ประเทศไทยจะเกิดอุบัติภัยอย่างที่ทำนายกันจริงๆหรือไม่

*** หลังสรรพภัยทั้งปวงกึ่งพุทธกาล ***

เมื่อเรารอดพ้นภัย
เราก็จะได้พบกับ..."หลักสัจจะธรรม"
ท่านทุกคน...มุ่งที่จะปฏิบัติตนด้วย "สัจจะ"
ท่านจะพบว่า....สิ่งที่ข้าพระพุทธเจ้าได้นำมาบอก...คือ คำเตือนจากใจจริง
และ เป็นความจริงทุกประการ

- " หนุมาน ผู้นำสาร "

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=bottom background=images/brkn_red_midtop.gif>ประจำวันที่ 11 กรกฎาคม 2550

<!----></TD><TD width=8></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR vAlign=top><TD width=1 bgColor=#000000></TD><TD bgColor=#dddddd><!-- CONTENT --><TABLE height="100%" cellSpacing=0 cellPadding=0 width="96%" align=center border=0><TBODY><TR vAlign=top><TD width="85%">
<!--<TABLE width=501 cellpadding=0 cellspacing=0 align=center border=0>--><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR vAlign=top><!--<TD width=1 bgcolor="#000000"></TD>--><TD width=468 bgColor=#dddddd>
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=10 width="96%" align=center border=0><TBODY><TR><TD height=70>สหรัฐฯส่งเรือบรรทุกเครื่องบินลำที่สามไปตะวันออกกลาง </TD></TR><TR><TD vAlign=top bgColor=#ededed>13:56 น. กองทัพเรือสหรัฐฯเปิดเผยว่า กำลังส่งเรือบรรทุกเครื่องบินพลังงานนิวเคลียร์ลำที่ 3 คือ "ยูเอสเอส เอนเตอร์ไพรซ์" พร้อมทหารเรือและนาวิกโยธิน 5,500 นาย และเครื่องบินรวม 70 ลำกับเฮลิคอปเตอร์ 4 ลำ ออกจากเมืองนอร์ฟอล์ค รัฐเวอร์จิเนีย ไปยังตะวันออกกลาง เพื่อสมทบกับเรือ 2 ลำก่อนหน้านี้ คือ "ยูเอสเอส จอห์น ซี สเตนนิส" และ"ยูเอสเอส นิมิตซ์"ซึ่งสหรัฐฯส่งไปลาดตระเวณในอ่าวเปอร์เซีย,ทะเลอาหรับ และมหาสมุทรอินเดียมาตั้งแต่เดือนกุมภาพันธุ์ พร้อมทหารเรือและนาวิกโยธิน 15,000 นาย การส่งเรือบรรทุกเครื่องบินลำใหม่ไปยังภูมิภาคดังกล่าว เป็นการเสริมขีดความสามารถทางทหารของสหรัฐฯ ในช่วงที่กำลังเกิดความขัดแย้งกับอิหร่าน และมีการเพิ่มการรณรงค์ทางทหารในอิรัก ก่อนหน้านี้ รัฐบาลอิหร่านขู่หลายครั้งแล้วว่า จะขัดขวางเส้นทางขนส่งน้ำมันที่คับคั่งที่สุดของโลก แถบช่องแคบยุทธศาสตร์ฮอร์มุซ ซึ่งตั้งอยู่ระหว่างอิหร่านกับคาบสมุทรอาหรับ หากสหรัฐฯโจมตีอิหร่านจากความขัดแย้ง เรื่องโครงการนิวเคลียร์
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=10 width="96%" align=center border=0><TBODY><TR><TD height=70>แนวสันเขื่อนหาดวอนนภาพัง ชี้ผลจากคลื่นลมแรง </TD></TR><TR><TD vAlign=top bgColor=#ededed>16:20 น. นายสวัสดิ์ หอมปลื้ม นายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองแสนสุข อ.เมือง จ.ชลบุรี เปิดเผยว่า บริเวณชายหาดบางแสนและหาดวอนนภา เป็นพื้นที่ซึ่งได้รับผลกระทบจากคลื่นลมแรง จนต้องมีการวางมาตรการป้องกัน จะเห็นได้ว่า อดีตที่ผ่านมาบริเวณชายหาดบางแสนได้มีการพัฒนาโดยการทำถนนบริเวณชายหาด ปรากฏว่าได้เกิดพายุและลมแรง ทำให้ถนนเกิดการชำรุดเสียหาย ทางเทศบาลจึงได้ทำการสร้างเขื่อน บริเวณชายหาดเพื่อป้องกันกัดเซาะของน้ำทะเล "ช่วงแรกก็ไม่มีปัญหาต่อมาระยะหลังพบว่า คลื่นลมแรงผิดปกติทำให้เขื่อนกั้นคลื่นเกิดการชำรุดเสียหาย โดยเฉพาะบริเวณหาดวอนนภาจะพบมากที่สุด หากจะเกี่ยวกับโลกร้อนหรือไม่ เรื่องนี้ไม่แน่ใจ แต่ช่วงระยะหลังพบว่ามีคลื่นลมแรงที่ผิดปกติกว่าในอดีตมาก โดยเฉพาะในช่วงเดือนกรกฎาคมถึงสิงหาคม นอกจากนี้ยังพบว่ามีพายุแรงมาก บางครั้งต้อง เตือนประชาชนตามเสียงทางสาย" นายสวัสดิ์ กล่าว รายงานข่าวแจ้งว่า ความเปลี่ยนแปลงทางด้านธรณีวิทยาที่เกิดขึ้น ได้เริ่มมาตั้งแต่ในช่วงปลายปี 2549 ที่ผ่านมาพบว่าการขึ้น-ลงของน้ำทะเลบริเวณศาลาชายทะเลศาลารวมใจชน เขต อ.เมือง จะมีขึ้นมากผิดปกติ สูงถึง 0.5 เมตรทั้งที่ใน อดีตที่ผ่านมาไม่เคยมีน้ำขึ้นสูงขนาดนี้ ที่สำคัญมีแนวยาวจากชายฝั่งถึงศาลากลางจังหวัด ชลบุรีระยะทางประมาณ 1 กิโลเมตร
</TD></TR></TBODY></TABLE>

