้น เป็นเวลา 42 วัน นับจากวันที่ 3 ม.ค.56 เป็นต้นไป แต่ถ้าได้รับความช่วยเหลือจากเพื่อนจากต่างดาว เวลา 42 วัน ก็อาจจะร่นระยะเวลาให้สั้นลงมาได้

ปีมะเส็ง (เม.ย.56-เม.ย.57) ตลิ่งจะพัง แผ่นดินถิ่นอธรรมจะถล่มจมทะล

ก็หมายถึงเหตุการณ์ที่ดาวเนบิรุ(ดาวถ่วงดุล) จะโคจรมาใกล้กับโลกในกลางปีหน้า อันจะทำให้แกนโลกพลิกกลับขั้ว และเกิดภัยพิบัติต่างๆ ดังคำทำนายของพระพิฆเนศร์ ดังต่อไปนี้ครับ:-

องค์เทพทำนายภัยพิบัติโลก

องค์เทพทำนายภัยพิบัติโลกผ่าน อ.จตุพร ซึ่งร้ายแรงกว่าที่มนุษย์คิดไว้มากมายนัก (2555-2558)....บทความนี้เขียนไว้เมื่อ วันพฤหัสบดีที่ 25 มีนาคม พ.ศ. 2553

คำทำนาย ในประเทศไทย

ทุกวันนี้โลกเราผิดปกติไปมากขึ้นทุกที แกนโลกเริ่มขยับตัวเคลื่อนที่อย่างมาก รอวันที่มันจะผลิกคว่ำ เมื่อคนไม่ดีมีเยอะมากขึ้น ศีลธรรมเสื่อมทรามลง แกนโลกจะคว่ำ เมื่อมันคว่ำแล้ว อะไรทุกอย่างจะเปลี่ยนไปหมด บางจุดน้ำจะเป็นดิน ดินจะเป็นน้ำ

หนาวจะร้อน ร้อนจะหนาว สภาวะขาดอาหารและน้ำ จะเกิดขึ้นไปทุกหย่อมหญ้า เงินจะไม่มีความหมาย อาหาร ยา เท่านั้นที่มีความหมาย คนไม่ดีจะเหลือน้อย คนดีจะเป็นใหญ่ ความสามัคคีจะเกิด ผู้คนจะช่วยกัน เริ่มเห็นใจกัน จะมีการเดินทางครั้งยิ่งใหญ่ อะไรก็ตามที่ใช้ไฟฟ้า แทบจะไม่มีความหมาย คนไทยจะเริ่มอพยพ ไปทิศใหม่ เมืองใหม่จะถูกสร้างขึ้น อารยธรรมใหม่จะเกิดขึ้นที่นั้น ทรัพย์พยากรใหม่ๆ จะออกมาตามรอยแยกแผ่นดินไหว จะมีแต่คนดีที่ครอบครอง ...สมาธิ จะเป็นบทนำที่อารยธรรมใหม่แห่งนี้

คำทำนาย ในกรุงเทพมหานคร

วันนั้นฟ้าจะเปลียนสี พระอาทิตย์จะปรากฎให้เห็นเป็น 2 ดวง ทางทิศตะวันตกในเวลาเดียวกัน ท้องฟ้าจะเป็นสีแสด อากาศผิดปกติ เป็นแบบนี้ไม่กี่วัน "คนมีบุญจะรวมกลุ่มกันหนี คนบาปจะอยู่กับบ้าน" เข้ายามราตรี ฝนจะตก ฟ้าจะร้อง พายุขนาดใหญ่จะมา

(ดวงอาทิตย์ที่เห็นเคียงคู่นั้น คือดาวหางนิบิรุ(ดาวถ่วงดุล) กำลังโคจรเข้ามาใกล้ดวงอาทิตย์ของสุริยจักรวาลมากขึ้น เพื่อวนรอบดวงอาทิตย์ ทุกๆ 3,657 ปี สีจะออกแดง)

ไฟจะดับ น้ำจะเริ่มท่วม รถยนต์จะเริ่มลอย เสาไฟจะล้ม คลื่นยักษ์สูง 50 เมตร จะมากวาดทุกอย่างไปในพริบตา "คนมีบุญที่หนีได้ทัน จะไปอยู่บนยอดตึก บุญจะส่งให้เขามีเหตุให้ต้องไปอยู่บนยอดตึกในเวลานั้น" ตกเช้าน้ำจะไป ทิ้งไว้แต่โคลนสีส้มไปทั่วเมือง "กรุงเทพฯ ไม่เหมาะที่จะสร้างเป็นเมืองหลวงอีกต่อไป" ส่วนต่างจังหวัดอื่นๆ จะเกิดหนักเหมือนกัน แต่น้ำจะไปไม่เท่ากัน

ที่มา

 

แผ่นแปซิฟิกยกปลาย อินโดฯต่อเนื่อง !!!​

​

somdul สมาชิก

หลังจากยกปลาย อินโด-ออสเตรเลีย จนหลุดรอยเกาะเกี่ยวกับแผ่น Sunda Plate บริเวณทางใต้อินโดนีเซียต่อกับออสเตรเลียไปแล้ว แผ่นแปซิฟิกยังคงเดินหน้าต่อ ยกขอบแผ่น อินโดฯให้สูงมากยิ่งขึ้นต่อไป....ขอบแผ่นทางด้านทิศตะวันตกก็จะเอียงมากยิ่งขึ้น และเอื้อให้ขอบแผ่นติดกับชะวาลอยตัวสูงเพิ่มขึ้น

ในกรณีพายุไซโคลนนากีซ เข้าพม่า ในเมขลาพยากรณ์พยากรณ์เอาไว้ล่วงหน้า 9 ปี ตรงทุกประเด็นทีเดียว และยิ่งกว่านั้นที่ชนชาวไทยส่วนใหญ่ไม่รู้ไม่ทราบ การปิดทองหลังพระของพระองค์ท่าน

เพิ่งมีการนำมาเปิดเผยภายหลังที่เหตุการณ์ผ่านพ้นไปแล้ว ค่อนข้างปลอดภัยต่อประเทศไทย โดยเฉพาะเส้นทางของพายุรุนแรงจากพม่าจะเข้าไทย ยังผลให้จังหวัดตาก เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน เชียงราย อาจจะราบเป็นหน้ากลองทีเดียว หากมิได้อาศัยพระองค์ท่านทรงรับสั่งให้หน่วยฝนหลวง ทำฝนเทียมตลอดแนวชายแดนไทยพม่าเอาไว้ล่วงหน้าก่อน 3 วันที่พายุจะมาถึงเขตประเทศไทย ม่านความเย็นสยบฤทธิ์เดชของพายุใหญ่ให้สงบลงกลายเป็นเพียงดีเพรสชั่นเท่านั้น

กรมอุตุของไทยก็ไม่มีการเตือนล่วงหน้าใดๆ ทั้งๆที่ในภาพถ่ายดาวเทียม พื้นที่ประเทศไทยทางติดกับพม่า จะเป็นเป้าหมายต่อไปของพายุร้าย

