ประเทศไทยจะเกิดอุบัติภัยอย่างที่ทำนายกันจริงๆหรือไม่

ชั่วก็ว่าไปตามชั่ว ดีก็ว่าไปตามดี ขาวก็ว่าไปตามขาว ดำก็ว่าไปตามดำ แล้วก็เห็นๆ กันอยู่เป็นรูปธรรมเสียด้วย ไม่ใช่ละเลงสีตีไข่ รึใส่ความ

ของอย่างนี้ มันต้องพูดกันให้ตรงเป้าเข้าประเด็น ขืนอ้อมไปอ้อมมา ถนอมน้ำใจไว้ ก็เท่ากับกวาดเอาฝุ่น ไปซุกไว้ใต้พรม มันต้องเปิดออกมาให้รู้แจ้งเห็นจริง

 

ถูกต้องนะครับ ดีก็คือดี ชั่วก็คือชั่ว ค่อยยังชั่วไม่มี คนไทยทุกวันนี้คิดแค่ว่าไม่อยากยุ่ง ไม่กล้าแสดงออกถึงความถูกต้อง คนดีๆมีเยอะ แต่ว่ากลัวมีภัยมาถึงตัว จึงปล่อยให้สิ่งชั่วร้ายมันออกมาเย้วๆเต็มบ้านเต็มเมือง มันเผาบ้านเผาเมือง มันคิดว่ามันทำดี มีสิทธฺิ์อะไรไปเผาสถานที่ราชการที่สร้างมาจากภาษีของคนไทยทุกคน รวมถึงไอ้คนเผาด้วย รวมถึงคนบอกไห้เผา ซึ่งขณะนี้ไพร่ได้เป็นรมต. นี้หรือประเทศไทยเมืองพุทธ

 

บางคนมือถือสากปากถือศีล ดีชั่วยังแยกแยะไม่ออก
แต่คิดจะสอนคนอื่น

 

ยุคนี้คนดีๆที่เสียสละเพื่อบ้านเพื่อเมืองมีไหม หวังผู้ที่มีอำนาจหน้าที่ก็พึ่งไม่ได้ เห็นทีคนไทยที่คิดดี คิดถูกต้องออกมาทำหน้าที่ๆมีในรัฐธรรมนูญเองเสียแล้ว ในเมื่อคนที่มีอำนาจหน้าที่ไม่ทำแล้ว ก็ต้องเป็นหน้าที่ของปชช.

 

สิงหาคม 55 จะเกิดสงครามกลางเมือง?​

​

<TABLE style="FONT-FAMILY: tahoma" cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD><TABLE style="FONT-FAMILY: tahoma" cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" bgColor=#ffffcc border=0><TBODY><TR vAlign=top><TD class=view style="PADDING-RIGHT: 20px; PADDING-LEFT: 20px; PADDING-BOTTOM: 10px; COLOR: rgb(0,0,0); PADDING-TOP: 10px; FONT-FAMILY: tahoma" width="100%">จะมีการต่อตีกันกลางเมือง ขุนนางเขื่องกังฉินกินทั่วหล้า
คอรัปชั่นจะกัดกร่อนทั้งพารา ประดุจปลวกกินฝานั้นปะไร
ข้าราชการตงฉินถูกประนาม สามคนหามสี่คนแห่มาลากไส้
เกิดวิกฤติผิดเพี้ยนโดยทั่วไป โกลาหลหม่นไหม้ไร้ความดี

ประชาชีจะสับสนเรื่องดีชั่ว ถ้วนทุกทั่วจะหมุดขุดรูหนี
ไม่แน่ใจสิ่งที่ทำนำความดี เกรงเป็นผีตายตกไปตามกัน
พุทธศาสน์จะถูกรุกและล้ำ มิตรเคยค้ำเป็นศัตรูมุ่งอาสัญ
เกิดวิกฤติธรรมชาติอุบาทว์ครัน พายุลั่นน้ำถล่มดินทลาย

แผ่นดินแยกแตกเป็นสองปกครองยาก เกิดวิบากทุกข์เข็ญระส่ำระสาย
เกิดการปราบจลาจลชนล้มตาย เลือดเป็นสายน้ำตานองสองแผ่นดิน
ข้าเป็นนายนายเป็นข้าน่าสมเพช ผู้มีบุญมีเดชจะสูญสิ้น
ทั้งพฤฒาอาจารย์ลือระบิล จะร่วงรินดุจใบไม้ต้องสายลม

</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE class=tborder id=post6409564 style="BORDER-RIGHT: rgb(239,239,239) 1px solid; BORDER-TOP: rgb(239,239,239) 1px solid; WORD-SPACING: 0px; FONT: 16px arial, verdana, geneva, lucida, 'lucida grande', arial, helvetica, sans-serif; TEXT-TRANSFORM: none; BORDER-LEFT: rgb(239,239,239) 1px solid; COLOR: rgb(0,0,0); TEXT-INDENT: 0px; BORDER-BOTTOM: rgb(239,239,239) 1px solid; WHITE-SPACE: normal; LETTER-SPACING: normal; BACKGROUND-COLOR: rgb(255,255,255); webkit-text-size-adjust: auto; webkit-text-stroke-width: 0px; orphans: 2; widows: 2" cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR vAlign=top><TD class=alt2 style="BORDER-TOP-WIDTH: 0px; BORDER-RIGHT: rgb(255,255,255) 1px solid; BORDER-BOTTOM-WIDTH: 0px; FONT: 12pt verdana, geneva, lucida, 'lucida grande', arial, helvetica, sans-serif; BORDER-LEFT: rgb(255,255,255) 1px solid; COLOR: rgb(0,0,0); BACKGROUND-COLOR: rgb(247,243,247)" width=175>interpoo
สมาชิก

</TD><TD class=alt1 id=td_post_6409564 style="BORDER-RIGHT: rgb(255,255,255) 1px solid; FONT: 12pt verdana, geneva, lucida, 'lucida grande', arial, helvetica, sans-serif; COLOR: rgb(0,0,0); BACKGROUND-COLOR: rgb(239,235,239)">ก็หมายถึง ผ่านอันที่ศาล ตัดสินไงค่ะ ผ่านไปได้ตามบอก... แล้วจะเกิดการขัดแย้งอีก... มีความรุนแรงในเดือนสิงหา ตามที่บอกจ้า


</TD></TR></TBODY></TABLE>ที่มา http://palungjit.org/threads/ภัยพิับัติ-55-จะแรงแค่ไหน.320025/page-63</TD></TR></TBODY></TABLE>

 

ตอนนี้กาลียุค เจ้าแม่กาลีโปรดปรานการดื่มเลือด คนจะแยะแยะถูกผิด ดีชั่วไม่ออก คิดไม่ได้ ไปไม่เป็น

อริราชศัตรูสยามประเทศ ก็พากันกลับชาติมาเกิด มาช่วยกันทำลายชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ กันให้ว่อน

 

อ้างอิง:
<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%"><TBODY><TR><TD style="BORDER-BOTTOM: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-RIGHT: 1px inset" class=alt2>ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ เกษม
เรียนคุณ K-อิสรา ที่เคารพ

ได้อ่านสาส์นจากองค์พระพิฆเนศ แล้วรู้สึกเป็นห่วงพระอินทร์และเหล่าทวยเทพในสวรรค์ชั้นดาวดึงส์เทวโลกมาก ไม่ทราบว่าทางหน่วยเหนือได้แจ้งข่าวความคืบหน้าในเรื่องนี้ให้คุณ K-อิสรา ทราบบ้างหรือไม่ครับ
</TD></TR></TBODY></TABLE>
24 ก.ค. 55 ถามมา ตอบไป

เรื่องแบบนี้เคยมีแนวร่วมมีความเป็นห่วงเป็นใยในเรื่องของภัยพิบัติได้เคยเมล์มาสอบถามว่า ไม่รีบหนีหรือ? มีอาจารย์ท่านนั้นท่านนี้พูดไว้ว่าจะเกิดเหตุการณ์รุนแรงวันที่นั้นวันที่นี้

ผมก็ตอบว่า สัญญาณผมไม่มี ผมจึงไม่ขยับไปไหน ไม่ใช่ว่าอาจารย์ท่านไม่แม่น ผมเพียงแต่ต้องตรวจสอบเปรียบเทียบความเป็นไปได้

เรื่องของท่าน เกษม ก็เช่นเดียวกัน คือสัญญาณผมไม่มี ส่วนจะเป็นไปตามนั้นหรือไม่? คงตอบแทนไม่ได้ ส่วนไหนดีเห็นเป็นประโยชน์ต่อส่วนรวมเช่นให้ทำความดีก็ขอสนับสนุน