 

วิกฤตทางเศรษฐกิจรอบสอง?


​

ค่าเงินบาทพ่นพิษ โรงงานเจ๊ง ลอยแพคนงานกว่า 6,000 คน

พิษเงินบาทโรงงานส่งออกไนกี้-อดีดาสเจ๊ง ลอยแพคนงาน 6 พันคนเศร้า ก่อหวอดประท้วงขู่บุกก.แรงงานขอความช่วยเหลือ ไร้เงานายจ้างคาดเผ่นหนี รวม.แรงงานเต้น สั่งกสร.จี้นายจ้างจ่าย 150 ล้าน พร้อมนำเงิน 200 ล.บรรเทาปัญหา เผย โรงงานพื้นที่ส่อปิดอื้อ

(11กค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงเช้าวันนี้มีคนงานบริษัทไทยศิลป์ อาคเนย์อิมพอร์ต เอ็กพอร์ต จำกัด ซึ่งตั้งอยู่เลขที่ 79 หมู่ 14 ถ.กิ่งแก้ว ต.ราชาเทวะ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ กว่า 6,000 คน ได้รวมตัวปิดถนนกิ่งแก้วหน้าบริษัทประท้วง กรณีที่บริษัทได้ปิดประกาศเลิกจ้างทำให้พนักงานจำนวนมากถูกลอยแพกระทันหัน ทำให้การจราจรบริเวณดังกล่าวติดขัดรถสัญจรไปมาไม่สะดวก ทั้งนี้คนงานที่ประท้วงต่างสับสนกับเหตุการณ์ดังกล่าวบางคนถึงกับร้องไห้เสียใจ เศร้าซึมไปตามๆกัน