ตามธรรมดาของพายุชอบอากาศร้อน ยิ่งร้อนต่อร้อนมาผนวกกัน เช่นแซนดี้ในสหรัฐฯ กลายเป็นยักษ์พายุขึ้นไปยิ่งกว่าเก่าเลยทีเดียว ร้อนเจอกับเย็นของพระองค์ท่านก็ค่อยสงบลง ไม่สร้างความเสียหายร้ายแรง เช่นที่พม่าโดนเข้าไปเต็มๆ รัฐบาลไทยในเวลานั้นก็หุบปากเงียบมิได้นำมาชี้แจงรายละเอียดที่ทรงได้ช่วยเหลือประเทศและชนชาวไทยเอาไว้ ให้ประชาชนทั้งประเทศได้ทราบและน้อมโมทนากับพระคุณยิ่งใหญ่ต่อผืนแผ่นดินสยามนี้ แต่อย่างใด มีประชาชนเพียงส่วนน้อยเท่านั้นที่จะได้ทราบจากอินเทอร์เน็ต

ทีนี้ขอวกกลับมาที่เมขลาพยากรณ์ฉบับนี้ 9 พ.ค. 2556 ที่ปรากฏเครื่องหมายรหัสเอาไว้ใกล้ๆประเทศศรีลังกา หากแผ่น อินโด-ออสเตรเลีย และ PX จะจากระบบสุริยะไปหลังจากทำ Zeta triangle และดึงโลกเข้าไปในระยะประชิดเพียง 14 ล้านไมล์ ขั้วเหนือของ PX ที่จี้มาที่ขั้วโลกใต้ สบัดตัวตั้งขึ้นพร้อมๆกับผุนผันจาก Ecliptic ของดวงอาทิตย์ไปนั้น จะดึงแผ่นขั้วโลกทางใต้ให้สลิปจากแกนในของโลก ทำให้โลกย้ายขั้วไป 90 องศา

ของแถมระหว่างขบวนการข้างต้น ประเทศศรีลังกาจะย้ายทำเลลงไปทางใต้ กลายเป็นขั้วโลกใต้ใหม่ จมลึกอยู่ใต้ท้่องทะเล ข้างบนจะเต็มไปด้วยน้ำแข็งตลอดทั้งปี หนาขึ้นๆจนเต็มพิกัด ระหว่างที่น้ำแข็งขั้วโลกเก่าที่ต่างย้ายไปอยู่โซนเส้นศูนย์สูตรใหม่ ละลายจนหมดภายใน 2 ปี ที่ปรากฏน้ำทะเลกัดเซาะชายฝั่งให้หายไปมากมาย ในพระพุทธทำนายของ ปี 2556 หรือจนกว่ากลางเม.ย. 2557 จึงจะสิ้นปี 56 ของไทยนั่นเอง...

เมขลาพยากรณ์ 9 พ.ค. ฉบับนี้จะมาคล้องจองกันกับเหตุการณ์ Zeta Triangle หรือไม่ ใครที่ยังมีชีวิตรอดอยู่ก็คอยติดตามเฝ้าดูกันต่อไป...แต่ก่อนอื่นมีข่าวหลายกระแสบ่งชี้ว่า แผ่นหินของ Sunda Plate ที่เป็นที่ตั้งของ อินโดนีเซีย มาเลย์ ไทย ฟิลิบปินส์ เวียตนาม พม่า จีนตอนใต้ จะแตกหักทรุดตัวลงก่อนที่โลกจะย้ายขั้ว....พื้นที่ชายฝั่งทะเลที่สูงกว่าน้ำทะเลไม่มากนักจะได้รับผลกระทบที่รุนแรงทีเดียว ไม่เฉพาะแต่น้ำทะเลขึ้นกระทันหันอาจมีโคลนทะเลผสมปนเปมาด้วย

แนวโน้มฮอนชูของญี่ปุ่น

แผ่นแปซิฟิกที่รุกคืบตลอดเวลาที่บริเวณนอกเกาะฮอนชูนี้ จะเกิดเหตุรุนแรงแก่เกาะเหนือของญี่ปุ่นชัดเจนยิ่งขึ้นทุกวัน คงจะไม่เกินคาดของนักธรณีของญี่ปุ่น ที่ซ้อมการเตรียมการรับแผ่นดินไหวขนาด 10 ริกเตอร์เอาไว้ล่วงหน้าดังที่เป็นข่าวไปเมื่อต้นเดือน

ส่วนผลกระทบที่จะมาถึงประเทศไทยและประเทศต่างๆที่ื่ตั้งอยู่บน Sunda Plate หลังจากมีภูเขาไฟระเบิดรุนแรงที่เกาะเหนือของญี่ปุ่น Sunda Plate ก็จะล่มลง ซึ่งพื้นที่ประเทศไทยจะทรุดตัวลง เท่ากับตึก 4 ชั้นตามอินโดฯที่ลงไป 8 ชั้น และเมื่อปลายแผ่นนี้จมลงกระทันหัน จะเกิดหลุมมน้ำทะเลขนาดใหญ่ ในมหาสมุทรจีนและอินเดีย จึงอาจคลื่นสึนามิแถมเข้ามาในก้นอ่าวไทยด้วยในเวลาเดียวกันที่น้ำทะเลรุกเข้ามาในแผ่นดินของ พื้นที่ชายฝั่งทะเลของไทย

เพียงฉายหนังตัวอย่างเอาไว้ ให้ช่วยกันจับตาดูต่อๆไป

ที่มา http://palungjit.org/threads/ประกาศข่าวแผ่นดินไหว-and-การคาดการณ์.51734/page-614

 

แค่แกนโลกเปลี่ยนขั้วไป 90 องศา ก็ขาชี้ฟ้ากันเป็นแถวๆ !!!​

​

◎ สมาชิก

เดี๋ยวๆ อย่าด่วนว่าตาม ธรรมดา โลกกลมๆนี้มีสองขั้ว แต่หากขั้วเหนือพลิกไป 90 องศา ไม่ต้องถึงขนานยา 180 กลายเป็นตะวันออก ขั้วใต้กลายเป็นตะวันตก ปรุงยาไม่ถูกสูตรเชียวนา จะหาว่านาซ่าไม่เตือน จนต้องทำคลิปจุดใต้ตำตอ

15-12-2012, 02:30 PM

ฮั้วโต๋ สมาชิก

..ก็ในโลกใบนี้มีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลานี่นา.เอาแล้ว 90 องศา ก็ขาชี้ฟ้ากันเป็นแถวๆ..ถ้า 180 องศานี่เลิกคุย.ไม่รอด...แต่จุดใต้ตำตอนี่สิ..แหมๆๆ เดี๋ยวพรุ่งนี้มาว่ากัน..เช้ามีเวลาหน่อย ๆ บ่าย ๆ เต็ม..ค่ำ ๆ ไม่แน่ใจ.แต่ดึก ๆ
นี่สิ..ชัวร์.....

