เรื่องที่จะนำมาพรรณนาดังต่อไปนี้ วิญญาณที่เข้ามาข้องเกี่ยวกับ หลวงปู่ดู่

ในห้อง 'เรื่องผี' ตั้งกระทู้โดย santosos, 6 ธันวาคม 2012.

  1. santosos

    santosos เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    1,165
    ค่าพลัง:
    +3,212
    เรื่องที่จะนำมาพรรณนาดังต่อไปนี้ เป็นเรื่องของวิญญาณที่เข้ามาข้องเกี่ยวกับ หลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ วัดสะแก ตำบลธนู อำเภออุทัย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา แม้เรื่องนี้จะมิใช่ประสบการณ์ขณะท่านเดินธุดงค์ แต่ก็เป็นเรื่องวิญญาณของบุคคลผู้หนึ่งซึ่งตายไปแล้ว ทว่ายังวนเวียนคาบเกี่ยวอยู่ระหว่างโลกมนุษย์ และโลกวิญญาณด้วยอำนาจแห่งโมหะ ครอบครัวนี้อยู่กันมาด้วยความปกติสุข กระทั่งวันหนึ่งลูกสาวคนหนึ่งไปธุระนอกบ้าน พอกลับมาถึงบ้านก็ล้มฟุบลงไปเหมือนคนหมดสติกระทันหัน พ่อแม่ญาติพี่น้องพากันตระหนกตกใจ รีบเข้าไปปฐมพยาบาลเป็นโกลาหล

    ครั้นลูกสาวฟื้นคืนสติ กลับมีลักษณะท่าทางผิดแปลกไปจากเดิมดุจคนละคน แววตาขุ่นขวางน่ากลัว เวลาเอ่ยปากพูดออกมา น้ำเสียงก็เปลี่ยนเป็นแหบห้าว ประหนึ่งเป็นเสียงผู้ชาย รวมทั้งถ้อยคำวาจาดุจเป็นผู้อื่นพูด มีการเรียกเอา อาหารสด อาหารคาว มากินอย่างมูมมาม คล้ายกับอดอยาก หิวโหยมาช้านาน

    พ่อแม่เห็นลูกสาวมีกิริยาอาการผันแปรไปอย่างกะทันหัน อีกทั้งยังพูดกันไม่รู้ความดุจเสียสติ ก็รู้แน่ว่าคงมีวิญญาณร้ายมาเข้าสิง จึงออกไปตระเวนหาหมอผีผู้มีวิทยาอาคมขลังมาขับไล่วิญญาณที่เข้าสิงให้ออกไป เมื่อหมอผีมาถึงบ้านเริ่มทำพิธีไล่ผีด้วยกฤตยาคม ผีที่มาเข้าสิงลูกสาวก็รีบถอนถอยหนีออกไปง่าย ๆ ทำให้พ่อแม่ญาติพี่น้องโล่งอกโล่งใจ คิดว่าเหตุร้ายคงจะยุติลงเพียงเท่านี้

    ที่ไหนได้อีกไม่กี่วันต่อมา วิญญาณร้าย หรือผีตนเดิมก็มาเข้าสิงลูกสาวอีก คราวนี้ถึงกับประกาศว่า มันคือวิญญาณของชายคนหนึ่ง ซึ่งถูกยิงตายบริเวณหลังวัดใกล้ ๆ บ้าน เมื่อลูกสาวเจ้าของบ้านรายนี้เดินผ่านไป มันก็เกิดความพอใจรักใคร่ ต้องการได้ไปเป็นเมีย และตั้งใจจะเอาไปเป็นเมียให้ได้

