ประเทศไทยจะเกิดอุบัติภัยอย่างที่ทำนายกันจริงๆหรือไม่

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย koymoo, 25 มกราคม 2005.

  1. vichai2500

    vichai2500 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    600
    ค่าพลัง:
    +2,877
    ภูตพยากรณ์
    2006-10-11 15:33:52

    ...
    บล็อกนี้สร้างขึ้นมาชั่วคราว สำหรับเป็นที่เก็บข้อมูลที่เปิดเผยให้ผู้ที่สนใจเฉพาะกลุ่ม เพราะไม่ต้องการที่จะเปิดเผยเป็นสาธารณะด้วยเหตุผลส่วนตัวบางอย่าง<?xml:namespace prefix = o ns = "urn:schemas-microsoft-com:eek:ffice:eek:ffice" /><o:p></o:p>
    ด้วยขณะนี้คือ ตั้งแต่ปลายเดือน กันยายน 49 เป็นต้นมา ได้มีสัญญาณปรากฏบนท้องฟ้าแล้วว่า ถึงวาระที่จะเกิดเพทภัยพิบัติขึ้นบนโลกอีกครั้ง ทั้งนี้ตั้งแต่บัดนี้ไปจนตลอดปี 50 <o:p></o:p>
    1.การตั้งฉากของลางอำมหิตบนท้องฟ้า จะส่งผลให้ทั่วโลกเต็มไปด้วยความตรึงเครียด มีการเปลี่ยนแปลงโค่นล้มระบอบการปกครอง ประเทศใหญ่ๆที่พื้นฐานมั่นคงก็ประสบความยุ่งยากในการแก้ปัญหาข้อเรียกร้องต่างๆของคนในประเทศ ประเทศเล็กๆที่พื้นฐานเปราะบางก็จะถูกโค่นล้มอำนาจเปลี่ยนผู้นำใหม่ <o:p></o:p>
    2.จะเกิด วาตภัย สร้างความเสียหายไปทั่วโลก ลมพายุอันน่าสะพรึงกลัวจะก่อตัวขึ้นลูกแล้วลูกเล่าในทะเล แล้วถาโถมเข้าใส่ประเทศต่างๆ สร้างความเสียหายอย่างใหญ่หลวง โดยเฉพาะประเทศที่เป็นหมู่เกาะทั้งหลาย<o:p></o:p>
    3.ประเทศที่อยู่ทางขั้วโลก จะประสบกับภัยความหนาวเย็นอย่างยิ่งใหญ่ ทั้งหิมะตกหนัก และธารน้ำแข็งถล่ม สร้างความเสียหายแก่บ้านเรือน ชีวิต และทรัพย์สินจำนวนมหาศาล<o:p></o:p>
    4.พลังความร้อนใต้โลกจะถูกปลดปล่อยออกมาระลอกแล้วระลอกเล่า เกิดเป็นภูเขาไฟระเบิด และแผ่นดินไหว จะทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ และ ถี่ขึ้นๆ ประเทศที่อยู่ตามรอยเลื่อนของทวีปจะต้องพบกับภัยแผ่นดินไหวนี้อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ <o:p></o:p>
    5.พิกัดของจุดตัดของดาวเหนือบนท้องฟ้า ส่งความหมายถึงความปั่นป่วนทางด้านพลังงาน ทั้งปัญหาเกี่ยวกับน้ำมัน รวมถึงพลังงาน นิวเคลียร์ จะสร้างความกดดันให้เกิดความตรึงเครียดไปทั่วทั้งโลก<o:p></o:p>
    6.ภาวะเศรษฐกิจโลกจะผันแปรไปสู่สภาพ ปลาใหญ่กินปลาเล็ก ธุรกิจขนาดใหญ่จะใช้ความได้เปรียบเข้าฮุบกิจการของธุรกิจขนาดเล็ก ความเป็นธรรมในธุรกิจจะถูกกำหนดกติกาโดยเจ้าของธุรกิจขนาดใหญ่ การเก็งกำไรกันอย่างไร้เมตตาธรรมจะปรากฏให้เห็นจนเป็นภาพที่ชินตาชินใจ ทั้งสร้างความเดือดร้อนลงไปถึงคนทุกระดับชั้น<o:p></o:p>
    <o:p></o:p>
    *** ช่วงเวลาวิกฤตของโลก จะอยู่ในเดือนสิงหาคม 2550 จนถึง พฤศจิกายน ***<o:p></o:p>
    <o:p></o:p>
    สำหรับประเทศไทย 2 ปีที่ผ่านมา รัฐบาลยังไม่แก้ปัญหาเรื่อง อบายมุข อย่างจริงจัง ไม่ยอมปราบหวยใต้ดินให้เด็ดขาด มิหนำซ้ำยังเปิดขายหวยบนดินเสียเอง ทำตัวเป็นเจ้ามือหวย มอมเมาประชาชน หลอกล่อด้วยรางวัลเจ็ตพลอต อีกทั้งขยายสลากหวยรูปแบบอื่นๆ ทั้งหวยออมสิน หวย ธกส แล้วยังจะโครงการหวยออนไลน์ขึ้นมาอีก เรียกว่ามอมเมาไม่สิ้นสุด ทั้งสุรายาเมา ปล่อยปละละเลย ผู้ดูแลก็เอาหูไปนาเอาตาไปไร่ ปล่อยให้เปิดร้านขายเหล้าหน้าสถานศึกษา ในต่างจังหวัดบางแห่งปล่อยให้ขายเหล้าข้างในสถานศึกษาเลย ผลของความมัวเมาทางอบายมุข ส่งผลให้เกิดเพทภัย จึงเกิดภัย สึนามิขึ้นก่อน แล้วตามด้วย น้ำท่วมทั่วทุกภาคของประเทศ <o:p></o:p>
    <o:p></o:p>
    สำหรับปีต่อไปนี้ รัฐบาลยังไม่ได้แก้ไขปัญหาจริยธรรมทางเพศอย่างจริงจัง ปล่อยให้ สื่อสิ่งพิมพ์ต่างๆเต็มไปด้วยการเสนอภาพลามก อนาจาร ยั่วยวนทางกามารมณ์ เอาภาพโป๊ขึ้นหน้าปกเป็นจุดขาย ส่งเสริมให้คนเกิด กามราคะ ยุให้เกิดกิเลสแบบต่างๆ โดยเฉพาะในกลุ่มเด็กวัยรุ่น มีการมั่วเซ็กส์ สมสู่หมู่ อย่างไม่มีความละอายต่อศีลธรรม เกิดปัญหาการทำแท้งในอัตราสูงอย่างน่าตกใจ ผลของความสกปรกทางกาม ทำให้เกิดเพทภัย ถ้ารัฐบาลยังไม่สามารถหยุดพฤติกรรมเหล่านี้ในสังคม จะต้องเกิด วาตภัย สร้างความเสียหายแก่บ้านเรือนและทรัพย์สิน ทั้งใน ปีนี้และปีหน้า จะมีพายุลูกใหญ่ๆเข้าถล่มประเทศหลายลูก เตรียมรับมือกันไว้ให้ดีๆ <o:p></o:p>