นายชุลี กองยุทธิ์ แกนนำเครือข่ายแรงงานบ.ไทยศิลป์ฯ กล่าวว่า บริษัทได้มีการติดป้ายเลิกจ้างเวลาประมาณ 02.00 น.ขณะที่คนงานที่เดินทางไปทำงานตอนเช้าก็ไม่สามารถเข้าไปทำงานได้ ขณะนี้มีคนงานประมาณ 6,000 คนมีการชุมนุมปิดถนนประท้วงการเลิกจ้างพร้อมทั้งขอเรียกร้องเงินค่าชดเชย และสวัสดิการต่างๆที่จะได้รับ ก่อนหน้านี้ไม่เคยมีสัญญาณ นายจ้างไม่เคยบอกล่วงหน้า

หลายคนร้องให้เสียใจเพราะทำงานที่นี่มานานไม่อยากย้ายไปไหนและเกรงว่าไปทำงานที่อื่นไม่มีใครรับ อย่างไรก็ตามขณะนี้กำลังประสานงานกับนายจ้างให้ออกมาเจรจากับลูกจ้างโดยด่วนไม่เช่นนั้นเราก็จะยังคงประท้วง พร้อมขอเรียกร้องให้กระทรวงแรงงานเข้ามาช่วยด้วย คนงานบริษัทไทยศิลป์และเครือข่ายตัดเย็บเสื้อผ้าใน จ.สมุทรปราการ จะมีมาตรการไปร่วมชุมนุมกันที่กระทรวงแรงงานอย่างแน่นอน

นายบุญลือ ยอดบุญ ผู้จัดการฝ่ายผลิตบ.ไทยศิลป์ฯ กล่าวว่าเพิ่งทราบว่ามีการเลิกจ้างในเช้าวันนี้เช่นวันเดียวกับพนักงานอื่นๆ เนื่องจากที่ผ่านมาไม่เคยส่งสัญญาณหรือแนวโน้มการเลิกจ้างอะไร ทั้งนี้ในวันที่ 17 ก.ค.จะมีตัวแทนฝ่ายนายจ้างและลูกจ้างนัดเจรจากัน อย่างไรก็ตามตนในฐานะลูกจ้างต้องต่อสู้ให้ถึงที่สุดตามสิทธิที่มี แต่ตอนนี้ทุกคนยังมืดมนไม่มีแนวทางในการต่อสู้

​

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>กองทัพหนูร่วม 2 พันล้านตัวจู่โจมหูหนัน </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE>​

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>

</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>

11 กรกฎาคม 2550 18:32 น. โดยผู้จัดการออนไลน์​

​

</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>ภาพประกอบจากทางอินเตอร์เน็ต</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>เอเอฟพี-ประชาชนในอำเภอ 20 แห่งทั่วมณฑลหูหนันทางภาคกลางของจีน เดือดร้อนหนัก หลังจากหนูร่วม 2,000 ล้านตัวหนีตายน้ำท่วมจากทะเลสาบใกล้เคียงเข้ามาทำลายเรือกสวนไร่นาของชาวบ้านเสียหายยับเยิน และทำให้สุขภาพของประชาชนตกอยู่ในความเสี่ยง ไชน่าเดลี่รายงานวันพุธ(11)

ชาวบ้านต่างพากันโต้ตอบมันอย่างหนัก ด้วยการใช้พลั่วตีหนูจนตายหรือวางยาพิษกำจัดหนูไปทั่ว เฉพาะในตำบลหนึ่งแห่งสามารถฆ่าหนูไปได้ 2.3 ล้านตัว รายงานข่าวระบุ

 

