ง่วงมากผิดปกติ และเหมือนไม่มีแรงบ้าง (ยังเป็นอยู่หรือไม่ เมื่อไหร่จะจบ)

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย topsivachan, 14 มกราคม 2011.

  1. n@kARin

    n@kARin Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    116
    ค่าพลัง:
    +94
    ผมก็เป็นครับ ง่วงจนต้องหาที่งีบ โดยเฉพาะตอนกลางวัน อาการหนักมาก ทั้งที่เมื่อก่อนไม่เป็น นึกว่าโรคขี้เกียจกำเริบซะแล้ว อีกอย่างเวลาเดินแล้วหันตัวเลี้ยว จะเกิดอาการวิ้งๆเหมือนจะวูบ ส่วนอาการข้างเคียงคือมีอารมณ์แปรปรวน ไม่อยากพูดคุยกับใคร เป็นเอามากนะนี่
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 14 มกราคม 2011
  2. Lastquarter

    Lastquarter เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    386
    ค่าพลัง:
    +272
    เป็นเหมือนกันครับเวลานอนใจจะเต้นเร็วแล้วนอนนานมากจะตื่นก็ไม่มีแรงมีหลายวันเหมือนกันที่ตื่นเที่ยง ๆ บ่าย ๆ ซึ่งไม่ใช่เวลาตื่นนอนของผม แต่จิตนิ่งมากครับสงบอย่างบอกไม่ถูก
     
  3. Khun_ple

    Khun_ple เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    50
    ค่าพลัง:
    +102
    เป็นเหมือนกันค่ะ ง่วงๆไม่มีแรงทำอะไร ตาจะปิดอยู่เรื่อย ไม่ทราบว่าเกิดจากอะไรค่ะ
     
  4. nongnai99

    nongnai99 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    97
    ค่าพลัง:
    +82
    ผมจะง่วงมากเลยครับ เหมือนกับว่าหลับไม่สนิท ทั้งๆที่หลับลึกนะครับ
    แล้วก็เพลียเช่นกันครับ ไม่ค่อยจะมีแรงทำอะไรเลย
     
  5. เมทิกา

    เมทิกา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    952
    ค่าพลัง:
    +2,393
    น่าจะดีขึ้นได้แล้วนี่นา แต่ร่างกายแต่ละคนไม่เหมือนกันนะ
    เจริญกรรมฐานบ่อยๆ จะช่วยได้มาก
     
  6. mokhpoo

    mokhpoo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มกราคม 2009
    โพสต์:
    223
    ค่าพลัง:
    +239
    มีอาการนี้มาตั้งแต่หลังวันเกิด(ต้นเดือนธันวา)แล้วครับ..
    3-4 วันหลังมานี่รู้สึกหนักที่ไหล่ด้านขวาเพิ่มขึ้นอีก....
    เฮ้อ...สมาธิ...สมาธิ...
     
  7. ปารามิตราราชาวดี

    ปารามิตราราชาวดี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    93
    ค่าพลัง:
    +404
    ของเราเป็นมากในวันที่ 5 ม.ค. ขับรถเหมือนจะหลับให้ได้..ทั้งที่เป็นกลางวัน และเวียนหัวทั้งวัน แต่ตอนนี้หายแล้วค่ะ เพราะลองใช้วิธีของพระอาจารย์รัตน์ ใช้จิตนึกไปเหยียบที่เท้าขวาของตัวสฟิงซ์ ถ่ายพลังงานที่ไม่ดีต่างๆลงแกนโลก
     
  8. topsivachan

    topsivachan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 เมษายน 2006
    โพสต์:
    35
    ค่าพลัง:
    +133
    ปกติผม ใส่บาตรเป็นประจำ ไปซอยสามลมเสมอๆ ได้สมาธิเล็กน้อย พอหอมปากหอมคอ ไม่สนใจเรื่องปาฏิหารย์ ต่างๆมากนักแม้ว่า จะรู้วามันมีอยู่ แต่ว่าไม่ค่อยเกี่ยวกับการงานทางโลกที่ผมรับผิดชอบอยู่ และดูเหมือนว่า กลุ่มคนส่วนใหญ่ในสังคมเห็นเป็นเรื่องไร้สาระ ขนาดว่า คนพูดเป็น ศ.ดร หรือ ดร. ขั้นเทพจาก องค์ระดับโลก ระดับประเทศทั้งนั้น ถ้าพูดเรื่องแนวนี้เมื่อไหร่ มีอันโดน กลุ่มนักวิชาการ และกลุ่มคนที่สนใจแต่เรื่องทางวัตถุ แอนตี้ตลอด เลยคิดว่าการเฝ้าดูน่าจะปลอดภัยกว่า