    ที่มา....http://nawayokee.212cafe.com/archive/2006-10-11/49-50-1-2-3-4-5-6-2550-2
     
  2. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    [​IMG]
    ภาพประกอบจากทางอินเตอร์เน็ต

    อยากรู้ว่า ถ้าคนว่ายน้ำไม่เป็นแล้วไม่มีใครมาช่วย ต้องทำยังไงคะ

    คำตอบ :

    สำหรับคนว่ายน้ำไม่เป็นก็ต้องเตรียมอุปกรณ์ช่วยชีวิตตัวเองเอาไว้ก่อน เช่น ชูชีพ เสื้อชูชีพ ขวดน้ำดื่มพลาสติก ถังน้ำมันเครื่อง ฯลฯ เอาไว้สำหรับเกาะพยุงตัวให้ลอยน้ำ ที่จริงแล้วทั้งคนว่ายน้ำเป็นและไม่เป็นก็ต้องเตรียมอุปกรณ์ชูชีพเอาไว้ก่อนเสมอ เพื่อที่จะช่วยตนเองและช่วยคนอื่นได้ด้วย หากมีโอกาสก็หัดว่ายน้ำซะ หัดลอยตัวท่าหงายแบบแม่ชีลอยน้ำ ถามคุณครูที่สอนว่ายน้ำก็ได้ว่า ลอยตัวแบบแม่ชีลอยน้ำหัดอย่างไร แล้วก็ลอยตัวแบบนอนคว่ำ (ท่าปลาดาวหรือแมงกะพรุน) ท่านี้จะใช้ลอยตัวได้ทุกคน 100 %​

    อยากได้วิธีช่วยคนตกน้ำโดยที่เค้าหมดสติ-มีสติ ค่ะ

    (โดย หนูดี... [08/02/2549 00:25 ])

    คำตอบ :

    1. การช่วยคนตกน้ำมี 2 แบบ

    1.1 ช่วยแบบไม่จับต้องตัวคนตกน้ำ (Non-contact rescue) ซึ่งเป็นการช่วยคนตกน้ำที่ถูกต้องและปลอดภัยที่สุด เพราะคนตกน้ำไม่มีโอกาสที่จะจับหรือกอดรัดผู้ให้ความช่วยเหลือได้ การช่วยแบบนี้ผู้ให้ความช่วยเหลือจะช่วยจากบนฝั่งหรือลงน้ำไปช่วยก็ได้ แต่จะใช้อุปกรณ์ที่มีความยาวที่เหมาะสมยื่นหรือโยนให้คนตกน้ำจับ แล้วจึงค่อยดึงเข้าฝั่ง การช่วยแบบนี้ใช้สำหรับช่วยคนตกน้ำที่ไม่สลบ

    1.2 การช่วยแบบที่ผู้ให้ความช่วยเหลือต้องจับตัวคนตกน้ำ มี 2 กรณี คือ

    1.2.1 คนจมน้ำหมดสติ (สลบ) เขาช่วยตัวเองไม่ได้ จับอุปกรณ์ก็ไม่ได้ เราจำเป็นต้องจับตัวเขาหงายให้ใบหน้า ปาก จมูกพ้นน้ำ เพื่อที่เขาจะได้หายใจได้ มี 2 ระดับ คือ สลบหายใจ แบบนักมวยโดนน็อค สลบแบบไม่หายใจจะต้องรีบผายปอด ไม่เช่นนั้นสมองจะขาดออกซิเจน รอดหรือไม่อยู่ที่เราให้อากาศเข้าไปได้เร็วแค่ไหน

    1.2.2 คนจมน้ำตื่นตระหนก อันตรายมาก เขาอาจจะจับ จะกอดรัดผู้ที่เข้าไปให้ความช่วยเหลือ เพื่อให้ปลอดภัยเราจะใช้อุปกรณ์ยื่นให้เขาจับ (ตามข้อ 1.1) แต่หากเขาไม่จับหรือเราไม่มีอุปกรณ์เพราะไม่ได้เตรียมอุปกรณ์เอาไว้ จำเป็นต้องเข้าไปให้ความช่วยเหลือโดยเร็ว ต้องใช้ท่า Cross chest ซึ่งยากและต้องใช้กำลังในการลากพาสูงมาก อันตรายมาก หากทำไม่ถูกต้องอาจถูกผู้ประสบภัยกอดรัดเอาได้ ไม่แนะนำให้ใช้ ควรจะได้รับการฝึกฝนโดยเฉพาะเสียก่อนและจะต้องเป็นผู้ทีมีความแข็งแรงและมีทักษะในการว่ายน้ำสูงมาก

    ผู้ประสบภัยติดกิ่งไม้หรือติดซอกหินแน่นมาก แน่นจนดึงไม่ออก ก็ขอตอบตรงๆ ว่า ก็สุดปัญญาน่ะซิครับ เราก็ต้องเอาถังออกซิเจนไปให้เขาหายใจ และอาจจะต้องตัดอวัยวะที่ติดให้ขาดหลุดออกมาได้ ข้อนี้คงต้องใช้วิธีป้องกันคือไม่ลงไปในพื้นที่อันตรายนั้นๆ

    พ.อ.อดิศักดิ์ สุวรรณประกร 01-286-6864 E-mail: adisak_oui@yahoo.com

    ที่มา http://www.js100.com/board/show.php?which=1072
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 มิถุนายน 2007
  3. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>
    ภาคตะวันตกจีนผจญอุณหภูมิเดือด
    </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 align=center border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>26 มิถุนายน 2550 17:21 น.</TD></TR></TBODY></TABLE>

    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>

    </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=300 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=300>[​IMG] </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>เมือง Turpan สถานที่ที่ร้อนที่สุดในเมืองจีน </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>ไชน่าเดลี่-ประชาชนในเขตปกครองตนเองชนชาติอุยกูร์ซินเจียง(ซินเกียง)ผจญคลื่นความร้อนสุดโหดเมื่อวันอาทิยต์(24) โดยในเมือง Turpan วัดอุณหภูมิได้ถึง 44.8 องศาเซลเซียส เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นกล่าว

