ประเทศไทยจะเกิดอุบัติภัยอย่างที่ทำนายกันจริงๆหรือไม่

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย koymoo, 25 มกราคม 2005.

  1. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    เมื่อใดที่เวรกรรมมาถึงตัวแล้วท่านจะขำไม่ออก !!!

    [​IMG]
    โปรดระวังการกล่าว"วจีกรรม"ล่วงเกินพระอริยสงฆ์ผู้ทรงศีลทรงธรรมอันบริสุทธิ์ จะได้รับผลกรรมที่ร้ายแรงมาก เรื่องข้อมูลเรื่องการเลื่อนเวลาจาก 14 ก.พ.56 มาเป็นวันที่ 3 ม.ค.56 นี้ เป็นข้อมูลมาจากพระอาจารย์รัตน์ ที่ลูกศิษย์ของท่านได้นำมาบอกเล่า ให้ได้ทราบกันเพื่อเตรียมตัวระวังภัยที่กำลังจะเกิดขึ้น และถ้าใครต้องการ จะทราบรายละเอียดเพิ่มเติม กรุณาไปฟังการบรรยายของพระอาจารย์รัตน์ ในวันที่ 9 ธันวาคม พ.ศ.2555 นี้ได้ครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • NR10.jpg
      NR10.jpg
      ขนาดไฟล์:
      72.3 KB
      เปิดดู:
      1,329
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 6 ธันวาคม 2012
  2. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    การอนุโมทนาบุญกับการอนุโมทนาบาป มีผลแตกต่างกันอย่างไร?

    [​IMG]

    ถาม หลวงพ่อเจ้าคะ คนที่ชอบอนุโมทนาบุญกับคนที่ชอบอนุโมทนาบาป จะมีผลอย่างไร?

    ตอบ ถ้าตอบแบบย่อๆ อนุโมทนาบุญก็ได้บุญ อนุโมทนาบาปก็ได้บาป แต่เรามาทำความเข้าใจกันก่อนว่า อนุโมทนาคืออะไร ?

    อนุโมทนา แปลว่า ดีใจด้วย ยินดีด้วย เห็นชอบด้วย หรือว่าสนับสนุน เพราะฉะนั้น การอนุโมทนาบุญ คือ ดีใจด้วยกับการที่คนอื่นทำความดี เช่น พอเห็นใคร ทำความดี เราก็ไปอนุโมทนาบุญด้วย ดีใจด้วย ซึ่งจะเป็นทั้งความชื่นใจ ที่เกิดกับตัวเราเอง แล้วก็เป็นการให้กำลังใจกับคนที่ทำความดี ให้เขามีกำลังใจที่จะทำความดียิ่งๆ ขึ้นไป

    ส่วนการอนุโมทนาบาป คือ ดีใจด้วยกับการที่คนอื่นทำความชั่ว พอเห็นใครทำความชั่ว " แหม ดีเหลือเกิน" เช่น เวลาเห็นคนที่เราไม่ค่อยรัก ไม่ค่อยชอบหน้าสักเท่าไหร่ ถูกรังแก เราก็ดีใจ ไปสมน้ำหน้าเขา นั่นเป็นการอนุโมทนาบาป เต็มที่เลย ก็จะมีผลทำให้เราพลอยได้บาปไปด้วย เพราะถึงเขาไม่ค่อยจะถูกกับเรา ก็เป็นคนละเรื่องกัน

    ยิ่งกว่านั้น ในกรณีที่เห็นใครได้รับความเดือดร้อน ได้รับความทุกข์ยาก แม้ว่าเขาจะเป็น คนชั่ว เป็นคนไม่ดี ก็อย่าไปโมทนากับเขา ยกตัวอย่าง พ่อค้ายาเสพติด ซึ่งเป็นคนชั่วอย่างแน่นอน โดยกฎหมายมีโทษว่า ต้องประหารชีวิต เพราะทำความเดือดร้อนให้กับคนอื่นมามากมายเหลือเกิน ขืนปล่อยให้มีชีวิตอยู่ต่อไป เดี๋ยวจะมี คนติดยาเสพติดของเขา จนต้องเป็นทุกข์เป็นร้อนกันทั่วบ้านทั่วเมือง

    พอมีข่าวทางหน้าหนังสือพิมพ์ว่า พ่อค้ายาเสพติดผู้นี้ถูกศาลตัดสินให้ประหารชีวิต ด้วยวิธียิงเป้าเท่านั้น คนสาธุกันลั่นเมืองทีเดียวโดยหารู้ไม่ว่า ได้อนุโมทนาบาปเข้าไปแล้ว เพราะไปยินดีต่อการที่จะต้องฆ่าคน ยินดีต่อการที่จะมีคนถูกฆ่า แม้ทางโลกอาจจะมองว่า ในเมื่อเขาทำความชั่วมาเยอะ ก็สมควรแล้วที่จะต้องถูกฆ่าให้ตาย

    แต่ทางธรรม เมื่อเกิดมีการฆ่ากันขึ้นมา เราจะไม่พูดในแง่ของกฎหมาย แต่เราจะพูดในแง่กฎของวัฏฏสงสาร คือ ในเมื่อเราก็ไม่ได้เป็นผู้ที่สร้างชีวิต ไม่ได้เนรมิตชีวิตใครขึ้นมา เพราะฉะนั้น ใครๆ ก็ไม่มีสิทธิ์ที่จะไปฆ่าใคร ถ้าไปฆ่าใครเข้า บาปก็เกิดแก่ผู้ฆ่าทันที

    แล้วถ้าหากไปอนุโมทนาต่อการฆ่านั้น เราก็จะพลอยได้บาปไปด้วย เพราะทันทีที่เห็นดีเห็นงาม ต่อการทำบาป ใจของเราก็จะขุ่นมัว ซึ่งพวกเราก็คงจำกันได้ดีว่า เมื่อใจขุ่นมัว ไม่ผ่องใส ถ้าตายขณะนั้น ย่อมมีทุคติเป็นที่ไป

    ยังไม่พอ ตัวของเรายังได้เพาะเชื้อแห่งการขาดความเมตตากรุณาตามเขาไปด้วย เพราะว่า เจ้าคนที่ถูกประหารชีวิต เขามีเชื้อแห่งการขาดความเมตตากรุณาต่อเพื่อนร่วมโลกอยู่ในตัว เขาจึงค้ายาเสพติด วันนี้เขาถูกฆ่าตาย แล้วเราก็ดีใจ โดยหารู้ไม่ว่าเราก็กำลัง เพาะเชื้อแห่งการ ขาดความเมตตากรุณาต่อสัตวโลกเช่นกัน

    เพราะฉะนั้น จึงฟ้องว่าจะชาตินี้ หรือชาติไหนก็ตาม เราก็พร้อมที่จะทำบาปคล้ายๆ กับเขานั่นแหละ ยิ่งไปกว่านั้น เรายังได้เพาะนิสัยจับแง่คิดไม่เป็นขึ้นมาอีกด้วย เพราะการที่ใครคนใดคนหนึ่ง ไปทำเรื่องร้ายๆ จนกระทั่งต้องถูกประหารชีวิต ถามว่าทำไมเขาถึงเป็นอย่างนั้น ?

    ความจริงไม่ใช่เขาอยากจะเป็นคนเลว เขาเองก็อยากเป็นคนดี แต่เนื่องจากว่าใจของเขา ขุ่นหมองมาตั้งแต่เกิด ทำให้มีสติปัญญาน้อย เลยคิดว่าการที่ไปค้ายาเสพติดอย่างนั้นเป็นการถูกต้องแล้ว เพราะฉะนั้น การฆ่าเขาให้ตายจึงไม่ใช่วิธีแก้ไขที่ถูกต้อง เพราะตายแล้วเขาก็ยังต้องเกิดต่อไปอีก ถึงคราวได้กลับมาเกิดใหม่ในโลกมนุษย์ ใจของเขาก็ยังขุ่นเหมือนเดิมนั่นแหละแล้วก็คงจะก่อเวร ก่อกรรมเช่นเดียวกับชาตินี้อีก

    แต่ถ้าจะให้เขาเลิกก่อเวรก่อกรรม ไม่ไปค้ายาเสพติดอีก ก็มีวิธีเดียว คือ จับเขามาสอนให้รู้จักบุญ ให้รู้จักบาป เสียตั้งแต่ชาตินี้ ไม่อย่างนั้นก็ไม่เกิดประโยชน์อะไรกับเขาเลย แก้ไขให้ดีก็ไม่ได้ แถมยังจะเลวเหมือนเดิม เราก็ได้แต่ความสะใจ แล้วก็ได้บาปติดตัวไปเท่านั้นเอง บางครั้งมีการตายหมู่เกิดขึ้น เมื่อท่านผู้มีธรรมไปตรวจดูปรากฏว่า พวกหนึ่งที่ไปตายหมู่ร่วมกับเขา คือ พวกที่เคยฆ่าคนอื่นเอาไว้

    ส่วนอีกพวกหนึ่ง คือ พวกที่ไปอนุโมทนาบาป ไปสนับสนุนให้เกิดการฆ่า ถึงเวลาเลยต้องมาตายด้วยกัน นี่คือฤทธิ์ของการอนุโมทนาบาป เพราะฉะนั้น อย่าได้ไปอนุโมทนาบาป กับใครทีเดียว ถ้าได้ข่าวการตัดสินประหารชีวิต อย่างมากก็ทำใจเพียงแค่รับรู้ว่า เป็นกรรมของสัตวโลก ใครทำอย่างไรก็ได้อย่างนั้น ทำใจให้เป็นอุเบกขา อย่างนี้เชื้อบาปจะได้ไม่เกิดกับเรา

    ตรงกันข้าม ถ้าทราบว่าใครทำบุญ ให้รีบอนุโมทนาบุญกับเขา ใจของเราจะได้สดชื่นแจ่มใส มีกำลังใจที่จะทำความดีตามอย่างเขาบ้าง แล้วคนที่เราไปอนุโมทนาบุญด้วยเขาก็จะได้มีกำลังใจที่จะทำความดี ให้ยิ่งๆ ขึ้นไป ทำกันให้ได้อย่างนี้ เดี๋ยวทั้งเขาและเราคงจะได้ไปสร้างบุญร่วมกันในภายภาคหน้า ต่อไปอีก ไม่ว่าชาตินี้ หรือชาติไหน ก็มีแต่ว่าจะเอาบุญไปต่อบุญ เอาความดีไปต่อความดี อย่างนี้ถึงจะน่าอนุโมทนา

    ตอบปัญหาธรรมะโดย พระภาวนาวิริยคุณ

    ที่มา .:
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 1284472375.gif
      1284472375.gif
      ขนาดไฟล์:
      116.2 KB
      เปิดดู:
      1,318
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 6 ธันวาคม 2012
  3. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    ผลกรรมของการไปล้อเลียนผู้ทรงศีลทรงธรรม !!!