    ผมเชือว่าคนส่วนใหญ่ในห้องนี้ เป็นคนรุ่นใหม่ เป็นคนมีความรู้ และสนใจเรื่องแนวนี้อยู่ลึกๆ แต่ว่าพวกเราก็เฝ้าติดตามเรื่องราวผ่านเวปนี้ แต่ไม่ค่อยมีอยากแสดงตัวมากนักในสังคมทั่วไป จริงๆพวกพลังงานaura พลังจัการวาล แม่เหล็กไฟฟ้าของโลก พายุสุริยะ มนุษย์ต่างดาวทั้งหลาย ผมว่าเค้าก็มีของเค้าอยู่นานแล้วละ ตั้งแต่ในอดีต ในปัจจุบันและ จะมีต่อไปในอนาคต เรื่องภัยพิบัติก็มีคนเตือนมามาก แต่ผมก็คิดว่าถ้ามันเกิดขึ้นจริงๆ พวกเราอย่างมากก็ตาย หรือไม่ก็รอด ไม่ต้องกังวลมาก และจะเกิดเวลาใด ไม่มีใครพยากรณ์ได้หรอก ขนาดครูบาขั้นเทพ ที่รู้จริงๆ ก็ไปบอกเหตุการณ์ ฝืนกรรมคนเป็นแสนๆล้านไม่ได้หรอก
    อย่างมากท่านก็บอกให้เร่งทำความดี ละความชั่ว ทำจิตใจให้ผ่องใส เวลาเหลือน้อยแล้ว

    เท่าที่ติดตามเวปนี้มากว่า 5 ปีก็รู้สึกว่ามี คนที่มีความสามารถพิเศษ และมีความรู้ในเรื่องอภิปรัชญา (จริงๆ) ไม่ใช่ทฤษฎีอยู่หลายท่าน ที่ออกมาแชร์ความรู้และให้คำแนะนำดีดี
    ตัวผมเองรู้สึกถึงความผิดปกติในร่างกายมากว่า 5ปี แล้ว แต่ว่าพยายามไม่สนใจกับมันมากนัก แต่ว่าช่วงที่ผ่านมานั้น มันเกิดอาการง่วงอย่าง มากๆ เหมือนคนขี้เกียจ ไม่อยากทำอะไร ถ้าวันไหนนอนได้ก็จะนอน อย่างไรก็ตาม ถึงนอนมากแต่จิตรู้สึกโล่งโปร่งและเบา ยิ่งทำให้ไม่อยากทำอะไร นอกจากนั่งสมาธิกับ นอน หนักเข้าไปอีก ซึ่งเช็คกับเพื่อนในกลุ่มประมาณ ๑๐ คน ก็เป็นโดยบังเอิญ จึงอยากจะเช็คกับท่านอื่นๆในวงกว้าง

    เคยไปถามอาจารย์สายพุทธ ท่านบอกให้รู้แล้วทิ้ง อย่าไปสนใจมัน ...เลยไม่ได้คำตอบ อยู่ดี เพราะผมอยากรู้ ไม่ได้อยากทิ้ง ผมอยากรู้เหตุ และอยากรู้เรื่องของใบไม้ในป่า อีกมากมายที่ตอนนี้ ข้อมูลเริ่มมีมากขึ้น กว่า ๒๕๐๐ ปีมาแล้ว จนผมได้พบ อ.หม่าม้า อีกครั้งหลังจากไม่ได้เจอกันเกือบ๑๐ปี หม่าม้า จำผมได้ทันที ด้วยการฟังจากเสียง จริงๆทำจำพลังงานในตัวผมได้ต่างหาก