เจริญในธรรม มีพระพุทธเจ้าในจิตให้มาก ๆ

15-12-2012, 02:43 PM

ที่มา http://palungjit.org/threads/สัญญาณฟ้าเตือนภัยพิบัติ.294356/page-485

 

ให้กำลังใจทุก ๆคนครับ

ผมก็เป็นคนหนึ่งนะ ที่เสพ ข้อมูล เกี่ยวกับเรื่องนี้ และก็มีความเชื่อ ว่ามีภัยใหญ่ อันใกล้นี้ ผมอยู่แถวมหาชัย สมุทรสาคร ทำงานอยู่ใจกลางกรุงเทพฯ มีครอบครับเล็ก ๆ ผมเป็นหัวหน้าครอบครับ ลูกเล็ก 1 1/2 กับ 5 ขวบ แม่ยายอีกคน ผมเป็นคนหนึ่งที่ได้เตรียมการ สำรองอาหาร ยารักษาโรค และปัจจัยต่าง ๆ ตามแต่กำลังทรัพย์ จะอำนวย ส่วนตัวมองว่า เกิดหรือไม่เกิดไม่เป็นไร อะไรก็ได้ เพราะ ไม่สามารถเลือกได้ **แต่ปัญหามันอยู่ที่ ถ้ามันเกิดขึ้นมาจริง คนที่ไม่ได้เตรียมการอะไรเลย ก็จะได้รู้ได้เห็นในสิ่งที่ตนเองปฏิเสธมาตลอด ในวันเวลาที่สายไป*** ถ้าคูณยังรอดชีวิตอยู่ได้ มันจะเป็นสิ่งที่ยากลำบากมาก ๆ ที่คุณคุณจะเอาชีวิตรอดได้ เนื่องจากขาดแคลนอาหาร (สิ่งมีชีวิตทุกอย่างดำรงอยู่ได้ด้วยอาหาร สิ่งนี้เรียกว่า 1 ) คุณจะหวังให้ใคร ผู้ใดมาช่วยครับ /ผมบอกภรรยา เสมอว่า ของต่าง ๆ ที่ผมซื้อเตรียมไว้ เป็นสิ่งที่เราสามารถ นำมาใช้ในอนาคตข้างหน้า ไม่ว่าจะเป็น ข้าวสารอาหารแห้ง น้ำดื่ม รวมทั้งสิ่งอื่นที่จำเป็น แต่ถ้ามีเหตุเกิดขึ้นแล้วเราไม่รอด สิ่งที่เราเตรียมไว้ อาจจะเป็นสิ่งจำเป็นอย่างมากสำหรับผู้ที่รอดชีวิตในที่นั้น ๆ(เหมือนได้ทำบุญเลย) ดังนั้นผมคิดว่าสิ่งที่ผมได้เตรียมการนี้ เป็นสิ่งที่หัวหน้าครอบครับ ทุกๆ คน ควรเตรียมตัว ยามวิกฤติ มาถึง ทุกคนในครอบครัว ก็จะฝากความหวังไว้ที่คุณๆๆๆ คนที่เป็นพ่อ คนที่เป็นแม่ คนที่เป็นสามี คนที่เป็นพี่ เป็นลูกที่มีพ่อแม่ที่ต้องดูแล คนที่เป็นที่พึ่ง/////ถึงแม้ว่าในสายตาของคนรอบข้าง เพื่อนร่วมงาน อาจมองเราในทางที่ไม่ดี เราอาจถูเหยียดหยาม ถูกมาว่าไม่มีสมอง เชื่อเรื่องงมงายแต่พวกเรารู้ว่า สิ่งที่เราทำกันเป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่ พวกเราไม่ใช่พวกที่ครั่งลัทธิ ต่างๆ พวกเรารับฟังข้อมูล อย่างมีสติ พวกเราไม่ประมาทในชีวิต ผมเชื่อว่าส่วนใหญ่พวกเราเป็นผู้ศึกษาธรรม บางคนเข้าถึงธรรมด้วยซ้ำ //ผมรู้ว่าพวกคุณไม่ใช่คนเห็นแก่ตัว คุณทำเพื่อส่วนรวมครับพวกคุณเป็นคนที่มองการไกล คุณเป็นคนที่มีความรับผิดชอบครับ พวกคุณคือฮีโร่ ครับ *เหตุเกิดแล้วไม่รอด ก่อนตาย ตนเป็นที่พึงแห่งตน ถ้ารอดเราจะเป็น พึ่งของของคนรอบข้างครับ// ผมขอให้กำลังใจกับผู้ที่เตรียมการรับสถานการฉุกเฉินทุกๆ คนครับ ผมขอสรรเสริญ ผู้ที่ให้มูลที่เป็นประโยชน์ ทุก ๆท่าน ขอบพระคุณเป็นอย่างสูงครับ

 

ชอบแนวคิดดีๆ

ใช่เลย ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน เมื่อตนปลอดภัยแล้ว ก็ช่วยเพื่อนๆมนุษย์ต่อ

 

ผมคิดเหมือนคุณKOOKKAI R หลายอย่างก็เอามาใช้ในชีวิตประจำวัน เช่น ยา อาหารแห้ง ไฟฉาย เมื่อใช้ไปประมาณ 50% ก็ซื้อเพิ่มเติมไว้ตลอดพรุ่งนี้จเอารถไปตรวจบำรุงรักษา จัดหาถ่านไฟฉาย น้ำมันเชื้อเพลิงสำรอง นอกนั้นมีเกือบครบ แผนทางเดินทางและกำหนดจุดหมาย พร้อมเดินทางแล้ว ต่อไปเหตุการณ์จะเป็นเช่นใด แล้วแต่ธรรมะจัดสรร

 

หูฟังของ 3M รุ่นหนึ่ง จะมีระบบกันคลื่นกระแทกได้ ทำให้ผู้สวมยังสามารถทรงตัวอยู่ได้ แต่ราคาราวหมื่นกว่าบาทครับ

 

16/12 ดร.อาจอง เตือน!อาจเกิดแผ่นดินไหวบ่อยครั้ง และอาจเกิดสึนามิที่ฟิลิปปินส์และอ่าวไทย
ดร.อาจอง ชุมสาย ณ อยุธยา นักวิทยาศาสตร์ และวิศวกรรมไฟฟ้า ซึ่งเคยทำงานร่วมกับองค์การนาซ่าของสหรัฐฯ กล่าวใน การประชุมภัยพิบัติประจำปี เรื่อง "ถอดรหัสภัยพิบัติ พลิกวิกฤติให้เป็นคำเตือน" ที่คณะสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล โดยได้แสดงความเป็นห่วง 2 เรื่อง คือการตรวจพบก๊าซมีเทนซึ่งมีพลังงานความร้อนสูงกว่าก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ถึง 21 เท่า ผุดขึ้นมาจากใต้พื้นโลก บริเวณไซบีเรีย ใกล้ขั้วโลกเหนือ ก๊าซมีเทนนี้จะเป็นตัวเร่งปฏิกริยาภาวะโลกร้อนให้เร็วและรุนแรงมากขึ้น ผลที่ตามมา คือ น้ำแข็งขั้วโลกจะละลายลงสู่มหาสมุทรแปซิฟิค พอมวลน้ำในมหาสมุทรให้มีน้ำหนักมากขึ้นซึ่งจะส่งผลกระทบต่อการหมุนของแกนโลกที่ขาดสมดุล และทำให้แกนโลกสลับขั้วเพื่อรักษาสร้างสมดุลใหม่ เกิดยุคน้ำแข็งฉับพลัน เหมือนที่เคยเกิดในสมัยดึกดำบรรพ์ ซึ่งประเด็นเรื่องแกนโลกสลับขั้วมีโอกาสเกิดขึ้นได้ เพราะแค่แผ่นดินไหวที่ญี่ปุ่นในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ส่งผลให้แกนโลกเบี่ยงเบนออกจากแนวเดิมไปแล้ว 23 องศา นอกจากเรื่องก๊าซมีแทนจากใต้พื้นโลกแล้ว อีกเรื่องที่น่าเป็นห่วง คือ เรื่องการเคลื่อนที่ของแผ่นเปลือกโลกใต้อินโดนีเซีย และใต้แปซิฟิกที่เคลื่อนมาชนกับแผ่นเปลือกโลกใต้ทวีปเอเชีย-ยุโรป ส่งผลให้ฝั่งตะวันออกของทวีปเอเชียเกิดแผ่นดินไหวบ่อยครั้ง มีโอกาสที่ญี่ปุ่นจะหายไปจากแผนที่โลก และมีโอกาสที่จะเกิดสึนามิที่ฟิลิปปินส์และอ่าวไทย ขณะเดียวกันแผ่นเปลือกโลกใต้อินเดียและออสเตรเลียเริ่มเคลื่อนตัวมาทางฝั่งอันดามันเช่นกัน อย่างไรก็ตาม เคยมีโอกาสไปพูดคุยกับชนเผ่ามายาในเม็กซิโกเรื่องการสิ้นสุดของปฏิทิน 5,200 ปีของชนเผ่ามายาในวันที่ 21 ธันวาคมนี้ ซึ่งก็ได้รับการยืนยันว่า ไม่ใช่วันสิ้นโลก แต่กลียุคจะจบสิ้น และโลกจะเปลี่ยนผ่านเข้าสู่ยุคใหม่ เป็นยุคแห่งความสุข แต่ปัญหา คือ กลียุคจะจบลงอย่างไร จนถึงวันนี้ก็ยังไม่มีใครรู้