ทุกเรื่องเป็นลครที่ทุกคนจะต้องเล่นและดูด้วยความมีสติ

องค์อินทร์ ๙๗
ทำการแทน

<!-- google_ad_section_end -->

 

พระหรือนี่ หรือแค่อลัชชี ถึงยุคสังคมเสื่อมสุด ๆ แล้ว

 

พูดก็พูดเถอะ ตั้งแต่เกิดมา เพิ่งเห็นสิบกว่าปีที่ผ่านมานี่แหละ ที่คนไทยแตกแยกกัน ยังกะสมัยกรุงศรีฯ ตอนนั้นพม่าเข้าตีโยเดียสำเร็จก็เพราะยังงี้แหละ

เพราะแต่ก่อนแต่ไร คนไทยเทิดทูน เคารพรักพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เรียกว่าเราต่างมีพ่อของแผ่นดินพระองค์เดียวกัน อยู่ใต้ธงไทยผืนเดียวกันอย่างแท้จริง



ไม่เคยทำอะไรน่าอนาถ อย่างเผาบ้านเผาเมืองตัวเอง รึลุกขึ้นมาเข่นฆ่าคนไทยด้วยกันเอง

 

วิญญาณปู่ย่าตายายจะร่ำไห้ก็เพราะลูกหลานไทย หูเบา เชื่อคำยุแยงตะคงรั่ว ปั่นหัวให้ห้ำหั่นกันเอง โดยพวกอริราชศัตรูประเทศชาติ ที่เคยรบพุ่งกับบรรพบุรุษสยาม แล้วกลับชาติมาเกิดใหม่ บนผืนแผ่นดินนี้



พวกที่มาเกิดใหม่นี่ ยังมีจิตพยาบาทเข้มข้น ตกค้างมาจากชาติก่อน จึงคิดหาหนทางทุกอย่าง ที่จะทำลายชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

 

วันนี้ศึกไกลยังไม่ห่วง


แต่หวั่นทรวงศึกใกล้ไล่ข่มเหง


ถ้าคนไทยหันมาฆ่ากันเอง


แล้วจะร้องเพลงชาติไทยให้ใครฟัง

 

วันนี้ศึกไม่ไกลยังต้องห่วง



แลหวั่นทรวงศึกภายในไล่ข่มเหง



ถ้าคนไทยหันมาฆ่ากันเอง



ใครจะร้องเพลงชาติไทยให้ไทฟัง

 

ตีงูหลังหักแล้วปล่อยเข้าป่า(คอ-นก-รีต)มันจึงป่วนประเทศไม่ยอมหยุด ต้นไม้ใบหญ้าถึงเวลาเหี่ยวแห้งตายไปมันยังมีประโยน์ กลายเป็นปุ๋ยให้ต้นไม้ต้นต่อๆไปได้เติบโต แต่มีบางคนที่ไม่รู้สำนึกบุญคุณแผ่นดิน แล้วยังบ่อนทำลายชาติทำลายเกีรยติภูมของชาติ ไปนั่งคอยซูฮกไอ้ศัตรูของชาติอยู่ได้

 

"แผ่นดินสยามนามประเทืองว่าเมืองทอง

ไทยเข้าครองตั้งประเทศเขตแดนสง่า

สืบเผ่าไทยดึกดำบรรพ์โบราณมา

รวมรักษาสามัคคีทวีไทย

บางสมัยศัตรูจู่โจมตี

ไทยพลีชีพร่วมรวมรุกไล่

เข้าลุยเลือดหมายมุ่งผดุงไผท

สยามสมัยโบราณรอดตลอดมา


อันดินสยามคือว่าเนื้อของไทย

น้ำรินไหลคือว่าเลือดของเชื้อข้า

เอกราชคือเจดีย์ที่เราบูชา

เราจะสามัคคีร่วมมีใจ

รักษาชาติประเทศเอกราชจงดี

ใครย่ำยีเราจะไม่ละให้

เอาเลือดล้างให้สิ้นแผ่นดินไทย

สถาปนาสยามให้เทิดไทย ไชโยฯ "



เพลงชาติไทยมีขึ้นนับแต่มีการเปลี่ยนแปลงใน พ.ศ.2475 ขณะนั้นประเทศไทยใช้ชื่อว่า ประเทศสยาม เพลงชาติไทยครั้งแรก จึงมีเนื้อร้องใช้ชื่อประเทศสยาม ผู้ประพันธ์เนื้อร้อง คือ ขุนวิจิตรมาตรา ( รองอำมาตย์โทสง่า กาญจนาคพันธุ์ ) และ พระเจนดุริยางค์ ( ปิติ วาทยากร )



http://webboard.yenta4.com/topic/168415

 

ตำนานพระปริตร : ธชัคคปริตร ​

​

บทขัดธชัคคปริตร​

เออแน่ะ สัตว์ทั้งหลายแม้อยู่ในอากาศ ย่อมได้ที่พึ่ง ทำให้หายหวาดกลัว ดุจเดียวกันกับสัตว์ในแผ่นดิน สัตว์ทั้งหลาย ผู้รอดพ้นจากข่าย คือ สรรพอุปัทวะ อันเกิด แต่ยักษ์และโจร มีจำนวนเหลือคณนานับ ด้วยการระลึกถึงพระปริตรใด ท่านทั้งหลาย จงสาธยายพระปริตรนั้นเทอญ​

ตำนาน​

สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคเสด็จประทับอยู่ ณ นครเวสาลี ได้ทรงแสดงที่มาของท้าวสักกะเทวราช ให้แก่เจ้าลิจฉวี นามว่ามหาลี ได้สดับความว่า​

มีมานพผู้หนึ่งชื่อ มะฆะ อยู่ในอะจะละคาม แคว้นมคธรัฐ ได้จัดทำสถานที่ชายป่าไกลบ้านให้เป็นที่ร่มรื่นรมณียสถาน แล้วพักนั่งเล่น นอนเล่นอยู่ ณ สถานที่นั้น ขณะนั้นมีชายผู้หนึ่งเดินทางผ่านมา เห็นชานป่าแห่งนั้นเ ป็นที่รมณียสถานก็ตรงเข้าไปแวะพักแลเห็น มะฆะมานพนั่งพักอยู่ก่อนแล้ว ชายผู้นั้น ก็ไม่พอใจกล่าวตู่ขึ้นว่า เอ่ะ เจ้านี้มายังไงนะ บังอาจมานั่งบนที่ของข้าได้ ไป..ไปเสียให้พ้น อากาศยิ่งร้อนๆอยู่ เดี๋ยวพ่อก็แพ่นกระบาลเสียด้วยไม้เท้านี้หรอก​

มะฆะมานพ พอได้ฟังดังนั้นแทนที่จะโกรธ กลับคิดว่า เออ...ดีนะ รมณียสถานแห่งนี้ เราเป็นผู้สร้างขึ้นคนทั้งหลายชอบตำหนิว่าไม่มีประโยชน์ มาบัดนี้มีผู้เห็นประโยชน์ในสิ่งที่เราสร้างขึ้นแล้ว ดีหละ..เราจักสร้างสถานที่เช่นนี้ต่อไป มะฆะมานพได้เดินออกจากชายป่านั้นโดยดี มิได้ถือโกรธเลย พร้อมทั้งยัง ได้ไปสร้างที่รื่นรมย์ยังที่อื่นๆต่อไป แล้วเหตุการณ์ก็เป็นเช่นเดิม สร้างเสร็จก็มีผู้มาอ้างสิทธิ์จับจองเป็นเจ้าของ แทนที่มะฆะมานพจะโกรธกลับคิดว่า การที่เราสร้าง สามารถทำให้ผู้อื่นมีความสุข เราย่อมได้รับบุญ บุญนั้นย่อมทำให้เรามีความสุขไปด้วย​

กาลต่อมา แม้ในขณะเดินทาง มะฆะมานพจะต้องนำเอามีดหรือจอบติดมือไปด้วยเสมอ เมื่อเห็นว่าหนทางไม่ราบเรียบมีหญ้าขึ้นปกคลุมรก ทางมีหลุมเป็นบ่อ ระหว่างทางมีกิ่งไม้ระเกะระกะรุงรัง มะฆะมานพนั้น ก็จะเอาจอบถาก มีดหวด ทำให้ตลอดทางเป็นที่ร่มรื่น สะดวกสบายแก่ผู้สัญจรไปมา เมื่อนาย มะฆะมานพทำเช่นนี้เป็นอาจิณ ผู้คนชนทั้งหลายที่สัญจรไปมาก็พากันเข้าไปถามว่า สหายท่านกำลังทำอะไรอยู่ มะฆะมานพก็ตอบว่า เรากำลังทำทางไปสวรรค์ ชนเหล่านั้นก็ขอร่วมทำด้วย จนมีสมัครพรรคพวกเป็นเพื่อนถึง ๓๓ คน มะฆะมานพ จึงพาทำทางได้ระยะไกลถึง ๒ โยชน์ หมู่ชนทั้งหลาย​