    สรุปว่า หม่าม้า บอกผมว่า ถ้าคนที่รับได้ ที่หลับและง่วงกันมากๆ นั้นเกิดจากร่างกายกำลังปรับตัวให้เข้ากับพลังงานที่ค่อยเปลี่ยนแปลงของโลกนี้ เพราะว่าการนอนนั้นร่างกายจะพักผ่อน เซลล์ต่างๆจะสามารถปรับตัวได้อย่างดีกว่าชั่วตื่น มันจะค่อยๆปรับไปเรื่อยจนถึงเวลาให้เราคุ้นกับพลังงานใหม่ เพราะถึงเวลา ถ้าโลกเปลี่ยนแปลงพลังงานอย่างเต็มที่ คนที่เซลล์ในร่างกายไม่เคยได้ปรับตัวมาก่อนเลย จะไม่สามารถรับพลังงานนั้นได้เลยจริงๆ ต่างๆประเทศเค้าบอกว่า will be removed ซึ่งผมก็ยังไม่เข้าใจรายระเอียด วิธีการ remove ของธรรมชาติเค้าจะทำอย่างไร จะคอยดูเหมือนกันถ้าวันหนึ่ง ผมจะถูก remove

    ท้ายนี้ผมหวังว่าจะมีเพื่อนๆอีกหลายท่านจะออกมาบอกข้อมูลของท่านให้ฟังบาง
    ขอบคุณครับ
     
  9. น า ทู รี

    น า ทู รี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    152
    ค่าพลัง:
    +164
    เหนื่อย เพลีย ง่วง เฉื่อย ทั้งที่เมื่อก่อนแข็งแรงไฮเปอร์ ประมาณปีนึงที่ผ่านมา สนใจศาสนาพุทธมากขึ้น กลัวบาปอย่างไม่เคยเป็น ชอบสวดมนต์ บางวันนึกอยากสวดขึ้นมาเอง
     
  10. Phusaard

    Phusaard เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    436
    ค่าพลัง:
    +349
    อืมช่วงนี้นั่งสมาธิแล้วตกภวังค์บ่อยๆ
     
  11. สันโดษ

    สันโดษ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    9,940
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +16,870
    ตอนนี้อากาศเป็นพิษกำลังจะถูกปล่อยจากข้างบนลงมาแล้วและกำลังกดต่ำลง

    จะทำให้สัตว์และมนุษย์มีความเฉื่อยชามากขึ้น คนจะหลับในโดยไม่รู้ตัวมากขึ้น

    ต่อไปอุบัติเหตุในท้องถนนจะมากขึ้นและชนกันทีละหลายๆ คัน หลังจากนั้นสัตว์ที่อยู่บนอากาศจะตายก่อนเพราะอากาศพิษเหล่านี้

    สำหรับการ
    แก้ไขในจุดนี้เราใช้การกินอาหารจำพวกแป้ง..กินมันและเผือกจะทำให้ร่างกายชุ่มฉ่ำ ชุ่มชื้น และตื่น..ไม่หลับ

    เมื่อรู้สึกแน่นหน้าอก หายใจไม่ออก รู้สึกหนักที่จิตมาก รู้สึกมึนศีรษะอย่างแรง ใช้น้ำเปล่า ราดรดหัวและหน้าทั้งตัว

    พร้อมดื่มกินเข้าไปด้วยเพราะ
    น้ำเปล่าที่บริสุทธิ์จะเข้าไปชำระล้างพิษที่

    เกาะนอกกายและในกายแล้วให้เราขับออกมาทางรูขุมขนหรือผายลม อาการที่เกิดขึ้นนั้นหายทันที

    เมื่อได้กลิ่นอะไรประหลาดๆ ให้นอนหลับเมื่อนอนหลับจะไม่หายใจทางจมูก

    แต่หายใจทางผิวหนังแทน...ที่หลวง ปู่พุทธะอิสระสอนให้ฝึกหายใจ ทางผิวหนัง..

    ในช่วงที่แกนโลก พลิก 3 วันแรกหลับแบบกบจำศีลก่อนตื่น (หายใจทางผิวหนัง)