 

แต่ก่อนผมจะข้องใจคำว่า "สัจจะ" ของคุณหนุมาน ผู้นำสาร ทุกครั้งที่เห็นโพสท์เข้ามา แต่ตอนนี้พอผมได้ศึกษาธรรมจากพระไตรปิฎก ก็เข้าใจว่า การที่ยึดม้่นถือมั่นต่อพระรัตนตรัย เอาพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์เป็นที่พึ่งเท่านั้น ไม่เคารพกราบไหว้สิ่งอื่นใดที่เป็นสิ่งที่ได้ชื่อว่า นอกศาสนา

พอเราเชื่อมั่นปฏิบัติตามได้จริง ใจเราจะไม่สับสน อะไรจะเกิดก็ไม่เห็นต้องไปวิตกไปกังวล ใจผมนิ่งมากเลยครับ ไม่ห่วงสิ่งไดๆไม่หวั่นอะไรทั้งนั้น พอคับขันเราก็ละลึกถึงสัจจะที่เราถือมั่นนั่นล่ะเป็นที่พึ่ง แต่ถ้าเราถือมั่ว เราจะเอาอะไรมาตั้งเป็นสัจจะได้

ถือตามท่านพุทธทาส ที่ว่ามันก็เป็นเช่นนั้นเอง พระอาจารย์รัตนท่านก็ว่า ก็มันเคยเกิดจะไปกลัวอะไร

 

ช่วงนี้ ที่วัดตรีวิสุทธิธรรม จัดสวดมนต์ใหญ่ ช่วยบรรเทากระแสลบ ใครอยากมาแจมเชิญค่ะ





คือเรื่องก็เป็นอย่างที่หลายท่านว่ากันมา ขี้เกียจบรรยายล่ะ เอาเป็นว่าข้อมูลส่วนใหญ่ตรงกัน พระอภิญญาท่านก็ว่าไว้ตรงกัน

แต่พวกท่านไม่ปรารถนาจะให้มันเกิด ก็พยายามช่วยกันเลื่อน เลื่อนออกไปก็ยังดีค่ะ

ให้คนมีเวลาทำความดีเพิ่มอีกสักหน่อย

สนใจร่วมสวดที่วัด ก็ไปเติมข้อมูลที่ www.visudhidham.com

อาทิตย์หน้า ที่วัดปลอดภัยแน่นอนค่ะ

 

ฟันธงโลกไม่แตก แต่ห่วง กทม.จมน้ำ
วันอาทิตย์ที่ 16 ธันวาคม 2555 เวลา 18:52 น.

นักวิชาการเตือนภัยฟันธงกลางวงสัมมนา เชื่อว่า โลกไม่แตก แต่กรุงเทพฯจะจมน้ำภายในเวลา 10 ปี ขณะที่ ดร.อาจอง แฉก๊าซมีเทนผุดจากไซบีเรีย เร่งโลกร้อน ละลายน้ำแข็ง น้ำทะเลเพิ่มขึ้นจนแกนโลกเปลี่ยน ส่วนอุตุฯ เสียดายเงินฟลัดเวย์ ทำไปโดยไม่รู้ฝนจะตกตรงไหน

ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยายกาศการสัมมนาในโครงการ “ถอดรหัสภัยพิบัติ พลิกวิกฤตให้เป็นคำเตือน” ซึ่งมูลนิธิสภาเตือนภัยพิบัติแห่งชาติ หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ เครือข่ายวิทยุลูกทุ่งเน็ตเวิรค์ ในช่วงบ่ายของวันที่ 16 ธ.ค.ว่า ดร.อาจอง ชุมสาย ณ อยุธยา นักวิทยาศาสตร์และวิศวกรไฟฟ้า ได้แสดงความเป็นห่วง 2 เรื่อง คือการตรวจพบก๊าซมีเทนซึ่งมีพลังงานความร้อนสูงกว่าก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ถึง 21 เท่า ผุดขึ้นมาจากใต้พื้นโลก บริเวณไซบีเรีย ใกล้ขั้วโลกเหนือ ก๊าซมีเทนนี้จะเป็นตัวเร่งปฏิกริยาภาวะโลกร้อนให้เร็วและรุนแรงมากขึ้น ผลที่ตามมา คือ น้ำแข็งขั้วโลกจะละลายลงสู่มหาสมุทรแปซิฟิค พอมวลน้ำในมหาสมุทรให้มีน้ำหนักมากขึ้นซึ่งจะส่งผลกระทบต่อการหมุนของแกนโลกที่ขาดสมดุล และทำให้แกนโลกสลับขั้วเพื่อรักษาสร้างสมดุลใหม่ เกิดยุคน้ำแข็งฉับพลัน เหมือนที่เคยเกิดในสมัยดึกดำบรรพ์ ซึ่งประเด็นเรื่องแกนโลกสลับขั้วมีโอกาสเกิดขึ้นได้ เพราะแค่แผนดินไหวที่ญี่ปุ่นในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ส่งผลให้แกนโลกเบี่ยงเบนออกจากแนวเดิม

นอกจากเรื่องก๊าซมีแทนจากใต้พื้นโลกแล้ว อีกเรื่องที่น่าเป็นห่วง คือ เรื่องการเคลื่อนที่ของแผ่นเปลือกโลกใต้อินโดนีเซีย และใต้แปซิฟิกที่เคลื่อนมาชนกับแผ่นเปลือกโลกใต้ทวีปเอเชีย-ยุโรป ส่งผลให้ฝั่งตะวันออกของทวีปเอเชียเกิดแผ่นดินไหวบ่อยครั้ง มีโอกาสที่ญี่ปุ่นจะหายไปจากแผนที่โลก และมีโอกาสที่จะเกิดสึนามิที่ฟิลิปปินส์และอ่าวไทย ขณะเดียวกันแผ่นเปลือกโลกใต้อินเดียและออสเตรเลียเริ่มเคลื่อนตัวมาทางฝั่งอันดามันเช่นกัน

อย่างไรก็ตาม ดร.อาจอง เปิดเผยว่า เคยมีโอกาสไปพูดคุยกับชนเผ่ามายาในเม็กซิโกเรื่องการสิ้นสุดของปฏิทิน 5,200 ปีของชนเผ่ามายาในวันที่ 21 ธ.ค. ซึ่งก็ได้รับการยืนยันว่า ไม่ใช่วันสิ้นโลก แต่กลียุคจะจบสิ้น และโลกจะเปลี่ยนผ่านเข้าสู่ยุคใหม่ เป็นยุคแห่งความสุข แต่ปัญหา คือ กลียุคจะจบลงอย่างไร จนถึงวันนี้ก็ยังไม่มีใครรู้