    คราวนี้พ่อแม่ญาติพี่น้องของหญิงสาวก็ยิ่งตื่นตระหนกตกใจ เพราะถ้าผีตายโหงที่มาเข้าสิงถึงขั้นจะเอาลูกสาวตนไปเป็นเมียเช่นนี้ ก็เท่ากับวิญญาณร้ายมีเจตนาจะกระทำให้ถึงตายแน่ ๆ ผู้เป็นพ่อแม่พยายามพูดจาอ้อนวอนกับวิญญาณผีตายโหงที่สิงร่างลูกสาว ให้ละเว้นเจตนาซึ่งเป็นทุจริตคิดร้ายนี้เสีย แต่วิญญาณของผีตายโหงไม่สนใจใยดี ยังคงยืนกรานตามความประสงค์ของมันไม่เปลี่ยนแปลงพ่อแม่ของหญิงสาวก็ต้องเที่ยวตระเวณหาหมอผี ผู้มีไสยเวทอาคมขลังมาขับไล่วิญญาณร้ายให้ออกไปจากร่างของลูกสาวทั่วทุกทิศ แต่ไม่มีผู้ใดกระทำได้สำเร็จเด็ดขาดแม้แต่รายเดียว

    หมอผีบางคนที่มีวิชาอาคมยังไม่แก่กล้า วิญญาณผีตายโหงยิ่งไม่ยำเกรงแม้แต่น้อย จะเสกคาถาสาดน้ำมนต์เข้าใส่อย่างไรมันก็วางเฉย จนฝ่ายหมอผีต้องยอมพ่ายแพ้ไปเอง ถ้าหมอผีคนใดมีพลังวิชาอาคมเข้มขลัง วิญญาณร้ายก็จะรีบถอนออกจากร่างหญิงสาว ที่มันปรารถนาจะได้เป็นเมียไปง่าย ๆ ทำทีคล้ายกับกลัวเกรงอำนาจเหลือหลาย แต่พอหายไปสักพัก มันก็จะย้อนกลับมาสิงใหม่ ที่น่าประหลาดก็คือ แม้หญิงสาวจะมีพระเครื่องรางของขลัง ด้ายสายสิญจน์ลงอาคม ติดตัวเต็มคอเต็มแขน เพื่อคุ้มครองป้องกันอย่างไร วิญญาณผีร้ายก็ยังมาเข้าสิงจนได้

    น่าเวทนาหญิงสาวเคราะห์ร้ายรายนี้ ที่วิญญาณผีตายโหงจับจ้องหมายปองชนิดไม่ยอมเลิกรา ทำให้เธอแทบจะเสียสติด้วยความหวาดกลัว เพราะไม่รู้ว่ามันจะมาเข้าสิงอีกเมื่อไหร่ เวลาที่ถูกผีสิงหญิงสาวจะมีอาการเหมือนคนหมดสติ ไม่รู้สึกตัวว่าได้กระทำอะไรลงไปบ้าง ตราบกระทั่ววิญญาณผีตายโหงออกไปเมื่อใด เมื่อนั้นสติสัมปชัญญะจึงจะกลับคืนมาเป็นปกติเหมือนเดิม

    เป็นเวลานานถึง ๓ ปีเต็ม ๆ ที่หญิงสาวถูกวิญญาณผีร้ายเข้าสิงไม่ขาดระยะ สภาพของเธอผู้นี้ไม่ผิดกับคนตกเป็นทาสของผีตายโหง ซึ่งจะมารังควานเป็นพัก ๆ ชนิดไม่มีทางหลบหนีไปไหน เพราะไม่ว่าจะแอบซ่อนอยู่ที่ใด วิญญาณร้ายก็จะติดตามไปเข้าสิงจนได้ กระทั่งหญิงสาวหวาดผวาไม่ไม่เป็นอันกินอันนอน ร่างกายผ่ายผอมทรุดลงอย่างน่าใจหาย และภาวะน่าพรั่นพรึงดังกล่าว ได้กดดันบีบคั้นครอบครัวนี้ให้เผชิญกับความทุกข์ทรมานใจอย่างสาหัส

    ผู้เป็นพ่อโกรธแค้นวิญญาณผีตายโหง ที่ตามรังควานลูกสาวไม่ยอมเลิก ถึงกับระเบิดโทสะออกมา ขู่ว่าจะยิงผีร้ายให้แหลกกระจายคามือ แทนที่วิญญาณซึ่งมาเข้าสิงลูกสาวจะหวาดหวั่นพรั่นพรึง มันกลับเยาะเย้ยท้าทายให้ยิงได้เลย เพราะถ้ายิงมันก็เท่ากับยิงลูกสาวตัวเอง จะกล้าทำล่ะหรือ