    สรุปว่าท่านทั้งหลายควรฝึกการหายใจให้ถูกต้องเพื่อรับกับสภาพมิติใหม่ที่จะเกิด

    คนที่เป็นส่วนมากเก็บกด คิดมาก ฟุ้งซ่าน งานเยอะ พลังงานในตัวลบเยอะ

    พลังในสมองมากเกินกว่าพลังร่างกายที่ใช้ออกไป

    ต้องรู้จักหาวิธีระบายเช่นออกกำลังกายหนักๆ เดินบนหญ้า ร่างกายจะได้เบาขึ้น

    ถ้าคนที่พลังบวกในตัวมากกว่า ได้อยู่ในสิ่งเเวดล้อมธรรมชาติมากกว่า

    โดยเฉพาะอยู่ใกล้กับเด็กๆ จะไม่ค่อยเป็นอะไร เพราะคลื่นความถี่บริสุทธิ์

    เสียงเพลง เสียงธรรมะ เสียงธรรมชาติ เสียงอะไรก็ได้ที่ทำให้เรารู้สึกดี คือ การปรับคลื่นความถี่ในสมองค่ะ

    เนื่องจากภายในตัวเรา ตัวตนที่เเท้จริง คือ พลังงานคลื่นความถี่ (ความคิดต่างๆ,จิตวิญญาณ)

    เมื่อรวมกันมากๆเป็น มวลเเสง เพราะฉะนั้น

    การจะปรับให้คลื่นเท่ากับความถี่ปัจจุบันของเเม่เหล็กโลกต้องใช้เสียงปรับค่ะ

    ถ้าปวดหัวเมื่อไร ให้เปิดเพลงใส่หูฟังค่ะ

    เพราะเสียง คือ คลื่นความถี่ที่ซ่อมเเซม DNA ของเราได้ดีที่สุดค่ะ

    เพิ่มเติม
    จากคุณ ชยุต กระทู้:การเปลี่ยนแปลงรหัสพันธุกรรมและซ่อมแซม DNA ด้วยคลื่นเสียง - PaLungJit.com
     
  12. สันโดษ

    สันโดษ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    9,940
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +16,870
    ตอนนี้ระบบสุริยจักรวาลกำลังเกิดคลื่นความถี่ที่เพิ่มมากขึ้นเรื่อย

    ซึ่งทำให้เกิดผลกระทบกับร่างกายของมนุษย์ในปัจจุบัน

    เเละโลกของเราก็กำลังเตรียมที่จะปรับตัวในการเปลี่ยนเเปลงปี 2012 ที่จะถึงนี้

    21 ธันวาคม 2012= 6 ขวบปี รอบระบบสุริยจักรวาล หรือทุกๆ 26,000 ปี

    เวลาที่โลกหมุนรอบระบบสุริยจักรวาลจะเคลื่อนขึ้นลงเหมือนคลื่นความถี่เเละครั้งนี้โลกของเราจะถูกยกสูงขึ้นไปอยู่มิติที่ 4-5

    [​IMG]

    [​IMG]

    ดังนั้นจึงทำให้โลกเเละร่างกายของเราเกิดการเปลี่ยนเเปลงนั้นเองค่ะ


    หลายพันปีที่ผ่านมาโลกเคลื่อนลงมาอยู่ในโซนคลื่นความถี่ต่ำฝ่ายมืดเเละมิติที่สามจึงมีอำนาจมากกว่าฝ่ายสว่าง

    ตั้งเเต่ปีนี้เป็นต้นไปมนุษย์จะจิตใจสูงขึ้น ฉลาดขึ้น ใช้ใจในการตัดสินใจมากขึ้น เพราะมี คลื่นความถี่ที่สูงขึ้น

    มนุษย์จะเข้าสู่ยุคเเห่งความรัก ความสงบ ใครที่ยังคิดเเต่เเง่ร้าย มองโลกในเเง่ลบจะไม่สามารถยกระดับไปด้วยได้

    เเละสุดท้ายก็จะต้องเสียชีวิตด้วยวิธีใดวิธีนึงเนื่องจากคลื่นความถี่ไม่ เท่ากับโลกมนุษย์ในปัจจุบัน ส่วนไหนที่เป็นส่วนเกินของโลกจะถูกชะล้างออกไป

    นี้ คือ ข้อพิสูจน์ว่าการเปลี่ยนเเปลงกำลังเกิดขึ้นขณะนี้

    ทำให้เกิดการเปลี่ยนเเปลงของร่างกายของมนุษย์ เเละจะทำให้พวกเขาสามารถเข้าถึงสัมผัสพิเศษต่างๆนั้นเอง

    ไม่ว่าจะเป็นการเห็นในสิ่งที่คนอื่นไม่เห็น การสื่อสารจากมิติที่สูงกว่า การเห็นออร่า การรักษาผู้อื่น ฯลฯ