ดร.สมชาย ใบม่วง รองอธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา กล่าวในการบรรยายเรื่อง อนาคต อุตุฯ ไทยกับการเตือนภัยธรรมชาติว่า ภัยพิบัติเกิดจากสาเหตุสภาพภูมิอากาศที่เปลี่ยนแปลงไป เพื่อปรับตัวเองให้สมดุล ดังนั้น หน้าที่ของกรมอุตุฯ จึงมีหน้าที่แจ้งเตือนทุกคนให้ทราบถึงสภาพภูมิอากาศที่จะเกิดขึ้น แต่ประเด็นสำคัญในการดำเนินการของกรมอุตุฯ เพื่อรักษาทรัพย์สินและชีวิตของประชาชน คืองบประมาณ จะเห็นว่าอุทกภัยที่เกิดขึ้นในปี 2554 มีการวางแผนเยอะมาก รัฐบาลกู้เงินจากหลายองค์กรเพื่อวางแผนแก้ไขปัญหาน้ำท่วม และหลายหน่วยงานได้รับงบประมาณ แต่กรมอุตุฯ ไม่ได้เงินแม้แต่บาทเดียว จึงพยากรณ์ได้อยู่ในระดับจังหวัดตามเครื่องมือที่มีอยู่เท่านั้น ในขณะที่ประชาชนต้องการทราบชัดเจนว่าฝนจะตกบริเวณใด ที่ผ่านมารัฐบาลใช้งบประมาณสร้างเขื่อน ทำฟลัดเวย์ ทั้งที่สิ่งที่ควรพิจารณาอันดับแรกคือให้กรมอุตุฯ พยากรณ์ก่อนว่าฝนจะตกบริเวณไหน ฝนจะตกหรือไม่ ดังนั้น การวางแผนของรัฐบาลที่ผ่านมาจึงเป็นการเกาไม่ถูกที่คัน แก้ปัญหาไม่ถูกจุด

“เทคโนโลยีการเตือนภัยในปัจจุบันมีศักยภาพที่สามารถระบุไปถึงตำบล และบอกได้แม่นยำในระยะเวลา 7-10 เดือน แต่ยิ่งใกล้ความถูกต้องจะยิ่งใช้เทคโนโลยีที่สูงมากขึ้น สิ่งหนึ่งที่เราพยายามนำเสนอรัฐบาล เพื่อสนองความต้องการของประชาชนในการจัดการภัยพิบัติ คือการพยากรณ์อากาศควรจะได้รับการพัฒนาให้เจาะลึกลงไปถึงระดับตำบล และระยะการพยากรณ์ยาวนานขึ้น ซึ่งผลผลิตของเราไม่ได้พยากรณ์เฉพาะภัยพิบัติเท่านั้น แต่ต้องการให้ยาวนานถึงการวางแผนด้านการเกษตร การท่องเที่ยว ฯลฯ ปีที่แล้วรัฐบาลประเมินตัวเลขความเสียหายจากปัญหาน้ำท่วมคิดเป็น 1.44 ล้านบาท ถ้านำเงินในส่วนี้มาแค่ 0.11 เปอร์เซ็นต์ เพื่อพัฒนาระบบพยากรณ์ให้สามารถบอกได้ว่าฝนจะตกที่ไหนอย่างไร ความเสียหายที่เกิดขึ้นจะน้อยกว่าจนเทียบกันไม่ได้ และประชาชนจะได้รับประโยชน์อย่างมหาศาล" ดร.สมชายระบุ

รองอธิบดีกรมอุตุฯ กล่าวเพิ่มเติมว่า เป็นที่น่ายินดีเมื่อ น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ รมว.ไอซีทีได้มอบหมายให้ที่ปรึกษามาหารือกับกรมอุตุฯ เรื่องโครงการเตือนภัยให้เป็นแบบใหม่ อย่างไรก็ตาม การเตือนภัยพิบัติจะไม่มีประโยชน์ถ้าประชาชนไม่เชื่อโดยในแต่ละพื้นที่มีสภาพแวดล้อมที่ไม่เหมือนกัน สิ่งที่สำคัญในการเตือนภัยคือแต่ละพื้นที่ต้องสร้างองค์ความรู้ของตัวเอง เพราะคนในพื้นที่จะเข้าใจพื้นที่ของตัวเองมากที่สุด

ด้าน รศ.ดร.ปัญญา จารุศิริ กล่าวบรรยายในหัวข้อเรื่อง 14 รอยเลื่อน สัญญาณอันตรายที่คนไทยควรรู้ว่า ถ้าติดตามข่าวสารที่ตนเคยให้สัมภาษณ์มีหลายส่วนในเอเชียตะวันออกเชียใต้ที่จะเกิดแผ่นดินไหวได้มาก ส่วนใหญ่อยู่ภาคเหนือและภาคตะวันตก โดยโครงร่างการแปรสัณฐานแผ่นเปลือกโลกของแผ่นดินเอเชีย รอยเลื่อนที่สำคัญตามประวัติศาสตร์ชาติไทย คือรอยเลื่อนสะกาย ซึ่งเป็นรอยเลื่อนที่ผ่ากลางประเทศพม่า เมื่อรอยเลื่อนนี้ไหวตัวจะส่งผลให้คนที่อยู่ในเชียงใหม่และน่านรู้สึกตัวด้วย นอกจากนี้ รอยเลื่อนที่ส่งผลต่อไทยที่คิดว่าน่ากลัวและจับตามองอยู่ขณะนี้ คือ รอยเลื่อนแม่จัน ซึ่งมีพลังและนับวันจะมีเส้นรุกรานมากขึ้น อย่างไรก็ตามในปี 2550 แผ่นดินไหวใหญ่ 6.3 และ ปี 2553 เกิดแผ่นดินไหว 7 ริตเตอร์ ถ้าเกิดลักษณะนี้บ่อยจะทำให้ค่อยๆ ปลดบ่อย ไม่เกิดแผ่นดินไหวใหญ่ ดังนั้น ถ้าถามว่าโลกจะแตกหรือไม่ ส่วนตัววิเคราะห์ว่าประเทศไทยแม้มีภัยพิบัติต่างๆ มีโอกาสจะเกิดภัยพิบัติมหาศาล แต่โลกไม่น่าแตก ในความคิดของหลวงพ่อพุทธทาสภิกขุ เคยสอนไว้ซึ่งมีหลายคนคิดเหมือนกันว่า โลกจะแตกมีอยู่เหตุผลเดียว ถ้าศีลธรรมไม่กลับมาโลกาจะวินาศ

ส่วน ดร.สมิทธ ธรรมสโรช กล่าวสรุปการสัมมนาว่า ความเชื่อและข้อมูลต่างๆ ที่ได้รับฟังให้ใช้วิจารญาณรับฟังด้วย สิ่งที่เกิดขึ้นที่ทำให้เราภวังค์ว่าโลกจะแตกหรือไม่แตก เพราะสื่อสัมภาษณ์นักวิชาการโดยไม่คิดถึงผลกระทบที่ทำให้พวกเขาทะเลาะกันจนทำให้ประชาชนเกิดความพะวง เมื่อปีที่เกิดสึนามิตนได้ออกมาเตือนและให้คำแนะนำไว้ว่า ถ้ายืนอยู่บนหาดและรู้สึกถึงการสั่นสะเทือน สังเกตน้ำลด มีสัตว์น้ำตาย ถ้าสังเกตอย่างนี้จะทำให้รอดชีวิตได้ อย่างไรก็ตาม เราจะจัดงานในลักษณะนี้อีกเรื่อยๆ ซึ่งอาจจะเกิดหรือไม่เกิดภัยพิบัติ แต่ภัยธรรมชาติที่เกิดขึ้นก็มีผู้ประสบภัยจำนวนมาก เราเคยบอกเขาล่วงหน้าหรือเปล่า ถ้าฝนตกให้ตื่นมาสังเกตสีน้ำบ้างว่าเป็นอย่างไร ควรจะอพยพหรือไม่ พวกเขาไม่มีองค์ความรู้นี้ แต่ถ้าเรามีโอกาสสัมมนาและเผยแพร่ต่อสื่อมวลชน จะทำให้คนหลายร้อยชีวิตรอดพ้นจากภัยดังกล่าวได้