    [​IMG]

    ถาม : ...........................?

    ตอบ : นางขุชชุตรา เป็นคนหลังค่อมเพราะว่าไปทำท่าหลังโก่งเลียนแบบพระปัจเจกพุทธเจ้า ที่ท่านหลังค่อม ของเราอาจจะไปหัวเราะเยาะพระที่ท่านเป็นขี้กลากล่ะมั้ง ?

    ถาม : แล้วถ้าเกิดว่าบางทีเราก็มีอาการคุยกับเพื่อนว่าท่านอ้วนท่านหลังโก่ง ?

    ตอบ : อันนั้นคุยไม่เป็นไร แต่คราวนี้นางขุชชุตรา เพื่อนเขาถามว่าพระคุณเจ้าของเราน่ะรูปร่างเป็นยังไง เพราะว่าพวกสาวสรรกำนัลในนี่กว่าจะได้พบผู้ชายยากเต็มที ขนาดจะฟังเทศน์นี่เขายังกั้นม่านเจ็ดชั้นน่ะ คราวนี้นางขุชชุตราเป็นผู้หญิงหลังค่อมคนก็ถือว่า เออ.. ยังไงๆ ก็ไม่สวยไม่งามก็ให้ออกไปจัดการน้ำใช้น้ำฉันอะไรได้ ท่านก็มีโอกาสได้เห็นพระปัจเจกพุทธเจ้า แล้วก็เอาหม้อมาใบหนึ่ง เอาผ้ามาห่มเอาหม้อซ่อนไว้ในข้างในผ้าทำท่าเหมือนกับถือบาตรแล้วก็ทำท่าก้ม หลังโก่งเดินให้ดู ลักษณะทำท่าล้อเลียนแค่นั้นเองโดยไม่ได้เจตนาร้าย เกิดเป็นคนหลังค่อม ๕๐๐ ชาติ

    ถาม : แล้วอย่างนั้น ถ้าเกิดว่าเขารู้ตัวก่อนจะตายแล้วก็....?

    ตอบ : ขอขมาซะก่อน ขอขมาก็แล้วไป ก็ไม่ได้ขอขมานี่น่ะ

    ถาม : แล้วสมัยปัจจุบันนี่พระปัจเจกพุทธเจ้านี่ไม่มีใช่มั้ย ?

    ตอบ : ไม่มีจ๊ะ พระปัจเจกพุทธเจ้าจะเกิดขึ้น ก็ในยุคที่โลกว่างจากพระพุทธเจ้าเท่านั้นแล้วไม่ได้เกิดขึ้นทีละองค์แบบพระ พุทธเจ้าทั่วไป เกิดขึ้นทีหนึ่งเป็นหลายๆ ร้อยๆ หลายๆ พันบางทีก็เป็นแสน พระปัจเจกพุทธเจ้าจะสร้างบารมีมาอย่างน้อย ๒ อสงไขยแสนมหากัป คือในระดับเดียวกับพระอัครสาวก แต่ว่าท่านจะเป็นผู้ที่ต้องการ จะตรัสรู้ทุกอย่าง เพียงแต่ไม่ต้องการจะเป็นครูสอนใครก็เลยใช้คำว่าปัจเจกะ (ไม่ชัด )...เป็นช่วงที่โลกว่างจากศาสนาเท่านั้น

    สนทนากับพระเล็ก สุธมฺมปญฺโญ เดือนเมษายน ๒๕๔๕ ณ บ้านอนุสาวรีย์ฯ

    นางขุชชุตตรา นี่เป็นฆราวาสที่เลิศในทางแสดงธรรม แกเทศน์ทีเดียวได้พระโสดาบันห้าร้อยกับหนึ่งองค์ แต่แกเป็นคนหลังค่อม เพราะว่าในอดีตชาติหนึ่งเป็นสาวใช้อยู่ในวังนี่แหละ พระปัจเจกพระพุทธเจ้าได้รับนิมนต์เข้าไปฉันในวังอยู่ประจำ นางขุชชุตรามีหน้าที่จัดน้ำใช้น้ำฉันปัดกวาดปูสถานที่ให้ บรรดาสาวกำนัลนางอื่น ๆ ไม่ได้ออกมา เพราะว่าสมัยก่อนนี่ ถ้าเป็นฝ่ายในเมื่อไร ก็เป็นว่าคุณไม่ต้องโผล่หน้ามาให้ใครเขาเห็นกันเลย เขาสงสัยมากก็ถามนางขุชชุตตราว่า พระผู้เป็นเจ้าของเรามีลักษณะอย่างไร ? นางขุชชุตตราแกก็เอาผ้ามาห่มให้ดูว่านี่ ห่มผ้าอย่างนี้ ถือบาตรอย่างนี้ หลังโก่งอย่างนี้ แกเกิดเป็นคนหลังค่อม ๕๐๐ ชาติ

    นั่นแหละแค่ทำให้เพื่อนดูไม่ได้เจตนาปรามาสด้วยนะ แล้วที่แกต้องเกิดมาเป็นสาวใช้เขาตลอดทั้ง ๕๐๐ ชาติ เพราะว่ามีอยู่ชาติหนึ่ง แกเป็นลูกเศรษฐี ปรากฏว่าเพื่อนกันไปบวชเป็นภิกษุณีเป็นพระอรหันต์ไปแล้ว แกเองก็ไม่รู้ เพื่อนมาเยี่ยม นั่งคุยกันอยู่ ปรากฏว่าแกกำลังจะแต่งตัว นั่งบนเตียงอย่างนี้ เพื่อนมาถึงก็นั่งนี่ เครื่องแต่งตัวแกก็อยู่นี่ มันก็คั่นอยู่ เข้าถึงไม่ได้ ก็ว่าพระแม่เจ้าโปรดช่วยหยิบกระเช้าเครื่องแต่งตัวให้ดิฉันหน่อย เพื่อนเป็นพระอรหันต์ปฏิสัมภิทาญาณ รู้เลยว่า

    ถ้าเราไม่หยิบให้เธอ เกรงเธอจะเป็นโทษ เธอก็จะโกรธ ว่าอะไรแค่นี้ขอร้องเพื่อนก็ไม่ได้ โกรธพระอรหันต์นี่ลงนรกเลย และเสร็จแล้วถ้าเราหยิบให้เธอจะเป็นอย่างไร ? ก็บอกว่าเกิดต่อไป ๕๐๐ ชาติ เธอต้องเป็นคนใช้เขาหมด เพราะว่าตัวเองไปใช้พระอริยเจ้าระดับนั้น การเป็นคนใช้เขามันก็ยังลำบากน้อยกว่าลงนรก ท่านก็เลยหยิบให้ แค่วินาทีเดียวเท่านเองพระระดับนั้น ท่านจะเห็นตั้งแต่ต้นยันปลายหมดว่าอะไรจะเกิดขึ้น แล้วก็เลือกทำในสิ่งที่เป็นประโยชน์แก่คนอื่นมากที่สุด นี่ไม่ได้เจตนานะ เพราะฉะนั้นถ้าหากว่าท่านไม่ปิดบังตัวเอง ทำในลักษณะที่สำรวมกายวาจาใจ รับรองได้ว่าเพื่อนฝูงไปนรกอีกเยอะ

    สนทนากับพระเล็ก สุธมฺมปญฺโญ เดือนพฤศจิกายน ๒๕๔๕ ณ บ้านอนุสาวรีย์ฯ

    ที่มาิ http://www.grathonbook.net/book/51.html
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 ธันวาคม 2012
  4. gijjij

    gijjij เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    160
    ค่าพลัง:
    +346
    อ้างอิง:
    ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ kaewkaow
    ท่านเกษม...แหม..น่าจะอ้างอิงเพิ่มซะหน่อยน่ะ ว่าด้วยเหตุใดฤาถึงจะเลื่อนเร็วขึ้น...จะได้แชร์ความหลอน..ให้ถ้วนทั่ว ดิฉันเองยังเตาะแตะอยู่เลยต้วมเตี้ยมเพราะแรงโน้มถ่วงเพิ่ม..ท่าจะไม่รอด..ต้องเรียนวิชาตัวเบา...ร้อเล่น...ขำๆ แต่จริงจัง...ขอสมัครฝึกกับท่านเกษมมั่งจิ....

