ประเทศไทยจะเกิดอุบัติภัยอย่างที่ทำนายกันจริงๆหรือไม่

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย koymoo, 25 มกราคม 2005.

  1. mead

    mead เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2005
    โพสต์:
    8,134
    ค่าพลัง:
    +62,441
    โลก... เหลือเวลาให้เราอีกกี่วัน?

    [​IMG]

    ฮือฮาไม่ใช่เล่น เมื่อมีการเปิดปูมจดหมายของ เซอร์ ไอแซค นิวตัน บิดาแห่งฟิสิกส์และดาราศาสตร์ยุคใหม่ ที่ทำนายว่าโลกจะถึงกาลอวสานในปี 2060 หรืออีก 53 ปีข้างหน้า ซึ่งเป็นเวลาที่การวางรากฐานของอาณาจักรโรมันในยุโรปตะวันตก เวียนมาครบ 1,260 ปี

    ไม่มีใครบอกได้ว่าคำทำนายดังกล่าวจะเป็นจริงหรือไม่ หรือถ้าเป็นจริง คนที่มองโลกในแง่ดีสุดขีด โดยเฉพาะในรายที่ย่างเข้าเลข 2 แก่ๆ แล้ว คงไม่คิดว่าตัวเองจะอยู่ถึงป่านนั้น แหม...มันตั้งอีก 50 กว่าปีเชียวนะ

    การทำนายทายทักถึงวันอวสานของโลกมีมากมายหลายทฤษฎี เชื่อได้บ้าง ไม่ได้บ้าง ขึ้นอยู่กับว่าใช้หลักการหรือศาสตร์ใดมาสนับสนุนคำทำนาย

    ทฤษฎีที่โด่งดังมากสุดคงต้องยกให้กับคำทำนาย ที่ว่า โลกบูดเบี้ยวใบนี้จะแตกดับในวันที่ 21 ธ.ค. 2012 หรืออีกแค่ 5 ปีข้างหน้า...ด้วยชุดเลขสวย 212012

    ทฤษฎีนี้คิดค้นขึ้นโดยชนเผ่ามายัน วันดังกล่าวถือเป็นวันสิ้นสุดปฏิทินลอง เคาต์ (Long Count) หรือ ปฏิทินลำดับที่ 3 ของชาวมายัน โดยปฏิทินลอง เคาต์ เล่มล่าสุดนั้น เริ่มต้นในปี 3114 ก่อนคริสตกาล และจะดำเนินต่อเนื่องเป็น 13 รอบบักตุน (baktun) กินเวลาทั้งสิ้นราว 5,126 ปี บวกลบออกมาแล้วก็ตรงกับปี 2012 พอดิบพอดี

    การเริ่มต้นของ 13 รอบบักตุน เรียกได้อีกอย่างว่า
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 กรกฎาคม 2007
  2. แม่นายมล

    แม่นายมล เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    1,069
    ค่าพลัง:
    +6,258

    เห็นด้วย!!!!

    ต่อให้สิงคโปร์ทำเขื่อนได้ วันนั้นมาถึง เขาก็ต้องจมอยู่ดี
     
  3. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,696
    ค่าพลัง:
    +51,932
    *** คำเตือน จากดินฟ้าอากาศ... ให้รีบหาเครื่องป้องกัน ****
    <O:p</O:p
    บอกให้เรา...รีบหาเครื่องปกป้องกันตนเอง<O:p</O:p
    แต่...เราก็ยังหลงอยู่กับ....วิชาการตะวันตก <O:p</O:p
    ความเชื่อที่ยังมองไม่เห็นความจริง "หลักสัจจะธรรม"<O:p</O:p
    <O:p</O:p


    หันย้อนกลับไป...สมัยพุทธกาล<O:p</O:p
    เครื่องปกป้องที่ดีที่สุด...คือ "สัจจะ"<O:p</O:p
    พระองค์...สอนให้พึ่งตนเอง....คือ พึ่งการการทำที่ได้ทำไปแล้ว<O:p</O:p
    คือ พึ่งกรรมดี...กรรมที่ดีที่สุด คือ "กรรมเที่ยง"<O:p</O:p
    กรรมเที่ยง ...เกิดจาก ความตั้งใจแล้วทำได้จริง<O:p</O:p
    <O:p</O:p


    ปฏิบัติตนด้วย "สัจจะ"...คือ การปฏิบัติตาม "หลักสัจจะธรรม"<O:p</O:p
    เพราะ...สิ่งที่ทำวันนี้...ไม่ตาย ไม่สูญสลาย จะส่งผลให้กับเราตลอดไป<O:p</O:p
    <O:p</O:p


    ดินฟ้าอากาศ...จึงพยายามเตือนให้มนุษย์ทุกคน...มีการกระทำจาก "สัจจะ"<O:p</O:p
    <O:p</O:p


    - " หนุมาน ผู้นำสาร "<O:p</O:p
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 1 กรกฎาคม 2007
  4. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,696
    ค่าพลัง:
    +51,932
    *****************************
    พระคาถา
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 1 กรกฎาคม 2007
  5. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,696
    ค่าพลัง:
    +51,932
    *** โลกุตตระ พระไตรปิฎก ...โปรดช่วย ญี่ปุ่น ****
    <O:p</O:p

    ผู้อาศัยบนเกาะญี่ปุ่น...ให้ปฏิบัติตนด้วย "สัจจะ" ทุกวัน<O:p</O:p
    อย่างน้อยวันละข้อ<O:p</O:p
    เพื่อให้มี.... "การกระทำจาก สัจจะ"<O:p</O:p
    แล้วนำคาถาป้องกันสรรพภัยทั้งปวงกึ่งพุทธกาล...นี้<O:p</O:p
    แปลเป็นภาษาญี่ปุ่น...ท่องจำให้ขึ้นใจ !!!!<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    *****************************<O:p</O:p
    พระคาถา
     
  6. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    ยุคพระเจ้าจักรพรรดิ์ใกล้มาถึงแล้ว

    [​IMG]
    ภาพประกอบจาก www.dmc.tv

    พระคัมภีร์มัทธิว 24:30 กล่าวว่า
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 กรกฎาคม 2007
  7. อักขรสัญจร

    อักขรสัญจร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    4,513
    ค่าพลัง:
    +27,181
    ยุคทมิฬ หมายถึง คนจังไรทำตัวถืออำนาจสูงกว่าเจ้าเหนือหัว
    ถิ่นกาขาว หมายถึง คนที่เป็นพุทธปลอมพยายามทำลายพระศาสนา
    ชาววิไล หมายถึง คนไม่มีศีลตายเกลี้ยง เหลือแต่คนมีศีล
    ไทยมหารัฐ หมายถึง ชนชาติและแผ่นดินที่รักษาพระธรรมในส่วนต่างๆรวมตัวกันเป็นอาณาจักรเดียว
    จักรพรรดิราช หมายถึง คืนอำนาจสู่องค์กษัตริย์ พระมหาจักรพรรดิ์ขึ้นสู่บัลลังก์

    เล่าให้ฟังเล่นๆสุดแล้วแต่จะพิจารณา
    ไม่เถียงและไม่ตอบ
    อิอิ
     
  8. mead

    mead เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2005
    โพสต์:
    8,134
    ค่าพลัง:
    +62,441
    พระโอวาท“พระอนุตตรฯ มารดาสิบบัญญัติ
    ประทานเมื่อวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 6 ปีมะเส๊ง ตรงกับวันที่ 7 เดือนสิงหาคม พุทธศักราช 2484
    ข้อความดั้งเดิมในภาษาจีน พระอนุตรธรรมมารดา ได้โปรดประธานเป็นพระอักษร ให้ปรากฎขึ้นในกระบะทราย ณ พุทธสถาน จิงอี ประเทศไต้หวัน

    เรื่องช่วงเวลา ยุคเขียว ยุคแดง และเริ่มเข้าสู่ยุคขาว(ในปัจจุบัน)
    อาจไม่เป็นอย่างที่หลายๆท่านคิดไว้ แต่เป็นเรื่องมิติของฟ้าควรรับรู้เอาไว้ครับ

    จากที่พี่เกษมโพสไว้
    `บุตรมนุษย์เสด็จมาบนเมฆในท้องฟ้า'
    โลกจะปรากฎผู้นำใหม่ที่มาในมิติที่อยู่เหนือธรรมชาติ
    -----------------------------------------------------

    - สามศาสนา หลักไม่ต่าง เป็นทางสอง
    แม้มีทางรอง ห่างทางตรง หาใช่ไม่
    เริ่มมาจาก พระอริยะฟู่ซี* เป็นต้นไป
    พระฯ โปรดไข ด้วยหนึ่งขีด รู้เรื่องฟ้าดิน

    - หนึ่งขีดเผย สัจวิถี เป็นพื้นฐาน
    ยุคเขียว*นั้น พระทีปังกร อุบัติรุด (ยุคอมิตพุทธ)
    โปรดคัดเลือก สองร้อยล้าน พุทธบุตร
    ให้ล่วงหลุด พ้นเวียนว่าย ได้นิพพาน

    - ถึงยุคแดง ได้โปรดให้ ศากยะพุทธ
    อุบัติรุด เปลี่ยนใจคน ชนทั้งหลาย
    ได้ฉุดช่วย อีกสองร้อยล้าน (ดวงจิต) กลับคืนไป
    รวมช่วยได้ สี่ร้อยล้าน กลับนิพพาน

    - ยังคงเหลือ เก้าพันสองร้อยล้าน หลงทะเลทุกข์
    ขณะนี้เป็นยุค พระศรีอาริย์ ธรรมกาลยุคขาว
    บัญชา“เทียนหยาน” แปรชาวโลก ปกครองเจ้า
    เบื้องบนเรา ไม่หวงเทพฯ พุทธา ส่งมาช่วยงาน

    - ให้มาเกิดเพื่อ ช่วยงานอริยะ แปรเปลี่ยนโลก
    จะปรกโปรด คนจนก่อน คนรวยทีหลัง
    แล้วจึงช่วย คนมียศ ราชการ
    ต่อจากนั้น เจ้าเมืองกษัตริย์ ทุกชาติต่อไป