    ซึ่งพรสวรรค์เหล่านี้มีอยู่เเล้วในสมัยที่ยังเป็นเด็ก

    รวมทั้งจะเกิดการช่วยปลดล็อคว่า ทำไมเราถึงอยู่ที่นี้ ทำไมเราถึงมีชีวิตบนโลกใบนี้

    เเละจริงๆเเล้วจิตวิญญาณของเราสามารถทำอะไรได้บ้าง

    สำหรับบางคนสิ่งต่างๆที่ได้กล่าวมา ได้เกิดขึ้นเเล้ว

    เมื่อสัมผัสถึงความรู้สึกเร่งรีบ หรือ คิดว่าถึงเวลาที่จะต้องกลับบ้านเเล้ว

    ดีเอ็นเอของคุณกำลังบอกข้อความต่างๆเหล่านี้

    ร่างกายของคุณไม่สามารถที่จะอยู่กับคนที่มองโลกในเเง่ร้าย

    คุณจะรวมตัวกับคนที่มองโลกในเเง่ดีเท่านั้น เพื่อการเตรียมตัว

    โดยที่พวกเขาอาจะไม่รู้เลยว่า พวกเขากำลังอยู่ในช่วงเเห่งการเปลี่ยนเเปลง

    เเต่สรุปว่า ยังไงก็ตามไม่มีใครใหญ่กว่ากรรมค่ะ
     
  13. สันโดษ

    สันโดษ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    9,940
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +16,870
    สันโดษเข้าใจในอาการปวดหัวของทุกคน เเละ รู้ว่า มันเกิดเพราะอะไร

    พวกคุณหลายๆคนยังโชคดีกว่าสันโดษมาก

    เพราะ สันโดษปวดหัวขนาดที่ออกจากบ้านไม่ได้เป็นเวลาเกือบ 1 ปีเเละไม่มีใครบอกได้ว่ามันเกิดเพราะอะไร

    ทุกครั้งที่ออกไปนอกบ้านเหมือนตกนรกทั้งเป็น ต้องเอาบทสวดมนต์ใส่ Mp3 ฟังตลอดเวลา

    เพราะคิดว่า ยังไงก็ตาม ถ้าปวดหัวตายขณะฟังบทสวดมนต์หรือฟังธรรมะคงจะตายไปในภพภูมิที่ดีเเน่นอน

    เมื่อสันโดษไม่มีทางออก เเละ หมดหนทางไม่มีใครช่วยได้

    สันโดษจึงตั้งจิตอธิษฐานขอครูบาอาจารย์ที่ตัวเองนับถือช่วยบอกทางให้หายปวดหัว

    หลังจากนั้นไม่นานสันโดษก็ได้พบวิธีการรักษาตามเเรงอธิษฐาน

    เริ่มจากการฟังธรรมเทศนาเรื่องการดูจิตจากหลวงพ่อปราโมทย์

    คาถาบริกรรมรวมจิต (เมื่อปวดหัว)จากหลวงพ่อฤาษีลิงดำ
    "อิติสัมมาสัมพุทธัสสะ มะมะ จิตตัง"

    การขอขมากรรม การนั่งฟังบทสวดมนต์ดุริยมนตรา เเละ บทสวดมนต์ต่างๆทั้งวันจนกว่าจะเข้านอน

    หลังจากนั้นก็ได้ฝึกสมาธิจาก พระมหาสีไพร ผ่านทางเว็บไซด์พลังจิต

    สันโดษได้รับการรักษาเเละพัฒนาจากเเรงศรัทธาเเละคำอธิษฐานที่ต้องการหายปวดหัวอย่างเเรง

    อาการปวดหัวที่มีเสียงมากมายอยู่ในหัว เเละ ทุกวินาทีของการมีชีวิต คือ การเจริญสติที่ทรมาณมากจริงๆ

    ทุกวันนี้สันโดษดีขึ้นมากเกือบเป็นปกติ 100% เเละรู้วิธีการรักษาตัวเองว่าต้องทำอย่างไร

    ทุกคำถามมีคำตอบ ขอให้คุณเชื่อมั่นเเล้วคุณจะได้รับคำตอบด้วยตัวเองเเน่นอน

    เเละเมื่อคุณรู้ จงอย่าห่วงวิชา เพราะเมื่อคุณนำมาสอนผู้อื่น คุณจะได้รับการช่วยเหลือจากผู้อื่นในอนาคตไม่จบสิ้นเช่นเดียวกัน