*** เรียนรู้ ภาษากรรม ****

๑. สิงคโปร์แล้ว ...
๒. ต่อไปมาเลเซีย
๓. เพื่อนๆ รอบบ้าน
แอบ แทรก เพิ่ม แฝง ทั่ว ซุ่ม จ้าง ทุ่ม แซง วาน หลอก เงียบ ล้าง ครอบ สมอง ใช้ บุก ครอง ยึด ก่อ ปลด ฆ่า เผา ทำ ละ ลาย ร้าย การ ฐาน บ้า เสียง นอก พวก ศาสน์ ยิง ลอบ ปลด ระ เบิด ทะ หาร แค้น อำ นาจ บ้า เกลียด แย่ง แบ่ง แยก ขัด ดิน แตก แผ่น หนี ปลง ภัย พระ คน เดือด หิว อด ร้อน ข้าว โรค หมด ไร้ ยาก รีบ หา ทาง หน รอด กรรม ด้วย สัต จะ ช้า ไม่ ทัน กรรม

- " หนุมาน ผู้นำสาร "

 

เข้าทางเขา...ตกงาน จ้างไป เป็นภาพม็อบ ยุ่งดี

 

คุณหนุมาน ได้ฌาน???

ถึง คุณหนุมาน ผู้นำสาร
ทำไม คุณสามารถทำนายสิ่งต่างๆได้ ซึ่งน่าจะใช่ความจริง ผมเชื่อ
แต่ว่า คุณใช้วิธีไหน????
อยากรู้จริงๆๆ
ขอบคุณล่วงหน้าครับ(verygood)

 

*** สิ่งที่คอยบอก คอยเตือน ****

ข้าพระพุทธเจ้า...ปฏิบัติด้วย "สัจจะ" ทุกวัน...วันละข้อ
ตั้งแต่ เช้า...ถึงหกโมงเย็น
แล้ว "สัจจะที่ทำได้"....จะบอกเราเอง

- " หนุมาน ผู้นำสาร "

 

ขอบคุณมากค่ะ เข้าใจแล้วค่ะว่าที่ผ่านมาฝืนตนเองมากเกินไปในเวลาที่จำกัด ตั้งใจใช้สัจจะฝึกฝนขจัดกิเลสนิสัยตนเอง โดยที่ตนเองไม่พยายามฝืนใจให้ทำได้ตามที่ตั้งสัจจะให้ตลอด ตามใจตนเองอยู่เรื่อย อิ อิ จะพยายามทำให้ได้มากขึ้น คือ อยากเห็นผลชัด เช่น จากดำเป็นขาว จะได้สามารถนำวิธีนี้ไปแนะนำผู้อื่นต่อได้ เพราะคิดนะคะว่า อุบัติภัยที่เราเผชิญอยู่ทุกวันนี้ เป็นวิบากของกรรมที่เราเคยกระทำมา ถ้าเราเปลี่ยนวิถีกรรม นั่นก็คือนิสัยที่เราเคยชินในการทำสิ่งต่าง ๆ ทางกาย วาจา ใจ ไปในทางที่ดีขึ้นโดยใช้พลังสัจจะอย่างที่คุณ "หนุมาน ผู้นำสาร" แนะนำมาตลอด ก็จะช่วยให้อุบัติภัยที่เราต้องเจอ ลดกำลังลงมา ถ้าทำได้กันมากขึ้นทั่วประเทศไทย ทั่วโลก ก็คงจะดีไม่น้อยนะคะ เพราะหากทุกสิ่งเป็นอนิจจัง สิ่งที่ทำนายไว้ย่อมคลาดเคลื่อนได้เสมอ ยกเว้นผู้ที่มีญาณหยั่งรู้ เช่น พระพุทธเจ้าทั้งหลาย ใช่มั๊ยคะ
(bb-flower

 

*** กรรมยังคงอยู่ แต่หลบเลี่ยงกันได้ ****

สิ่งที่ทำไว้แล้ว...เรียกว่า "ตัวกระทำ"
ตัวกระทำไม่ตาย....และมีผลตอบแทน
ตรงนี้ คือ......."หลักสัจจะธรรม"

ผลที่ย้อนกลับมา...ก็คือ "กรรม"
ที่จะปรากฏเป็นเหตุการณ์ต่างๆ ....มีทั้งดี ทั้งร้าย แล้วแต่การกระทำนั้นๆ