    - ให้ทุกคน พร้อมกันขึ้น บันไดฟ้า
    ด้วยเวลา เร่งกระชั้น คับขันยิ่ง
    ต้องบุกบั่น เด็ดเดี่ยวไป ให้ตรงดิ่ง
    แพร่คำจริง เปลี่ยนใจคน พ้นโลกีย์

    - ฟ้าดินใหญ่ แต่ธรรมะ ยิ่งใหญ่กว่า
    โองการฟ้า แม่บัญชา ศักดิ์สิทธิ์ยิ่ง
    แม้ปฏิบัติ เชื่อโอวาท ทำตามจริง
    จะให้สิ่ง ศักดิ์สิทธิ์เฝ้า เจ้าอยู่เย็นฯ

    - ต่อจากนี้ไป เป็นเรื่องใหญ่ สำคัญนัก
    จะประจักษ์ สัจการณ์ วันใกล้ใกล้
    หมื่นพันศาสน์ ลัทธินิกาย สำแดงกันใหญ่
    เรียกลมฝนได้ ด้วยมนต์คาถา ไสยศาสตร์ยันต์

    - ใช้อิทธิฤทธิ์ พลิกแผ่นดินฟ้า มหาสมุทร
    ทั้งสิงขรขุด ถมทะเล แปรแร่ธาตุ
    บ้างขี่เก้าอี้ ทะยานฟ้า มายาศาสตร์
    บ้างแปรห้าธาตุ แฝงอินหยาง* ดั้นเมฆกัน

    - ไสยศาสตร์ มายากล นับไม่ถ้วน
    หวังลูกล้วน จดจำไว้ ไม่หลงเขา
    หากเดินตาม สิ้นแสงญาณ* ทุกข์ไม่เบา
    เพราะย่างเข้า กำหนดยุคสาม ให้เห็นจริง

    - ในยุคนี้ แม่เจาะจง แผนแยบยล
    บันดาลดล เป็นไปตาม อำนาจแม่
    ที่สุดจะบัญชา ไสยศาสตร์ ให้หยุดแผ่
    แล้วให้แห่ มาชมบุญ ขบวนเซียน

    แปรห้าธาตุ แฝงอินหยาง คือ จะปรากฏอิทธิฤทธิ์มายาศาสตร์ ที่สามารถแปลงร่าง แฝงกายมาล่อใจผู้บำเพ็ญให้หลง

    - ถึงวันนั้น จะได้เห็น เจ้าลูกทึ่ม*
    ฤทธิ์ลึกซึ้ง พร้อมลูกสงฆ์ วิปลาศ*
    ถือธงเหลือง ปกาศิต ปลิวสะบัด
    ร้องประกาศ ทุกเทพฯ ไท ให้กลับตำแหน่งตน

    - ในบัดดล เวทมนต์ศาสตร์ จะเป็นหมัน
    เทพเทวัญ ไม่มีฤทธิ์ สถิตอยู่
    เหลือมือเปล่า ไม่อาจเอา ชนะศัตรู
    ใครจะอยู่ ใครจะไป ได้รู้กัน

    - หมื่นพันศาสน์ กราบศรีอาริย์ ร่วมสัจธรรม
    ยกย่องนำ พระจี้กง สงฆ์เก่าแก่
    พุทธรังสี ส่องสามโลก สว่างแท้
    เกิดเปลี่ยนแปร เศรษฐีกลับ กราบคนจน

    - คุณธรรม จะขยายไป ในสากล
    ทุกชาติชน เป็นเอกภาพ ทั่วโลกหล้า
    ไขความลับ บอกลูกแล้ว ก่อนเวลา
    พุทธบุตรปัญญา จงเร่งมือ บำเพ็ญเพียร

    เจ้าลูกทึ่ม : พระแม่องค์ธรรมหมายถึงพระศรีอาริย์
    ลูกวิปลาส : พระองค์หมายถึงพระพุทธะจี้กง ซึ่งแสร้งทำเป็นวิปลาส



    ส่วนบทนี้กล่าวถึงหลังผ่านวิกฤตไปแล้ว..เข้าสู่"ยุคขาว"เต็มตัว
    อยู่ในข้อสิบ

    - เตือนลูกทั้งหมด จุดหมายนี้ แจงถี่ถ้วน
    อย่าเรรวน เรื่องเก็บธรรมญาณ เป็นงานใหญ่
    ทั้งสามโลก เบื้องบนโปรด ถ่ายทอดให้
    พุทธบุตรได้ รับสัจธรรม ขึ้นฝั่งกัน

    - ทั่วโลกหล้า จะปรากฏ บัวทองงาม
    ยานทั้งสาม อนุตตรฯ เป็นยานใหญ่
    ยานชั้นกลาง ชั้นเทวโลก เสวยสุขไป
    ที่เกิดกาย คือยานชั้นต่ำ รวมเป็นสามยาน

    - เหนือฟ้านี้ ยังมีฟ้า มิใช่ว่าเล่น
    อนุตตรฯ เป็น แดนนิพพาน อันวิมุติ
    เทวโลกเป็น ทิพย์สถาน สำราญสุข
    ส่วนโลกมนษย์ เป็นที่อยู่ ของหญิงชาย

    - บนนิพพานเป็น แดนวิสุทธิ ที่สุดวิเศษ
    ส่วนเทวเขต ด่านเทวะ จะเวียนธรรมจักร
    แดนโลกีย์ รูปลักษณ์สามัญ ชีวิตสารพัด
    ต่างลำดับจัด จากผลเพียรธรรม สามระดับยาน

    - แม้หากบำเพ็ญ ธาตุของชีวิต เป็นจิตเดิมแท้
    ทางตรงแน่วแน่ ยานระดับสูง วิเศษไพศาล
    แต่หากบำเพ็ญ เวียนธรรมจักร กำหนดลมปราณ
    เป็นยานชั้นกลาง ได้ฌาณสติ สมาธิปัญญา

    - ยานระดับสาม ยึดในรูปลักษณ์ ติดพิธีกรรม
    สวดกันพึมพำ ตีเคาะประโคม ท่องบ่นอุบอิบ
    แต่มาบัดนี้ วิธีสุดท้าย ให้พ้นชีวิต
    ใครที่รู้จิต หลุดพ้นเวียนว่าย ได้ทางนิพพาน

    - มีหนึ่งสิบแปด* เด็กน้อยนั่งกลาง ระหว่างทวีป
    มีอิทธิฤทธิ์ ดังฟ้าแลบแปลบ แผ่นดินไหวตื่น
    ทั่วทั้งหญิงชาย ที่เคยหลับใหล พากันกลับฟื้น
    บ้านเมืองนับหมื่น จะถูกกอบกู้ ชูช่วยทั่วกัน

    - แล้วหมื่นพันพระ พุทธะอริยะ จะมาชุมนุม
    เข้าร่วมประชุม ณ ดินแดนกลาง ในระหว่างโลก
    เมื่อหักล้างหนี้ ไม่มีกรรมแล้ว ทั่วทั้งสามภพ
    จะเริ่มกำหนด ยุคขาวคงมั่น ตั้งแต่นั้นไป

    “หนึ่งสิบแปดเด็กน้อย” เป็นปริศนาธรรมตามลักษณะอักษรจีน ชี้ให้เห็นจุดสถิตจิตเดิมแท้ของคนเราที่มีความบริสุทธิ์ไร้เดียงสาเหมือนเด็กน้อย

    - จะกวาดให้พ้น คนเลวชั่วร้าย เหลือไว้คนดี
    แปรเปลี่ยนโลกนี้ จากทะเลทุกข์ ปลูกเป็นกุมุท*
    ให้โลกโลกีย์ เป็นแดนพุทธะ สะอาดบริสุทธิ์
    ให้ได้ชื่นสุข อย่างพระพุทธะ ระยะสี่พันปี

    - ในระยะนั้น ไม่มีฆ่าฟัน ดีงามไปหมด
    เขาธารใสสด กิเลนหงษ์ฟ้า มีมาเกิดใหม่
    ทะเลราบเรียบ บ้านเมืองสงบ อบอุ่นชื่นใจ
    ต่างคนรักใคร่ ไม่แย่งยื้อยุด ฉุดช่วงชิงกัน

    - ห้าวันลมเย็น สิบวันฝนฉ่ำ นำสู่โลกเหยา*
    พุทธะอริยเจ้า ฉุดช่วยหญิงชาย ได้สมใจหวัง
    พระศรีอริยะ ประทับทิพย์อาสน์ ประกาศประทาน
    ใครสร้างบุญบาร แต่งตั้งมอบหมาย เป็นไปตามบุญ

    - พุทธบุตรหลุดพ้น จากทะเลทุกข์ ร่วมขึ้นฝั่งกัน
    ลูกรักเทียนหยาน นำพาคนเดิม มากราบบาทแม่
    เมื่อถึงตรงนั้น แม่ค่อยโล่งใจ ไม่ชะเง้อแล
    บุญกุศลแท้ ใครทำใครได้ ดีใจรู้เอง

    กุมุท ดอกบัว หมายถึง บ้านเมืองที่สูงส่งดีงาม
    โลกเหยา คือ โลกในครั้งฮ่องเต้เหยาของจีน ที่มีแต่ความสงบร่มเย็น ลมฝนสม่ำเสมอ

    - คนนั้นเริ่มต้น บุกเบิกแพร่ธรรม นำมาเป็นหนื่ง
    คนนั้นรู้ซึ้ง สร้างบุญวิเศษ กุศลนำหน้า
    คนนั้นให้ทรัพย์ ธรรมะเป็นทาน มรรคผลเพิ่มพา
    คนนั้นสง่า สูงส่งเพราะรู้ อุทิศเพื่อธรรม

    - คนสร้างตำหนัก พุทธสถาน ตำแหน่งจินเซียน*
    ช่วยเบื้องบนเปลี่ยน แปรโลกโลกีย์ มีบัวเป็นูฐาน
    คนนั้นสู้เหนื่อย ได้อริยฐานะ ลำดับบัลลังก์
    คนที่จริงจัง โอบอ้อมศรัทธา จะให้ปานใด

    - ถึงเวลานั้น แบ่งยานทั้งสาม ผลบุญเก้าชั้น
    พุทธบุตรทั่วกัน ใครมีบุญมั่น สุขสันต์ทั่วหน้า
    แม้ยังมีกาย ไม่ตายก็สุข ใจกายสง่า
    เฟื่องฟูทั่วหน้า รื่นเริงสมบูรณ์ พูนสุขสำราญ