    แม้ปรกติเมือง Turpan จะเป็นสถานที่ที่ร้อนที่สุดในเมืองจีน แต่อุณหภูมิในเดือนมิถุนายนของปีที่ผ่านมาโดยปรกติจะเฉลี่ยที่ 31 องศาเซลเซียส นักอุตุนิยมวิทยาสำนักงานอุรุมชีกล่าว

    ขณะที่ทางตอนเหนือของซินเกียง ซึ่งปรกติจะมีอุณหภูมิต่ำกว่า เมื่อวันอาทิตย์วัดอุณหภูมิได้สูงเป็นประวัติการณ์ในเมือง Shihezi ที่ 41.7 องศาฯ นับเป็นระดับที่สูงที่สุดของเมืองนี้ในรอบ 30 ปี ซึ่งปรกติช่วงเดือนมิถุนายน Shihezi จะมีอุณหภูมิเฉลี่ย 31 องศา​
     
  4. mead

    mead เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2005
    โพสต์:
    8,134
    ค่าพลัง:
    +62,441
    [​IMG]
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR vAlign=top><TD class=style50 colSpan=3>
    โดย Dr.G.G.Junior

    http://www.universal-signal.com

    </TD></TR><TR vAlign=top><TD class=style50 colSpan=3>
    สภาวะการเปลี่ยนแปลงของประเทศไทย กับมหันตภัยของโลก
    </TD></TR><TR vAlign=top><TD class=style50 colSpan=3><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="2%"></TD><TD class="style50 style50" width="96%">ได้ทราบสัญญาณจากธาตุรู้แล้วว่า มนุษย์นั้นเป็นตัวการหลักที่สำคัญที่สุด ในการทำให้โลกนี้เสียความสมดุลอย่างรุนแรง ในขณะที่โลกหมุน และปรับแกนของตน เพื่อถ่วงความสมดุลนั้นกลับคืนมา ถ้าเปรียบกับมนุษย์แล้ว โลกทำงานหนักแสนสาหัส โดยไม่มีเวลาหยุดพักเลย ในทุกๆ ขณะที่กิจกรรมของโลกดำเนินไป มนุษย์ก็ยิ่งสร้าง ความไม่สมดุลให้กับโลกเพิ่มพูนทวี ด้วยความไม่รู้ ไม่เข้าใจถึงสภาวะสมดุลดังกล่าว มุ่งแต่ประโยชน์ และให้ได้มาซึ่งทรัพย์ที่เรียกว่า
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 มิถุนายน 2007
  5. mead

    mead เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2005
    โพสต์:
    8,134
    ค่าพลัง:
    +62,441
    การเปลี่ยนแปลงทางกายภาพ ที่จะเกิดหลังจากการพลิกกลับขั้วแม่เหล็กโลก


    [​IMG]

    โลกจะพลิกตัวลงไปทางใต้ แล้วกลับขึ้นไปใหม่ ขั้ว S กลับเป็น N ใข้เวลาราว 2เดือน ตามรหัส 49+7


    1.แนวแกนหมุนของโลกทำมุมกับแนวดิ่ง 32 องศา (เอียงเพิ่มอีก 8.5 องศาจากเดิม 23.5 องศา)ทาง NE*
    2.แนวแกนแม่เหล็กโลก จะย้ายไปอีก 3องศา (เดิม 11 องศา) + 3องศา
    3.ระบบโครงข่ายสนามแม่เหล็ก จะยกตัวสูงขึ้น 60.000 กม.
    4.น้ำหนักมวลบนผิวโลกจะลดลง
    5.ความเข้มสนามแม่เหล็กโลกเปลี่ยนเป็น 22 เกาส์ (จากเดิม 14 เกาส์)
    6.โลกจะหมุนเร็วขึ้นจาก 24 ชม. เป็น 22 ชม.ต่อรอบ
     
  6. yutkanlaya

    yutkanlaya เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 ธันวาคม 2006
    โพสต์:
    865
    ค่าพลัง:
    +4,403
    พุทธทำนายภัยพิบัติ
    การเปลี่ยนแปลงโลกจากธรรมชาติ มี 2 สาเหตุ
    โลกจะดีขึ้นๆๆๆตลอดกาล
    โลกจะดับสลายตลอดกาล
    จากภาพรวมทั้งไทยและโลก น่าเชื่อได้ว่า เป็นสิ่งที่ดีแท้ แน่นอน
    เหตุ
    ทฤษฎีเศรษฐศาสตร์ เปลี่ยนใหม่เป็น เศรษฐศาสตร์ทุนนิยมแบบพอเพียง ทั่วทั้งโลกทุกๆประเทศ โดยมีไทยและภูฏานเป็นต้นแบบ น่าจะไทยมากกว่า
    ผล
    เกิดการใช้ทรัพยากรอย่างพอเพียง สมดุล ทดแทน ทั้งโลก จึงเริ่มกลับคืนสู่ สมดุลใหม่ ที่ดีขึ้น อย่างแน่นอน มนุษย์ทั้งโลก เริ่ม รักกัน ไม่แยกหมู่ แยกพวก แยกเชื้อชาติ แยกศาสนา เอื้ออาทรกัน ช่วยเหลือเกื้อกูลกัน เห็นใจกัน เช่น กรณีภัยภิบัติจากธรรมชาติขณะนี้ กรณีเชื้อโรคร้ายๆใหม่ๆที่เกิดขึ้น ทำให้ประเทศร่ำรวย ช่วยประเทศยากจน สุดท้ายก็จะกลายเป็นหนึ่งเดียวกันทั้งโลก โดยยึดความดีเป็นศูนย์กลาง ล้าน%
    ทำ
    ปลูกฝังจิตใจ ที่ใส บริสุทธิ์ ดีงาม ในตัวเองแต่ละคน และกระตุ้นคนอืนๆด้วยการ ยึดหลักธรรม ตามรอยพ่อ อย่างพอเพียง
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 มิถุนายน 2007
  7. mead

    mead เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2005
    โพสต์:
    8,134
    ค่าพลัง:
    +62,441
    ************10 มิถุนายน 2007 เวลา 12.30-13.30 น.