เรา...ไม่สามารถทำให้กรรม สูญหาย สูญสลายไปได้ !!!!!!!
แต่....เรา จะสามารถหลบเลี่ยงจากกรรมที่กำลังมาได้ด้วย... ผลจากการปฏิบัติสัจจะ !!!!!!!
เพราะ...สัจจะเป็นการปฏิบัติตามคำสอนของ โลกุตตระ (พระไตรปิฎก)
ส่งผลให้เกิด...กรรมเที่ยง....มีผลยิ่งใหญ่ประมาณค่ามิได้
จึงทำให้ กรรมหักเห เบี่ยงเบนไปได้...เกิดเป็นปฏิหาริย์ โชคดี แคล้วคลาด...
แล้วแต่จะเรียกกันไป

- " หนุมาน ผู้นำสาร "

 

ต่อไปภัยพิบัติที่คนไทยท้งหลายจะต้องเตรียมตัวเตรียมใจกันรับสภาพกันให้ดี ก็คือ ภัยพิบัติทางเศรษฐกิจ ที่กำลังส่อเค้าทะมึนอยู่เบื้องหน้า

ปรับตัว ปรับใจของเราให้น้อมเอา แนวคิดเรื่องเศรษฐกิจพอเพียงขององค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มาปรับใช้กับชีวิตของเราและครอบครัว เริ่มจากน้อยไปมาก จะช่วยทั้งตนเองและประเทศชาติได้

ขั้นที่หนึ่ง เลิกสิ่งที่เป็นอบายมุข เหล้าเบียร์ บุหรี่ การพนัน การเที่ยวเตร่เที่ยวกลางคืนอย่างไร้สาระ เอาเงินจากการเลิก ละอบายมุขมา

ลด ปลดหนี้ ที่ไม่เกิดรายได้ หรือเกิดรายได้แต่ไม่คุ้มดอกเบี้ย

เพื่อความเป็น " ไท " ทางเศรษฐกิจ

ขั้นที่สอง ดูรายได้ที่ไม่จำเป็น ฟุ่มเฟือยก็ตัดออกเสียบ้างโดยที่เราไม่เดือดร้อน ลดมื้ออาหารหรูๆนอกบ้าน อ่าหนังสือห้องสมุด แชร์เพลงฟังกับเพื่อนๆ ดูหนังที่บ้านช้าหน่อยแต่ถูกกว่ากันเยอะ นำของที่ไม่ใช้ไปขายบ้าง บริจาคบ้าง ซื้อของที่เซลล์ หยุดซื้อของที่ไม่จำเป็น

แล้วนำรายได้มาเป็นเงินออม เงินเก็บ สะสมเป็นทุนเอาไว้

 

*** สัจจะ พอเพียง ****

หาก...มนุษย์ช่วยกัน....กำหนด "สัจจะ" ให้กับตนเองว่า
.......ใช้ชีวิตด้วยความพอเพียง วันละ ๑ ชั่วโมง.......
ผลที่เกิดขึ้นคือ....มนุษย์ จะเริ่มรู้จัก พิจารณาการกระทำของตนเอง...และผลของการกระทำของตนเอง
เมื่อ...การดำเนินชีวิตผ่านไปด้วย การมี"สัจจะ" นำทางชีวิต
นิสัย....ความฟุ่มเฟือย การใช้ การจ่ายแบบไม่ยั้งคิด...จะค่อยๆ ถูกปรับเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้น
ผลที่เกิดขึ้นทาง นามธรรม...คือ ตัวกระทำ ....หมายถึงผลที่เกิดขึ้นจากการกระทำ แต่มองไม่เห็นด้วยตาเปล่า
ซึ่ง ...ตัวกระทำ ของมนุษย์ทั้งโลก....เมื่อรวมกัน จะส่งผลยิ่งใหญ่ ทั้งในปัจจุบันที่เริ่มปฏิบัติตนด้วย "สัจจะ"
และ จะส่งผลตอบแทนต่อมนุษย์ สัตว์ ต้นไม้ สิ่งแวดล้อมทั้งมวล...ไปในทางที่ดี ในอนาคต