    - เมื่อไรทิ้งกาย จะได้กลับคืน ยังแดนนิพพาน
    พ้นกายสามัญ บรรลุโสดา เป็นพระอรหันต์
    เครื่องทรงเป็นทิพย์ อาภาพิไล ได้สวมใส่กัน
    นั่งบัวบัลลังก์ มาลาประดับ บาทาเกือกเซียน

    - พระโอวาท“พระอนุตตรฯ มารดาสิบบัญญัติ”
    - ศิลาจารึกโบราณ700ปี บันทึกโองการแห่งฟ้า และพระโอวาทจากพระแม่องค์ธรรมถึงลูกๆทุกคน.
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 กรกฎาคม 2007
  9. vichai2500

    vichai2500 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    600
    ค่าพลัง:
    +2,877
    (f)

    กลับมาเถิด ศีลธรรม กลับมาเถิด!
    กำลังเกิด ภัยร้าย อันใหญ่หลวง
    แก่สัตว์โลก ทั่วถิ่น จักรวาลปวง
    น่าเป็นห่วง ความพินาศ ฉกาจเกิน
    กลับมาเถิด ศีลธรรม กลับมาเถิด!
    ในโลกเกิด กลียุค อย่างฉุกเฉิน
    หลงวัตถุ บ้าคลั่ง เกินบังเอิญ
    มัวเพลิดเพลิน สิ่งกาลี มีกำลัง
    กลับมาเถิด ศีลธรรม กลับมาเถิด!
    ความเลวร้าย ลามเตลิด จวนหมดหวัง
    รีบกลับมา ทันเวลา พาพลัง
    มายับยั้ง โลกไว้ ให้ทันกาล ฯ



    (f) ร้อยกรองโดยท่านพุทธทาสภิกขุ

    (bb-flower
    ถ้าศีลธรรมไม่กลับมา โลกาจะวินาศ



     
  10. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>ตราดสรุป 6 วันพายุถล่มบ้านพังกว่า 100 หลัง</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>2 กรกฎาคม 2550 20:25 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>
    [​IMG][​IMG]
    ภาพประกอบจากทางอินเตอร์เน็ต

    </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left> ศูนย์ข่าวศรีราชา-สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยตราด สรุป 6 วัน บ้านเรือน 100 หลัง เสียหาย เตือน 2-5 ก.ค.ระวังบ่อไร่ดินถล่ม

    วันนี้ (2 ก.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้เกิด ลมพายุหมุน พัดผ่านที่บ้านหมู่ 1 ต.เทพนิมิต อ.เขาสมิง จ.ตราด เป็นเวลานานกว่า 30 นาที โดยมีทั้งลมพายุและฝนตกลงมาอย่างหนัก ทำให้บ้านเรือน ของประชาชนจำนวน 5 หลังคาเรือนเสียหายเกือบทั้งหมด (80-90%) โดยมีต้นไม้เช่น เงาะ ทุเรียน ได้รับความ เสียหายกว่า 80 ต้น ขณะที่บ้านเรือนข้างเคียงได้รับความเสียหายเล็กน้อย

    นายบุญเลิศ ไชยบุญนาค อายุ 42 ปี อยู่บ้านเลขที่ 74 หมู่ 1 ต.เทพนิมิต อ.เขาสมิง จ.ตราด เปิดเผยว่า ลมพายุและฝนได้พัดผ่านมายังบ้านของตนเองและเพื่อนบ้านอีก 4 หลัง ได้รับความเสียหายเกือบทั้งหมดเหลือเพียง โครงบ้านเท่านั้น ขณะที่บ้านเพื่อนก็ถูกยกไปทั้งหลังเช่นกัน เฉพาะกระเบื้องหลังคาบ้านกว่า 300 แผ่น ถูกลมหมุน รื้อไปทั้งหมด ค่าเสียหายขณะนี้หลายแสนบาทเฉพาะเงาะ 30 ต้น ก็มีมูลค่ากว่า 30,000 บาท

    ด้านนายบุญช่วย น้อยสันเที๊ยะ หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จ.ตราด กล่าวว่า ขณะนี้สำนักงานฯกำลังเร่งช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากวาตภัย ระหว่างวันที่ 25 มิถุนายน - 1 กรกฎาคม 2550 พบว่า มีจำนวนกว่า 100 หลังคาเรือน และมีมูลค่าความเสียหาย 700,000 บาท ในพื้นที่ 5 อำเภอ 1 กิ่ง อำเภอ ซึ่งมีบ้านเรือนจำนวน 4-5 หลังที่ได้รับความเสียหายเกือบทั้งหมด โดยสำนักงานฯจะเร่งให้ ความช่วยเหลือโดยเร็วที่สุด

    ทั้งนี้ทางสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดตราด ได้รับแจ้งจากกรมอุตุนิยมวิทยาว่าในช่วงวันที่ 2-5 กรกฎาคม 2550 จังหวัดในภาคตะวันออกโดยเฉพาะ จ.ตราด จะได้รับอิทธิพลจากลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ ซึ่งจะทำให้เกิดพายุลมแรง,ฝนตกหนัก และจะทำให้เกิดปัญหากับพื้นที่เสี่ยงภัยใน อ.บ่อไร่ 4 ตำบล คือ ต.หนองบอน ต.ด่านชุมพล ต.นนทรีย์ ต.ช้างทูน อาจจะเกิดน้ำท่วมฉับพลัน และดินถล่มได้ จึงควรระมัดระวัง ซึ่งผู้ว่าราชการจังหวัดได้กำชับให้ ปภ.ตราด และอบต.ทุกแห่งใน จ.ตราด ดูแลและช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน โดยด่วน
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
    ที่มา http://www.manager.co.th/Local/ViewNews.aspx?NewsID=9500000076863
     
  11. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>ปลุกอีกแล้วสื่อเขมร.. คราวนี้เขาพระวิหาร</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>1 กรกฎาคม 2550 22:29 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=500 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=500>[​IMG] </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left><CENTER>โคปุระทางเข้าสู่องค์ปราสาทใหญ่ บนเขาพระวิหาร (ภาพ: วิกิพีเดีย)</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>
    สัปดาห์ที่ผ่านมาหนังสือพิมพ์ในกัมพูชาบางฉบับได้โหมกระพือข่าวที่ว่า รัฐบาลไทยได้ขัดขวางมิให้องค์การยูเนสโก (UNESCO) จดทะเบียนปราสาทเขาพระวิหารเป็นมรดกโลก รวมทั้งข่าวที่ว่าทหารไทยราว 200 นายในชุดดำได้พยายามจะขึ้นไปยังปราสาทหินโบราณบนยอดเขา เพื่อยึดครอง

    เมื่อข่าวคราวนี้ตีพิมพ์เผยแพร่บนเว็บได้สร้างความไม่ใจแก่ผู้อ่านที่เป็นชาวเขมรมากพอสมควร บางคนได้กล่าวหาว่า "ประเทศไทยเล่นไม่เลิก" หรือ "ไทยรังแกประชาชนเขมรอีกแล้ว"

    แต่นาย เขียว กัญฤทธิ์ (Kieu Kanharith) รัฐมนตรีกระทรวงแถลงข่าวกัมพูชาซึ่งเป็นโฆษกรัฐบาลกล่าวว่า ทางการจะไม่อนุญาตให้มีการชุมนุมประท้วงจนลุกลามเป็นการจลาจล เหมือนเมื่อต้นปี 2546

    รัฐมนตรีกัมพูชาให้สัมภาษณ์เรื่องนี้เมื่อวันศุกร์ (29 มิ.ย.) หลังเกิดกระแสความไม่พอใจในหมู่ชาวเขมร ต่อข่าวคราวที่ว่าฝ่ายไทยขัดขวางไม่ให้องค์การยูเนสโก ขึ้นทะเบียนเป็นแหล่งมรดกโลก และ หนังสือพิมพ์ภาษาอังกฤษในประเทศไทยฉบับหนึ่งรายงานว่า สถานทูตไทยในกรุงพนมเปญได้ประชุมหารือเตรียมรับมือการชุมนุมประท้วงจู่โจมสถานทูตที่อาจจะเกิดขึ้นอีก เช่นกรณีปราสาทหินนครวัด


    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=left border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=350 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=350>[​IMG] </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left><CENTER>หน้าผาบริเวณมออีแดง เป็นจุดชมวิวที่สวยงามอยู่ในดินแดนไทย เบื้องล่างยังมีภาพสลักอีกจำนวนหนึ่งด้วย (ภาพ: วิกิพีเดีย) </CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD width=5>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>ในปี 2546 ได้มีข่าวเล่าลือว่า ดาราหญิงของไทยคนหนึ่งได้กล่าวถึงนครวัดว่าเป็นของไทย สื่อในกัมพูชา ทั้งหนังสือพิมพ์ โทรทัศน์และวิทยุได้โหมกระพือข่าวเล่าลือนี้จนทำให้ชาวเขมรเกิดความไม่พอใจ จัดชุมนุมประท้วง ซึ่งได้ลุกลามเป็นการจลาจล มีการเผาบริษัทห้างร้านที่เป็นของคนไทย รวมทั้งบุกเข้าเผาสถานทูตไทยด้วย

    ถึงปัจจุบันรัฐบาลกัมพูชาได้จ่ายค่าชดเชยและค่าเสียหายต่างๆ ให้แก่เอกชนและรัฐบาลไทย จนครบหมดแล้ว

    ในช่วงเดือน มิ.ย.ที่ผ่านมา รัฐบาลกัมพูชาได้พยายามผลักดันให้องค์การยูเนสโก (UNESCO) จัดเขาพระวิหาร เข้าในบัญชีมรดกโลกอีกครั้ง แต่ก็มีรายงานว่าสถาบันวิชาการไทยบางแห่งได้คัดค้าน เนื่องจากเห็นว่าอาณาบริเวณที่ตั้งเขาพระวิหารนั้นบางส่วนอยู่ในอาณาเขตประเทศไทย