เมื่อเดินทางได้รับความสะดวกสบาย ต่างก็พากันสรรเสริญมะฆะมานพและบริวารเป็นอันมาก ฝ่ายนายบ้าน ผู้เป็นเจ้าหน้าที่ปกครองท้องถิ่น เห็นฝูงชนยกย่องสรรเสริญมะฆะมานพและบริวาร ก็บังเกิดความริษยา จึงหาเรื่องเข้ามาว่ากล่าวว่า เจ้าทั้งหลายกระทำอะไรไร้ประโยชน์ ทำไมไม่ใช้เวลาและแรงที่มีไปหาเนื้อหาปลามาเป็นอาหาร วัยฉกรรจ์อย่างพวกเจ้าควรที่จะไปเที่ยวเล่น ดื่มสุรา เที่ยวดูการละเล่นยังจะสนุกเพลิดเพลินเสียกว่า อย่ามามัวเหนื่อยเปล่ากับ เรื่องไม่เป็นประโยชน์เหล่านี้อยู่เลย​

มะฆะมานพและบริวารทั้ง ๓๓ คน ก็หาได้เชื่อฟังคำของนายบ้านไม่ นายบ้านจึงผูกใจโกรธ นำเรื่องไปเท็จทูลพระราชาว่า มะฆะมานพและบริวาร เป็นคนเกเรไม่ทำมาหากิน คอยดักปล้นสะดมผู้คนที่เดินทาง พระราชา พอได้ฟังคำเท็จทูลของนายบ้านก็หลงเชื่อ มีรับสั่งให้พนัก งานไปจับตัวมะฆะมานพและบริวารทั้ง ๓๓ คนมาลงโทษด้วยการให้นอนลงกับพื้นแล้วต้อนช้างพลายผู้ดุร้ายให้ไปเหยียบ ขณะที่ช้างพลายที่ดุร้ายจะมาเหยียบนั้น มะฆะมานพได้สั่งให้บริวารทั้ง ๓๓ คน เจริญเมตตาไว้ในใจ อย่าผูกโกรธ เคืองแค้นต่อนายบ้าน แผ่เมตตาให้แก่พระราชาและช้างพลายที่จะตรงมาเหยียบ​

ด้วยอานุภาพแห่งเมตตาของมะฆะและบริวาร ช้างพลายที่ดุร้ายนั้นพลัน ก็ยืนสงบนิ่ง ไม่ยอมที่จะก้าวเดินไปเหยียบมะฆะและบริวาร ข้างพระราชาทรงประทับทอดพระเนตรการลงทันต์อยู่ ทรงเห็นว่าช้างไม่ยินยอมที่จะย่างเหยียบคนทั้ง ๓๓ ก็ให้พนักงานนำเอาเสื่อลำแพนมาปกคลุมร่างของคนทั้ง ๓๓ คนเสีย ด้วยคิดว่าช้างอาจจะเห็นเป็นคน เลยมิกล้าที่จะเดินเหยียบได้ เมื่อชาวพนักงานนำเสื่อลำแพนมาคลุมร่างมะฆะมานพและบริวารมิดชิดแล้ว จึงให้ควาญช้างไสช้างพลายนั้นให้ก้าวเหยียบไปบนเสื่อลำแพน มิใยที่ควาญช้างจะโขกสับ บังคับไสช้างพลายนั้นให้เดินสักปานใด ช้างนั้นก็ยืนสงบนิ่งมิขยับ เขยื่อนเลื่อนไปแม้แต่ก้าวเดียว​

พระราชาครั้นได้ทรงทอดพระเนตรเห็นดังนั้น จึงทรงดำริว่า เอ... นี่มันเกิดอาเภทเหตุอัศจรรย์ใดกันหนอ ทำไมชนทั้ง ๓๓ คนนี้ จึงมิได้มีอันตรายใดๆ จากการลงทันต์ในครานี้เลย ชะรอยเราต้องเรียกมาไตร่สวนดูให้รู้ความจริง และแล้วจึงทรงมีพระดำรัสเรียกมะฆะมานพและบริวารเข้าเฝ้า เมื่อมะฆะมานพและบริวารได้เข้าเฝ้าเบื้องหน้าพระพักตร์แล้ว พระราชาจึงทรงมีพระดำรัสตรัสถามขึ้นว่า อาชีพที่สุจริตในแผ่นดินนี้มีออกมากมาย เหตุใดพวกเจ้าจึงพากันเป็นโจร ประกอบทุจริต​

มะฆะมานพครั้นได้ฟังพระราชาทรงตรัสตำหนิถามดังนั้น จึงกราบทูลว่า ข้าแต่องค์ราชะผู้ประเสริฐ ข้าพระพุทธเจ้าและสหาย มิได้เป็นผู้ทำอาชีพทุจริตผิดกฎหมาย พวกข้าพระพุทธเจ้าเป็นสุจริตชน สิ่งที่ข้าพระพุทธเจ้าทำ คือทางไปสวรรค์ แต่กลับถูกกล่าวหาว่าเป็นโจร เหตุเพราะนายบ้านมีความริษยา ผูกโกรธคิดกลั่นแกล้งใส่ความพวกข้าพระพุทธเจ้า ถ้าพระองค์ไม่เชื่อ ขอได้ทรงโปรดให้ขุนทหารไปเรียกชาวบ้านมาไตร่ถาม ความจริงก็จะปรากฏ​

พระราชาจึงส่งขุนทหาร ไปเกณฑ์ชาวบ้านมาไตร่ถาม จึงได้ทรงทราบความจริง ว่ามะฆะมานพ และบริวารได้ชวนกันทำงานไปสวรรค์จริงๆ จึงทรงปราโมทย์ยินดี ทรงพระราชทานช้างพลายตัวนั้น ให้แก่มะฆะมานพ และบริวาร อีกทั้งยังทรงมีรับสั่งให้ นายบ้านผู้มีจิตริษยานั้น ตกเป็นทาสของมะฆะมานพด้วย ข้างมะฆะมานพและสหาย เมื่อได้เห็นอานิสงส์ผลบุญ ที่พวกตนได้ร่วมกันกระทำ ปรากฏให้เป็นที่ประจักษ์ จิตโสมนัส ศรัทธาในการบำเพ็ญบุญนั้นมากยิ่งขึ้น ซึ่งนอกจากทำทาง ทำสถานที่ร่มรื่นให้ผู้คนและสัตว์ ที่กำลังเดินทางได้หยุดพักแล้ว ยัง ได้ช่วยกันทำศาลาพักผ่อน ขุดสระ ทำปลูกพืชผักผลไม้เอาไว้ให้ผู้คนที่หิวกระหายได้ตักดื่ม เก็บกิน จนเป็นที่สำราญของผู้คนที่เดินทางผ่านไปมา ณ ตำบลบ้านนี้​

นอกจากมะฆะมานพ จะเป็นผู้ชอบบำเพ็ญบุญดังกล่าวมาแล้ว ยังจะเป็นผู้ปฏิบัติ ข้อวัตตะบท ๗ ประการ โดยบริบูรณ์ คือ​

- ปฏิบัติเลี้ยงดูรักษาบิดามารดา
- อ่อนน้อมต่อผู้ใหญ่ในตระกูล
- กล่าวความสัตย์ ไม่โกหก
-ไม่พูดหยาบคาย
- มีวาจาที่สุภาพ เรียบร้อย ระรื่นหูแก่ผู้ได้สดับ ไม่ส่อเสียดยุยง
-ไม่ตระหนี่ ยินดีในการให้
- เป็นผู้ที่มีปกติไม่โกรธ​

ครั้นเมื่อถึงกาลมรณะสมัย มะฆะมานพและสหายได้ทำกาลกิริยาลง ด้วยสิ้นอายุขัย ผลบุญที่ตนได้ทำเอาไว้ ส่งผลให้มะฆะมานพ ไปบังเกิดเป็นพระอินทร์ในเทพพิภพ พร้อมด้วยสหายอีก ๓๒ องค์ จึงรวมเป็นเหล่าเทพ ๓๓ องค์ เทพนครแห่งนั้น จึงเปลี่ยนชื่อเป็น ตาวะตึงสะ หรือ ดาวดึงส์สวรรค์ ซึ่งแปลว่า ๓๓ ส่วนเทพยดา ที่สถิตในเทพนครนี้อยู่เดิม เห็นเทพบุตรเกิดขึ้นใหม่ มีวรกายสง่างาม รัศมีกายเรืองรอง จึงใคร่ผูกสมัครมิตรไมตรี พากันจรลี ไปจัดสรรคัดหาโภชนาหารอันเลิศรส พร้อมกับเหล้าหอม ชื่อคันธบาน แล้วชวนกันนำไปเลี้ยงแก่บรรดาเทพบุตรทั้ง ๓๓ องค์ที่บังเกิดใหม่​