ไม่มีสิ่งใดที่จะช่วยให้โลกรอดพ้นจาก....สรรพภัยทั้งปวงกึ่งพุทธกาล...ไปได้ นอกจาก "การปฏิบัติสัจจะ"....เพราะ คือ หนทางปฏิบัติหนึ่งเดียว ที่เป็นไปตาม "หลักสัจจะธรรม"

- " หนุมาน ผู้นำสาร "

 

บางเวปไซต์ที่เป็นเรื่องการเมือง เริ่มจะมีโพสต์ข้อความกล่าวไปในทำนอง โจมตีสถาบันพระมหากษตริย์แล้ว เหมือนโยนหินตามทาง ก่อชนวนทำลายความน่าเชื่อถือและความศรัทธาแล้ว คิดว่ามีการทำเป็นขบวนการ เพื่อบ่อนทำลายประเทศชาติ
<!-- / message -->

 

กฏแห่งกรรมมีจริงครับ คนอกตัญญูต่อแผ่นดิน แม้ในหน้าประวัติศาสตร์ จะยกย่องให้ดีให้เด่นอย่างไร แต่ท้ายสุดก็ไม่อาจได้ตายในแผ่นดินแม่อันเป็นบ้านเกิดได้

คนดีแห่งแผ่นดิน แม้ถูกป้ายให้เข้าใจผิด ถูกเกลียดชังอย่างไร ท้ายสุดก็กลับคืนสู่ประเทศไทยได้ ขอแค่มีจิตที่จงรักภักดีต่อองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ด้วยใจที่บริสุทธิ์เท่านั้น

หากเป็นคนไทยไม่เข้าใจในเรื่อง ความสำคัญและการสอดประสานเป็นหนึ่งเดียวแห่งสถาบันทั้งสาม อันได้แก่

ความเป็นชาติ(คุณธรรมแห่งการดำรงความเป็นชาติก็คือความสามัคคีและความเสียสละ)

พระบวรพุทธศาสนา(คุณธรรมที่ชวยธำรงความบริสุทธิ์แห่งพระศาสนา ก็คือ ความศรัทธา ปัญญา และการปฏิบัติเพื่อให้เข้าถึงซึ่งความดีอนเป็นแก่นในพระพุทธศาสนา)

สถาบันพระมหากษัตริย์(คุณธรรมที่ช่วยหนุนนำค้ำจุน สถาบันพระมหากษัตริย์ก็คือ ความจงรักภักดี ความกตัญญู และ การรู้คุณท่าน)

สถาบันพระมหากษัตริย์ทรงเป็นศูนย์รวมจิตใจของคนไทยทั้งชาติ ทรงเป็นองค์เอกศาสนูปถัมม์แห่งพระบวรพุทธศาสนา

ในมุมแห่งสมาธิจิต พระมหากษัตริย์แห่งราชอาณาจักรไทย ทรงเป็นพระมหาโพธิสัตว์ผู้ทรงลงมาจุติเพื่อทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา ดังนั้น พระมหากษัตริย์ไทยทุกๆพระองค์ ท่านจึงทรงเป็น "พระเจ้าธรรมมิกราช"ผู้ทรงคุณธรรม แล พระคุณอันประเสริฐต่ออาณาประชาราษฏร์เสมอมา

"หากแม้นผู้ใดก้าวล่วงละเมิด ก็ย่อมมีอันเป็นไป ในที่สุด"

 

พระอัจฉริยะภาพ ของพระเจ้าอยู่หัวของเรา ยิ่งใหญ่จริงๆ
พระองค์ทรงทราบในเบื้องหน้าว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นกับประเทศชาติ
จึงทรงดำริเรื่องเศรษฐกิจพอเพียง มาแต่เนิ่นๆ พอให้เราได้ศึกษา
เรียนรู้ เมื่อถึงเวลาก็จะได้เข้าใจ และหยิบมาใช้ได้ทันที