    หนังสือพิมพ์ในกัมพูชาได้รายงานและตีพิมพ์ข่าวเรื่องนี้อย่างเกาะติด แม้อุปทูตไทยประจำกรุงพนมเปญ จะให้สัมภาษณ์เมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า ความคิดเห็นเหล่านั้นมิใช่จุดยืนของรัฐบาลก็ตาม

    หนังสือพิมพ์รัศมีกัมพูชา (Rasmei Kampuchea) ตีพิมพ์ข่าวในฉบับวันศุกร์ (29 มิ.ย.) อ้าง "รายงานจากปราสาทเขาพระวิหาร" ระบุว่า ฝ่ายกัมพูชาได้ป้องกันมิให้ "ทหารชุดดำ" ของไทยจำนวน 200 นาย พยายามจะขึ้นไปยังปราสาทหินโบราณ แต่แล้วก็ต้องถอยกลับโดยดี หลังเจ้าหน้าฝ่ายกัมพูชาได้ขัดขวาง

    หนังสือพิมพ์นี้ได้อ้างการเปิดเผยของแหล่งข่าวว่า ทหารไทยชุดดำทั้ง 200 คน "ได้พยายามบุกเข้ายึดปราสาทเขาพระวิหาร" เหตุเกิดในวันที่ 28 มิ.ย. ที่ผ่านมา

    รัศมีกัมพูชายังอ้างอีกว่า ครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งแรกที่ทหารของไทยได้พยายามจะบุกขึ้นไป "ยึดครอง" เขาพระวิหาร ก่อนหน้านั้นเมื่อวันที่ 24 มิ.ย.ทหารของไทยได้พยายามมาแล้วครั้งหนึ่ง แต่ไม่สำเร็จ


    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=450 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=450>[​IMG] </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left><CENTER>หลังเลิกรากันไป 45 ปี เขาพระวิหารจะกลับมาเป็นกรณีพิพาทอีกหรือ? หนังสือพิมพ์ในกัมพูชาบางฉบับกำลังคิดอะไรอยู่? </CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>


    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=450 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=450>[​IMG] </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left><CENTER>ทับหลังสลักภาพพระกฤษณะกำลังรบกับอรชุน ที่โคปุระชั้นที่ 3 (ภาพ: วิกิพีเดีย) </CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>


    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=left border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=200 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=200>[​IMG] </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left><CENTER>แผนผังแสดงทางเดินจากฝั่งไทย (ทิศเหนือ) สู่ดินแดนกัมพูชาไปยังองค์ปราสาทประธานบนยอดเขาซึ่งด้านหลังเป็นหน้าผาสูงชัน (ภาพ: วิกิพีเดีย) </CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD width=5>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>อย่างไรก็ตามนายปราบ ตัน (Preap Tan) ผู้ว่าราชการ จ.พระวิหาร (Preah Vihear) กล่าวว่า ทหารไทยจำนวนดังกล่าวแต่งเครื่องแบบเรียบร้อย และไม่พกพาอาวุธ เพียงแต่ขอขึ้นไปเที่ยวชมเขาพระวิหารเท่านั้น

    ทางการท้องถิ่นของกัมพูชา ได้แจ้งระเบียบปฏิบัติให้ทหารไทยทราบว่า หากจะขึ้นไปเที่ยวชมก็ต้องแต่งกายเป็นพลเรือนเสียก่อนและซื้อบัตรผ่านประตูเช่นเดียวกับนักท่องเที่ยวทั่วไป

    ผวจ.พระวิหารยังกล่าวอีกว่า ถ้าหากทหารของกัมพูชาจะข้ามแดนไปเที่ยวในประเทศไทย ก็จะต้องปฏิบัติเช่นเดียวกัน เพราะเป็นเรื่องเกี่ยวกับอธิปไตยของแต่ละประเทศ

    เขาพระวิหารได้เคยเป็นกรณีพิพาทรุนแรงระหว่างไทยกับกัมพูชาเมื่อประมาณ 40-50 ปีก่อน ต่อมาในปี 2505 ศาลโลกในกรุงเฮก (Hague) ประเทศเนเธอร์แลนด์ได้ตัดสินให้ปราสาทหินโบราณบนยอดเขาตกเป็นของกัมพูชา ขณะที่ทางขึ้นไปยังปราสาท ต้องขึ้นไปจากฝั่งประเทศไทย

    ในยุคใหม่ก็ยังคงมีการเผชิญหน้าระหว่างกองกำลังของสองฝ่ายเป็นระยะๆ เกี่ยวกับเส้นเขตแดนที่ยังไม่ชัดเจนในอาณาบริเวณใกล้เคียง ขณะที่รัฐบาลของสองประเทศกำลังเจรจาเพื่อปักปันเขตแดนที่เป็นปัญหาเสียใหม่

    หนังสือพิมพ์รัศมีกัมพูชายังอ้างอีกว่า ปฏิบัติการล่าสุดของทหารไทย มีขึ้นในระหว่างที่กัมพูชาได้เสนอต่อยูเนสโกให้ขึ้นทะเบียนเขาพระวิหาร แต่ฝ่ายไทยได้ขัดขวางโดยอ้างปัญหาต่างๆ นานา

    คณะของรัฐบาลกัมพูชาที่นำโดยนายโสกอาน (Sok An) นายกรัฐมนตรีกำลังดำเนินการเรื่องนี้กับองค์การยูเนสโก และ จะเดินทางกลับในต้นเดือน ก.ค.นี้

    เมื่อวันพุธ (27 มิ.ย.) องค์การยูเนสโก ได้ตัดสินใจเลื่อนการขึ้นทะเบียนปราสาทเขาพระวิหารเป็นมรดกโลกออกไป และ หนังสือพิมพ์ในประเทศไทยฉบับหนึ่งได้รายงานอ้างเจ้าหน้าที่สถานทูตไทยว่า สัปดาห์ที่แล้วได้มีการประชุมเตรียมพร้อมเพื่อรับมือกับการจลาจลโจมตีสถานทูต

    อย่างไรก็ตาม รัฐมนตรีกระทรวงแถลงข่าวกัมพูชากล่าวว่า การเลื่อนการตัดสินใจขององค์การยูเนสโก จะไม่ทำให้เกิดการจลาจลต่อต้านประเทศไทย รัฐบาลจะไม่อนุญาตให้เกิดเหตุการณ์เช่นในปี 2546 ขึ้นซ้ำรอยอีก และ ปัจจุบันเยาวชนในกัมพูชาก็ไม่ได้เชื่อข่าวที่ไม่เป็นความจริงง่ายๆ เหมือนเดิม

    และ ประเทศไทยก็ไม่ได้ขัดขวางมิให้ยูเนสโกจดทะเบียนเขาพระวิหารเป็นมรดกโลกแต่อย่างใด

    นอกจากนั้นในปัจจุบันตำรวจกัมพูชาก็สามารถรับมือกับการจลาจลได้อย่างมีประสิทธิภาพ นายเขียวกล่าว.

    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
    ที่มา http://www.manager.co.th/IndoChina/ViewNews.aspx?NewsID=9500000076528
     
  12. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,696
    ค่าพลัง:
    +51,932
    *** กรรม กำลังปรากฏชัดขึ้น ****

    ทรัพยากรของโลก มหาศาล.... กำลังเคลื่อนเข้ามาถึงใต้ สุวรรณภูมิ
    ขอม...โกรธแค้นสยาม มายาวนาน...เลือดหัวล้างเท้า
    เขารอ....วันด้ามขวานหัก...ทหารไทยอ่อนกำลัง
    เขาคิดจะ...บุกเข้ามาปักธง บางประกง
    เขากำลัง....พัฒนากองทัพ สะสมอาวุธ...จากการสนับสนุนของมังกรเบื้องหลัง
    เขาจะอ้าง...ประวัติศาสตร์ เก่า
    หนทางรอดพ้นกรรม...คือ พึ่ง โลกุตตระ และ สัจจะ
    พระพุทธเจ้าภูริทัต...ยอมรับสัจจะ จากโลกุตตระ
    ประกาศสัจจะ สู่ปวงชน
    เพื่อชาติพ้นภัยจากคน และ ดินฟ้าอากาศ
    คือ สรรพภัยทั้งปวงกึ่งพุทธกาล

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
     
  13. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    ทองคำค่าควรเมือง

    [​IMG]
    หลวงปู่ครูบาธรรมชัย
    วัดทุ่งหลวง อำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่

    ครูบาธรรมชัยหรือท่านพระครูกองแก้ว ธมมชโย ท่านเป็นพระทรงอภิญญา มีตาทิพย์และหูทิพย์จริงล่ะหรือ ? เกี่ยวกับเรื่องนี้ ใคร่จะขอนำมาเล่าสู่กันฟังเพื่อเจริญศรัทธา และสู่การพิจารณาของท่านที่สนใจ ส่วนที่ท่านจะเชื่อหรือไม่นั้นเป็นสิทธิ์ของท่านผู้อ่านแต่ละท่าน เรื่องมีอยู่ว่า เมื่อคราวพิธีบรรจุสารีริกธาติสมเด็จพระพุทธมหามงคลบพิธ ที่อำเภอหาดใหญ่ ตำบลน้ำน้อย เมื่อวันที่ 26 สิงหาคม ประมาณปี 2519 และพระอาจารย์ที่ร่วมในพิธีนี้ด้วย หลังจากเสร็จพิธีแล้ว คณะศรัทธาญาติโยมได้นิมนต์ครูบาธรรมชัย และ พระอาจารย์ที่ร่วมในพิธีหลายองค์ ไปเที่ยวน้ำตกทรายขาว อำเภอโคกโพธิ์ จังหวัดปัตตานี เท่าที่จำได้ก็มี หลวงพ่อฤาษีลิงดำ หลวงพ่อสิม พุทธาจาโร หลวงพ่อชุ่ม โพธิโก ร่วมขบวนไปด้วยในครั้งนี้ น้ำตกทรายขาว เป็นเทือกเขาใหญ่สูงสุดที่สำคัญมากในปัตตานี