    โปรดระวังการกล่าว"วจีกรรม"ล่วงเกินพระอริยสงฆ์ผู้ทรงศีลทรงธรรมอันบริสุทธิ์ จะได้รับผลกรรมที่ร้ายแรงมาก เรื่องข้อมูลเรื่องการเลื่อนเวลาจาก 14 ก.พ.56 มาเป็นวันที่ 3 ม.ค.56 นี้ เป็นข้อมูลมาจากพระอาจารย์รัตน์ ที่ลูกศิษย์ของท่านได้นำมาบอกเล่า ให้ได้ทราบกันเพื่อเตรียมตัวระวังภัยที่กำลังจะเกิดขึ้น และถ้าใครต้องการ จะทราบรายละเอียดเพิ่มเติม กรุณาไปฟังการบรรยายของพระอาจารย์รัตน์ ในวันที่ 9 ธันวาคม พ.ศ.2555 นี้ได้ครับ
    ถ้าพะ เหล่านี้ยังยึดติดหรือติดต่อกับโลกไซเบอร์ ไม่น่ากราบไหว้ครับ ยิ่งพะ มีจัมจุมแกแล๊คซี 3 ยิ่งไปกันใหญ่ โลกไซเบอร์ไม่ใช่ที่อยุ่ของ พะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 ธันวาคม 2012
  5. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    เมื่อร่ายกายของคนบนโลกเริ่มปรับเปลี่ยนเข้าสู่มิติที่ 4 !!!

    [​IMG]

    Mr empty สมาชิก

    วันนี้ผมขอพูด(พิมพ์)เรื่องที่ติดค้างแฟนๆไว้เมื่อหลายวันก่อนเกี่ยวกับประสบการณ์ของผมกับข้อความของชาวอาร์คทูเรี่ยน ซึ่งผมได้เคยบอกไปแล้วว่าสิ่งที่ผมได้รับนั้นมันเกินกว่าที่ผมคาดหวังมากๆ(ในเวลานั้น) ผมจะเริ่มยังไงดี เอาเป็นว่าผมได้ออร่ามิติที่สี่มาก็แล้วกัน ผมได้มาเพราะเขาให้มาหรือว่าเป็นเพราะวิวัฒนาการของผมเองผมไม่ทราบจริงๆ เล่าเลยแล้วกัน

    ผมรู้ได้อย่างไรว่าผมได้ออร่ามิติที่สี่

    ผมรู้มาจากความฝันของผมเอง นักอ่านท่านใดอยากหัวเราะเชิญหัวเราะตอนนี้ได้เลยครับ หลายวันมาแล้วเมื่อปลายเดือนตุลาคม (ก่อนวันที่ 11/11/12) ผมฝันว่ามีพลังมืดที่หนักมากมาทับตัวผม ปกติเวลาที่ผมฝันในลักษณะนี้ พลังนั้นจะทาบทับร่างกายฝันของผมโดยตรง แล้วผมก็ต้องแก้ปัญหาเอาเอง แต่ร่างกายฝันของผมก็มีวิธีแก้ปัญหาอยู่แล้ว แต่ครั้งนี้ไม่เหมือนครั้งใดๆในชีวิต พลังที่มาทับร่างกายฝันของผมมันมีเยื่อผนังบางๆมารับน้ำหนักเอาไว้ เยื่อบางๆนี้คล้ายกับลูกโป่งที่เป่าจากแชมพู หุ้มรอบร่างกายฝันผมเอาไว้ ทำให้พลังมืดนั้นไม่สามารถทับมาถึงตัวผมได้ มันทับลูกโป่งที่หุ้มรอบร่างกายฝันของผม แล้วร่างกายฝันของผมก็อยู่ในลูกโป่งนั้น แต่ผมก็รู้สึกได้ถึงน้ำหนักของพลังนั้น ในขณะเดียวกันผมก็แปลกใจเหมือนกันว่าทำไมผนังนั้นมันจึงมีความยืดหยุ่นสูงมากขนาดนั้น

    หลังจากนั้นร่างกายฝันของผมก็ว่าคาถาว่า “นัตถิ เม สะระนัง อัญยัง พุทโธ เม สะระนัง วะรัง เอเตนะ” แล้วก็หยุด ผมรู้ว่าต้องว่าอะไรต่อ แต่ร่างกายฝันมันหยุดอยู่แค่นั้น เพราะมันรู้ว่าแค่นั้นก็พอแล้ว หลังจากนั้นผมก็เอามือผลักพลังงานนั้นออกไป พลังงานนั้นก็กระเด็นออกไป มองเห็นเป็นเด็กผู้หญิงคนหนึ่ง ลักษณะคล้ายกันเด็กยากจนด้อยโอกาสที่เห็นกันทั่วๆไป ที่เห็นกันในทีวี หรือตามป้ายรณรงค์ทั้งหลายนั่นแหละ นอนอยู่ในลักษณะที่ช่วยตัวเองไม่ได้ แล้วผมก็ลุกขึ้นแล้วเดินไปที่เด็กคนนั้น แล้วผมก็เอามือไปแตะที่เด็กผู้หญิงคนนั้น แล้วก็ว่าคาถาอีกครั้งว่า “นัตถิ เม สะระนัง อัญยัง พุทโธ เม สะระนัง วะรัง เอเตนะ” แค่นี้อีกแล้ว แล้วใครจะเชื่อผมวะ ว่าในฝันผมสามารถว่าได้จนจบจริงๆ ก็ว่าแค่นี้มันก็พอแล้ว แล้วจะต้องว่าให้จบทำไม กลับมาที่เรื่องของเรา หลังจากผมแตะตัวเด็กผู้หญิงคนนั้นและว่าคาถาแล้ว เด็กผู้หญิงคนนั้นก็ลุกขึ้นได้สีหน้าดูมีความสุข แล้วเขาก็ไปตามทางของเขา ส่วนผมก็ตื่นขึ้น

    เล่ามาซะยาวเชียว ประเด็นมันอยู่ที่ตรงฟองอากาศฟองนั้นนั่นเอง พอผมตื่นขึ้นมาผมก็รู้ได้ทันทีว่า มันคือออร่ามิติที่สี่ ใครไม่เชื่อผมก็ไม่เป็นไรครับผมไม่ว่า ผมเชื่อของผมตั้งแต่ตื่นนอนแล้ว ผมอยากจะเล่าความฝันนี้ให้เพื่อนๆฟัง(อ่าน)ตั้งแต่ครั้งแรกที่ฝันแล้วหละ แต่ก็นั่นแหละมันก็แค่ความฝันมันไม่ใช่ความเป็นจริง ผมก็เลยเก็บเรื่องนี้ไว้คนเดียว เพราะผมต้องการทดสอบให้แน่ใจก่อนว่า มันใช่ มันจริง ที่พวกคุณได้อ่านเรื่องนี้ก็เพราะ มันมีสิ่งแปลกๆเกิดขึ้นกับร่างกายจริงๆของผมนี่แหละ ผมจึงกล้าเอาเรื่องนี้มาเล่าให้พวกคุณอ่าน

    เกิดอะไรขึ้นบ้างกับร่างกายของผม

    สองสามวันต่อมาพี่ขอให้ผมช่วยไปทำธุระให้ที่ธนาคาร ผมไปถึงธนาคารคนเยอะต้องนั่งรอ ผมก็นั่งรอตามระเบียบ ตรงที่นั่งที่ผมนั่ง แอร์ส่องลงมาพอดี ผมเป็นคนหนึ่งที่ร่างกายไม่ถูกกับอากาศเย็นหรืออากาศหนาว แค่เข้าไปในห้องที่มีเครื่องปรับอากาศครู่เดียวมือก็เย็นแล้ว คราวนี้ก็เช่นกัน ดันมานั่นตรงกับช่องแอร์อีก แค่ลมแอร์เป่าผมก็รู้แล้วว่านั่งผิดที่ ผมส่งความรู้สึกไปที่มือตามความเคยชิน เฮ้ย! มืออุ่น กรุณาอย่าคิดว่าผมกำลังเล่าเรื่องตลก เพราะสำหรับผมแล้วมันไม่เคยเป็น ปกติเมื่อผมอยู่ในสถานการณ์แบบนี้มือของผมจะเย็น การที่ผมทึ่งกับอาการมืออุ่นของผมนี่จึงไม่ใช่เรื่องล้อเล่นสำหรับผม

    หลังจากคืนที่ฝันเรื่องนี้แล้วผมก็รู้ว่ามันคืออะไร ผมจึงอยากทำสมาธิก่อนนอนมากเป็นพิเศษ ผมก็นั่งสมาธิตามที่ใจปรารถนา ใช้เวลาไม่ถึง 7 วัน ผมสามารถทำสมาธิข้ามจุดที่ผมไม่เคยข้ามได้มาทั้งชีวิต สิ่งนั้นก็คือความเจ็บปวดที่ขาในขณะที่นั่งสมาธิ ถ้าเป็นพระป่าจะเรียกสิ่งนี้ว่าเวทนา ในอดีตเวลาผมนั่งสมาธิถ้าหากผมนั่งนานๆมันจะปวด และปวดมากขึ้นเรื่อยๆถ้าหากยังพยายามนั่นต่อไป ผมพยายามข้ามมันให้ได้หลายครั้งมากแต่ทำไม่เคยสำเร็จ แต่พอได้ออร่ามิติที่สี่มา มันทำได้ ข้ามได้ง่ายกว่าที่คิดมาก โดยที่ผมก็ไม่ได้คาดคิดว่าผมจะข้ามได้ เหตุที่ผมบอกว่าผมข้ามมันได้ เพราะว่าผมสามารถข้ามเวทนาที่กล้ามเนื้อชิ้นนั้นได้ ที่ผ่านมามันเจ็บตรงนี้มันปวดตรงนี้ และข้ามความเจ็บปวดตรงนี้ไปไม่ได้ แต่ครั้งนี้มันข้ามความเจ็บปวดตรงนี้ได้ หลังจากข้ามเวทนาตรงนี้ไปได้ผมก็รู้แล้วว่า โลกของสมาธิของผมได้เข้าสู่ดินแดนใหม่แล้ว ดินแดนที่ไม่เคยมาถึงมาก่อน ทางที่ไม่เคยเดินมาก่อน