ณ เวลานี้ น่าจะเรียกได้ว่า ถึงเวลาแล้ว
ไม่ต้องคิดหน้าคิดหลัง
เงินบาทกำลังถูกโจมตี จากมิตรประเทศที่เราคิดว่าดีที่สุด
กิจการค้าส่งออก ขาดทุนย่อยยับ มีอันต้องปิดตัว เลิกกิจการ
ไปแล้วเป็นพันๆ แห่ง

ทำให้เกิดความคิด ย้ายฐานการผลิตไปประเทศเพื่อนบ้าน
ที่สกุลเงินไม่มีผลกระทบเช่นบ้านเรา

หากไม่แก้ไขกันให้ทันสถานการณ์
เศรษฐกิจบ้านเราคงดูไม่จืด
ผู้คนจะตกงานอีกมาก

ภัยที่จะตามมาอีก คือ โจรผู้ร้ายจะชุกชุม
คนทำมาหากินโดยสุจริต ต้องหวาดผวา
เมื่อไหร่โจรขโมย จะขึ้นบ้าน เข้าร้าน
แล้วยังจะต้องเสี่ยงถูกทำร้ายถึงชีวิต
ตามข่าวที่มีให้เห็นอยู่แทบทุกวัน

โจทย์ข้อนี้ น่าคิด เพราะเป็นภัยที่มาใกล้ชิดติดตัวมาก
ช่วยกันกำหนดจิต สวดภาวนากันเป็นประจำ
ให้ผู้คิดการร้าย ได้มีสติ
หันมาช่วยกันพัฒนาบ้านเมืองดีกว่า

 

ค่าเงินบาท จุดตายเศรษฐกิจไทย

<HR class=b>​

สุกรี แมนชัยนิมิต Positioning Magazine เมษายน 2550
​

ภาพประกอบจากทางอินเตอร์เน็ต​

สถิติมีไว้ให้ทำลาย แต่บางสถิติสำหรับบางอย่างหากถูกทำลายบ่อย ๆ อาจเกิดหายนะขึ้นมาได้ เหมือนอย่างที่เกิดกับภาวะเงินบาทแข็งค่าขึ้นอย่างต่อเนื่อง จนกลายเป็น

 

สัญญาณอันตรายจาก ภัยเศรษกิจ
1.เสียสภาพคล่อง เริ่มหมุนปัจจัยไม่ทัน
2.บริษัทเริ่มตัด OT
3.มีการประกาศ ว่าบริษัทได้รับผลกระทบจากภายนอก
4.ลดเงินโบนัส ลดการดูงานต่างประเทศ
5.ลูกค้าลดการสั่งซื้อ หรือไม่สั่ง Order

ถ้าเห็นสิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นต้องทำใจไว่ล่วงหน้าแล้วครับ

 

ขออย่างเดียว อย่าตัดสินเดินทางบนสายความตาย เด็ดขาด
มันไม่คุ้มกับชีวิตที่เกิดมา
หากเลือก.....คุณจะไม่มีโอกาสเกิดเป็นมนุษย์อีกนานแสนนาน
ความตาย ไม่ได้เป็นสิ่งยุติปัญหาทั้งหมด แต่จะกดจิตวิญญาณ
ให้ต่ำลง ๆ เทียบได้กับเดียรัจฉาน โอกาสทำบุญต่อเนื่องแทบไม่มี

 

เมื่อวานมีโอกาสแวะไปสนทนาธรรมกับผู้อาวุโสท่านนึงที่สถานธรรมแถวดอนเมือง - สำนักอนุตรธรรม

ท่านเล่าให้ผมฟังหลายเรื่อง บอกว่ายุคนี้เป็นยุคปลายแล้ว พระแม่องค์ธรรมจึงเปิดโอกาสให้ผู้ที่บำเพ็ญธรรมอย่างจริงจังในยุคขาวนี้ โดยเฉพาะเหล่าปุถุชนทั้งหลาย ให้มีโอกาสหลุดพ้นกลับคืนฟ้าได้ง่ายกว่าเมื่อก่อน โอกาสเช่นนี้เพิ่งเกิดขึ้นได้ไม่ถึง 80 กว่าปีนี่เอง ให้"รู้"ก่อนแล้วบำเพ็ญทีหลัง (ที่ผ่านมาต้องบำเพ็ญก่อนแล้วจึงรู้) พระอาจารย์จี้กงท่านบอกกับลูกศิษย์ว่า