    ในอดีตเคยมีการทำเหมืองทองคำที่เขาลูกนี้ คณะหลวงปู่หลวงพ่อที่ไปเที่ยวน้ำตกทรายขาวเป็นอันมาก ปรารภกันว่า สถานที่เห่งนี้ หลวงปู่ทวดเหยียบทะเลน้ำจืด เคยมาบำเพ็ญสมณะธรรมในอดีตกาลนานโพ้น และเมื่อประมาณ 60 - 70 ปีที่ล่วงมานี้ เคยมีผู้มาขุดหาแร่ทองคำทำเหมืองทองมาแล้ว แต่ได้เลิกร้างไปในเวลาต่อมา เพราะว่าทองคำในดินได้หมดไป หลวงพ่อฤาษีลิงดำได้เอ่ยขึ้นว่า "จะเป็นไปได้ล่ะหรือ ? ที่สายแร่ทองคำจะหมดไปได้ง่าย ๆ จากภูเขาทรายขาวนี้ น่าจะ "เพ่ง" ดูใต้พื้นดินลึกลงไปว่า ยังมีแร่ทองคำเหลืออยู่บ้างหรือเปล่า แล้วหลวงพ่อทุกองค์ที่ไปเที่ยวน้ำตกทรายขาวก็ได้ใช้พลังสมาธิ "เพ่ง" สำรวจดูใต้ผืนแผ่นธรณีในบริเวณนั้น หลวงพ่อชุ่ม โพธิโกเพ่งดูแล้วครู่หนึ่งก็บอกว่า พบแร่ทองคำอยู่ลึกมากเหลืองอร่ามไปหมดเป็นตัน ๆ มากมายเหลือเกิน มนุษย์ยังไม่สามารถขุดค้นลงไปได้ถึง

    หลวงพ่อฤาษีลิงดำ "เพ่ง" ดูบ้างก็เป็นทองคำอยู่ลึกลงไปใต้ดินเช่นเดียวกันกับที่หลวงพ่อชุ่มได้เพ่งเห็นทองคำเหมือนกัน แต่หลวงพ่อสิม พุทธาจาโร สำนักสงฆ์ถ้ำผาปล่อง อ.เชียงดาว ได้เพ่งดูแล้วกลับมองไม่เห็นทองคำที่อยู่ใต้ดิน ท่านได้เห็นแต่มือดำ ๆ ใหญ่โตมาก เป็นมือมีห้านิ้วคล้ายมือมนุษย์แต่ใหญ่โตเท่าภูเขาเลากาอยู่ใต้ดิน หลวงปู่หลวงพ่อเหล่านั้นเมื่อได้ฟังคำตอบของหลวงพ่อสิม แล้วก็หัวเราะกันใหญ่ คือพวกท่านมีอารมณ์เพลิดเพลินสนุก นึกอยากจะหยอกล้อกันเล่นนั่นเอง ครูบาธรรมชัยจึงยกมือขึ้นแล้วบอกให้หลวงพ่อสิมเพ่งดูอีกครั้ง เมื่อหลวงพ่อสิมเพ่งดูลงไปใต้ดินก็พบว่า มือลึกลับใหญ่โตนั้นหายไป แล้วได้พบแร่ทองคำจำนวนมากมายอยู่ใต้ดินเหลืองอร่ามไปหมด

    หลวงพ่อสิมเลยหัวเราะใหญ่ เพราะได้รู้ว่า มือลึกลับใหญ่โตที่ปิดแร่ทองคำใต้ดินไว้เมื่อสักครู่นี้นั้น คือมือของครูบาธรรมชัยนั่นเอง หลวงพ่อสิมเลยกล่าวชมเชยยกย่องครูบาธรรมชัยเป็นการใหญ่ว่า เก่งมาก ๆ ๆ สามารถเอามือปิดกั้นขุมทองคำทั้งขุมไว้ได้ไม่ให้ท่านเห็น ครูบาธรรมชัยได้กราบขอขมาหลวงพ่อสิมที่ล่วงเกินล้อเล่นในครั้งนี้ หลวงพ่อสิมหัวเราะชอบใจบอกว่า ไม่ถือ ๆ ๆ สนุกดี หลวงพ่อฤาษีลิงดำถามหลวงพ่อสิมว่า ทำไมทองคำจำนวนมหึมานี้คนถึงขุดลงไปไม่พบ หลวงพ่อสิมหลับตาใช้ญาณหยั่งรู้อยู่ครู่หนึ่งก็ลืมตาตอบว่า เมื่อถึงเวลาทองจำนวนนี้จะปรากฏขึ้นมาเอง เป็นทรัพย์ในดินของประเทศชาติ เป็นของคู่บุญญาบารมีของรัชกาลต่อไป

    ตอนนี้เทวดายังไม่ยอมให้ทองคำจำนวนนี้ปรากฏ เพราะยังไม่ถึงเวลา หลวงพ่อชุ่ม โพธิโก กล่าวว่า ทองคำที่นี่มีมากก็จริง แต่ยังเป็นส่วนน้อยเมื่อเทียบกับทองคำที่มีอยู่ในผืนแผ่นดินไทยอีกหลายแห่ง ต่อไปในอนาคตประเทศชาติของเราจะร่ำรวยใหญ่ ประชาชนก็จะร่ำรวยมีสุขตามดวงเมืองที่เจริญรุ่งโรจน์ ครูบาธรรมชัยหลับตาใช้ญาณหยั่งรู้บ้าง ท่านกล่าวว่า ทองคำที่น้ำตกทรายขาวนี้เป็นของอาถรรพณ์ที่ฝังลึกอยู่ใต้ดินป้องกันไม่ให้ข้าศึกษาศัตรูมาครองได้ ข้าศึกศัตรูที่บังอาจล่วงล้ำก้าวข้ามขุมทองแห่งนี้เข้ามาจะพบกับความวิบัติฉิบหายในที่สุด

    หลวงพ่อฤาษีลิงดำ ท่านเป็นพระทรงวิชชา 3 เรื่องหยั่งรู้อดีต อนาคต และปัจจุบัน เป็นของธรรมดาสำหรับท่านมาก ท่านเห็นด้วยกับครูบาธรรมชัยและหลวงปู่หลวงพ่อร่วมคณะว่า มีทองคำเป็นตัน ๆ มากมายอยู่ที่ภูเขาทรายขาวจริง ทองคำไม่ได้หมดไปตามความเข้าใจของพวกทำเหมืองทองคำยังมีอยู่ใต้ดินนอนนิ่งอยู่ในดิน เวลานี้ใครไปขุดก็เอาขึ้นมาไม่ได้ เพราะยังไม่ถึงเวลาที่เทวดาจะให้ ขืนไปขุดเทวดาก็จะบันดาลให้พบสิ่งกำบังตาอย่างอื่นแทน หรือไม่ก็จะเจอแต่อุปสรรคอันตรายต่าง ๆ เมื่อถึงเวลาทองคำจำนวนมหึมานี้ก็จะปรากฏขึ้นมาเอง

    ดังนั้นผู้ได้คิดอยากจะร่ำรวยแอบไปขุดในเวลานี้ ขอให้เลิกล้มความคิดนี้เสียเถิด อย่าทำเลยจะประสบเคราะห์กรรมอันตรายนะครับ...นี่ผู้เขียนว่าเองหลวงปู่หลวงพ่อไม่ได้พูดประโยคนี้

    ที่มา http://www.konmeungbua.com/saha/tummachai.html

    สายแร่ทองคำ และทรัพยากรน้ำมันในประเทศไทย โดยปู่ NiNe


    [​IMG]


    ภาพประกอบจากทางอินเตอร์เน็ต



    ผมมองเห็นสายแร่ทองคำขนาดมหึมา กำลังเคลื่อนตัวใต้พิภพ ผ่านชั้นหินแมกม่าที่ร้อนจัด ในภาคตะวันตกของประเทศไทย ค่อนไปทางตอนเหนือติดเขตชายแดนพม่า

    นอกจากนั้นยังมีแอ่งน้ำมันขนาดมโหฬาร ใช้ยังไงก็ไม่หมด ถึงรุ่นชั่วลูกชั่วหลาน ที่ยังเก็บตัวอยู่ใต้ชั้นหินที่ร้อนจัดใต้โลก แหล่งน้ำมันมหาศาล ... โอฬาร......จริงๆ

    แค่อำเภอเล็กๆ อำเภอเดียวมีมากกว่า หมื่นล้านกิโลกรัม....
    ถ้าทั้งจังหวัด ....อื้อฮื้อ .... มหาศาลฯ ครับพ๊ม
    ถ้าทั้งสองภาค ................ใช้ไม่หมดครับ .....ใช้ไม่หมดจริงๆ


    [​IMG]
    ภาพประกอบจากทางอินเตอร์เน็ต

    นอกจากนั้นยังมีแก้ว Crystal ซึ่งถือว่าเป็นทรัพยากรที่อยู่ในไทยเท่านั้น แหล่งพลังงานของ Crystal นี้ถือว่าเป็นแหล่งเชื้อเพลิงที่ใช้ในการขับเคลื่อนยานอวกาศในอนาคต และตำนานการเดินทางท่องจักรวาลจะถูกเปิดเผยและเริ่มต้น ถ้าหากมีการค้นพบแก้ว Crystal นี้ในด้านภาคพื้นธรณีวิทยา (ซึ่งตอนนี้ยังไม่สามารถพิสูจน์และขุดเจาะได้ ถึงจะพบเจอแต่ก็ยังใช้ประโยชน์ไม่ได้ เมื่อถึงเวลาอันควรแล้วจึงจะสามารถนำเอาพลังงานแห่งจักรวาล มาใช้ได้)

    ผลึกแก้ว Crystal รูปร่างคล้ายๆ กับดาบปลายปืนของทหาร (ถ้าใครไม่เคยเห็นให้มองดูที่อนุสาวรีย์ชัยฯ) เป็นประกายแวววาวคล้ายเพชร แต่มีขนาดเล็กๆ ประมาณเท่านิ้วก้อยของเราครับ ..... มีพลังแห่งจักรวาล ที่มีอำนาจมาก ถ้าเกิดเรานำมาใช้ในทางที่ถูกต้องจะมีพลังอย่างล้นหลาม .... แต่ถ้าเรานำมาใช้ไม่ถูกทาง ... นั่นคือพลังแห่งการทำลายล้าง.....