    กลับมาเล่าเรื่องเกี่ยวกับสมองบ้างดีกว่า มีอาการปวดที่จอมประสาท ปวดแล้วก็แตกออกไป ปวดแล้วก็แตกออกไป ถี่มาก แล้วก็ปวดเป็นทางใหญ่เข้าไปในสมองซีกขวา อาการปวดนี้มันเป็นลักษณะที่ปวดแล้วก็หายแล้วก็หาย ผมมองโลกในแง่ดีว่ามันเป็นการขยายช่วงความถี่ของสมองสามมิติ กลับมาเรื่องมืออุ่นอีกที ผมถีบจักรยานไปห้างสรรพสินค้า ระหว่างทางฝนตก เสื้อผ้าของผมโดนฝนเปียกไปทั้งตัว เข้าไปในห้างสรรพสินค้าแบบไม่ได้นึกถึงเรื่องนี้เลย เดินไปเดินไปมันก็ปะทะกับลมแอร์รู้สึกเย็น ก็เลยเอามือมาประกบกันตามความเคยชิน เฮ้ย! มืออุ่น เสื้อผ้าก็เปียกไปทั้งตัว ไม่รู้สึกหนาวเลย หลังจากนั้นผมก็เลยนอนโดยไม่ห่มผ้า ไม่ว่าอากาศจะหนาวขนาดไหน ผมไม่เคยรู้สึกหนาวเย็นอีกเลย ตื่นนอนเอาเท้าแตะกันดู เท้าก็ไม่เย็น มือก็ไม่เย็น แปลกมาก ระบบปราณของผมเปลี่ยนไปแล้ว

    ตัวอย่างที่ผมยกมาอาจฟังดูไร้สาระสำหรับบางคน เพราะว่าผมก็เพิ่งได้สิ่งนี้มาแค่เดือนกว่าๆเท่านั้นเอง ปกติเวลาเราเดินทางไปในสถานที่ใหม่ๆ กว่าที่เราจะคุ้นเคยกับสถานที่นั้นๆมันต้องใช้เวลาเป็นเดือนๆเพื่อเรียนรู้ สิ่งที่ผมเป็นอยู่ตอนนี้ก็เช่นเดียวกัน ขณะนี้ผมใช้ร่างกายและสมองของผมในกรอบของมิติที่สามเพราะไม่เคยอยู่ในมิติที่สี่มาก่อน ผมไม่รู้หรอกว่าร่างกายและสมองมิติที่สี่มันทำอะไรได้บ้าง วันนี้ผมพยายามเล่าในเรื่องที่สามารถวัดค่าได้ จับต้องได้ ในความเป็นจริงแบบมิติที่สาม สำหรับเรื่องที่จับต้องไม่ได้วัดไม่ได้เช่นเรื่องของความฝัน ความรู้ในภายใน ทำนองนี้ ผมจะยังไม่เล่านะครับ แล้วผมก็อยากบอกท่านนักอ่านที่รักทั้งหลายให้ทราบว่า อย่าไปใส่ใจกับเรื่องราวนี้ให้มากเกินไป เพราะโลกจะยกระดับไปถึงมิติที่ห้า สิ่งที่ผมได้มันไม่ได้ทันสมัยอะไรเท่าไหร่หรอก ตอนนี้ผมคิดได้ว่ามีเรื่องที่ควรทำอีกอย่างหนึ่ง ก็คือถ่ายรูปเก็บไว้ รูปที่เห็นผมหงอก หนวดหงอกของผมนี่แหละ เพราะเวลาที่ aging reverse มาเมื่อไหร่ มันสายเกินไปที่จะเก็บความทรงจำนี้ไว้

    7-12-2012, 04:36 AM

    ที่มา http://palungjit.org/threads/ข้อควา...ของมนุษยชาติ-ไปสู่มิติที่-5-a.246190/page-324
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 4.jpg
      4.jpg
      ขนาดไฟล์:
      28 KB
      เปิดดู:
      1,162
  6. gijjij

    gijjij เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    160
    ค่าพลัง:
    +346
    เมื่อ 7ปี ก่อนผมเคยเชื่อเรื่องแบบนี้อย่างสนิทใจไม่มีคำถาม แต่ตอนนี้มีเหตุและผลมากมายทำให้คิดได้
     
  7. phirus

    phirus เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    97
    ค่าพลัง:
    +318
    ไปอ่านเรื่องพวกนี้มากๆๆ จะทำให้จิตตกได้ ทำอะไรก้อกลัวไปหมด :cool:

    อ่านบ้างไม่อ่านบ้างก้อดีนะครับ จะได้ไม่ต้องคิดมาก จะตกนรกโดยไม่รู้ตัวเพราะเป็นทุกข์กับภัยที่ไม่รู้จะมีรึป่าว

    คนเราเดี๋ยวนีเสพสื่อเยอะไป ต้นตอสื่ออาจจะไม่มีอะไรพอเล่าต่อๆๆกันมาก้อใส่ไข่ใส่ความคิดตัวเองลงไปด้วยสุดท้าย กลายเป็นเรื่องอะไรก้อไม่รู้:'(
     
  8. thai123

    thai123 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 เมษายน 2011
    โพสต์:
    180
    ค่าพลัง:
    +1,597
    ขอบคุณค่ีะท่านเกษมที่เอาข้อมูลทุกๆอย่างมาบอก..... โดยเฉพาะที่ว่าเลื่อนมา 3 มค เชื่อว่ามีหลายคนที่ไม่มีโอกาสเข้าสัมนา เพราะว่าไม่ได้อยู่กรุงเทพ ก็ได้แต่อาศัยพึ่งเพื่อนๆ ที่ไปมา เล่าสู่กันฟัง ............รอฟังข้อมูลใหม่จากพระอาจารย์รัตน์ค่ะ.......ขอบคุณล่วงหน้านะคะ
     
  9. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    สัญญาณฟ้าเตือนภัยพิบัติ !!!

    [​IMG]

    White Fox สมาชิก

    เหมือนรูปมือถือกงจักรเลย

    ฮั้วโต๋ สมาชิก

    ...เป๊ะเลย...ไม่พลาดเป้า...ประหลาด..แต่อันตราย..เห็นกงจักรเป็นดอกบัว...คราวต่อจากนี้ไป.ต่อจากภาพสัญญาณฟ้าของท่าน.nananat.เหตุต่างจากสมุยนิดหน่อย แต่ก็คล้ายๆ กันบางเหตุ...

    วัน-สองวันนี้ ให้ระมัดระวังในเรื่องภัยธรรมชาติทั้ง 7 ด้วยนะครับ.อาจารย์มีอริยกิจที่เร่งด่วนที่ต้องทำครับ..ขออาราธนาคุณแห่งพระรัตนตรัย.คุ้มครองทุก ๆ ท่านให้สำเร็จสมปรารถนาทุกประการ.ปลอดภัยจากมนุษย์-อมมนุษย์-ศาสตรวุธทั้งหลายทั้งในที่ลับและที่แจ้ง.สรรพสัตว์ สรรพวิญญาณทั้งหลาย.ภัยพิบัติต่าง ๆ..ด้วยพระพุทธคุณ พระธรรมคุณ พระสังฆคุณ..

    ..มีความสุข ความเจริญรุ่งเรืองทั้งทางโลก และทางธรรม.อุดมด้วยโภคทรัพย์ อริยทรัพย์.อิ่มไม่อด ยังไม่หมดก็มา.ด้วยพระพุทธัง ประสิทธิผล พระธัมมัง ประสิทธิผล พระสังฆัง ประสิทธิผล..ขจัดอุปสรรค.วิบากกรรมใด ๆ ก็ขอให้ถูกผ่อนจากหนักเป็นเบา จากเบาเป็นสูญสลายหายไปด้วย พระพุทธานุภาพ พระธัมมานุภาพ พระสังฆานุภาพทุกประการเทอญ....

    เจริญในธรรม มีพระพุทธเจ้าในจิตให้มาก ๆ

    ที่มา http://palungjit.org/threads/สัญญาณฟ้าเตือนภัยพิบัติ.294356/page-473

    หมายเหตุ

    กงจักร หมายถึง กองทัพบก (ใช้กงจักรเป็นสัญลักษณ์) จักร เป็นเทพศาสตราวุธชนิดหนึ่ง มีลักษณะเป็นวงกลมแบนแบบกงล้อ ขอบนอกรอบเป็นแฉกถี่ๆคมกริบ มีทั้งเป็นโลหะ,แก้วและธาตุกายสิทธิ์ มีอิทธิฤทธิ์และวิ่งได้ด้วยอำนาจวิเศษหรืออำนาจมนตรา เจ้าของสามารถออกคำสั่งใช้จักรพุ่งเข้าทำลายล้างสิ่งต่างๆได้ บางตำนานว่าจักรเกิดจากผิวของดวงอาทิตย์ ที่หลุดล่อนออกจากการขูดไปทำเทพอาวุธของพระวิษณุกรรม (ผู้ทำ) จักรเป็นอาวุธร้ายแรงที่สุด เป็นอาวุธของเทพเจ้าหรืออสูร,ยักษ์และยังเป็นเครื่องลงฑัณฑ์ในนรกภูมิอีกด้วย

    ที่มา กงจักรของทหารบกหมายถึงอะไร
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  10. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    ความเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญในวันที่ 21-12-2012 !!!