พระอินทร์ จึงแอบกระซิบแก่เทพบริวารทั้ง ๓๒ ว่า อย่าดื่มน้ำคันธบานนั้น แต่ให้แสร้งทำประหนึ่งว่า ได้ดื่มน้ำเหล้านั้นเข้าไปด้วย ฝ่ายเทพดาที่สถิตอยู่ในเทพพิภพเดิม ก็มิได้คิดระแวงอันใด จึงพากันดื่มเหล้าหอมนั้นเข้าไป จนเมามายหมดสติ มิอาจทรงกายอยู่ได้ จึงลงนอนและหลับไปในที่สุด ฤทธิ์แห่งเหล้าหอมนั้น ทำให้เทพดาเก่าหลับไปนานถึง ๔ เดือน พระอินทร์จึงกล่าวแก่เทพบริวารว่า พวกเทพเหล่านี้ มัวเมาประมาทจนขาดสติ นอนได้แม้ในที่ที่มิมีใครนอน แถมส่งเสียงเอะอะละเมอเหมือนกับคนบ้า ผ้าผ่อนภูษาก็หลุดลุ่ย ขืนให้อยู่บนเทพพิภพรังแต่จะทำให้ เทพนครเสื่อมเสีย มาเถิดสหายทั้ง ๓๒ เอ๋ย มาช่วยกันจับเทพขี้เมาเหล่านี้โยนลงสู่มหาสมุทรกันเถิด​

เมื่อเทพขี้เมาเหล่านั้น โดนจับโยนลงมหาสมุทร ร่างกระทบภาคพื้นพิภพใต้มหาสมุทร เทพวิมานที่สำเร็จด้วยบุญฤทธิ์ของเทพขี้เมาเหล่านั้นก็ปรากฏขึ้น มีสภาพดุจดัง เทพนครบนสวรรค์มิได้ผิด จะต่างก็ตรงต้นปาริจฉัตตกะ ซึ่งมีอยู่บนเทพนครชั้นดาวดึงส์ แต่ในเทพพิภพมีแต่ต้นแคฝอย ซึ่งเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า ต้นจิตตปาตลี เทพขี้เมาทั้งหลาย เมื่อฟื้นคืนสติขึ้นมา จึงได้รู้ว่าพวกตนถูกเทพบุตรใหม่ทั้ง ๓๓ องค์ จับโยนลงมาอยู่ในมหาสมุทร ก็ให้นึกละอาย แล้วก็พากันดำริขึ้นว่า นี่คงเป็นเพราะชาวเราทั้งหลายมัวเมาประมาท กินเหล้าจนขาดสติหลับไป จึงโดนเทพใหม่เหล่านั้นกลั่นแกล้งให้ได้อาย เป็นเพราะน้ำเหล้าหอมนั้นเชียว เราทั้ง หลายเอ๋ย ต่อนี้ไปจงอย่ากินเหล้าอีกเลย ด้วยว่าดำริเช่นนี้ เทพขี้เมาเหล่านี้ ก็เลยเป็นเทพที่ไม่ยอมเมาอีกต่อไป จนได้ชื่อว่า อสูร (อสูร=อสุรา แปลว่าผู้ไม่ดื่มสุรา)​

อสูรนั้น ได้พักอาศัยอยู่ใน อสูรพิภพ ซึ่งมีสภาพเหมือนกับเทพนครทุกอย่าง ซึ่งทุกอย่างก็สำเร็จได้ด้วยบุญฤทธิ์ของตน ของตน ต่างตนต่างก็อยู่อย่างเป็นสุข สถิตสถาพร และมีหัวหน้าที่สำเร็จด้วยบุญฤทธิ์ ชื่อว่า ท้าวเวปจิตติอสูร กาลต่อมา ลุถึงฤดูต้นแคฝอยออกดอก เหล่าอสูรทั้งหลายต่างพากันหวนคำนึงนึกถึง เทพนครสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ ซึ่งเป็นที่สถิตของต้นปาริจฉัตตกะ มีดอกใหญ่สีสวยกลิ่นหอม เมื่อถึงคราวฤดูออกดอกก็ส่งกลิ่นทำให้เทพนครหอมอบอวนเป็นที่รื่นรมณ์ยิ่งนัก​

เหล่าอสูรทั้งหลาย ก็พากันหวนคำนึงระลึกถึง เทพนครสวรรค์ เวปจิตติอสูร ผู้เป็นหัวหน้า จึงชักชวนพลโยธา จัดเตรียมเป็นกองทัพ เพื่อไปชิงเอาเทพนครสวรรค์กลับมาเป็นของตน พร้อมทั้งยกทัพขึ้นไปท้ารบกับพระอินทร์ องค์อินทราชจึงมีเทวบัญชา ให้ท้าวจาตุมหาราชทั้ง ๔ แต่งกองทัพเทวดาลงไปรักษาเชิงเขาพระสุเมรุในทิศทั้ง ๔ คอยสู้รบ รุกรับขับไล่ต่อกรกับพวกอสูร ซึ่ง บางครั้งก็มีชัย บางครั้งก็พ่ายแพ้ คราใดที่ท้าวจาตุมทั้ง ๔ พ่าย ก็พาทัพเทวดาถอยร่นขึ้นไปจนถึงประตูสวรรค์ องค์อินทร์ก็ต้องคุมทัพออกมารุกไล่รบแก่ทัพอสูรด้วยพระองค์เอง และก่อนที่จะออกรบ องค์อินทรธิราช ได้ทรงตรัสสั่งแก่บรรดา พลเทวดาว่า​

ถ้าพลเทวดา หวาดกลัว สะดุ้ง และมีขนพองสยองเกล้าบังเกิดขึ้น ก็ให้แลดูชายธงที่ปลิวไสวอยู่บนราชรถศึกของพระองค์ หรือไม่ก็แลดูชายธงขององค์เทวะชื่อปชาบดี ของพระวรุณเทวราช หรือพระอีสานเทวราชเพื่อเป็นกำลังใจว่า ผู้นำ ผู้เป็นที่พึ่งของเรายังสถิตอยู่กับเรา เหล่าบรรดาพลทหารเทวดาทั้งหลาย เมื่อได้แลเห็นชายธงของมหาเทวะทั้ง หลายที่กล่าวนามมาแล้ว จึงมีกำลังมีใจที่ฮึกเหิม ทำสงครามอย่างเกรียงไกร มีชัยในที่สุดอีกทั้งยังสามารถจับตัวท้าวโพจิตราสูร หัวหน้าของอสูร ทั้งปวงได้ ท้าวโพจิตราสูร เมื่อโดนจับก็ยิ่งผูกโกรธ กล่าวคำหยาบช้า ด่าว่าพระอินทร์และเทพที่เกิดใหม่ทั้ง ๓๓ องค์ นานาประการ แต่หมู่เทพและองค์อินทร์ก็หาได้โกรธไม่ อีกทั้งยังให้อภัย ปล่อยท้าวโพจิตราสูรให้เป็นอิสระ สงครามระหว่างเทวะกับอสูรก็สงบลง แต่นั้นเป็นต้นมา​

พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงตรัสต่อไปว่า เช่นนั้นแลภิกษุทั้งหลาย คราใดที่เธอทั้งหลายไปอยู่ในป่าก็ตาม อยู่ใต้โคนไม้ก็ตาม อยู่ในเรือนว่างก็ตาม อยู่ในที่รกชัฏก็ตาม ความหวาดกลัว ความสะดุ้งผวา ขนพองสยองเกล้าบังเกิดขึ้นแก่เธอ เธอทั้งหลายพึงชนะความกลัวเหล่านั้น ด้วยการระลึกถึงเรา ผู้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เป็นผู้ไกลจากกิเลส ตรัสรู้ชอบได้ด้วยพระองค์เอง เป็นผู้ถึงพร้อมแล้วด้วยวิชชาและจรณะ เป็นผู้ไปดีแล้ว เป็นผู้รู้แจ้งโลก เป็นผู้ฝึกบุรุษที่ควรฝึก ไม่มีผู้อื่นยิ่งกว่า เป็นครูผู้สอนเทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย เป็นผู้เบิกบานแล้ว เป็นผู้จำแนกธรรม ดังนี้​

ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ถ้าเธอทั้งหลายไม่ระลึกถึงเรา เพื่อจะชนะความหวาดกลัว เธอทั้งหลายพึงระลึกถึงคุณของพระธรรมว่า พระธรรมอันพระผู้มีพระภาคเจ้าทรงตรัสไว้ดีแล้ว เป็นสิ่งที่บุคคลพึงเห็นรู้ได้ด้วยตนเอง ไม่จำกัดกาลเวลาสามารถเรียกให้ผู้อื่นมาดูได้ด้วย เป็นสิ่งที่บุคคลพึงน้อมเข้ามาใส่ตน เป็นคุณสมบัติของผู้รู้ทั้งหลาย ดังนี้​

ดูกรภิกษุทั้งหลาย แม้เธอทั้งหลายมิพึงระลึกถึงพระธรรม เพื่อจะครอบงำความกลัว เธอทั้งหลายพึงระลึกถึงคุณของพระสงฆ์ว่า เป็นผู้ปฏิบัติดี ปฏิบัติตรง พระสงฆ์สาวกของพระผู้มีพระภาคเจ้า เป็นผู้ปฏิบัติธรรม เป็นผู้ปฏิบัติชอบ ซึ่งมีอยู่ ๔ คู่ ๘ พวก พระสงฆ์สาวกเหล่านี้ เป็นผู้คงแก่การบูชา เป็นผู้ควรแก่การต้อนรับ เป็นผู้คู่ควรแก่การรับทาน เป็นผู้ควรแก่การกราบไหว้ เป็นเนื้อนาบุญของโลก ดังนี้​

ดูก่อน ภิกษุทั้งหลาย เมื่อเธอทั้งหลาย พากันมาระลึกถึง คุณของพระพุทธเจ้า คุณของพระธรรมเจ้า คุณของพระสงฆ์เจ้า เห็นปานนี้ ความสะดุ้งกลัว หวาดผวา ขนพองสยองเกล้า จักมิอาจครอบงำเธอ ดังนี้แล​

ที่มา http://www.sil5.net

 

อัฟเดทข่าวสารจากพระอาจารย์รัตน์ !!!​

wokwak สมาชิก
อ้างอิง:
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; FONT: 12pt verdana, geneva, lucida, 'lucida grande', arial, helvetica, sans-serif; BORDER-LEFT: 1px inset; COLOR: rgb(0,0,0); BORDER-BOTTOM: 1px inset; BACKGROUND-COLOR: rgb(247,243,247)">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ ZZ

ขอ เรียนยํ้าอีกครั้งว่า การเปลี่ยนแปลงทางกายภาพของโลกจนถึงขั้นเปลี่ยนขั้วโลกใหม่ได้นนั้ ไม่ได้จำเพาะว่าจะต้องเกิดขึ้นในวันที่ 21 ธ.ค. 55 เพียงวันเดียว แต่สามารถเกิดขึ้นได้ ทุกวันระหว่างวันที่ 21ธ.ค.55 จนถึงวันที่ 14 ก.พ.56 (56 วัน)
</TD></TR></TBODY></TABLE>
วันนี้(21ก.ค.55) ผมไปงานอบรมสมาธิกับพระอาจารย์รัตน์มาครับ ถ้าผมฟังจากลูกศิษย์ท่านฯมาไม่ผิด ตอนนี้ช่วงเวลาของภัยพิบัติ จะตีกรอบเหลือแค่ 3 วันคือ 21 ธค 55 , 1 มค 56 หรือ 14 กพ 56

MissP สมาชิก

ได้ไปอบรมในวันที่ 21 -22 ก.ค.55 ที่ผ่านมาเหมือนกันค่ะ คอนเฟิร์มช่วงเวลาเดียวกับคุณวอกแวก ค่ะ [FONT=&quot]ในช่วงระยะเวลาวิกฤติ[/FONT][FONT=&quot]ขณะแกนโลกปรับสมดุลเข้าสู่ยุคพลังงานใหม่ [/FONT]
[FONT=&quot]ช่วงที่หนึ่ง[/FONT][FONT=&quot]วันที่ [/FONT]24, 25, 26, [FONT=&quot]ของช่วง[/FONT]“[FONT=&quot]เจ็ดเจ็ดสี่สิบเก้าวัน[/FONT]” [FONT=&quot]เพราะช่วงนั้นอาหารที่สะสมไว้<WBR>จะหมด คนที่กินเจ/มังสวิรัติ จะยังอดทนต่อความหนาวเหน็บ[/FONT][FONT=&quot]ส่วนคนที่กินเนื้อสัตว์<WBR>จะทรมานมาก[/FONT]​

[FONT=&quot]ในช่วงระยะเวลาวิกฤติที่สุด [/FONT][FONT=&quot]3 [/FONT][FONT=&quot]วัน [/FONT][FONT=&quot]3 [/FONT][FONT=&quot]คืน ซึ่งอาจจะเป็น[/FONT]
[FONT=&quot]** [/FONT][FONT=&quot]ช่วงวันที่ [/FONT][FONT=&quot]21 [/FONT][FONT=&quot]ธันวาคม [/FONT][FONT=&quot]55, 1 [/FONT][FONT=&quot]มกราคม[/FONT][FONT=&quot]56 [/FONT][FONT=&quot]หรือวันที่ [/FONT][FONT=&quot]14 [/FONT][FONT=&quot]กุมภาพันธ์ [/FONT][FONT=&quot]56 **[/FONT]
[FONT=&quot]([/FONT][FONT=&quot]ช่วงเวลาที่แคบกว่านี้ขอให้<WBR>รอสัญญาณและปรากฎการณ์สำคัญประกอบอี<WBR>กทีซึ่งพระอาจารย์[/FONT][FONT=&quot]รัตน์ก็รออยู่ เมื่อครบ[/FONT][FONT=&quot]ท่านก็จะประเมินได้แคบลงกว่านี้<WBR>เพื่อการเตรียมตัวที่เหมาะสมต่<WBR>อไป)[/FONT][FONT=&quot]และจะได้แจ้งให้ทราบอีกครั้งค่ะ[/FONT]​