    ป.ล. ในคืนวันนี้เอง ขณะที่ผมสวดภาวนา ผมมองเห็นแม่พระร้องไห้อย่างหนัก ใบหน้าเต็มไปด้วยคราบน้ำตา และผมมองเห็นภาพของแผนที่ประเทศไทยซ้อนอยู่บนรูปปั้นของแม่พระ โดยเฉพาะทางฝั่งตะวันตกของประเทศไทยตั้งแต่ภาคเหนือจรดภาคใต้มีคราบเลือดแดงไปหมด แล้วแม่พระก็ถามผมว่าทำไมช่วงหลังนี้ลูกถึงไม่สวดบทถวายประเทศไทยให้กับแม่ (ผมไม่ได้สวดบทภาวนานี้เป็นเวลาประมาณ 3 อาทิตย์) ผมไม่มีข้อแก้ตัวกับแม่พระจึงรีบไปหยิบบทภาวนานี้ขึ้นมาสวดทันที



    บทถวายประเทศไทยแด่แม่พระ

    ข้าแต่พระแม่มารีย์ผู้ทรงรับเกียรติยกขึ้นสวรรค์ทั้งกายและวิญญาณ พวกลูกชาวไทยต่างชื่นชมยินดีในเกียรติอันสูงส่ง ซึ่งพระเป็นเจ้าได้ทรง ประทานแด่พระแม่

    วันนี้ลูกขอถวายประเทศไทยอันเป็นแผ่นดินเกิดของลูกไว้ในพระหัตถ์ ของพระแม่ ขอพระแม่ได้รักษาไว้ซึ่งอิสรภาพและความเป็นไท ซึ่งเป็นมรดกตกทอดจากบรรพบุรุษมาถึงลูกทุกคนจนตราบเท่าทุกวันนี้

    ลูกวอนขอพระแม่ได้โปรดปกป้องคุ้มครองพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระบรมราชินีนาถ ตลอดจนพระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์ ให้ทรงเป็นร่มโพธิ์ร่มไทรของปวงชนชาวไทยทุกคนตลอดไป

    ลูกวอนขอพระแม่ได้ช่วยให้ชาวไทยทุกคน รักและหวงแหนความเป็นไทของตน โปรดให้ลูกสำนึกว่า ความเป็นไทนี้จะถาวรอยู่คู่กับประเทศชาติบ้านเมืองได้ ก็ต่อเมื่อชาวไทยทุกคนมีความสมานสามัคคีกลมเกลียวกัน ช่วยกันรักษาไว้ซึ่งขนบธรรมเนียม ประเพณี และศีลธรรมอันดีงาม ซึ่งเป็นมรดกอันล้ำค่าของชาวไทยทุกคน

    โปรดอำนวยพระพรแก่พระศาสนจักรคาทอลิกในประเทศไทย บรรดา พระสังฆราช พระสงฆ์ และนักบวชชาย-หญิง ให้ทุกท่านเป็นผู้มีจิตใจเสียสละในการรับใช้ประชากรของพระเป็นเจ้า

    ขอให้เยาวชนคาทอลิกตอบสนองพระกระแสเรียกด้วยใจเสียสละมากยิ่งขึ้น

    โปรดประทานพระพรแก่กิจการต่างๆ ของพระศาสนจักรในด้านการศึกษา ด้านการพัฒนาและสงเคราะห์ เพื่อเป็นสักขีพยานถึงความรักแบบคริสตชนอย่างแท้จริง

    ข้าแต่พระแม่มารีย์ผู้ทรงเกียรติยกขึ้นสวรรค์ องค์อุปถัมภ์ของประเทศไทย ลูกขอถวายประเทศชาติบ้านเมืองอันเป็นที่รักของลูกแด่พระแม่ ขอพระแม่ปกป้องคุ้มครองประเทศไทยและพี่น้องชาวไทย โดยเฉพาะผู้มีใจรักและศรัทธาเป็นพิเศษต่อพระแม่

    ลูกทูลคำภาวนานี้ ในพระนามพระเยซูคริสตเจ้า พระบุตรผู้ทรงจำเริญ และเสวยราชย์ตลอดนิรันดร อาแมน


    + เดือน มิ.ย. 50 ข้อความนี้ถึงลูกๆทุกคน +
     
  8. kananun

    kananun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    10,282
    ค่าพลัง:
    +114,775
    จากคุณวินนี่ครับ

    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>หลายพื้นที่ทั่วโลก ประสบภาวะอากาศแปรปรวน</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>27 มิถุนายน 2550 12:53 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>พื้นที่ทางตอนใต้ของทวีปยุโรป ไม่ว่าจะเป็นโรมาเนีย กรีซ อิตาลี แอลแบเนีย บอสเนีย โครเอเชีย และตุรกี กำลังเผชิญกับภาวะคลื่นความร้อนพัดเข้าถล่ม ทำให้มีผู้เสียชีวิตโดยรวมไปแล้วอย่างน้อย 46 คน ซึ่งกรุงบูคาเรสต์ของโรมาเนีย เป็นพื้นที่ที่มีอุณหภูมิสูงสุดในยุโรปอยู่ที่ 45 องศาเซลเซียส จนรัฐบาลในหลายประเทศต้องออกประกาศเตือนให้ประชาชนหลีกเลี่ยงการอยู่การกลางแจ้ง นอกจากนี้ ยังสั่งให้หน่วยแพทย์และพยาบาล รวมถึงเจ้าหน้าที่กู้ภัยเตรียมความพร้อมเพื่อช่วยเหลือประชาชนได้ทุกเมื่อ
    ขณะที่กรีซ ซึ่งมีอุณหภูมิถึง 44 องศาเซลเซียส ได้รณรงค์ให้ช่วยกันประหยัดพลังงานที่มีการใช้กันมากขึ้นในช่วงนี้ เริ่มด้วยการสั่งให้ข้าราชการ ทหาร หยุดงานได้ในช่วงครึ่งวันบ่าย
    ส่วนที่อังกฤษยังเผชิญกับฝนตกหนักอย่างต่อเนื่องระดับน้ำเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ทำให้ต้องมีการอพยพประชาชนในพื้นที่ตอนเหนือของประเทศ เนื่องจากเกรงว่าระดับน้ำที่เพิ่มขึ้นอาจทำให้เขื่อนกักเก็บน้ำแตกได้ และทำให้น้ำทะลักท่วมเข้าบ้านเรือนประชาชน
    ขณะที่ปากีสถานนอกจากจะมีผู้เสียชีวิตไปแล้ว 235 คน จากน้ำท่วมในการาจี ล่าสุดเจออิทธิพลของพายุไซโคลนพัดเข้าชายฝั่งทางทะเลทางตอนใต้ของประเทศมีผู้เสียชีวิตไปแล้ว 18 คน สูญหายจำนวนมาก
    เช่นเดียวกับพื้นที่ทางตอนใต้และตะวันออกของจีน มีฝนตกหนักตลอด 5 วันที่ผ่านมามีผู้เสียชีวิตไปแล้ว 48 คน ในจำนวนนี้ 37 คน ถูกฟ้าผ่า
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  9. lotte

    lotte เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 ตุลาคม 2004
    โพสต์:
    725
    ค่าพลัง:
    +4,545
     