    การที่วิญญาณผีตายโหงมาเข้าสิงหญิงสาวอย่างต่อเนื่อง เป็นเวลายาวนานเช่นนี้ โดยไม่มีอำนาจสิ่งศักดิ์สิทธิ์ใด ๆ มาขัดขวางมันได้ อาจจะเป็นเพราะวิบากที่เธอผู้นี้ กับวิญญาณของชายผู้ถูกยิงตายมีกรรมพัวพันต่อกัน และถึงวาระจะต้องชดใช้ จึงไม่สามารถสกัดกั้นหรือหยุดยั้งทุกกรณี และหากไม่ได้รับการช่วยเหลือให้ผ่อนคลายหลุดพ้นจากวิบากนี้ ก็เชื่อแน่ได้ว่าหญิงสาวคงต้องถึงแก่ชีวิตอย่างแน่นอน

    หรือเหตุที่เกิดนี้ อาจเนื่องจากวิญญาณผีตายโหงเพราะถูกผู้อื่นยิงตาย สิ้นชีวิตเพราะกรรมมาตัดรอนก่อนถึงอายุขัย วิญญาณจึงกลายเป็นผีเร่ร่อนไม่รู้จะไปทางไหน ประกอบกับจิตยังหลงมัวเมาอยู่ในกามตัณหา มีความอยากในกิเลสราคะรุนแรง จนไม่อาจแยกผิดชอบชั่วดีได้ ไม่รู้ว่าตนกับหญิงสาวอยู่กันคนละภพภูมิ มีอัตภาพที่แตกต่างกัน ครั้นมีความปรารถนาในหญิงสาวที่ตนพึงพอใจ จึงกระทำทุกวิถีทางจะครอบครองเป็นของตน แม้กระทั่งพยายามเบียดเบียนจะเอาชีวิตหญิงสาวให้ได้ แต่วาสนากรรมดีของหญิงสาวผู้นี้ยังมีอยู่ วิญญาณผีตายโหงจึงทำลายล้างชีวิตเธอไม่ได้ และคล้ายดั่งเป็นวาระที่หญิงสาวจะหลุดพ้นจากเงื้อมเงาของวิญญาณร้าย ได้มีคนรู้จักกับพ่อของหญิงสาวมาบอกว่า ควรไปของความเมตตาจาก หลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ วัดสะแก เถิด เพราะท่านเป็นพระเถระที่มีจิตตานุภาพสูงมาก อาจจะช่วยขจัดปัดเป่าความทุกข์ทรมาน ที่ยำยีบีฑาลูกสาวจากวิญญาณร้ายได้ ผู้เป็นพ่อจึงตกลงใจเดินทางไปวัดสะแกทันที

    วันที่ผู้เป็นพ่อหญิงสาวซึ่งถูกวิญญาณผีตายโหงเข้าสิงไปถึงวัดสะแก หลวงปู่ดู่กำลังพูดคุยอยู่กับศิษย์คนหนึ่งของท่าน พ่อหญิงสาวผู้เคราะห์ร้ายจึงเข้าไปกราบนมัสการท่าน หลวงปู่ก็ทักทายปราศรัยถามไปว่าอยู่ที่ไหน มีเรื่องอะไรถึงได้มาที่นี่ ชายผู้แบกทุกข์เรื่องของลูกสาวก็เล่าเนื้อความถวาย ที่มีวิญญาณผีตายโหงตามรังควานลูกสาวให้ท่านฟังโดยละเอียด ลงท้ายด้วยการขอความเมตตาจากท่านช่วยกรุณาเปลื้องทุกข์ให้ด้วยเถิด