    [​IMG]

    Nirvana สมาชิก

    สดๆร้อนๆ...ควันยังขึ้นอยู่เลย...อิอิอิอิ กัปตัน บิล เพิ่งไปคุยกับน้า Mythi มาเมื่อวันที่ 4 ที่ผ่านมาแล้วเอามาโพส์เมื่อ 2 ช.ม. ที่ผ่านมานี้เอง คราวนี้น้าจัดหนักกว่าที่เคย สงสัยว่าเราอาจจะไม่ได้ดูวีดีโอที่ 100 เพราะนี่เข้าใกล้เวลา "โหมโรง" เต็มที่แล้ว

    น้าแจ้งข่าวมาว่าขณะนี้นาซ่า ได้อพยพนักวิทยาศาสตร์ระดับท๊อปๆทั้งหมด ไปอยู่บนดาวอังคารเรียบร้อยแล้ว เพราะการเจรจากับ CG ไม่ประสบผลสำเร็จ จึงได้รีบย้ายขุมกำลังไปตั้งมั่นที่โน่น (โดยหวังว่าจะกลับมามีอำนาจอีก หลังฝุ่นจางไปแล้ว) ไม่แต่เฉพาะผู้คนหัวกะทิสุดยอดทั้งหลายเท่านั้น แต่ก็ยังนำเอาทองคำที่เป็นสิ่งประกันราคาของธนบัตรดอลล่าร์ ไปทั้งหมดด้วย (ยกเว้นของจีนและรัสเซีย)

    ซึ่งก็เท่ากับว่าแบงค์ดอลล่าห์อเมริกันและอีกหลายสกุลที่อิงอยู่กับค่าเงินนี้ มีค่าพอๆกับกระดาษม้วนที่มีลวดลายในส้วมของท่าน....อิอิอิอิ

    นอกเหนือจากนี้แล้ว ยังได้นำเอาภาพวาดและศิลปะวัตถุชิ้นเอกของโลก อีกมากมายหลายชิ้นเหลือคณานับไปด้วย ทิ้งไว้แต่ของปลอมให้ประชาชนชาวโลกตีตั๋วเข้าไปดูของเก๊กันกระหึ่ม....หุหุหุหุหุหุ

    แต่ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น น้าMythi ประกันซ่อมฟรีว่า โลกใบนี้ยังเดินหน้าไปสู่ความเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่แห่งมวลมนุษย์ชาติ การผจญภัยของมวลมนุษย์ยังไม่ได้เริ่มขึ้น (ในขณะนี้...แต่พรุ่งนีัไม่รู้..จึ๋ยๆๆ) CG ได้ใช้เทคโนโลยีดึงสถานการณ์เอาไว้ ไม่ให้มีผลกระทบกับโลกถึงขนาด...สูญสิ้นเผ่าพันธุ์) เพราะน้าบอกไว้เลยว่าโลกเราจะบวมขึ้นประมาณ 5% ลองคิดดูว่าโลกบวมนี้จะเป็นอย่างไร

    ลองเอาลูกโป่งมาเป่าลมเข้าไป 50% เสร็จแล้วเอาแป้งโกกิมาละลายน้ำพอกบนผิวให้หนาๆเหมือนแผ่นดิน ภูเขา บนพื้นโลก รอให้แห้งแล้วเป่าลูกโป่งให้พองขึ้นไปอีกหน่อย สิ่งที่จะเกิดขึ้นคือ บางส่วนของแป้งจะต้องหลุดร่วงลงจากผิวลูกโป่งมากน้อยแล้วแต่ดวงชะตา....คิคิคิคิคิ แต่มานึกดูที่ว่าเลวร้ายคือ โลกจะบวมพร้อมกันทั่วโลกแต่จะมีผลกระทบต่างกัน....66666666
    ที่เหลือท่านสมาชิกไปจินตนาการกันเอาเอง.....Nirvana

    การเปลี่ยนแปลงครังยิ่งใหญ่นี้เปรียบเสมือนการ "ชำระล้าง" โลกครั้งมโหฬารที่สุดตั้งแต่มีมนุษย์ชาติบังเกิดขึ้นบนดาวเคราะห์สีน้ำเงินดวงนี้ เทคโนโลยีที่เน่าเสียเป็นพิษเช่น น้ำมันดิบ นิวเคลียร์ เป็นต้น จะถึงยุคสิ้นสุดและจะถูกกำจัดออกไปโดยทาง Portal ไปยังดวงดาวขยะต่อไป

    โลกจะมีพืช สัตว์ แมลง และจุลชีวะชนิดใหม่ๆ เกิดขึ้นและมีอีกหลายชีวิตที่จะต้องสาปสูญไปเมื่อไม่สามารถปรับตัวเข้ากับการเข้าสู่ขั้นที่ 1 ของการเปลี่ยนแปลงได้ ฉะนั้นจึงไม่แปลกที่เราจะเห็นสิ่งใหม่ๆที่ไม่เคยเห็นมาก่อน

    ฉะนั้นหลังจากวันที่ 20 (ก็คือ วันที่ 21 นั่นแหละ) โลกจะเข้าสู่การเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญยิ่ง ทุกท่านที่มีญานทัศนะจะรู้ได้ถึงการเปลี่ยนแปลงนี้ด้วยตัวเอง (โลกไม่ได้หยุดหมุน นะครับ ท่านสมาชิก...อิอิอิอิ)

    น้าMythi เองก็ยังเฝ้าลุ้นมองดูการเปลี่ยนแปลงของโลกครั้งนี้เป็นครั้งแรกอายุ 150 ปีโลก ด้วยความปิติยินดีอย่างยิ่ง ในฐานะนักวิทยาศาสตร์ที่ศึกษาพฤติกรรมของมนุษย์ (โหมีงี้ด้วย...ดูเฉยๆไม่ได้บอกว่าจะช่วย..น่ะ...แฮ่ๆๆๆ)

    แต่ไม่เปงไร น้าบอกว่าดาวนิบิรุได้ถูกจับกุม..เอ๊ย...ม่ายช่าย...ถูกควบคุมไว้เรียบร้อยแล้ว (โดยชาวคลูเลี่ยน) แต่บรรดาอุกาบาตที่ติดตามมาทั้งหลาย ก็ยังพุ่งตรงมายังโลกเช่นเดิม พวก Pleiadean จะทำหน้าที่ผู้รักษาประตูไม่ให้เหล่าอุกาบาต ดาวเคราะห์น้อยเหล่านี้เข้ามาทำอันตรายโลกได้ (หวังไว้เช่นนั้นเพราะถ้าหลุดมาได้สัก 1-2 เม็ด โลกคงป่่วนพิลึก...55555)

    ขณะนี้มียานอวกาศจากสมาชิกสหพันธ์ดวงดาวกว่า 890 ลำ โคจรอยู่ไม่ห่างจากโลก คอยรับคำสั่งจาก CG ให้เข้ามาดูแลช่วยเหลือมนุษย์ในระยะนี้

    ถึงกระนั้นชาวโลกก็ต้องผ่านช่วงเวลาแห่งการชำระล้างและคัดสรรเพื่อไปสู่ยุคหน้า ดังนั้นจะต้องมีผู้ที่ติดอยู่ในตะแกรงกับพวกที่หลุดรอดออกไป (ไปไหนไม่รู้...) ก็ขอให้ทุกท่านผู้เจริญอยู่รอดปลอดภัย แล้วอย่าได้ลอดรูตะแกรงที่ว่านี้ไปเลย นะครับ....55555555555555

    พวกเราคงได้ดูได้ฟังคลิปวีดีโอของกัปตัน บิล นี้ไปเรื่อยๆจนกว่าระบบ Internet จะล่มสลาย....โชคดีทุกท่าน
    MAY FORCE BE WITH YOU

    8-12-2012, 09:08 AM

    ที่มา http://palungjit.org/threads/ดาวหาง-elenin-nibiru-planet-x-elenin-events.281795/page-78#post7100805
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 ธันวาคม 2012
  11. นางไพจิตต์

    นางไพจิตต์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    320
    ค่าพลัง:
    +956
    ............................................................................................
    โหท่านเกษม ...อิฉันมิกล้า....อิฉันไม่ทราบว่าข้อมูลท่านได้มาจากอาจารย์รัตน์ เพียงแต่อยากทราบจากท่านเกษมว่าได้ข้อมูลมาจากไหน..ท่านเกษมเป็นพระเหรอค่ะ..อิฉันก็เพียงแต่คุยเล่นในฐานะที่เป็นกัลยาณมิตรสมาชิร่วมเว็ป ภาพพวกนี้ดิฉันเห็น แล้วก็ขออนุโมทนา ท่านพ่อแม่ครูครูบาอาจารย์สอนเสมอค่ะจะมีท่านเกษมเป็นอาจารย์อีกคนก็ขอน้อมรับโดยดุษฏีค่ะ ส่วนท่านอาจารย์รัตน์อิฉันเคยเข้าอบรมกับท่านที่กรุงเทพเหมือนกันก่อนหน้านี้ ครั้งนี้ไม่ทราบจริงๆว่าเป็นข้อมูลจากท่านอาจารย์รัตน์ เพราะคราวหลังๆก็ไม่มีโอกาสได้ไป แต่ก็....อิฉันก็คอยติดตามฟังท่านเสมอ.และศรัทธาอาจารย์รัตน์มากเช่นกันทั้งยังเป็นสมาชิกเว็ปอิงธรรมของท่านด้วย ดิฉันได้ใช้เหรียญปิรามิดของท่านช่วยเวลานังสมาธิด้วยทำให้จิตรวมตัวได้ง่าย ขึ้นมาก..ขอบคุณ...น่ะค่ะ ..ที่ตอบให้ทราบ:eek:
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 8 ธันวาคม 2012
  12. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    การที่ผมนำภาพนรกตัดลิ้นมาโพสต์นี้ อาจจะดูรุนแรงและน่ากลัว แต่ผมก็จำเป็นต้องนำมาให้เพื่อนๆ ที่ได้อ่านกระทู้นี้ทุกๆท่านได้ทราบกันเอาไว้ เพราะโทษของวจีกรรมที่ไปปรามาสผู้ทรงศีลทรงธรรมนั้น รุนแรงและน่ากลัวมากจริงๆ และมากกว่าภาพที่ผมได้นำมาโพสต์เอาไว้นี้ หลายร้อยหลายพันเท่านัก แต่ถึงผมจะพยายามตักเตือนและห้ามปรามด้วยความหวังดีอย่างไร ก็ยังมีสมาชิกบางท่านไม่เชื่อและได้กล่าววจีกรรมปรามาสผู้ทรงศีลทรงธรรมเข้ามาอีก ด้วยมานะทิฏฐิของตนเอง