“ผมจะจัดสัมมนาแบบนี้อีก เพราะอีก 8-9 ปี น้ำท่วม กทม. แน่ และไม่ลดด้วย ซึ่งเป็นการคาดการณ์จาก IPCC แม้ว่าอาจจะเป็นเรื่องจริง แต่คนเราก็ไม่ค่อยระแวง เพราะมัวแต่ทะเลาะกันอยู่ เราก็แนะนำให้สร้างเขื่อนป้องกันไม่ให้น้ำทะเลไหลเข้ามา แต่ก็ยังเฉย” นายสมิทธ กล่าว

รศ.ดร.เสรี กล่าวถึงกรณีน้ำท่วมที่ จ.ชลบุรีโดยไม่มีฝนตกว่า แม้ฝนไม่ตกแต่มีลมตะวันออกแรงใน ช่วงเดือนพ.ย.-ธ.ค. ทำให้น้ำท่วมจังหวัดในแถบตะวันออก อย่างเช่นที่จังหวัดสมุทรปราการน้ำจะท่วม 2-3 ชั่วโมงบ่อยๆ ตนพยายามพยากรณ์กรณีน้ำท่วมกรุงเทพฯ หรือไม่มานาน ซึ่งคิดว่าจะเกิดขึ้นในอนาคต เพราะการนำเงิน 1.2 แสนล้านไปทำเรื่องเละเทะ ความเสี่ยงก็ตกกับพื้นที่ท้ายน้ำ โดย กทม.มีความเสี่ยงมาก

ขณะที่ ดร.กัญจิรา กาญจนเกตุ ประธานศูนย์พัฒนาศักยภาพมนุษย์ ฉายา”นอสตราดามุสหญิงเมืองไทย ซึ่งเดินทางมาร่วมการสัมมนาครั้งนี้ ให้สัมภาษณ์พิเศษกับเดลินิวส์ถึงสถานการณ์ภัยพิบัติในปัจจุบันว่า สำหรับประเทศไทยปีหน้านั้น ตนเป็นห่วงว่าช่วงวันที่ 18 ม.ค. – 25 ก.พ. จะเกิดภัยธรรมชาติในเรื่องของลมพายุที่ค่อนข้างรุนแรง และไฟไหม้ โดยเฉพาะทางใต้อาจจะเจอลมมรสุมประมาณ 2 ลูก และช่วงปลายเดือน พ.ค. ต่อเนื่องจนถึงเดือน มิ.ย. อาจจะเกิดแผ่นดินไหวขึ้นในประเทศไทย นอกจากนี้ ตนยังห่วงเรื่องภัยแล้ง และน้ำท่วม ซึ่งปัจจุบันระบบนิเวศมีการเปลี่ยนแปลงในหลายพื้นที่ ฝนไม่ตกตามฤดูกาล พื้นที่เพาะปลูกบางแห่งก็ถูกน้ำท่วมเสียหาย ทำให้เก็บเกี่ยวผลผลิตไม่ได้

ส่วนข่าวลือวันสิ้นโลกนั้น ดร.กัญจิรา กล่าวว่า ช่วงนี้จะยังไม่มีอะไรเกิดขึ้น และในอดีตก็เคยเกิดปรากฎการณ์แบบนี้มาแล้ว เช่น พายุสุริยะ ซึ่งสมัยก่อนมนุษย์อาจจะไม่รับรู้ เนื่องจากเทคโนโลยียังไม่ก้าวหน้า แต่ปัจจุบันเทคโนโลยีมีการพัฒนาไปมาก ทำให้มนุษย์สามารถรับรู้ถึงปรากฏการณ์ธรรมชาติต่างๆที่จะเกิดได้ จึงเกิดความหวาดกลัวกันว่าจะส่งผลกระทบต่อโลก อย่างไรก็ตาม ฝากถึงประชาชนไว้ว่าอย่าได้ตื่นตระหนก ตื่นตูมกับภัยพิบัติ หรือเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้น แต่ขอให้ตื่นตัวและตระหนักไว้.
ฟันธงโลกไม่แตก แต่ห่วง กทม.จมน้ำ | เดลินิวส์

 

21/12/2012 วันสิ้นยุคของคนไร้ศีลธรรม !!!​

​

vincent308 สมาชิก

อ่านเป็นนิยายเรื่องนึงนะครับ

16/12/12 วันธรรมดาๆวันหนึ่ง ผู้คนกำลังตื่นเต้นกับผลสลากกินแบ่ง ทุกชีวิตกำลังดำเนินไปตามทาง อย่างที่มันเคยเป็นมาตลอดหลายร้อยปี หลายคนไม่สนใจอะไร ทำงาน หาเงิน กลับบ้าน กินข้าว นอน

ไกลออกไปหลายพันล้านปีแสง ตรงสู่แกนกลางของจักรวาลในเส้นเวลาสามมิติ ย้อนไปในวันที่ 23/11/12 เวลา 11.11ได้เกิดแรงระเบิดของพลังงานแสงขนาดใหญ่ที่สุดตั้งแต่ก่อกำเนิดจักรวาลมา ลำแสงสีทองขนาดใหญ่กำลังวิ่งผ่านสนามพลังในดวงอาทิตย์ตามกาแลกซี่ต่างๆนับพันดวง พลังงานอันมหาศาลได้ถูกสะสมอยู่ในเส้นลำแสงนั้น ด้วยความเร็วที่เร็วกว่าแสงปกติมากแต่ก็ยังช้ากว่าคลื่นจิต ด้วยระยะทางที่ผ่านมาเกินครึ่งทางแล้ว เป้าหมายปลายทางของลำแสงนี้คือ โลก

ย้อนกลับมาที่โลกอีกครั้งหนึ่ง ด้วยการนับเวลาแบบสามมิติ น้อยคนนักที่ได้รับรู้ว่ามันคือการนับถอยหลังสู่ช่วงเวลาเปลี่ยนผ่านยุคของโลก เรื่องราวของภัยพิบัติทางธรรมชาติอันเลวร้าย จำเป็นจะต้องถูกลืมไปทั้งหมด มนุษย์ได้ก้าวผ่านการตัดสินใจในทางเลือกใหม่ พระแม่โลกคือสิ่งที่สวยงาม ธรรมชาติของเราเป็นสิ่งที่วิเศษสุดที่เคยมีมา มนุษย์มีความรักเป็นพลังงานที่ยิ่งใหญ่ที่สุด เพราะมนุษย์ถือกำเนิดมาจากความรักและความรักนี้เองคือคำตอบของมนุษย์ พระแม่โลกจึงได้อยู่ในเส้นทางที่จะไม่ทำร้ายตนเอง แต่จะกำจัดพลังงานลบที่ฝังตัวอยู่บนโลกให้หมดสิ้นไป