    หลวงปู่ดู่นั่งรับฟังเงียบ ๆ เมื่อทราบจุดประสงค์ของผู้เป็นพ่อหญิงสาวที่ถูกผีสิง ท่านก็หันไปบอกลูกศิษย์ซึ่งนั่งอยู่ใกล้ ๆ ว่า

    “แกช่วยเขาที เอาบุญ”

    ศิษย์ผู้นี้เป็นผู้ปฏิบัติธรรม กระทำความเพียรทางจิตอยู่กับหลวงปู่มานานพอสมควร จนเป็นที่ไว้วางใจของหลวงปู่ ก็ประนมมือรับคำ พ่อหญิงสาวรีบนมัสการเรียนถามหลวงปู่ว่า จะให้นำตัวลูกสาวมาที่วัดนี้หรือไม่

    หลวงปู่ตอบสั้น ๆ ว่า “ไม่ต้อง”

    จากนั้น หลวงปู่และศิษย์ของท่าน ก็นั่งหลับตาเจริญสมาธิสงบจิตพร้อม ๆ กัน ณ ที่ตรงนั้น มิได้เคลื่อนย้ายไปไหน หรือให้จัดเครื่องสักการะบัดพลีมาประกอบพิธีอย่างใดเลย แม้แต่ดอกไม้ธูปเทียนก็ไม่มีแม้แต่สิ่งเดียว พ่อของหญิงสาวผู้เคราะห์ร้ายแอบคิดลังเลสงสัยว่า หลวงปู่ดู่จะช่วยลูกสาวให้พ้นจากอำนาจผีร้ายได้อย่างไร เพราะไม่เห็นมีพิธีกรรมอันเข้มขลัง ดังเช่นที่เคยเห็นพวกหมอผีมิวิชาอาคมกระทำกันมา

    เวลาผ่านไปไม่ถึงอึดใจเสียด้วยซ้ำ หลวงปู่ดู่ก็พูดขึ้นเพื่อบอกกับศิษย์ของท่านว่า

    “เรียกผีมารับบุญหลวงปู่ทวด รับบุญข้า ให้โมทนาซะ จะได้ไปดี เป็นผีก็ไปเอาเมียผี ไม่ใช่เอาเมียคน รับบุญไปจะได้เมียนางฟ้าเยอะแยะ ดูด้วยว่าผีรับแล้วหรือยัง”

    ศิษย์ของท่านนั่งลงสงบนิ่งอยู่ในสมาธิ คงจะติดต่อกับหลวงปู่ดู่โดยจิต จากนั้นหลวงปู่ก็กล่าวขึ้นอีก

    “รับแล้วใช่ไหม.....ไปเกิดซะ.....เอาละหมดเรื่อง”

    พ่อของหญิงสาวที่ถูกวิญญาณผีตายโหงเข้าสิงเป็นพัก ๆ นานถึง ๓ ปี แม้จะเคารพหลวงปู่ดู่เพียงไร ก็ยังไม่วายลังเลสงสัยว่า บารมีธรรมของหลวงปู่จะช่วยลูกสาวให้พ้นจากอำนาจผีร้ายได้อย่างไร เพราะไม่เห็นท่านประกอบพิธีที่ชวนให้เกิดความขลังอย่างใดเลย อีกทั้งลูกสาวก็อยู่ไกลถึงอำเภอนครหลวง ซึ่งท่านไม่รู้ว่าบ้านเรือนตั้งอยู่ที่ไหน กิริยาอาการที่วิญญาณผีตายโหงเข้าสิงลูกสาวเป็นอย่างไร และท่านไม่รู้เสียด้วยซ้ำว่า เป็นลูกสาวคนไหนของตนถูกผีสิง เมื่อเป็นเช่นนี้ ผีตายโหงมันจะหวาดกลัวหวั่นระย่อหลวงปู่ดู่ถึงกับยอมผละหนีไปจากลูกสาวง่าย ๆ ล่ะหรือ

    เมื่อหลวงปู่ดู่และศิษย์ถอนจิตจากสมาธิ ผ่อนคลายอิริยาบถแล้ว ศิษย์ของท่านก็บอกกับชายคนนั้นว่า