    จากคุณ NiNe เมื่อวันที่ 1/4/2548 23:30:53

    คัดลอกมาจากhttp://www.konmeungbua.com/webboard/...n.asp?GID=4061

     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • crystal.jpg
      crystal.jpg
      ขนาดไฟล์:
      38.4 KB
      เปิดดู:
      6,922
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 3 กรกฎาคม 2007
  14. kananun

    kananun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    10,282
    ค่าพลัง:
    +114,775
    เกิดเป็นไปตามที่เคยได้เล่าให้ฟังกัน จากที่ได้ทราบในสมาธิครับว่า เกิดรอยเลื่อนใหม่ขึ้นจำนวนมาก แต่ตอนนี้อยู่ใต้พวกเราหลายๆคนแล้ว

    <TABLE class=tborder id=post610344 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=thead id=currentPost style="BORDER-RIGHT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid">[​IMG] วันนี้, 10:06 AM <!-- / status icon and date --></TD><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid" align=right> #769 <INPUT id=plist_610344 style="PADDING-RIGHT: 0px; PADDING-LEFT: 0px; PADDING-BOTTOM: 0px; MARGIN: 0px 0px 0px 5px; VERTICAL-ALIGN: middle; PADDING-TOP: 0px" type=checkbox value=0 name=plist[610344] inlineModID="inlineMod"> </TD></TR><TR vAlign=top><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid" width=175>mead<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_610344", true); </SCRIPT>
    สมาชิก ยอดนิยม
    สมาชิกยอดฮิต

    [​IMG]

    เข้ามาครั้งสุดท้ายเมื่อ: วันนี้ 04:32 PM
    วันที่สมัคร: Apr 2005
    ข้อความ: 3,363 <!-- Start Post Thank You Hack -->
    ได้ให้อนุโมทนา 19,553 ครั้ง
    ได้รับอนุโมทนา 20,810 ครั้ง ใน 2,596 โพส <!-- End Post Thank You Hack -->
    พลังการให้คะแนน: 2500 [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]
    [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]


    </TD><TD class=alt1 id=td_post_610344 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid"><!-- message -->ข่าวล่าสุด!
    ผู้เชี่ยวชาญได้เปิดเผยว่ามี รอยเลื่อนเกิดใหม่ เป็นแขนงแยกออกมา ที่น่ากลัวคืออยู่ใต้กรุงเทพมหานคร พาดผ่านไปทางจังหวัดชลบุรีและนครนายก
    หลังจากเกิดแผ่นดินไหวรอยเลื่อนศรีสวัสดิ์ 3 ริกเตอร์เมื่อเช้าวานนี้

    ปีที่ผ่านมาการเกิดแผ่นดินไหวเฉลี่ย 20,000 ครั้งต่อปี
    แต่ปีนี้ผ่านไปเพียง 2 เดือน ก็ไหวถึง 10,000 ครั้ง เข้าไปแล้ว
    มีโอกาสที่จะเกิดสึนามิสูงมาก จากการไหวแบบนี้ เหมือนที่เคยเกิดขึ้นมาแล้ว
    จึงต้องจับตาดูให้มากขึ้นเป็นพิเศษสำหรับปีนี้ เนื่องจากแผ่นดินไหวเป็นภัยอย่างเดียวไม่อาจรู้ล่วงหน้าได้เลย
    <!-- / message --><!-- sig -->
    ____________________________________________________________
    ถ้าดักแด้ยังเป็นผึเสื้อได้
    มนุษย์สามัญชนผู้มีความเพียรพยายาม
    ก็ย่อมสามารถกลายเป็น "บรมคน" ได้เช่นกัน
    +++นิรนาม+++

    <!-- / sig --><!-- edit note --><HR style="COLOR: #ffffff" SIZE=1>แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย mead : วันนี้ เมื่อ 10:10 AM.
    <!-- / edit note --></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  15. kananun

    kananun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    10,282
    ค่าพลัง:
    +114,775
    <TABLE class=tborder id=post610466 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR vAlign=top><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid" width=175>vanco<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_610466", true); </SCRIPT>
    สมาชิก
    สมาชิกยอดฮิต

    [​IMG]

    เข้ามาครั้งสุดท้ายเมื่อ: วันนี้ 02:53 PM
    วันที่สมัคร: Feb 2007
    ข้อความ: 2,192 <!-- Start Post Thank You Hack -->
    ได้ให้อนุโมทนา 3,271 ครั้ง
    ได้รับอนุโมทนา 5,492 ครั้ง ใน 1,490 โพส <!-- End Post Thank You Hack -->
    พลังการให้คะแนน: 771 [​IMG]
    [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]


    </TD><TD class=alt1 id=td_post_610466 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid"><!-- icon and title -->แขนงรอยเลื่อนด่านเจดีย์สามองค์
    <HR style="COLOR: #ffffff" SIZE=1><!-- / icon and title --><!-- message --><TABLE class=mxtable cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" align=center bgColor=#ffffff border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top height=120>
    แขนงรอยเลื่อนด่านเจดีย์สามองค์

    โผล่องครักษ์ห่างกทม. 25 กิโลเมตร
    เมื่อวันที่ 2 กรกฎาคม ที่โรงแรมมิราเคิลแกรนด์ กรมทรัพยากรธรณี (ทธ.) กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่ง แวดล้อม (ทส.) จัดสัมมนาเรื่อง "แผ่นดินไหว : ธรณีพิบัติภัยใกล้ตัว" นายอภิชัย ชวเจริญพันธ์ อธิบดี ทธ. กล่าวถึงการศึกษากลุ่มรอยเลื่อนแม่ฮ่องสอน และรอยเลื่อนเมย ในเขตพื้นที่ จ.แม่ฮ่องสอน ตาก กำแพงเพชร และกลุ่มรอยเลื่อนศรีสวัสดิ์ และรอยเลื่อนเจดีย์สามองค์ ในเขตพื้นที่ จ.กาญจนบุรี สุพรรณบุรี อุทัยธานี และตาก ที่ยังไม่แล้วเสร็จว่า ทีมนักวิชาการจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มุ่งเจาะจงพื้นที่ จ.กาญจนบุรีและสุพรรณบุรี โดยอาศัยหลักฐานธรณีสัณฐานที่ได้จากภาพถ่ายดาวเทียม และการตรวจสอบภาคสนาม รวมทั้งได้คัดเลือกพื้นที่ที่เหมาะสมในการขุดร่องสำรวจ เพื่อประเมินหาขนาดแผ่นดินไหวที่เคยเกิดในอดีต และช่วงเวลาที่เคยเกิด จำนวน 6 พื้นที่ ดังนี้

    1.บ้านทุ่งมะกอก ต.องค์พระ อ.ด่านช้าง จ.สุพรรณบุรี ขนาดแผ่นดินไหวที่เคยเกิด 7.0 ริคเตอร์ เกิดมาแล้ว 7,000 ปี 2.บ้านแก่งแคบ ต.ท่ากระดาน อ.ศรีสวัสดิ์ จ.กาญจนบุรี ขนาดแผ่นดินไหวที่เคยเกิด 6.4 ริคเตอร์ เกิดมาแล้ว 1000 ปี 3.บ้านโป่งหวาย ต.ด่านแม่แฉลบ อ.ศรีสวัสดิ์ จ.กาญจนบุรี ขนาดแผ่นดินไหวที่เคยเกิด 6.5 ริคเตอร์ เกิดมาแล้ว 1,500 ปี 4.บ้านดงเสลา ต.ด่านแม่แฉลบ อ.ศรีสวัสดิ์ จ.กาญจนบุรี ขนาดแผ่นดินไหวที่เคยเกิด 6.0 ริคเตอร์ เกิดมาแล้ว 10,000 ปี 5.บ้านองธิ ต.ท่าขนุน อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี ขนาดแผ่นดินไหวที่เคยเกิด 7.0 ริคเตอร์ เกิดมาแล้ว 7,000 ปี 6.บ้านทิพุเย ต.ชะแล อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี ขนาดแผ่นดินไหวที่เคยเกิด 6.4 ริคเตอร์ เกิดมาแล้ว 2,000 ปี

    รศ.ดร.ปัญญา จารุศิริ หัวหน้าหน่วยปฏิบัติการวิจัยธรณีวิทยาแผ่นดินไหวและธรณีแปรสัณฐาน คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า ขณะนี้นักธรณีวิทยาหลายคนกังวลว่านอกจากกลุ่มรอยเลื่อน 6 กลุ่มที่ต้องเร่งศึกษาความเสี่ยงแล้ว ยังพบว่าพื้นที่กรุงเทพมหานคร (กทม.) เองก็มีความเสี่ยง เนื่องจากผลการศึกษาระยะที่ 1 โดยใช้ข้อมูลธรณีฟิสิกส์ทางอากาศ พบว่ามีรอยแขนงที่แตกออกจากรอยเลื่อนด่านเจดีย์สามองค์ พาดผ่านเข้ามาทางพื้นที่ตอนใต้ของ กทม. คือบริเวณ จ.สมุทรปราการ และวกเข้าไปใน จ.ชลบุรี น่าเป็นห่วงว่าหากเกิดแผ่นดินไหวขนาดใหญ่หรือแม้แต่ระดับปานกลางจะกระทบกับพื้นที่ กทม. อย่างมากเพราะเป็นดินอ่อนที่สามารถขยายคลื่นความสั่นสะเทือนให้แรงเหมือนกับการหมุนวิทยุให้เสียงดังขึ้น ทำให้เพิ่มความแรงได้มหาศาล

    "รอยเลื่อนที่น่าจะเป็นส่วนต่อของรอยเลื่อนเจดีย์สามองค์ยังไม่มีการศึกษาอย่างละเอียด มีเพียงบางท่อนที่ยังมีพลังอยู่ใกล้กับพื้นที่ไทรโยค ศรีสวัสดิ์ และทางตอนใต้ของเขื่อนเขาแหลม มีแนวโน้มการมีพลังสูงมาก รอยเลื่อนนี้ที่พาดผ่านจากชายแดนพม่า แขนงของมันจะต่อเลยจากด่านเจดีย์เข้ามาถึงทางใต้ของ กทม.คือ บริเวณ จ.สมุทรปราการ ห่างจาก กทม.ประมาณ 25 กิโลเมตร และอีกแขนงไปยัง อ.องครักษ์ จ.นครนายก อีกแขนงไปยังบริเวณแม่น้ำท่าจีน จ.นครปฐม ในช่วง 1-2 เดือนนี้ยังเกิดแผ่นดินไหวจากแถบประเทศพม่า ลาว มีการตั้งข้อสังเกตว่าเป็นถี่ปกติหรือเป็นรอบของมันหรือเปล่า ดังนั้น คนไทยควรต้องรู้ถึงสภาวะ และความเสี่ยงที่อาจเกิดจากภัยแผ่นดินไหว โดย ทธ.ก็ต้องให้ความสำคัญการทำแผนที่พิบัติภัยแผ่นดินไหวในประเทศไทย หลังจากทำแผนที่รอยเลื่อนมีพลังของไทยออกมาแล้ว" รศ.ดร.ปัญญากล่าว