ในทุกตำนานได้มีการกล่าวถึงช่วงเวลานี้ทั้งสิ้น และเป็นเรื่องที่สำคัญและยิ่งใหญ่ โบราณสถานหลายแห่งถูกสร้างไว้อย่างยิ่งใหญ่ในทั่วโลกเพื่อเป็นเครื่องรับและส่งสัญญาณ รวมถึงคลื่นพลังงานอันมหาศาลด้วย ในวันที่ 6/12/12 พีระมิดที่กีซ่าได้ส่งสัญญาณสำคัญสุดท้าย กับระบบจักรวาลว่ามนุษยชาติพร้อมแล้วสำหรับการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้น

และแล้ว วันศุกร์ที่ 21/12/12 ก็มาถึงทุกสิ่งทุกอย่างในตอนเช้ายังคงเป็นปกติ ทุกคนยังเดินทางไปทำงาน ชงกาแฟ ตอกบัตร เริ่มงาน จนถึงเวลาเที่ยงๆ ทานข้าวกลางวัน หลายๆคนเริ่มเอาเรื่องวันสิ้นโลกมาพูดคุยกันอย่างขบขัน สนุกสนาน แถมยังแซวคนที่มีความเชื่อเรื่องนี้เหมือนเป็นเรื่องตลก แต่เมื่อทุกคนเริ่มกลับเข้าทำงาน หลายๆคนจะเริ่มมีอาการมึนหัว บางคนก็ว่ามึนแดด หายาทานตามปกติ

หารู้ไม่ว่าวันนี้พระอาทิตย์ดวงเดิมของพวกคุณ ได้เปลี่ยนไปโดยที่คุณไม่รู้ตัว ลำแสงที่ส่องลงมานั้นมีความเข้มที่เห็นตามปกติ แต่พลังงานภายในนั้นคือพลังงานของพระอาทิตย์หลายพันดวง ที่เจาะจงส่งมาถึงโลกโดยเฉพาะ พลังงานที่จะมีผลโดยตรงต่อผู้ที่ไร้ศีลธรรม มีพลังงานลบสะสมอยู่ในใจ จ้องเอารัดเอาเปรียบผู้อื่น ไร้ความเมตตา แต่สำหรับคนที่ดีมีศีลธรรม จะไม่รู้สึกอะไรเลยแถมจะรู้สึกสดชื่นขึ้นอีกด้วย

ตกเย็นวันนั้นเหล่าคนไร้ศีลทั่วทุกมุมโลก ย่อมออกไปหาความสุขใส่ตัวเป็นธรรมดาเพราะเป็นเย็นวันศุกร์ ทุกคนยังมีอาการมึนหัวกันอยู่แต่ก็คาดว่าไปเที่ยวสักหน่อยก็น่าจะดีขึ้น แต่เปล่าเลยอาการปวดหัวยิ่งทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ความสนุกในวันนั้นเป็นสิ่งที่หาได้ยาก อาการนอนไม่หลับร้อนรุ่มแม้จะเปิดแอร์แรงสุดก็ตาม แม้ว่าจะกินยาหรือไปหาหมอก็ไม่สามารถรักษาให้หายได้ คลื่นพลังงานที่ส่งลงมาทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ

ไม่มีมนุษย์คนไหนได้เจอกับสิ่งนี้มาก่อน มันคือคลื่นพลังงานที่คัดเลือกคนดีกับคนเลวออกจากกันอย่างเท่าเทียมและยุติธรรมที่สุด จนในที่สุดมนุษย์ไร้ศีลผู้นั้นก็ต้องจากโลกนี้ไปด้วยวิธีต่างๆ มนุษย์ไร้ศีลที่เห็นส่วนใหญ่เป็นคนที่มีหน้ามีตาในสังคม มีบ้านเรือนใหญ่โต ด้วยรายได้ที่มาจากการทุจริต ขูดรีดผู้คนหมู่มากให้ได้รับความทุกข์ทรมาน แต่ไม่ต้องกลัวที่คุณจะมีเพื่อนๆไร้ศีลธรรมร่วมทางกับคุณไปเป็นจำนวนมาก เหตุการณ์นี้จะเกิดขึ้นต่อเนื่องไปจนถึงวันที่ 24/12/12 จนมั่นใจได้ว่าได้มีการกวาดล้างได้อย่างสมบูรณ์แบบจริงๆ

วันที่ 25/12/12 วันคริสต์มาสก็ได้ผ่านมาถึง พระแม่โลกรวมถึงระบบแห่งจักรวาลได้กวาดล้างพลังงานลบบนโลกออกไปจนหมดสิ้น สิ่งที่เหลืออยู่คือมนุษย์ผู้มีแต่ความรัก ความเมตตา มีศีลธรรม ทั้งสิ้น ทุกคนมีทางเลือกที่จะได้ทำความดีและนำแสงสว่างสู่จักรวาลต่อไป ในเวลานี้อารยะธรรมที่เคยหลบซ่อนอยู่ ก็จะเปิดเผยตัวออกมาอย่างเป็นทางการ ให้ทุกคนได้สัมผัสกันอย่างใกล้ชิด โลกได้เคลื่อนเข้าสู่มิติใหม่อย่างสวยสดงดงาม มนุษย์ได้ก้าวผ่านยุคมาได้ด้วยความเชื่อในการทำความดีมาตลอด กลุ่มมนุษย์ที่มีศีลธรรมจึงรวมเข้าสู่สมาพันธ์แห่งจักรวาลเป็นเผ่าพันธุ์สุดท้ายที่ 47 ต่อไป

หลังจากวันนั้นถือเป็นการเริ่มศักราชใหม่ของโลกยุคใหม่อย่างแท้จริง โลกยูโทเปียได้ถือกำเนิดขึ้นอย่างรวดเร็ว ด้วยเทคโนโลยีขั้นสูงที่ไม่ทำลายตนเองและสิ่งแวดล้อมที่มีการถ่ายถอดมาจากทุกอารยะธรรมที่เฝ้ารอคอยเราอยู่ ผู้คนมีแต่ความสุข รอยยิ้มและเสียงหัวเราะสามารถมีให้เห็นได้ ในทุกที่ที่คุณเดินผ่านไป ทุกๆคนในสังคมมีความเท่าเทียมกันอย่างแท้จริง พระแม่โลกได้กลับคืนสู่สภาวะที่สวยงามที่สุดเหมือนดั่งในยุคแอตแลนติสอีกครั้ง เหล่ามนุษย์ที่มีการพัฒนาทางจิตวิญญาณสูงสุด ได้มีการเดินทางไปทั่วจักรวาลเพื่อถ่ายทอดความรู้และวิทยาการอันสูงส่ง แห่งการก้าวผ่านทวิภาวะบนพื้นโลกให้กับเผ่าพันธุ์อื่นสืบต่อไป

16-12-2012, 12:49 PM

ที่มา http://palungjit.org/threads/21-12-2012-วันสิ้นยุคของคนไร้ศีลธรรม.400660/

 

ช็อก แม่มือปืนคลั่งสังหารหมู่รร.สหรัฐ

<img src='http://www.matichon.co.th/online/2012/12/13557247251355724930.jpg' align=left> สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อวันที่ 17 ธ.ค.ว่า ความเคลื่อนไหวกรณีเหตุโศกนาฎกรรมนายเอียน แมนซัน หนุ่มมะกันวัย 20 ปี ใช้อาวุธปืนกราดยิงเด็กนักเรียนและผู้ใหญ่ในโรงเรียนประถม"แซนดี้ ฮุค"ในรัฐคอนเน็คติคัต ทำให้เด็กนักเรียนอายุน้อยเสียชีวิต 20 ราย และผู้ใหญ่ 7 ราย