- ให้ลงมือบำเพ็ญปฎิบัติธรรมให้ได้อย่างน้อย 3 ส่วน เบื้องบนช่วยแบกรับผลกรรมให้ถึง 7ส่วน เปิดโอกาสให้เรามีเวลาแก้ไขกรรมเก่าและหยุดสร้างกรรมใหม่ได้ง่ายขึ้น

- ผู้บำเพ็ญธรรมจริงจัง 1 คนสามารถส่งกุศลผลให้เกิดกับบรรพบุรุษถึง 7 ชั้น และถึงลูกหลานอีก 9 ชั่วคน เพราะเบื้องบนมองเห็นว่าตอนนี้ลูกๆเอาแต่ทะเลาะกัน เกี่ยวกรรมกันมากขึ้น จึงเปิดช่องทางให้ลูกๆที่เคยก่อผลกรรมกันไว้ ได้มีโอกาสแก้ไขกรรมที่เคยเกี่ยวข้องกันในรอบ 60,000 ปีนี้

ผู้ที่เคย"รับธรรมะ"และบำเพ็ญธรรมต่อเนื่อง จะมีธงติดศรีษะกันทุกคน เสมือนได้รับการคัดเลือกให้ผ่านเข้าสู่ยุคขาว ธงนั้นมีหลายสี เช่นสีม่วง สีเหลือง สีเขียว และสีดำ โดยเฉพาะผู้ทีถูกติด"ธงสีม่วง"ไว้คือเป็นเหล่าซือ ทานเจตลอดชิวิตสิ่งศักดิ์สิทธิ์ท่านจะคอยดูแลเป็นพิเศษในขณะที่เกิดการชำระความกันขึ้น

ส่วนมากที่นี่จะเน้นทานเจไม่เบียดเบียนชิวิตสัตว์ ทราบมาว่าฝุ่นกัมมันตภาพรังสีแบบอ่อนๆจะไม่มีผลรุนแรงกับร่างกายผู้ไม่ทานเนื้อสัตว์ด้วย ลดการทานลงได้ก็จะดีครับเป็นการแสดงออกถึงความมีเมตตาจิตต่อสรรพสัตว์ด้วย ตอนนี้เขาเกรี้ยวกราดมากๆ และพร้อมที่จะเอาคืนกับมนุษย์ทุกคนที่เบียดเบียนชิวิตเขาอย่างเต็มกำลัง พระะอาจารย์ฯ บอกว่าภัยจะเกิดในเวลาที่ทุกอย่างดูเหมือนสงบนิ่ง

ช่วงนี้ การชดใช้ผลกรรมต่อกัน มักเกิดขึ้นกระทันหัน ไม่ทันตั้งตัว และไม่บังเอิญ ทุกเหตุการณ์ล้วนถูกวางแผนไว้ก่อน แม้ตาเนื้อผู้ถูกกระทำไม่เห็น แต่จิตเขาก็รับรู้และบันทึกไว้ทุกๆขั้นตอน เพราะเขาต้องการให้คู่กรรมของเขาไปทุกข์ทรมานกับเขาด้วยอีกเป็นแสนๆปี อาจต้องไปเกิดเป็นสรรพสัตว์ต่างๆอีกนานกว่าจะกลับมาเกิดเป็นมนุษย์ได้อีกครั้ง..

เมื่อวานจึงได้ถวายปัจจัยพิมพ์หนังสือธรรมมะกับทางสถานธรรม และเลือกหนังสือธรรมะมาอ่านเพิ่มเติมความรู้ ไม่ได้ไปมากว่า 3 ปีแล้ว มีโอกาสก็ขอเชิญชวนพวกเราไป"รับธรรมะ" กันไว้ไม่เสียหลายติดต่อมาได้ทุกเวลาครับ