    อีกทั้งยังมีสมาชิกหลายๆท่าน ไปกดปุ่มอนุโมทนาให้กับผู้ที่กล่าวคำปรามาสพระอริยสงฆ์ ผู้ที่ให้ข่าวสารเรื่องภัยพิบัตินี้ จึงเท่ากับเป็นการอนุโมทนาบาป คือไปยินดีกับการทำบาปของสมาชิก ที่ได้กล่าวคำปรามาสพระอริยสงฆ์ท่านนี้อีกด้วย ลำพังถ้าเป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผม ใครจะมากล่าวคำด่าว่าติเตียนอย่างไร ผมก็จะนิ่งเฉยเสีย ไม่ได้กล่าวตอบโต้อะไรมากนัก แต่นี่เป็นคำเตือนมาจากพระอาจารย์รัตน์ ซึ่งผมให้ความเคารพนับถือท่านเป็นอย่างมาก เพราะท่านเป็นพระอริยสงฆ์ผู้ทรงศีลทรงธรรมอันบริสุทธิ์ ผมจึงไม่อาจจะทนนิ่งเฉยอยู่ได้ จึงต้องรีบออกมาห้ามปราม มิให้ผู้ใดกล่าววาจาล่วงเกินท่านอีก อันจะเป็นบาปกรรมร้ายแรง ที่จะต้องไปชดใช้กรรมนี้ในนรกอย่างยาวนานอีกด้วยครับ

    ปล. ผู้ทรงศีลทรงธรรมนั้น ผมหมายถึงพระอาจารย์รัตน์ และผู้รู้อีกหลายๆท่าน ที่ได้มาให้ข่าวเรื่องของภัยพิบัติครับ แต่ไม่ได้หมายถึงตัวผมนะครับอย่าเข้าใจผิด ผมทำหน้าที่เป็นเพียงผู้ส่งข่าวสาร มาจากผู้ทรงศีลทรงธรรมเท่านั้น เมื่อตัวท่านบอกว่าอยากรู้ที่มาของข่าวสาร จะได้แชร์ความหลอนกันให้ถ้วนทั่ว แล้วอย่างนี้จะไม่ให้ผมเข้าใจว่า ท่านไปปรามาสผู้ที่ให้ข่าวสารได้อย่างไรครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 ธันวาคม 2012
  13. ก เกียรติ

    ก เกียรติ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 พฤศจิกายน 2012
    โพสต์:
    128
    ค่าพลัง:
    +1,001

    ถ้าเป็นเรื่องเกี่ยวกับพระอาจารย์รัตน์ผมจะเก็บลิงค์ จะก็อปปี้ข่าวเก็บไว้หมดเลย วันไหนถ้าเกิดเหตุเน็ตฯขัดข้อง ผมจะค้นหาเกี่ยวเรื่องนี้มาดู และส่วนบางเรื่องที่สำคัญผมจะถ่ายเป็นเอกสารไว้อ่านตอนไม่มีไฟฟ้าใ้ช้ หรือบางทีเกิดไฟดับนานๆ

    มาถึงยุคนี้เป็นยุคที่หายากที่สุดคือพระที่เป็นพระจริงๆ ปฏิบัติตามพระวินัยชนิดที่ทำตามในพระไตรปิฎกได้หมดทุกข้อได้นั้น หายากมาก นี่ถ้าจะหาพระที่ไม่ทุศีลมาซัก 2555 รูปเพื่อจะสวดให้รอดจากภัยพิบัติยังจะหาได้พอหรือครับนี่

    พระภิกษุสามเณรที่รับเงิน-ทอง มิใช่นักบวชที่ถุกต้องในพุทธศาสนา (เรื่องนายบ้านมณีจูฬกะ)
    ดูในพระไตรปฎก เล่มที่๙ หน้า๕๓๖ ชุดสีน้ำเงิน เล่มที่๙ หน้า๕๒๔ ชุดสีแดง


    ดูก่อนนายบ้าน เิงินและทองมิควรแก่สมณะเชื้อสายพระศากยบุตรโดยแ้ท้ สมณะเชื้อสายพระศากยบุตรไม่ยินดีรับเงินและทอง สมณะเชื้อสายพระศากยบุตรไม่รับเงินและทอง สมณะเชื้อสายพระศากยบุตรมีแก้วมีทองอันวางเสียแล้ว ปราศจากเงินและทอง เงินและทองควรแก่ผู้ใดแม้กามคุณ (สิ่งที่น่าปรารถนา) ทั้งห้าก็ควรแก่ผู้นั้น กามคุณทั้งห้าควรแก่ผู้ใด เธอพึงจำผู้นั้นไว้โดยส่วนเดียว มีปกติไม่ใช่สมณะ มีปกติไม่ใช่สมณะเชื้อสายพระศากยบุตร


    เราจะกล่าวอย่างนี้ว่า ผู้ต้องการหญ้า พึงแสวงหาหญ้า ผู้ต้องการไม้ พึงแสวงหาไม้ ผู้ต้องการเกวียน พึงแสวงหาเกวียน ผู้ต้องการบุรุษ พึงแสวงหามหาบุรุษ แต่เราไม่กล่าวโดยปริยายไรๆว่า สมณะพึงยินดี พึงแสวงหาเงินและทอง

    นี่แหละครับที่ผมคัดมาบางส่วน อ่านแล้วเข้าใจได้ว่า ผู้ต้องการบุญ พึงแสวงหาบุญ แต่พระสงค์เดี๋ยวนี้จะมีสักกี่รูปที่ไม่มีเงินเก็บ ไม่มีในธนาคาร บางรูปมีมากกว่าชาวบ้านอย่างเราๆ ผู้ต้องการเงิน พึงแสวงหาเงิน


    ในเมื่อผู้ที่รักษาศีลกลับทุศีลกันเสียเป็นส่วนใหญ่ แล้วเราๆท่านๆก็คงจะเห็นแล้วว่า ถ้านำพระที่ทุศีลมาสวดให้พ้นภัยใันครั้งนี้จะเป็นอย่างไร ก็คงจะไม่ขลังแน่ คงจะต้องล้างกันให้สะอาดจริงๆแหละครับมันจะได้น่าอยู่และอยู่ได้นาน คงจะมีหลายคนที่อึดอัดกับเรื่องนี้มันรู้สึกว่าขาดที่พึ่ง ขาดความมั่นใจ พอได้เข้าไปศึกษาในพระไตรปิฎก ถึงบางอ้อเลยครับ พระพุทธศาสนาไม่ได้เสื่อมหรอกครับ แต่ผู้เป็นสมณะเชื้อสายพระศากยบุตรนี่แหละ บิดเบือนคำสั่งสอนจนเกิดบาปอย่างมหันต์ จนโลกาจะวินาศ ผมอยู่ใกล้ชิดติดๆกับพวกมุสลิมด้วย เวลามีข่าวในทางไม่ดีก็คือพระนั้นมี 30 ล้าน พระนี้มี 300 ล้าน ถ้าพูดเรื่องศาสนากันแล้วผมแก้ตัวแทนไม่ไหวจริงๆ ขมขื่น ขื่นขมจริงๆครับ ขออณุญาตระบายหน่อย

    ถ้าหากจะมีการก้าวล่วงบ้าง กราบขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 ธันวาคม 2012
  14. noway

    noway เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 เมษายน 2012
    โพสต์:
    916
    ค่าพลัง:
    +3,969
    การกล่าวว่า

    สมัยนี้ มีแต่สมมุติสงฆ์ทั้งนั้น

    แม้เป็นแค่ความเห็นส่วนตัว

    แต่มันหมิ่นเหม่ต่อการปรามาสพระอริยสงฆ์น่ะครับ

    พระอริยสงฆ์ยังมีอยู่หรือไม่ เราคงไม่รู้ดีไปกว่าพระพุทธเจ้าดอกครับ

    เช่นที่พระองค์ตรัสว่า

    ตราบใดที่ยังมีผู้ปฏิบัติตามอริยมรรคมีองค์ ๘ ตราบนั้นโลกก็จะไม่ว่างจากพระอรหันต์
     
  15. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    การเตรียมตัว-เตรียมใจ รับภัยจากการปรับสมดุลย์ธาตุในครั้งนี้ !!!

    ฮั้วโต๋ สมาชิก

    ...การเตรียมตัว-เตรียมใจรับภัยจากการปรับสมดุลย์ธาตุในครั้งนี้...

    1. มีห้องมิดชิด.อย่าให้มีแสงสว่างลอดเข้าในห้องได้.เสบียงอาหารเก็บในห้องนี้ด้วย...
    2. ข้าวของเครื่องใช้ น้ำดื่ม-น้ำใช้.เก็บในห้องเดียวกัน.
    3. รถ-ยานพาหนะ เก็บในห้องมิดชิดไม่ถูกแสงสว่างเช่นเดียวกัน...
    4. ไม่ออกไปภายนอก.เมื่อมีพลังงานลงมายังโลกมนุษย์ในปริมาณที่มาก.
    5. สวดมนต์ภาวนา.ปิดวาจาได้ยิ่งดี..

    เดี๋ยวอาจารย์แจ้งเตือนมาเป็นระยะ ๆ..

    ...จากคำเตือนเมื่อ 21-10-2555..มาจนถึงวันนี้..พลังทำลายถูกส่งลงมายังมนุษย์โลกเป็นระยะ ๆๆๆ.ต่อเนื่องกันมา.นับวันจะเพิ่มระดับและมีประมาณมากขึ้น ๆ..มีความรุนแรงมากขึ้น.ทำให้เกิดมีอาการทางกายดังนี้.