  10. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193

    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR vAlign=top><TD class=style50 colSpan=3>
    รอยเลื่อนที่มีพลังในประเทศไทย

    [​IMG]

    ประเมินน้ำทะเลท่วมระดับ 5, 10, 20, 30, 40, 50, 75, 100 เมตร

    [​IMG] [​IMG] [​IMG] [​IMG]
    [​IMG] [​IMG]
    [​IMG] [​IMG]

    </TD></TR><TR vAlign=top><TD class=style50 colSpan=3>
    จากในแผนที่ของคุณ Falkman
    ถ้าปริมาณน้ำทะเลเพิ่มขึ้น 5 เมตร กรุงเทพกับปริมณฑล ก็เกือบมิด
    ถ้า 20 เมตร น้ำทะเลก็เข้าไปถึงขัยนาทแล้ว
    อย่าให้ถึงเลยครับ สัก 5-10 เมตร แค่นี้ก็เยอะมากแล้ว
    อ.ปริญญา เคยบอกว่ากรุงเทพจะถูกน้ำท่วมราว 3-6 เมตร
    แต่จะได้คืนกลับมา อาจเพราะแผ่นดินถูกแรงผลักให้ยกตัวสูงขึ้น

    จะมีที่น่าห่วงก็คลื่นยักษ์ ที่พัดเข้าไปในแผ่นดินได้ลึกมากขึ้นกว่าเดิม
    อย่างที่คุณคนานันท์กล่าวถึงภูเขาไฟใต้ทะเลเกิดระเบิดขึ้น ก็เป็นไปได้ครับ
    ที่จะทำความเสียหายได้ถึงภาคเหนือตอนล่าง กับภาคอีสานบางส่วนนะครับ
    ในส่วนของภาพนี้ก็เอาไว้เป็นแนวทางศึกษา เพื่อมองหาจุดที่ปลอดภัยกันได้ครับ
    <!-- / message --><!-- sig -->
    Mead 17-01-2007, 06:35 AM
    </TD></TR><TR vAlign=top><TD class=style50 colSpan=3></TD></TR></TBODY></TABLE>

    อ.ปริญญา ตันสกุล เคยบอกว่ากรุงเทพฯ จะถูกน้ำท่วมราว 3-6 เมตรแต่จะได้คืนกลับมา อาจเป็นเพราะแผ่นดินถูกแรงผลักให้ยกตัวสูงขึ้น


    [​IMG]
    [​IMG]

    รูปนี้เป็นแผนที่ประเทศไทยหลังการเปลี่ยนแปลงใหญ่ที่จะมาถึง อ้างอิงมาจากของ อาจารย์ปริญญา ตันสกุล

    ขออนุญาตอาจารย์ด้วยครับเจตนาเพื่อบอกกล่าวข่าวสารให้เพื่อนๆ พี่น้องรับทราบไว้บ้างครับ อาจารย์ได้ให้ข้อมูลผู้จัดทำ ให้ทำรายละเอียดตามที่ได้รับสื่อจากองค์จิตจักรวาลไว้เมื่อหลายปีก่อนครับ ที่นำมาลงไว้เป็นการทำซ้อนขึ้นมาครับ จะเห็นบริเวญสีแดงๆ คือแผ่นดินและเกาะเล็กๆ น้อยๆ จะหายไปอย่างถาวร รวมไปถึงประเทศเพื่อนบ้านเราบางส่วนครับ..

    ตามที่ทราบมาคือน้ำหนักมวลบนพื้นผิวโลกจำเป็นต้องลดลง 1 ใน 3 ส่วน ตามชายฝั่งทะเลได้รับผลกระทบมากที่สุด เกาะเล็กๆจะหายไปเกือบหมด
    สังเกตดูจะเห็นว่าทางใต้บ้านเราค่อนข้างหนักครับ เพราะพื้นใต้ดินจะเป็นหินปูนที่มีโพลงเป็นส่วนใหญ่ เมื่อเกิดแผ่นดินไหวจะทำให้การเคลื่อนตัวของเปลือกโลก รอยเลื่อนต่างๆ ขยับ ส่งผลให้แผ่นดินยุบตัวลง น้ำทะเลจะเข้าแทนที่ในบริเวณนั้น..

    อาจารย์บอกว่า ขึ้นอยู่กับจิตสำนึกมนุษย์ในพื้นที่นั้นๆ พื้นที่อาจหายมากกว่านี้หรือ มีอยู่มากกว่านี้ได้ครับ เปลี่ยนแปลงได้เสมออยู่ที่จิตสำนึกเป็นตัวตัดสินครับ

    Mead 05-01-2007, 05:06 AM

    ที่มา http://www.palungjit.org/board/showthread.php?t=66002<!-- / status icon and date -->​
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 28 มิถุนายน 2007
  11. kananun

    kananun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    10,282
    ค่าพลัง:
    +114,775
    เรื่องภัยทางน้ำนั้นสืบเนื่องมาจากปัญหาโลกร้อนขึ้นโดยตรง ผมเคยได้บอกไปนานพอควรแล้วว่าน้ำแข็งขั้วโลกละลายในอัตราเร่งที่สูงกว่าที่นักวิทยาศาสตร์ประเมินเอาไว้ และขณะนี้ทางนักวิทยาศาสตร์ก็เพิ่งออกมาประกาศว่าเป็นเช่นนั้นจริงๆ

    เป็นปัจจัยจากการที่ขั้วโลกใต้หันรับแสงอาทิตย์เพิ่มขึ้นทำให้ละลายเร็วขึ้นอย่างมาก จนในปีนี้อาจจะละลายจนเกือบหมดก็ได้

    ช่วยนำข่าวนี้มาลงให้ด้วยครับ เพราะมีผลกระทบโดยตรงกับโลกของเรา

    และในอีกปัจจัยหนึ่งที่เป็นปัจจัยซ่อนเร้นที่ทำให้เกิดผลทางด้านโลกร้อนเร็วขึ้นแบบทวีคุณก็คือ