    เเละนี้ก็เป็นสาเหตุที่สันโดษชอบเขียนกระทู้ช่วยเหลือคนที่สันโดษช่วยเขาได้ค่ะ

    กระทู้ที่สันโดษเข้าไปเขียนบันทึกตอนที่เกิดอาการปวดหัวอย่างรุนเเรง
    >>>
    สันโดษปลีกวิเวก


     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 มกราคม 2011
  14. น า ทู รี

    น า ทู รี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    152
    ค่าพลัง:
    +164
    เพิ่มอีกนิด เรื่องการเปลี่ยนแปลงอีกสองอยางที่เห็นชัด หลายเดือนมานี้ ชอบฟังพระเทศน์ กับอีกอย่าง เลิกกินเนื้อหมู ไก่ เป็ด ส่วนเนื้อวัว ไม่กินมาเกือบ 3 ปีแล้ว ที่ยังกินอยู่ก็ ปลา กุ้ง หอย ปู หมึก นม
     
  15. Hikikomori

    Hikikomori เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 เมษายน 2008
    โพสต์:
    508
    ค่าพลัง:
    +326
    อย่าปล่อยให้อาการหนักกันนะ ทำอะไรที่ผ่อนคลายได้ก็ทำซะ ไม่งั้นเหมือนตกนรกทั้งเป็น
     
  16. prosper

    prosper เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    201
    ค่าพลัง:
    +383
    ขอแจมด้วยคนค่ะ ดิฉันก็มีอาการเหมือนเพื่อนๆ ชาวเวป คือ ช่วงก่อนปีใหม่ รู้สึกว่าร่างกายมันล้ามากทั้งๆที่ไม่ได้ทำงานหนักอะไรเลย จะง่วงมากผิดปกติ ไม่ได้อุปทานนะคะ ตอนปีใหม่ ที่บ้านเขาฉลองปีใหม่กัน นั่งกินกันในครอบครัว พอสักพักตาจะหลับ ฝืนไม่ได้เลย จะหลับให้ได้ ไม่ได้เมานะคะอย่าเข้าใจผิด เพราะว่าดิฉันไม่ดื่มแอลกอฮอล์ทั้งหลายแหล่ วันนั้นเลยนอนหลับให้แขกเฝ้าวงฉลองปีใหม่กันไป ทั้งที่ไม่ดึกแค่ 2 ทุ่มกว่าๆ แปลกมั๊ยล่ะ พอวันต่อมาก็มีอาการเหมือนเดิมอีก คือง่วงแบบฝืนไม่ไหว หลับเฝ้าวงอีก ดีนะที่เป็นคนกันเองทั้งนั้น ไม่งั้นคงน่าเกลียดแย่ ยังงงกับอาการของตัวเองว่าทำไมเป็นยังงั้น นึกว่าตัวเองผิดปกติอะไรสักอย่างแน่ๆ หรือจะเป็นที่อากาศหรือเกิดจากอะไรก็ไม่อาจคาดเดา
     
  17. สันโดษ

    สันโดษ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    9,940
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +16,870
    เเต่ไม่ต้องกังวลนะคะ เพราะว่า การเปลี่ยนเเปลงครั้งนี้

    ที่คุณกำลังป่วยหนัก ปวดหัว หมดเเรง รวมทั้งความเลวร้ายที่เกิดขึ้น

    จนขนาดที่คุณคิดว่า ตายไปเลยเสียดีกว่า สิ่งร้ายๆที่คุณกำลังเผชิญอยุ่ในตอนนี้ คือ ภัยพิบัติเฉพาะตน

    ถ้าคุณผ่านช่วงเวลาเเห่งความเลวร้ายตรงนี้ไปได้ คุณจะได้พบกับความมหัศจรรย์ของการมีชีวิตอยู่เเน่นอน

    การเปลี่ยนเเปลงเริ่มขึ้นอย่างเลวร้ายก็จริงเเต่จบลงเเบบ Happy Ending ค่ะ

    ภัยพิบัติที่พวกคุณคิดกัน เเละการตายที่พวกคุณเข้าใจ ในเเบบฉบับทางโลกกับทางธรรมมันต่างกัน