    1. เวียนศีรษะ..หรือปวดขมับหรือปวดศีรษะข้างเดียว หรือปวดหน่วงที่ท้ายทอย.หรือปวดข้างใน เช่น กล้ามเนื้อหรือเหมือนปวดในกระดูก.
    2. คลื่นไส้ อาจมีอาการอาเจียน.
    3. เบื่ออาหาร.ทานอาหารไม่ค่อยได้.นอนไม่ค่อยหลับ.
    4. เป็นหวัดทั้งเรื้อรัง และไม่เรื้อรัง.
    5. ระบบทางเดินหายใจ.ภูมิแพ้.ไซนัสกำเริบ.
    6. ผดผื่นคันตามผิวหนัง...
    7. ตาพร่ามัว.น้ำตาไหลในบางครั้ง.แสบนัยน์ตา เคืองตา.คันรอบ ๆ ดวงตา.
    8. คล้าย ๆ ท้องเสีย.แต่เป็นไม่นาน.
    9. ใจสั่น.หงุดหงิดแบบหาสาเหตุไม่ได้ แถมนอนไม่หลับ..
    10. อ่อนเพลียเหมือนนอนไม่เต็ทอิ่ม...
    11. ยังมีอีกหลายอาการ...

    ..เพราะเกิดจากผลของพลังทำลาย.ทำให้เกิดโรคระบาดตามมาอีกมาก....
    ..และในวันนี้ยังมีอีกหลายพื้นที่ หลายจังหวัดที่มีฝนตกหนัก..และในอีกหลายพื้นที่ ที่แห้งแล้งขาดน้ำ...

    ..ให้เตรียมตัวระวังให้มากที่สุดในช่วงที่"ปรับสมดุลย์ธาตุ"ในปี 2556 นี้.เริ่มตั้งแต่ วันที่ 1 มกราคม 2556 เป็นต้นไปเป็นเวลา 45-90 วัน.เผลอ ๆ อาจลุกไม่ได้-ไปไม่เป็น-คลานเหมือนเด็กกัน..

    เจริญในธรรม มีพระพุทธเจ้าในจิตให้มาก ๆ

    ที่มา http://palungjit.org/threads/สัญญาณฟ้าเตือนภัยพิบัติ.294356/page-474
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 ธันวาคม 2012
  16. Allymcbe222

    Allymcbe222 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    547
    ค่าพลัง:
    +1,445
    โถ น่าสงสารครับ เป็นอันสลดใจหาประมาณมิได้จริงๆ
     
  17. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    องค์ความรู้จากพระอาจารย์รัตน์ !!!

    Falkman พลังจิตนานาชาติ
    Credit: Pranee Vidhyameth
    องค์ความรู้ พอจ รัตน์

    วันนี้ พอจ ให้ความรู้แบบเปิดหน้าตักโดยไม่หวั่นต่อคำครหา ด้วยความเมตตาต้องการให้มีผู้รอดชีวิตมากที่สุด กราบอนุโมทนาและขอบพระคุณ พอจ เป็นอย่างสูงมา ณ ที่นี้ พยายามให้บทสรุปต่อไปนี้ครอบคลุมเนื้้้อหาสำคัญๆให้มากที่สุดค่ะ และเอกสารที่แนบเป็นเพียงใบแทรกยังมีอีก 11 หน้า จะถ่ายรูปและทะยอยลงต่อไปค่ะ

    - วันที่ 17/12 เริ่มมีแรงดันจากภายนอกโลกและเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ให้เราสังเกตุภัยธรรมชาติที่จะมีมากขึ้นและรุนแรงขึ้น
    - วันที่ 21/12 กาแล็กซี่ทั้ง 3 เรียงตัวกัน โลกจะหยุดหมุนชั่วคราว ลาวาม้วนตัว และเกิดแผ่นดินไหว
    - พอจ ได้ทดลองระหว่างลูกศิษย์ในการเข้าสมาธิ จำลองเหตุการณ์ตั้งแต่วันที่ทำการทดลอง (ประมาณสัปดาห์ที่แล้ว) พบว่าตั้งแต่วันที่ 17/12 มีแรงดันเข้าและมากขึ้นเรื่อยๆ จนคนตัวงอเป็นรูปตัวยูและค่อยๆพลิกหงายขึ้น จนถึงวันที่ 3/1/13 แรงกดดันจะผลักให้ต้องล้มตัวนอนและไม่สามารถลุกขึ้นได้ แม้แต่จะยกแขนหรือผงกหัว เหตุการณ์จะยาวไปถึงวันที่ 14/2/13 ซึ่งในระหว่างนั้น อากาศจะหนาวเย็นมากและบางคนที่อยู่ในการจำลองเหตุการณ์รู้สึกว่าอากาศหนาวเย็นถึงเดือนมีนาคม และ 14/2/13 โลกเราจะไปอยู่ที่กาแล็กซีไตรแองกูลัม

    - ในระหว่างนั้น :
    = ดาวเทียมจะตกลงมาหมด การสื่อสารจะไม่สามารถทำได้
    = ให้เตรียมอาหาร น้ำ โดยต้องให้ทุกอย่างอยู่ในระดับและที่ๆเราสามารถหยิบฉวยได้ แต่จะมีปัญหาเรื่องการขับถ่าย อาจทานเป็นข้างกล้องปิรามิดแคปซูลที่ให้พลังงานและสามารถอยู่ได้
    = หากต้องการหลบจากสถานการณ์บนโลก ก็สามารถใช้ปิรามิดแปดเหลี่ยมช่วยยกจิตไปข้างบนและอธิษฐานให้ลงมาเมื่อเหตุการณ์สงบลง (รายละเอียดขอผู้ที่สามารถอธิบายได้ช่วยหน่อยค่ะ)

    - ให้หาที่หลบภัยซึ่งเป็นที่สูง ท่านไม่สามารถบอกได้แต่ให้เราใช้ปิรามิดแปดเหลี่ยมในการช่วยบอกตัวเราเองว่าที่ใด

    - ที่ดอยปอมิโจ๊ะ แม่ฮ่องสอน จะเป็นที่ที่มีแรงหมุน จะช่วยให้ไม่ต้องล้มตัวนอน และเป็นที่ที่มนุษย์ต่างดาวจะส่งยานสองลำมารับคนสำคัญๆ (ท่านให้ขอผ่านปิรามิดว่าให้ช่วยรับเราไปด้วย) ทั้งนี้ เหตุการณ์ภัยพิบัติเกิดขึ้นทั้งจักรวาลที่เราอยู่ และเกิดขึ้นตามรอบ ดังนั้นในหมู่ดวงดาวต่างๆ เป็นที่รู้และมนุษย์ต่างดาวจากหลายดวงดาวต้องการช่วยโลกให้พ้นภัยพิบัติ มีทั้งหมด 8 กลุ่มที่จะมาช่วย แต่ก็มีมิจฉาต่างดาว 5 กลุ่มที่ต้องการทำร้ายเรา

    - ทางช่วยเราได้บ้างคือให้แขวนปิรามิดแปดเหลี่ยม ตอนนี้ท่านพยายามทำตัวช่วย(ซึ่งเป็นปิรามิดเจ็ดเหลียมจำนวน 6 ชิ้นทำเป็นแกนตั้งและ 3 ชิ้นทำเป็นวงกลมพันรอบเอว - ปราณี) ตัวช่วยนี้ท่านจะพยายามให้ครอบครัวละ 1 ชุดเพื่อให้ดูแลคนอื่นๆ

    - ควรออกเดินทางไปยังสถานที่ที่คิดว่าปลอดภัยภายในวันที่ 2/1/13

    ข้อมูลเพิ่มเติมจากลูกศิษย์

    - ความเปลี่ยนแปลงทางกายภาพของโลกจะเป็นน้ำ 3 ส่วนดิน 1 ส่วนเสมอและสลับกัน ประเทศไทยอยู่บนแผ่นเปลือกโลกเดียวกับญี่ปุ่น เมื่อ 13,000 ปีที่แล้วอาณาจักรลีมูเลียซึ่งอยู่ใต้ญี่ปุ่น ได้จมลงและขณะนี้ถึงวงรอบที่จะขึ้นมา หากเกิดอะไรขึ้นกับแผ่นเปลือกโลกนี้โดยเฉพาะอินโดนีเซีย ประเทศไทยก็จะได้รับผลกระทบด้วย ทั้งจากทางอันดามันและอ่าวไทย ทางเหนืออันตรายจากเขื่อนหลายแห่งจากประเทศจีน ที่อาจแตกจากแผ่นดินไหว น้ำจะไปตามเส้นทางของมันแต่ถ้ามหาศาลก็จะทะลักเข้ามากลายเป็นทะเล แม่น้ำโขงจึงเป็นจุดที่ต้องระวัง

    - วันฟ้าดับไม่มีเพราะยังคงมีแสงจากกาแล็กซี่อื่น
    - ผลึกน้ำแข็งก้อนใหญ่ๆจะตกจากฟ้า หลัง 14/2/13 ซึ่งจะละลายกลายเป็นมวลน้ำมหาศาล
    - ให้ช่วยคนในครอบครัวอย่างเต็มกำลัง เตรียมอะไรได้ก็ให้เตรียม ส่วนใครจะเชื่อหรือไม่ ไม่ต้องสนใจ
    - หากสนใจอาหารปิรามิด ติดต่อที่คุณโก้ 085-6228153 ซึ่งเป็นผู้ผลิต

    หากจะแชร์ข้อมูลนี้ ขอความกรุณากระทำอย่างระมัดระวัง เพื่อมิให้กระทบกระเทือนต่อ พอจ รัตน์ นะคะ ขอบคุณค่ะ — กับ Pang Apimonraksa
    __________________

    ที่มา http://palungjit.org/threads/สรุป-ง...17-ธันวาเป็นต้นไปเตรียมตัวให้ดี.384056/page-3
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 ธันวาคม 2012
  18. ก เกียรติ

    ก เกียรติ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 พฤศจิกายน 2012
    โพสต์:
    128
    ค่าพลัง:
    +1,001

    "ตราบใดที่ยังมีผู้ปฏิบัติตามอริยมรรคมีองค์ ๘ ตราบนั้นโลกก็จะไม่ว่างจากพระอรหันต์"