    น้ำมันเชื้อเพลิงทั้งเบนซินและดีเซลที่อยู่ในรถทุกคันบนโลก มีช่องระบายแรงดันการระเหยน้ำมันออกมา เมื่ออากาศร้อนขึ้นอัตราการระเหยของน้ำมันก็สูงขึ้นตามไปด้วยอย่างมากๆ ทำให้กิดสารไฮรโดรคาร์บอนที่ยังไม่ถูกเผาผลาญระเหยตัวสะสมอยู่ในชั้นบรรยากาศปริมาณมหาศาล

    อยากรู้ว่ามากแค่ไหน ลองเอาน้ำมันวางกลางลานกลางแจ้งปล่อยให้ระเหยดูครับ ว่าไม่นานมันก็ระเหยจนหมด
    สิ่งนี้มีผลกระทบรุนแรงแต่ถูกปิดข่าวสารข้อมูลเอาไว้
     
  12. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    สำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์

    [​IMG]
    ภาพประกอบจากทางอินเตอร์เน็ต


    <TABLE width=760><TBODY><TR><TD align=left bgColor=#b2bcd9>27 กุมภาพันธ์ 2550</TD></TR><TR><TD>
    หัวข้อข่าว :. นักวิทยาศาสตร์ทั่วโลกจะจัดการประชุมเพื่อหารือร่วมกันถึงปัญหาน้ำแข็งขั้วโลกที่กำลังละลาย

    </TD></TR><TR><TD bgColor=#ccccdd><DD> <DD>- นักวิทยาศาสตร์ทั่วโลกจะจัดการประชุมตั้งแต่วันพรุ่งนี้ไปจนถึงวันที่ 9 มีนาคม 2552 ภายใต้โครงการปีขั้วโลกสากล เพื่อหารือกันถึงปัญหาน้ำแข็งขั้วโลกที่กำลังละลาย อันเนื่องมาจากปัญหาโลกร้อน คาดกันว่าการประชุมครั้งนี้จะมีนักวิทยาศาสตร์ทั่วโลกเข้าร่วมไม่น้อยกว่า 50,000 คนจาก 63 ประเทศ โดยจะมีการแลกเปลี่ยนความรู้ระหว่างกันและร่วมศึกษาผลงานวิจัยกว่า 200 ชิ้นเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในแถบขั้วโลก ทั้งขั้วโลกเหนือและขั้วโลกใต้อย่างละเอียด ซึ่งมีการประเมินกันด้วยว่า หากน้ำแข็งขั้วโลกละลายหมด จะทำให้ระดับน้ำทะเลในมหาสมุทรเพิ่มสูงขึ้นถึง 77 เมตร เท่ากับว่าเกาะหลายแห่งและประเทศส่วนใหญ่จะต้องจมหายไปในทะเล <DD> </DD><DD>ทั้งนี้ตามรายงานการวิจัยได้ระบุว่า น้ำแข็งขั้วโลกละลายเร็วกว่าที่ผ่านมา ทำให้ระดับน้ำทะเลเพิ่มสูงขึ้นส่งผลกระทบต่อห่วงโซ่อาหาร นอกจากนี้นักวิทยาศาสตร์ยังได้ระบุว่า ในศตวรรษนี้อุณหภูมิของโลกจะร้อนขึ้นอีก 1.8 ถึง 4 องศาเซลเซียสจากสาเหตุปริมาณก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่ถูกปล่อยออกมาในปริมาณมาก. </DD><DD> </DD></TD></TR><TR><TD align=right>ผู้สื่อข่าว : สุภาพร ครุสารพิศิฐ</TD></TR><TR><TD align=right>rewriter : สุภาพร ครุสารพิศิฐ</TD></TR></TBODY></TABLE>
    ที่มา http://thainews.prd.go.th/previewnews.php?tb=NEWS&m_newsid=255002270399
     
  13. Baramee

    Baramee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    230
    ค่าพลัง:
    +1,032
  14. Nirvana

    Nirvana เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กุมภาพันธ์ 2005
    โพสต์:
    8,188
    ค่าพลัง:
    +20,865
    หากน้ำแข็งขั้วโลกละลายหมด จะทำให้ระดับน้ำทะเลในมหาสมุทรเพิ่มสูงขึ้นถึง 77 เมตร

    ฉะนั้นที่มีผู้กล่าวว่าน้ำจะท่วมเมืองไทยสูงถึง 100 เมตร อาจเป็นไปได้ตามทฤษฏีนี้

    แต่อย่าลืมว่าภัยพิบัติไม่ได้มาจากน้ำเพียงอย่างเดียว ยังมีพายุ และแผ่นดินไหว โรคระบาด รวมถึงอื่นๆอีกมาก

    แล้วเหตุการณ์หลังจากนั้น จะต้องเก็บกวาด ดำรงชีวิตอยู่ให้ได้

    นั่นแหละคือ ปัญหาที่ตามมา
     
  15. mead

    mead เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2005
    โพสต์:
    8,134
    ค่าพลัง:
    +62,441
    ภัยน้ำท่วมที่ว่านี้ คาดว่าไม่น่าถึง100เมตร..น้ำแข็งละลายไม่ทันหมดก็เกิดภัยใหญ่กวาดล้างซะก่อน แต่ถ้าเป็นคลื่นยักษ์สูง 100 เมตรตามชายฝั่งพอเป็นไปได้
    ถ้าจะท่วมเอาสักสองสามชั้นก็พอแล้วครับ ราวๆ 3-6 เมตรพร้อมๆกันทุกแห่ง นี่ก็อ่วมกันทั่วหน้าแล้ว ยังไงฟ้าคงเมตตามนุษย์พอให้มีคนรอดได้บ้าง

    อีกอย่างตึกสูงเกิน 3 ชั้นขึ้นไปก็ไม่ปลอดภัยจากพายุและแผ่นดินไหวด้วยครับ
    ถึงตอนนั้นบางทีคนที่จากไปก่อนอาจโชคดีกว่าคนที่อยู่นะครับ+++
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 28 มิถุนายน 2007
  16. kananun

    kananun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    10,282
    ค่าพลัง:
    +114,775
    ยังให้ข้อมูลไม่หมดครับต้องออกไปข้างนอกก่อน

    จากการที่สารประกอบไฮรโดรคาร์บอนเกิดการระเหยออกสู่ชั้นบรรยากาศปริมาณมหาศาลต่อวัน จะเป็นตัวการอีกประการหนึ่งที่ก่อผลกระทบเพิ่มเติมความรุนแรงต่อปรากฏการณ์เรือนกระจกยังทำให้เกิดความรุนแรงและเกิดการง่ายต่อการลุกติดของไฟป่าในหลายๆพื้นที่ของโลกในช่วงเวลา สองสามปีที่ผ่านมานี้อีกด้วย ทุกสิ่งล้วนเป็นปัจจัยเกื้อหนุนกันให้เกิดอัตราเร่งอย่างทวีคูณของปัญหาโลกร้อน