    (คอลัมน์:ชีวิตคุณภาพ)
    </TD><TD width=18 rowSpan=3></TD></TR><TR><TD align=right>มติชน [​IMG] </TD></TR><TR><TD align=right>3 ก.ค. 2550 <!--61.91.248.51--></TD></TR></TBODY></TABLE>
    <!-- / message --><!-- sig -->
    ____________________________________________________________

    ขอเชิญบริจาคสมทบทุนสร้างวัดไทยในเยอรมนี

    http://palungjitrescuedisaster.com/showthread.php?t=197




    <!-- / sig --></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  16. แม่นายมล

    แม่นายมล เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    1,069
    ค่าพลัง:
    +6,258
    จากที่พี่เกษมโพสไว้
    `บุตรมนุษย์เสด็จมาบนเมฆในท้องฟ้า'
    โลกจะปรากฎผู้นำใหม่ที่มาในมิติที่อยู่เหนือธรรมชาติ
    -----------------------------------------------------


    เงารูปคนกลางสายรุ้งที่ปรากฏอยู่เหนือภูเขาจูซัน หลังจากเกิดฝนตกหนักใน
    เกาะฉินหวงเต่า มณฑลเหอเป่ยทางภาคเหนือของจีนเมื่อวันอาทิตย์(1 ก.ค)
    ภาพดังกล่าวปรากฏอยู่นานกว่า 1 ชั่วโมง ซึ่งนักท่องเที่ยวจำนวนมากเชื่อว่า
    เป็นเงาพระพุทธเจ้า-ไชน่าเดลี่
    โดย ผู้จัดการออนไลน์
    3 กรกฎาคม 2550 12:34 น.

    -------------------------------------------------------------------------------
    ขอนำภาพ 2 ภาพนี้มาเปรียบเทียบกัน คล้ายกันมากใช่ม๊า
    แม่ของเราเคยเห็นภาพรุ้งกลมๆ แบบนี้ (แต่ไม่มีเงาคนนะ)
    ปรากฎที่หน้าบ้าน ตอน 8 โมงเช้าวันนั้นฟ้าปกติไม่เมฆฟนใดๆ
    และปรากฎอยู่เคียงคู่กับกับดวงอาทิตย์ด้วย
    หลานชายเห็นคนแรกเขาชี้ให้ยายดู " ดูซิ!ยายทำไมมีพระอาทิตย์ 2 ดวง "
    มีคนในบ้านเห็นถึง 5 คน ปรากฏอยู่นานกว่าเป็นชั่วโมงแล้วค่อยๆ จางหายไป
    อ.ปริญญา บอกไว้รุ้งเป็นสัญลักษณ์ของพระบิดา
    ...คิดว่าท่านกำลังบอกอะไรพวกเรา?
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  17. Nu_Bombam

    Nu_Bombam เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 ธันวาคม 2006
    โพสต์:
    1,030
    ค่าพลัง:
    +4,915
    เรื่องนี้ จะเชื่อก็ได้ไม่เชื่อก็ได้นะครับ

    องค์สมเด็จพระบรมธรรมบิดา ท่านทรงประทานพลังแสงทิพย์มานานแล้วครับ
    แต่ที่พึ่งเผยแพร่เป็นสาธารณะตอนนี้ เพราะช่วงนี้เป็นยุควิกฤต ผู้ที่เผยแพร่ปัจจุบันนี้คือ อาจารย์แม่เกษร นะครับ ท่านบอกว่า คนตกนรกกันเยอะ ท่านเลยช่วย และยุคนี้เป็นยุควิกฤตด้วย ดังนั้นจะมีบางคนที่ไม่เชื่อ ขออย่าได้ปรามาสนะครับ เมื่อสมัยที่หลวงพ่อฤาษีฯ สอนมโนมยิทธิใหม่ๆก็มีคนปรามาสท่านไม่น้อยเหมือนกัน ผมได้คุยกับหลวงพี่รูปหนึ่ง ซึ่งท่านก็นับถืออาจารย์แม่เหมือนกัน และเป็นผู้ที่ฝึกมโนฯให้ผม ท่านบอกว่า คนที่จะเชื่อ มันจะต้องตามๆกันมาหลายชาติ หรือมีบุญบารมี วาสนา ครับ เคยสงสัยมั้ยครับ คน 2 คนอ่านหนังสือธรรมะเล่มเดียวกัน คนนึงอ่านไปเข้าใจหัวข้อธรรมได้อย่างรวดเร็ว อีกคนอ่านไปกลับไม่รู้เรื่อง ก็เป็นเพราะบุญบารมี คนเราไม่เสมอกัน
    วันนึงผมได้สนทนาธรรมกับญาติธรรม รวมทั้ง อาจารย์แม่เกษร สนุกมากครับ ท่านให้ดูครับว่า สายไหนมีมากที่สุด(ใช้มโนฯ)ตอนนี้
    หลายๆคน และตัวท่านเอง(อ.แม่เกษร) บอกว่า สายหลวงพ่อฤาษีฯ เยอะที่สุดครับ และพระอริยเจ้าในเพศฆราวาสเยอะที่สุดเช่นกันครับ กระจายอยู่ทั่วประเทศ สนทนากันหลายเรื่องครับ สลับกับใช้มโนฯ

    ดังนั้น รับพลังแสงทิพย์กันเถอะครับ รับไปก็ไม่เสียหายใช่มั้ยล่ะครับ? เพราะอาจารย์แม่เกษรได้อธิษฐานไว้แล้วครับว่า ขอเปลี่ยนแสงทุกแสงในโลกมนุษย์ให้เป็นแสงทิพย์ให้หมด ไม่ว่าจะเป็นแสงอาทิตย์ แสงไฟ ฯลฯ ท่านอธิษฐานประมาณนี้ครับ
    ดังนั้น เมื่อเปิดจิตรับ อธิษฐานก็รับได้แล้วครับ ตอนนี้ท่านอยู่อเมริกาครับจะกลับมาประมาณปลายตุลา ต้น พฤศจิกา นี้ครับ
    ที่อยู่ที่ไทยคือ บ้านทิพย์ปฏิบัติธรรม ซอยข้างวัดสันติธรรม เชียงใหม่ครับ

    www.sangthip.com
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 3 กรกฎาคม 2007
  18. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    สงครามกับภัยพิบัติอย่างไหนจะเกิดก่อนกัน?

    [​IMG]
    ภาพประกอบจากทางอินเตอร์เน็ต

    เป็นเรื่องที่ทางกลุ่มพลังจิตพิชิตภัยพิบัติ กำลังช่วยกันวิเคราะห์กันอย่างเคร่งเครียด โดยมีความเห็นตรงกันว่าถ้าภัยพิบัติ(วันชำระโลก)เกิดก่อน สงครามก็หมดสิทธิ์เกิด เรื่องการแบ่งแยกดินแดนประเทศไทย ก็จะไม่มี แต่ถ้าสงคราม เกิดก่อน คนไทยก็จะต้องเจอเคราะห์กรรมอย่างหนัก ทั้งจากภัยสงครามและภัยธรรมชาติ

    จากข้อความที่อ้างอิง ของคุณหนุมาน ผู้นำสาร จะเห็นว่าประเทศไทยจะโดนรุมกินโต๊ะจากประเทศเพื่อนบ้าน ทั้ง จีน พม่า เขมร ลาว เวียตนาม แต่ถ้าภัยพิบัติ(วันชำระโลก)เกิดก่อน ประเทศเหล่านี้ก็จะจมทะเล จึงหมดสิทธิ์ที่จะมายึดครองประเทศไทย ผมจึงขออนุญาตนำแผนที่หลังเกิดภัยพิบัติ ของ อ.ปริญญา ตันสกุล มาให้เพื่อนๆ ได้มาพิจารณาร่วมกันครับ

    [​IMG]
    แผนที่โลกใหม่ของ อ.ปริญญา (พื้นที่สีแดงคือส่วนที่ต้องจมทะเล)

    สัมภาษณ์พิเศษ: อาจารย์ปริญญา ตันสกุล
    (จากนิตยสารหญิงไทย ฉบับที่ 708 ปีที่ 30 ปักษ์แรก เดือนมีนาคม พ.ศ.2548

    กลับมาที่เมืองไทย อาจารย์มองเห็นภาพในอนาคตเปลี่ยนไปอย่างไรคะ

     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 กรกฎาคม 2007
  19. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,696
    ค่าพลัง:
    +51,932
    *** สังเกต ดินฟ้าอากาศ ****

    ช่วงนี้
    ดิน ฟ้า อากาศ...รอบบ้าน รอบโลก....กำลังปั่นป่วน
    แต่ของ ไทย...ยังเบาๆ
    สิ่งนี้ คือ...คำเตือนให้คนไทยค้นหา ..."เครื่องป้องกันตนเอง"
    เพราะ... "กรรมหนัก" ของประเทศ ของโลก กำลังใกล้เข้ามา
    กรรมจากคนไทยโสมม.... คิดทำลายล้างสถาบันที่มีพระคุณ
    กรรมจากคนไทยขายชาติ... ที่สมคบคิดกับคนต่างชาติ เข้าครอบครองไทย
    กรรมจากบรรพบุรุษ....ที่สร้างไว้ในอดีต
    กรรมจากเพื่อนบ้าน ...เข้ายึดครองทางภาคใต้
    กรรมจากเพื่อนบ้าน ...เข้ายึดครองทางตะวันออก
    กรรมจากเพื่อนบ้าน ...เข้ายึดครองทางอีสาน
    กรรมจากเพื่อนบ้าน ...เข้ายึดครองทางเหนือ
    กรรมจากเพื่อนบ้าน ...เข้ายึดครองทางตะวันตก
    การกระทำที่ฝ่าฝืนโองการของโลกุตตระ ...จะเกิดขึ้น.... คือ เอาท้องฟ้ามาเป็นสนามรบ
    กรรมจากอาวุธนำวิถี ของประเทศใหญ่ใกล้ไซบีเรีย...จะหลงมาตกที่ กรุงเทพมหานคร
    แถบสีน้ำเงิน...บนธงจะลำบาก แต่ได้รับการช่วยเหลือปลอดภัย
    หญิงชายที่ไม่เชื่อในสัจจะ ...ขัดขวางหลักสัจจะธรรม ธรรมของโลกุตตระ....
    จะรับกรรมของตนเอง
    โลก...จะระส่ำระสายไปทั่ว
    ชาวไทย....จะลำบาก ข้าวยากหมากแพง
    เมื่อพ่อกลับมา
     