    สันโดษผ่านมาเเล้วเเละตีโจทย์ของ ภัยพิบัติสำหรับตัวเองได้เเล้ว

    สันโดษหวังว่าทุกคนจะตีโจทย์ของตัวเองได้เช่นเดียวกันนะคะ
     
  18. Crystal DNA

    Crystal DNA เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    586
    ค่าพลัง:
    +530
    ใครต้องการคลื่นความถี่ 528 hz ความยาว 10 นาที ส่งเมล์มาเด้อจะส่งไปให้

    ผมมีไฟล์เสียงความถี่ 528 hz ความยาว 10 นาที
    ใครสนใจจะส่งเมล์ไปให้เด้อ ขนาด 10 MB

    ผม save ลงมือถือไว้เปิดฟังตอนว่างๆน่ะครับ
    ใครจะทำตามก็ได้ไม่สงวนน่ะครับ

    ภัยพิบัติส่วนตัวนั่นก็คือ การชำระกรรมประจำตัวน่ะครับ
    ช่วงนี้ใครที่เจอการชำระกรรม รู้ไว้เลยว่า DNA ของคุณกำลัง
    ปรับตัวให้ดีขึ้นโดยการชำระกรรมไม่ดีทั้งหมดให้หมดไปจาก
    DNA ของคุณ หลังจากนั้นคุณก็จะเจอกับสิ่ง MIRACLE
    เพราะ DNA ของคุณบริสทธิ์หมดจดจากกิเลสเครื่องเศร้าหมองทั้งหลาย

    นี่แหละครับ คือการ upgrad DNA ให้เข้าสู่ 12 strand จากปัจจุบันเราใช้แค่ 2-3 strand เท่านั้น

    DDD=444=Four son of god
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 มกราคม 2011
  19. น า ทู รี

    น า ทู รี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    152
    ค่าพลัง:
    +164
    เพลง Tibetan Lullaby อันนี้มีคนบอกว่าจะช่วยให้คลื่นสมองต่ำ ช่วยสำรวมจิตให้สงบ มีสมาธิ

    [​IMG]


    [MUSIC]http://audio.palungjit.org/attachment.php?attachmentid=46955[/MUSIC]
     
  20. สันโดษ

    สันโดษ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    9,940
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +16,870
    เวลาที่เราจะรักษาตัวเราเองต้องฟังคนอื่นสวด

    เมื่อเรารักษาผู้อื่นเราต้องสวดให้เขาฟังค่ะ


    หัวใจของคาถาคือฟังไม่ใช่สวด

    ในพระไตรปิฎกบันทึกไว้อย่างชัดเจนว่า

    คาถาไว้ฟังไม่ใช่สวด ถ้าสวดคือสวดเพื่อรักษาผู้อื่น"

    ทั้งหมดนี้อาจารย์ศุภชัยไม่ได้คิดขึ้นเองค่ะ แต่มีอยู่ในพระไตรปิฎกจารึกไว้ว่า

    ครั้งหนึ่งพระมหากัสสัปปะอาพาธ พระพุทธเจ้าก็เสด็จไปเยี่ยม
    แต่พระมหากัสสัปปะไม่สามารถลุกขึ้นมาจากเตียงได้
    พระพุทธเจ้าก็ทรงสวดมนต์บทหนึ่งให้ฟัง
    พระมหากัสสัปปะก็สามารถลุกขึ้นมากราบพระพุทธเจ้าได้ทันที หายจากความเจ็บป่วยเป็นปลิดทิ้ง

    ในพระไตรปิฎกจารึกไว้อีกครั้งหนึ่งว่า
    พระโมคคัลลานะ อัครสาวกเบื้องซ้าย อาพาธอยู่ในถ้ำ พระพุทธเจ้าเสด็จไปเยี่ยม
    พระโมคคัลลานะไม่สามารถลุกขึ้นมาจากเตียงได้เช่นกัน
    พระพุทธเจ้าก็ทรงสวดมนต์บทหนึ่งให้ฟัง
    หลังจากสวดเสร็จ พระโมคคัลลานะก็หายเป็นปลิดทิ้ง ลุกขึ้นมากราบพระพุทธเจ้าได้