    อีกตัวแปรหนึ่งที่นักวิทยาศาสตร์ยังไม่นำมากล่าวถึงเนื่องจากจะก่อให้เกิดความวิตกกังวลต่อชาวโลกจนเกินไป ก็คือการที่รังสีคอสมิคและรังสีไมโครเวฟในช่วงความถี่ต่างๆ ทำปฏิกิริยา "เตาอบ" โลกจากภายใน ทำให้ของเหลวที่เป็นลาวาในโลกให้เดือดหรือสุกจากใต้เปลือกโลกในแบบการทำงานของเตาไมโครเวฟ มีผลทำให้เกิดการประทุของภูเขาไฟเพิ่มขึ้นอย่างน่าตกใจ โดยเฉพาะในบริเวณที่เป็นน้ำแข็งขั้วโลก

    นักวิทยาศาสตร์คำนวนเฉพาะการเพิ่มของอุณหภูมิของบรรยากาศ แต่ไม่ได้คำนวนเผื่อความร้อนจาก"เตา"ที่อยู่ใต้โลก ดังนั้นการประมาณการที่ว่าอีก สิบปี ยี่สิบ หรือห้าสิบปี น้ำแข็งขั้วโลกถึงจะละลายหมดนั้น อาจทำให้การวางแผนเตรียมรับมือกับภัยพิบัติไม่ทันการ

    ล่าสุดวันสองวันนี้นักวิทยาศาสตร์ ได้ออกมาประกาศยอมรับแล้วว่า น้ำแข็งขั้วโลกใต้อาจจะละลายหมดภายในปีนี้ ดังนั้นขอให้พวกเราอย่าได้ประมาทเตรียมการณ์รับสภาพที่มีปริมาณน้ำจำนวนมหาศาลเอาไว้ด้วยครับ

    ขณะนี้ภาวะโลกร้อน(แค่เพียงอย่างเดียว) ก็ส่งผลกระทบทำให้สัตว์หลายสปีชี่เกือบสูญพันธุ์กันไปแล้ว และในรอบสองปี คนอีกหลายแสนคนต้องอพยพย้ายถิ่นฐานครั้งใหญ่

    ภายในปีนี้หากเหตุการณ์ทวีความรุนแรงขึ้น คงไม่ต้องบอกครับว่าเราต้องทำอย่างไรบ้าง
     
  17. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    ธารน้ำแข็งละลายมากน้อยเพียงใด


    [​IMG]
    ภาพเปรียบเทียบการละลายของธารน้ำแข็งแห่งหนึ่งในพาตาโกเนีย (Patagonia)
    ประเทศอาร์เจนตินา ในปี ค.ศ. ๑๙๒๘ (บน) และ ๒๐๐๔ (ล่าง)

    บนพื้นผิวโลก ดูเหมือนว่าการละลายของน้ำแข็งที่บริเวณขั้วโลกได้รับผลกระทบจากภาวะโลกร้อนมากที่สุด

    ก่อนอื่นต้องเข้าใจกันก่อนว่า น้ำแข็งที่ปกคลุมผิวโลกนี้แบ่งเป็น ๒ ส่วนใหญ่ๆ คือ น้ำแข็งที่เกิดจากการแข็งตัวของน้ำทะเล (Sea ice) ได้แก่ บริเวณชายขอบของทวีปแอนตาร์กติกาในซีกโลกใต้ที่ยื่นต่อเนื่องไปจากแผ่นน้ำแข็งในทวีป มีพื้นที่ประมาณ ๑๗-๒๐ ล้านตารางกิโลเมตรในฤดูหนาว และลดลงเหลือ ๓-๔ ล้านตารางกิโลเมตรในฤดูร้อน และแผ่นน้ำแข็ง (Ice sheets) ที่ปกคลุมมหาสมุทรอาร์กติกในขั้วโลกเหนือ มีพื้นที่ประมาณ ๑๔-๑๖ ล้านตารางกิโลเมตรในฤดูหนาว และเมื่อฤดูร้อนมาเยือน น้ำแข็งจะค่อยๆ ละลายลงเหลือพื้นที่ประมาณ ๗-๙ ล้านตารางกิโลเมตร

    อีกประเภทหนึ่งคือ พืดน้ำแข็งที่ปกคลุมผืนแผ่นดิน ซึ่งเกิดจากการทับถมกันของหิมะ อันได้แก่ ทวีปแอนตาร์กติกาในขั้วโลกใต้ ที่เกาะกรีนแลนด์ในมหาสมุทรแอตแลนติกเหนือ และที่บริเวณธารน้ำแข็งบนยอดเขาสูงๆ รวมพื้นที่ประมาณ ๑๗ ล้านตารางกิโลเมตร หรือประมาณ ๑๐ % ของพื้นที่โลก ในจำนวนนี้อยู่ในทวีปแอนตาร์กติกา ๑๕ ล้านตารางกิโลเมตร และบนเกาะกรีนแลนด์ ๑.๘ ล้านตารางกิโลเมตร

    ที่น่าสนใจคือแผ่นน้ำแข็งที่ปกคลุมทวีปแอนตาร์กติกาหนาถึง ๓,๐๐๐ เมตร ขณะที่แผ่นน้ำแข็งที่ปกคลุมมหาสมุทรอาร์กติกหนาประมาณ ๓ เมตร

    และคนที่รู้เรื่องความหนาของน้ำแข็งขั้วโลกดีที่สุด หาใช่นักวิทยาศาสตร์ไม่ แต่เป็นกองทัพเรือสหรัฐอเมริกา

    ในช่วงสงครามเย็นระหว่างสหภาพโซเวียตกับสหรัฐอเมริกาเมื่อประมาณ ๔๐ กว่าปีก่อน เรือดำน้ำของสหรัฐฯ ต้องคอยลาดตระเวนใต้มหาสมุทรอาร์กติกเป็นประจำ และหากได้ข่าวว่ากองทัพโซเวียตเป็นฝ่ายโจมตีก่อน เรือดำน้ำเหล่านี้ก็พร้อมจะทะยานทะลุชั้นน้ำแข็งขึ้นมาเพื่อยิงขีปนาวุธตอบโต้