  20. winny

    winny เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    103
    ค่าพลัง:
    +659
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>"ไวรัสมะละกา" เชื้อพบใหม่คล้ายซาร์สแพร่จากค้างคาวสู่คน </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>3 กรกฎาคม 2550 14:07 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=bottom align=right width=1 height=1>[​IMG]</TD><TD vAlign=bottom align=middle background=/images/linedot_hori.gif height=1>[​IMG]</TD><TD vAlign=bottom align=left width=1 height=1>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=center align=middle width=1 background=/images/linedot_vert.gif>[​IMG]</TD><TD><TABLE cellSpacing=5 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD vAlign=center align=middle width=1 background=/images/linedot_vert.gif>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=top align=right width=1 height=1>[​IMG]</TD><TD vAlign=top align=middle background=/images/linedot_hori.gif height=1>[​IMG]</TD><TD vAlign=top align=left width=1 height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=middle>ค้างคาวเป็นแหล่งหลบซ่อนของไวรัสที่พร้อมจะแพร่สู่คนมากมายหลายสายพันธุ์ (ภาพจาก www2r.biglobe.ne.jp)</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
    </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=bottom align=left height=12>[​IMG]</TD></TR><TR><TD bgColor=#cccccc><TABLE cellSpacing=1 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle bgColor=#ffffff><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=160><TABLE cellSpacing=4 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=middle>คลิกที่ภาพเพื่อดูขนาดใหญ่ขึ้น</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=baseline align=middle>ดร.หลินฟา หวัง </TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=baseline align=middle>นักวิจัยพบไวรัสสายพันธุ์ใหม่ที่ก่อโรคทางเดินหายใจ ให้ชื่อว่า "ไวรัสมะละกา" ตามชื่อเมืองที่พบค้างคาวต้นตอของไวรัส (ภาพจาก www2r.biglobe.ne.jp)</TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=baseline align=middle>ค้างคาวกินผลไม้ชนิด เทอโรปัส ไฮโปเมลานัส (Pteropus hypomelanus) (ภาพจาก www2r.biglobe.ne.jp)</TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle width=165 height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD width=4 background=/images/linedot_vert3.gif>[​IMG]</TD><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=7 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>เอพี/เอเยนซี/ไซน์เดลี่ – พบเชื้อไวรัสชนิดใหม่ในค้างคาวมะละกาแพร่สู่ชาวมาเลย์ 3 ราย นักวิจัยระบุเป็นไวรัสโรคทางเดินหายใจเฉียบพลันเช่นเดียวกับซาร์สที่เคยระบาดมาแล้วทั่วเอเชีย แต่โชคดีที่ไวรัสตัวนี้รุนแรงน้อยกว่าและไม่ทำให้ผู้ป่วยถึงตาย

    นักวิจัยออสเตรเลียและมาเลเซียรายงานการค้นพบไวรัสชนิดใหม่ที่มีค้างคาวเป็นพาหะ ต้นเหตุโรคทางเดินหายใจรุนแรงในคน และยังสามารถแพร่เชื้อจากคนสู่คนได้ แม้รุนแรงแต่ไม่เป็นอันตรายถึงตายลงในวารสารสมาคมวิทยาศาสตร์สหรัฐฯ (Proceedings of National Academy of Sciences : PNAS) ฉบับเดือน ก.ค. 2007

    ผลการวิจัยดังกล่าวเป็นความร่วมมือระหว่างนักวิจัยจากห้องปฏิบัติการสุขภาพสัตว์ออสเตรเลีย (Australian Animal Health Laboratory: AAHL) สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และอุตสาหกรรม หรือ คิสโร (Commonwealth Scientific and Industrial Research Organisation: CSIRO) เมืองจีลอง (Geelong) รัฐวิคตอเรีย ประเทศออสเตรเลีย และ ห้องปฏิบัติการสาธารณสุขแห่งชาติ (National Public Health Laboratory) รัฐเซลังงอร์ (Selangor) ประเทศมาเลเซีย

    นักวิจัยเปิดเผยว่าเมื่อเดือน มี.ค. ปีที่แล้ว แพทย์ในรัฐมะละกา (Melaka) ทางตอนใต้ของมาเลเซีย พบคนไข้ชายรายหนึ่งป่วยด้วยโรคทางเดินหายใจอย่างรุนแรง มีไข้สูง ไร้เรี่ยวแรง และเบื่ออาหาร ต่อมาอีก 1 สัปดาห์ ลูกสาวและลูกชายของเขาก็ป่วยในลักษณะเดียวกันแต่อาการไม่รุนแรงเท่า แต่ในที่สุดทั้ง 3 คน ก็ได้รับการรักษาจนหายเป็นปกติ

    จาการตรวจสอบพบว่าก่อนหน้าที่ชายคนนี้จะป่วยประมาณ 1 สัปดาห์ ระหว่างที่เขาและลูกๆ นั่งชมโทรทัศน์อยู่ในบ้าน มีค้างคาวตัวหนึ่งบินเข้ามาเพ่นพล่านไปทั่วห้องราว 2-3 นาที ก่อนจะบินออกไปทางประตูเดิม หลังจากนั้นเขาก็ป่วย

    คณะวิจัยต่างพยายามศึกษาวิเคราะห์ไวรัสที่สกัดแยกมาจากผู้ป่วยครอบครัวดังกล่าว กระทั่งพบว่าเป็นไวรัสสายพันธุ์ใหม่ และเรียกไวรัสสายพันธุ์นี้ว่า "ไวรัสมะละกา" (Melaka virus) ตามชื่อเมืองที่พบค้างคาวตัวต้นเหตุ

    "ไวรัสมะละกาเป็นไวรัสในสกุลรีโอไวรัส (reovirus) ซึ่งก่อโรคในคนและสามารถแพร่เชื้อจากคนสู่คนได้ แม้จะทำให้ผู้ติดเชื้อป่วยเป็นโรคทางเดินหายใจและมีอาการรุนแรง แต่ก็สามารถรักษาหายได้ ดังนั้น ไวรัสนี้ไม่น่าทำให้ผู้ป่วยเป็นอันตรายถึงตายแต่อย่างใด" ดร.หลินฟา หวัง (Dr. Linfa Wang) หัวหน้าทีมของคิสโร ชี้แจง

    ทั้งนี้ รีโอไวรัส เป็นอาร์เอ็นเอไวรัสที่ก่อให้เกิดโรคทางเดินหายใจ สกัดแยกจากคนได้เป็นครั้งแรกเมื่อต้นทศวรรษ 1950s แม้นักวิทยาศาสตร์ยังไม่มีข้อมูลชัดเจนว่าไวรัสมะละกานี้มีต้นกำเนิดมาจากค้างคาว แต่ค้างคาวเป็นพาหะอย่างแน่นอน และจากการพิสูจน์ ดร.หวัง ยืนยันว่า ไวรัสมะละกาเป็นสายพันธุ์ใกล้ชิดกับไวรัสพูเลา (Pulau virus) ซึ่งพบครั้งแรกเมื่อปี 1999 ในค้างคาวกินผลไม้ชนิด เทอโรปัส ไฮโปเมลานัส (Pteropus hypomelanus) หรือ ค้างคาวแม่ไก่เกาะ บนเกาะเตียวมัน (Tioman) มาเลเซีย

    เมื่อไม่นานมานี้นักวิจัยยังตรวจพบแอนติบอดีต่อไวรัสมะละกาในซีรัมตัวอย่างที่เก็บมาจากประชากรบนเกาะเตียวมัน ซึ่งเก็บไว้ตั้งแต่ช่วงปี 2001-2002 เพื่อการเฝ้าระวังไวรัสนิปาห์ (Nipah virus) ซึ่งเป็นสาเหตุของโรคไข้สมองอักเสบที่เคยระบาดในมาเลเซีย เมื่อปี 1999 และมีผู้เสียชีวิตกว่า 100 ราย

    ค้างคาวเป็นแหล่งเชื้อไวรัสหลากหลายชนิดที่สามารถแพร่สู่คนได้ แต่มักไม่ค่อยแสดงอาการในผู้ติดเชื้อสักเท่าใดนัก ส่วนการแยกไวรัสชนิดต่างๆที่เป็นสาเหตุของโรคทางเดินหายใจได้ จะช่วยให้แพทย์วินิจฉัยโรคและให้การรักษาได้อย่างถูกวิธี” ดร.หวัง กล่าว

    อย่างไรก็ดี หลังจากนักวิจัยประกาศชื่อ "ไวรัสมะละกา" ออกไปสร้างความไม่พอใจให้แก่ชาวเมือง เพราะอาจทำให้นักท่องเที่ยวเข้าใจผิดคิดว่าเมืองมะละกาเป็นแหล่งของโรคระบาด เพราะมะละกาเป็นมืองเก่าที่มีมนต์เสน่ห์และเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมของนักท่องเที่ยวทั่วทุกมุมโลก

    แม้แต่อาลี รุสตาม (Ali Rustam) เจ้าผู้ปกครองรัฐมะละกา ยังออกมากล่าวว่า มะละกาเป็นรัฐที่สวยงาม น่าอยู่ และเป็นเมืองที่สงบสุข ไม่ใช่แหล่งกำเนิดโรคร้ายแต่อย่างใด
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     

แชร์หน้านี้

Loading...