ล่าสุด บรรดาเพื่อน ๆ และครอบครัวของนายแมนซัน ซึ่งก่อเหตุปลิดชีวิตตัวเองหลังก่อเหตุ รวมทั้งสังหารแม่ตัวเอง บอกว่า นายแมนซันมีอาการเป็นโรควิตกจริตประเภท"กลัวรอดตาย"จากภาวะโลกล่มสลายจากความรุนแรงและเศรษฐกิจล่ม นอกจากนี้ ยังมีการเปิดเผยว่า ในกรณีของนางแนนซี่ แมนซัน พบว่า เธออาจมีส่วนสำคัญต่อที่ทำให้ลูกชายมีปัญหาทางจิต เนื่องจากเธอได้เตรียมพร้อมสำหรับภาวะสังคมล่มสลาย โดยตระเตรียมอาหารสำรองตุนไว้ในบ้าน และบ้าอาวุธปืน พร้อมทั้งสอนให้อดัมและนายไรอัน พี่ชายของเขา รู้จักการยิงปืน และพาไปยิงปืนด้วย <img src='http://www.matichon.co.th/online/2012/12/13557247251355724952.jpg' align=right>



ส่วนนางมาร์ช่า แมนชัน ป้าของนางแนนซี่ บอกว่า นางแนนซี่ เป็นพวกชอบพึ่งตัวเอง และพวกเธอเคยคุยกันว่า นางแซนดี้จะต้องรับมืออย่างไรหากโลกจะต้องล่มสลายเพราะวิกฤตเศรษฐกิจล่ม และว่า นางแนนซี่ ยังไม่เคยให้ปืนห่างตัวเธอ และไม่ปิดบังว่าเธอครอบครองอาวุธปืนอันตรายหลายกระบอก โดยปืน 2 กระบอกที่นายเอียนใช้สังหารเด็ก และอีกกระบอกที่สำรองไว้ ก็เป็นของเธอ ไม่นับรวมปืนล่าสัตว์ที่บ้านอีก 2

 

แด่ ครู ผู้สอนแต่สิ่งบริสุทธิ

<img src='http://www.matichon.co.th/online/2012/12/13556790291355679115l.jpg' width=250>

วันนี้ (17 ธ.ค.) สื่อต่างประเทศรายงานเรื่องราวอันน่าประทับใจของ “วิคตอเรีย โซโต” ครูที่ปกป้องชีวิตนักเรียนจากจากเหตุการณ์มือปืนบุกยิงที่โรงเรียนแซนดี้ ฮุค เมืองนิวทาวน์ รัฐคอนเนตติคัท สหรัฐฯ เมื่อวันที่ 14 ธ.ค. ที่ผ่านมา จนทำให้มีผู้เสียชีวิต 26 คน

วิคตอเรีย โซโต ในวัย 27 ปี 1 ในเหยื่อที่เสียชีวิตจากการสังหารโหดได้แลกชีวิตเพื่อปกป้องเหล่านักเรียนที่เธอรัก โดยผู้สื่อข่าวเปิดเผยคำสัมภาษณ์ ของนักเรียนในที่เกิดเหตุว่า หลังจากที่โซโตทราบว่าคนร้ายกำลังพยายามเข้ามากราดยิงเด็กนักเรียน เธอตัดสินใจนำเด็ก ๆ ทั้งหมดในชั้นเรียนของเธอไปซ่อนไว้ในตู้และห้องต่าง ๆ เท่าที่จะทำได้ พร้อมกับล็อคกุญแจ หลังจากนั้นเธอตัดสินใจเดินเข้าไปหาคนร้าย และบอกกับคนร้ายว่า นักเรียนทุกคนในโรงเรียนอยู่ที่โรงยิม ทันใดนั้นคนร้ายได้หันปากกระบอกปืนพร้อมเหนี่ยวไกยิงเธอเสียชีวิตในทันที พร้อมกับมุ่งหน้าไปที่โรงยิมตามที่เธอบอก

จากความกล้าหาญนี้เองทำให้สามารถปกป้องนักเรียนในชั้นของเธอทั้งหมดไว้ได้ แม้โซโตจะตายในหน้าที่ แต่ความฝันของเธอคือการเป็นครู และเธอมีสัญชาตญานนั้นอยู่เต็มเปี่ยม เธอเสียสละชีวิตเพื่อเด็ก ๆ ที่เธอรัก

โซโต เป็นครูสอนระดับเกรด 1 ที่โรงเรียนแซนดี้ ฮุค เมืองนิวทาวน์ รัฐคอนเนตติคัท จบการศึกษาระดับปริญญาโทด้านการศึกษาพิเศษ จากมหาวิทยาลัยเซาเทิร์น คอนเนตติคัท สเตท และจบการศึกษาระดับปริญญาตรีด้านประถมศึกษาและประวัติศาสตร์ จากมหาวิทยาลัยอีสเทร์น คอนเนตติคัท สเตท

 

ได้อ่านแล้วขออุทิศบุญกุศลให้ครู“วิคตอเรีย โซโต”และทุกท่านที่เสียชีวิต

เรื่องอื่นๆบ้าง
ดาวนิบิรุ อาจจะคือดาวพฤหัสบดี
ถ้าเป็นจริงหรือตามที่พระอาจารย์รัตน์บอก เกิดพวกเราไม่อยู่ ขอฝากให้คนที่อยู่ช่วยกันบันทึกเหตุกาลไว้ด้วย บันทึกจักรวาลกาแล็กซี่3อันไว้ด้วยและภัยพิบัติธรรมชาติในรอบ13000ปี และรอบใหญ่26000ปี ต้องบันทึกเป็นภาพและตัวอักษรไทยไว้ด้วย และวิธีแก้ไขให้คนอยู่ได้ใช้อุปกรณ์อะไร แล้วฝังดินไว้ 3แหล่งในประเทศไทยด้วยเพื่อยืนยันกัน ตลอดบันทึกคำสอนของพระพุทธเจ้าไว้ด้วย จะได้ไว้เตือนลูกหลานและชนคนรุ่นหลังให้เข้าใจง่ายๆ ไม่ต้องตีความหรือแปลยากเหมือนมายาแต่อย่างไรก็ขออุทิศบุญให้ชาวมายาที่เมตตาทำเตือนชาวโลกไว้จนถึงรุ่นเราถึงชนรุ่นหลังอาจตีความผิดไปบ้างก็ตาม

 

ขอระลึกถึงซึ่งความดีของคุณครูวิคตอเรีย โซโต ด้วยความเคารพในความเป็นคูณครูผู้ให้และเสียสละอย่างแท้จริงค่ะ..

 

ขอให้คุณครูผู้เสียสละสู่สุคติ

 

สัญญาณดีและไม่ดี !!!​

​

บวรทัต สมาชิก

มีคนถ่ายได้ที่เกาะสมุย ดูเหมือนรุ้งกินน้ำธรรมดา
แต่ขยายใหญ่ ๆ ดู เหมือนไม่ธรรมดา เป็นสัณญาณอะไรครับ

18-12-2012, 06:46 AM

ฮั้วโต๋ สมาชิก

...สัญญาณดีและไม่ดี.

ไม่ดีในเรื่อง ดิน-น้ำ-ลม-ไฟ.

ดีในเรื่องยังมีคนดีเหลืออยู่บ้าง...

เจริญในธรรม มีพระพุทธเจ้าในจิตให้มาก ๆ