    “ตอนนี้เขาไปเกิดแล้ว ผีเป็นเหตุ ลุงกลับบ้านไปลองดู ถ้าลูกสาวไม่เป็นอะไร แสดงว่าหาย”

    ผู้เป็นพ่อของหญิงสาวเคราะห์ร้าย ก้มกราบหลวงปู่ดู่ด้วยความปีติยินดี แล้วนมัสการกราบลากลับไปบ้านตนที่อำเภอนครหลวง เวลาผ่านไปเกือบเดือน ชายคนเดิมก็เดินทางมาที่วัดสะแกอีก เข้าไปกราบนมัสการหลวงปู่ดู่ด้วยสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส แล้วรายงานให้หลวงปู่ทราบว่า

    “ลูกสาวหายดีแล้วครับ ตั้งแต่วันนั้น ไม่มีอาการผีสิงอีกเลย เพราะหลวงปู่เมตตาไว้ครับ”

    บารมีธรรมของ หลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ เรื่องวิญญาณผีตายโหงเข้าสิงหญิงสาวอยู่อำเภอนครหลวงที่นำมาเสนอไว้ ณ ที่นี้ เป็นการแสดงให้เห็นถึงจิตตานุภาพเป็นอัศจรรย์ของผู้บำเพ็ญธรรมระดับสูง และบ่งชี้ให้รับรู้อีกประการหนึ่งนั่นคือ วิญญาณของผู้ที่ตายไปในลักษณะไม่ปกติ ตายเพราะมีกรรมมาตัดรอนก่อนถึงอายุขัยวันตายของตน ย่อมไปผุดเกิดในภพภูมิอื่นต่อไปไม่ได้ จึงต้องวนเวียนทุกข์ทรมานอยู่ในมิติของวิญญาณที่คาบเกี่ยวกับโลกมนุษย์ อีกทั้งยังมืดมัวด้วยกิเลสตัณหา หลงอยู่ในโมหะ อวิชชา ไม่ยอมรับรู้ตามความเป็นจริงว่า ตนเองตายไปแล้ว มีอัตภาพผิดแผกแตกต่างจากมนุษย์ ไม่อาจสามารถสัมพันธ์ข้องเกี่ยวกับมนุษย์ได้ทุกกรณี เหตุนี้ เมื่อมีกิเลสกามฟูขึ้นมากับหญิงสาวที่ตนหมายปอง จึงได้ตามรังควาน สร้างทุกข์ให้แก่ผู้อื่นนานถึง ๓ ปี

    หากมิใช่บารมีธรรมของหลวงปู่ดู่ ที่แผ่เมตตาให้วิญญาณของผีตายโหง วิญญาณนี้คงจะไม่พ้นจากสภาวะที่จมอยู่ในห้วงกิเลสซึ่งรัดรึงเอาไว้ ส่วนที่จะไปผุดเกิดในภพภูมิใดต่อไป ก็คงเป็นไปตามยถากรรมของตน
     
  2. mahamettayai

    mahamettayai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    1,199
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +10,673
    อารัยเนี่ย ?!? เป็นผียังอยากมีเมีย (คน) อีก (eek)


    โชคดีที่ได้บารมีขององค์หลวงปู่ช่วยไว้จริงๆ _/|\_
    ชอบอ่านประสบการณ์ทางวิญญาณของพ่อแม่ครูอาจารย์ทุกองค์
    ขอบคุณค่า
     
  3. พรบัวงาม

    พรบัวงาม Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    36
    ค่าพลัง:
    +72
    สาธุ สาธุ ที่นำมาเล่าให้ฟังค่ะ
    สาธุ สาธุ บารมีธรรมของ หลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ 
    ขอบคุณค่ะ
     
  4. มหาละลวย

    มหาละลวย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2012
    โพสต์:
    394
    ค่าพลัง:
    +717
    กราบหลวงปู่ดู่ พระมหาเถระผู้มากด้วยเมตตา
     

แชร์หน้านี้

Loading...