​

[FONT=&quot]******** อันนี้เป็นการขยายความการเตรียมตัวในช่วงเวลาดังกล่าวค่ะ*******[/FONT]
[FONT=&quot]ในช่วงระยะเวลาวิกฤติดังกล่<WBR>าวเรียกว่า คืนเดือนดับ [/FONT][FONT=&quot]จะ[/FONT][FONT=&quot]ไม่มีแสงใดๆปรากฎขึ้นในโลกได้<WBR>เลยเป็นระยะเวลา [/FONT][FONT=&quot]3 [/FONT][FONT=&quot]วัน [/FONT][FONT=&quot]3 [/FONT][FONT=&quot]คืนเต็ม[/FONT][FONT=&quot]แม้แสงจากดวงดาวและพระจันทร์ก็<WBR>ไม่สามารถมองเห็นได้[/FONT][FONT=&quot]อากาศหนาวเหน็บเยือกเย็นสุดประมาณ [/FONT][FONT=&quot]ถ้าคุณมีอุปกรณ์ในการจุดไฟ เช่นไฟแช็ค ไฟฉาย เมื่อจุดขึ้น [/FONT][FONT=&quot]แสงไฟจะถูกดูดกลืน[/FONT][FONT=&quot]ในทันที จะก่อไฟ[/FONT][FONT=&quot]หรือจุดเตาถ่านก็กระทำได้ยากเนื<WBR>่องจากต้องเผชิญกับสภาพความดั<WBR>นอากาศที่ไม่คง[/FONT][FONT=&quot]ที่ ในช่วงการปรับสมดุลแกนโลก[/FONT][FONT=&quot]จึงเป็นไปได้ยากมากที่เราจะลุ<WBR>กไปหุงหาอาหารหรือทำกิจกรรมใดๆ คงต้องนั่ง นอน[/FONT][FONT=&quot]อยู่ให้นิ่งเพราะต้องปรับสมดุ<WBR>ลร่างกายให้ทนต่อสภาพความดั<WBR>นอากาศและ[/FONT][FONT=&quot]แรงโน้มถ่วงโลก ที่เปลี่ยนแปลงไปด้วยพร้อมๆ กัน[/FONT]
[FONT=&quot]a. [/FONT][FONT=&quot]มีเป้ยังชีพ [/FONT][FONT=&quot]ประจำตัวของแต่ละคนไม่<WBR>ปะปนกัน[/FONT][FONT=&quot]ในเป้ให้มีของใช้ที่ทุ<WBR>กคนสามารถนำมาใช้ได้สะดวก อาหารเม็ด[/FONT][FONT=&quot],[/FONT][FONT=&quot]อาหารแคปซูล[/FONT][FONT=&quot]แต่ให้พลังงานสูง กระบอกน้ำดื่มประจำตัว ยาประจำตัว(เน้นสมุนไพร)[/FONT][FONT=&quot]อุปกรณ์ป้องกันเสียง ถุงพลาสติกสำหรับขับถ่าย ขวดพลาสติกเก็บปัสสาวะ[/FONT][FONT=&quot]เป็นต้น[/FONT]
[FONT=&quot]b. [/FONT][FONT=&quot]สวมใส่เสื้อผ้าเครื่องนุ่งห่ม[/FONT][FONT=&quot] ที่ใส่สบายและทนต่อความหนาวเย็<WBR>นได้ถึง -[/FONT][FONT=&quot]30[/FONT][FONT=&quot]ถึง-[/FONT][FONT=&quot]50 [/FONT][FONT=&quot]องศาเซลเซียส หมวก ผ้าพันคอ ถุงมือ ถุงเท้า[/FONT][FONT=&quot]ผ้าปิดจมูกหรือหน้ากากกันแก๊สพิ<WBR>ษ ฯลฯ[/FONT]
[FONT=&quot]c. [/FONT][FONT=&quot]นั่งบนเตียงหรือเก้าอี้ ที่[/FONT][FONT=&quot]น้ำหนั<WBR>กเบาแต่แข็งแรง ทนทาน พร้อมเชือก[/FONT][FONT=&quot]เพื่อโยงกับตัวเราไม่ให้ล่<WBR>องลอยตามแรงโน้มถ่วงของโลก[/FONT][FONT=&quot]เมื่อความดันอากาศและอุณหภูมิ<WBR>ในโลกเปลี่ยนไป[/FONT][FONT=&quot]เราต้องเผชิญกับสภาพเหมือนไร้น้<WBR>ำหนัก[/FONT][FONT=&quot]จึงจำเป็นต้องมีสิ่งจับยึดไว้ หรือมีเข็มขัดรัดไว้[/FONT]
[FONT=&quot]d. [/FONT][FONT=&quot]รับประทานอาหารสำเร็จรูปในรู<WBR>ปแคปซูล[/FONT][FONT=&quot] เช่นแคปซูลข้าวกล้อง[/FONT][FONT=&quot]แคปซูลคลอโรฟิลด์ แคปซูลใบบัวบก แคปซูลผักบุ้ง[/FONT][FONT=&quot]แล้วปรับสมดุลธาตุในร่างกายด้วย แคปซูล สาหร่าย พลูคาว และมะรุม[/FONT][FONT=&quot] ([/FONT][FONT=&quot]ซึ่งได้โพสต์รายละเอียดให้<WBR>ทราบก่อนหน้านี้แล้ว)[/FONT]
[FONT=&quot]e. [/FONT][FONT=&quot]การดื่มน้ำ[/FONT][FONT=&quot] น้ำที่ดื่มต้องบรรจุ<WBR>ลงในกระบอกน้ำพลาสติกหรือ ถ้วยมัค แล้วมีหลอดดูดเข้าปาก[/FONT]
[FONT=&quot]f. [/FONT][FONT=&quot]การขับถ่าย[/FONT][FONT=&quot]ส้วมต้องมีมือเกาะและมีเข็มขั<WBR>ดรัดไว้ให้ผู้ใช้นั่งติดกับที่<WBR>รองรับของเสีย[/FONT][FONT=&quot]สิ่งที่ขับถ่ายจะมีน้อยถ้<WBR>าหากเรารับประทานอาหารในรู<WBR>ปแคปซูล[/FONT][FONT=&quot]อาจจะใช้ถุงพลาสติกประจำตัวเมื่<WBR>อถ่ายแล้วก็รัดปากถุงนำไปทิ้<WBR>งได้เลย[/FONT]
[FONT=&quot]g. [/FONT][FONT=&quot]การอาบน้ำ[/FONT][FONT=&quot] ช่วง [/FONT][FONT=&quot]3 [/FONT][FONT=&quot]วันนี้คงไม่ต้องอาบแต่<WBR>ชำระทำความสะอาดร่างกาย[/FONT][FONT=&quot]ด้วยทิ<WBR>สชูเปียก[/FONT][FONT=&quot]หรือผ้าชุบน้ำบิดหมาดๆ[/FONT]
[FONT=&quot]h. [/FONT][FONT=&quot]การนอน[/FONT][FONT=&quot] ต้องนอนในถุงนอนที่ห้อยติดอยู่<WBR>กับที่แล้วรูดซิบปิดตั้งแต่เท้<WBR>าถึงหน้าอก[/FONT][FONT=&quot]แล้วเอาแขนสอดไว้ในสายรัดที่พั<WBR>นรอบเอวเพื่อไม่ให้แขนแกว่<WBR>งไปมาเมื่อหลับ[/FONT]

[FONT=&quot]ช่วงที่สอง [/FONT][FONT=&quot]ช่วงนี้คือช่วงที่ที่ทรมานอีกครั้งหนึ่งจะอยู่ระหว่<WBR>างวันที่ [/FONT]50 [FONT=&quot]ถึง[/FONT]70 [FONT=&quot]เพราะ สรรพสิ่งทั้งหลายจะถูกเคลื<WBR>อบด้วยพิษของกัมมันตภาพรังสี ซาก[/FONT][FONT=&quot]ศพเกลื่อนกลาด คนที่กินเนื้อสัตว์จะไม่รักษาชี<WBR>วิตให้อยู่ได้ อาหารที่กักตุนไว้จะเริ่<WBR>มขาดแคลน[/FONT][FONT=&quot]ไม่ต้องห่วงค่ะ ถ้าเรารอดถึงช่วงนี้ เรายังมีอาหารที่กักตุนไว้ในช่<WBR>วงแรก ซึ่งประมาณการไว้สำหรับ [/FONT][FONT=&quot]6 [/FONT][FONT=&quot]เดือน มาใช้ได้สบายๆ[/FONT]​

ที่มา http://palungjit.org/threads/ประวัติและผลงานของพระอาจารย์รัตน์-รตนญาโณ.269042/page-14

 

กำลังรอวันนั้นอยู่ อยากให้เกิดไวๆๆ จะได้ไม่ต้องคิดไรเยอะแยะ

 

24 ก.ค. 55 นาวาไทย

ยืนซ้าย เรือย่อม พร่องขวา
ยืนขวา เรือก็ พร่องซ้าย
ยืนกลาง นั้นไม่ ทำร้าย
ชาติไทย อยู่ยั้ง ยืนยง

เป็นเพราะ ยืนซ้าย ป่ายขวา
นาวา ถึงใกล้ จะจม
อีกทั้ง ลุ่มหลง งวยงง
ล่มจม เพราะคิด ไม่เป็น

กระดุม เม็ดแรก ผิดแปลก
แตกแยก ถึงก่อ กำเนิด
ถ้าแก้ แต่แรก ไม่เกิด
เลยเถิด จนถึง วันนี้


องค์อินทร์ ๙๗
ทำการแทน

 

คิดถึงท่าน VANCO
สุดยอดอาจารย์เรื่องแผ่นดินไหวอีกท่านหนึ่งของประเทศนี้
ความรู้เท่าหางอึ่งของผมสู้ท่านไม่ได้
เพื่อประโยชน์ของมนุษย์บนโลกใบนี้
เชิญท่าน Vango อีกซักรอบครับ<!-- google_ad_section_end -->

 

สิ่งที่จะเกิดขึ้นเมื่อโลกเข้าสู่มิติที่ 4 ในปลายปี 2012 นี้ !!!

​

deliver me สมาชิก

อ้างอิง:
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; FONT: 12pt verdana, geneva, lucida, 'lucida grande', arial, helvetica, sans-serif; BORDER-LEFT: 1px inset; COLOR: rgb(0,0,0); BORDER-BOTTOM: 1px inset; BACKGROUND-COLOR: rgb(247,243,247)">พวกมหาเทพ(มนุษย์ต่างดาว)ที่สื่อมานี้ เขาอยู่ฝ่ายประชาธิปไตยครับ เขาพูดหลายครั้งว่าจะนำอำนาจอธิปไตยมาให้ชาวโลก (อำนาจอธิปไตย แปลง่ายๆว่า ความเป็นเจ้าของประเทศนั่นแหละครับ พวกเผด็จการมันครองความเป็นเจ้าของประเทศไป แล้วทำทีว่าประชาชนทั้งประเทศมาขออาศัยพวกเขาอยู่) ต่างดาวเขาจะทวงอำนาจเจ้าของประเทศคืนมาให้ประชาชน

พวกฝ่ายมืดที่ถูกกำจัดไปแล้วในแถบอาหรับ ถ้าสังเกตให้ดีพวกนี้คือเผด็จการ ไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง ถ้ามาก็มีการโกงการเลือกตั้งประชาชนตรวจสอบเอาผิดคนพวกนี้ไม่ได้ บางทีก็วิจารณ์ไม่ได้ด้วย