    ถ้าจะโดยรวมทั่วทั้งโลกก็คงจะมีมากล่ะครับ แต่ที่ในประเทศไทยเรา มีกี่รูปที่เชื่อฟังใคำสั่งสอนทำตามเจตนาของพระองค์ ผู้ปฏิบัติตามอริยมรรคมีองค์ ๘ ผมไม่ทราบหมดว่ามีกี่ข้อที่ต้องปฏิบัติได้มิบกพร่อง

    แต่ที่พระองค์ตรัสว่า"สมณะเชื้อสายพระศากยบุตรไม่ยินดีรับเงินและทอง สมณะเชื้อสายพระศากยบุตรไม่รับเงินและทอง" ถ้าพระสงฆ์รูปใดทำผิดเจตนาของพระพุทธเจ้าที่ทรงตรัสไว้ พระอรหันต์จะมีน้อย น้อยลง
    ทุกทีเพราะไม่ทำตามพระวินัย พากันบิดเบือนคำสั่งคำสอนในพระไตรปิฎก

    ทีนี้เราๆท่านๆก็ไปเสาะหาพระอรหันต์กันเถิดครับ มีพระวัดใดที่ไม่รับเงินและทอง ปฏิบัติและทำตามพระวินัยตามพระไตรปิฎกอย่างเคร่งครัด ถ้าผู้ใดพบก่อนก็นำมาลงให้ทราบด้วย ผมมีจิตประสงค์ที่อยากจะได้กราบไหว้พระอรหันต์แท้จริงสักครั้ง หมายถึงจากนี้ไปนะครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 ธันวาคม 2012
  19. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    อย่าลืมเทวดาที่เป็นพระโสดาบันและพระสกิทาคามี !!!

    อย่าลืมว่าในเวลานี้ มีเทวดาที่เป็นพระโสดาบันและพระสกิทาคามี อยู่อีกเป็นจำนวนมากที่ท่านลงมาเกิดในโลกมนุษย์ เพื่อบำเพ็ญบารมีต่อนะครับ เพราะฉะนั้นคำว่าพระอริยสงฆ์และพระอริยเจ้าในปัจจุบันนี้ จึงมีทั้งที่เป็นพระสงฆ์และเป็นฆราวาสอยู่ด้วย และเมื่อดูคำพยากรณ์ของพระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบันนี้ที่ได้ตรัสบอกกับหลวงพ่อฤาษีลิงดำ ว่าจะมีพระอรหันต์เกิดขึ้นในยุคชาววิไลถึง 700,000 กว่าองค์ จึงไม่ใช่เรื่องเกินความเป็นจริงแต่ประการใดเลยครับ

    อานุภาพพระปริตร โดย.จิตฺตคุโณ

    สำหรับคอลัมน์พลานุภาพได้นำพระสูตรที่พระพุทธเจ้าทรงตรัสเอาไว้เกี่ยวกับมงคลต่างๆ เหตุแห่งความสุขทั้งหลายในคัมภีร์อรรถกถา เล่าถึงมูลเหตุที่เกิดปัญหาเรื่องมงคลว่า ประชาชนในชมพูทวีป คือ ในอินเดียสมัยโบราณ นิยมฟังนิทาน พากันไปประชุมตามประตูเมือง ตามสัณฐาคาร และในสภา แล้วจ่ายเงินทองเป็นค่าจ้างให้เล่านิทานเรื่องต่าง ๆ ซึ่งเป็นเรื่องราวนอกพระพุทธศาสนา เช่น เรื่องทศกัณฐ์ลักนางสีดา คือ เรื่องรามายณะ หรือ รามเกียรติ เป็นต้น กล่าวไว้ว่านิทานแต่ละเรื่องกว่าจะเล่าจบก็กินเวลาตั้ง ๔ เดือน

    ครั้นวันหนึ่งในที่ประชุมเล่านิทานนั้นเกิดมีปัญหาเรื่องมงคลขึ้นมาว่า อะไรเป็นมงคล ? สิ่งที่เห็นเป็นมงคล ? หรือเสียงที่ได้ยินเป็นมงคล ? หรือกลิ่น รส สัมผัสที่แตะต้องเป็นมงคล ? แล้วเกิดมีหัวหน้าแสดงความคิดเห็น จำแนกได้เป็น ๓ พวก ต่างโต้เถียงกัน มิสามารถตกลงกันได้ พวกอารักขเทวดาของมนุษย์พวกไหน ก็ถือหางพวกนั้น พวกเทวดาพื้นดินที่เป็นพวกของอารักขเทวดาฝ่ายใด ก็ถือหางพวกนั้น พวกเทวดาพื้นดินที่เป็นพวกของเทวดาอยู่พื้นดินฝ่ายใด ก็มีความเห็นเข้ากับฝ่ายนั้น พวกเทวดาชั้นจาตุมหาราชที่เป็นพวกของเทวดาในอากาศฝ่ายใด ก็เข้ากับฝ่ายนั้น แบ่งพวกแบ่งความเห็นกันเช่นนี้ตลอดขึ้นไปจนถึงพรหมโลกชั้นอกนิฏฐ์

    ต่างแยกพรรคแตกพวกกัน คิดหามงคลกันเป็นโกลาหลไปทั่ว ไม่สามารถวินิจฉัยตกลงกันได้ เป็นเวลาถึง ๑๒ ปี เมื่อไม่มีทางจะตกลงกันได้ พวกเทวดาจึงพากันไปเฝ้าท้าวสักกะผู้เป็นจอมเทพ ซึ่งขณะนั้นประทับนั่งอยู่บนบัณฑุกัมพลศิลาอาศน์ ณ โคนต้นปาริฉัตตก์ ท่ามกลางนางอัปสรสองโกฏิกึ่ง ห้อมล้มอยู่บนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ พวกเทวดาต่างยืนอยู่ ณ ที่ควร ส่วนข้างหนึ่ง แล้วกราบทูลว่า “ขอเดชะ ข้าแต่พระองค์ผู้ไร้ทุกข์ โปรดทรงทราบบัดนี้ปัญหาว่าอะไรเป็นมงคลได้เกิดขึ้นแล้ว พวกหนึ่งว่ารูปที่เห็นเป็นมงคล พวกหนึ่งว่าเสียงที่ได้ยินเป็นมงคล อีกพวกหนึ่งว่ากลิ่น รส สัมผัส ที่แตะต้อง เป็นมงคล ต่างไม่ตกลงกันได้ในปัญหานั้น ขอพระองค์ได้โปรดทรงพยากรณ์ปัญหา นั้นตามความเป็นจริงด้วยเถิด พระเจ้าข้า”

    ท้าวสักกะผู้จอมเทพจึงตรัสซักไซ้ว่า ปัญหาเรื่องมงคลนี้เกิดขึ้นที่ไหนก่อน ? เมื่อทรงทราบว่าเกิดขึ้นในมนุษยโลก จึงตรัสถามว่า เวลานี้พระสัมมาสัมพุทธเจ้าประทับอยู่ที่ไหน ? ครั้นทรงทราบว่าพระสัมมาสัมพุทธเจ้าประทับอยู่ ณ มนุษย์โลก จึงตรัสถามว่า มีใครไปทูลถามปัญหาเรื่องนี้กะพระผู้มีพระภาคเจ้าแล้วหรือยัง ครั้นทรงทราบว่า ยังไม่มีผู้ใดไปทูลถาม ท้าวสักกะผู้จอมเทพจึงตรัสมอบหมายให้เทวบุตรองค์หนึ่ง ทำหน้าที่เป็นผู้กราบทูลถามแทนทวยเทพทั้งปวง แล้ว เทวดา มาร พรหม ทั้งสิ้นในหมื่นจักรวาลก็พากันมาประชุมในจักรวาลนี้ เพื่อฟังมงคลปัญหาที่พระพุทธเจ้าทรงวิสัชนา เทวบุตรผู้ได้รับมอบหน้าที่ ครั้นแต่งองค์ทรงเครื่องเสร็จเรียบร้อยแล้ว พร้อมคณะเทวดาผู้ติดตาม ก็พากันมาเฝ้าพระพุทธเจ้า เพื่อตรัสถามสิ่งที่เป็นมงคลต่อไป

    ท่านพระอรรถกถาจารย์เล่าเสริมความไว้ว่า เมื่อพระพุทธเจ้าตรัสมงคลสูตรจบครั้งนั้น เทวดาทั้งหลายในแสนโกฏิจักรวาลได้บรรลุพระอรหันต์เป็นจำนวนมาก ส่วนที่บรรลุโสดาบัน สกิทาคามีและอนาคามีนั้น นับไม่ถ้วน รุ่งขึ้นในวันต่อมา พระพุทธเจ้าจึงมีพระดำรัสตรัสเรียกพระอานนทเถระเข้ามาเฝ้าแล้วตรัสเล่าเรื่องที่ตรัสมงคล ๓๘ ประการแก่ทวยเทพทั้งหลายนั้น ให้พระอานนท์เถระเรียนรู้ แล้วให้นำไปบอกเล่าแก่พระภิกษุทั้งหลายต่อไป

    ที่มา http://bhaddanta.blogspot.com/2005/12/blog-post_11.html
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 ธันวาคม 2012
  20. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    เอกสารแจกในงานสัมมนาพระอาจารย์รัตน์เตือนภัย 2012-2013

    forest60 สมาชิก

    สำหรับเอกสารในงานสัมมนาพระอาจารย์รัตน์เตือนภัย 2012-2013 ในวันที่ 9 ธันวาคม พ.ศ.2555 ท่านสมาชิกสามารถไปอ่านหรือดาวโหลดได้ที่ เว็บไซต์อิงธรรม

    https://sites.google.com/site/ingdhamma/warning

    หรือดาวโหลดจากไฟล์ข้างล่างนี้ ครับ

    เอกสารเตือนภัย.rar - 4shared.com - การจัดเก็บแฟ้มและใช้งานร่วมกันออนไลน์ - ดาวน์โหลด
     

แชร์หน้านี้

Loading...