    พระไตรปิฎกจารึกไว้เป็นครั้งที่สามว่า
    ครั้งหนึ่งพระพุทธเจ้าประชวรที่กรุงเวฬุวันวิหาร
    ก็ให้พระอานนท์ไปตามพระจุนทะมาสวดมนต์คาถาบทเดียวกันนี้
    พระองค์ก็สามารถหายจากการประชวรได้
    สวดนั้นคือโพชฌงค์

    ซึ่งเป็นบทสวดอันเป็นองค์ธรรมแห่งการตรัสรู้เลยทีเดียว

    "หลักที่แท้จริงคือ คาถานั้นต้องฟัง ไม่ใช่สวด

    ฟังเพื่อพิจารณาความจริงของสังขารในตัวเรา ว่ามีเกิด ก็มีดับเป็นธรรมดา เมื่อปล่อยวางได้ ไม่ยึดไว้ ร่างกายเราก็จัดเรียงโมเลกุลในร่างกายเราเอง"

    อาจารย์ศุภชัยอธิบายว่า

    มนตราคือคำย่อ คือหัวใจของคาถาทุกชนิด เช่น
    หัวใจของอริยสัจสี่ คือ ทุ สะ นิ มะ
    ก็ย่อมาจากทุกข์ สมุทัย นิโรธ มรรค

    วิธีสวดก็จะสวดไล่คำ หรือสวดไล่เสียงไปเรื่อยๆ จนทำให้เกิดสมาธิ
    เป็นกุศโลบายให้เกิดสมาธิ

    เมื่อสวดมากๆ จะทำให้คลื่นสมองจะลดต่ำลงจากเบตาเป็นอัลฟา
    สวดมนต์เสร็จก็ภาวนาต่อ การภาวนาคือการสั่งจิตใต้สำนึกนั่นเอง เช่น

    สวดมนต์เสร็จขอให้สุขภาพแข็งแรง ขอให้น้ำตาลในเลือดลดลง ก็สามารถทำได้
    ขอให้ความดันเลือดลดลง ก็ทำได้

    การภาวนาของคนสมัยก่อนก็คือ การสั่งจิตใต้สำนึกให้ไปกำหนดร่างกาย
    มนตราจึงมีความสำคัญอย่างยิ่ง และนั่นคือความลับของบทสวดมนต์ที่รักษาโรคได้


    ป.ล. 1 การสวดมนต์ เจริญพุทธมนต์นั้น
    มีวัตถุประสงค์เพื่อ รำลึกถึงและสรรเสริญ คุณของพระรัตนตรัย เป็นหลัก
    มีอานิสงส์ให้ ใจสงบและชำระใจให้ใสได้ดีมากๆ

    ป.ล. 2 ส่วน เรื่อง ตีลัญจกรมือ และการรักษาโรคภัย
    ก็เป็นเพียง ทัศนะของอาจารย์ศุภชัย จารุสมบูรณ์

    ป.ล. 3 อย่างไรก็ตามการสวดมนต์ มีผลที่ดีต่อสุขภาพที่ดี แน่นอน
    เพราะว่าใจที่เลื่อมใสและศรัทธาที่มีต่อพระรัตนตรัย เกิดบุญกุศลนัก

    เมื่อใจมีบุญกุศลนัก
    ธาตุ ดิน น้ำ ลม ไฟ ภายในก็ถูกบุญชำระให้สะอาดขึ้น
    ดวงธรรมภายในก็ถูกบุญชำระให้สะอาดขึ้น

    โรคภัยก็ทุเลาได้ เพราะ
    1 ) ธาตุ ดิน น้ำ ลม ไฟ ภายในสะอาดขึ้น
    และดวงธรรมภายในสะอาดขึ้น

    2 ) ใจจะมีกำลังใจ มากขึ้น ความมั่นใจ แข็งแรงขึ้น

    โบราณจึงสอนว่า ใจเป็นนาย กายเป็นบ่าว

    แม้ปัจจุบัน แพทย์ก็ยอมรับว่า
    การรักษาโรคภัย ส่วนมาก

    ยา รักษาได้ น้อยกว่า 50 %
    กำลังใจและทัศนะคติที่ดี ของผู้ป่วย ช่วยได้ มากกว่า 50 %


    ขอบคุณข้อมูลจาก อาจารย์ศุภชัย จารุสมบูรณ์ ค่ะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 มกราคม 2011

แชร์หน้านี้

Loading...