(เราจะดูได้อย่างไงว่า ผุ้ปกครองคนไหนคือเผด็จการ ให้สังเกตง่ายๆนะครับคือ คนพวกนี้จะมีอำนาจมากแต่ปัญหาคือ เขาไม่ได้มาจากการเลือกตั้งจากประชาชน แปลว่า ประชาชนเขาไม่ได้เลือกคุณให้มามีอำนาจแต่คุณก็เข้ามามีอำนาจ เหนือกว่าประชาชน เหนือนักการเมืองที่ประชาชนเลือกตั้งเข้าไปทำงาน บางประเทศก็ไม่มีคนที่มาจากการเลือกตั้งด้วยซ้ำ หรือสังเำกตได้อีกอย่างคือพวกนี้จะรวยล้นฟ้าแต่ประชาชนในประเทศตัวเองยังคงยากจนอยู่ และไม่สามารถตรวจสอบอะไรคนพวกนี้ได้เลย พวกนี้ปล้นเขามาทั้งนั้นครับ )

ดังนั้นก่อนปลายปีนี้ พวกเผด็จการในประเทศต่างๆตัวใหญ่ๆ พวกเขาจะต้องถูกกำจัดไป (ตอนนี้ก็ทยอยๆกันออกไปเยอะแล้ว) อันนี้คอมเฟิมแล้ว ว่าไม่รอดแน่ ท่านเทพพูดตรงกันหลายครั้งแล้ว แต่ที่น่าสนใจคือ เขาบอกว่าคนทั่วๆไปที่ฝักใฝ่เผด็จการหรือฝ่ายมืด มีจิตใจอันโอนเอียงไปในด้านมืดจะไม่สามารถดำรงกายเนื้อรอดไปได้ เขาไม่ได้บอกว่า ในมิติ4 หรือมิติ5 นะครับ (มิติ4 แน่นอนแล้วว่าปลายปีนี้ มิติ 5 ยังไม่แน่ชัดว่าปีไหน)

คนประเภทนี้มีมากนะครับ เพราะเผด็จการบางคนก็สร้างภาพโฆษณาตัวเองให้คนอื่นรักลุ่มหลง จนคนแยกดีแยกชั่วไม่ออก ผมไม่รู้ว่าต่างดาวเขาหมายถึงผุ้คนในกรณีนี้ด้วยหรือไม่ทีว่าจะไม่รอด ถ้ารวมด้วย ผมบอกได้เลยว่า คนประเภทนี้มีมากจริงๆ

เหตุการณ์ความไม่สงบอย่างรุนแรงในโลกจะบรรเทาเบาบางลง เมื่อดาวเคราะห์ดำเนินวิถีของมันเองต่อไปจนเข้าสู่ระนาบพลังงานที่สูงกว่า อันเป็นที่ซึ่งแสงสว่างมีความเข้มข้นสูงมาก ซึ่งทำให้บุคคลที่เต็มไปด้วยจิตใจอันโอนเอียงไปในด้านมืด ไม่สามารถดำรงกายเนื้อรอดไปได้นั่นก็หมายความว่า บรรดาผู้ที่ก่อให้เกิดความทุกข์อย่างหนัก จะไม่อยู่บนดาวโลกอีกต่อไป

ประชาธิปไตย แปลว่า ทุกคนเกิดมาเท่าเทียมกันตามที่สหประชา่ชาติเขาประกาศไว้ครับ ดังนั้นถ้าผุ้ใดปฏิเสธประชาธิปไตย ปฏิเสธความเท่าเทียมกัน แล้วไปเชิดชู ชื่นชอบ ความไม่เท่ากันหรือระบอบชนชั้น คุณมีแนวโน้มว่าคุณจะไม่รอดตามที่เขาได้สื่อลงมา เขาเคยบอกว่าผู้่ที่ไม่ผ่านการเลื่อนระดับจำนวนจะเป็นหลักล้านนะครับ
</TD></TR></TBODY></TABLE>
จากโพสนี้้ของผม(ยกมาให้ดูข้างบน) ในบางส่วนที่ผมยังหาคำตอบไม่ได้ในเรื่องนี้(ดูข้างล่างที่ผมยกมานะครับ) ผมคิดว่าผมหาคำตอบน่าจะพบแล้วนะว่า มันจะเกิดขึ้นตอนเข้ามิติ4 หรือมิติ5 ผมคาดเอานะครับจากที่อ่าน คำตอบคือน่าจะเป็นเข้าสู่มิติ 4 นะครับ (แปลว่า เร็วๆนี้แล้ว เพราะเข้ามิติที่ 4 ก็ปลายปีนี้แล้ว 21 ธันวาคม 2012 )


อ้างอิง:
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; FONT: 12pt verdana, geneva, lucida, 'lucida grande', arial, helvetica, sans-serif; BORDER-LEFT: 1px inset; COLOR: rgb(0,0,0); BORDER-BOTTOM: 1px inset; BACKGROUND-COLOR: rgb(247,243,247)">แต่ที่น่าสนใจคือ เขาบอกว่าคนทั่วๆไปที่ฝักใฝ่เผด็จการหรือฝ่ายมืด มีจิตใจอันโอนเอียงไปในด้านมืด จะไม่สามารถดำรงกายเนื้อรอดไปได้ เขาไม่ได้บอกว่า ในมิติ4 หรือมิติ 5 นะครับ (มิติ4 แน่นอนแล้วว่า ปลายปีนี้ มิติ5 ยังไม่แน่ชัดว่าปีไหน)</TD></TR></TBODY></TABLE>
ทำไมผมจึงคาดว่าจะเกิดเหตการณ์ที่ผู้คนมีจิตใจอันโอนเอียงไปในด้านมืดจะไม่สามารถดำรงกายเนื้อรอดไปได้ ในปลายปีนี้ คือผมไปพบข้อมุลตรงนี้ มันน่าจะเกี่ยวกัน แม้เขาไ่ด้ระบุตรงๆก็ตาม เขาระบุว่า


อ้างอิง:
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; FONT: 12pt verdana, geneva, lucida, 'lucida grande', arial, helvetica, sans-serif; BORDER-LEFT: 1px inset; COLOR: rgb(0,0,0); BORDER-BOTTOM: 1px inset; BACKGROUND-COLOR: rgb(247,243,247)">ยิ่งไปกว่านั้น ก่อนสิ้นปี 2012 ร่างกายของชาวโลกจำนวนหลายล้านคน
ที่แม้ว่าจะเติมเต็มไปด้วยแสงสว่างแล้วก็ตาม ก็ยังจะตายไปก่อนอยู่ดี
</TD></TR></TBODY></TABLE>
อ่านเต็มๆตรงนี้ครับ หน้า 40 ยกมาให้อ่าน


อ้างอิง:
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; FONT: 12pt verdana, geneva, lucida, 'lucida grande', arial, helvetica, sans-serif; BORDER-LEFT: 1px inset; COLOR: rgb(0,0,0); BORDER-BOTTOM: 1px inset; BACKGROUND-COLOR: rgb(247,243,247)">ข้อความสื่อสารทางโทรจิตจาก แมทธิว เวอร์ด (Matthew Ward)

วันที่: 10 ตุลาคม 2010
ผู้รับการสื่อสาร: นาง Suzanne Ward
สถานที่: ประเทศสหรัฐ อเมริกา

October 10, 2010

ตอนที่ 9:

28). และเกี่ยวกับข้อความดังกล่าวนั้น ก็มีอีเมลส่งมาถามกันมากมาย เพราะว่าในข้อความนั้นบอกไว้ว่า

“ร่างกายเนื้อของมนุษย์โลกจะตายเมื่อสิ้นปี 2012 หากไม่ได้รับการชำระล้างกรรม หรือไม่ได้ทำให้ร่างกายกลับไปเป็นหนุ่มเป็นสาวอีกได้ทัน”

พวกเราอยากจะบอกว่า นอกเหนือจากกำหนดการการประหารชีวิต ที่อาจถูกวางเอาไว้ล่วงหน้าแล้ว ไม่มีปัจจัยภายนอกใดๆที่จะมาการันตีได้ว่า ร่างกายเนื้อของใครจะต้องตายลงตอนไหน เพราะว่าเรื่องนี้มันเป็นเรื่องเฉพาะของจิตวิญญาณแต่ละดวง ที่ได้กำหนดเวลาตายเอาไว้แล้ว ในพันธะสัญญาทางจิตวิญญาณของตนเอง ตั้งแต่ก่อนถือกำเนิด หรือที่ได้ขอเปลี่ยนแปลงแก้ไขเอาไว้แล้ว ในช่วงที่กำลังดำเนินชีวิตอยู่