    การศึกษาและเก็บข้อมูลความหนาของน้ำแข็งจึงถือเป็นความลับของกองทัพเรือสหรัฐอเมริกา

    ในช่วงปลายปี ค.ศ. ๑๙๙๐ เรือดำน้ำพลังงานนิวเคลียร์ของสหรัฐอเมริกาที่มักจะไปปฏิบัติการลับในขั้วโลกเหนือ ได้เปิดเผยว่า แผ่นน้ำแข็งที่ปกคลุมขั้วโลกเหนือมีความหนาลดลงถึง ๔๐ % คือจากความหนาโดยเฉลี่ย ๓ เมตรในปี ค.ศ. ๑๙๖๐ ได้ละลายลงเหลือ ๒ เมตร ภายในเวลาเพียง ๓๐ ปี


    [​IMG] [​IMG]
    ภาพเปรียบเทียบขนาดของแผ่นน้ำแข็งในมหาสมุทรอาร์กติก
    ภาพซ้ายถ่ายในปี ค.ศ. ๑๙๗๙ ภาพขวาถ่ายในปี ค.ศ. ๒๐๐๕

    ศูนย์ข้อมูลน้ำแข็งและหิมะแห่งชาติของสหรัฐอเมริกาได้เปิดเผยการสำรวจขั้วโลกเหนือด้วยดาวเทียมสำรวจขององค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติของสหรัฐอเมริกาหรือนาซา พบว่าน้ำแข็งในบริเวณมหาสมุทรอาร์กติกละลายเร็วขึ้นกว่าเดิม และอุณหภูมิก็สูงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ดาวเทียมของนาซาได้เก็บข้อมูลตั้งแต่ปี ๒๐๐๒ แสดงให้เห็นว่าฤดูใบไม้ร่วงอันเป็นช่วงน้ำแข็งละลายได้คืบคลานมาเร็วผิดปรกติในแถบไซบีเรียเหนือและอะแลสกา

    เท็ด สคัมโบส (Ted Scambos) จากมหาวิทยาลัยโคโลราโดชี้ว่า การละลายของน้ำแข็งขั้วโลกมีแนวโน้มจะเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว จากสัญญาณที่ระบุได้ชัดเจนก็คืออุณหภูมิบริเวณขั้วโลกเหนือเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในรอบทศวรรษนี้

    จากการตรวจวัดด้วยดาวเทียมพบว่า อุณหภูมิของขั้วโลกเหนือสูงขึ้นในอัตรา ๒.๕ องศาเซลเซียสใน ๑๐ ปี ซึ่งสูงกว่าในช่วง ๑๐๐ ปีก่อนหน้านั้นมาก ส่งผลให้ทุกๆ ๑๐ ปี น้ำแข็งขั้วโลกเหนือจะหายไปประมาณ ๙ %

    นักวิทยาศาสตร์ทำนายว่า ในทศวรรษ ๒๐๘๐ บริเวณขั้วโลกเหนือและมหาสมุทรอาร์กติกจะมีอุณหภูมิเพิ่มขึ้นถึง ๑๐ องศาเซลเซียส ส่งผลให้ในฤดูร้อน น้ำแข็งบริเวณขั้วโลกเหนือจะละลายไปจนหมดสิ้น รอจนอากาศเข้าสู่ความหนาวเย็นจึงจะมีน้ำแข็งมาปกคลุมบริเวณขั้วโลกเหนืออีกครั้ง แต่ก็หายไปถึงครึ่งหนึ่ง

    ขณะที่แบบจำลองด้านภูมิอากาศทำนายว่า หากการละลายของน้ำแข็งยังคงอัตราเช่นนี้ แนวโน้มที่จะไม่มีน้ำแข็งปกคลุมขั้วโลกเหนือในฤดูร้อนอาจจะเกิดขึ้นภายใน ๒๕ ปีข้างหน้า

    ลองมาสำรวจน้ำแข็งบริเวณอื่นกันบ้าง


    [​IMG]
    ภาพดาวเทียมแสดงการแตกของแผ่นน้ำแข็ง ลาร์เซน-บี
    เปรียบเทียบระหว่างวันที่ ๓๑ ม.ค. ๒๐๐๒ (ซ้าย) และ ๕ มี.ค. ๒๐๐๒ (ขวา)
    ที่มา : MODIS Images/NASA
     
  18. อักขรสัญจร

    อักขรสัญจร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    4,513
    ค่าพลัง:
    +27,181
    100เมตรนั่นอีกราวๆ50ปีฮะ
     
  19. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับน้ำท่วมโลก
    โดย chubby

    [​IMG]

    ต่อไปเป็นส่วนรื้อฟื้นความรู้พื้นฐานของนักเรียนสายวิทยาศาสตร์นะครับ

    1. น้ำท่วมโลก เกิดจากการละลายของน้ำแข็งบนบก ไม่ใช่การละลายของน้ำแข็งบนน้ำ อีกความหมายหนึ่งคือ น้ำท่วมโลกเพราะการละลายของน้ำแข็งขั้วโลกใต้ ไม่ใช่เหนือ ทดสอบได้ง่ายๆ โดยการเทน้ำเปล่าลงในแก้วที่ใส่น้ำแข็งจนเต็ม รอจนน้ำแข็งละลายจะพบว่าน้ำไม่ล้นออกจากแก้ว เป็นเพราะว่าแม้น้ำแข็งจะมีปริมาตรมากกว่าน้ำอุณหภูมิปรกติ แต่ตัวน้ำแข็งเองมีความหนาแน่นน้อยกว่า (ประมาณ 0.9) ดังนั้น เมื่อ
     
  20. mead

    mead เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2005
    โพสต์:
    8,134
    ค่าพลัง:
    +62,441
    <TABLE width="90%" border=0><TBODY><TR><TD class="" vAlign=top align=middle width=75></TD><TD class="" vAlign=top>คืนวันศุกร์นี้ ดร. สมิธ ธรรมสาโรจน์ ร่วมเสวนา เกี่ยวกับเหตุภัยพิบัติใน
    ประเทศไทย ในรายการ the Icon ช่อง 9 สี่ทุ่ม ลองติดตามดูครับ

    -------------------------------------------------------------


    ดร.สมิธ ธรรมสาโรจน์ และ อ.เจริญ วรรธนสิน ร่วมเสวนา ในงาน Did you know
    เกี่ยวกับภัยทางธรรมชาติในแง่หลักวิทยาศาสตร์ และ การตีความคัมภีร์ใบเบิ้ล

    ชม clip VDO งานเสวนาได้ที่นี่ 100 KBps



    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 30 มิถุนายน 2007

แชร์หน้านี้

Loading...