แต่มันก็เป็นความจริงที่ว่า ร่างกายเนื้อที่ยังไม่ได้ดูดซับแสงสว่าง จะไม่สามารถรอดชีวิตอยู่ได้ ในระดับความสั่นสะเทือนที่สูงกว่า เพราะว่ามันมีระดับความเข้มของแสงสว่างที่แตกต่างกัน และร่างกายเนื้อที่มีแสงสว่างน้อยที่สุด ก็จะไม่สามารถคงอยู่ได้ นอกเสียจากว่า มันจะได้รับแสงสว่างเพิ่มมากขึ้นกว่านั้นอีก ยิ่งไปกว่านั้น ก่อนสิ้นปี 2012 ร่างกายของชาวโลกจำนวนหลายล้านคน ที่แม้ว่าจะเติมเต็มไปด้วยแสงสว่างแล้วก็ตาม ก็ยังจะตายไปก่อนอยู่ดี เพราะว่านั่นเป็นพันธะสัญญาทางจิตวิญญาณที่พวกเขาได้เลือกเอาไว้แล้ว
</TD></TR></TBODY></TABLE>
คำอธิบายคือ ฝ่ายมืดตัวใหญ่ๆระดับบิ๊กๆของแต่ละประเทศ (เขาระบุว่าฝ่ายมืดระดับบิ๊กจะถูกกำจัดตอนปลายปีนี้แน่นอนแล้ว ) ถ้าเอามารวมๆกันรวมถึงพวกลูกน้องในเครือข่ายมันด้วย ผมว่ารวมกันแล้วไม่มีทางเกินล้านคนได้หรอก
ดังนั้น ถ้าจะรวมกันให้ได้ถึงหลักล้าน (หลายล้าน) ตามที่ท่าน แมทธิว เวอร์ด ได้กล่าวไว้ล่ะก็ มันหมายถึง ต้องรวมเอาพวกระดับล่างหรือประชาชนคนธรรมดาๆเอาไว้ด้วยนี่เอง โดยเป็นคนที่มีลักษณะที่เขาบอกไว้นั่นคือ " ผู้คนมีจิตใจอันโอนเอียงไปในด้านมืดจะไม่สามารถดำรงกายเนื้อรอดไปได้ ในปลายปีนี้ " (ฝักใ่ฝ่เผด็จการ ปฏิเสธประชาธิปไตย)

แต่เหนือสิ่งอื่นใดเทพทั้งหลายเขาบอกว่าให้หยุดยุ่งเกี่ยวกับการเืมืองไม่ว่าคุณจะอยู่ฝ่ายดีหรือไม่ดีก็ตาม เพราะมันทำให้ความสั่นสะเืทือนในร่างกายของเราต่ำ ส่งผลให้่ไม่ผ่านการเลื่อนระดับ จากข้อมูลว่าข้างต้นทีว่าผู้ที่ฝักใฝ่ฝ่ายมืด จะไม่ผ่านการเลื่อนระดับและจะต้องถูกกำจัดออกไปในปลายปีนี้แล้ว ยังมีปัจจัยอื่นอีกด้วย แ้ม้ว่าคุณไม่ได้ฝักใฝ่ฝ่ายมืดแต่คุณก็อาจจะไม่รอดด้วย ปัจจัยอะไรบ้าง ดูได้จากที่ท่าน แมทธิว เวอร์ด กล่าวไว้

อ้างอิง:
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; FONT: 12pt verdana, geneva, lucida, 'lucida grande', arial, helvetica, sans-serif; BORDER-LEFT: 1px inset; COLOR: rgb(0,0,0); BORDER-BOTTOM: 1px inset; BACKGROUND-COLOR: rgb(247,243,247)">ข้อความสื่อสารทางโทรจิตจาก Matthew Ward

ผ่านทางนาง Suzy Ward
เมื่อวันที่ 10 ตุลาคม 2011
ผู้แปล: คุณ kindred

ที่มา:
http://galacticchannelings.com/engli...w10-10-11.html

ตอนที่ 6:

ตอนนี้พวกเราจะพูดถึงสิ่งที่จะไม่ใช่ส่วนหนึ่งในชีวิตแห่งยุคทองกันบ้าง :ความกลัว มลภาวะทุกชนิด, กฎเกณฑ์ทางศาสนา, ความรุนแรง, การลงโทษและการคุมขังจากภาครัฐ, ระบบที่ยกย่องให้เพศชายเป็นใหญ่, ระบบชนชั้นวรรณะในสังคม, การกระทำที่ทารุณโหดร้ายต่อสิ่งมีชีวิตทุกชนิด, ความยากจน, การควบคุมจิตใจ และการมีจิตใจที่คับแคบหรือปิดสนิท, ความโลภ, ความริษยา, การโกงกิน, อคติ, ทุจริต, สารเคมีที่เป็นอันตรายและยาเสพติด,

การปราศัยโจมตีกันทางการเมือง และระเบียบราชการที่มีพิธีรีตรองและยืดยาดอืดอาด, การทำลายล้างอย่างป่าเถื่อน, การมีโรคภัยไข้เจ็บ, ความโกรธ, ความเหี้ยมโหดอำมหิต, ความแตกแยก ,ความเห็นแก่ตัวและยึดมั่นในอัตตา, ความไม่ซื่อสัตย์, ความคิดที่ฝักไฝ่สงคราม, การผลิตอาวุธยุทโธปกรณ์, การเสพติดต่างๆ, สื่อลามกอนาจาร, การเร่ร่อนไร้ที่อยู่อาศัย, การค้าทาส, การควบคุมสื่อมวลชน, การผูกขาดขององค์กรใดๆ

ที่พวกเรากล่าวถึงพฤติกรรม, คุณลักษณะเฉพาะ และสภาพต่างๆเหล่านั้น ที่เพิ่มมากขึ้นอย่างรวดเร็วในโลกมิติที่ 3 ของพวกคุณนั้น ก็เพื่อที่จะทำให้พวกคุณดีใจว่า พวกมันจะสาบสูญไปในระยะเวลาอันใกล้นี้แล้ว เพราะว่า ระดับการสั่นสะเทือนต่ำๆของพวกมัน จะไม่สามารถดำรงอยู่ได้ ในโลกของมิติที่ 4 ที่พวกคุณกำลังจะไปถึงในอีกไม่ช้านี้ และตอนนี้พวกเราก็จะบอกว่า ถ้าความรู้สึกนึกคิดของพวกคุณยังคงหลงติดอยู่กับทัศนคติหรือเงื่อนไขต่างๆเหล่านั้น อันเป็นสาเหตุแห่งความเดือดร้อนของผู้คนมากมายอยู่หละก็ ให้เปลี่ยนความคิดและการกระทำซะใหม่

ให้หันมาทำแต่สิ่งที่พวกคุณต้องการเท่านั้น ซึ่งนั่นก็คือ ความรัก, ความกลมเกลียว, ความใจดีมีเมตตา, ความเห็นอกเห็นใจซึ่งกันและกัน, การมีสุขภาพที่ดี, ความมั่งคั่ง, การให้ความเคารพซึ่งกันและกัน , การเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่, การช่วยเหลือกัน, ความเบิกบาน, การร่วมมือกัน, ความซื่อสัตย์, การให้อภัย, ความซาบซึ้งบุญคุณ, และการปราศจากความกลัว
</TD></TR></TBODY></TABLE>

ยืนยันแล้วว่า ปลายปีนี้ครับ (เข้าสู่มิติที่ 4 )​

อ้างอิง:
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; FONT: 12pt verdana, geneva, lucida, 'lucida grande', arial, helvetica, sans-serif; BORDER-LEFT: 1px inset; COLOR: rgb(0,0,0); BORDER-BOTTOM: 1px inset; BACKGROUND-COLOR: rgb(247,243,247)">ที่พวกเรากล่าวถึงพฤติกรรม,คุณลักษณะเฉพาะ และสภาพต่างๆเหล่านั้น ที่เพิ่มมากขึ้นอย่างรวดเร็วในโลกมิติที่ 3 ของพวกคุณนั้น ก็เพื่อที่จะทำให้พวกคุณดีใจว่าพวกมันจะสาบสูญไปในระยะเวลาอันใกล้นี้แล้ว เพราะว่า ระดับการสั่นสะเทือนต่ำๆของพวกมัน จะไม่สามารถดำรงอยู่ได้ ในโลกของมิติที่ 4 ที่พวกคุณกำลังจะไปถึงในอีกไม่ช้านี้</TD></TR></TBODY></TABLE>
ที่มา http://palungjit.org/threads/จุดจบข...งใหญ่ที่กำลังจะเกิดขึ้นเร็วๆนี้.329774/page-8